หน่วยที่ 3 การเตรียมพื้นงาน

การเตรียมพื้นงาน (Preparing Surface) เป็นข้ันตอนแรกของการพ่นสีรถยนต์ ซ่ึงเป็นเร่ืองท่ี
ละเอยี ด ออ่ นมาก การวิเคราะหส์ ภาพของชิน้ งาน การจดั ลาดบั ขน้ั การทางาน ตลอดจนการเลือกวสั ดทุ ่ี
จะนามาใชง้ าน เช่น กระดาษทราย สีที่จะพ่น ฯลฯ ลว้ นมีความสาคัญท่ีจะช่วยใหก้ ารทางานไดเ้ ร็ว
ผลงานมีคณุ ภาพ และถกู ตอ้ งตามหลกั การ ทาใหง้ านทไ่ี ดม้ ีความสวยงาม ทนทานสงู และความเงางาม
ตามตอ้ งการ

ชิน้ งานที่เตรยี มตอ้ งมีความเรียบ สะอาดปราศจากไขมนั สนิมต่าง ๆ และแหง้ สนิท การเตรยี มพืน้
งานสาหรบั สีเดิมของรถยนตน์ นั้ บางครงั้ ไม่จาเป็นตอ้ งลอกสีเดิมออกทงั้ หมด เม่ือทาการทดสอบแลว้
พบวา่ คณุ ภาพของสเี ดมิ ยงั ดีอยู่

การเตรียมพนื้ งานมีข้นั ตอนตอ่ ไปนี้

3.1.1 ตรวจสอบสีเดมิ ตอ้ งตรวจสอบ 2 ประการ คอื

1. ตรวจสภาพของสเี ดิม ทาได้ 2 ประการคอื
(1) ตรวจสภาพหรอื คณุ ภาพของสี
(2) ตรวจสภาพการเกาะตวั ระหวา่ งสีกบั ชิน้ งาน

2. ตรวจชนิดของสเี ดิม มวี ิธีการตรวจดงั นี้
(1) ตรวจสอบดว้ ยสายตา
(2) ตรวจสอบดว้ ยตวั ทาละลาย

3.1.2 กาจดั ยาขดั และยาเคลอื บสีออก
รถยนตท์ ่ีผ่านการใชง้ านในทอ้ งถนนแทบทกุ คนั มกั จะใชย้ าขดั และเคลือบสีเพื่อบารุงรกั ษา

และ ถนอมอายุสีแทบทง้ั สิน้ ดงั นนั้ ก่อนจะพ่นสีทบั ลงไป ตอ้ งลา้ งทาความสะอาดผิวเดิมใหท้ ่วั ถึงก่อน
แลว้ จึงขดั ดว้ ยกระดาษทรายเพ่ือกาจดั ยาขดั สี ยาเคลือบสี จาระบีและขผี้ ึง้ อื่น ๆ ท่ีเคลือบผิวสีอย่อู อกให้
หมดเพราะถา้ ขดั ออกไม่หมด จะทาใหส้ ีที่พ่นใหม่พ่นติดไมด่ ี เกิดเป็นเม็ด พองตวั และหลุดล่อนไดใ้ น
ภายหลงั

3.1.3 ขัดสเี ดิมออก
การขดั สนิมและสีเดิมออกจนถึงผิวโลหะ เป็นการกาจดั สนิมในเนือ้ โลหะซึ่งเป็นสาเหตุของ

การ ผกุ รอ่ น สบี วมและแตกแยก อกี ทงั้ ยงั เป็นการปอ้ งกนั การเกิดสนิมในอนาคต และช่วยให้การเกาะตวั
ของสกี บั ชิน้ งานเป็นไปไดด้ ี การขดั สีเดิมออกอาจทาไดด้ ว้ ยการใชม้ ือขดั ในบริเวณแคบ ๆ หรอื เคร่อื งขดั
กระดาษทราย ซึ่งมีทง้ั แบบจานกลมและแบบแบนหนา้ เรยี บ เลือกไดต้ ามความเหมาะสม การขดั ให้เร่ิม
จากกระดาษทรายท่ี หยาบ ตง้ั แต่เบอร์ 100 และลดความหยาบของกระดาษทรายลงไปเร่ือย ๆ จนถึง
เบอร์ 320 ตามลาดบั

