The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพ2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by homeekjst2564, 2022-03-30 08:14:23

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพ2

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพ2

แผน่ การจัดการเรียนรู้

รายวิชาการงานชพี ๒ รหัสวิชา ง๒๑๑๐๒
ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑
ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔

ครผู สู้ อน นางสาวสุมนา ทองนุ้ย

ตาแหน่งครชู านาญการพิเศษ

กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ
โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวิทยาลยั สรุ าษฎรธ์ านี
สำนักงำนเขตพ้ืนท่กี ำรศกึ ษำมัธยมศกึ ษำสรุ ำษฎร์ธำนี ชุมพร
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑

รายวชิ าการงานอาชีพ รหัสวชิ า ง๒๑๑๐๒ ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔
เรอ่ื ง…งานบา้ น
ผสู้ อน นางสาวสมุ นา ทองน้อย เวลา ๓ ชวั่ โมง

เวลา ๑ ชว่ั โมง

โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวทิ ยาลยั สรุ าษฎร์ธานี

แนวคดิ สาคญั (สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด)
การจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ระดับช้ัน

มธั ยมศึกษา มุง่ เน้นให้นักเรยี นรจู้ กั ที่จะสารวจความถนดั และความสนใจของตนเอง สง่ เสริมพัฒนาการพัฒนา
บุคลกิ ภาพส่วนตนเปน็ พืน้ ฐานการประกอบอาชีพและศึกษาต่อ ซง่ึ การทีจ่ ะพัฒนานกั เรียนไปสู่ระดับดงั กลา่ วได้
นัน้ นักเรียนควรมคี วามร้พู ้นื ฐานทีเ่ กีย่ วกับวิธีการในการจัดการเรยี นการสอน การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
ตลอดจนแหล่งสนับสนนุ การเรียนรู้ ขอ้ ตกลงอืน่ ๆ ที่เกยี่ วข้องท่จี ะส่งเสริมให้บรรลุถงึ เป้าหมายตามท่ีกาหนด
ไว้

มาตรฐานการเรียนรู้
ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทักษะ

กระบวนการการแกไ้ ขปญั หา ทักษะการทางานรว่ มกัน และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและลักษณะ
นิสัยในการทางาน มีจติ สานกึ ในการใช้พลังงานทรพั ยากร และสง่ิ แวดลอ้ มเพ่ือการดารงชีวิตในครอบครัว

ตวั ชว้ี ดั (หรอื ผลการเรยี นรู)้
๑. วิเคราะหข์ ้นั ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑)
๒. ใช้กระบวนการกลุม่ ในการทางานด้วยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒)
๓. ตัดสนิ ใจแก้ปัญหาการทางานอยา่ งมีเหตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓)

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ดา้ นความรู้

๑. ผเู้ รยี นเข้าใจความหมายของงานบ้าน
๒. ผู้เรียนเขา้ ใจความสาคญั ของอุปกรณ์อานวยความสะอาดในการทางานบ้าน
๓. ผู้เรยี นรูจ้ กั การเลือกใชอ้ ปุ กรณ์อานวยความสะดวกในการทางานบ้าน
๔. ผูเ้ รยี นเข้าใจการจัดและตกแตง่ หอ้ งต่างๆ ภายในบา้ น

ด้านทกั ษะ
๑. ผู้เรยี นสามารถอธิบายความหมายของงานบ้านได้
๒. ผ้เู รียนสามารถบอกอปุ กรณอ์ านวยความสะอาดในการทางานบ้านได้
๓. ผู้เรียนสามารถการเลือกใชอ้ ปุ กรณ์อานวยความสะดวกในการทางานบ้านได้
๔. ผเู้ รยี นสามารถบอกการจัดและตกแต่งห้องต่างๆ ภายในบ้าน

ด้านคุณธรรม
๑. ผเู้ รียนมีส่วนรว่ ม มีความคิดสรา้ งสรรค์
๒. ผเู้ รียนมีวนิ ัย ใส่ใจ และมคี วามรบั ผดิ ชอบ
๓. ผเู้ รยี นสามารถนาความรไู้ ปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
๔. ผเู้ รียนมนี ้าใจในการช่วยเหลือซึง่ กนั และกนั
๕. ผเู้ รียนมคี วามซ่ือสตั ยแ์ ละตรงต่อเวลา

ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์  ๕. อยู่อย่างพอเพียง
 ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ๖. ม่งุ มัน่ ในการทางาน
 ๒. ซื่อสตั ยส์ ุจริต  ๗. รกั ความเป็นไทย
 ๓. มวี นิ ยั  ๘. มีจิตสาธารณะ
 ๔. ใฝ่เรยี นรู้

เบญจวิถกี าญจนา
 ๑. เทิดทนู สถาบัน
 ๒. กตญั ญู
 ๓. บคุ ลกิ ดี
 ๔. มีวินัย
 ๕. ให้เกยี รติ

สมรรถนะทสี่ าคัญของผู้เรยี น
 ๑. ความสามารถในการส่ือสาร
 ๒. ความสามารถในการคิด
 ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
 ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

จดุ เนน้ สกู่ ารพัฒนาผู้เรียนความสามารถและทักษะทจ่ี าเป็นในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Csx๒Ls)
 R๑–Reading (อ่านออก)
 R๒– (W)Riting(เขียนได)้
 R๓ – (A)Rithmetics(คิดเลขเป็น)
 C๑ - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ
ทกั ษะในการแกป้ ัญหา)
 C๒ - Creativity and Innovation (ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม)
 C๓ -Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวน
ทศั น)์
 C๔ - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็น
ทีมและภาวะผนู้ า)
 C๕ – Communications, Information and Media Literacy ( ท ั ก ษ ะ ด ้ า น ก า ร ส ื่ อ สาร
สารสนเทศและรเู้ ทา่ ทันสือ่ )
 C๖ - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การส่ือสาร)
 C๗ - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทกั ษะการเรยี นร)ู้
 C๘ – Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)
 L๑ – Learning (ทกั ษะการเรียนรู้)
 L๒ – Leadership (ทกั ษะความเป็นผนู้ า)

การวดั และประเมินผล

ดา้ นความรู้

ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธีการวัด เครื่องมอื เกณฑ์ทใ่ี ช้

ความรู้ (K) ประเมินผลจากสมุด แบบประเมินผล ผา่ นข้นั ต่าไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๖๐

๑. นักเรียนสามารถ จดบันทกึ งานนักเรียน

อธิบายการเรียนเรื่อง

งานบ้านได้

๒. นักเรียนสามารถ

อธิบายกระบวนการ

สอนในเรื่องงานบ้าน

ได้

ดา้ นทักษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ช้ินงาน วธิ กี ารวัด เครือ่ งมือ เกณฑท์ ีใ่ ช้

ทกั ษะกระบวนการ (P) -การออกมานาเสนอ แบบสังเกตการ คะแนนตัง้ แต่ 4-9 ผ่าน

นักเรียนใช้ทักษะการ -การตอบคาถาม ตอบคาถาม

คิดต่างๆที่ใช้ในการ

เรียนงานบา้ น

ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

ภาระงาน/ชิน้ งาน วิธกี ารวัด เคร่ืองมือ เกณฑท์ ใ่ี ช้

ด้านคุณลักษณะอันพึง การสงั เกต การสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนท่ไี ด้ระดับ

ประสงค์ (A) พฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพพอใช้ข้นึ ไป

นักเรียนอธิบายการวัดผล รายบุคคล ถอื ว่า ผ่าน

และประเมินผลและเกณฑ์

การผ่านรายวิชางานบ้าน

ได้

ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึง ประเมิน แบบประเมิน ผ่านขนั้ ต่าไม่นอ้ ยกว่า

ประสงค์ตามหลักสตู ร คณุ ลกั ษณะอนั พงึ คุณลักษณะอนั พงึ รอ้ ยละ ๖๐

แกนกลางการศกึ ษาข้ัน ประสงค์ของผเู้ รียน ประสงค์

พื้นฐาน พทุ ธศักราช

๒๕๕๑

ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของ ประเมนิ สมรรถนะ แบบประเมนิ ผ่านขน้ั ต่าไม่นอ้ ยกว่า
ผเู้ รยี น สาคญั ของผู้เรียน สมรรถนะสาคัญของ ร้อยละ ๖๐
-ความสามารถในการ
ส่ือสาร ผเู้ รยี น
-ความสามารถในการคดิ
-ความสามารถในการใช้
ทกั ษะชวี ติ
-ความสามารถในการ
แกป้ ญั หา
-ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นท่ี ๑ ระบคุ าถาม

๑. ครแู ละนักเรียนสนทนาทาความรู้จกั กัน โดยครูแนะนาตวั แล้วให้นกั เรียนแตล่ ะคนแนะนาตัว โดย
ครูใชว้ ิธีเรียกชื่อเรยี งตามกลุ่มตัวอกั ษร
๒. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นคาถามที่กาหนด เพื่อตรวจสอบเจตคติและ
ประสบการณก์ ารเรียนรขู้ องนักเรียนในวิชาการงานอาชพี ท่ผี า่ นมา เช่น
- การเรยี นวิชาการงานอาชีพมีผลดีตอ่ นกั เรยี นอย่างไร
- นักเรยี นเคยศกึ ษาความรใู้ นเรื่องใดบ้างทีเ่ กีย่ วขอ้ งกับวิชาการงานอาชพี
- วิชาการงานอาชพี ระดบั ชัน้ น้นี ักเรยี นจะเรยี นรู้ในเร่ืองใดบ้าง
(ครูอาจใช้คาถามอ่นื ๆ ทเ่ี หมาะสมกบั สภาพในการจัดการเรยี นการสอนได้)
๓. ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั คิดประเดน็ คาถามท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการเรียนการสอนในวิชาการงานอาชีพ
ตามทส่ี นใจตัวอย่างเช่น
- ขอ้ ตกลงในการเรียน
- มารยาทในการปฏิบตั กิ ิจกรรมการเรียนรรู้ ว่ มกบั เพอื่ น
- วิธีเรยี นใหป้ ระสบผลสาเร็จ
- การวัดและประเมินผลตลอดจนเกณฑ์การตัดสินผลการเรียนมีแนวปฏบิ ตั ิอยา่ งไร
๔. ครใู ห้นักเรยี นดูรูปภาพการทางานเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ตนเอง เช่น รูปภาพนกั เรียนชว่ ยพอ่ -แม่ผู้ปกครอง
ทาอาหาร ซักผ้า รีดผ้า ทาสวน แล้วตั้งคาถามเพื่อกระตุ้นความคิดและความสนใจของนักเรียน
ตวั อย่างคาถาม เชน่
- นกั เรียนดรู ูปภาพแล้ว รู้สกึ อยา่ งไร
- นักเรียนเคยทางานเพื่อช่วยเหลือตนเองครอบครัว และสงั คม อยา่ งไรบ้าง

