1
1. แผนงานวจิ ัย รายงานผลงานเรอ่ื งเต็มการทดลองทีส่ น้ิ สดุ
------------------------
2. โครงการวิจยั
กจิ กรรม : วิจัยและพัฒนาการเปล่ียนแปลงสภาพภูมอิ ากาศท่มี ีผลกระทบตอ่ การ
ผลติ พชื
: วจิ ัยพัฒนาวอเตอรฟ์ ุตพรน้ิ ท์ของการผลิตพชื เศรษฐกิจ
: การวเิ คราะหว์ อเตอรฟ์ ตุ พรน้ิ ท์ของการผลิตปาล์มน้ำมนั
3. การทดลอง (ภาษาไทย) : การวิเคราะห์วอเตอรฟ์ ุตพริน้ ทข์ องการผลิตปาลม์ น้ำมนั ภาคใต้
การทดลอง (ภาษาอังกฤษ) : Water Footprint Analysis of Southern Oil Palm Production
4. คณะผดู้ ำเนนิ งาน
หัวหน้าการทดลอง นางสาววิชณีย์ ออมทรัพย์สิน สงั กัด ศนู ย์วจิ ยั ปาล์มนำ้ มนั สรุ าษฎร์ธานี
ผรู้ ว่ มงาน นางสาวจริ าพรรณ สุขชติ สงั กัด ศูนยว์ จิ ัยปาล์มนำ้ มนั สรุ าษฎร์ธานี
นางสาวเตือนจติ ร เพ็ชรรณุ สงั กัด ศูนยว์ ิจยั ปาลม์ น้ำมันสุราษฎรธ์ านี
นางสาวสุนยี ์ สันหมุด สงั กัด สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตท่ี 8
นางสาวอุษา ชูรักษ์ สงั กดั ศนู ยว์ จิ ยั ปาลม์ น้ำมนั กระบี่
นางสาวสุภาวดี นาคแท้ สงั กดั ศนู ย์วจิ ยั ปาลม์ นำ้ มนั กระบี่
นายบรรณพิชญ์ สัมฤทธ์ิ สังกดั กองวิจัยพัฒนาปจั จัยการผลิตทางการเกษตร
5. บทคดั ย่อ
การวิเคราะห์วอเตอร์ฟุตพริ้นท์ของการผลิตปาล์มน้ำมันภาคใต้ ดำเนินการใน 8 จังหวัดได้แก่ สุราษฎร์
ธานี กระบ่ี ชุมพร นครศรีธรรมราช พังงา ระนอง ตรัง และสตูล ระหว่าง ตุลาคม 2558-กันยายน 2562 เพ่ือ
วิเคราะห์ปริมาณการใช้น้ำต่อหน่วยผลผลิต (Water Footprint) ของปาล์มน้ำมัน สำหรับนำไปใช้จัดสรรและใช้
ประโยชน์จากน้ำในการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างมีประสิทธภิ าพและย่ังยืน การคำนวณความต้องการนำ้ ชลประทาน
เฉลี่ย 30 ปีของการผลิตปาล์มน้ำมันในภาคใต้พบว่า จังหวัดระนองมีค่าการขาดน้ำสูงสุด 380 มิลลิเมตรต่อปี
รองลงมาคือ ตรัง กระบี่ สตูล พงั งา ชมุ พร สุราษฎรธ์ านีและนครศรธี รรมราช มีค่าการขาดน้ำ 350 290 283 264
231 217 และ 153 มิลลิเมตรต่อปี ตามลำดับ และผลวิเคราะห์วอเตอร์ฟุตพร้ินท์ของการผลิตปาล์มนำ้ มันตลอด
อายุ 25 ปี จังหวัดระนองมีประสิทธิภาพการใช้น้ำต่อหน่วยผลผลิตดีที่สุด 567.0 ลูกบาศก์เมตรต่อตันทะลาย
รองลงมาคือ นครศรีธรรมราช ตรัง สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ และชุมพร 624.7 798.8 805.5 842.0 845.8
979.2 ลกู บาศกเ์ มตรต่อตนั ทะลาย ตามลำดบั และจงั หวดั สตูลมีประสิทธิภาพการใชน้ ้ำต่อหน่วยผลผลิตต่ำสุดคือ
1,167.7 ลูกบาศก์เมตรต่อตันทะลาย ทั้งนี้ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อวอเตอร์ฟุตพริ้นท์คือ อายุปาล์มน้ำมัน ปริมาณ
ฝนใชก้ าร การใหน้ ำ้ ตามความตอ้ งการน้ำชลประทานของปาลม์ น้ำมมนั และการจดั การธาตอุ าหารปาลม์ น้ำมนั
Water footprint analysis of Southern oil palm production was conducted in 8 provinces
which are Surat Thani Krabi Chumphon Nakhon Si Thammarat Phangnga Ranong Trang and Satun
between October 2015-September 2019 to analyze water footprint or water consumption per
2
unit of fresh fruit bunch 1 ton. For the allocation and utilization of water for oil palm production
efficiently and sustainably. The calculation from agro-meteorology average 30 years results
showed that Ranong province has the highest irrigated water requirement 380 mm year-1, followed
by Trang Krabi Satun Phangnga Chumphon Surat Thani and Nakhon Si Thammarat have irrigated
water requirement 350 290 283 264 231 217 and 153 mm year-1 respectively. For water footprint,
the result showed that Ranong province has the highest efficiency of water consumption per unit
of ton fresh fruit bunch or the lowest water footprint 567.0 m3 ton-1, followed by Nakhon Si
Thammarat Trang Surat Thani Phangnga Krabi and Chumphon 624.7 798.8 805.5 842.0 845.8 979.2
m3ton-1 respectively, and the Satun province has the lowest water efficiency 1,167.7 m3 ton-1. The
main factors that have an effect on water footprint are oil palm age, precipitation efficient,
Irrigation according to irrigated water requirement and nutrient management for oil palm
production.
6. คำนำ
ปาล์มน้ำมัน (Elaeis guineensis Jacq.) เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญในภาคใต้ ยุทธศาสตร์ปาล์มน้ำมันของ
รัฐบาลต้องการขยายพื้นที่ปลูกให้ได้ 10 ล้านไร่ ในปี พ.ศ.2572 เพื่อเพิ่มผลผลิตน้ำมันปาล์มสำหรับใช้บริโภค-
อุปโภคในประเทศ เปน็ แหล่งพลังงานทดแทนแทนและสง่ ออกบางส่วน ปี 2559 มกี ารขยายพืน้ ท่ีปลูกท่ัวประเทศ
จาก 5.41 เป็น 5.88 ล้านไร่ (เนอ้ื ทใี่ หผ้ ลผลิตเพ่มิ จาก 4.52 เป็น 5.35 ล้านไร่) ในปี พ.ศ.2561 โดยเป็นพื้นที่ปลูก
ในภาคใต้ร้อยละ 86.2 หลายพื้นท่ีในภาคใต้มีความเหมาะสมต่อการปลูกปาล์มน้ำมัน แต่อาจแตกต่างกันบ้าง
แล้วแต่ความสมบูรณ์ของดิน ปริมาณฝน-การกระจายตัว และสภาพภูมิอากาศ และจะส่งผลกระทบต่อผลผลิต
อย่างมาก หากเกษตรกรไม่มีการจัดการที่ดีและเหมาะสม ผลผลิตเฉลี่ยในภาคใต้ปี พ.ศ. 2558-2561 มีค่า 2.99
2.69 3.04 และ 3.02 ตนั ต่อไรต่ อ่ ปี ตามลำดบั (สำนกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร, 2561) และปัจจยั ที่มีผลต่อผลผลิต
นอกเหนือจากความเหมาะสมของพื้นที่คือ อายุของต้นปาล์มน้ำมัน แนวโน้มการให้ผลผลิตของปาล์มน้ำมันจะ
เพ่ิมขนึ้ ตามอายุและสูงสดุ ปีท่ี 8-12 หลงั จากน้นั จะคงท่ี เพิ่มข้นึ หรือลดลงแลว้ แต่สภาพภูมอิ ากาศและการจดั การ
หลายปีท่ีผา่ นมา การผลิตปาล์มนำ้ มนั ในประเทศได้รบั ผลกระทบจากการเปลีย่ นแปลงภมู ิอากาศเปน็ อย่าง
มาก เช่น ภาวะฝนทิ้งช่วงและปริมาณฝนที่น้อยกว่าปกติ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ การเลื่อนของฤดูกาล ฯ
สง่ ผลให้การเจรญิ เติบโตและการให้ผลผลิตของปาล์มนำ้ มนั ลดลงอยา่ งต่อเน่ืองในหลายปี (พ.ศ. 2552-2554) โดย
บางปีผลผลิตลดลง 30 เปอร์เซ็นต์ โดยผลกระทบที่ปาล์มน้ำมันได้รับจะแตกต่างกันไปในแต่ละพ้ืนที่ ขึ้นอยู่กับ
ความเครียดของสภาพแวดล้อมที่ปาล์มน้ำมันได้รับ นอกจากกระทบต่อการผลิตพืชแล้ว ยังส่งผลกระทบถึง
ทรัพยากรน้ำของประเทศไทยที่มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นเกษตรกรต้องรู้จักใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสมและ
คุ้มค่า โดยพชื ปลูกตอ้ งใหผ้ ลผลติ ตอ่ หน่วยพนื้ ทไี่ ดเ้ ต็มศกั ยภาพ และเปน็ ที่ทราบดวี ่า ปาลม์ นำ้ มันที่โตเต็มที่มคี วาม
ต้องการใช้น้ำต่อต้นในช่วงแล้งค่อนข้างสูง 200-300 ลิตร และต้องจัดการธาตุอาหารท่ีเหมาะสมร่วมด้วย ปาล์ม
3
น้ำมันจึงจะให้ผลผลิตเต็มตามศกั ยภาพของพันธุ์ แต่หากจัดการอย่างใดอย่างหน่ึงผลผลิตย่อมลดลงและส่งผลต่อ
ประสิทธภิ าพการใช้น้ำต่อหน่วยผลผลติ อย่างมาก ประกอบกับการขยายพน้ื ทีป่ ลกู ที่กลา่ วมา อาจส่งผลกระทบต่อ
ปริมาณน้ำใช้ภาคเกษตรท่ีมีอยา่ งจำกดั ดังนน้ั การศกึ ษาเกยี่ วกบั วอเตอรฟ์ ตุ พรนิ้ ท์ของปาล์มน้ำมันจงึ มคี วามสำคัญ
มากในปัจจุบัน เน่ืองจากเป็นข้อมูลที่ใช้ประกอบในการกำหนดนโยบายของรัฐบาลหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะ
กำหนดพื้นท่ีปลูกปาล์มน้ำมันหรือพืชชนิดอื่นที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรน้ำที่มีจำกัดได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ และเหมาะสมกบั พ้นื ที่ หรอื ใชป้ รบั ปรงุ การจัดการการผลติ เพื่อให้ใช้ทรัพยากรน้ำท่ีมีอยู่อย่างจำกัด
ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพเพมิ่ ขน้ึ ซ่งึ ในแตล่ ะพื้นที่จะมคี ่าวอเตอรฟ์ ตุ พริ้นทแ์ ตกต่างกนั ขึน้ อยู่กบั สภาพแวดล้อมและ
การจัดการสวนปาลม์ นำ้ มนั รวมถึงช่วงอายุของปาลม์ น้ำมันศกั ยภาพของพันธป์ุ าล์มนำ้ มนั และการใหผ้ ลผลิต
วอเตอร์ฟตุ พรน้ิ ท์ (Water footprint, WF) เป็นตัวชว้ี ดั การใช้นำ้ จากการผลติ สินค้าและบริการตลอดห่วง
โซ่อุปทานซึ่งพิจารณาทั้งการใช้น้ำทางตรงและทางอ้อมรวมทั้งแสดงแหล่งที่มาของน้ำใช้และน้ำเสียที่เกิด ขึ้น
(Hoektra et al., 2011) ปริมาณน้ำที่ใช้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยทางภูมิศาสตร์และเวลาที่ทำการศึกษา
การศึกษาในพืน้ ที่และเวลาที่ต่างกันจะทำให้คา่ การใช้นำ้ มีคา่ ไม่เทา่ กนั วิธีคำนวณที่นิยมใชแ้ พร่หลายเปน็ วิธีการ
ของ Water Footprint Network (WFN) ซึ่งเป็นการคำนวณจากผลรวมปริมาณการใช้น้ำทั้ง 3 ประเภท
ประกอบดว้ ย กรนี วอเตอร์ฟตุ พร้ินท์ (Green WF) เปน็ ปรมิ าณการใชน้ ำ้ จากน้ำฝนและความชื้นในดิน บลูวอเตอร์
ฟุตพริ้นท์ (Blue WF) เป็นปริมาณการใช้น้ำจากแหล่งน้ำผิวดินและแหล่งน้ำใต้ดิน และเกรย์วอเตอร์ฟุตพริ้นท์
(Grey WF) เป็นปริมาณการใช้น้ำสำหรับเจอื จางมลพิษในน้ำให้อยู่ในค่ามาตรฐานที่กำหนดโดยแต่ละประเภทจะ
พิจารณาการใชน้ ำ้ จากแหลง่ นำ้ ทีแ่ ตกต่างกัน
การศึกษาวอเตอรฟ์ ุตพริ้นทป์ าล์มน้ำมันในประเทศไทยโดยกรมชลประทาน (RID, Thailand’s Royal
Irrigation Department, 2010) พบว่า ปรมิ าณการใช้น้ำของปาล์มนำ้ มนั ท้ัง 3 ส่วน (WFgreen+ WFblue+
WFgrey) มคี า่ 971 ลกู บาศกเ์ มตรต่อตันทะลาย คดิ เปน็ 2,470 ลกู บาศก์เมตรต่อไร่ โดยฐานของผลผลิตท่ใี ช้คิด
จากผลผลิตเฉลีย่ 2.56 ตนั ต่อไร่ และ Babel (2011) พบว่า วอเตอร์ฟุตพรน้ิ ท์ของปาล์มน้ำมนั ในเขตลุ่มน้ำคลอง
โพธิ์ จงั หวัดระยองมคี ่า 1,239 ลกู บาศก์เมตรตอ่ ตันทะลาย คดิ เป็น 2,335 ลกู บาศกเ์ มตรต่อไร่ Jarernsook และ
คณะ (2012) รายงานวา่ วอเตอร์ฟุตพริ้นท์ของปาลม์ นำ้ มันเขตภาคใต้ (ผลผลิตเฉลีย่ 2.67 ตนั ตอ่ ไร่) มีคา่ 2,139
ลกู บาศกเ์ มตรต่อตนั ทะลาย คดิ เป็น 3,768 ลกู บาศก์เมตรตอ่ ไร่ และวอเตอรฟ์ ตุ พรน้ิ ทข์ องการผลติ ปาล์มน้ำมนั ใน
อนิ โดนีเซยี มคี ่า 802 ลกู บาศกเ์ มตรตอ่ ตันทะลาย หรือ 2,297 ลกู บาศกเ์ มตรต่อไร่ (Mekonnen and Hoekstra,
2010) ซ่ึงตำ่ กวา่ รายงานการศกึ ษาวอเตอรฟ์ ุตพรน้ิ ท์ในประเทศไทย ทัง้ นีเ้ นอ่ื งจากผลผลติ เฉลี่ยของอินโดนีเซียสูง
กวา่ ไทย (2.86 ตันต่อไร)่
ลักขณา และคณะ (2555) ได้วิเคราะห์วอเตอร์ฟุตพริ้นท์ของปาล์มน้ำมันสำหรับผลิตไบโอดีเซลในเขต
พื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ 16 จังหวัด ระหว่างปีพ.ศ.2550–2554 พบว่า มีความแตกต่างตามลักษณะสภาพ
4
ภูมิอากาศในแต่ละพื้นที่ โดยพบว่า ค่าเฉลี่ยวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ของปาล์มน้ำมันสาหรับผลิตไบโอดีเซลมีค่า 2,139
ลูกบาศกเ์ มตรต่อตนั และพบว่าพ้ืนที่ภาคเหนือมีปริมาณการใช้น้ำสงู ถึง 3.9 เท่าเม่ือเทยี บกบั ภาคใต้โดยจงั หวัดที่ใช้
น้ำมากท่ีสดุ คือพษิ ณุโลกมีค่า 6,098 ลูกบาศกเ์ มตรต่อตนั และจังหวัดทีใ่ ชน้ ้ำนอ้ ยสดุ คือ สุราษฎรธ์ านีมีค่า 1,070
ลกู บาศก์เมตรต่อตัน
7. วธิ ดี ำเนินการ
- อุปกรณ์ อุปกรณ์ตรวจวัดสภาพภูมิอากาศและจับพิกัดแปลง อุปกรณ์เก็บบันทึกข้อมูลการเจริญเติบโตและ
ผลผลิตของปาล์มน้ำมัน แบบบันทึกข้อมูลการจัดการสวนปาล์มน้ำมัน อุปกรณ์เก็บตัวอย่างดินและใบ วัสดุและ
อปุ กรณ์ในการเตรยี มตวั อยา่ ง วเิ คราะหต์ วั อย่างดนิ และใบ
- วิธกี าร ดำเนินการ 3 ขนั้ ตอน ดงั น้ี
1) พิกัดแปลงสวนปาลม์ น้ำมันท่ีศึกษา ลักษณะสณั ฐานวทิ ยาของชดุ ดนิ และผลวิเคราะหด์ ิน-ใบปาลม์ นำ้ มัน
1. คดั เลือกตวั แทนจงั หวัดท่ีมพี ้ืนท่ีปลกู ปาล์มน้ำมันมากท่ีสุดในภาคใต้ 8 จังหวัด และการคัดเลือกระดับ
อำเภอในจังหวัดนัน้ ๆ คัดเลือกจากอำเภอที่มีพืน้ ท่ีปลูกปาล์มน้ำมันมากที่สุดในจังหวดั น้ัน ๆ โดยใช้ข้อมูลพื้นที่
ปลูกของกรมส่งเสริมการเกษตร หลังคัดเลอื กระดบั อำเภอ ดำเนนิ การคดั เลอื กรายตำบลในอำเภอน้นั หลังคัดเลือก
ได้ดำเนินการสำรวจสภาพสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้คัดเลือก และสุ่มตัวอย่างสวนปาล์มน้ำมันที่มีการ
จัดการเหมาะสม (ใชป้ าลม์ น้ำมันลูกผสมเทเนอราพันธุ์ดี มกี ารจัดการสวนตามคำแนะนำของกรมวชิ าการเกษตรทั้ง
การใส่ปุ๋ย การจัดการน้ำกรณีมีแหล่งน้ำ การจัดการวัชพืชและศัตรูพืชและการเก็บเกี่ยว) และไม่เหมาะสม (ไม่
ทราบแหลง่ ท่ีมาของพนั ธ์หุ รือใช้ลูกผสมเทเนอราพนั ธ์ุดี แต่มีการจัดการสวนทไี่ ม่ถกู ตอ้ งและเหมาะสมในบางด้าน
หรอื หลายด้าน) รวม 20 แปลงต่อจงั หวัด โดยมกี ารแบง่ ชว่ งอายุ 4 ชว่ ง ตามระยะการให้ผลผลิต เพ่ือเป็นตัวแทน
ศึกษา ดงั น้ี
1.1 อายุ 1 เดอื น - 4 ปี
1.2 อายุ 4 ปี 1 เดือน - 8 ปี
1.3 อายุ 8 ปี 1 เดอื น - 12 ปี
1.4 อายุ 12 ปี ข้ึนไป
2. คัดเลือกสวนปาล์มน้ำมนั ท่ีเป็นตัวแทนแตล่ ะจงั หวดั (1 จาก 20 แปลง) จำนวน 8 แปลง เพ่ือศกึ ษา
ลักษณะทางสัณฐานวทยาสนามของดนิ และเกบ็ ตัวอยา่ งดนิ เพื่อนำไปวเิ คราะห์ขอ้ มูลคุณสมบัตทิ างเคมีและ
กายภาพของดนิ เกบ็ ตวั อยา่ งใบวเิ คราะหป์ ริมาณธาตุอาหารในใบ (ดูความสมบูรณข์ องการจดั การปาล์มน้ำมัน ซึ่ง
สง่ ผลต่อปรมิ าณผลผลติ และวอเตอร์ฟุตพริ้นทข์ องการผลิตปาลม์ น้ำมนั ) พรอ้ มบนั ทกึ ข้อมูลการเจริญเติบโต (แปลง
ท่ียงั ไม่ให้ผลผลติ )
3. บันทกึ พกิ ดั ตำแหน่งสวนปาล์มน้ำมันท่เี ป็นตัวแทนสวนปาล์มน้ำมันในการศึกษาวอเตอรฟ์ ตุ พริ้นทใ์ นแต่
ละจังหวัด รวม 8 จงั หวัด
5
2) ข้อมลู อตุ ุนิยมวทิ ยา ปรมิ าณฝนใชก้ าร ความตอ้ งการนำ้ และความต้องการน้ำชลประทานของปาล์มนำ้ มัน
1.บนั ทกึ และรวบรวมข้อมูลอุตุนิยมวิทยากอ่ นการศึกษา 30 ปี (พ.ศ.2529-2558) โดยใช้ขอ้ มูลจาก
สถานอี ุตนุ ยิ มวทิ ยาภายในจังหวัดที่ใกล้กับสวนปาลม์ น้ำมันของเกษตรกรมากท่สี ดุ และขอ้ มลู อุตนุ ยิ มวทิ ยาระหว่าง
ศกึ ษาด้วย พ.ศ.2559-2562 โดยนำเสนอเฉพาะปรมิ าณนำ้ ฝน และค่าระเหยนำ้
2. คำนวณค่าเฉลยี่ รายเดือนจากขอ้ มูล 30 ปีของข้อมูลอตุ นุ ิยมวทิ ยา ดังนี้ อณุ หภมู สิ งู สุด-ต่ำสดุ
ความชนื้ สมั พัทธ์สงู สุด-ต่ำสุด ปรมิ าณนำ้ ฝน และค่าระเหยน้ำ
3. นำค่าเฉลีย่ ปริมาณน้ำฝน ค่าระเหยน้ำตลอด 30 ปี และค่าสัมประสิทธ์ิของปาลม์ นำ้ มัน (Crop
coefficient; Kc) ของปาล์มน้ำมนั มาคำนวณปริมาณฝนใชก้ าร (Effective precipitation; Peff) ความต้องการ
