The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดกิจกรรมที่ 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by aueykanyarat, 2022-03-25 14:06:41

ชุดกิจกรรมที่ 3

ชุดกิจกรรมที่ 3

1

คำนำ

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ผสานเทคโนโลยีเสมือนจริง (AR) เรื่อง เรยี นรกู้ ารเคล่ือนท่ีของแผ่น
ธรณี II สาหรบั นักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 ท่ีไมเ่ น้นวิทยาศาสตร์ชุดน้ี ประกอบดว้ ย เน้อื หาความรู้
และสาระนา่ รตู้ ่างๆ ซงึ่ ตวั ผู้เรียนสามารถศึกษาได้ดว้ ยตนเองจากกิจกรรมภายในเล่มท่นี ่าสนใจ สนุก
และเข้าใจง่าย ผ้เู รียนสามารถปฏบิ ัตเิ องได้เน่ืองจากภายในเล่มไดก้ าหนดเน้ือหาสาระ และรวบรวม
กจิ กรรมตา่ งๆ ซงึ่ เอือ้ ประโยชน์สาหรบั การเรยี นรใู้ หแ้ ก่ผู้เรยี นแล้ว เช่น บตั รแบบทดสอบกอ่ นเรียน
บตั รแบบทดสอบหลังเรียน บัตรกิจกรรม บัตรความรู้ บัตรงานตา่ งๆ เป็นต้น ท้ังนี้ผู้เรียนเองยงั
สามารถทดสอบความรู้กอ่ นและหลังเรียนจากการใชช้ ดุ กิจกรรมได้ โดยมบี ตั รเฉลยให้ผู้เรียนได้
ตรวจสอบองค์ความรู้ของตนเอง ทาให้ผู้เรียนเกิดการขวนขวายหาความรู้ด้วยตนเองจากทงั้ ทเ่ี ป็นใน
ส่วนของเนื้อหาทฤษฎแี ละสว่ นของการลงมือปฏิบัติ หรือผ้เู รียนเกดิ องคค์ วามรู้ทีส่ รา้ งข้ึนดว้ ยตนเอง
อยา่ งแท้จรงิ

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ผสานเทคโนโลยีเสมอื นจรงิ (AR) เรื่อง เรยี นรู้การเคลอ่ื นที่ของแผ่น
ธรณี II สาหรบั นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 5 ทไ่ี มเ่ น้นวิทยาศาสตรช์ ดุ นี้ ไดท้ ดลองใชก้ ับผู้เรยี นจน
ไดผ้ ลเป็นทีน่ า่ พอใจ หวังเป็นอยา่ งยง่ิ ว่า จะเป็นประโยชนต์ ่อผู้เรียนและครผู ู้ปฏิบตั ิการสอนกลุ่มสาระ
การเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรใ์ หส้ ามารถนาไปศกึ ษาและปรับปรุงประยุกต์ใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้
ใหเ้ หมาะสมกับผ้เู รยี น ไดด้ ียิ่งข้นึ

กัญญารัตน์ ฝั้นถา

2

สำรบัญ

ข้อ เรื่อง หนำ้

ก คำนำ 1
ข รำยละเอยี ดของชดุ กิจกรรมกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่อื ง เรยี นรูก้ ารเคลอ่ื นท่ขี อง 4

แผ่นธรณี II 5
ค แผนผงั แสดงขน้ั ตอนกำรศกึ ษำชุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ 6
ง คำแนะนำสำหรบั ครู 7
จ คำแนะนำสำหรบั นกั เรยี น 8
ฉ บทบำทของนกั เรยี น 9
ช สำระและมำตรฐำนกำรเรยี นรู้
1 กิจกรรมที่ 1 ควำมรู้ 11
12
1.1 บัตรคำส่ังที่ 1 14
1.2 บตั รแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
1.3 บัตรแบบบนั ทึกผลกำรทดสอบ 15
2 กิจกรรมท่ี 2 อัศจรรย์เรือ่ งนำ่ รู้ 16
2.1 บตั รคำสั่งที่ 2
2.2 บตั รภำพ โลกของเรำ 17
3 กิจกรรมที่ 3 สบื เสำะหำควำมรู้ 18
3.1 บตั รคำสัง่ ท่ี 3 19
3.2 บตั รกจิ กรรม เรื่อง ลักษณะโครงสรำ้ งโลกแบบย่อส่วน
3.3 บตั รบนั ทกึ ผลกิจกรรม เรื่อง ลกั ษณะโครงสร้ำงโลกแบบย่อสว่ น 20
4 กจิ กรรมท่ี 4 สำระน่ำรู้ 21
4.1 บัตรคำสงั่ 4
4.2 บัตรควำมรู้ เร่ือง ตะลุยใตพ้ ื้นพิภพ

3

สำรบัญ (ตอ่ ) หน้ำ

ข้อ เรอื่ ง 24
25
5 กิจกรรมท่ี 5 แตกกิ่งกำ้ นควำมคดิ
5.1 บัตรคำสัง่ 5 27
5.2 บตั รคำถำม เรอ่ื ง ลักษณะโครงสร้ำงโลก 28
30
6 กิจกรรมท่ี 6 ประดิษฐ์ควำมรู้
6.1 บตั รคำสั่ง 6 31
6.2 บัตรแบบทดสอบหลังเรียน 32
6.3 บตั รแบบบนั ทึกผลกำรทดสอบ 33
35
7 กจิ กรรมท่ี 7 ประเมนิ ควำมรู้ 36
37
7.1 บัตรคำสัง่ 7 38
7.2 บัตรบันทึกสิ่งทีไ่ ด้เรียนรู้ 38
39
8 บรรณำนุกรม
9 ภำคผนวก

9.1 แนวคำตอบบัตรบันทกึ ผลกจิ กรรม
9.2 เกณฑ์กำรประเมินกำรใหค้ ะแนนบัตรบนั ทกึ ผลกิจกรรม
9.3 แนวคำตอบบตั รคำถำม
9.4 เกณฑก์ ำรประเมนิ กำรใหค้ ะแนนบัตรงำน
9.5 เฉลำยแบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน

4

รำยละเอียดของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ท่ี 3
เรอ่ื ง เรยี นรู้กำรเคล่ือนทข่ี องแผ่นธรณี II

ประกอบดว้ ย

คำแนะนำสำหรับครู
คำแนะนำสำหรับนักเรียน
บทบำทของนกั เรยี น
สำระกำรเรยี นรู้และมำตรฐำนกำรเรยี นรู้
กิจกรรมท่ี 1 ภูมิควำมรู้
กิจกรรมที่ 2 อัศจรรยเ์ รื่องน่ำรู้
กิจกรรมที่ 3 สบื เสำะหำควำมรู้
กิจกรรมท่ี 4 สำระนำ่ รู้
กจิ กรรมท่ี 5 แตกกงิ่ ก้ำนควำมคิด
กิจกรรมที่ 6 ประดิษฐ์ควำมรู้
กิจกรรมที่ 7 ประเมนิ ควำมรู้

5
6

แผนผังแสดงข้นั ตอนกำรศกึ ษำทกุ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ท่ี 3
เรื่อง เรียนร้กู ำรเคล่ือนทข่ี องแผน่ ธรณี II

อ่ำนและทำควำมเข้ำใจส่วนประกอบ คำแนะนำ บทบำทของนักเรียน ในกำรใช้
ชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง เรียนรูก้ ำรเคลอื่ นทีข่ องแผ่นธรณี II (10 นำที)

กิจกรรม ทากจิ กรรมท่ี 1 ภูมคิ วามรู้ (10 นาที)

