The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by torsompog256, 2022-06-15 01:38:02

กฎหมายแรงงาน-02

กฎหมายแรงงาน-02

หลกั กฎหมายคุ้มครองแรงงาน เป็ นกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิและหน้าที่ระหว่างนายจ้างกบั ลูกจ้าง

เกี่ยวกบั สภาพการจ้าง โดยกาหนดหลกั เกณฑ์ขนั้ ต่าไว้ เก่ียวกบั การจ้างแรงงาน การคุ้มครองแรงงาน
การจ่ายค่าจ้างการทางานของลกู จ้างจะต่ากว่าท่ีกฎหมายกาหนดไว้มิได้ และค้มุ ครองแรงงานเก่ียวกบั
การใช้แรงงานหญิง แรงงานเด็ก กาหนดวันหยุด วนั ลา และสวสั ดิ ภาพแก่ผ้ใู ช้แรงงานของลูกจ้างไว้
เป็ นการจดั ระเบยี บสงั คมในการจา้ งและใช้แรงงาน เพอ่ื ให้เกิดความสงบสขุ เป็ นธรรมในสงั คม

คำวำ่ แรงงาน หมำยถงึ แรงงำนของมนุษย์ ไดแ้ ก่ตวั เรำน้ีเอง คอื ใชม้ นุษยห์ รอื คนทำงำน ในทำงเศรษฐศำสตร์

ถอื ว่ำคนคอื ปัจจยั กำรผลติ เป็นหวั ใจในกำรผลติ สนิ ค้ำและบรกิ ำรควบคู่กบั เครอ่ื งยนต์เคร่อื งจกั ร และในควำมเขำ้ ใจ
ของบุคคลทวั ่ ไป แรงงำนย่อมหมำยถึงบุคคลในวยั ทำงำน มคี วำมแขง็ แรงในกำรใชก้ ำลงั ใชส้ มอง มคี วำมคิดรเิ ร่มิ

และยงั หมำยถงึ ผกู้ ำลงั ว่ำงงำนหำงำนทำอกี ดว้ ย แรงงำนจึงมคี วำมสำคญั มำก โดยเฉพำะอยำ่ งยงิ่ ประเทศไทยเป็น
ประเทศหน่ึงในกลุ่มอำเซียน ตอ้ งร่วมเขำ้ สูป่ ระชำคมอำเซียน เม่อื คนหรอื แรงงำนมำอยรู่ วมกนั เป็นองค์กรเพอ่ื ผลิต
ประกอบสนิ ค้ำ บริกำรในรูปของโรงงำน หำ้ งร้ำน บรษิ ัท กฎระเบียบในกำรควบคุมคนจำนวนมำกจึงเกิดข้ึน
ทงั้ น้ีกเ็ พอ่ื ใหเ้ กดิ ควำมเป็นธรรม ควำมสงบสขุ ขององคก์ ร กฎระเบยี บขอ้ บงั คบั นนั้ เรำเรยี กว่ำ กฎหมายแรงงาน

โดยทวั ่ ไปกฎหมำยแรงงำนจะวำงหลักกำหนดแนวทำงปฏิบตั ริ ะหว่ำงผู้ร่วมงำน คือ นำยจ้ำง กบั ลูกจ้ำงใหม้ ี

มำตรกำรเป็นมำตรฐำนเพอ่ื ปฏบิ ตั กิ ำรทำงำนไวแ้ น่นอน เป็นไปดว้ ยควำมเหมำะสมตำมทนี่ ำยจำ้ งและลูกจ้ำงพงึ มสี ทิ ธิ
และหน้ำทต่ี อ้ งปฏิบตั ิต่อกนั ดว้ ยกำรกำหนดกฎเกณฑ์เก่ียวกบั วนั ทำงำน เวลำทำงำน วนั หยดุ วนั ลำ ค่ำตอบแทน
กำรทำงำนใหล้ กู จำ้ ง ควำมปลอดภยั และสวสั ดิกำรในกำรทำงำน รวมไปถงึ ควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงนำยจ้ำงกับลูกจ้ำง
และยงั มกี ฎหมำยกำหนดกฎเกณฑใ์ นกำรเจรจำหรอื ไกล่เกลยี่ เมอ่ื มปี ัญหำ ตลอดจนวธิ กี ำรระงบั ขอ้ พพิ ำทไวด้ ว้ ย

กฎหมำยทใี่ ชแ้ ละเกยี่ วขอ้ งกบั แรงงำนในปัจจบุ นั จงึ มหี ลำยฉบบั ไดแ้ ก่
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิ ชย์ เฉพำะในบรรพท่ี 3 เร่อื งเอกเทศสญั ญำ ลักษณะ 6 ว่ำด้วย จ้าง

แรงงาน (มำตรำ 575 ถงึ มำตรำ 586) เรยี กกนั ทวั ่ ไปวำ่ เป็นบทบญั ญตั ิเก่ยี วกบั สญั ญำจ้ำงแรงงำน กล่ำวคอื มเี น้ือหำ