นำ้ (Crop water requirement; CWR) และความตอ้ งการน้ำชลประทาน (Irrigated water requirement;
IWR) หรือคา่ การขาดน้ำของปาล์มน้ำมันใน 8 จงั หวดั ภาคใต้
3) ธาตอุ าหารปาล์มนำ้ มนั ผลผลติ ปาลม์ น้ำมนั และวอเตอร์ฟุตพรนิ้ ท์ของการผลติ ปาลม์ น้ำมนั ภาคใต้
1. สัมภาษณก์ ารจัดการธาตุอาหารปาลม์ น้ำมัน เพ่ือคำนวณปรมิ าณไนโตรเจนสำหรับวิเคราะห์เกรย์วอ
เตอร์ฟุตพร้ินท์ และบันทึกผลผลติ ปาลม์ นำ้ มัน (กรณปี าลม์ น้ำมันอายมุ ากกวา่ 3 ป)ี รวม 8 จังหวัด 160 แปลง หา
คา่ เฉลีย่ สำหรบั ใชค้ ำนวณวอเตอร์ฟตุ พรน้ิ ท์
2. คำนวณวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ (Water Footprint; WF) จากผลรวมปริมาณการใช้น้ำทั้ง 3 ประเภท
ประกอบด้วยกรนี วอเตอร์ฟุตพร้นิ ท์ (Green WF) หรอื ปริมาณการใชน้ ้ำจากน้ำฝนและความช้ืนในดนิ บลูวอเตอร์
ฟุตพริ้นท์ (Blue WF) หรือปริมาณการใช้น้ำจากแหลง่ น้ำผิวดนิ และใต้ดินและเกรย์วอเตอร์ฟุตพริน้ ท์ (Grey WF)
หรือปริมาณการใช้น้ำสำหรับเจอื จางมลพิษในนำ้ ใหอ้ ยูใ่ นค่ามาตรฐานที่กำหนด
เวลาและสถานท่ี
ระยะเวลา : เดอื นตลุ าคม 2558 สิ้นสุด เดอื นกันยายน 2562
สถานที่ : ศนู ย์วจิ ัยปาล์มน้ำมนั สุราษฎรธ์ านี สำนักวจิ ยั และพฒั นาการเกษตร เขตที่ 8 ศนู ยว์ จิ ยั ปาล์มนำ้ มันกระบี่
กองวจิ ยั และพัฒนาปัจจัยการผลติ ทางการเกษตร และสวนปาล์มนำ้ มนั ของเกษตรกรในจังหวดั สุราษฎรธ์ านี กระบี่
ชมุ พร นครศรีธรรมราช พังงา ตรงั สตูล และระนอง
8. ผลการทดลองและวิจารณ์
1) พิกดั แปลงของสวนปาล์มน้ำมนั ที่ศกึ ษา ลักษณะสณั ฐานวทิ ยาของชุดดิน และผลวิเคราะหด์ นิ -ใบปาลม์ น้ำมนั
1.1) พิกัดแปลงสวนปาลม์ น้ำมนั ทีศ่ ึกษา
ผลการคดั เลอื กสวนปาลม์ น้ำมันทศ่ี กึ ษา ใชข้ ้อมลู เน้ือท่ใี ห้ผลผลิตปาลม์ นำ้ มันของสำนักงานเศรษฐกิจการ
เกษ๖ร (2558) โดยคัดเลือกจำนวน 8 จังหวัด (อำเภอ) ดังนี้ สุราษฎร์ธานี (พระแสง) กระบี่ (คลองท่อม) ชุมพร
(ทา่ แซะ) นครศรธี รรมราช (สชิ ล) พังงา (ครุ ะบรุ ี) ตรัง (สเิ กา) สตูล (มะนัง) และระนอง (กระบุร)ี (ตารางที่ 1) โดย
หลักเกณฑ์การคัดเลือกอำเภอ เป็นอำเภอท่ีมพี ื้นท่ีปลูกปาล์มน้ำมันมากท่ีสุดในจงั หวัดนั้น และส่งพิกัดสวนปาล์ม
(ภาพท่ี 1-8) ไปจำแนกความเหมาะสมของพ้นื ทป่ี ลกู ปาลม์ ตามเกณฑจ์ ำแนกของกรมพฒั นาทด่ี ิน (ตารางที่ 2)
6
ตารางท่ี 1 เนอ้ื ท่ใี ห้ผลผลติ ปาล์มน้ำมนั (ไร)่ ปี 2558 และแปลงเกษตรกรทีเ่ กบ็ ขอ้ มลู (ราย) ในเขตภาคใต้
จังหวดั เนอื้ ท่ใี ห้ผลผลติ (ไร่) แปลงเกษตรกร (ราย)
สุราษฎรธ์ านี 2558 2561 20
กระบี่ 28
ชมุ พร 1,061,355 1,179,458 23
นครศรีธรรมราช 25
พงั งา 984,694 1,086,190 32
ตรงั 24
สตลู 843,668 971,251 29
ระนอง 26
รวมแปลงเกษตรกร (ราย) 347,290 530,058 209
178,819 234,566
168,318 191,989
106,251 108,266
87,775 119,055
ตารางท่ี 2 จำนวนสวนปาล์มน้ำมนั ในแตล่ ะชว่ งอายุปาลม์ น้ำมนั และจำแนกตามความเหมาะสมของพื้นท่ปี ลูก
ปาล์มน้ำมนั ของกรมพัฒนาที่ดนิ จำนวน 209 แปลง
จังหวดั ความเหมาะสมของ 0-4 ปี ช่วงอายปุ าล์มน้ำมัน (ปี) >12 ปี รวม
เขตภาคใต้ พื้นทีป่ ลูกปาลม์ น้ำมัน 3 5-8 ปี 9-12 ปี 2
2 4 9
สรุ าษฎร์ธานี เหมาะสมมาก - 31 - 11
เหมาะสมนอ้ ย-ปานกลาง 6 41 7 -
1 -- 3 28
กระบ่ี เหมาะสมมาก 4 78 4 9
เหมาะสมนอ้ ย-ปานกลาง 4 23 5 14
1 24 1 22
ชมุ พร เหมาะสมมาก 4 67 5 3
เหมาะสมน้อย-ปานกลาง 4 1- 3 17
7 62 7 15
นครศรีธรรมราช เหมาะสมมาก - 35 - 24
เหมาะสมน้อย-ปานกลาง 5 73 1 -
8 -- 5 11
พงั งา เหมาะสมมาก 6 41 4 18
เหมาะสมนอ้ ย-ปานกลาง 2 34 1 20
30 37 27 6
ตรงั เหมาะสมมาก 27 12 25 112
เหมาะสมนอ้ ย-ปานกลาง 31 24 97
21 24
สตูล เหมาะสมมาก
เหมาะสมนอ้ ย-ปานกลาง
ระนอง เหมาะสมมาก
เหมาะสมน้อย-ปานกลาง
รวม 8 จังหวดั เหมาะสมมาก
ภาคใต้ เหมาะสมนอ้ ย-ปานกลาง
7
ภาพท่ี 1 พิกดั สวนปาลม์ นำ้ มนั ของเกษตรกรงานวจิ ยั รอยเทา้ น้ำอำเภอพระแสง จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี
ภาพที่ 2 พิกดั สวนปาล์มน้ำมนั ของเกษตรกรงานวจิ ัยรอยเทา้ น้ำอำเภอคลองท่อม จังหวดั กระบ่ี
8
ภาพท่ี 3 พกิ ดั สวนปาลม์ น้ำมนั ของเกษตรกรงานวจิ ัยรอยเท้านำ้ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
ภาพที่ 4 พิกดั สวนปาลม์ น้ำมนั ของเกษตรกรงานวิจัยรอยเท้าน้ำอำเภอสิชล จงั หวัดนครศรีธรรมราช
9
ภาพท่ี 5 พิกัดสวนปาลม์ น้ำมนั ของเกษตรกรงานวิจยั รอยเทา้ นำ้ อำเภอคุระบรุ ี จังหวดั พังงา
ภาพท่ี 6 พิกดั สวนปาล์มนำ้ มันของเกษตรกรงานวจิ ยั รอยเท้านำ้ อำเภอสิเกา จังหวดั ตรงั
10
ภาพที่ 7 พกิ ัดสวนปาล์มน้ำมันของเกษตรกรงานวจิ ัยรอยเทา้ นำ้ อำเภอมะนัง จังหวดั สตูล
ภาพที่ 8 พกิ ัดสวนปาล์มนำ้ มันของเกษตรกรงานวิจัยรอยเทา้ น้ำอำเภอกระบุรี จงั หวัดระนอง
11
1.2) ลักษณะสณั ฐานวิทยาของชุดดิน
ภาพท่ี 9 สภาพการใช้ที่ดินและหนา้ ตัดดนิ ของดินพดี อน 1/2559 หมู่ที่ 5 ตำบลไทรขงึ อำเภอพระแสง
จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี
ภาพที่ 10 สภาพการใชท้ ี่ดนิ และหนา้ ตัดดินของดินพีดอน 2/2559 หมู่ท่ี 5 ตำบลเพหลา อำเภอคลองท่อม
จงั หวดั กระบ่ี
12
ภาพที่ 11 สภาพการใช้ทดี่ นิ และหนา้ ตัดดินของดนิ พดี อน 3/2559 หมูท่ ่ี 8 ตำบลสลุย อำเภอทา่ แซะ
จงั หวดั ชมุ พร
ภาพท่ี 12 สภาพการใช้ทีด่ นิ และหน้าตดั ดินของดนิ พดี อน 4/2559 หมู่ท่ี 4 ตำบลเสาเภา อำเภอสิชล
จังหวัดนครศรีธรรมราช
13
ภาพท่ี 13 สภาพแวดล้อมการใช้ท่ีดินและหนา้ ตดั ดินของดนิ พีดอน 5/2559 หมูท่ ่ี 7 ตำบลครุ ะ อำเภอคุระบรุ ี
จงั หวดั พงั งา
ภาพท่ี 14 สภาพการใช้ที่ดนิ และหนา้ ตดั ดนิ ของดินพีดอน 6/2559 หม่ทู ี่ 7 ตำบลกะลาเส อำเภอสเิ กา จังหวัดตรัง
14
ภาพที่ 15 สภาพการใช้ทด่ี ินและหน้าตัดดินของดินพดี อน 7/2559 หม่ทู ี่ 4 ตำบลนคิ มพฒั นา อำเภอมะนัง
จังหวัดสตลู
ภาพท่ี 16 สภาพการใช้ทีด่ นิ และหนา้ ตัดดนิ ของดินพดี อน 8/2559 หมู่ท่ี 8 ตำบลลำเลยี ง อำเภอกระบรุ ี
จังหวดั ระนอง
15
ลักษณะสภาพการใช้ที่ดนิ ในสวนปาลม์ น้ำมันของตัวแทนทงั้ 8 จงั หวัด มีทัง้ พน้ื ท่รี าบ เนนิ ลาดชันเล็กนอ้ ย
รวมถงึ สภาพท่ลี ุม่ และหน้าตดั ของดินมคี วามแตกต่างกันในแต่ละชนั้ ของหนา้ ตัดดินท้ัง 8 pedon (ภาพที่ 9-16)
สมบัติทางกายภาพระดับความลึกที่ใกล้ผิวดินชั้นบน (0-20 หรือ 0-30 เซนติเมตร) ของสุราษฎร์ธานี
กระบ่ี ชมุ พร นครศรธี รรมราช พงั งา ตรัง สตลู และระนอง ประกอบดว้ ยดนิ Loamy fine sand, Loam, Sandy
loam, Sandy clay Loam, Silt loam, Loamy sand, Sandy clay loam และ Loam ตามลำดับ ซึ่งด้วย
ลักษณะดังกล่าวค่อนข้างเหมาะสมกับการปลูกปาล์มน้ำมัน สำหรับความลึกของระดับนำ้ ใต้ดินชุดดิน 8 ชุด ซึ่งมี
การศกึ ษาชดุ ดนิ ในช่วงแล้ง มคี วามลึก 180-220 เซนติเมตร โดยสรุ าษฎรธ์ านีและตรังมีความลกึ ของระดับน้ำใตด้ ิน
กว่า 220 เซนตเิ มตร (ตารางภาคผนวกท่ี 1-8) ซ่ึงส่งผลตอ่ ความสามารถในการดูดน้ำของระบบรากปาลม์ นำ้ มนั
ตารางท่ี 3 สมบัติทางกายภาพของชดุ ดินทีศ่ ึกษา
Depth (cm) Horizon Particle size distribution (g kg-1) Textural class
(USDA grading)
Sand Silt Clay
Pedon 1/2559 นายสุรินทร์ เข็มเพชร ม. 5 ต.ไทรขงึ อ.พระแสง จ.สุราษฎรธ์ านี
0-30 Ap 767 170 63 Loamy fine sand
Sandy clay loam
30-80 Bt 715 35 250
Loam
80-110/125 Btc 520 323 157 Sandy clay loam
110/125-130/150 Bv 519 198 282 Clay
Clay
150-170 2Bt1 400 131 469
170-220+ 2Bt2 375 186 439
Pedon 2/2559 นายบุญธรรม ชัยขาว บา้ นพรเุ ตยี ว หมู่ 5 ต. เพหลา อ.คลองทอ่ ม จ.กระบี่ Loam
0-25 Ap 404 471 125
25-60 Bt1 392 514 94 Silt loam
60-85 Bt2 391 420 189 Loam
85-110 2Bt1 299 450 251 Loam
110-135 2Bt2 192 525 283 Silty clay loam
135-190+ 2Bt3 138 580 282 Silty clay loam
Pedon 3/2559 นายคำรณ นาคหาญ ม.8 ต. สลุย อ.ทา่ แซะ จ.ชมุ พร
0-35 Ap 689 186 126 Sandy loam
314 Sandy clay loam
35-75 Bt1 488 199 344
345 Clay loam
75-110 Bt2 400 256 472 Sandy clay loam
110-140 Bv1 492 163 Clay
140-200+ Bv2 367 161
Pedon 4/2559 นายจำแลง เทย่ี งตรง หมู่ 4 ต.เสาเภา อ.สชิ ล จ.นครศรธี รรมราช Sandy clay Loam
0-35 Apg 461 224 315
Particle size distribution (g kg-1) 16
Depth (cm) Horizon (USDA grading) Textural class
Sand Silt Clay Sandy Clay
Sandy Clay
35-75 Btg1 502 152 346
Clay
75-100 Btg2 507 147 345 Clay
Clay
100-130 Btg3 424 136 440
Silt loam
130-160 Btg4 333 133 534 Loam
Clay
160-200+ Btg5 211 163 627 Clay loam
Clay
Pedon 5/2559 นายสมคิด คุ้มพรอ้ ม ม.7 ต.คุระ อ.ครุ ะบรุ ี จ.พังงา Clay
Clay
0-30 Ap 96 654 250
Loamy sand
30-60 Bt1 462 288 251 Sandy clay Loam
Sandy clay Loam
60-90 Bt2 279 312 410 Sandy clay Loam
Sandy clay Loam
90-110 Btc1 251 373 376 Sandy clay Loam
110-140 Btc2 270 229 501 Sandy clay loam
Clay
140-160 Btc3 303 257 439
Silty clay
160-200+ 2Bt 210 319 471 Silty clay
Silty clay
Pedon 6/2559 นายเฉลิม ศรีไทย 106 ม.7 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง
Loam
0-20 Ap 671 15 313 Clay loam
Sandy loam
20-60 Bt1 608 79 313 Sandy loam
Loamy fine sand
60-105 Bt2 621 129 250 Sandy loam
Sandy Loam
105-140 Bt3 586 132 282
140-178 Bt4 598 88 314
178-200+ Bt5 614 72 314
Pedon 7/2559 นายละออง ยืนยง ม.4 ต.นคิ มพฒั นา อ.มะนัง จ.สตูล
0-25 Ap 197 427 376
25-75 Bt 148 379 473
75-100 2Btc 85 410 505
100-140 2Bt1 43 456 501
140-180 2Bt2 44 451 505
Pedon 8/2559 นายบุญเลศิ สิทธิเวช 279/9 ม.8 ต.ลำเลียง อ. กระบุรี จ.ระนอง
0-30 Ap 359 390 251
30-65 Bt1 330 355 315
65-90 Bt2 556 193 251
90-125 Bt3 798 76 125
125-145 Bt4 847 59 94
145-175 Bt5 812 0 188
175-210+ Bt6 764 57 179
17
1.3) ผลวิเคราะห์ดิน-ใบปาลม์ นำ้ มัน
สัมภาษณ์เจ้าของสวนปาล์มน้ำมันพื้นที่ภาคใต้ 8 จังหวัด ในการจัดการธาตุอาหารและน้ำตลอด 4 ปีท่ี
ผ่านมา พบว่า เกษตรกรมกี ารจัดการธาตุอาหารไมแ่ ตกต่างจากเดมิ มากนัก แตม่ หี ลายรายท่ีมีการใช้ปุ๋ยเด่ียวหรือ
แม่ปุ๋ยแทนการใช้ปุ๋ยสูตรผสมแบบเดิมเนื่องจากต้องการลดต้นทุน บางรายใช้ปุ๋ยรองและปุ๋ยเสริมเช่น กีเซอไรท์
โบรอนมากขึน้ ตามอัตราแนะนำ เนื่องจากเหน็ ผลกระทบที่เกดิ กบั ใบปาล์มน้ำมันทแ่ี สดงอาการขาดปรากฎออกมา
ให้เกษตรกรทราบ และมีการเก็บตัวอย่างดินสำหรับวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพ-เคมีของดินในสวนปาล์มน้ำมนั
และตัวอย่างใบปาล์มน้ำมันสำหรับวิเคราะห์ปริมาณธาตุอาหารในใบปาล์มน้ำมัน ซึ่งช่วยให้เกษตรกรทราบ
สถานการณค์ วามสมบรู ณ์ในการจัดการสวนในส่วนการจดั การธาตุอาหารปาลม์ นำ้ มันเพมิ่ มากขนึ้ จงึ มีทั้งเกษตรกร
ที่ต้องใส่ปุ๋ยหลักบางรายการเพิ่มมากจากเดิมเพือ่ รักษาสถานะของธาตุอาหารในดินและใบใหเ้ หมาะสมกับความ
ตอ้ งการของปาล์มนำ้ มนั และหลายรายต้องลดการใช้ปุย๋ หลกั บางรายการลงจากเดมิ หรอื ต้องงดใสเ่ น่ืองจากในดิน
มีปริมาณธาตุอาหารดังกล่าวมากเกินพอ และในเกษตรกรบางรายพบว่า มีความไม่สมดุลของธาตุอาหารเกิดขน้ึ
เช่น แคลเซียมต่อแมกนีเซียม หรือแมกนีเซียมต่อโพแทสซียม จึงต้องลดการใส่ปุ๋ยบางรายการ รวมถึงเกษตรกร
หลายรายที่พบวา่ ความเป็นกรดด่างของดินในสวนปาล์มน้ำมนั มีค่าตำ่ เกนิ ไป หรือสูงเกินไป ซึ่งเกษตรกรจะต้อง
ปรบั เปล่ยี นชนดิ ของปุ๋ยตามคำแนะนำของผ้ดู ำเนินการ เพือ่ ช่วยปรบั สภาพความเป็นกรดดา่ งให้เหมาะสมกับความ
ตอ้ งการของปาล์มนำ้ มัน ซ่งึ ถอื เป็นปัจจัยหลกั อกี ปัจจัยท่ีจะช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้ป๋ยุ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพิม่ มากข้นึ เม่ือค่าความเป็นกรดด่างเหมาะสมกับความต้องการของปาล์มน้ำมัน ดินมกี ารปลดปลอ่ ยธาตุอาหารท่ี
เปน็ ประโยชนไ์ ด้ดีขึ้น และชว่ ยใหก้ ารใช้นำ้ มีประสิทธิภาพเพ่ิมมากขึน้ ในการเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมนั ของเกษตรกร
ซึ่งสุดท้ายจะส่งผลต่อรอยเท้าน้ำในการผลิตปาล์มน้ำมันให้มีปริมาณการใช้น้ำลดลงในการผลิต ปาล์มน้ำมัน
เนื่องจากรอยเท้าน้ำจะมีค่าลดลงเมื่อปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น และช่วยให้เกษตรกรมีความยั่งยืนในการ
ประกอบอาชีพสวนปาล์มน้ำมัน เนื่องจากสามารถใช้ทรัพยากรน้ำที่มีอย่างจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
และเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อม โดยผลวิเคราะห์ดิน-ใบปาล์มน้ำมันของเกษตรกรในแต่ละจังหวัด นำเสนอผล
วิเคราะห์เป็นภาพรวมเปรียบเทียบเทียบกันเฉพาะปี 2559 และ 2562 ซึ่งเป็นปีแรกและปีสุดท้ายของการ
ดำเนินงานวิจยั
1.3.1) ผลวิเคราะห์ดิน สวนปาล์มน้ำมันของเกษตรกรในแต่ละจังหวัดจะเปรียบเทียบกับค่า
มาตรฐานหรอื ค่าตามความต้องการของปาล์มน้ำมัน ซึ่งหากเกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนการจดั การธาตุอาหารตาม
คำแนะนำ สมบตั ทิ างกายภาพและเคมีของดินจะเปลีย่ นแปลงไปในทิศทางท่ีผ่านมาตรฐานมากกว่าปีที่เริ่มต้นการ
ดำเนนิ งาน
ความเป็นกรดด่างของดิน ค่าที่เหมาะสมกับความต้องการของปาล์มน้ำมันคือ 5.5 หรืออยู่ในช่วง
5.0-6.0 หากค่ากรดดา่ งต่ำกวา่ 5.0 จะแนะนำให้เกษตรกรใชแ้ หลง่ ปุ๋ยไนโตรเจนเป็น 46-0-0 (คา่ กรดดา่ ง 7.0) ซ่ึง
ช่วยให้ความเป็นกรดด่างของดินมีค่าเพิ่มขึ้น แทน 21-0-0 (ค่ากรดด่าง 5.0) โดยใช้ร่วมกับปูนโดโลไมท์ที่มี
18
แคลเซียมเป็นองค์ประกอบ ซึ่งช่วยทำให้ดินมีค่าความเป็นกรดด่างเพ่ิมขึ้น แต่หากความเป็นกรดด่างของดนิ มีคา่
มากกว่า 6.0 จะแนะนำใหเ้ กษตรกรงดหรือลดการใส่แคลเซียมในดินก่อนเปน็ ลำดับแรก เนื่องจากส่วนใหญ่ความ
เป็นด่างของดนิ จะมาพร้อมกับปริมาณแคลเซยี มในดนิ ทม่ี ีปริมาณมากเกินพอ และใหเ้ กษตรกรใช้แหล่งไนโตรเจน
เป็นปุ๋ยเคมีเกรด 21-0-0 ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมีเกรด 45-0-0 (โพแทสเซียมซัลเฟต) แหล่งโพแทสเซียม เนื่องจาก
ความเป็นกรดด่างของปุ๋ยเคมีทั้ง 2 รายการ มีค่า 5.0 ซึ่งจะช่วยปรับสภาพความเป็นกลางหรือดา่ งของดินให้มีคา่
ลดลง และเหมาะสมกบั ความต้องการของปาลม์ น้ำมนั เพ่ิมข้นึ หรือชว่ ยให้ดนิ ปลดปลอ่ ยธาตอุ าหารได้เพม่ิ ข้นึ