ขัน้ ที่ ๒ แสวงหาความรู้
๑. ครใู หน้ ักเรยี นนาคาถาม ทีค่ รูได้ตัง้ คาถามไว้ มาร่วมกนั สนทนา
๒. ครใู ห้นักเรยี นศึกษาความรู้ในเรอื่ งงานบา้ น หนงั สอื เรียนวชิ าการงานอาชีพ ม. ๑

ขั้นที่ ๓ สรา้ งความร้แู ละสรุปความรู้
๑. ครูและนักเรยี นร่วมกันสนทนาความรู้เกย่ี วกับความสาคัญของการทางานเพื่อการดารงชีวิตและต้ัง
คาถามเพอ่ื กระตุน้ ความคดิ และความสนใจของนกั เรียนตัวอย่างคาถาม เช่น
- นกั เรียนคิดว่า การทางานเพ่อื ช่วยเหลือตนเอง มีอะไรบ้าง
- ให้นกั เรยี นยกตัวอย่างการทางานเพอื่ ชว่ ยเหลือครอบครวั มาคนละ ๑ อยา่ ง
- การทางานเพอื่ การดารงชีวติ มคี วามสาคญั อยา่ งไรบา้ ง
๒. หากนักเรียนตอบคาถามผิด ครูควรเพิ่มเติมความรู้ที่ถูกต้องให้กับนักเรียน และช่วยกันสรุปเป็น
ความรู้

ขน้ั ที่ ๔ ส่ือสารและนาเสนอ
๑. ครูสุ่มให้นักเรียน ๒-๓ คน ออกมาเล่าประสบการณ์ ในการทางานเพื่อตนเอง ครอบครัว และ
สังคม หนา้ ชน้ั เรยี น โดยครเู ปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นได้แสดงความคิดเห็นอยา่ งเต็มที่
๒. ครูอธบิ ายความรเู้ พิ่มเติมในส่วนท่ีถูกตอ้ ง และเปิดโอกาสให้นักเรียนร่วมกนั สรปุ เป็นความรู้ในเร่ือง
ความสาคญั ของการทางานบา้ น

ขน้ั ที่ ๕ ประเมินและบริการสังคม
๑. ครูประเมนิ ผลการเรียนรขู้ องนกั เรยี น ด้วยวธิ ีการตงั้ คาถาม เพอื่ ทดสอบความรแู้ ละความเขา้ ใจของ
นักเรียน ตวั อยา่ งคาถามเชน่
- ให้นักเรียนบอกลักษณะการทางานเพื่อตนเอง ครอบครัว เรื่องงานบ้าน พร้อมทั้งยกตัวอยา่ ง การ
ทางานแตล่ ะประเภท คนละ ๑ อย่าง
- การทางานบ้าน มคี วามสาคัญอยา่ งไรบา้ ง
- การรจู้ ักความถนัดของตนเอง สง่ ผลดีอยา่ งไรบา้ ง
๒. ครูแนะนาวิธีการทางานท่ีจาเปน็ ตอ่ การดารงชีวิตในประจาวันของนกั เรยี น เพ่ือใหน้ ักเรียนรู้จักนา
ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ ไปใช้ในชีวิตประจาวัน และสามารถเผยแพร่ความรูใ้ ห้กับสมาชิกในครอบ
และชุมชนทนี่ กั เรียนอาศยั อยู่

สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้
ส่อื วสั ดอุ ุปกรณ์

๑. หนงั สือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐานการงานอาชีพ ม.๑
๒. เว็บไซต์การงานอาชพี ตา่ งๆ

๓. ส่ือส่ิงพิมพ์ เช่น วารสาร นิตยสาร แผน่ พับเผยแพร่ความรู้

แหล่งเรยี นรู้
๑. หอ้ งสมดุ โรงเรียน

สรุปผลการจดั การเรียนรู้

ด้านความรู้ ชว่ งคะแนน
๑๐
กล่มุ ผู้เรียน ๗
ดี ๕
ปานกลาง
ปรบั ปรงุ

ดา้ นทักษะ/กระบวนการ ช่วงคะแนน
๑๐
กล่มุ ผูเ้ รียน ๗
ดี ๕
ปานกลาง
ปรับปรงุ

ดา้ นคณุ ลกั ษะอันพงึ ประสงค์

กลุ่มผูเ้ รียน ชว่ งระดับคณุ ภาพ
ดี ๓
ปานกลาง ๒
ปรบั ปรงุ ๑-๐

บันทกึ หลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ปัญหาทพ่ี บระหวา่ งหรือหลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………...............................…
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสุมนา ทองนุ้ย )
ครูผู้สอน

ความคิดเหน็ ของหวั หน้าหมวดวชิ าการงานอาชีพ
…..……….…………………………………………............……………………………………………………………………..……...............
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ……………….…………….………………………..
( นางสาวสุมนา ทองนุ้ย )

หวั หน้าหมวดวิชาการงานอาชีพ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒

รายวชิ าการงานอาชีพ รหสั วชิ า ง๒๑๑๐๒ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ เวลา ๓ ชัว่ โมง

เรอ่ื ง…ความหมายและความสาคญั ของงานบา้ น เวลา ๑ ชว่ั โมง

ผู้สอน นางสาวสมุ นา ทองนอ้ ย โรงเรยี นกาญจนาภเิ ษกวิทยาลยั สุราษฎร์ธานี

แนวคิดสาคัญ (สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด)
งานบ้าน เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานในการดารงชีวิตของครอบครัวได้แก่ การดูแลรักษา

ความสะอาดของบ้าน เครื่องเรือนเครื่องใช้ในบ้าน การจัดตกแต่งบ้านและบริเวณบ้าน การประกอบอาหาร
การซักผ้า การรีดผ้า การตัดเย็บ การซ่อมแซม และการดูแลรักษาเสื้อผ้า ซึ่งงานเหล่านี้เป็นงานที่ต้องปฏิบัติ
เป็นประจาทกุ วัน โดยอาศยั ความรว่ มมือรว่ มแรงจากสมาชิกในครอบครัว ดงั น้นั เพอื่ ให้ครอบครัวดาเนินชีวิต
ไดอ้ ย่างมีความสุข สามารถทาหน้าท่ีหลักของตนเองควบคไู่ ปกับการทางานบ้านได้ จึงจาเป็นต้องรู้จักเลือกใช้
อุปกรณช์ ว่ ยทางานบา้ น เพอ่ื ให้เกดิ ความสะดวกและสามารถจดั การงานทกุ อย่างในบ้านไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

มาตรฐานการเรยี นรู้
ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทักษะ

กระบวนการการแกไ้ ขปญั หา ทกั ษะการทางานร่วมกัน และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มคี ณุ ธรรมและลักษณะ
นสิ ยั ในการทางาน มีจติ สานึกในการใชพ้ ลังงานทรัพยากร และสงิ่ แวดลอ้ มเพอ่ื การดารงชีวิตในครอบครัว

ตวั ชี้วัด(หรอื ผลการเรียนร)ู้
๑. วเิ คราะหข์ น้ั ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑)
๒. ใช้กระบวนการกล่มุ ในการทางานดว้ ยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒)
๓. ตัดสินใจแก้ปัญหาการทางานอยา่ งมเี หตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓)

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้

๑. ผู้เรยี นเขา้ ใจความหมายของงานบา้ น
๒. ผเู้ รียนเขา้ ใจความสาคัญของอุปกรณอ์ านวยความสะอาดในการทางานบ้าน
๓. ผู้เรียนรจู้ ักการเลือกใช้อปุ กรณ์อานวยความสะดวกในการทางานบ้าน
๔. ผู้เรียนเขา้ ใจการจัดและตกแต่งห้องต่างๆ ภายในบา้ น

ด้านทกั ษะ
๑. ผู้เรยี นสามารถอธิบายความหมายของงานบ้านได้
๒. ผ้เู รียนสามารถบอกอปุ กรณอ์ านวยความสะอาดในการทางานบ้านได้
๓. ผู้เรียนสามารถการเลือกใชอ้ ปุ กรณ์อานวยความสะดวกในการทางานบ้านได้
๔. ผเู้ รยี นสามารถบอกการจัดและตกแต่งห้องต่างๆ ภายในบ้าน

ด้านคุณธรรม
๑. ผเู้ รียนมีส่วนรว่ ม มีความคิดสรา้ งสรรค์
๒. ผเู้ รียนมีวนิ ัย ใส่ใจ และมคี วามรบั ผดิ ชอบ
๓. ผเู้ รยี นสามารถนาความรไู้ ปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
๔. ผเู้ รียนมนี ้าใจในการช่วยเหลือซึง่ กนั และกนั
๕. ผเู้ รียนมคี วามซ่ือสตั ยแ์ ละตรงต่อเวลา

ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์  ๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
 ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ๖. ม่งุ มัน่ ในการทางาน
 ๒. ซื่อสตั ยส์ ุจริต  ๗. รกั ความเป็นไทย
 ๓. มวี นิ ยั  ๘. มีจติ สาธารณะ
 ๔. ใฝ่เรยี นรู้

เบญจวิถกี าญจนา
 ๑. เทิดทนู สถาบัน
 ๒. กตญั ญู
 ๓. บคุ ลกิ ดี
 ๔. มีวินัย
 ๕. ให้เกยี รติ

สมรรถนะทสี่ าคัญของผู้เรยี น
 ๑. ความสามารถในการส่ือสาร
 ๒. ความสามารถในการคิด
 ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
 ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

จดุ เนน้ สู่การพัฒนาผู้เรยี นความสามารถและทกั ษะท่จี าเป็นในการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Csx2Ls)
 R๑–Reading (อา่ นออก)
 R๒– (W)Riting(เขียนได้)
 R๓ – (A)Rithmetics(คดิ เลขเป็น)
 C๑ - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ
ทักษะในการแก้ปัญหา)
 C๒ - Creativity and Innovation (ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม)
 C๓ - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวน
ทัศน์)
 C๔ - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็น
ทีมและภาวะผ้นู า)
 C๕ – Communications, Information and Media Literacy ( ท ั ก ษ ะ ด ้ า น ก า ร ส ื่ อ สาร
สารสนเทศและรู้เท่าทันส่ือ)
 C๖ - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสาร)
 C๗ - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรียนร้)ู
 C๘ – Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วินยั คณุ ธรรม จริยธรรม)
 L๑ – Learning (ทกั ษะการเรียนร)ู้
 L๒ – Leadership (ทกั ษะความเปน็ ผนู้ า)

การวัดและประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้

ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ ีการวดั เครือ่ งมอื เกณฑ์ทีใ่ ช้

ความรู้ (K) ประเมินผลจากสมุด แบบประเมินผล ผา่ นขนั้ ตา่ ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๖๐

๑. นักเรียนสามารถ จดบันทึก งานนกั เรียน

อธิบายการเรยี นเรื่อง

งานบ้านได้

๒. นักเรียนสามารถ

อธิบายกระบวนการ

สอนในเรื่องงานบ้าน

ได้

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธีการวัด เครือ่ งมือ เกณฑ์ท่ใี ช้

