evHeerllyoo.ne.
กฎหมายจราจร
ความหมายของกฎจราจร
ความหมายของกฎจราจร
กฎจราจร คอื สว่ นหนึ่งของกฎหมายจราจร ซึ่งเป็นกฎหมายหลกั ในการบงั คับควบคุมการจราจรให้ เป็นไปด้วยความเรียบรอ้ ยและมี
ความ เป็นระเบยี บกฎหมายจราจรที่ใชเ้ ปน็ หลักในประเทศ ก็ คือ พระราชบัญญตั ิจราจรทางบก พ.ศ.2522 แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ (ฉบับท่ี
4) พ.ศ.2535 องคป์ ระกอบของกฎหมายจราจร มี 6 อยา่ งดงั นี้
1. ตัวบทกฎหมาย ซง่ึ จะกําหนด สิทธิ และ หนา้ ทีข่ องผใู้ ช้รถและใชถ้ นนผู้ทตี่ อ้ งปฏบิ ัตติ ามกฎหมาย
2. ผู้ปฏบิ ัตติ ามกฎหมาย ได้แก่ คนขับรถทกุ ชนดิ (รวมถงึ คนนั่งหรือซ้อนรถด้วย) คนท่ีตอ้ งใช้ถนน (เดนิ เท้าข้ามถนน จงู ข่ี หรอื ไล่
ต้อนสตั ว์)
3. ผบู้ ังคับให้เปน็ ไปตามกฎหมาย ไดแ้ ก่ เจา้ พนกั งานจราจร พนกั งานเจ้าหนา้ ท่ี พนกั งานสอบสวน ฯลฯ
4. เคร่ืองมอื ในการใช้บังคับ ได้แก่ เคร่ืองหมายจราจร และสัญญาณจราจร ฯลฯ
5. เคร่ืองมือในการจับกมุ ไดแ้ ก่ เครื่องจบั ความเรว็ เครือ่ งตรวจแอลกอฮอลเ์ ครอ่ื งตรวจวดั ควนั เคร่ืองตรวจ
วัดเสยี ง เครอ่ื งตรวจวดั ฟลิ ์มกรองแสง ฯลฯ
6. วิธกี ารบังคับหรือการลงโทษ ไดแ้ ก่ การว่ากลา่ วตักเตือน การเปรยี บเทยี บปรบั การลงโทษจาํ คกุ การพัก
ใชใ้ บอนญุ าตขับรถ การเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
กฎหมายจราจร
ทางบกเบอ้ื งตน้
1. สัญญาณจราจรและเครอ่ื งหมายจราจร
สัญญาณ หมายความว่า สญั ญาณใด ๆ ไมว่ า่ จะแสดงด้วยธงไฟ ไฟฟ้า มอื แขน เสยี ง นกหวีด
หรอื ดว้ ยวธิ อี ่นื ใด สําหรับใหผ้ ู้ขับข่ี คนเดินเทา้ หรอื คนจงู ข่ี หรอื ไล่ต้อนสตั ว์ ปฏิบัติตามสญั ญาณ
นนั้ เช่น สญั ญาณไฟเขยี ว ไฟแดง เป็นตน้
เครือ่ งหมายจราจร หมายความวา่ เครอ่ื งหมายใด ๆ ท่ีไดต้ ิดตง้ั ไวห้ รือทําใหป้ รากฎในเสยี สขุ ภาพให้ผู้
ขับข่ี คนเดนิ เท้า หรือคนท่ีจูง หรือไล่ต้อนสัตวป์ ฏบิ ัตติ ามเครอื่ งหมายนน้ั เชน่ เคร่ืองหมายหา้ มเลย้ี ว
ซา้ ย ห้ามเลีย้ วขวา หา้ มกลับรถ หรอื หา้ มจอด เป็นตน้
2. สภาพรถและแผน่ ปา้ ยทะเบียนรถ
• หา้ มมิให้ผใู้ ดนาํ รถทม่ี ีสภาพไมม่ น่ั คงแขง็ แรง หรอื อาจเกิดอนั ตรายหรืออาจทําให้เส่อื มเสยี สุขภาพอนามัย
