The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือที่รวบรวมเรื่องราวของโขน และโครงการต่าง ๆ ของโขนเยาวชนชายแดนใต้
ขนาด 21x24cm
จัดทำโดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี กระทรวงวัฒนธรรม | @ PrinceSukri

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by AKATSUKI S@RU Studios, 2021-09-20 02:16:25

Khon | โขน เยาวชนชายแดนใต้ ประจำปี ๒๕๕๘-๒๕๖๔

หนังสือที่รวบรวมเรื่องราวของโขน และโครงการต่าง ๆ ของโขนเยาวชนชายแดนใต้
ขนาด 21x24cm
จัดทำโดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี กระทรวงวัฒนธรรม | @ PrinceSukri

Keywords: PrinceSukri,สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี, กระทรวงวัฒนธรรม,Khon,โขน,เยาวชนชายแดนใต้

ปเยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

มัยราพณ์

• สีม่วงอ่อน
• มี ๑ หนา้ ๒ มอื
• ทรงมงกฎุ กนก
• อาวธุ ประจ�ำตัว คือ กลอ้ งเป่าสรรพยา
มยั ราพณ์ พญายักษ์ลูกท้าวมหายมยักษเ์ ป็นเจา้ กรงุ บาดาล
รมู้ นตส์ ะกดทพั และเครอื่ งสรรพยาเปา่ กลอ้ ง ถอดดวงจติ ไวท้ เี่ ขาตรกี ฏู
ได้มัจฉานุเป็นบุตรบุญธรรม ทศกัณฐ์ให้ไปตัดศึกพระราม มัยราพณ์
ย่องไป เป่ายาวิเศษด้วยกล้อง สะกดหลับหมดทั้งกองทัพ จึงอุ้ม
พระรามลงไปบาดาล ใสก่ รงเหล็กไว้ท่ดี งตาล หนมุ านตามลงไปช่วย
พระรามและฆา่ มัยราพณ์ตาย จงึ เชิญพระรามกลบั พลับพลา

49

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔ สหัสสเดชะ

50 • สีขาว
• มี ๑,๐๐๐ หนา้ ๒,๐๐๐ มอื
• ทรงมงกฎุ ยอดชยั
• อาวธุ ประจ�ำตัว คือ กระบองวิเศษ
สหสั สเดชะ พญารากษส เจา้ เมอื งปางตาล
มีกระบองวิเศษเป็นอาวุธ ถ้าชี้ท่ีต้นกระบองตรงไป
ท่ีผู้ใดผู้นั้น จะตาย ถ้าเป็นปลายกระบองผู้ท่ีตาย
ก็จะฟื้น เรียกคุณวิเศษของกระบองน้ีว่า “ชี้ต้นตาย
ชี้ปลายเป็น” สหัสสเดชะได้รับพรจากพระพรหมว่า
เม่ือจะรบกับผู้ใด ถ้าพลในกองทัพของผู้น้ันได้เห็น
รูปร่างของสหัสสเดชะก็จะแตกกระจายไปเอง
มีอุปราชคือน้องชายชื่อมูลพลัม ซ่ึงเป็นเพ่ือนกับ
ทศกัณฐ์ เมื่อทศกัณฐ์ขอช่วยให้มูลพลัมออกรบ
ท้าวสหัสสเดชะก็ยกทัพไปช่วยด้วย ภายหลัง
เมื่อทราบว่าน้องชายตายจึงออกไปรบแต่สุดท้าย
กถ็ กู หนมุ านฆ่าตาย

เปยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

เบญกาย

• สีเหลืองทอง
• มี ๑ หนา้ ๒ มือ
• สวมมงกุฎกษัตริยต์ รีย์ (รัดเกลา้ เปลว)
เบญกาย เป็นลูกสาวพิเภก ทศกัณฐ์ให้แปลงกายเป็นสีดา
ตายลอยนำ�้ ไปติดอยทู่ ่ที า่ นำ้� ทีพ่ ระรามจะลงสรง เพอ่ื ใหพ้ ระรามเหน็
ว่านางสีดาตายแล้ว ก็จะเลิกทัพกลับไป คร้ังแรกที่พระรามเห็น
ศพนางสดี ากค็ ดิ วา่ นางสดี าตายจรงิ กโ็ กรธหนมุ านทไี่ ปฆา่ ลกู ทศกณั ฐ์
และเผาเมืองลงกาจึงเป็นสาเหตุท่ีทศกัณฐ์ต้องฆ่านางสีดา
หนมุ านจงึ ขอพสิ จู นโ์ ดยการน�ำรา่ งของนางสดี าไปเผาไฟ สดุ ทา้ ย
นางสดี าแปลงทนความรอ้ นไมไ่ ดจ้ ึงกลายรา่ งเป็นนางเบญกาย
แล้วเหาะหนีไป หนุมานจึงไปจับตัวมาถวายพระราม
พระรามทราบวา่ เปน็ ลกู ของพเิ ภก พเิ ภกพพิ ากษาวา่ ใหป้ ระหารชวี ติ
แต่พระรามยกโทษให้ จึงส่ังให้หนุมานน�ำไปส่งให้ถึงเมืองลงกา
นางเบญกายจึงได้ตกเป็นเมียของหนุมาน มีลูกด้วยกัน ๑ คน
ชอื่ อสรุ ผดั

51

เปยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

ตัวละครโขนฝา่ ยลงิ

พาลี

• สเี ขียว ปากอ้า
• มงกุฎยอดบดั อาวธุ คือ ตรเี พชรและพระขรรค์
• พญาวานร มอี ีกชื่อหน่งึ ว่า พญากากาศ
พาลี เป็นลูกของพระอินทร์กับนางกาลอัจนา คราวหน่ึง
เขาพระเมรุเอียง พระอิศวรขอแรงเทวดา รวมทั้งพญากากาศ
และสุครีพ ช่วยกันท�ำให้ตรง พญากากาศเป็นผู้เอาบ่ายันดันจน
ต้ังตรงดังเดิม พระอิศวรประทานช่ือใหม่ว่าพาลี และประทาน
ตรีเพชร กับพรว่า ถา้ มใี ครเปน็ ขา้ ศกึ ไปรบกใ็ หก้ �ำลงั ลดจากตวั ผนู้ นั้
คร่ึงหน่ึงเข้าไปรวมเพิ่มก�ำลังพาลี แต่สุดท้ายก็ต้องตายด้วยศร
ของพระรามเพราะผดิ ค�ำสาบานทไี่ ดใ้ หไ้ วต้ อ่ พระนารายณ์ เมอื่ สนิ้ ใจ
กไ็ ปเกดิ เปน็ เทพบตุ รในสวรรค์ คร้ังทศกัณฐ์ต้ังพิธีชุบหอกกบิลพัท
ท่ีหาดทรายกรด เชิงเขาพระเมรุพระอิศวรตรัสให้เทพบุตรพาลี
ไปท�ำลายพิธี
52

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

ชามภวู ราช

• สีแดงชาด ปากอ้า
• มงกุฎชัย อาวุธ คือ พระขรรค์
• พญาวานร มีอีกช่ือหนึ่งวา นิลเกสร
ชามภูวราช ก�ำเนิดจากไม้ไผ่ท่อนปลาย ท่ีงอกข้ึนมาหน้าอาศรมฤษี
สขุ วฒั นะ ไดน้ �ำไปถวายพระอศิ วรทรงท�ำเปน็ คนั ธนู เมอ่ื ลองโกง่ ดกู ห็ กั เปน็ สองทอ่ น
จึงทรงโยนลงกับพื้นดิน ท่อนปลายกลายเป็นชามภูวราช คร้ังต่อมาเมื่อพระราม
ท�ำศึกกับทศกัณฐ์ เป็นผู้ออกความคิดเรื่องจองถนนขา้ มไปกรุงลงกา และเมื่อครั้ง
ศึกอินทรชิตท�ำพิธีชุบศรนาคบาศ ได้แปลงร่างเป็นพญาหมีด�ำไปท�ำลายพิธี
เสรจ็ ศึกลงกาได้บรรดาศักด์ิเปน็ อปุ ราชเมอื งปางตาล

53

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

สุครพี

• สแี ดงเสน หรือ สีแดงชาด ปากอา้
• สวมชฎายอดบัด อาวธุ คือ พระขรรค์
• พญาวานร โอรสพระอาทติ ย์กับนางกาลอัจนา
มีชายา ชื่อ ดารา

สุครีพ เมื่อถูกพาลีผู้เป็นพ่ีชายขับออกจากเมือง
หนมุ านพาไปถวายตัวแดพ่ ระราม คร้ันพระรามสงั หารพาลี
ตายไดร้ บั อภเิ ษกใหเ้ ปน็ เจา้ เมอื งขดี ขนิ ไดป้ ระทานนางดารา
เป็นชายา นับเป็นทหารเอกตัวหนึ่งของพระราม มีหน้าท่ี
ส�ำคัญเป็นผู้จัดเตรียมกองทัพ ส�ำหรับออกรบกับฝ่ายยักษ์
เมื่อเสร็จศึกลงกาได้บรรดาศักด์ิเป็นพระยาไวยวงศา
มหาสรุ เดชเจา้ เมอื งขดี ขิน

