The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสืออ่านเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมความรู้เรื่องราวท้องถิ่นในจังหวัดนครปฐม<br>จัดทำโดย: สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม<br>เรื่อง: อาจารย์สุทธินันท์ ศรีสมศักดิ์<br>ภาพ/ออกแบบ: สาขาวิชาเทคโนโลยี และนวัตกรรมการศึกษา คณะคุรุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ตำนานพระยากงพระยาพานเมืองนครปฐม

หนังสืออ่านเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมความรู้เรื่องราวท้องถิ่นในจังหวัดนครปฐม<br>จัดทำโดย: สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม<br>เรื่อง: อาจารย์สุทธินันท์ ศรีสมศักดิ์<br>ภาพ/ออกแบบ: สาขาวิชาเทคโนโลยี และนวัตกรรมการศึกษา คณะคุรุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

Keywords: สศว,พระยากงพระพาน,ตำนาน,เรื่องเล่า,นิทาน,ebook,นครปฐม,art

ตำ�นานนี้เล่ าสืบต่ อกันมานานเนิ่นนับพันปี ว่ า ณ ดินแดนลุมแม่ น้ำ�ท ่ ่ าจีนอันเป็นที่ตั้งของนครศรีวิชัย หรือนครชัยศรี นครนี้ปกครองโดยพระราชานามว่ า “พระยากง” ซึ่งสืบราชสมบัติตอจ่ากพระยาสิการาช ผู้ เป็นพระราชบิดา พระยากงมีอัครมเหสีพระองค์ หนึ่งพระนามว่ า “พระนางปทุมาวดี”


ต่ อมาพระนางปทุมาวดีได้ มีพระประสูติกาล พระราชกุมาร พระยากงทรงโสมนัสยิ่งนัก แต่ เมื่อเจ้ าพนักงานนำ�พานทองมารองรับ ตัวพระราชกุมาร ปรากฏว่ าพระนลาฏ (หน้ า ผาก) ของพระองค์ กระทบเข้ ากับขอบพานจน เป็นแผล อีกทั้งขอบพานทองนั้นก็บุบผิดรูปไป พระยากงจึงได้ ตั้งพระนามพระราชกุมารว่ า “เจ้ าพาน”...


กาลต่ อมา....พระยากงได้ ให้ โหราจารย ์ มาทำ�นาย ดวงพระชะตา เจ้ าพาน โหราจารย ์ ได้ กราบทูลว่ า เจ้ าพานนี้เป็นผูที่มีบุญญ ้าธิการยิ่งนัก ต่ อไปจักได้ เป็นใหญ่ ในแผนดิน ่


หากแตจะกระทำ�บ ่าปอันใหญหลวงคือฆ ่ ่ าพระบิดา ของพระองค ์ เอง แนะนำ�ว่ าให้ ประหารเจ้ าพานเสียดี กว่ าเพื่อเป็นการตัดไฟแต่ ต้ นลม เมื่อพระยากงทรง ได้ ยินเช่ นนั้นก็ทรงตกพระทัยยิ่งแต่ ก็จำ�ต้ องทำ�ตามที่ โหราจารยแนะนำ� ์


เมื่อความทราบไปถึงพระนางปทุมาวดี พระนางทรงโทมนัส และทรงพระกันแสงจน แทบสิ้นสติ พยายามหาทางที่จะช่ วยเจ้ าพานให้ รอดพ้ นจากความตาย จึงวางแผนให้ ทหารนำ� เจ้ าพานไปมอบให้ กับยายหอมผู้ เป็ นแม่ นมช่ วย อุปการะต่ อไป


