การประยุกต์ใชป้ ญั ญาประดษิ ฐ์ Artificial Intelligence (AI)
รว่ มกบั ทางการแพทย์
นายนนั ทกร ธิดี กลมุ่ 22
รหสั นักศึกษา 116410905055-2
รายงานน้เี ปน็ สว่ นหนึง่ ของการศกึ ษาวิชา การค้นควา้ และการเขียนรายงานเชิงวิชาการ
สาขาวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเทคฌนฌลยีราชมงคลธัญบุรี
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
ก
คานา
รายงานฉบับน้ีจัดทาขึ้นเพ่ือปฏิบัติการเขียนรายงานการค้นคว้าที่ถูกต้องอย่างเป็นระบบ อัน
เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชา 01-200-001 สารนิเทศและการเขียนรายงานทางวิชาการ ซึ่งจะ
นาไปใช้ในการทารายงานค้นคว้าสาหรับรายวิชาอ่ืนต่อไป การท่ีผู้จัดทาเลือกทาเร่ือง “การประยกุ ต์ใช้
ปัญญาประดษิ ฐ์ Artificial Intelligence (AI) รว่ มกับทางการแพทย์” เนื่องดว้ ยปัจจุบันมีการก้าวหน้า
ทางเทคโนโลยีท่ีรวดเรว็ และมีความก้าวหน้า จึงต้องมีการศกึ ษาค้นคว้าเก่ียวกับเทคโนโลยสี มยั ใหม่อยู่
เสมอ และหนึ่งในเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็คือ AI หรือ Artificial Intelligence ซ่ึงในอนาคตจะเข้ามามี
บทบาทในสังคมเปน็ อย่างมาก เนื่องดว้ ยความสามารถในการคิดคานวณข้ันสูงและรวดเร็ว ซึ่งนับเป็น
ขดี จากัดของมนุษย์
รายงานเล่มน้ีกล่าวถึงเน้ือหาที่เก่ียวกับ การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ Artificial
Intelligence (AI) ร่วมกับทางการแพทย์ เหมาะสาหรับผู้ท่ีต้องการรับความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับ
เทคโนโลยี AI และร้แู นวทางในการนาไปประยกุ ต์ใช้ในทางการแพทย์
ขอบคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนิดา สมประจบ ที่กรุณาให้ความรู้และคาแนะนาโดยตลอด
และขอขอบคุณบรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ของสานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ท่ีให้ความ
สะดวกในการค้นหาข้อมูล รวมไปถึงท่านเจ้าของหนังสอื บทความ งานวิจัย ท่ีผ้เู ขยี นใช้อา้ งอิงทุกท่าน
หากมีข้อบกพรอ่ งประการใด ผู้เขียนขอนอ้ มรบั ไว้เพอ่ื ปรับปรุงตอ่ ไป
นนั ทกร ธิดี
21 ตุลาคม 2564
ข
สารบัญ
หน้า
คานา ก
สารบญั ข
บทท่ี 1 : บทนา 1
1.1 ความเป็นมาของเทคโนโลยี AI 1
1.2 ความหมายของปัญญาประดิษฐ์ 2
บทท่ี 2 : ข้อมูลพื้นฐานของเทคโนโลยี AI 3
2.1 เทคนิคหลักท่ีใช้ในการพัฒนาระบบ 3
2.2 ประเภทของปัญญาประดิษฐ์ 3
บทที่ 3 : การนาเทคโนโลยี AI มาประยกุ ต์ใช้ด้านการแพทยแ์ ละเทคโนโลยีชีวภาพ 5
3.1 การวินิจฉัยโรค 5
3.2 การเก็บข้อมลู และการให้ความร้แู กผ่ ปู้ ่วย 5
3.3 การนาส่งยา 5
3.4 การผา่ ตัด 5
3.5 การรักษาเฉพาะบุคคล 5
3.6 การซ้ือกจิ การ Start up บริษทั ด้านการแพทย์ 5
3.7 การประยกุ ต์ใช้ AI ในนวตั กรรมทางการแพทย์ที่เกิดขน้ึ ในปจั จบุ นั 5
บทที่ 4 : สรุปผลและขอ้ เสนอแนะ ค
บรรณานกุ รม
หน้า
8
9
1
บทท่ี 1
บทนา
Artificial Intelligence (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์ เป็นเทคโนโลยีในรูปแบบหน่ึงที่ทาให้
คอมพิวเตอร์มีลักษณะเสมือนมนุษย์หรือจักรกลอัจฉริยะ ท้ังในเรื่องของความคิด การวิเคราะห์ หรือ
การเลียนแบบพฤติกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ โดยใช้โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่มนุษย์เขียนหรือจัดทา
ชุดคาส่ังขึ้น แล้วนามาประมวลผลหรือนามาฝังไว้กับอุปกรณ์ส่วนใดส่วนหน่ึง เพ่ือทาให้เกิดระบบ
จักรกลอัจฉริยะหรืออุปกรณ์นั้นสามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ โดยใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ หรือ
ภาษาใดก็ตาม และยังสามารถแปลความหมายของคาที่มนุษย์พูด เพ่ือให้ตรงกับภาษาตามที่ต้องการ
อกี ท้งั จกั รกลอจั ฉริยะยังสามารถทาให้อุปกรณ์ที่มีการฝังเทคโนโลยี AI ไว้ สามารถขยบั หรือเคลื่อนไหว
ได้อีกด้วย รวมถึงเทคโนโลยี AI มีกระบวนการคิดที่คล้ายมนุษย์ และยังสามารถช่วยในการวิเคราะห์
ตดั สินใจขอ้ มูลตา่ ง ๆ ไดเ้ อง
1.1 ความหมายของปัญญาประดษิ ฐ์
นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ John McCarthy ได้ให้คาจากัดความของคาว่า Artificial
Intelligence (AI) ในการประชุม “Dartmouth Conferences” ในปี ค.ศ. 1956 เพื่อใช้สื่อความหมายถึงการ
พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ึงสามารถปฏิบัติงานที่ทาโดยปกติและจาเป็นต้องใช้สติปัญญาของมนุษย์ เช่น
ความสามารถในการจดจาภาพ การร้จู าเสียงพดู และการตัดสินใจ
มกี ารกาหนดคาจากัดความของปัญญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ไวห้ ลากหลาย
เชน่ สมองทีถ่ ูกสร้างดว้ ยคอมพวิ เตอรท์ ี่มฟี ังกช์ นั ความสามารถเลยี นแบบการคดิ ไดเ้ หมือนสมองของมนุษย์
สานักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้กาหนดคาจากัดความของ
ปัญญาประดิษฐ์ไว้ว่า หมายถึง ศาสตร์ท่ีรวบรวมองค์ความรู้ในหลายสาขาวิชา โดยเฉพาะอย่างย่ิงทางด้าน
วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์มาพัฒนาให้เครื่องจักรหรือระบบคอมพิวเตอร์มีความชาญฉลาด สามารถคิด
คานวณ วิเคราะห์ เรียนรู้และตัดสินใจ โดยใช้เหตุผลได้เสมือนสมองของมนุษย์ และสามารถเรียนรู้ พัฒนาและ
ปรบั ปรุงกระบวนการทางานเพื่อเพิ่มศกั ยภาพของปญั ญาประดิษฐเ์ องได้
2