การลอกสเี ป็นวิธีทีจ่ ะใชก้ ็ต่อเม่ือตรวจสอบสภาพสีเดิมของรถยนตท์ งั้ ชิน้ หรอื ท้ังคนั แลว้ พบว่ามีการ
เสื่อมสภาพ ทง้ั การเกาะตวั กบั ชิน้ งานและคณุ ภาพของสี จึงจาเป็นตอ้ งลอกสีออกทงั้ หมด

วิธีการลอกสีมี 4 วิธี ดงั นี้

3.2.1 การขัดด้วยมือ (Hand Sanding)
วิธีนมี้ ีขอ้ จากดั คือ คอ่ นขา้ งชา้ ไมส่ ามารถลอกสีเดิมออกไดท้ ง้ั หมด และสิน้ เปลืองแรงงานมาก การ
ขดั กระดาษทรายดว้ ยมือเหมาะสาหรบั ส่วนท่ีเครื่องขดั ไม่สามารถเขา้ ไปขดั ได้ โดยตอ้ งใช้บล็อกไมห้ รือ
บล็อกอะลมู ิเนียมรองกระดาษทรายขดั จะขดั สีออกไดด้ มี พี ืน้ งานเรยี บ สาหรบั บล็อกยางจะเหมาะสาหรบั
ขดั ตามสว่ นโคง้ เนือ่ งจากสามารถออ่ นตวั ได้

3.2.2 การใชเ้ ครื่องขัด (Disc Grinder)
เคร่ืองขดั ในงานสีมีทงั้ แบบไฟฟ้าและแบบลม ส่วนมากจะใชแ้ บบจานกลม ประกอบกบั กระดาษ
ทรายกลม ลกู ขดั ลอกสี แปรงลวด ฯลฯ การใชว้ สั ดขุ ดั แตล่ ะชนดิ มขี อ้ บ่งใชต้ า่ งกนั ไป

3.2.3 การใชค้ วามร้อน (Blow Torch)
ใชห้ วั เช่ือมแก๊สเป่ าใหค้ วามรอ้ น โดยปรบั เปลวไฟแบบคารบ์ ูไรซิ่ง (Carburizing) ที่ใหค้ วาม

รอ้ นต่า ๆ เป่าลงบนผิวสี จะทาใหส้ รี อ้ นพองตวั และลอกออกมา จากนน้ั ใชเ้ กรยี งโป๊ สีเก่าหรอื เหล็กขดู สีขดู
ออก วิธีนสี้ ามารถลอกสีออกไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และประหยดั ขณะเป่ าใหค้ วามรอ้ นตอ้ งขดู สีที่พองตวั ออกให้
หมดใน ครงั้ เดียว จึงจะลอกสีออกไดง้ ่าย หากทิง้ ใหส้ ีหรือพืน้ งานเย็นตวั ลง จะทาใหส้ ีมีความแข็งตวั มาก
กว่าเดิม การ ลอกสีจะทาไดย้ ากมากขนึ้ ขอ้ ควรระวงั การใชค้ วามรอ้ นลอกสีที่สงู เกินไป จะทาใหโ้ ลหะเกิด
การขยายตวั ผิด รูปรา่ งได้

3.2.4 การใชน้ ้ายาลอกสี (Paint Remover)
นา้ ยาลอกสี เป็นกรดอย่างเขม้ ขน้ สาหรบั กดั สี การใช้ นา้ ยาลอกสีจะใชก้ บั ชิ้นงานท่ีตอ้ งการ

ลอก สีออกหมดทงั้ ชิน้ หลงั จากใชน้ า้ ยาลอกสีแลว้ จะตอ้ งลา้ งนา้ และขดั กระดาษทรายอีกครงั้ หนงึ่ นา้ ยา
ลอกสี จะ สามารถลอกสีออกไดด้ ีกบั ผิวงานท่ีเป็นโลหะเท่านน้ั ไม่ใชน้ า้ ยาลอกสีกบั พื้นงานท่ีมีการโป๊ สี
พลาสติก เพราะ จะทาใหป้ ระสิทธิภาพการลอกสีลดลง และไมค่ วรใชก้ บั พืน้ งานท่ีเปียกนา้ เพราะจะทาให้
ความเขม้ ขน้ ของกรด ลดลง ประสิทธิภาพการลอกสีจะลดลงเช่นเดยี วกนั

