4
๑
ความเป็นมา
สามก๊ก เป็นวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์ ที่เรื่องราวและเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นจริงใน
ประวัติศาสตร์ของจีน ซึ่งเนื้อหาโดยรวมเป็นการเล่าแบบบรรยายเกี่ยวกับเหตุการณ์ในปลายสมัยราชวงศ์ฮั่น
และจีนในขณะนั้นบ้านเมืองเกิดเหตุการณว์ ุ่นวายระส่ำระสาย เกดิ การแตกแผน่ ดินออกเปน็ ก๊กต่าง ๆ รวมสาม
ก๊กด้วยกัน รวมทั้งมีการทำสงครามอันยาวนานนับ ๑๐๐ ปี และสุดท้ายจีนที่แตกออกเป็นก๊กเป็นเหล่าก็
กลับมารวมเป็นจีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้งในสมัยราชวงศ์จิ้นขึ้นปกครองประเทศจีนต่อ ภายหลังได้มีการชำร ะ
ประวัตศิ าสตรแ์ ละเร่ืองราวต่าง ๆ ในอดีตในยุคนนั้ โดยนักปราชญช์ าวจนี ช่อื ตนั ซ่วิ
๒
ประวัติผแู้ ตง่
หลวั กวนั้ จง ตามสำเนียงกลาง หรอื ลอ่ กวนตง ตามสำเนยี งฮกเกยี้ น เป็นปราชญแ์ ละนักประพนั ธ์ชาว
จีน มีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ ๑๔ (ค.ศ. ๑๓๓๐-ค.ศ. ๑๔๐๐) หรือยุคปลายของราชวงศ์หยวน ต่อถึงต้น
ราชวงศ์หมิง ล่อกวนตงเป็นผู้แต่งนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊ก
และได้ชื่อว่าเป็นผู้ปรับปรุงเรื่อง ๑๐๘ ผู้กล้าหาญแห่งเขาเหลียงซาน
ซึ่งนับเป็น ๒ ใน ๔ สุดยอดวรรณกรรมจีน (อีกสองเรื่องคือ ไซอิ๋ว และ
ความฝันในหอแดง) ชีวประวัติของล่อกวนตงไม่ใคร่แน่ชัด แต่มีการ
ยืนยันว่าเขามีชีวิตอยู่ในช่วงปลายราชวงศ์หยวนถึงต้นราชวงศ์หมิงจริง
นกั ปราชญ์ผ้หู น่ึงช่ือ เจียจงหมงิ บนั ทึกไวว้ ่าเคยพบกบั ล่อกวนตงในราวปี
ค.ศ. ๑๓๖๔ และว่าเขาเป็นชาวไท่หยวน แต่นักประวัติศาสตร์ยุค
เดียวกันหลายคนต่างระบุบ้านเกิดของล่อกวนตง แตกต่างกันไป เช่นมา
จากหางโจวบา้ ง หรอื เจยี งหนานบ้าง แต่ไท่หยวน น่าจะเป็นบา้ นเกิดของ หลัว กวัน้ จง หรือ ล่อกวนตง
เขามากที่สุดเพราะเป็นที่ตั้งของบ้านตระกูลหลอ ซึ่งมีชื่อของล่อกวนตง
อยู่ในสาแหรกตระกูลด้วย โดยหลัว กวั้นจงแปลและเรียบเรียงเป็น
ภาษาไทยครั้งแรกโดยเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ในสมัยพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เม่ือ
ปี พ.ศ. ๒๓๔๕ ในรูปแบบสมุดไทย ตีพิมพ์ครั้งแรกโดยโรงพิมพ์ของหมอบรัดเลย์ ในปี พ.ศ. ๒๔๐๘ และได้รับ
การตีพิมพซ์ ้ำอีกครง้ั ภายใต้ช่ือ "หนังสือสามก๊ก ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสภา" โดยโรงพมิ พ์โสภณพพิ รรฒธนากร ในปี
พ.ศ. ๒๔๗๑ ปัจจุบันสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ได้รับการตีพิมพ์ใหม่อีกหลายครั้งโดยหลาย
สำนักพิมพ์ถือเป็นวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เล่มที่ ๒ โดยแปลจากไซ่ฮั่นและเก่าแก่ที่สุดในไทย
เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ได้รับยกย่องให้เป็นยอดเยี่ยมในบรรดากวีทั้งปวง สมัยธนบุรีและรัชกาลที่ ๑ ด้วยมี
ความสามารถเด่นในการแต่งคำประพันธ์ทุกประเภท งานวรรณคดีที่เป็นชิ้นสำคัญที่สุดของท่านคือ งานแปล
พงศาวดารจนี และพงศาวดารมอญ
เจ้าพระยาพระคลัง คือหลวงสรวิชิตในรัชสมยั พระเจ้ากรุง
ธนบุรี เปน็ บุตรเจา้ พระยาสรุ บดนิ ทรส์ รุ นิ ทรฤๅชยั (บญุ มี) และท่าน
ผู้หญิงเจริญ ต้นตระกูลสืบสายมาทางจีน เมื่อรับราชการครั้งกรุง
ธนบุรีเป็นนายด่านเมืองอุทัย ครั้งถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ได้รับ
บรรดาศักดิ์เป็นพระยาพิพัฒนโกษา และบรรดาศักดิ์สุดท้ายเป็น
เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตำแหน่งจตุสดมภ์กรมท่า ถึงแก่
อสญั กรรมเมือ่ พ.ศ.๒๓๔๘ ในรัชกาลท่ี ๑ ท่านเป็นต้นตระกลู บญุ -
หลง งานนิพนธ์ของท่านนั้น นอกจากลิลิตเพชรพวง ซึ่งแต่งในครั้ง
กรุงธนบุรีแล้ว ยังมีสามก๊ก ราชาธิราช อิเหนาคำฉันท์ บทมโหรี
เรือ่ งกากี มหาเวสสนั ดรชาดก กณั ฑ์กมุ ารกบั กณั ฑ์มัทรี
๓
ลกั ษณะคำประพันธ์
เรื่องสามก๊กนี้แต่งด้วยลักษณะคำประพัทธ์ประเภทความเรียงร้องแก้ว โดยแปลจากภาษาจีนมาเป็น
ภาษาไทยแลว้ เรียบเรยี งใหม่ ใช้ประโยคกะทดั รดั ไม่มศี พั ทย์ าก ภาษาไมซ่ บั ซ้อน การพรรณนาเด่นชดั มบี ท
อุปไมยท่ีลึกซ้ึงคมคาย และไดร้ บั ยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นหนังสือที่แต่งดีและเปน็ ยอดของความเรียง
นทิ าน
๔
เนื้อเรือ่ งเต็ม (แบบย่อ)
ภายหลังจากที่พระเจ้าฮั่นโกโจ ได้สถาปนาราชวงศ์ฮั่นจนมีการสืบทอดราชวงศ์มามากกว่าสี่ร้อยปี
ในยุคสมัยของพระเจ้าเลนเต้เกิดการขัดแย้งกันเองภายในราชวงศ์ฮั่นจนถึงการแย่งชิงอำนาจและราชสมบัติ
พระเจ้าเลนเต้ไม่ทรงตั้งตนในทศพิธราชธรรม ขาดความเฉลียวฉลาด เชื่อแต่คำของเหลา่ สิบขันที เหล่าขุนนาง
ถอื อำนาจขูดรีดราษฎรจนไดร้ ับความเดือดร้อนไปท่ัว โจรผรู้ า้ ยชกุ ชมุ ปล้นสะดมไปท่ัวแผ่นดิน ดังจดหมายเหตุ
ของจีนตอนหนึง่ ไดบ้ ันทึกไวว้ า่ "ขนุ นางถอื ราษฎรดั่งหนึ่งอรริ าชศัตรู ขูดรดี ภาษาอากรโหดรา้ ยยิง่ กว่าเสือ" เกิด
กบฏชาวนาหรือกบฏโจรโพกผ้าเหลืองนำโดยเตียวก๊ก หัวหน้ากลุ่มโจรโพกผ้าเหลืองออกปล้นชิงเมืองต่าง ๆ
จนเกดิ ความวนุ่ วายไปท่ัวราชสำนัก แตกแยกแผ่นดนิ เปน็ กก๊ เป็นเหลา่ จำนวนมาก
เลา่ ปี่ กวนอูและเตียวหุย สามพ่นี อ้ งรว่ มคำสาบานในสวนทอ้ ต่างชักชวนเหล่าราษฎรจัดตั้งเป็นกองทัพ
ร่วมกับทหารหลวง ออกต่อสู้และปราบโจรโพกผ้าเหลืองได้สำเร็จ เล่าปี่ได้ความดีความชอบในการปราบกบฏ
โจรโพกผา้ เหลอื งเป็นแคเ่ พียงนายอำเภออันห้อกวน กวนอูและเตยี วหยุ ไมไ่ ดร้ ับการแต่งต้ังให้ดำรงตำแหน่งใดๆ
เป็นแค่เพียงทหารม้าถือเกาฑัณฑ์ระวังภัยแก่เล่าปี่ ภายหลังพระเจ้าเลนเต้สวรรคต เกิดการแย่งชิงราชสม บัติ
ระหว่างพระราชโอรสทั้งสองพระองค์แต่ต่างพระชนนี พระเจ้าหองจูเปียนได้สืบทอดราชสมบัติโดยมีพระนาง
โฮเฮาผูเ้ ป็นมารดาเปน็ ผสู้ ำเร็จราชการแผ่นดิน แต่ในราชสำนกั คงเกดิ ความวุ่นวายจากเหล่าขนั ทที ั้งสิบ
โฮจิ๋นผู้เป็นพระเชษฐาของพระนางโฮเฮาจึงวางอุบายให้ตั๋งโต๊ะมาช่วยกำจัดเหล่าขันที แต่ข่าวการ
กำจัดสิบขันทีเกิดรั่วไหล โฮจิ๋นกลับถูกลวงไปฆ่าทำให้เหล่าทหารของโฮจ๋ินยกกำลังเข้าวังหลวงเพือ่ แก้แค้นจน
เกิดจลาจลขึ้น ภายหลังตั๋งโต๊ะยกทัพมาถึงวังหลวงและใช้กลยุทธ์ตีชิงตามไฟฉวยโอกาสในขณะที่เกิดความ
วนุ่ วายยึดอำนาจมาเป็นของตน สงั่ ถอดพระเจ้าหองจูเปียนและปลงพระชนม์ และสถาปนาพระเจ้าหองจูเหียบ
ขึ้นแทน ทรงพระนามว่าพระเจ้าเหี้ยนเต้ และสถาปนาตนเองเป็นพระมหาอุปราช มีฐานะเป็นบิดาบุญธรรม
ของพระเจา้ เหย้ี นเต้
ต๋งั โตะ๊ ถืออำนาจเป็นใหญ่ในราชสำนัก สงั่ ประหารผทู้ ี่ไม่เห็นด้วยกันตนเองจนเหล่าขุนนางพากันโกรธ
แค้น โจโฉพยายามลอบฆ่าตั๋งโต๊ะแต่ไม่สำเร็จจนต้องหลบหนีไปจากวังหลวงและลอบปลอมแปลงราชโองการ
นำกำลงั ทพั จากหวั เมืองตา่ ง ๆ มากำจดั ตั๋งโต๊ะ แต่กองทัพหัวเมืองกลับแตกแยกกันเองจงึ ทำให้การกำจัดตั๋งโต๊ะ
ล้มเหลว ออ้ งอนุ้ จงึ วางกลยทุ ธส์ าวงามยกเตยี วเสีย้ นบตุ รสาวบุญธรรมให้แก่ตั๋งโต๊ะและลโิ ปบ้ ุตรบญุ ธรรม จนตั๋ง
โต๊ะผิดใจกับลิโป้เร่ืองนางเตียวเสี้ยน ทำให้ลิโป้แค้นและฆ่าตั๋งโต๊ะ หลังจากตั๋งโต๊ะตาย ลิฉุยและกุยกีได้เข้ายึด
อำนาจอีกคร้ังและฆ่าอ้องอุ้นตาย รวมท้งั บังคับพระเจ้าเหีย้ นเต้ให้อยู่ภายใต้อำนาจ สร้างความคับแค้นใจให้แก่
พระเจา้ เหย้ี นเต้เปน็ อยา่ งยิ่ง จนมีรบั สั่งให้เรยี กโจโฉมาช่วยกำจดั ลฉิ ุย กยุ กีและเหลา่ ทหาร
โจโฉเข้าปราบปรามกบฏและยึดอำนาจในวังหลวงไว้ได้ แต่เกิดความกำเริบเสิบสานทะเยอทะยาน
ถึงกับแต่งตั้งตนเองเป็นมหาอุปราช ควบคุมพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้อยู่ภายใต้อำนาจอีกครั้ง ข่มเหงรังแกเหล่า ขุน
นางที่สุจริต พระเจ้าเหี้ยนเต้เกิดความคับแค้นใจจึงใช้พระโลหิตเขียนสาสน์ลับบนแพรขาวซ่อนไว้ในเส้ือ
พระราชทานแก่ตังสนิ เพื่อใหช้ ่วยกำจดั โจโฉ โดยมตี ังสินเป็นผูร้ วบรวมเหล่าขนุ นางท่จี งรักภักดีคิดกำจัดโจโฉแต่
ถูกจับได้ทำให้เหล่าขุนนางถูกฆ่าตายหมด ความอสัตย์ของโจโฉแพร่กระจายไปทั่วทำให้บรรดาหัวเมืองต่าง ๆ
๕
พากันแข็งข้อไม่ยอมขึ้นด้วย โจโฉจึงนำกำลงั ยกทัพไปปราบปรามไดเ้ กือบหมด แต่ไม่สามารถปราบปรามเล่าปี่
และซนุ กวนได้
เล่าปี่เป็นเชือ้ สายราชวงศ์ฮ่ันมศี ักดิ์เป็นอาของพระเจา้ เหี้ยนเตท้ ีม่ ีความยากจนอนาถา มีคนดีมีฝมี ือไว้
เป็นทหารหลายคนแต่มกี ำลังไพรพ่ ลน้อย ทำให้ต้องคอยหลบหนีศัตรูอยู่เสมอไมอ่ าจเป็นใหญ่ในแผ่นดนิ ได้ จน
ได้พบกับตันฮกซึ่งต่อมากลายเป็นที่ปรึกษากองทัพแก่เล่าปี่ ภายหลังตันฮกถูกเทียหยกและโจโฉวางกลอุบาย
แย่งชิงตัวไปจากเลา่ ปี่ ก่อนจากไปตันฮกได้ใหเ้ ล่าปี่ไปเชญิ ขงเบง้ มาเป็นทีป่ รึกษาเพื่อชว่ ยวางแผนกำลังรบ เล่า
ปี่ไปเชญิ ขงเบง้ ทกี่ ระท่อมหญ้าถึงสามคร้ังจึงไดข้ งเบ้งมาเปน็ ที่ปรกึ ษาใหแ้ ก่กองทัพ และสามารถต้งั ตนเป็นใหญ่
ในเมอื งเสฉวนได้ สำหรบั ซนุ กวนเป็นเจา้ เมอื งกงั ต๋งั โดยการสบื สกลุ เป็นเจ้าเมอื งทมี่ ศี ีลธรรม ปกครองบ้านเมือง
ด้วยความยุติธรรมจึงเป็นที่เคารพนับถือและยอมสวามิภักดิ์มากมาย ทั้งสามฝ่ายต่างทำศึกสงครามกันตลอด
