The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานคณิตม.ต้น-ศิลปหัตถกรรม-เเก้ไข

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by weerut.k, 2022-12-05 00:14:11

โครงงานคณิตม.ต้น-ศิลปหัตถกรรม-เเก้ไข

โครงงานคณิตม.ต้น-ศิลปหัตถกรรม-เเก้ไข

โครงงานคณติ ศาสตร์ประเภทบรู ณาการ
เรือ่ ง ฐานรับนำ้ หนักจากขวดนำ้ และกระดาษเหลอื ใช้

(กระดาษ Reuse)

โดย สีน้ำทอง
สนิ อดุ มวงศ์
1. นางสาวธารประพร วเิ ชียร
2. เด็กหญิงศภุ ธิดา
3. เด็กหญงิ อารายา

ครูท่ีปรึกษา 1. นายวีรฒุ น์ แกว้ นาเสง็
2. นางสาวสณุ สิ า จำปาด๊ะ

โรงเรียนตะกวั่ ทงุ่ งานทววี ทิ ยาคม จงั หวดั พงั งา
สำนกั งานเขตพ้นี ท่ีการศึกษามัธยมศึกษาพังงา ภเู กต็ ระนอง
รายงานฉบบั นี้เป็นส่วนประกอบของโครงงานคณิตศาสตร์
ประเภทบรู ณาการความรใู้ นคณศิ าสตร์ไปประยกุ ต์ใช้ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
เนื่องในงานศลิ ปหตั ถกรรมนกั เรียนคร้ังที่ 70 ประจำปกี ารศึกษา 2565



บทคัดย่อ

หัวขอ้ โครงงาน ฐานรบั นำ้ หนักจากขวดนำ้ และกระดาษเหลอื ใช้ (กระดาษ Reuse)
ผจู้ ดั ทำโครงงาน
1. เด็กหญงิ ธารประพร สนี ้ำทอง
ครทู ป่ี รกึ ษา
ปกี ารศึกษา 2. เดก็ หญิงศภุ ธิดา สนิ อดุ มวงศ์

3. เดก็ หญงิ อารยา วเิ ชยี ร

นายวรี ฒุ น์ แก้วนาเสง็

นางสาวสุณิสา จำปาด๊ะ

2565

โครงงานคณิตศาสตร์ เรื่องฐานรับน้ำหนักจากขวดน้ำและกระดาษเหลือใช้ (กระดาษ Reuse)
มีวตั ถปุ ระสงค์ดงั น้ี

1. เพอื่ ศกึ ษารปู แบบการจดั วางขวดน้ำรูปทรงปริซมึ วา่ รูปทรงแบบใดรบั น้ำหนกั ไดม้ ากที่สุด
2. เพื่อประดิษฐ์ฐานรบั นำ้ หนกั จากขวดน้ำและกระดาษหนังสือพมิ พ์
ผลการศกึ ษาโครงงานพบว่า จากการทำฐานรบั น้ำหนกั ทง้ั หมด 4 แบบ ดงั น้ี
แบบที่ 1 จดั วางฐานแบบสเ่ี หลี่ยม
แบบท่ี 2 จัดวางฐานแบบตวั ไอ
แบบท่ี 3 จดั วางฐานแบบวงกลม
แบบที่ 4 จดั วางฐานแบบสามเหล่ยี ม
โดยใชว้ ัสดชุ นดิ เดยี วกันในการประดษิ ฐ์ คือใช้กระดาษเหลือใช้และขวดน้ำพลาสติก เม่อื นำไปทดสอบ
ด้วยแผ่นรับน้ำหนักดัมเบล พบว่าสามารถจัดอันดับของฐานรับน้ำหนักได้ 4 อันดับดังน้ี อันดับท่ีหนึ่งคือการ
วางรูปแบบส่ีเหลยี่ ม ซึง่ สามารถรับน้ำหนักได้มากที่สุด อันดับทสี่ อง คือการวางรูปแบบวงกลม อันดับทสี่ ามคือ
การวางรปู แบบสามเหลี่ยม และอันดบั สุดทา้ ยคอื การวางรปู แบบตวั ไอ



กติ ตกิ รรมประกาศ

โครงงานฉบับนี้สำเร็จลลุ ่วงไปได้ด้วยการให้ความช่วยเหลือแนะนำของคุณครูวีรุฒน์ แก้วนาเส็ง และ
คุณครูสุณิสา จำปาด๊ะ ซ่ึงเป็นคุณครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่ได้กรุณาที่ให้คำแนะนำ ข้อคิดเห็น ตรวจสอบ และ
แกไ้ ขร่างโครงงานมาโดยตลอด ผู้จดั ทำโครงงานจึงขอกราบขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้

กราบขอบพระคณุ ผู้อำนวยการโรงเรียนตะก่ัวทุ่งงานทวีวิทยาคม นางสาวจริ ภิญญา เกียรตภิ ริพฒั น์
ทใ่ี ห้ความอนุเคราะห์ และให้ความชว่ ยเหลอื ในดา้ นตา่ ง ๆ

ขอขอบพระคุณคุณครูฐิติวารินทร์ เลี้ยงรักษา ซึ่งเป็นคุณครูผู้สอนรายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา
ที่เอ้ืออำนวยให้ใชอ้ ุปกรณใ์ นการทดลอง

อนึ่ง ผู้จดั ทำโครงงานหวังว่า งานวิจัยฉบับน้จี ะมปี ระโยชนอ์ ยไู่ ม่น้อย จงึ ขอมอบส่วนดีทัง้ หมดน้ีให้แก่
เหล่าคุณครูที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาจนทำให้ผลงานโครงงานเป็นประโยชน์ต่อผเู้ กยี่ วขอ้ ง และขอมอบความ
กตัญญูกตเวทิตาคุณแด่บิดา มารดา และผู้มีพระคุณทุกท่านตลอดจนเพื่อนๆ ท่ีคอยให้ความ ช่วยเหลือและ
กำลงั ใจ จนงานสำเร็จลลุ ว่ งดว้ ยดี

คณะผ้จู ดั ทำโครงงาน



คำนำ

การจัดทำโครงงานคณติ ศาสตร์เพอื่ มุ่งการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ท่มี ุง่ เนน้ ให้นักเรียนท่ีมคี วามรู้
ในวิชาคณิตศาสตร์ นำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการจัดทำโครงงาน ในการจัดทำโครงงานน้ีเป็นการใช้
คณติ ศาสตรข์ ้ันพืน้ ฐานเปน็ การผสมผสานวชิ าคณิตศาสตร์ กระบวนการคิด การจัดการอยา่ งสมดุลกับหลักการ
อื่น ๆ เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดส่ิงแปลกใหม่ น่าสนใจและ น่าศึกษาค้นคว้าตลอดจนนำส่ิงรอบตัวมาประยุกต์
เข้ากับการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ให้ได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และสอดคล้องกับความสนใจของผู้จัดทำ
ผจู้ ดั ทำหวังว่าโครงงานคณิตศาสตรน์ ้ีจะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผ้อู ่านและผู้ท่ตี ้องการจะศกึ ษาคน้ คว้าทุกท่าน