ว่ำดว้ ยกำรจำ้ งแรงงำน สทิ ธแิ ละหนำ้ ทขี่ องนำยจำ้ งกบั ลูกจำ้ งทมี่ ตี ่อกนั
พระราชบญั ญตั ิค้มุ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งแมป้ ัจจุบนั จะมกี ำรออกพระรำชบญั ญตั ิคุ้มครองแรงงำน

(ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ข้ึนมำแก้ไขเพมิ่ เติมแต่ก็เป็ นเพียงบำงประเด็นเท่ำนัน้ เน้ือหำ หลักๆยงั คงปรำกฏใน
พระรำชบญั ญตั ิคุ้มครองแรงงำน พ.ศ. 2541 ซึ่งเป็ นกฎหมำยคุ้มครองแรงงำนทสี่ ำคัญ จะบัญญตั ิในเร่อื งกำรใช้
แรงงำนทวั ่ ไป เวลำทำงำน กำรคมุ้ ครองแรงงำนหญงิ แรงงำนเดก็ กำรจ่ำยค่ำจำ้ งค่ำล่วงเวลำ กำหนดวนั หยุดและวนั
ลำของลูกจ้ำง วำงหลกั เกณฑ์กำรควบคุมควำมปลอดภยั ในกำรทำงำนกำหนดค่ำชดเชยเมอ่ื เลิกจำ้ ง รวมทงั้ ใหม้ ี
กองทนุ สงเครำะหล์ กู จำ้ ง เป็นตน้ กฎหมำยฉบบั น้ีถอื ว่ำเป็นกฎหมำยคุ้มครองแรงงำนทสี่ ำคญั ยงิ่ ทจี่ ะต้องศึกษำและ
ทำควำมเขำ้ ใจ

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกบั การค้มุ ครองแรงงานฉบบั อื่นๆ ไดแ้ ก่
3.1พระรำชบญั ญตั ปิ ระกนั สงั คม พ.ศ. 2533 เรยี กว่ำกฎหมำยประกนั สงั คม
3.2พระรำชบญั ญตั แิ รงงำนสมั พนั ธ์ พ.ศ. 2518 เรยี กวำ่ กฎหมำยแรงงำนสมั พนั ธ์
3.3พระรำชบญั ญตั เิ งนิ ทดแทน พ.ศ. 2537 เรยี กวำ่ กฎหมำยเงนิ ทดแทน
3.4พระรำชบญั ญตั กิ องทนุ สำรองเลย้ี งชพี พ.ศ. 2535 เรยี กวำ่ กฎหมำยกองทนุ สำรองเล้ยี งชพี
3.5พระรำชบญั ญตั โิ รงงำน พ.ศ. 2535 เรยี กวำ่ กฎหมำยโรงงำน หรอื กฎหมำยอตุ สำหกรรม
3.6พระรำชบญั ญตั ิจดั ตงั้ ศำลแรงงำนและวธิ ีพจิ ำรณำคดศี ำลแรงงำน พ.ศ. 2522 เรยี กว่ำ กฎหมำยว่ำดว้ ย

ศำลแรงงำน
3.7พระรำชบญั ญตั คิ วำมปลอดภยั อำชวี อนำมยั และสภำพแวดลอ้ มในกำรทำงำน พ.ศ. 2554
3.8อน่ื ๆ เชน่ พระรำชบญั ญตั แิ รงงำนทำงทะเล พ.ศ. 2558 ประกำศกรมสวสั ดกิ ำรและคุ้มครองแรงงำน เร่อื ง

หลกั เกณฑ์ และวธิ กี ำรจ้ำงลูกจำ้ งซง่ึ เป็นเด็กอำยุต่ำกว่ำสบิ แปดปีและกำรแจ้งกำรส้นิ สุดกำรจ้ำงลูกจำ้ ง
ซง่ึ เป็ นเด็กอำยุสบิ แปดปีทำงส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์ กฎกระทรวงกำหนดอตั รำน้ำหนกั ใหล้ ูกจ้ำงทำงำนได้
พ.ศ. 2547 เป็นตน้

หลกั กฎหมำยและวตั ถปุ ระสงคก์ ำรคมุ้ ครองแรงงำน คอื กำรจดั ระเบียบของสงั คมกำรจำ้ งแรงงำนและใช้แรงงำน
มงุ่ เน้นใหน้ ำยจำ้ งตอ้ งปฏบิ ตั ติ ำมหลกั กฎหมำยทบ่ี ญั ญตั ไิ ว้ กำรไมป่ ฏบิ ตั หิ รอื ฝ่ำฝืนอำจไดร้ บั โทษ โดยมเี จ้ำหน้ำทข่ี อง
รฐั ทำหนำ้ ทใี่ นกำรควบคมุ กำกบั ดูแล แมล้ ูกจ้ำงจะไม่รอ้ งทกุ ข์กล่ำวโทษพนักงำนเจ้ำหน้ำทข่ี องรฐั ทม่ี อี ำนำจตำม