แต่กไ็ มอ่ าจเอาชนะซึง่ กนั และกนั ได้
โจโฉตั้งตนเป็นใหญ่ในดินแดนทางภาคเหนือ ปกครองแคว้นวุยซึ่งเป็นแคว้นใหญ่สุด มีกำลังทหาร ท่ี
ปรกึ ษาและกองทัพทแ่ี ข็งแกรง่ ซุนกวนตั้งตนเปน็ ใหญท่ างดนิ แดนทางภาคตะวนั ออกเฉียงใต้ ปกครองแคว้นง่อ
เรม่ิ จากบรเิ วณปากแม่นำ้ แยงซีเกียง มีกองกำลงั ทหารจำนวนมาก และเล่าปี่ปกครองดินแดนทางภาคตะวันตก
ปกครองแคว้นจ๊ก ซึ่งต่างคานอำนาจซึ่งกันและกัน เป็นพันธมิตรและศัตรูกันมาตลอด โดยร่วมทำศึกสงคราม
ระหว่างแคว้นหลายต่อหลายคร้ังเช่นศึกเซ็กเพ็กซึ่งเปน็ การร่วมทำศึกสงครามระหว่างซุนกวนและเล่าปีใ่ นการ
ตอ่ ตา้ นโจโฉ , ศึกหบั ปา๋ ท่เี ป็นการทำศึกระหว่างซุนกวนและโจโฉ, ศึกดา่ นตงกว๋ นท่ีเปน็ การทำศึกระหว่างโจโฉ
และม้าเฉียวเป็นต้น และเมื่อโจโฉตาย โจผีบุตรชายขึ้นครองราชสมบัติแทน สั่งปลดพระเจ้าเหี้ยนเต้และ
สถาปนาตนเองเปน็ จักรพรรดิ ทรงพระนามว่าพระเจ้าเหวนิ ตี้ กอ่ ต้งั ราชวงศ์ใหม่คือราชวงศ์วยุ
เล่าปี่ซง่ึ เป็นเช้ือสายราชวงศ์ฮน่ั กส็ ถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิสบื ทอดราชวงศ์ฮั่น โดยใช้เมืองเสฉวนเป็นเมือง
หลวง ซุนกวนซึ่งไม่ยอมขึ้นกับพระเจ้าโจผีหรือเล่าปี่จึงตั้งตนเองเป็นจักรพรรดิ ปกครองเมืองกังตั๋ง ทำให้
ประเทศจีนในขณะนั้นแตกแยกออกเป็นสามอาณาจักรหรือที่เรียกขานกันว่าสามก๊กได้แก่ฝ่ายจ๊กก๊กของเล่าปี่
วุยก๊กของโจผีและง่อก๊กของซุนกวน ภายหลังจากเล่าปี่สถาปนาตนเองเป็นพระเจ้าฮันต๋ง ได้ให้กวนอูไปกิน
ตำแหน่งเจ้าเมืองเกงจิ๋ว ซึ่งแต่เดิมเป็นของซุนกวน และโลซกรับเป็นนายประกันให้แก่เล่าปี่ขอยืม โดยจะ
ยนิ ยอมคนื เกงจ๋ิวให้เม่ือตีได้เสฉวน ซนุ กวนพยายามเป็นพนั ธมติ รต่อกวนอูด้วยการสู่ข่อบุตรสาวของกวนอูเพ่ือ
ผูกสัมพนั ธ์ แต่กวนอูปฏเิ สธการสู่ขอของจกู ดั กิน๋ ซึง่ รับเปน็ เถ้าแก่มาเจรจาสู่ขอ จนกลายเปน็ ชนวนเหตุสำคัญให้
ซุนกวนเป็นพนั ธมิตรต่อโจโฉ และนำกำลังทหารมาโจมตีเกงจ๋วิ จนกวนอูพลาดท่าเสียทีลกซนุ และลิบองด้วยกล
ยทุ ธป์ ิดฟา้ ข้ามทะเลจนเสยี ชีวิต
การเสยี ชวี ติ ของกวนอู เปน็ เหตุให้พระเจ้าเล่าปน่ี ำกำลังทหารไปโจมตีงอ่ ก๊กเพ่ือล้างแคน้ และเป็นเหตุ
ให้เตียวหุยเสียชีวิตในเวลาต่อมา พระเจ้าเล่าปี่ถูกลกซุนเผาค่ายทหารย่อยยับจนแตกพ่ายกลับเสฉวน และสิ้น
พระชมน์ในเวลาต่อมา ขงเบง้ เปน็ ผสู้ ืบทอดเจตนารมณข์ องพระเจ้าเล่าป่ใี นการรวมแผ่นดินให้เปน็ หน่ึง โดยเปิด
ศึกกับแคว้นวุยมาโดยตลอด รวมทัง้ ทำศกึ สงครามกบั เบ้งเฮ็กผู้ปกครองดินแดนทางใต้ พระเจา้ โจผี พระเจ้าเล่า
ปี่และพระเจ้าซุนกวนสวรรคต เชอ้ื สายราชวงศเ์ ร่มิ ออ่ นแอ สมุ าเจยี วซึง่ ดำรงตำแหนง่ เป็นมหาอุปราชของวุยก๊ก
สามารถเอาชนะจ๊กก๊กและควบคุมตัวพระเจ้าเล่าเสี้ยนมาเป็นเชลยได้สำเร็จ หลังจากสุมาเจียวตาย สุมาเอี๋ยน
บุตรชายสืบทอดตำแหน่งแทนและช่วงชิงราชสมบัติของวุยก๊กมาจากพระเจ้าโจฮวนและแต่งตั้งตนเองเป็น
๖
จกั รพรรดิ ก่อต้งั ราชวงศ์ใหม่คือราชวงศ์จิ้น พระเจ้าสมุ าเอี๋ยนสามารถปราบพระเจ้าซุนโฮแห่งง่อก๊กให้ยินยอม
สวามภิ กั ดไ์ิ ดส้ ำเร็จ แผน่ ดินจนี ทเี่ คยแตกแยกออกเปน็ ก๊กเป็นเหล่ามายาวนาน กลับรวมกันเป็นอาณาจักรเดียว
ไดด้ งั้ เดมิ
เลา่ ป่ี กวนอแู ละเตยี วหยุ
โฮจน๋ิ ตั๋งโต๊ะ
โจโฉ
๗
สามก๊ก ตอน กวนอูไปรบั ราชการกับโจโฉ
โจโฉจงึ ออกจากพระราชวังกลับมาบ้านแลว้ ปรึกษาเทียหยกว่า ตังสินกบั พวกหา้ คนซึง่ คิดร้ายเราน้ันก็
ฆ่าเสียแล้ว ยังแต่เล่าปี่กับม้าเท้ง เราจะคิดประการใดจึงจะได้ตัวมาฆ่าเสีย เทียหยกจึงว่า ม้าเท้งไปอยู่เมือง
เสเหลียงนัน้ มีทหารเป็นอันมาก ถ้าท่านจะยกทัพไปตีเอา บัดนี้เมืองเราก็เปน็ กังวลอยู่ ขอให้ท่านเร่งแต่งผู้มี
สติปัญญาไปเกลี้ยกล่อมหาตัวม้าเท้งกลับเข้ามา อย่าให้ทันม้าเท้งรู้ว่าท่านจับตังสินกับพวกเพื่อนฆ่าเสีย
ข้าพเจ้าเห็นว่าเท้งไม่แจ้งเนื้อความทั้งนี้ก็จะเข้ามา จึงจับฆ่าเสียก็จะได้โดยง่าย อันเล่าปี่นั้นไปอยู่ เมืองชีจ๋ิว
ซ่องสุมทหารจะคอยรับกองทพั ท่าน บัดนี้ทห่ารอ้วนเสี้ยวกับทหารเราก็ยังตัง้ รอกันอยู่ ณ ตำบลกัวต่อ เห็น
เล่าปี่จะให้มีหนังสอื ไปคิดกับอ้วนเส้ียวเปน็ อันหนึ่งอันเดียวกัน ถ้าท่านยกกองทัพไปรบเล่าป่ี ดีร้ายอ้วนเสีย้ ว
จะยกมาตีเมืองฮูโต๋เป็นมั่นคง ผู้ใดซึ่งจะต้านทานอ้วนเสี้ยวได้นั้นขัดสน โจโฉจึงตอบว่า เล่าปี่นั้นเป็นคนมี
สติปัญญา ถ้าละไว้ช้าก็จะมีกำลังมากข้ึน อุปมาเหมือนลูกนกอันขนปีก ยงั ไมข่ ้นึ พรอ้ ม แม้เราจะนิง่ ไว้ให้อยู่ใน
รังฉะน้ี ถ้าขนข้นึ พร้อมแลว้ กจ็ ะบินไปทางไกลได้ ซึง่ จะจับตัวน้ันจะไดค้ วามขดั สน อว้ นเสยี้ วนั้นมที หารมากก็
จรงิ แต่สตปิ ญั ญานอ้ ย จงึ จะคดิ ประการใดเรากไ็ มก่ ลัว
ขณะนั้นพอกุยแกเข้ามา โจโฉจงึ ปรกึ ษาว่า เราจะยกทัพไปรบเล่าปี่ ณ เมืองชจี ๋ิวฝ่ายทิศตะวันออก
แต่คิดเกรงอยู่ข้างฝ่ายทิศเหนือ เกลือกอ้วนเสี้ยวรู้ จะยกทัพมาโจมตีเอาเมืองฮูโต๋ ท่านจะคิดประการใด
กุยแกจึงว่า อันความคิดอ้วนเสี้ยวนั้นรู้ ถ้าจะการสิ่งใดก็รวดเร็ว จะใช้ผู้ใดอ้วนเสี้ยวมักคิดสงสัยมิวางใจ
ประการหนึ่งทหารทั้งปวงก็แก่งแย่งกันถึงจะยกมาตีเมืองฮูโต๋ ก็เห็นจะไม่สมความคิด อันเล่าปี่นั้นก็พึ่งได้
กลบั ไปอยูช่ ีจวิ๋ แลว้ ทหารของเราก็ติดไปดว้ ย ซ่ึงจะคิดการศึกไปน้นั เห็นทหารทง้ั ปวงไมพ่ ร้อมเป็นใจเดยี วกัน
ครั้นจะนิ่งไว้ทหารก็จะเป็นใจประนอมกันเข้า ขอเร่งบกทัพไปตีเมืองชีจิ๋วเสียก่อน โจโฉได้ฟังดังนั้นก็มีความ
ยินดี จึงตอบกยุ แกว่า ซ่ึงเราถามนีแ้ กล้งจะดูความคิดท่าน ท่านว่ามาก็เหมือนนำ้ ใจเราคิด แล้วโจโฉก็เกณฑ์
ทหารได้ประมาณย่ีสบิ หมนื่ ยกออกจากเมืองฮูโต๋
ฝ่ายม้าใช้รู้ว่าโจโฉยกมา จึงรีบไปเมืองชีจิ๋วบอกเนื้อความแก่ซุนเขียนว่า บัดนี้กองทัพโจโฉยกมา
ซุนเขียนแจ้งดังนี้ก็ไปบอกแก่กวนอู ณ เมืองแห้ฝือตามคำม้าใช้ แล้วว่าให้จัดแจงดังนั้นจึงว่า เราจะให้มี
หนังสือไปถึงอ้วนเสี้ยวอีก ให้ยกกองทัพมาช่วย จึงจะต้านทานโจโฉได้ เล่าปี่ก็แต่งหนังสือไปให้อ้วนเสี้ยว
ซุนเขียนก็รับเอาหนังสือไปถึงเมืองกิจิ๋ว จึงเข้าไปหาเมืองเตียนห้อง เล่าเนื้อความให้ฟังทุกประการ แล้วว่า
ท่านจงช่วยพาเข้าไปหาอ้วนเสี้ยว เตียนได้ฟังดังนั้นก็พาซุนเขียนเข้าไปถึงอ้วนเสี้ยว ซุนเขียนคำนับแล้วส่ง
หนงั สือให้ อ้วนเสย้ี วอา่ นแจ้งแล้วมไิ ดต้ อบประการใด แกล้งทำเปน็ ทุกข์
เตียนห้องเห็นหนา้ อว้ นเส้ียวนั้นเศรา้ หมองจึงถามว่า วันนข้ี ้าพเจ้าเหน็ ท่านไมส่ บายน้ันมีวิตกสิ่งใดหรือ
อว้ นเสยี้ วจงึ บอกว่า เรานใี้ กลจ้ ะตายอยู่แล้วจึงไม่มคี วามสบาย เตยี นห้องจึงวา่ เหตุใดท่าเจรจาเป็นอัปมงคล
อ้วนเสี้ยวจึงว่า ชีวิตเราจะตายวันนี้พรุ่งนี้ก็ไม่รู้ เราวิตกถึงบุตรห้าคน เห็นว่าบุตรสุดท้องนั้นมีสติปัญญาอยู่
บา้ ง แต่อายยุ งั เด็กนักบัดน้ีก็ป่วยหนักอยู่ เราจงึ ไม่มคี วามสบายจึงคิดการส่ิงใดมิได้ เตียนหอ้ งวา่ คนท้ังปวงก็
ลือชาปรากฏว่า ท่านเปน็ ใหญ่อยู่ในหัวเมอื งฝา่ ยเหนือ เหตุใดทา่ นมาคิดย่อท้อจะมาตีตัวตายก่อนไขน้ ั้นไม่ควร
บัดนี้โจโฉก็ยกทัพไปตีเมืองชีจิ๋ว เมืองฮูโต๋หามีผู้ใดอยู่รักษาไม่ เล่าปี่ก็ให้หนังสือมาขอกองทัพท่านไปช่วย
ถ้าท่านยกกองทัพไปโจมตีเมืองฮูโต๋ครั้งนี้เห็นจะได้โดยง่าย อ้วนเสี้ยวจึงตอบว่า เราก็แจ้งอยู่ว่าครั้งนี้ได้ทีทำ
การศกึ แต่ใจเรานัน้ เปน็ ห่วงอยถู่ งึ บุตร ถ้าบุตรเป็นอนั ตราย ข้าหลงั ชีวิตเรากจ็ ะตายด้วย ประการหนึง่ มาตรา
๘
ว่าจะยกไปก็ไม่มีชัยชนะ ด้วยเหตุไม่สบาย แล้วสั่งซุนเขียนว่า ครั้งนี้เราไม่ยกไปแล้วจงไปบอกแก่เล่าปี่เถิด
ถา้ อบั จนเข้าก็ให้มาหาเรา เราจะทำนบุ ำรุงมิใหข้ ัดสน
เตียนห้องไดย้ นิ อว้ นเส้ียวว่าดังน้ันก็โกรธวา่ เสยี ดายคร้ังน้ีได้ทีอยู่แลว้ ควรหรือมาคิดเป็นห่วงด้วยลูก
เล็กเด็กน้อย เตียนห้องทอดใจใหญ่เดินกระทืบเท้าออกไป ซุนเขียนก็ลาอ้วนเสี้ยวกลับไปเมืองเสียวพ่ายแจ้ง
เนื้อความแก่เลา่ ปี่ตามคำอ้วนเสี้ยวว่า เล่าปี่ไดฟ้ ังดังนัน้ กต็ กใจจึงปรึกษาซุนเขียนวา่ โจโฉยกกองทพั มาครั้งนี้
เราจะคิดอา่ นรบพ่งุ ปอ้ งกันประการใด
เตียวหุยจึงวา่ แกเ่ ล่าปี่ อันทัพโจโฉยกมาคร้ังนี้ ถ้าจะละให้ตัง้ ลงก็จะมีกำลังทำการศกึ คิดร้ายแก่
เรา บัดนี้กองทัพโจโฉก็ยกมาใกล้เมืองเราแล้ว เวลาค่ำวันนี้ข้าพเจ้าจะอาสาคุมทหารยกออกไปโจมตี
กองทัพโจโฉ อย่าให้ตั้งมั่นลงได้ น้องเราแต่ก่อนมาเห็นว่าไม่มีความคิด มีแต่ฝีมือรบพุ่งกล้าหาญ เราพึ่งได้
เห็นความคิดน้องเราทำกลอุบายจับเล่าต้ายได้ครั้งหนึ่ง มาครั้งนี้จะยกออกโจมตีกองทัพโจโฉมิให้ตั้งมั่นลงได้
ตอ้ งใจเรานัก แลว้ เล่าปกี่ ็ให้เกณฑ์ทหารเตรียมไวส้ ำหรบั เลา่ ป่ีกองหนง่ึ จัดทหารไว้สำหรบั เตยี วหุยกองหน่งึ
ฝ่ายโจโฉยกกองทัพมาใกล้จะถึงเมืองเสียวพ่าย พอเกิดลมพายุใหญ่พัดหนักธงชัยซึ่งปักมาบนเกวียน
นั้นหักทับลง โจโฉเห็นวปิ ริตดังนัน้ ก็ให้ทหารหยุดตั้งคา่ ยมั่นไว้แล้วถามที่ปรึกษาว่า ซึ่งลมพายุพัดมาถูกธงชยั
เราหักลงทั้งนี้ จะเห็นดีแลร้ายประการใด ซุนฮกจึงว่าซึ่งเกิดพายุใหญ่พัดธงชัยหั กทับลงมานั้นเป็นลม
ตะวันออก เวลาค่ำวันนี้ดีร้ายเล่าปี่จะยกทัพออกมาปล้นค่ายเราเป็นมั่นคง พอมอกายเข้ามาว่าแก่โจโฉว่า
