The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แรง จันทร์จิรา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by วราภรณ์ วังคะวิง, 2020-02-19 21:44:10

แรง จันทร์จิรา

แรง จันทร์จิรา

https://www.oocities.org/thaient2002/page3.html

เรอ่ื ง แรงและการเคลื่อนท่ี

เสนอ
นางสาว วราภรณ์ วังคะวงิ

จดั ทาโดย
ด.ญจันทรจ์ ิรา ชถู น่ิ
รายวิชา วทิ ยาศาสตร์
ชั้นมธยมศกึ ษาปที ่ี 2

โรงเรนี บ้านหัวหนอง(สังฆวิทยา)
สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษา ประถมศึกษา มหาสารคามเขต ๑

แรง

แรง (force) เป็นสิง่ ท่ที ำให้วัตถเุ ปลยี่ นรปู ร่ำง เปลี่ยนทศิ ทำง เกิดกำรเคลือ่ นท่หี รือหรือหยุดนิง่ ได้
แรงสำมำรถเปลี่ยนควำมเรว็ ของวัตถุได้ หรอื กลำ่ วไดว้ ำ่ แรงทำให้วัตถุเกดิ ควำมเรง่

ถำ้ มแี รงขนำดเทำ่ กนั กระทำต่อวัตถุในทศิ ทำงตรงกนั ขำ้ ม อำจจะทำให้เกดิ กำรเปลย่ี นแปลงรปู ร่ำงและ
ขนำดของวตั ถุ แต่ไม่มกี ำรเคล่อื นท่ีของวตั ถุ

ลกั ษณะของแรง แรงเป็นปริมำณเวกเตอร์ มีทง้ั ขนำดและทศิ ทำง มีหน่วยเป็นนวิ ตัน (N) ใช้สัญลกั ษณ์
F เขียนแทนแรง กำรเขียนสัญลักษณ์ของแรงที่บอกทศิ ทำงของแรงด้วยน้ัน จะใช้ควำมยำวของ
เสน้ ตรงแทนขนำด และใช้หัวลูกศรแทนทิศทำงของแรง เรียกว่ำ เวกเตอรข์ องแรง

ใบควำมรู้ เร่ือง แรงแบบต่ำงๆ

แรงเคล่อื นท่แี ละตำแหนง่ ของวตั ถุ

กำรเคลื่อนทขี่ องวัตถุมีกำรเคลอ่ื นท่ีแบบต่ำงๆ เช่น กำรเคลอ่ื นทใี่ นแนวตรง แนวโคง้ และกำร
เคล่อื นที่เปน็ วงกลม ซงึ่ ในกำรเคลอื่ นท่นี น้ั ระบุว่ำ วตั ถุอยู่ทีใ่ ดต้องกำหนดจุดอ้ำงอิง ระยะทำงและทศิ ท่ี
วตั ถนุ ้นั ห่ำงจำกจุดอ้ำงอิง ซึง่ เรียกวำ่ กำรกระจัด ซึ่งกำรกระจดั เปน็ ปริมำณเวกเตอร์ โดยปริมำณ
เวกเตอรเ์ ปน็ ปริมำณทมี่ ที งั้ ขนำดและทิศทำง เขยี นแทนด้วยลูกศร ควำมยำวของลกู ศรแทนขนำด และ
หวั ลูกศรแทนทิศทำง วตั ถุทก่ี ำลงั เคลื่อนทจี่ ะเคลอื่ นท่ีเรว็ หรอื ชำ้ พิจำรณำจำกระยะทำงท่ีได้หรือกำร
กระจดั ทีไ่ ด้เทยี บกับเวลำทใ่ี ช้ในกำรเคล่อื นท่ี

กำรเคล่อื นที่แบบตำ่ งๆ มีลักษณะเฉพำะของกำรเคล่ือนท่ี

กำรเคลือ่ นท่แี นวเส้นตรง : วตั ถุจะเคลอื่ นทใี่ นแนวเดิม (ทศิ เดิมหรือทศิ ตรงข้ำม) โดยอำจมีแรงกระทำ
ตอ่ วตั ถุหรอื ไม่กไ็ ด้ ถำ้ มีแรงกระทำ ทศิ ของแรงทีก่ ระทำจะอย่ใู นแนวเดียวกับแนวกำรเคลอ่ื นท่ีของวตั ถุ
เสมอ