กฎหมำย สำมำรถเขำ้ ไปควบคมุ ดำเนินกำรใหน้ ำยจำ้ งปฏบิ ตั ิตำมระเบยี บและหลกั กฎหมำยได้
กำรจะทำใหส้ งั คมในองคก์ รนำยจ้ำงลูกจำ้ งมคี วำมเป็น

ธรรมและสงบสขุ งำนดำเนินไปด้วยควำมรำบร่นื รฐั ได้วำง
หลักไว้ในกฎหมำยเพ่ือกำหนดมำตรฐำนขนั้ ต่ำกำรใช้

แรงงำน ด้วยกำรตรำกฎหมำยเก่ียวกบั สภำพกำรจ้ำงไว้
เพอ่ื ใหส้ งั คมใชเ้ ป็นคำถำม คำตอบได้ เชน่ ควำมเหมำะสม
ของงำนกบั เพศและวยั ของลูกจำ้ ง ระยะเวลำกำรทำงำนใน
แตล่ ะวนั หรอื รอบสปั ดำห์ สวสั ดกิ ำร ค่ำชดเชย เป็นตน้

สรุป หลกั กฎหมำยและวัตถุประสงค์กำรตรำกฎหมำยคุม้ ครองแรงงำน ก็เพ่อื ประสงค์ให้นำยจ้ำงปฏิบตั ิตำม
กฎหมำย จงึ กำหนดเงอ่ื นไขกำรจำ้ งไว้เพอ่ื คุ้มครองลูกจ้ำงมใิ หถ้ ูกเอำเปรยี บ และไดร้ บั ควำมปลอดภยั ขณะทำงำน
มเี วลำพกั ผ่อนทเี่ หมำะสม มสี วสั ดิกำรและได้รบั ค่ำจ้ำงถูกต้องตำมกฎหมำยกำหนด อนั จะทำใหล้ ูกจ้ำงสำมำรถ
ปฏบิ ตั งิ ำนทจ่ี ำ้ งไดอ้ ยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ มคี วำมหวงั และมคี วำมสขุ ในกำรทำงำน เกิดควำมสงบสขุ และควำมเป็นธรรม
ในสงั คม สว่ นลกั ษณะกำรจ้ำงแรงงำน กำรใชส้ ทิ ธิและหน้ำทขี่ องนำยจ้ำงจะต้องปฏิบตั ติ ำมหลกั ของกำรจ้ำงแรงงำน
แหง่ ประมวลกฎหมำยแพง่ และพำณิชย์ เวน้ แตก่ ฎหมำยคมุ้ ครองแรงงำนน้จี ะกำหนดไวเ้ ป็นอยำ่ งอน่ื

คำว่ำ นายจ้าง และ ลูกจ้าง มศี พั ท์บัญญตั ิไว้ในกฎหมำยท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กำรคุ้มครองแรงงำนของแต่ละฉบบั
ซง่ึ มลี กั ษณะคลำ้ ยคลงึ กนั หรอื เหมอื นกนั ดงั น้ี

นายจ้าง หมำยควำมว่ำ ผซู้ ง่ึ ตกลงรบั ลูกจำ้ งเขำ้ ทำงำนโดยจ่ำยคำ่ จำ้ งใหแ้ ละหมำยควำมรวมถงึ
1. ผซู้ ง่ึ ไดร้ บั มอบหมำยใหท้ ำงำนแทนนำยจำ้ ง
2. ในกรณีท่ีนำยจ้ำงเป็ นนิติบุคคลใหห้ มำยควำมรวมถึงผมู้ อี ำนำจกระทำกำรแทนนิติบุคคล และผู้ซึ่งได้รบั
มอบหมำยจำกผมู้ อี ำนำจกระทำกำรแทนนิตบิ คุ คลใหท้ ำกำรแทนดว้ ย

นำยจำ้ ง หมำยถงึ บุคคล ดงั น้ี
บคุ คลธรรมดา ไดแ้ กบ่ ุคคลทวั ่ ๆ ไป มกี ิจกำรธุรกจิ เป็นสว่ นตวั ของตนเอง และเป็นเจ้ำของกิจกำรนนั้ ๆ ได้
ตกลงรบั เอำบคุ คลภำยนอก คอื ลูกจำ้ งเขำ้ มำทำงำนกบั ตนโดยจำ่ ยค่ำจำ้ งให้ บุคคลผตู้ กลงรบั ลูกจำ้ งเขำ้ มำทำงำนและ
จำ่ ยค่ำจำ้ งให้ คอื นำยจำ้ ง และใหห้ มำยรวมถงึ ผซู้ งึ่ ไดร้ บั มอบหมำยใหท้ ำงำนแทนนำยจำ้ ง
นิ ติบคุ คล คำว่ำนิติบุคคล ไดแ้ ก่ หำ้ งหนุ้ ส่วนจำกดั บริษทั จำกดั เม่อื จ้ำงบุคคลภำยนอกเข้ำมำทำงำนใน
กจิ กำรของตนและจ่ำยค่ำจำ้ งให้ ผมู้ อี ำนำจกระทำกำรแทนนิติบุคคลตำมตวั อยำ่ งทย่ี กมำ คือ ผจู้ ัดกำรหำ้ งหนุ้ สว่ น
ผจู้ ดั กำรบรษิ ทั คอื นำยจำ้ ง เมอ่ื นำยจำ้ งมกี จิ ธุระ ไมส่ ำมำรถทำหน้ำทนี่ ำยจ้ำงไดจ้ งึ มอบหมำยใหบ้ ุคคลอ่นื ในหำ้ ง ใน
บรษิ ทั กระทำกำรแทนตน บุคคลดงั กล่ำวจงึ เป็นนำยจำ้ งตำมกฎหมำยน้ี