ลมตะวนั ออกพดั มาถูกธงหกั น้นั ข้าพเจา้ เห็นว่ากลางคนื วันนีจ้ ะมีผ้มู าปลน้ ค่าย
โจโฉได้ฟงั ซุนฮกกับมอกายว่าต้องคำกนั ดงั นั้นจงึ วา่ ซึ่งเกดิ ลมมาท้ังนห้ี ากเทพดาสำแดงเหตุให้ร้เู พราะ
บุญของเรา โจโฉจึงให้แบ่งทหารเป็นสิบเอ็ดกอง กองหนึ่งให้อยู่รักษาค่าย แปดกองนั้นให้นายทหารเอกคุม
ทหารเลวยกแยกออกไปซุ่มอยูน่ อกค่ายทง้ั แปดทิศ ถ้าเหน็ กองทัพผู้ใดยกมาปล้นค่าย ก็ให้ทหารท้ังแปดกองตี
กระหนาบลอ้ มเข้ามา สองกองน้ันให้แยกกนั ไปต้ังสกัดอย่ปู ากทางเมืองชจี วิ๋ กองหนึง่ เมอื งแห้ฝอื กองหนงึ่
ครั้นเวลาสองยาม เล่าปี่กับเตียวหุยก็คุมทหารออกมาจากเมืองเสียวพ่าย เตียวหุยนั้นคิดกำเริบว่า
ครั้งก่อนทำกลอุบายจับเล่าปี่ได้ ครั้งนี้เล่าปีก่ ็สรรเสรญิ ความคดิ เป็นอันมาก เตียวหุยจงึ ขี่ม้าคมุ ทหารเป็นกอง
หน้า ยกเข้าไปตีปล้นค่ายโจโฉ เตียวหุยเห็นคนในค่ายนั้นน้อย แล้วได้ยินเสียงทหารภายนอกโห่ร้องอื้ออึง
ทัง้ คบเพลงิ ก็สว่างขึ้นเป็นอนั มาก จึงคดิ ว่าดีร้ายโจโฉจะคิดกลอุบาย กพ็ าทหารกลบั ออกมาหาเล่าปี่
พอพบเตียวเล้ียว เคาทู อิกิ๋ม ลิเตียน ซิหลง งักจิ้น แฮหัวตุ้น แฮหัวเอี๋ยน คุมทหารมีกระหนาบ
ล้อมเข้ามาทั้งแปดทิศ ได้รบพุ่งฆ่ากันเป็นสามารถ แลทหารซึ่งเตียวหุยคุมมานั้น เป็นทหารเดิมของโจโฉก็
แตกเข้าหานายทหารทั้งแปดกองนั้น ยังเหลือทหารซี่งสนิทอยู่ประมาณสี่สิบเศษ เตียวหุยรบพุ่งป้องกันเป็น
สามารถ แลว้ พาทหารสส่ี บิ เศษน้นั รบฝ่าออกมาได้ จึงคิดแต่ในใจว่า คร้นั จะไปหาเลา่ ป่แี ลไปเมืองชีจว๋ิ เมอื ง
แห้ฝือบดั น้ีก็ไม่ได้ เหน็ ทหารโจโฉจะไปตัง้ สกัดอยูป่ ากทาง จงึ พาทหารท้ังปวงหนีขึน้ ไปอยู่บนเขาบองเอี๋ยงสัน
ฝ่ายเล่าปี่น้ันขีม่ ้าคุมทหารยกหนุนเตียวหุยเขา้ ไป คร้ันได้ยินเสียงทหารโห่รอ้ งอือ้ อึงล้อมคา่ ยโจโฉเข้า
มา เล่าปี่จึงคิดว่าเตียวหุยเข้าไปปล้นค่ายนั้น ดีร้ายจะเสียทีแก่โจโฉ พอแลเห็นแฮหัวตุ้นคุมทหารเข้ามาตัด
เอาทหารเล่าป่ีไปไดป้ ระมาณกง่ึ หนึ่ง เลา่ ปีเ่ หน็ ดังน้ันก็โกรธ จึงขับมา้ เข้ารบดว้ ยแฮหัวตุ้น พอแฮหัวเอ๋ียนคุม
๙
ทหารตีกระหนาบเข้ามา เล่าปี่ก็ขับม้ารบพุ่งป้องกันเป็นสามารถ ทหารเล่าปี่ล้มตายบ้าง เข้าหาโจโฉบ้าง
เหลือทหารซึ่งสนิทอยู่ประมาณสามสิบเศษ เล่าปี่จึงพาทหารรบฝ่าออกมาจะกลับไปเมืองเสียวพ่าย แลเห็น
แสงเพลงิ ในเมอื งสว่างขึ้น เลา่ ปี่จงึ คิดว่าทหารโจโฉเขา้ ตเี อาเมืองได้แล้ว จึงขับมา้ พาทหารหนไี ปถงึ ปากเมืองชี
จิว๋ แลเมืองแหฝ้ ือ เหน็ ทหารโจโฉตัง้ สกัดอยู่ทัง้ สองทางเป็นอันมาก จึงคิดว่าคร้ังนีโ้ จโฉยกมาทำการใหญ่หลวง
เรากับเตยี วหยุ ต่างคนต่างแยกไป แลกวนอูซง่ึ อยรู่ ักษาครอบครัวในเมืองแหฝ้ ือนัน้ กย็ งั ไม่ได้รู้เหตุว่าดีแลร้าย
ซึ่งอ้วนเสี้ยวสั่งมาแก่ซุนเขียนว่า ขัดสนประการใดก็ให้ไปหาเถิดจะช่วยธุระนั้น ครั้งนี้จำจะไปอยู่อาศัยอ้วน
เสยี้ วอย่กู ่อนจึงจะไดค้ ิดการต่อไป แล้วเลา่ ป่ีกพ็ าทหารหนไี ปทางเมืองกจิ ว๋ิ พอพบลิเตยี นคมุ ทหารสกัดทางอยู่
เล่าปี่ตกใจมิได้คิดอ่านสู้รบประการใด จึงทิ้งทหารสามสิบเศษเสีย ขับม้าหนีเอาตัวรอด ลิเตียนนั้นจับเอา
ทหารเลา่ ป่ีไว้ได้ส้ิน
ขณะเม่ือเล่าป่ีควบม้าไปนน้ั ทั้งกลางวันกลางคืนได้ทางประมาณพนั เส้น ครน้ั ถึงเมืองเซียงจิ๋วจึงบอก
แก่นายประตวู ่า เราจะเขา้ ไปหาอว้ นถำเจ้าเมอื งซงึ่ เปน็ บุตรอว้ นเสีย้ ว นายประตูก็เอาเนื้อความเข้าไปบอกแก่
อ้วนถำ อ้วนถำมีความยินดี จึงออกมาคำนับรับเล่าปี่เข้าไป เล่าปี่จึงเล่าเนื้อความแต่หลังให้อ้วนถำฟังทุก
ประการ แล้ววา่ เราจะไปอาศัยอย่กู บั อว้ นเสี้ยวผู้เป็นบิดา จะได้คิดอ่านกำจัดโจโฉเสีย
อว้ นถำได้ฟงั ดังน้ันกม็ ีความสงสารเป็นอันมาก ก็ให้แต่งโตะ๊ เลี้ยง แล้วจดั แจงทย่ี ใู่ ห้เล่าปอ่ี าศยั จึงแต่งหนังสือ
บอกไปถึงบิดาตามคำเล่าปี่ให้ม้าใช้ถือไปก่อน แล้วให้ทหารป้องกันรักษาเล่าปี่ไปภายหลัง ม้าใช้มาถึงเมือง
กิจ๋วิ ก็เอาหนงั สือนน้ั เข้าไปให้แก่อว้ นเสี้ยว อว้ นเส้ยี วแจ้งเนื้อความก็มีใจยินดี จงึ พาทหารออกมาคอยรับเล่า
ปีอ่ ย่นู อกเมือง คร้นั เห็นเลา่ ปม่ี าถงึ อ้วนเสีย้ วจงึ วา่ แกเ่ ล่าป่ีวา่ ทา่ นให้ซุนเขยี นมาขอกองทัพน้ัน บตุ รเราป่วย
หนักอยู่ จึงมิได้ยกไปช่วยท่าน ท่านอย่าน้อยใจแก่เราเลย เรามีความวิตกอยู่มิได้ขาด บัดนี้ท่านเสียเมืองไป
แกโ่ จโฉ แต่ตัวท่านได้มาเห็นหน้ากันนี้เรามีความยนิ ดีนกั
เล่าปีจ่ ึงวา่ ครั้งน้ขี ้าพเจ้าเป็นคนอนาถ ซงึ่ ทา่ นนบั ถือน้คี ณุ หาท่ีสุดไม่ แต่กอ่ นนัน้ ขา้ พเจ้าก็แจ้งอยู่ว่า
น้ำใจท่านกว้างขวางอารี เลี้ยวทหารมิได้อนาทร ข้าพเจ้าก็คิดอยู่ว่าจะมาพึ่งอยู่ให้ท่านใช้ จะได้ช่วยกัน
กำจัดโจโฉเสีย บัดนี้เสียทีแก่โจโฉมาแต่ตัว แต่น้องข้าพเจ้าทั้งสองกับครอบครัวยังไม่รู้ว่าเป็นตายประการใด
ซึ่งข้าพเจ้ามาหาท่านแต่ผู้เดียวนี้มีความอัปยศแก่คนทั้งปวงเป็นอันมาก ครั้งนี้ข้าพเจ้าจะขอกินน้ำสบถอยู่ทำ
การด้วยท่านกว่าจะสำเร็จ อ้วนเส้ียวได้ฟงั ดงั น้นั ก็มีความยินดี จึงจัดแจงเครอื่ งอปุ โภคแลเครอ่ื งบริโภคให้เป็น
อนั มาก ทำนบุ ำรงุ เลา่ ปไ่ี วใ้ นเมอื งกิจว๋ิ
ฝ่ายโจโฉในเวลากลางคืนนั้น คุมทหารเข้าตีเมืองเสียวพ่ายได้ แลยกกองทัพไปตีเมืองชีจิ๋ว แลบิต๊ก
บิฮอง กันหยง ซึ่งเล่าปี่ให้รักษาเมืองจึงคิดกันวา่ ทัพโจโฉยกมาครั้งน้ีใหญ่หลวงนัก เห็นเราจะต้านทานมไิ ด้
ก็พากันหนีออกจากเมือง แต่ตันเตง๋ เห็นจวนตวั จึงเปิดประตูเมืองออกไปรบั โจโฉเป็นความชอบไว้ โจโฉเห็น
ดังนัน้ ก็มีความยนิ ดียกทหารเข้าไป จึงกำชบั ทหารมิให้ทำอนั ตรายแก่ชาวเมือง แล้วปรึกษาแก่ทหารท้ังปวงว่า
เราจะยกทัพไปตีเอาเมอื งแหฝ้ ือ ท่านทั้งปวงจะเห็นประการใด
ซุนฮกจึงว่า ข้าพเจ้ารู้กิตติศัพท์ว่า เล่าปี่ให้กวนอูรักษาครอบครัวอยู่เมอื งแห้ฝอื ซึ่งท่านจะยกทัพไปตี
นนั้ ควรนกั ถ้าละไว้อว้ นเส้ยี วกจ็ ะยกมาพาเอาครอบครวั เล่าปี่ไป โจโฉจงึ ตอบวา่ อนั กวนอูนั้นมีฝีมือกล้าหาญ
ชำนาญในการสงคราม เราจะใคร่ได้ตัวมาเลี้ยงเปน็ ทหาร เราจะแต่งคนให้ไปเกล้ียกล่อมจึงจะได้ กุยแกจึงว่า
๑๐
อันน้ำใจกวนอูนั้นซื่อสัตย์ต่อเล่าปี่ ซึ่งจะให้คนไปเกลี้ยกล่อมเห็นกวนอูจะมิลงใจด้วย แลผู้ใดซึ่งจะไปเกลี้ย
กลอ่ มน้นั กวนอูก็คงจะฆ่าเสยี
เตียวเลี้ยวจึงว่า ข้าพเจ้ากับกวนอูได้รู้จักกันมา ครั้งนี้ข้าพเจ้าจะขออาสาไปเกลี้ยกล่อมกวนอูให้ได้
เทียหยกจึงวา่ ซึ่งเตียวเล้ียวจะอาสาไปเกลีย้ กล่อมกวนอูนั้นเห็นกวนอูจะไมม่ า ข้าพเจ้าจะขออาสาล่อลวงให้
กวนอูออกจากเมืองแหฝ้ อื แลว้ ถา้ เหน็ กวนอูสิน้ ความคิดลงเมอ่ื ใด จึงใหเ้ ตียวเลย้ี วไปเกลี้ยกล่อม
โจโฉจึงถามเทียหยกว่า ท่านจะคดิ ล่อลวงประการใด เทยี หยกจงึ วา่ ท่านจับทหารเล่าปี่ไว้ได้เป็นอัน
มาก จงให้บำเหน็จรางวัลให้ถึงขนาด แล้วสั่งให้ทำตามคำเราจึงปล่อยเข้าไปในเมืองให้บอกว่าหนีกลับมาได้
ถ้าเราจะทำการก็ให้เป็นไส้ศึกอยู่ในเมือง แล้วใหแ้ ตง่ ทหารไปรบล่อ ถา้ กวนอูไล่ออกมานอกเมืองแล้ว จึงให้
ทหารซึ่งซุ่มอยู่ทั้งสองขา้ งล้อมไว้ จึงแต่งใหผ้ ู้มสี ติไปเกลี้ยกล่อมกวนอูเห็นจะได้โดยงา่ ย โจโฉเห็นชอบดว้ ยจึง
ให้เอาทหารเล่าปี่ซึ่งจับตัวไว้ ได้ประมาณสี่สิบคน แล้วให้บำเหน็จรางวัลเป็นอันมาก จึงสั่งเนื้อความตาม
คำเทียหยกว่าทุกประการ ทหารทั้งปวงก็เข้าไปหากวนอูในเมืองแห้ฝือ แล้วบอกว่าข้าพเจ้าหนีโจโฉมาได้
กวนอไู ด้ฟงั ดังนนั้ กม็ ไิ มม่ คี วามสงสัย จงึ เอาไวใ้ ช้สอยอยู่
ครั้นเวลาสามยาม โจโฉจึงให้แฮหัวตุ้นคุมทหารห้าพันเป็นเป็นกองซุ่ม แล้วส่ังซิหลงกับเคาทูว่า
ถ้ากวนอูไลแ่ ฮหัวตุน้ ออกมาก็ให้ยกทหารตั้งสกัดไว้คอยรบป้องกนั อย่าใหก้ วนอูเปน็ อันตราย นายทหารท้ังสาม
คนก็ยกไปเมืองแห้ฝือ โจโฉก็คุมทหารยกตามไปตัง้ อยู่แต่ไกล แฮหัวตุ้นคุมทหารมาตั้งอยู่ใกล้เชิงกำแพงเมือง
แหฝ้ อื
ฝ่ายกวนอูเห็นกองทัพมาต้ังประชิดอยู่ดังนั้นก็มิได้ยกออกรบพุ่ง ให้ทหารรักษาหน้าที่ไว้มั่นคง
แฮหัวตุ้นมิได้เห็นกวนอูยกออกมารบ จึงให้ทหารเลวร้องต่อล้อด่ากวนอูเป็นข้อหยาบชา้ กวนอูได้ยินดังนั้นก็
โกรธ จึงคุมทหารสามพนั เปดิ ประตเู มืองออกมารบแฮหวั ตนุ้ ได้สิบเพลง แฮหัวตุน้ แกล้งชักม้าหนี กวนอูมิได้รู้
กลอุบายก็ขับม้าไล่ไปทางไกลเมืองประมาณสองร้อยเส้น กวนอูได้คิดขึ้นมากลัวว่าทหารโจโฉจะยกทัพเข้ามา
ทำรา้ ยเมอื งแหฝ้ อื จึงพาทหารกลบั มา
พอได้ยินเสยี งประทดั แลว้ แลเห็นเคาทูกับซหิ ลงคุมทหารออกรบสกัดไว้ทั้งซ้ายขวา กวนอูกข็ ับมา้ เข้า
รบพุ่งเป็นสามารถ ซหิ ลง เคาทกู ็รบั รองป้องกนั อยู่ กวนอูจะกลบั เข้าไปในเมือง พอพบแฮหวั ตุ้นคุมทหารมา
รบอ้อมสกัดทางไว้ ซิหลงกับเคาทูก็รบตีกระหนาบเข้ามา กวนอูนั้นป้องกันลูกเกาทัณฑ์ไว้เห็ นสามารถ
จะกลบั เขา้ เมอื งก็ไม่ได้ จะหลีกไปขา้ งทางซ้ายขวาทหารกห็ นนุ หนาเขา้ มา แต่รบปอ้ งกนั อย่นู ั้นจนใกล้พลบค่ำ
กวนอูอิดโรยกำลังลงจึงคุมทหารหนีไปถึงเนินเขาแหง่ หนึ่งก็ขึ้นหยุดพักอยู่บนเขานั้น แฮหัวตุ้น ซิหลง เคาทู
เหน็ ดังนน้ั กค็ ุมทหารเข้าล้อมเชิงเขาไว้
ฝ่ายทหารเล่าป่ีซึ่งเข้าไปหากวนอูนนั้ คร้นั เวลาพลบคำ่ มิไดเ้ หน็ กวนอูกลับเขา้ เมืองกช็ วนกันเปิดประตู
