The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

30000-1101-ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชีพ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kru.Somchai, 2021-10-15 05:33:38

30000-1101-ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชีพ

30000-1101-ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชีพ

6. การแตง่ กายของคณะครู และนกั เรยี น ทีป่ ระชมุ มตี ใิ ห้คณะครูสวมเส้ือสีเหลือง Fix it นักเรียนช้ัน
ปวช.๑ แตง่ กายชดุ ลูกเสือ สว่ นนักเรยี นชนั้ ปีอืน่ แต่งกายชุดกฬี า
ท่ีประชุมรับทราบ

ระเบียบวาระการประชมุ ท่ี ๕ เรื่องอ่ืน ๆ

-ไม่ม-ี

ปดิ ประชุมเวลา ๑๖.๒๐ น.

(นายสมชาย เอี่ยมละมยั )
ผู้บันทึกรายงานการประชุม

(นางณชิ าพัฒน์ กนั หริ)
ผตู้ รวจรายงานการประชมุ

………………………………………………………………
………………………………………………………………

(นางวราภรณ์ เกิดอนนั ต์)
ครู คศ.๒

รักษาการในตำแหนง่ ผู้อำนวยการวทิ ยาลยั อาชีวศึกษาลพบุรี

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวชิ าชีพ 46

5.2 การเขียนรายงานการปฏบิ ตั ิงาน

1. ความหมายของรายงานการปฏบิ ตั ิงาน
นวภรณ์ อุ่นเรือน (๒๕๖๑, หน้า ๓๖) ให้ความหมายของ รายงานการปฏิบตั ิงาน ว่าเป็นการชี้แจง

ด้วยการแสดงข้อมูลต่าง ๆ ที่ตนได้ปฏิบัติหรือรับผิดชอบอยู่ให้บุคคลอื่นได้ทราบข้อเท็จจริง เพื่อประโยชน์ใน
การปฏิบตั ิงาน หรือประกอบการตดั สินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งข้อมูลนั้นอาจเป็นข้อมูลดิบ หรือข้อมูลเชิงสถติ ิ
ทแี่ ปลความหมายออกมาเปน็ ตาราง แผนภมู ิ แผนภาพหรืออื่น ๆ

นนั ทภรณ์ ริวงค์เวยี ง (๒๕๕๒) ให้ความหมายว่า รายงาน คือ การเสนอรายละเอียดตา่ ง ๆ เกยี่ วกบั
การดำเนินงานของบคุ คลของหนว่ ยงาน เปน็ สิ่งจำเป็นและสำคัญในการบริหารงานทั้งในหน่วยงานราชการและ
ธุรกิจเอกชน เพราะรายงานจะบรจุข้อมูลพื้นฐานที่ช่วยให้บุคลากรของหน่วยงานทราบนโยบาย เป้าหมาย
ผลการปฏิบตั งิ าน ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ในการดำเนินงาน

สรุปได้ว่า รายงานการปฏิบัติงานเป็นการเขียนชี้แจงรายละเอียดการทำงานเพื่อให้ผู้บริหารหรือ
บุคคลอ่นื ได้รับทราบขอ้ มลู เพือ่ นำไปใช้ประโยชน์ในดา้ นอน่ื ๆ ตอ่ ไป

๒. ประโยชนข์ องรายงานการปฏบิ ัติงาน
นวภรณ์ อุ่นเรือน (๒๕๖1) กลา่ วถึงประโยชนข์ องการเขยี นรายงานการปฏบิ ัตงิ านไวด้ ังน้ี
1. ทำให้ทราบผลการดำเนินงานทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการ

ปฏิบตั ิงาน
2 เป็นการประมินผลการปฏิบัติงานท่ที ำมาแลว้
3. เป็นแนวทางในการกำหนดโครงการหรอื แผนการปฏบิ ัตงิ านในอนาคต
4. เปน็ ส่อื กลางในการตดิ ต่อระหวา่ งผู้รว่ มงาน
5. เปน็ เอกสารอา้ งอิงในการศกึ ษาและปฏิบัติงานครง้ั ตอ่ ไป
6. เปน็ เครอ่ื งมอื ประกอบกรตัดสนิ ใจเพอ่ื ทำการสงิ่ ใดสงิ่ หนึ่ง ท้ังโดยฉับพลันและในระยะยาว

3. ประเภทของรายงานการปฏิบัติงาน
นวภรณ์ อ่นุ เรอื น (2561) ไดแ้ บ่งประเภทของรายงานการปฏบิ ัติงานไว้ดงั นี้
3.1 รายงานแบบธรรมดา เป็นรายงานตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแสดง

ความก้าวหน้าหรือความสำเร็จในการปฏบิ ัติงาน ได้แก่ รายงานการปฏิบัติงานรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์
รายเดือนและรายปี เชน่ รายงานความกา้ วหนา้ ของโครงการ รายงานประจำปขี องธนาคาร ฯลฯ