ลกู จ้าง หมำยควำมวำ่ ผซู้ งึ่ ตกลงทำงำนใหน้ ำยจำ้ งโดยรบั คำ่ จำ้ ง
แต่ลกู จำ้ งหมำยถงึ บคุ คลธรรมดำเทำ่ นนั้ มใิ ชน่ ติ บิ คุ คลทเ่ี ขำ้ มำตกลงทำงำนใหน้ ำยจำ้ ง และได้รบั คำ่ จำ้ งจำ
นำยจำ้ ง โดยไมค่ ำนึงวำ่ ผนู้ นั้ จะทำหน้ำทใี่ นตำแหน่งใด หรอื เรยี กชอ่ื ในตำแหน่งนนั้ ว่ำอยำ่ งไรและกำรตกลงนนั้ จะเป็น
กำรตกลงโดยตรงกบั นำยจำ้ งหรอื ตกลงโดยปรยิ ำยก็ได้

กำรคุ้มครองแรงงำนตำมพระรำชบญั ญตั ิคุ้มครองแรงงำน พ.ศ. 2541 วำงหลกั เกณฑ์มำตรฐำนขนั้ ต่ำใชบ้ งั คับ
นำยจำ้ งไว้เป็นบรรทดั ฐำนในเร่อื ง ค่ำจำ้ ง วนั ลำ วนั หยุดของลูกจำ้ ง หำกนำยจำ้ งประสงค์จะใชม้ ำตรฐำนขนั้ สงู กว่ำ
อตั รำขนั้ ต่ำที่กฎหมำยกำหนดย่อมทำได้อนั จะเป็ นคุณแก่ลูกจ้ำงยิง่ ข้นึ ลกั ษณะสำคัญท่ีนำยจ้ำงต้องปฏิบตั ิตำม
กฎหมำยคมุ้ ครองแรงงำนฉบบั น้ี คอื การใช้แรงงาน โดยเฉพำะแรงงำนหญงิ แรงงำนเด็ก กำรใหค้ ่ำจ้ำง ค่ำล่วงเวลำ

คำ่ ทำงำนในวนั หยดุ ควำมปลอดภยั และสภำพแวดลอ้ มในกำรทำงำน เป็นตน้
อยำ่ งไรก็ตำม ขอบเขตกำรคุม้ ครองแรงงำนตำมพระรำชบญั ญตั ิน้ี มขี อบเขตใหใ้ ชบ้ งั คบั แก่นำยจ้ำงทป่ี ระกอบ

กจิ กำรธรุ กจิ จะไมใ่ ช้แกน่ ำยจำ้ งทม่ี ลี ูกจำ้ งดงั ต่อไปน้ี

1. รำชกำรสว่ นกลำง รำชกำรสว่ นภูมภิ ำค และรำชกำรสว่ นทอ้ งถนิ่ เน่อื งจำกมกี ฎหมำยเฉพำะของตนเอง
2. รฐั วสิ ำหกจิ ตำมกฎหมำยแรงงำน วำ่ ดว้ ยแรงงำนรฐั วสิ ำหกจิ สมั พนั ธ์ เน่อื งจำกมกี ฎหมำยเฉพำะของตนเอง
3. นำยจ้ำงซ่ึงประกอบกิจกำรโรงเรยี นเอกชน ตำมกฎหมำยว่ำดว้ ยโรงเรยี นเอกชน เฉพำะในสว่ นท่เี ก่ียวกับ
ครใู หญ่และครใู นโรงเรยี น
4. นำยจำ้ งซง่ึ จำ้ งลกู จำ้ งทำงำนเกยี่ วกบั งำนบำ้ น อนั มไิ ดม้ กี ำรประกอบธุรกิจรวมอยดู่ ว้ ย โดยทวั ่ ไปเรำเรยี กว่ำ