ทกั ษะกระบวนการ (P) -การออกมานาเสนอ แบบสังเกตการตอบ คะแนนตงั้ แต่ 4-9 ผ่าน

นักเรียนใช้ทกั ษะการคิด -การตอบคาถาม คาถาม

ต่างๆที่ใช้ในการเรียน

งานบา้ น

ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ภาระงาน/ชนิ้ งาน วิธกี ารวดั เคร่ืองมอื เกณฑ์ท่ใี ช้
นักเรียนที่ได้ระดับคณุ ภาพ
ด้านคุณลักษณะอนั พึง การสงั เกตพฤติกรรม การสงั เกตพฤติกรรม พอใช้ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ น

ประสงค์ (A) รายบคุ คล รายบคุ คล ผ่านขั้นต่าไม่น้อยกว่าร้อย
ละ ๖๐
นักเรียนอธบิ ายการ

วัดผล และประเมนิ ผล

และเกณฑ์การผ่าน

รายวิชางานบา้ นได้

ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประเมินคุณลักษณะ แบบประเมิน

ประสงคต์ ามหลักสตู ร อันพึงประสงค์ของ คณุ ลักษณะอนั พงึ

แกนกลางการศกึ ษาข้ัน ผเู้ รยี น ประสงค์

พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช

๒๕๕๑

ด้านสมรรถนะสาคญั ของ ประเมินสมรรถนะ แบบประเมิน ผ่านขั้นต่าไม่น้อยกว่าร้อย
ละ ๖๐
ผเู้ รยี น สาคัญของผเู้ รยี น สมรรถนะสาคญั ของ

-ความสามารถในการ ผูเ้ รียน

สอื่ สาร

-ความสามารถในการคิด

-ความสามารถในการใช้

ทกั ษะชวี ติ

-ความสามารถในการ

แกป้ ญั หา

-ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั ที่ ๑ ระบุคาถาม

๑. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นคาถามที่กาหนด เพื่อตรวจสอบเจตคติและ
ประสบการณก์ ารเรียนรู้ของนักเรียนในวชิ าการงานอาชีพ ท่ีผ่านมา เชน่
- การเรียนวชิ าการงานอาชพี มีผลดีตอ่ นักเรยี นอยา่ งไร
- นักเรียนเคยศึกษาความรู้ในเรอ่ื งใดบ้างทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับวชิ าการงานอาชีพ
- วชิ าการงานอาชพี ระดับชัน้ นีน้ กั เรยี นจะเรยี นร้ใู นเรื่องใดบา้ ง
(ครูอาจใช้คาถามอน่ื ๆ ท่เี หมาะสมกบั สภาพในการจดั การเรียนการสอนได)้
๒. ใหน้ ักเรยี นช่วยกันคิดประเดน็ คาถามท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนในวิชาการงานอาชีพ
ตามที่สนใจตัวอยา่ งเช่น
- ขอ้ ตกลงในการเรยี น
- มารยาทในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรยี นรู้ร่วมกับเพ่ือน
- วิธีเรียนใหป้ ระสบผลสาเรจ็
- การวัดและประเมนิ ผลตลอดจนเกณฑก์ ารตัดสินผลการเรียนมแี นวปฏิบตั ิอย่างไร
๓. ครใู ห้นกั เรยี นดูรูปภาพการทางานเพ่อื ชว่ ยเหลอื ตนเอง เชน่ รปู ภาพนักเรียนช่วยพ่อ-แม่ผู้ปกครอง
ทาอาหาร ซักผ้า รีดผ้า ทาสวน แล้วตั้งคาถามเพื่อกระตุ้นความคิดและความสนใจของนักเรียน
ตัวอยา่ งคาถาม เช่น
- นกั เรยี นดรู ูปภาพแลว้ รสู้ ึกอยา่ งไร
- นกั เรยี นเคยทางานเพอ่ื ช่วยเหลอื ตนเองครอบครัว และสงั คม อยา่ งไรบา้ ง

ข้ันที่ ๒ แสวงหาความรู้
๑. ครูให้นกั เรยี นนาคาถาม ท่คี รูได้ตง้ั คาถามไว้ มาร่วมกนั สนทนา
๒. ครูให้นักเรยี นศึกษาความรู้ในเรือ่ งงานบ้าน หนงั สอื เรียนวชิ าการงานอาชพี ม. ๑

ขั้นที่ ๓ สรา้ งความรูแ้ ละสรุปความรู้
๑. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสนทนาความรู้เกย่ี วกับความสาคญั ของการทางานเพ่ือการดารงชีวิตและตั้ง
คาถามเพือ่ กระตุน้ ความคิดและความสนใจของนกั เรยี นตวั อย่างคาถาม เช่น
- นกั เรยี นคิดวา่ การทางานเพือ่ ช่วยเหลอื ตนเอง มอี ะไรบ้าง
- ใหน้ ักเรียนยกตัวอยา่ งการทางานเพื่อชว่ ยเหลือครอบครวั มาคนละ ๑ อย่าง
- การทางานเพอ่ื การดารงชีวติ มคี วามสาคญั อย่างไรบ้าง
๒. หากนักเรียนตอบคาถามผิด ครูควรเพิ่มเติมความรู้ที่ถูกต้องให้กับนักเรียน และช่วยกันสรุปเป็น
ความรู้

ขน้ั ท่ี ๔ สื่อสารและนาเสนอ
๑. ครูสุ่มให้นักเรียน ๒-๓ คน ออกมาเล่าประสบการณ์ ในการทางานเพื่อตนเอง ครอบครัว และ
สงั คม หน้าชัน้ เรียน โดยครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นได้แสดงความคิดเหน็ อยา่ งเต็มที่
๒. ครอู ธบิ ายความรู้เพ่มิ เติมในสว่ นที่ถกู ต้อง และเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนร่วมกันสรปุ เป็นความรู้ในเร่ือง
ความสาคัญของการทางานบา้ น

ขนั้ ท่ี ๕ ประเมินและบรกิ ารสังคม
๑. ครปู ระเมนิ ผลการเรยี นร้ขู องนักเรยี น ด้วยวิธกี ารต้งั คาถาม เพ่ือทดสอบความรูแ้ ละความเข้าใจของ
นกั เรยี น ตัวอย่างคาถามเช่น
- ให้นักเรียนบอกลักษณะการทางานเพื่อตนเอง ครอบครัว เรื่องงานบ้าน พร้อมทั้งยกตัวอยา่ ง การ
ทางานแต่ละประเภท คนละ ๑ อย่าง
- การทางานบ้าน มคี วามสาคญั อยา่ งไรบ้าง
- การร้จู กั ความถนัดของตนเอง สง่ ผลดอี ย่างไรบา้ ง
๒. ครแู นะนาวธิ กี ารทางานที่จาเปน็ ตอ่ การดารงชีวิตในประจาวนั ของนกั เรียน เพอื่ ใหน้ ักเรยี นรู้จักนา
ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ ไปใช้ในชีวิตประจาวัน และสามารถเผยแพร่ความรู้ให้กบั สมาชิกในครอบ
และชมุ ชนที่นักเรียนอาศยั อยู่

สอื่ /แหลง่ เรียนรู้
สือ่ วัสดุอปุ กรณ์

๑. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐานการงานอาชีพ ม.๑
๒. เว็บไซตก์ ารงานอาชพี ต่างๆ
๓. สอื่ สงิ่ พมิ พ์ เชน่ วารสาร นติ ยสาร แผน่ พบั เผยแพรค่ วามรู้

แหลง่ เรียนรู้
๑. ห้องสมุดโรงเรยี น

ดา้ นความรู้ สรุปผลการจดั การเรยี นรู้

กลุม่ ผเู้ รยี น ช่วงคะแนน
ดี ๑๐
ปานกลาง ๗
ปรบั ปรุง ๕
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ
ช่วงคะแนน
กลมุ่ ผู้เรียน ๑๐
ดี ๗
ปานกลาง ๕
ปรบั ปรุง

ด้านคุณลักษะอนั พงึ ประสงค์

กลุ่มผู้เรยี น ช่วงระดบั คณุ ภาพ
ดี ๓
ปานกลาง ๒
ปรับปรุง ๑-๐

บันทกึ หลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

ด้านการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ปญั หาท่พี บระหวา่ งหรือหลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………...............................…
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสุมนา ทองนยุ้ )
ครูผู้สอน

ความคดิ เหน็ ของหวั หน้าหมวดวชิ าการงานอาชีพ
…..……….…………………………………………............……………………………………………………………………..……...............
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ……………….…………….………………………..
( นางสาวสุมนา ทองนุ้ย )

หวั หน้าหมวดวิชาการงานอาชีพ

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๓

รายวชิ าการงานอาชพี รหสั วิชา ง๒๑๑๐๒ ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ เวลา ๓ ชวั่ โมง

เรอ่ื ง…การทาความสะอาดหอ้ งตา่ งๆภายในบ้าน เวลา ๑ ช่ัวโมง

ผู้สอน นางสาวสมุ นา ทองนอ้ ย โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั สรุ าษฎร์ธานี

แนวคดิ สาคัญ (สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด)
งานบ้าน เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานในการดารงชีวิตของครอบครัวได้แก่ การดูแลรักษา

ความสะอาดของบ้าน เครื่องเรือนเครื่องใช้ในบ้าน การจัดตกแต่งบ้านและบริเวณบ้าน การประกอบอาหาร
การซักผ้า การรีดผ้า การตัดเย็บ การซ่อมแซม และการดูแลรักษาเสื้อผ้า ซึ่งงานเหล่านี้เป็นงานที่ต้องปฏิบัติ
เป็นประจาทกุ วัน โดยอาศยั ความร่วมมือรว่ มแรงจากสมาชกิ ในครอบครัว ดงั น้นั เพอื่ ให้ครอบครัวดาเนินชีวิต
ไดอ้ ย่างมคี วามสุข สามารถทาหน้าที่หลักของตนเองควบคไู่ ปกับการทางานบ้านได้ จึงจาเป็นต้องรู้จักเลือกใช้
อุปกรณช์ ว่ ยทางานบา้ น เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสะดวกและสามารถจัดการงานทุกอย่างในบ้านไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

มาตรฐานการเรยี นรู้
ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสรา้ งสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะ

กระบวนการการแก้ไขปัญหา ทักษะการทางานร่วมกนั และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรมและลักษณะ
นสิ ยั ในการทางาน มจี ติ สานกึ ในการใชพ้ ลังงานทรัพยากร และส่ิงแวดล้อมเพื่อการดารงชวี ติ ในครอบครัว

ตวั ชี้วัด(หรอื ผลการเรียนร้)ู
๑. วเิ คราะห์ขนั้ ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑)
๒. ใชก้ ระบวนการกล่มุ ในการทางานด้วยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒)
๓. ตัดสินใจแกป้ ญั หาการทางานอย่างมเี หตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓)