ดังท่ีได้กล่าวมาแล้ว ดังนั้น Artificial Intelligence (AI) ก็คือ สิ่งท่ีมีความสามารถในการคานวณ
ขั้นสูง รวดเร็ว และ มีข้อมูลขนาดใหญ่อยู่เบ้ืองหลังหรือที่เรียกกันว่า Big Data ด้วยเหตุผลนี้หลาย ๆ องค์กรจึง
จะต้องออกกฎอะไรบางอย่างเพ่ือจากัดขีดความสามารถนั้นเอาไว้หรือใช้ในบางสถานะการเท่าน้ัน เช่น การ
วินิจฉัยโรค หรือการคาดการณภ์ ยั ธรรมชาติ เพราะหากไมม่ ขี ้อจากดั ใด ๆ เลยอาจทาให้เกดิ วิกฤตบางอยา่ งได้
1.2 คาจากัดความและคาศัพท์ที่เกย่ี วข้องกับ AI
Artificial Intelligence (AI) หมายถึง ระบบที่สามารถมปรับตัวและเรียนรู้ได้จากข้อมูลและ
สภาพแวดลอ้ มต่าง ๆ เพื่อประมวลผลออกมาได้เปรยี บเสมือนการประมวลผลดว้ ยสติปญั ญาของส่งิ มชี ีวิต
Machine Learning (ML) เป็นการเรียนรู้ชนิดหน่ึงของปัญญาประดิษฐ์ โดยรวมศาสตร์หลาย
แขนงเข้าไว้ด้วยกัน อาทิเช่น คณิตศาสตร์ สถิติ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และชีววิทยา Machine Learning เป็น
ศาสตร์แขนงหน่ึงท่ีทาให้ระบบคอมพวิ เตอร์เรยี นรู้ได้ด้วยตนเองจากฐานขอ้ มลู ท้ังนี้ อาจแบง่ Machine Learning
ออกเปน็ 2 รปู แบบ คอื
1) Supervised Learning: การเรยี นร้โู ดยตอ้ งอาศยั มนุษยใ์ นการสอน AI ในการเรยี นรู้ขอ้ มูล
2) Unsupervised Learning: การเรียนรโู้ ดยไมม่ กี ารสอนข้อมลู
Deep Learning (DL) คือศาสตร์แขนงหน่ึงของ Machine Learning ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ที่
ซับซ้อนขึ้น โดยใช้การประมวลผลท่ีเลียนแบบระบบเซลล์ประสาทในสมองมนุษย์ (Neural Network) ซึ่งมี
ความสามารถในการคาดเดา แยกแยะ และสร้างรปู แบบการป้อนข้อมูลและการประมวลผลความสัมพันธ์ทซ่ี ับซอ้ น
ย่ิงขึน้
Neural network (NN) คือเทคนิคการสร้าง Machine Learning แบบต่าง ๆ เช่น การใช้
เทคนคิ Convolutional Neural Network (CNN) ซึ่งเป็นอลั กอริทมึ่ ทใี่ ช้ในการพัฒนาใหค้ อมพิวเตอร์สามารถรับรู้
หรือมองเห็นได้เหมือนมนุษย์ และ Deep learning ก็คือการใช้เทคนิค CNN โดยเช่ือมโยงระบบประมวลผลที่
เลยี นแบบระบบเซลลป์ ระสาทในสมองของมนษุ ย์ จานวนหลายชั้นเข้าดว้ ยกัน
Cognitive Computing คือระบบคอมพิวเตอร์เสมือนมนุษย์ท่ีจาลองการรับรู้และระบบการ
ประมวลผลของสมองมนุษย์ ซ่งึ รวมไปถึงการจดั ลาดบั สมมติฐาน
3
บทที่ 2
เอกสารท่เี ก่ยี วขอ้ ง
2.1 เทคนคิ หลกั ท่ีใชใ้ นการพัฒนาระบบ
1. Logic and Rules-Based Approach vs. Machine Learning (Pattern-
Based Approach) ในขณะที่ Logic and Rules-Based Approach เป็นเทคนิคการประมวลผลที่เน้นการใช้กฎ