วธิ ีใช้นา้ ยาลอกสี
1. เทนา้ ยาลอกสีลงในภาชนะโลหะท่ีแหง้ และสะอาด
2. ใชแ้ ปรงขนออ่ นจ่มุ และทานา้ ยาลอกสี ลงบนชิน้ งานในบรเิ วณท่ี ตอ้ งการลอกสี เทา่ นั้ นไม่ ควรทา
ล่วง หนา้ เป็นบริเวณกวา้ งมากเกินไป เพราะเมื่อสีพองจะขดู สีออกไมท่ นั หากสีแหง้ จะทาใหข้ ดู ออกยาก
มากขนึ้
3. ทิง้ ชิน้ งานไวร้ ะยะหนง่ึ ใหน้ า้ ยากดั สีจนสีพองออกมา แลว้ จึงขดู ออกดว้ ยเกรียง เหล็กขดู หรอื ใช้
แปรงลวดขดั ออกใหห้ มด แลว้ จงึ ใชน้ า้ สะอาดลา้ งเพ่ือกาจดั นา้ ยาลอกสใี หห้ มด
4. หลงั จากลา้ งนา้ แลว้ หากตอ้ งการลอกสีซา้ อีกครง้ั ตอ้ งใชล้ มเป่ าหรือทิง้ งานให้แหง้ ก่อน แลว้ จึง
ลอก ใหมเ่ พราะถา้ ชิน้ งานเปียกนา้ จะทาใหค้ วามเขม้ ขน้ ของนา้ ยาลอกสีลดลง ประสทิ ธิภาพในการกดั สจี ะ
ลดลงตาม ไปดว้ ย

ข้อควรระวงั เน่ืองจากนา้ ยาลอกสีเป็นกรดชนิดเขม้ ขน้ ตอ้ งระวงั อย่าใหน้ า้ ยาลอกสีถกู ผิวหนงั หรือ
ตา อยา่ งเด็ดขาด หากถกู ผิวหนงั ใหร้ บี ลา้ งออกดว้ ยนา้ สะอาดทนั ที หากถกู ตาหลงั จากลา้ งดว้ ยนา้ สะอาด
แลว้ ควร พบแพทยท์ นั ที

3.3.1 วัสดุทใ่ี ช้ในการทากระดาษทราย
กระดาษทรายในงานสรี ถยนตม์ ีหลายชนิด แลว้ แตก่ ารออกแบบสาหรบั ใชง้ าน บางชนิดใชข้ ดั

กบั นา้ บางชนิดเหมาะสาหรบั ขดั แหง้ ทงั้ นขี้ นึ้ อยกู่ บั กาวทใ่ี ชใ้ นการประสานผงขดั ว่ามีความทนทานต่อการ
ทาละลายของนา้ หรือไม่ หากกาวทนต่อการละลายของนา้ ได้ เรียกว่ากระดาษทรายนา้ ใชข้ ดั กบั นา้ ได้
สาหรบั กระดาษทรายทใี่ ชใ้ นงานสจี ะเป็นกระดาษทรายทใ่ี ชข้ ดั กบั นา้ เป็นสว่ นมาก

ในการผลิตกระดาษทราย จะใชน้ า้ ยาประสานซึ่งคือกาวชนิดหน่ึงฉาบผิวดา้ นหน่ึงของแผ่น
รอง แลว้ โรยผงขดั บนแผ่นรองใหส้ ม่าเสมอทง้ั แผ่น จากนนั้ จึงอาบดว้ ยกาวอีกครงั้ การเลือกใชช้ นิดของ
กาวขนึ้ อยู่ กบั การใชง้ านของกระดาษทราย โดยแบง่ วิธีการใชก้ าวเป็น 3 ลกั ษณะ ดงั นี้