คณะผจู้ ัดทำโครงงาน

สารบัญ ง

บทคัดย่อ หน้า
กติ ตกิ รรมประกาศ
คำนำ ก
สารบัญ ข
สารบญั ตาราง ค
สารบัญภาพ ง

บทท่ี 1 บทนำ ฉ
ทม่ี าและความสำคญั
วัตถปุ ระสงค์ของโครงงาน 1
สมมติฐาน 1
ตัวแปรทีศ่ กึ ษา 1
ขอบเขตของโครงงาน 1
นิยามเชิงปฏบิ ัตกิ าร 1
ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รับ 2
2
บทที่ 2 เอกสารที่เก่ยี วข้อง 2
บทท่ี 3 อุปกรณ์และวธิ ีดำเนินการทดลอง 3
บทท่ี 4 ผลการศึกษา 13
บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 18
บรรณานกุ รรม 20
ภาคผนวก 21
22

สารบัญตาราง จ

ตารางท่ี 4.1 แสดงผลการทดลองการรบั น้ำหนกั ของรปู ทรง หน้า
18

สารบญั ภาพ ฉ

ภาพที่ 2.1 แสดงหนา้ ตดั ของเหล็กโครงสร้างชนิดรีดรอ้ น หน้า
ภาพท่ี 2.2 เหล็กโครงสรา้ งชนดิ รดี เย็น (Cold-formed light-gage steel)
ภาพที่ 2.3 ส่วนประกอบของปริซึม 4
ภาพที่ 2.4 ก ปริซมึ สามเหลย่ี มดา้ นเทา่ ข ปริซึมสี่เหลยี่ มจัตุรสั ค ปรซิ ึมห้าเหล่ียม 5
ภาพท่ี 2.5 แทน่ รับรางวลั 5
ภาพที่ 2.6 ตวั อยา่ งของปริซมึ ทพี่ บเห็บเหน็ ในชีวิตประจำวัน 5
ภาพที่ 2.7 อุปกรณก์ ารทำเปเปอร์มาเช่ 6
ภาพท่ี 2.8 ฉีกกระดาษ 6
ภาพท่ี 2.9 เลอื กสว่ นผสมทำเปเปอร์มาเช่ 7
ภาพท่ี 2.10 ผสมสว่ นผสมตามสูตร 7
ภาพที่ 2.11 หาวัตถตุ ้นแบบ 8
ภาพท่ี 2.12 แชห่ นงั สอื พิมพ์ 8
ภาพที่ 2.13 กำจัดส่วนผสมส่วนเกนิ 8
ภาพท่ี 2.14 ติดกระดาษลงบนวตั ถุ 9
ภาพท่ี 2.15 แปะกระดาษเป็นชน้ั 9
ภาพท่ี 2.16 ทง้ิ ไว้ให้แหง้ 9
ภาพที่ 2.17 ลงสี 10
ภาพที่ 2.18 ลดการใช้ 10
ภาพที่ 2.19 ตะกร้าจากพลาสติก 10
ภาพท่ี 2.20 ถ่านไฟฉายแบบชาร์จใหม่ได้และการบริจาค 11
ภาพท่ี 2.21 แปรรูปใช้ใหม่ 11
ภาพที่ 3.1 รปู แบบฐานส่ีเหล่ียม 12
ภาพที่ 3.2 รูปแบบฐานวงกลม 12
ภาพท่ี 3.3 รปู แบบฐานสามเหล่ยี ม 14
ภาพท่ี 3.4 รูปแบบฐานตัวไอ 14
ภาพที่ 3.5 ตากขวดน้ำ 14
ภาพที่ 3.6 นำขวดน้ำมาแปะบนฟิวเจอรบ์ อร์ด 14
ภาพท่ี 3.7 ตดั กระดาแล้วนำไปแชน่ ำ้ 14
ภาพที่ 3.8 นำกระดาษหน้าเดยี วมาแปะรอบขวดนำ้ 15
ภาพท่ี 3.9 นำกาวกบั กระดาษลงั มานวดใหเ้ ข้ากัน 15
15
16

สารบัญภาพ ช

ภาพท่ี 3.10 ชง่ั นำ้ หนกั หนังสอื พมิ พ์ที่นวด หน้า
ภาพที่ 3.11 นำมาตากให้แหง้
ภาพที่ 3.12 นำแผ่นรบั น้ำหนักดัมเบลมาวางไวบ้ นฐานรับน้ำหนกั 16
ภาพที่ 4.1 ฐานรับน้ำหนกั ฐานวงกลม 16
ภาพท่ี 4.2 ฐานรับนำ้ หนกั ฐานสเ่ี หลย่ี ม 17
ภาพท่ี 4.3 ฐานรบั นำ้ หนักฐานสามเหลย่ี ม 18
ภาพท่ี 4.4 ฐานรบั น้ำหนกั ฐานรูปตัวไอ 19
19
19

บทที่ 1
บทนำ

1.1 ท่ีมาและความสำคญั

ขวดน้ำและกระดาษเหลือใช้ (กระดาษ Reuse) เป็นสิ่งของที่มีจำนวนมากในโรงเรียนแต่มีมูลคา่ น้อย
คณะผู้จัดทำจึงเกิดความสนใจท่ีจะนำขวดน้ำและกระดาษเหลือใช้ (กระดาษ Reuse) มาทำให้เกิดประโยชน์
เพ่ิมมูลค่าของขวดน้ำและกระดาษเหลือใช้ (กระดาษ Reuse) ให้มีมากขึ้น รวมถึงคณะผู้จัดทำต้องการที่จะ
ศึกษาความรู้เร่ืองการรับน้ำหนักของฐานรูปทรงปริซึมแบบต่าง ๆ จึงเกิดแนวคิดว่าคณะผู้จัดทำจะทำฐาน
รบั น้ำหนักจากขวดน้ำและกระดาษเหลือใช้ (กระดาษ Reuse) เพื่อทดสอบว่าการจัดวางขวดน้ำรูปทรงปริซึม
แบบใดจะรับน้ำหนักได้ดกี ว่ากัน อกี ท้ังยังนำความรู้ดา้ นวิศวกรรมมาชว่ ยในการออกแบบจัดวางขวดน้ำในฐาน
รับน้ำหนักจากขวดน้ำและกระดาษเหลือใช้ (กระดาษ Reuse) จึงทำให้ช้ินงานน้ีมีหลักการในการออกแบบ
และนา่ สนใจมากยิ่งขน้ึ

จงึ เป็นที่มาของโครงงานฐานรับน้ำหนักจากขวดน้ำและกระดาษเหลือใช้ (กระดาษ Reuse) เป็นการ
เพ่มิ มูลค่าของขวดนำ้ และกระดาษเหลือใช้ (กระดาษ Reuse) และยังได้ศึกษาการรับน้ำหนักของรูปทรงปริซึม
แบบต่าง ๆ หลังจากนั้นจะทำฐานรับน้ำหนักที่มีลักษณะการจัดวางขวดน้ำเป็นรูปทรงปริซึมที่แตกต่างกัน
แล้วจงึ นำไปทดสอบเพื่อดวู า่ รปู ทรงปริซึมแบบใดสามารถรับนำ้ หนักได้ดกี วา่ กัน