54

ปเยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

หนมุ าน

• สขี าวผ่อง ปากอา้
• หัวโล้น (เมื่อไปท�ำกลเข้าอยู่กับทศกัณฐ์ สวมมงกุฎยอดบัด
และเมอื่ เป็นเจ้าเมืองนพบรุ ีสวมมงกุฎยอดชยั )
• อาวุธ คือ ตรเี พชร (เมอื่ ต้องการใช้จะชกั ออกมาจากหน้าอก)
หนมุ าน พญาวานร (ลิงเผือก) บตุ รพระพายกบั นางสวาหะ เกิดจาก
เทพอาวุธ คือ ตรี จักร คทา และก�ำลังของพระอิศวร ทรงให้พระพายน�ำไป
ซัดใส่ในปากนางสวาหะ และมอบหมายให้ทั้งสองเป็นพ่อแม่ เม่ือเกิดเผ่นโผน
ออกมาจากปากแม่ มีลกั ษณะพิเศษ คือ มีกณุ ฑล ขนเพชร เขย้ี วแก้ว หาวเป็น
ดาวเดือน สามารถแผงฤทธเ์ิ ป็น สี่หน้า แปดมอื มีบทบาทเป็นทหารเอกส�ำคัญ
ของพระรามในการปราบบรรดาอสรุ พงศต์ า่ ง ๆ และมสี ว่ นส�ำคญั ในการสงั หาร
ทศกณั ฐ์ เมอ่ื เสรจ็ ศกึ ลงกา ไดบ้ รรดาศกั ด์ิ
เปน็ พระยาอนชุ ติ จกั รกฤษณพ์ พิ รรธพงศา
พระรามมอบกรุงอโยธยาให้ครอง
ครึ่งหน่ึงแต่ถวายคืน จึงสร้าง
เมอื งนพบรุ ีให้ครอง หนมุ านมีภรรยา
๖ นาง คอื นางบษุ มาลี นางเบญกาย
นางสุพรรณมจั ฉา นางวานรินทร์ นางมณโฑ และ นางสุวรรณกันยมุ า
มบี ตุ ร ๒ ตน คือ อสรุ ผัด และมจั ฉานุ

55

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

ชมพพู าน

• สหี งส์ชาด ปากอ้า
• สวมมงกุฎชยั อาวธุ คือ พระขรรค์

ชมพพู าน พญาวานร เกดิ จากเหงอ่ื ไคลพระอศิ วร ไดไ้ ปอยู่
เมืองขีดขนิ พร้อมหนมุ าน มีความรทู้ างดา้ นสรรพยาวเิ ศษ ท�ำหนา้ ที่
เป็นแพทย์ประจ�ำกองทัพพระราม เมื่อพระรามให้หนุมานกับองคต
ไปถวายแหวนนางสีดา ได้ให้ชมพูพานไปด้วย เสร็จศึกลงกา
ไดบ้ �ำเหนจ็ ความชอบเปน็ อุปราชเมอื งชมพู

56

เปยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

องคต

• สีเขยี วมรกต ปากหุบ
• สวมมงกฎุ สามกลีบ อาวธุ คอื พระขรรค์

องคต พญาวานร โอรส (ลูก) พญาพาลี
กับนางมณโฑ เม่ือนางมณโฑตั้งครรภ์ทศกัณฐ์มาขอนางคืน
พระฤษีอังคตอาจารย์พาลี จึงแหวะท้องของนางเอาลูกไป
ใสใ่ นทอ้ งแพะ เมอื่ ครบก�ำหนดคลอดจงึ ท�ำพธิ แี หวะทอ้ งแพะ
น�ำออกมาตั้งชื่อให้ว่า องคต ครั้นพาลีตายพญาสุครีพ
ผเู้ ปน็ นา้ น�ำไปถวายตวั เปน็ ทหารพระราม นบั วา่ เปน็ ทหารเอก
ท่ีมีบทบาทส�ำคัญในการท�ำศึกสังหารทศกัณฐ์และเหล่า
อสุรพงศ์ เม่ือเสร็จศึกลงกาได้ปูนบ�ำเหน็จแต่งต้ังให้เป็น
พระยาอนิ ทรนภุ าพ อปุ ราชเมอื งขดี ขิน

57

เปยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

นลิ พทั

• สนี �ำ้ รัก หรือสีด�ำขลบั ปากอ้า
• หัวโล้น สวมมาลัยทอง หรือเก้ยี วทอง ถือพระขรรค์
เปน็ อาวุธ
นิลพทั พญาวานร (ในโคลงประจ�ำภาพนับเข้าเป็นหน่งึ
ในสิบแปดมงกุฎ) บุตรพระกาล ไม่ปรากฏช่ือแม่ พระอิศวร
ประทานใหเ้ ปน็ หลานทา้ วมหาชมพู เพอ่ื ชว่ ยดแู ลกจิ การบา้ นเมอื ง
เมื่อพระรามประชุมพล ท้าวมหาชมพูถวายให้แก่พระราม
พร้อมไพร่พลเพ่ือเป็นทหารไปท�ำศึกกับทศกัณฐ์ พระรามใช้ให้
คมุ พลเมอื งชมพไู ปจองถนน เพือ่ ยกพลขา้ มไปเมืองลงกา แต่ไป
ทะเลาะววิ าทกับหนุมานทคี่ มุ ไพร่พลเมอื งขีดขนิ พระราม
โกรธไล่ให้กลับไปรกั ษาเมอื งขดี ขนิ ท�ำหนา้ ท่ีจดั หาเสบียง
ส่งบ�ำรุงกองทัพ เมื่อเสร็จศึกลงกา เกิดศึกเมืองมลิวัน
พระรามสั่งให้พระพรต พระสัตรุดยกกองทัพไปปราบ
นิลพัทอาสาเป็นทหารหน้าแทนต�ำแหน่งหนุมาน
เมอื่ เสร็จศกึ ไดป้ ูนบ�ำเหน็จแต่งตัง้ ให้เป็น พญาอภยั พทั วงศ์
อปุ ราชเมอื งชมพู

58

ปเยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

นลิ นนท์

• สหี งสบาท หรือสหี งเสนเจอื เหลือง
• ปากอ้า หัวโล้น สวมมาลัยทอง หรือเกี้ยวทอง
ถือพระขรรค์ เปน็ อาวุธ
นลิ นนท์ พญาวานร ฝา่ ยเมอื งชมพู (ในโคลงประจ�ำภาพ
นบั เขา้ เปน็ หนงึ่ ในสบิ แปดมงกฎุ ) บตุ รพระเพลงิ ไมป่ รากฏชอื่ แม่
เม่ือเสร็จศึกเมืองลงกา ได้ปูนบ�ำเหน็จแต่งต้ังให้เป็น อุปราช
เมืองชมพู ครั้นเม่ือเกิดศึกเมืองมลิวัน พระพรตใช้ใหเ้ ปน็ ทตู
ไปเชิญท้าวจักรวรรดิมาเฝ้า แต่ท้าวจักรวรรดิไม่ยอมมา
จงึ ส�ำแดงฤทธิห์ กั ยอดปราสาทน�ำไปถวายพระพรต

59

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

หวั โขน หรือ ศีรษะโขน

หน้าโขนหรือหัวโขน ในเร่ืองรามเกียรติ์มีอยู่ - วานร มที งั้ พญาวานรท่สี วมมงกฎุ เชน่ พาลี
เปน็ จ�ำนวนมากทงั้ เทพเจา้ ฤษี พระ ยกั ษแ์ ละลงิ มสี สี นั สุครีพ ชมพูพาน ฯลฯ ที่สวมมาลัยทอง เช่น หนุมาน
ลกั ษณะศริ าภรณ์ หรือเคร่ืองประดับศีรษะตามฐานานุศักดิ์ นลิ พทั ฯลฯ วานรสบิ แปดมงกฎุ เตียวเพชรจังเกยี งและ
และลักษณะปาก ตา ที่แตกต่างกัน หน้าโขนหรือหัวโขน เขนลิง เปน็ ต้น
จ�ำแนกตามตัวละครประเภทตา่ ง ๆ ดงั นี้ - ยักษ์ มที ้ังสวมมงกฎุ เรยี กว่า “ยกั ษย์ อด” เช่น
- เทพเจ้าและเทวดาต่าง ๆ เช่น พระอศิ วร ทศกณั ฐ์ พเิ ภก อนิ ทรชติ มารศี ฯลฯ ไมส่ วมมงกฎุ เรยี กวา่
พระพรหม พระนารายณ์ พระอนิ ทร์ พระอรชนุ พระมาตุลี “ยักษโ์ ลน้ ” เชน่ กมุ ภกรรณ ส�ำมนักขา ฯลฯ หนา้ โขนยกั ษ์
เปน็ ตน้ ยังมีลกั ษณะเฉพาะแตกตา่ งกนั ไปอกี เชน่ ปาก เขยี้ ว ตา
- พระครูพริ าพและพระครฤู ษี เปน็ ต้น
- พระ (มนุษย์) เช่น ท้าวอัชบาล พระราม - สัตว์ต่าง ๆ เช่น ครุฑ นาค นกสดายุ
พระลกั ษมณ์ พระพรต พระสตั รดุ เป็นตน้ นกสมั พาที กวางทอง ม้าอปุ การ ทรพี ทรพา เป็นตน้