1. ประสานดว้ ยกาวลาเทก็ ซ์ (ใชก้ าวลาเทก็ ซท์ งั้ ในการฉาบพืน้ และอาบ)
2. ประสานดว้ ยอพี ็อกซี่ (ใชก้ าวลาเทก็ ซใ์ นการฉาบแลว้ อาบดว้ ยอพี ็อกซ่ี)
3. ประสานดว้ ยอีพ็อกซ่ีทงั้ หมด (ฉาบและอาบดว้ ยอีพ็อกซ่ลี ว้ น)

3.3.2 การเลือกใชก้ ระดาษทราย
การเลือกใชก้ ระดาษทรายใหเ้ หมาะสมกบั งานที่ตอ้ งขดั ขนึ้ อย่กู บั ช่างผูเ้ ลือกใช้ หากยงั ไม่มี

ความ ชานาญ สามารถใชต้ ารางที่ 3.1 เป็นแนวทางได้
ตารางที่ 3.1 เบอรก์ ระดาษทรายกบั การใชง้ าน

เบอรก์ ระดาษทรายกับการใช้งาน

สงิ่ ทคี่ วรพจิ ารณาในการเลอื กกระดาษทรายมาขัดชิน้ งาน
1. การเลอื กวิธีขดั วา่ จะเลือกใชแ้ บบใด เช่น ขดั แบบเปียก ขดั แบบแหง้ ขดั แบบก่ึงเปี ยกกึ่งแหง้ เช่น
งานขดั ทงั้ ชิน้ งานอาจใชก้ ารขดั แบบเปียก สว่ นซ่อมรอยแผลเล็ก ๆ ใชก้ ารขดั แบบแหง้ หรือแบบกึ่งเปียก
เป็นตน้
2. ในการขดั กระดาษทรายแบบเปียกใหใ้ ชน้ า้ สะอาดลา้ งขณะขดั มาก ๆ เม่ือขดั เสร็จแลว้ ต้องลา้ ง
คราบ สีออกใหห้ มดทนั ที โดยเฉพาะตามซอกมมุ และรอยตอ่ ตา่ ง ๆ
3. ระวงั ในการขดั ตามขอบกระจก ขอบยาง และขอบโครเมียม เพราะอาจทาใหเ้ กิดรอยขีดข่วน จะ
เกิดความไมส่ วยงามได้ ขดั ตามความยาวของชิน้ งาน ชว่ งความยาวของการขดั ประมาณ 2 ฟตุ ซง่ึ จะพอดี
กบั ชว่ งแขนผขู้ ดั
4. ไม่ควรขดั บริเวณสนั และขอบ หรือเหลี่ยมต่าง ๆ ซา้ กนั หลายครง้ั ใหข้ ดั ดว้ ยวิธีลบู เบา ๆ ก็พอ
หาก ขดั มากจะทาใหฟ้ ิลม์ สีเดมิ ทะลถุ ึงผิวโลหะ ทาใหส้ นั หรอื เหลีย่ มไมค่ ม ไมส่ วยงาม
5. เร่ิมขดั ตามขอบ เช่น ท่ีขอบคิว้ โลหะ โครเมียม ขอบยาง หรือขอบกระจกก่อน เน่ืองจากยังมี
สมาธิ ในการขดั และยงั ไมเ่ หน่อื ยลา้ จากการทางาน จงึ สามารถควบคมุ แนวการขดั ไดด้ ี ทาให้ไมข่ ดั ลา้ ไป
ตามขอบ ดงั กลา่ ว จึงไมเ่ กิดรอยขดู ขดี

ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของการขัดกระดาษทรายแบบเปี ยก มดี งั นี้
ข้อดขี องการขัดดว้ ยกระดาษทรายแบบเปี ยก มดี งั นี้
1. ช่วยกาจดั ฝ่นุ ทเ่ี กิดจากการขดั และเบาแรงในการขดั
2. ช่วยลา้ งคราบสี ทาใหก้ ระดาษทรายไมต่ ดิ คราบสี กระดาษทรายจงึ คมและใชไ้ ดน้ าน
3. ทาใหข้ ดั ไดร้ วดเรว็ และชิน้ งานมีความสะอาด
4. ไดผ้ ิวงานท่เี รยี บดีกวา่ การขดั แหง้