1.2 วัตถปุ ระสงค์

1.2.1 เพื่อศึกษารปู แบบการจัดวางขวดนำ้ รปู ทรงปรซิ มึ ว่ารูปแบบใดรบั น้ำหนักไดม้ ากทีส่ ุด
1.2.2 เพอ่ื ประดิษฐ์ฐานรับนำ้ หนักจากขวดน้ำและกระดาษเหลอื ใช้ (กระดาษ Reuse)

1.3 สมมติฐาน

รปู แบบการจัดวางฐานรบั น้ำหนักในลกั ษณะวงกลม สามารถรับนำ้ หนกั ได้มากท่ีสุด

1.4 ตวั แปรทีศ่ กึ ษา

ตวั แปรต้น ฐานรับน้ำหนกั จำนวน 4 รูปแบบ
ตวั แปรตาม นำ้ หนักท่ฐี านรบั นำ้ หนกั สามารถรบั ได้
ตวั แปรควบคุม 1. จำนวนขวดน้ำ

2. ปริมาณกระดาษเปเปอร์มาเช่
3. ระยะเวลาในการตาก
4. ปรมิ าณกาวที่ใช้
5. ฐานที่ใชร้ องรบั น้ำหนัก

2

1.5 ขอบเขตของการทำโครงงาน

สถานท่ี : โรงเรยี นตะกั่วทงุ่ งานทววี ิทยาคม
ระยะเวลา : 15 กันยายน 2565 – 15 ตลุ าคม 2565

1.6 นิยามเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร

ปริซึม คือ ทรงหลายหน้าที่สร้างจากฐานรูปหลายเหล่ียมท่ีเหมือนกันและขนานกันสองหน้า และ
หนา้ ดา้ นขา้ งเป็นรปู ส่ีเหลย่ี มด้านขนาน พนื้ ที่หน้าตัดทกุ ตำแหน่งท่ีขนานกับฐานจะเป็นรปู เดิมตลอด

เปเปอร์มาเช่ คือ ศิลปะการนำ กระดาษท่ีไม่ใช้แล้วมาย่อยเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปผสมกาว สร้างเป็น
ตุ๊กตา รูปทรงต่าง ๆ ตามจินตนาการ ซ่ึงเป็นศิลป์ในการสร้างสรรค์กระดาษที่ไม่ใช้แล้วให้กลับมีคุณค่าข้ึนมา
ใหม่ เปน็ การใช้ทรพั ยากรธรรมชาติอย่างคุ้มคา่

การเปล่ียนแปลงรูปทรง คือ เม่ือวางหนังสือแล้วเปเปอร์มาเช่เกิดการยุบตัวลง ซึ่งจะมีเสียงดังเม่ือ
นำ้ มากเกนิ ไป

รูปแบบฐานสีเ่ หล่ยี ม คอื การเรยี งขวดในเปเปอรม์ าเชเ่ ป็นรปู สีเ่ หล่ียม
รปู แบบฐานวงกลม คือ การเรียงขวดในเปเปอรม์ าเช่เป็นรูปวงกลม
รูปแบบฐานสามเหลย่ี ม คือ การเรียงขวดในเปเปอรม์ าเช่เป็นรปู สามเหล่ยี ม
รปู แบบฐานตวั ไอ คือ การเรยี งขวดในเปเปอรม์ าเช่เป็นรูปตวั ไอ

1.7 ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะไดร้ ับ

1.7.1 ผูจ้ ดั ทำโครงงานสามารถประดษิ ฐ์ฐานรับนำ้ หนกั ได้
1.7.2 สามารถเพิ่มมูลค่าของขวดน้ำและกระดาษเหลือใช้ (กระดาษ Reuse) จากการน้ำมาประดิษฐ์

ฐานรับนำ้ หนกั มาใช้ว่างของได้

3

บทท่ี 2

เอกสารทเ่ี ก่ียวขอ้ ง

คณะผจู้ ัดทำได้ศึกษาคน้ ควา้ เนอื้ หาวิชาคณิตศาสตร์เพมิ่ เติมในเร่ืองตอ่ ไปนี้
1. การออกแบบโครงสรา้ งเหล็ก
2. ปริซมึ
3. การทำเปเปอรม์ าเช่
4. หลักการ 3 ใช้ หรือ 3R

2.1 การออกแบบโครงสร้างเหลก็

การออกแบบโครงสร้างการพิจารณาขนาดรูปร่างขององค์รวมตลอดจนถึงการเลือกใช้ขนาดหน้าตัด
ขององค์ประกอบแต่ละส่วนของโครงสร้าง ซ่ึงโดยทั่วไปแล้วจะเริ่มจากการออกแบบฟังก์ชันการใช้งาน เช่น
จำนวนช้ัน รูปแบบแปลนของแตล่ ะช้นั ซ่งึ เป็นงานของสถาปนิก วิศวกร โครงสร้างจะทำงานภายใต้ข้อกำหนด
จากการออกแบบ หรือพดู งา่ ย ๆ ก็คือสถาปนิกจะเป็นผู้ระบุว่าโครงสร้างจะมีรูปร่างหนา้ ตาอย่างไรส่วนวิศวกร
โครงสร้างจะพิจารณาว่าจะสร้างอย่างไรโดยที่โครงสร้างจะไม่พังลงมา น้ันคือวัตถุประสงค์ท่ีสำคัญท่ีสุด คือ
ความปลอดภัย ปัจจยั อื่นท่ีสำคัญ ได้แก่ ความสามารถในการใช้งานและความประหยดั

2.1.1 โครงสร้างเหล็ก
เหล็กจัดเป็นวัสดุโครงสร้างทมี่ ีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในงานโครงสร้างสะพานอาคาร

หอคอยและโครงสร้างอื่น ๆ การใช้เหล็กในงานโครงสรา้ งได้รับความนิยมเพิ่มข้ึนตลอดช่วงระยะเวลาที่ผา่ นมา
เนื่องจากเหล็กเป็นวัสดุโครงสร้างที่ดีเย่ียมนั้นคือมีกำลังและอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักท่ีสูงความคงทนความ
เหนียวความยืดหยุ่นมีความคล่องตัวในการใช้งานง่ายต่อการขึ้นรูปและสามารถผลิตไดป้ ริมาณมากแม้ว่าจะมี
ข้อเสยี ในเรอื่ งของการเป็นสนมิ และความทนไฟแตก่ ส็ ามารถป้องกนั ได้

เหล็กโครงสร้างทีใ่ ชง้ านกนั อยู่ในปจั จุบนั เป็นอัลลอยด์ระหว่างเหลก็ และคารบ์ อนโดยปริมาณคารบ์ อน
จะมีน้อยกวา่ 1% โดยน้ำหนกั นอกจากนั้นยังมีการผสมสารตัวอนื่ เชน่ ซิลิกอนแมงกานีสทองแดงนเิ กิลโครเมยี ม
และวานาเดียมในปรมิ าณท่ีน้อยมากแตจ่ ะทำใหไ้ ด้เหล็กทม่ี ีคณุ สมบัตแิ ตกต่างกันไป

2.1.2 หน้าตัดของเหล็กโครงสรา้ ง
เหล็กโครงสร้างหรือเหล็กรูปพรรณ (structural steel) จะถูกผลิตโดยขบวนการรีดร้อน

