ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖ อาศรมศึกษานาฏศิลป์ไทย นิสิตชั้นปีที่ ๔ เอกนาฏศิลป์ไทยรุ่นที่ ๑๖ สาขาวิชาศิลปะการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
การสอบอาศรมศึก ศึ ษานาฏศิลศิ ป์ไป์ ทย ประจำ ปีก ปี ารศึก ศึ ษา ๒๕๖๖ วัน วั เสาร์ที่ ร์ ที่ ๗ ตุล ตุ าคม ๒๕๖๖ ณ ห้อ ห้ ง ๑๗๔๐๑ ชั้น ชั้ ๔ อาคาร ๑๗ (อาคารเรีย รี นรวมอเนกประสงค์ ๒) มหาวิทวิยาลัย ลั ทัก ทั ษิณษิวิทวิยาเขตสงขลา และรับ รั ชมผ่า ผ่ นช่อ ช่ งทาง Live Facebook page: คณะศิลศิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทวิยาลัย ลั ทัก ทั ษิณษิ Faculty of fineand Applied Art TSU ๑๓.๐๐ น. พิธีพิเ ธีปิดปิ - จุด จุ ธูป ธู เทีย ที นบูช บู าครูแ รู ละกล่า ล่ วต้อ ต้ นรับ รั โดย ผู้ช่ผู้ ว ช่ ยศาสตาจารย์ อรวรรณ โภชนาธาร ประธานสาขาวิชวิาศิลศิ ปะการแสดง - กล่า ล่ วรายงานโครงการโดย นายฤทธิชัธิย ชั หนูท นู อง ๑๓.๓๐ น. นำ เสนอการแสดง ช่ว ช่ งที่ ๑ การแสดงชุด ชุ ที่ ๑ เบิกบิโรงกิ่งกิ่ ไม้เ ม้ งินงิทอง ช่ว ช่ งที่ ๒ การแสดงชุด ชุ ที่ ๒ สำ มนัก นั ขาแปลง การแสดงชุด ชุ ที่ ๓ วัน วั ทองแต่ง ต่ ตัว ตั ออกฉุย ฉุ ฉาย การแสดงชุด ชุ ที่ ๔ พลายบัว บั เกี้ย กี้ วนางตานี ช่ว ช่ งที่ ๓ การแสดงชุด ชุ ที่ ๕ พระสมุท มุ ชมดาว การแสดงชุด ชุ ที่ ๖ พิจิพิตจิรเลขาอุ้มอุ้ สม ช่ว ช่ งที่ ๔ การแสดงชุด ชุ ที่ ๗ ฉุย ฉุ ฉายมัง มั รายกะยอชวา - ร่ว ร่ มบัน บั ทึก ทึ ภาพถ่า ถ่ ยเป็น ป็ ที่ร ที่ ะลึก ลึ กำ หนดการ
“…การสร้างงานศิลปะทุกอย่างทุกประเภท นอกจากต้องใช้ความฝึกหัดชัดเจนในทางปฏิบัติ ประกอบกับวิธีการที่ดีอย่างเหมาะสมแล้ว ศิลปินจำ ต้องมีความจริงใจ และความบริสุทธิ์ใจในงานที่ทำ ด้วย จึงจะได้ผลงานที่มีค่าควรแก่การยอมรับนับถือ…” พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช พระราชทานในพิธีเปิดการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่๒๑ เมื่อวันที่๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๑๕ พระบรมราโชวาท
ผู้ช่ผู้ ว ช่ ยศาสตราจารย์อ ย์ รวรรณ โภชนาธาร ประธานสาขาวิชวิาศิลศิ ปะการแสดง สารประธานสาขาวิชวิาศิลศิ ปะการแสดง การเรีย รี นการสอนรายวิชวิาอาศรมศึก ศึ ษานาฏศิลศิ ป์ไป์ ทย มีเ มีป้า ป้ หมายที่มุ่ ที่ งมุ่ เน้น น้ พัฒ พั นาสมรรถณะ ทัก ทั ษะการแสดงนาฏศิลศิ ป์ไป์ ทยขั้นสูง สู ให้แ ห้ ก่นิ ก่ สินิตสิชั้น ชั้ ปีที่ ปี ที่ ๔ สาขาวิชวิาศิลศิ ปะการแสดง กลุ่มลุ่ วิชวิาเอกนาฏศิลศิ ป์ ไทย โดยให้นิ ห้ สินิตสิเรีย รี นรู้กัรู้ บ กั ศิลศิ ปินปิต้น ต้ แบบอย่า ย่ งอิสอิระตลอดภาคการศึก ศึ ษาโดยไม่จำ ม่ จำกัด กั อยู่ภยู่ ายให้อ ห้ งเรีย รี น นิสินิตสิมีอิ มี สอิระในการเลือ ลื กเรีย รี นรู้แรู้ละฝึกฝนชุด ชุ การแสดงที่ใที่ ฝ่ฝันจากศิลศิ ปินปิครูอ รู าจารย์ที่ ย์ ต ที่ นเองชื่น ชื่ ชอบ อย่า ย่ งจริงริจัง จั ต้อ ต้ งออกไปเรีย รี นรู้ด้รู้ ว ด้ ยตัว ตั เองโดยใช้ทั ช้ ก ทั ษะทุก ทุ มิติมิคติวบคู่กัคู่ บ กั ความรับ รั ผิดชอบ ความตั้ง ตั้ ใจ ความมุ่งมุ่ มั่น มั่ และคุณ คุ ธรรมจริยริธรรมของศิลศิ ปินปิที่ดี ที่ ดี รู้จัรู้ก จั วางตัว ตั วางตนให้ดี ห้ ง ดี าม มีค มี วามนอบน้อ น้ มถ่อ ถ่ ม ตนให้ค ห้ วามเคารพนับ นั ถือ ถื ผู้ที่ถ่ ที่ า ถ่ ยทอดให้ค ห้ วามรู้ และสุด สุ ท้า ท้ ยนิสินิตสิต้อ ต้ งประมวลทัก ทั ษะความรู้เรู้หล่า ล่ นั้น นั้ มา จัด จั แสดงเผยแพร่ต่ ร่ อ ต่ สาธารณะให้เ ห้ป็น ป็ ที่ปที่ ระจัก จั ษ์ ขอขอบพระคุณ คุ ท่า ท่ นศิลศิ ปินปิครูอ รู าจารย์ผู้ ย์ ผู้ถ่า ถ่ ยทอดอาศรมศึก ศึ ษานาฏศิลศิ ป์ไป์ ทยทุก ทุ ชุด ชุ การแสดง ขอบพระคุณ คุ ในอุด อุ มการณ์อั ณ์ น อั แน่ว น่ แน่ที่ น่ ต้ ที่ อ ต้ งการสืบ สื สาน ศิลศิ ปวัฒ วั นธรรมของชาติใติห้แ ห้ ก่ค ก่ นรุ่นรุ่ ใหม่ ได้ รัก รั ษาและสานต่อ ต่ ไปในภายหน้า น้ กิจกิกรรมและประสบการณ์ที่ ณ์ น่ ที่ า น่ จดจำ ของนิสินิตสิจะเกิดกิขึ้นไม่ไม่ ด้เ ด้ ลยถ้า ถ้ ทุก ทุ ท่า ท่ นไม่เ ม่ มตตาและให้ค ห้ วามกรุณ รุ าเหมือ มื นดั่ง ดั่ โอกาสนี้
รำ กิ่งกิ่ ไม้เม้งินงิทอง เป็นป็การแสดงเบิกบิโรงของละครใน ที่มี ที่ รูมี ปรูแบบและลักลัษณะการแสดง ตลอดจนกระบวนท่าท่รำ เพื่อ พื่ แสดงความสามารถ และความงามของท่าท่รำ แบบละครในของตัวตัพระ ที่บ ที่ รมครูทรูางด้าด้นนาฏศิลศิ ป์ไป์ทยร่วร่มกันกั ประดิษดิฐ์กฐ์ระบวนท่าท่รำ ขึ้น ขึ้ ลักลัษณะการแสดงเป็นป็ศิลศิ ปะ การร่าร่ยรำ เป็นป็คู่ขคู่ องผู้แผู้สดงละครพระ ซึ่ง ซึ่ มีอุมี ปอุกรณ์ปณ์ระกอบการแสดง ได้แด้ก่ มือมืขวาถือถืดอกไม้ทม้องและมือมืซ้าซ้ยถือถืดอกไม้เม้งินงิผู้แผู้สดงต้อต้งมีพื้มีน พื้ ฐานตัวตัพระเป็นป็อย่าย่งดี มีฝีมีมืฝีอมืในการรำ ที่ง ที่ ดงาม การถ่าถ่ยทอดท่าท่รำ เริ่มริ่จากจะต้อต้งให้ผู้ห้รำผู้รำแม่นม่ยำ ในเนื้อ นื้ ร้อร้งและท่วท่งทำ นองเพลง ฝึกฝึ ฝนท่าท่รำ แต่ลต่ะท่าท่ ให้เห้กิดกิความชำ นาญและความสอดคล้อล้งประสานสัมสัพันพัธ์ซึ่ธ์ง ซึ่ กันกัและกันกัของผู้รำผู้รำทั้ง ทั้ 2 คน ซึ่ง ซึ่ แบ่งบ่ขั้น ขั้ ตอนได้ดัด้งดันี้ การรำ ออกตามทำ นอง เพลงโคมเวียวีน การรำ ตีบตีทตามบทร้อร้งรำ และรำ ประกอบตามทำ นองเพลงเชิดชิจีนจีจนจบกระบวนท่าท่รำ เพื่อ พื่ สืบสืสานและสืบสืทอดศิลศิ ปะการแสดงที่เ ที่ ป็นป็เอกลักลัษณ์ตณ์ามรูปรูแบบละครในทุกทุขั้น ขั้ ตอนของการถ่าถ่ยทอดท่าท่รำ ต้อต้งให้ผู้ห้เผู้รียรีนมีกมีารเรียรีนรู้ ด้วด้ยความเข้าข้ใจและสามารถปฎิบัฎิติบั ไติด้จด้ริงริทั้ง ทั้ ท่าท่รำ ตามบทขับขัร้อร้งและทำ นองเพลง สอนให้ผู้ห้รำผู้รำมีอิมีริอิยริาบถที่ง ที่ ดงาม การเคลื่อ ลื่ นไหวส่วส่นต่าต่งๆ เช่นช่ มือมืแขน ขา ใบหน้าน้และลำ ตัวตัการเชื่อ ชื่ มท่าท่ที่เ ที่ หมาะเจาะเข้าข้กับกัจังจัหวะของเพลงและการใช้อุช้ ปอุกรณ์ใณ์นการรำ ที่ถู ที่ กถูต้อต้งงดงาม ล้วล้นเป็นป็สิ่งสิ่สำ คัญคัที่ผู้ ที่ ผู้ สอนมุ่งมุ่ เน้นน้ แนวคิด คิ จากศิล ศิ ปิน ปิ ผู้ถ่ผู้า ถ่ ยทอดท่า ท่ รำ อาจารย์นย์พวรรณ จันจัทรักรัษา นาฎศิลศิ ปินปิอาวุโวุส สำ นักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร กระทรวงวัฒวันธรรม