ที่ 1 ศึกษาบัตรคาสั่งท่ี 1 และ ทาแบบทดสอบก่อนเรียน

กิจกรรม ทากิจกรรมท่ี 2 อศั จรรย์เรอื่ งนา่ รู้ (15 นาที)
ท่ี 2 ศกึ ษาบัตรคาส่งั ท่ี 2 และ ตอบคาถามครผู ู้สอน

กิจกรรม ทากิจกรรมท่ี 3 เสาะหาความรู้ (20 นาที)
ท่ี 3 ศึกษาบัตรคาสั่งที่ 3 ศกึ ษาบัตรกจิ กรรม
และ ทาบตั รบนั ทกึ ผลการทากิจกรรม
กจิ กรรม
ท่ี 4 ทากจิ กรรมที่ 4 สาระนา่ รู้ 15 นาที
ศกึ ษาบัตรคาสง่ั ที่ 4 และ ศกึ ษาบัตรความรู้

กิจกรรม ทากจิ กรรมท่ี 5 แตกกงิ่ ก้านความคดิ 20 นาที
ที่ 5 ศึกษาบัตรคาส่งั ท่ี 5 และทาบัตรงาน

กจิ กรรม ทากจิ กรรมที่ 6 ประดิษฐค์ วามรู้ 10 นาที

ที่ 6 ศกึ ษาบัตรคาสั่งที่ 6 และ ทาแบบทดสอบหลังเรียน

กิจกรรม ทากิจกรรมที่ 7 ประเมินความรู้ 10 นาที

ท่ี 7 ศึกษาบัตรคาสั่งที่ 7 และ บัตรบนั ทกึ สิ่งที่ได้เรยี นรู้

ศึกษำชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ชุดต่อไป

6

คำแนะนำกำรใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ สำหรับครู

สิง่ ทค่ี รูควรปฏิบตั ิ กอ่ น-หลงั และขณะใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ มดี ังนี้

ครูควรศึกษาแผนการจัดการเรียนรู้ ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ สาระการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ตลอดจนแหล่งเรยี นรูใ้ นแต่ละชุดกิจกรรม
การเรยี นรใู้ หเ้ ข้าใจ

ครูควรค้นคว้าและอ่านเน้ือหาที่เก่ียวข้องเพิ่มเติม จากหนังสือเรียน คู่มือครู และ
หนังสือเสริมประสบการณ์ต่าง ๆ ในเร่ือง โครงสร้างโลก ของกลุ่มสาระการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 เพือ่ ให้มีความรคู้ วามแม่นยาในเนอื้ หาให้มากยิง่ ขึน้

ครูควรเตรียมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ล่วงหน้า และเตรียมสถานที่ตลอดจน สอื่ ต่างๆ
ใหพ้ ร้อมก่อนใช้ชดุ การเรียนรู้

การจัดช้ันเรียน จัดนักเรียนน่ังเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน คละ เก่ง ปานกลาง อ่อน
ตามความเหมาะสม เพอ่ื ฝกึ ทกั ษะการทางานกลมุ่ (ทกั ษะกระบวนการ) รว่ มกับผอู้ น่ื

ครูควรชี้แจงบทบาทและหน้าที่ของผ้เู รยี น และกาหนดขอ้ ตกลงร่วมกัน
ครคู วรแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรูใ้ นชดุ กจิ กรรมการเรยี นรใู้ หน้ ักเรียนทราบ
ให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนจานวน 10 ข้อ ในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อวัด
ความรู้พ้นื ฐานของนักเรียน
แจกชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียน และแนะนาวิธีการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
เพ่อื ใหน้ ักเรยี นปฏิบัติไดถ้ ูกตอ้ ง
ขณะประกอบกิจกรรม ครูควรเปน็ ท่ีปรึกษา ให้คาแนะนากับกลุ่มท่ีมีปัญหา กระตุ้นให้
นกั เรยี นแต่ละกลุ่มดูแลชว่ ยเหลอื กัน เพ่ือผลสาเรจ็ ของตนเองและกล่มุ ของตน
ประเมินผลจากการปฏิบัติกิจกรรมระหว่างการเรียน เพื่อนาไปสรุปผลการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ระหว่างปฏิบัติการสอนควรสอดแทรกคุณธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ให้กับ
นกั เรียน
เมื่อนกั เรยี นเรียนรู้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรียบร้อยแลว้ ให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลัง
เรยี นในชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้จานวน 10 ข้อ

7

คำแนะนำกำรใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ สำหรับนกั เรียน

อ่านคาแนะนาสาหรับนักเรียนและบทบาทของนักเรียนให้เข้าใจก่อนลงมือศึกษาชุด
กจิ กรรมการเรยี นรู้

เน่ืองจากชุดกิจกรรมมีการแสดงผลรูปภาพแบบ AR ดังน้ัน นักเรียนจึงจาเป็นต้อง
ติดตั้งแอพพลิเคช่ันสาหรับใช้ในชุดกิจกรรม โดยใช้แอพพลิเคช่ัน HP Reveal ประกอบ
กับการใช้ชุดกจิ กรรม

เมื่อเข้าสู่แอพพลิเคชั่น HP Reveal แล้ว ให้กดติดตามชื่อ Auey.kanyarat และ

ใชส้ แกนรปู ภาพท่ีมสี ญั ลักษณ์
ให้นักเรียนทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เร่ือง โลกของเรา จานวน 40

ขอ้ ใชเ้ วลา 60 นาที
ให้นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียนจานวน 10 ข้อ ใช้เวลา 10 นาที เพ่ือวัดความรู้

พืน้ ฐานของนักเรยี น
ศึกษาตามขนั้ ตอนกนั การจัดการเรยี นรดู้ ว้ ยชดุ กิจกรรมการเรียนรู้
ศึกษาบัตรความรู้ดว้ ยความต้ังใจร่วมแสดงความคดิ เหน็ อธบิ ายซกั ถามกนั ภายในกลุ่ม

หากไม่เขา้ ใจให้ถามครูผู้สอน
ขณะประกอบกิจกรรมกับเพื่อนร่วมกลุ่มต้องทาด้วยความตั้งใจ และฝึกปฏิบัติเต็ม

กาลงั ความสามารถของตนเอง
เน่ืองจากการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้มีเวลาจากัด นักเรียนต้องวางแผน

การทางานเพ่อื ให้สาเร็จภายในเวลาท่ีกาหนด
หลังจากเรียนด้วยชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้จบให้ทาแบบทดสอบหลังเรียน

จานวน 10 ขอ้ และเมือ่ เรยี นจบทกุ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้
เม่ือนักเรียนศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรียบร้อยแล้วให้เก็บชุดกิจกรรมการเรียนรู้

ใสซ่ องให้เรียบรอ้ ยส่งคนื ครู
ขณะทาแบบทดสอบก่อนเรียนแบบทดสอบหลังเรียนและแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนต้องทาด้วยความซ่ือสตั ยไ์ ม่ทจุ รติ ในการสอบ
หากนักเรียนไม่ทันหรือเรียนยังไม่เข้าใจให้รับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปศึกษานอก

เวลาเรียน เพือ่ ให้เขา้ ใจมากข้นึ

8

บทบำทของนักเรยี น

ศกึ ษามาตรฐานการเรยี นร้ตู วั ชี้วัดและจดุ ประสงค์การเรียนรู้ของชุดกิจกรรมการ
เรยี นรแู้ ตล่ ะชุดกิจกรรม