ข้อเสียของการขดั ดว้ ยกระดาษทรายแบบเปี ยก มดี งั นี้
1. การทางานไมต่ อ่ เนื่อง เพราะตอ้ งเสียเวลารอใหช้ ิน้ งานแหง้ สนิทก่อน จึงจะสามารถพ่นสี หรือโป๊
ซอ่ มบนชิน้ งานได้
2. หากมีความจาเป็นตอ้ งเรง่ งาน ตอ้ งใชค้ วามรอ้ นเรง่ ชิน้ งานใหแ้ หง้ เป็นการเพิ่มข้ันตอนการทางาน
ใหม้ ากขนึ้
3. ในกรณีที่ชิน้ งานยงั ไมแ่ หง้ สนิทดีแลว้ พ่นสีทบั ลงไป ความชืน้ จะสะสมอยภู่ ายใตผ้ ิวชิน้ งาน เป็น
สาเหตุ ใหส้ ีดา้ น เกิดฝา้ และอาจเกิดสนมิ ตามมาได้

ข้อดีและขอ้ เสยี ของการขัดด้วยกระดาษทรายแบบแหง้
ในปัจจุบัน เม่ือเทคโนโลยีของสี เครื่องมือ วสั ดุ อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นงานสีไดพ้ ัฒนามากขึน้ อีกทง้ั การ
ซ่อมสี ในปัจจุบนั มีปัจจยั และองคป์ ระกอบหลายอย่างที่ทาใหต้ อ้ งใชเ้ วลาในการซ่อมให้ลดลง ลดวัสดุ
อปุ กรณท์ ี่ใช้ ใหน้ อ้ ยลง จึงมีการพฒั นาคณุ ภาพและประสิทธิภาพของเครอ่ื งขดั กระดาษทราย กระดาษ
ทรายสาหรบั ขดั แหง้ ทีด่ ี มคี ณุ ภาพตามตอ้ งการ ขดั กระดาษทรายแบบแหง้ จงึ มีความจาเป็น และเรม่ิ นิยม
แพรห่ ลายในงานสี มากขนึ้
ขอ้ ดขี องการขดั ด้วยกระดาษทรายแบบแหง้ มดี งั นี้
1. สามารถทางานไดต้ อ่ เนือ่ ง รวดเรว็ เพราะชิน้ งานไมเ่ ปียก
2. มีเครอ่ื งมือ อปุ กรณ์ ทีช่ ว่ ยใหท้ างานไดส้ ะดวก รวดเรว็ ลดเวลาไดม้ าก
3. เหมาะทจี่ ะใชก้ บั การซอ่ มรอยแผล ขดั บรเิ วณเลก็ ๆ งานเรง่ ดว่ นท่ตี อ้ งเสรจ็ ภายในเวลาท่ีจากดั

ขอ้ เสยี ของการขัดดว้ ยกระดาษทรายแบบแหง้
1. เครอื่ งมือ วสั ดุ อปุ กรณ์ มีราคาสงู
2. สนิ้ เปลอื งวสั ดุ อปุ กรณ์ มากกวา่ การขดั แบบเปียก
3. ความละเอยี ดของรอยขดั ยงั ไมเ่ ทา่ การขดั แบบเปียก
4. เกิดฝ่นุ ละอองจากการขดั ตอ้ งปอ้ งกนั และกาจดั ใหด้ ี
5. ยงั ไมเ่ หมาะทจ่ี ะใชก้ บั ขดั ซอ่ มทง้ั คนั เพราะจะทาใหต้ น้ ทนุ สงู

3.3.3 เคร่ืองทนุ่ แรงทใี่ ช้ในงานสี ท่ีใชใ้ น
เครอ่ื งมอื อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นงานสีมอี ยู่ 3 ชนิด ดงั นี้

1. เครื่องขัดแบบไฟฟ้าและแบบลม เป็นเครอ่ื งขดั กระดาษทรายดว้ ยไฟฟา้ หรอื ลม
งาน สีรถยนต์ แบง่ ตามลกั ษณะการทางาน ดงั นี้