นาฏศิลศิ ป์ไป์ทยจะอยู่ยั่ยู่ ง ยั่ ยืนยืได้ต้ด้อต้งมีกมีารอนุรันุกรัษ์ไษ์ว้สืว้บสืต่อต่กันกัมาจากรุ่นรุ่ สู่รุ่สู่นรุ่ ตามแบบแผน โบราณกาล ทุกทุรุ่นรุ่ ต้อต้งมีคมีรูแรูละศิษศิย์เย์ป็นป็องค์ปค์ระกอบ ถ้าถ้ขาดใครคนใดคนหนึ่ง นึ่ ก็จัก็กจั ไม่มีม่มมีรดกสืบสืทอด ทางนาฏศิลศิ ป์ไป์ทยตกทอดมาจนถึงถึทุกทุวันวันี้ การที่เ ที่ ราได้มด้าเป็นป็ครูผู้รูถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ ให้กัห้บกัศิษศิย์ ไม่ว่ม่าว่จะ ถ่าถ่ยทอดให้แห้ก่สก่ถาบันบัการศึกศึษาใดก็ตก็ามจะต้อต้งมีคมีวามรักรัความเมตตาให้กัห้บกัลูกลูศิษศิย์ชี้ย์แ ชี้ นะแก้ไก้ขมีคมีวาม เพียพีร ความอดทน ความเชี่ย ชี่ วชาญ ประสบการณ์คณ์วามรู้ที่รู้ ไที่ ด้รัด้บรัการถ่าถ่ยทอดจากคุณคุครูบรูาอาจารย์หย์ลายๆท่าท่นมาอีกอีที ซึ่ง ซึ่ จะสอน และทำ ให้ลูห้กลูศิษศิย์ไย์ด้มีด้คมีวามเข้าข้ใจในองค์คค์วามรู้ที่รู้ ม ที่ อบให้อห้ย่าย่งถ่อถ่งแท้รท้วมทั้ง ทั้ การให้กำห้กำลังลั ใจและใส่ ความมั่น มั่ ในเป็นป็กำ ลังลั ใจให้ลูห้กลูศิษศิย์แย์สดงศักศัยภาพของตัวตัเองออกมาอย่าย่งเป็นป็ที่จ ที่ ดจำ ให้แห้ก่ผู้ก่ชผู้ มและเก็บก็ องค์คค์วามรู้ที่รู้ เ ที่ รามอบให้นำห้นำไปใช้สืช้บสืต่อต่ ไป หวังวัว่าว่การที่เ ที่ ราได้ถ่ด้าถ่ยทอดให้กัห้บกัศิษศิย์นั้ย์น นั้ ๆ จะเป็นป็ ประโยชน์ใน์ห้กัห้บกัลูกลูศิษศิย์ใย์นวงการนาฏศิลศิ ป์ และประเทศชาติต่ติอต่ ไป ให้นห้าฏศิลศิ ป์ไป์ทยยังยัทรงคุณคุค่าค่งดงามเสมอ เป็นป็มรดกของชาติไติทยไปอีกอีนานแสน นาน อาจารย์รย์จนา ทับทัทิมทิศรี นาฏศิลศิ ปินปิอาวุโวุสละครนาง สำ นักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร กระทรวงวัฒวันธรรม รำ เด่นด่เน้นน้อารมณ์ ใส่จส่ริตริของนางแปลง อย่าย่งถูกถูต้อต้งตามจารีตรีของนางโขน อาจารย์พย์รทิพทิย์ ทองคำ นาฏศิลศิ ปินปิอาุวโสละครนาง สำ นักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร กระทรวงวัฒวันธรรม
อาศรมศึกศึษาในอดีตดีเนื้อ นื้ แท้ขท้องการอาศรมนั้น นั้ ไม่ใม่ช่เช่ ป็นป็แค่กค่ารเรียรีนรู้กรู้ ระบวนท่าท่รำ และลีลลีา จากครูต้รูนต้แบบเท่าท่นั้น นั้ แต่มัต่นมัคือคืการเรียรีนรู้อุรู้ ปอุนิสันิยสั ใจคอ แนวความคิดคิและวิถีวิกถีารดำ เนินนิชีวิชีตวิที่ไที่ ด้ใด้ช้ ชีวิชีตวิอยู่ร่ยู่ วร่มกันกั ในช่วช่งระยะเวลาหนึ่ง นึ่ ที่อ ที่ าจเป็นป็เดือดืนๆหรือรืเป็นป็ ปีๆปีซึ่ง ซึ่ ทั้ง ทั้ ครูแรูละศิษศิย์ต่ย์าต่งก็ต้ก็อต้งผ่าผ่น ความอดทน อดกลั้น ลั้ เรียรีนรู้ซึ่รู้ ง ซึ่ กันกัและกันกัจนมันมัถูกถูบ่มบ่เพาะกลายเป็นป็ความรักรัความผูกผูพันพัความ เคารพและศรัทรัธากันกัระหว่าว่งครูกัรูบกัศิษศิย์ ดังดันั้น นั้ จึงจึไม่เม่ ป็นป็การแปลกเลยว่าว่ทำ ไมศิษศิย์จึย์งจึเคารพครู ไม่ต่ม่าต่งจากพ่อพ่แม่ แม้ว่ม้าว่ ปัจจุบัจุนบัการอาศรมจะถูกถูบรรจุใจุนรายวิชวิาการเรียรีนการสอน โดยมีรมีะยะเวลาและระยะ ทางเป็นป็ตัวตักำ หนดในการศึกศึษา ทำ ให้คห้วามเข้มข้ข้นข้ของการอาศรมจะลดทอนลงไปบ้าบ้ง แต่คต่รูก็รูเก็ชื่อ ชื่ มั่น มั่ ว่าว่ความมุ่งมุ่ มั่น มั่ อันอัแรงกล้าล้และความตั้ง ตั้ ใจที่ดี ที่ ขดีองศิษศิย์จย์ะทำ ให้ซึห้มซึซับซัถึงถึสิ่งสิ่สำ คัญคัต่าต่งๆของ การอาศรมและนำ พาไปสู่คสู่วามสำ เร็จร็ในชีวิชีตวิ อาจารย์พิย์มพิพ์รัพ์ตรัน์ นะวะศิริศิริ นาฏศิลศิ ปินปิอาวุโวุสละครพระ สําสํนักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร กระทรวงวัฒวันธรรม การเรียรีนรู้ด้รู้าด้นนาฏศิลศิ ป์ไป์ทยเป็นป็ศาสตร์ที่ร์ถื ที่ อถืได้ว่ด้าว่ต้อต้งใช้คช้วามอดทนในการ ฝึกฝึ ฝนเป็นป็อย่าย่งมาก อีกอีทั้ง ทั้ ยังยัต้อต้งอาศัยศัการสังสัเกตอย่าย่งละเอียอีดเพื่อ พื่ เลียลีนแบบท่าท่ทาง จากครูผู้รูสผู้ อนให้มีห้คมีวามคล้าล้ยคลึงลึและสวยงามมากที่สุ ที่ ดสุ ขอขอบคุณคุมหาวิทวิยาลัยลัทักทัษิณษิคณาจารย์แย์ละนักนัศึกศึษาทุกทุคนในรายวิชวิา อาศรมศึกศึษา ที่เ ที่ ล็งล็เห็นห็ถึงถึความสำ คัญคัของการศึกศึษาด้าด้นนาฏศิลศิ ป์ไป์ทยและให้เห้กียกีรติมติา เป็นป็ส่วส่นหนึ่ง นึ่ ของครูผู้รูถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ ครูขรูออวยพรให้นัห้กนัศึกศึษาทุกทุคนประสบความสำ เร็จร็ ในการเรียรีนและประสบความสำ เร็จร็ในชีวิชีตวิการทำ งานยิ่งยิ่ขึ้น ขึ้ ไป อาจารย์อย์าภัสภัรา นกออก นาฏศิลศิ ปินปิชำ นาญงาน สำ นักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร กระทรวงวัฒวันธรรม
ต้อต้งการสร้าร้งงานย้อย้นรอยในยุคยุสมัยมักรุงรุศรีอรียุธยุยาตามแบบละครในราชสำ นักนั โดยสืบสืค้นค้จากข้อข้มูลมูหลักลัฐานที่ปที่ รากฏในตำ รารำ เนื่อ นื่ งจากในยุคยุ สมัยมัที่เ ที่ กิดกิละครใน ยุคยุแรกๆท่าท่รำ ได้มีด้กมีารพัฒพันาเปลี่ย ลี่ นแปลงไปจนถึงถึสมัยมัรัชรักาลที่๒ ที่ กระบวนท่าท่รำ ของรัชรักาลที่๒ ที่ เป็นป็ต้นต้แบบที่ใที่ ช้อช้ยู่ใยู่ นปัจจุบัจุนบัและในอดีตดี ว่าว่ก่อก่นหน้าน้นี้เ นี้ป็นป็รำ แบบไหน ต่อต่มาเห็นห็ตำ รารำ ใช้ภช้าพลายเส้นส้และในตำ รารำ ได้มีด้กมีารระดมครูรำรูรำรุ่นรุ่ เก่าก่ที่สื ที่ บสืทอดมาแต่คต่รั้ง รั้ กรุงรุศรีอรียุธยุยา จนกระทั่ง ทั่ กรุงรุ แตกรัชรักาลที่๑ ที่ ได้รด้วบรวมกลับลัมาวาดภาพลายเส้นส้กำ หนดเป็นป็แบบอย่าย่ง ได้เด้ห็นห็ท่าท่ทางต่าต่งๆของการใช้มืช้อมื ใช้วช้ง ใช้ขช้า ใช้เช้ท้าท้และได้นำด้นำเอาท่าท่ตรงนั้น นั้ มารื้อ รื้ ฟื้น ฟื้ เป็นป็การสร้าร้งกระบวนท่าท่รำ โดยจะเห็นห็ ได้ว่ด้าว่บทวรรณกรรมที่เ ที่ อามาใช้ใช้นสมัยมัอยุธยุยาเป็นป็การรำ ละครใน ในลักลัษณะของการต่อต่มือมืต่อต่แขนก็จก็ะมีเมีรื่อ รื่ งพิจิพิตจิรเลขาและเป็นป็ต้นต้กำ เนิดนิของเรื่อ รื่ งอนิรุนิทรุธคำ ฉันฉัท์ ซึ่ง ซึ่ เป็นป็ต้นต้ทางของเรื่อ รื่ งอุณอุรุทรุ จึงจึนำ บทเก่าก่มาประพันพัธ์ใธ์หม่เม่ ป็นป็กลอนแปด ผู้ช่ผู้ วช่ยศาสตราจารย์ ดร.ขวัญวั ใจ คงถาวร รองคณบดีคดีณะศิลศิ ปนาฏดุริดุยริางค์ สถาบันบับัณบัฑิตฑิพัฒพันศิลศิ ป์ อาจารย์คัย์ทคัลียลีา ประกอบผล หัวหัหน้าน้ภาคนาฏศิลศิ ป์ไป์ทย คณะนาฏดุริดุยริางค์ สถาบันบับัณบัฑิตฑิพัฒพันศิลศิ ป์