แกผ่ ูใ้ ช้ คนโดยสาร หรือประชาชนใชใ้ นทางเดินรถ ผ้ใู ดฝา่ ฝืนหรือไมป่ ฏบิ ัตติ ามมีความผดิ ตอ้ งระวาง
โทษปรบั ไม่เกิน 500 บาท
• ห้ามมใิ ห้ผู้ใดนาํ รถทม่ี ิได้ติดแผน่ ปา้ ยเลขทะเบียน แผนปา้ ยเครอ่ื งหมายเลขทะเบยี น หรือ ป้ายประจํา
รถ ตามกฎหมายว่าดว้ ยรถยนต์ กฎหมายวา่ ดว้ ยการขนส่ง กฎหมายวา่ ด้วยลอ้ เลื่อน กฎหมายวา่ ด้วยรถ
ลาก หรือกฎหมายวา่ ดว้ ยรถจา้ ง มาใชใ้ นทางเดินรถ ผู้ใดฝ่าฝนื หรอื ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามมคี วามผิดตอ้ งระวาง
โทษปรับไมเ่ กนิ 1,000 บาท
3. การขบั รถ ผูข้ บั ขต่ี อ้ งปฏิบัติดงั ตอ่ ไปน้ี
ในการขบั รถ ผขู้ ับขี่ต้องขบั รถในทางเดนิ รถดา้ นซา้ ยและตอ้ งไมล่ ้าํ กึง่ กลางของทางเดินรถ เวน้ แต่กรณตี ่อไปนใี้ ห้
เดนิ ทางขวาหรือลาํ่ กง่ึ กลางของทางเดนิ รถได้
ก. ด้านซา้ ยของทางเดินรถมีสิง่ กดี ขวางหรือปิดการจราจร
ข. ทางเดินรถน้นั เจา้ พนกั งานจราจรกําหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดยี ว
ค. ทางเดนิ รถนั้นกว้างไมถ่ งึ 6 เมตร
ผ้ใู ดฝา่ ฝนื หรือไม่ปฏิบตั ติ ามมคี วามผิดตอ้ งระวางโทษปรับต้ังแต่ 200 บาท ถงึ 500 บาท
4. ใบอนุญาตขบั รถ
ผ้ขู ับรถต้องไดร้ บั ใบอนุญาตขบั รถ และต้องมีใบอนุญาตขับรถและสาํ เนาภาพถ่ายใบคมู่ ือจดทะเบียนรถในขณะขับ
เพือ่ แสดงต่อเจา้ พนกั งานไดท้ ันที การขอใบอนุญาตขบั รถนน้ั ผู้ขอใบอนญุ าตต้องมีอายไุ มต่ ํา่ กว่า 18 ปีบรบิ รู ณ์
และต้องเป็นผู้มคี ณุ สมบัตแิ ละไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามท่ีกฎหมายกําหนด โดยยน่ื คาํ ร้องต่อนายทะเบียนแห่ง
ทอ้ งทท่ี ีต่ นมภี มู ลิ าํ เนาหรือถน่ิ ที่อยู่ ผ้ใู ดขบั รถโดยไม่ไดร้ บั อนุญาตขับรถตอ้ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กิน 1 เดอื น
ปรับไมเ่ กนิ 1,000 บาท
5.ผขู้ บั ขี่และคนโดยสารรถจกั รยานยนต์ตอ้ งสวม “หมวกนริ ภยั ”
ผขู้ บั ขี่รถจักรยานยนตแ์ ละคนโดยสารรถจักรยายนต์ ต้องสวมหมวกท่จี ัดทําขน้ึ โดยเฉพาะเพือ่ ป้องกนั อันตราย
ในขณะขับข่แี ละโดยสารรถจกั รยานยนตใ์ นทอ้ งทที่ ่กี ําหนด ดงั ต่อไปน้ี