กำรเคลอ่ื นที่แนวโคง้ : วัตถจุ ะมีกำรเคลอ่ื นท่ี 2 แนวพร้อมๆ กนั เชน่ เคลอ่ื นท่ีในแนวรำบและใน
แนวด่ิง แรงท่ีกระทำต่อวัตถุจีทิศคงตัวตลอดเวลำ โดยทำมมุ ใดๆ กับทิศของควำมเร็ว เช่น แรงดึงดดู
ของโลก

กำรเคลือ่ นทว่ี งกลม : วตั ถุเคลอื่ นทเี่ ปน็ ส่วนโค้งรอบจุดๆ หนง่ึ โดยมแี รงกระทำในทิศเขำ้ ส่ศู ูนย์กลำง

กำรเคลอ่ื นที่แบบฮำร์มอนิกอย่ำงง่ำย : วัตถุจะเคลอื่ นท่กี ลับไปมำซ้ำรอยเดิมโดยมีแอมพลจิ ูดคงตัว

แรงกบั กำรเคลื่อนท่ีของวตั ถุ (แรงทกี่ ระทำต่อวัตถุ)

กำรออกแรงกระทำต่อวัตถุอำจทำให้วัตถเุ คลือ่ นท่ีได้ หรอื วัตถอุ ำจไมเ่ คลื่อนท่ี เนอื่ งจำกมีแรงย่อยอนื่
มำรว่ มกระทำ ทำใหเ้ กดิ กำรหักล้ำงของแรงในปรมิ ำณเวกเตอร์ ดังน้นั วัตถุท่ีจะเคลื่อนที่ได้หรือไม่ได้ก็
ขน้ึ อยกู่ บั แรงลัพธ์ท่มี ำกระทำตอ่ วตั ถนุ ัน่ เอง

เมอ่ื ออกแรงกระทำต่อวัตถุแลว้ วัตถไุ ม่เคลอ่ื นท่ี เนอ่ื งจำกถกู หกั ล้ำงดว้ ยแรงอืน่ ที่ร่วมกระทำต่อวัตถุนนั้
แต่ไมว่ ่ำวัตถนุ ั้นจะเคลอื่ นที่หรือไมเ่ คล่อื นที่กต็ ำมจะเกิดแรงลพั ธ์ของวัตถเุ สมอ

แรงเป็นปริมำณทีม่ ีขนำดและทิศทำง แรงจงึ เป็นปริมำณเวกเตอร์ กำรรวมแรงต้องรวมแบบเวกเตอร์
ในกำรรวมแรงหลำยๆ แรงทกี่ ระทำต่อวัตถุ ถ้ำผลรวมของแรงท่ไี ด้เป็นศนู ย์แสดงว่ำ วัตถุน้นั อยู่ใน
สภำพสมดุล เมอ่ื ปลอ่ ยวตั ถุ วัตถุนั้นจะตกลงสู่พืน้ ดนิ แสดงวำ่ มีแรงกระทำตอ่ วัตถุ ซ่งึ แรงนัน้ เกิดจำก
แรงดึงดดู ทีโ่ ลกกระทำต่อวัตถุ หรือทเี่ รียกว่ำ แรงโน้มถ่วงของโลก หรือนำ้ หนักของวัตถนุ นั่ เอง แรง
โน้มถ่วงนีจ้ ะมคี ่ำมำกหรอื นอ้ ยขนึ้ อยกู่ บั มวลของวัตถุ ในกำรลำกวัตถใุ ห้เคลือ่ นที่ไปบนพืน้ ผิวจะมีแรง
ตำ้ นกำรเคลือ่ นท่ี เรียกแรงนีว้ ำ่ แรงเสียดทำน ซ่ึงแรงเสยี ดทำนจะมีค่ำมำกหรือน้อยขน้ึ อยกู่ บั ลกั ษณะ
ผิวสมั ผสั ระหว่ำงวัตถุทั้งสองและแรงทวี่ ัตถุกดพื้น กิจกรรมบำงอย่ำงต้องกำรให้ผวิ สมั ผัสมีแรงเสียด
ทำน แตก่ จิ กรรมบำงอย่ำงตอ้ งกำรลดแรงเสียดทำนระหวำ่ งผิวสัมผัส

เมื่อออกแรงแล้วทำให้วัตถุเคล่ือนทีไ่ ปตำมแนวแรงนั้น เรียกวำ่ มกี ำรทำงำน คำนวณหำค่ำของงำนที่
ทำได้จำกผลคูณของแรงและระยะทำงในแนวเดียวกันกับแรง และกำหนดให้งำนทท่ี ำได้ในหน่งึ หน่วย
เวลำ คอื กำลงั

