ตอบปัญหา
วนั วิทยาศาสตร์
1. วนั วิทยาศาสตรไ์ ทยของทุกปตี รงกับวันใด
ก. 18 กันยายน
ข. 18 สิงหาคม
ค. 18 ตุลาคม
ง. 18 พฤศจกิ ายน
2. พระมหากษัตริย์พระองค์ใดได้ช่ือวา่ เป็นบิดาแหง่
วทิ ยาศาสตร์ไทย
• ก. พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอย่หู วั
• ข. พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ วั
• ค. พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศล้านภาลยั
• ง. พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั
3. โลกของเราเปน็ ดาวเคราะห์ลาดับทเ่ี ท่าไร
ก. ลาดบั ที่ 1 จากดวงอาทติ ย์
ข. ลาดบั ท่ี 2 จากดวงอาทิตย์
ค. ลาดบั ที่ 3 จากดวงอาทติ ย์
ง. ลาดบั ที่ 4 จากดวงอาทิตย์
4. เซลลเ์ ม็ดเลือดขาวมีหนา้ ที่อะไร
ก. ทาลายเช้อื โรคและสร้างภมู คิ ุ้มกนั
ข. ลาเลียงสารอาหารเข้าสู่ร่างกาย
ค. รับความร้สู กึ
ง. สังเคราะหว์ ิตามิน
5. เซลล์เม็ดเลือดแดงมีหนา้ ท่อี ะไร
ก. ทาลายเชอ่ื โรคและสร้างภูมคิ มุ้ กัน
ข. สงั เคราะหว์ ิตามิน
ค. ลาเลยี งกา๊ ซออกซเิ จนและกา๊ ซ
คาร์บอนไดออกไซด์
ง. ลาเลยี งสารอาหารเขา้ สู่รา่ งกาย
6. แกนโลกเอยี งทามมุ กี่องศา
ก. 20.5 องศา
ข. 21.5 องศา
ค. 23.5 องศา
ง. 24.0 องศา
7. 1 ปี มกี วี่ นิ าที
ก. 31,536,000 วินาที
ข. 41,536,000 วินาที
ค. 51,536,000 วนิ าที
ง. 61,536,000 วินาที
1 ปี = 365 วนั = 8,760 ชั่วโมง = 525,600 นาที =
31,536,000 วนิ าที
8. ข้อใดตอ่ ไปนี้เปน็ การหายใจของพืชในเวลากลางวนั
ก. หายใจเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปและปล่อยกา๊ ซ
ออกซเิ จนออกมา
ข. หายใจเอากา๊ ซออกซิเจนเขา้ ไปและปล่อยก๊าซ
คารบ์ อนไดออกไซด์ออกมา
ค. หายใจเอากา๊ ซไนโตเจนเข้าไปและปลอ่ ยก๊าซ
คารบ์ อนไดออกไซดอ์ อกมา
ง. หายใจเอากา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์เข้าไปและปล่อยกา๊ ซไนโตเจน
ออกมา
10. คนเรามฟี นั แทก้ ่ซี ี่
ก. 20 ซี่
ข. 32 ซ่ี
ค. 42 ซ่ี
ง. 62 ซี่
9. สุนัขมฟี นั แท้ประมาณกซี่ ี่
ก. 20 ซี่
ข. 32 ซ่ี
ค. 42 ซี่
ง. 62 ซี่
11.เพราะเหตุใดสุนขั จงึ มักแลบล้นิ อยเู่ สมอ
ก. เพ่อื ระบายความรอ้ น
ข. เพ่ือดมกลนิ่
ค. เพอ่ื แสดงอาณาเขต
ง.เพอื่ เรง่ การยอ่ ยอาหาร
12. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ใี หญ่ท่สี ดุ
ก. ดาราจักร
ข. กาแลกซี
ค. เอกภพ
ง. ระบบสรุ ิยะ
13. ผใู้ หญห่ ายใจกี่คร้งั ตอ่ นาที
ก. ประมาณ 40 คร้งั
ข. ประมาณ 20 ครงั้
ค. ประมาณ 100 ครงั้
ง. ประมาณ 150 คร้ัง
• ทารกแรกคลอดจะหายใจเฉลี่ย 44 ครัง้ ตอ่ นาที
• เดก็ ทารกจะหายใจ 20-40 ครัง้ ตอ่ นาที
• เดก็ ก่อนวยั เรียนประมาณ: 20–30ครัง้ ตอ่ นาที
• เดก็ วยั รุ่น16–25 ครัง้ ตอ่ นาที
• ผ้ใู หญ่ 12–20 ตอ่ นาที
• ผ้ใู หญ่ขณะออกกาลงั กาย 35–45 ครัง้ ตอ่ นาที
14. คนเรากระพริบตากคี่ รงั้ ต่อนาที
ก.ประมาณ 15-20 คร้งั ต่อนาที
ข. ประมาณ 1-2 คร้งั ตอ่ นาที
ค. ประมาณ 40-50 คร้ัง ต่อนาที
ง. ประมาณ100-200 ครงั้ ต่อนาที
ข้อมูลอ้างองิ /Referent
ดงชอบ, คนิ . (2555). ดวงตาสดใส สายตาดี
ได้ใน 5 นาที
15. คาขวญั วนั วิทยาศาสตร์ ปี 2561
คือข้อใด
ก. จดุ ประกายความคิด พัฒนาชีวิตดว้ ยวิทยาศาสตร์
เสริมสรา้ งชาตดิ ว้ ยเทคโนโลยี สู่วิถีแหง่ นวัตกรรม
ข. จดุ ประกายความคิด พฒั นาชีวติ ด้วยวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
ค. ทนั โลก ทันวทิ ย์ จุดประกายความคดิ สู่อาเซยี น
ง. จดุ ประกายความคดิ พฒั นาชวี ติ ด้วยวิทยาศาสตร์
16.