• ในเขตทอ้ งทีก่ รงุ เทพมหานคร ให้มผี ลบังคับใชน้ ับตั้งแต่ 15 ธนั วาคม 2535 เปน็ ตน้ ไป
• ในเขตทอ้ งทจ่ี ังหวดั ของแกน่ ชลบรุ ี เชยี งใหม่ นครปฐม นครราชสมี า นครศรีธรรมราช นครสวรรค์
นนทบุรี ปทมุ ธานี พิษณุโลก สงขลา สมุทรปราการ สมทุ รสาคร สุราษฎร์ธานี อุดรธานี และ
อุบลราชธานี ให้มีผลใชบ้ งั คบั นับตง้ั แต่ 15 กันยายน 2536 เปน็ ต้นไป
• ในเขตท้องทจ่ี งั หวดั อนื่ นอกจากทกี่ ลา่ วมาแล้ว ให้มีผลใช้บังคับ 15 กันยายน 2537 เปน็ ตน้ ไป ผู้ใด
ฝ่าฝนื หรือไม่ปฏิบตั ติ ามมคี วามผิดตอ้ งระวางโทษปรบั ไมเ่ กิน 500 บาท
6.ผู้ขบั ขีร่ ถยนตแ์ ละคนโดยสารรถยนตซ์ งึ่ นัง่ ท่ีนัง่ ตอนหนา้ ตอ้ งรัดรา่ งกายด้วยเขม็ ขดั นิรภัย
ตามพระราชบัญญตั จิ ราจรทางบก พ.ศ. 2522 กาํ หนดให้ผูข้ บั ขรี่ ถยนตต์ ้องรดั ร่างกายด้วยเข็มขดั นิรภยั
ไว้กบั ที่น่ังในขณะขับขี่รถยนต์ และตอ้ งจดั ใหค้ นโดยสารรถยนต์ ซ่ึงนัง่ ตอนหน้าแถวเดียวกบั ที่นงั่ ผูข้ ับข่ี
รถยนตร์ ัดร่างกายไว้กบั ทน่ี ั่งดว้ ยเขม็ ขดั นิรภัยในขณะโดยสารรถยนต์ ผใู้ ดฝ่าฝืนหรือไมป่ ฏิบตั ติ ามต้อง
ระวางโทษปรบั ไม่เกิน 500 บาท
7. หา้ มมิใหเ้ สพยาบา้ (แอมเฟตามีน) ขณะขบั รถ
ห้ามมิให้ผู้ขบั ขเี่ สพหรือรบั เขา้ รา่ งกายไม่ว่าดว้ ยวิธใี ด ๆ ซึง่ วัตถุออกฤทธ์ติ ่อจติ และประสาทกลมุ่ แอมเฟตามนี (ยาบ้า)
หรอื วตั ถอุ อกฤทธิตอ่ จติ และประสาทอย่างอ่ืนทอ่ี ธิบดกี รมตํารวจหรือผู้บัญชาการสาํ นักงานตํารวจแหง่ ชาตใิ นปจั จุบนั กําหนด
โดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เจา้ พนักงานจราจร พนกั งานสอบสวน หรอื พนักงานเจ้าหนา้ ท่ีทีม่ อี ํานาจจัดให้มกี าร
ตรวจสอบท้ังประเภทตามทีก่ าํ หนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกาาว่าได้เสพหรอื รบั เข้าร่างกายดว้ ยวธิ ใี ด ๆ ซ่ึงวตั ถทุ ่อี อก
ฤทธติ์ ่อจติ และประสาทกลุม่ แอมเฟตามนี หรอื วตั ถทุ ีอ่ อกฤทธต์ิ ่อประสาทอยา่ งอนื่ ท่ีกําหนดหรือไม่
ผ้ขู ับข่ผี ้ใู ดฝา่ ฝืนมคี วามผิดตอ้ งระวางโทษจาํ คุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตง้ั แต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือ
ทงั้ จาํ ท้งั ปรบั และให้ศาลส่งั เพิกถอนใบอนุญาตขบั ข่ี แตถ่ า้ การกระทาํ นนั้ เปน็ เหตใุ ห้ผอู้ ่ืนถึงแก่ความตาย ผ้กู ระทาํ ตอ้ ง
ระวางโทษจาํ คกุ ไม่เกนิ 10 ปี หรอื ปรบั ตง้ั แต่ 40,000 บาท ถงึ 80,000 บาท หรือทงั้ จําท้ังปรบั และใหศ้ าลสัง่ เพิก
ถอนใบอนุญาตขบั ข่ี
8. หา้ มมใิ หแ้ ข่งรถในทางหรอื ถนน
ห้ามมใิ ห้ผูใ้ ดแข่งรถในทางหรือจัดสนบั สนนุ หรอื สง่ เสรมิ ใหม้ ีการแข่งรถทงั้ จําทง้ั ปรบั เว้นแต่จะได้รับ
อนุญาตเปน็ หนังสือจากเจา้ พนักงานจราจร
ผูใ้ ดฝา่ ฝืนต้องระวางโทษจาํ คุกไมเ่ กิน 3 เดือน หรอื ปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 10,000 บาท
หรอื ทัง้ จาํ ทง้ั ปรับ และให้ศาลสง่ั พกั ใช้ใบอนุญาตขับขขี่ องผนู้ ้ันมกี าํ หนดไมน่ อ้ ยกว่า 1 เดอื น หรือเพกิ
ถอนใบอนุญาตขับข่ี
กฎจราจรทคี่ วรรู้
1.เขตปลอดภยั หมายความว่า พนื้ ท่ใี นทางเดนิ รถทมี่ ีเคร่ืองหมายแสดงใหเ้ หน็ ได้ชัดเจนทกุ เวลา สาํ หรับให้คนเดนิ เท้าทขี่ า้ มทางหยดุ รอ หรอื ใหค้ นท่ขี นึ้ หรอื ลงรถหยุดรอ
กอ่ นจะขา้ มทางตอ่ ไป เช่น บริเวณท่ีทาสขี าวกลางถนน หรอื ทเ่ี รียกวา่ เกาะสมมตุ ิ เป็นต้น
2.ทคี่ ับขนั หมายความวา่ ทางท่ีมีการจราจรพลุกพล่านหรอื มสี งิ่ กดี ขวางหรือในทีซ่ ึ่งมองเห็นหรอื ทราบไดล้ ว่ งหนา้ ว่าอาจเกดิ อันตราย หรอื ความเสียหายแก่รถหรือคนได้
ง่าย
3.เม่ือผู้ขบั ขพ่ี บสัญญาณไฟกระพรบิ สีแดง จะต้องปฏิบัติอย่างไร
• ใหผ้ ู้ขับขี่หยดุ รถหลังเส้นให้รถหยดุ (เส้นทีข่ ีดขวางถนน) เมอื่ เหน็ วา่ ปลอดภัย และไมเ่ ปน็ การกีดขวางการจราจร แลว้ ใหข้ บั รถต่อไปดว้ ยความระมดั ระวัง
4.เมือ่ ผูข้ บั ขพ่ี บสญั ญาณไฟกระพรบิ สเี หลอื ง จะตอ้ งปฏบิ ัติอย่างไร
• ให้ผ้ขู บั ขี่ลดความเรว็ ของรถลงและขับผ่านทางเดินรถนั้นไปดว้ ยความระมัดระวัง
5.สัญญาณจราจรไฟสีแดงทีท่ ําเปน็ รปู กากบาทเฉียงอย่เู หนือช่องทางเดนิ รถ หมายถงึ หา้ มผูข้ ับขี่ขบั รถในชอ่ งทางเดินรถนัน้ ได้
6.ผขู้ ับขีต่ อ้ งขบั รถให้หา่ งจากรถคันหนา้ เปน็ ระยะทางเทา่ ใด
• หา่ งพอสมควรในระยะท่สี ามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย
7.ในขณะขับรถผู้ขบั ข่ตี ้องมเี อกสารชนดิ ใด
1. ใบอนุญาตขบั รถ
2. สําเนาภาพถา่ ยคู่มือจดทะเบียนรถ
