The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by torsompog256, 2022-06-14 09:26:03

กฎหมายธุรกิจ-03

กฎหมายธุรกิจ-03

บทท่ี นิติกรรม-สญั ญา
3

สาระการเรยี นรู้

1. นิติกรรม
- ความหมายและลักษณะของนิติกรรม
- วตั ถปุ ระสงคข์ องนิติกรรม
- แบบของนิติกรรม
- ความสมบูรณ์ของนิติกรรม
- หลกั เกณฑ์เก่ยี วกับเรอ่ื งการแสดงเจตนา
ในการเขา้ ทานิติกรรม
2. สัญญา
- ความหมายของสัญญา
- คาม่นั
- สญั ญาต่างตอบแทนกับสญั ญาไมต่ ่างตอบแทน
- มัดจากบั เบย้ี ปรบั
- การเลิกสัญญา

1. นิติกรรม

“นิติกรรม”

นิ ติ ก ร ร ม จั ด เป็ น บ่ อ เ กิ ด แห่ ง ห น้ี
ลักษณะหนึ่งทเ่ี กิดจากความสมัครใจของ
บุคคล โดยความหมาย และลักษณะของ
นิตกิ รรมปรากฏในประมวลกฎหมายแพ่ง
และพาณชิ ย์บรรพท่ี 1

1. นิตกิ รรม

ความหมายและลักษณะของนิติกรรม
“นิติกรรม หมายความว่า การใด ๆ อันทาลงโดยชอบด้วยกฎหมายและด้วยใจ

สมัคร มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ข้ึนระหวา่ งบคุ คล เพื่อจะกอ่ เปล่ียนแปลง
โอนสงวนหรอื ระงบั ซง่ึ สทิ ธิ”

นติ ิกรรมมอี งค์ประกอบอยู่ 5 ประการ คอื

1. การใด ๆ หมายถึงการกระทาของบุคคลซ่ึงกฎหมายไม่ระบุว่ามีก่ีคน ดังน้ัน
คนเพียงคนเดียว ก็สามารถทา นิติกรรมได้
2. กระทาลงโดยชอบด้วยกฎหมาย
3. กระทาด้วยความสมคั รใจ คอื ไมม่ ีใครมาบังคับ ขู่เข็ญ หรือทา ให้ลุ่มหลงมัว
เมาขาดสติ
4. มุ่งโดยตรงต่อการผกู นิติสมั พันธ์ คือการเคลื่อนไหวแห่งสิทธิจากการทานิติ
กรรมซ่งึ ต่างจากสิทธิหน้าท่ีในเรอ่ื งละเมดิ จัดการงานนอกส่ัง หรอื ลาภมคิ วรได้
5. กระทาเพอ่ื จะก่อเปล่ียนแปลงโอนสงวนหรอื ระงับซึง่ สิทธิซ่ึงรวมแล้วเรียกว่า
การเคล่ือนไหวแหง่ สทิ ธิ

1. นิตกิ รรม

วตั ถุประสงค์ของนิติกรรม

1. การนั้นเป็นการต้องหา้ มตามกฎหมาย กลา่ วคอื บคุ คลสามารถจะทานิติกรรมใดกไ็ ด้
เวน้ แตน่ ิตกิ รรมน้นั จะตอ้ งหา้ มตามกฎหมาย เชน่ ขายยาเสพตดิ ขายอาวธุ สงคราม

2. การนน้ั เปน็ การพน้ วิสยั คอื ไม่มที างที่บคุ คลใด ๆ จะทาใหก้ ารนัน้ สาเรจ็ ได้
เชน่ ตกลงจา้ งคน มาฝกึ ใหล้ งิ สามารถพูดภาษามนุษยไ์ ด้

3. การนัน้ ขดั ต่อความสงบเรยี บรอ้ ย กลา่ วคือ นิติกรรมนนั้ จะกอ่ ให้
เกดิ ความวนุ่ วายหรอื กระทบความสงบของประชาชน

4. การนัน้ ขดั ตอ่ ศีลธรรมอนั ดีของประชาชน เชน่ จ้างใหเ้ ดิน
เปลือยกายการทาสัญญายนิ ยอม ใหค้ ่สู มรสมีคู่ครองได้หลายคน

