ระดับของภาษา
3ชั้ น มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ปี ที่
จัดทำโดย นางสาวนัฐยา หมื่นแสน
ชื่อเรื่อง
ระดับภาษา
ตัวชี้วัด
ท ๓.๑ ม.๓/๓ วิเคราะห์ระดับภาษา
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๔.๑
เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย
การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้
เป็นสมบัติของชาติ
ภาษานอกจากจะใช้เป็น
เครื่องมือในการสื่อสาร
ความรู้ ความคิด ความรู้สึก
ทัศนคติแล้วยังใช้สร้างความ
สัมพันธ์ระหว่างมนุษย์
มนุษย์ใช้ภาษาโดยคำนึงถึง
ความสัมพันธ์ระหว่าง
โอกาส กาลเทศะ
และบุคคล
ภาษาจึงมีลักษณะแตก
ต่างกันเป็นหลายระดับ
เพื่อให้สัมฤทธิ์ผล
สมความมุ่งหมาย
ระดับภาษา
คือ
รูปแบบการใช้ภาษาที่มีความลด
หลั่นของถ้อยคำ ตามโอกาส กาลเทศะ
และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เช่น
การใช้คำ สรรพนามว่า ข้าพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้า กระผม ดิฉัน ผม ฉัน หนู ข้า
คำที่ใช้แทนตัวผู้พูดเหล่านี้แสดงถึง
ระดับของภาษาว่ามีความแตกต่างกัน
ถึงแม้ผู้ใช้ภาษาจะเป็นบุคคลเดียวกัน
ปัจจัยที่กำหนดระดับภาษา
๑. โอกาสและสถานที่ เป็นปัจจัยที่ทำให้ใช้ภาษาต่างระดับ
กัน ถ้าสื่อสารกับบุคคลกลุ่มใหญ่ในที่ประชุมก็ใช้ภาษา
ระดับหนึ่ง ถ้าพูดกันในตลาด ร้านค้า หรือที่บ้านก็จะใช้
ภาษาต่างระดับกันออกไป
๒. สัมพันธภาพระหว่างบุคคล บุคคลมีสัมพันธภาพต่อกัน
หลายลักษณะ จึงเป็นปัจจัยกำหนดให้ระดับภาษาต่างกัน
แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องยึดหลัก โอกาส และสถานที่ด้วย
เพื่อนสนิทเมื่อพูดกันในที่ประชุมย่อมไม่สามารถใช้ภาษา
ระดับสนทนากันได้
๓. ลักษณะของเนื้อหา เนื้อหาของสารย่อมขึ้นอยู่กับโอกาส
ไม่น้อย เช่น เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่อส่วนตัว เป็นต้น ก็ไม่นำไปใช้
กับภาษาระดับพิธีการหรือระดับราชการ ถึงแม้เนื้อความใน
ท่วงทำนองเดียวกัน อาจใช้ภาษาให้ต่างกันไปได้ แต่เนื้อหา
บางชนิด ถ้าใช้ภาษาไม่เหมาะสมก็จะทำให้การสื่อสารไม่
ประสบผลสำเร็จดังที่ต้องการได้
๔. สื่อที่ใช้ สื่อที่ใช้ในการส่งสารก็ทำให้เปลี่ยนระดับภาษา
ได้ เช่น จดหมายปิดผนึกกับไปรษณียบัตร ระดับภาษาที่ใช้
ก็ต้องต่างกัน หรือเมื่อพูดด้วยปากกับพูดด้วยเครื่องขยาย
เสียง ย่อมต่างจากภาษาที่ พูดทางวิทยุกระจายเสียงหรือ
ทางโทรทัศน์
การแบ่งระดับภาษา
ภาษาไทยมีวัฒนธรรมในการใช้
ภาษาต้องเปลี่ยนระดับภาษาให้เข้า