ผลวิเคราะห์ดิน ปี 2559 พบว่า ความเป็นกรดด่างของดินในสวนปาล์มน้ำมันของเกษตรกรใน
อำเภอพระแสง (สุราษฎร์ธานี) คลองท่อม (กระบี่) ท่าแซะ (ชุมพร) และสิเกา (ตรัง) มีความเหมาะสมตรงตาม
ความต้องการของปาล์มนำ้ มัน (4.20-5.50) ร้อยละ 66.7 65.4 64.7 และ 91.3 ของจำนวนเกษตรกร ตามลำดับ
และมีจำนวนเพ่ิมขึ้นร้อยละ 80.0 80.0 76.5 และ 90.5 ของจำนวนเกษตรกร ตามลำดับในปี 2562 (ภาพที่ 17)
อย่างไรก็ตาม สำหรบั เกษตรกรท่คี วามเปน็ กรดด่างของดินมีค่านอ้ ยกว่า 5.00 จะมกี ารแนะนำให้เกษตรกรใชแ้ หล่ง
ของปุ๋ยไนโตรเจนเป็น 46-0-0 แทน 21-0-0 เพอื่ ให้ความเปน็ กรดด่างของดินมีค่าเพมิ่ ขน้ึ เข้าใกล้ 5.50 ซึ่งดินจะมี
ความสามารถในการปลดปล่อยธาตอุ าหารที่เป็นประโยชนแ์ ก่ปาลม์ นำ้ มันได้เพิ่มมากขึ้น
สุราษฎรธ์ านี ความเป็นกรดดา่ ง ปีที่ 1 สรุ าษฎรธ์ านี ความเปน็ กรดด่าง ปที ี่ 4
8.00 7.15 8.00 6.85 7.16
7.00 6.26 6.43
7.00 4.20 4.49 4.53 4.60 4.77 4.85 4.89 5 5.16 5.28 5.50 5.62 5.75 5.94 6.23
6.00 6.00 4.34 4.41 4.52 4.69 4.73 4.75 4.79 4.82 4.84 5.02 5.04 5.09 5.19 5.2 5.24 5.30 5.50
5.00 5.00
4.00 4.00
3.00 3.00
2.00 2.00
1.00 1.00
0.00 0.00
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
Standard
17
18
19
20
กระบี่ ความเป็นกรดดา่ ง ปที ่ี 1 กระบ่ี ความเป็นกรดดา่ ง ปีท่ี 4
8.00 7.28 7.53
8.00 7.64
7.11
7.00 5.92 6.09 6.34 7.00 6.43
6.00 4.14 4.16 4.46 4.62 4.65 4.66 4.66 4.67 4.82 4.87 4.87 4.92 4.94 5.05 5.14 5.14 5.25 5.3 5.32 5.50 5.54 6.00 4.31 4.33 4.44 4.45 4.48 4.60 4.61 4.64 4.68 4.78 4.81 4.84 4.84 4.92 4.93 4.97 4.99 5.18 5.22 5.39 5.50
5.00 5.00
4.00 4.00 3.12
3.00
3.00
2.00 2.00 1.01
1.00 0.66 1.00
0.00 0.00
1 4 7 10 13 16 19 22 24
ชุมพร ความเป็นกรดดา่ ง ปที ี่ 1 ชมุ พร ความเป็นกรดด่าง ปที ่ี 4
8.00 8.00
7.00 5.97 6.08 6.16 6.38 6.64 7.00 6.00 6.01
6.00 4.68 4.77 4.82 4.86 4.90 4.90 4.90 4.95 5.22 5.33 5.38 5.50 6.00 4.76 4.96 4.98 5.01 5.02 5.04 5.13 5.28 5.35 5.50 5.52
5.00 5.00 4.05 4.23 4.30 4.33 4.34
4.00
4.00 3.00
2.00
3.00 1.00
1.70 0.00
2.00
1.00
0.00
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
Standard
13
14
15
16
17
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
Standa…
15
16
17
19
ตรัง ความเปน็ กรดดา่ ง ปที ่ี1 ตรงั ความเปน็ กรดดา่ ง ปีที่4
8.00 8.00
7.00 6.61
7.00
6.00 4.15 4.38 4.60 4.60 4.60 4.63 4.71 4.74 4.74 4.74 4.79 4.80 4.81 4.96 5.02 5.07 5.09 5.12 5.13 5.20 5.21 5.42 5.50 6.00 4.43 4.45 4.47 4.51 4.53 4.57 4.59 4.66 4.77 4.84 4.86 4.91 5.05 5.13 5.21 5.21 5.27 5.43 5.44 5.50
5.00 5.00 3.96
4.00 4.00 3.41
3.00 3.00
2.00 2.00
1.00 1.00
0.00 0.00
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
Standard
ภาพที่ 17 ความเป็นกรดด่างของดินสวนปาล์มนำ้ มันเปรยี บเทียบปที ี่ 1 และปีที่ 4 ของเกษตรกรอำเภอพระแสง
จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร และอำเภอสิเกา
จังหวดั ตรัง (ค่ามาตรฐาน 5.5)
อินทรียวัตถุ ค่าที่เหมาะสมกับความต้องการของปาล์มนำ้ มันคือ 2.5 และหากมีค่าสูงกว่า 2.5 จะ
ยิง่ ดตี อ่ การผลติ ปาลม์ น้ำมัน เน่อื งจากปริมาณอินทรยี วัตถุมีความสัมพนั ธก์ ับปริมาณไนโตรเจนในดนิ และปริมาณ
อินทรียวัตถมุ ีประโยชน์ในการดูดซับธาตุอาหารและนำ้ ได้ดี ช่วยปรับโครงสร้างดนิ ให้มีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขน้ึ
แต่ปริมาณอินทรียวัตถใุ นดินของภาคใต้ส่วนใหญ่มีคา่ ขอ้ งตำ่ เนื่องจากมีการใช้ประโยชน์จากปลูกพืชมายาวนาน
และไมม่ กี ารบำรงุ รักษาดนิ อย่างถูกต้อง ทำใหศ้ ักยภาพในการผลิตของดนิ มีค่าลดลง ดนิ มคี วามเส่อื มโทรมเพ่ิมข้ึน
และสง่ ผลกระทบตอ่ การผลิตพืชอยา่ งเลี่ยงไมไ่ ด้ ดงั น้ันในกรณีท่ีพบวา่ ปรมิ าณอินทรียวัตถุในดินตำ่ มาก เกษตรกร
ตอ้ งบำรงุ ดนิ ดว้ ยวัสดุเหลือใช้จากพชื ปุ๋ยพืชสด ป๋ยุ หมัก ปยุ๋ คอก ท่มี แี ละหาได้งา่ ยนท้องถิ่น มีราคาถกู
ผลวเิ คราะห์ดนิ ปี 2559 พบว่า อนิ ทรียวตั ถุของดินในสวนปาล์มน้ำมนั ของเกษตรกรในอำเภอพระ
แสง (สุราษฎร์ธานี) คลองท่อม (กระบี่) ท่าแซะ (ชุมพร) และสิเกา (ตรัง) มีความเหมาะสมระดับปานกลาง (2.0-
2.5 เปอร์เซน็ ต์) ข้นึ ไป ร้อยละ 33.3 11.5 11.8 และ 26.1 ของจำนวนเกษตรกร ตามลำดับ และมีจำนวนร้อยละ
25.0 12.0 17.6 และ 14.3 ของจำนวนเกษตรกร ตามลำดับในปี 2562 (ภาพที่ 18) โดยภาพรวมพบว่า สว่ นใหญ่
อนิ ทรียวตั ถใุ นดนิ มีคา่ ค่อนข้างต่ำ เกษตรกรสมควรปรบั ปรุงดนิ ใหม้ ีความสมบูรณ์เพิม่ มากข้ึนกว่าน้ี ด้วยการใช้ปุ๋ย
หมัก ปุย๋ คอก ปุ๋ยพชื สดในสวนปาลม์ นำ้ มนั ซึ่งจะชว่ ยให้ดนิ มศี กั ยภาพในการผลิตเพม่ิ มากข้ึน ชว่ ยในการดูดซับน้ำ
และธาตุอาหารได้เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เกษตรกรจะนิยมใช้ทางใบปาล์มน้ำมันในการคลุมดินในสวนปาล์มน้ำมัน
รวมถึงทะลายเปล่าท่สี ามารถหาซอ้ื ได้ง่ายในการคลมุ ดินบริเวณทรงพมุ่ เพอื่ เพิม่ อินทรยี วัตถุ
สุราษฎร์ธานี อินทรยี ว์ ตั ถุ ปีที่ 1 6.02 สุราษฎร์ธานี อินทรียว์ ัตถุ ปีที่ 4
3.50 3.20 3.50
3.00 2.50 2.500 3.00 2.500
2.50 1.41 1.42 1.57 1.67 1.78 1.86 1.91 1.98 2.07 2.15 2.50 1.70 1.71 1.72 1.81 1.86 2.03 2.09 2.16 2.21 2.25
2.00 2.00
1.50 0.89 1.01 1.11 1.19 1.24 1.24 1.37 1.41 1.43 1.46
1.50
1.00 0.81 0.86 1.00
0.50 0.50
0.00 0.00
1 3 5 7 9 11 13 14 1 3 5 7 9 11 13 15 17 19 Standard
20
กระบี่ อนิ ทรียว์ ัตถุ ปีที่ 1 4.15 4.29 กระบ่ี อินทรยี ว์ ตั ถุ ปีที่ 4 3.49 4.44
3.50 3.50
3.00 3.00
2.41 2.50 2.50 2.50
2.50 2.50
2.00 1.63 1.74 2.00 1.27 1.28 1.29 1.38 1.41 1.46 1.51
0.63 0.64 0.64 0.74 0.77 0.78 0.8 0.90 0.90 0.95 0.98 0.99 1.02 1.06 1.13
1.50 0.94 0.95 0.99 1.01 1.03 1.03 1.05 1.12 1.15 1.23 1.26 1.3 1.30 1.39 1.4 1.41 1.41 1.50
1.00 0.68 0.68 0.69 0.73 1.00
0.50 0.50
0.00 0.00
1 4 7 10 13 16 19 22 Standard 1 3 5 7 9 11 13 15 17 19 21 23 24
ชมุ พร อินทรีย์วัตถุ ปที ี่ 1 ชมุ พร อินทรยี ว์ ตั ถุ ปที ี่ 4
3.50 3.50
2.87 3.00 2.68 2.80
3.00 2.500 2.50
2.50 2.32
2.50 2.22
1.99
2.00 1.48 1.53 1.65 1.71 2.00 1.69 1.70
0.68 0.74 0.80 0.90 0.94 1.00 1.00 1.10 1.15 1.30 1.50 1.08 1.16 1.21 1.21 1.31 1.33 1.36 1.39 1.51
1.50
1.00 1.00 0.71 0.76
0.42
0.50
0.50
0.00 0.00
1 3 5 7 9 11 13 15 Standard 1 3 5 7 9 11 13 15 16
ตรัง อินทรยี ว์ ตั ถุ ปีที่ 1 ตรงั อินทรียว์ ตั ถุ ปที ่ี 4
3.50
3.50
3.00 2.36 2.40 2.40 2.402.44 2.50 2.66 3.00 2.50 2.66
2.50 2.30
2.50 2.00
1.79 1.87
2.00 1.04 1.11 1.15 1.16 1.31 1.31 1.33 1.37 1.431.55 1.59 2.00 0.65 0.73 0.76 0.83 0.91 0.97 1.14 1.16 1.25 1.32 1.47 1.47 1.59 1.59 1.64 1.68 1.70 1.74
1.50 1.50
1.00
1.00 0.460.550.710.83
0.50 0.50
0.00 0.00
1 3 5 7 9 11 13 15 17 19 21 Standard 1 3 5 7 9 11 13 15 17 19 Standard
ภาพที่ 18 อินทรียวัตถุ (เปอร์เซ็นต์) ของดินสวนปาล์มน้ำมันเปรียบเทียบปีที่ 1 และปีที่ 4 ของเกษตรกรอำเภอ
พระแสง จังหวดั สุราษฎรธ์ านี อำเภอคลองทอ่ ม จังหวดั กระบ่ี อำเภอท่าแซะ จังหวัดชมุ พร และอำเภอ
สเิ กา จังหวดั ตรัง (คา่ มาตรฐาน 2.5 เปอร์เซน็ ต์)
ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ ความต้องการฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ของปาล์มน้ำมันท่ี
เหมาะสมสูงมีค่า 20-25 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หากพบว่า ปริมาณฟอสฟอรัสทีเ่ ปน็ ประโยชน์ต่ำกว่า 20 มิลลิกรัม
ต่อกิโลกรัม เกษตรกรควรใช้ปุ๋ยเกรด 18-46-0 เป็นแหล่งของธาตุฟอสฟอรัส เนื่องจากละลายง่าย ปลดปล่อยเรว็
เหมาะสมกับดินที่มีปริมาณฟอสฟอรัสต่ำ แต่หากในดินมีปริมาณฟอสฟอรัสมากพอ (มากกว่า 50 มิลลิกรัมต่อ
กิโลกรัม) เกษตรกรสามารถลดปุ๋ยฟอสฟอรัสจากอัตราที่ใส่เดิมลงได้ 25 เปอร์เซ็นต์ หรือใช้ 0-3-0 (หินฟอสเฟต)
แทน 18-46-0 เนอ่ื งจากมรี าคาถกู กว่า และช่วยปรบั สภาพความเป็นกรดดา่ งของดินใหม้ ีคา่ เพิม่ ขึน้ ได้ แตห่ ากดินมี
คา่ กรดดา่ งมากกว่า 6.0 ไมค่ วรใช้ 0-3-0 เป็นแหล่งของฟอสฟอรสั
ผลวิเคราะห์ดิน ปี 2559 พบว่า ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในสวนปาล์มน้ำมันของ
เกษตรกรในอำเภอพระแสง (สุราษฎร์ธานี) คลองท่อม (กระบ่ี) ท่าแซะ (ชุมพร) และสิเกา (ตรัง) มีค่าในเกณฑ์ต่ำ
ถึงต่ำมาก (ตำ่ กว่า 15 มิลลกิ รมั ตอ่ กโิ ลกรัม) รอ้ ยละ 66.7 80.8 82.3 และ 82.6 ของจำนวนเกษตรกร ตามลำดับ
21
และพบว่า ในปี 2562 เกษตรกรร้อยละ 40.0 16.0 47.1 และ 57.1 มีค่าในเกณฑ์ที่เหมาะสมปานกลางขึ้นไป
(ภาพที่ 19) แสดงวา่ เกษตรกรมกี ารปฏิบัติในการจดั การปุ๋ยฟอสฟอรัสให้กับดนิ เพ่ิมมากขน้ึ สง่ ผลให้ดินมีปริมาณ
ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์เพิ่มมากขึ้นในระดับที่น่าพอใจ ยกเว้นอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ที่ปริมาณ
ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ของเกษตรกรอยู่ในระดับต่ำถึงต่ำมาก ร้อยละ 84 ของจำนวนเกษตรกร สำหรับ
เกษตรกรที่ปริมาณฟอสฟอรสั ที่เปน็ ประโยชน์มีคา่ สูงกว่า 75 มิลลิกรัมตอ่ กิโลกรัม จะแนะนำให้ลดปุ๋ยฟอสฟอรัส
ลง 25 เปอร์เซน็ ต์
สรุ าษฎร์ธานี ฟอสฟอรสั ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ ปีที่ 1 320 สุราษฎร์ธานี ฟอสฟอรัสท่เี ป็นประโยชน์ ปีท่ี 4 127 129
100 100 91
90 78 90
80 80
70 70 52 55
60
60 39 42
50 50
40 25 30 40 24 25 29
30 30 2 2 2 4 7 8 8 10 13 14 14 15 17
2 2 2 3 4 4 6 7 8 10 20
20 10
10
0 0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
Standard
15
16
17
18
19
20
กระบี่ ฟอสฟอรสั ทเี่ ปน็ ประโยชน์ ปีท่ี 1 กระบี่ ฟอสฟอรัสทเี่ ป็นประโยชน์ ปที ่ี 4
100 100
90 90
80 80
70 70
60 44 60
50 50 40 44
40 1 1 1 1 2 2 2 2 2 3 3 3 3 4 4 5 6 8 11 13 14 19 20 24 25 29 40 18 21 25
30 30
20
10 20 2 2 2 2 3 3 3 3 3 3 3 4 4 4 5 5 7 7 8 11 12
10
0
0
ชุมพร ฟอสฟอรสั ท่ีเป็นประโยชน์ ปีท่ี 1 ชุมพร ฟอสฟอรัสที่เปน็ ประโยชน์ ปที ่ี 4 99 112 354
100 100
90 90 76
80
80
70 70 54
60
60
50 50
40 25 28 40 3 3 3 3 5 7 9 9 14 19 25 26 27
30 1 2 2 2 2 2 2 3 4 5 6 7 8 14 17 19 30
20 20
10 10
0 0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
Standard
17
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
Standard
11
12
13
14
15
16
17
ตรัง ฟอสฟอรัสท่เี ปน็ ประโยชน์ ปีท่ี1 ตรัง ฟอสฟอรสั ท่ีเปน็ ประโยชน์ ปีที่4 121 161
100 100 88
90
90
80 80 64
70
70
60 60 45
50 34 34 50 36 39
40 21 25 27 40 21 25 26 27 29 29
30 30
1 1 1 1 1 1 1 2 2 2 2 3 5 5 6 8 9 10 13
20 20 124455999
10 10
0 0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
Standard
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
ภาพที่ 19 ปริมาณฟอสฟอรสั ที่เป็นประโยชน์ (มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) ของดินสวนปาล์มน้ำมันเปรียบ เทียบปีที่ 1
และปที ่ี 4 ของเกษตรกรอำเภอพระแสง จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี อำเภอคลองทอ่ ม จงั หวัดกระบ่ี อำเภอท่า
แซะ จงั หวดั ชุมพร และอำเภอสเิ กา จังหวัดตรงั (คา่ มาตรฐาน 25 มลิ ลิกรมั ตอ่ กโิ ลกรัม)
ปริมาณโพแทสเซยี มที่แลกเปล่ียนได้ ความตอ้ งการโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ของปาล์มน้ำมันท่ี
เหมาะสมมีค่า 100-120 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หากพบว่า ปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ต่ำกว่า 80
มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เกษตรกรควรใช้ปุ๋ยเกรด 0-0-60 (โพแทสเซียมคลอไรด์) เป็นแหล่งของธาตุโพแทสเซียม
เนอื่ งจากมรี าคาถกู สดั ส่วนของโพแทสเซียมสูง แตห่ ากดนิ มีปรมิ าณโพแทสเซียมมากพอ (มากกว่า 200 มิลลิกรัม
ต่อกิโลกรัม) เกษตรกรสามารถลดปุ๋ยโพแทสเซียมจากอัตราที่ใส่เดิมลงได้ 25 เปอร์เซ็นต์ และหากพบว่า ดินมี
ความเปน็ กรดด่างสงู กว่า 6.0 เกษตกรรควรใช้ 0-0-45 (โพแทสเซียมซัลเฟต) แทน 0-0-60 เนื่องจากมีค่ากรดด่าง
5.0 และไมค่ วรใช้ 0-0-45 ในกรณที คี่ ่าความเป็นกรดด่างของดนิ มคี า่ น้อยกว่า 5.0
ผลวิเคราะห์ดิน ปี 2559 พบว่า ปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ในสวนปาล์มน้ำมันของ
เกษตรกรในอำเภอพระแสง (สุราษฎรธ์ านี) คลองท่อม (กระบ่ี) ทา่ แซะ (ชมุ พร) และสเิ กา (ตรงั ) รอ้ ยละ 33.3 76.9
82.3 และ 43.5 ของจำนวนเกษตรกรมีคา่ ในเกณฑ์ต่ำถึงต่ำมาก (ตำ่ กว่า 80 มิลลิกรมั ต่อกโิ ลกรมั ) ซง่ึ ได้แนะนำให้
เกษตรกรเพิม่ อตั ราการใส่ปุย๋ 0-0-60 มากกวา่ เดิมรอ้ ยละ 25-50 ในปี 2559 สำหรบั ผลวิเคราะห์ในปี 2562 พบว่า
เกษตรกรร้อยละ 85.0 80.0 58.8 และ 57.1 มีค่าในเกณฑ์ต่ำถึงต่ำมาก ซึ่งมีเพียงเกษตรกรของอำเภอท่าแซะ
จังหวัดชุมพรที่ปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้มีการปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากเกษตรกรที่โพแทสเซียมที่แลก
เปล่ียนไดอ้ ยใู่ นเกณฑ์ต่ำถึงต่ำมากมีอัตราลดลงจากร้อยละ 82.3 เปน็ 58.8 ในปี 2562 (ภาพที่ 20) และเกษตรกร
ทป่ี รมิ าณโพแทสเซยี มที่แลกเปลี่ยนได้มคี า่ สงู กว่า 200 มลิ ลิกรัมตอ่ กิโลกรมั ตอ้ งลด 0-0-60 ลงรอ้ ยละ 25-50 ของ
อัตราเดมิ
สุราษฎรธ์ านี โพแทสเซียมท่แี ลกเปลย่ี นได้ ปที ่ี 1 477 สรุ าษฎร์ธานี โพแทสเซียมท่แี ลกเปล่ยี นได้ ปที ี่ 4
250
250 219
200 177
194
200 182 150 120 123
162 91
136 150
120 100 72 75
150 50 26 26 27 32 35 39 40 40 40 41 42 46 48 55 60
100 75 79 79 83 93 97
48
50 29
00
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
Standard
19
20
23
กระบี่ โพแทสเซียมท่ีแลกเปล่ียนได้ ปที ี่ 1 246 496 512 กระบ่ี โพแทสเซียมทแ่ี ลกเปลยี่ นได้ ปที ่ี 4 381
250 250
206