60

ปเยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

เพลงท่ีใชป้ ระกอบการแสดงโขน

เพลงหน้าพาทย์เป็นส่วนประกอบท่ีส�ำคัญใน
การแสดงโขนและละคร เปน็ เพลงท่ีใช้บรรยายอากปั กิรยิ า
พฤติกรรม อารมณ์ตา่ ง ๆ ของตัวโขน ละคร หรอื ใช้ส�ำหรบั
อัญเชิญเทพเจ้า ฤษี ครูบาอาจารย์ให้มาร่วมในพิธีไหว้ครู
และพธิ มี งคลต่าง ๆ เพลงหน้าพาทยถ์ อื ว่าเป็นเพลงชน้ั สูง
และมีความศักดิ์สิทธ์ิ จึงมักจะบรรเลงตามขนบเดิม ไม่มี
การดดั แปลงหรือเปล่ยี นแปลงแตอ่ ยา่ งใด
เพลงหนา้ พาทยส์ ามารถจ�ำแนกไดเ้ ปน็ ๒ ประเภท
ดว้ ยกนั คอื เพลงหน้าพาทยธ์ รรมดา และเพลงหนา้ พาทย์
ชั้นสูง
เพลงหน้าพาทย์ธรรมดา หรือหน้าพาทย์เบื้องต้น
เป็นเพลงบรรเลงที่ใช้ในการแสดงทั่วไป หรือใช้ประกอบ
กริ ยิ าอาการของตวั ละครธรรมดาสามญั เปน็ เพลงหนา้ พาทย์
ที่ไม่บังคับความยาว เม่ือจะหยุดหรือจบเพลง นักดนตรี
ปี่พาทย์จะดูท่าร�ำของผู้แสดงเป็นหลัก มักใช้ในการแสดง
ละคร ได้แก่ เพลงช้า เพลงเร็ว เพลงเชดิ เพลงเสมอ เพลง
รวั เพลงโอด เปน็ ตน้
เพลงหน้าพาทย์ชั้นสูง เป็นเพลงหน้าพาทย์
ท่ีใช้ประกอบอากัปกิริยาของตัวละครสูงศักดิ์ หรือเทพเจ้า
เป็นเพลงที่บังคับความยาว จะตัดท�ำนองให้สั้นหรือเติม
ให้ยาวตามชอบใจไม่ได้ ผู้ร�ำจะต้องฟังจังหวะของเพลง
เป็นส�ำคัญ หน้าพาทย์ชนิดนี้จะใช้ในการแสดงโขน ละคร
และใช้ในพิธีไหวค้ รู ครอบครโู ขน ละคร เชน่ เพลงตระนิมติ
ตระบองกัน บาทสกุณี เปน็ ตน้

61

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การพากย์ - เจรจา

การพากยเ์ จรจาถอื เปน็ องคป์ ระกอบส�ำคญั อยา่ งหนง่ึ
ของการแสดงโขน เนื่องจากตัวโขนในสมัยโบราณทุกตัว
ต้องสวมหน้าโขน (หัวโขน) ไม่สามารถส่ือสารด้วยเสียง
หรอื ภาษาพดู จงึ ตอ้ งมผี ทู้ �ำหนา้ ทพ่ี ากยแ์ ละเจรจาแทน คนพากย์
เจรจานับว่ามีความส�ำคัญยิ่งในการแสดงโขน ต้องเป็น
ผู้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องราวและวิธีแสดงในตอนน้ัน ๆ
อยา่ งแจม่ แจง้ ทง้ั ตอ้ งจดจ�ำ ค�ำพากยเ์ จรจา ซง่ึ เปน็ กวนี พิ นธ์
ส�ำหรับแสดงแต่ละตอน และต้องใช้ปฏิภาณไหวพริบ
ในการเจรจาให้ถูกต้องตามเรื่องราว ผู้พากย์เจรจาต้องท�ำ
สุ้มเสียงให้เหมาะกับตัวโขนและใส่ความรู้สึกให้สอดคล้อง
กบั อารมณใ์ นเรอื่ ง เชน่ เจรจาตวั พระกต็ อ้ งท�ำเสยี งใหส้ ภุ าพ
เจรจาตัวยักษ์ก็ต้องท�ำเสียงให้กร้าวดุดัน เมื่อตัวโขน
แสดงอารมณ์อย่างไรก็ต้องเจรจาใส่ความรู้สึกลง
ใหส้ มบทบาท

62

ผลสกาว่ รนดำท�เนี่ ๓ินงาน

โครงการโขนเยาวชนชายแดนใต้
ประจำ�ปี ๒๕๕๘-๒๕ ๖๔

63

พระลักษมณ์

64

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

โขนเยาวชนชายแดนใต้
ประจำ�ปี ๒๕๕๘

ส�ำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี จัดโครงการ ในการฝึกหัด ฝึกซ้อมและจัดการแสดงผลงาน
โขนเยาวชนชายแดนใต้ เพอ่ื มงุ่ เนน้ เยาวชนในพื้นที่ จงั หวัด ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากวิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง ซึ่งเป็น
ชายแดนภาคใต้ ไดแ้ ก่ จงั หวดั ปตั ตานี จงั หวดั ยะลา จงั หวดั สถานศึกษาในสังกัดสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวง
นราธวิ าส และจงั หวดั สงขลา ไดเ้ รยี นรศู้ ลิ ปวฒั นธรรมอนั เปน็ วัฒนธรรม เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ และฝึกปฏิบัติ
เอกลักษณ์ของชาติ และจะได้มีโอกาสน�ำมิติทางวัฒนธรรม การแสดงอยา่ งเขม้ ขน้ ใหแ้ กเ่ ยาวชนในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้
สร้างความสมานฉันท์ ผ่านเยาวชนสู่ประชาชนในพื้นท่ี กจิ กรรมท่ดี �ำเนนิ การมีดงั น้ี
ตลอดจนไดเ้ ปดิ โอกาสรว่ มกนั สบื สานงานศลิ ปใ์ หอ้ ยคู่ แู่ ผน่ ดนิ
ไทยสบื ไป การด�ำเนนิ งานโครงการโขนเยาวชนชายแดนใต้
ประจ�ำปี ๒๕๕๘ มเี ยาวชนจากโรงเรยี นตา่ ง ๆ สนใจเขา้ รว่ ม
กิจกรรม จ�ำนวน ๗๘ คน เป็นนักเรียนจากสถานศึกษา
ท้ังในจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และ
จงั หวัดสงขลา จ�ำนวน ๕ แหง่ ดงั น้ี จงั หวดั ปตั ตานี ไดแ้ ก่
โรงเรยี นเดชะปตั ตนยานุกลู โรงเรียนเบญจมราชูทศิ จงั หวดั
ปัตตานี โรงเรียนโพธ์ิคีรีราชศึกษา โรงเรียนเมืองปัตตานี
จังหวัดนราธิวาส ไดแ้ ก่ โรงเรยี นสคุ ริ ินวิทยา

65

ปเยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

๑. การอบรมใหค้ วามรู้และฝกึ ปฏบิ ตั โิ ขนเบอ้ื งต้น ๒. ร่วมแสดงโขนกับนักแสดงจากกรมศิลปากร
โดยจัดการอบรมเฉพาะวนั เสาร์ และวนั อาทิตย์ ในระหวา่ ง ตอน “ยกรบ” ในงานร้อยใจ ๑๐๐ ปี นราธิวาส
วนั ท่ี ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ถงึ วนั ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘ และงานกาชาด จงั หวดั นราธวิ าส ในวนั ที่ ๑๐ เดอื น มถิ นุ ายน
ประกอบด้วย พ.ศ. ๒๕๕๘
๑.๑ บรรยายใหค้ วามรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกบั การแสดง ๓. การแสดงโขนเฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระนาง
โขน ได้แก่ ประวัติความเป็นมา และประเภทของโขน เจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เครื่องแต่งกาย เคร่ืองดนตรีท่ีใช้ประกอบการแสดงโขน เร่ือง รามเกียรต์ิ ตอน “ศึกพรหมาศ” ในวันท่ี ๑๘
และนาฏยศพั ทเ์ บือ้ งตน้ เกี่ยวกบั โขน สิงหาคม ๒๕๕๘ โดยจัดการแสดง จ�ำนวน ๒ รอบ
๑.๒ จ�ำแนกผเู้ ขา้ รบั การอบรมตามกลมุ่ ประกอบดว้ ย รอบเช้าในเวลา ๐๙.๓๐ น. และรอบบ่ายในเวลา
ฝา่ ยพลบั พลา ฝา่ ยลงกา ฝา่ ยเทวดา พระ นาง และฝกึ ปฏบิ ตั ิ ๑๓.๓๐ น. ณ หอประชุมชูเกียรติ ส�ำนักงานอธิการบดี
โขนเบอื้ งต้น มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขตปตั ตานี อ�ำเภอเมอื ง
๑.๓ บรรยายความรู้กอ่ นดโู ขนเรอ่ื ง รามเกยี รติ์ ปัตตานี จังหวัดปัตตานี มีเยาวชนและประชาชนเข้าชม
ตอน ศกึ พรหมาศ และฝึกปฏบิ ัติโขน แยกตามกลุ่ม การแสดงผลงานในรอบเชา้ และรอบบา่ ย จ�ำนวน ๘ ๐ ๐ คน

66

ปเยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจำ� ปี ๒๕๕๘

ตอน “ศกึ พรหมาศ”