(cold-rolled) หรือรีดเยน็ (cold-rolled) หรอื นำแผ่นเหลก็ มาประกอบกนั ใหมีรปู หนาตัดและขนาดท่ีตองการ
ในการ รับแรง แต่โดยท่ัวไปแลวหนาตัดของเหล็กโครงสร้างจะถูกออกแบบใหมีคา moment of inertia ที่สูง
เมือ่ เทียบกบั พื้นทีห่ นาตัดของเหลก็ โครงสรา้ ง เพอ่ื ใหหนาตดั มีความสามารถในการรบั แรงตอน้ำหนักสงู สดุ

4

รปู ภาพท่ี 2.1 แสดงหนา้ ตัดของเหล็กโครงสร้างชนิดรดี รอ้ น

หน้าตดั ของเหลก็ โครงสร้างมกั จะถูกแบงออกไดด้ ังตอไปน้ี
1. หน้าตัดรูปตวั W (wide-flange sections) หรืออกี ชือ่ หน่ึงคอื หนาตดั รูปตวั H
2. หน้าตดั รูปตัว S (S-sections) หรืออีกช่ือหนึ่งคือ หนาตัดรูปตัว I (I-sections) จะเปน็ หน้าตัดท่ีมี
รูปร่าง คลา้ ยหนาตดั รปู ตัว W แตจ่ ะมคี วามกวา้ งของปกนอยกวา
3. หน้าตัดรูปตัว L หรือเหล็กฉาก (angle-sections) มีทั้งแบบขายาวเทากัน (equal-leg angle)
และแบบขายาว ไมเ่ ทากัน (unequal-leg angle)
4. หน้าตดั รปู ตัว C หรือเหลก็ รางนำ้
5. หน้าตดั รปู ตวั T (T-sections) ซ่งึ ได้จากการตดั ครงึ่ หน้าตัดรปู ตวั W (WT) หรอื I
เหล็กโครงสร้างจะถูกกำหนดตามลักษณะรูปร่างของหน้าตัด ความลึก และน้ำหนักตอหน่ึงหน่วย
ความยาว เชน่
1. W300x36.7 kg/m เปน็ เหลก็ หนา้ ตัดรปู ตวั W ซึ่งมีความลึก 300 มิลลเิ มตรและหนัก 36.7
กโิ ลกรมั ตอ หนึง่ เมตร
2. WT125x22.1 kg/cm2 เป็นเหล็กหน้าตัดรูปตัว tees ท่ีได้จากการตัดเหล็กหน้าตัดรูปตัว
W ออกเปน็ สองสวนทเี่ ท่ากัน ซึง่ มีความลกึ 125 มิลลิเมตรและหนกั 22.1 กิโลกรมั ตอหน่ึงเมตร
3. I250x53.9 kg/m เป็นเหล็กหน้าตัดรูปตัว I ซ่ึงมีความลึก 250 มิลลิเมตรและหนัก 53.9
กโิ ลกรมั ตอหนึง่ เมตร
4. C200x30.3k g/m เป็นเหล็กหน้าตัดรูปตัว C ซงึ่ มีความลึก 200 มลิ ลิเมตรและหนัก 30.3
กิโลกรมั ตอหน่ึงเมตร
5. L150x150x1.27 mm เป็นเหล็กหน้าตัดรูปตัว L ซ่ึงมีขายาว 150 มิลลิเมตร เท่ากันและ
หนา 12.7 มลิ ลิเมตร
นอกจากเหล็กโครงสร้างชนิดรีดร้อนแล้ว เหล็กโครงสร้างอีกประเภทหน่ึงจะถูกผลิตโดยดัดแผ่น

เหล็กกล้าที่หนาระหว่าง 0.25 mm ถึง 6 mm เป็นรูปหน้าตัดต่าง ๆ เช่น หน้าตัดรูปตัว C หน้าตัดรูปตัว Z
และหน้าตัดรูปตัว L เป็นต้น ดังท่ี แสดงในรูปที่ 2.2 ซ่ึงมักจะถูกเรียกวา เหล็กโครงสร้างชนดิ รีดเย็น (Cold-
formed light-gage steel) เหล็กโครงสร้างประเภทน้มี ักจะถกู ใช้เป็นองค์อาคารเบาในหลังคาพ้ืน และผนงั

5

รูปภาพที่ 2.2 เหล็กโครงสรา้ งชนดิ รดี เยน็ (Cold-formed light-gage steel)

2.2 ปริซึม

ปริซึม (Prism) คอื รูปเรขาคณิตสามมิตทิ ี่มีฐานทงั้ สองขา้ งเป็นรูปเหล่ียมทเ่ี ทา่ กันทุกประการ ฐานท้ัง
สองอยูบ่ นระนาบทขี่ นานกัน และด้านขา้ งแต่ละดา้ นเป็นรูปส่เี หลย่ี มดา้ นขนาน

รปู ภาพที่ 2.3 สว่ นประกอบของปรซิ มึ
ปรซิ ึมเป็นรปูเรขาคณิตสามมติ ิมีลักษณะทแ่ี ตกตา่ งไปตามลกั ษณะของฐาน ผิวขา้ งของปริซึมแต่ละรูป
เปน็ สเ่ี หลย่ี มด้านขนาน ปริซมึ จะเรยี กชอ่ื ตามรูปฐานของปริซึม เช่น
ฐานเป็นสามเหลี่ยม เรยี กว่า ปริซึมสามเหลีย่ ม
ฐานเปน็ ส่ีเหลี่ยม เรยี กวา่ ปริซมึ สเ่ี หล่ยี ม
ฐานเปน็ หา้ เหลยี่ ม เรยี กวา่ ปริซมึ ห้าเหลย่ี ม เป็นต้น ดังรูป

รปู ภาพที่ 2.4 ก ปรซิ ึมสามเหลย่ี มดา้ นเท่า ข ปริซึมสเ่ี หลี่ยมจัตุรสั ค ปรซิ มึ หา้ เหลี่ยม

6

จากรูปจะเหน็ ไดว้ า่
ปรซิ มึ สามเหล่ยี ม จะมดี า้ นขา้ งเป็นรูปสี่เหลย่ี มมมุ ฉาก จำนวน 3 ดา้ น
ปรซิ มึ สเ่ี หล่ียม จะมดี า้ นข้างเปน็ รปู ส่ีเหลีย่ มมมุ ฉาก จำนวน 4 ด้าน
ปรซิ มึ ห้าเหล่ยี ม จะมีด้านข้างเป็นรปู สี่เหล่ียมมุมฉาก จำนวน 5 ด้าน
นอกจากปริซึมท่ีมีฐานเป็นรูปส่เี หลี่ยมดังทกี่ ล่าวข้างตน้ แล้ว เราอาจพบปริซมึ ที่มีฐานเปน็ รูปส่ีเหลี่ยม

ชนิดใด ๆ ก็ได้ เช่น แท่นรบั รางวลั

รูปภาพที่ 2.5 แทน่ รับรางวัล
ในชีวิตประจำวันของเรามีส่ิงของท่ีมีลักษณะเป็นรูปปริซึมอยู่มากกมาย เช่น หมอนขวาน ลูกเต๋า
กล่องนม และตเู้ ยน็ เป็นตน้