กับกาลเทศะและบุคคล เมื่อใช้ภาษา
ต่างเวลา ต่างสถานที่ และต่างฐานะ
บุคคลกัน ต้องเลือกสรรใช้ถ้อยคำ
ต่าง ๆ กัน ทั้ง ๆ ที่ต้องการให้มีความ
หมายอย่างเดียวกัน
ภาษาอาจแบ่งเป็นระดับต่าง ๆ
ได้หลายระดับ
๑. แบ่งตามโอกาสและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็น ๒
ระดับ คือ ระดับที่เป็นทางการ(แบบแผน) , ระดับที่ไม่เป็น
ทางการ( ไม่เป็นแบบแผน)
๒. แบ่งตามโอกาสและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็น ๓
ระดับ คือ ระดับพิธีการ(แบบแผน) , ระดับกึ่งพิธีการ
(กึ่งแบบแผน) ,ระดับไม่เป็นพิธีการ(ไม่เป็นแบบแผนหรือ
ภาษาปาก)
๓. แบ่งตามกาลเทศะและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
เป็น ๕ ระดับ ได้แก่ ระดับพิธีการ , ระดับทางการ , ระดับ
กึ่งทางการ ,ระดับไม่เป็นทางการ , ระดับกันเอง
พิจารณาภาษา
ที่แบ่งออกเป็น ๕ ระดับ
โดยละเอียด ดังนี้
๑. ภาษาระดับพิธีการ
ภาษาระดับนี้ในโอกาสสำคัญหรือประชุมแบบ
พิธีการผู้ส่งสารมักเป็น บุคคลสำคัญหรือผู้มีตำแหน่งสูง
ผู้รับสารอาจเป็นบุคคลระดับเดียวกันหรือประชาชนทั้ง
ประเทศ ภาษาระดับนี้เป็นภาษาที่ประณีตไพเราะมีความ
อลังการ การเลือกเฟ้นถ้อยคำมักก่อให้เกิดความจรรโลงใจ
เช่น การกล่าวเปิดการประชุม การกล่าวถวายราชสดุดี การ
กล่าวปราศรัย
ตัวอย่าง
“การที่ท่านทั้งปวงได้แสดงมุทิตาจิต และให้พรแก่ข้าพเจ้าด้วย
ความพร้อมเพรียงเป็นสมานฉันท์เช่นนี้ยังความปีติยินดีแก่
ข้าพเจ้ายิ่งนัก จึงขอขอบใจท่านทั้งปวงด้วยเป็นที่สุดขออำนวย
พร ให้ท่านทั้งปวงจงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ
ธนสารสมบัติทุกประการ”
๒. ภาษาระดับทางการ
เป็นภาษาที่มีแบบแผนถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ เช่น
การใช้คำ โครงสร้างประโยค ภาษาที่ใช้ตรงไปตรงมา โดยเน้นการ
สื่อสารให้ได้ผลตามจุดประสงค์ อาจมีการใช้ศัพท์เฉพาะเรื่องหรือ
ศัพท์ทางวิชาการบ้าง ตามลักษณะของเนื้อหาที่ต้องการพูดหรือ
เขียน ภาษาระดับทางการนี้ไม่ใช้ถ้อยคำพุ่มเฟือยหรือเล่นถ้อยคำ
แพรวพราวหรืออลังการ ผู้ใช้มักจะใช้ในหน่วยราชการกับหน่วย
ราชการด้วยกันหรือการบรรยาย อภิปราย การประชุมอย่างเป็น
ทางการ
ตัวอย่าง
“ผมขอขอบคุณอย่างยิ่ง ผมรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจไมตรีที่ท่านทั้งหลาย
ได้พร้อมใจกันมาส่งและอวยพรให้ผมเดินทางโดยสวัสดิภาพ ทั้งยัง
อวยพรให้ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในหน้าที่ราชการ ผมไม่อาจ
กล่าวขอบคุณให้ไพเราะสมกับความรู้สึกได้ แด่ก็ขอปวารณาว่าผม