เมื่อยายหอมรับอาสาชุบเลี้ยงเจ้ าพาน ยายหอม ก็รักและทะนุถนอมเจ้ าพานประหนึ่งลูกในอุทร โดยที่ไม่ ได้ แพร่ งพรายเรื่องชาติกำ�เนิดให้ เจ้ าพานรู้ เลยแม้ แต่ น้ อย จนกระทั่งเจ้ าพานเติบใหญ่ เป็นชายหนุมรูปง ่าม ร่ างกายกำ�ยำ�แข็งแรง อีกทั้งยังมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด กว่ าเด็กหนุ่ มในรุ่ นราวคราวเดียวกัน


อยูม่าวันหนึ่งยายหอมได้ เดินทางไปยังเมือง ราชบุรีแล้ วทราบว่ าพระยาราชบุรีนั้นทรงกังวล ยิ่งนักที่พระองค์ ไม่ มีพระราชกุมารกุมารีเลย ยายหอมจึงตัดสิ นใจถวายเจ้ าพานให้ แด่ พระยาราชบุรีเพื่อสนองพระเดชพระคุณ เมื่อพระยาราชบุรีได้ ทรงพบและมีพระราช ปฏิสันถารกับเจ้ าพานก็ทรงพอพระราชหฤทัยใน ความเฉลียวฉลาดของเจ้ าพานจึงทรงรับไว้ เป็ น พระราชบุตรบุญธรรม พระยาราชบุรีได้ สถาปนาเจ้ าพานให้ เป็ น “พระยาพาน” มีฐานันดรเทียบเท่ าพระราชกุมาร พระองคหนึ่ง พระย ์ าพานได้ รับการเลี้ยงดูเป็ น อย่ างดี อีกทั้งยังได้ เรียนรู้ ศิลปวิทยาต่ าง ๆ อย่ างที่ชนชั้นกษัตริย์ ควรจะได้ รับจนพระยา พานเป็ นผู้ ที่มีความรู้ ความสามารถแข็งกล้ า พอที่จะแบ่ งเบาพระราชภารกิจและเป็ นที่ไว้ วางพระราชหฤทัยชองพระยาราชบุรีได้


อยู่ มาวันหนึ่ง ขณะที่พระยาพานทรงเดินสำ�รวจ พระราชฐานต่ าง ๆ อยู่ นั้นได้ พบกับเจ้ าพนักงานที่กำ�ลัง จัดเตรียมตนไม ้ ที่ทำ�ด ้ วยเงินและทองคำ�สวยง ้ามอย่ างละ 1 ตน้ พระยาพานตรัสถามเจ้ าพนักงานว่ าจะนำ�ต้ นไม้ เงิน และทองคู่ นี้ไปทำ�อะไร เจ้ าพนักงานจึงกราบทูลว่ าต้ นไม้ คู่ นี้เป็ นเครื่องราชบรรณาการที่เมืองราชบุรีจะต้ อง ส่ งไปถวายยังเมืองนครศรีวิชัยอันเป็ นธรรมเนียม ปฏิบัติของเมืองที่เป็นประเทศราช


เมื่อพระยาพานทรงทราบเช่ นนั้นก็ทรง ไม่ พอใจยิ่ง เพราะช่ วงนั้นฟ้ าฝนไม่ ตกต้ อง ตามฤดูกาล เกิดความขัดสนไปทั่วทั้งเมือง ไม่ ควรที่เมืองราชบุรีจะต้ องส่ งเครื่องราช บรรณาการให้ ภาวะเช่ นนี้ พระยาพานจึงไปทูลพระยาราชบุรีให้ ทรงงดเว้ นการส่ งเครื่องราชบรรณาการไป ยังนครศรีวิชัย พระยาราชบุรีทรงกังวล ว่ าหากไม่ ส่ งเครื่องราชบรรณาการไปให้ นครศรีวิชัยจะก่ อให้ เกิดสงครามใหญ่ ขึ้นได้ พระยาพานผู้ ซึ่งมีจิตใจกล้ าหาญจึงทรงรับ อาสาที่จะออกไปตั้งรับข้ าศึกไว้ เอง


