คำวิเศษณ์ ป.6

วิชา ภาษาไทย ป.6

รอบรู้เรื่องคำวิเศษณ์

ท ๔.๑ ป ๖/๑ วิเคราะห์ชนิดและ
หน้ าที่ของคำในประโยค




โดย ครูละห์

นางสาวนาบีละห์ อุมา

ความหมายของคำวิเศษณ์

คำวิเศษณ์ คือ คำที่ใช้ขยายคำอื่น
ให้ได้ใจความชัดเจนยิ่งขึ้น หรือ คำที่ใช้
ขยายคำนาม คำสรรพนาม คำกริยา และ
คำวิเศษณ์ เพื่อบอกเวลา บอกลักษณะ
บอกจำนวน บอกขนาด บอกคุณภาพ
บอกสถานที่

ตัวอย่างเช่น

คนอ้วนกินจุ

อ้วน เป็นคำวิเศษณ์ที่ขยายคำนามคำว่า คน
จุ เป็นคำวิเศษณ์ที่ขยายคำกริยาคำว่า กิน

คำวิเศษณ์ มี ๑๐ ชนิด
ด้วยกันนะครับ

๑.ลักษณวิเศษณ์ ๖.ประติชญาวิเศษณ์

๒.กาลวิเศษณ์ ๗.นิ ยมวิเศษณ์

๓.สถานวิเศษณ์ ๘.อนิ ยมวิเศษณ์

๔.ประมาณวิเศษณ์ ๙.ปฤจฉาวิเศษณ์

๕.ประติเษธวิเศษณ์ ๑๐.ประพันธวิเศษณ์

๑. ลักษณวิเศษณ์ คือ คำที่ใช้ขยายคำอื่น
เพื่อบอกลักษณะของคำนั้ น ๆ อาจบอกชนิด
ขนาด สี เสียง กลิ่น รส สัมผัส และ
อาการ

ตัวอย่างเช่น

ดอกมะลิมีกลิ่นหอม (บอกกลิ่น)

ปากกาสีดำตกอยู่ใต้โต๊ะ (บอกสี)

ตุ๊กตาตัวใหญ่มีขนนุ่ม (บอกขนาดและสัมผัส)

๒. กาลวิเศษณ์ คือ คำที่ใช้ขยายคำอื่น
เพื่อบอกเวลา เช้า สาย บ่าย โบราณ
ปัจจุบัน อดีต อนาคต

ตัวอย่างเช่น

เมื่อคืนนี้ ลมพัดแรงมาก
เขาไปเรียนพิเศษทุกวัน
วันนี้ เป็นวันหยุดราชการ
ฉั นมาทํางานแต่เช้า

๓. สถานวิเศษณ์ คือ คำที่ใช้ขยายคำ
อื่นเพื่อบอกสถานที่ ไกล ใกล้ บน ล่าง
เหนือ ใต้

ตัวอย่างเช่น

เขาเป็นคนอีสาน
โรงเรียนของฉั นอยู่ไกล
โรงเรียนอยูทางทิศเหนื อ
ภูสอยดาวอยูไกล

๔. ประมาณวิเศษณ์ คือ คําวิเศษณ์บอกจํา
นวน หรือปริมาณ เช่นคําว่า หนึ่ ง สอง สาม
มาก น้อย บ่อย หลาย บรรดา ต่าง บ้าง ทั้
งหมด จุ เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น

เขากินข้าวจุ
ฉันสอบได้ที่หนึ่ ง
พ่อซื้อเสื้ อสิ บตัว
อรุ ณี มีบ้านหลายหลัง

๕. ประติเษธวิเศษณ์ คือ คําวิเศษณ์แสดง
ความปฏิเสธ หรือไม่ยอมรับ เช่นคําว่า ไม่ได้
ไม่ใช่ มิใช่ หามิได้ ไม่ มิ บ่ เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น

คุณครูไม่ได้อยูคนเดียว
เธอไม่ทานอาหารเลย
หนั งสือเล่มนี้ ไม่ใช่ของฉัน
ผมไม่ต้องการไปเที่ยวกับคุณ

๖. ประติชญาวิเศษณ์ คือ คําวิเศษณ์ใช้
แสดงการขานรับในการเจรจาหรือโต้ตอบ
กัน เช่นคําว่า ครับ ขอรับ คะ ค่ะ จ๊ะ จ๋า ขา
วะ เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น