ผชู้ ว่ ยแมบ่ ำ้ น
5. นำยจำ้ งซงึ่ จำ้ งลูกจำ้ งทำงำนเกษตรกรรม เน่อื งจำกเป็นงำนขน้ึ อยกู่ บั ดนิ ฟ้ำ อำกำศ สงิ่ แวดลอ้ มไมเ่ หมอื นกนั
6. นำยจำ้ งซงึ่ จำ้ งลูกจำ้ งทำงำนทรี่ บั ไปทำทบ่ี ำ้ น

พระรำชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงำน พ.ศ. 2541 มขี อ้ หำ้ มมใิ หน้ ำยจำ้ งปฏบิ ตั แิ ละมขี อ้ ควรปฏบิ ตั ติ ่อลกู จำ้ งดงั น้ี
1. หำ้ มมใิ หน้ ำยจำ้ งเรยี กหรอื รบั หลกั ประกนั กำรทำงำน หรอื หลกั ประกนั ควำมเสยี หำยในกำรทำงำนไมว่ ่ำจะเป็น
เงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ อน่ื ๆ หรอื กำรค้ำประกนั ดว้ ยบคุ คล เวน้ แตล่ กั ษณะหรอื สภำพของงำนทที่ ำนัน้ ลูกจ้ำงตอ้ งรบั ผดิ ชอบ

เกยี่ วกบั กำรเงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ ของนำยจำ้ ง ซง่ึ อำจก่อใหเ้ กดิ ควำมเสยี หำยแก่นำยจำ้ งได้ ในกรณีนำยจำ้ งเรยี กหรอื รบั
เงนิ ประกนั ของลกู จำ้ งไว้ เมอ่ื นำยจำ้ งเลกิ จำ้ งใหน้ ำยจำ้ งคนื เงนิ ประกนั พรอ้ มดอกเบ้ยี (ถำ้ ม)ี ใหแ้ ก่ลูกจ้ำงภำยใน 7 วนั
นบั แตว่ นั ทเ่ี ลกิ จำ้ งหรอื วนั ทลี่ กู จำ้ งลำออก

2. กรณีเปลยี่ นแปลงตวั นำยจำ้ ง หำกมผี ลใหล้ กู จำ้ งไปเป็นลูกจ้ำงของนำยจ้ำงใหมจ่ ะตอ้ งได้รบั ควำมยนิ ยอมจำก
ลูกจำ้ งนนั้ ดว้ ย โดยสทิ ธติ ่ำงๆ ทลี่ กู จำ้ งมอี ยตู่ อ่ นำยจำ้ งเดมิ เชน่ ใดใหล้ ูกจ้ำงมีสทิ ธิเช่นว่ำนนั้ ต่อไป และใหน้ ำยจำ้ งใหม่
รบั ไปทงั้ สทิ ธแิ ละหนำ้ ทท่ี เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ลูกจำ้ งนนั้ ทกุ ประกำร

3. ใหน้ ำยจ้ำงปฏบิ ตั ิต่อลูกจำ้ งใหถ้ ูกต้องตำมสิทธแิ ละหน้ำทที่ ก่ี ำหนดไว้ในประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
เวน้ แต่พระรำชบญั ญตั กิ ำหนดไวเ้ ป็นอยำ่ งอน่ื

4. สญั ญำจำ้ ง ขอ้ บงั คบั เกย่ี วกบั สภำพกำรทำงำน ระเบยี บหรอื คำสงั ่ ของนำยจำ้ ง ทำใหน้ ำยจำ้ งไดเ้ ปรยี บลูกจ้ำง
เกินสมควร ศำลมีอำนำจสงั ่ ให้สญั ญำจ้ำง ข้อบังคบั ระเบียบ หรอื คำสงั ่ นัน้ มีผลใช้บังคับได้เท่ำทเ่ี ป็ นธรรมและ
พอสมควรแกก่ รณี

5. ใหน้ ำยจำ้ งปฏบิ ตั ติ ่อลูกจำ้ งชำยและหญงิ เทำ่ เทยี มกนั ในกำรจำ้ งงำน เว้นแต่ลกั ษณะหรอื สภำพของงำนไม่อำจ
ปฏบิ ตั เิ ชน่ นนั้ ได้

6. หำ้ มมใิ หน้ ำยจำ้ ง หวั หน้ำงำน ผคู้ วบคุมหรอื ผตู้ รวจงำนกระทำกำรล่วงเกิน คุกคำม หรอื ก่อควำมเดือดรอ้ น
รำคำญทำงเพศต่อลกู จำ้ ง

กำรใช้แรงงำนทวั ่ ไป คือ กำรกำหนดใหล้ ูกจ้ำงทำงำนตำมเวลำทก่ี ำหนดอำจแบ่งเป็นเวลำทำงำนปกติ เวลำ
ทำงำนทอี่ ำจเป็นอนั ตรำยตอ่ สขุ ภำพและควำมปลอดภยั ของลูกจำ้ ง กำรทำงำนล่วงเวลำ กำรทำงำนในวนั หยุด เวลำ
พกั ระหว่ำงทำงำน รวมทงั้ กำหนดใหส้ ทิ ธิวันหยดุ แก่ลูกจ้ำง ไดแ้ ก่ วันหยุดประจำสปั ดำห์ วันหยุดตำมประเพณี