3.2 รายงานแบบพิเศษ เป็นรายงานที่จัดทำขึ้นเป็นครั้งคราวในโอกาสต่าง ๆ ตามความต้องการ
และความจำเป็น เพ่ือแสดงรายละเอยี ดของการวเิ คราะห์อดีตและปจั จุบันเพือ่ กำหนดวธิ ีการปฏิบตั ิในอนาคต

๔. ลักษณะของรายงานการปฏิบตั งิ าน
รายงานการปฏิบัติงานแบ่งได้เป็นหลายลักษณะตามงานที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งนวภรณ์ อุ่นเรือน

กล่าวไวด้ ังน้ี (๒๕๔๖ : ๑๓7-๑๓๘)
4.1 รายงานเหตกุ ารณ์ เป็นรายงานที่ใชส้ นอขอ้ ก็จจริงท่ีเกิดขน้ึ อันเปน็ ผลทำให้เกิดความเสียหาย

เช่น อุบัติเหตุในโรงงาน เครื่องจักรเสีย การทำงานล่าช้า ค่าใช้จ่ายสูง ผลผลิตต่ำ ปัญหาเกี่ยวกับบุคลากร
เปน็ ตัน รายงานชนิดน้มี งุ่ ใหข้ ้อมูลท่ีครบถว้ นและเสนอข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใชภ้ าษาทน่ี ้ันความรู้สึกหรือ
อารมณ์ ซึ่งจะทำให้รายงานนั้นไม่เที่ยงตรง ข้อมูลที่ได้จากการรายงานจะเป็นพื้นฐานสำหรับการตีความเพื่อ

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ 47

ตัดสินใจ เพื่อใช้เป็นหลักฐานตามกฎหมาย หรือเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการเขียนรายงานอื่น ซึ่งจะเป็น
ประโยชน์แก่การพัฒนาองค์กรตอ่ ไป

4.2 รายงานความก้าวหน้า เป็นรายงานท่ีผู้จัดทำใช้อธิบายแก่บุคคลหรือบรษิ ัทเก่ียวกับงานที่ได้
ทำไปแล้ว ปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้เกิดความล่าช้าและงานที่จะดำเนินการต่อไป รายงานแบบนี้ช่วยให้
ผู้ร่วมงานทที่ ำงานในส่วนอ่ืน ๆ สามารถปรับแผนงาน วิธีทำงานและกำลังคนได้

4.3 รายงานความเปน็ ไปได้ เมอ่ื หนว่ ยงานมอบหมายให้บคุ คลในหน่วยงานพจิ ารณาโครงการใหม่
ผลิตภัณฑ์ไหมหรือซื้อเครื่องจักรใหม่ บุคคลนั้นจะต้องพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดการสิ่งเหล่านี้
การเขียนรายงานดงั กล่าวจะต้องแสดงหลกั ฐานการตรวจสอบ วเิ คราะห์ ขอ้ สรปุ หรอื ขอ้ เสนอแนะแก่หนว่ ยงาน

4.4 รายงานการทดลอง ในการทดลองวิทยาศาสตร์ ผู้ทดลองจะต้องเขียนรายงานโดยบอก
จุดประสงค์ วิธีการหรือกระบวนการทดลอง ระบุผลการทดลอง สรุปผลและข้อเสนอแนะแตใ่ นการปฏิบัติงาน
ภาคอตุ สาหกรรมหรือภาคธุรกจิ นอกจากการทดลองแลว้ อาจมีการทดสอบและเขียนรายงาน แต่มักไม่ใช้แบบ
แผนที่เข้มงวดเหมือนรายงานทางวิทยาศาสตร์ แต่ใช้ขั้นตอนการรายงานอย่างเดียวกันได้ การเขียนรายงาน
แบบนม้ี ักจะเขยี นในรูปบนั ทึกขอ้ ความมากกวา่ จะกำหนดแบบฟอรม์ ตายตวั

4.5 รายงานการทำภาคสนาม เป็นการเขียนรายงานในกรณีที่ออกไปทำงานนอกสถานที่ เช่น
วิศวกรออกสำรวจพื้นที่ นักธุรกิจที่ต้องไปดูงานหรือตรวจงาน หาที่ตั้งโรงงาน นักการตลาดออกสำรวจข้อมูล
การวางสินค้า เป็นต้น

๕. วิธเี ขยี นรายงานการปฏิบัติงาน
การเขยี นรายงานสามารถทำได้ ๒ วธิ ีคอื เขียนรายงานอยา่ งสน้ั และรายงานอย่างยาว
๑. การเขียนรายงานอย่างสั้น เป็นรายงานสั้น ๆ ความยาว ๑-๒ หน้ากระดาษ เพื่อเสนอ