ในบำงกรณี เมอื่ ออกแรงกระทำตอ่ วตั ถอุ ำจทำใหว้ ตั ถุหมุน เรียกวำ่ เกิดโมเมนต์ของแรง ซ่ึงเกดิ เมอื่
แรงทีก่ ระทำมีทิศตั้งฉำกกบั ระยะทำงจำกจดุ หมนุ ไปยังแนวแรง กำรหมุนนม้ี ีทั้งหมุนในทศิ ตำมเขม็
นำฬิกำ และทวนเขม็ นำฬิกำ โดยถ้ำผลรวมของโมเมนต์ตำมเข็มนำฬกิ ำเท่ำกับผลรวมของโมเมนตท์ วน
เขม็ นำฬิกำ วัตถจุ ะอยใู่ นสภำพสมดุล

เมอื่ มีแรงกระทำต่อวัตถทุ ำให้วัตถเุ คลื่อนท่ีสำมำรถวัดอตั รำเรว็ หรือขนำดของควำมเร็วของกำรเคลื่อนที่
ได้จำกกำรใช้เครอ่ื งเคำะสัญญำณเวลำ วตั ถุที่เคลือ่ นที่โดยมีควำมเรว็ เปล่ียนไป เรียกวำ่ วัตถุเคลอ่ื นท่ี
โดยมคี วำมเรง่ โดยควำมเร่งจะมที ศิ เดียวกบั ทศิ ของแรงลัพธ์ท่กี ระทำต่อวัตถุ

กำรเคล่ือนที่ของวัตถนุ อกจำกจะเคลือ่ นท่ีในแนวตรงแล้ว ยังมีกำรเคลื่อนท่ีแบบอ่ืนอกี เช่น กำร
เคลอื่ นท่แี บบโพรเจคไทล์ ซ่ึงเปน็ กำรเคลอ่ื นที่แนวโค้ง โดยได้ระยะทำงในแนวรำบและแนวดิ่งพรอ้ มๆ
กัน กำรเคลื่อนทใี่ นแนววงกลม เป็นกำรเคลอ่ื นท่ีทีม่ ีแรงกระทำต่อวัตถใุ นทิศเข้ำสู่ศูนยก์ ลำง

แรงชนดิ ต่ำง

แรงลัพธ์ หรอื แรงรวม หมำยถงึ ผลรวมของแรงย่อยแบบเวกเตอรข์ องแรงทั้งหมดทก่ี ระทำต่อวัตถุ ถ้ำ
แรงลัพธม์ คี ่ำเป็นศนู ย์ แสดงวำ่ วัตถุไมม่ กี ำรเคลอ่ื นที่อนั เนอื่ งมำจำกแรงทีม่ ำกระทำต่อวตั ถุ

แรงยอ่ ย หมำยถงึ แรงทเี่ ปน็ องคป์ ระกอบของแรงลัพธ์

กำรหำค่ำแรงลพั ธจ์ ำกเวกเตอร์

เมอื่ แรงย่อยมที ศิ ทำงเดียวกัน ให้นำแรงย่อยมำรวมกัน สำมำรถเขียนเวกเตอร์แทนแรงไดด้ ้วยเส้นตรง
และหัวลูกศร

เม่ือแรงย่อยมีทศิ ทำงตรงกันขำ้ ม ใหน้ ำค่ำของแรงยอ่ ยมำหกั ล้ำงกัน เวกเตอร์ของแรงลพั ธ์จะมีทิศไป
ทำงแรงท่ีมำกกว่ำ ค่ำของแรงลัพธ์เท่ำกับผลต่ำงของแรงย่อยทง้ั สอง

ถ้ำแรงย่อยเท่ำกัน แตม่ ที ิศทำงตรงขำ้ ม จะได้แรงลัพธม์ ีคำ่ เป็นศนู ย์และไมม่ คี วำมเรง่ ดงั น้นั วัตถุจะคง
สภำพเดมิ

กำรเขียนปรมิ ำณเวกเตอร์ เขียนแทนดว้ ยเส้นตรงทีม่ ีหวั ลูกศรกำกับควำมยำวของเสน้ ตรงแทนขนำด
ของเวกเตอร์ และหัวลกู ศรแทนทิศทำงของเวกเตอร์ กำรเขียนสญั ลักษณ์ของเวกเตอรเ์ ขียนได้หลำย
แบบ เช่น เวกเตอร์ A สำมำรถเขียนสญั ลกั ษณแ์ ทนเปน็ หรือ a