เรื่องยอ่
ทศกณั ฐเ์ จา้ พระนครลงกา ทรงทราบขา่ วสมเดจ็ พระเจา้ หลาน คอื แสงอาทติ ย์
และมังกรกัณฐ์เสียทีแก่ทัพพระราม จึงตรัสสั่งให้กาลสูรไปทูลอินทรชิตให้เร่งชุบ
ศรพรหมาศ ยกไปราญรอนกบั กองทพั พระลกั ษมณ์ อนิ ทรชติ แสรง้ ท�ำกลแปลงกายา
เป็นองค์อมรินทรา(พระอินทร์) ให้การุณราชแปลงเป็นคชาเอราวัณ พร้อมกับ
ให้โยธาทั้งหลายกลายเพศเป็นเทพบุตรและเทพธิดา ออกมาจับระบ�ำร�ำฟ้อน
กลางเวหา พระลกั ษมณแ์ ละพลวานร หลงกล คดิ วา่ องคอ์ มรนิ ทรา เทพบตุ ร เทพธดิ า
มาจบั ระบ�ำร�ำฟอ้ นดว้ ยความหรรษา จงึ พศิ เพลนิ ดว้ ยความจ�ำเรญิ ตา เปน็ ทใี หอ้ นิ ทรชติ
แผลงศรพรหมาศต้ององค์พระลักษมณ์และพลวานรสลบไสลทั้งกองทัพ เว้นแต่
หนุมานไม่ต้องศรศิลปอินทรชิต จึงขึ้นราญรอนกับอินทรชิต หนุมานตีควาญท้าย
คชาอาสัญและง้างหักคอพญาเอราวณั ได้ส�ำเร็จ แต่กต็ ้องคันศร อนิ ทรชติ ฟาดสลบ

67

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

อยู่กลางสนามรบ ฝ่ายอินทรชิตและโยธาทั้งหลายก็เลิกทัพกลับพระนครลงกา
ด้วยความหรรษา เม่ือความทราบถึงพระรามจึงรีบรุดมาช่วยเหลือ ครั้นเดินทางมาถึง
สนามรบ ก็พบกับหนุมานซ่ึงกลับฟื้นคืนมาเมื่อพระพายพัดต้องกาย หนุมานจึงทูลความ
ท้ังหมดให้พระรามได้ทราบ เมื่อพระรามตรัสถามวิธีแก้ไขกับพิเภก พิเภกโหราจารย์
จึงกราบทูลว่ามีสรรพยาท่ีจะแก้ไขให้กลับฟื้นคืนมาได้อยู่ในภูผาชื่ออาวุธ พระรามจึงใช้
ใหห้ นุมานเดินทางไปเอาสรรพยามาแก้ไข กองทัพพระลักษมณ์จึงกลับฟื้นคืนมา
68

ปเยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

โขนเยาวชนชายแดนใต้
ประจำ�ปี ๒๕๕๙

การด�ำเนนิ งานโครงการโขน เยาวชนจากวิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง กิ จ ก ร ร ม ท่ี ด�ำ เ นิ น ก า ร
เยาวชนชายแดนใต้ ประจ�ำปี และได้รับความอนุเคราะห์วิทยากร โครงการโขนเยาวชนชายแดนใต้
๒๕๕๙ มีเยาวชนจากโรงเรียน ในการฝึกหัด ฝึกซ้อมและการแสดง ประจ�ำปี ๒๕๕๙ มดี งั ตอ่ ไปน้ี
ต่าง ๆ สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรม จ�ำนวน ผลงาน จากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ๑. เรยี นรจู้ ากประสบการณ์
๘๒ คน เป็นนักเรียนจากสถาน ดังนี้ วิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง จรงิ โดยการน�ำเยาวชนโขนชายแดนใต้
ศึกษาท้ังในจังหวัดปัตตานี จังหวัด วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิต ไปชมการแสดงโขนพระราชทาน
ยะลา จังหวัดสงขลา และจังหวัด พัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม ๒. เข้าค่ายฝึกซ้อมโขน
นราธิวาส จ�ำนวน ๑๒ แห่ง ดังน้ี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โรงเรียน โดยจัดการอบรมให้ความรู้และฝึก
จงั หวดั ปตั ตานี ไดแ้ ก่ โรงเรยี นเดชะ พะตงประธานคีรีวัฒน์ มหาวิทยาลัย ปฏิบตั โิ ขนเบอ้ื งต้น
ปตั ตนยานกุ ลู โรงเรยี นเบญจมราชทู ศิ สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ๓. จัดแสดงผลงานโขน
จังหวัดปัตตานี โรงเรียนโพธ์ิคีรีราช โรงเรยี นเบญจมราชทู ศิ จงั หวดั ปตั ตานี เยาวชนชายแดนใต้ ประจ�ำปี
ศกึ ษา โรงเรยี นเมอื งปตั ตานี โรงเรยี น โรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา โรงเรียน ๒๕๕๙
วุฒิชัยวิทยา โรงเรียนเจริญศรีศึกษา เมอื งปตั ตานแี ละโรงเรยี นสคุ ริ นิ วทิ ยา
วิทยาลัยการอาชพี ปตั ตานี วิทยาลัย 69
อาชวี ศกึ ษาปัตตานี วทิ ยาลัยเทคนิค
ปัตตานี จังหวัดนราธิวาส ได้แก่
โรงเรยี นสคุ ริ นิ วทิ ยา จงั หวดั สงขลา ไดแ้ ก่
โรงเรียนพะตงประธานคีรีวัฒน์ และ

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

เรียนรู้จากประสบการณ์จริงโดยการนำ� เยาวชนโขนชายแดนใต้ไปชมการแสดง
โขนพระราชทาน
กลมุ่ เยาวชนโขนชายแดนใตไ้ ดเ้ รยี นรจู้ ากประสบการณจ์ รงิ โดยไดร้ บั โอกาสใน
การเขา้ ชมการแสดงโขนพระราชทาน ตอน พรหมาศ ในระหวา่ งวนั ที่ ๔ – ๗ ธนั วาคม
๒๕๕๘ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร
โดยคุณอนุศาสน์ สุวรรณมงคล สมาชิกวุฒิสภา และส�ำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด
ปัตตานี เป็นผู้ดูแลและอ�ำนวยความสะดวกในการน�ำคณะนักเรียนไปชมการแสดง
โขนพระราชทาน ณ หอประชมุ ใหญ่ ศนู ยว์ ัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรงุ เทพมหานคร
เข้าคา่ ยฝกึ ซ้อมโขน โดยจดั การอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏิบตั ิโขนเบอื้ งตน้
การเข้าค่ายฝึกซ้อมโขน ในระหว่างวันท่ี ๒๓ - ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙
ณ สวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อ�ำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
และค่ายฝึกซ้อมก่อนแสดงผลงาน ในระหว่างวันท่ี ๓ - ๖ กันยายน ๒๕๕๙
ณ หอประชุมโรงเรียนเมืองปัตตานี อ�ำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี กิจกรรม
ประกอบดว้ ย
๑. บรรยายใหค้ วามรเู้ บอื้ งตน้ เกยี่ วกบั การแสดงโขน ไดแ้ ก่ ประวตั คิ วามเปน็ มา
และประเภทของโขน เคร่ืองแต่งกาย เครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดงโขน
และนาฏยศพั ท์เบ้ืองตน้ เก่ียวกับโขน
๒. จ�ำแนกผเู้ ขา้ รบั การอบรมตามกลมุ่ ประกอบดว้ ย ฝา่ ยพลบั พลา ฝา่ ยลงกา
ฝ่ายเทวดา พระ นาง และฝึกปฏิบัตโิ ขนเบื้องตน้
๓. บรรยายความรู้ก่อนดูโขนเรื่อง รามเกียรต์ิ ตอน นางลอย ซ่ึงเป็นตอน
ท่ีจะใช้ในการแสดงโขนเยาวชนชายแดนภาคใต้ ในปี ๒๕๕๙ และฝึกปฏิบัติโขน
แยกตามกลุ่ม ดังน้ี ถีบเหลี่ยม ฉีกขา ฝึกตีลังกา ล้อเกวียน ซิกแซก เดินลิง
เข้ากระบวนการยกรบ ยักษ์ – ลิง ฝึกซ้อมนั่งเมืองลงกา (เก้ียวนาง) ฝึกซ้อม
ฉากพลับพลา ฝกึ ซอ้ มเพลงเตา่ เห่ (ฝา่ ยพลับพลา) ฝกึ ซ้อมออกกราวใน (ฝ่ายลงกา)
และเตน้ เสา ถองสะเอว ดดั มือ - แขน
70

เปยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

เข้าค่ายฝึกซ้อมโขน ในระหว่างวันท่ี ๒๓ – ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙
ณ สวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรมติณสูลานนท์ อ�ำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา

71

ปเยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การฝึกซ้อมโขน ก่อนการแสดงผลงาน ในวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๙
ณ หอประชุมชูเกียรติ ส�ำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
72

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจ�ำปี ๒๕๕๙

การแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เรอื่ ง รามเกยี รต์ิ ตอน “นางลอย” วนั ที่ ๗ กนั ยายน ๒๕๕๙ จดั แสดงจ�ำนวน ๒ รอบ รอบเชา้ ในเวลา ๐๙.๓๐ น.
และรอบบ่ายในเวลา ๑๓.๓๐ น. ณ หอประชุมชูเกียรติ ส�ำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี อ�ำเภอเมืองปตั ตานี จังหวดั ปตั ตานี มนี ักเรียน นักศึกษา เยาวชนและประชาชนเข้าชมการแสดง
รอบเชา้ และรอบบา่ ย จ�ำนวน ๘๐๐ คน

นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจ�ำกระทรวงวัฒนธรรม
เป็นประธานในพิธีเปิดการแสดงผลงาน

73

เปยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การแนะน�ำตัวละครในการให้ความรู้ก่อนดูโขน

บรรยากาศการเข้าชมการแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจ�ำปี ๒๕๕๙
74

ปเยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจำ� ปี ๒๕๕๙

ตอน “นางลอย”