คำ นิยนิามสำ หรับรัพี่ที่ พี่ เ ที่ คยผ่าผ่นการเรียรีนการสอบแบบนี้ม นี้ าก่อก่น สำ หรับรัพี่คื พี่ อคื "ตั้ง ตั้ ใจเรียรีนในห้อห้งเรียรีนให้เห้ต็มต็ที่ หมั่น มั่ ฝึกฝึซ้อซ้มในห้อห้งเรียรีน สงสัยสัต้อต้งถามเพราะ วิชวิาปฏิบัฏิติบัต้ติอต้งเข้าข้ใจก่อก่นถึงถึจะทำ ให้อห้อกมาได้ดีด้แดีละที่สำ ที่ สำคัญคัถ้าถ้เราตั้ง ตั้ ใจ เข้าข้ใจ ในห้อห้งเรียรีนแล้วล้พี่คิ พี่ ดคิเสมอๆว่าว่ถ้าถ้เราไปเรียรีนกับกัครูผู้รูเผู้ชี่ย ชี่ วชาญท่าท่นอื่น อื่ จะได้ ไม่ต้ม่อต้งไปเป็นป็ภาระของท่าท่นในวันวันั้น นั้ เราไปรับรัความรู้ไรู้ม่ใม่ช่ไช่ ปเป็นป็ภาระ" ศิลศิ ปินปิผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์พย์งษ์ศัษ์กศัดิ์ บุญบุล้นล้ นาฏศิลศิ ปินปิอาวุโวุสโขนพระ สำ นักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร กระทรวงวัฒวันธรรม นาฏกรรมไทย เป็นป็การแสดงที่มี ที่ คมีวามงดงามในเชิงชิศิลศิ ปะ มีคมีวามเป็นป็เลิศลิ มีคมีวามวิจิวิตจิรในความเป็นป็ ไทย นอกจากนั้น นั้ นาฏกรรมไทยยังยัเป็นป็ศิลศิ ปะไร้พร้รมแดน สามารถสร้าร้งความประทับทั ใจแก่ผู้ก่ชผู้ มต่าต่งวัฒวันธรรมและยังยัสร้าร้งภาพลักลัษณ์ที่ณ์ดี ที่ ดี ของประเทศไทยได้อีด้กอีด้วด้ย ศิลศิ ปินปิผู้ถ่ผู้าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์สัย์นสัติ ธรรมปริยัริตยั ผู้สืผู้ บสืทอดท่าท่รำ สายวังวัเจ้าจ้พระยานครศรีธรีรรมราช
เบิก บิโรงกิ่งไม้เ ม้ งิน งิ ทอง ศิลศิ ปินปิผู้ถ่ผู้ า ถ่ ยทอดท่า ท่ รำ อาจารย์นย์พวรรณ จันจัทรักรัษา นาฏศิลศิ ปินปิอาวุโ วุ สละครพระ สำ นักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร กระทรวงวัฒวันธรรม ผู้แผู้สดง นายกัณกัฐรากร จอเสน นายธนพล สุว สุ รรณมณี ประวัติ วั กติารแสดง การแสดงชุด ชุ เบิกบิโรงกิ่งกิ่ ไม้เม้งินงิทอง เป็นป็การรำ เบิกบิโรงละครในที่พ ที่ ระบาทสมเด็จด็พระจอมเกล้าล้เจ้าจ้อยู่หัยู่ วหัทรงโปรดเกล้าล้ ให้ ประดิษดิฐ์ขึ้ฐ์น ขึ้ ใหม่แม่ทนรำ ประเลง ผู้รำผู้รำแต่งต่กายยืมยืเครื่อ รื่ งพระ ๒ คน สวมชฎาเป็นป็เครื่อ รื่ งศิรศิาภรณ์แณ์ทนการสวมหัวหัเทวดาโล้นล้สมมติ ว่าว่เป็นป็เทวดา มือมืข้าข้งขวากำ กิ่งกิ่ ไม้ทม้อง มือมืข้าข้งซ้าซ้ยกำ กิ่งกิ่ ไม้เม้งินงิลีลลีาท่าท่รำ ดำ เนินนิไปตามบทขับขัร้อร้งที่พ ที่ ระองค์ทค์รงพระราช นิพนินธ์ขึ้ธ์น ขึ้ โดยมีพมีระราชประสงค์ใค์ห้เห้กิดกิความสวัสวัดิมดิงคลแก่กก่ารแสดงและผู้แผู้สดง ตลอดจนผู้ชผู้ มโดยทั่ว ทั่ กันกั