แม่จ๋าหนูรักแม่นะจ๊ะ
คุณคะเชิญทางนี้ ค่ะ
ท่านครับผมขอลาหยุด ๑ วัน

๗. นิยมวิเศษณ์ คือ คําวิเศษณ์บอกความ
ชี้เฉพาะ หรือความแน่ นอน เช่นคําว่า นี่ นี้
นั่น นั้น โน่น โน้น แน่ เอง ทั้งนี้ ทั้งนั้น อ
ยางนี้ แน่นอน เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น

เสื้อตัวนี้ ต้องรีดไฟอ่อน
ฉั นเองที่ทำแก้วแตก

พรุ่งนี้ ผมจะไปหาคุณแน่นอน

ข้อสั งเกต คำวิเศษณ์บอกความแน่ นอนจะอยู่
ควรจำ หลังคำขยาย แต่ถ้าทำหน้ าที่เป็น
ประธานหรือกรรมในประโยคจัดเป็น
นิยมสรรพนาม เช่น นี่ คือแม่ของฉัน
(นิ ยมสรรพนาม)

๘. อนิยมวิเศษณ์ คือ คําวิเศษณ์บอกความ
ไม่ชี้เฉพาะ หรือไม่แน่ นอน เช่นคําว่า ใด อันใด
อื่น ไหน ไย อะไร ใคร ฉันใด เช่นไร เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น

เธอจะซื้ออะไรมากินก็ได้
เขาจะมาเวลาไหนก็ได้
เหตุใดเธอรีบกลับบ้าน

ฉั นจำไม่ได้ว่าเขาชอบสี อะไร

คำวิเศษณ์บอกความแน่ นอนจะอยู่

ข้อสั งเกต หลังคำขยายเท่านั้ น แต่ถ้าทำหน้ าที่
ควรจำ เป็นประธานหรือกรรมในประโยคจัด
เป็น อนิยมสรรพนาม เช่น

อะไรฉันก็กินได้ (อนิ ยมสรรพนาม)

๙. ปฤจฉาวิเศษณ์ คือ คําวิเศษณ์บอกเนื้ อ
ความเป็ นคําถาม หรือแสดงความสงสัย เช่น
คําว่า ไหน ใด อะไร สิ่ งใด ทําไม เท่าไหร่
เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น

จักรยานราคาเท่าไหร
เธอจะตามแม่ไปทําไม
คนไหนเรียนเก่ง
คุณชอบรับประทานอาหารประเภทใด

๑๐.ประพันธวิเศษณ์ คือ วิเศษณ์ที่
ทําหน้ าที่เชื่อมคํา หรือประโยคให้มี
ความเกี่ยวข้องกน เช่นคําว่า ที่ ซึ่ง อัน
อย่าง ที่วา เพื่อว่า ให้ เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น

พ่อเดินไปเขียนสมุดที่โต๊ะทํางาน
แม่ทํางานหนั กเพื่อนํ ามาเลี้ยงดูบุตร
จงทำอย่างที่ฉั นสั่ ง
เขากินชนิ ดที่คนอื่นไม่กล้ามอง

หน้ าที่ของคำวิเศษณ์

๑. คำวิเศษณ์ทำหน้าที่ขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้า
เช่น บ้านสวยราคาไม่แพง

(สวย เป็นคำวิเศษณ์ขยายคำนาม บ้าน)

๒. คำวิเศษณ์ทำหน้าที่ขยายคำสรรพนามที่อยู่ข้าง
หน้า เช่น ฉันเองเป็นคนบอกความจริงแก่เขา

(เอง เป็นวิเศษณ์ขยายคำสรรพนาม ฉัน)

๓. คำวิเศษณ์ทำหน้าที่ขยายคำกริยา
เช่น คนตื่นเช้ามักได้เปรียบคนอื่น

(เช้า เป็นคำวิเศษณ์แสดงเวลาทำหน้าที่ขยายคำกริยา
ตื่น)

๔. คำวิเศษณ์ทำหน้าที่ขยายคำวิเศษณ์ด้วยกันเอง
เช่น นางสาวไทยคนนี้ มีหน้าตาสวยมาก

(มาก เป็นคำวิเศษณ์บอกจำนวนที่ทำหน้าที่ขยายคำ
วิเศษณ์ สวย)

ขอบคุณ ค่ะ/ครับ