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้

๑. ผเู้ รยี นเขา้ ใจความหมายของงานบา้ น
๒. ผเู้ รยี นเข้าใจความสาคญั ของอปุ กรณ์อานวยความสะอาดในการทางานบ้าน
๓. ผูเ้ รียนร้จู ักการเลอื กใช้อุปกรณอ์ านวยความสะดวกในการทางานบา้ น
๔. ผเู้ รยี นเขา้ ใจการจดั และตกแต่งหอ้ งต่างๆ ภายในบา้ น

ด้านทกั ษะ
๑. ผู้เรยี นสามารถอธิบายความหมายของงานบ้านได้
๒. ผ้เู รียนสามารถบอกอปุ กรณอ์ านวยความสะอาดในการทางานบ้านได้
๓. ผู้เรียนสามารถการเลือกใชอ้ ปุ กรณ์อานวยความสะดวกในการทางานบ้านได้
๔. ผเู้ รยี นสามารถบอกการจัดและตกแต่งห้องต่างๆ ภายในบ้าน

ด้านคุณธรรม
๑. ผเู้ รียนมีส่วนรว่ ม มีความคิดสรา้ งสรรค์
๒. ผเู้ รียนมีวนิ ัย ใส่ใจ และมคี วามรบั ผดิ ชอบ
๓. ผเู้ รยี นสามารถนาความรไู้ ปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
๔. ผเู้ รียนมนี ้าใจในการช่วยเหลือซึง่ กนั และกนั
๕. ผเู้ รียนมคี วามซ่ือสตั ยแ์ ละตรงต่อเวลา

ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์  ๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
 ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ๖. ม่งุ มัน่ ในการทางาน
 ๒. ซื่อสตั ยส์ ุจริต  ๗. รกั ความเป็นไทย
 ๓. มวี นิ ยั  ๘. มีจติ สาธารณะ
 ๔. ใฝ่เรยี นรู้

เบญจวิถกี าญจนา
 ๑. เทิดทนู สถาบัน
 ๒. กตญั ญู
 ๓. บคุ ลกิ ดี
 ๔. มีวินัย
 ๕. ให้เกยี รติ

สมรรถนะทสี่ าคัญของผู้เรยี น
 ๑. ความสามารถในการส่ือสาร
 ๒. ความสามารถในการคิด
 ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
 ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาผู้เรียนความสามารถและทกั ษะท่จี าเป็นในการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Csx2Ls)
 R๑–Reading (อ่านออก)
 R๒– (W)Riting(เขียนได้)
 R๓ – (A)Rithmetics(คดิ เลขเปน็ )
 C๑ - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ
ทักษะในการแกป้ ญั หา)
 C๒ - Creativity and Innovation (ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม)
 C๓ - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวน
ทัศน)์
 C๔ - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเป็น
ทมี และภาวะผู้นา)
 C๕ – Communications, Information and Media Literacy ( ท ั ก ษ ะ ด ้ า น ก า ร ส ื่ อ สาร
สารสนเทศและร้เู ท่าทนั สอ่ื )
 C๖ - Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสอ่ื สาร)
 C๗ - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนร้)ู
 C๘ – Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วินยั คุณธรรม จริยธรรม)
 L๑ – Learning (ทกั ษะการเรียนรู้)
 L๒ – Leadership (ทักษะความเปน็ ผนู้ า)

การวดั และประเมินผล

ดา้ นความรู้

ภาระงาน/ชิน้ งาน วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑท์ ใ่ี ช้

ความรู้ (K) ประเมินผลจากสมุด แบบประเมินผล ผา่ นข้ันตา่ ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๖๐

๑. นักเรียนสามารถ จดบนั ทกึ งานนกั เรยี น

อธิบายการเรยี นเร่ือง

งานบ้านได้

๒. นักเรียนสามารถ

อธิบายกระบวนการ

สอนในเรื่องงานบ้าน

ได้

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ชน้ิ งาน วธิ ีการวดั เครื่องมอื เกณฑท์ ี่ใช้

ทกั ษะกระบวนการ (P) -การออกมานาเสนอ แบบสังเกตการตอบ คะแนนตั้งแต่ 4-9 ผา่ น

นักเรียนใช้ทักษะการคดิ -การตอบคาถาม คาถาม

ต่างๆที่ใช้ในการเรียน

งานบา้ น

ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธกี ารวดั เคร่อื งมือ เกณฑท์ ่ใี ช้
นักเรียนทีไ่ ด้ระดับคณุ ภาพ
ด้านคณุ ลักษณะอันพึง การสงั เกตพฤติกรรม การสังเกตพฤตกิ รรม พอใชข้ ้ึนไป ถือว่า ผ่าน

ประสงค์ (A) รายบคุ คล รายบคุ คล

นกั เรยี นอธิบายการ

วัดผล และประเมินผล

และเกณฑก์ ารผา่ น

รายวชิ างานบา้ นได้

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึง ประเมินคุณลักษณะ แบบประเมนิ ผ่านขั้นต่าไม่น้อยกว่าร้อย
ละ ๖๐
ประสงคต์ ามหลกั สตู ร อันพึงประสงค์ของ คุณลกั ษณะอันพงึ

แกนกลางการศกึ ษาขั้น ผเู้ รยี น ประสงค์

พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช แบบประเมิน ผ่านข้นั ต่าไม่น้อยกว่ารอ้ ย
๒๕๕๑ สมรรถนะสาคัญของ ละ ๖๐
ดา้ นสมรรถนะสาคัญของ ประเมินสมรรถนะ ผ้เู รียน
ผู้เรียน สาคญั ของผ้เู รียน
-ความสามารถในการ
สอ่ื สาร
-ความสามารถในการคดิ
-ความสามารถในการใช้
ทักษะชีวติ
-ความสามารถในการ
แก้ปญั หา
-ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ ท่ี ๑ ระบุคาถาม

๑. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นคาถามที่กาหนด เพื่อตรวจสอบเจตคติและ
ประสบการณก์ ารเรยี นรขู้ องนักเรียนในวชิ าการงานอาชพี ทผี่ า่ นมา เช่น
- การเรยี นวิชาการงานอาชพี มผี ลดีตอ่ นกั เรยี นอย่างไร
- นกั เรยี นเคยศึกษาความรใู้ นเรื่องใดบา้ งท่ีเก่ียวขอ้ งกับวิชาการงานอาชีพ
- วชิ าการงานอาชพี ระดบั ชน้ั นน้ี กั เรยี นจะเรยี นรใู้ นเรอื่ งใดบา้ ง
(ครอู าจใช้คาถามอน่ื ๆ ทเ่ี หมาะสมกบั สภาพในการจดั การเรียนการสอนได)้
๒. ใหน้ ักเรียนช่วยกันคิดประเดน็ คาถามที่เกีย่ วข้องกับการจัดการเรียนการสอนในวิชาการงานอาชีพ
ตามทส่ี นใจตัวอย่างเช่น
- ข้อตกลงในการเรยี น
- มารยาทในการปฏิบัติกิจกรรมการเรยี นร้รู ่วมกับเพื่อน
- วิธเี รียนใหป้ ระสบผลสาเรจ็
- การวดั และประเมินผลตลอดจนเกณฑก์ ารตดั สินผลการเรียนมแี นวปฏบิ ตั อิ ย่างไร
๓. ครใู ห้นักเรยี นดรู ูปภาพการทางานเพ่ือชว่ ยเหลอื ตนเอง เชน่ รูปภาพนกั เรยี นชว่ ยพอ่ -แม่ผู้ปกครอง
ทาอาหาร ซักผ้า รีดผ้า ทาสวน แล้วตั้งคาถามเพื่อกระตุ้นความคิดและความสนใจของนักเรียน
ตวั อย่างคาถาม เชน่
- นกั เรยี นดูรปู ภาพแล้ว รสู้ ึกอย่างไร

- นกั เรยี นเคยทางานเพือ่ ชว่ ยเหลือตนเองครอบครัว และสงั คม อยา่ งไรบ้าง
ข้นั ท่ี ๒ แสวงหาความรู้

๑. ครูใหน้ กั เรยี นนาคาถาม ท่คี รไู ดต้ ้งั คาถามไว้ มาร่วมกนั สนทนา
๒. ครูใหน้ ักเรยี นศกึ ษาความรใู้ นเร่อื งงานบ้าน หนงั สือเรยี นวิชาการงานอาชพี ม. ๑

ขั้นท่ี ๓ สรา้ งความรู้และสรุปความรู้
๑. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาความรู้เกี่ยวกับความสาคญั ของการทางานเพ่ือการดารงชีวิตและต้ัง
คาถามเพ่ือกระตุน้ ความคิดและความสนใจของนกั เรยี นตวั อย่างคาถาม เชน่
- นักเรียนคดิ ว่า การทางานเพื่อชว่ ยเหลือตนเอง มีอะไรบา้ ง
- ให้นกั เรยี นยกตวั อย่างการทางานเพ่ือชว่ ยเหลือครอบครวั มาคนละ ๑ อยา่ ง
- การทางานเพอ่ื การดารงชีวติ มคี วามสาคัญอยา่ งไรบา้ ง
๒. หากนักเรียนตอบคาถามผิด ครูควรเพิ่มเติมความรู้ที่ถูกต้องให้กับนักเรียน และช่วยกันสรุปเป็น
ความรู้

ขน้ั ที่ ๔ สื่อสารและนาเสนอ
๑. ครูสุ่มให้นักเรียน ๒-๓ คน ออกมาเล่าประสบการณ์ ในการทางานเพื่อตนเอง ครอบครัว และ
สงั คม หนา้ ช้ันเรยี น โดยครเู ปิดโอกาสให้นกั เรยี นไดแ้ สดงความคดิ เห็นอยา่ งเตม็ ที่
๒. ครูอธบิ ายความรเู้ พิ่มเติมในสว่ นทถี่ กู ตอ้ ง และเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนรว่ มกันสรปุ เปน็ ความรู้ในเร่ือง
ความสาคัญของการทางานบ้าน

ขน้ั ที่ ๕ ประเมนิ และบริการสังคม
๑. ครปู ระเมนิ ผลการเรียนร้ขู องนักเรียน ดว้ ยวิธกี ารตัง้ คาถาม เพอ่ื ทดสอบความรู้และความเขา้ ใจของ
นักเรียน ตัวอย่างคาถามเช่น
- ให้นักเรียนบอกลักษณะการทางานเพื่อตนเอง ครอบครัว เรื่องงานบ้าน พร้อมทั้งยกตัวอย่าง การ
ทางานแต่ละประเภท คนละ ๑ อย่าง
- การทางานบา้ น มคี วามสาคัญอย่างไรบ้าง
- การรู้จกั ความถนดั ของตนเอง สง่ ผลดอี ย่างไรบ้าง
๒. ครูแนะนาวิธกี ารทางานที่จาเปน็ ตอ่ การดารงชวี ิตในประจาวันของนักเรยี น เพื่อให้นักเรยี นรู้จักนา
ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ ไปใช้ในชีวิตประจาวัน และสามารถเผยแพร่ความรู้ให้กบั สมาชกิ ในครอบ
และชุมชนท่นี กั เรยี นอาศัยอยู่

สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้
สื่อวสั ดอุ ปุ กรณ์

๑. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐานการงานอาชพี ม.๑
๒. เว็บไซต์การงานอาชพี ต่างๆ
๓. สื่อส่ิงพิมพ์ เชน่ วารสาร นิตยสาร แผน่ พบั เผยแพรค่ วามรู้
แหล่งเรียนรู้
๑. ห้องสมดุ โรงเรียน

สรุปผลการจัดการเรยี นรู้

ด้านความรู้ ชว่ งคะแนน
๑๐
กลุ่มผ้เู รียน ๗
ดี ๕
ปานกลาง
ปรบั ปรุง

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ชว่ งคะแนน
๑๐
กลุ่มผเู้ รียน ๗
ดี ๕
ปานกลาง
ปรับปรุง

ดา้ นคณุ ลักษะอันพงึ ประสงค์

กลุ่มผ้เู รียน ชว่ งระดับคณุ ภาพ
ดี ๓
ปานกลาง ๒
ปรับปรงุ ๑-๐

บนั ทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้

ด้านการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...