และตรรกะ โดยชุดความคิดจะถูกสร้างและป้อนให้คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะทาให้คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลได้
ภายในกรอบของชุดความคิดนั้น แต่ Machine Learning เปน็ เทคนิคการประมวลผลทเี่ น้นการใช้อัลกอรทิ ่มึ ในการ
หารูปแบบของข้อมูลและเรียนรู้จากข้อมูล เพื่อให้ AI สร้างและพัฒนากระบวนการคิดและประมวลผลได้ด้วย
ตนเอง ในปจั จุบัน Machine Learning เปน็ เทคนคิ หลักในการทางานของ AI
2. Machine Learning vs. Natural Language Processing ในขณะท่ี Machine Learning
เป็นเทคนิคการประมวลผลที่เน้นการใช้อัลกอริทึ่มในการให้ AI เรียนรู้จากฐานข้อมูลด้วยตนเอง โดยปราศจากการ
แทรกแซงของมนุษย์ และเป็นเทคนิคการประมวลผลท่ีอิงวิธีการทางคณิตศาสตร์และทางสถิติ แต่ Natural
Language Processing เปน็ ศาสตร์อีกแขนงหน่ึงของวิทยาศาสตร์คอมพวิ เตอร์และ AI ท่ีเนน้ การใช้การปฏิสัมพันธ์
ระหว่างคอมพิวเตอร์และภาษาธรรมชาติของมนุษย์ เพ่ือสร้างระบบปัญญาประดิษฐ์ท่ีมีประสิทธิภาพในการ
ประมวลผลจากข้อมูลทางด้านภาษา สามารถเข้าใจความหลากหลายและซับซ้อนของภาษามนุษย์ และสามารถ
ประมวลผลและโต้ตอบกับมนษุ ยไ์ ดเ้ สมือนเป็นมนษุ ยเ์ ช่นกัน
2.2 ประเภทของปัญญาประดษิ ฐ์
1. “Weak” Pattern-Based Artificial Intelligence (Narrow AI) คือช่ือที่ใช้เรียกคอมพิวเตอร์
ทถ่ี ูกสร้างมาเพื่อแกไ้ ขปัญหาเรื่องใดเร่ืองหนึง่ เท่านัน้ โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์รปู แบบ Narrow AI เปน็ ระบบ AI
ท่ีใช้อยู่ในปัจจุบันอย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยมมากที่สุด อาทิเช่น การใช้ระบบอัตโนมัติในรถยนต์ และการ
แปลภาษา
2. “Strong” Artificial Intelligence (Artificial General Intelligence: AGI) คือชื่อที่ใช้เรียก
คอมพิวเตอร์ท่มี ีความสามารถในการคิดวิเคราะหไ์ ด้เสมอื นมนุษย์ ซง่ึ จะสามารถคิดและประมวลผลในเชิงนามธรรม
ได้ และจะสามารถสร้าง Narrow Ai ขึ้นไดด้ ้วยตนเอง ปัจจุบันน้ียงั ไม่มีผู้ใดสามารถพฒั นา AGI ข้ึนมาได้ และยังไม่
สามารถคาดเดาไดว้ ่าการพฒั นา AI ไปสู่ AGI จะเกิดขน้ึ เมอ่ื ใด
4
3. SI (Super Intelligence) Nick Bostrom นักปรัชญาจากมหาวิทยาลัยออกฟอร์ดและ
ผเู้ ช่ียวชาญด้าน AI ได้คาดการณ์ไว้ว่า เม่ือ AI กลายเป็นเคร่ืองจักรที่มีสติปัญญาและความสามารถเหนอื กว่าสมอง
มนษุ ย์ท่ฉี ลาดท่ีสุดในทกุ สาขา รวมถึงความคิดเชิงสร้างสรรคท์ างวิทยาศาสตร์ ความรู้เชงิ ภูมิปญั ญา และทกั ษะทาง
สังคม จะถือได้ว่า “เคร่ืองจักรทรงภูมิปัญญา” (Artificial Super Intelligence: ASI) ได้ถือกาเนิดขึ้นแล้ว อน่ึง
Nick Bostrom ยังคาดการณ์ไว้อีกว่าเคร่ืองจักรทรงภูมิปัญญาที่จะเกิดข้ึนนั้น จะสามารถสร้าง AGI ที่มี