200 200
150 132 137 144
120 150 120 120
106
100 30 32 40 42 42 47 47 48 48 56 61 61 61 62 64 66 66 67 69 73 100 34 36 37 37 37 40 40 41 45 46 49 50 54 57 58 61 61 63 67 74 80
50 50
0 0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
Standard
22
23
24
25
26
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
Standard
23
24
25
ชุมพร โพแทสเซียมทแ่ี ลกเปลยี่ นได้ ปีที่ 1 488 ชุมพร โพแทสเซียมทแ่ี ลกเปลี่ยนได้ ปีที่ 4 257 262
250 250
211
200 192
200 167
150 133
120 147
150 120
100 7 8 12 13 17 19 22 29 37 43 44 53 59 67
50 100 46 49 55 55 61 62 67 68 71 75 87 98
50
0 0
ตรงั โพแทสเซียมทีแ่ ลกเปลย่ี นได้ ปที ี่1 ตรัง โพแทสเซยี มทแี่ ลกเปล่ยี นได้ ปีที่ 4 355 900
250 250
191
203
200
150 120 122 122 122 127 129 134 143 154 200 179
100 79 89 92 98 104
50 31 42 44 44 48 48 54 57 61 146 152
150 120
0
93 95 104
100 66 72
50 20 30 30 30 30 33 34 35 40 41
0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
Standard
15
16
17
18
19
20
21
22
23
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
Standard
16
17
18
19
20
21
ภาพท่ี 20 ปริมาณโพแทสเซยี มที่แลกเปลย่ี นได้ (มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) ของดนิ สวนปาลม์ นำ้ มันเปรียบ เทยี บปที ี่ 1
และปที ่ี 4 ของเกษตรกรอำเภอพระแสง จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี อำเภอคลองทอ่ ม จงั หวดั กระบ่ี อำเภอ
ท่าแซะ จงั หวดั ชมุ พร และอำเภอสิเกา จงั หวัดตรงั (คา่ มาตรฐาน 120 มิลลิกรมั ต่อกิโลกรัม)
ปริมาณแมกนีเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ ความต้องการแมกนีเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ของปาล์มน้ำมันท่ี
เหมาะสมมีค่า 75-100 มิลลิกรัมต่อกโิ ลกรัม หากพบว่า ปริมาณแมกนีเซียมทีแ่ ลกเปล่ียนได้ตำ่ กว่า 50 มิลลิกรัม
ต่อกิโลกรัม เกษตรกรควรใชป้ ุ๋ยกีเซอไรท์เป็นแหล่งของธาตุแมกนีเซียม เนื่องจากความสามารถในการปลดปล่อย
ธาตุแมกนีเซียมสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับปูนโดโลไมท์ แต่หากดินมีปริมาณแมกนีเซียมมากพอ (มากกว่า 200
มลิ ลกิ รมั ต่อกโิ ลกรัม) เกษตรกรสามารถลดปุ๋ยแมกนีเซียมมจากอัตราที่ใส่เดิมลงได้ 25 เปอร์เซน็ ต์ หรอื ใช้ปูนโดโล
ไมทเ์ ปน็ แหลง่ ธาตแุ มกนเี ซียมแทนกีเซอไรท์ได้ แตม่ ขี ้อจำกัดคอื ไมค่ วรใชป้ ูนโดโลไมท์ หากดนิ มีค่าความเป็นกรด
ด่างสงู กว่า 6.0
ผลวิเคราะหด์ ิน ปี 2559 พบว่า ปรมิ าณแมกนเี ซยี มทแ่ี ลกเปลย่ี นได้ในสวนปาลม์ น้ำมนั ของ
เกษตรกรอำเภอพระแสง (สรุ าษฎรธ์ าน)ี คลองท่อม (กระบี)่ ท่าแซะ (ชมุ พร) และสเิ กา (ตรงั ) ร้อยละ 33.3 76.9
24
29.4 และ 60.9 มีค่าในเกณฑ์ตำ่ ถงึ ตำ่ มาก (ต่ำกว่า 50 มลิ ลิกรัมต่อกโิ ลกรัม) ในปี 2562 พบว่า เกษตรกรรอ้ ยละ
25.0 72.0 41.1 และ 61.9 มีค่าในเกณฑต์ ่ำถึงตำ่ มาก (ภาพท่ี 21) โดยอำเภอพระแสง จังหวดั สรุ าษฎร์ธานมี ีการ
ปรบั ตัวได้ดี
สุราษฎรธ์ านี แมกนเี ซียมท่แี ลกเปล่ียนได้ ปที ่ี 1 263 281 481 สุราษฎรธ์ านี แมกนเี ซยี มทีแ่ ลกเปล่ียนได้ ปีท่ี 4 210 218 373 553
200 200
180 180
160 160
140 118 121 140 126
114 116
120 97 100 102 120 100 104
100 67 70 100 63 63 71 78 78 83 85
52 80
80
60 32 33 40 60 43 46
40 11 13 40 13 14 20
20 20
0 0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
Standard
13
14
15
16
17
18
19
20
กระบ่ี แมกนเี ซียมทแ่ี ลกเปลยี่ นได้ ปที ่ี 1 236 612 กระบี่ แมกนเี ซยี มท่แี ลกเปล่ยี นได้ ปที ่ี 4 357
200 200
180 159 180
160
140 131 160 136
120 100 140 115
120
100 72 100 90 93 100
77
80 56 80 61
60 9 9 10 13 13 13 18 23 23 23 23 28 32 34 34 37 37 43 44 46 60 5 5 5 6 6 11 14 16 16 25 29 29 29 31 35 36 44 46
40 40
20 20
0 0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
Standard
23
24
25
26
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
Standard
23
24
25
ชมุ พร แมกนเี ซยี มท่แี ลกเปลีย่ นได้ ปีท่ี 1 ชมุ พร แมกนเี ซียมทแ่ี ลกเปลย่ี นได้ ปที ่ี 4
200 188 304
180 170
200
160 180 164
140 114 119 124 131
120 92 99 100 160 138
100 74 140
80 120 97 100
60 38 41 50 55 60 100 81 86
80 60 63 63 64
40 23 27 60 44 44 47
13 40 12 20 20 26
20 20
0 0
ตรัง แมกนีเซยี มทีแ่ ลกเปลยี่ นได้ ปีท่ี1 236 277 1201 ตรัง แมกนีเซียมทีแ่ ลกเปลีย่ นได้ ปีท่ี4
200 200
180 163
180 153
160 160
140 140 111
120 97 100 107 107 107 120 80 90 94 99 100
100
100 75
80 56 62
80 29 29 34 37 40 43 45
14 15 15 16 18 18
60 34 39 45 60
40 8 9 10 10 11 11 18 22 23 23 23 40
20
20
0 0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
Standard
17
18
19
20
21
22
23
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
Standard
20
21
ภาพที่ 21 ปริมาณแมกนีเซยี มทแ่ี ลกเปลยี่ นได้ (มลิ ลิกรัมต่อกิโลกรัม) ของดินสวนปาล์มน้ำมนั เปรียบเทียบปีท่ี 1
และปีที่ 4 ของเกษตรกรอำเภอพระแสง จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี อำเภอคลองทอ่ ม จงั หวัดกระบ่ี อำเภอท่า
แซะ จังหวัดชมุ พร และอำเภอสิเกา จงั หวัดตรัง (คา่ มาตรฐาน 100 มิลลิกรมั ต่อกิโลกรัม)
25
ปริมาณแคลเซียมท่ีแลกเปลี่ยนได้ ความต้องการแคลเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ของปาล์มน้ำมันที่
เหมาะสมมีค่า 400 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หากพบว่า ปริมาณแคลเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ต่ำกว่า 100 มิลลิกรัมต่อ
กิโลกรมั เกษตรกรควรใชป้ ูนโดโลไมท์และหนิ ฟอสเฟตเป็นแหล่งของธาตุแคลเซยี ม แต่หากดนิ มปี ริมาณแคลเซียม
เหมาะสม (200-400 มลิ ลกิ รมั ต่อกิโลกรมั ) เกษตรกรสามารถใช้หินฟอสเฟตในอัตรา 1.5 กิโลกรัมต่อตน้ ตอ่ ปี เพื่อ
รักษาระดับแคลเซียมให้อยู่ในปริมาณทีเ่ หมาะสมได้ หากมีปริมาณแคลซียมมากเกนิ ไปจะส่งผลต่อความเป็นกรด
ด่างของดนิ และความสมดลุ ระหวา่ งแคลเซียมต่อแมกนเี ซยี ม ดงั นัน้ เกษตรกรควรงดการใส่แคลเซียม
ผลวเิ คราะหด์ นิ ปี 2559 พบว่า ปริมาณแคลเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ในสวนปาล์มนำ้ มันของเกษตรกร
ในอำเภอพระแสง (สรุ าษฎรธ์ าน)ี คลองทอ่ ม (กระบี่) ทา่ แซะ (ชมุ พร) และสิเกา (ตรงั ) มีคา่ สงู กว่า 400 มิลลิกรัม
ต่อกิโลกรัม ร้อยละ 53.3 36.0 29.4 และ 34.8 ของจำนวนเกษตรกร ตามลำดับ และพบว่าในปี 2562 ปริมาณ
แคลเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ในสวนปาล์มน้ำมันของเกษตรกรร้อยละ 45.0 76.9 88.2 และ 80.9 มีค่าในเกณฑ์ท่ี
เหมาะสม (ต่ำกว่า 400 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) (ภาพที่ 22) อย่างไรก็ตาม หากปริมาณแคลซียมมีค่าต่ำเกินไป
เกษตรกรต้องใช้หินฟอสเฟตเป็นแหล่งของฟอสฟอรัส และปูนโดโลไมท์เป็นแหล่งของแมกนีเซียม เนื่องจากมี
ส่วนประกอบของแคลเซียมผสมอยูด่ ้วย
สุราษฎรธ์ านี แคลเซยี มทแี่ ลกเปล่ียนได้ ปที ่ี 1 1215 1215 4861 สรุ าษฎร์ธานี แคลเซยี มทแี่ ลกเปลี่ยนได้ ปที ี่ 4
962 114819522155
1000
1000 884
900 900 825
800 730 743
800 648
700 502 519 567 700 569
600 600
211 259 308 340 400 421 312 364 389 400 428 429
500 62 97 130 500
400 400
300
200 300 119 168 176 199
200 44 51
100 100
0 0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
Standard
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
กระบี่ แคลเซยี มทแ่ี ลกเปลย่ี นได้ ปที ่ี 4 1237164245159403 กระบ่ี แคลเซียมทแี่ ลกเปล่ียนได้ ปที ี่ 1 9722
1000 1000
900 900
800 735 743
800 729
648
700 700 567
600 517 545
600 486
500 400421
500 240 274 288 290 328 372 400 426 400 292308340340
400 186 2.75 49 49 49 65 65 97 97 97 113130162178194211227
300 300
200
200 64 78 79 83 94 103 130 131 100
100 6
0 1 0
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
Stand…
17
18
19
20
21
22
23
24
25
ชมุ พร แคลเซยี มท่แี ลกเปล่ียนได้ ปที ี่ 1 1689 1824 ชุมพร แคลเซียมทแ่ี ลกเปลย่ี นได้ ปีที่ 4 999
1000 1000
900 900
800 800
700 637
700 608
600 541 600
500 311 338 351 378 392 400 405 500 400
400
400 29 40 43 44 71 95 100 103 105 123 145 168 194 214 228
300 203 203 230 300
200 54 81 95 145 200
100 100
0 0
26
ตรงั แคลเซยี มทแี่ ลกเปลี่ยนได้ ปที ี่1 972 11343727 ตรัง แคลเซยี มท่แี ลกเปล่ียนได้ ปีท่ี4 1760
1000 891 1000 861
900
900
800 800
700 700
600 600
500 400 405 405 405 421 500 400 410 416
400 292 324
400 318
300
200 49 49 65 65 65 65 81 81 81 81 97 113 162 300 207 214 219 222 225
100 20 58 62 63 65 67 83 109 139 149 149
200
0 100
1 0
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
Standard
16
17
18
19
20
21
22
23
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
Standard
18
19
20
21
ภาพที่ 22 ปรมิ าณแคลเซียมท่ีแลกเปลย่ี นได้ (มิลลกิ รัมตอ่ กโิ ลกรมั ) ของดนิ สวนปาล์มนำ้ มันเปรยี บเทยี บปีท่ี 1
และปีท่ี 4 ของเกษตรกรอำเภอพระแสง จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี อำเภอคลองท่อม จังหวดั กระบ่ี อำเภอทา่
แซะ จังหวัดชมุ พร และอำเภอสเิ กา จงั หวดั ตรัง (คา่ มาตรฐาน 400 มิลลกิ รัมต่อกโิ ลกรมั )
ความสมดลุ ของแคลเซยี มต่อแมกนเี ซยี ม ความตอ้ งการแคลเซยี มท่ีแลกเปล่ียนได้ของปาล์มน้ำมันที่
เหมาะสมมีค่า 400 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หากพบว่า ปริมาณแคลเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ต่ำกว่า 100 มิลลิกรัมต่อ
กโิ ลกรมั เกษตรกรควรใช้ปนู โดโลไมท์และหินฟอสเฟตเปน็ แหล่งของธาตุแคลเซียม แต่หากดนิ มปี รมิ าณแคลเซียม
เหมาะสม (200-400 มิลลิกรัมตอ่ กิโลกรัม) เกษตรกรสามารถใชห้ นิ ฟอสเฟตในอัตรา 1.5 กโิ ลกรมั ตอ่ ต้นต่อปี เพื่อ
คงปรมิ าณแคลเซียมใหอ้ ยู่ในปริมาณท่ีเหมาะสมได้ หากมีปรมิ าณแคลซยี มมากเกินพอจะมผี ลตอ่ ความเป็นกรดด่าง
ของดิน และความสมดลุ ระหว่างแคลเซยี มตอ่ แมกนเี ซยี ม ดังนั้นเกษตรกรควรงดการใส่แคลเซยี ม
ผลวเิ คราะห์ดิน ปี 2559 พบวา่ ความสมดลุ ระหว่างแคลเซียมตอ่ แมกนีเซยี มในสวนปาลม์ น้ำมนั
ของเกษตรกรในอำเภอพระแสง (สุราษฎร์ธานี) คลองท่อม (กระบ่ี) ท่าแซะ (ชมุ พร) และสิเกา (ตรงั ) มคี ่าสมดลุ
ร้อยละ 33.3 38.5 41.2 และ 65.2 ตามลำดบั และจากผลวิเคราะห์ปี 2562 พบวา่ แคลเซยี มต่อแมกนีเซยี มใน
สวนปาลม์ น้ำมนั มคี วามสมดุลรอ้ ยละ 55.5 16.0 88.2 และ 61.9 ตามลำดับ โดยสวนปาลม์ นำ้ มันของเกษตรกร
อำเภอคลองท่อม (กระบี)่ มคี วามไม่สมดุลเพม่ิ ขน้ึ จากร้อยละ 61.5 เป็นร้อยละ 84.0 ในปี 2562 (ภาพท่ี 23) ซึ่ง
สังเกตได้ว่าเป็นผลมาจากปรมิ าณแมกนเี ซียมท่แี ลกเปลยี่ นไดใ้ นดินมคี ่าต่ำกว่าความตอ้ งการของปาล์มน้ำมนั
คอ่ นขา้ งมาก โดยเกษตรกรจำนวนน้อยรายทมี่ ีปริมาณแคลเซยี มทแี่ ลกเปล่ียนไดม้ ีค่าสูงกวา่ 400 มิลลกิ รมั ตอ่
กิโลกรัม จงึ สง่ ผลตอ่ ความไม่สมดุลของแคลเซยี มตอ่ แมกนีเซยี มทม่ี สี ัดส่วนเพมิ่ มากขึน้ สำหรับสวนปาลม์ นำ้ มนั ของ
เกษตรกรในอำเภอพระแสง (สุราษฎร์ธาน)ี และท่าแซะ (ชุมพร) มีความสมดุลเพิ่มข้นึ กวา่ 66 เปอร์เซ็นต์ จากรอ้ ย
ละ 33.3 และ 41.2 เปน็ ร้อยละ 55.5 และ 88.2 ตามลำดบั ในปี 2562
27
สรุ าษฎร์ธานี แคลเซียมต่อแมกนเี ซียม ปที ี่ 1 10.31 10.42 47.44 สรุ าษฎรธ์ านี แคลเซียมตอ่ แมกนเี ซยี ม ปีท่ี 4
13.51
10 10
8.15 7.62
8 7.43 7.66 8 7.02 7.14
6 5.00 5.18 5.28 5.37 5.63 5.69 5.78 5.78 5.95
4.08 4.32 4.59 6 4.58 4.99 4.58 5.00 5.16 5.05
4 3.78 3.91
2.16
4 3.09 3.14 3.16
2
0.54 2
0.18 0.36
0
0
1
2
3
4
6
5
7
8
17
11
Standard
9
10
12
13
14
16
15
18
19
20
กระบี่ แคลเซยี มต่อแมกนเี ซยี ม ปีที่ 1 12.2612.5112.8714.1115.8818.59 กระบี่ แคลเซยี มต่อแมกนเี ซียม ปีที่ 4
10 9.15 9.29 10.0011.3111.6311.9112.8 13.0013.8314.6915.8 18.8020.6826.3428.1133.2035.7 52.00
8.68 10
8 7.36 7.74 7.83 8.00 8.13
8.28
6 4.64 4.74 5
7.66 4 3.25
8
2
6.76 0.08
6 4.75 4.87 4.93 5 5.11 5.36 5.36 5.72 0
4 2.88 3.09 3.46 3.83 4.18
2 1.23 1.49
0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
Standard
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
1
2
3
4
Standard
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
ชุมพร แคลเซยี มต่อแมกนเี ซยี ม ปที ี่ 1 10.78 11.15 15.28 18.33 ชุมพร แคลเซียมต่อแมกนีเซยี ม ปที ่ี 4
10
10 9.33
8.87
8 7.18 8
6.57
5.50 5.66 6.11
4.91 5.00 6 5.00 5.18
6
4 3.06 4 3.29
1.54 1.65 2.07 1.51 1.61 1.65 1.67 1.72 2.00 2.20 2.40 2.42 2.49 2.62 2.63
0.96 1.05
2 2
0.47 0.61
0 0
ตรัง แคลเซยี มตอ่ แมกนเี ซยี ม ปที ี่ 1 11.915,346.00 ตรงั แคลเซียมตอ่ แมกนเี ซียม ปีที่ 4 15.86
10 8.94 10
8 7.45 8
6.43 6.50 6.50
6.29
5.96
6 4.20 4.33 4.36 4.43 4.47 4.61 5.63 5.68
6 5.00 5.00 5.00 5.14 5.14 5.16 5.18
3.79 3.79 3.79 4.10 4.12 4.16 4.31 4.34 4.47
4 3.50 3.63 3.63
4 2.98 3.10 2.74 2.95 3.09
2.14 2.14 2.41
2
2
0.22
0
0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
Standard
16
17
18
19
20
21
22
23
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
Standard
14
15
16
17
18
19
20
21
ภาพที่ 23 ความสมดลุ ระหวา่ งแคลเซยี มต่อแมกนเี ซยี มของดนิ สวนปาลม์ น้ำมันเปรยี บเทียบปีที่ 1 และปีท่ี 4 ของ
เกษตรกรอำเภอพระแสง จังหวดั สุราษฎรธ์ านี อำเภอคลองทอ่ ม จังหวัดกระบี่ อำเภอท่าแซะ จงั หวัด
ชมุ พร และอำเภอสเิ กา จังหวัดตรัง (ค่ามาตรฐานตำ่ กวา่ 5.0)
ความสมดุลของแมกนเี ซียมตอ่ โพแทสเซยี ม ความสมดุลของแมกนีเซียมต่อโพแทสเซยี มควรมีค่าต่ำ
กว่า 1.2 (นั่นคือปริมาณความต้องการโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ในดินที่เหมาะสม 120 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