ปัญหาทพี่ บระหวา่ งหรอื หลงั จดั กจิ กรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………...............................…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่อื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองน้ยุ )
ครูผู้สอน

ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ หมวดวชิ าการงานอาชพี
…..……….…………………………………………............……………………………………………………………………..……...............
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองนุ้ย )

หวั หน้าหมวดวชิ าการงานอาชีพ

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๔

รายวชิ าการงานอาชีพ รหสั วชิ า ง๒๑๑๐๒ ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔
เรื่อง…เสือ้ ผ้าและเครอื่ งแต่งกาย
ผู้สอน นางสาวสมุ นา ทองนุ้ย เวลา ๓ ช่ัวโมง

เวลา ๑ ชั่วโมง

โรงเรยี นกาญจนาภเิ ษกวิทยาลัย สุราษฎร์ธานี

แนวคิดสาคัญ (สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด)
เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย เป็นสิ่งจาเป็นในชีวติ ประจาวัน และเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมบคุ ลิกภาพอาพราง

ส่วนที่บกพร่องให้แก่ผู้สวมใส่ ผู้ที่แต่งกายที่ดีจะทาให้ดูสง่างาม ซึ่งในการแต่งกายนั้น ควรคานึงถึงความ
เหมาะสม โอกาส กาละเทศะ สี และลวดลาย ให้เป็นไปตามหลักการใช้สี รวมทั้งเหมาะสมกับบุคลิกภาพของ
ตนเอง นอกจากนก้ี ารแตง่ กายควรเลอื กเครื่องแต่งกายใหเ้ หมาะสมกนั

มาตรฐานการเรยี นรู้
ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสรา้ งสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทักษะ

กระบวนการการแกไ้ ขปญั หา ทักษะการทางานรว่ มกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและลักษณะ
นิสัยในการทางาน มจี ติ สานกึ ในการใช้พลังงานทรัพยากร และส่งิ แวดลอ้ มเพ่ือการดารงชวี ติ ในครอบครวั

ตัวช้ีวดั (หรอื ผลการเรียนรู้)
๑. วเิ คราะหข์ ัน้ ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑)
๒. ใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทางานด้วยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒)
๓. ตดั สนิ ใจแก้ปญั หาการทางานอย่างมีเหตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓)

จุดประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้

๑. ผู้เรียนเขา้ ใจความหมายของเสอื้ ผ้าและเครอื่ งแต่งกาย
๒. ผู้เรยี นเขา้ ใจถงึ การเลือกใช้เส้ือผา้ และเคร่อื งแตง่ กาย ประโยชนใ์ นการใชส้ อย ความสะดวกสบาย
ในการสวมใส่ ความเหมาะสมกบั วยั และบคุ ลิกภาพ และการเลอื กเสื้อผา้ ให้เหมาะกับวัย
๓. ผูเ้ รียนรจู้ ักการการดัดแปลงและการตกแตง่ เสื้อผ้า

ดา้ นทกั ษะ
๑. ผเู้ รียนสามารถอธบิ ายความหมายของเสอ้ื ผ้าและเครือ่ งแตง่ กายได้
๒. ผู้เรยี นสามารถบอกการเลอื กใช้เส้ือผ้าและเครื่องแต่งกายและประโยชน์ในการใช้สอยของเส้อื ผ้าได้
๓. ผเู้ รียนสามารถบอกขนั้ ตอนตา่ งๆในการดดั แปลงและการตกแต่งเส้ือผ้าได้

ด้านคณุ ธรรม
๑. ผเู้ รียนมีส่วนรว่ ม มีความคดิ สร้างสรรค์
๒. ผเู้ รยี นมีวินยั ใสใ่ จ และมีความรบั ผิดชอบ
๓. ผเู้ รียนสามารถนาความรู้ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
๔. ผ้เู รยี นมนี ้าใจในการชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั
๕. ผเู้ รียนมีความซอื่ สัตยแ์ ละตรงต่อเวลา

ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์  ๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
 ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ๖. มุง่ มนั่ ในการทางาน
 ๒. ซ่อื สัตย์สจุ รติ  ๗. รักความเปน็ ไทย
 ๓. มีวนิ ัย  ๘. มจี ิตสาธารณะ
 ๔. ใฝเ่ รยี นรู้

เบญจวิถีกาญจนา
 ๑. เทดิ ทนู สถาบัน
 ๒. กตญั ญู
 ๓. บคุ ลกิ ดี
 ๔. มีวนิ ยั
 ๕. ให้เกียรติ

สมรรถนะท่ีสาคญั ของผเู้ รียน
 ๑. ความสามารถในการสื่อสาร
 ๒. ความสามารถในการคดิ
 ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
 ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
 ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาผู้เรียนความสามารถและทกั ษะท่จี าเปน็ ในการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ (๓Rs๘Csx2Ls)
 R๑–Reading (อา่ นออก)
 R๒– (W)Riting(เขียนได้)
 R๓ – (A)Rithmetics(คิดเลขเปน็ )
 C๑ - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและ
ทกั ษะในการแกป้ ัญหา)
 C๒ - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม)
 C๓ - Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ นความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรมตา่ งกระบวน
ทัศน์)
 C๔ - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความรว่ มมอื การทางานเปน็
ทีมและภาวะผูน้ า)
 C๕ – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะดา้ นการสอื่ สาร
สารสนเทศและร้เู ท่าทันส่ือ)
 C๖ - Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและ
การสื่อสาร)
 C๗ - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้)
 C๘ – Compassion (ความมเี มตตากรุณา วินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม)
 L๑ – Learning (ทักษะการเรียนรู้)
 L๒ – Leadership (ทกั ษะความเป็นผนู้ า)

การวัดและประเมินผล

ดา้ นความรู้

ภาระงาน/ชน้ิ งาน วิธกี ารวดั เคร่อื งมอื เกณฑท์ ใ่ี ช้
ผา่ นขัน้ ตา่ ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ ๖๐
ความรู้ (K) -ประเมินผลงานและ แบบประเมินผล

๑. ผู้เรยี นสามารถ ใบงาน งานนักเรียน

อธิบายความหมายของ -การตอบคาถาม

เส้อื ผา้ และเคร่อื งแตง่

กายได้

๒. ผ้เู รยี นสามารถบอก

การเลอื กใช้เส้ือผ้าและ

เครอื่ งแตง่ กายและ

ประโยชน์ในการใชส้ อย

ของเสอ้ื ผ้าได้

๓. ผู้เรยี นรู้จกั การการ

ดดั แปลงและการ

ตกแต่งเสือ้ ผ้า

ดา้ นทักษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ชิน้ งาน วธิ ีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์ท่ใี ช้
คะแนนต้ังแต่ 4-9 ผ่าน
ทกั ษะกระบวนการ (P) -การออกมานาเสนอ แบบสงั เกตการ

นกั เรียนใชท้ กั ษะการ -การตอบคาถาม ตอบคาถาม

คิดสร้างสรรค์ในการ

ตกแต่งเส้อื ผ้า

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ภาระงาน/ช้นิ งาน วิธีการวดั เครือ่ งมอื เกณฑท์ ใี่ ช้
การสังเกตพฤติกรรม
ด้านคุณลักษณะอนั พึง การสังเกต รายบุคคล นักเรียนทไ่ี ดร้ ะดบั
คณุ ภาพพอใช้ขึน้ ไป
ประสงค์ (A) พฤติกรรม ถือว่า ผ่าน

รายบคุ คล

นกั เรียนอธบิ ายการวดั

และประเมินผล เกณฑ์การ

ผ่านรายวชิ าการงานได้

ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประเมิน แบบประเมิน ผา่ นขัน้ ต่าไมน่ ้อยกว่า
ร้อยละ ๖๐
ประสงค์ตามหลกั สูตร คุณลักษณะอันพงึ คณุ ลักษณะอนั พึง
ผ่านขัน้ ต่าไม่นอ้ ยกว่า
แกนกลางการศึกษาขั้น ประสงค์ของผู้เรยี น ประสงค์ ร้อยละ ๖๐

พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช

๒๕๕๑

ดา้ นสมรรถนะสาคัญของ ประเมนิ สมรรถนะ แบบประเมนิ

ผ้เู รยี น สาคัญของผูเ้ รยี น สมรรถนะสาคญั ของ

-ความสามารถในการ ผ้เู รยี น

สอื่ สาร

-ความสามารถในการคดิ

-ความสามารถในการใช้

ทกั ษะชีวิต

-ความสามารถในการ

แกป้ ัญหา

-ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั ที่ ๑

๑. ครใู หน้ ักเรียนบอกความหมายและความสาคัญของเส้ือผา้ และเครือ่ งแต่งกายมาคนละ ๑ ข้อ
เพอ่ื ทดสอบความรูเ้ บอ้ื งตน้ ของผ้เู รยี น
๒. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นแบบสุ่มถามคาถามว่าเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายมี
ความสาคัญตอ่ มนษุ ย์เราอย่างไรบ้าง
(ครูอาจใช้คาถามอนื่ ๆ ทเ่ี หมาะสมกบั สภาพในการจัดการเรยี นการสอนได)้
ขัน้ ท่ี ๒ แสวงหาความรู้
๑. ครูอธิบายความหมายและความสาคญั ของเส้อื ผ้าและเร่ืองแตง่ กายใหก้ ับผูเ้ รยี น
๒. ครแู ละนกั เรยี นแปลกเปลี่ยนความรเู้ ก่ียวกบั ประโยชนข์ องเส้อื ผ้าและเครอ่ื งแตง่ กาย