จะอุดส่าห์ปฏิบัติงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เต็มควาสามารถ
โดยคำนึงถึงประโยชน์สุขของประชาชนทั่วไปเป็นอันดับแรกที่สุด
ผมเชื่อว่าผลดังกล่าวก็จะตกอยู่แก่ประเทศชาติอันเป็นที่รักของเรา
หรืออีกนัยหนึ่งตกอยู่แก่พวกเราทุกคนนั่นเอง”
๓. ภาษาระดับกึ่งทางการ
เป็นภาษาที่ใช้สื่อสารโดยมุ่งให้เกิดความเข้าใจกันด้วย
ความรวดเร็ว จึงลด ความเป็นทางการลงบ้าง เพื่อให้เกิดความ
ใกล้ชิดระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร ภาษาระดับนี้เป็นภาษากึ่ง
พูดกึ่งเขียน ลดความเคร่งครัดด้านความสมบูรณ์ของ ประโยค
และความถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ อาจมีถ้อยคำที่แสดงความ
คุ้นเคย ส่วนใหญ่ใช้ในการประชุมกลุ่มหรือการอภิปรายกลุ่ม
การบรรยายในห้องเรียน การพูดทางวิทยุ โทรทัศน์ ข่าวและ
บทความในหนังสือพิมพ์ การแสดงความคิดเห็นเชิง วิชาการ
การติดต่อธุรกิจ
ตัวอย่าง
“ผมขอขอบคุณที่อาจารย์มีน้ำใจและได้แสดงออกซึ่งน้ำใจนั้น ณ ที่
ประชุมนี้ ผมจะพยายามรักษาตัวให้ดีสมกับความปรารถนาของ
อาจารย์ ถ้ามีสิ่งใดที่ผมพอจะรับใช้ได้ที่จะอำนวยประโยชน์ แก่พวก
เราโดยส่วนรวม ผมก็จะไม่รีรอที่จะกระทำเลย ผมขอขอบคุณอย่าง
ยิ่งอีกครั้งหนึ่งครับ”
๔. ภาษาระดับไม่เป็นทางการ
หรือสนทนา
เป็นรูปแบบของภาษาพูดที่ใช้ในโอกาสที่ไม่เป็นพิธี ใช้
โต้ตอบระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคน ๔- ๕ คน เนื้อหาของสาร
เป็นเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวัน จึงไม่เคร่งครัดด้านความ
สมบูรณ์ของประโยค และความถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
เช่น อาจมีคำกร่อน คำย่อ คำภาษาต่างประเทศ คำลงท้าย
เช่น ซิ นะ เถอะ
ตัวอย่าง
“ขอบคุณมากครับที่อวยพรให้ผม ขอให้พวกคุณได้รับสิ่งดีงามเหล่า
นั้นด้วยเช่นกันนะครับ เพราะถ้าเรามีอะไรได้อะไรเหมือน ๆ กัน เราก็
คงได้มีโอกาสสังสรรค์กันเช่นนี้อีก วันนี้ขอให้ฉลองศรัทธากันให้เต็ม
อิ่มเลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ”
๕. ภาษาระดับกันเอง
หรือระดับภาษาปาก
เป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกับบุคคลที่สนิทสนมกัน ใช้พูดจา
กันในวงจำกัด เช่น สามีภรรยา พี่น้อง บิดา มารดา บุตร หรือ
เพื่อนสนิทในสถานที่ส่วนตัว อาจมีคำคะนอง คำภาษาถิ่น
คำสแลง สรรพนาม แสดงความสนิทสนมคุ้นเคย
ตัวอย่าง
“ขอบใจนะพรรคพวก พวกนายทำให้เรามีความสุขมากที่สุดใน