เมื่อถึงคราวที่ต้ องส่ งเครื่องราชบรรณาการ เมืองราชบุรีก็ไม่ ได้ ส่ งเครื่องราชบรรณาการให้ นครศรีวิชัยตามที่พระยาพานทูลขอไว้ พระยากง เห็นว่ าเมืองราชบุรีคิดการกบฏจึงยกทัพมาเพื่อ จับพระยาราชบุรีประหารเสีย


พระยาพานเมื่อทรงทราบข่ าวการกรีธาทัพ ของพระยากงก็ได้ เตรียมพร้ อมรับศึกอย่ างเต็ม กำ�ลัง ขณะนั้นมีข่ าวเลื่องลือว่ ามีช้ างเผือกตัวหนึ่งมี ลักษณะดีต้ องตามตำ�ราคชลักษณ์ อาศัยอยู่ ในป่ าลึก พระยาพานมีพระประสงค์ ที่จะคล้ องมาไว้ สำ�หรับทำ�ศึกกับพระยากง จึงทรงปรึกษากับพราน ป่ า 3 คนที่ชำ�นาญในการจับช้ าง พรานทั้ง 3 คน แนะนำ�ให้ ขุดหลุมพรางขนาดใหญ่ ดักไว้ ในเส้ นทางที่ช้ างตัวนั้นใช้ สัญจร จนในที่สุดพรานทั้ง 3 คน ก็สามารถจับช้ างเผือกตัวนั้นได้ แล้ ว ได้ นำ�มาฝึ กหัดจนเชี่ยวชาญสามารถ ทำ�ศึกได้


ในการศึกครั้งนั้น พระยาพานทรงอาสาเป็น ทัพหน้ าพากองทัพเดินทางจากเมืองราชบุรีมายัง นครศรีวิชัย จนมาถึงบริเวณที่มีต้ นโพธิ์ใหญ่ แผ่ กิ่งก้ านสาขาให้ ร่ มเงาเป็นอย่ างดี พระยาพานจึง ทรงรับสั่งหยุดเดินทัพเพื่อให้ ไพร่ พลได้ พักผอน่ ไพรพลซึ่งเหนื่อยล ่ ้ าจากการเดินทัพและบรรทุก อาวุธที่หนักจึงพากันนำ�อาวุธที่ถือมานั้นไปพิงกับ ต้ นโพธิ์ใหญนั้นจนต ่ ้ นโพธิ์หักโคนลง พระย่าพาน เดินทัพต่ อมาจนถึงบริเวณที่เป็ นอำ�เภอเมือง นครปฐมในปั จจุบันก็ไดพบกับกองทัพของพระย ้ากง


กองทัพทั้งสองฝ่ ายต่ างโรมรันกันชุลมุนไป หมดไม่ มีทีท่ าว่ าจะสิ้นสุดลง พระยาพานจึงส่ ง สาส ์ นท้ าพระยากงให้ มากระทำ�ยุทธหัตถีเพื่อเป็น เกียรติยศ


พระยากงทรงรับคำ�ท้ า ช้ างทรงของ พระยากงและพระยาพานออกมาประจัน หน้ ากัน ทั้งสองสู้ กันบนหลังช้ างอย่ างสุด กำ�ลังจนพระยากงเสียทีจึงถูกพระยาพาน ใช้ ง้ าวฟั นจนขาดคอช้ างสวรรคตไปเมื่อ เสร็จการศึกพบว่ าถนนบริเวณนั้นขาด เสียหายยิ่งนัก


เมื่อพระยาพานทรงสังหารพระยา กงได้ แล้ วทรงปลูกต้ นโพธิ์ไว้ บน โขดหินใหญ่ เพื่ อประกาศชัยชนะ จากนั้นจึงนำ�กองทัพบุกเข้ านครศรีวิชัย เหล่ า เสน า อำ � ม า ต ย ์ ต่ า งยกร า ช สมบัตินครศรีวิชัยให้ แด่ พระยาพาน พระยาพานทรงโสมนัสเป็ นหนักหนา ที่สามารถทำ�ให้ เมืองราชบุรีไม่ ต้ องตก เป็นประเทศราชของนครศรีวิชัยอีก