ทาแบบทดสอบก่อนเรียนจานวนหา้ ขอ้ เพ่ือสารวจความรู้พนื้ ฐานของตนเอง
นักเรียนแต่ละคนศึกษาบัตรความรู้ทาความเข้าใจโดยในแต่ละกลุม่ ใหช้ ว่ ยกนั
อภปิ รายความรู้และดแู ลเพื่อนคนท่ีไม่เขา้ ใจภายในกลมุ่ ของตนเอง
นักเรยี นแตล่ ะคนศึกษากจิ กรรมครบแลว้ ให้ทาแบบทดสอบหลังเรียน จานวน
10 ข้อ
เม่ือนักเรยี นทกุ คนทาแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียนบตั ร
คาถามเรยี บร้อยแลว้ ใหจ้ บั ค่ภู ายในกลมุ่ ตรวจเฉลยและรวมคะแนนแล้วบันทกึ ลงใน
แบบบันทกึ คะแนนนาคะแนนท่ไี ด้เทยี บกบั เกณฑ์การผ่าน 80% และประเมินว่า
ตนเองผา่ นเกณฑห์ รือไม่
นกั เรยี นกลุ่มใดทม่ี เี พ่อื นไม่ผา่ นเกณฑ์ให้ศกึ ษาใบความรู้อีกรอบ นกั เรยี นท่ีสอบ
ผ่านในกลุ่มช่วยอธบิ ายเนอื้ หาให้เพ่ือนท่ีไม่ผ่าน

9

สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้
รำยวิชำ วิทยำศำสตรพ์ นื้ ฐำน 4 (ว30108)

เร่ือง กำรแปรสญั ฐำนของแผ่นธรณี II
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 5

สำระที่ 6 ดำรำศำสตรแ์ ละอวกำศ
มำตรฐำน ว 6.1 เข้าใจกระบวนการตา่ งๆ ทเ่ี กิดขนึ้ บนผวิ โลกและภายในโลกความสัมพนั ธ์ของ
กระบวนการต่างๆ ท่ีมผี ลต่อการเปลย่ี นแปลง ภมู อิ ากาศ ภมู ปิ ระเทศ และ
สณั ฐานของโลก มีกระบวนการสบื เสาะหาความร้แู ละ จติ วิทยาศาสตร์
ส่ือสารสง่ิ ท่เี รยี นรแู้ ละนา ความร้ไู ปใช้ประโยชน์

สำระท่ี 8 ธรรมชำติของวทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี
มำตรฐำน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวทิ ยาศาสตรใ์ นการสืบเสาะหา
ความรู้ การแกป้ ญั หา รวู้ า่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติท่ีเกิดขนึ้ ส่วน
ใหญ่ มีรปู แบบทีแ่ น่นอน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบไดภ้ ายใตข้ ้อมลู
และเคร่อื งมอื ท่มี อี ยใู่ นชว่ งเวลานั้นๆ เขา้ ใจว่าวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
สังคม และส่ิงแวดล้อม มคี วามเกีย่ วขอ้ งสมั พันธ์กัน

ตัวชี้วดั
ว 6.1 ม.4-6/2 ทดลองเลียนแบบและอธบิ ายกระบวนการเปลยี่ นแปลงทางธรณภี าคของโลก
ว 8.1 ม.4-6/2 สรา้ งสมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับหรือคาดการณ์สิ่งทจ่ี ะพบ หรือ สร้าง
แบบจาลอง หรือสรา้ งรูปแบบเพอ่ื นาไปสูก่ ารสารวจตรวจสอบ
ว 8.1 ม.4-6/3 คน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มลู ทตี่ อ้ งพิจารณาปจั จยั หรอื ตัวแปรทีส่ าคัญ ปจั จยั ทมี่ ีผล
ตอ่ ปัจจัยอ่นื ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ และจานวนครงั้ ของการสารวจตรวจสอบ
เพ่ือให้ไดผ้ ลที่มีความเชอ่ื มั่นอย่างพอเพยี ง

จุดประสงค์กำรเรียนรู้
ดำ้ นพทุ ธิพสิ ัย(K)
1. นกั เรยี นอธิบายลักษณะของโครงสร้างโลกได้
ด้ำนทกั ษะพสิ ัย(P)
1. นกั เรียนคานวณความหนาโครงสรา้ งโลกแตล่ ะชัน้ จากภาพโครงสร้างโลกแบบย่อสว่ นได้
ดำ้ นจติ พิสยั (A)
1. นกั เรียนสง่ งานตรงตามเวลาทกี่ าหนด
2. นกั เรยี นมคี วามกระตือรือร้นในการเรียน

10

สำระกำรเรยี นรู้/สำระสำคญั
สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง
การเปลี่ยนแปลงของโลกสามารถอธบิ ายไดด้ ว้ ยทฤษฎีการแปรสัณฐานของแผน่ ธรณกี าร
เปลย่ี นแปลงทางธรณีภาคของโลก ส่วนใหญ่จะเกดิ ข้นึ ในชั้นธรณภี าค และชน้ั ฐานธรณีภาคช้ันธรณี
ภาคแตกออกเปน็ แผ่นใหญ่ๆ หลายแผน่ เรยี กวา่ แผน่ ธรณี ซึง่ มีการเคลอ่ื นท่ีอยูต่ ลอดเวลา ทาให้เกดิ
ปรากฏการณ์ตา่ งๆ ทางธรณวี ิทยาบนผวิ โลกทีส่ ามารถศึกษาได้จากร่องรอยหลกั ฐานทป่ี รากฏอยู่ใน
ปัจจบุ นั เช่น รอยต่อรอยแยกของแผน่ ธรณี เทือกสนั เขาใต้สมทุ ร และซากดกึ ดาบรรพ์ เป็นตน้
สำระสำคัญ
การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีมี 3 ลักษณะ ได้แก่ การเคลอ่ื นท่ีแยกออกจากกัน การเคลื่อนที่เข้าหา
กนั และการเคล่ือนทเ่ี ฉือนกบั แผ่นที่อยู่ด้านข้าง การเคลือ่ นทข่ี องแผ่นธรณีท้งั 3 ลักษณะทาให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาต่างๆ ตรงบรเิ วณแนวรอยตอ่ ของแผ่นธรณี เชน่ แผน่ ดนิ ไหว ภเู ขาไฟ
ระเบิด การเกิดร่องลกึ ก้นสมุทร การเกิดเทือกเขา และทาให้เกิดชนั้ หนิ คดโค้งและรอยเล่ือนตรง
บรเิ วณแนวรอยตอ่ ของแผ่นธรณแี ละในหนิ หรือชนั้ หินบนเปลือกโลก

สมรรถนะสำคญั
o ความสามารถในการสื่อสาร
o ความสามรถในการคิด
o ความสามารถในการแก้ปญั หา
o ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
o ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
o มวี นิ ัย
o ใฝเ่ รียนรู้
o มงุ่ มนั่ ทางาน

กจิ กรรมที่ 1 ภมู คิ วำมรู้

“เพ่ือเปน็ กำรทดสอบพนื้ ฐำนควำมรเู้ ดมิ
ของนกั เรียนดว้ ยกำรทดสอบก่อนเรยี น”

บัตรคำสงั่ 1

ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
จำก บตั รแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

ใช้เวลำ 10 นำที

12

บัตรแบบทดสอบกอ่ นเรียน

เรอ่ื ง กำรแปรสัณำนของแผ่นธรณี II ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 5

ประกอบชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรูท้ ี่ 2 เร่ือง เรยี นรกู้ ำรเคลอื่ นที่ของ ภำคเรยี นที่ 2

แผ่นธรณี II

คำชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบับนีเ้ ป็นแบบทดสอบ 4 ตัวเลือก จานวน 10 ขอ้ ข้อละ 1 คะแนน

คะแนนเต็ม 10 คะแนน

2. นกั เรยี นเลือกคาตอบทถี่ ูกตอ้ งทส่ี ุด แล้วทาเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในกระดาษคาตอบ

ให้ถูกต้อง

1. เทือกเขาหมิ าลยั เกดิ จากปรากฏการณท์ างธรณีภาคแบบใด

1. การเกดิ แผน่ ดนิ ไหว 2. การแยกตวั ของแผ่นเปลือกโลก

3. การชนกันของแผ่นเปลอื กโลก 4. การระเบิดของภเู ขาไฟ

2. กระบวนการเกิดเทือกเขากลางมหาสมทุ รเกิดจากสาเหตุใด

1. ขอบแผน่ ธรณีภาคเคลื่อนท่ีผ่านกนั 2. ขอบแผน่ ธรณีแยกออกจากกนั

3. ขอบแผน่ ธรณภี าคเคลือ่ นท่ีเขา้ หากนั 4. แผน่ ธรณีมหาสมทุ ร 2 แผ่นเคล่อื นทช่ี นกัน

3. ข้อใดเป็นลักษณะของแผน่ ธรณีมหาสมุทรชนกบั แผ่นธรณมี หาสมุทร

1. แผ่นธรณีมหาสมทุ รท่มี ีอายุมากจะมดุ ตัวลงสูแ่ ผ่นธรณีท่ีมอี ายนุ ้อยกวา่

2. แผ่นธรณีมหาสมุทรทมี่ ีอายุน้อยจะมุดตวั ลงสู่แผน่ ธรณีที่มอี ายุมากกวา่

3. แผ่นธรณีมหาสมุทรทม่ี ีความหนาแนน่ นอ้ ยจะมดุ ตัวลงส่แู ผน่ ธรณีท่มี ีความหนาแน่นมาก

4. ขอ้ 2 และ 3 ถกู ต้อง

4. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเก่ียวกบั แผน่ ธรณีมหาสมทุ ร

1. แผ่นทม่ี อี ายุมากจะมคี วามหนาแนน่ นอ้ ย อุณหภมู ติ า่

2. แผน่ ท่ีมอี ายุมากจะมีความหนาแนน่ มาก อุณหภูมิตา่

3. แผ่นทม่ี อี ายุมากจะมคี วามหนาแนน่ นอ้ ย อุณหภูมิสูง

4. แผน่ ทม่ี อี ายุมากจะมคี วามหนาแน่นมาก อุณหภูมิสงู

5. ขอ้ ใดไม่ใช่ลกั ษณะการเคล่อื นทขี่ องแผน่ เปลือกโลก

1. ขอบแผ่นธรณแี ยกออกจากกนั 2. ขอบธรณีซ้อนทับกัน

3. ขอบแผน่ ธรณเี คลื่อนเข้าหากนั 4. ขอบแผน่ ธรณเี คลื่อนผ่านกัน

13

6. เมอ่ื แผ่นธรณีมหาสมุทรสองแผ่นชนกัน แผ่นหนึ่งจะมุดตัวลงส่ชู ้นั เนอ้ื โลก บริเวณแนวมดุ ตัวจะทา

ใหเ้ กิดส่งิ ใดขึ้น

1. หมู่เกาะภเู ขาไฟ 2. ร่องลกึ ใตส้ มุทร 3. ภูเขาไฟมีพลัง 4. เทือกเขาสงู

7. การท่ีแผน่ เปลอื กโลก (ก) เคลอ่ื นทเี่ ข้าชนแผ่นเปลอื กโลก (ข) และแผน่ เปลอื กโลก (ก) มดุ ตวั เข้าสู่

ใต้แผ่นเปลอื กโลก (ข) ข้อใดอธบิ ายปรากฏการณ์น้ีได้ถูกตอ้ ง

1. แผน่ เปลือกโลก (ก) มีความหนานอ้ ยกว่าแผน่ เปลอื กโลก (ข)

2. แผ่นเปลือกโลก (ก) มีความหนามากกว่าแผน่ เปลอื กโลก (ข)

3. แผน่ เปลอื กโลก (ก) เปน็ แผน่ พืน้ ทวปี แผน่ เปลอื กโลก (ข) เปน็ แผ่นพืน้ มหาสมทุ ร

4. ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง

8. รอยเลื่อนซานแอนเดรียส เกดิ จากการเคล่ือนทขี่ องขอบแผน่ ธรณภี าคแบบใด

1. ขอบแผ่นธรณีมหาสมุทรเคล่อื นที่เขา้ ชนกับแผน่ ธรณีมหาสมทุ ร

2. ขอบแผน่ ธรณีมหาสมุทรเคล่อื นทีเ่ ขา้ ชนกับแผน่ ธรณีทวีป

3. ขอบแผ่นธรณภี าคเคลื่อนท่ีผ่านกัน

4. ขอบแผ่นธรณภี าคเคล่ือนที่แยกจากกนั

9. หมู่เกาะภูเขาไฟรปู โค้งเกิดข้ึนจากแผ่นธรณใี นขอ้ ใดชนกัน

1. แผ่นธรณีมหาสมุทรชนกับแผน่ ธรณที วปี

2. แผน่ ธรณที วปี ชนกบั แผ่นธรณีทวปี

3. แผ่นธรณมี หาสมทุ รชนกบั แผ่นธรณีมหาสมุทร

4. ข้อ 1 และ 3 ถกู

10. การเคลอื่ นตวั ของแผ่นธรณีเกิดข้ึนจากกระบวนการใด

1. แรงโนม้ ถ่วง 2. สนามแมเ่ หล็กโลก

3. ความเคน้ ใต้พภิ พ 4. การถ่ายโอนความรอ้ นของแมกมา

14

บตั รบันทกึ ผลแบบทดสอบก่อนเรยี น

เรอ่ื ง กำรแปรสัณำนของแผ่นธรณี II ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 5

ประกอบชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ที่ 2 เรอื่ ง เรยี นรู้กำรเคลื่อนทข่ี อง ภำคเรียนท่ี 2

แผ่นธรณี II

ขอ้ ตวั เลือก 4
1 23

1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.

เกณฑ์กำรประเมิน คะแนนทไี่ ด้ ........................
คะแนนเตม็ 10 คะแนน
8-10 คะแนน = ดี ผา่ น
5-7 คะแนน = พอใช้ ไมผ่ า่ น
0-4 คะแนน = ปรับปรุง

ชือ่ ......................................................................................ชน้ั ...............เลขท.ี่ .............

กจิ กรรมที่ 2 อัศจรรยเ์ ร่ืองนำ่ รู้

“เพ่ือเป็นการกระตนุ้ ให้นักเรียนเกิด
ความสนใจเน้อื หาบทเรียน”

บตั รคำสั่ง 2

ให้นักเรียนศกึ ษาความรู้
เกย่ี วกับ กาเนดิ โลก

ใช้เวลำ 15 นำที

16

บตั รภำพ
“กำรเปลี่ยนแปลงของโลก”

ทมี่ า : หนังสอื เรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ดวงดาวและโลกของเรา
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4-6 ที่ไมเ่ นน้ วทิ ยาศาสตร์

โลกทเ่ี ราอาศยอยทู่ ุกวนั น้ี
“นักเรยี นทราบหรือไม่วา่ ภายในโลกของเราประกอบไปด้วยอะไรบา้ ง โลกแบ่งออกเปน็ ก่ชี ั้น?”