ความสามารถเหนือกว่าตนเองได้ และอาจเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “การระเบิดทางสติปัญญา” (Intelligence
explosion) ที่จะทาให้ ASI ฉลาดขึ้นถึงขีดสุดจนมนุษย์ไม่อาจควบคุมหรือเข้าใจมันได้อีกต่อไป จนอาจส่งผล
กระทบต่อการดารงอยู่ของมนุษยชาตเิ ลยทีเดียว
5
บทท่ี 3
การนาเทคโนโลยี AI มาประยกุ ตใ์ ชด้ ้านการแพทย์และเทคโนโลยชี วี ภาพ
ในยุคท่ีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นเทคโนโลยีสาคัญท่ีเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ในหลายด้าน
AI และ Robotics เป็นเทคโนโลยีที่ได้เข้ามามีบทบาทในวิทยาศาสตร์หลากหลายสาขาในสาขาสุขภาพและทาง
การแพทย์ก็เป็นอีกสาขาหนึ่งที่ได้นาเทคโนโลยี AI และ Robotics มาใช้ประโยชน์ การนาเทคโนโลยี AI และการ
เรียนรู้ของเครื่อง Machine Learning ท่ีได้พัฒนาและใช้งานโดยบริษัทผู้นาด้านเภสัชกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ
ของประเทศสหรัฐอเมริกา เพ่ือศึกษาทิศทางการพัฒนาและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านสุขภาพและทาง
การแพทย์ โดยความเคลื่อนไหวที่เก่ียวกับเทคโนโลยี AI และ Machine Learning ท่ีถูกนามาใช้ในวงการแพทย์
และเภสชั กรรมมี 6 หลัก ดังน้ี
3.1 การวนิ ิจฉัยโรค เทคโนโลยีทางการแพทย์ Machine Learning และ Deep Learning ได้เข้า
มามบี ทบาทในการวนิ จิ ฉัยโรคมากย่งิ ขน้ึ เทคโนโลยนี ชี้ ว่ ยให้การวินจิ ฉยั โรคทาไดอ้ ย่างแม่นยา
3.2 การเก็บข้อมูลและการให้ความรู้แก่ผู้ป่วย โดยใช้อุปกรณ์ส่ือสารเคลื่อนที่ในการเก็บและให้
ขอ้ มูลทีต่ รงกับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละคน ความสามารถของเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถเก็บและวิเคราะห์
ข้อมลู ไดจ้ านวนมากขนึ้ สามารถเก็บข้อมลู เพ่อื ศึกษาโรคทห่ี ายากได้มากขน้ึ
3.3 การนาส่งยา แพทย์และพยาบาลหลายคนอาจจะกังวลว่า ในอนาคตเทคโนโลยี AI อาจจะ
พัฒนาความสามารถจนเข้ามาแทนที่มนุษย์ได้ แต่สาหรับบริษัทผลิตยาแล้ว เทคโนโลยี AI ทาให้เกิดการพัฒนา
สินค้าและบริการ โดยเฉพาะการนาส่งยาที่เหมาะสมใหก้ บั ผูป้ ว่ ยแต่ละราย
3.4 การผ่าตัด การใช้หุ่นยนต์เพ่ือการผ่าตัด หุ่นยนต์ผ่าตัดถูกพัฒนาและนามาใช้ในการผ่าตัด
อวัยวะในส่วนที่มือมนุษย์ไปไม่ถึง การผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์สามารถทาได้ทั้งแบบได้รับคาสั่งที่ป้อนจากแพทย์และ
แบบท่หี นุ่ ยนตเ์ รียนรไู้ ดด้ ว้ ยตนเอง (Machine Learning)
3.5 การรักษาเฉพาะบุคคล (personalized medicine) การเพิ่มศักยภาพการรักษาพยาบาล
โดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลผ้ปู ่วยทงั้ หมดมาใช้ในการวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ข้อมูลที่
นามาใช้ในการวิเคราะห์ เชน่ ประวตั ิการรักษา ข้อมลู ยีน การบริโภคอาหาร ระดับความเครยี ด ฯลฯ
3.6 การซื้อกจิ การ Start up บรษิ ัทด้านการแพทย์และการผลติ ยา มีการซือ้ กิจการ Startup เพื่อ
คน้ หาบุคลากรที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี AI และ Machine Learning เพ่ือพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ของบริษทั
6
การประยกุ ตใ์ ช้ AI ในนวตั กรรมทางการแพทยท์ ่เี กิดขึ้นในปัจจุบัน
1. บริษทั Google ใช้ AI วเิ คราะหโ์ รคหวั ใจจากการแสกนม่านตา
Google คดิ ค้นวิธีรายงานผลเก่ียวกับโรคหัวใจได้ด้วยการแสกนดวงตา ได้นาเทคโนโลยี
AI มาใชใ้ นการตรวจวิเคราะห์สขุ ภาพผา่ นการแสกนดวงตา ซ่งึ ได้ผลการตรวจทล่ี ะเอยี ดทั้งความดนั เลือด อายุ หรือ
พฤติกรรมการสูบบุหรี่ ทาให้สามารถรายงานผลสุขภาพท่ีเก่ียวข้องกับโรคหัวใจได้เกือบครบถ้วนโดยไม่ต้องเจาะ
เลือด ช่วยลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการตรวจได้อย่างชัดเจน กระบวนการน้ีเป็นผลมาจากการสแกนม่านตาของ
กลุ่มตัวอยา่ งกว่า 300,000 คน แล้วให้ AI เปรยี บเทยี บวเิ คราะห์ขอ้ มูล และรายงาน
2. บรษิ ทั Sig Tuple ใช้เครอื่ งมือตรวจโรคขนาดพกพาจาก AI
การออกแบบเคร่ืองมือตรวจโรคขนาดพกพาสาหรับพื้นที่ห่างไกล AI สามารถให้บริการ
ตรวจโรคในพื้นที่ห่างไกลผ่านเทคโนโลยี Cloud โดย Startup จากประเทศอินเดีย ชื่อ “Sig Tuple” ได้ออกแบบ
เครื่องมือตรวจโรคขนาดกะทัดรัดที่เช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตไปยัง AI โดยแพทย์จะนาเลือดหรือสารคัดหล่ังในร่างกาย
ผู้ป่วยเข้าเครื่องตรวจโรค ตัวเครื่องจะจับรายละเอียดภายในของสารน้ัน ๆ แล้วส่งข้อมูลให้ AI วิเคราะห์ เม่ือ AI
วิเคราะห์เสร็จก็จะส่งผลกลับมายังแพทย์ โดยหากตรวจพบว่าต้องใช้เครื่องมือจานวนมากในการรักษา AI จะแจ้ง
โรงพยาบาลขนาดใหญ่ใหม้ ารับผู้ป่วย พร้อมทั้งส่งผลการวินิจฉัยเบื้องต้นให้โดยทันที ซ่ึงข้ันตอนท้ังหมดจะใช้เวลา
ประมาณ 5 นาที
3. Babylon health ป ร ะ เ ท ศ อั ง ก ฤ ษ แ ล ะ Ada Health ป ร ะ เ ท ศ เ ย อ ร ม นี ผ ลิ ต
Telemedicine การวนิ จิ ฉยั โรคเบอ้ื งต้นโดยไมต่ อ้ งพบแพทย์
Babylon health จากประเทศอังกฤษ และ Ada Health ประเทศเยอรมนี ซึ่งสร้าง
Platform วินิจฉัยโรคเบ้ืองต้นด้วย AI ผสานกับ Telemedicine ผู้ใช้สามารถสอบถามอาการเบื้องต้น จากน้ัน AI
จะวิเคราะหว์ ่าควรพบแพทยห์ รือไม่ หากต้องพบแพทย์สามารถ Video Call หาแพทยใ์ นเครือขา่ ยได้ทันที