อีกทั้งยังทรงทราบว่ าพระนางปทุมาวดี พระอัครมเหสี ของพระยากงนั้นงามยิ่งจึงทรงตัดสินใจว่ าจะรับพระนางปทุม าวดีมาเป็นชายาของตน ครั้นทรงพระดำ�ริได้ เช่ นนั้นจึงได้ เสด็จ ไปยังห้ องพระบรรทมของพระนางปทุมาวดีในช่ วงหัวค่ำ� ในขณะที่พระยาพานทรงพระดำ�เนินไปยังหองพระบรรทม้ ของพระนางปทุมาวดี ทรงทอดพระเนตรลูกแมวกำ�ลังจะกิน นมแมแมว แม่แมวร่องห้ ้ ามลูกแมวแล้ วพูดว่ า “อย่ าเพิ่งกินนม เจ้ ามาดูลูกเขาจะเข้ าหาแม”่ พระยาพานทรงได้ ยินดังนั้นก็ทรง ตกพระทัยแล้ วทรงพระดำ�เนินกลับไปยังที่พำ�นักของตน


จนกระทั่งราตรีเข้ าสู่ เวลาเที่ยงคืน พระยาพาน จึงทรงตัดสินใจจะไปอีกครั้ง ในระหว่ างทางนั้น เองพระยาพานก็ทรงไดยินลูกม ้ ้ ารองจะกินนมแม ้ ่ ม้ า แมม่ ้ าก็รองห้ ้ ามแลวพูดขึ้นม ้าว่ า “อย่ าเพิ่งลูก อย่ าเพิ่ง เจ้ ามาดูลูกเขาจะเขาไปหาแมดีกว ่ ่ า” พระย าพานทรงได้ ยิน เช่ นนั้ น ก็ท ร ง ตกพระทัยเป็ นหนที่สองแล้ วก็ทรงกลับไป ที่พำ�นักของตน จนจะล่ วงเข้ าใกล้ เวลาย่ำ�รุ่ ง พระยาพานจึงกลับไปหาพระนางปทุมาวดีอีก ครั้ง คราวนี้พระยาพานสามารถทำ�การได้ สำ�เร็จ


เมื่อพระนางปทุมาวดีทรง ทอดพระเนตรพระพักตร์ ของ ศัตรูผู้ กำ�ชัยชนะเหนือพระยา กงย่ างกรายเข้ ามาในห้ องพระ บรรทม พระนางก็เกิดความ รู้ สึกเอ็นดูอย่ างประหลาด ยิ่งพิศดูอย่ างละเอียดก็ ทรงพบรอยแผลเป็นที่หน้ า ผากก็ชวนให้ พระนางทรง คำ�นึงถึงพระราชกุมารที่เคย นำ�ไปฝากยายหอมเลี้ยงไว้


จึงตรัสถามว่ า “ท่ านมีนามว่ ากระไร พ่ อแมท่ ่ านเป็นใคร ข้ าเห็นหน้ าท่ านแล้ ว นึกถึงลูกของข้ าที่จากกันไป ตั้งแต่ ยังเด็กเสียเหลือเกิน ถ้ าลูกข้ ายังอยู่ ป่ านนี้คงอายุ ไล่ เลี่ยกับท่ าน อีกทั้งยังแผล เป็ นที่หน้ าผากเหมือนกัน อีกต่ างหาก”


พระยาพานทรงได้ ยิน เช่ นนั้นก็นึกสนเท่ ห ์ ในพระทัย ขึ้นมาว่ า “หรือนี่จะเป็นมารดา ของเรา เพราะอันตัวเรานี้ก็ เป็ นเพียงเด็กที่ยายหอมเก็บ มาชุบเลี้ยง เราหาได้ ทราบถึง บิดามารดาที่แท้ จริงไม่ ”