8.รถลกั ษณะใดทีห่ ้ามนํามาใชใ้ นทาง
1. รถทม่ี ีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง มีสว่ นควบอุปกรณไ์ ม่ครบถว้ นตามทกี่ ฎหมายกําหนด หรืออาจเกิดอันตราย หรือเสื่อมเสียสขุ ภาพอนามยั แก่ผูใ้ ช้รถ คน โดยสาร
หรอื ประชาชน เช่น รถทม่ี ีโคมไฟหน้าหรือโคมท้ายชํารุด รถท่มี ีเครื่องห้ามล้อชํารดุ รถท่ีมีเสยี งดงั เกนิ 85 เดซเิ บล เอ รถท่ีมีควันดําเกินเกณฑท์ ีท่ างราชการกําหนด รถ
ทีไ่ มม่ ีกระจกด้านหน้า เปน็ ต้น
2. รถทไ่ี ม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน (ไม่วา่ จะ 1 หรอื 2 แผน่ ป้าย) ไมต่ ิดเครอ่ื งหมายแสดงการเสียภาษี หรอื เครือ่ งหมายอ่ืน ๆ ที่กฎหมายทเี่ ก่ียวข้องกับรถกําหนด
3. รถท่มี ีเสยี งอ้ืออึงหรอื มีส่งิ ลากถูไปบนทางเดินรถ
4. รถท่มี ลี อ้ หรอื สว่ นทส่ี ัมผัสกบั ผวิ ทางทไ่ี มใ่ ช่ยาง ยกเว้น รถทีใ่ ชใ้ นราชการสงคราม หรอื รถที่ใช้ในราชการตาํ รวจ
5. รถทีม่ เี สยี งแตรไดย้ นิ ในระยะไมน่ ้อยกว่า 60 เมตร
6. รถที่ผู้ขบั ขี่ยอมใหผ้ อู้ ื่นน่งั ท่นี ่งั แถวหน้าเกินกวา่ 2 คน (แถวด้านหน้า หา้ มนัง่ เกนิ กว่า 2 คน โดยรวมคนขบั ด้วย
7. รถที่ไมไ่ ดเ้ สยี ภาษีประจําปี
8. รถท่ีใชแ้ ผ่นป้ายที่ทําข้นึ เอง
9.การขบั รถในกรณีที่ด้านซา้ ยของทางเดนิ รถมีส่งิ กดี ขวาง ผขู้ ับข่จี ะต้องปฏิบัตอิ ยา่ งไร
ขับรถหลีกสงิ่ กดี ขวางล้ําเขา้ ไปในเส้นกึง่ กลางของทางเดินรถทางด้านขวาได้ และตอ้ งไม่เปน็ การกีดขวางการจราจรของรถท่สี วนทางมา หากไม่สามารถขับผา่ นไปได้
ต้องหยดุ รอใหร้ ถทข่ี ับสวนทางรถขบั ผ่านมาก่อน
เครอ่ื งหมาย
เคร่ืองหมาย "หยดุ " เครือ่ งหมาย "ใหท้ าง" เครอ่ื งหมาย "ให้ชิด เครอ่ื งหมาย "วงเวียน" เครือ่ งหมาย "หา้ ม
ซา้ ย" หมายความวา่ หมายความวา่ ให้รถทุก กลบั รถ" หมายความว่า
หมายความว่า รถทกุ ชนิดต้อง หมายความว่า รถทกุ ชนดิ
หยดุ ใหร้ ถและคนเดินเท้า ต้องระมดั ระวงั และใหท้ าง ให้ขบั รถไปทางด้านซา้ ย ชนิดเดินวนทางซา้ ยของวง หา้ มมใิ ห้กลับรถไมว่ า่ ดว้ ย
ในทางขวางหนา้ ผ่านไปกอ่ น แก่รถและคนเดินเท้าใน ของเคร่อื งหมาย เวยี น และรถท่เี รม่ิ จะเขา้ สู่ วธิ ีใดๆ ในเขตทางท่ีติดตั้ง