1. นิตกิ รรม

แนวของนิติกรรม

1. แบบของนิติกรรมทต่ี อ้ งทาเปน็ หนังสือและจดทะเบยี นต่อพนักงานเจา้ หนา้ ทยี่ กตัวอยา่ ง
เชน่ การซอื้ ขายอสังหารมิ ทรพั ย์ การจานอง การใหอ้ สงั หารมิ ทรพั ย์

2. แบบของนิติกรรมทีต่ ้องทาเป็นหนังสือ ซง่ึ คาวา่ ทาเปน็ หนงั สอื น้ีต่างจากคาวา่ มี
หลักฐานเปน็ หนังสือ เพราะคาวา่ ทาเป็นหนังสอื เปน็ เรอ่ื งแบบของนติ ิกรรม หากไม่
ทาผลจะเป็นโมฆะ กเ็ ท่ากบั วา่ นติ สิ ัมพันธไ์ มเ่ กดิ ขน้ึ

3. แบบของนติ ิกรรมที่ตอ้ งจดทะเบยี นต่อเจ้าหน้าที่ เชน่ การจัดตั้งบรษิ ัท

4. แบบของนิตกิ รรมทตี่ ้องทาเปน็ หนังสือต่อเจ้าหน้าท่ี
เชน่ การทา พินัยกรรมฝา่ ยเมอื งหรอื เอกสารลับ

1. นิติกรรม

ความสมบูรณ์ของนิติกรรม

1. นติ กิ รรมท่สี มบรู ณ์ หมายความวา่ นติ กิ รรมทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ นิติสมั พันธค์ อื มกี ารเคลอ่ื นไหว
แหง่ สทิ ธิ เชน่ นายแดงซอ้ื กว๋ ยเตย๋ี วจากนายดา นายแดงมีสิทธริ บั ประทานกว๋ ยเตย๋ี วและ
นายดามสี ทิ ธเิ รยี กเอาเงนิ จากนายแดง

2. นิติกรรมทเี่ ป็นโมฆะ หมายความวา่ นติ กิ รรมนัน้ เสียเปลา่ ไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ การ
เคล่ือนไหวแหง่ สทิ ธิ เชน่ นายแดงซอ้ื เฮโรอนี จากนายดา นายแดงไมย่ อมจ่าย
เงนิ นายดาจะเรยี กเอาเงนิ จากนายแดงไม่ได้

3. นติ ิกรรมท่ีเป็นโมฆียะ หมายความวา่ นติ กิ รรมนน้ั สมบรู ณจ์ นกวา่
จะมีการบอกลา้ งใหเ้ ปน็ โมฆะ ซง่ึ หากเราพิจารณาจากความหมายของ
นติ ิกรรมทเี่ ป็นโมฆยี ะ จะเหน็ วา่ เปน็ นิตกิ รรมท่ีสมบรู ณ์ ดงั นัน้ ความ
เคล่ือนไหวแหง่ สิทธยิ งั คงเกดิ ขน้ึ เหมอื นนิติกรรมทีส่ มบรู ณ์

1. นิติกรรม

หลักเกณฑท์ ีเ่ กี่ยวกบั เรอื่ งการแสดงเจตนาในการเข้าทานิติกรรม

1. เจตนาลวง หมายถงึ เจตนาท่แี สดงขน้ึ มาเพอ่ื ลวงหรอื ไม่ตรงกับเจตนาที่แท้จรงิ
2. นติ กิ รรมอาพราง หมายถงึ การทานติ กิ รรมหน่ึงอาพรางอีกนติ ิกรรมหน่ึง กฎหมายให้
นานติ กิ รรมทถ่ี กู อาพรางมาใชบ้ งั คับ

3. การสาคญั ผดิ ในสาระสาคญั
4. นติ กิ รรมทส่ี าคญั ผิดในคณุ สมบัติ
5. การแสดงเจตนาที่ถูกกลฉ้อฉล คาวา่ กลฉอ้ ฉล หมายความถงึ
การใชอ้ บุ ายล่อลวงให้อกี ฝา่ ยหน่ึงหลงเชอ่ื
6. การแสดงเจตนาเพราะถกู ข่มขู่

