The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นิทานอีสป สอนใจ 6เรื่อง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-03-15 23:29:57

นิทานอีสป สอนใจ 6เรื่อง

นิทานอีสป สอนใจ 6เรื่อง

นิทานอีสป สอนใจ
6เรื่อง

1

เรื่อง หมีกับฝูงผึ้ง

ณ ป่าแห่งหนึ่งมีหมีตัวหนึ่งกำลังหิวเนื่องจากไม่ได้กินอาหารมาหลายวัน
ทันใดนั้นมันหันไปเห็นรังผึ้งขนาดใหญ่บนต้นไม้ จึงหันไปฉีกกินอย่างตะกละตะกลาม


มันเพลิดเพลินกับการกินจนไม่ทันระวังตัวจึงถูกผึ้งต่อ
ย "โอ๊ย เจ้าผึ้งพวกนี้ ข้าจะทำลายพวกเจ้าให้หมดเลย"

เจ้าหมีพูดด้วยความโกรธแค้น มันออกทำลายรังผึ้งทั้งป่าเพื่อเป็นการระบายอารมณ์
เมื่อฝูงผึ้งทั้งหลายเห็นพฤติกรรมของเจ้าหมีก็รวมตัวกันบินเข้าไปรุมต่อยเจ้าหมีอันธพาล
สร้างความเจ็บปวดให้มันเป็นอย่างมาก เจ้าหมีได้แต่ร้องโอดครวญกับตัวเองว่า
"เพราะความอารมณ์ร้ายขาดสติของตัวข้าเองแท้ ๆ ที่ทำให้ต้องมานั่งเจ็บปวดเช่นนี้"

:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::



ควรฟังคำเตือนของผู้อื่นก่อนที่ภัยจะมาถึงตัว

2

เรื่อง สุนัขจอมเกเร 3

สุนัขจอมเกเรตัวหนึ่งชอบวิ่งไปกัดชาวบ้านเวลาเขาเผลอ เจ้าของจึงนำกระพรวนมาแขวนคอมันไว้
เพื่อให้คนได้ยินเวลามันวิ่งเข้าไปใกล้ แต่เจ้าสุนัขคิดว่าเขาให้มันเป็นของขวัญ มันจึงวิ่งทำเสียงกรุ๊งกริ๊งอวดไปทั่วตลาด
สุนัขชราตัวหนึ่งเห็นมันวิ่งเช่นนั้นจึงถามมันว่า "ทำไมเจ้าถึงวิ่งสั่นกระพรวนไปทั่วเช่นนี้ล่ะ" มันตอบกลับไปว่า
"เพื่อให้ทุกคนได้ยินเสียงอันไพเราะของมันยังไงล่ะ" สุนัขชราหัวเราะในความโง่ของมัน "เจ้าเข้าใจผิดแล้วล่ะเจ้าหมา


น้อย ไม่มีใครชื่นชมเจ้าหรอก คนที่ได้ยินเสียงกระพรวนของ
เจ้ามีแต่จะวิ่งหนีกันทั้งนั้น เพราะเขากลัวว่าเจ้าจะไปทำร้าย

เขาต่างหาก"



:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::



คนโง่มักภูมิใจกับชื่อเสียงในทางที่ไม่ดีของตนเอง

4

5

เรื่อง สิงโตกับนักเดินทาง

ณ ป่าแห่งหนึ่งสิงโตกับนักเดินทางเข้าป่าไปด้วยกัน ระหว่างทางทั้งสองผลัดกันเล่าเรื่องและเกิดการโต้เถียงกัน
นักเดินทางกล่าวว่ามนุษย์มีอำนาจและแข็งแรงกว่าสิงโต ฝ่ายสิงโตก็ว่าพวกของมันแข็งแรงและมีกำลังมากกว่า


เมื่อทั้งสองเดินผ่านอนุสรณ์สถานแห่งหนึ่ง เป็นรูปปั้นนักรบเหยียบหัวสิงโต ชายหนุ่มจึงพูดขึ้นมาว่า
"เจ้าเห็นไหมว่ามนุษย์น่ะเก่งมากแค่ไหน ที่สามารถสยบสิงโตเจ้าป่าได้" สิงโตจึงตอบกลับไปว่า
"นั่นเป็นเพราะอนุสรณ์สถานแห่งนี้มนุษย์อย่างเจ้าเป็นผู้สร้างขึ้นมา ถ้าสิงโตสามารถแกะสลักได้
ท่านก็จะได้เห็นรูปปั้นที่มนุษย์อยู่ใต้อุ้งเท้าสิงโตเช่นกัน"

:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::



เรามักมองตนเองดีกว่าผู้อื่นเสมอ

6

7

เรื่อง ชาวนากับกิ่งไม้

ขณะที่ชาวนาคนหนึ่งกำลังเดินไปทำงานที่ท้องนา อยู่ ๆ เขาก็เดินไปชนเข้ากับกิ่งไม้อย่างจังจนหัวบวมแดง



เขาร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมทั้งโทษว่า "กิ่งไม้นี้มันช่างเกะกะเสียจริง ๆ เลย" วันต่อมาเขาก็เดินผ่านทางเดิมอีกครั้ง

และชนกับกิ่งไม้กิ่งเดิมอีก ชาวนาจึงพาลใส่กิ่งไม้ว่า "เจ้าก็รู้ว
่าเราจะเดินผ่านมาทางนี้ ทำไมเจ้าถึงไม่หลบเรา" กิ่งไม้ตอบว่า

"เราก็อยู่ของเราเช่นนี้ทุกวัน เจ้านั้นแหละไม่รู้จักระวัง" ชาวนาโมโหมากจึงตัดกิ่งไม้นั้นทันที "ทีนี้เราก็ไม่ต้องเจ็บตัวอีกต่อไป"
เขาพูดก่อนจะเดินจากไป



:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::



คนพาลมักชอบหาเรื่องโทษคนอื่นเสมอ

8

9

เรื่อง คนเฝ้าสวนโง่กับต้นไม้

ชาวสวนคนหนึ่งเป็นคนขยันทำงานมาก เขาเข้าไปทำงานในสวนตั้งแต่เช้าตรูจนถึงมึดจึงจะกลับบ้าน ลูก ๆ เมื่อเห็น



ว่าพ่อทำงานหนักจึงไปจ้างคนทำสวนคนหนึ่งมาช่วยงานพ่อ ชาวสวนจึงมอบหน้าที่ดูแลสวนให้ลูกจ้าง ถึงแม้ว่าคนสวน

ที่้จ้างมาจะเป็นคนขยัน แต่เขาไม่ค่อยมีไหวพริบ วันหนึ่งเข
าเห็นว่าต้นไม้ที่ปลูกเติบโตช้าไม่ทันใจ เขาจึงดึงต้นกล้าที่เพิ่งจะ

ปลูกได้ไม่นานให้สูงขึ้นมาจนหมดสวน แล้วพูดกับตนเองว่า "นี่ถ้าเจ้านายมาเห็นว่าต้นกล้าสูงขึ้นในเวลาอันรวดเร็วคง
ต้องดีใจ และชมเชยเราแน่ ๆ เลยล่ะ"

:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::



คนโง่มักภูมิใจในสิ่งโง่ ๆ ที่ตนได้ทำ

10

เรื่อง คนเดินทางกับต้นไม้ 11

ชายสองคนร่วมเดินทางไปด้วยกัน พอกลางวันแสงแดดเริ่มร้อนแรง ทำให้ชายสองคนได้หยุดพักอาศัยร่มเงาของ
ต้นไม้ ด้วยความที่อ่อนแรงและบวกกับเป็นตอนพักกลางวัน ชายคนที่หนึ่งจึงได้เคลิ้มหลับไป ขณะนั้นชายอีกคนร้องขึ้นว่า



"ต้นไม้ต้นนี้ไม่ได้มีประโยชน์เอาเสียเลย ไม่มีผลอ

อกมาให้ข้าได้เก็บกินยามหิว ไร้ประโยชน์จริง"
ทันใดนั้นต้นไม้โมโหจึงพูดสวนกลับไปว่า


"เจ้ามันช่างเนรคุณยิ่งนัก แล้วที่เจ้ามาหลบร่มเงา นอนพักผ่อนอย่างเย็นสบาย ก็มิใช่ประโยชน์ของข้าเลยหรือไง"




:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
คนอกตัญญู ตามืดบอด มักมองไม่เห็นประโยชน์ผู้มีพระคุณ

12

แหล่งอ้างอิง หน้า
13

https://www.kalyanamitra.org/th/Aesop_detail.php?page=4177




Click to View FlipBook Version