สำ มนัก นั ขาแปลง ศิลศิ ปินปิผู้ถ่ผู้ าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์พย์รทิพทิย์ ทองคำ นาฏศิลศิ ปินปิอาวุโวุสละครนาง สำ นักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร กระทรวงวัฒวันธรรม ผู้แผู้สดง นางสาวจันจัทิมทิา ผู้คำผู้คำ ประวัติวักติารแสดง การแสดงชุดชุ"สำ มนักนัขาเเปลง" ตัดตัตอนมาจากโขนเรื่อ รื่ งรามเกียกีรติ์ ตอน สำ มนักนัขาก่อก่ศึกศึเรื่อ รื่ งมีอมียู่ว่ยู่ าว่นางสำ มนักนัขาน้อน้งสาวของทศกัณกัฐ์ ต้อต้งตกเป็นป็พุ่มพุ่ ม่าม่ยด้วด้ยทศกัณกัฐ์ผู้ฐ์พี่ผู้ เ พี่ ข้าข้ใจผิดผิขว้าว้งจักจัรตัดตัลิ้นลิ้ชิวชิหาสามีขมีองนางตาย นางสำ มนักนัขาเกิดกิความเศร้าร้โศกเสียสีใจเป็นป็อย่าย่งมาก นางสำ มนักนัขาจึงจึขอต่อต่ทศกัณกัฐ์ไฐ์ปเดินดิ ป่าป่เพื่อ พื่ คลายความโศกเศร้าร้ลง เมื่อ มื่ ได้เด้ห็นห็พระรามก็นึก็กนึรักรัจึงจึแปลงเป็นป็หญิงญิงามติดติตามพระรามไปที่อ ที่ าศรม แต่เต่มื่อ มื่ เห็นห็พระรามอยู่กัยู่ บกันางสีดสีาก็เก็กิดกิความหึงหึหวง จะเข้าข้ทำ ร้าร้ยนางสีดสีา พระลักลัษมณ์กณ์ริ้วริ้จับจันางตัดตัมือมืเท้าท้หู จมูกมูสร้าร้งความเจ็บจ็แค้นค้ ให้กัห้บกั นางสำ มนักนัขาเป็นป็อันอัมาก นางจึงจึไปยุยยุงให้ทห้ศกัณกัฐ์มฐ์าลักลัพานางสีดสีา ก่อก่ ให้เห้กิดกิสงครามตามมา
ศิลศิ ปินปิผู้ถ่ผู้ าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์รย์จนา ทับทัทิมทิศรี นาฏศิลศิ ปินปิอาวุโวุสละครนาง สำ นักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร กระทรวงวัฒวันธรรม ผู้แผู้สดง นางสาวลักลัษิกษิา บุญบุครอง ประวัติวักติารแสดง การแสดงชุดชุวันวัทองแต่งต่ตัวตัออกฉุยฉุฉาย เป็นป็การรำ เดี่ย ดี่ วที่ตั ที่ ดตัตอนมาจากละครเรื่อ รื่ งขุนขุช้าช้งขุนขุแผน ตอนพระไวยแตกทัพทั ในความตอนนั้น นั้ กล่าล่วว่าว่พลายงามหรือรืจมื่น มื่ ไวยวรนาถได้รัด้บรัพระราชบัญบัชาให้ยห้กทัพทั ไปปราบทัพทัมอญใหม่ เปรตวันวัทองจึงจึกลายร่าร่งเป็นป็นางงามแต่งต่ตัวตัและใส่ เครื่อ รื่ งประดับดัสวยงามมาดักดัรอลูกลูชาย เพื่อ พื่ ส่งส่ข่าข่วว่าว่ทัพทัมอญใหม่คืม่อคืขุนขุแผนผู้เผู้ป็นป็บิดบิากับกัน้อน้งชายชื่อ ชื่ พลายชุมชุพลนั่น นั่ เอง แต่จต่มื่น มื่ ไวยวรนาถไม่รู้ม่ รู้ ว่าว่นางคือคืแม่ขม่องตนจึงจึเข้าข้ไปเกี้ย กี้ วพาราสี นางวันวัทองจึงจึคืนคืร่าร่งเป็นป็เปรตและเตือตืนพระไวยให้รู้ห้ถึรู้ งถึการศึกศึครั้ง รั้ นี้ การรำ ฉุยฉุฉายชุดชุนี้เ นี้ป็นป็รำ ชมโฉมตนเองที่ไที่ ด้แด้ปลงร่าร่งเป็นป็หญิงญิสาว มีรูมี ปรูร่าร่งหน้าน้ตาผิวผิพรรณสวยงาม ซึ่ง ซึ่ ลักลัษณะของการรำ ชุดชุนี้จ นี้ ะอวด ลีลลีาการร่าร่ยรำ ที่ใที่ ส่จส่ริตริกิริกิยริาท่วท่งทีแทีละอารมณ์ไณ์ด้มด้ากตามแบบแผนของละครนอก วัน วั ทองแต่ง ต่ ตัว ตั ออกฉุย ฉุ ฉาย
พลายบัว บั เกี้ย กี้ วนางตานี ศิลศิ ปินปิผู้ถ่ผู้ าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์สัย์นสัติ ธรรมปริยัริติยั ติ ผู้สืผู้ บสืทอดท่าท่รำ สายวังวัเจ้าจ้พระยานครศรีธรีรรมราช ผู้แผู้สดง นางสาวจุฑจุามาศ รัตรันมณี นางสาวพัชพัรพร ดำ น้อน้ย ประวัติวักติารแสดง เป็นป็การแสดงชุดชุหนึ่ง นึ่ ที่ตั ที่ ดตัตอนมาจากการแสดงละครเรื่อ รื่ ง ขุนขุช้าช้งขุนขุแผน ตอน พลายเพชรพลายบัวบัออกศึกศึกล่าล่วถึงถึพลายบัวบับุตบุรของพระ ไวยกับกันางศรีมรีาลา ได้หด้ลงรักรั ในตัวตัของนางแว่นว่แก้วก้จึงจึเดินดิทางไปที่บ้ ที่ าบ้นของนางแว่นว่แก้วก้ ในระหว่าว่งเดินดิทางไปนั้น นั้ ได้ผ่ด้าผ่นดงกล้วล้ยตานีแนีละได้พด้บกับกั ภูตภูผีปิผีศปิาจมากมาย แต่พต่ลายบัวบัสามารถปราบได้แด้ต่มีต่นมีางตานีตนีนหนึ่ง นึ่ ได้แด้ปลงกายเป็นป็หญิงญิงามเข้าข้มายั่ว ยั่ ยวนพลายบัวบัแต่ภต่ายหลังลัทนเวทมนตร์ขร์อง พลายบัวบั ไม่ไม่ด้จึด้งจึคืนคืกลับลัร่าร่งเดิมดิและเป็นป็บริวริารของพลายบัวบัต่อต่มา