28
ปริมาณแมกนีเซียมทีแ่ ลกเปลี่ยนได้ในดินไม่ควรเกนิ 144 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) หากอัตราส่วนมีค่ามากกว่า 1.2
เท่า และปริมาณโพแทสเซียมเหมาะสม เกษตรกรต้องการใส่ปุ๋ยกีเซอไรท์ ซี่งเป็นแหล่งของธาตแุ มกนีเซียม และ
หากปริมาณแมกนีเซียมเหมาะสม แสดงว่าปริมาณโพแทสเซียมต่ำเกินไป เกษตรกรต้องเพ่ิมอตั ราการใสป่ ุ๋ย 0-0-
60 เพอื่ เพม่ิ ปริมาณโพแทสเซยี มในดนิ
ผลวเิ คราะหด์ ิน ปี 2559 พบวา่ ความสมดลุ ระหว่างแมกนเี ซียมตอ่ โพแทสเซียมในสวนปาล์มน้ำมัน
ของเกษตรกรในอำเภอพระแสง (สรุ าษฎร์ธาน)ี คลองทอ่ ม (กระบี่) ท่าแซะ (ชมุ พร) และสเิ กา (ตรงั ) มีความสมดุล
(ค่าต่ำกว่า 1.2) ร้อยละ 66.7 96.1 35.3 และ 82.6 ตามลำดับ และจากผลวิเคราะห์ปี 2562 พบว่า แมกนีเซียม
ต่อโพแทสเซียมในสวนปาล์มน้ำมันมีความสมดุลร้อยละ 15.0 80.0 76.5 และ 80.9 ตามลำดับ โดยสวนปาล์ม
นำ้ มนั ของเกษตรกรอำเภอพระแสง (สุราษฎรธ์ านี) มคี วามไมส่ มดลุ เพิ่มข้นึ จากร้อยละ 33.3 ในปี 2559 เปน็ 85.0
ในปี 2562 และสวนปาล์มน้ำมนั ของเกษตรกรอำเภอท่าแซะ (ชมุ พร) มีความสมดุลเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 35.3 เป็น
76.5 ในปี 2562 (ภาพที่ 24)
สุราษฎร์ธานี แมกนีเซียมต่อโพแทสเซียม ปที ี่ 1 4.94 สุราษฎรธ์ านี แมกนเี ซียมต่อโพแทสเซยี ม ปีท่ี 4 5.45 7.13 14.18
5 5
4.00
4 4
2.84
3 2.63 2.83 2.92
3 2 1.15 1.20 1.34 1.62 1.58 1.78 1.95 1.90 1.98 1.85 2.11 2.13
1.87
1 0.27 0.52
2 1.57
1.20 1.23 0
1 0.16 0.17 0.2 0.21 0.31 0.36 0.37 0.62 0.83 0.88
0
1
2
3
Standard
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
กระบี่ แมกนเี ซยี มต่อโพแทสเซียม ปที ่ี 1 กระบ่ี แมกนีเซยี มต่อโพแทสเซยี ม ปที ่ี 4
5 4.65 5
4 4
3 3 2.48
2.032.08
2
1 0.2 0.210.210.220.260.270.310.310.310.340.410.440.470.480.480.530.540.550.560.610.720.760.931.031.081.20 2
0 1 0.130.140.150.160.180.220.310.320.360.420.430.460.540.570.590.630.710.760.810.961.201.241.26
0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
Standard
26
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
Standard
21
22
23
24
25
ชุมพร แมกนีเซยี มตอ่ โพแทสเซยี ม ปีท่ี 1 ชุมพร แมกนเี ซียมตอ่ โพแทสเซยี ม ปีท่ี 4
5
5.14 5.31 9.83 9.99
5
4 3.36 3.44 4 3.49
2.82 2.85
3
3 2.54 2.31
2 1.60 1.73 2 0.57 0.59 0.71 0.80 0.83 0.98 1.15 1.20 1.31 1.43
1.20 1 0.16 0.18 0.20 0.30 0.31 0.33
0.86 0.95 0
1 0.24 0.29 0.41 0.62
0
1
2
3
4
5
6
Standard
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
Standard
14
15
16
17
29
ตรงั แมกนเี ซยี มตอ่ โพแทสเซียม ปที ่ี 1 6.28 ตรงั แมกนีเซียมต่อโพแทสเซยี ม ปที ่ี 4
5 4.50
5
4
4 3.48
3
3
2.27 2 1.55 1.65 1.67
0.95 0.97 0.97 1.10 1.20
2
1.20 1.26 1 0.06 0.11 0.24 0.26 0.27 0.39 0.39 0.42 0.43 0.44 0.55 0.55 0.56
0
1 0.09 0.10 0.18 0.20 0.22 0.23 0.25 0.33 0.34 0.40 0.45 0.51 0.51 0.59 0.62 0.68 0.88 0.88 0.88
0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
Standard
20
21
22
23
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
Standard
18
19
20
21
ภาพท่ี 24 ความสมดุลระหว่างแมกนีเซยี มต่อโพแทสเซยี มของดินสวนปาล์มน้ำมนั เปรยี บเทียบปีที่ 1 และปที ่ี 4
ของเกษตรกรอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎรธ์ านี อำเภอคลองทอ่ ม จังหวดั กระบี่ อำเภอทา่ แซะ
จังหวดั ชมุ พร และอำเภอสิเกา จังหวดั ตรงั (คา่ มาตรฐานต่ำกว่า 1.2)
1.3.2) ผลวิเคราะหใ์ บ สวนปาล์มน้ำมันของเกษตรกรแตล่ ะจังหวดั จะเปรยี บเทยี บกบั คา่ ตามความ
ต้องการของปาล์มน้ำมนั ซึ่งหากเกษตรกรมีการปรบั เปล่ียนการจดั การธาตุอาหารตามคำแนะนำ ปริมาณธาตุ
อาหารในใบจะเปล่ียนแปลงไปในทศิ ทางที่ตรงตามความต้องการของปาลม์ นำ้ มนั มากกวา่ ปที ี่เรม่ิ ต้นการดำเนนิ งาน
(ปี 2559) เนอื่ งจากเปน็ การนำเสนอเป็นภาพรวมของแต่ละจงั หวัด และมีปาลม์ นำ้ มันหลายชว่ งอายุ ดังนน้ั จึงไดใ้ ช้
ค่าวกิ ฤตของใบปาล์มน้ำมันท่อี ายุ 8 ปีเป็นตวั แทนในการประเมินความเหมาะสมของธาตุอาหารในใบ
ไนโตรเจน ปรมิ าณไนโตรเจนในใบท่ีเหมาะสมกบั ความต้องการของปาลม์ น้ำมนั อยใู่ นช่วง 2.385-
2.636 เปอร์เซ็นตโ์ ดยน้ำหนกั แหง้ หากปรมิ าณไนโตรเจนต่ำกว่า 2.385 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนกั แหง้ (แท่งสีแดง)
แสดงว่า ใบขาดไนโตรเจน และหากปรมิ าณไนโตรเจนสูงกวา่ 2.636 เปอร์เซ็นตโ์ ดยน้ำหนักแห้ง แสดงว่า ใบมี
ปริมาณไนโตรเจนสูงเกนิ ความตอ้ งการ โดยปริมาณไนโตรเจนทเ่ี หมาะสมในใบมีค่า 2.510 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก
แหง้ (แท่งสีเหลอื ง) จากผลวิเคราะห์ภาพรวมอำเภอพระแสง (สรุ าษฎรธ์ านี) คลองท่อม (กระบี)่ ท่าแซะ (ชมุ พร)
และสิเกา (ตรงั ) ในปี 2559 พบว่า ใบปาล์มน้ำมนั ทปี่ ริมาณธาตุไนโตรเจนมคี ่าสงู กว่าค่าวิกฤตของเกษตรกรท้งั 4
พ้นื ท่ีดงั กล่าว คิดเปน็ รอ้ ยละ 26.7 15.4 29.4 และ 0 ตามลำดับ และจากการให้คำแนะนำการจัดการธาตอุ าหาร
ตามผลวเิ คราะห์ดนิ ใบตลอด 4 ปี ซ่งึ เกษตรกรบางรายได้ปฏิบตั ติ ามคำแนะนำ บางรายปฏิบัติตามบางส่วน และ
บางรายไม่สามารถปฏิบตั ิตามได้เน่ืองจากราคาจำหนา่ ยผลผลติ ค่อนข้างตำ่ และไม่มเี งินใสป่ ุย๋ ซึ่งผลวิเคราะหธ์ าตุ
ไนโตรเจนในใบในปี 2562 พบว่า ใบปาลม์ น้ำมันที่ปรมิ าณธาตไุ นโตรเจนมีค่าสูงกวา่ ค่าวิกฤตคิดเป็นรอ้ ยละ 23.8
8.0 11.8 และ 23.8 ตามลำดับ ซ่งึ ปรมิ าณธาตไุ นโตรเจนต่ำกว่าค่าวกิ ฤตมากกวา่ ในชว่ งเริม่ ตน้ มเี ฉพาะอำเภอสิ
เกา ท่ีปริมาณธาตไุ นโตรเจนสูงกว่าค่าวิกฤตมากกว่าช่วงเร่ิมต้น (ภาพที่ 25)
30
สรุ าษฎร์ธานี ไนโตรเจน ปที ่ี 1 สุราษฎรธ์ านี ไนโตรเจน ปีที่ 4
3.00 3.00
2.50 2.079 2.13 2.146 2.152 2.154 2.166 2.251 2.255 2.277 2.283 2.314 2.322 2.322 2.351 2.385 2.386 2.424 2.451 2.451 2.498 2.510
2.385 2.42 2.423 2.458 2.510 2.525
2.50 1.903 1.969 1.984 2.007 2.009 2.071 2.111 2.149 2.181 2.192 2.196 1.944
2.00 2.00 1.825
1.50 1.50
1.00 1.00
0.50 0.50
0.00 0.00
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
Min
12
13
14
Standard
15
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
Min
17
18
19
20
21
Standard
กระบี่ ไนโตรเจน ปที ่ี 1 กระบี่ ไนโตรเจน ปีที่ 4
3.00 2.7612.815 3.00
2.5102.6152.646
1.8421.8591.8761.8891.9051.9361.9471.9551.9631.9702.0412.0552.1192.1332.1392.1662.1902.1932.2182.2342.2612.3612.385 1.7581.8011.8461.8561.9041.9171.9761.9921.9982.0002.0212.0662.0872.1252.1412.1552.1672.1892.2512.2912.3332.3852.3862.4752.510
2.50 2.50
2.00 2.00
1.638
1.50 1.409
1.50
1.00 1.00
0.50
0.50
0.00
1 0.00 1 4 7 10 13 16 19 22 24
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
Min
Standard
23
24
25
26
ชมุ พร ไนโตรเจน ปที ี 1 ชมุ พร ไนโตรเจน ปที ี่ 4
3.00 2.292 2.293 2.298 2.308 2.385 2.413 2.415 2.415 2.510 2.587 2.664 3.00
2.50 1.859 1.893 1.917 2.003 2.063 2.116 2.146
2.00 1.668 2.385 2.510 2.532 2.537
2.50 1.693 1.813 1.851 1.915 1.931 2.008 2.021 2.085 2.109 2.135 2.155 2.174 2.194 2.211 2.247
2.00
1.50 1.50
1.00 1.00
0.50 0.50
0.00 0.00
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
Min
13
14
15
Standard
16
17
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
Min
Standard
16
17
ตรงั ไนโตรเจน ปีท่ี1 ตรัง ไนโตรเจน ปีท่ี 4
3.00 3.00 2.639
1.7781.8141.8401.8801.9392.0172.0672.0752.1112.1872.1972.2182.2412.2412.2412.2962.3062.3312.3672.3782.385 2.510 2.356 2.357 2.385 2.399 2.399 2.410 2.506 2.51
1.5861.613 1.72 1.795 1.851 1.885 1.902 1.922 1.947 2.051 2.093 2.126 2.128 2.133 2.179 2.205
2.50 2.50
2.00 2.00
1.50 1.376 1.50
1.00 1.00
0.50 0.50
0.00 0.00
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Min
Standard
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
Min
17
18
19
20
Stan…
21
ภาพท่ี 25 ปริมาณไนโตรเจนในใบ (เปอรเ์ ซน็ ต์โดยน้ำหนักแห้ง) ของสวนปาล์มน้ำมันเปรยี บเทียบปีที่ 1 และปที ่ี 4
ของเกษตรกรอำเภอพระแสง จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี อำเภอคลองท่อม จังหวดั กระบี่ อำเภอทา่ แซะ
จังหวัดชุมพร และอำเภอสิเกา จงั หวดั ตรงั (คา่ มาตรฐาน 2.385-2.510 เปอร์เซ็นตโ์ ดยน้ำหนักแห้ง)
ฟอสฟอรสั ปรมิ าณฟอสฟอรสั ในใบทเ่ี หมาะสมกับความต้องการของปาล์มน้ำมนั อยู่ในชว่ ง 0.153-
0.169 เปอร์เซ็นต์โดยนำ้ หนักแห้ง หากปริมาณฟอสฟอรัสต่ำกว่า 0.153 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักแหง้ (แท่งสีแดง)
31
แสดงว่า ใบขาดฟอสฟอรัสและหากปริมาณฟอสฟอรัสสูงกว่า 0.169 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักแห้ง แสดงว่า ใบมี
ปริมาณฟอสฟอรัสสูงเกนิ ความต้องการ โดยปริมาณฟอสฟอรสั ที่เหมาะสมในใบมีค่า 0.161 เปอรเ์ ซ็นต์โดยนำ้ หนัก
แห้ง (แท่งสีเหลือง) จากผลวิเคราะห์ภาพรวมอำเภอพระแสง (สุราษฎร์ธานี) คลองท่อม (กระบี่) ท่าแซะ (ชุมพร)
และสเิ กา (ตรัง) ในปี 2559 พบวา่ ใบปาลม์ น้ำมันที่ปรมิ าณธาตุฟอสฟอรัสมีค่าสูงกวา่ ค่าวกิ ฤตของเกษตรกรท้ัง 4
พื้นที่ดังกล่าว คิดเป็นร้อยละ 26.7 19.2 11.8 และ 40.0 ตามลำดับ และจากการให้คำแนะนำการจัดการธาตุ
อาหารตามผลวิเคราะห์ดนิ ใบตลอด 4 ปี ซง่ึ เกษตรกรบางรายไดป้ ฏบิ ตั ิตามคำแนะนำ บางรายปฏิบตั ติ ามบางส่วน
และบางรายไม่สามารถปฏิบัติตามได้เนื่องจากราคาจำหน่ายผลผลิตค่อนขา้ งตำ่ และไม่มีเงนิ ใสป่ ุ๋ย ซึง่ ผลวิเคราะห์
ธาตุฟอสฟอรัสในใบในปี 2562 พบว่า ใบปาล์มน้ำมันที่ปริมาณธาตุฟอสฟอรัสมีคา่ สูงกวา่ ค่าวิกฤตคดิ เปน็ ร้อยละ
33.3 16.0 58.8 และ 4.8 ตามลำดบั ซ่งึ อำเภอคลองท่อมและอำเภอสเิ กา ปรมิ าณธาตฟุ อสฟอรัสที่มีค่าสูงกว่าค่า
วิกฤตจำนวนลดตำ่ กว่าช่วงเริม่ ต้นปี 2559 มีเฉพาะอำเภอพระแสงและอำเภอท่าแซะ ท่ีปริมาณธาตฟุ อสฟอรัสท่ีมี
ค่าสูงกวา่ ค่าวกิ ฤตจำนวนเพมิ่ มากกว่าช่วงเริ่มตน้ (ภาพที่ 26)
สุราษฎร์ธานี ฟอสฟอรัส ปีท่ี 1 สรุ าษฎรธ์ านี ฟอสฟอรัส ปที ่ี 4
0.18 0.169 0.171 0.18 0.137 0.14 0.14 0.145 0.145 0.145 0.148 0.148 0.149 0.152 0.152 0.153 0.154 0.155 0.156 0.159 0.159 0.159 0.16 0.161
0.16 0.132 0.137 0.137 0.138 0.14 0.144 0.144 0.148 0.151 0.153 0.155 0.157 0.161 0.16
0.14 0.118
0.14 0.121 0.125 0.128
0.12 0.1 0.12
0.1 0.1
0.08 0.08
0.06 0.06
0.04 0.04
0.02 0.02
0 0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
Min
15
16
17
18
19
20
21
Standard
กระบ่ี ฟอสฟอรสั ปีท่ี 1 0.208 กระบ่ี ฟอสฟอรสั ปที ี่ 4
0.18 0.167 0.18 0.171
0.16 0.110 0.113 0.115 0.118 0.122 0.122 0.123 0.125 0.127 0.127 0.129 0.129 0.134 0.134 0.139 0.140 0.144 0.144 0.147 0.150 0.151 0.153 0.155 0.159 0.160 0.161 0.16 0.124 0.126 0.127 0.131 0.131 0.132 0.133 0.134 0.136 0.136 0.136 0.137 0.138 0.141 0.144 0.146 0.147 0.148 0.151 0.152 0.153 0.156 0.161 0.161 0.162
0.14 0.14
0.12
0.12
0.10
0.096
0.10
0.08 0.08
0.06 0.06
0.04 0.04
0.02 0.02
0.00 0.00
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
Min
22
23
24
Standard
25
26
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
Min
22
23
Standard
24
25
ชุมพร ฟอสฟอรสั ปีที่ 1 0.178 ชมุ พร ฟอสฟอรสั ปที ี่ 4
0.18 0.161 0.163 0.18 0.141 0.144 0.145 0.145 0.148 0.150 0.153 0.154 0.155 0.158 0.161 0.161 0.167 0.173 0.175 0.180 0.182 0.214
0.121 0.125 0.127 0.131 0.133 0.134 0.134 0.134 0.136 0.143 0.147 0.151 0.153 0.153 0.16
0.16
0.14 0.14 0.131
0.12 0.113
0.094 0.12
0.1 0.10
0.08 0.08
0.06 0.06
0.04 0.04
0.02 0.02
0 0.00
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
Min
Standard
16
17
1
2
3
4
5
6
7
Min
8
9
10
11
Standard
12
13
14
15
16
17
32
ตรงั ฟอสฟอรสั ปีที่ 1 ตรงั ฟอสฟอรสั ปีที่ 4
0.18 0.1370.1390.1390.1410.1460.1510.1530.1530.1580.1580.1600.1610.1610.1630.1630.1690.1760.1890.215 0.18 0.115 0.122 0.124 0.125 0.125 0.127 0.13 0.13 0.133 0.135 0.135 0.135 0.136 0.143 0.144 0.147 0.148 0.148 0.152 0.153 0.169
0.16 0.161
0.14 0.1180.1210.121 0.16
0.14
0.12 0.1070.1070.107 0.12 0.107
0.10 0.1
0.08 0.08
0.06 0.06
0.04 0.04
0.02 0.02
0.00 0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
Min
14
15
16
17
Standard
18
19
20
21
22
23
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
Min
Standard
21
ภาพท่ี 26 ปริมาณฟอสฟอรสั ในใบ (เปอร์เซน็ ตโ์ ดยนำ้ หนกั แห้ง) ของสวนปาลม์ น้ำมนั เปรยี บเทยี บปีที่ 1 และปที ่ี
4 ของเกษตรกรอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอคลองทอ่ ม จงั หวัดกระบ่ี อำเภอทา่ แซะ
จังหวดั ชมุ พร และอำเภอสิเกา จงั หวัดตรัง (คา่ มาตรฐาน 0.153-0.161 เปอรเ์ ซน็ ตโ์ ดยนำ้ หนกั แห้ง)
โพแทสเซียม ปริมาณโพแทสเซียมในใบที่เหมาะสมกับความต้องการของปาล์มน้ำมันอยู่ในช่วง
0.900-1.100 เปอร์เซ็นต์โดยนำ้ หนกั แหง้ หากปรมิ าณโพแทสเซียมต่ำกวา่ 0.900 เปอร์เซ็นตโ์ ดยน้ำหนักแห้ง (แทง่
สีแดง) แสดงวา่ ใบขาดโพแทสเซียมและหากปรมิ าณโพแทสเซียมสูงกว่า 1.100 เปอรเ์ ซน็ ตโ์ ดยนำ้ หนักแห้ง แสดง
วา่ ใบมปี รมิ าณโพแทสเซยี มสงู เกนิ ความต้องการ โดยปรมิ าณโพแทสเซยี มที่เหมาะสมในใบมีค่า 1.000 เปอรเ์ ซ็นต์
โดยน้ำหนักแห้ง (แท่งสีเหลือง) จากผลวิเคราะห์ภาพรวมอำเภอพระแสง (สุราษฎร์ธานี) คลองท่อม (กระบี่) ท่า
แซะ (ชุมพร) และสิเกา (ตรงั ) ในปี 2559 พบวา่ ใบปาล์มน้ำมนั ทปี่ ริมาณธาตุโพแทสเซียมมีค่าสูงกว่าค่าวิกฤตของ
เกษตรกรท้งั 4 พนื้ ทดี่ งั กลา่ ว คิดเปน็ ร้อยละ 26.7 53.8 11.8 และ 34.8 ตามลำดบั และจากการให้คำแนะนำการ