ออกมาหวังจะรับโจโฉ มา้ ใช้เหน็ ดงั นัน้ ก็เอาเนื้อความมาบอกโจโฉ โจโฉมคี วามยินดีก็คุมทหารเข้าเมืองแห้ฝือ
แล้วให้เอาเพลงิ เผาเมืองขึ้น หวังจะให้กวนอูเสียน้ำใจ จึงสั่งให้ทหารรักษาครอบครัวเลา่ ปี่ไว้จงดี แล้วโจโฉก็
กลับมาเกณฑ์ทหารหนุนเข้าล้อมกวนอูไว้ กวนอูเห็นแสงเพลิงในเมืองสว่างขึ้นก็ตกใจ คิดถึงครอบครัวเล่าปี่
จึงคมุ ทหารลงมาถึงเชิงเขา ทหารโจโฉรบสกัดไวล้ งมามิได้ แล้วรื้อกลับขึน้ เขาเป็นหลายครัง้ จนรุ่งข้นึ กวนอูจึง
ขี่ม้าพาทหารลงไปใกล้จะถึงเชิงเขา พอเห็นเตียวเลี้ยวขี่ม้าถือง้าวขึ้นมา กวนอูจึงถามว่า ท่านจะรบกับเรา
๑๑
หรอื เตยี วเลยี้ วจึงตอบว่า ข้าพเจา้ จะมารบกับทา่ นหามิได้ ซงึ่ ข้าพเจา้ ขึ้นมานี้หวังจะแทนคุณท่าน แล้วเตียว
เลยี้ วลงจากม้าเอาง้าวนนั้ วางไว้ เขา้ ไปคำนับกวนอู กวนอเู ห็นดังน้นั กล็ งจากม้ารับคำนับเตียวเลยี้ ว แล้วถาม
เตยี วเลยี้ ววา่ โจโฉใช้มาเกลีย้ กล่อมเราหรือ เตยี วเลีย้ วจึงตอบวา่ ท่านได้มีคุณช่วยชีวิตข้าพเจ้าไว้ บัดนี้ท่าน
มคี วามทุกขใ์ หญห่ ลวง ข้าพเจา้ จึงอุตส่าหข์ น้ึ มาหวังจะแทนคณุ ท่าน
กวนอูจึงถามว่า ท่านคิดถึงคุณเรานั้นจะช่วยเป็นกำลังเราหรือ เตียวเลี้ยวว่าหามิได้ กวนอูจึงว่า
ท่านจะมาเกลีย้ กล่อมแลช่วยเราหามิได้ ซึ่งท่านขึ้นมานี้ด้วยเหตุสิ่งใดเล่า เตียวเลี้ยวจึงตอบว่า ท่านกับเล่าปี่
เตียวหุยมีความรักกันเป็นอันมาก บัดนี้เล่าปี่กับเตียวหุยแตกไป ท่านก็ยังไม่รู้เหตุว่าเป็นแลตาย เวลาคืนน้ี
มหาอุปราชยกกองทัพเข้าตีเมืองแห้ฝือได้ แล้วสั่งแก่ทหารทั้งปวงมิให้ทำอันตรายแก่อาณาประชาราษฎร
อันครอบครัวของเล่าปี่นั้น ก็แต่งให้ทหารไปพิทักษร์ ักษามิใหผ้ ู้ใดทำอนั ตรายได้ ข้าพเจ้าเห็นว่ามหาอปุ ราชมี
ใจเมตตาผกู ความรักท่านถงึ เพยี งนี้ จงึ เอาเน้ือความมาแจง้ แก่ท่าน
กวนอูได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงว่าแก่เตียวเลี้ยวว่า เดิมเราถามตัวว่าจะเกลี้ยกล่อมหรือ ตัวว่าหามิได้
แลตัวมากล่าวดังนี้ จะว่าไม่เกลี้ยกล่อมนั้นตัวจะประสงค์สิ่งใดเล่า แล้วว่าเราอยู่ในที่นี้ก็เป็นที่คับขันอยู่
ซึ่งเราจะเข้าด้วยผู้ใดนอกจากเล่าปี่นั้นอย่าสงสัยตัวเราก็มิได้รักชีวิต อันความตายอุปมาเหมือนนอนหลับ
ท่านเร่งกลับไปบอกแกโ่ จโฉให้ตระเตรียมทหารไว้ให้พร้อม เราจะยกลงไปรบ
เตยี วเลีย้ วได้ฟังดังน้ันก็หวั เราะแล้วตอบว่า ซึง่ ท่านวา่ ทงั้ น้โี ทษมีอยู่กบั ตัวท่านถึงสามประการ คนท้ัง
ปวงจะล่วงครหานินทาท่านได้ กวนอูจึงว่า ตัวเราถือความสัตย์มั่นคงอยู่ว่า ถึงตัวตายก็มิได้เข้ากับผู้ใด
ซึ่งท่านว่ามีโทษสามประการนั้นด้วยเหตุส่ิงใดบา้ ง เตียวเลี้ยวจงึ ตอบวา่ เดิมท่านเล่าปี่ เตียวหุยได้สาบานไว้
ตอ่ กันว่า เปน็ พ่ีน้องรว่ มสุขแลทุกข์เป็นชีวติ อันเดียวกัน ถา้ ผูใ้ ดตายก็จะตายด้วย ครั้งน้ีเล่าป่ีกับเตียวหุยแตก
ไป ท่านก็ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย แลบัดนี้ทหารก็น้อยนัก ซึ่งจะยกลงไปรบนั้น ถ้าท่านเป็นอันตรายถึงสิ้นชีวิต
ฝ่ายเล่าปี่ เตียวหุยยังมีชีวิตอยู่จะเที่ยวตามหาท่าน หวังจะช่วยกันคิดการต่อไป เมื่อท่านตายแล้ว เล่าป่ี
เตียวหุยก็จะตายด้วย ซึ่งท่านสาบานไว้ต่อหน้ากันก็จะมิเสียความสัตย์ไปหรือ คนทั้งปวงก็จะล่วงนินทาว่า
ความคดิ ทา่ นน้อย
ประการหนึ่ง เล่าปี่ก็มอบครอบครัวไว้ให้ทา่ นรักษา ถา้ ทา่ นตายเสียภรรยาเล่าปี่ท้ังสองน้ันจะพ่ึงผู้ใด
เลา่ อันตรายกจ็ ะมีต่างๆ การซงึ่ เลา่ ปี่ปลงใจไว้ใหท้ า่ นกไ็ ม่เสียไปหรือ ข้าพเจา้ เห็นไมช่ อบเปน็ สองประการ
อีกประการหนึ่งนั้น ท่านก็มีฝีมือกล้าหาญ แล้วแจ้วใจในขนบธรรมเนียมโบราณมาเป็นอันมาก
เหตุใดท่านจึงไม่รักษาชวี ิตไว้คอยทา่ เล่าป่ี จะได้ช่วยกันคิด การทำนุบำรุงแผ่นดินให้อยู่เย็นเป็นสุข ถึงมาตร
ว่าท่านจะได้รับความลำบากก็อุปมาเหมือนหนึง่ ลุยเพลิงอันลุกแลข้ามพระมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ก็จะลือชา
ปรากฏชื่อเสียงท่านไปภายหน้า ว่าเห็นชาติทหารมีใจสัตย์ซื่อกตัญญูต่อแผ่นดิน ซึ่งท่านจะมานะลงไปรบพุ่ง
กบั โจโฉ ถา้ ชวี ิตทา่ นตายเสียคร้งั นก้ี ็จะไม่มีชอ่ื ปรากฏไป ข้าพเจ้าเห็นโทษสามประการฉะน้ี ขา้ พเจ้าจึงวา่
กวนอูได้ฟังดังนั้น ก็นิ่งตรึกตรองอยู่เป็นช้านาน ครั้นเห็นชอบด้วยจึงว่า ท่านว่าดังนี้ก็ควรแล้ว
แลโทษซึ่งมีสามประการนั้นก็จะให้เราทำประการใด เตียวเลี้ยวจึงว่า มหาอุปราชให้ทหารลอ้ มไว้เป็นอันมาก
ถ้าท่านมิสมัครเข้าดว้ ยเห็นชีวิตท่านจะถึงแก่ความตายหาประโยชนม์ ิได้ ขอให้ท่านอยูก่ ับมหาอุปราชก่อนเถดิ
จะไดม้ ีประโยชนส์ ามประการ
๑๒
ประการหนึ่ง ซึ่งท่านสาบานไว้กับเล่าป่ี เตียวหุยว่าจะชว่ ยกันทำนุบำรุงแผ่นดิน ความสัตย์ข้อนี้จะ
ได้คงอยู่
ประการหน่ึง ทา่ นจะได้อยูป่ ฏิบตั ิรักษาพสี่ ะใภ้ทัง้ สองมิใหเ้ ปน็ อนั ตรายสิ่งใดได้เป็นสองประการ
อีกประการหนึ่งนั้น ตัวท่านก็มีฝีมือกล้าหาญมีสติปัญญา จะได้คิดการทำนุบำรุงพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้
ครองราชย์สมบตั ิสบื ไป ขา้ พเจ้าเหน็ มีประโยชนส์ ามประการฉะนี้ จึงเตอื นสติท่านใหด้ ำริดจู งควร
กวนอูตอบว่า ซึ่งท่านว่ามีประโยชน์แก่เราสามประการนั้นก็จริงอยู่ แต่เราจะขอสัญญาไว้สาม
ประการบ้าง ถา้ มหาอปุ ราชยอม เราจงึ จะถอดเกราะออกเสีย แลว้ จะลงไปหามหาอุปราช แมค้ วามประการ
ใดขาดแต่ข้อหนึ่ง เราก็จะสู้ตายเสีย ถึงมาตรว่าคนทั้งปวงจะครหานินทาเราก็เถิด เตียวเลี้ยวจึงว่า มหา-
อปุ ราชมนี ้ำใจกว้างขวางอารนี ัก มักสมาคมด้วยผู้มีสติปัญญา ถา้ ทา่ นจะว่าประการใดมหาอปุ ราชก็คงจะยอม
ซง่ึ ทา่ นจะขอสญั ญาสามประการน้นั คือข้อใดบา้ ง
กวนอูจึงว่า เดิมเราได้สาบานกันไว้กับเล่าปี่ เตียวหุยว่าจะช่วยทำนุบำรุงพระเจ้าเหี้ยนเต้แลอาณา
ประชาราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุข ซึ่งเราจะสมัครเข้าด้วยนั้น เราจะขอเป็นข้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ประการหนึ่ง
เราจะขอปฏบิ ัติพี่สะใภเ้ ราทงั้ สอง แลอยา่ ใหผ้ ้ใู ดเข้าออกกล้ำกรายเขา้ ถึงประตูท่ีอยู่ได้ จะขอเอาเบี้ยหวัดของ
เล่าปซ่ี ึง่ เคยไดร้ ับพระราชทานน้ันมาให้แก่พ่สี ะใภ้เราทั้งสองประการหนง่ึ อกี ประการหน่ึง ถ้าเรารู้ว่าเล่าปี่อยู่
ที่แห่งใดตำบลใดถึงมาตรว่าเรามิได้ลามหาอุปราช เราก็จะไปหาเล่าปี่ แม้มหาปุราชจะห้ามเราก็ไม่ฟัง แล
เนอ้ื ความสามประการน้ี ท่านจงเอาไปบอกแก่มหาอปุ ราชเถดิ ถา้ ยอมตามคำเรา เราจะลงไปหาเตียวเล้ียวก็ลา
กวนอูแลว้ ขึน้ มา้ กลับมาแจง้ เนื้อความแก่โจโฉทกุ ประการ
โจโฉได้ฟงั ดงนน้ั ก็หวั เราะ แล้ววา่ แตเ่ ตียวเล้ียวว่า ซ่ึงกวนอไู มย่ อมดว้ ยเรานั้น เราเป็นถึงมหาอุปราช
กวนอูจะยอมเป็นข้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ก็เหมือนเป็นบ่าวเรา ถ้าเราบังคับบัญชาราชการประการใดกวนอูก็จะไม่
ขัดได้ กับซึ่งกวนอูว่าจะปฏิบัติรักษาพี่สะใภ้ทั้งสองมิให้ผู้ใดแปลกปลอมเข้าไปถึงประตูที่อยู่นั้นเราก็ยอม
ทุกวันนี้อย่าว่าแต่ภรรยาเล่าปี่เลย ถึงภรรยาผู้น้อยลงไปเราก็มิได้ให้ทำหยาบช้า ซึ่งกวนอูจะขอเอาเบี้ยหวัด
เล่าปี่ให้แก่พี่สะใภ้นั้น เราจะให้ทวีขั้นอีก แต่ข้อซึ่งกวนอูรู้ว่าเล่าปี่อยู่แห่งใด มิได้ลาเราก่อนจะไปหากันน้ัน
โจโฉสั่นศรี ษะไม่ยอม แล้ววา่ กวนอูเอาสญั ญาฉะนี้ เราจะเอามาเล้ยี งไวใ้ ห้มีกำลงั จะได้ประโยชนส์ ิ่งใดเล่า
เตียวเลี้ยวจึงว่า มหาอุปราชไม่แจ้งหรือ ในนิทานอิเยียงซึ่งมีมาแต่ก่อนว่า เดิมอิเยียงอยู่กับต๋งหาง
เปน็ เจ้าเมอื ง ตง๋ หางเลี้ยงอิเยียงเป็นทนายใชส้ อย ครั้นอยู่มายังมีคเิ ป๊กเจ้าเมืองหนึง่ น้นั ยกกองทัพมารบฆ่าต๋ง
หางตาย คิเป๊กได้อิเยียงไปไว้ จึงตั้งอิเยียงเป็นขุนนางที่ปรึกษา อิเยียงมีความสุขมาเป็นช้านาน แล้วเซียงจู
เจ้าเมืองหัน้ ก๊กยกทัพมารบฆา่ คิเป๊กตาย อเิ ยียงน้มี ีใจเจ็บแค้นเปน็ อันมาก จึงไปยังเมอื งหั้นก๊กแล้วเข้าซ่อนตัว
อยู่ในที่ลับ จะลอบทำร้ายเซียงให้ถึงแก่ความตาย เซียงจูจับได้ถึงสองครั้งมิได้เอาโทษ ให้ปล่อยอิเยียงเสีย
คร้ันอย่มู าอิเยยี งลอบเข้าไปซ่อนอยู่ถงึ ท่ีข้างในหมายจะฆ่าเซียงจูเสีย เซยี งจกู ็จบั ได้อีกจึงถามอิเยียงว่า ตัวจะ
ทำอันตรายเรา เราจบั ไดถ้ งึ สองครัง้ แล้วก็มเิ อาโทษ เราใหป้ ลอ่ ยตวั เสียก็มิได้หลาบจำ ร้ือจะมาทำร้ายเราอีก
เราก็จับตัวได้ แลตัวผูกใจแค้นเราด้วยเหตุสิ่งใด อิเยียงจึงบอกว่า เดิมข้าพเจ้าอยู่กับต๋งหาง ต๋งหางเลี้ยงขา้
เจ้าเป็นทนายความใช้สอย ครั้นคิเป๊กยกไปฆ่าต๋งหางเสีย เอาตัวข้าพเจ้าไปตั้งให้เป็นขุนนางที่ปรึกษา
ได้ความสขุ เป็นอนั มาก ครั้งนี้ทา่ นยกไปฆ่าคิเป๊กอีก ซงึ่ เปน็ นายมคี ุณแกข่ ้าพเจ้าเสีย ข้าพเจ้ามีใจเจ็บแค้นอยู่
๑๓
คิดอ่านมาหวังจะทำอันตรายท่าน หวังจะแทนคุณคิเป๊ก ซึ่งท่านจับข้าพเจ้าได้ถึงสองครั้งแล้วปล่อยเสียน้ัน
ขา้ พเจ้ายังไมห่ ายแค้น จึงลอบเข้ามาจะทำรา้ ยท่านอีกท่านกจ็ บั ได้ แลโทษขา้ พเจา้ น้กี ็ถึงตายตามท่านจะโปรด
เถดิ เซียงจูจงึ ว่า เราจะปล่อยเสียตัวจะคิดทำร้ายเราอกี หรอื ไม่ อิเยยี งจึงว่า ท่านปล่อยขา้ พเจา้ เสยี ขา้ พเจ้า
