The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ปี63-วิจัยในชั้นเรียน ป. 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kanyaphatkerdsiri, 2021-08-06 02:56:01

ปี63-วิจัยในชั้นเรียน ป. 1

ปี63-วิจัยในชั้นเรียน ป. 1

รายงานวจิ ัย

การใชแ้ บบฝึกอา่ นสะกดคาและแจกลูกเพือ่ พฒั นาการอ่านออกเขียนได้
ของนกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563

ผ้วู จิ ยั
นางสาวช่อพฤกษา คาแสง

โรงเรยี นบ้านหนองจาน
อาเภอเฉลมิ พระเกยี รติ จงั หวดั สระบุรี
สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาสระบุรี เขต 1

1

ช่ืองานวิจยั การใช้แบบฝกึ อา่ นสะกดคาและแจกลูกเพอ่ื พฒั นาการอ่านออกเขียนได้
ของนกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563
ชื่อผวู้ จิ ยั นางสาวช่อพฤกษา คาแสง
หนว่ ยงาน โรงเรียนบา้ นหนองจาน
ปีการศกึ ษา 2563

บทคัดยอ่

ในการวจิ ยั ครง้ั น้ี มวี ัตถุประสงค์เพ่อื พฒั นาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนช้ันประถมศึกษา
ปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 จานวน 5 คน ให้มีผลสัมฤทธ์ิท่ีดีย่ิงขึ้น และเพ่ือเปรียบเทียบ
ผลสมั ฤทธ์กิ ารอ่านและการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วย
แบบฝึกแจกลกู และสะกดคาโดยใช้แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลูก

ผลการวิจัยพบว่า หลังจากใช้แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลูกในการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้
ของนักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 นักเรยี นทกุ คนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นสูงขึ้นกวา่ ก่อนเรยี น

2

1. ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหาวจิ ยั
ภาษาไทยเป็นภาษาประจาชาติท่ีทุกคนจาเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจ เพ่ือให้สามารถใช้

ภาษาไทยในการติดต่อสอ่ื สารกับคนไทยด้วยกันได้เปน็ อย่างดี เพราะคนไทยไม่เพียงแต่ใช้ภาษาไทยใน
การตดิ ตอ่ สื่อความหมายเท่าน้ัน แต่ยังใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษาหาความรู้และประกอบอาชีพด้วย
ดังน้ันการถ่ายทอดภาษาไทยให้คนรุ่นหลังจึงถือเป็นหน้าที่อันสาคัญที่คนในรุ่นปัจจุบันจาเป็นต้อง
ปฏิบตั สิ บื ตอ่ กันเร่ือยไป

สถาบันการศึกษาโดยเฉพาะโรงเรียนเป็นสถาบันท่ีสาคัญของสังคม มีหน้าท่ีต้องรับผิดชอบ
ในการถ่ายทอดวัฒนธรรมภาษาไทยให้แก่นักเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนประถมศึกษาเป็น
สถานศึกษาที่ให้การศึกษาภาคบังคับ ครูต้องจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพโดย
มีจุดประสงค์เพ่ือมุ่งให้ผู้เรียนมีพัฒนาการทางภาษาทั้ง การอ่าน การเขียน ด้านการฟัง การดูและ
การพูด หลกั การใช้ภาษา วรรณคดแี ละวรรณกรรมตามควรแกว่ ยั เหน็ คณุ คา่ ของภาษาสามารถใช้เป็น
เครอื่ งมือสื่อความคิด ความเข้าใจ รักการอ่าน แสวงหาความรู้ และมีเหตุผล เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถใช้
ภาษาไทยเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และใช้สื่อสารในชีวิตประจาวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมี
ความภาคภมู ิใจในภาษาไทยซึง่ เป็นมรดกท่ีสาคัญของชาติ การจะสอนภาษาไทยให้บรรลุวัตถุประสงค์
จาเป็นต้องฝกึ ฝนทักษะตา่ ง ๆ ใหส้ ัมพันธก์ นั ทง้ั ทักษะด้านการอ่าน การเขียน การฟังการดูและการพูด
หลักการใช้ภาษา วรรณคดี และวรรณกรรมโดยเฉพาะการอ่านและการเขียนนับว่ามีความจาเป็นท่ี
ตอ้ งใชใ้ นการตดิ ต่อสื่อสาร