เมอ่ื เหน็ วา่ ปลอดภัย และไม่ ทางขวาขา้ งหนา้ ผ่านไปกอ่ น ทางรว่ มบริเวณ วงเวยี นต้อง เครอื่ งหมาย
เป็นการกดี ขวางการจราจรที่ เม่อื เหน็ วา่ ปลอดภัยและไม่ หยุดใหส้ ิทธิแก่รถทแี่ ลน่ อยู่
บรเิ วณทางแยกน้นั แลว้ เปน็ การกดี ขวางการจราจรที่ ในรอบวงเวยี นผ่านไปกอ่ น
เคลื่อนรถตอ่ ไปด้วยความ บรเิ วณทางแยกน้นั แลว้ จึง หา้ มขับรถหรอื ตดั หน้ารถที่
ระมัดระวงั ให้เคล่ือนรถต่อไปด้วยความ อยใู่ นเขตทางรอบบริเวณวง
ระมัดระวัง เวียน
เคร่ืองหมาย "หา้ มเลี้ยว เครอ่ื งหมาย "ทางล่ืน" เคร่ืองหมาย " เครื่องหมาย "ทางโค้ง เครื่องหมาย "ทางรถไฟ
ซา้ ย" หมายความวา่ หา้ มมิ สัญญาณไฟจราจร" ซา้ ย" หมายความว่า ทาง ตดั ผ่านและไมม่ ีเครอ่ื งกัน้
หมายความว่า ทางข้างหน้าล่นื ข้างหน้าโค้งไปทางซ้าย ให้ขับ ทาง" หมายความวา่ ใหข้ ับรถให้
ใหเ้ ลีย้ วรถไปทางซา้ ย อาจเกิดอบุ ัติเหตไุ ดง้ า่ ย ให้ หมายความวา่ ทางข้างหน้ามี
ขบั รถใหช้ า้ ลงใหม้ าก และ สัญญาณไฟจราจรติดต้งั อยู่ รถใหช้ ้าลงพอสมควร และ ช้าลงใหม้ ากและสงั เกตดรู ถไฟทัง้
เคร่ืองหมาย "ห้ามจอดรถ" ระมัดระวงั การล่ืนไถล อยา่ ใหผ้ ู้ขับข่ีรถเตรยี มพรอ้ มที่ เดนิ รถชดิ ด้านซา้ ยดว้ ยความ ขวาและทางซา้ ย ถ้ามรี ถไฟกาํ ลงั จะ
ใชห้ า้ มลอ้ โดยแรงและทันที จะหยุดรถไดท้ นั ที ระมัดระวัง ผ่านมาใหห้ ยุดรถใหห้ า่ งจากทาง
หมายความวา่ ห้ามจอดรถทุก การหยุดรถ การเบารถ หรือ รถไฟอย่างน้อย 5 เมตร แล้วรอ
ชนดิ ในเขตทางทตี่ ดิ ต้งั เลี้ยวรถ ในทางลนื่ ต้อง คอยจนกว่ารถไฟนัน้ ผา่ นพน้ ไป
เครอื่ งหมาย กระทาํ ด้วยความระมัดระวงั และปลอดภยั แลว้ จึงเคลือ่ นรถตอ่ ไป
เปน็ พิเศษ ได้ หา้ มมใิ หข้ ับรถตัดหน้ารถไฟใน
ระยะทอ่ี าจจะเกิดอนั ตรายได้เป็นอนั
ขาด
หลักการเบอื้ งต้นของกฎหมายเก่ยี วกบั การจราจร
• ลกั ษณะสําคัญประการหนงึ่ ของกฎหมายก็คือ กฎหมายต้องเป็นคาํ สงั่ หรอื ขอ้ บังคับทใี่ ชไ้ ดเ้ สมอไป (Continuity) หมายความวา่ กฎหมาย
เมอื่ ประกาศมผี ลบังคบั ใชแ้ ลว้ ก็ใชไ้ ด้ตลอดไปจนกว่าจะถูกแกไ้ ข เปลย่ี นแปลงหรือยกเลิก โดยกระบวนการท่ถี กู ตอ้ งตามข้นั ตอนในภายหลงั