กจิ กรรมท่ี 3 สืบเสำะหำควำมรู้

“เพอ่ื ให้นักเรียนมีประสบการณ์ร่วมกนั ในการ
รวบรวมขอ้ มูล และพฒั นาความคิดรวบยอด”

บัตรคำสง่ั 3

ให้นกั เรียนศกึ ษำบตั รกจิ กรรม
โครงสร้ำงโลกของเรำ แล้วลงมอื
ทำกิจกรรมและบันทึกผลกิจกรรม
ลงในบตั รบนั ทกึ ผลกิจกรรม

ใชเ้ วลำ 10 นำที

18

บตั รกจิ กรรม

“จำลองกำรเคลอ่ื นที่ของแผ่นธรณใี นลักษณะตำ่ งๆ”

จุดประสงคก์ ำรทำกิจกรรม

1. นกั เรียนสามารถจาลองการเคลื่อนท่ขี องแผ่นธรณีในลักษณะตา่ ง ๆ ได้

วสั ดุอุปกรณ์ 6 แผ่น
1. กระดาษ

19

บัตรบนั ทกึ ผลกจิ กรรม

“จำลองกำรเคลื่อนทีข่ องแผน่ ธรณีในลกั ษณะต่ำงๆ”

ตำรำงบนั ทกึ ผลกำรทดลอง
คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนสงั เกตลักษณะการเคลอื่ นที่ของรอยต่อระหว่างแผ่นกระดาษและบันทึกผลการ
สังเกตโดยการทาเครอื่ งหมาย√ลงในตาราง

สรปุ ผลกำรทำกิจกรรม
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

กจิ กรรมที่ 4 สำระนำ่ รู้

“เพื่อให้นักเรียนสรุปและอธบิ ายความรทู้ ี่
ได้จากการสารวจตรวจสอบ”

บัตรคำสงั่ 4

ให้นักเรียนสรุปองค์ความรู้จาก
การทากิจกรรม โดยศกึ ษาเพ่มิ เตมิ
จาก บัตรความรู้ เรื่อง ตะลุยใต้พืน้

พภิ พ
ใช้เวลำ 15 นำที

21

บตั รควำมรู้
“ลกั ษณะกำรเคลือ่ นท่ขี องแผ่นธรณี II”

“จำกกิจกรรมพบวา่ โครงสร้างโลกแบ่งเป็น 3 ชน้ั คอื เปลือกโลก เนอ้ื โลก และแกน่ โลก โดยแกน่

โลกมคี วามหนามากทส่ี ดุ รองลงมาคือเน้ือโลก และเปลอื กโลกเป็นชั้นท่มี ีความหนาน้อยที่สดุ ”

โลกมีโครงสร้างแบง่ ออกเป็นชั้นๆ แตล่ ะชัน้ มีความหนาท่ีแตกตา่ งกนั นักวิทยาศาสตร์ทราบ

ลกั ษณะโครงสรา้ งโลกได้จากการศกึ ษาข้อมลู ด้วยวธิ ีการต่างๆ แบ่งได้ ดังนี้
1. การศกึ ษาโลกทางตรง เช่น การขดุ เจาะสารวจ การสารวจชั้นหิน
2. การศกึ ษาโลกทางออ้ ม เช่น คลน่ื ไหวสะเทือน

คลืน่ ไหวสะเทอื น (Seismic wave) เปน็ คลื่นที่เคลื่อนท่ีผา่ นตัวกลาง และ มีการสง่ ผ่าน

พลงั งานจากตาแหน่งหนึ่งไปยังอกี ตาแหนง่ หนงึ่ มีแหลง่ กาเนดิ มาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
เชน่ แผน่ ดนิ ไหว ภเู ขาไฟระเบดิ และจากท่ีมนษุ ยส์ รา้ งข้นึ เชน่ การทดลองระเบดิ นวิ เคลียร์ มี 2
ประเภท

1. คลน่ื ในตัวกลำง(body wave) มีจุดกาเนดิ อยภู่ ายในโลกและเคลื่อนทผี่ า่ นโครงสรา้ ง

ภายในโลก
1. คลน่ื ปฐมภูมิ(Primary wave ; P-wave)

เปน็ คลื่นตามยาว เกิดจากอนุภาคของตวั กลาง
เคล่ือนที่อัด-ขยายในแนวเดียวกบั ทศิ
การเคล่อื นท่ีของคล่นื สามารถ เคลื่อนทผ่ี า่ น
ตวั กลางไดท้ ุกสถานะ(ของแข็ง ของเหลว)

ทีม่ า : http://scimath.org/ebook/sci/sci-sec4/4/eBook/

2. คลืน่ ทตุ ยิ ภมู ิ(Secondary wave ; S-wave)
เป็นคลนื่ ตามขวาง เกดิ จากอนุภาคของตัวกลาง
เคลื่อนที่ต้ังฉากกับทิศทางการเคล่ือนท่ีของคล่นื
สามารถเคลื่อนทีผ่ ่านตวั กลางไดเ้ ฉพาะสถานะ
ของแขง็ คลา้ ยการสะบัดสปรงิ ไปทา ง
ซา้ ย-ขวา

2. คลน่ื พื้นผิว(Surface wave) เคลอ่ื นที่ตามแนวผวิ โลก หรอื ใกลผ้ วิ โลก

22

ลักษณะโครงสร้ำงโลก

โครงสรา้ งโลกแบ่งเปน็ 3 ชน้ั ไดแ้ ก่
1. เปลอื กโลก (Crust)
คอื สว่ นท่อี ย่นู อกสุดของโลก หนาประมาณ 0-70 กโิ ลเมตร
มสี ถานะเป็นของแข็ง เป็นช้ันทม่ี ีทัง้ แผ่นดินและมหาสมทุ ร
แบ่งออกเป็น 2 สว่ น คือ ช้นั เปลือกทวีป (Continental
crust) และช้นั เปลือกโลกมหาสมทุ ร (Oceanic crust)
1) เปลือกโลกทวปี (Continental crust) มี 2) เปลือกโลกมหำสมทุ ร (Oceanic crust) มี
ความหนาประมาณ 30 ถึง 40 กิโลเมตร เป็น ความหนาประมาณ 5 กโิ ลเมตร เปน็ เปลือกโลกที่
ส่วนทศ่ี ึกษาได้จากพ้นื ผิวโลก โดยประกอบดว้ ย อยใู่ ต้มหาสมทุ ร มีเหล็กแมกนีเซยี และซิลกิ าเป็น
หนิ ตะกอนปกคลมุ หนิ อัคนีและหินแปร เปลือก องค์ประกอบสว่ นใหญ่
โลกทวีปทห่ี นาจะอยู่บริเวณใต้เทอกเขาสูง

2. เนือ้ โลก(Mantle) เป็นโครงสร้างท่ีอยู่ระหวา่ งเปลอื กโลกและแก่นโลก มคี วามหนาประมาณ 2,885
กิโลเมตร เป็นช้ันท่ีมณุ หภูมิ ความดนั และความหนาแน่นสูงกว่าเปลือกโลก แต่น้อยกวา่ แก่นโลก แบง่
ออกเปน็ 2 ชน้ั ย่อย ได้แก่ เนื้อโลกตอนบน(upper mantle) และเนื้อโลกตอนล่าง(lower mantle)

1) เนอื้ โลกตอนบน(upper mantle) เปน็ หินทเี่ ยน็ ตัวแล๎ว มีความหนาประมาณ 665-695
กโิ ลเมตร มสี ถานะเปน็ ของแข็ง บางสวนมีรอยแตก เนื่องจากความเปราะช้ันเนอ้ื โลกสวนบนกับช้ัน
เปลือกโลกรวมกนั เรียกวา ธรณภี าค (lithosphere) ซึง่ มรี ากศพั ทม์ าจากภาษากรีกท่ีแปลวา ช้ันหิน
ชั้นธรณีภาคลึกจากผวิ โลกประมาณ 100 กิโลเมตร

ทรี่ ะดับความลึกจากผิวโลกประมาณ 100-350 กิโลเมตร เรยี กว่า ฐานธรณภี าค (asthenosphere)
บริเวณนีจ้ ะมกี ารหลอมเหลวของหินเปน็ บางสว่ นซ่งึ เปน็ แหลง่ กาเนิดของแมกมา (magma) ที่มี
ลักษณะเป็นของเหลวหนืด

2) เน้อื โลกตอนล่ำง(lower mantle) มคี วามหนาประมาณ 2,190-2,220 กิโลเมตร มีสถานะ
เปน็ ของแข็ง