การอ่านและการเขียนมีความสาคัญยิ่งต่อการดารงชีวิตในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น
การติดต่อสื่อสารเพื่อกิจธุระ การประกอบอาชีพ การแสวงหาความรู้ความเพลิดเพลิน การประกอบ
กิจกรรมต่าง ๆ ก็ต้องอาศัยทักษะด้านการอ่านและการเขียนทั้งสิ้น การอ่านและการเขียนจึงควร
ดาเนินการควบคู่กันไป ดังนั้นจึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งท่ีคนเราจะต้องอ่านออกเขียนได้เพื่อให้
การตดิ ตอ่ ส่ือสารน้ันสัมฤทธ์ิ

จากการท่ีผู้วิจัยได้สอนในวิชาภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่านักเรียนจะมีความ
สนใจในบทเรียนมาก หากบทเรียนน้ันมีการใช้เร่ืองเล่าประกอบบทเรียนหรือกิจกรรมย่ิงเป็นท่ีสนใจ
แต่พบว่านักเรียนไม่สามารถอ่านสะกดคาได้ถูกต้อง และไม่คล่อง ผู้วิจัยซ่ึงเป็นครูประจาชั้น
ประถมศกึ ษาปีที่ 1 จงึ มคี วามสนใจท่จี ะพัฒนาการอ่านและการเขียนของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี
1 ท่ีอ่านไม่คล่อง เขียนไม่คล่อง โดยใช้แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลูก จึงได้จัดทาวิจัยเรื่อง การใช้
แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลูกเพ่ือพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 1
ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563

2. วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัย
1. เพือ่ พฒั นาการอ่านออกเขียนไดข้ องนักเรยี นช้นั ประถมศึกษา ปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปี

การศึกษา 2563 จานวน 5 คน ใหม้ ผี ลสัมฤทธทิ์ ี่ดียงิ่ ข้นึ
2. เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิการอ่านและการเขียนของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 1

ระหวา่ งกอ่ นเรียนและหลังเรยี นด้วยแบบฝกึ แจกลูกและสะกดคา

3

3. ขอบเขตของการวจิ ัย
3.1 ขอบเขตด้านแหล่งข้อมลู
3.1.1 ผู้ศกึ ษาวิจยั ในฐานะ ครูผูส้ อน วชิ า ภาษาไทย 1
3.1.2 กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563

จานวน 5 คน
3.2 กรอบการศึกษาคน้ ควา้
การวิจยั ครั้งนี้เป็นการพัฒนาการอ่านและการเขยี นของนักเรยี นช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1
3.3 ขอบเขตดา้ นระยะเวลาในการดาเนินการ
เดือนพฤศจิกายน – เดอื นกุมภาพนั ธ์ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563

4. สมมตฐิ านสาหรับการวจิ ัย
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 จานวน 5 คน หลังจาก

นักเรียนใช้แบบฝกึ อ่านสะกดคาและแจกลกู จะมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนสงู ข้ึนกวา่ กอ่ นเรยี น

5. ตวั แปรทใี่ ชใ้ นการวจิ ัย
ตวั แปรตน้ : แบบฝกึ อ่านสะกดคาและแจกลูก
ตวั แปรตาม : ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น

6. วธิ ดี าเนนิ การวจิ ัย
การวิจัย เร่ือง การใช้แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลูกเพื่อพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ ของ

นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 มวี ิธีดาเนนิ การวิจยั ดังน้ี
6.1 กลุ่มเปา้ หมาย
นกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จานวน 5 คน
6.2 แบบแผนการวิจัย
การวิจัยคร้ังนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบกลุ่มเดียว แต่มีการวัดผลก่อนเรียนและ