เพราะตราบใดทย่ี ังไม่มกี ารยกเลกิ กต็ อ้ งถอื ว่ากฎหมายนน้ั ยงั มอี ยู่ จะหยบิ ยกข้ึนมาใชเ้ ม่อื ใดกย็ งั คงมผี ลบงั คบั ใช้ได้ดังสภุ าษิตกฎหมายท่ีกลา่ ววา่
“กฎหมายนอนหลบั บางคราวแตไ่ ม่เคยตาย” (The Laws Sometime Sleep, Never die) การบังคบั ใช้กฎหมายเกี่ยวกับการจราจรจะมกี าร
ปรับปรุงแก้ไขเปล่ียนแปลง เพ่ือใหเ้ หมาะสมกบั สภาพการจราจรอยตู่ ลอดเวลา จงึ จําเปน็ ตอ้ งเรยี นรอู้ ยา่ งต่อเนอื่ ง
• การกระทําความผดิ กฎหมายเกีย่ วกับการจราจรเปน็ การกระทาํ ผิดท่ีมโี ทษทางอาญาประเภท Mala Prohibita ซ่งึ หมายถึงการกระทําผิดที่
กฎหมายได้บญั ญตั ิไว้ว่าเป็นความผดิ กล่าวคอื การกระทาํ นั้น ๆ ไม่ได้เป็นความชั่วหรอื อาชญากรรมดว้ ยตัวของมนั เองแตอ่ ยา่ งใด เช่น การท่ี
ผ้ขู ับขี่รถยนต์จะเลยี้ วซ้าย หรือเลยี้ วขวาก็ย่อมสามารถกระทาํ ได้โดยอิสระหากขับขีใ่ นบ้านของตนเอง แต่หากขบั ขีไ่ ปบนท้องถนนแล้วฝา่ ฝนื
เครือ่ งหมายจราจรบังคบั ห้ามเลยี้ วซ้ายเขา้ ก็จะเปน็ ความผิดทนั ที ทัง้ ๆ ที่การเล้ยี วซ้ายหรือเลย้ี วขวาก็ไม่ได้เปน็ การชั่วหรือเปน็ อาชญากรรมแต่
อย่างใด
ประโยชน์ของการปฏบิ ตั ิตามกฎหมายจราจร
กฎจราจรมคี วามสําคญั อย่างมากสําหรับผ้ใู ชร้ ถใช้ถนนและแมก้ ระท่งั คนเดินเท้าก็ตอ้ งปฎบิ ตั ิตามกฎจราจรเช่นเดียวกนั กฎจราจรของคนเดนิ เท้ากม็ ี
ความสําคัญไมแ่ พ้กัน เชน่ การเดมิ ข้ามถนนจะต้องเดนิ ขา้ มตรงทางม้าลายหรือสะพานลอยเทา่ น้ัน เพอื่ ความปลอดภัยของตัวผคู้ นเทา้ เองและผขู้ ับขร่ี ถยนต์
เพราะอุบัติเหตุทเ่ี กิดขึน้ กบั คนเดนิ เท้า คือการขา้ มถนนไมต่ รงจุดที่กาํ หนดใหค้ ือทางม้าลายหรอื สะพานลอยน้ันเอง คร้งั น้ีจะเลา่ ถงึ ประโยชนจ์ ากการปฏบิ ัติ
ตามกฎจราจร ดงั น้ี
1. ทําให้การจราจรบนทอ้ งถนนไมต่ ดิ ขดั เม่อื ทุกคนปฏิบตั ิตามกฎจราจรอย่างเครง่ ครดั ในการขับขย่ี านพาหนะแตล่ ะคนก็ขับขี่ไปตามเสน้ ทางของตน ตาม
กนั ขา้ ม ถ้ามีบางคนไม่ปฏิบัตติ ามกฎจราจรก็อาจจะทําใหเ้ กิดปญั หาการจราจรตดิ ขดั ข้นึ ได้
2. การปฏิบตั ติ ามกฎจราจรจะเป็นการปอั งกันอุบตั ิเหตทุ ี่จะน่ามาซึ่งความสูญเสียชวี ิตทัง้ ร่างกายและทรัพยส์ นิ ของประชาชนและประเทศชาตใิ นปจั จุบันนย้ี งั