(1) แบบหมนุ จงั หวะเดยี ว (Single Action Sander)
(2) แบบหมนุ วนและส่นั (Orbital Action Sander)
(3) แบบหมนุ วนและส่นั เป็นวง (Double Action Sander)

หมายเหตุ เคร่ืองขดั แบบลมมีความปลอดภัยมากกว่า ไม่เสี่ยงกับอันตรายจากไฟฟ้าดูด
แต่อาจมีปัญหา เร่ืองรอบของเคร่ืองในการขดั หากความดนั ลมที่ใช้ไม่ไดต้ ามค่าใชง้ านหรือแรงดนั ลม
ไมส่ ม่าเสมอ เครอ่ื งขดั แบบไฟฟ้าจะไมม่ ปี ัญหาน

การบารุงรักษาเคร่ืองขดั
1. รกั ษารูระบายอากาศใหส้ ะอาดอยเู่ สมอ เพื่อปอ้ งกนั ไมใ่ หม้ อเตอรร์ อ้ นเกินไป
2. สาหรบั เครอื่ งขดั แบบลมตอ้ งหยอดนา้ มนั หลอ่ ลน่ื ตวั เครอื่ งเป็นระยะ ๆ
3. เช็ดทาความสะอาดเครอื่ งขดั ทกุ ครง้ั เมื่อเลกิ ใชง้ าน
4. หม่นั ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยของสายลม สายไฟทกุ ครงั้ ก่อน และหลงั การใชง้ าน

2. แท่งยางแข็งหรือบล็อกยาง ใชส้ าหรบั ขดั ดว้ ยมือ มีทงั้ แบบแข็งและแบบอ่อนใชส้ าหรบั
พนั กระดาษทรายเม่อื ขดั ชิน้ งาน แท่งยางจะมีผิวหนา้ เรียบ แข็ง และสามารถยืดหยนุ่ ไดพ้ อสมควร จึงทา
ใหส้ ามารถ ใชข้ ดั ไดท้ ง้ั งานที่มีสว่ นโคง้ และงานเรยี บ

3. ฟองน้า ใชส้ าหรบั ชุบนา้ เช็ด ลา้ ง ทาความสะอาดคราบแป้งท่ีเกิดจากการขัด ในบางครงั้
สามารถใชผ้ า้ นมุ่ ๆ ทส่ี ะอาดแทนได้

ในกรณีท่พี ืน้ งานมีรอยแผลคอ่ นขา้ งใหญ่จะนิยมใชส้ ีโป๊ พลาสติก (Plastic Filler) ในการโป๊ รอยแผล
เนื่องจากมีเนอื้ สีคอ่ นขา้ งมากและมกี ารแข็งตวั ดสี ามารถโป๊ ไดห้ นา หากแผลไม่ลกึ มากสามารถ โป๊ บาง ๆ
ได้ จะใชส้ โี ป๊ แบบ 2 k (Poly Filler) เพราะเนอื้ ละเอยี ดกว่า การแหง้ ตวั ของสโี ป๊ จะใชน้ า้ ยาเรง่ ใหแ้ หง้

สีโป๊ พลาสติก
ข้นั ตอนการโป๊ สีพลาสติก มีดงั นี้
1. เตรยี มพืน้ งานใหส้ ะอาดดว้ ยการขดั กระดาษทรายหยาบเบอร์ 100 หรอื 150 เป่ าลมหรอื เช็ดให้
สะอาด
2. เปิดกระป๋ องสีโป๊ พลาสตกิ แลว้ คนใหเ้ นอื้ สเี ขา้ กนั อยา่ งท่วั ถึงทกุ ครง้ั ท่ใี ชง้ าน
3. ใชเ้ กรยี งตกั สีโป๊ ออกมาในปรมิ าณที่ตอ้ งการ ปิดกระป๋ องสีทกุ ครงั้ ท่ีตกั เสรจ็