จัดการธาตุอาหารตามผลวิเคราะห์ดินใบตลอด 4 ปี ซึ่งเกษตรกรบางรายไดป้ ฏิบัติตามคำแนะนำ บางรายปฏิบตั ิ
ตามบางส่วน และบางรายไม่สามารถปฏิบัตติ ามได้เนื่องจากราคาจำหน่ายผลผลิตค่อนข้างต่ำ และไม่มีเงินใส่ปยุ๋
ซึ่งผลวิเคราะห์ธาตุโพแทสเซียมในใบในปี 2562 พบว่า ใบปาล์มน้ำมันที่ปริมาณธาตุโพแทสเซียมมีค่าสูงกว่าค่า
วิกฤตคดิ เป็นรอ้ ยละ 38.1 36.0 11.8 และ 47.6 ตามลำดบั ซ่ึงอำเภอคลองทอ่ ม ปริมาณธาตุโพแทสเซยี มทมี่ ีคา่ สูง
กว่าค่าวิกฤตจำนวนลดต่ำกว่าช่วงเริ่มต้น อำเภอท่าแซะ ใบปาล์มน้ำมันทีป่ ริมาณธาตุโพแทสเซียมมีค่าสูงกว่าคา่
วิกฤตมีอัตราเท่าเดิม มีเฉพาะอำเภอพระแสงและอำเภอสิเกาท่ีปริมาณธาตุโพแทสเซียมในใบ จำนวนเกษตรกรท่ี
ใบปาลม์ นำ้ มนั มีค่าสงู กวา่ คา่ วิกฤตจำนวนเพ่ิมมากกว่าช่วงเริ่มต้น (ภาพที่ 27)
สรุ าษฎรธ์ านี โพแทสเซียม ปีท่ี 1 สรุ าษฎร์ธานี โพแทสเซยี ม ปที ่ี 4
1.60 1.60 1.456
1.40 1.40 1.000 1.034 1.083 1.083 1.139 1.199
1.20
1.20 1.110 1.117
1.00 0.728 0.731 0.747 0.784 0.798 0.828 0.865 0.882 0.886 0.900 0.972 0.996 1.000 1.00 0.631 0.631 0.633 0.646 0.703 0.739 0.768 0.771 0.809 0.856 0.875 0.886 0.900 0.909 0.919
0.80
0.80 0.647
0.60 0.486 0.60 0.533
0.40 0.40
0.20 0.20
0.00 0.00
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
Min
12
13
Standard
14
15
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
Min
14
15
Standard
16
17
18
19
20
21
33
กระบ่ี โพแทสเซยี ม ปที ่ี 1 1.576 กระบี่ โพแทสเซียม ปีท่ี 4
1.60
1.60 1.401
1.3081.330
1.40 1.1631.1701.1881.2301.237 1.40 1.201
1.20 1.083 1.20 0.5760.6270.6340.6830.7250.750.7560.7880.7990.8050.8160.8340.8480.8710.8860.9000.9290.9310.9500.9520.9650.9790.9881.0001.040
1.00 0.8810.8910.9000.9520.9680.9771.0001.006 1.00
0.80
0.80 0.6180.6250.6540.6720.6860.7460.7590.7750.788
0.538
0.60 0.60 0.430
0.40 0.40
0.20 0.20
0.00 0.00
ชมุ พร โพแทสเซยี ม ปที ่ี 1 ชุมพร โพแทสเซียม ปีท่ี 4
1.60 1.60
1.40 1.40
1.178
1.20 0.900 0.932 0.977 1.000 1.20 1.000
1.00 0.590 0.600 0.628 0.632 0.677 0.713 0.728 0.732 0.777 0.806 0.590 0.591 0.602 0.618 0.626 0.669 0.699 0.742 0.747 0.752 0.797 0.836 0.873 0.900 0.921
0.80 1.00
0.80
0.60 0.432 0.445 0.445 0.480 0.522 0.60 0.494 0.497
0.40 0.40
0.20 0.20
0.00 0.00
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
Min
16
17
Standard
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
Min
16
Standard
17
ตรงั โพแทสเซยี ม ปที ่ี1 1.830 2.531 ตรัง โพแทสเซียม ปีท่ี 4
1.60 1.60 1.513
1.40 1.224 1.224 1.224 1.40 1.287
1.207 1.217
1.20 1.054 1.084 1.20 1.118
1.00 0.755 0.793 0.811 0.858 0.858 0.860 0.900 0.953 0.988 1.000 1.023 1.030 1.047
1.000
0.80 0.559 0.586 0.63 0.646 0.683
1.00 0.839 0.856 0.859 0.865 0.878 0.884 0.900 0.945
0.779 0.782
0.80 0.669 0.686
0.525 0.570 0.596
0.60 0.426 0.458 0.60
0.40 0.40
0.20 0.20
0.00 0.00
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
Min
16
Standard
17
18
19
20
21
22
23
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
Min
12
13
Standard
14
15
16
17
18
19
20
21
ภาพท่ี 27 ปรมิ าณโพแทสเซียมในใบ (เปอรเ์ ซ็นต์โดยน้ำหนกั แห้ง) ของสวนปาล์มนำ้ มนั เปรียบเทียบปที ี่ 1 และปี
ท่ี 4 ของเกษตรกรอำเภอพระแสง จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี อำเภอคลองท่อม จงั หวดั กระบี่ อำเภอท่าแซะ
จงั หวดั ชุมพร และอำเภอสิเกา จังหวดั ตรัง (คา่ มาตรฐาน 0.900-1.000 เปอรเ์ ซ็นต์โดยน้ำหนักแห้ง)
แมกนีเซยี ม ปรมิ าณแมกนีเซยี มในใบทเ่ี หมาะสมกับความตอ้ งการของปาลม์ นำ้ มันอยูใ่ นช่วง
0.238-0.263 เปอรเ์ ซน็ ต์โดยน้ำหนกั แหง้ หากปริมาณแมกนเี ซยี มต่ำกว่า 0.238 เปอรเ์ ซน็ ตโ์ ดยน้ำหนักแห้ง (แท่ง
สีแดง) แสดงวา่ ใบขาดแมกนเี ซยี มและหากปริมาณแมกนีเซียมสงู กว่า 0.263 เปอร์เซน็ ตโ์ ดยนำ้ หนกั แหง้ แสดงว่า
ใบมีปรมิ าณแมกนีเซยี มสูงเกินความตอ้ งการ โดยปริมาณแมกนเี ซยี มทีเ่ หมาะสมในใบมคี ่า 0.250 เปอร์เซน็ ต์โดย
น้ำหนกั แหง้ (แท่งสีเหลอื ง) จากผลวเิ คราะหภ์ าพรวมอำเภอพระแสง (สุราษฎร์ธานี) คลองท่อม (กระบี)่ ท่าแซะ
(ชุมพร) และสิเกา (ตรัง) ในปี 2559 พบวา่ ทง้ั 4 พนื้ ท่ี ใบปาลม์ น้ำมันของเกษตรกรมปี รมิ าณธาตแุ มกนเี ซยี มสูง
กว่าความต้องการของปาลม์ นำ้ มนั 100 เปอร์เซน็ ต์ และในปี 2562 มีเฉพาะอำเภอคลองท่อมที่ใบปาลม์ นำ้ มนั มี
ปริมาณธาตแุ มกนีเซียมตำ่ กว่าคา่ วกิ ฤตคดิ เป็นรอ้ ยละ 36.0 (ภาพที่ 28)
34
สุราษฎรธ์ านี แมกนเี ซยี ม ปีที่ 1 สรุ าษฎรธ์ านี แมกนีเซียม ปที ี่ 4 0.966 2.311 2.311 2.42
1.00 0.951 1.00 0.688 0.726 0.735 0.753 0.756 0.779 0.814 0.814 0.841 0.847 0.872
0.90 0.841 0.90
0.742 0.749 0.762 0.80
0.80 0.559 0.567 0.596 0.603 0.636 0.656 0.660 0.674 0.675
0.70 0.70 0.6 0.627 0.639 0.65
0.60 0.56
0.60
0.50 0.50 0.427
0.40 0.344
0.30 0.238 0.250 0.40
0.30 0.238 0.250
0.20 0.20
0.10 0.10
0.00 0.00
Min
Standard
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
Min
Standard
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
กระบ่ี แมกนีเซยี ม ปที ี่ 1 1.088 1.093 1.094 1.146 1.161 1.170 1.421 กระบี่ แมกนเี ซียม ปที ่ี 4 0.448
1.00 0.878 0.896 0.917 0.946 0.45 0.404 0.414
0.90 0.822 0.829
0.80 0.739 0.750 0.761 0.787 0.789 0.40 0.342 0.344 0.346 0.359 0.364
0.35 0.320
0.70 0.618 0.628 0.653 0.679
0.299
0.60
0.30 0.277 0.280
0.483
0.238 0.243 0.250 0.251 0.253 0.253
0.50 0.398 0.405 0.419
0.25 0.219 0.222
0.40
0.205
0.30 0.238 0.250 0.189 0.190
0.20 0.162 0.173
0.145
0.15 0.117
0.20 0.10
0.10 0.05
0.00 0.00
ชมุ พร แมกนีเซยี ม ปีที 1 1.137 ชุมพร แมกนเี ซยี ม ปีท่ี 4
1.00 0.890 0.917 0.917 1.00 0.936
0.867
0.90 0.808 0.90 0.687 0.715 0.736 0.739 0.752 0.764 0.774 0.779 0.785 0.788 0.799 0.801 0.817
0.616 0.644 0.644 0.671 0.698 0.698 0.726 0.753 0.80
0.80
0.70 0.70 0.609 0.637
0.60 0.507 0.534 0.562
0.60
0.50 0.398 0.50
0.40 0.40
0.30 0.238 0.250 0.30 0.238 0.250
0.20 0.20
0.10 0.10
0.00 0.00
Min
Standard
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
Min
Standard
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
ตรงั แมกนเี ซีย0ม.84ป90ีท.8่ี1770.8820.9230.9380.9801.0091.0151.1641.2231.4471.628 ตรงั แมกนเี ซยี ม ปที ี่ 4 0.9741.081.159
1.00 0.7620.7650.7800.7930.799 1.00 0.917
0.90 0.5930.6160.6410.6580.6720.6980.74 0.760.7660.7780.7990.8430.8550.8550.855
0.90
0.80 0.80
0.70
0.70
0.60 0.4910.516
0.60 0.5040.5090.5090.5090.546
0.50 0.440 0.50
0.40 0.40
0.30 0.2380.250 0.30 0.2380.250
0.20 0.20
0.10
0.10 0.00
0.00 Min
Standard
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
ภาพที่ 28 ปริมาณแมกนีเซียมในใบ (เปอร์เซน็ ต์โดยน้ำหนกั แห้ง) ของสวนปาลม์ น้ำมนั เปรียบเทียบปที ่ี 1 และปีที่
4 ของเกษตรกรอำเภอพระแสง จงั หวัดสรุ าษฎร์ธานี อำเภอคลองทอ่ ม จังหวัดกระบ่ี อำเภอทา่ แซะ
จงั หวัดชมุ พร และอำเภอสิเกา จงั หวัดตรงั (คา่ มาตรฐาน 0.238-0.250 เปอร์เซ็นตโ์ ดยน้ำหนักแหง้ )
แคลเซียม ปริมาณแคลเซียมในใบที่เหมาะสมกับความต้องการของปาล์มนำ้ มันอยู่ในช่วง 0.250-
1.000 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักแห้ง หากปริมาณแคลเซียมต่ำกว่า 0.250 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักแห้ง (แท่งสีแดง)
35
แสดงว่า ใบขาดแคลเซียมและหากปริมาณแคลเซียมสูงกว่า 1.000 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักแห้ง แสดงว่า ใบมี
ปริมาณแคลเซียมสูงเกนิ ความต้องการ โดยปริมาณแคลเซยี มที่เหมาะสมในใบมคี ่า 0.625 เปอร์เซ็นตโ์ ดยน้ำหนกั
แห้ง (แท่งสีเหลือง) จากผลวิเคราะห์ภาพรวมอำเภอพระแสง (สุราษฎร์ธาน)ี คลองท่อม (กระบี่) ท่าแซะ (ชุมพร)
และสิเกา (ตรัง) ในปี 2559 พบว่า ใบปาล์มน้ำมันของเกษตรกรส่วนใหญ่ทั้ง 4 พื้นท่ี ปริมาณธาตุแคลเซียมมีค่า
เหมาะสม (0.250-0.625 เปอร์เซน็ ตโ์ ดยน้ำหนักแหง้ ) ตำ่ กวา่ ค่าวกิ ฤตร้อยละ 13.3 26.9 5.9 และ 4.0 ตามลำดับ
ผลวิเคราะห์ธาตุแคลเซียมในใบในปี 2562 พบว่า อำเภอพระแสง ท่าแซะและสิเกา ปริมาณธาตุแคลเซียมในใบ
ปาล์มน้ำมันมีค่าต่ำกว่า 0.625 เปอรเ์ ซน็ ตโ์ ดยนำ้ หนักแห้ง มเี ฉพาะอำเภอคลองท่อมที่ปรมิ าณธาตุแคลเซียมในใบ
สูงกว่า 0.625 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนกั แหง้ และสงู กว่า 1.000 เปอรเ์ ซ็นตโ์ ดยนำ้ หนักแห้ง คดิ เปน็ รอ้ ยละ 12.0 โดย
ไม่มีเกษตรกรรายใดที่ปริมาณแคลเซียมในใบต่ำกว่าค่าวิกฤตเลย ในขณะที่อำเภอพระแสง ท่าแซะและสิเกา
ปริมาณธาตุแคลเซียมในใบต่ำกว่าค่าวิกฤต (0.250 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักแห้ง) ร้อยละ 19.0 11.8 และ 33.3
ตามลำดับ (ภาพท่ี 29) ซ่งึ ตอ้ งปรับให้ปรมิ าณแคลเซียมในใบมคี ่าเพมิ่ ข้ึนเพอื่ ให้ผนงั เซลล์มีความแขง็ แรง โดยการ
ใช้ปนู โดโลไมท์และหินฟอสเฟต แต่ต้องระวงั สมดลุ ของแคลเซียมตอ่ แมกนีเซยี มด้วย
สุราษฎรธ์ านี แคลเซียม ปีท่ี 1 สรุ าษฎรธ์ านี แคลเซยี ม ปที ี่ 4
0.70 0.625
0.70 0.625 0.60 0.558
0.60
0.503
0.50 0.417 0.440 0.50 0.439 0.439
0.40 0.203 0.222 0.250 0.259 0.261 0.263 0.277 0.304 0.314 0.33 0.356 0.356 0.378 0.40 0.233 0.241 0.241 0.250 0.253 0.253 0.275 0.275 0.275 0.277 0.279 0.292 0.318 0.335 0.339 0.347 0.364 0.389
0.30 0.30
0.186
0.20 0.20
0.10 0.10
0.00 0.00
1
2
Min
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
Standard
1
2
3
4
Min
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
Standard
กระบี่ แคลเซียม ปีท่ี 1 กระบ่ี แคลเซยี ม ปีที่ 4
1.20 1.059 1.072
0.70 0.5780.6030.625 1.00 0.953 0.972 1.012
0.60 0.546
0.514 0.834
0.482
0.50 0.3620.3620.3860.3860.4020.4100.4340.4340.450 0.80 0.574 0.586 0.593 0.611 0.617 0.619 0.625 0.657 0.664 0.666 0.695 0.696 0.729 0.735 0.756 0.786 0.789
0.40 0.60 0.477 0.481 0.495
0.30 0.1970.1970.2070.2290.2290.2360.2500.2500.2570.2750.2780.2870.310
0.40
0.20
0.250
0.10
0.20
0.00
0.00
ชมุ พร แคลเซียม ปีท่ี 1 ชุมพร แคลเซยี ม ปที ี่ 4
0.70 0.625 0.70 0.625
0.60 0.510 0.60
0.50 0.397 0.401 0.405 0.405 0.416 0.431 0.437 0.456 0.461 0.50 0.467
0.416 0.418
0.353 0.357 0.40 0.317 0.320 0.321 0.340 0.343 0.348 0.353 0.362 0.370 0.380
0.40 0.306 0.309 0.322
0.30 0.235 0.250 0.269 0.30 0.234 0.250 0.255 0.283
0.20 0.174
0.20
0.10 0.10
0.00
1 0.00
Min
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
Standard
1
2
Min
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
Standard
36
ตรัง แคลเซียม ปที ี่1 ตรงั แคลเซยี ม ปที ี่ 4
0.675 0.70 0.625
0.70 0.6190.6250.6260.627
0.60 0.60
0.5140.5140.514
0.4820.482 0.486
0.50 0.3530.3620.3780.3780.3940.4180.4340.4420.450 0.50 0.419
0.40
0.30 0.2410.2500.2640.2850.2910.305 0.40 0.221 0.227 0.237 0.241 0.245 0.245 0.25 0.256 0.27 0.277 0.285 0.307 0.317 0.32 0.338 0.345 0.358 0.366 0.377
0.30
0.20 0.176
0.20
0.10 0.10
0.00 0.00
ภาพท่ี 29 ปริมาณแคลเซยี มในใบ (เปอร์เซ็นตโ์ ดยนำ้ หนักแหง้ ) ของสวนปาล์มน้ำมันเปรยี บเทยี บปีที่ 1 และปีท่ี
4 ของเกษตรกรอำเภอพระแสง จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี อำเภอคลองทอ่ ม จงั หวดั กระบี่ อำเภอท่าแซะ
จังหวัดชุมพร และอำเภอสิเกา จังหวัดตรงั (คา่ มาตรฐาน 0.250-0.625 เปอร์เซน็ ตโ์ ดยน้ำหนกั แหง้ )
โบรอน ค่าที่เหมาะสมกับความต้องการของปาล์มน้ำมันอยู่ในช่วง 15-25 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก
แหง้ หากมคี ่าต่ำกว่า 8 เปอร์เซ็นตโ์ ดยนำ้ หนกั แห้งแสดงว่า ปรมิ าณโบรอนในใบขาดในระดับวิกฤต ตอ้ งให้โบรอน
150-200 กรมั ตอ่ ต้นตอ่ ปี และหากโบรอนมีคา่ สูงกวา่ 35 เปอร์เซน็ ตโ์ ดยน้ำหนกั แหง้ แสดงวา่ ปริมาณโบรอนในใบ
มีค่าสูงเกินกว่าค่าเหมาะสม เกษตรกรตอ้ งลดหรืองดการใส่โบรอนทนั ที ซ่งึ จะชว่ ยลดความเป็นพิษท่ีอาจส่งผลต่อ
ปาลม์ นำ้ มันได้ และเป็นการลดตน้ ทนุ การผลิตปาล์มนำ้ มนั ดว้ ย สำหรบั ผลวิเคราะหโ์ บรอนในใบ แสดงข้อมูลเฉพาะ
ปที ี่ 4 เน่อื งจากการดำเนนิ งานชว่ งแรกไม่มกี ารวิเคราะหโ์ บรอน ผลวิเคราะห์โบรอน ปี 2562 พบว่า อำเภอคลอง
ทอ่ ม ปริมาณโบรอนสงู กว่า 8 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักแหง้ และมเี กษตรกรเพียง 1 ราย ที่ปริมาณโบรอนในใบมีค่า
สงู มาก 117 เปอร์เซน็ ต์โดยนำ้ หนกั แหง้ (ประวตั กิ ารใส่ปยุ๋ ใสโ่ บรอน 500 กรมั ตอ่ ต้นต่อป)ี สำหรบั อำเภอพระแสง
ท่าแซะและสิเกาพบว่า เกษตรกรร้อยละ 28.6 41.2 และ 4.76 ปริมาณโบรอนในใบต่ำกว่าค่าวิกฤต (ภาพที่ 30)
ซึ่งได้แนะนำให้เกษตรกรใสโบรอนอัตรา 150-200 กรัมต่อตน้ ต่อปี (ขึ้นกับวิธีการใส่) เพือ่ ไม่ให้เกดิ ผลกระทบกับ
การพฒั นาของใบใหม่และการพฒั นาของหลอดละอองเกสรตัวผู้ ซึ่งส่งผลตอ่ การผสมเกสรและการผสมติดของช่อ
ดอกตวั เมยี
สุราษฎร์ธานี โบรอน ปที ี่ 4 35 กระบี่ โบรอน ปที ่ี 4 30 35 117
30 30
25 25
25 23
20
20 16 17 17 17 20 11 11 12 12 13 13 13 13 14 14 14 15 15 15 15 16 17 17 17
15
15 12 13
10 10 10 10 10 8 8
10 5 6 6 6 7 7 8 8 8 8 8 8 5
5
0 0
1 2 3 4 5 6 Min 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 Max Min 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 Max 25
37
ชุมพร โบรอน ปีที่ 4 35 ตรัง โบรอน ปที ี่ 4 35
27
30 30
25 25
20 20 18 18 19 19
15 16
15 7 8 8 9 9 9 9 9 10 10 11 11 12 13 14 15 15