กย็ งั คดิ รา้ ยแก่ทา่ นกวา่ จะทำสำเร็จ ข้าพเจ้าจงึ จะหายแค้น ถ้าท่านเอ็นดูขา้ พเจา้ ข้าพเจ้าจะขอเสือ้ ซึ่งท่านใส่
แม้ท่านโปรดให้ ข้าพเจ้าจะสิ้นความพยาบาทท่าน เซียงจูได้ฟังดังนั้นก็คิดว่าอิเยียงนี้มีน้ำใจกตัญญู จะใคร่
ได้อิเยียงไว้จึงถอดเสื้อให้อิเยียง อิเยียงก็คำนับรับเอาเสื้อมา จึงถอดกระบี่ออกฟันเสื้อเสียสามที แล้วว่า
แกเ่ ซยี งจูว่า ข้าพเจ้าได้แทนคณุ คิเป๊กแล้ว อเิ ยียงก็เอากระบเี่ ชือดคอตาย
อันน้ำใจกวนอูนั้น ถ้าผู้ใดมีแล้วเห็นจะเป็นเหมือนอิเยียง อันเล่าปี่กับกวนอูนั้นมิได้เห็นพี่น้องกัน
ซึ่งมีความรักกันนั้น เพราะได้สาบานต่อกัน เล่าปี่เป็นแต่ผู้น้อย เลี้ยงกวนอูไม่ถึงขนาด กวนอูยังมีน้ำใจ
กตญั ญูตอ่ เล่าปี่ จึงคิดจะตดิ ตามมิได้ทิ้งเสีย อนั มหาอุปราชมวี าสนากว่าเล่าปีเ่ ปน็ อันมาก ถ้าท่านได้กวนอูมา
ไว้ทำนุบำรุงใหถ้ งึ ขนาด เหน็ กวนอูจะมกี ตัญญตู อ่ ทา่ นยงิ่ นกั
โจโฉว่าแก่เตียวเลี้ยวว่า ท่านว่ากล่าวทั้งนี้ก็ชอบนัก จงเร่งขึ้นไปบอกแก่กวนอูว่า ซึ่งสัญญาสาม
ประการนั้นเรายอมแล้ว ท่านจงเร่งพากวนอูมาเถิด เตียวเลี้ยวจึงลาโจโฉขึ้นไปบอกแก่กวนอู กวนอูจึง ว่า
ถา้ มหาอุปราชยอมดังน้ันแล้ว ทา่ นจงลงไปบอกให้กองทัพซ่ึงล้อมเราไว้นั้นเลิกเสีย เราจะเขา้ ไปแจ้งเน้ือความ
แก่พี่สะใภ้ทั้งสองคนก่อน ถ้าไม่เป็นอันตรายแลว้ จึงจะไปมหาอุปราช เตียวเลีย้ วก็ลงไปบอกแกโ่ จโฉตามคำ
กวนอูว่า โจโฉได้ฟังดังนั้นก็ให้ม้าใช้ไปสั่งทหารซึ่งล้อมกวนอูยอมแก่ท่านครั้งนี้เกลือจะเป็นกลอุบาย โจโฉจึง
ตอบวา่ กวนอูเปน็ คนมีความสตั ยเ์ ห็นจะไม่คิดอ่านลอ่ ลวงเรา
ฝ่ายกวนอูครั้นเห็นทหารโจโฉถอยไป ก็พาทหารเข้าไปในเมืองแห้ฝือ เห็นราษฏรทั้งปวงปกติอยู่
จึงเข้าไปคำนับพี่สะใภ้ทั้งสองแล้วว่า ข้าพเจ้าเสียทีทำให้พี่ตกใจได้ความเดือดร้อนนั้นโทษข้าพเจ้าผิดนัก
พี่สะใภ้ทั้งสองจึงถามวา่ เจ้ายังแจ้งวา่ เล่าป่ีนัน้ พลัดไปอยู่ที่ใด กวนอูจึงบอกว่ายงั ไม่แจง้ พี่สะใภ้จึงว่าโจโฉก็
ได้เมืองแห้ฝอื แลว้ เจ้าจะคดิ อา่ นประการใด กวนอูจงึ บอกเนื้อความใหท้ กุ ประการใด แล้วว่าบดั นี้ข้าพเจ้าเข้า
มาปรึกษาด้วย พี่ทั้งสองจะเห็นประการใด นางกำฮูหยินจึงว่าเวลาคืนนี้โจโฉเข้าในเมืองได้พี่นี้เกรงอยู่ว่าจะ
เป็นอันตรายต่างๆเป็นเดชะบุญของเรา โจโฉกำชับทหารมิให้แปลกปลอมเข้ามาถึงประตูได้ ครั้งนี้เจ้ากับพี่ก็
อยู่ในเงื้อมมือโจโฉแลเจ้าจะยอมเขา้ อยู่ด้วยเขานัน้ ด้วยความจำเป็นก็ตามเถดิ แต่พี่เกรงอยู่ข้อหนึ่งว่า ถ้ารู้ว่า
เลา่ ปีอ่ ยแู่ หง่ ใดเราก็จะพากนั ไปหาเกลอื กโจโฉจะมใิ ห้ไป
กวนอจู งึ ตอบวา่ ขอ้ น้ีพี่ทงั้ สองอย่าวิตกเลย แมร้ ูว้ า่ เล่าป่อี ยแู่ ห่งใดเราจะพากันไปหา ถงึ มาตรว่าโจโฉ
จะขัดขวางไว้ ข้าพเจ้าจะคิดอ่านแก้ไขไปใหจ้ งได้ แล้วกวนอูก็ลาพีส่ ะใภ้ทั้งสอง พาทหารประมาณสามสิบคน
ออกไปถึงหน้าค่ายโจโฉ โจโฉเห็นหวนอูมาก็แสดงความยินดี จึงออกไปรับกวนอูเข้ามา กวนอูจึงคำนับโจโฉ
แลว้ วา่ ตัวขา้ พเจา้ เป็นเชลยท่านมไิ ดฆ้ ่าเสยี แล้วออกไปรบั ขา้ พเจ้าถงึ นอกค่ายนัน้ คณุ หาท่สี ุดมิได้
โจโฉได้ฟังดังนั้นจึงว่าแก่กวนอูว่า เราก็แจ้งอยู่ว่าท่านมีความสัตย์แลกตัญญู บัดนี้เรากับท่านได้พบ
กันเราก็มีความยนิ ดี กวนอูจึงตบว่าเตียวเลี้ยวไปบอกข้าพเจ้าว่า มหาอุปราชรบั ปฏิญาณทั้งสามประการแล้ว
ขา้ พเจา้ ก็มีความยินดี เห็นว่าถงึ นานไป เมอื่ หน้ามหาอุปราชกจ็ ะไม่คืนคำ โจโฉจงึ ว่า ซึ่งปฏญิ าณของท่านน้ัน
เราได้ออกปากรับแล้ว ถึงจะเป็นประการใดถึงมาตรว่าเป็นทางกันดาราจะต้องข้ามมหาสมุทรแลลุยเพลิงก็ดี
๑๔
ข้าพเจ้าจะไปหาเล่าปี่ให้จงได้ แม้ข้าพเจ้ายังมิทนั ลามหาอุปราชก็ดี ขอท่านให้อภัยแกข่ ้าพเจ้า อย่าเคืองด้วย
เนื้อความข้อนี้เลย โจโฉว่า ซึ่งท่านรู้ข่าวเล่าปี่แล้วจะไปหาก็ตามเถิด แต่ให้ท่านตรึกตรองดูให้เห็นควรก่อน
แลว้ โจโฉกใ็ หก้ วนอกู ินโตะ๊ แลว้ วา่ พรุง่ นี้เชา้ เราจะยกกลบั ไปเมืองฮูโต๋
กวนอูเข้าไปบอกพี่สะใภ้แล้ว ก็จัดแจงสิ่งของทั้งปวงแล้วออกมา ครั้นเวลาเช้าโจโฉก็ยกทหารไป
กวนอูจึงให้พี่สะใภ้ทั้งสองขึ้นขี่รถตามกองทัพโจโฉไป เวลาค่ำถึงที่ประทับตำบลใด โจโฉให้กวนอูกับภรรยา
เลา่ ปท่ี งั้ สองคนนน้ั อยเู่ รือนเดียวกัน หวังจะใหก้ วนอคู ิดทำร้ายพ่สี ะใภ้ น้ำใจจะไดแ้ ตกออกจากเล่าปี่จะได้เป็น
สิทธิ์แก่ตัว ฝ่ายกวนอูให้พี่สะใภ้ทั้งสองนอนห้องข้างใน ตัวนั้นก็นั่งจุดเทียนดูหนังสือ รักษาพี่สะใภ้อยู่นอก
ประตูยันรุง่ มิได้ประมาทสกั เวลาหน่ึงจนถึงเมืองฮโู ต๋ โจโฉรูด้ ังนั้นก็เกรงใจกวนอูว่ามีความสัตยแ์ ลกตัญญูตอ่
เล่าปี่ โจโฉจึงใหก้ วนอูกับภรรยาเลา่ ปี่ไปอยู่ ณ ตึกสองหลงั มชี านกลาง กวนอูจึงให้พี่สะใภ้ทัง้ สองคนนั้นอยู่
ตกึ หนึ่ง แล้วให้ทหารทแ่ี กร่ าชการอยู่รกั ษาประมาณสิบคน ตวั นั้นอยู่ตึกหนึง่ ระวังรักษาพส่ี ะใภท้ ้งั สอง
ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง โจโฉจึงพากวนอูเขา้ ไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้แล้วทูลว่า กวนอูคนนี้มีฝีมอื พอจะเปน็
ทหารได้ พระเจ้าเห้ยี นเตก้ ็มีความยนิ ดีจึงต้ังกวนอเู ปน็ นายทหาร โจโฉกับกวนอูก็ลากลับมาบา้ น โจโฉจึงเชิญ
กวนอูกินโต๊ะ จัดแจงให้กวนอูนั่งที่สูงกว่าขุนนางทั้งปวง แล้วให้เครื่องเงินเครือ่ งทองแลแพรอย่างดีแก่กวนอู
เป็นอันมาก กวนอูรับเอาสิ่งของนั้นแล้วก็ลาโจโฉกลับมาที่อยู่ จึงบอกเนื้อความท้ังปวงแก่พี่สะใภ้แล้วเอา
สิ่งของน้ันให้
ฝ่ายโจโฉทำนุบำรงุ กวนอูมใิ ห้อนาทร สามวนั แต่งโตะ๊ ไปให้ครั้งหน่ึง หา้ วันครั้งหนึ่ง แล้วจัดหญิงสาว
ที่รูปงามสิบคนให้ไปอยู่ปฏิบัติกวนอูหวังจะผูกน้ำใจให้กวนอูหลง กวนอูให้หญิงสิบคนไปอยู่ที่พี่สะใภ้ใช้สอย
ครน้ั ถึงสามวันกวนอูจึงไปเยือนพ่สี ะใภค้ ร้งั หน่ึง นงั่ อย่แู ตน่ อกประตูแล้วถามว่า พี่อยปู่ กตอิ ย่หู รือ หรือป่วยไข้
ประการใดบ้าง พี่สะใภ้จึงตอบว่า ปกติอยู่มิได้ป่วยไข้ประการใด เจ้ารู้ข่างเล่าปี่ข้างหรือไม่ กวนอูว่าไม่แจ้ง
แล้วคำนับพี่สะใภ้ลากลับมา โจโฉรู้กิตติศัพท์ว่ากวนอูปฏิบัติพี่สะใภ้สุจริตดังนั้น ก็สรรเสริญกวนอูว่ามีความ
สัตยห์ าผู้เสมอมิได้
ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง โจโฉให้เชิญกวนอูมากินโต๊ะ เห็นกวนอูห่มเสื้อขาด โจโฉจึงเอาเสื้ออย่างดีให้
กวนอู กวนอูรับเอาเสื้อแล้ว จึงเอาเสื้อใหม่นั้นใส่ชั้นใน เอาเสื้อเก่านั้นใส่ชั้นนอก โจโฉเห็นดังนั้นก็หัวเราะ
แล้วถามวา่ เอาเสือ้ ใหมใ่ สช่ ัน้ ในน้นั กลวั จะเกา่ ไปหรือ กวนอูจงึ วา่ เสอื้ เก่าน้ขี องเลา่ ปี่ให้ บัดนี้จะไปอยทู่ ี่ใดมิได้
แจ้ง ข้าพเจ้าจึงเอาเสื้อผืนนี้ใส่ชั้นนอก หวังจะดูต่างหน้าเล่าปี่ ครั้นจะเอาเสื้อใหม่ใส่ชัน้ นอก คนทั้งปวงจะ
ครหานินทาว่าได้ใหม่แล้วลืมเก่า โจโฉได้ยินดังนั้นก็สรรเสริญกวนอูว่ามีกตัญญูนัก แต่คิดเสียใจอยู่ กวนอูก็
ลาโจโฉกลับมาทอ่ี ยู่
ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง หญิงคนใช้มาบอกแก่กวนอูว่า บัดนี้พี่สะใภ้ทั้งสองร้องไห้รักกันอยู่ ด้วยเหตุสิ่งใด
มไิ ดแ้ จง้ กวนอไู ดฟ้ งั ดงั นน้ั ก็ตกใจจงึ เขา้ ไปถงึ ริมประตูแล้วถามวา่ พีท่ งั้ สองรอ้ งไหด้ ว้ ยเหตุส่งิ ใด นางกำฮหู ยิน
จึงตอบวา่ คนื นี้พ่ฝี นั เหน็ เล่าปี่ตกหลุมลงคร้นั ตน่ื ขึ้นมาก็ตกใจจึงแกฝ้ ันนางบิฮหู ยนิ เห็นพร้อมกันว่าเล่าป่ีตาย
แล้วพี่จึงร้องไห้รัก กวนอูได้ฟังดังนั้น พิเคราะห์ดูเห็นฝันผิดประหลาด สำคัญว่าเล่าปี่เป็นตายก็ร้องไห้ด้วย
แลว้ กวนอจู งึ คิดกลอุบาย ว่าแก่พส่ี ะใภ้ทั้งสองหวงั จะให้คลายความทุกข์ จงึ ว่าฝันนนั้ จะสำคัญเอาเป็นแน่มิได้
ด้วยพี่ท้งั สองมนี ้ำใจคดิ ถงึ เลา่ ปี่อยู่ จงึ เผอญิ ให้ฝนั ทง้ั น้ใี ช่เล่าป่จี ะเปน็ อันตรายอย่างนั้นหามิได้ พี่ท้ังสองอย่า
๑๕
เศร้าโศกเลย พอคนใช้โจโฉมาบอกกวนอูว่า มหาอุปราชให้เชิญไป กวนอูก็ลาพี่สะใภ้ไปหาโจโฉ โจโฉเห็น
หนา้ กวนอเู ศร้าหมองจึงถามว่า วันน้เี ราเห็นท่านไม่สบาย มีทุกขส์ ่ิงใดหรือ กวนอวู า่ พี่สะใภ้ข้าพเจ้าท้ังสอง
คิดถึงเล่าปี่ ด้วยมิรู้ว่าเป็นหรือตายแล้วชวนกันร้องไห้ ข้าพเจ้าก็กลั้นน้ำตามิได้ โจโฉได้ฟังดังนั้นกป็ ลอบโยน
กวนอู แล้วก็ชวนกินโต๊ะ หวังจะให้คลายทุกข์ กวนอเู สพสรุ าเมามิไดเ้ กรงใจโจโฉ เอามอื จบั หนวดของตัวเข้า
แล้วจึงว่า เกิดมาเปน็ ชายไม่ไดท้ ำนุบำรงุ แผน่ ดินท้ังเล่าปีผ่ ู้พ่ีนัน้ ก็มคี ุณมา ถ้าเราจะเอาใจออกหากบัดน้ี ก็หา
ผู้ใดจะนับถือว่าเป็นชายไม่ โจโฉได้ฟังดังนั้นก็คิดว่า กวนอูยังมีใจสัตย์ซื่อต่อเล่าปี่อยู่ โจโฉทำเปน็ ไมไ่ ดย้ ินจึง
แกล้งถามกวนอูว่า หนวดของท่านประมาณสักกี่เส้น กวนอูจึงตอบว่าหนวดของข้าพเจ้าประมาณร้อยเส้น
ครัน้ ถึงเทศกาลหนาวก็หล่นไปบา้ ง ข้าพเจา้ จึงทำถงุ ใส่ไว้ โจโฉได้ฟงั ดังน้ันจงึ เอาแพรขาวอยา่ งดี ทำถงุ ใหก้ วน
อูสำหรบั ใส่หนวด กวนอูรับเอาถุงน้นั แลว้ ก็ลากลับมาทอ่ี ยู่
ครนั้ เวลาเช้ากวนอเู ข้าไปเฝา้ พระเจ้าเห้ยี นเต้ทอดพระเนตรเห็นกวนอูใสถุงหนวดดังนน้ั จึงตรัสถามว่า
ถุงใส่สิ่งใดแขวนอยู่ที่คอนั้น กวนอูจึงทูลว่า ถุงนี้มหาอุปราชให้ข้าพเจ้าสำหรับใส่หนวดไว้ แล้วกวนอูก็ถอด