มผี ฝู้ ่าฝืนกฎหมายจราจรอยู่เสมอ จะเหน็ ได้จากขา่ วอบุ ัตเิ หตุตามท้องถนนสายต่างๆ ทัง้ ในกรงุ เทพมหานครและต่างจังหวดั นักเรยี นเป็นผูห้ น่งึ จะมีส่วน
ช่วยรณรงค์ให้มกี ารปฏิบตั ิตามกฎหมายจราจร
จากข้อมูลทง้ั หมดท่กี ลา่ วมานีเ้ ปน็ ข้อมลู เก่ียวกับประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ิตามกฎจราจรอย่างเครง่ ครัด หวงั อยา่ งย่งิ ว่าขอ้ มลู ที่นําเสนอน้จี ะเปน็ ประโยชนต์ ่อ
ผอู้ า่ นไม่มากก็น้อย (ข้อมลู รถยนต)์
ปญั หาอุบัติเหตุจากการผดิ กฎจราจร
ปัจจบุ นั ปญั หาอบุ ัติภยั จากการจราจรเพ่ิมสงู ขนึ้ ทัง้ ด้านปริมาณและความรุนแรง สําหรบั ประเทศไทยอุบัติเหตุบนท้องถนนเปน็
สาเหตกุ ารบาดเจ็บ พกิ ารและเสียชีวิตที่มแี นวโนม้ สงู ขน้ึ ทกุ ปี คดิ เปน็ อตั รารอ้ ยละ 12.8, 18.4, 20.9 และ 20.5 ต่อแสน
ประชากรในปี พ.ศ. 2541-2544 (ศูนย์ข้อมูลขา่ วสารสาธารณสขุ สํานกั นโยบายและแผนสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข) สว่ น
สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุบนถนนนนั้ ไดม้ นี ักวิชาการหลายสาขาได้ศกึ ษาถงึ สาเหตขุ องอุบตั ิเหตุท่ีสําคัญ 2 ประการคอื เกิดจากการกระ
ทาํ ท่ีไม่ปลอดภยั ไดแ้ ก่ พฤติกรรมต่างๆ อันอาจกอ่ ใหเ้ กิดอบุ ตั ิเหตุ เช่น ความประมาท มกั งา่ ย การฝา่ ฝืนกฎระเบยี บ เปน็ ตน้
และเกดิ จากสภาวะที่ไมป่ ลอดภยั ได้แก่ สภาพแวดล้อมทอ่ี าจก่อใหเ้ กดิ อุบัตเิ หตไุ ด้ เชน่ ถนนชาํ รดุ แสงสว่างไมเ่ พยี งพอ ทางโค้ง
เปน็ ตน้ โดยสรุปแลว้ ปจั จยั สําคญั ทมี่ ผี ลกระทบต่อการเกดิ อบุ ตั ิเหตใุ นการจราจร ได้แก่ ถนน ยานพาหนะผใู้ ชร้ ถใช้ถนนและ
สิ่งแวดลอ้ ม การป้องกนั อุบัตเิ หตุในการจราจรทางบก จงึ ตอ้ งแกท้ ่ีสาเหตุของปัญหาดงั กล่าว โดยเนน้ หลัก 3 ประการคอื การให้
การศึกษาเกย่ี วกับการจราจรดา้ นความรู้ เจตคตแิ ละการปฏิบัติ การควบคุมบังคบั ให้เป็นไปตามกฎหมาย และการปรับปรงุ แก้ไข
โครงสรา้ งดา้ นวิศวกรรมจราจร
สมาชิก
1. นางสาว ณฐั กมล บญุ เจริญ รหสั 047 ภาษาจีนธรุ กิจ
2. นางสาว นิชานันท์ บญุ พา รหสั 049 ภาษาจนี ธุรกจิ
3. นางสาว วิลาวัลย์ ชํานเิ ชงิ ค้า รหัส 057 ภาษาจีนธรุ กิจ
4. นางสาว ณฐั รกิ า วา่ นแสงธรรม รหสั 065 ภาษาจนี ธรุ กจิ
THANK YOU