1 เมษา วันเลกิ ทาส
สกู่ ารเปล่ียนแปลงสาคัญสังคมไทย
จดั ทำโดย ห้องสมุดประชำชนอำเภออมุ้ ผำง
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภออุ้มผาง
และห้องสมุดประชาชนอาเภออุ้มผาง จังหวัดตาก มีบทบาทหน้าท่ีสาคัญ
ในการเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน ที่ให้บริการ ความรู้ข้อมูลข่าวสารที่
ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ
ครอบคลุมทกุ กลมุ่ เป้าหมาย
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภออุ้มผาง ได้
จัดทาเอกสารเพ่ือใช้เป็นสื่อในการให้ความรู้และตอบสนองความต้องการ
ของผใู้ ชบ้ รกิ ารเปน็ ประโยชนแ์ ละแนวทางการปฏิบตั ิงานต่อไป
ผ้จู ดั ทา นางสาวจันทร์วิมล อินทนนท์
ตาแหนง่ บรรณารักษ์
เม่อื เอย่ ถงึ วนั ที่ 1 เมยายน หลาย ๆ คนคงจะนกึ ถึงวนั
ApriFool's Day หรือ "วันเมษาหน้าโง่" ซึ่งตามธรรมเนียมชาวตะวันตก วันน้ี
เป็นวันท่ีสามารถล้อเล่น แกล้งคนอ่ืนแบบเล็กๆ น้อยๆ ได้โดยท่ีไม่ถือสาหา
ความกัน แต่สาหรับประเทศไทยน้ัน วันนี้คือวันที่เกิดเหตุการณ์ที่สาคัญใน
ประวัตศิ าสตร์ น่นั คือวนั ที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาล
ที่ 5 ทรงประกาศเลกิ ทาส เม่อื ปี พ.ศ. 2448
นับต้ังแต่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระ
จลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั ทรงเสด็จขนึ้ ครองราชยใ์ นปี พ.ศ. 2411 ประชากรชาว
สยามจานวนกว่าหนึ่งในสามของทั้งหมด ล้วนแล้วแต่เป็นทาสท้ังสิ้น การท่ี
ทาสมีอยู่เป็นจานวนมาก มีสาเหตุเพราะว่า ทาสน้ันเป็นกันตลอดชีวิต เม่ือ
หญิงชายที่เป็นทาสพบรักกันแล้วมีลูก ลูกที่กาเนิดออกมาก็จะกลายเป็น
ทาส เมอ่ื มีลกู สบื หลานกจ็ ะเป็นทาสกันต่อไป ตอ่ เนอื่ งไปเรอื่ ยๆ ไม่มสี ิน้ สุด
ทาสท่ีเกิดจากพ่อแม่ท่ีเป็นทาสเรียกว่า "ทาสในเรือนเบี้ย" ซ่ึงเป็น
ประเภทของทาสท่ีได้ยินกันอยู่บ่อยๆ เนื่องจากสื่อสมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็นละคร
โทรทัศนห์ รือภาพยนตร์ มีการนาเสนอชวี ติ เกีย่ วกับทาสประเภทนี้อยูบ่ ่อยคร้ัง
ท้งั น้ปี ระเภทของทาสไม่ไดม้ ีแคท่ าสในเรือนเบย้ี เพยี งอยา่ งเดยี ว แต่
สามารถแบ่งออกได้ท้ังหมด 7 ประเภทด้วยกนั ดังตอ่ ไปน้ี
1. ทาสในเรอื นเบีย้ คอื ลกู ท่เี กดิ จากพ่อแมท่ ่เี ปน็ ทาสอยภู่ ายในบา้ นของนาย
ทาส นบั ว่ามสี ถานะเปน็ ทาสตั้งแต่กาเนดิ และทาสชนิดนจี้ ะไม่สามารถไถถ่ อน
ตัวเองได้
2. ทาสสินไถ่ คอื ทาสท่ีมีจานวนมากทส่ี ดุ ในบรรดาทาสท้งั หมด ทาสชนดิ นี้
มกั จะมาจากครอบครัวท่ีมฐี านะยากจน ไมส่ ามารถหาเงนิ มาเลย้ี งดคู รอบครัวหรือ
ตนเองได้ จึงไดข้ ายตัวหรือคนในครอบครวั ไปเป็นทาส ซึง่ มีต้งั แต่ พ่อแม่ขายลกู
สามขี ายภรรยา หรือบคุ คลนนั้ ๆ ประสงค์จะขายตัวเอง แตถ่ ้าหากมีผนู้ าเงินมาไถ่
ถอน ทาสประเภทนี้ก็จะสามารถเป็นไท พ้นจากความเปน็ ทาสได้
3. ทาสทไ่ี ดร้ ับมาดว้ ยมรดก คือ ทาสที่ตกเป็นมรดกตอ่ เนอ่ื งมา ทาสประเภท
นจ้ี ะเกดิ ขนึ้ กต็ ่อเมอ่ื นายทาสคนเดมิ เสียชวี ิตลง และไดม้ อบทาสมรดกใหแ้ กน่ าย
ทาสคนต่อไป
4. ทาสท่านให้ คอื ทาสทไี่ ดร้ ับมาจากผู้อ่ืน