4. หากยงั ไมม่ ีความชานาญมากพอ ใหผ้ สมสโี ป๊ ครงั้ ละนอ้ ย ๆ และโป๊ บอ่ ย ๆ จะประหยดั กว่า
5. ผสมสีโป๊ กบั นา้ ยาเรง่ การแข็งตวั ใหท้ ่วั ถึงทงั้ กอ้ นสีนนั้ ดว้ ยอตั ราสว่ น น้ายา 2 ส่วน : สี 100 ส่วน
โดยใชเ้ วลาไมเ่ กิน 2 นาที หากใชเ้ วลานานเกินไป สีจะแข็งตวั ทาใหโ้ ป๊ ไมท่ นั
6. โป๊ สีตรงส่วนพืน้ งานท่ีตอ้ งการซ่อม ในครง้ั แรกใหก้ ดเกรียงโป๊ รีดสีโป๊ ใหบ้ าง ๆ อย่างท่วั ถึง และ
เนน้ ใหเ้ รยี บมากทส่ี ดุ เป็นการชว่ ยใหส้ ีโป๊ ติดชิน้ งานไดง้ า่ ยขนึ้
7. โป๊ ซา้ ในสว่ นทยี่ งั ไมเ่ รยี บ โดยใหโ้ ป๊ เลยขอบรอยแผลเลก็ นอ้ ย เผื่อการขดั กระดาษทรายไว้
8. เมื่อสีแข็งตวั แลว้ ขดั แต่งดว้ ย กระดาษทราย ตะไบตวั ถงั หรือใชเ้ ครื่องขดั แต่งผิวโดยลดความ
หยาบ ของกระดาษทรายลงเรอื่ ย ๆ จนผิวงานเรยี บ

ข้อบง่ ใช้ในการโป๊ สีพลาสตกิ
1. คนสีพลาสติกใหเ้ ขา้ กนั ดกี ่อนใชง้ านทกุ ครง้ั ปิดฝาใหแ้ นน่ เมือ่ เลิกใช้
2. นวดนา้ ยาเรง่ การแข็งตวั ใหเ้ ขา้ กนั ดที กุ ครงั้ กอ่ นผสมกบั สพี ลาสติก
3. ใชอ้ ตั ราสว่ นการผสมตามคาแนะนาขา้ งกระป๋ อง อย่าผสมนา้ ยาเรง่ การแข็งตวั มากเกินไป จะทา
ให้ สแี ขง็ ตวั เรว็ จนโป๊ ไมท่ นั และเกิดความสิน้ เปลอื งโดยไมจ่ าเป็นและอาจทาใหส้ ีแตกรา้ วไดภ้ ายหลงั
4. ควรใชเ้ วลาในการผสมเพียง 1–2 นาที เทา่ นน้ั หากผสมนานกว่านสี้ จี ะเรม่ิ แข็งตวั ทาใหโ้ ป๊ ไมท่ นั
5. ทาความสะอาดเกรียงโป๊ สีทุกครัง้ ก่อนตักสีในกระป๋ อง เพื่อไม่ให้มีเศษฝุ่น ผงห รือเศษสีโป๊
พลาสติก ท่แี ขง็ แลว้ หลน่ ลงในกระป๋ องสี จะทาใหเ้ มอื่ นาไปโป๊ เกิดรอยเป็นเสน้ ไมเ่ รยี บ

ในการขดั กระดาษทราย สงิ่ ทคี่ วรพจิ ารณา
1. เลือกเบอรก์ ระดาษทรายตามลกั ษณะของงานว่าตอ้ งการความละเอยี ดเพียงใด
2. เลือกวิธีการขดั ว่าตอ้ งการขดั แบบใด เลอื กเครอ่ื งมอื ท่ีตอ้ งการใชใ้ หเ้ หมาะสม
3. หากใชก้ ารขดั แบบเปียก ใหใ้ ชน้ า้ มาก เมอ่ื ขดั เสรจ็ ใหล้ า้ งใหส้ ะอาดทนั ที
4. ระวงั คมกระดาษทรายจะทาใหเ้ กิดรอยตามขอบกระจก ขอบยาง หรอื จดุ ท่ไี มต่ อ้ งการใหเ้ กิด
5. ขดั ตามความยาวรถยนต์ ในแนวท่ขี นานกนั และแบง่ ช่วงความยาวการขดั ชว่ งละประมาณ 24 นวิ้
6. ไมค่ วรขดั ตามเหล่ยี ม สนั มมุ หลาย ๆ ครงั้ ใชก้ ารขดั ลบู เบา ๆ เทา่ นน้ั
7. เรมิ่ ขดั งานตามขอบ เหลยี่ ม เช่น ขอบโครเมย่ี ม ยางขอบกระจกกอ่ น เนอ่ื งจากเรมิ่ ขดั ยงั ไม่เหนื่อย
ลา้ สามารถควบคมุ การขดั ไดด้ ี
8. การขดั แบบเปียกจะไดน้ า้ มาช่วยใหข้ ดั ไดง้ า่ ยขนึ้ ลดฝ่นุ จากการขดั และกระดาษทรายจะสะอาด
ตลอดการขดั ไมเ่ ปลอื งกระดาษทรายมาก