ถวายใหท้ อดพระเนตร พระเจา้ เหยี้ นเตเ้ หน็ หนวดกวนอูยาวถงึ อกเส้นละเอยี ดงามเสมอกนั แล้วตรัสสรรเสริญ
ว่ากวนอูนี้หนวดงาม จึงพระราชทานชื่อว่า บีเยียงก๋ง แปลภาษาไทยวา่ เจ้าหนวดงาม แล้วก็เสด็จขึ้น โจโฉ
กับขุนนางทั้งปวงแลกวนอูก็ออกจาที่เฝ้า มาถึงประตูวังกวนอูก็ขึ้นม้าตามโจโฉไป คร้ันถึงหน้าบ้านกวนอูก็
ลาโจโฉจะมาท่ีอยู่
โจโฉเห็นมา้ กวนอผู อม จึงถามวา่ เหตใุ ดมา้ จงึ ผอมไม่สมตวั ท่าน กวนอูจึงตอบวา่ มา้ ตัวนี้มีกำลังน้อย
ทานกำลังขา้ พเจ้ามไิ ดจ้ ึงผอม โจโฉได้ฟงั ดังน้ันจงึ ให้ทหารไปเอาม้าเซ็กเธาว์มา แลว้ ถามกวนอวู า่ มา้ ตัวน้ีเป็น
ของผู้ใดท่านรู้จักหรอื ไม่ กวนอูจึงวา่ มา้ ตวั นี้ของลโิ ป้ขา้ พเจ้ารู้จักอยู่ โจโฉก็ให้จัดแจงเครือ่ งม้าพร้อมแล้วกใ็ ห้
กวนอู กวนอูมีความยนิ ดี ลงจากมา้ คุกเขา่ ลงคำนบั แลว้ ว่า ซ่งึ มหาอุปราชใหม้ ้าตวั นแี้ กข่ า้ พเจา้ น้นั คณุ หาที่สุด
มไิ ด้
โจโฉไดฟ้ ังดังนัน้ ก็คิดกรงิ่ ใจจึงถามว่า เราให้เงินทองสิ่งของแกท่ ่านมาเปน็ อันมากก็ไม่ยินดี ท่านไม่ว่า
ชอบใจแลความยนิ ดเี หมือนเราให้ม้าตัวนี้ เหตไุ ฉนทา่ นจึงรักม้าอนั เป็นสัตว์เดียรัจฉานมากกว่าทรัพย์สิ่งสินอีก
เล่า กวนอูจึงตอบว่าข้าพเจ้าแจ้งว่าม้าเซ็กเธาว์ตัวนี้มีกำลังมาก เดินทางได้วันละหมื่นเส้น แม้ข้าพเจ้ารู้ข่าว
เล่าปี่อยู่ที่ใด ถึงมาตรว่าไกลก็จะไปหาได้โดยเร็ว เหตุฉะนี้ข้าพเจ้าจึงมีความยินดี ขอบคุณมหาอุปราช
มากกวา่ สงิ่ ของท้ังปวง
โจโฉได้ฟังดังนั้นยิ่งมีความน้อยใจ แล้วคิดว่าเราเสียทีที่ทำนุบำรุงกวนอูด้วยยศศักดิ์ศฤงคารบริวาร
กวนอกู ค็ ิดรกั เล่าป่อี ยมู่ ิไดข้ าด กวนอูก็ลาโจโฉไปท่ีอยู่ โจโฉจงึ ถามเตยี วเลย้ี ววา่ เราเล้ียงกวนอกู ็ถึงขนาดฉะน้ี
แล้ว กวนอูยังมีน้ำใจผูกพันรักเล่าปีอ่ ยู่ เราจะคิดอ่านประการใดกวนอูจึงจะเอาใจออกหากเล่าป่ี เตียวเลี้ยว
จงึ วา่ ขอให้งดอยสู่ กั เวลาหน่ึงก่อน ขา้ พเจ้าจะไปวา่ กล่าวลองความคิดกวนอูดวู า่ มีใจสัตยต์ ่อเล่าปี่เที่ยงแท้หรือ
หรือจะอ่านยกั ย้ายประการใด
ครั้นแต่รุ่งเช้าเตียวเลี้ยวจึงไปหากวนอูถ้อยทีถ้อยคำนับกัน เตียวเลี้ยวจึงว่าแก่กวนอูว่า ตั้งแต่มหา-
อุปราชได้ทา่ นมาไว้ก็มคี วามยินดที ำนบุ ำรุงเปน็ อนั มากเพราะมเี มตตาท่าน กวนอูจึงว่า ทุกวนั นีม้ หาอปุ ราชชบุ
เลี้ยงเราจึงได้มีความสุข คุณนั้นก็มีเป็นอันมาก แต่จะได้วายคิดถึงเล่าปี่นั้นหามิได้ เตียวเลี้ยวจึงตอบว่า
๑๖
ธรรมดาเกดิ มาเป็นชายให้รู้จักทีห่ นักท่ีเบา ถา้ ผูใ้ ดมไิ ด้รูจ้ ดั ทหี่ นักที่เบา คนทัง้ ปวงกจ็ ะลว่ งตเิ ตียนว่า ผู้นั้นหา
สตปิ ญั ญาไม่ อันมหาอปุ ราชนี้มนี ้ำใจเมตตาทา่ น ทำนบุ ำรงุ ยง่ิ กว่าเลา่ ปีอ่ ีกเหตใุ ดทา่ นจึงมีใจคิดถึงเล่าปี่อยู่
กวนอูจึงว่า ซึ่งมหาอุปราชมีคุณแก่เรากจ็ ริงอยู่ แต่เปรียบเล่าปี่นั้นยังมิได้ ด้วยเลา่ ป่ีนั้นมีคุณแก่เรา
ก่อน ประการหนึ่งก็ได้สาบานไว้ต่อกันว่าเป็นพี่น้อง เราจึงได้ตั้งใจรักษาสัตย์อยู่ ทุกวันนี้เราก็คิดถึงมหา
อุปราชอยู่มิได้ขาด ถึงมาตรว่าเราจะไปจากก็จะขอแทนคุณเสียก่อนให้มีชื่อปรากฏไว้เราจึงจะไป เตียวเลี้ยว
ไดฟ้ ังดังน้นั จงึ ถามกวนอวู า่ ถ้าเลา่ ป่ีถึงแกค่ วามตายแล้ว ท่านจะอยูก่ บั มหาอปุ ราชหรือ หรอื จะคิดประการใด
กวนอูจึงตอบว่า ตัวเราเกิดมาเป็นชายรักษาสัตย์มิให้เสียวาจา ถึงมาตรว่าเล่าปี่จะถึงแก่ความตาย เราก็จะ
ตายไปตามความทีไ่ ด้สาบานไว้
เตียวเล้ยี วเห็นกวนอนู ัน้ มใี จสัตย์ต่อเล่าป่ีอยู่เป็นม่ันคง ก็ลากลบั มา จึงเอาเนอื้ ความท้งั ปวงบอกแก่โจ
โฉทกุ ประการ โจโฉไดฟ้ ังดงั น้ันกท็ อดใจใหญ่ มีความวติ ก ซึ่งจะเอากวนอูไว้ให้ขาดจากเลา่ ป่ีก็ไมส่ มคิด แล้ว
สรรเสริญกวนอูว่ามีความสัตย์ซื่อมั่นคงนัก ซุนฮกจึงว่าแก่โจโฉว่า อันความคิดกวนอูนั้นจะแทนคุณอุปราช
เสียก่อน แล้วจึงจะไปจาก ถ้ามีศึกมาก็อย่าให้กวนอูออกอาสา แม้กวนอูยังไม่มีความชอบก็ จะอยู่ด้วยมหา
อปุ ราช โจโฉไดฟ้ ังดังน้นั เองก็จะเห็นชอบด้วย
๑๗
วเิ คราะหค์ ุณค่า
คุณค่าด้านเนื้อหา
๑)อุปมาโวหาร เป็นโวหารที่ปรากฏในเรือ่ งสามก๊กตอนกวนอูไปรบั ราชการโจโฉ เป็นความเปรียบทีเ่ ข้าใจง่าย
ทำให้เกิดภาพที่ชัดเจนขึ้น เช่น ตอนโจโฉคิดหาหนทางกำจัดเล่าปี่และกล่าวเปรียบเล่าปี่ว่าเหมือนลูกนก
ดงั ความวา่
“...เล่าปี่นั้นเป็นคนมีสติปัญญา ถ้าละไว้ช้าก็จะมีกำลังมากขึ้น อุปมาเหมือนลูกนกอันขนปีก
ยังไมข่ น้ึ พร้อม แม้เราจะนิ่งไว้ให้อยู่ในรงั ฉะนี้ ถ้าขนขนึ้ พร้อมแล้วก็จะบินไปทางไกลได้ ซึ่งจะจับตัวนั้นจะได้
ความขัดสน ...”
เม่ือกวนอูปฏิเสธทจี่ ะไปรับราชการกบั โจโฉ เตียวเลีย้ วพยายามหาเหตุผลโน้มน้าวใจกวนอู โดย
กล่าวเปรียบความลำบากท่ีกวนอตู ้องเผชิญว่าเหมือนการลยุ ไฟและการข้ามมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ หากทำได้ก็
จะเปน็ ทรี่ จู้ ักสรรเสรญิ ในภายภาคหนา้ ดงั ความว่า
“...เหตุใดท่านจึงไม่รักษาชีวิตไว้คอยท่าเล่าปี่ จะได้ช่วยกันคิด การทำนุบำรุงแผ่นดินให้อยู่
เย็นเป็นสุข ถึงมาตรว่าท่านจะได้รับความลำบากก็อุปมาเหมือนหนึ่งลุยเพลิงอันลุกแลข้ามพระมหาสมุทรอัน
กว้างใหญ่ กจ็ ะลอื ชาปรากฏช่อื เสียงท่านไปภายหนา้ ...”
เมื่อทหารโจโฉล้อมจับกวนอูไว้ แล้วเตียวเลี้ยวขี่ม้าเข้ามาหาเพื่อเกลี้ยกล่อมให้กวนอูเข้ากับ
ฝ่ายโจโฉ กวนอูได้ฟังเตียวเลี้ยวก็โกรธกล่าวตอบโต้ไปว่าหากตายก็ไม่เสียดายชีวิต โดยเปรียบว่าความตาย
เหมอื นการนอนหลบั ไม่นา่ กลัว ดังความว่า
“...ซึ่งเราจะเข้าด้วยผู้ใดนอกจากเล่าปี่นั้นอย่าสงสัยตัวเราก็มิได้รักชีวิต อันความตายอุป มา
เหมอื นนอนหลบั ท่านเรง่ กลบั ไปบอกแกโ่ จโฉใหต้ ระเตรียมทหารไว้ให้พร้อม เราจะยกลงไปรบ....”
จากตัวอย่างความเปรยี บทีย่ กมาน้ันจะเห็นไดว้ ่า เป็นความเปรียบแบบอุปมา คือสิ่งหรือข้อความ
ทยี่ กมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เรากล่าวถึง เพื่อทำให้ผู้อา่ นเข้าใจส่ิงท่ีกำลังกลา่ วถงึ ได้อย่างชัดเจนและลึกซ้ึงยิ่งข้ึน
๒)การใช้สำนวนโวหาร การที่คนไทย เป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนชอบพูดจาให้เป็นสำนวนต่างๆ จึงปรากฏใน
เรื่องสามก๊กตอนนี้ ได้แก่ ได้ใหม่แล้วลืมเก่า ดังตอนที่กวนอูกล่าวกับโจโฉว่าเหตุที่เอาเสื้อใหม่ที่โจโฉให้ใส่ไว้
ชัน้ ใน แล้วเอาเส้อื เก่าใสช่ ้นั นอกว่า
“กวนอจู ึงวา่ เสอ้ื เกา่ นข้ี องเลา่ ปใ่ี ห้ บัดนจี้ ะไปอยู่ท่ใี ดมไิ ด้แจง้ ขา้ พเจา้ จึงเอาเส้ือผืนนใี้ สช่ ัน้ นอก หวังจะ
ดูตา่ งหน้าเลา่ ป่ี ครน้ั จะเอาเสื้อใหมใ่ ส่ชัน้ นอก คนทั้งปวงจะครหานินทาว่าไดใ้ หมแ่ ล้วลมื เก่า ”
๓)การใช้นาฏการ เช่น
“...ครั้นเวลาเช้ากวนอูเข้าไปเฝ้า พระเจ้าเหี้ยนเต้ทอดพระเนตรเห็นกวนอูใสถุงหนวดดังนั้นจึงตรสั
ถามว่า ถุงใส่สิ่งใดแขวนอยู่ที่คอนั้น กวนอูจึงทูลว่า ถุงนี้มหาอุปราชให้ข้าพเจ้าสำหรับใสห่ นวดไว้ แล้วกวนอูก็
ถอดถวายให้ทอดพระเนตร พระเจ้าเหี้ยนเต้เห็นหนวดกวนอูยาวถึงอกเส้นละเอียดงามเสมอกัน แล้วตรัส
๑๘
สรรเสริญว่ากวนอูนี้หนวดงาม จึงพระราชทานชื่อว่าบีเยียงก๋ง แปลภาษาไทยว่าเจ้าหนวดงาม แล้วก็เสด็จขึ้น
...”
“...นางกำฮูหยินจึงตอบว่าคืนนี้พี่ฝันเห็นเล่าปี่ตกใจจึงแก้ฝันนางบิฮูหยิน เห็นพร้อมกันว่าเล่าปีตาย
แล้วพจี่ งึ ร้องไห้รกั กวนอูไดฟ้ ังดังนัน้ พเิ คราะห์ดเู ห็นฝนั ผิดประหลาด สำคญั ว่าเล่าป่เี ปน็ ตายก็ร้องไห้ด้วย "
คณุ ค่าดา้ นเนอ้ื หา
– ให้ความรู้ลำ้ ลึกในศาสตรต์ ่างๆ เชน่ ยุทธศาสตร์ ปรัชญา จิตวิทยา ตลอดจนการศกึ ษาธรรมชาติของ
ชีวติ มนุษย์
– สามก๊กไม่ได้แฝงอิทธิปาฏิหาริย์เกินความสามารถของสามัญชน จึงทำให้ผู้อ่านได้เห็นชีวิตของตัว
ละครทงั้ หมดในลักษณะของคนจริงๆ ความรู้ ความคดิ และสติปัญญาท่ไี ด้จากการอา่ นจงึ เป็นประโยชน์ต่อการ
ดำเนินชวี ติ ของผู้อา่ น
คุณคา่ ด้านวรรณศิลป์
๑)การเลือกสรรคำ
การใชภ้ าษา การเลา่ เรอ่ื งใช้บรรยายโวหารที่ประโยคไม่ซบั ซ้อน ใชภ้ าษาไมย่ ากแม้ว่าจะเปน็ ภาโบราณ
สามารถเขา้ ใจไดว้ ่า ใครทำ อะไร ทีไ่ หน เม่ือใด อย่างไร แมว้ า่ ช่ือตัวละครและสถานที่จะมาจากภาษาจีนแต่ช่ือ
เหล่านั้นสะกดตรงตัว และมีวรรณยุกต์กำกับชัดเจนทำให้อ่านงา่ ย ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ว่า ตัวละครเป็นใคร
และมีบทบาทในเรือ่ งอย่างไรดว้ ยการพิจารณาจากบริบทประกอบ มีสำนวนเปรียบเทยี บที่คมคาย บทสนทนา
ของตัวละครแสดงถึงวาทศลิ ปใ์ นการเจรจาความ มกี ารใชภ้ าษาที่โน้มนา้ วใจ
๑.๑ การเลือกใชค้ ำได้ถกู ต้องตรงตามความหมายทตี่ ้องการ กวใี ชค้ ำได้ตรงความหมายและถอ้ ยคำ
ทใ่ี ช้ก็ไม่ใชศ่ ัพทย์ าก อ่านแลว้ จะเข้าใจสถานการณไ์ ด้ทันที มีความไพเราะ สละสลวยเรยี บง่าย เชน่
“..กวนอูได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงว่าแก่เตียวเลี้ยวว่า เดิมเราถามตัวว่าจะเกลี้ยกล่อมหรือ ตัวว่าหา
มิได้ แลตัวมากล่าวดังนี้ จะว่าไม่เกลี้ยกล่อมนั้นตัวจะประสงค์สิ่งใดเล่า แล้วว่าเราอยู่ในที่นี้ก็เป็นที่คับขัน
อยู่ ซง่ึ เราจะเข้าด้วยผู้ใดนอกจากเล่าปีน่ นั้ อย่าสงสยั เลย...”