23

3. แก่นโลก (Core) เป็นช้นั ถดั จากชั้นเนอ้ื โลกลงไปตัง้ แต่ระดบั ความลึกประมาณ 2,900 กโิ ลเมตร
จนถงึ จุดศูนยก์ ลางของโลกท่ีระดับความลึกประมาณ 6,370 กโิ ลเมตร มีความหนาแน่นจนถงึ จุด
ศูนยก์ ลางของโลกประมาณ 3,440 กโิ ลเมตร แบง่ ออกเป็น 2 ช้ันย่อย คือ แกน่ โลกสว่ นนอก (outer
core และ แก่นโลกส่วนใน (inner core)
1) แก่นโลกสว่ นนอก (outer core) อยู่ท่ีความลึก 2,90025,100 กิโลเมตร ซ่ึงมคี วามหนาประมาณ
2,200 กโิ ลเมตร เป็นของเหลวหรอื วัตถทุ ่ีมีลักษณะคล้ายของเหลวมีส่วนประกอบเป็นนเิ กลิ และเหลก็
เปน็ ส่วนใหญ่ และอาจมธี าตทุ ี่เบากว่า เชน่ ซลิ ิกอนหรอื กามะถนั ผสมอยไู่ ดเ้ ล็กนอ้ ย
2) แก่นโลกชัน้ ใน อยู่ท่ีความลึก 5,10026,370 กโิ ลเมตร มีส่วนประกอบเหมือนแก่นโลกช้นั นอก แต่
อยู่ในสภาพแขง็ เนอื่ งจากมคี วามดนั และอณุ หภมู สิ ูงมาก อาจสูงถงึ 6,000 องศาเซลเซียส

1. แกน่ โลกส่วนนอก (outer core) ซึ่งมีความหนาประมาณ 2,200 กโิ ลเมตร เปน็ ของเหลวหรือวตั ถทุ ่มี ลี ักษณะคล้ายของเหลวมี
สว่ นประกอบเปน็ นิเกลิ และเหล็กผสม และอาจมีธาตุที่เบากว่าเช่น ซลิ คิ อนหรอื กามะถัน ผสมอยไู่ ดเ้ ลก็ น้อย

กิจกรรมที่ 5 แตกกิง่ กำ้ นควำมิด

“เพือ่ ใหน้ ักเรียนนาความรู้ท่ีได้ไปเชือ่ มโยงกับ
องคค์ วามรเู้ ดมิ ทาใหไ้ ดค้ วามรทู้ เี่ พ่ิมมากขน้ึ ”

บัตรคำสั่ง 5

ให้นักเรียนนาความร้ทู ่ไี ด้จาก
การทากจิ กรรมท่ี 3 เสาะหาความรู้
ร่วมกบั กิจกรรมที่ 4 สาระนา่ รู้ ทา
“บัตรงานลักษณะโครงสรา้ งโลก”

ใช้เวลำ 20 นำที

25

บัตรคำถำม

“ลักษณะโครงสรา้ งโลก”

คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปนใี้ ห้ถกู ต้อง

1. โครงสร้ำงโลกแบง่ ออกเปน็ กีช่ นั้ อะไรบ้ำง

……………………………………………………………………………………………………………………….

2. โครงสร้ำงโลกแต่ละชน้ั มคี วำมแตกตำ่ งกันในเร่อื งใด

……………………………………………………………………………………………………………………….

3. โครงสรำ้ งโลกชน้ั ใดหนำทสี่ ดุ

……………………………………………………………………………………………………………………….

4. เปลือกโลกทวีปและเปลือกโลกมหำสมทุ รมีควำมหนำต่ำงกันอยำ่ งไร

……………………………………………………………………………………………………………………….

5. ควำมหนำแนน่ ของเปลือกโลกทวปี และเปลอื กโลกมหำสมทุ รตำ่ งกนั อย่ำงไร

……………………………………………………………………………………………………………………….

6. นักวทิ ยำศำสตร์ทรำบลักษณะโครงสรำ้ งโลกโดยกำรศึกษำจำกสิ่งใด

……………………………………………………………………………………………………………………….

7. เปลือกโลกและแก่นโลกช้ันในมีสถำนะใดท่ีเหมอื นกนั

……………………………………………………………………………………………………………………….

8. แก่นโลกช้นั นอกมลี กั ษณะอยำ่ งไร และทรำบไดอ้ ยำ่ งไร

……………………………………………………………………………………………………………………….

9. เน้ือโลกสว่ นบนมีสถำนะอย่ำงไร

……………………………………………………………………………………………………………………….

10. เน้ือโลกส่วนลำ่ งมีสถำนะอยำ่ งไร

……………………………………………………………………………………………………………………….

26

บตั รคำถำม

“ลกั ษณะโครงสร้างโลก”

11. ธรณภี ำคคอื ส่วนใดของโครงสรำ้ งโลก

……………………………………………………………………………………………………………………….

12. ธรณภี ำคมีสถำนะเป็นอย่ำงไร

……………………………………………………………………………………………………………………….

13. ส่วนที่อยใู่ ต้ชั้นธรณีภำคเปน็ ของเหลวหนืดทเี่ รียกวำ่ อะไร

……………………………………………………………………………………………………………………….

14. เปลือกโลกมีแรธ่ ำตุใดเป็นองค์ประกอบหลกั

……………………………………………………………………………………………………………………….

15. แก่นโลกมธี ำตุอะไรเปน็ ส่วนใหญ่

……………………………………………………………………………………………………………………….

16. โครงสร้ำงโลกชั้นใด มอี ณุ หภูมิ ควำมดัน และควำมหนำแน่นมำกที่สุด

……………………………………………………………………………………………………………………….

17. นักวทิ ยำศำสตรป์ ระมำณอณุ หภมู ิของแก่นโลกชัน้ ในไวก้ อี่ งศำ

……………………………………………………………………………………………………………………….

18. แมกมำเกดิ จำกส่วนใดของโครงสร้ำงโลก

……………………………………………………………………………………………………………………….

19. แผน่ ธรณีคอื อะไร

……………………………………………………………………………………………………………………….

20. แผ่นธรณีทวีป และแผน่ ธรณมี หำสมุทรมคี วำมหนำแนน่ ต่ำงกันอยำ่ งไร

……………………………………………………………………………………………………………………….

กิจกรรมท่ี 6 ประดิษฐค์ วำมรู้

“เพ่อื เป็นการทดสอบความรู้ของนกั เรยี น
หลังจากการเรยี นจากชุดกจิ กรรมทั้งหมด”

บตั รคำส่ัง 6

ใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน
จาก บตั รแบบทดสอบหลังเรียน
จานวน 10 ข้อ

ใช้เวลำ 10 นำที

28

บตั รแบบทดสอบหลังเรยี น

เรอ่ื ง กำรแปรสณั ำนของแผน่ ธรณี II ช้นั มธั ยมศึกษำปีที่ 5

ประกอบชดุ กจิ กรรมกำรเรียนร้ทู ่ี 2 เรือ่ ง เรยี นรู้กำรเคลอ่ื นทข่ี อง ภำคเรียนท่ี 2

แผน่ ธรณี II

คำชแ้ี จง 1. แบบทดสอบฉบับน้ีเปน็ แบบทดสอบ 4 ตัวเลอื ก จานวน 10 ขอ้ ข้อละ 1 คะแนน

คะแนนเต็ม 10 คะแนน

2. นกั เรียนเลือกคาตอบท่ถี ูกตอ้ งที่สดุ แล้วทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงในกระดาษคาตอบ

ใหถ้ ูกต้อง

1. เทอื กเขาหมิ าลยั เกิดจากปรากฏการณท์ างธรณีภาคแบบใด

1. การเกิดแผ่นดนิ ไหว 2. การแยกตัวของแผน่ เปลือกโลก

3. การชนกนั ของแผ่นเปลือกโลก 4. การระเบิดของภูเขาไฟ

2. กระบวนการเกิดเทือกเขากลางมหาสมุทรเกดิ จากสาเหตใุ ด

1. ขอบแผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่ผ่านกนั 2. ขอบแผน่ ธรณีแยกออกจากกนั

3. ขอบแผ่นธรณภี าคเคลอื่ นที่เขา้ หากัน 4. แผน่ ธรณีมหาสมทุ ร 2 แผ่นเคล่อื นทช่ี นกนั

3. ข้อใดเป็นลกั ษณะของแผน่ ธรณีมหาสมุทรชนกับแผ่นธรณีมหาสมุทร

1. แผน่ ธรณมี หาสมทุ รที่มีอายมุ ากจะมดุ ตวั ลงสูแ่ ผน่ ธรณที ่ีมอี ายนุ ้อยกว่า

2. แผน่ ธรณีมหาสมุทรทมี่ ีอายุนอ้ ยจะมุดตัวลงสู่แผ่นธรณีท่ีมีอายมุ ากกวา่

3. แผน่ ธรณมี หาสมทุ รทม่ี ีความหนาแนน่ น้อยจะมุดตวั ลงสู่แผน่ ธรณีท่มี ีความหนาแนน่ มาก

4. ขอ้ 2 และ 3 ถูกต้อง

4. ข้อใดกลา่ วถูกต้องเกี่ยวกบั แผน่ ธรณมี หาสมุทร

1. แผ่นที่มอี ายุมากจะมีความหนาแน่นนอ้ ย อุณหภูมติ า่

2. แผน่ ท่มี ีอายุมากจะมีความหนาแน่นมาก อณุ หภูมิตา่

3. แผ่นท่มี อี ายุมากจะมคี วามหนาแนน่ น้อย อุณหภมู ิสงู

4. แผน่ ที่มีอายุมากจะมคี วามหนาแน่นมาก อุณหภูมิสูง

5. ขอ้ ใดไม่ใช่ลกั ษณะการเคลื่อนท่ีของแผ่นเปลือกโลก

1. ขอบแผน่ ธรณแี ยกออกจากกนั 2. ขอบธรณซี ้อนทบั กัน

3. ขอบแผ่นธรณีเคล่ือนเขา้ หากัน 4. ขอบแผน่ ธรณเี คล่ือนผา่ นกัน

29

6. เมอื่ แผ่นธรณีมหาสมุทรสองแผน่ ชนกัน แผน่ หนึง่ จะมดุ ตัวลงสู่ชนั้ เน้ือโลก บรเิ วณแนวมดุ ตวั จะทา

ใหเ้ กิดส่งิ ใดขึ้น

1. หมูเ่ กาะภเู ขาไฟ 2. รอ่ งลึกใตส้ มุทร 3. ภเู ขาไฟมีพลัง 4. เทือกเขาสงู

7. การที่แผ่นเปลอื กโลก (ก) เคล่อื นทีเ่ ข้าชนแผ่นเปลือกโลก (ข) และแผ่นเปลอื กโลก (ก) มดุ ตัวเขา้ สู่

ใต้แผ่นเปลอื กโลก (ข) ข้อใดอธบิ ายปรากฏการณ์น้ีได้ถูกต้อง

1. แผ่นเปลอื กโลก (ก) มีความหนานอ้ ยกวา่ แผ่นเปลอื กโลก (ข)

2. แผน่ เปลอื กโลก (ก) มคี วามหนามากกวา่ แผ่นเปลือกโลก (ข)

3. แผน่ เปลอื กโลก (ก) เปน็ แผน่ พ้นื ทวปี แผน่ เปลือกโลก (ข) เปน็ แผ่นพน้ื มหาสมุทร

4. ข้อ 1 และ 3 ถกู ต้อง

8. รอยเล่อื นซานแอนเดรียส เกิดจากการเคล่ือนที่ของขอบแผน่ ธรณภี าคแบบใด

1. ขอบแผ่นธรณีมหาสมุทรเคลอ่ื นที่เข้าชนกับแผน่ ธรณมี หาสมทุ ร

2. ขอบแผ่นธรณมี หาสมุทรเคล่อื นที่เข้าชนกับแผ่นธรณที วีป

3. ขอบแผน่ ธรณภี าคเคล่อื นที่ผา่ นกนั

4. ขอบแผน่ ธรณภี าคเคล่อื นท่ีแยกจากกนั

9. หมเู่ กาะภเู ขาไฟรูปโคง้ เกิดข้นึ จากแผ่นธรณใี นข้อใดชนกัน

1. แผ่นธรณมี หาสมทุ รชนกบั แผน่ ธรณที วปี

2. แผ่นธรณที วีปชนกับแผ่นธรณที วีป

3. แผ่นธรณีมหาสมุทรชนกับแผน่ ธรณีมหาสมทุ ร

4. ข้อ 1 และ 3 ถูก

10. การเคลอื่ นตัวของแผน่ ธรณีเกดิ ขนึ้ จากกระบวนการใด

1. แรงโน้มถว่ ง 2. สนามแมเ่ หล็กโลก

3. ความเค้นใต้พิภพ 4. การถา่ ยโอนความร้อนของแมกมา

30

บตั รบนั ทึกผลแบบทดสอบหลงั เรียน

เรอ่ื ง กำรแปรสัณำนของแผ่นธรณี II ชนั้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 5

ประกอบชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง เรยี นรกู้ ำรเคลอ่ื นที่ของ ภำคเรียนท่ี 2

แผ่นธรณี II

ข้อ ตวั เลือก 4
1 23

1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.

เกณฑ์กำรประเมนิ คะแนนทไี่ ด้ ........................
คะแนนเตม็ 10 คะแนน
8-10 คะแนน = ดี ผ่าน
5-7 คะแนน = พอใช้ ไมผ่ า่ น
0-4 คะแนน = ปรับปรุง

ชือ่ ......................................................................................ชน้ั ...............เลขที.่ .............

กจิ กรรมที่ 7 ประเมนิ ควำมรู้

“เพื่อให้นักเรียนประเมนิ ตนเอง วา่ ตนเองเกิด
การเรยี นรหู้ รือไม่ และมากนอ้ ยเพยี งใด”

บตั รคำสง่ั 6

ให้นกั เรียนทาบัตรบันทึกความรู้สกึ หลงั เรยี น
โดยใช้ชุดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ี 1
เรอ่ื ง ตะลุยใตพ้ ิภพ

ใช้เวลำ 10 นำที

32

บตั รบนั ทกึ ส่ิงทไี่ ด้เรียนรู้

สง่ิ ท่ีได้เรียนรู้

.............................................................................................................
.............................................................................................................
.............................................................................................................
.............................................................................................................
.............................................................................................................
.............................................................................................................

ควำมรสู้ กึ หลังจำกท่ไี ดเ้ รียนโดยใช้ชดุ กิจกรรม

.............................................................................................................
.............................................................................................................
.............................................................................................................
.............................................................................................................
.............................................................................................................
.............................................................................................................

บรรณำนกุ รม

บรรณำนุกรม

กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2553). สานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551. พมิ พ์
คร้งั ที่ 3. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย.

กรมวิชาการ. (2546). การจัดสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรก์ ลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร.์
กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์คุรสุ ภาลาดพร้าว

กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2551). หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช
2551. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พช์ มุ นุมเกษตรกรแห่งประเทศไทย.

สถาบนั ส่งเสรมิ วิทยาศาสตร.์ (2554). หนงั สือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสร์ ดวงดาวและโลก
ของเรา กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4-6. กรุงเทพฯ: โรงเพิมพ์
สกสค. ลาดพร้าว.