ขั้นท่ี ๓ สร้างความรูแ้ ละสรุปความรู้

๑. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สนทนาความรู้เกย่ี วกับความสาคญั ของการทางานเพ่อื การดารงชีวิตและตั้ง
คาถามเพ่อื กระตนุ้ ความคดิ และความสนใจของนักเรียนตวั อย่างคาถาม
๒. หากนักเรียนตอบคาถามผิด ครูควรเพิ่มเติมความรู้ที่ถูกต้องให้กับนักเรียน และช่วยกันสรุปเป็น
ความรู้

ขั้นท่ี ๔ ส่ือสารและนาเสนอ (๑๐ นาที)
๑. ครสู มุ่ ใหน้ กั เรียนในช้ันเรียนยกตวั อยา่ งประโยชนข์ องเสือ้ ผ้ามาคนละ ๑ อย่าง
๒. ครอู ธิบายความรเู้ พ่ิมเตมิ ในส่วนทถี่ กู ตอ้ ง และเปดิ โอกาสให้นกั เรียนร่วมกันสรปุ เปน็ ความรู้ในเร่ือง
ความสาคัญของเส้ือผ้าและเครือ่ งแตง่ กาย

ข้ันที่ ๕ ประเมนิ ผล
๑. ครูประเมินผลการเรียนรู้ของนกั เรียน ด้วยวิธกี ารตัง้ คาถาม เพอ่ื ทดสอบความรแู้ ละความเขา้ ใจของ
นกั เรยี น ตวั อย่างคาถามเช่น
- ใหน้ กั เรยี นบอกความหมายของและความสาคัญของเส้ือผ้าของเคร่ืองแตง่ กายมาคนละ ๑ อย่าง
- เสอื้ ผา้ มคี วามสาคัญตอ่ มนุษย์อยา่ งไรบา้ ง
- ประโยชนข์ องเสอ้ื ผา้ และเครอื่ งแต่งกายมอี อะไรบา้ ง
๒. ครูแนะนาวธิ ีการทางานทจ่ี าเป็นตอ่ การดารงชวี ิตในประจาวนั ของนกั เรยี น เพอื่ ให้นักเรยี นรู้จักนา
ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ ไปใช้ในชีวิตประจาวัน และสามารถเผยแพร่ความรู้ให้กบั สมาชิกในครอบ
และชมุ ชนท่นี กั เรียนอาศยั อยู่

สอื่ /แหลง่ เรียนรู้
สื่อวสั ดอุ ุปกรณ์

๑. หนังสือเรยี น รายวิชาพ้นื ฐานการงานอาชีพ ม.๑
๒. เวบ็ ไซตก์ ารงานอาชีพต่างๆ
๓. สอื่ สิ่งพมิ พ์ เช่น วารสาร นติ ยสาร แผ่นพบั เผยแพรค่ วามรู้

แหล่งเรยี นรู้
๑. ห้องสมดุ โรงเรียน

สรุปผลการจดั การเรียนรู้

ดา้ นความรู้

กลมุ่ ผู้เรียน ชว่ งคะแนน
ดี ๑๐
ปานกลาง ๗
ปรบั ปรงุ ๕

ด้านทักษะ/กระบวนการ

กลมุ่ ผเู้ รยี น ชว่ งคะแนน
ดี ๑๐
ปานกลาง ๗
ปรับปรุง ๕

ด้านคณุ ลกั ษะอันพึงประสงค์

กลุ่มผ้เู รยี น ช่วงระดบั คุณภาพ
ดี ๓
ปานกลาง ๒
ปรับปรงุ ๑-๐

บนั ทึกหลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….........

ปญั หาที่พบระหว่างหรือหลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………...............................…
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองนุย้ )
ครูผู้สอน

ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ หมวดวิชาการงานอาชพี
…..……….…………………………………………............……………………………………………………………………..……...............
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสุมนา ทองนยุ้ )

หัวหนา้ หมวดวิชาการงานอาชพี

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๕

รายวิชาการงานอาชพี รหัสวิชา ง๒๑๑๐๒ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เวลา ๓ ชวั่ โมง

เรอื่ ง…การซอ่ มแซมและดดั แปลงเส้ือผ้า เวลา ๑ ชวั่ โมง

ผู้สอน นางสาวสมุ นา ทองนุย้ โรงเรยี นกาญจนาภเิ ษกวิทยาลยั สรุ าษฎรธ์ านี

แนวคดิ สาคญั (สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด)
เส้อื ผ้าและเครื่องแตง่ กายทเี่ ราสวมใส่เป็นประจาทุกวัน อาจมีการชารดุ เน่อื งจากอุบัติเหตุหรอื

เส่ือมสภาพเพราะใช้งานมานาน ซงึ่ ถ้าชารดุ ไมม่ ากก็ควรซ่อมแซมดว้ ยตนเอง เพอื่ ประหยัดคา่ ใชจ้ า่ ยในการจ้าง
ชา่ งซอ่ มและไมต่ ้องทิ้งเส้ือผา้ ไปทัง้ ทเ่ี นอ้ื ผา้ ยังมสี ภาพดี

การซ่อมแซมเส้ือผา้ มหี ลายวธิ ี โดยต้องเลือกใช้ใหเ้ หมาะกับลกั ษณะของการชารดุ เช่น
ด้ายท่ีชายกระโปรงหรือชายกางเกงขาดควรซอ่ มแซมดว้ ยวิธีการสอยซ่อนดา้ ย ด้ายที่ตะเข็บเย็บขาดหรือปริ
ควรซ่อมแซมดว้ ยวิธกี ารดน้ ถอยหลงั เสือ้ ผา้ ท่ีขาดเป็นรคู วรซ่อมแซมดว้ ยวิธีการปะและ
การชนุ เป็นตน้

มาตรฐานการเรียนรู้
ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสรา้ งสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะ

กระบวนการการแก้ไขปัญหา ทักษะการทางานร่วมกนั และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มคี ุณธรรมและลักษณะ
นสิ ัยในการทางาน มจี ิตสานกึ ในการใช้พลังงานทรัพยากร และสง่ิ แวดล้อมเพอ่ื การดารงชีวิตในครอบครัว

ตัวชีว้ ดั (หรือผลการเรยี นร้)ู
๑. วิเคราะห์ข้นั ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑)
๒. ใช้กระบวนการกล่มุ ในการทางานดว้ ยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒)
๓. ตัดสนิ ใจแกป้ ญั หาการทางานอย่างมีเหตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓)

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ด้านความรู้

๑. ผู้เรียนเขา้ ใจและรู้จักวิธกี ารซ่อมแซมเสือ้ ผา้
๒. ผู้เรยี นรเู้ ขา้ ใจและร้จู ักการดดั แปลงเสอ้ื ผา้
๓. ผเู้ รียนรจู้ ักการเลือกใชอ้ ุปกรณ์ในการซอ่ มแซมและการดัดแปลงเสอื้ ผ้าได้
๔. ผเู้ รยี นเขา้ ใจและรู้จักการตกแตง่ เส้ือผ้า

ดา้ นทักษะ
๑. ผูเ้ รยี นสามารถอธบิ ายและปฏิบัติการซ่อมแซมเสือ้ ผ้าดว้ ยตนเองได้
๒. ผเู้ รียนสามารถบอกวิธกี ารเลอื กใช้อปุ กรณ์การทาเส้ือผา้ ได้
๓. ผู้เรยี นสามารถการเลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ในการดัดแปลงหรอื ตกแตง่ เส้อื ผ้าได้
๔. ผู้เรียนสามารถดัดแปลงเสอื้ ผ้าที่ชารดุ นากลบั มาดดั แปลงและนามาใช้ใหมไ่ ด้

ดา้ นคุณธรรม
๑. ผ้เู รยี นมสี ว่ นรว่ ม มคี วามคิดสรา้ งสรรค์
๒. ผเู้ รยี นมีวนิ ัย ใส่ใจ และมคี วามรับผิดชอบ
๓. ผู้เรียนสามารถนาความรไู้ ปใช้ในชวี ติ ประจาวนั
๔. ผู้เรยี นมีน้าใจในการชว่ ยเหลอื ซ่งึ กันและกัน
๕. ผูเ้ รียนมีความซ่อื สตั ย์และตรงต่อเวลา

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  ๕. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง
 ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  ๖. มุง่ มั่นในการทางาน
 ๒. ซ่อื สตั ย์สุจรติ  ๗. รกั ความเป็นไทย
 ๓. มวี นิ ัย  ๘. มีจิตสาธารณะ
 ๔. ใฝ่เรียนรู้

เบญจวถิ กี าญจนา
 ๑. เทิดทนู สถาบัน
 ๒. กตญั ญู
 ๓. บุคลิกดี
 ๔. มีวินัย
 ๕. ให้เกยี รติ

สมรรถนะทส่ี าคัญของผู้เรยี น
 ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
 ๒. ความสามารถในการคดิ
 ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
 ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

จดุ เนน้ ส่กู ารพฒั นาผู้เรียนความสามารถและทกั ษะทจ่ี าเปน็ ในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Csx2Ls)
 R๑–Reading (อา่ นออก)
 R๒– (W)Riting(เขียนได)้
 R๓ – (A)Rithmetics(คดิ เลขเป็น)
 C๑ - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและ
ทักษะในการแกป้ ญั หา)
 C๒ - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม)
 C๓ - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเขา้ ใจตา่ งวฒั นธรรมต่างกระบวน
ทัศน์)
 C๔ - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเปน็
ทมี และภาวะผู้นา)
 C๕ – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสอื่ สาร
สารสนเทศและรเู้ ท่าทันส่ือ)
 C๖ - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสาร)
 C๗ - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้)
 C๘ – Compassion (ความมเี มตตากรุณา วินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม)

 L๑ – Learning (ทกั ษะการเรียนรู้) L๒ – Leadership (ทักษะความเป็นผนู้ า)

การวัดและประเมินผล

ดา้ นความรู้ วิธีการวัด เครอื่ งมือ เกณฑท์ ี่ใช้
ภาระงาน/ชนิ้ งาน ประเมนิ ผลงานและ แบบประเมินผล ผา่ นขนั้ ตา่ ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๖๐
ใบความรู้ งานนกั เรียน
ความรู้ (K)
๑. นกั เรยี นสามารถ
อธบิ ายการซ่อมแซม
เสอื้ ผ้าได้
๒. นักเรียนสามารถ
อธบิ ายข้นั ตอนการ
ซอ่ มแซมเส้อื ผ้าได้

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ วิธกี ารวัด เครอื่ งมือ เกณฑท์ ี่ใช้
ภาระงาน/ช้นิ งาน -การออกมานาเสนอ แบบสังเกตการตอบ คะแนนต้งั แต่ 4-9 ผ่าน
-การตอบคาถาม คาถาม
ทักษะกระบวนการ (P)
นกั เรยี นใชท้ ักษะการคดิ
ต่างๆที่ใช้ในการเรยี น