กำรหำแรงรวมหรือแรงลพั ธด์ ้วยกำรเขียนรูป

ใช้เส้นตรงแทนขนำดของแรงและใช้ลูกศรแทนทศิ ของแรง

เรม่ิ ต้นด้วยแรงตัวที่ 1 แล้วนำแรงตัวที่ 2 มำชนโดยใหห้ ำงลูกศรของแรงตัวท่ี 1 ชนกบั หัวลูกศรของ
แรงตัวที่ 1 ตอ่ กันเชน่ นี้เร่ือยไป

แรงโน้มถ่วงของโลก

จำกกฏควำมโนม้ ถ่วงของนวิ ตนั แรงโน้มถ่วง (gravity) ของโลกทก่ี ระทำกับวตั ถมุ วลใดๆ ในท่นี ้ีจะ
ศกึ ษำควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งมวลและน้ำหนักของมวล วำ่ แรงสำมำรถทำใหว้ ัตถุเปลยี่ นรปู ร่ำงหรอื
เปล่ียนสภำพกำรเคลือ่ นท่ี เช่น ถำ้ ปลอ่ ยมือจำกวัตถุท่ีถอื ไว้ วตั ถุจะเปล่ียนแปลงสภำพกำรเคลอื่ นท่ีตก
ลงส่พู ื้นเนอื่ งจำกมีแรงดึงดูดของโลกที่กระทำตอ่ วัตถุ หรอื ทีเ่ รียกว่ำ แรงโน้มถ่วงของโลก โดยแรงนี้จะ
มีคำ่ มำกหรอื น้อยนน้ั ข้ึนอยูก่ บั มวลของวตั ถนุ ้ันๆ โดยวตั ถุทมี่ ีมวลมำกก็จะมีนำ้ หนักมำก วตั ถุท่ีมมี วล
น้อยกจ็ ะมนี ้ำหนกั น้อย

ประโยชนท์ ี่ได้จำกแรงโนม้ ถ่วงของโลก เชน่ ทำให้วัตถุตำ่ งๆ ไมล่ อยออกไปนอกโลก ทำใหน้ ำ้ ไหลจำก
ทสี่ ูงลงสทู่ ี่ต่ำและใช้พลังงำนของนำ้ ในกำรผลิตกระแสไฟฟำ้

มวล คอื ปริมำณเนอื้ ของสำรซ่งึ มคี ่ำคงตวั มีหน่วยเป็นกโิ ลกรมั

นำ้ หนกั ของวัตถุบนโลก เกดิ จำกแรงดึงดูดระหวำ่ งมวลของวัตถุและโลก

นำ้ หนักของวตั ถชุ นิ้ หนึง่ ๆ เม่ือชัง่ ในปริมำณตำ่ งกนั จะมคี ำ่ ตำ่ งกัน โดยนำ้ หนกั ของมวล 1 กโิ ลกรัมที่
บริเวณเสน้ ศนู ย์สตู รมีค่ำประมำณ 9.78 นิวตนั ในขณะท่ีน้ำหนกั ของมวล 1 กโิ ลกรัม ทีบ่ ริเวณข้ัว
โลกมีค่ำประมำณ 9.83 นิวตัน

แรงเสียดทำน

แรงเสยี ดทำน (friction) หมำยถึง แรงที่ต่อต้ำนกำรเคลื่อนที่ของวัตถุ แรงเสียดทำนเกิดข้นึ ระหวำ่ ง
ผวิ สมั ผสั ของวัตถกุ ับผิวของพื้น เช่น เม่ือเรำเขน็ รถเข็นเด็ก

ปัจจัยที่มีผลตอ่ แรงเสียดทำน คอื นำ้ หนกั ของวัตถุ วัตถทุ มี่ ีนำ้ หนักกดทับลงบนพนื้ ผิวมำกจะมีแรงเสียด
ทำนมำกกวำ่ วัตถทุ มี่ นี ำ้ หนักกดทบั ลงบนพนื้ ผวิ น้อยพื้นผิวสมั ผัส ผิวสัมผัสทีเ่ รยี บจะเกดิ แรงเสียดทำน
น้อยกว่ำผิวสมั ผัสท่ีขรขุ ระจำกนน้ั นอ้ งๆ ดกู ำรทดลองเรื่องแรงตำ้ นทำนกำรเคล่ือนท่ีของวัตถุ ดังน้ี