เรอ่ื งย่อ
ทศกัณฐ์ หาทางคิดจะตัดศึกพระราม จึงหาแผนการท่ีจะท�ำให้พระรามยกทัพกลับ โดยใช้
ให้นางเบญกาย ลูกสาวของพิเภก แปลงกายเป็นนางสีดา ท�ำตายลอยน�้ำไปท่ีหน้ากองทัพพระราม
เบญกายกลวั พระอาญา ของทศกณั ฐผ์ เู้ ปน็ บติ ลุ า ไมอ่ าจทดั ทานไดจ้ งึ ทลู วา่ ยงั ไมเ่ คยเหน็ รปู รา่ งหนา้ ตา
ของนางสีดามาแต่ก่อน จะขอดูรูปร่างนางสีดาจะได้แปลงกายให้ถูกต้อง ทศกัณฐ์จึงจัดให้ขบวน
วอช่อฟ้าแหน่ างเบญกายเพ่ือไปดรู ปู โฉมนางสดี า ณ สวนขวญั
ครั้งถึงสวนขวัญนางเบญกายจึงเข้าไปหานางตรีชฎาผู้เป็นมารดา ซ่ึงถูกถอดยศให้มา
คอยรบั ใชน้ างสีดา นางตรีชฎาคร้ันรู้ว่าทศกัณฐ์ใช้นางเบญกายมาด้วยจะท�ำกล จึงเสียใจเป็นยิ่งนัก
ด้วยพเิ ภกผ้สู ามี ได้ไปอยกู่ องทัพพระราม นางเบญกายจึงขอเขา้ ไปดตู ัวนางสีดา ครน้ั ถงึ จงึ เขา้ ไปเฝา้
นางสีดาทูลถวายตัวว่าเป็นบุตรของพิเภกและตรีชฎา พร้อมทั้งลอบดูโฉมนางสีดา คร้ันจ�ำได้ม่ันคง
จึงทลู ลานางสดี ากลับ
นางเบญกายจึงแปลงเป็นนางสีดาเข้าไปเฝ้าทศกัณฐ์ ขณะนั้นทศกัณฐ์ ก�ำลังส�ำราญอยู่
ในปราสาท คร้นั เหน็ เบญกายจ�ำแลงมาเข้าใจว่าเปน็ นางสีดาเขา้ มาหาจึงออกไปเกยี้ วพาราสี จนเป็น
ทขี่ บขันของเหลา่ นางก�ำนัล

75

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

นางเบญกายอบั อายเปน็ ยง่ิ นกั จงึ แปลงกายคนื เชน่ เดมิ ทศกณั ฐค์ รนั้ เหน็
เป็นนางเบญกายตกใจนัก จึงแก้เก้อ ส่ังให้นางเบญกายรีบไปที่กองทัพพระราม
นางเบญกายจึงเหาะข้ามมหาสมุทรไปจนถึงเขาเหมติรัน แล้วแปลงกายเป็น
นางสีดาท�ำตายลอยนำ�้ ไปวนอยทู่ ี่หน้ากองทพั พระราม
ครนั้ รงุ่ เชา้ พระรามตน่ื บรรทมพรอ้ มพระลกั ษมณ์ จงึ ตรสั ชวนพระลกั ษมณ์
และเหลา่ วานร ไปสรงนำ�้ รมิ ฝง่ั แมน่ ำ�้ ครน้ั เหน็ นางเบญกายแปลง ตายลอยนำ้� มา
พระรามเข้าใจว่าเป็นนางสีดา จึงว่ิงเข้าไปอุ้มมาบนฝั่ง และทรงพระกรรแสง
ดว้ ยคดิ วา่ เปน็ นางสดี าจรงิ
เมื่อพระรามทอดพระเนตรเห็นหนุมานจึงกริ้วโกรธ ด้วยคิดว่าหนุมาน
ไปหักสวนขวาและฆ่าสหสั กมุ ารบตุ รทศกัณฐ์ตาย ทศกณั ฐจ์ ึงฆ่านางสีดาทงิ้ น้ำ� มา
หนมุ านจงึ ทลู วา่ นางสดี านอี้ าจเปน็ ยกั ษแ์ ปลงมา ดว้ ยศพกย็ งั ไมเ่ นา่ เปอ่ื ย และลอย
ทวนนำ�้ มาจนถงึ หนา้ พลบั พลา หนมุ านจงึ ขอพสิ จู นโ์ ดยการน�ำศพมาเผาไฟ แมเ้ ปน็
นางสดี าจรงิ หนมุ านยอมถกู ประหารชวี ติ พระรามเหน็ ดว้ ย จงึ สง่ั ใหส้ คุ รพี คมุ วานร
ท�ำเชิงตะกอนเพ่อื เผาศพนางสดี าแปลง เมือ่ เชงิ ตะกอนเสร็จจึงใหน้ �ำศพนางสดี า
วางบนเชงิ ตะกอน แลว้ จดุ ไฟเผา ใหเ้ หลา่ ทหารวานรลอ้ มไว้ เบญกายครน้ั โดนไฟเผา
ทนไม่ได้จึงเหาะข้ึนตามเปลวควันหนีไป หนุมานจึงเหาะตามจับนางเบญกาย
เพอ่ื น�ำตวั มาถวายพระรามเพื่อใหร้ บั โทษ

76

เปยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

77

ปเยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

โขนเยาวชนชายแดนใต้
ประจำ�ปี ๒๕ ๖๐

การด�ำเนินงานโครงการโขนเยาวชนชายแดนใต้ วิทยาเขตปัตตานี โรงเรียนเบญจมราชูทิศจังหวัดปัตตานี
ประจ�ำปี ๒๕๖๐ มีเยาวชนจากโรงเรียนต่าง ๆ สนใจ โรงเรียนโพธ์ิคีรีราชศึกษา โรงเรียนเมืองปัตตานี และ
เข้าร่วมกิจกรรม จ�ำนวน ๘๐ คน เปน็ นักเรียนจากสถาน โรงเรียนสุคิรินวทิ ยา
ศกึ ษาทง้ั ในจงั หวดั ปตั ตานี จงั หวดั ยะลา จงั หวดั สงขลา และ กจิ กรรมทดี่ �ำเนนิ การโครงการโขนเยาวชนชายแดนใต้
จังหวัดนราธวิ าส จ�ำนวน ๑๓ แห่ง ดังน้ี จงั หวดั ปัตตานี ประจ�ำปี ๒๕๖๐ มดี ังต่อไปนี้
ได้แก่ โรงเรยี นเบญจมราชูทิศจงั หวดั ปตั ตานี โรงเรียนเดชะ ๑. เขา้ คา่ ยฝกึ ซอ้ มโขน โดยจดั การอบรมใหค้ วามรู้
ปัตตนยานุกูล โรงเรียนเมืองปัตตานี มหาวิทยาลัยสงขลา และฝกึ ปฏบิ ตั โิ ขนเบอ้ื งตน้
นครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี วิทยาลัยการอาชีพปัตตานี ๒. การแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้
วิทยาลัยเทคนิคปัตตานี วิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี ประจ�ำปี ๒๕๖๐
โรงเรียนเจริญศรีศึกษา โรงเรียนโพธ์ิคีรีราชศึกษา จังหวัด เข้าค่ายฝึกซ้อมโขน โดยจดั การอบรมให้ความร้แู ละฝกึ
นราธวิ าส ไดแ้ ก่ โรงเรยี นสคุ ริ นิ วทิ ยา โรงเรยี นวดั เกษตรธกิ าราม ปฏิบัตโิ ขนเบื้องตน้
จังหวัดสงขลา ได้แก่ โรงเรียนพะตงประธานคีรีวัฒน์ การเขา้ คา่ ยฝกึ ซอ้ มโขน ในระหวา่ งวนั ท่ี ๒๔ - ๒๙
และนักเรียนจากวิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง จังหวัดพัทลุง เมษายน ๒๕๖๐ ณ สวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม
และได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรในการฝึกหัด ฝึกซ้อม ตณิ สลู านนท์ อ�ำเภอเมืองสงขลา จงั หวดั สงขลา และค่าย
และการแสดงผลงาน จากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ดังน้ี ฝึกซ้อมก่อนแสดงผลงาน ในระหว่างวันท่ี ๒๘ – ๓๑
วทิ ยาลัยนาฏศลิ ปพัทลุง วทิ ยาลยั นาฏศิลป สถาบนั บัณฑติ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ณ โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี
พัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อ�ำเภอเมอื งปตั ตานี จังหวดั ปัตตานี กจิ กรรมประกอบด้วย
โรงเรยี นพะตงประธานครี วี ฒั น์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์

78

ปเยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การฝกึ ซ้อมโขน ก่อนการแสดงผลงาน
ในระหว่างวันท่ี ๒๘ - ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐

ณ โรงแรม ซี.เอส.ปตั ตานี และ ณ หอประชุมชูเกยี รติ ส�ำนักงานอธิการบดี
มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปตั ตานี

๑. บรรยายใหค้ วามรเู้ บอ้ื งตน้
เก่ียวกับการแสดงโขน ได้แก่ ประวัติ
ความเป็นมาและประเภทของโขน
เคร่ืองแต่งกาย เครื่องดนตรีท่ีใช้
ประกอบการแสดงโขน และนาฏยศัพท์
เบื้องต้นเกี่ยวกบั โขน
๒. จ�ำแนกผูเ้ ขา้ รับการอบรม
ตามกลุ่ม ประกอบด้วย ฝ่ายพลับพลา
ฝา่ ยลงกา ฝา่ ยเทวดา พระ นาง และ
ฝกึ ปฏบิ ตั โิ ขนเบอ้ื งต้น
๓. บรรยายความรู้ก่อนดโู ขน
เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ท้าวมาลีวราช
วา่ ความ ซงึ่ เปน็ ตอนทจ่ี ะใชใ้ นการแสดง
โขนเยาวชนชายแดนภาคใต้ ในปี ๒๕๖๐
และฝึกปฏิบัติโขน แยกตามกลุ่ม ดังน้ี
ถบี เหล่ียม ฉีกขา ฝึกตลี ังกา ลอ้ เกวยี น
ซิกแซก เดินลงิ เข้ากระบวนการยกรบ
ยกั ษ์ – ลงิ ฝกึ ซอ้ มนง่ั เมอื งลงกา (เกยี้ ว
นาง) ฝึกซ้อมฉากพลับพลา ฝึกซ้อม
เพลงเต่าเห่ (ฝ่ายพลับพลา) ฝึกซ้อม
ออกกราวใน (ฝ่ายลงกา) และเตน้ เสา
ถองสะเอว ดัดมือ-แขน