วันนี้ ขอให้สนุกกันโดยการใช้ปากให้เป็นประโยชน์ ทั้งกิน ทั้งพูด
แต่อย่าทั้งพูดและกินพร้อมๆ กันก็แล้วกัน ว่าให้เต็มที่เลย”
ลักษณะของภาษาระดับต่าง ๆ
๑. การเรียบเรียง ภาษาระดับกันจำเป็นต้องใช้ความ
พิถีพิถันในการเรียบเรียงเกี่ยวกับลำดับหรือระเบียบของ
ใจความแตกต่างกันไปเช่น ภาษาระดับพิธีการและระดับ
ทางการจะต้องใช้ข้อความที่ต่อเนื่องกลมกลืนกันมากกว่า
ภาษาระดับกึ่งทางการ ในการใช้ภาษาเขียนไม่ว่าในระดับ
ใดจะต้องระมัดระวังในเรื่องลำดับข้อความมากกว่าภาษา
พูด เพราะผู้อ่านไม่อาจถามได้
๒. กลวิธีนำเสนอ ภาษาระดับพิธีการและระดับทางการ นำ
เสนออย่างกลาง ๆ เป็นการส่งสารไปยังกลุ่มบุคคลและส่งใน
ฐานะที่เป็นผู้แทนของกลุ่มบุคคลหรือในนามของตำแหน่ง
ไม่เจาะจง บุคคลผู้รับหรือผู้ส่งสารอย่างภาษาระดับไม่เป็น
ทางการและระดับกันเอง
ลักษณะของภาษาระดับต่าง ๆ
(ต่อ)
๓. ถ้อยคำที่ใช้ การใช้ถ้อยคำในภาษาจะเป็นต้องแตกต่าง
กันไปตาม ระดับต่าง ๆ กัน เช่น
๓.๑ คำสรรพนาม ภาษาระดับพิธีการ ระดับทางการและ
ระดับกึ่งทางการย่อมใช้สรรพนามบุรุษที่ ๑ และบุรุษที่ ๒
ต่างกับภาษาระดับไม่เป็นทางการและระดับกันเอง
๓.๒ คำนาม คำสามานยนามหลายคำใช้คำแตกต่างกัน
ระหว่างระดับทางการขึ้นไปและระดับต่ำกว่าทางการ
๓.๓ คำกริยา ใช้ต่างกันในระดับต่าง ๆ เช่น กริยา ตาย
ใช้ต่าง ๆ กัน ตามฐานะของบุคคลและโอกาส คือ เสีย สิ้น
ถึงแก่กรรม ถึงแก่อนิจกรรม ถึงแก่อสัญกรรม สิ้นชีพตักษัย
สิ้นพระชนม์ สวรรคต มรณภาพ กริยาบางคำใช้ต่างกัน
ระหว่างระดับทางการขึ้นไปกับระดับต่ำกว่าทางการ
๓.๔ คำวิเศษณ์ ภาษาระดับทางการขึ้นไป ไม่นิยมใช้คำ
วิเศษณ์บอกลักษณะและวิเศษณ์บอกปริมาณ เช่น เปรี้ยวจี๊ด
ขมปี อ้วน ยุ่งจัง ยิ้ม แฉ่ง จะมีใช้บ้างบางคำ เช่น มาก หรือ จัด
๓.๕ คำชนิดอื่น ๆ เช่น คำบุพบท คำสันธาน และคำสรรพนาม
ที่เชื่อมความใช้ร่วมกันทุกระดับภาษา คำลงท้ายประโยค คะ
ครับ ซิ นะ เถอะ ใช้เฉพาะในระดับไม่เป็นทางการและระดับ
กันเองคำที่ใช้แตกต่างกันระหว่างระดับกึ่งทางการลงมากับ
ระดับอื่น
มาทำแบบฝึกหัดกันเถอะ
แบบฝึกหัดที่ ๑
เรื่อง ระดับภาษา
คำสั่ง จงเปลี่ยนคำจากภาษาไม่เป็นทางการต่อไปนี้ ให้เป็นภาษาทางการให้ถูกต้อง
ภาษาไม่เป็นทางการ ภาษาเป็นทางการ
๑. โรงหนัง
๒. ใบรับรอง
๓. ใบขับขี่
๔. แสตมป์
๕. ตีตรา
๖. ผัวเมีย
๗. มอไซค์
๘. รถเมล์
๙. งานแต่ง
๑๐. ตาย
๑๑. กิน
๑๒. โรงพัก
๑๓. โกหก
๑๔. ดื่มเหล้า
๑๕. คุณหมอ
ชื่อ - สกุล.............................................................
เลขที่..............ชั้น...........