4. ประเทศญปี่ นุ่ ผลิตหนุ่ ยนต์ หรอื AI SPEAKER หุ่นยนตช์ ่วยเลย้ี งเด็กและคนชรา
ปัจจุบันบริษัทเคร่ืองใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่นได้มีการพัฒนาหุ่นยนต์ท่ีสามารถเป็นผู้ช่วย
ในบ้าน และสามารถส่ือสารโต้ตอบกับมนุษย์ในขั้นสูงได้ โดยการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต การ
สนทนาขนั้ สูงน้สี ามารถใชเ้ พื่อการเลี้ยงดูเดก็ ทารกและปอ้ งกนั ภาวะสมองชราในผู้สูอ้ ายุ
บริษัท พานาโซนิค จากัด มีการจัดแสดงหุ่นยนต์ทรงกลมสาหรับเด็กทารกที่มีช่ือว่า
“COCOTTO” มีลักษณะเป็นลูกบอล มีขนาดใกล้เคียงกับบาสเกตบอล สามารถเคล่ือนตัวได้โดยการหมุนบนพื้น
ห้อง เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กเล็กผ่านการเล่นและสนทนา อีกทั้งบริษัทยังมีการจัดเตรียมหนังสือภาพและ
7
เพลงไว้บนอินเทอร์เน็ต เม่ือ COCOTTO ดึงข้อมูลนี้จะสามารถอ่านหนังสือภาพหรือร้องเพลงให้กับเด็กเล็กฟังได้
อีกทั้งยังมีกล้องฝงั ในตัว ซึ่งผูป้ กครองสามารถตรวจสอบสถานะของเด็กผ่านสมารท์ โฟนได้
บริษัท ฮิตาชิ จากัด ได้จัดแสดงหุ่นยนต์ท่ีเป็นหลอดไฟและบนหลอดไฟนี้สามารถแสดงอารมณ์
สนกุ หรือเศร้าได้ หนุ่ ยนตส์ ามารถพดู คุย ทาใหผ้ ู้สูงอายุท่ีมีอาการหลงลมื นึกถึงเหยกุ ารณใ์ นอดตี ได้ โดยเป็นหุ่นยนต์
ทีส่ ่งเสรมิ การทางานของสมองทีม่ อี าการหลงลืมเมื่อเขา้ สูว่ ยั ชรา
8
บทท่ี 4
สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ
ปัจจุบันในโลกของเราน้ันมีการให้ความสาคัญของเทคโนโลยี AI ได้เพ่ิมขึ้นอย่างต่อเน่ือง ซ่ึงเกิดจากการ
วิจัยและพัฒนาในศตวรรษที่ผ่านมาซ่ึงเป็นไปอย่างก้าวกระโดด องค์กรต่าง ๆ มีความกระตือรือร้นที่จะนา
เทคโนโลยี AI มาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ซึ่งเม่ือ AI ได้ถูกพัฒนาจนมีศักยภาพสูงข้ึนเรื่อย ๆ ก็จะถูกนามาใชง้ าน
ในด้านต่าง ๆ มากขึ้น เช่น การพัฒนาวัคซีน การวิเคราะห์ฟิล์ม X-ray และ MRI Scan การพัฒนายาฆ่าเช้ือ เป็น
ต้น ซ่งึ จะทาให้การวนิ ิจฉยั โรคและการป้องกันโรคเป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพย่งิ ขึ้น ผปู้ ่วยสามารถเข้าถึง AI ไดม้ าก
ขน้ึ และระบบจะได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานได้ง่ายข้ึน นอกจากน้ี AI จะเข้ามาทาหนา้ ท่ีเป็นผู้ช่วยแพทย์มากย่ิงข้ึน
โดยอาจทางานแทนแพทย์ได้ในบางกรณีเลยก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามผู้พัฒนาจะต้องคานึงถึงประเด็นทางด้าน
จรยิ ธรรม กฎหมาย และสังคมดว้ ย
การนา AI มาใชใ้ นการแพทย์และการดแู ลสขุ ภาพนั้น ยังคงมีปัญหาท่ยี ากตอ่ การตดั สินใจอย่หู ลายประการ