รูปภาพที่ 2.6 ตวั อย่างของปรซิ มึ ทีพ่ บเห็บเห็นในชีวิตประจำวนั

2.3 เปเปอรม์ าเช่ (Papier Mache)

หัตถกรรมกระดาษอัดเป็นงานศิลปะอย่างหน่ึงท่ีอาศัยคุณสมบัติความคล่องตัวของวัสดุประเภท
กระดาษ มาทำเปน็ ผลิตภัณฑ์ชน้ิ งานขนาดต่าง ๆ เชื่อกันว่าจีนเป็นชนชาตแิ รกที่เรมิ่ ทำงานประเภทน้ี ตอ่ มาชน
ชาติเปอรเ์ ซียและญี่ปนุ่ ก็ทำหตั ถกรรมกระดาษอดั โดยเฉพาะหน้ากากสำหรับใช้ร่วมเฉลิมฉลองในงานเทศกาล
ต่าง ๆ

ในศตวรรษที่ 17 เป็นช่วงเวลาที่หัตถกรรมกระดาษอัดแพร่หลายมากในประเทศแถบยุโรป ประเทศ
ฝรั่งเศสจึงได้บัญญัติศัพท์ประติมากรรมกระดาษอัดว่า ปาเปียร์ มาเช่ (Papier-mâché ) ซ่ึงมาจากคำว่า
ปาเปียร์ (Papier) หมายถงึ กระดาษ กับ มาเช่ (Mâché) หมายถงึ การบดเคี้ยว อัด หรอื ยอ่ ย

2.3.1 ขน้ั ตอนการทำเปเปอร์มาเช่
1. เตรยี มอุปกรณ์
- ชามหรือกะละมงั
- แปง้ หรือกาวลาเท็กซ์
- น้ำ

7

- วัตถุต้นแบบ
- พกู่ ัน
- กระดาษเหลอื ใช้ (กระดาษ Reuse)

รูปภาพที่ 2.7 อุปกรณก์ ารทำเปเปอร์มาเช่
2. ฉกี กระดาษเหลือใช้ (กระดาษ Reuse) เป็นเส้นยาวๆ

โดยฉกี ให้กว้าง 1 นิ้ว (2.5 ซม.) แต่ละชน้ิ งานก็ตอ้ งใช้ตา่ งขนาดและรปู ร่างกันไป อาจจะต้อง
ฉีกตุนไว้เยอะหน่อย เพราะต้องใช้แปะวัตถุให้ออกมาเป็นรปู ทรง 3 รอบ อย่าใช้กรรไกร เพราะขอบ
ขาดๆ ของกระดาษจะแปะกลืนกันไปไดด้ ีกว่าขอบท่ีเรยี บ

รูปภาพที่ 2.8 ฉกี กระดาษ
3. เลอื กสว่ นผสมทำเปเปอรม์ าเช่

แตกต่างกันนิดหนอ่ ยแต่ชน้ิ งานทีไ่ ด้กอ็ อกมาเหมือนกัน เพราะฉะน้ันก็เลือกวธิ ที ่ีสะดวกที่สุด
สำหรับคุณ

สตู รกาว : ผสมกาวลาเท็กซ์ 2 ส่วนกับนำ้ 1 ส่วนในชาม คุณปรบั เปลี่ยนสัดสว่ นได้ตามขนาด
ของชิ้นงาน หรือถ้ามกี าวประสานดี ๆ ใชก้ าวลาเท็กซ์ 1 สว่ นกับนำ้ 1 ส่วนกพ็ อ

สูตรแป้ง : ผสมแป้ง 1 ส่วนกับนำ้ 1 สว่ น ถ้าเป็นชิน้ งานขนาดใหญต่ ้องใช้กาวลาเท็กซ์แทนนำ้

8

กาวติดวอลเปเปอร์ : ผสมผงกาวติดวอลเปเปอร์ 2 ส่วนกับน้ำ 1 ส่วนในชาม วิธีนี้เหมาะ
สำหรับชิน้ งานทต่ี อ้ งการความทนทาน เพราะอย่ไู ดห้ ลายปี

รปู ภาพท่ี 2.9 เลือกสว่ นผสมทำเปเปอร์มาเช่
4. ผสมตามสูตรที่เลือก

โดยใช้พู่กันหรือช้อน/แท่งผสม จนเข้ากันเป็นเน้ือเดียว ถ้าส่วนผสมเหลวหรือหนาไปให้
ปรับเปลย่ี นตามชอบ ให้เพ่ิมกาวถา้ เหลวไป แต่ถา้ ข้นไปใหเ้ ติมน้ำ

รปู ภาพท่ี 2.10 ผสมส่วนผสมตามสตู ร
5. หาวตั ถุต้นแบบทค่ี ุณอยากทำเปเปอร์มาเช่

เช่น ลูกโป่ง ลังกระดาษ หรือหุ่นโมเดลต่าง ๆ ถ้าใช้ลูกโป่ง ให้ทาด้วยน้ำมันพืชก่อนเมื่อ
เปเปอร์มาเช่แหง้ จะไดแ้ กะง่าย

รูปภาพท่ี 2.11 หาวตั ถตุ ้นแบบ

9

6. เอากระดาษหน้าเดยี ว (กระดาษ Reuse) ท่ีฉกี ไว้แชใ่ นส่วนผสม

รปู ภาพท่ี 2.12 แชห่ นังสือพิมพ์
7. กำจัดส่วนผสมสว่ นเกิน

รปู ภาพท่ี 2.13 กำจัดสว่ นผสมส่วนเกนิ

8. เอาเศษกระดาษติดบนพื้นผิวของวัตถุทีจ่ ะทำเปเปอร์มาเช่
ใชน้ ้ิวลูบหรือใชแ้ ปรงทาใหเ้ รียบเนยี นไปกับผิววัตถุ อยา่ ใหย้ ับหรอื ตะปมุ่ ตะป่ำ เปเปอร์-มาเช่

ต้องเรียบเนียน เสร็จแล้วจะได้ลงสีหรือตกแต่งง่าย ถ้าอยากทำเป็นรูปรา่ งต่าง ๆ เช่น หน้าคน ให้สุม
เส้นกระดาษเป็นรูปทรงตามต้องการ แล้วเอาไปแปะกับวัตถุ จากน้ันลงกระดาษอีกช้นั ให้พ้ืนผิวเรียบ
เนียน แบบนี้จะไดห้ นานูน มี texture ขรขุ ระ และมีรายละเอียดตามตอ้ งการ

รปู ภาพท่ี 2.14 ตดิ กระดาษลงบนวัตถุ

10

9. แปะกระดาษเปน็ ชั้น ๆ
จนพื้นผวิ หรือวัตถุนนั้ มีกระดาษคลุม 3 ชน้ั สำคัญมากโดยเฉพาะถา้ ต้องแกะพิมพ์/โครงออก

จากวัตถุหลังกาวและกระดาษแห้งแล้ว เพราะเปเปอร์มาเช่ต้องแข็งแรงคงรูปได้ด้วยตัวเอง
แปะกระดาษชั้นแรกแนวนอน ชั้นที่ 2 แนวตงั้ และสลับกันไปจะไดจ้ ำได้ว่าทำถงึ ไหนแล้ว แถมสร้าง
เสริมความแขง็ แรงให้ชิน้ งาน