79

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจำ� ปี ๒๕๖๐

การแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เร่ือง รามเกียรต์ิ ตอน “ท้าวมาลีวราชว่าความ” วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ จัดแสดงจ�ำนวน ๒ รอบ
ในเวลา ๐๙.๓๐ น. และ ๑๓.๓๐ น. ณ หอประชุมชูเกียรติ ส�ำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี มีเยาวชนและประชาชนเข้าชมการแสดง จ�ำนวน ๑,๐๐๐ คน

นายภาณุ อุทัยรัตน์
ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ในการแก้ไข
ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
เป็นประธานในพิธีเปิดการแสดงผลงาน

80

ปเยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

บรรยากาศการเข้าชมการแสดง
ผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจ�ำปี ๒๕๖๐

81

เปยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจำ� ปี ๒๕๖๐

ตอน ท้าวมาลวี ราชวา่ ความ

เรอื่ งยอ่
ทา้ วมาลวี ราชเปน็ พรหมสห่ี นา้ ไดร้ ว่ มพงศพ์ รหมกบั ทา้ วสหมลวิ นั ทา้ วมาลวี ราชนน้ั เดมิ มชี อื่ วา่
ทา้ วมาลวี คั คพรหมเปน็ พชี่ ายแหง่ ทา้ วจตพุ กั ตรแ์ ละเปน็ ปขู่ องทศกณั ฐ์ ทงั้ ยงั เปน็ เจา้ แกห่ มเู่ ทพคนธรรพ์
ในเขายอดฟา้ ครงั้ เมอ่ื พระอศิ วรทรงประทานคทาเพชรและพรทไ่ี มแ่ พฤ้ ทธแ์ิ กอ่ สรุ พรหมแลว้ ทา้ วมาลี
วัคคพรหมก็หว่ันใจเพราะอสุรพรหมเป็นอันธพาลจะท�ำให้โลกเดือดร้อน จึงทูลความหว่ันใจของตน
แก่พระอิศวร พระอิศวรทรงประทานพระขรรค์กับพร เพ่ือไปมอบให้ท้าวอัชบาล โดยให้พระขรรค์
ชนะคทาเพชรทา้ วมาลวี คั คพรหมกบั ทา้ วอชั บาลจงึ เปน็ มติ รตอ่ กนั ทงั้ ทา้ วมาลวี คั คพรหมกบั ทา้ วอชั บาล
จงึ ประดจุ เปน็ ปู่แหง่ องคพ์ ระราม
82

ปเยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

ทา้ วมาลวี คั คพรหมเปน็ ผทู้ ตี่ งั้ อยใู่ น ความยตุ ธิ รรม จงึ ไดร้ บั พรจากพระอศิ วรใหม้ วี าจาสทิ ธ์ิ
และได้นามใหม่ว่าท้าวมาลีวราช เม่ือทศกัณฐ์ต้องพ่ายแพ้สงคราม กับพระรามครั้งแล้วคร้ังเล่า
จนไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร ช่วยในการท�ำศึก จึงนึกถึงท้าวมาลีวราช ผู้มีวาจาสิทธิ์สามารถ
สาปแชง่ ผนู้ นั้ ๆ วินาศให้ไปตามค�ำสาปได้ เพราะประสงค์ ให้ท้าวมาลีวราชสาปพระราม จึงได้ไป
เชิญท้าวมาลีวราชไปท่ีลงกาด้วยตนหมายจะกล่าวโทษฝ่ายพระราม แล้วให้ท้าวมาลีวราชสาป
ฝา่ ยพระรามใหบ้ รรลยั แตท่ า้ วมาลวี ราชกลบั ไมเ่ ขา้ ไปในเมอื งลงกา เพยี งแตป่ ระทบั อยทู่ สี่ นามรบ
อนั เปน็ กลาง ระหวา่ งคกู่ รณที งั้ สองฝา่ ย และเพอื่ ความยตุ ธิ รรมทา้ วมาลวี ราช จงึ ไดป้ ระกาศประชมุ
เทวดา นางฟา้ อีกทงั้ ฤษีนักสทิ ธิ์ วทิ ยาธร นาค ครฑุ คนธรรพ์ ให้มาร่วมเปน็ สักขีพยาน
ในการว่าความครัง้ น้ี ทศกัณฐก์ ล่าวโทษฟ้อง ฝา่ ยพระราม ก่อนวา่ พระรามเปน็ พาล
ยกกองทัพวานรมาหมายรกุ รานกรุงลงกา ท้าวมาลีวราช จงึ ให้ไปเชญิ พระรามมาแก้ความ
พระรามกลับกล่าวโทษ ฟ้องทศกัณฐ์ว่าเป็นเพราะทศกัณฐ์ใช้อุบายไปลักพานางสีดา
มเหสขี องตน มาไว้ในเมอื งลงกาก่อน ตนจงึ ต้องยกกองทัพมาตามนางสีดากลับคนื
ท้าวมาลีวราชจึงให้ไปเชิญ นางสีดาคนกลางต้นเรื่องการฟ้องร้อง
มาสอบถามความเป็นจริง ค�ำใหก้ ารของนางสีดากบั พระรามสอดคล้องถกู ต้อง
ตรงกันทัง้ เหล่าเทพเทวาอันมพี ระอินทรเ์ ปน็ ประธาน ยงั เปน็ สกั ขพี ยาน
ยืนยันได้ว่าพระรามเป็นฝ่ายถูก ท้าวมาลีวราช
จงึ พพิ ากษาให้ทศกณั ฐ์สง่ นางสดี าคืนให้แกพ่ ระราม
แต่ทศกัณฐ์ไม่ยอมกลับต่อว่าด่าทอ ท้าวมาลีวราช
ด้วยความโกรธอย่างไม่เคารพย�ำเกรงท้าวมาลีวราช
จงึ สาปให้ทศกณั ฐ์นั้นพา่ ยแพ้สงครามและตายดว้ ยศรของพระราม

ท้าวมาลวี ราช

83

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

84

เปยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

85

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

โขนเยาวชนชายแดนใต้
ประจำ�ปี ๒๕ ๖๑

การด�ำเนินงานโครงการโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจ�ำปี ๒๕๖๑ มีเยาวชนจาก
โรงเรียนต่าง ๆ สนใจเข้าร่วมกิจกรรม จ�ำนวน ๘๐ คน เป็นนักเรียนจากสถานศึกษา
ทั้งในจังหวัดปตั ตานี จงั หวดั ยะลา จังหวัดสงขลา และจังหวัดนราธิวาส จ�ำนวน ๑๓ แห่ง ดงั นี้
จังหวัดปัตตานี ได้แก่ โรงเรียนเบญจมราชูทิศจังหวัดปัตตานี โรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล
วิทยาลัยเทคนิคปัตตานี โรงเรียนโพธ์ิคีรีราชศึกษา โรงเรียนเมืองปัตตานี โรงเรียนจ้องฮ้ัว
โรงเรียนเจริญศรศี ึกษา โรงเรียนจิปิภพพทิ ยา มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขตปัตตานี
จงั หวัดนราธวิ าส ไดแ้ ก่ โรงเรียนสุคิรินวิทยา โรงเรียนวดั เกษตรธิการาม จงั หวัดสงขลา ได้แก่
โรงเรียนพะตงประธานคีรีวัฒน์ และวิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง และได้รับความอนุเคราะห์
วิทยากรในการฝึกหัด ฝึกซ้อมและการแสดงผลงาน จากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ดังน้ี
วิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม
มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม โรงเรยี นเมอื งปตั ตานี และโรงเรยี นสคุ ิรินวิทยา
กิจกรรมที่ด�ำเนนิ การโครงการโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจ�ำปี ๒๕๖๑ มดี ังต่อไปนี้
๑. คดั เลือกเยาวชนเขา้ รว่ มโครงการเยาวชนโขน
๒. การเขา้ ค่ายฝึกซ้อมโขน โดยจัดการอบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบัติโขนเบือ้ งต้น
๓. การแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจ�ำปี ๒๕๖๑
86