15 13 13 10
11 11
5
10 6 6 6 6 7 7 7 8 8 8 9 9
5
0 0
1 2 3 4 5 6 7 Min 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 Max 1 Min 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 Max
ภาพท่ี 30 ปรมิ าณโบรอนในใบ (เปอร์เซน็ ต์โดยน้ำหนกั แห้ง) ของสวนปาลม์ นำ้ มันเปรียบเทียบปที ี่ 4 ของ
เกษตรกรอำเภอพระแสง จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ อำเภอทา่ แซะ จงั หวดั
ชมุ พร และอำเภอสิเกา จงั หวัดตรัง (คา่ มาตรฐาน 15-25 เปอรเ์ ซน็ ต์โดยน้ำหนักแหง้ )
ข้อมูลอุตุนยิ มวิทยา ปริมาณฝนใชก้ าร ความต้องการน้ำและความต้องการนำ้ ชลประทานของปาล์มน้ำมัน
ขอ้ มลู อุตุนยิ มวิทยา
Ext. max. temp.(°c) Ext. min. temp.(°c) Ext. max. temp.(°c) Ext. min. temp.(°c)
40 max. temp. (°c) min. temp. (°c)
min. temp. (°c) 40 max. temp. (°c)
Temperature (c) 30 30
Temperature (c)
20 20
10 10
0 0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Ext. max. temp.(°c) Ext. min. temp.(°c) Ext. max. temp.(°c) Ext. min. temp.(°c)
40 max. temp. (°c) min. temp. (°c)
40 max. temp. (°c) min. temp. (°c)
Temperature (c) 30 30
Temperature (c)
20 20
10 10
0 0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Ext. max. temp.(°c) Ext. min. temp.(°c) Ext. max. temp.(°c) Ext. min. temp.(°c)
40 max. temp. (°c) min. temp. (°c) 40 max. temp. (°c) min. temp. (°c)
30 30
Temperature (c) Temperature (c)
20 20
10 10
0 0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
38
Ext. max. temp.(°c) Ext. min. temp.(°c) Ext. max. temp.(°c) Ext. min. temp.(°c)
40 max. temp. (°c) min. temp. (°c)
min. temp. (°c) 40 max. temp. (°c)
30 30
Temperature (c) Temperature (c)
20 20
10 10
0 0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
ภาพท่ี 31 อุณหภมู สิ งู สุดและตำ่ สุด อุณหภมู เิ ฉลี่ยสงู สุดและต่ำสุด ในรอบ 30 ปีที่ผา่ นมา (พ.ศ.2529-2558) ของ
สถานอี ตุ นุ ยิ มวิทยาในจังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี (SNI) กระบ่ี (KBI) ชมุ พร (CPN) นครศรธี รรมราช (NRT)
พงั งา (PNA) ตรงั (TRG) สตูล (STN) และระนอง (RNG)
rain (mm month-1) Evapor (mm day-1) rain (mm month-1) Evapor (mm day-1)
800 6.0 800 6.0
Rainfall (mm month-1) 5.0 Evaporation (mm day-1) 5.0Evaporation (mm day-1)
600 Rainfall (mm month-1)600
4.0 4.0
400 3.0 400 3.0
2.0 2.0
200 200
1.0 1.0
0 0.0 0 0.0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
rain (mm month-1) Evapor (mm day-1) rain (mm month-1) Evapor (mm day-1)
800 6.0
800 6.0
Rainfall (mm month-1) 5.0 Evaporation (mm day-1) 5.0 Evaporation (mm day-1)
600 Rainfall (mm month-1)600
4.0 4.0
400 3.0 400 3.0
2.0 2.0
200 200
1.0 1.0
0 0.0 0 0.0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
rain (mm month-1) Evapor (mm day-1) rain (mm month-1) Evapor (mm day-1)
800 6.0 800 6.0
Rainfall (mm month-1) 5.0Evaporation (mm day-1) 5.0Evaporation (mm day-1)
600 Rainfall (mm month-1) 600
4.0 4.0
400 3.0 400 3.0
2.0 2.0
200 200
1.0 1.0
0 0.0 0 0.0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
39
rain (mm month-1) Evapor (mm day-1) rain (mm month-1) Evapor (mm day-1)
800 6.0 800 6.0
5.0 5.0 Evaporation (mm day-1)
600 600 4.0
4.0
Rainfall (mm month-1) Evaporation (mm day-1)
400 3.0 400 Rainfall (mm month-1) 3.0
2.0 2.0
200 200 1.0
1.0
0 0.0 0 0.0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
ภาพท่ี 32 ค่าระเหยน้ำและปริมาณน้ำฝนในรอบ 30 ปีท่ผี ่านมา (พ.ศ.2529-2558) ของสถานีอุตนุ ิยมวทิ ยาใน
จังหวัดสุราษฎร์ธานี (SNI) กระบ่ี (KBI) ชมุ พร (CPN) นครศรธี รรมราช (NRT) พงั งา (PNA) ตรงั (TRG)
สตูล (STN) และระนอง (RNG)
min. RH (%) max. RH (%) min. RH (%) max. RH (%)
100 100
80 80
Relative Humidity (%) 60 60 Relative Humidity (%)
40 40
20 20
0 0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
100 min. RH (%) max. RH (%) 100 min. RH (%) max. RH (%)
Relative Humidity (%) 80 80
60 60 Relative Humidity (%)
40 40
20 20
0 0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
100 min. RH (%) max. RH (%) 100 min. RH (%) max. RH (%)
80 80
Relative Humidity (%) 60 60 Relative Humidity (%)
40 40
20 20
0 0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
40
100 min. RH (%) max. RH (%) 100 min. RH (%) max. RH (%)
80 80
Relative Humidity (%)
Relative Humidity (%)
60 60
40 40
20 20
0 0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
ภาพท่ี 33 ความชน้ื เฉลย่ี สูงสุดและตำ่ สดุ ในรอบ 30 ปีทผ่ี ่านมา (พ.ศ.2529-2558) ของสถานอี ตุ ุนิยมวิทยาใน
จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี (SNI) กระบี่ (KBI) ชุมพร (CPN) นครศรธี รรมราช (NRT) พงั งา (PNA) ตรัง (TRG)
สตลู (STN) และระนอง (RNG)
ข้อมลู อุตนุ ยิ มวทิ ยา ตลอดระยะเวลาดำเนินการวจิ ัย 4 ปี (พ.ศ. 2559-2562) โดยภาพรวมพบวา่ ปรมิ าณ
นำ้ ฝนต่อเดือนมีค่านอ้ ยมากในชว่ งเดือนมกราคม-เมษายน และพฤศจิกายน-ธนั วาคม (บางจังหวัดปรมิ าณน้ำฝนสูง
ในชว่ งเดือนพฤศจกิ ายน) และพบวา่ ปรมิ าณฝนของจงั หวัดชมุ พรและนครศรีธรรมราช มปี รมิ าณคอ่ นขา้ งนอ้ ยกว่า
จงั หวดั อ่ืนๆ ตลอด 4 ปี สำหรบั ปริมาณฝนในช่วง 4 ปี ของจงั หวัดสรุ าษฎร์ธานี กระบ่ี ตรงั และสตูลมีค่าสูงกว่า 2
จังหวดั ท่กี ล่าวขา้ งตน้ และจังหวดั พังงาและระนองเป็นจงั หวัดที่มปี รมิ าณฝนสงู มากในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม
(ภาพท่ี 34) ปริมาณน้ำฝนรายปตี ลอด 4 ปี (2559-2562) ของจงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี มคี ่า 1,962 2,026 2,184 และ
1,810 มิลลิเมตรต่อปี ตามลำดับ จังหวัดกระบี่ มีค่า 2,398 3,116 2,323 และ 1,421 มิลลิเมตรต่อปี ตามลำดับ
จังหวัดชุมพร มีค่า 1,673 2,188 2,384 และ 1,559 มิลลิเมตรต่อปี ตามลำดับ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีค่า
2,573 4,300 2,400 และ 1,838 มิลลิเมตรต่อปี ตามลำดับ จังหวัดพังงา มีค่า 6,452 5,312 3,742 และ 3,368
มิลลิเมตรต่อปี ตามลำดับ จังหวัดตรัง มีค่า 2,519 3,155 2,157 และ 1,994 มิลลิเมตรต่อปี ตามลำดับ จังหวัด
สตูล มีค่า 1,885 2,986 2,253 และ 1,768 มิลลิเมตรต่อปี ตามลำดับ จังหวัดระนอง มีค่า 4,888 4,647 4,796
และ 3,788 มลิ ลเิ มตรตอ่ ปี ตามลำดบั (ภาพท่ี 35)
ค่าระเหยนำ้ พบวา่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช คา่ ระเหยนำ้ เฉลี่ยตลอดปี มคี ่าตำ่ ท่ีสดุ และจงั หวัดที่คา่
ระเหยนำ้ เฉลยี่ รายเดอื นตลอด 4 ปีคอ่ นข้างสูงคอื จังหวดั กระบ่แี ละตรัง แสดงใหเ้ ห็นถึงอุณหภูมิโดยรอบทรงพ่มุ ท่ี
มีค่าสงู ส่งผลให้ดินมกี ารระเหยน้ำเพิ่มมากขน้ึ (ภาพที่ 37)
41
สรุ าษฎรธ์ านี กระบี่
1000 2559 2560 2561 2562 1000 2559 2560 2561 2562
800 800
600 600
400 400
200 200
0 0
ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ชมุ พร นครศรธี รรมราช
1000 2559 2560 2561 2562 1000
2559 2560 2561 2562
800 800
600 600
400 400
200 200
0 0
ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
1000 พังงา 2560 2561 2562 1000 ตรงั
2559 2559 2560 2561 2562
800 800
600 600
400 400
200 200
0 0
ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
สตลู ระนอง
1000 1000
2559 2560 2561 2562 2559 2560 2561 2562
800 800
600 600
400 400
200 200
0 0
ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ภาพท่ี 34 ปริมาณน้ำฝนรายเดอื น (มิลลิเมตรตอ่ เดือน) จากสถานอี ุตุนยิ มวิทยาในจังหวดั สุราษฎร์ธานี กระบ่ี
ชมุ พร นครศรธี รรมราช พงั งา ตรงั สตลู และระนอง ระหว่างปีที่ดำเนนิ การ พ.ศ. 2559-2562
(ภาพที่ 34) (ภาพท่ี 34) (ภาพที่ 34)
42
ปรมิ าณฝนรายปี 8 จงั หวัดภาคใต้
7000 6451.6 2559 2560 2561 2562
6000 5312.3
4887.6 4647.1 4796.2
5000 4300.5
4000 3742.0 3788.1
3368.2 3154.7
3116.1 2986.0
3000 19612.0726.42184.01809.26397.7 2323.4 2188.4 2384.0 2572.9 2400.2 2519.1 2156.6 2252.7
2000 1421.51673.4 1558.6 1838.4 1994.51884.6 1768.3
1000
0
สรุ าษฎรธ์ านี กระบี่ ชมุ พร นครศรธี รรมราช พังงา ตรงั สตลู ระนอง
ภาพท่ี 35 ปริมาณน้ำฝนรายปี (มิลลิเมตรต่อป)ี จากสถานีอตุ ุนิยมวทิ ยาในจังหวดั สุราษฎรธ์ านี กระบ่ี ชุมพร
นครศรธี รรมราช พังงา ตรงั สตูล และระนอง ปที ด่ี ำเนินการ พ.ศ. 2559-2562
สรุ าษฎรธ์ านี กระบี่
88 2559 2560 2561 2562
2559 2560 2561 2562
77
66
55
44
33
22
11
0 0
ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
8 ชุมพร นครศรีธรรมราช
2559 2560 2561 2562 8
2559 2560 2561 2562
77
66
55
44
33
22
11
0 0
ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
พงั งา ตรัง
88 2559 2560 2561 2562
2559 2560 2561 2562
77
66
55
44
33
22
11
0 0
ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
43
สตลู ระนอง
8 8
2559 2560 2561 2562 2559 2560 2561 2562
77
66
55
44
33
22
11
0 0
ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ภาพท่ี 36 ค่าระเหยนำ้ รายวันเฉลีย่ ในแต่ละเดือน (มิลลิเมตรต่อวนั ) จากสถานอี ุตนุ ิยมวิทยาในจงั หวดั สรุ าษฎร์
ธานี กระบ่ี ชมุ พร นครศรธี รรมราช พงั งา ตรงั สตูล และระนอง ระหว่างปี พ.ศ. 2559-2562
ค่าระเหยน้าเฉล่ยี รายวัน ปี 2559-2562 8 จงั หวดั ภาคใต้
สุราษฎรธ์ านี กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พงั งา ตรงั สตูล ระนอง
6
5
4
3
2
1
0
ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ภาพท่ี 37 คา่ ระเหยน้ำรายวันเฉล่ยี ในแต่ละเดือน (มิลลิเมตรต่อวัน) ตลอด 4 ปี (พ.ศ. 2559-2562) จากสถานี
อุตุนยิ มวิทยาในจังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี กระบ่ี ชมุ พร นครศรีธรรมราช พงั งา ตรัง สตูล และระนอง
ปริมาณฝนใชก้ าร ความต้องการนำ้ และความต้องการน้ำชลประทานของปาล์มน้ำมนั
นำค่าเฉลี่ยปรมิ าณน้ำฝน คา่ ระเหยน้ำตลอด 30 ปี และค่า Kc ของปาลม์ นำ้ มัน มาคำนวณปริมาณฝนใช้
การ (Precipitation efficient; Peff) ค่าความต้องการน้ำของปาล์มน้ำมัน (Crop Water Requirement; CWR)
และค่าความต้องการน้ำชลประทาน (Irrigated Water Requirement; IWR) หรือคา่ การขาดนำ้ (Water deficit)
ของปาลม์ นำ้ มนั ใน 8 จังหวัดภาคใต้ (ภาพที่ 1.2-2) พบวา่ คา่ ความต้องการนำ้ ของปาล์มน้ำมนั ในจงั หวัดสุราษฎร์
ธานี กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง สตูล และระนอง มีค่า 1,250 1,461 1,368 1,245 1,446 1,365
1,474 และ 1,307 มิลลิเมตรต่อปี ตามลำดับ ปริมาณฝนใช้การมีค่า 1,262 1,417 1,329 1,409 1,393 1,592
1,444 และ 1,502 มิลลิเมตรต่อปี ตามลำดับ จึงส่งผลต่อค่าความต้องการนำ้ ชลประทานหรือค่าการขาดน้ำของ
ปาล์มน้ำมัน โดยจังหวัดที่มีค่าการขาดน้ำสูงสุดคือ ระนอง (380 มิลลิเมตรต่อปี) สำหรับตรัง กระบี่ สตูล พังงา
ชุมพร สรุ าษฎร์ธานแี ละนครศรธี รรมราช มีคา่ การขาดน้ำ 350 290 283 264 231 217 และ 153 มิลลเิ มตรต่อปี
ตามลำดับ
44
IWR Peff CWR IWR CWR Peff
200 200
ป ิรมาณ ้นา (มิลลิเมตร ่ตอเ ืดอน) 150 141.70 150 137.59 145.23 143.58 151.98 154.51 155.02 132.89
126.80 127.94 131.47 124.28 ป ิรมาณ ้นา (มิลลิเมตร ่ตอเ ืดอน)
115.53 116.63 102 110.86
97.02
100 89 95.30 100
95.13 94.91
48 47 62 60 74.91
55.96 67.55
50
33 50 45.80 35 31
36.55
(สุราษฎร์ธานี)
(กระบ่ี)
0 0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
IWR CWR Peff IWR CWR Peff
200
200
ป ิรมาณ ้นา (มิลลิเมตร ่ตอเ ืดอน) 150 150.51 153.37 ป ิรมาณ ้นา (มิล ิลเมตร ่ตอเ ืดอน)
182.13
150 156.85 165.72
127.03 121.64 131.21 133.51 127.13 115.15 125.90 108.80 115.17
90.31 91.98
100 111.39 100
67 886.792 91.12 92.32
43 64.28 51 72.37 73.41
50 47.61 50 35 33 25 25
20
(ชุมพร) 15 (นครศรธี รรมราช)
0 0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
IWR CWR Peff IWR CWR Peff
200
200
140.21 138.24 150.37 153.77 154.77 152.36 141.68
168.21 168.82 170.07 181.76 189.89 178.53
ป ิรมาณ ้นา (มิล ิลเมตร ่ตอเ ืดอน)150 ป ิรมาณ ้นา (มิล ิลเมตร ่ตอเ ืดอน) 150 141.90 145.59
123 110.93 104.69 100 84 85 105.13
106
100 85
79.76 57
50 28 50 45.01 38 55.07
37.60 28.13 (พงั งา) 8 41.96 (ตรัง)
0 0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
IWR CWR Peff IWR CWR Peff
200
200 190.14 194.23 194.19
176.73 168.42
ป ิรมาณ ้นา (มิลลิเมตร ่ตอเ ืดอน) 150 141.24 143.56 144.18 152.38 159.19 158.98 143.80 ป ิรมาณ ้นา (มิล ิลเมตร ่ตอเ ืดอน) 150
113 130.48
100 92 107.01 100 98 107 87 111.01 114.06
87.19 61
45.41
48 31 64.87 (ระนอง)
50 44.94 (สตลู ) 50 27
30.77 19.78 20.91
0 0
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
ภาพท่ี 38 ปริมาณฝนใช้การ (Precipitation efficient; Peff.) ความตอ้ งการนำ้ ของปาลม์ น้ำมนั (Crop Water
Requirement; CWR) และความตอ้ งการน้ำชลประทาน (Irrigation Water Requirement; IWR) ใน
จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี (a) กระบ่ี (b) ชุมพร (c) นครศรีธรรมราช (d) พงั งา (e) ตรัง (f) สตูล (g) และ
ระนอง (h) โดยคำนวณจากข้อมูลน้ำฝนและค่าระเหยเฉลี่ย 30 ปี
45
ธาตุอาหารปาลม์ น้ำมัน ผลผลิตปาล์มนำ้ มันและวอเตอรฟ์ ุตพริ้นท์ของการผลิตปาลม์ นำ้ มันภาคใต้
การเกบ็ ตวั อยา่ งดินและใบเพอ่ื วิเคราะห์สมบัติทางกายภาพและเคมี และปรมิ าณธาตุอาหารในดนิ และธาตุ