หลงั เรียนในรปู แบบทีเ่ รยี กว่า One-Group Pretest-Posttest Design แสดงเปน็ แผนภมู ไิ ด้ดังน้ี

X

หมายถงึ การสอบก่อนการทดลอง (Pretest)
X หมายถงึ การสอนโดยใช้ชุดฝกึ แบบแจกลกู สะกดคา

หมายถงึ การสอบหลังจากการทดลองแล้ว (Posttest)
6.3 เครอ่ื งมือท่ีใช้ในการวจิ ัย

6.3.1 เคร่ืองมือที่ใช้ในการวจิ ยั ผวู้ ิจัยได้ใช้เครื่องมอื ในการวจิ ยั ดงั น้ี
1) แบบวัดการอา่ นและการเขยี น
2) แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลกู ของสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา

ชยั นาท

4

ขน้ั ตอนดาเนนิ การวจิ ยั
1. เลอื กสอ่ื เพ่อื ใช้ในการพฒั นาการอา่ นออกเขียนได้
2. จดั ทาแบบทดสอบก่อนเรียน(Pretest) และ หลังเรียน (Posttest)
3. ทาการทดสอบก่อนเรียนโดยใช้แบบวัดการอ่านและการเขียน จานวน 20 ข้อ ท่ี

ผู้วจิ ยั สร้างขน้ึ
4. ฝึกอา่ นและเขียนโดยใช้แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลูกของสานักงานเขตพื้นท่ี

การศกึ ษาประถมศกึ ษาชยั นาท
5. ทาการทดสอบหลังเรียนโดยใช้แบบวัดการอ่านและการเขียน จานวน 20 ข้อ ท่ี

ผวู้ จิ ัยสรา้ งขึ้น (ฉบบั เดียวกบั ทใี่ ช้ ทดสอบกอ่ นเรยี น)
6. นาแบบทดสอบก่อนเรยี น และหลงั เรยี น มาตรวจใหค้ ะแนน โดยใหค้ ะแนนเต็ม

ข้อละ 1 คะแนน ถา้ ทาถูก ให้คะแนน 1 คะแนน ถา้ ทาผดิ ใหค้ ะแนน 0 คะแนน
7. นาคะแนนจากการทดสอบก่อนเรียนและการทดสอบหลังเรียน มาคานวณและ

เปรยี บเทียบผลสัมฤทธ์ิการเรียน

เคร่อื งมอื ทีใ่ ช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลและสถิติทใี่ ชใ้ นการวิเคราะห์
วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อวิเคราะห์หาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากการทดสอบก่อน – หลัง

เรียนจากแบบทดสอบ โดยใช้ ค่าเฉลย่ี (̅) และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน (S.D.)
1. การค่าเฉลยี่ ̅

̅ =∑

เม่ือ ̅ คอื ค่าเฉลยี่
∑ คือ ผลบวกของข้อมูลทั้งหมด
N คือ จานวนข้อมูลทัง้ หมด

2. การหาสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

S.D. = √ ∑ ∑

เมื่อ S.D. คอื สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน
∑ คือ ผลรวมของขอ้ มูล
N คือ จานวนข้อมูลท้งั หมด

5

7. การวิเคราะห์ข้อมลู
การวิเคราะห์ข้อมูลของการใช้แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลูกเพื่อพัฒนาการอ่านออกเขียนได้

ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 มีผลการวิเคราะห์ดังตารางที่ 1
และตารางท่ี 2 ดังน้ี

ตารางท่ี 1 แสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นก่อนและหลงั เรียน

การประเมินผล

เลขท่ี กอ่ นเรียน หลงั เรยี น ผลต่าง

1 3 11 8

2 4 14 10

3 5 16 11

4 2 10 8

5 4 15 11

N = 5 X = 3.6 X = 13.2 X = 9.6

S.D. = 1.14 S.D. = 2.58 S.D. =1.51

ผู้วิจัยนาเสนอผลการวิเคราะห์เป็นค่าเฉลี่ย พบว่า ผลการเปรียบเทียบผลต่างในการสอน
ก่อนใช้ส่ือใช้แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลูกเพื่อพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ ของนักเรียนช้ัน
ประถมศึกษาปีท่ี 1 พบว่า ค่าเฉล่ียก่อนเรียน เท่ากับ 3.6 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 1.14
ค่าเฉล่ยี หลงั เรยี น เท่ากับ 13.2 สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 2.58 และค่าเฉลี่ยผลต่าง เท่ากับ 9.6
สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน เทา่ กบั 1.51