วนั หยดุ พกั ผอ่ นประจำปี สทิ ธิกำรลำป่ วย กำรลำกจิ ธุระอนั จำเป็น ซึ่งกฎหมำยแรงงำนตำมพระรำชบญั ญตั ิคุ้มครอง
แรงงำนกำหนดหลกั เกณฑไ์ วโ้ ดยสรปุ ดงั น้ี

การทางานปกติ

1.1กำรทำงำนวนั หนึ่งตอ้ งไม่เกินแปดชวั ่ โมง ในกรณีเวลำทำงำนวนั ใดน้อยกว่ำแปดชวั ่ โมง นำยจ้ำงและ
ลูกจ้ำงจะตกลงกนั ใหน้ ำเวลำส่วนทเี่ หลือไปรวมกบั เวลำทำงำนในวันทำงำนปกตอิ ่นื ก็ได้ แต่ตอ้ งไม่เกินวนั ละเก้า
ชวั ่ โมง และเมอ่ื รวมเวลำทำงำนทงั้ สน้ิ แลว้ สปั ดำหห์ นง่ึ ตอ้ งไมเ่ กนิ สี่สิบแปดชวั ่ โมง

1.2งำนทอี่ ำจเป็นอนั ตรำยต่อสุขภำพ และควำมปลอดภยั ของลูกจำ้ ง ทกี่ ำหนดไวใ้ นกฎกระทรวง ใหม้ เี วลำ
ทำงำนวนั หนึ่งตอ้ งไม่เกินเจด็ ชวั ่ โมง และเมอ่ื รวมเวลำทำงำนทงั้ สน้ิ แลว้ สปั ดำหห์ น่งึ ตอ้ งไมเ่ กนิ ส่ีสิบสองชวั ่ โมง

งำนทอ่ี ำจเป็นอนั ตรำยต่อสขุ ภำพ ไดแ้ ก่
1)งำนตอ้ งทำใตด้ นิ ใตน้ ้ำ ในถ้ำ ในอโุ มงค์ หรอื ในทอี่ บั อำกำศ
2)งำนทเี่ กยี่ วกบั กมั มนั ตภำพรงั สี
3)งำนเชอ่ื มโลหะ
4)งำนขนสง่ วตั ถุอนั ตรำย
5)งำนผลติ สำรเคมอี นั ตรำย
6)งำนทตี่ อ้ งทำดว้ ยเครอ่ื งมอื หรอื เครอ่ื งจกั ร ซงึ่ ผทู้ ำไดร้ บั ควำมสนั ่ สะเทอื นอนั อำจเป็นอนั ตรำย
7)งำนทตี่ อ้ งทำเกย่ี วกบั ควำมรอ้ นจดั หรอื ควำมเยน็ จดั อนั อำจเป็นอนั ตรำย

1.3ในกรณลี กู จำ้ งตกลงกนั ใหน้ ำเวลำทำงำนทเ่ี หลอื ไปรวมกบั เวลำทำงำนปกตอิ น่ื ตำมขอ้ 1.1 เกนิ กว่ำวนั ละ
แปดชวั ่ โมง ใหน้ ำยจำ้ งจ่ำยคำ่ ตอบแทนไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งตามอตั ราค่าจ้างต่อชวั ่ โมงในวนั ทำงำนตำม
จำนวนชวั ่ โมงทที่ ำเกนิ สำหรบั ลูกจำ้ งรำยวนั และลูกจำ้ งรำยชวั ่ โมง หรือไมน่ ้อยกว่าหน่ึงเท่าคร่งึ ของอตั ราค่าจ้าง
ต่อหน่วยในวนั ทางาน ตำมจำนวนผลงำนทที่ ำไดใ้ นชวั ่ โมงทที่ ำเกนิ สำหรบั ลูกจำ้ งซงึ่ ไดร้ บั ค่ำจำ้ งตำมผลงำน

1.4ในกรณนี ำยจำ้ งไมอ่ ำจประกำศกำหนดเวลำเรม่ิ ตน้ และเวลำสน้ิ สดุ ของกำรทำงำนแต่ละวนั ได้ เน่ืองจำก
ลกั ษณะหรอื สภำพของงำน ใหน้ ำยจำ้ งและลูกจำ้ งตกลงกนั กำหนดชวั ่ โมงทำงำนแต่ละวนั ไมเ่ กนิ แปดชวั ่ โมง และเมอ่ื