แบบฝึกหัดที่ ๒
เรื่อง ระดับภาษา
คำสั่ง ให้นักเรียนวิเคราะห์ข้อความต่อไปนี้แล้วเลือกใส่ระดับภาษาให้ถูกต้อง
ระดับพิธีการ ระดับทางการ ระดับไม่เป็นทางการ
ระดับกึ่งทางการ ระดับกันเอง
๑. เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเจริญ พระชนมพรรษา
ครบ ๖ รอบ ปวงประชาชาวไทยขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัย ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อันทรง
มหาพลานุภาพทั้งหลาย จงโปรดอภิบาลบันดาลดล ให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจงเจริญ
ด้วยมิ่งมหาศุภสวัสดิ์ เจริญพระชนมพรรษานับหมื่น ๆ ศตพรรษ สถิตเสถียรเป็นร่มโพธิ์
ทองของปวงประชาชาวไทย ตราบชั่วกัลปาวสาน
๒. บทละครเรื่องเงาะป่า เป็นพระราชมรดกชิ้นเล็กๆ แต่ทรงคุณค่าที่พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรง พระราชนิพนธ์ไว้เป็นสมบัติของชาติและประชาชน
ชาวไทยที่สำคัญยิ่งคือ วรรณคดีเรื่องนี้ได้สะท้อนบุคลิกภาพ แนวพระราชดำริ พระราชนิยม
และพระอัจฉริยภาพในฐานะศิลปินผู้ ยิ่งใหญ่ในหลากสาขาได้อย่างเด่นชัด
๓. - อยากรู้ว่ากล่องพัสดุไปรษณีย์ RE-USE ได้ไหมคะ พอดีสั่งขอบ่อย ๆ ได้กล่อง
ไปรษณีย์มาเยอะ เสียดายไม่อยากทิ้ง เอาไปใส่ของแล้ว ส่งคืนให้คนอื่นต่อได้ไหมคะ
- ได้ค่ะ ใช้ประจำ กล่องละหลายบาทนะนั่น
หากระดาษมาห่อทับ หรืออย่างน้อย
เอากระดาษมาปิดทับด้านหน้า แล้วเขียนผู้รับ-ผู้ส่ง ทับ ลงไป แล้วผูกเชือกให้เรียบร้อย
๔. “เออ นังบ้า ไป ไปนั่งรวมกันที่เก้าอี้โน่น จำไว้ ถ้าคิดหนีฉัน ยิงจริงๆ ไอ้ชิด เอ็งดูนังสอง
ตัวนี่ให้ดี ถ้ามันไปที่ประตูเมื่อไหร่ยิงมันได้เลย” เชนขู่เสียงเกรี้ยว
๕. " ... หนังเรื่องนี้มีโครงเรื่องหลักอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงของ ภูมิอากาศโลกในองค์รวม
อันเป็นผลพวงจากปฏิกิริยาเรือนกระจก หรือ green house effect ซึ่งเกิดจากน้ำมือ
มนุษย์โลกอย่างเรา ๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเผาไหม้เชื้อเพลิงให้เกิดความร้อนและควันลอย
ขึ้นไป เกิดเป็นชั้นห่อหุ้มโลกไว้ ส่งผลให้รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่ส่อง ลงมายังโลก
สะท้อนกลับออกไปในห้วงอวกาศไม่ได้ โลกเลยกลายเป็น เตาอบยักษ์ที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ...”
ชื่อ - สกุล.............................................................เลขที่..............ชั้น...........
มาลองทำแบบทดสอบกันเถอะ
แบบทดสอบ เรื่อง ระดับภาษา
คำสั่ง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
๑ . ภาษาระดับพิธีการ ใช้เนื่องในโอกาสใด
ก. การประชุมกลุ่มหรืออภิปรายกลุ่ม
ข. การกล่าวรายงานในพิธีมอบปริญญาบัตร
ค. การกล่าวรายการบันเทิง
ง. บทความในหนังสือนิตยสาร
๒. วัดอยู่ห่างจากตลาดประมาณ ๓ กิโล จากข้อความจัดเป็นภาษา