ผลการวิเคราะห์ข้อมลู
ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของการสอนโดยใช้แบบฝึกอ่าน
สะกดคาและแจกลูกเพ่อื พฒั นาการอ่านออกเขียนได้ ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 ดงั ตารางที่ 2

ตารางท่ี 2 แสดงค่าเฉลยี่ ค่าเฉลีย่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นก่อนและหลังเรียน

ผลตา่ งของการสอบ X S.D.
ก่อนเรียนไม่ใช้แบบฝึก
หลงั เรียนโดยใชแ้ บบฝกึ 3.6 1.14
13.2
1.51

จากตารางแสดงค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ยส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ของผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อน
และหลังเรียน โดยการสอบหลังเรียนครั้งที่ 1 การสอนโดยไม่ใช้แบบฝึก พบว่า มีค่าเฉลี่ยของผลต่าง
การสอบเท่ากับ 3.6 ส่วนการสอบหลังเรียนคร้ังที่ 2 การสอนโดยใช้แบบฝึก พบว่า ค่าเฉล่ียของ
ผลต่างการสอบเท่ากับ 13.2 ซึง่ มคี ่าสงู กว่า

6

8. สรุปผลการวจิ ยั
การใช้แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลูกเพ่ือพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ ของนักเรียนช้ัน

ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 มีวัตถุประสงค์ เพ่ือพัฒนาการอ่านออกเขียนได้
ของนักเรียนช้ันประถมศึกษา ปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จานวน 5 คน ให้มีผลสัมฤทธ์ิที่
ดีย่ิงข้ึน และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิการอ่านและการเขียนของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 1
ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝกึ แจกลูกและสะกดคา พบว่า หลังจากใช้แบบฝึกอ่านสะกด
คาและแจกลกู ในการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนทุกคนมี
ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนสูงขนึ้ กว่ากอ่ นเรยี น

9. อภิปรายผล
จากผลการวจิ ัยที่ พบวา่ การจดั การเรยี นการสอนโดยไม่ใช้แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลูก

ในการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ พบว่า มีค่าเฉลี่ยของผลต่างการสอบเท่ากับ 3.6 ส่วนการจัดการ
เรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกอา่ นสะกดคาและแจกลูกในการพัฒนาการอา่ นออกเขยี นได้ มีค่าเฉล่ียของ
ผลต่างเท่ากับ 13.2 ซ่ึงมีค่าสูงกว่า และมีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานท่ีน้อยกว่า แสดงว่า สอดคล้องกับ
สมมตุ ิฐานการวิจยั ทีก่ ลา่ ววา่ นักเรยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 จานวน
5 คน หลังจากนักเรียนใช้แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลูก จะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงข้ึนกว่า
ก่อนเรยี น

10. ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะในการนาผลการวจิ ัยไปใช้
สามารถนาไปบรู ณาการในรายวิชาอ่ืนๆ ได้ เพื่อเป็นพ้ืนฐานในการอ่านของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เมื่อสามารถอ่านออกเขียนได้จะส่งผลให้การเรียนรู้ในรายวิชาอ่ืนๆ มีประสิทธิภาพ
มากย่ิงขึ้น

2. ขอ้ เสนอแนะในการทาการวจิ ยั ตอ่ ไป
-

7

ภาคผนวก

8

แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน พรอ้ มเฉลย

โรงเรียนบ้านหนองจาน อาเภอเฉลิมพระเกียรติ จงั หวดั สระบรุ ี

ขอ้ สอบปลายภาค ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563

รายวชิ าภาษาไทย 1 รหสั ท11101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 20 คะแนน เวลา 60 นาที