จำกสรุปจำกผลกำรทดลอง ได้ว่ำ "แรงต้ำนกำรเคล่ือนทข่ี องวตั ถุทเ่ี กิดขึ้นบริเวณผวิ สัมผสั ของวัตถทุ ้ัง
สองขณะเคลอื่ นที่ คอื แรงเสียดทำน"

นอกจำกน้ี แรงเสยี ดทำนจะมคี ำ่ เปลย่ี นไปเมือ่ ลกั ษณะผวิ สัมผัสระหว่ำงวัตถุเปลีย่ นไป โดยถำ้ ผวิ สมั ผัส
เป็นผิวหยำบหรอื ขรุขระ แรงเสยี ดทำนจะมีค่ำมำก แตถ่ ำ้ ผวิ สมั ผัสเรียบหรือลืน่ แรงเสียดทำนจะมีค่ำ
น้อย

ควำมต่ำงมวลของวตั ถกุ ับแรงเสยี ดทำน

"แรงเสียดทำนจะมคี ่ำเพิม่ ข้ึน เมอื่ จำนวนถงุ ทรำยเพิ่มข้ึน เพรำะเมอ่ื จำนวนถงุ ทรำยเพ่ิมข้นึ แรงท่ีถุง
ทรำยกดพนื้ ก็จะมำกข้นึ ดว้ ย แสดงว่ำ แรงเสียดทำนระหวำ่ งวัตถคุ หู่ นง่ึ ๆ จะมำกขึน้ กับแรงทีว่ ตั ถกุ ดพ้นื
มีค่ำมำกขนึ้

ประเภทของแรงเสียดทำน

แรงเสยี ดทำนแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คือแรงเสียดทำนสถิต (fs) เปน็ แรงเสยี ดทำนท่เี กิดขน้ึ ในขณะที่
วัตถุอยูน่ งิ่ จนถงึ เริม่ ตน้ เคลื่อนท่ี

แรงเสียดทำนจลน์ (fk) เป็นแรงเสยี ดทำนขณะวัตถุกำลงั เคลอ่ื นทดี่ ้วยควำมเร็วคงตวั ซ่งึ จะมีคำ่ นอ้ ย
กว่ำแรงเสียดทำนสถิต

คำ่ สมั ประสทิ ธ์ิของแรงเสียดทำน เปน็ คำ่ ตัวเลขทีแ่ สดงว่ำเกดิ แรงเสียดทำนขนึ้ ระหวำ่ งผิวสัมผัสของวัตถุ
2 สงิ่ มำกน้อยเพียงใด ใช้สัญลักษณแ์ ทนด้วยตัวอักษร µ (มิว)

สูตรกำรหำค่ำสัมประสทิ ธิ์ของแรงเสยี ดทำน (µ) ดงั นี้

ตวั อยำ่ ง กำรหำค่ำสมั ประสิทธ์ขิ องแรงเสียดทำน

แรงเสียดทำนมีทั้งประโยชนแ์ ละโทษ บำงคร้ังในชวี ิตประจำวนั เรำก็ได้ประโยชน์จำกแรงเสยี ดทำน
กำรเกิดควำมฝืดช่วยในกำรเดินได้เร็วและไม่ล่ืน เป็นตน้

ประโยชนแ์ ละโทษของแรงเสยี ดทำน

มนุษยเ์ รำมคี วำมรู้เกยี่ วกบั แรงเสียดทำนมำใชป้ ระโยชน์ เพ่ืออำนวยควำมสะดวกในชีวิตประจำวนั ดังนี้

ชว่ ยใหร้ ถเคลอ่ื นท่ไี ปขำ้ งหนำ้ ได้ ยำงรถจงึ มรี ่องยำงชว่ ยเพิ่มประสทิ ธิภำพกำรยึดเกำะถนนทีเ่ รียกว่ำ
ดอกยำง

ชว่ ยให้รถถอยหลังได้ ยำงรถยนตจ์ งึ มีลวดลำยดอกยำงเพ่ือชว่ ยในกำรยดึ เกำะถนน

กำรเดนิ บนพ้ืนต้องอำศยั แรงเสยี ดทำน จึงควรใช้รองเทำ้ ทม่ี พี ้นื เป็นยำงและมีลวดลำยขรขุ ระ ไม่ควรใช้
รองเทำ้ แบบพืน้ เรยี บ แรงเสยี ดทำนน้อยจะทำใหล้ น่ื