คัดเลือกเยาวชนเข้าร่วมโครงการโขนเยาวชนชายแดนใต้
ประจำ� ปี ๒๕๖๑
ส�ำนกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั ปตั ตานี จดั กจิ กรรมคดั เลอื ก
เยาวชนเขา้ รว่ มโครงการโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจ�ำปี ๒๕๖๑
ในวันท่ี ๑๑ เมษายน ๒๕๖๑ ณ โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี
อ�ำเภอเมอื งปตั ตานี จงั หวดั ปตั ตานี มเี ยาวชนเขา้ รว่ มการคดั เลอื ก
จ�ำนวน ๑๐๐ คน
การเข้าค่ายฝึกซ้อมโขน โดยจัดการอบรมให้ความรู้และ
ฝึกปฏิบัติโขนเบ้ืองต้น
การเขา้ ค่ายฝึกซ้อมโขน ระหวา่ งวนั ท่ี ๑ - ๔ พฤษภาคม
๒๕๖๑ ณ สวนประวตั ศิ าสตรพ์ ลเอกเปรม ตณิ สลู านนท์ อ�ำเภอเมอื ง
สงขลา จงั หวัดสงขลา และระหว่างวันท่ี ๓ - ๕ สิงหาคม ๒๕๖๑
ณ โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี อ�ำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี
กิจกรรมประกอบดว้ ย
๑. บรรยายใหค้ วามรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั การแสดงโขน ไดแ้ ก่
ประวตั คิ วามเปน็ มาและประเภทของโขน เครอื่ งแตง่ กาย เครอ่ื งดนตรี
ที่ใชป้ ระกอบการแสดงโขน และนาฏยศพั ทเ์ บอ้ื งต้นเกี่ยวกบั โขน
๒. จ�ำแนกผู้เข้ารับการอบรมตามกลุ่ม ประกอบด้วย
ฝา่ ยพลบั พลา ฝ่ายลงกา ฝา่ ยเทวดา พระ นาง และฝกึ ปฏบิ ตั ิโขน
เบือ้ งต้น
๓. บรรยายความรกู้ อ่ นดโู ขนเรอื่ ง รามเกยี รต์ิ ตอน สามอสรุ า
คง่ั แค้น อบุ ายแผนทศพกั ตร์ หริรักษไ์ ดพ้ ล ผจญอรินทรพ์ า่ ย ซ่ึงเป็น
ตอนที่จะใช้ในการแสดงโขนเยาวชนชายแดนภาคใต้ ในปี ๒๕๖๑
และฝึกปฏบิ ตั โิ ขน แยกตามกล่มุ ดงั นี้ ถีบเหลยี่ ม ฉกี ขา ฝึกตลี งั กา
ลอ้ เกวยี น ซกิ แซก เดนิ ลิง เขา้ กระบวนการยกรบ ยกั ษ์ – ลงิ ฝกึ ซอ้ ม
นงั่ เมอื งลงกา (เกยี้ วนาง) ฝกึ ซอ้ มฉากพลบั พลา ฝกึ ซอ้ มเพลงเตา่ เห่
(ฝ่ายพลับพลา) ฝึกซ้อมออกกราวใน (ฝ่ายลงกา) และเต้นเสา
ถองสะเอว ดดั มอื -แขน

87

ปเยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การฝึกซ้อมก่อนการแสดงผลงาน วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๑
ณ หอประชุมชูเกียรติ ส�ำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
88

ปเยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจ�ำปี ๒๕๖๑

การแสดงโขนเฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนี
พันปีหลวง เรื่อง รามเกียรต์ิ ตอน “สามอสุราค่ังแค้น อุบายแผนทศพักตร์ หริรักษ์ได้พล
ผจญอรินทร์พ่าย” ในวันท่ี ๖ สิงหาคม ๒๕๖๑ จัดแสดง จ�ำนวน ๒ รอบ คือ รอบเช้า
เวลา ๐๙.๓๐ น. และรอบบ่ายเวลา ๑๓.๓๐ น. ณ หอประชุมชูเกียรติ ส�ำนักงานอธิการบดี
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี อ�ำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี มีเยาวชน
และประชาชนเขา้ ชมการแสดงรอบเช้า และรอบบ่าย จ�ำนวน ๑,๐๐๐ คน

ดร.พงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์
ท่ีปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
เป็นประธานในพิธีเปิดการแสดงผลงาน

89

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

บรรยากาศการเข้าชมการแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจ�ำปี ๒๕๖๑

การให้ความรู้ก่อนดูโขน และมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้ที่ตอบค�ำถาม

90

ปเยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจ�ำปี ๒๕๖๑

ตอน “สามอสรุ าคัง่ แคน้ อบุ ายแผนทศพกั ตร์ หรริ ักษ์ไดพ้ ล ผจญอรินทร์พา่ ย”

เรื่องย่อ ท้าวความ

วันหน่ึงทศกัณฐ์จะไปเท่ียวป่าเจ็ดวัน จึงให้ชิวหาผู้เป็นน้องเขยเฝ้าเมืองไว้ ชิวหาจึงเนรมิต
ตัวเท่า บรมพรหม แลบลิ้นปิดกรุงลงกาไว้ ทศกัณฐ์กลับมาเห็นกรุงลงกามืดทึบคิดว่าข้าศึกมาฆ่า
ชิวหาตายแล้วยึดเมืองได้ จึงขว้างจักรตัดล้ินชิวหาขาดตายโดยไม่ได้ตั้งใจ นางส�ำมนักขาเสียใจมาก
และต้องอยู่คนเดียวตลอดมา จึงคิดหาคู่เดินทางเข้าป่าไป นางส�ำมนักขาพบพระรามก็นึกรัก
จึงแปลงกายเป็นหญิงสาวขอเป็นเมียพระราม พระรามไม่ยอม นางส�ำมนักขาเห็นนางสีดา รู้ว่าที่
พระรามไมร่ กั ตนเปน็ เพราะนางสีดาจงึ เขา้ ทบุ ตี พระลกั ษมณ์โกรธจงึ ตดั มือ ตัดเทา้ จมกู และหู ของ
นางส�ำมนักขา นางจึงไปฟ้องพระยาขร พระยาขรออกมาต่อสู้กับพระราม ต้องศรพรหมาสตร์ตาย
ไพรพ่ ลยกั ษจ์ งึ ไปฟอ้ งพระยาทษู ณ์ พระยาทษู ณอ์ อกมาตอ่ สกู้ บั พระราม ถกู ฆา่ ดว้ ยศรพรหมาสตร์ และ
พี่ชายอีกคนชอ่ื พระยาตรเี ศียรมาแก้แค้นให้ จงึ ถกู พระรามฆา่ อกี คน

91

ปเยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

ทศกัณฐ์ลกั นางสีดา

นางส�ำมนักขาเห็นพระยาทูษณ์ พระยาขร โกรธกลบั เปน็ รา่ งเดมิ แลว้ อมุ้ นางสดี าไป ฝา่ ยนกสดายคุ ดิ ถงึ
และพระยาตรีเศียรตาย จึงไปฟ้องทศกัณฐ์ ทศกัณฐ์ได้ฟัง พระนารายณ์จึงบินไปเย่ียม ระหว่างทางเห็นทศกัณฐ์ลักพา
โกรธแคน้ มาก คดิ จะออกมาฆา่ พระราม พระลกั ษมณ์ แตน่ าง นางสีดาไปก็โกรธ เข้าขัดขวางและต่อสู้กัน ทศกัณฐ์เกือบ
ส�ำมนักขากลวั พชี่ ายจะไปฆ่าพระราม จึงแนะน�ำให้ทศกณั ฐ์ จะแพ้ สดายุได้พูดเย้ยเยาะว่าตนไม่กลัวใคร นอกจาก
ไปเอานางสีดามาเป็นเมีย พร้อมกับพูดถึงความงามของ พระอิศวรและพระนารายณ์ รวมท้ังแหวนของพระอิศวร
นางสีดาด้วย ทศกัณฐ์ได้ฟังก็หลงรัก จึงให้มารีสแปลงเป็น ท่ีนิ้วนางสดี า ทศกัณฐ์จึงถอดแหวนนนั้ จากนางสดี าขวา้ งไป
กวางทอง ไปล่อนางสีดา นางสีดาเห็นเข้าก็อยากได้ ถกู สดายปุ กี หกั ตกลงพนื้ ดนิ แลว้ พานางสดี าไปไวท้ ส่ี วนขวญั
พระรามจงึ ออกตามกวางไป พบว่าเปน็ มารีส พระรามโกรธ และให้โอรสช่ือสหัสกมุ าร เฝา้ ไว้
ที่ได้ไวช้ ีวติ เมอื่ คราวไปท�ำรา้ ยฤาษี แต่ไมร่ ูค้ ุณ จึงแผลงศร ส่วนพระรามเม่ือฆ่ามารีสตาย ก็น�ำกวางกลับมา
ไปถกู มารสี บาดเจบ็ มารสี แกลง้ ท�ำเสยี งเปน็ พระราม รอ้ งเรยี ก ทอ่ี าศรม ระหวา่ งทางพบพระลกั ษมณ์ เมอ่ื กลบั มาถงึ อาศรม
พระลกั ษมณใ์ หไ้ ปชว่ ย นางสดี าจงึ ใหพ้ ระลกั ษมณต์ ามไปชว่ ย จึงพากันติดตามหานางสีดา พบนกสดายุ นกสดายุได้เล่า
ทศกณั ฐจ์ งึ ไดแ้ ปลงกายเปน็ ฤาษมี าหานางสดี า ฤาษกี ลา่ ววา่ ให้ฟัง พร้อมน�ำแหวนนางสีดามาถวายและได้ส้ินชีวิตลง
นางสีดานั้นไม่เหมาะกับพระราม น่าจะเป็นเมียทศกัณฐ์ ยกั ษต์ นหนง่ึ ชอ่ื อสรู กมุ พล ถกู พระอศิ วรสาปมาทนทกุ ขท์ รมาน
มากกว่า นางสีดาโกรธจึงว่า น้องชายของทศกัณฐ์ยังถูก เป็นเวลาหกหม่ืนปีแล้ว พบพระราม และพระลักษมณ์
พระรามฆา่ หมด แลว้ ทศกณั ฐจ์ ะสพู้ ระรามไดอ้ ยา่ งไร ทศกณั ฐ์ เมอื่ รวู้ า่ เปน็ พระนารายณ์ จงึ เลา่ ใหฟ้ งั วา่ ตนถกู พระอศิ วรสาป