2. สญั ญา

ความหมายของสัญญา

“สัญญา”

หมายถึง นิติกรรมที่บุคคลต้ังแต่ 2 ฝ่าย
ขึ้นไปตกลงทากัน โดยฝ่ายหน่ึงเป็นผู้ทาคา
เสนอ และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ทาคาสนองใน
คาเสนอน้ัน และสัญญาจะเกิดขึ้นเม่ือคา
เสนอตรงกับคาสนอง แต่บางครง้ั คาสนอง
ทไ่ี ม่ตรงกับคาเสนอ อาจจะเป็นคาเสนอข้ึน
ใหม่ก็ได้

2. สญั ญา

คามนั่

1. ผทู้ ่ใี หค้ ามนั่ ตอ้ งใหร้ างวลั แกผ่ ทู้ ี่กระทาการสาเรจ็ แมว้ า่ ผนู้ ้ันจะไมไ่ ด้ทา เพราะเหน็ แกร่ างวลั
2. ถา้ ยงั ไม่มีผใู้ ดทาสาเรจ็ ตามคาม่ัน อาจถอนคามั่นด้วยวธิ ีการเดียวกันกับที่โฆษณา ถ้าทา
ไม่ได้กใ็ หใ้ ชว้ ธิ ีอ่ืนไดแ้ ต่การใช้วธิ ีอืน่ น้ีกใ็ หถ้ ือวา่ การถอนคามน่ั จะสมบรู ณ์เฉพาะคนทร่ี เู้ ทา่ นัน้
3. ถา้ เปน็ คามั่นท่ีมีกาหนดเวลาใหส้ นั นษิ ฐานไวก้ อ่ นวา่ ได้สละสทิ ธถิ อนคา ม่ันกอ่ นกาหนดเวลา
แปลวา่ เมือ่ ยงั ไมถ่ งึ กาหนดเวลากใ็ หส้ นั นษิ ฐานก่อนวา่ คามั่นยงั ไมม่ กี ารถอน
4. ถา้ มีคนทาไดต้ ามคามัน่ หลายคน คนทาได้กอ่ นมสี ิทธิรบั รางวลั
5. ถา้ มีคนทา ไดห้ ลายคนพรอ้ มกนั กใ็ หแ้ บง่ รางวลั เทา่ ๆ กนั แตถ่ า้ โดย
สภาพของรางวลั เปน็ ทรพั ยท์ ่ีแบง่ ไมไ่ ดก้ ใ็ หจ้ บั สลาก

2. สญั ญา

สญั ญาต่างตอบแทนกับสญั ญาไม่ต่างตอบแทน

1. สัญญาต่างตอบแทน หมายถึง สัญญาที่คู่สัญญาทง้ั 2 ฝ่าย
มสี ทิ ธิหน้าทีต่ ่อกนั และกนั
2. สัญญาไม่ต่างตอบแทน หมายถึง สัญญาท่ีคู่สัญญามี
หน้าท่ีต่ออีกฝา่ ยหน่ึงแต่อีกฝา่ ยหน่ึงไมม่ หี น้าที่

2. สญั ญา

มดั จากับเบี้ยปรบั

มดั จา หมายถงึ สง่ิ ทม่ี อบไวใ้ ห้แกค่ ู่สัญญาอีกฝา่ ยหนึ่งเมื่อเข้าทา สัญญาเพ่ือเป็นการ
ประกนั การที่จะปฏบิ ตั ิตามสัญญาน้ัน ซง่ึ มัดจากฎหมายใชค้ าว่า “ส่ิง” ดังนั้น มัดจาจะเป็น
เงนิ หรอื สง่ิ ของกไ็ ด้ แต่ตอ้ งมีการมอบใหไ้ วแ้ ก่กนั

ผลของการวางมดั จา มดี งั นี้
1. กรณีฝ่ายที่วางมัดจาไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรอื กรณีไม่สามารถ
ปฏบิ ตั ิตามสญั ญาได้ เพราะพฤติการณ์ท่ีฝ่ายที่วางมัดจาต้องรบั ผิดชอบ
อีกฝา่ ยมสี ิทธริ บิ มดั จา
2. กรณีฝ่ายที่รบั มัดจาไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรือกรณีไม่สามารถ
ปฏิบัติตามสัญญาได้เพราะพฤติการณ์ที่ฝ่ายท่ีรบั มัดจาต้องรับผดิ ชอบ
ตอ้ งส่งคนื มัดจา
3. กรณีท่ีปฏิบัติตามสัญญาได้ใหค้ ืนมัดจาหรอื เอามัดจาเป็นการ
ชาระหนบ้ี างสว่ น