ทันใดนั้นพระยาพานจึงทรงตั้ง จิตอธิษฐานว่ า “หากสตรีเบื้องหน้ า ผู้ นี้เป็ นพระมารดาของข้ าแล้ วไซร้ ก็ขอใหมีน้ำ�นมหลั่งออกจ ้ากปทุมถัน (เต้ านม) ของนางด้ วยเถิด” เมื่อสิ้นคำ�อธิษฐานก็มีน้ำ�นม ไหลออกจากพระถันของพระนาง ปทุมาวดีให้ เห็นเป็นอัศจรรย์


พระยาพานทรงทราบแน่ ชัดว่ าพระนางปทุมาวดีเป็ น มารดาของพระองคก็ทรงโสมนัสยิ่ง แล ์ ้ วทรงคุกเข่ าลงกราบ พระบาทของพระนางปทุมาวดี ซบพระพักตรกันแสงอย ์ ่ าง หนักที่เกือบจะได้ ล่ วงเกินพระมารดา


และทรงโทมนัสเท่ าทวีเมื่อรู้ พระองคว์ ่ าได้ กระทำ�ปิตุฆาตอันเป็น บาปที่ใหญหลวง ซ้ำ�ยังทรงแค ่ นพระทัย ้ ยายหอมที่ไม่ ยอมบอกความจริงจน เรื่องราวเลยเถิดมาถึงเพียงนี้ เมื่อทรง ดำ�ริได้ เชนนั้นก็มีรับสั่งให ่ร้าชมัลไปจับ ตัวยายหอมไปประหารชีวิตเสีย อย่ างไรก็ตามการประหารยาย หอมไม่ ได้ ช่ วยให้ ความทุกข์ ระทมใน พระทัยของพระยาพานเหือดหายไปเลย แต่ กลับยิ่งทวีความทุกข์ ทรมาน มากกว่ าเดิม เพราะพระองค์ ทรง สำ�นึกได้ ถึงบาปมหันต์ ที่พระองค์ กระทำ�ต่ อผู้ มีพระคุณถึง 2 คน


พระยาพานจึงทรงนิมนต์ พระเถระมาประชุมปรึกษา ณ ถ้ำ�แห่ งหนึ่ง ถึงวิธีที่พระองค์ จะสามารถไถ่ บาปที่ได้ ฆ่ า ผูมีพระคุณทั้งสองคนซึ่งถือเป็นครุกรรม คณะสงฆ ้ ์ จึงได้ เสนอว่ าการไถ่ บาปนั้นมิสามารถทำ�ได้


หากแตก็มีวิธีที่ทำ�ให ่บ้าปนั้นเบาบางลงไดหนึ่งในสิบ ้ สวน คือให ่สร้ ้ างพระเจดียที่มีคว ์ามสูงเท่ ากับระดับนกเขา จะเหินขึ้นไปถึงได้ เมื่อพระยาพานไดทรงทร้าบเชนนั้นก็ ่ รับสั่งให้ ไพรพลไปขุดดินจำ�นวนม ่ากมาทำ�อิฐสำ�หรับ กอพระเจดีย ่ ์ จำ�นวน 2 องค์ องคแรกมีขน ์าดใหญ่ ตั้งนามว่ า “พระปฐมเจดีย” ์ เป็นการอุทิศกุศลใหแก้พระย่ากง ส่ วนองค์ ที่สองมีขนาดย่ อมลงมาตั้ง นามว่ า “พระประโทนเจดีย”์ เป็นการ อุทิศกุศลให้ แก่ ยายหอมด้ วยเหตุนี้ เจดียทั้ง 2 องค ์ นั้นจึงสถิตสถ ์าพรคู่ กับชาวนครปฐมเรื่อยมา และเป็นสัญลักษณ์ ของจังหวัดนครปฐมจนถึงปั จจุบันนี้


Click to View FlipBook Version