รูปภาพที่ 2.15 แปะกระดาษเปน็ ชั้น
10. ทิง้ ไวจ้ นแหง้

ต้องใช้เวลาเป็นวัน (หรือมากกว่า) ชิ้นงานถึงจะแห้งสนิท แต่ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของชิ้นงาน
ด้วย ให้ทง้ิ ไว้ข้ามคนื อย่าไปแตะตอ้ งแลว้ ค่อยกลับมาดูวา่ เรยี บรอ้ ยพร้อมลงสีหรือยงั

รูปภาพที่ 2.16 ทง้ิ ไว้ให้แห้ง
11. ลงสี

ควรเร่ิมจากสีรองพื้นขาวก่อน ถา้ จะใชส้ ีออ่ นๆ ลงสีชิ้นงาน อาจจะต้องทาสพี ื้นด้วย (ไม่งั้น
ลายอ่ืนอาจเด่นออกมาแทน)

รปู ภาพที่ 2.17 ลงสี

11

2.4 หลักการ 3 ใช้ หรอื 3R

หลกั การ 3 ใชห้ รือ 3R ประกอบด้วย ใชน้ ้อย (หรอื ลดการใช้: Reduce) ใช้ซำ้ (Reuse) และใช้แปรรูป
(หรือแปรรูปใช้ใหม่: Recycle) เพื่อจัดการขยะเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ปฏิบัติได้ใน
ชีวิตประจำวนั เพียงแค่ทุกคนตระหนกั และมีความตง้ั ใจรว่ มกันในการรกั ษาโลกใบน้ใี หส้ ะอาดน่าอยู่ตลอดไปโดย
เราสามารถใชห้ ลกั การ 3 ใช้ หรอื 3R เพื่อจัดการขยะทเ่ี กิดขึ้นจากบ้านเรือนและชมุ ชนได้ดงั น้ี

2.4.1 ใชน้ ้อยหรือลดการใช้ (Reduce : R แรก) หมายถงึ การลดปรมิ าณการใช้ลงโดยใช้เท่าทีจ่ ำเป็น
หลีกเลยี่ งการใชอ้ ย่างฟุ่มเฟอื ยเพือ่ ลดการสูญเปล่าและลดปริมาณขยะให้มากที่สดุ เชน่ การใช้ตะกรา้ หรอื ถุงผา้
ในการจบั จ่ายซอ้ื ของเพ่อื ลดปริมาณพลาสตกิ และโฟมซึ่งกำจดั ยาก การใช้แกว้ สว่ นตวั แทนการใช้แก้วคร้งั เดียว
แลว้ ทงิ้ การใช้ปน่ิ โตหรือกล่องใส่อาหารเพื่อลดขยะโฟมซ่ึงยอ่ ยสลายยาก เป็นตน้

รปู ภาพที่ 2.18 ลดการใช้
2.4.2 ใช้ซ้ำ (Reuse : R ที่สอง) หมายถึง การนำของเสยี บรรจุภัณฑ์หรอื วัสดเุ หลอื ใช้กลับมาใชอ้ ีกโดย
ไม่ผ่านขบวนการแปรรูปหรือแปรสภาพ เชน่

- การทำสิ่งประดษิ ฐ์จากวัสดุเหลอื ใช้ นอกจากจะช่วยลดปรมิ าณขยะแล้วยังสรา้ งอาชีพและรายได้

รปู ภาพท่ี 2.19 ตะกร้าจากพลาสติก

12

- การใช้กระดาษสองหน้า เม่ือใช้ครบท้ังสองหน้าแล้วยังทำเป็นกระดาษหน้าที่สามโดยใช้เป็น
กระดาษพมิ พ์อักษรเบรลล์ใหผ้ ้พู กิ ารทางสายตาได้

- การใช้ถ่านไฟฉายแบบชาร์จใหม่ได้ (Rechargable Battery) เป็นวิธีการท่ีประหยัดเงินใน
กระเปา๋ และชว่ ยลดปริมาณขยะอันตรายท่ีเกดิ ขึน้

- การบรจิ าคเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ตา่ ง ๆ ให้ผ้ทู ี่มีความจำเปน็ ตอ้ งใชน้ อกจากจะได้บญุ แล้วยัง
ทำใหบ้ ้านเรือนเป็นระเบยี บไมร่ กรงุ รังเตม็ ไปดว้ ยส่งิ ของที่ไมไ่ ดใ้ ช้งานแลว้

- การขายสินค้ามือสอง เช่น หนังสือ เสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้า เป็นต้น นอกจาก
เป็นการลดปริมาณขยะแล้ว ยังเป็นการเพ่มิ รายไดอ้ ีกดว้ ย

รูปภาพที่ 2.20 ถ่านไฟฉายแบบชาร์จใหมไ่ ดแ้ ละการบรจิ าค
2.4.3 ใช้แปรรูปหรือแปรรูปใช้ใหม่หรือรีไซเคิล (Recycle : R ท่ีสาม) หมายถึง การนำขยะรีไซเคิล
ของเสียบรรจุภัณฑ์ หรือวัสดุเหลือใช้มาแปรรูปเป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิต หรือเพ่ือผลิตเป็นผลิตภัณฑ์
ใหม่ เชน่ การนำกระป๋องอะลูมเิ นียมมาหลอมเป็นขาเทียม การนำกล่องเคร่อื งด่ืม UHT มาแปรรูปเป็นตะกร้า
การนำกระดาษมาแปรรปู เปน็ กล่องทิชชู การนำขวดพลาสติกใส (PET) มาแปรรปู เปน็ เส้ือ เปน็ ตน้

รูปภาพที่ 2.21 แปรรปู ใช้ใหม่

13

บทท่ี 3
อปุ กรณ์และวธิ ดี ำเนนิ การทดลอง

คณะผู้จัดทำโครงงานคณติ ศาสตร์ ประเภทส่ิงประดิษฐ์ เร่ือง ฐานรับน้ำหนักจากขวดน้ำและกระดาษ
หน้าเดยี ว (กระดาษ Reuse) มีเครอ่ื งมือท่ีใช้ในการดำเนนิ การ วสั ดอุ ุปกรณ์ท่ีใช้ในการจัดทำโครงงาน ขั้นตอน
การดำเนนิ งาน ดงั นี้

3.1 วสั ดุและอุปกรณ์

3.1.1 เครอ่ื งมอื ที่ใชใ้ นการดำเนนิ การ
ไดแ้ ก่ แบบวดั ความแขง็ แรงของฐานรบั นำ้ หนกั รปู ทรงปรซิ มึ ท่ีแตกต่างกนั

3.1.2 วัสดอุ ปุ กรณท์ ี่ใช้ในการจัดทำโครงงาน
1. ขวดน้ำ
2. กระดาษหนา้ เดยี ว (กระดาษ Reuse)
3. กาว
4. กรรไกร
5. ฟิวเจอร์บอรด์
6. กะละมงั
7. คัตเตอร์
8. เครือ่ งชั่ง
9. กาวสองหนา้

