นิทานพนื้ บ้าน
เร่ือง อุสา - บารส
นิทานพนื้ บ้านอีสาน อุสา – บารส เป็ นวรรณกรรมพนื้ บ้านของ
ชาวอาเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เป็ นแนวคดิ ค่านิยมในเร่ืองความรักหนุ่ม
สาว ความกตัญญู นางอุสาไม่สมหวังในรัก เพราะฆ่าพ่อ และเป็ นตานาน
อธิบายช่ือสถานท่ีต่าง ๆ ในท้องถ่ิน การท่ีชาวบ้านรอบๆ ภูพระบาทได้
นาเอาช่ือและเร่ื องราวในตานานอุษาบารสไปผูกโยงเข้ ากับเพิงหินและ
สถานท่ีต่างๆ บนภูพระบาท ซ่ึงเพิงหินและสถานท่ีเหล่านัน้ เคยถูกดัดแปลง
เพ่ือเป็ นสถานท่ีศักด์ิสิทธ์ิทางความเช่ือเร่ือยมาตัง้ แต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์
จนถึงยุคอาณาจักรล้านช้าง เหตุนีจ้ ึงอาจกล่าวได้ว่าความโดดเด่นและความ
เก่าแก่ของเพิงหินและสถานท่ีต่างๆ บนภูพระบาทท่ีมีการซ้อนทับทาง
วัฒนธรรมมาในหลายยุคหลายสมัยคือส่ิงท่ีช่วยตอกยา้ และรักษาการมีอยู่
ของตานานอุษาบารส ฉบับวัดพระพุทธบาทบัวบกให้มีชีวิตโลดแล่นอยู่ใน
ความทรงจาของชาวบ้านแถบภูพระบาทและใกล้เคียงเร่ือยมาตัง้ แต่อดีต
จนถงึ ปัจจุบัน
ท้าวกงพานเจ้าเมืองพานซ่งึ ตัง้ อย่บู ริเวณภูพระบาทได้ไป
ขอนางอุสาจากฤาษีจันทามาเลีย้ งเป็ นราชธิดาบุญธรรม นางอุสาผู้ท่ีเกิด
จากดอกบัวในสระบนเทือกเขาและพระฤาษีจันทาผู้เป็ นอาจารย์ท้าวกง
พานได้นามาเลีย้ งไว้ นางอุสามีความงามเป็ นเลิศและมีกล่ินกายหอมกรุ่น
ท้าวกงพานจึงหวงแหนมากไม่ยอมยกให้บรรดาเจ้าชายต่างเมืองท่ีมาสู่ขอ
และได้สร้างตาหนักเป็ นหอสูงไว้ให้นางอยู่อาศัยขณะมาเรียนวิชากับฤาษี
จันทา
เม่ือนางอุสาเตบิ โตเป็ นสาวกม็ ีความงดงามจน เป็ นท่ีเลืองลือไปท่ัว
ทุกแคว้น กล่าวฝ่ าย พระยาไกลาสครองเมืองภูเงนิ ทราบข่าวความ
งดงามของนางอุสาจึงใคร่อยากได้นางมา เป็ นมเหสีจึงนาทองคา
และเงินมาถวายพระยาพานเพ่ือขอนางอุสาไปเป็ นมเหสี แต่
นางอุสาปฏเิ สธพระยาไกรลาสจงึ กลับเมืองภูเงนิ ไปอย่างผิดหวัง
วันหน่ึงนางได้ไปเล่นนา้ ท่ีลาธารใกล้ตาหนัก นางได้เก็บดอกไม้มา
ร้อยมาลัยรูปหงส์ลอยนา้ ไปเพ่ือเส่ียงทายหาคู่มาลัยรูปหงส์ได้ลอย
ไปจนถงึ เมืองปะโคเวยี งงวั ท่ีมีท้าวบารสเป็ นโอรสของเจ้าเมือง
ท้าวบารสและบริวารได้ข่ีม้าจนถึงหินก้อนหน่ึง ม้าก็ไม่ยอมเดินทางต่อ