ศิลศิ ปินปิผู้ถ่ผู้ าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์พิย์มพิพ์รัพ์ตรัน์ นะวะศิริศิริ นาฏศิลศิ ปินปิอาวุโวุสละครพร สำ นักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร กระทรวงวัฒวันธรรม อาจารย์อย์าภัสภัรา นกออก นาฏศิลศิ ปินปิชำ นาญงาน สำ นักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร กระทรวงวัฒวันธรรม ผู้แผู้สดง นางสาวเขมิสมิรา กำ เหนิดนิฤทธิ์ นางสาวเมขลา จันจัทร์เร์มือมืง ประวัติวักติารแสดง การแสดงชุดชุพระสมุทมุชมดาว เป็นป็การแสดงละครนอกแบบหลวง ซึ่ง ซึ่ กรมพระราชวังวับวรวิชัวิยชัชาญได้ทด้รงพระราชนิพนินธ์บธ์ทละครเรื่อ รื่ งพระ สมุทมุตอนชมดาว กล่าล่วถึงถึพระสมุทมุลักลัพานางบุษบุมาลีมลีา นางนั้น นั้ เศร้าร้โศกเสียสีใจที่พ ที่ ลัดลัพรากจากเมือมืง พระสมุทมุจึงจึพานางเหาะขึ้น ขึ้ บนท้อท้งฟ้าฟ้เพื่อ พื่ จะให้นห้างได้คด้ลายความโศกเศร้าร้ลง โดยชี้ช ชี้ วนให้นห้างบุษบุมาลีชื่ลีน ชื่ ชมหมู่ดมู่ าว ซึ่ง ซึ่ ประกอบด้วด้ยหมู่ดมู่ าวทั้ง ทั้ ๙ ดวง พระสมุท มุ ชมดาว
ศิลศิ ปินปิผู้ถ่ผู้ าถ่ยทอดท่าท่รำ ผู้ช่ผู้ วช่ยศาสตราจารย์ ดร.ขวัญวั ใจ คงถาวร รองคณบดีคดีณะศิลศิ ปนาฏดุริดุยริางค์ สถาบันบับัณบัฑิตฑิพัฒพันศิลศิ ป์ อาจารย์คัย์ทคัลียลีา ประกอบผล หัวหัหน้าน้ภาคนาฏศิลศิ ป์ไป์ทย คณะนาฏดุริดุยริางค์ สถาบันบับัณบัฑิตฑิพัฒพันศิลศิ ป์ ผู้แผู้สดง นางสาวฉัตฉัรนารี คงศรี นางสาวอศัลศัยา ใจหาญ ประวัติวักติารแสดง การแสดงชุดชุพิจิพิตจิรเลขาอุ้มอุ้ สม เป็นป็ผลงานสร้าร้งสรรค์เค์ชิงชิอนุรันุกรัษ์ขษ์องผู้ช่ผู้ วช่ยศาสตราจารย์ขย์วัญวั ใจ คงถาวร รองคณบดีคดีณะศิลศิ ปศาสตร์นร์าฏ ดุริดุยริางค์ สถาบันบับัณบัฑิตฑิพัฒพันศิลศิ ป์ โดยได้แด้รงบันบัดาลใจในการสร้าร้งสรรค์จค์ากการศึกศึษาบทอนิรุนิทรุธ์คำธ์คำฉันฉัท์แท์ละพบว่าว่มีบมีทการรำ ซึ่ง ซึ่ เป็นป็ต้นต้แบบของ การรำ ชุดชุศุภศุลักลัษณ์อุ้ณ์มอุ้ สมจึงจึได้นำด้นำมาสร้าร้งสรรค์เค์ป็นป็กระบวนท่าท่รำ ในรูปรูแบบการรำ คู่โคู่ ดยใช้ท่ช้าท่รำ ตามแบบสมัยมักรุงรุศรีอรียุธยุยาตอนปลายจนถึงถึต้นต้ กรุงรุรัตรันโกสินสิทร์ ตามรูปรูแบบนาฏยจารีตรีแบบหลวง ประพันพัธ์บธ์ทโดยดร.ปิยปิวัชวัร์ สุทสุธิวธินิชนิ พิจิ พิ ต จิ รเลขาอุ้มอุ้ สม