3.2 ข้ันตอนการดำเนนิ งาน

แบ่งออกเป็น 3 ข้นั ตอน ดังน้ี
ข้นั ท่ี 1 การกำหนดหัวเรื่อง

1.1 หัวข้อเรื่องท่ีศึกษา ฐานรูปทรงแบบใดที่สามารถรบั น้ำหนักได้ดีท่ีสุด แนวทางการศึกษา
ทำฐานรับน้ำหนักที่มีลักษณะทางปริซึมท่ีแตกต่างกัน ปัญหาท่ีพบ ขวดน้ำและกระดาษ
หนังสือพิมพ์มีจำนวนมากแต่มูลค่าน้อย แนวทางการแก้ปัญหา นำขวดน้ำและกระดาษ
หนังสอื พิมพม์ าทำฐานรบั น้ำหนัก

ขนั้ ท่ี 2 การศกึ ษาเอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ ง
ศกึ ษาการออกแบบโครงสร้าง ไดแ้ ก่ โครงสร้างเหล็ก หนา้ ตัดของเหลก็ โครงสร้าง ศึกษารูปแบบ
ปรซิ ึม ได้แก่ ปรซิ มึ ฐานสีเ่ หลีย่ ม ปริซมึ ฐานวงกลม ปรซิ มึ ฐานสามเหล่ียม ปริซมึ ฐานตวั ไอ
ศึกษาการทำเปเปอร์มาเช่ ได้แก่ ความหมายของเปเปอร์มาเช่ อุปกรณ์ทำเปเปอร์มาเช่
วธิ ีการทำเปเปอรม์ าเช่
ศึกษาหลกั การ 3 ใชห้ รือ 3R ไดแ้ ก่ ใช้นอ้ ย ใช้ซำ้ นำกลับมาใช้ใหม่

14

ขน้ั ท่ี 3 ออกแบบและปฏบิ ตั กิ าร
3.1 กำหนดรูปแบบการทำฐานรับนำ้ หนกั โดยกำหนดไว้ 4 แบบ ได้แก่

รูปภาพท่ี 3.1 รปู แบบฐานสี่เหลย่ี ม รูปภาพท่ี 3.2 รปู แบบฐานวงกลม

รูปภาพท่ี 3.3 รปู แบบฐานสามเหลี่ยม รปู ภาพท่ี 3.4 รปู แบบฐานตัวไอ

3.2 เตรียมอุปกรณ์ท่ีใช้ประดิษฐ์ฐานรับน้ำหนักจากขวดน้ำและกระดาษหน้าเดียว (กระดาษ
Reuse)

3.2.1 เก็บรวบรวมขวดน้ำและกระดาษหน้าเดียว (กระดาษ Reuse) จากร้านค้าต่าง ๆ
และร้านค้าสวัสดกิ ารของโรงเรยี นตะกั่วทงุ่ งานทววี ทิ ยาคม

3.3 ประดิษฐ์ฐานรับนำ้ หนัก
3.3.1 ทำความสะอาดขวดน้ำ นำมาตากให้แหง้

รูปภาพท่ี 3.5 ตากขวดน้ำ

15

3.3.2 นำขวดนำ้ มาตดิ กาวสองหนา้ และกาวรอ้ น แลว้ นำไปแปะบนฟิวเจอรบ์ อร์ด

รปู ภาพที่ 3.6 นำขวดน้ำมาแปะบนฟวิ เจอร์บอรด์
3.3.3 ตดั กระดาษลังออกเป็นช้ินเล็ก ๆ และนำกระดาษลังทีต่ ดั มาแช่น้ำ 24 ชั่วโมง

รปู ภาพที่ 3.7 ตดั กระดาแลว้ นำไปแชน่ ำ้
3.3.4 ตัดกระดาษหน้าเดียวเป็นรูปส่ีเหล่ียมผืนผ้า แล้วนำมาแปะรอบขวดน้ำตามรูปทรงท่ี

ออกแบบไว้

รปู ภาพท่ี 3.8 นำกระดาษหน้าเดยี วมาแปะรอบขวดนำ้

16

3.3.5 นำกระดาษลงั ชิ้นเล็ก ๆ ทแี่ ช่น้ำมาผสมกับกาวและนวดให้เขา้ กนั

รูปภาพที่ 3.9 นำกาวกบั กระดาษลังมานวดให้เข้ากัน

3.3.6 ช่ังกระดาษลังที่นวดกับกาว แล้วช่ังทีละ 500 กรัม โดยแต่ละรูปทรงใช้ปริมาณ
1,150 กรัม แล้วนำมาแปะรอบ ๆ ขวดน้ำ

รปู ภาพที่ 3.10 ช่ังนำ้ หนกั หนังสอื พิมพท์ ่ีนวดแลว้
3.3.7 เมอ่ื แปะเสร็จแลว้ นำมาตากจนแห้ง โดยใชเ้ วลา 3 วันในการตาก

รปู ภาพท่ี 3.11 นำมาตากใหแ้ ห้ง

17

3.3.8 ทดลองโดยการนำแผ่นรับน้ำหนกั ดัมเบลมาวางไว้บนฐานรับน้ำหนักรูปทรงต่าง ๆ
และบันทกึ ผลรปู ทรงใดรบั น้ำหนกั ได้ดที ส่ี ุด

รปู ภาพท่ี 3.12 นำแผน่ รบั น้ำหนักดมั เบลมาวางไว้บนฐานรบั นำ้ หนัก
3.3.9 สรปุ และอธปิ รายผลการศกึ ษาและทดลอง
3.3.10 นำปัญหาที่พบมาปรึกษาอาจารย์เพื่อขอคำแนะนำและปรับปรุงแก้ไขตาม
คำแนะนำของอาจารย์
3.3.11 นำเสนอโครงงานคณติ ศาสตร์

18

บทที่ 4
ผลการศกึ ษา

จากการประดิษฐ์ฐานรับนำ้ หนักตามรูปทรงเรขาคณติ ทง้ั 4 รปู ทรง ได้แก่ ฐานรับน้ำหนักฐานส่ีเหล่ียม
ฐานรับน้ำหนักฐานสามเหล่ียม ฐานรับน้ำหนักฐานวงกลม และฐานรับน้ำหนักฐานตัวไอ มีผลการศึกษา
ตามวัตถปุ ระสงค์ดังนี้

ผลการศกึ ษาตามวัตถปุ ระสงค์ที่ 1
จากการทดลองท้งั หมดจำนวน 3 ครั้ง โดยใช้แผน่ รบั น้ำหนักในการทดลอง ไดข้ อ้ มูลดังนี้

รปู แบบ นำ้ หนักท่ีรบั ไดใ้ นแต่ละครง้ั ของการทดลอง (กิโลกรัม)

รปู แบบฐานส่ีเหลย่ี ม ครง้ั ท่ี 1 คร้ังที่ 2 คร้ังที่ 3 เฉล่ยี
รปู แบบฐานวงกลม
รปู แบบฐานสามเหลี่ยม 55 63.75 55 57.92
รูปแบบฐานตัวไอ
47.5 48.75 40 45.42

30 35 25 30.00

30 27.5 20 25.83

ตารางที่ 4.1 แสดงผลการทดลองการรับน้ำหนกั ของรูปทรง

สามารถสรปุ ได้ว่าฐานรบั น้ำหนักฐานสเ่ี หล่ียมสามารถรบั นำ้ หนกั ได้มากท่ีสุด คือ 57.92 กิโลกรมั