เช่น
1) ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบการวนิ จิ ฉยั โรคนัน้ มนษุ ย์หรือ AI
2) ใครจะเป็นผทู้ ส่ี ามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู แพทย์ได้
3) ความเปน็ สว่ นตวั ของผูร้ ับบรกิ ารจะได้รบั ความคุม้ ครองอย่างไร
4) ใครจะเป็นผ้ตู ัดสินใจช้ขี าด มนษุ ย์ AI บรษิ ทั ผผู้ ลติ หรอื หน่วยงานกากับดแู ล
5) ควรจะทาอย่างไรกบั ผลการวจิ ัยระดบั รอง (Secondary findings)
6) หน่วยงานกากับดูแลจะสามารถอนุมัติการกั ษาโรคจากการวเิ คราะห์ข้อมลู จาก AI ได้อยา่ งไร
7) ควรจะจัดให้ผู้รับบริการทางการแพทย์สามารถเข้ารับการตรวจรักษาจาก AI โดยตรง (โดยไม่ผ่านการ
ควบคุมจากแพทย)์ หรอื ไม่
8) การประสานความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศควรเป็นรปู แบบใด
9) จะมกี ารควบคุมการเขา้ ถึงยาทไี่ ม่ไดร้ ับอนญุ าตในประเทศท่ีกระทาการรักษาอยา่ งไร
9
บรรณานุกรม
ณัฏฐ์ อรุณ. “ปญั ญาประดิษฐก์ บั การประยุกต์ใช้งาน Artificial intelligence and Application,”
[ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: มหาวทิ ยาลยั กรุงเทพ
https://www.bu.ac.th/knowledgecenter/executive_journal/oct_dec_10/pdf/aw25.pdf,.
[สบื คน้ เม่ือ 10 สงิ หาคม 2564].
ยุวเรศมคฐ์ สทิ ธิชาญ. “ปญั ญาประดิษฐ์ Artificial intelligence (AI) กับการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และ
เวชศาสตร์ฉกุ เฉนิ ,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก: วารสารแพทย์ฉุกเฉนิ แหง่ ประเทศไทย, 2564. [สืบค้น
เมื่อ 10 สงิ หาคม 2564].
ศรัณย์ศิริ คัมภริ านนท.์ “AI เทคโนโลยีอนาคตของประเทศไทย (Artificial intelligence in Thailand),”
[ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก:
https://www.senate.go.th/document/Ext21130/21130674_0002.PDF, 2562. [สืบค้นเมอ่ื 10
สงิ หาคม 2564].
สุดตา ปรักกโมดม, สัญชัย ฉายโชติเจรญิ และพงศธ์ ารา วิจิตรเวชไพศาล. “ปัญญาประดิษฐ์ มิตรหรอื ศตั รู,”
[ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก: Thai J Anesthesiol, 2019; 45(1): 34-38. [สบื ค้นเม่ือ 10 สิงหาคม
2564].
อรพิม ประสงค.์ “ความร้เู บ้ืองตน้ และประวัติของปัญญาประดิษฐ์ : ความเปน็ มาของปัญญาประดิษฐ์และการ
นาปญั ญาประดษิ ฐม์ าใช้ในเทคโนโลยีการแพทย์และการดแู ลสุขภาพ๑,” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก:
https://lawforasean.krisdika.go.th/File/files/1529283558.b2240f7ca5574bfd
419ef062752e05ff.pdf,. [สืบค้นเม่ือ 10 สงิ หาคม 2564].