92

เปยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

เมื่อพบกับพระรามจึงจะพ้นค�ำสาปแล้วทูลว่า นางสีดาถูกทศกัณฐ์พาไปเมืองลงกาซ่ึงอยู่ไกลมาก ต้องไปถามพระยาพาลี
ที่เมืองขีดขินและยังมีเมืองชมพู ซึ่งอยู่ใกล้กัน ท้ังสองเมืองน้ีมีไพร่พลวานรมากมาย คงจะพาพระรามข้ามไปยังกรุงลงกา
ได้ พระรามไดแ้ ผลงศรพรหมาสตรถ์ กู กมุ พลตาย จงึ พน้ ค�ำสาป จากน้ัน พระราม พระลกั ษมณ์ เดนิ ทางตอ่ ไปถึงปา่ แห่งหนึง่

ถวายพล
ฝ่ายหนุมานได้เที่ยวป่า จนถึงท่ีพระราม พระลักษมณ์ พักผ่อน จึงแปลงเป็นลิงน้อย แกล้งรูดใบไม้โปรยลงมา
พระลักษมณ์โกรธจับศรจะตี หนุมานแย่งศรไป ความทราบถึงพระราม เห็นว่าคงไม่ใช่ลิงธรรมดา เพราะ มีกุณฑล ขนเพชร
เข้ียวแก้ว เมื่อหนุมานรู้ว่าเป็นพระนารายณ์อวตารมา จึงเข้ามาสวามิภักดิ์ พระรามได้เล่าเรื่องท่ีนางสีดาถูกลักพาตัวมา
หนุมานจงึ ทูลวา่ จะไปพาสคุ รพี มาเฝา้

93

94

เปยราะวจช�ำ นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

โขนเยาวชนชายแดนใต้
ประจำ�ปี ๒๕ ๖๒

การด�ำเนินงานโครงการโขนเยาวชนชายแดนใต้ เทคนิคปัตตานี วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก โรงเรียน
ประจ�ำปี ๒๕๖๒ มีเยาวชนจากโรงเรียนต่าง ๆ สนใจ โพธค์ิ รี รี าชศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขต
เข้าร่วมกิจกรรม จ�ำนวน ๑๐๐ คน เป็นนักเรียนจาก ปัตตานี จังหวัดนราธิวาส ได้แก่ โรงเรียนนราสิกขาลัย
สถานศกึ ษาทงั้ ในจงั หวดั ปตั ตานี จงั หวดั ยะลา จงั หวดั สงขลา โรงเรยี นวดั เกษตรธกิ าราม โรงเรยี นสคุ ริ นิ วทิ ยา จงั หวดั ยะลา
และจงั หวดั นราธวิ าส จ�ำนวน ๑๙ แหง่ ดงั นี้ จงั หวดั ปตั ตานี ไดแ้ ก่ โรงเรยี นเฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระศรนี ครนิ ทรย์ ะลา
ได้แก่ โรงเรียนเบญจมราชูทิศจังหวัดปัตตานี โรงเรียน โรงเรยี นสตรยี ะลา โรงเรยี นบนั นงั สตาวทิ ยา จงั หวดั สงขลา
จปิ ภิ พพิทยา โรงเรียนเมืองปตั ตานี โรงเรยี นเทศบาล ๒ ไดแ้ ก่ โรงเรยี นพะตงประธานครี วี ฒั น์ และไดร้ บั ความอนเุ คราะห์
โรงเรียนวรคามินอนุสรณ์ โรงเรียนแหลมทองอุปถัมภ์ วทิ ยากรในการฝกึ หดั ฝกึ ซอ้ มและการแสดงผลงาน จากสถาบนั
โรงเรยี นเจรญิ ศรศี กึ ษา วทิ ยาลยั การอาชพี ปตั ตานี วทิ ยาลยั การศกึ ษาต่าง ๆ ดังน้ี วิทยาลัยนาฏศิลปพทั ลุง วทิ ยาลัย
นาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
กิจกรรมที่ด�ำเนินการโครงการโขนเยาวชน
ชายแดนใต้ ประจ�ำปี ๒๕๖๒ มดี งั ตอ่ ไปน้ี
๑. คดั เลอื กเยาวชนเขา้ รว่ มโครงการเยาวชนโขน
๒. การเข้าค่ายฝึกซ้อมโขน โดยจัดการอบรม
ให้ความรู้และฝึกปฏบิ ตั โิ ขนเบ้อื งต้น
๓. การแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้
ประจ�ำปี ๒๕๖๒

95

ปเยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

คัดเลอื กเยาวชนเข้าร่วมโครงการเยาวชนโขนชายแดนใต้ ประจำ� ปี ๒๕๖๒
จดั กจิ กรรมคดั เลอื กเยาวชนเขา้ รว่ มโครงการเยาวชนโขนชายแดนใต้ ในวนั ท่ี ๒๓ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๒
ณ โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี อ�ำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี โดยจ�ำแนกเยาวชนเข้ารับการคัดเลือก
เป็น ๓ กลุ่ม คือกลุ่มผู้ที่ไม่มีพื้นฐาน กลุ่มท่ีมีพ้ืนฐานข้ันต้น และกลุ่มท่ีมีพื้นฐานขั้นกลางมีเยาวชนเข้ารับ
การคดั เลือก จ�ำนวน ๑๔๐ คน และมีผูผ้ า่ นการคดั เลือกจ�ำนวน ๑๐๐ คน

การเข้าค่ายฝึกซ้อมโขน โดยจดั การอบรมให้ความรู้และฝกึ ปฏิบตั โิ ขนเบอ้ื งต้น
การเขา้ คา่ ยฝกึ ซอ้ มโขน ครงั้ ท่ี ๑ ในระหวา่ งวนั ท่ี ๒๒ - ๒๕ เมษายน ๒๕๖๒ ณ ศนู ยฝ์ กึ อาชพี
ดอนบอสโก อ�ำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ครั้งที่ ๒ ในระหว่างวันท่ี ๗ – ๙ กันยายน ๒๕๖๒
ณ โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี อ�ำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จ�ำนวน ๑๐๐ คน
กิจกรรมประกอบดว้ ย
๑. บรรยายให้ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับการแสดงโขน ได้แก่ ประวัติความเป็นมาและประเภท
ของโขน เครือ่ งแตง่ กาย เครือ่ งดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดงโขน และนาฏยศพั ทเ์ บื้องตน้ เกยี่ วกบั โขน
๒. จ�ำแนกผู้เข้ารับการอบรมตามกลุ่ม ประกอบด้วย ฝ่ายพลับพลา ฝ่ายลงกา ฝ่ายเทวดา
พระ นาง และฝกึ ปฏิบตั โิ ขนเบ้ืองต้น
๓. บรรยายความรู้ก่อนดูโขนเรื่อง รามเกียรต์ิ ตอน อสุรินทร์สิ้นชีวาพระรามาครองเมือง
ซง่ึ เป็นตอนทีจ่ ะใชใ้ นการแสดงโขนเยาวชนชายแดนภาคใต้ ในปี ๒๕๖๒ และฝกึ ปฏิบัตโิ ขน แยกตามกลุ่ม
ดงั น้ี ถีบเหล่ียม ฉกี ขา ฝกึ ตีลังกา ล้อเกวยี น ซิกแซก เดินลิง เขา้ กระบวนการยกรบ ยักษ์ – ลิง ฝกึ ซ้อมนง่ั
เมอื งลงกา (เก้ยี วนาง) ฝกึ ซอ้ มฉากพลับพลา ฝึกซ้อมเพลงเต่าเห่ (ฝา่ ยพลับพลา) ฝกึ ซอ้ มออกกราวใน
(ฝ่ายลงกา) และเต้นเสา ถองสะเอว ดดั มอื - แขน
96

เปยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การเข้าคา่ ยฝึกซ้อมโขน ในระหว่างวนั ที่ ๒๒ - ๒๕ เมษายน ๒๕๖๒
ณ ศูนยฝ์ กึ อาชีพดอนบอสโก อ�ำเภอหนองจกิ จงั หวัดปตั ตานี

การฝกึ ซ้อมกอ่ นการแสดงผลงาน ในระหวา่ งวันท่ี ๗ – ๙ กนั ยายน ๒๕๖๒
ณ โรงแรมซี.เอส.ปตั ตานี และ ณ หอประชุมชเู กียรติ ส�ำนักงานอธกิ ารบดี
มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขตปัตตานี
97

เปยราะวจชำ�นปชี า๒ย๕แ๕ด๘น-ใ๒ต้๕๖๔

การแสดงผลงานโขนเยาวชนชายแดนใต้ ประจำ� ปี ๒๕๖๒

การแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เร่ือง รามเกียรต์ิ ตอน “อสุรินทร์สิ้นชีวาพระรามาครองเมือง”
ในวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๒ ณ หอประชุมชูเกียรติ ส�ำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัย
สงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขตปตั ตานี จดั แสดง ๒ รอบ ในเวลา ๑๐.๓๐ น. และ เวลา ๑๓.๓๐ น.
มีเด็ก เยาวชน และประชาชนเข้าชมการแสดงรอบเช้าและรอบบ่าย จ�ำนวน ๑,๐๐๐ คน

นายประทีป เพ็งตะโก
ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม
เป็นประธานพิธีเปิดการแสดงผลงาน

98


Click to View FlipBook Version