17. นักวิทยาศาสตร์ คนใดเปน็
ผคู้ ิดคน้ และประดิษฐห์ ลอดไฟ
ก. เซอร์ ไอแซก นิวตัน
ข.โทมัส อัลวา เอดสิ ัน
ค. นีล อาร์มสตรอง
ง. โรเบริ ์ต ไอสไตน์
18. เวลากลางคืน พชื จะคายแก๊ส
ชนิดใดออกมา
ก. NH3
ข. O2
ค. CO2
ง. N2
19. ดาวประจาเมือง เป็นชอื่ เรยี กของ
ดาวเคราะหด์ วงใด
ก. ดาวศุกร์
ข. ดาวเสาร์
ค. ดาวองั คาร
ง. ดาวยเู รนสั
20. โครโมโซมร่างกายของมนษุ ยม์ ีกี่คู่
ก.22 คู่
ข.23 คู่
ค.44 คู่
ง. 46 คู่
21. วันวทิ ยาศาสตรแ์ ห่งชาติ
ตรงกับทเ่ี ท่าไหรข่ องทกุ ปี
ก. 20 มกราคม ของทกุ ปี
ข. 18 สงิ หาคม ของทกุ ปี
ค. 31 สงิ หาคม ของทกุ ปี
ง. 5 กันยายน ของทกุ ปี
22. ในอากาศมีกา๊ ซชนดิ ใดมากทส่ี ดุ
ก. กา๊ ซไนโตรเจน
ข.กา๊ ซออกซิเจน
ค. กา๊ ซไฮโดรเจน
ง. กา๊ ซมเี ทน
23. โคจรรอบดวงจันทร์ โคจรรอบโลก
จะเกิดปรากฏการณใ์ ด
ก. กลางวัน กลางคืน
ข.นา้ ขนึ้ น้าลง
ค. สุรยิ ปุ ราคา
ง. จนั ทรุปราคา
24. ดาวเคราะห์ดวงใดอยเู่ ปน็ ลาดบั ท่ี 6
ของระบบสรุ ยิ ะ
ก. ดาวศกุ ร์
ข. ดาวพฤหสั
ค. ดาวเสาร์
ง. ดาวยเู รนสั
25. โลหะชนิดใด นาไฟฟา้ ได้ดที ่สี ดุ
ก. ทอง
ข. ทองแดง
ค. เงนิ
ง. ตะก่ัว
26. สตั วช์ นดิ แรกที่ ขึ้นไปเหยยี บดวงจนั ทรค์ ือ
ก. หมู
ข. สุนขั
ค. ลงิ
ง. กระต่าย
27.ถ้าคนสายตาส้นั ควรใสแ่ วน่ ชนิดใด
ก. แวน่ ดา
ข.แวน่ ทที่ าจากเลนส์เวา้
ค. แว่นทที่ าจากเลนสน์ ูน
ง. แวน่ ไมม่ เี ลนส์
28. การชว่ ยเหลอื ผูท้ ่ถี ูกไฟฟ้าดูด
ควรทาอย่างไร
ก. กระโดดถีบ
ข. เอาน้าราด
ค. เอาไม้เขยี่
ง. เอาฉนวนกนั ไฟฟ้ากระตุกออก
29. ข้อใดหมายถงึ การนาของท่ใี ชแ้ ลว้
นากลับมาใช้ใหม่
ก. Reduce
ข. Reuse
ค. Remote
ง. Recycle
30. เม่อื เรานาดนิ ประสิวใส่ในเนื้อหมหู รือ
เนอื้ ววั จะทาใหเ้ นื้อเปน็ อยา่ งไร
ก. เนอ้ื มกี ล่ินเหม็นเน่า
ข. เน้อื เปอ่ื ยยุ่ย
ค. เนอื้ ขยายตัวใหญ่ข้ึน
ง. สแี ดงสดน่ารบั ทาน