ภำคผนวก

แนวคำตอบบัตรกจิ กรรม

“จำลองกำรเคลอ่ื นที่ของแผน่ ธรณใี นลกั ษณะต่ำงๆ”

ลักษณะกำรเคลอ่ื นท่บี ริเวณรอยตอ่

เข้ำหำกัน หมำยเหตุ
มุดกนั เกยกนั
รอยตอ่ แยกออก เฉือนกัน
ระหว่ำงแผ่น จำกกัน
√√ เกดิ ไดท้ ั้ง 2 กรณี
1-2 √
2-3 √
4-5
5-6 √√ เกิดได้ทง้ั 2 กรณี
1-4
2-5 √
3-6




สรุปผล

ถา้ ให้กระดาษแตล่ ะแผน่ เปรยี บเสมือนแผ่นธรณี เราจะสามารถจาลองการเคลื่อนทขี่ องแผน่
ธรณีได้3ลักษณะ คือ แผน่ ธรณีเคล่ือนทีแ่ ยกออกจากกนั แผน่ ธรณเี คล่อื นท่เี ขา้ หากัน และแผ่นธรณี
เคลื่อนที่เฉือนกัน

เกณฑ์กำรให้คะแนนบตั รกิจกรรม

“จำลองกำรเคลอื่ นท่ขี องแผน่ ธรณีในลกั ษณะตำ่ งๆ”

รำยกำรประเมนิ คำอธบิ ำยคุณภำพ
พฤติกรรม
2 คะแนน 1 คะแนน 0 คะแนน
1.ความถกู ต้อง
ตอบคาถามได้ใจความตาม ตอบคาถามไม่ตรงตามแนว ตอบคาถามไม่ใกล้เคียงกับ
2.ความครบถ้วน
แนวคาตอบ ค า ต อ บ แ ต่ ได้ ใจ ค ว า ม แนวคาตอบเลย
3.ความเรยี บรอ้ ย
ใกล้เคยี งกับแนวคาตอบ

ตอบคาถามครบถ้วนทุกขอ้ ตอบคาถามไม่ครบถ้วนทุก ไม่ตอบคาถามอย่างน้อย 4
ข้อ แต่ตอบคาถามอย่าง ขอ้ หรอื ไมต่ อบคาถามเลย
น้อย3ขอ้

ลายมืออ่านออก สะอาด ไม่ บัตรกิจกรรมชารดุ เสยี หาย
มีร่องรอยเปอื้ น

แนวคำตอบบัตรคำถำม

“ลกั ษณะโครงสร้างโลก”

1. โครงสรำ้ งโลกแบง่ ออกเป็นก่ชี น้ั อะไรบำ้ ง 11. ธรณภี ำคคือส่วนใดของโครงสร้ำงโลก
= 3 ช้นั เปลือกโลก เน้อื โลก แก่นโลก = เปลอื กโลกกบั เน้ือโลกสว่ นบน 100 km
2. โครงสร้ำงโลกแตล่ ะช้ันมีควำมแตกตำ่ ง
12. ธรณีภำคมีสถำนะเปน็ อย่ำงไร

กันในเร่อื งใด = ของแข็ง
= ความหนา อณุ หภูมิ ความดนั สถานะ 13. ส่วนทอี่ ยู่ใต้ช้นั ธรณีภำคเป็นของเหลว
3. โครงสรำ้ งโลกชน้ั ใดหนำทีส่ ดุ
= แก่นโลก หนดื ท่ีเรียกว่ำอะไร
4. เปลือกโลกทวปี และเปลือกโลกมหำสมทุ ร = ฐานธรณภี าค ที่เป็นส่วนกาเนิดของ
แมกมา
มคี วำมหนำตำ่ งกันอยำ่ งไร 14. เปลอื กโลกมีแรธ่ ำตุใดเป็นองค์ประกอบ
= เปลอื กโลกทวีปมีความหนา มากกวา่ เปลือก หลกั
= ซิลากา
โลกมหาสมุทร 15. แก่นโลกมีธำตุอะไรเป็นส่วนใหญ่
5. ควำมหนำแนน่ ของเปลือกโลกทวีปและ = เหล็กและนกิ เกลิ
16. โครงสร้ำงโลกชั้นใด มีอุณหภมู ิ ควำมดนั
เปลือกโลกมหำสมทุ รต่ำงกนั อยำ่ งไร และควำมหนำแนน่ มำกทส่ี ดุ
= เปลือกโลกมหาสมุทร มีความหนาแนน่ = แก่นโลก
17. นกั วทิ ยำศำสตรป์ ระมำณอุณหภูมขิ อง
มากกว่าเปลือกโลกทวปี แก่นโลกชั้นในไวก้ ี่องศำ
6. นกั วทิ ยำศำสตรท์ รำบลักษณะโครงสร้ำง = 6000 องศาเซลเซียส
18. แมกมำเกดิ จำกส่วนใดของโครงสร้ำง
โลกโดยกำรศกึ ษำจำกส่ิงใด โลก
= คลืน่ ไหวสะเทอื น = ฐานธรณีภาค
7. เปลือกโลกและแก่นโลกชั้นในมสี ถำนะใด 19. แผ่นธรณีคอื อะไร
= ธรณีภาคที่แตกออกเปน็ แผ่น
ที่เหมือนกนั 20. แผ่นธรณีทวีป และแผ่นธรณีมหำสมุทร
= ของแข็งเหมือนกัน มีควำมหนำแน่นตำ่ งกันอยำ่ งไร
8. แกน่ โลกช้นั นอกมลี กั ษณะอย่ำงไร และ = แผน่ ธรณที วปี มคี วามหนาแนน่ น้อยกวา่
แผ่นธรณีมหาสมุทร
ทรำบได้อยำ่ งไร
= เปน็ ของเหลวหนืด ทราบได้จากการ

เคล่ือนท่ีของคลน่ื ทุติยภูมิ
9. เนื้อโลกส่วนบนมสี ถำนะอยำ่ งไร
= เป็นของเหลวหนืด
10. เนอื้ โลกสว่ นล่ำงมีสถำนะอย่ำงไร
= เปน็ ของแขง็

เกณฑ์กำรใหค้ ะแนนบัตรคำถำม

“ลักษณะโครงสรำ้ งโลก”

รำยกำรประเมิน คำอธบิ ำยคณุ ภำพ
พฤติกรรม
2 คะแนน 1 คะแนน 0 คะแนน
1.ความถูกต้อง
ตอบคาถามได้ใจความตาม ตอบคาถามไม่ตรงตามแนว ตอบคาถามไม่ใกล้เคียงกับ
2.ความครบถว้ น
แนวคาตอบ ค า ต อ บ แ ต่ ได้ ใจ ค ว า ม แนวคาตอบเลย
3.ความเรยี บร้อย
ใกลเ้ คียงกับแนวคาตอบ

ตอบคาถามครบถว้ นทกุ ขอ้ ตอบคาถามไม่ครบถ้วนทุก ไม่ตอบคาถามอย่างน้อย 4
ข้อ แต่ตอบคาถามอย่าง ข้อ หรอื ไมต่ อบคาถามเลย
นอ้ ย3ข้อ

ลายมืออ่านออก สะอาด ไม่ บตั รคาถามชารุดเสียหาย
มีร่องรอยเปือ้ น

39

เฉลยแบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน ชนั้ มัธยมศึกษำปที ่ี 5
ภำคเรียนท่ี 2
เร่ือง โครงสร้ำงโลก
ประกอบชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง ตะลุยใต้พิภพ

ก่อนเรยี น หลังเรียน 4

ข้อ 1 2 3 4 ข้อ 1 2 3
1. 1.
2. 2.
3. 3.
4. 4.
5. 5.
6. 6.
7. 7.
8. 8.
9. 9.
10. 10.


Click to View FlipBook Version