5. ทาสทชี่ ่วยไวจ้ ากทัณฑ์โทษ ทาสประเภทน้ีจะเกดิ ข้นึ ไดต้ ่อเมอ่ื บุคคลใดก็
ตามเกดิ กระทาความผดิ แลว้ ถกู ลงโทษเปน็ เงนิ คา่ ปรบั แล้วบุคคลผนู้ ั้นไมส่ ามารถ
หาเงนิ มาชาระค่าปรบั ได้ แตม่ ีผูอ้ ื่นเข้ามาช่วยเหลือชาระจดั การให้ บคุ คลผู้นนั้ จะ
เปน็ ทาสของผใู้ หค้ วามช่วยเหลือในการชาระค่าปรับ
6. ทาสเชลย คือ ทาสที่ได้หลังจากชนะศึกสงคราม ผู้ชนะจะกวาดต้อน
ประชากรของจากเมืองหรือดินแดนของผู้แพ้สงครามไปยังบ้านเมืองของตน แล้ว
นาประชากรเหล่านไ้ี ปเปน็ ทาสรับใช้
7. ทาสท่ีช่วยไว้ใหพ้ ้นจากความอดอยาก ทาสประเภทน้ีแต่เดิมคือไพร่ ไพร่
ผู้ซึ่งไม่สามารถทางานให้หลวงได้ หรือไม่สามารถประกอบอาชีพหาเล้ียงตนเอง
ได้ ไพร่อาจขายตนเองไปเป็นทาส เพอื่ ใหน้ ายทาสช่วยเหลือ
หนึ่งในจุดเปล่ียนสาคัญที่นาไปสู่การเลิกทาสในสยาม คือ การทา
สนธิสัญญาเบาว์ริงในปี พ.ศ. 2398 ที่ทาให้สยามเปิดการค้าเสรีกับประเทศ
ตะวันตก ส่งผลให้เศรษฐกิจและสังคมไทยต้องเปลี่ยนแปลงไปจากการกา
เกษตรเพื่อยังชีพมาเป็นผลิตเพื่อขาย ประเทศจาเป็นต้องมีการปฏิรูปท่ีดิน
และต้องการแรงงานเพ่ือป้อนเข้าสู่ระบบการผลิตเพื่อค้าขายกับต่างชาติ แต่
ด้ ว ย ค ว า ม ที่ ส ย า ม มี ท า ส ม า ก อี ก ท้ั ง ท า ส ก็ เ ป็ น กั น ย า ว น า น ไ ม่ สิ้ น สุ ด
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงมีพระราชดาริให้ชาระ
กฎหมาย เปลีย่ นแปลงแกไ้ ขความเป็นทาสในรนุ่ ลูกเสียใหม่
ในวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2417 รัชกาลท่ี 5 จึงได้ทรงโปรดให้ออก
พระราชบัญญัติพิกัดเกษียณลูกทาสลูกไทย มีเน้ือหาใจความว่าด้วยการแก้
พกิ ดั ค่าตวั ทาสใหม่ โดยส่งั ใหล้ ดคา่ ตัวทาสลงต้งั แต่อายุ 8 ขวบ และหมดค่าตัว
เมือ่ อายุได้ 20 ปี เม่ือทาสผู้ใดก็ตามมีอายุได้ 21 ปี ผู้น้ันก็จะเป็นอิสระ โดยมี
ผลบังคับใช้กับทาสทกุ คนท่ีเกดิ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2411 เป็นต้นมา และนอกจากน้ี
ยังห้ามมใิ ห้ซ้อื -ขายบคุ คลที่มอี ายมุ ากกว่า 20 ปีกลับมาเปน็ ทาสต่อไปอีก
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงออกพระราชบัญญัติ
เลิกทาสมีชื่อว่า พระราชบัญญัติทาส ร.ศ. 124 ในปี พ.ศ. 2448 มีใจความ
สาคญั ว่า วนั ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2448 ให้บคุ คลผเู้ ป็นลูกทาสในเรือนเบ้ียทุก
คนเป็นไท ส่วนทาสประเภทอ่ืนทรงให้ลดค่าตัวเดือนละ 4 บาท นับตั้งแต่
เดอื นเมษายน พ.ศ. 2448 เป็นตน้ ไป นอกจากนี้ยังมีบทบัญญัติป้องกันมิให้
คนท่ีเป็นไทแล้วกลับไปเป็นทาสอีก และเม่ือทาสจะเปลี่ยนเจ้าเงินใหม่ ก็
ห้ามมใิ ห้ข้นึ คา่ ตัว
นับว่าการเลิกทาสเป็นผลสาเร็จ และเป็นความเปล่ียนแปลงคร้ังสาคัญ
ย่ิงในประวัติศาสตร์ไทย นอกจากน้ีการเลิกทาสยังนาไปสู่การพัฒนามากมาย
หลายสงิ่ การผลติ เพือ่ สง่ ออกกอ่ ตวั ขึ้นเน่ืองจากมแี รงงานป้อนเข้าสู่ระบบ ทาให้
ไทยสามารถเร่งปลูกข้าว จัดการค้าไม้ ทาเหมืองแร่ ส่งออกไปยังต่างประเทศ
อีกทั้งยังทาให้เกิดการปรับปรุงภาษี เงินตราหมุนเวียนมากขึ้น จนเกิดธนาคาร
แห่งชาตขิ ึน้ หลายแห่งอกี ด้วย
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภออ้มุ ผาง