๑.๒ การเลือกใช้คำทีเ่ หมาะแก่เนือ้ เรอ่ื งและฐานะของบุคคลในเร่อื ง เช่น ตอนท่ีกวนอูไปเข้าเฝา้ พระ
เจ้าเหีย้ นเตซ้ ึ่งเป็นกษัตริย์ กวีเลือกใช้คำราชาศัพทไ์ ด้ถูกต้องเหมาะสมแก่เนื้อเรื่องและฐานะของบุคคลในเรื่อง
เชน่
“...ครนั้ เวลาเช้ากวนอูเขา้ ไปเฝ้า พระเจา้ เห้ยี นเตท้ อดพระเนตรเหน็ กวนอใู สถงุ หนวดดังนน้ั จึงตรัสถาม
วา่ ถุงใสส่ ่ิงใดแขวนอยูท่ ่คี อนัน้ กวนอจู งึ ทูลวา่ ถงุ นีม้ หาอปุ ราชใหข้ า้ พเจ้าสำหรบั ใส่หนวดไว้ แลว้ กวนอูก็ถอด
ถวายให้ทอดพระเนตร พระเจา้ เห้ียนเตเ้ ห็นหนวดกวนอยู าวถงึ อกเสน้ ละเอียดงามเสมอกนั แลว้ ตรสั สรรเสรญิ
ว่ากวนอูน้หี นวดงาม จงึ พระราชทานชื่อวา่ บีเยียงก๋ง แปลภาษาไทยวา่ เจา้ หนวดงาม แลว้ กเ็ สดจ็ ขึ้น...”
๑๙
๑.๓ การเลือกใช้คำได้เหมาะแก่ลักษระคำประพนั ธ์ เรอ่ื งสามก๊ก ตอน กวนอูไปรบั ราชการกับโจโฉ
กวีใช้ภาษาความเรียงนทิ านประเภทร้อยแก้ว การใช้ถ้อยคำและเรียงความเรียบร้อยสม่ำเสมอ อ่านเข้าใจ
งา่ ย ไมม่ ศี ัพท์ยากภาษาไม่ซบั ซ้อน ดงั ความวา่
“...ฝ่ายทหารเล่าปี่ซึ่งเข้าไปหากวนอูนั้น ครั้นเวลาพลบค่ำมิได้เห็นกวนอูกลับเข้าเมืองก็ชวนกันเปิด
ประตูออกมาหวังจะรับโจโฉ ม้าใช้เห็นดังนน้ั กเ็ อาเน้ือความมาบอกโจโฉ โจโฉมีความยนิ ดีก็คุมทหารเข้าเมือง
แหฝ้ ือ แลว้ ให้เอาเพลงิ เผาเมอื งขน้ึ หวังจะให้กวนอูเสียนำ้ ใจ ...”
๒) การใชก้ วีโวหาร (ภาพพจน)์
– โวหารดีที่สุดในกระบวนวรรณคดรี ้อยแก้ว บทอปุ มาอุปไมยลึกซึ้งคมคายและเห็นข้อเทียบเคียงได้
ชัดเจน บทพรรณนาแจม่ ชัดทกุ ตอน
คณุ ค่าดา้ นสังคม
สะท้อนแนวคดิ เก่ยี วกบั การทำสงครามของคนจีน ดงั นี้
๑.การทำสงครามนน้ั มใิ ช่ใช้กำลงั ทหารเพียงอยา่ งเดียว การทำสงคราม นอกจากการใชก้ ำลังทหารยงั ต้องอาศัย
สตปิ ญั ญาและเลห่ ์เหลีย่ มกลอุบายเปน็ สำคัญ จงึ จะสามารถเอาชนะข้าศึกศัตรูได้ ดังเชน่ ตอนที่เทียหยกวางกล
อบุ ายลอ่ ลว่ งใหก้ วนอูออกจากเมืองแห้ฝือ เพือ่ ให้ทหารโจโฉเขา้ ยดึ เมอื งแหฝ้ ือ และก็ทำไดส้ ำเรจ็
“มา้ เท้งไปอยู่เมืองเสเหลยี งนั้นมที หารเป็นอันมาก ถา้ ท่านจะยกทพั ไปตีเอา บัดนี้เมืองเราก็เป็นกังวล
อยู่ ขอให้ท่านเร่งแต่งผู้มีสติปัญญาไปเกลี้ยกลอ่ มหาตัวม้าเท้งกลับเข้ามา อย่าให้ทันม้าเท้งรู้ว่าท่านจับตังสิน
กับพวกเพอ่ื นฆา่ เสีย ข้าพเจ้าเหน็ วา่ เท้งไมแ่ จ้งเน้ือความทง้ั นี้กจ็ ะเขา้ มา จึงจบั ฆา่ เสียกจ็ ะได้โดยง่าย ”
๒.บุคลิกภาพของผู้นำ ผู้นำที่จะยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จ นอกจากการจะต้องมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด
เชย่ี วชาญในการรบแล้ว ควรมคี วามพยายามและความอดทนในการทำการท่มี ุ่งหวัง ดังเช่น ตอนทโี่ จโฉใชค้ วาม
เพียรพยายามอดทนและใช้จิตวิทยาเป็นอยา่ งมากในการผูกมัดใจกวนอูให้เกิดความจงรักภักดีต่อตนเอง ซึ่งโจ
โฉก็ทำได้สำเร็จขัน้ หนึ่ง แม้กวนอูจะยังคงซื่อสตั ย์จงรักภักดีต่อเล่าป่ีไมม่ ีคลาย แต่ก็รู้สึกสำนึกในบุญคุณของโจ
โฉและพรอ้ มทจ่ี ะตอบแทนคณุ ภายในภาคหนา้
“โจโฉจึงถามเทียหยกว่า ท่านจะคิดล่อลวงประการใด เทียหยกจึงว่า ท่านจับทหารเล่าป่ีไวไ้ ด้เปน็ อนั
มาก จงให้บำเหน็จรางวัลให้ถึงขนาด แล้วสั่งให้ทำตามคำเราจึงปล่อยเข้าไปในเมืองให้บอกว่าหนีกลับมา
ได้ ถ้าเราจะทำการก็ให้เป็นไส้ศึกอยู่ในเมือง แล้วให้แต่ง ทหารไปรบล่อ ถ้ากวนอูไล่ออกมานอกเมือง
แลว้ จงึ ให้ทหารซ่งึ ซมุ่ อยูท่ ง้ั สองข้างล้อมไว้ จงึ แตง่ ใหผ้ มู้ ีสติไปเกลยี้ กล่อมกวนอเู หน็ จะได้โดยง่าย”
๓.ความสำคัญของนักการทูต นักการทูตมีความสำคัญในการช่วยราชการบ้านเมืองแม้กระทั้งในยามศึก
สงคราม ผู้ที่จะทำหน้าที่ทางการทูตต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีโวหารเป็นเลิศ ดังเช่น เตียวเลี้ยวที่
สามารถพูดโน้มนา้ วใจใหก้ วนอยู อมรับราชกรากบั โจโฉได้เป็นผลสำเร็จ
“เตียวเลี้ยวจึงตอบว่า เดิมท่านเล่าป่ี เตียวหุยได้สาบานไว้ต่อกันว่า เป็นพี่น้องร่วมสุขแลทุกข์เป็น
ชีวิตอันเดียวกัน.... เมื่อท่านตายแล้ว เล่าปี่ เตียวหุยก็จะตายด้วย ซึ่งท่านสาบานไว้ต่อหน้ากันก็จะมิเสีย
๒๐
ความสัตยไ์ ปหรอื คนท้ังปวงก็จะลว่ งนินทาว่าความคิดท่านน้อย...เตยี วเลย้ี วจึงว่า มหาอปุ ราชใหท้ หารล้อมไว้
เป็นอันมาก ถ้าท่านมิสมัครเข้าด้วยเห็นชีวิตท่านจะถึงแก่ความตายหาประโยชน์มิได้ ขอให้ท่านอยู่กับมหา
อุปราชกอ่ นเถิด จะไดม้ ปี ระโยชนส์ ามประการ”
๔.พลังของความสามคั คี ช่วยใหบ้ า้ นเมืองอยูร่ อดปลอดภัยจากข้าศึกศตั รู ในการทำสงครามถา้ มีความเป็นน้ำ
หนึ่งใจเดียวกันย่อมเกิดพลังในการต่อสู้ข้าศึก แต่การขาดความสามัคคีแล้วย่อมเสียที่ให้กับข้าศึกได้ง่าย เช่น
การที่อ้วนเสี้ยวไม่ส่งทหารไปช่วยเล่าปี่ เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้เล่าปี่ปราชัย หรือการที่บิต๊ก บิฮอง กันหยง ทิ้ง
เมืองเพราะคิดว่าจะสู้โจโฉไม่ได้ และตันเต๋งกลับเปิดประตูรับโจโฉเป็นเหตุให้โจโฉยึดเมืองชีจิ๋วได้ง่าย
สะทอ้ นค่านิยมในการประพฤติปฏบิ ัติของคนในสังคม ดังน้ี
๑.ค่านิยมเรื่องความซื่อสัตย์ จากเรื่องสามก๊ก ตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉสะท้อนให้เห็นค่านิยมความ
ซื่อสัตย์ได้เด่นชัดที่สุด กวนอูถือเป็นตัวละครสำคัญที่สะท้อนให้เห็นค่านิยมเรื่องความซื่อสัตย์ บทบาทและ
พฤติกรรมของกวนอู ไม่ว่าจะแสดงออกต่อภรรยาของเล่าปี่หรือต่อโจโฉก็ล้วนแต่สนับสนุนค่านิยมเรื่องความ
ซือ่ สัตย์ทงั้ สน้ิ
“โจโฉรู้ดังนั้นก็เกรงใจกวนอูว่ามีความสัตย์แลกตัญญูต่อเล่าปี่ โจโฉจึงให้กวนอูกับภรรยาเล่าปี่ไป
อยู่ ณ ตึกสองหลงั มีชานกลาง กวนอจู งึ ให้พสี่ ะใภท้ ้ังสองคนนั้นอยู่ตึกหน่งึ แล้วให้ทหารทแี่ กร่ าชการอยู่รักษา
ประมาณสบิ คน ตวั น้นั อยตู่ กึ หน่ึงระวงั รกั ษาพี่สะใภ้ทัง้ สอง”
๒.คา่ นยิ มความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ เช่น การท่โี จโฉสง่ ทหารไปล่อให้กวนอูไล่ตามออกมานอกเมือง
และล้อมจับกวนอูไว้ เตียวเลี้ยวทหารฝ่ายโจโฉซึ่งกวนอูเคยช่วยชีวิตไว้เป็นผู้เข้าไปเกลี้ยกล่อมกวนอูให้ไปอยู่
กับโจโฉ กวนอูยอมจำนนแต่ขอเงื่อนไขเป็นสัญญาคอื ขอให้ไดเ้ ปน็ ข้าของพระเจ้าเหีย้ นเต้
“กวนอูจึงว่า เดิมเราได้สาบานกันไว้กับเล่าปี่ เตียวหุยว่าจะช่วยทำนุบำรุงพระเจ้าเหี้ยนเต้แลอาณา
ประชาราษฎรใหอ้ ย่เู ยน็ เป็นสุข ซ่ึงเราจะสมัครเข้าดว้ ยนั้น เราจะขอเปน็ ขา้ พระเจ้าเห้ียนเตป้ ระการหนึ่ง”
๓.คา่ นยิ มความกตญั ญูรคู้ ุณ เช่น ตอนท่เี ตยี วเลี้ยวกล่าวถึงลกั ษณะนสิ ยั ของกวนอู
"อันน้ำใจกวนอูนั้น ถ้าผู้ใดมแี ลว้ เห็นจะเป็นเหมือนอิเยียง อนั เลา่ ป่กี บั กวนอูนนั้ มิได้เห็นพ่ีน้องกัน ซ่ึงมี
ความรกั กนั น้ัน เพราะไดส้ าบานต่อกนั เลา่ ปี่เป็นแต่ผู้นอ้ ย เลี้ยงกวนอูไม่ถงึ ขนาด กวนอยู งั มีนำ้ ใจกตัญญูต่อเล่า
ป่ี จึงคดิ จะตดิ ตามมไิ ดท้ ้งิ เสีย "
สะทอ้ นเรอื่ งความเชอ่ื ของคนในสังคม ดงั นี้
๑.ความเชือ่ ในโชคลาง เช่น แม้โจโฉจะเปน็ แม่ทัพท่ีมีความสามารถในการรบเม่ือยกทัพมาเกดิ ลมพายุพัดธงชัย
หัก ก็ต้องพึ่งคำทำนายทายทัก จะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญของการรบแบบโบราณที่ต้องถือฤกษ์ยามและโชค
ลาง
"ฝ่ายโจโฉยกกองทัพมาใกล้จะถึงเมืองเสียวพ่ายพอเกิดลมพายุใหญ่พัดหนักธงชัยซึ่งปักมาบนเกวียน
นั้นหกั ทับลง โจโฉเหน็ วปิ รติ ดังนัน้ ก็ใหท้ หารหยดุ ตั้งคา่ ยมนั่ ไว้แลว้ ถามท่ีปรกึ ษาวา่ ซึ่งลมพายุพดั มาถูกธงชัยเรา
หักลงทั้งนี้ จะเห็นดีแลร้ายประการใด ซุนฮกจึงว่าซึ่งเกิดพายุใหญ่พัดธงชัยหักทับลงมานั้นเป็นลมตะวันออก
๒๑
เวลาค่ำวันนดี้ รี ้ายเล่าปจ่ี ะยกทัพออกมาปล้นค่ายเราเป็นมัน่ คง พอมอกายเข้ามาวา่ แก่โจโฉว่า ลมตะวันออกพัด
มาถูกธงหักน้ัน ขา้ พเจ้าเห็นวา่ กลางคืนวนั นจ้ี ะมีผู้มาปล้นค่าย"
๒.ความเชื่อในเรื่องความฝัน เช่น เมื่อนางบิฮูหยินและกำฮูหยินเลา่ ความฝันของนางทีเ่ กี่ยวกับเล่าปีใ่ ห้กวนอู
ฟัง กวนอกู ็วติ ก
"...นางกำฮหู ยินจงึ ตอบวา่ คืนนีพ้ ีฝ่ ันเห็นเล่าปตี่ กหตกใจจงึ แกฝ้ นั นางบิฮหู ยนิ เหน็ พร้อมกนั วา่ เล่าปตี าย
แล้วพ่ีจงึ ร้องไหร้ ัก กวนอูได้ฟงั ดังน้นั พเิ คราะห์ดเู หน็ ฝันผิดประหลาด สำคัญว่าเล่าป่ีเปน็ ตายก็รอ้ งไหด้ ้วย..."
๓.ความเชื่อเรื่องบุญกรรมที่ตนได้กระทำไว้ สามก๊ก ตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ แสดงให้เห็นความเชื่อ
เร่อื งบญุ กรรมทไ่ี ดท้ ำมา
"แลว้ ว่าบัดนี้ขา้ พเจา้ เขา้ มาปรึกษาด้วยพ่ีท้งั สองจะกำฮูหยินจึงวา่ เวลาคืนนีโ้ จโฉเข้าในเมืองได้พี่นี้เกรง
อยู่วา่ จะเป็นอนั ตรายต่างๆเป็นเดชะบญุ ของเรา”
สะทอ้ นเกย่ี วกบั ขนบธรรมเนยี มประเพณีตา่ ง ๆ ของสงั คมจีน ดงั น้ี
๑.การจัดเลี้ยง การจัดเลี้ยงเป็นเอกลักษณ์ของคนจีน ในสังคมจีนไม่ว่าจะในโอกาสแสดงความยินดี ต้อนรับ
หรอื ขอบคุณมักจะจัดอาหารเลีย้ งกันเป็นประจำจนกลายเปน็ ประเพณไี ปโดยปรยิ าย
"...อ้วนถำได้ฟังดังนั้นก็มีความสงสารเป็นอันมาก ก็ให้แต่งโต๊ะเลี้ยงแล้วจัดแจงที่อยู่ให้เล่าปี่อาศัย จึง
แต่งหนงั สือบอกไปถึงบดิ าตามคำเล่าปใี่ ห้ม้าใช้ถือไปกอ่ น...”