อาหารในใบปาล์มน้ำมัน สำหรับให้คำแนะนำแก่เกษตรกรในการจัดการธาตุอาหารปาล์มน้ำมัน เพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพการผลติ ปาล์มน้ำมัน ซึ่งส่งผลต่อประสทิ ธิภาพการใช้น้ำหรอื รอยเท้าน้ำของการผลิตปาลม์ น้ำมนั ไป
โดยปรยิ าย และช่วยใหเ้ กษตรกรสามารถผลติ ปาล์มนำ้ มนั ได้อย่างยงั่ ยืน เน่ืองจากเป็นการใช้ทรพั ยากรน้ำที่มีอย่าง
จำกัดและเป็นการลดตน้ ทุนการผลิต จากการใชป้ ยุ๋ หรือธาตอุ าหารอย่างมปี ระสิทธภิ าพตามผลวิเคราะห์ดินและใบ
ชว่ ยใหม้ คี วามสมดุลของธาตุอาหาร อย่างไรก็ตามพบว่า เกษตรกรหลายรายมปี ญั หาด้านเงนิ ทนุ -ความตง้ั ใจจริงใน
การจัดการธาตอุ าหารปาลม์ น้ำมัน สง่ ผลให้ปรมิ าณผลผลติ ของเกษตรกรหลายรายต่ำกว่าที่ควรจะเป็นทั้งที่ค่าการ
ขาดน้ำมีคา่ ต่ำกว่าหลายพน้ื ท่ี ซึง่ จากการสัมภาษณ์เกษตรกรในการจัดการธาตุอาหารปาล์มน้ำมัน สำหรับการนำ
ปรมิ าณไนโตรเจนทเ่ี กษตรกรให้แก่ปาล์มน้ำมนั มาวิเคราะห์ Grey Water Footprint ซึ่งจะทราบขอ้ มูลการจัดการ
ธาตอุ าหารชนิดอน่ื เพิม่ มาดว้ ย
จากตารางที่ 4 เห็นได้ว่า เกษตรกรใน 8 อำเภอที่เป็นตวั แทนของแต่ละจังหวดั ใส่ปุ๋ยไม่ครบชนิดท่ีปาลม์
น้ำมันต้องการ โดยเฉพาะแมกนีเซียมและโบรอนท่ีเกษตรกรหลายรายไม่เห็นความสำคัญ สำหรบั ธาตุอาหารหลัก
ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และแคลเซียม พบว่า เกษตรกรมีท้ังไม่ใส่ ใสเ่ หมาะสมและใส่ในปริมาณที่มาก
เกินไป ซึ่งส่งผลให้ตน้ ทุนการผลิตสูงโดยไม่ไดร้ ับประโยชน์จากผลผลิตปาล์มนำ้ มัน และอาจส่งผลต่อความสมดุล
ของธาตุอาหารดว้ ย โดยภาพรวมเกษตรกรทอ่ี ำเภอสิเกา จงั หวดั ตรงั เป็นกลุ่มเกษตรกรที่มคี วามใส่ใจในการจัดการ
ธาตุอาหารตามคำแนะนำ และเกษตรกรอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร (บ้านหัวว่าว) ส่วนใหญ่ไม่ใส่กีเซอไรท์และ
โบรอน และเปน็ พืน้ ทเ่ี ดียวทเี่ กษตรกร 5 รายไม่ใสป่ ยุ๋ แหลง่ ฟอสฟอรสั ทง้ั 18-46-0 หรือหนิ ฟอสเฟต
ตารางที่ 4 ปริมาณเนื้อป๋ยุ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซยี ม แมกนีเซียมและโบรอน (กรัมตอ่ ตน้ ตอ่ ปี) ของ
เกษตรกรทใ่ี ส่ให้ปาล์มน้ำมัน 4 ชว่ งอายุ (1-4 5-8 9-12 และมากกว่า 12 ป)ี 190 แปลง ใน 8 จังหวัด
ภาคใต้ ในปี 2561
เนือ้ ปุ๋ยทเี่ กษตรกรใส่ จำนวนเกษตรกร (ราย) ในแตล่ ะช่วงอายุปาล์มน้ำมัน รวมทุกอายุ
(กรมั /ต้น/ป)ี
1-4 ปี 5-8 ปี 9-12 ปี >12 ปี 28
สุราษฎรธ์ านี 255-2580
ไนโตรเจน; N 6859 0-2160
225-4320
ฟอสฟอรสั ; P 255-2025 440-1020 480-2580 525-2025
โพแทสเซียม; K 0-270
แมกนีเซียม; Mg 225-690 (1) 184-970 690-2160 180-690 (2) 0-109
โบรอน; B
225-1800 720-2910 720-4320 225-1980
- 270 (7) - -
109 11 (7) - 3.63 (8)
46
เน้อื ปุย๋ ที่เกษตรกรใส่ จำนวนเกษตรกร (ราย) ในแต่ละชว่ งอายุปาลม์ น้ำมัน รวมทกุ อายุ
(กรมั /ต้น/ป)ี
1-4 ปี 5-8 ปี 9-12 ปี >12 ปี 29
กระบี่ 189-1200
ไนโตรเจน; N 6896 0-1580
ฟอสฟอรสั ; P 0-3900
โพแทสเซยี ม; K 189-1200 508-1160 300-1139 300-1080 0-1000
แมกนเี ซียม; Mg
โบรอน; B 108-900 175-1580 (1) 210-1350 (1) 240-600 0-33
ชุมพร 22
ไนโตรเจน; N 108-3210 900-1650 (1) 300-3900 300-2250 0-1710
ฟอสฟอรสั ; P 0-2760
โพแทสเซียม; K 68 (5) 270-1000 (5) 11 (8) - 0-3300
แมกนีเซยี ม; Mg 0-540
โบรอน; B 7.26 (4) 33 (7) 7.26 (8) - 0-20
นครศรธี รรมราช 21
ไนโตรเจน; N 5665 0-1380
ฟอสฟอรัส; P 0-1380
โพแทสเซยี ม; K 420-840 (2) 420-840 (1) 630-1710 315-1435 0-4557
แมกนเี ซยี ม; Mg 0-270
โบรอน; B - 140-300 (2) 140-2760 (3) 140-420 0-22
พงั งา 22
ไนโตรเจน; N 1200-2400 (2) 150-1800 (1) 700-2400 900-3300 0-1800
ฟอสฟอรัส; P 0-900
โพแทสเซียม; K - - 540 (5) - 0-2700
แมกนีเซียม; Mg 0-540
โบรอน; B 20 (4) - - - 0-22
ตรัง 22
ไนโตรเจน; N 5767 0-1296
ฟอสฟอรัส; P 0-920
225-700 (1) 180-702 (3) 180-1380 (2) 61-1260 (1)
60-350 (1) 80-576 (4) 90-1380 (2) 32-900 (1)
105-1750 (1) 180-4557 (3) 225-2580 (1) 165-2520 (1)
- 250 (6) 250-270 (3) -
- 3.63 (6) 22 (5) 3.63 (6)
3 4 5 10
420-468 260-840 525-1655 290-1800 (1)
231-552 (1) 140-840 15-300 (2) 120-900 (3)
720-1200 600-2280 108-2100 600-2700 (1)
- 540 (3) 125-135 (2) 125-250 (7)
- - 22 (3) 22 (7)
7555
200-1296 (1) 420-980 292-900 (2) 420-1020 (2)
139-540 (1) 200-920 (1) 224-420 (2) 460 (3)
47
เนอื้ ปยุ๋ ที่เกษตรกรใส่ จำนวนเกษตรกร (ราย) ในแตล่ ะช่วงอายุปาล์มนำ้ มัน รวมทุกอายุ
(กรัม/ต้น/ปี)
1-4 ปี 5-8 ปี 9-12 ปี >12 ปี 0-2532
โพแทสเซยี ม; K 0-270
แมกนเี ซยี ม; Mg 475-2532 (2) 1180-2100 540-2100 (2) 1200-1800 (2) 0-44
โบรอน; B
11 (6) 270 (4) 270 (4) -
3.6-7.3 (5) 22-44 (3) 31-44 (3) 7-33 (3)
สตูล 4 5 6 6 21
ไนโตรเจน; N 0.52-945 86-780 (3) 0.33-420 (3) 184-630 (2) 0-945
ฟอสฟอรสั ; P 1.50-417 (1) 91-465 (3) 0.96-90 (4) 184-600 (3) 0-600
โพแทสเซียม; K 0.11-2910 (1) 144-1800 (2) 0.1-2700 (3) 240-4680 (2) 0-4680
แมกนีเซยี ม; Mg 250-800 (3) 75-240 (2) 75-125 (4) 0-800
โบรอน; B - 0-11
- - 11 (3) 11 (5)
ระนอง 10 5 3 7 25
ไนโตรเจน; N 42-810 (2) 840-1350 (1) 350-690 (1) 350-1600 0-1600
ฟอสฟอรัส; P 70-700 (7) 900-1520 (2) 250-1000 (1) 180-1520 0-1520
โพแทสเซยี ม; K 430-2016 (6) 1200-2700 (1) 600-2400 990-6320 0-6320
แมกนีเซยี ม; Mg 54-270 (6) 250-270 (3) 0-270
โบรอน; B 7.7-14.3 (2) 270 (2) - 0-14.3
3.6 (9) - 5.5-14.3 (5)
ผลผลติ ปาล์มน้ำมัน มคี วามแตกตา่ งในแต่ละพื้นที่ และส่วนใหญ่เป็นผลสบื เน่อื งมาจากการจัดการของ
เกษตรกร และชว่ งอายขุ องปาลม์ น้ำมัน โดยชว่ งอายทุ ใี่ ห้ผลผลติ สูงคอื ชว่ งอายุ 9-12 ปี รองลงมาคือ ชว่ งอายุ
ปาลม์ นำ้ มัน 5-8 ปี และชว่ งอายมุ ากกวา่ 12 ปี ผลผลิตสว่ นใหญค่ อนขา้ งลดลง ท้ังน้สี บื เน่ืองจากสภาพอากาศและ
การจัดการของเกษตรกร (ตารางท่ี 5)
ตารางท่ี 5 ผลผลิตเฉลยี่ ปาล์มน้ำมัน (ตันต่อไรต่ ่อปี) 4 ช่วงอายุ (1-4 ปี 5-8 ปี 9-12 ปี และมากกวา่ 12 ป)ี 8
จังหวดั ภาคใต้ ในปี 2559-2562 ทผ่ี ่านมา
ช่วงอายุ ผลผลิตปาล์มน้ำมัน (ตันต่อไร่ตอ่ ปี)
ปีท่ี 1 ปีท่ี 2 ปที ่ี 3 ปที ่ี 4*
สรุ าษฎร์ธานี
1-4 ปี
5-8 ปี 0.50±0.26 1.50±1.11 1.34±1.01 1.53±1.02
9-12 ปี 2.76±1.45 4.42±1.53 3.06±0.53 2.11±0.64
มากกว่า 12 ปี 2.82±2.42 2.83±1.21 2.68±0.89 1.49±0.57
ช่วงอายุ ปที ี่ 1 ผลผลติ ปาล์มนำ้ มัน (ตนั ต่อไรต่ อ่ ป)ี 48
ปีท่ี 2 ปที ่ี 3
กระบ่ี 3.44±0.98 ปที ี่ 4*
1-4 ปี 3.07±1.28 0.65±0.38 2.93±2.26
5-8 ปี 3.38±1.36 4.43±1.66 4.91±2.21 1.02±0.93
9-12 ปี 3.57±1.00 4.53±2.08 1.98±1.36
มากกว่า 12 ปี 1.93±1.65 3.18±0.94 2.67±1.53
ชมุ พร 3.29±1.65 2.52±2.10
1-4 ปี 2.15±0.78 1.80±1.73 2.39±1.05
5-8 ปี 3.38±1.07 2.31±2.17 0.93±0.27
9-12 ปี 3.02±0.91 2.77±0.96 2.94±1.48 1.88±1.56
มากกวา่ 12 ปี 3.92±1.18 1.81±1.06
นครศรีธรรมราช 2.71±1.26 3.02±1.49 1.35±1.39
1-4 ปี 4.57±2.10 3.35±1.18 1.52±0.94
5-8 ปี 2.24±0.82 3.25±1.58 4.08±1.47 2.37±1.39
9-12 ปี 2.13±0.70 2.11±1.41
มากกวา่ 12 ปี 3.11±1.10 5.05±4.71 4.81±2.47
ตรงั 3.18±1.75 5.80±2.19 1.26±0.01
1-4 ปี 1.48±0.84 3.85±2.06 4.01±1.84 0.82±0.37
5-8 ปี 3.36±1.20 3.72±0.91
9-12 ปี 1.17±0.61 1.54 1.08±0.47 2.59±1.99
มากกว่า 12 ปี 2.89±2.01 3.07±1.29
พังงา 1.28±0.76 2.71±1.22 3.04±1.71 0.79
1-4 ปี 3.19±0.89 0.91±0.76
5-8 ปี 2.26±1.17 1.57±0.75 1.51±0.71 2.09±1.38
9-12 ปี 3.59±1.91 4.21±1.85 2.48±1.33
มากกว่า 12 ปี 2.02±2.80 1.81±1.29 1.92±1.43
สตลู 1.21±1.09
1-4 ปี 4.53 4.6 2.26±0.83
5-8 ปี 2.83±2.19
9-12 ปี
มากกว่า 12 ปี 0.45±0.06
ระนอง 0.67±0.54
1-4 ปี
5-8 ปี
49
ชว่ งอายุ ผลผลติ ปาลม์ น้ำมนั (ตนั ตอ่ ไร่ตอ่ ป)ี
9-12 ปี ปีท่ี 1 ปที ่ี 2 ปที ี่ 3 ปีท่ี 4*
มากกว่า 12 ปี 1.67±1.7 2.57±1.59
2.97±1.52 1.42±0.97 1.28±0.72 1.31±0.66
3.70±2.05 3.35±1.49
* ผลผลติ ปีที่ 4 เปน็ ผลผลิตในรอบ 6 เดือน
การวิเคราะห์วอเตอร์ฟุตพริ้นท์ จากผลวิเคราะห์ Blue WF Green WF และ Grey WF ของการผลิต
ปาล์มนำ้ มนั แต่ละชว่ งอายุ และเสนอในรปู ผลรวมของวอเตอรฟ์ ุตพริน้ ท์ (Total WF) และเฉลย่ี ตลอดระยะเวลา 3
ปี พบว่า วอเตอร์ฟุตพริ้นท์ของการผลิตปาล์มน้ำมัน 8 จังหวัดภาคใต้ตลอดช่วงอายุ 25 ปีมีค่า 567-1,168
ลูกบาศก์เมตรต่อตันทะลายปาล์มน้ำมัน ใกล้เคียงกับการรายงานของ Sattayakul และคณะ (2016) ที่ศึกษาวอ
เตอร์ฟุตพริน้ ท์ของการผลิตปาล์มน้ำมนั ภาคใต้และภาคตะวนั ออกตลอดช่วงอายุ 25 ปี มีคา่ 1,063 ลกู บาศก์เมตร
ต่อตนั ทะลายปาลม์ น้ำมัน และหากเกษตรกรใช้พนั ธ์ุปาล์มน้ำมนั ลกู ผสมสรุ าษฎรธ์ านี 7 วอเตอร์ฟุตพริน้ ท์ของการ
ผลิตปาล์มน้ำมันลดลงเหลือ 888 ลูกบาศก์เมตรต่อตันทะลายปาล์มน้ำมัน และจากการศึกษาวอเตอร์ฟุตพริ้นท์
ของการผลิตปาลม์ นำ้ มนั ทางตอนกลางของเกาะกาลิมันตัน โดย Safitri และคณะ (2018) พบว่า วอเตอร์ฟตุ พริ้นท์
มีคา่ 560-1,140 ลูกบาศกเ์ มตรตอ่ ตนั ทะลายปาล์มนำ้ มัน ข้ึนกบั สภาพดนิ สภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะปริมาณฝน
และการกระจายตวั และสามารถจำแนกเป็นภาพรายจังหวดั ได้ดงั น้ี
อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี วอเตอร์ฟุตพริน้ ท์ของการผลิตปาลม์ น้ำมันเฉลี่ยตลอดระยะเวลา 3
ปี ของปาล์มน้ำมันชว่ งอายุ 1-4 5-8 9-12 และ 12 ปขี ึ้นไป มีคา่ 1,477 774 580 และ 678 ลูกบาศก์เมตรต่อตัน
ทะลาย ตามลำดับ และเมื่อนำค่าวอเตอร์ฟุตพริ้นท์แต่ละช่วงอายุมาถ่วงน้ำหนัก และเฉลี่ยตลอดอายุการผลิต
ปาล์มน้ำมัน 25 ปี วอเตอร์ฟุตพร้ินทข์ องการผลิตปาลม์ นำ้ มนั ของอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีค่า 805
ลกู บาศกเ์ มตรต่อตนั ทะลาย โดยวอเตอร์ฟตุ พร้ินท์เฉล่ียทัง้ 4 ช่วงอายุ ปีที่ 1 2 และ 3 มคี ่า 1,128 653 และ 643
ลกู บาศก์เมตรตอ่ ตันทะลาย ตามลำดับ (ตารางท่ี 6)
อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ วอเตอร์ฟุตพริ้นท์ของการผลิตปาล์มน้ำมันเฉลี่ยตลอดระยะเวลา 3 ปี
ของปาล์มน้ำมันช่วงอายุ 1-4 5-8 9-12 และ 12 ปีขึ้นไป มีค่า 1,290 697 709 และ 797 ลูกบาศก์เมตรต่อตัน
ทะลาย ตามลำดับ และเมื่อนำค่าวอเตอร์ฟุตพริ้นท์แต่ละช่วงอายุมาถ่วงน้ำหนัก และเฉลี่ยตลอดอายุการผลิต
ปาล์มน้ำมัน 25 ปี วอเตอร์ฟุตพริ้นท์ของการผลิตปาล์มน้ำมันของอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ มีค่า 846
ลูกบาศก์เมตรต่อตันทะลาย โดยวอเตอร์ฟุตพริ้นท์เฉลี่ยทั้ง 4 ช่วงอายุ ปีที่ 1 2 และ 3 มีค่า 790 971 และ 858
ลูกบาศกเ์ มตรตอ่ ตนั ทะลาย ตามลำดบั (ตารางที่ 6)
อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร วอเตอร์ฟุตพริ้นท์ของการผลิตปาล์มน้ำมันเฉลีย่ ตลอดระยะเวลา 3 ปี ของ
ปาล์มน้ำมันช่วงอายุ 1-4 5-8 9-12 และ 12 ปีขึ้นไป มีค่า 1,080 938 793 และ 1,018 ลูกบาศก์เมตรต่อตัน
50
ทะลาย ตามลำดับ และเมื่อนำค่าวอเตอร์ฟุตพริ้นท์แต่ละช่วงอายุมาถ่วงน้ำหนัก และเฉลี่ยตลอดอายุการผลิต
ปาลม์ นำ้ มนั 25 ปี วอเตอรฟ์ ุตพร้ินทข์ องการผลติ ปาล์มนำ้ มนั ของอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร มคี ่า 979 ลูกบาศก์
เมตรต่อตันทะลาย โดยวอเตอร์ฟุตพริ้นทเ์ ฉล่ียทง้ั 4 ชว่ งอายุ ปีท่ี 1 2 และ 3 มีคา่ 1,060 821 และ 875 ลกู บาศก์
เมตรต่อตันทะลาย ตามลำดบั (ตารางท่ี 6)
อำเภอสชิ ล จังหวัดนครศรีธรรมราช วอเตอร์ฟุตพริ้นท์ของการผลติ ปาลม์ น้ำมันเฉลยี่ ตลอดระยะเวลา 3 ปี
ของปาล์มน้ำมันช่วงอายุ 1-4 5-8 9-12 และ 12 ปีขึ้นไป มีค่า 854 570 447 และ 626 ลูกบาศก์เมตรต่อตัน
ทะลาย ตามลำดับ และเมื่อนำค่าวอเตอร์ฟุตพริ้นท์แต่ละช่วงอายุมาถ่วงน้ำหนัก และเฉลี่ยตลอดอายุการผลิต
ปาล์มน้ำมัน 25 ปี วอเตอร์ฟุตพริ้นทข์ องการผลิตปาลม์ น้ำมันของอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช มีค่า 625
ลูกบาศก์เมตรต่อตันทะลาย โดยวอเตอร์ฟุตพร้ินท์เฉลี่ยทั้ง 4 ช่วงอายุ ปีที่ 1 2 และ 3 มีค่า 670 522 และ 513
ลูกบาศกเ์ มตรตอ่ ตนั ทะลาย ตามลำดบั (ตารางที่ 6)
อำเภอสิเกา จังหวดั ตรัง วอเตอรฟ์ ตุ พร้ินท์ของการผลิตปาล์มน้ำมันเฉลี่ยตลอดระยะเวลา 3 ปี ของปาล์ม
น้ำมันช่วงอายุ 1-4 5-8 9-12 และ 12 ปีขึ้นไป มีค่า 1,007 857 855 และ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อตันทะลาย
ตามลำดับ และเมอ่ื นำค่าวอเตอร์ฟุตพรน้ิ ท์แต่ละช่วงอายมุ าถว่ งนำ้ หนัก และเฉล่ียตลอดอายุการผลิตปาล์มน้ำมัน
25 ปี วอเตอรฟ์ ุตพรนิ้ ทข์ องการผลิตปาลม์ น้ำมนั ของอำเภอสิเกา จงั หวดั ตรังมคี า่ 799 ลกู บาศก์เมตรต่อตันทะลาย
โดยวอเตอร์ฟตุ พร้ินท์เฉลย่ี ทัง้ 4 ช่วงอายุ ปีท่ี 1 2 และ 3 มีคา่ 1,171 845 และ 548 ลูกบาศก์เมตรต่อตันทะลาย
ตามลำดับ (ตารางท่ี 6)
อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา วอเตอร์ฟุตพริ้นท์ของการผลิตปาล์มน้ำมันเฉลี่ยตลอดระยะเวลา 3 ปี ของ
ปาล์มนำ้ มันช่วงอายุ 1-4 5-8 9-12 และ 12 ปขี ึ้นไป มีคา่ 1,126 957 673 และ 771 ลกู บาศก์เมตรตอ่ ตันทะลาย
ตามลำดับ และเมอ่ื นำค่าวอเตอร์ฟุตพรนิ้ ทแ์ ต่ละช่วงอายมุ าถ่วงน้ำหนกั และเฉลย่ี ตลอดอายุการผลิตปาล์มน้ำมัน
25 ปี วอเตอร์ฟตุ พริ้นท์ของการผลิตปาล์มนำ้ มันของอำเภอคุระบรุ ี จังหวัดพังงา มีค่า 842 ลูกบาศก์เมตรต่อตัน
ทะลาย โดยวอเตอร์ฟุตพรน้ิ ทเ์ ฉล่ยี ทั้ง 4 ชว่ งอายุ ปีที่ 1 2 และ 3 มีค่า 1,003 756 และ 683 ลกู บาศกเ์ มตรตอ่ ตัน
ทะลาย ตามลำดบั (ตารางที่ 6)
อำเภอมะนัง จงั หวัดสตูล วอเตอรฟ์ ุตพริน้ ทข์ องการผลิตปาลม์ นำ้ มันเฉลีย่ ตลอดระยะเวลา 3 ปี ของปาลม์
น้ำมันช่วงอายุ 1-4 5-8 9-12 และ 12 ปีขึ้นไป มีค่า 2,186 932 650 และ 1,086 ลูกบาศก์เมตรต่อตันทะลาย
ตามลำดับ และเมือ่ นำค่าวอเตอรฟ์ ุตพรน้ิ ทแ์ ต่ละช่วงอายมุ าถ่วงน้ำหนกั และเฉลี่ยตลอดอายุการผลิตปาล์มน้ำมัน
25 ปี วอเตอร์ฟุตพริน้ ท์ของการผลิตปาล์มน้ำมันของอำเภอมะนัง จังหวัดสตูล มีค่า 1,168 ลูกบาศก์เมตรต่อตัน
ทะลาย โดยวอเตอรฟ์ ุตพริน้ ท์เฉลี่ยทั้ง 4 ช่วงอายุ ปีที่ 1 2 และ 3 มีค่า 1,053 1,177 และ 1,410 ลูกบาศก์เมตร
ตอ่ ตันทะลาย ตามลำดับ (ตารางท่ี 6)