ศิลศิ ปินปิผู้ถ่ผู้ าถ่ยทอดท่าท่รำ อาจารย์พย์งษ์ศัษ์กศัดิ์ บุญบุล้นล้ นาฏศิลศิ ปินปิอาวุโวุสโขนพระ สำ นักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร กระทรวงวัฒวันธรรม ผู้แผู้สดง นายฤทธิชัธิยชัหนูทนูอง ประวัติวักติารแสดง การแสดงชุดชุฉุยฉุฉายมังมัรายกะยอชวาเป็นป็การแสดงเบิกบิโรงจากละครเรื่อ รื่ ง ราชาธิรธิาช ตอน กระทำ สัตสัย์ดูย์ตัดูวตัสมิงมินครอินอิทร์ ศึกศึมังมัรายกะยอชวา เนื้อ นื้ ความของฉุยฉุฉายมังมัรายกะยอชวา กล่าล่วถึงถึมังมัรายกะยอชวาผู้เผู้ป็นป็ชายชาติทติหารเป็นป็คนที่มี ที่ น้ำมีน้ำใจเด็ดด็เดี่ย ดี่ ว ห้าห้วหาญ มีคมีวามมุ่งมุ่ มั่น มั่ ที่จ ที่ ะเอาชนะและเป็นป็ คนที่มี ที่ กมีลอุบอุายมากมายแต่มัต่กมัจะคิดคิส่วส่นได้มด้ากกว่าว่ส่วส่นเสียสี มังมัรายกะยอชวาผู้เผู้ป็นป็ข้าข้ศึกศึคนสำ คัญคัของพระเจ้าจ้ราชาธิรธิาช ซึ่ง ซึ่ ได้ทำด้ทำสงครามกับกัพระเจ้าจ้ราชาธิรธิาชตามคำ อธิษธิฐาน ตั้ง ตั้ แต่ชต่าติปติางก่อก่นหลายครั้ง รั้ แต่ไต่ม่สม่ามารถเอาชนะได้แด้ม้จม้ะเป็นป็ ฝ่าฝ่ยได้เด้ปรียรีบจนในที่สุ ที่ ดสุต้อต้งสิ้นสิ้ชีวิชีตวิอีกอีครั้ง รั้ อาจารย์ปย์กรณ์ พรพิสุพิทสุธิ์ นาฏศิลศิ ปินปิอาวุโวุส สำ นักนัการสังสัคีตคีกรมศิลศิ ปากร ได้หด้ยิบยิยกตัวตัละครเอกตัวตันี้ มาออกแบบท่าท่รำ ฉุยฉุฉายที่ส ที่ วยงาม ฉุย ฉุ ฉายมัง มั รายกะยอชวา
ผูัถ่ผูั า ถ่ ยทอดท่ารำ อาจารย์น ย์ พวรรณ จัน จั ทรัก รั ษา อาจารย์พ ย์ รทิพทิย์ ทองคำ อาจารย์ร ย์ จนา ทับ ทั ทิิมทิิศรี อาจารย์พิ ย์ มพิพ์รั พ์ ต รั น์ นะวะศิริศิริ อาจารย์อ ย์ าภัส ภั รา นกออก อาจารย์พ ย์ งศ์ศั ศ์ ก ศั ดิ์ บุญบุ ล้น ล้ ผู้ช่ว ช่ ยศาสตราจารย์ ดร.ขวัญ วั ใจ คงถาวร อาจารย์คั ย์ ท คั รีย รี า ประกอบผล อาจารย์สั ย์ น สั ติ ธรรมปริยัริติ ยั ติ คณาจารย์ส ย์ าขาวิชวิาศิลปะการแสดง ผู้ช่ว ช่ ยศาสตราจารย์อ ย์ รวรรณ โภชนาธาร (ประธานสาขาวิชวิาศิลศิ ปะการแสดง) ผู้ช่ว ช่ ยศาสตราจารย์ธ ย์ รรมนิตนิย์ นิคนิมรัต รั น์ อาจารย์ปย์ ระภาพรรณ ภูเ ภู ก้า ก้ ล้ว ล้ น อาจารย์ส ย์ ายฝน ไฝเส้ง ส้ อาจารย์สุ ย์ พ สุ จน์ จูก จู ลิ่นลิ่ ขอขอบคุณ คุ
ฝ่า ฝ่ ยพิธีพิก ธี าร นางสาวเมขลา จัน จั ทร์เ ร์ มือ มื ง นางฉัต ฉั รนารี คงศรี ฝ่า ฝ่ ยปฏิคฏิม นางสาวจุฑ จุ ามาศ รัต รั นมณี นางสาวจิรจิาพร มะเดื่อ ดื่ ฝ่า ฝ่ ยประชาสัม สั พัน พั ธ์ นางสาวจัน จั ทิมทิา ผู้คำผู้คำ นางสาวฉัต ฉั รนารี คงศรี ฝ่า ฝ่ ยลงทะเบีย บี น นางสาวเขมิสมิรา กำ เหนิดนิฤทธิ์ นางสาวกุล กุ ทัศ ทั วรรณ แก้ว ก้ ขาว ฝ่า ฝ่ ยงบประมาณ นางสาวอศัล ศั ยา ใจหาญ นางสาวจัน จั ทิมทิา ผู้คำผู้คำ ฝ่า ฝ่ ยแสงและเสีย สี ง นางสาวณััฐ ณัั วดี เทพจัน จั ทร์ นางสาวพรญานี ยอดเอีย อี ด ขอขอบคุณ คุ ทีม ที งานฝ่า ฝ่ ยต่า ต่ งๆ ฝ่า ฝ่ ยสถานที่ นายกัณ กั ฐรากร จอเสน นายธนพล สุว สุ รรณมณี ฝ่า ฝ่ ยสวัส วั ดิกดิาร นางสาวพัช พั รพร ดำ น้อ น้ ย นางสาวอศัล ศั ยา ใจหาญ ฝ่า ฝ่ ยเทคนิคนิและบัน บั ทึก ทึ ภาพถ่า ถ่ ย นายศิริศิพริงษ์ ทองเสน นายอริสริบาเหะ ฝ่า ฝ่ ยสูจิ สู บัจิต บั ร นายฤทธิชัธิย ชั หนูท นู อง นางสาวลัก ลั ษิกษิา บุญบุ ครอง ฝ่า ฝ่ ยเอกสาร/ประสานงาน นางสาวเขมิสมิรา กำ เหนิดนิฤทธิ์ นางสาวลัก ลั ษิกษิา บุญบุ ครอง ฝ่า ฝ่ ยbackstage นายกัณ กั ฐรากร จอเสน นายธนกร ชัย ชั มนตรี
เบื้องหลัง ลั การแสดง