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ ีการวดั เคร่อื งมอื เกณฑท์ ่ีใช้
นักเรยี นท่ไี ด้ระดับคุณภาพ
ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึง การสงั เกตพฤตกิ รรม การสงั เกตพฤติกรรม พอใช้ข้นึ ไป ถอื ว่า ผ่าน

ประสงค์ (A) รายบคุ คล รายบคุ คล ผ่านขน้ั ตา่ ไม่น้อยกว่าร้อย
ละ ๖๐
นกั เรยี นอธบิ ายการ

วัดผล และประเมินผล

และเกณฑก์ ารผ่าน

รายวชิ าการงานได้

ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึง ประเมินคุณลักษณะ แบบประเมนิ

ประสงค์ตามหลกั สูตร อนั พึงประสงคข์ อง คณุ ลกั ษณะอนั พงึ

แกนกลางการศกึ ษาขนั้ ผ้เู รียน ประสงค์

พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช

๒๕๕๑

ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของ ประเมนิ สมรรถนะ แบบประเมิน ผ่านขั้นต่าไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ย
ผเู้ รยี น สาคัญของผเู้ รยี น สมรรถนะสาคัญของ ละ ๖๐
-ความสามารถในการ ผเู้ รยี น
สอ่ื สาร
-ความสามารถในการคดิ
-ความสามารถในการใช้
ทกั ษะชวี ิต
-ความสามารถในการ
แก้ปญั หา
-ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี ๑ ระบคุ าถาม

๑. ครูใหน้ ักเรยี นยกตวั อย่างการซอ่ มแซมเสอื้ ผ้ามาคนละ ๑ อย่าง
๒. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นคาถามที่กาหนด เพื่อตรวจสอบเจตคติและ
ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ของนกั เรียนในเรื่องเสื้อผ้าและเครือ่ งแต่งกาย
(ครูอาจใชค้ าถามอื่น ๆ ท่ีเหมาะสมกับสภาพในการจดั การเรยี นการสอนได)้

ขน้ั ท่ี ๒ แสวงหาความรู้
๑. ครูอธบิ ายและสาธิตการซอ่ มแซมเสอ้ื ผา้ ให้นักเรยี นดู เชน่ การตดิ กระดมุ
๒. ครูอธบิ ายและสาธิตการดัดแปลงเส้อื ผา้ และเครอ่ื งแตง่ กาย

ขัน้ ที่ ๓ สรา้ งความรแู้ ละสรุปความรู้
๑. ครูสุ่มถามนักเรียนในชั้นเรยี นว่าได้ความร้อู ะไรไปบ้างเกย่ี วกบั การดัดแปลงและซอ่ มแซมเสอื้ ผ้า
๒. หากนักเรียนตอบคาถามผิด ครูควรเพิ่มเติมความรู้ที่ถูกต้องให้กับนักเรียน และช่วยกันสรุปเป็น
ความรู้

ขัน้ ท่ี ๔ สอื่ สารและนาเสนอ
๑. ครูอธบิ ายความร้เู พ่ิมเตมิ ในส่วนทถ่ี กู ต้อง และเปิดโอกาสใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปเปน็ ความรู้ในเรื่อง
ความสาคญั ของการดดั แปลงเสอื้ ผ้า

ขน้ั ท่ี ๕ ประเมินและบริการสงั คม
๑. ครปู ระเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องนักเรยี น ดว้ ยวิธกี ารต้ังคาถาม เพอื่ ทดสอบความรแู้ ละความเขา้ ใจของ
นักเรียน ตวั อยา่ งคาถามเชน่
๒. ครแู นะนาวิธกี ารทางานทจี่ าเป็นตอ่ การดารงชวี ิตในประจาวนั ของนกั เรียน เพือ่ ให้นักเรยี นรู้จักนา
ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ ไปใช้ในชีวิตประจาวัน และสามารถเผยแพร่ความรู้ให้กับสมาชกิ ในครอบ
และชุมชนที่นักเรยี นอาศัยอยู่

สอื่ /แหล่งเรียนรู้

ส่อื วัสดอุ ปุ กรณ์

๑. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้นื ฐานการงานอาชีพ ม.๑
๒. เว็บไซต์การงานอาชพี ต่างๆ
๓. สอื่ สงิ่ พมิ พ์ เช่น วารสาร นติ ยสาร แผ่นพับเผยแพรค่ วามรู้
แหล่งเรียนรู้

๑. ห้องสมุดโรงเรียน

สรปุ ผลการจดั การเรียนรู้
ด้านความรู้

กลมุ่ ผเู้ รียน ช่วงคะแนน
ดี ๑๐
ปานกลาง ๗
ปรับปรงุ ๕
ด้านทักษะ/กระบวนการ

กลมุ่ ผเู้ รียน ช่วงคะแนน
ดี ๑๐
ปานกลาง ๗
ปรับปรงุ ๕

ดา้ นคุณลักษะอันพงึ ประสงค์

กล่มุ ผเู้ รยี น ช่วงระดับคุณภาพ
ดี ๓
ปานกลาง ๒
ปรบั ปรุง ๑-๐

บนั ทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….........

ปญั หาที่พบระหว่างหรือหลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………...............................…
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองนยุ้ )
ครูผู้สอน

ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ หมวดวิชาการงานอาชพี
…..……….…………………………………………............……………………………………………………………………..……...............
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองนุ้ย )

หัวหน้าหมวดวิชาการงานอาชีพ

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๖

รายวิชาการงานอาชพี รหัสวชิ า ง๒๑๑๐๒ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๑

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เวลา ๓ ชั่วโมง

เรือ่ ง…การดูแลและรักษาเสื้อผ้า เวลา ๑ ชั่วโมง

ผูส้ อน นางสาวสมุ นา ทองน้ยุ โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั สรุ าษฎร์ธานี

แนวคิดสาคัญ (สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด)
การดูแลและการทาความสะอาดเสื้อผ้าเป็นสิ่งสาคัญที่ช่วยให้เสื้อผ้าสะอาดมองดูใหม่อยู่เสมอ และ

สามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยใชน้ ้าและสารซักฟอกเพอื่ ขจัดเหงื่อไคล ฝนุ่ ละอองหรอื คราบอน่ื ๆที่เปื้อนเส้ือผ้า
นอกจากนน้ั การจัดเก็บเส้อื ผ้าอย่างเปน็ ระเบียบ เปน็ หมวดหมู่ จะชว่ ยใหเ้ กดิ ความสะดวกเม่ือต้องการสวมใส่
เสื้อผ้าทีส่ ะอาดมีสว่ นช่วยส่งเสริมบคุ ลกิ ภาพให้แก่ผู้สวมใส่ ดังนน้ั จึงควรศึกษาและปฏิบตั ิใหถ้ ูกวิธี

มาตรฐานการเรยี นรู้
ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสรา้ งสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะ

กระบวนการการแกไ้ ขปัญหา ทักษะการทางานรว่ มกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรมและลักษณะ
นสิ ัยในการทางาน มจี ติ สานกึ ในการใช้พลงั งานทรัพยากร และส่ิงแวดล้อมเพอ่ื การดารงชวี ติ ในครอบครวั

ตัวช้วี ดั (หรอื ผลการเรยี นร)ู้
๑. วิเคราะหข์ ั้นตอนการทางานตามกระบวนการทางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑)
๒. ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทางานดว้ ยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒)
๓. ตัดสินใจแกป้ ญั หาการทางานอยา่ งมเี หตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓)

จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้

๑. ผู้เรียนเข้าใจหลักการดูแลเสอื้ ผ้า
๒. ผ้เู รยี นเขา้ ใจความสาคัญของการถนอมเสอื้ ผา้ และเครื่องแตง่ กาย
๓. ผูเ้ รยี นรจู้ กั การเลือกใชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์ในการดูแลและรกั ษาเสื้อผ้า
ดา้ นทกั ษะ
๑. ผู้เรียนสามารถอธบิ ายหลกั ของการดูแลเสือ้ ผ้าไดอ้ ยา่ งถูกวิธี
๒. ผู้เรียนสามารถบอกอุปกรณ์อานวยความสะอาดในการดแู ลเสือ้ ผ้าได้
๓. ผ้เู รียนสามารถบอกการถนอมเส้อื ผ้าไดอ้ ยา่ งถูกวิธี

๔. ผูเ้ รียนสามารถบอกการดแู ลรกั ษาเสือ้ ผ้าได้
ดา้ นคุณธรรม

๑. ผเู้ รยี นมีสว่ นร่วม มคี วามคดิ สร้างสรรค์
๒. ผเู้ รยี นมีวินยั ใส่ใจ และมคี วามรับผดิ ชอบ
๓. ผเู้ รียนสามารถนาความร้ไู ปใช้ในชีวิตประจาวัน
๔. ผเู้ รยี นมีน้าใจในการชว่ ยเหลอื ซึง่ กันและกัน
๕. ผู้เรียนมคี วามซือ่ สัตยแ์ ละตรงตอ่ เวลา

ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์  ๕. อย่อู ย่างพอเพยี ง
 ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  ๖. มงุ่ ม่ันในการทางาน
 ๒. ซ่ือสัตย์สจุ รติ  ๗. รักความเปน็ ไทย
 ๓. มวี ินัย  ๘. มจี ิตสาธารณะ
 ๔. ใฝเ่ รียนรู้

เบญจวถิ กี าญจนา
 ๑. เทิดทนู สถาบัน
 ๒. กตัญญู
 ๓. บุคลกิ ดี
 ๔. มีวินยั
 ๕. ให้เกียรติ

สมรรถนะที่สาคัญของผูเ้ รียน
 ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
 ๒. ความสามารถในการคิด
 ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
 ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาผ้เู รยี นความสามารถและทกั ษะทจ่ี าเปน็ ในการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ (๓Rs๘Csx2Ls)
 R๑–Reading (อ่านออก)
 R๒– (W)Riting(เขียนได)้
 R๓ – (A)Rithmetics(คดิ เลขเป็น)
 C๑ - Critical Thinking and Problem Solving ( ทกั ษะด้านการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณและ
ทักษะในการแก้ปญั หา)
 C๒ - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม)
 C๓ - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวฒั นธรรมต่างกระบวน
ทศั น์)
 C๔ - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเป็น
ทมี และภาวะผ้นู า)
 C๕ – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะดา้ นการส่ือสาร
สารสนเทศและรู้เท่าทนั สอ่ื )
 C๖ - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและ
การส่อื สาร)
 C๗ - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นร)ู้
 C๘ – Compassion (ความมเี มตตากรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม)

 L๑ – Learning (ทักษะการเรียนร)ู้ L๒ – Leadership (ทักษะความเปน็ ผู้นา)

การวัดและประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้

ภาระงาน/ช้นิ งาน วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑท์ ี่ใช้

ความรู้ (K) ประเมนิ ผลงานและ แบบประเมินผล ผา่ นขน้ั ต่าไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ ๖๐