รวมเวลำทำงำนทงั้ สน้ิ แลว้ สปั ดำหห์ น่ึงตอ้ งไมเ่ กนิ สสี่ บิ แปดชวั ่ โมง

เวลาพกั ระหว่างทางาน

กฎหมำยกำหนดเวลำพกั ระหว่ำงทำงำนไวด้ งั น้ี
2.1 ในวนั ทมี่ กี ำรทำงำน ใหน้ ำยจำ้ งจดั ใหล้ ูกจำ้ งมเี วลำพกั ระหวำ่ งกำรทำงำนวนั หนึ่งไม่น้อยกว่าหน่ึงชวั ่ โมง
หลงั จำกทล่ี ูกจำ้ งทำงำนมำแลว้ ไมเ่ กินห้าชวั ่ โมงติดต่อกนั และนำยจำ้ งลูกจำ้ งอำจตกลงกนั ล่วงหน้ำใหม้ เี วลำพกั ครงั้
หน่งึ น้อยกว่าหน่ึงชวั ่ โมงได้ แต่เมอ่ื รวมกนั แล้ว วนั หนึ่งต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งชวั ่ โมง และถำ้ กำรตกลงนนั้ เป็นอย่ำง

อน่ื และขอ้ ตกลงกำรพกั นนั้ เป็นประโยชน์แกล่ กู จำ้ ง ใหข้ อ้ ตกลงนนั้ ใชบ้ งั คบั กนั ได้

การทางานลว่ งเวลา
การทางานล่วงเวลา หมำยควำมวำ่ กำรทำงำนนอกหรอื เกนิ เวลำทำงำนปกติ หรอื เกนิ ชวั ่ โมงในกำรทำงำน
แต่ละวนั ทนี่ ำยจำ้ งลกู จำ้ งตกลงกนั
หลกั กฎหมายค้มุ ครองแรงงาน กำหนดไวว้ ำ่ “หำ้ มมใิ หน้ ำยจำ้ งใหล้ ูกจำ้ งทำงำนล่วงเวลำในวนั ทำงำน เว้น

แต่ไดร้ บั ควำมยนิ ยอมจำกลูกจำ้ งก่อนเป็นครำวๆ ไป”
“ในกรณที ล่ี กั ษณะหรอื สภำพของงำนตอ้ งทำตดิ ต่อกนั ไปถ้ำหยดุ จะเสยี หำยแก่งำน หรอื เป็นงำนฉุกเฉิน หรอื

เป็นงำนอน่ื ตำมทกี่ ำหนดในกฎกระทรวง นำยจำ้ งอำจใหล้ ูกจ้ำงทำงำนล่วงเวลำได้เทำ่ ทจี่ ำเป็น ในกรณีทก่ี ำรทำงำน
ล่วงเวลำต่อจำกเวลำทำงำนปกติไม่น้อยกว่ำสองชวั ่ โมง นำยจำ้ งต้องจดั ใหล้ ูกจำ้ งมเี วลำพกั ไม่น้อยกว่ำยี่สิบนาที
กอ่ นทล่ี กู จำ้ งจะเรม่ิ ทำงำนล่วงเวลำ”

ทางานในวนั หยดุ
กำรทำงำนในวนั หยดุ คอื วนั ทกี่ ำหนดใหล้ กู จำ้ งทำงำนในวนั หยดุ ประจาสปั ดาห์ วนั หยดุ ตามประเพณีหรอื
วนั หยดุ พกั ผ่อนประจาปี
หลกั กฎหมายค้มุ ครองแรงงาน กำหนดไวว้ ่ำ หำ้ มมใิ หน้ ำยจำ้ งใหล้ ูกจำ้ งทำงำนในวนั หยุดเว้นแต่กรณีที่

ลกั ษณะหรอื สภำพของงำนตอ้ งทำตดิ ตอ่ กนั ไป ถำ้ หยดุ จะเสยี หำยแกง่ ำน หรอื เป็นกรณีฉุกเฉิน นำยจ้ำงอำจใหล้ ูกจ้ำง
ทำงำนในวนั หยดุ ไดเ้ ทำ่ ทจี่ ำเป็น

สว่ นงำนบำงประเภททม่ี รี ปู แบบกำรทำงำนแตกตำ่ งจำกงำนประเภททวั ่ ไป เชน่ กจิ กำรโรงแรม สถำนมหรสพ
งำนขนสง่ รำ้ นขำยอำหำร งำนขำยเครอ่ื งด่มื สโมสร สมำคม สถำนพยำบำล นำยจำ้ งอำจใหล้ ูกจำ้ งทำงำนในวนั หยดุ ได้

เพอ่ื ใชป้ ระโยชน์แก่กำรผลติ กำรจำหน่ำย และกำรบรกิ ำร นำยจำ้ งอำจใหล้ ูกจ้ำงทำงำนนอกจำกทกี่ ำหนด
ตำมวรรคหนึง่ และวรรคสองในวนั หยดุ เทำ่ ทจี่ ำเป็น โดยไดร้ บั ควำมยนิ ยอมจำกลกู จำ้ งกอ่ นเป็นครำวๆ ไป