ผลการศกึ ษาตามวตั ถุประสงค์ท่ี 2
สามารถประดิษฐ์ฐานรบั นำ้ หนักไดด้ งั น้ี

รูปภาพท่ี 4.1 ฐานรับนำ้ หนกั ฐานวงกลม

19

รปู ภาพที่ 4.2 ฐานรับน้ำหนกั ฐานสีเ่ หล่ยี ม

รปู ภาพท่ี 4.3 ฐานรับนำ้ หนักฐานสามเหลย่ี ม

รปู ภาพท่ี 4.4 ฐานรบั น้ำหนักฐานตัวไอ

20

บทท่ี 5
สรุปผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ

การจัดทำโครงงานคณิตศาสตร์ เรื่อง ฐานรับน้ำหนักจากขวดน้ำและกระดาษเหลือใช้ (กระดาษ
Reuse) สรุปผลการศึกษา อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะดังน้ี

5.1 สรุปผลการศึกษา

5.1.1 การประดิษฐ์รูปทรงของฐานรับน้ำหนัก ทางคณะผู้จัดทำไดจ้ ดั วางเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ จดั วาง
ฐานรับน้ำหนักฐานสี่เหล่ียม ฐานสามเหล่ียม ฐานวงกลม ฐานรูปตัวไอ โดยใช้การวางของขวดน้ำพลาสติก
หอ่ หุม้ ด้วยเปเปอรม์ าเช่ ซงึ่ ท่ีได้จัดวางรปู แบบดงั นีเ้ นอ่ื งจากนำหลักการของการสรา้ งตึกมาประยุกต์ใช้ โดยให้
ขวดนำ้ เป็นเส้นลวดและใชเ้ ปเปอรม์ าเชเ่ ปน็ ปูนซีเมนต์

5.1.2 จากการทดลองพบว่า การทำฐานรับน้ำหนักทั้งหมด 4 แบบ ดังน้ี แบบที่ 1 จัดวางฐานแบบ
สี่เหลี่ยม แบบที่ 2 จัดวางฐานแบบตัวไอ แบบที่ 3 จัดวางฐานแบบวงกลม และแบบที่ 4 จัดวางฐานแบบ
สามเหล่ียม โดยใช้วัสดุชนิดเดียวกันในการประดิษฐ์ คือใช้กระดาษเหลือใช้และขวดน้ำพลาสติก เมื่อนำไป
ทดสอบดว้ ยแผน่ รับนำ้ หนักดัมเบลพบว่าสามารถจดั อันดับของฐานรับนำ้ หนักได้ 4 อันดบั ดังนี้ อันดบั ท่ีหนง่ึ คือ
การวางรูปแบบสเ่ี หลยี่ ม ซง่ึ สามารถรับน้ำหนักได้มากท่ีสดุ มีคา่ เฉลี่ยการรับน้ำหนักเท่ากับ 57.92 อันดับทสี่ อง
คือการวางรูปแบบวงกลม มีค่าเฉล่ียการรบั น้ำหนักเท่ากับ 45.42 อันดับท่ีสามคือการวางรปู แบบสามเหล่ียม
มีค่าเฉลี่ยการรับน้ำหนักเท่ากับ 30 และอันดับสุดท้ายคือการวางรูปแบบตัวไอ มีค่าเฉล่ียการรับน้ำหนัก
เท่ากบั 25.83

5.2 อภปิ รายผล

จากการทดลองพบว่า ผลท่ีเราได้รับไม่เป็นไปตามสมมติฐานท่ีเราได้ต้ังไว้ เนื่องจากปัญหาในการจัด
วางไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำบุบ/เบ้ียว ระยะห่างระหว่างขวดไม่เท่ากัน จึงทำให้การจัดวางฐานแบบ
วงกลมไม่สามารถรับน้ำหนักได้มากที่สุด แต่กลับกลายเป็นว่าฐานรับน้ำหนักแบบสี่เหลี่ยมสามารถรบั น้ำหนัก
ไดม้ ากท่สี ุด เพราะว่าฐานรบั นำ้ หนักแบบสี่เหลีย่ มมีการกระจายตวั ในการรับนำ้ หนักไดเ้ หมาะสมทสี่ ดุ เมื่อเทยี บ
กับรปู แบบอนื่ อกี 3 รูปแบบ

5.3 ข้อเสนอแนะ
ควรจัดวางฐานรับนำ้ หนกั รูปแบบอ่ืน

21

บรรณานกุ รรม

ทีมบรรณาธิการวกิ ฮิ าว. (ม.ป.ป.). เปเปอร์มาเช่ (Papier Mache) แหลง่ ที่มา : https://th.wikihow.com
สืบค้นเม่อื 15 กนั ยายน 2565

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2559). ปริซึม. พิมพ์ครั้งท่ี 6. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์
สกสค. ลาดพร้าว.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2556). การเปลี่ยนแปลงรูปทรง. พิมพ์คร้ังท่ี 8.
กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว.

ไมป่ รากฏผู้เขียน. (2565). รูปสามเหลีย่ ม (triangle). แหล่งท่ีมา :
http://basegeometry1.weebly.com/3619364136113626363436173648362736213637365636
183617.html
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B8
%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B
8%A2%E0%B8%A1

สืบคน้ เม่อื 15 กนั ยายน 2565
ไม่ปรากฏผเู้ ขยี น. (2565). รูปวงกลม (circle). แหลง่ ที่มา :
https://www.tutormaths.com/pratom13.htm
https://sites.google.com/site/linkhaow35/two-dimensional-geometry-1/circle

สืบคน้ เมือ่ 15 กันยายน 2565
ไมป่ รากฏผเู้ ขยี น. (2565). รูปสเ่ี หลี่ยม (quad). แหลง่ ที่มา :
https://sites.google.com/site/websitruprekhakhnitgeometry/prawati-rup-rekhakhnit

สบื คน้ เม่ือ 15 กันยายน 2565
ไมป่ รากฏผูเ้ ขียน. (2565). การออกแบบโครงสรา้ งเหล็ก . แหล่งท่ีมา :
https://m.chulabook.com/th/product-details/69119

สืบคน้ เม่อื 15 กันยายน 2565
ไมป่ รากฏผ้เู ขยี น. (2565). หลกั การ 3 ใช้ หรอื 3R. แหลง่ ที่มา :
https://www.greennetworkthailand.com

สืบคน้ เม่อื 15 กนั ยายน 2565

22

ภาคผนวก

23

ขวดน้ำ กระดาษลัง
กาว กรรไกร
ฟิวเจอร์บอร์ด กะละมัง
คตั เตอร์ เคร่อื งชัง่

24

กาวสองหน้า กระดานอัด

แผน่ รบั นำ้ หนกั ดัมเบล 1.25 กิโลกรมั แผ่นรับนำ้ หนักดัมเบล 2 กโิ ลกรัม

แผ่นรบั น้ำหนกั ดมั เบล 2.5 กิโลกรัม แผน่ รับนำ้ หนักดมั เบล 5 กโิ ลกรมั


Click to View FlipBook Version