การหาจุดบกพร่องของพนื้ งาน
วิธีตรวจสอบจดุ บกพรอ่ งของพืน้ งาน ทาไดด้ งั นี้
1. ใชน้ า้ ลบู พืน้ งานใหท้ ่วั แลว้ ดจู ากแสงทสี่ ะทอ้ นจากพืน้ งานนนั้ ว่าเรยี บหรือมรี อยแผลอยา่ งไรบา้ ง
2. สวมถงุ มอื ผา้ แลว้ ลบู ไปมาชา้ ๆ บนพืน้ งานใชค้ วามรูส้ กึ สมั ผสั จะสามารถรูส้ กึ ไดด้ กี วา่ ใชม้ ือเปล่า
ลบู

การปิดกระดาษกาวทาเพ่ือปอ้ งกนั สีที่พ่นจะไปติดในสว่ นที่ไม่ตอ้ งการใหส้ ีติด การปิดกระดาษกาว
ท่ีละเอยี ดรอบคอบ มีความประณีตจะทาใหง้ านท่เี ตรยี มไวด้ ดู ี ขอบของสีดคู ม สวยงามเรียบรอ้ ย

หลีกเล่ียงการใชก้ ระดาษหนงั สือพิมพป์ ิดชิน้ งานที่เป็นสี เพราะทินเนอรข์ องสีท่ีพ่นจะทาละลายให้
หมกึ พิมพซ์ มึ เขา้ ไปในเนอื้ สี เกิดปัญหาท่ีตอ้ งทาการแกไ้ ขมากขนึ้ หากจาเป็นตอ้ งใชใ้ หใ้ ชป้ ิดเฉพาะส่วนที่
เป็นกระจกเทา่ นน้ั

วธิ ีปฏิบตั ิในการใชก้ ระดาษกาว
1. ทาความสะอาดบรเิ วณทจ่ี ะปิดกระดาษกาวใหเ้ รยี บรอ้ ย
2. ทาบกระดาษกาวไปบนงานแล้วกดให้ติดแน่น หา้ มดึงหรือยืดกระดาษกาวขณะติด เพราะ
กระดาษกาว จะตงึ และหดตวั หลดุ ออกมาเม่อื โดนทินเนอรจ์ ากการพ่นสี
3. ใหเ้ อากระดาษกาวออกทนั ที เม่อื สีแหง้ หมาด ๆ พอจบั ตอ้ งได้ ไมค่ วรทงิ้ ไวน้ าน
4. หากมีฟิ ลม์ สีเกาะระหว่างพืน้ งานกบั กระดาษกาวจนเป็นเนือ้ เดียวกนั ใหใ้ ชใ้ บคตั เตอรค์ ม ๆ ตดั
ฟิลม์ สใี หข้ าดจากกนั กอ่ นดงึ กระดาษกาวออก
5. ดงึ กระดาษกาวออกใหเ้ ป็นมมุ ฉากกบั ชิน้ งาน ทง้ั นีเ้ พ่ือใหข้ อบของกระดาษกาวช่วยตดั ฟิ ลม์ สีให้
ขาด ได้
6. เก็บกระดาษกาวในทีเ่ ย็นเมื่อไมไ่ ดใ้ ชง้ าน