จากหลกั กฎหมายขา้ งต้น กฎหมำยคุม้ ครองแรงงำนมใิ หน้ ำยจำ้ งใหล้ ูกจำ้ งทำงำนในวนั หยุด ได้แก่ วนั หยดุ

ประจำสปั ดำห์ เช่น วนั อำทติ ย์ วันหยดุ ตำมประเพณี เช่น วนั ท่ี 13 เมษำยน (วนั สงกรำนต์) หรือวนั หยุดพกั ผอ่ น
ประจำปีทต่ี นมสี ทิ ธิได้พกั ผ่อน แต่มขี อ้ ยกเว้น ใหท้ ำงำนวนั หยุดได้ โดยต้องได้รบั ความยินยอมจากลูกจ้างก่อน

ในงำนต่อไปน้ไี ดเ้ ทำ่ ทจี่ ำเป็น คอื
1. ลกั ษณะหรอื สภำพของงำนนนั้ ตอ้ งทำตดิ ตอ่ กนั ถำ้ หยดุ จะเสยี หำย
2. เป็นงำนฉุกเฉินเรง่ ด่วน
3. เป็นงำนผลติ งำนจำหน่ำย งำนบรกิ ำร เชน่ งำนโรงแรม งำนมหรสพ งำนขนสง่ งำนสโมสร

สวสั ดิการ (Welfare) หมำยถึง กำรมุ่งใหเ้ กิดกำรกินดอี ยู่ดขี องบุคคลหรอื สงั คม สวสั ดิกำรแรงงำนจึงหมำยถงึ

กำรมุ่งใหเ้ กิดกำรกินดีอย่ดู ใี นหมู่แรงงำน โดยนำยจ้ำงเป็นผจู้ ดั ใหต้ ำมกรอบจรยิ ธรรมหรอื ตำมกฎหมำย เชน่ กำร
จดั น้ำด่มื อำหำรกลำงวนั เงนิ สงเครำะห์ เป็นตน้

กฎหมำยกำหนดใหม้ คี ณะกรรมกำรสวสั ดกิ ำรแรงงำน 2 ระดบั
ระดบั ชาติ เป็นกรรมกำรสวสั ดิกำรแรงงำน ระบบไตรภำคเี พ่อื กำหนดนโยบำยสวสั ดิกำรแรงงำนระดบั ชำติ

และเสนอควำมเหน็ ตอ่ รฐั มนตรี เพอ่ื ออกเป็นกฎกระทรวงกำหนดในเร่อื งจดั กำรสวสั ดกิ ำรแรงงำนในสถำนประกอบกิจกำร
ระดับสถานประกอบกิจการ สถำนประกอบกิจกำรที่มลี ูกจ้ำงตงั้ แต่ 50 คนขึ้นไป ให้นำยจ้ำงจัดให้มี

คณะกรรมการสวสั ดิการในสถานประกอบกิจการ ประกอบด้วยผแู้ ทนฝ่ ำยลูกจ้ำงอย่ำงน้อย 5 คน ทำหน้ำทเ่ี ป็น
คณะกรรมการสวสั ดิการในสถานประกอบกิจการ มอี ำนำจหนำ้ ท่ี คอื

1. รว่ มหำรอื กบั นำยจำ้ ง เพอ่ื จดั สวสั ดกิ ำร
2. ใหค้ ำปรกึ ษำหำรอื และเสนอควำมเหน็ กบั นำยจำ้ งในกำรจดั สวสั ดกิ ำรสำหรบั ลกู จำ้ ง

3. ตรวจตรำ ควบคุม ดูแล กำรจัดสวัสดิกำรที่นำยจ้ำงจัดให้แก่ลูกจ้ำง ดังท่ีกฎกระทรวงกำหนด ให้
นำยจ้ำงจัดสวัสดิกำรด้ำนปั จจัยพ้ืนฐำนให้แก่ลูกจ้ำง เช่น น้ ำด่ืม ห้องน้ ำ ห้องส้วม ห้องปฐมพยำบำล
และกำรรกั ษำพยำบำล เป็นตน้

4. เสนอข้อคิดเห็น และแนวทำงในกำรจัดสวัสดิกำรท่ีเป็ นประโยชน์สำหรับลูกจ้ำงต่อคณะกรรมกำ ร
สวสั ดกิ ำรแรงงำน

กฎหมำยกำหนดให้ นายจ้างต้องจดั ให้มีการประชุมหารือกบั คณะกรรมการสวสั ดิการในสถานประกอบ
กิจการ อย่างน้อย 3 เดือนต่อหน่ึงครงั้ และใหน้ ำยจำ้ งปิดประกำศกำรจดั สวสั ดิกำรไวใ้ นทเ่ี ปิดเผยเพ่อื ใหล้ ูกจำ้ งได้

ทรำบ ณ สถำนทท่ี ำงำนของลกู จำ้ ง กำรทน่ี ำยจำ้ งไมป่ ฏบิ ตั อิ ำจมโี ทษตำมทกี่ ฎหมำยกำหนดได้


Click to View FlipBook Version