นกั ว่ิงเรว็ ทีใ่ ช้รองเท้ำพน้ื ตะปู เพ่อื เพ่ิมแรงเสียดทำน ทำใหม้ ีแรงยึดเกำะกบั พื้นผวิ ลูว่ ่งิ ชว่ ยให้วิง่ ได้เรว็
ขน้ึ

โทษของแรงเสียดทำน

แรงเสียดทำนทำให้ส้นิ เปลืองพลงั งำนและทำให้เกิดกำรสึกหรอของอุปกรณต์ ่ำงๆ ในเคร่ืองจักร ดงั นน้ั
กำรหำวิธีลดแรงเสียดทำน เพอื่ รกั ษำประสทิ ธิภำพในกำรทำงำนของเครื่องจักรกลทัง้ หลำย

โมเมนต์

โมเมนต์ (moment) เปน็ ควำมสำมำรถของแรงในกำรหมุนวัตถรุ อบจุดหมุน ขนำดของโมเมนต์หำได้
จำก แรงคูณกบั ระยะทำงตัง้ ฉำกจำกจดุ ท่ีแรงกระทำไปยังจดุ หมุน

เมื่อมีแรงภำยนอกมำกระทำต่อวัตถุ โดยแนวแรงไมผ่ ่ำนจดุ ศูนย์กลำงมวล วัตถุนั้นจะหมุนรอบๆ จุด
ศูนย์กลำงมวล ผลของกำรเกิดข้นึ เรียกว่ำ โมเมนต์เชน่ กำรปัน่ จักรยำน กำรเปดิ ฝำขวด กำรเปิน
ประตู เป็นต้นโมเมนต์ เป็นผลคูณของแรงกับระยะทำงในแนวตัง้ ฉำกจำกจดุ ทแี่ รงกระทำไปยังจุดหมนุ
หนว่ ยของโมเมนต์ คอื

นิวตนั .เมตร (N.m)

ชนดิ ของโมเมนต์จำแนกตำมลกั ษณะของกำรหมนุ คือ

กฎของโมเมนต์

เม่อื วตั ถุหน่ึงถกู กระทำด้วยแรงหลำยแรง ซึง่ แรงกระทำน้นั ๆ ทำให้วัตถุอยู่ในภำวะสมดุล (ไม่เคลือ่ นที่
และไมห่ มนุ ) พบว่ำ

ผลรวมของโมเมนตท์ วนเข็มนำฬิกำ = ผลรวมของโมเมนต์ตำมเข็มนำฬิกำกำรนำหลักโมเมนตไ์ ปใช้
ประโยชนก์ บั เคร่ืองกลประเภทคำน และไดแ้ บ่งตำมตำแหน่งของจุดหมนุ แรงพยำยำม และแรง
ต้ำนทำนเป็น 3 อนั ดบั คือจุดหมนุ อยรู่ ะหว่ำงแรงพยำยำมและแรงตำ้ น (คำนอันดบั 1)แรงต้ำนทำน
อยูร่ ะหวำ่ งจุดหมนุ และแรงพยำยำม (คำนอนั ดับ 2)

แรงพยำยำมอยู่ระหว่ำงแรงต้ำนทำนและจดุ หมนุ (คำนอันดับ 3)

จำกนั้นน้องๆ ดสู งิ่ ทปี่ ระดิษฐ์ขน้ึ เพ่ือใช้ในกำรผ่อนแรงเหล่ำนี้ เช่น คำน ชะแลง กรรไกร เป็นตน้
ว่ำเป็นสิ่งประดษิ ฐท์ ใี่ ช้หลักเร่ืองโมเมนตแ์ ละคำนมำใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวันโดยกำรนำมำใช้เพอ่ื
ช่วยในกำรผอ่ นแรง และทำให้ทำงำนได้สะดวกย่ิงขึ้น

จำกหลกั ของโมเมนตน์ ้องๆ จะสงั เกตได้ว่ำ ถงึ แมจ้ ะมีแรงทตี่ ่ำงกนั มำกระทำตอ่ คำนทง้ั 2 ข้ำงของจุด
หมุน แตก่ ย็ ังสำมำรถปรับคำนให้สมดุลได้ โดยอำศัยหลักของควำมสมั พันธ์ระหวำ่ งแรงทก่ี ระทำกับ

ระยะจำกจุดทแี่ รงกระทำถึงจดุ หมนุ ซ่งึ สำมำรถนำหลักกำรนี้ไปใช้ผอ่ นแรงในกำรยกวัตถุทม่ี นี ำ้ หนกั
มำกได้


Click to View FlipBook Version