๑. นกั เรียนสามารถ ใบความรู้ งานนกั เรียน

อธบิ ายการดแู ล

รักษาเสื้อผ้าไดอ้ ย่าง

ถูกวธิ ี

๒. นกั เรียนสามารถ

อธิบายการถนอม

เสื้อผ้าได้

ดา้ นทักษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ชิน้ งาน วิธกี ารวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์ที่ใช้

ทกั ษะกระบวนการ (P) -การออกมานาเสนอ แบบสังเกตการตอบ คะแนนต้งั แต่ 4-9 ผ่าน

นักเรยี นใช้ทักษะการคิด -การตอบคาถาม คาถาม

ตา่ งๆท่ีใช้ในการดแู ล

เสือ้ ผา้

ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธีการวัด เครอื่ งมือ เกณฑ์ทใ่ี ช้

ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึง การสังเกตพฤตกิ รรม การสังเกตพฤติกรรม นักเรียนที่ได้ระดับคณุ ภาพ

ประสงค์ (A) รายบุคคล รายบคุ คล พอใช้ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน

นกั เรยี นอธิบายการ

วดั ผล และประเมนิ ผล

และเกณฑ์การผา่ น

รายวชิ าการงานได้

ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประเมนิ คุณลักษณะ แบบประเมนิ ผ่านขนั้ ต่าไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ย

ประสงคต์ ามหลกั สูตร อนั พงึ ประสงคข์ อง คุณลกั ษณะอนั พึง ละ ๖๐

แกนกลางการศึกษาข้นั ผเู้ รยี น ประสงค์

พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช

๒๕๕๑

ด้านสมรรถนะสาคัญของ ประเมนิ สมรรถนะ แบบประเมนิ ผ่านขั้นต่าไม่น้อยกว่าร้อย
ผเู้ รียน สาคญั ของผู้เรียน สมรรถนะสาคัญของ ละ ๖๐
-ความสามารถในการ ผูเ้ รียน
สอ่ื สาร
-ความสามารถในการคิด
-ความสามารถในการใช้
ทักษะชวี ติ
-ความสามารถในการ
แก้ปัญหา
-ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี ๑ ระบุคาถาม

๑. ครใู หน้ กั เรียนแบ่งกล่มุ เพ่ือเลน่ เกมส์ตอบคาถามเรอื่ งการดแู ลเสื้อผา้ และเคร่ืองแต่งกาย
๒. ครใู หน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นตามกลุ่มในประเด็นคาถามทก่ี าหนด เพื่อตรวจสอบเจตคติ
และประสบการณก์ ารเรยี นร้ขู องนักเรยี นในเร่อื งเสื้อผา้ และเครื่องแต่งกาย
(ครูอาจใช้คาถามอน่ื ๆ ที่เหมาะสมกบั สภาพในการจัดการเรยี นการสอนได)้
ข้ันที่ ๒ แสวงหาความรู้
๑. ครูอธบิ ายหลกั การดูแลรักษาเสือ้ ผ้าและเร่อื งแต่งกาย
๒. ครใู หน้ กั เรียนศกึ ษาความรู้เพม่ิ เติมเกย่ี วกับการดูแลรกั ษาเสือ้ ผา้

ขน้ั ท่ี ๓ สรา้ งความรแู้ ละสรุปความรู้
๑. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับหลกั ดแู ลรกั ษาเสื้อผ้า
๒. หากนักเรียนตอบคาถามผิด ครูควรเพิ่มเติมความรู้ที่ถูกต้องให้กับนักเรียน และช่วยกันสรุปเป็น
ความรู้

ขนั้ ท่ี ๔ ประเมินและบรกิ ารสงั คม
๑. ครปู ระเมินผลการเรียนรขู้ องนักเรยี น ดว้ ยวิธกี ารตัง้ คาถาม เพือ่ ทดสอบความรแู้ ละความเข้าใจของ
นักเรยี น
๒. ครูแนะนาวิธีการทางานทีจ่ าเปน็ ตอ่ การดารงชวี ิตในประจาวันของนกั เรียน เพือ่ ให้นักเรยี นรู้จักนา
ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ ไปใช้ในชีวิตประจาวัน และสามารถเผยแพร่ความรู้ให้กับสมาชิกในครอบ
และชุมชนท่นี ักเรยี นอาศยั อยู่

สอื่ วสั ดุอปุ กรณ์

๑. หนงั สือเรยี น รายวิชาพ้นื ฐานการงานอาชีพ ม.๑
๒. เวบ็ ไซตก์ ารงานอาชีพต่างๆ
๓. สอื่ สิ่งพมิ พ์ เชน่ วารสาร นิตยสาร แผน่ พับเผยแพรค่ วามรู้

แหลง่ เรียนรู้ สรุปผลการจดั การเรยี นรู้
๑. ห้องสมุดโรงเรยี น
ช่วงคะแนน
ด้านความรู้ ๑๐

กลมุ่ ผู้เรยี น ๕
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรงุ

ด้านทักษะ/กระบวนการ ช่วงคะแนน
กลุ่มผู้เรยี น ๑๐
ดี ๗
ปานกลาง ๕
ปรบั ปรงุ

ด้านคุณลกั ษะอันพึงประสงค์

กลุม่ ผเู้ รียน ช่วงระดบั คุณภาพ

ดี ๓

ปานกลาง ๒

ปรบั ปรุง ๑-๐

บนั ทึกหลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….........

ปญั หาที่พบระหว่างหรือหลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………...............................…
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ ……………….…………….………………………..
( นางสาวสมุ นา ทองนุย้ )
ครูผู้สอน

ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ หมวดวิชาการงานอาชพี
…..……….…………………………………………............……………………………………………………………………..……...............
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ……………….…………….………………………..
( นางสาวสุมนา ทองนยุ้ )

หัวหนา้ หมวดวิชาการงานอาชพี

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๗

รายวิชาการงานอาชพี รหสั วชิ า ง๒๑๑๐๒ ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔
เรอื่ ง…เครอื่ งดืม่ และการบรกิ าร
ผสู้ อน นางสาวสุมนา ทองนุ้ย เวลา ๓ ชวั่ โมง

เวลา ๑ ชั่วโมง

โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลัย สุราษฎร์ธานี

แนวคดิ สาคญั (สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด)
เคร่อื งดืม่ และการบริการ เคร่ืองดมื่ ท่ีผลติ และจานวนท่ีผลติ จาหนา่ ยโดยท่วั ไปมีมากมายหลายชนดิ

ทัง้ แบบทมี่ ปี ระโยชนแ์ ละอาจเปน็ อนั ตรายต่อรา่ งกาย ดงั นั้น เพ่อื สขุ ภาพที่ดี ใหร้ สชาติที่อรอ่ ย เกดิ ความสดชื่น
และเป็นทต่ี อ้ งการของผ้บู รโิ ภคใหม้ ากที่สดุ ซงึ่ เครื่องดม่ื ทีผ่ ลิตและจาหนา่ ยอยู่โดยทว่ั ไป

มาตรฐานการเรยี นรู้
ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสรา้ งสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะ

กระบวนการการแก้ไขปัญหา ทกั ษะการทางานร่วมกนั และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรมและลักษณะ
นิสยั ในการทางาน มีจิตสานกึ ในการใชพ้ ลงั งานทรัพยากร และสง่ิ แวดลอ้ มเพื่อการดารงชวี ติ ในครอบครวั

ตวั ชี้วดั (หรือผลการเรียนร)ู้
๑. วิเคราะห์ข้ันตอนการทางานตามกระบวนการทางาน (ง ๑.๑ ม.๑/๑)
๒. ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทางานดว้ ยความเสียสละ (ง ๑.๑ ม.๑/๒)
๓. ตัดสนิ ใจแกป้ ัญหาการทางานอย่างมีเหตุผล (ง ๑.๑ ม.๑/๓)

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ดา้ นความรู้

๑. ผู้เรยี นเขา้ ใจความหมายชนดิ และหลักการเลอื กบรโิ ภคเครอื่ งดื่ม
๒. ผ้เู รียนเขา้ ใจหลักการเลือกบริโภคของเครือ่ งดืม่
๓. ผเู้ รียนร้จู ักการเลือกใช้วสั ดอุ ุปกรณ์ในการผลิตเครอื่ งดม่ื
ด้านทักษะ
๑. ผู้เรยี นสามารถอธบิ ายและตอบคาถามความหมายของชนดิ และหลักการเลือกบรโิ ภคเคร่ืองดื่มได้
๒. ผู้เรยี นสามารถอธบิ ายหลกั การเลอื กบริโภคของเครอ่ื งดืม่ ได้
๓. ผู้เรยี นตอบคาถามเร่อื งเคร่อื งดื่มและการบริการได้อย่างถกู ต้อง

ด้านคณุ ธรรม
๑. ผู้เรียนมสี ่วนรว่ ม มีความคดิ สร้างสรรค์
๒. ผ้เู รยี นมีวินัย ใส่ใจ และมีความรบั ผดิ ชอบ
๓. ผู้เรียนสามารถนาความรูไ้ ปใช้ในชวี ติ ประจาวนั
๔. ผู้เรยี นมีน้าใจในการชว่ ยเหลือซงึ่ กันและกนั
๕. ผู้เรยี นมีความซื่อสัตยแ์ ละตรงต่อเวลา

ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์  ๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
 ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ๖. มุ่งมั่นในการทางาน
 ๒. ซือ่ สัตยส์ จุ รติ  ๗. รกั ความเป็นไทย
 ๓. มวี นิ ัย  ๘. มจี ติ สาธารณะ
 ๔. ใฝ่เรยี นรู้

เบญจวิถีกาญจนา
 ๑. เทดิ ทนู สถาบนั
 ๒. กตัญญู
 ๓. บคุ ลิกดี
 ๔. มวี นิ ยั
 ๕. ให้เกียรติ

สมรรถนะทีส่ าคญั ของผู้เรียน
 ๑. ความสามารถในการส่ือสาร
 ๒. ความสามารถในการคิด
 ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
 ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
 ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

จดุ เนน้ สู่การพฒั นาผู้เรยี นความสามารถและทกั ษะทีจ่ าเป็นในการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Csx๒Ls)
 R๑–Reading (อา่ นออก)
 R๒– (W)Riting(เขียนได)้
 R๓ – (A)Rithmetics(คดิ เลขเป็น)
 C๑ - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ
ทกั ษะในการแก้ปัญหา)
 C๒ - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม)
 C๓ - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวน
ทศั น์)
 C๔ - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็น
ทีมและภาวะผู้นา)
 C๕ – Communications, Information and Media Literacy ( ท ั ก ษ ะ ด ้ า น ก า ร ส ื่ อ สาร
สารสนเทศและรู้เทา่ ทนั ส่ือ)
 C๖ - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสือ่ สาร)
 C๗ - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรยี นร้)ู
 C๘ – Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)
 L๑ – Learning (ทักษะการเรียนร)ู้
 L๒ – Leadership (ทักษะความเปน็ ผู้นา)


Click to View FlipBook Version