________________________________________________________________________

คาชแ้ี จง ให้นักเรยี น X ตวั เลอื กท่ีถูกท่สี ดุ เพียงขอ้ เดียว มีจานวน 20 ขอ้

ตัวชว้ี ัด ท 4.1 ป.1/1 บอกและเขียน 4. รูปวรรณยกุ ต์ใด มีรปู ร่างเหมือนเลขเจด็ ไทย
พยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย ก. (ไม้เอก)

ข. (ไมโ้ ท)

1. ค. (ไม้ตรี)
จากภาพ ตรงกบั พยัญชนะใด
ก. ข 5.
ข. ฃ ตรงกับจานวนใด
ค.ช ก. ๕
ข. ๔
2.พยญั ชนะในขอ้ ใด ออกเสียงเหมือนกนั ค. ๘

ทกุ ตัว ตัวชวี้ ัด ท 1.1 ป.1/1 อ่านออกเสยี งคา
คาคลอ้ งจอง และข้อความที่อ่าน
ก. ธ ฒ ท ตัวชว้ี ดั ท 1.1 ป.1/2 บอกความหมายของคาและ
ขอ้ ความท่อี ่าน
ข. ผ พ ภ ตวั ช้วี ดั ท 4.1 ป.1/2 เขียนสะกดคาและบอก
ความหมายของคา
ค. ร ล ฬ

3. ข้อใดไมเ่ ขา้ พวก

ก. ย

ข. ว
ค. - ัว 6. จากภาพ สะกดคาว่าอย่างไร

ก. โบ
ข. บอ – โอ – โบ
ค. โบ – โอ – โบ

ขอ้ 7. – 10. จากภาพท่ีกาหนด เมือ่ 9
เขียนเป็นคาแลว้ ประสมกับสระใด
13. ข้อใดมตี ัวสะกดมาตราเดียวกบั คาวา่ รถ
7. ก. บา้ น ข. มดี ค. เลข
ก. โ – ข. – า ค. - อ
14.
8. ข. -ุ ค. -ึ ตรงกับคาใด
ก. -ู ก. เป่า ข. ปเา ่ ค. เปา ่

9. 15. ข้อใดมเี สยี งวรรณยกุ ตต์ รงกบั คาวา่ โปะ๊
ก. เ – อ ก. ผง้ึ ข. อ้วน ค. น้า
ข. เ – ี ย
ค. - ั ว 16.
จากภาพ มตี ัวควบกลา้ ใด
10. ก. กล ข. ขล ค. คล
ก. เ - าะ
ข. เ – อ 17. ขอ้ ใดเปน็ คาที่มีอักษรนาทกุ คา
ค. - ะ ก. หา้ ม แหวน
ข. หญา้ หอ้ ง
11. ค. หมี หนา้
จากภาพ เปน็ คาทอี่ ยู่ในมาตราใด
ก. มาตราแม่ กก ตวั ชีว้ ดั ท 4.1 ป.1/3 เรยี บเรยี งคาเปน็ ประโยค
ข. มาตราแม่ กม งา่ ย ๆ
ค. มาตราแม่ เกอว 18. ข้อใดไม่ใช่ประโยค
12. ลงิ อา่ นสะกดคาวา่ อยา่ งไร
ก. ลอ – อิ – งอ – ลิง ก. ลูกบอลสแี ดง
ข. ลอ – องิ ข. นอ้ งด่ืมนม
ค. ลอ – ลงิ ค. ฝนตก
19.

จากภาพ ควรแตง่ ประโยควา่ อยา่ งไร
ก. วัวยืน
ข. ววั กนิ หญ้า
ค. วัวหัวเราะ
20. เรียงคาทีก่ าหนดให้เปน็ ประโยคที่ถูกตอ้ ง
(1) กิน (2) แมว (3) ปลา
ก. ปลากินแมว
ข. กินแมวปลา
ค. แมวกินปลา

10
แบบฝึกอ่านสะกดคาและแจกลกู ของสานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาชัยนาท


Click to View FlipBook Version