2. สญั ญา

มดั จากับเบ้ียปรบั

เบีย้ ปรบั หมายถงึ เงนิ ทีค่ ูส่ ญั ญาตกลงจะให้อีกฝ่ายหน่ึง หากไม่ชาระหน้ีหรอื ชาระหน้ี
ไม่ถกู ตอ้ ง หรอื ผดิ นัดชาระหนี้ โดยกฎหมายกาหนดหลักเกณฑไ์ วด้ ังนี้

1. หากลูกหน้ีตกลงจะใช้เบี้ยปรบั หากตนไม่ชาระหนี้ ถา้ เจ้าหนี้จะเรยี กเอาเบยี้ ปรบั แทน
การชาระหนีก้ เ็ ป็นอนั ขาดต่อสทิ ธิเรยี กรอ้ งให้ชาระหนี้

2. หากลูกหนีต้ กลงจะใหเ้ บยี้ ปรบั เมอ่ื ตนชาระหนี้ไมถ่ ูกต้อง เชน่ ชาระหน้ี
ไม่ตรงตามเวลา นอกจากจะเรยี กใหช้ าระหน้จี ะเรยี กเอาเบยี้ ปรบั ด้วยกไ็ ด้

3. ถา้ เบย้ี ปรบั สงู เกนิ ส่วน ศาลจะลดจานวนเป็นจานวน
พอสมควรได้

2. สญั ญา

การเลิกสญั ญา

1. กรณีในสัญญามีข้อกาหนดใหเ้ ลิกสัญญา การเลิกสัญญาทาได้โดยฝ่ายหน่ึงแสดง
เจตนาเลกิ สญั ญาแก่อีกฝา่ ยหน่ึง และอีกฝา่ ยหนึ่งตอบรบั เจตนานั้น แปลว่าทั้งสองฝา่ ยต้อง
ใหค้ วามยนิ ยอมเลิกสัญญา

2. ถา้ ฝา่ ยหน่ึงไมช่ าระหน้ีอีกฝา่ ยหนึ่งตอ้ งกาหนดระยะเวลาใหช้ าระหนี้
พอสมควร และเม่ือถงึ กาหนดเวลาแล้วยงั ไมม่ กี ารชาระหนี้กใ็ หเ้ ลกิ สัญญาได้

3. ถา้ เปน็ สญั ญาท่ีมีวตั ถปุ ระสงค์วา่ โดยสภาพแลว้ การชาระหน้ี
ณ เวลาทกี่ าหนดไวเ้ ปน็ ลักษณะสาคญั

4. การชาระหนเ้ี ป็นพน้ วสิ ัย อันโทษลกู หนไี้ ดเ้ จ้าหนบ้ี อกเลกิ
สญั ญาได้

สรุป

นติ กิ รรม เป็นบอ่ เกดิ แหง่ หน้ลี กั ษณะหน่ึงอันเกิดจากความสมัครใจของ
บคุ คล กฎหมายจงึ ได้ใหค้ วามสาคัญเกย่ี วกบั การแสดงเจตนาของบุคคล และ
กาหนดผลทางกฎหมายใหส้ มบรู ณ์ขนึ้ เมือ่ มกี ารแสดงเจตนาท่ีวปิ รติ ผดิ เพ้ียน
ไป เชน่ การสาคัญผดิ การถกู ฉ้อฉล การถกู ข่มขู่ ส่วนสัญญา คือการท่ีบคุ คล
สมัครใจเข้าผูกมัดตนในภาระหน้าท่ีหนึ่งกับอีกฝา่ ยหน่ึง ท้ังนี้เพื่อใหเ้ กิดการ
ปฏิบัติตามสัญญา กฎหมายจึงกาหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ไว้ เช่น เร่อื งมัดจา
เบยี้ ปรบั เป็นต้น


Click to View FlipBook Version