๒.การให้ของกำนัล การให้ของกำนัลเป็นสิ่งที่ชาวจีนทำกันในเกือบทุกโอกาสจากเรื่องจะเห็นได้ว่า โจโฉให้
เครือ่ งเงิน เครอ่ื งทอง เสื้อผา้ ดี ๆ
อภธิ านศพั ท์ ๒๒
คำศพั ท์ ความหมาย
กริ่งใจ คลางแคลงใจ
กนั หยง ทหารของเลา่ ป่ี เม่อื ลิโปข้ ดั แยังกับเล่าป่ี ซนุ เขียนแนะ ให้เล่าป่ี
ไปพ่ึงโจโฉ เลา่ ปจ่ี ึงใหก้ ันหยงถือหนังสือไปหาโจโฉเพื่อขอให้โจ
กำฮูหยนิ โฉสง่ ทัพมาชว่ ย (ดู บติ กึ )
กินโตะ๊ ภรรยาของเล่าปี่ มีน้องสาวชื่อบิชูหยินซึ่งเป็นภรรยาของเล่าป่ี
เชน่ กนั กวนอูรกั และนับถอื ทัง้ สองนางเหมอื นพี่สะใภ้
กุยแก กนิ เลย้ี งดว้ ยอาหารอย่างดีโดยน่ังลอ้ มวงกันทโ่ี ต๊ะ
(ต่อมาลกั ษณะการรมล้อมนท้ี ำให้คำว่า กินโต๊ะ มคี วามหมาย
เกลือก โดยปรยิ ายวา่ รุมทำร้าย)
เคาทู ที่ปรึกษาคนสำคัญของโจโฉ เป็นคนฉลาด รู้กลศึกและมี
งกั จิน้ ความคิดรอบคอบ กุยแกมักให้คำแนะนำเพื่อมิให้โจโฉด่วน
ซหิ ลง ตัดสินใจ โจโฉเชื่อฟังกุยแกจึงได้เปรียบในการศึกหลายครั้ง
ซนุ เขียน เมื่อกุยแกตาย โจโฉเสียใจมาก ต่อมาเมื่อโจโฉหลงกลจิวยี่ถูก
เผาทัพพ่ายยับเยิน โจโฉ ร้องไห้คิดถึงกุยแกว่าถ้ากุยแกอยู่ก็คง
ชุนฮก จะทดั ทานไมใ่ หต้ นหลงกลขา้ ศกึ เช่นน้ี
หากวา่
เซ็กเธาว์ ทหารของโจโฉ (ดู เตียวเลยี้ ว)
ทหารของโจโฉ (ดู เตียวเลยี้ ว)
ตอ้ งใจ ทหารของโจโฉ (ดู เตยี วเลยี้ ว)
ตงั สิน ที่ปรึกษาคนสำคัญของเล่าปี่ เป็นผู้นำความไปบอกกวนอูว่าโจ
โฉยกทัพมาดีเมืองชีจิ๋วของเล่าปี แล้วถือหนงั สอื ของเล่าป่ีไปให้
อว้ นเสยี้ วเพือ่ ขอกำลงั ทัพไปช่วยรบกบั โจโฉ
ที่ปรึกษาคนสำคัญของโจโฉ เดิมอยู่กับอ้วนเสี้ยวแดเ่ มือ่ เห็นว่า
อว้ นเส้ียวเป็นคนหยาบช้าจึงสมัครใจไปอยกู่ ับโจโฉ โจโฉเชื่อฟัง
คำแนะนำของซุนฮกเสมอมา เมื่อโจโฉได้เป็นมหาอุปราชผู้มี
อำนาจสงู สุดก็ได้แตง่ ตัง้ ซุนอกเป็นขุนนางผ้ใู หญฝ่ า่ ยพลเรือน
เปน็ ชอ่ื มา้ ฝเี ท้าดีและมีกำลังมาก เดิมเป็นม้าท่ลี โิ ป้ได้รับจากตั้ง
โต๊ะ เมื่อโจโฉคิดกำจัดลิโป้ได้ส่งคนไปลอบลักม้าเช็กเธาว์ของลิ
โป้มาเพอ่ื ตดั กำลังมิให้ลิโปห้ นีได้ เมอ่ื โจโฉข้โจมตี ลิโป้จึงจนมุม
และถูกสังหาร ในที่สุด ม้าเซ็กเธาว์จึงตกเป็นของโจโฉ ตึกคร้ัง
นั้น โจโฉช่วยเล่าปี่รบกับลิโป้ กวนอูซึ่งอยู่ในการศึกด้วยจึงจำ
มา้ เซ็กเธาวไ์ ด้เม่ือโจโฉให้ม้าเซ็กเธาวแ์ กก่ วนอู
ถูกใจ
ขนุ นางผ้ใู หญข่ องพระเจา้ เหย้ี นเต้ เปน็ ผ้พู าพระเจ้าเห้ียนเต้หนี
ภยั จากผคู้ ดิ ร้ายมา้ เทง้ คิดกำจัดโจโฉ แตถ่ ูกโจโฉสงั หาเสียกอ่ น
ตันเต๋ง ๒๓
ตีตัวตายก่อนไข้
เตียนห้อง ทหารเมืองชีจิ๋ว เมื่อครั้งเมืองชีจิ๋วเป็นของลิโป้ ตันเต๋ง เป็นไส้
ศึกให้โจโฉมาตีเมืองชีจิ๋วได้ ต่อมาโจโฉเสียเมืองนี้ให้แก่เล่าป่ี
เดยี วเล้ยี ว เมื่อโจโฉยกมาตีเมอื งชีจ๋ิวคืนจากเลา่ ปี่ ดันเต๋ง ก็เปดิ ประตเู มือง
รับโจโฉเพอื่ เอาความดคี วามชอบ
แตง่ โต๊ะเลี้ยง ตีตนก่อนไข้ กงั วล ทุกขร์ ้อน หรอื หวาดกลวั ในเร่อื งทีย่ ังไม่
ทอดใจใหญ่ เกดิ ขึ้น
เทียหยก ท่ีปรกึ ษาคนสำคัญของอว้ นเสี้ยว เมือ่ โจโฉดเี มืองชีจ๋ิวของเล่าปี
เล่าปี่ส่งคนไปขอความช่วยเหลือจากอ้วนเสี้ยว เตียนห้อง
บิต๊ก แนะนำให้อ้วนเสี้ยวช่วยเล่าปีสู้รบเสี้ยวเป็นห่วงบุตรของตนจงึ
ไม่คิดจะยกทัพไปช่วยเล่าปี่ ทำให้เตียนห้องขัดใจ ต่อมาเมื่อ
อ้วนเสี้ยวจะยกทัพไปปราบโจโฉ เตียนห้องคัดด้าน อ้วนเสี้ยว
ไมพ่ อใจ จึงใหเ้ อาตวั เตยี นห้องไปจำคุก
เคยเป็นทหารฝ่ายลิโป้ ในศึกครั้งเดียวกันนี้ เดียวเลี้ยวถูกจับ
เป็นเซลย โจโฉจะฆ่าเสีย แต่กวนอูขอร้องไว้ว่า เดียวเลี้ยวเปน็
คนซื่อสัตย์ควรเลี้ยงไว้ เตียวเลี้ยวจึงมาอยู่กับโจโฉและอาสา
เป็นผู้เกลี้ยกล่อมกวนอูเพราะเคยรู้จักกันมา เมื่อครั้งโจโฉยก
ทัพไปทำศึกกับเล่าปี่ที่เมืองเสียวพ่าย โจโฉแบ่งทหารเป็น ๑๑
กอง ให้อยู่รักษาค่ายกองหนึ่ง ให้ไปสกัดอยู่ปากทาง ๒ กอง
และให้ชมุ่ อยูน่ อกค่ายดอยตกี ระหนาบ ๘ กอง แม่ทพั ๘ กองน้ี
ได้แก่ เตียวเลี้ยว เดาทู อิกิ๋ม ลิเตียน ซิหลง งักจิ้น แฮหัวตุ้น
และแฮหัวเอี๋ยน ทำให้กองทัพของเตียวหุยซึ่งช่วยเล่าปี่รบน้ัน
แตกพา่ ย
จดั อาหารเลยี้ ง
ถอนใจดว้ ยความสน้ิ หวัง
ท่ปี รกึ ษาของโจโฉ เป็นผู้ที่สามารถอา่ นสถานการณ์และอ่านใจ
คนได้ดี เมื่อเล่าปี่มาพึ่งโจโฉ เทียหยก แนะนำให้โจโฉจับเล่าปี่
ฆ่าเสียเพราะเล่าปี่มักใหญ่ใฝ่สูง อาจเป็นภัยในภายหน้า แต่โจ
โฉไม่ทำตามคำของเทียหยก เมื่อโจโฉอยากได้กวนอูมาอยู่กับ
ตน เทยี หยกคดิ กลให้กวนอูจนมุม แล้วเดียวเล้ยี วซ่ึงชอบพอกับ
กวนอูกเ็ ข้าไป เกลย้ี กล่อมกวนอไู ดส้ ำเร็จ คร้นั กวนอูหนโี จโฉไป
เทียหยกกแ็ นะนำใหโ้ จโฉรีบกำจดั กวนอู แตโ่ จโฉไม่ทำตามดำ
ของเทียหยก เมื่อโจโฉแตกทัพเรือหนีไปพบกวนอูสกัดทัพอยู่
เทียหยกอ่านใจกวนอูออกจึงแนะนำให้ โจโฉเจรจาขอทางจน
กวนอูใจออ่ นยอมปลอ่ ยโจโฉไป
ที่ปรึกษาของเล่าปี่ เป็นพี่ชายของบิฮูหยินภรรยาคนท่ี ๒ ของ
เล่าป่ี เมื่อเล่าปี่หนีออกจากเมืองชีจิ๋วได้ให้บิต๊กกับบิฮองและ
กันหยงรักษาเมืองไว้ แต่ทง้ั สามเกรงกำลงั ทพั ของโจโฉจงึ พากัน
บฮิ อง ๒๔
บิฮหู ยิน
ปลงใจ หนอี อกจากเมือง เม่ือจลู ่งฝ่าทัพโจโฉไปช่วยอาเต๊า (บุตรเล่าป่ี)
เป็นใจประนอมกนั เข้า ได้ช่วยบซิ ูหยนิ กบั บติ ๊กออกมาด้วย
ผูกความรัก น้องชายของบิต๊ก (ดู บิตก๊ )
มหาอุปราช ภรรยาของเล่าปี่ (ดู กำฮูหยนิ )
มอกาย ไว้วางใจ
มา้ ใช้ คดิ เหน็ ตรงกนั
ม้าเท้ง มใี จผูกพันด้วยความรัก
ในทน่ี ี้หมายถึง โจโฉ
เม่อื หน้า ทปี่ รกึ ษาของโจโฉ เป็นผฝู้ ึกทหารของโจโฉ
ยังไมแ่ จง้ คนท่มี ีหน้าทส่ี ง่ สารโดยขีม่ า้ ไปอยา่ งรวดเร็ว
ลงใจด้วย เจา้ เมืองเสเหลยี ง เคยร่วมมือกับตังสนิ คดิ กำจัดโจโฉ ตงั สิน
ลเิ ตยี น ถกู โจโฉสงั หารเสยี ก่อน ส่วนม้าเท้งรอดตายในคร้ังนั้น แต่
เล่าตา้ ย ภายหลงั ม้าเท้งก็ถูกโจโฉลวงไปสงั หาร
ต่อไปภายหน้า
เสน้ ยังไม่รแู้ น่ชัด
เหี้ยนเต้ ยอมปลงใจ ยอมเข้าขา้ ง
ทหารของโจโฉ (ดู เตยี วเลยี้ ว)
อ้วนถำ แม่ทัพของโจโฉ ครง้ั หนงึ่ ไปรบกบั เล่าปแ่ี ลว้ แพ้ถกู จบั ได้ เล่าปี่
ให้ปลอ่ ยตวั กลับไป โจโฉโกรธจะประหารเลา่ ตา้ ย แต่ทีป่ รึกษา
อ้วนเสย้ี ว ทดั ทานไว้ โจโฉจงึ ปลดเล่าต้ายลงเปน็ ไพร่
มาตราวัดความยาวแบบโบราณ ๑ เส้น = ๒๐ วา
พระเจ้าเหยี้ นเต้เป็นโอรสพระเจา้ เลนเต้ ครองราชย์ตอ่ จากพระ
บิดา แต่อำนาจตกอยู่แก่ต๋ังโตะ๊ ขุนนางอธรรม หลังจากต๋ังโต๊ะ
ถูกลิโปสังหารแล้ว สมุนของต๋ังโต๊ะซึ่งกุมอำนาจอยู่ก็ยังบีบคั้น
พระเจ้าเหี้ยนเต้อยู่เสมอ พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงให้เรียกโจโฉมา
ปราบ แต่เมื่อโจโฉได้ครองอำนาจก็กลับข่มขู่พระเจ้าเหี้ยนเต้
อกี ตอ่ มาโจผี บตุ รโจโฉได้อำนาจสืบต่อจากบดิ ากช็ งิ ราชสมบตั ิ
แล้วปลดพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้มีหน้าที่เพียงเก็บส่วยยังชีพไป
ตลอดชีวติ
เจ้าเมืองเซียงจิ๋ว เป็นบุตรของอ้วนเสี้ยว เมื่อเล่าปีหนีศึกโจโฉ
จะไปขอพึ่งอ้วนเสี้ยว ได้พบอ้วนถำก่อน อ้วนถำต้อนรับเล่าป่ี
อย่างดี แล้วส่งสารไปแจ้งบิดา และให้ทหารคุ้มกันพาเล่าปี่ไป
ยังเมอื งกิจว๋ิ ของบดิ า
เคยเป็นนายทหารผูใ้ หญ่ เมอื่ ตั้งโตะ๊ เข้ากุมอำนาจในเมืองหลวง
อ้วนเสี้ยวก็หนีไปอยู่เมืองกิจิ๋ว ครั้นได้ข่าวว่าโจโฉรวมพลเพ่ือ
กำจัดตั๋งโต๊ะ อ้วนเสี้ยวยกทัพไปร่วมดว้ ย เมื่อโจโฉยกทัพไปรบ
กบั เล่าป่ที เ่ี มอื งซจี ๋ิวเล่าปส่ี ่งสารไปขอให้อว้ นเสย้ี วยกทัพไปช่วย
แต่อ้วนเสี้ยวเกรงจะรบไม่ชนะจึงปฏิเสธไป แต่บอกไปว่า ถ้า
อิกมิ๋ ๒๕
เอาใจออกหาก
เล่าปี่อับจนก็ให้ไปหา ตนจะช่วยเหลือ เมื่อเล่าปีพ่ายศึกโจโฉ
แฮหัวตนุ้ ไดห้ นีไปพง่ึ อว้ นเสยี้ ว
แฮหัวเอ๋ยี น ทหารของโจโฉ (ดู เตยี วเล้ยี ว)
ห่างเหินไป ไม่ร่วมมือร่วมใจเหมือนเดิม ออกหาก คือ ออกมา
ตา่ งหาก สำนวนนป้ี ัจจุบนั มกั ใช้กนั วา่ เอาใจ ออกห่าง
ทหารของโจโฉ (ดู เตยี วเล้ยี ว)
ทหารของโจโฉ (ดู เดยี วเลี้ยว)
๒๖
บรรณานกุ รม
สามกก๊ วิทยา.//(๒๕๖๒).//สามกก๊ ม.6 ตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ.//สืบค้นเม่อื ๑๙ สงิ หาคม ๒๕๖๕./
จาก/https://www.samkok911.com/p/guan-yu-went-to-work-with-cao-cao.html
สรุ ยิ า แสนสขุ ไทย.//(๒๕๖๒).//สามกก๊ ตอนกวนอูไปรบั ราชการกบั โจโฉ.//สืบค้นเมอ่ื ๑๙ สงิ หาคม ๒๕๖๕
จาก/https://krusuriyapasathai.wordpress.com/
บา้ นจอมยทุ ธ.//(๒๕๕๓).//คุณคา่ ด้านสงั คม สามกก๊ .//สืบค้นเมือ่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๕
จาก/https://www.baanjomyut.com/library_3/the_three_kingdoms/05.html
Chutimonunny.//(๒๕๕๕).//คณุ คา่ ด้านวรรณศิลป์จากเร่ือง สามก๊ก.//สืบคน้ เม่ือ ๑๙ สงิ หาคม ๒๕๖๕
จาก/https://chutimonunny.wordpress.com/
Thanyarat Khotwanta.//(๒๕๖๓).//ท่ีมาของเรอ่ื งสามก๊ก ตอนกวนอไู ปรับราชการกบั โจโฉ.//สืบค้นเม่ือ
วนั ท่ี ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๖๕
จาก/https://blog.startdee.com/
ชชั วนนั ท์ สันธิเดช.//(๒๕๖๕).//ข้อเทจ็ จรงิ กรณี “กวนอ”ู ไปรบั ราชการกับ “โจโฉ”.//สืบคน้ เมื่อ ๒๑
สิงหาคม ๒๕๖๕
จาก/https://www.silpa-mag.com/history/article_58793
faiitanradee19.//(๒๕๕๑).//สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรบั ราชการกบั โจโฉ.//สืบคน้ เมอ่ื ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๕
จาก/https://sites.google.com/site/faiitanradee19/sam-kk-txn-kwnxu-pi-rab-rachkar-kab-
co-cho