พระองค์จงึ หยุดพักม้าไว้ส่วนบริวารกแ็ ยกไปผูกม้าท่ีหนิ อีกก้อนหน่ึง ท้าว
บารสได้เดินเท่ียวป่ าพบนางอุสาท่ีกาลังอาบนา้ อยู่ และรู้ว่าเป็ นเจ้าของ
พวงมาลัยทงั้ คู่เกดิ ความรักและลักลอบได้เสียกัน โดยท่ีท้าวกงพานไม่รู้
ต่อมาท้าวกงพานทราบเร่ือง ก็ทรง พิโรธจะประหารท้าวบารส แต่เสนา
อามาตย์ห้ามไว้เพราะเกรงฤทธ์ิเดชพระราชบิดาของท้าวบารส ท้าวกงพาน
จงึ คิดอุบายให้แข่งขันสร้างวัดในหน่ึงวันให้แล้วเสร็จ โดยเร่ิมนับตัง้ แต่เช้า
จนดาวประกายพรึก (ดาวเพ็ก) ขึน้ ผู้ใดสร้ างไม่เสร็จต้องถูกตัดเศียร
ท้าวกงพานได้เกณฑ์ไพร่พลจานวนมากมาสร้างวัดท่ีเมืองกงพาน ส่วนท้าว
บารสมีบริวารเพียงเลก็ น้อยท่ีมาด้วยจงึ สร้างได้ช้ากว่า
พ่ีเลีย้ งนางอุสาจึงคิดหาวิธีช่วยโดยให้ท้าวบารสนาโคมไฟไปแขวนบนยอด
ไม้ใหญ่ในเวลาดกึ ฝ่ ายพวกเมืองพานมองเหน็ คิดว่าดาวขนึ้ แล้วจึงหยุดสร้าง
วัด ส่วนท้าวบารสก็ได้เร่งสร้างวัดของตนเองจนแล้วเสร็จ เม่ือเป็ นดังนีท้ ้าว
กงพานจงึ เป็ นฝ่ ายแพ้ และถกู ตัดเศียรสนิ้ ชีพไป
ท้าวบารสจึงพานางอุสากลับไปบ้านเมืองตน แต่ด้วยเหตุท้าวบารสมีชายา
เดิมอยู่ก่อนแล้ว วันหน่ึงท้าวบารสออกประพาสป่ านางอุสาจึงถูกกล่ันแกล้ง
จนทนไม่ ไหวต้ องหนีกลับมาเมืองพานและตรอมใจตายด้ วยความเศร้ าโศก
เสียใจ ฝ่ ายท้าวบารสทราบเร่ืองก็ติดตามนางอุสามายังเมืองพาน และ
ตรอมใจตายตามนางอุสาไปในท่สี ุด
ข้อคดิ สอนใจ
นิทานพืน้ บ้านเร่ือง อุสา - บารส เป็ นวรรณกรรมท่ีคน
ท้องถ่นิ เล่าขานสืบทอดกันมาเป็ นเวลาช้านาน เหตุการณ์และช่ือตัวละคร
ได้ถูกผูกโยงเข้ากับสถานท่ีบนภูพระบาท ซ่ึงโบราณสถานหลายแห่งใน
ปัจจุบัน ยังคงใช้ช่ือท่ีเก่ียวโยงกับนิทานพืน้ บ้านเร่ืองนี้ อุสา - บารส มี
หลายสานวน แต่ละฉบับมีเนือ้ หาแตกต่างกันบ้าง แต่โดยแก่นของเร่ือง
นัน้ ไม่ได้ต่างกัน เป็ นแนวคิดค่านิยมในเร่ืองความรักหนุ่มสาว ความ
กตัญญู นางอุสาไม่สมหวังในรัก
สมาชกิ
1. 44-ด.ช.ฉัตรชัย สันธนะพานิช ม.1/12 (ทา)
2. 41-ด.ช.จนิ ตนาการ ราชหงษ์ ม.1/12 (ทา)
3. 39-ด.ช.พรี พล ปี นัง ม.1/12 (ทา)
4. 46-ด.ช.ไวยากรณ์ นครสันตภิ าพ ม.1/12 (ทา)
5. 45-ด.ช.แทนพงศ์ สทิ ธจิ ันดา ม.1/12 (ทา)
6. 37-ด.ช.วัชระพงศ์ เกษารัตน์ ม.1/12 (ทา)
7. 38-ด.ช.ศุภรุจ ทานะ ม.1/12 (ทา)
จบบริบรู ณ์