ระดับใด
ก. กันเอง
ข. กึ่งทางการ
ค. ทางการ
ง. ไม่เป็นทางการ
๓. เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศว่าจะใช้มาตรการเด็ดขาดในการปราบ
ปรามผู้ร้าย จากข้อความนักเรียนคิดว่าเป็นภาษาระดับใด
ก. กันเอง
ข. กึ่งทางการ
ค. ทางการ
ง. ไม่เป็นทางการ
แบบทดสอบ เรื่อง ระดับภาษา
๔. ข้อใดอธิบายความหมายของระดับภาษาได้ชัดเจนที่สุด
ก. การใช้ภาษาเป็นเครื่องมือสื่อสารความรู้ ความคิด ความรู้สึก
ข. การใช้ภาษาตามสัมพันธภาพของบุคคลโดยคำนึงถึงกาลเทศะ
ค. การใช้ภาษาแบบทางการ
ง. การใช้ภาษาแบบไม่เป็นทางการ
๕. การระเบิดในครั้งนี้ทำให้ทรัพย์สินของราชการเสียหาย จากข้อความ
จะเป็นภาษาระดับใด
ก. กันเอง
ข. กึ่งทางการ
ค. ทางการ
ง. ไม่เป็นทางการ
๖. คำในข้อใดไม่ใช่ภาษาระดับทางการ
ก. สุนัข สุกร
ข. โรงหนัง แสตมป์
ค. โรงภาพยนตร์ ดวงตราไปรษณีย์
ง. รถประจำทาง หนังสือรับรอง
แบบทดสอบ เรื่อง ระดับภาษา
๗. ข้อใดใช้ภาษาระดับสนทนามากที่สุด
ก. การประชุมกลุ่มหรืออภิปรายกลุ่ม
ข. การพูดจากันระหว่างบุคคลภายในครอบครัว
ค. การเขียนจดหมายราชการ
ง. การเปิดการประชุม
๘. ระดับภาษาที่ใช้ในการสื่อสารนั้นขึ้นอยู่กับข้อใด
ก. ตัวสาร
ข. ผู้ส่งสาร
ค. ผู้รับสาร
ง. ตัวบุคคล และโอกาส
๙. วัฒนรรมที่งดงามอย่างหนึ่งของคนไทย คือ การไหว้ จากข้อความจัด
เป็นภาษาระดับใด
ก. กันเอง
ข. กึ่งทางการ
ค. ทางการ
ง. พิธีการ
๑๐. ข้อใดเป็นการพูดที่ไม่เป็นทางการ
ก. การพูดโฆษณาสินค้า
ข. การกล่าวคำปราศรัย
ค. การกล่าวสดุดี
ง. การกล่าวรายงาน
เฉลยแบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดที่ ๑ แบบฝึกหัดที่ ๒
๑. โรงภาพยนต์ ๑. ระดับพิธีการ
๒. หนังสือรับรอง ๒. ระดับทางการ
๓. ใบอนุญาตขับรถยนต์ ๓. ระดับไม่เป็นทางการ
๔. ดวงตราไปรษณียากร ๔. ระดับกันเอง
๕. ประทับตรา ๕. ระดับกึ่งทางการ
๖. สามีภรรยา
๗. รถจักรยานยนต์ ทำได้กันไหมเอ่ย ?
๘. รถโดยสารประจำทาง
๙. งานมงคลสมรส
๑๐. ถึงแก่กรรม
๑๑. รับประทาน
๑๒. สถานีตำรวจ
๑๓. พูดเท็จ
๑๔. ดื่มสุรา
๑๕. นายแพทย์
เฉลยแบบทดสอบ
๑. ข. การกล่าวรายงานในพิธีมอบปริญญาบัตร
๒. ก. กันเอง
๓. ค. ทางการ
๔. ข. การใช้ภาษาตามสัมพันธภาพของบุคคลโดยคำนึงถึงกาลเทศะ
๕. ค. ทางการ
๖. ข. โรงหนัง แสตมป์
๗. ข. การพูดจากันระหว่างบุคคลภายในครอบครัว
๘. ง. ตัวบุคคล และโอกาส
๙. ง. พิธีการ
๑๐. ก. การพูดโฆษณาสินค้า
ทำแบบฝึกหัดที่ 1
ทำแบบฝึกหัดที่ 2
ทำแบบทดสอบ
อ้างอิง
มูลนิธิการศึกษษทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมป์.
(๒๕๖๔). ระดับภาษา. สืบค้น ๑ มีนาคม ๒๕๖๔. จาก
https://dltv.ac.th/teachplan/episode/10961.
วิวิธภาษา ม.๓. (๒๕๖๓). กรุงเทพฯ : องค์การค้าของ สกสค.
หลักภาษาไทยและการใช้ภาษาไทย ม.๓. (๒๕๖๔). กรุงเทพฯ :
บริษัทคุรุมีเดียจำกัด.
ไว้มาเรียนรู้กันใหม่น๊า