ข้อเท็จจริงความคิดเห็น ชี้แจงเรื่องราว ขออนุญาตดำเนินการหรือเพื่อสั่งการรายงานที่มีขนาดสั้นมาก ๆ มัก
เป็นรายงานแบบไม่เป็นทางการโดยอาจเขียนในรูปแบบของบันทึกข้อความ จดหมาย บทความหรือกรอก
ขอ้ ความในแบบฟอรม์ ตามทีห่ นว่ ยงานกำหนด การเขียนรายงานอยา่ งสน้ั มีองค์ประกอบ คือ

1.1 ส่วนนำ เป็นการกล่าวถึงสาเหตุและจุดประสงค์ในการเขียนว่า เขียนขึ้นเพื่ออะไรหรือ
เพราะเหตใุ ด

1.2 ส่วนเนื้อหา กล่าวถึงเนื้อเรื่อง รายละเอียด สาระสำคัญของเรื่องที่รายงานโดยระบุ
ขอบเขตของเรื่อง ข้อมูลประกอบ ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นสว่ นตวั ของผู้รายงาน การเขยี นส่วนเนื้อหาให้
ครอบคลุม ควรตั้งคำถามแบบเดียวกันกับที่นักหนังสือพิมพีใช้ในการเซียนข่าวคือ ใครทำอะไร ที่ไหน เมื่ อไร
อย่างไร และทำไม

1.3 ส่วนสรุป อาจลงท้ายลักษณะเดียวกับจดหมาย เช่น จึงเรียนมาเพื่อทราบ จึงเรียนมาเพอื่
โปรดพจิ ารณาส่งั การ ฯลฯ แล้วลงชือ่ ผูเ้ สนอรายงาน

2. การเขียนรายงานอย่างยาว หมายถึง รายงานอย่างเป็นทางการแบบวิเคราะห์ มีความยาวเกิน
๑๐ หน้าขึ้นไป นำเสนอเพื่อให้เกิดความเข้าใจ หรือยึดถือเป็นแนวปฏิบัติและเก็บเป็นหลักฐาน มีการจัดทำ
รปู เลม่ ท่สี ะดวกแกก่ ารเก็บและค้นควา้ ภายในเล่มประกอบด้วย

๒.๑ ส่วนประกอบตอนต้น ได้แก่ ปกนอก ปกใน คำนำ สารบัญเรื่อง สารบัญภาพ (ถ้ามี)
สารบญั ตาราง (ถ้าม)ี

๒.๒ สว่ นเน้ือหา ไดแ้ ก่บทนำ รายละเอยี ดของเร่ือง ขอ้ สรุป ผลลัพธ์ ตาราง เชงิ อรรถ เปน็ ตน้
๒.๓ ส่วนประกอบตอนท้าย ได้แก่ ภาคผนวก บรรณานุกรม ดัชนี เป็นตน้

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวชิ าชีพ 48

๖. การใชภ้ าษาในการเขียนรายงานการปฏิบตั งิ าน
ภาษาทใ่ี ช้ในการเขยี นรายงานควรมลี ักษณะดงั น้ี
1. ใชภ้ าษาทางการ เปน็ ภาษาเขยี นมากกว่าภาษาพดู
๒ เขียนอย่างรวบรัดตรงประเดน็ นำเสนอเฉพาะข้อมลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
๓. กระชับ กะทัดรดั ไดใ้ จความชดั เจน อาจใช้ตวั เลข ตาราง กราฟหรอื แผนภาพประกอบ
๔. ใชภ้ าษาและถอ้ ยคำสำนวนคงเสน้ คงวาไม่เปลยี่ นไปเปล่ียนมา

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ 49

ตวั อย่าง รูปเล่มรายงานในแตล่ ะหน่วยงาน

แบบฟอร์มรายงานผลการปฏบิ ัติงานรายวนั ตามภาระงานรายบุคคล
สำนักวิทยบรกิ ารและเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏราชนครินทร์

ชอ่ื ผรู้ ับผิดชอบ............................................................ตำแหน่งบรหิ าร..............................................................

ตำแหนง่ งาน.......................................................................................................................................................

กลุ่มงาน..........................................................................งาน........................................ ......................................

ผลงานท่ดี ำเนินการ วันท.่ี ...........เดือน..................................พ.ศ................................

เวลา งานท่ปี ฏิบัติ ปัญหาที่พบ แนวทางแก้ไข

07.30-08.00 น.

08.00-09.00 น.

09.00-10.00 น.

10.00-11.00 น.

11.00-12.00 น.

12.00-13.00 น.

13.00-14.00 น.

14.00-15.00 น.

15.00-16.00 น.

16.00-17.00 น.

17.00-18.00 น.

.......................................................ผู้รบั ผิดชอบภาระงาน
(......................................................)
ข้อเสนอแนะ.........................................................................................................................................................
.......................................................หัวหน้ากลมุ่ งาน
(......................................................)
ข้อเสนอแนะ................................................................................................................... ......................................
.......................................................ผ้อู ำนวยการ
(......................................................)
ข้อเสนอแนะ................................................................................................................... ......................................

หมายเหตุ รวบรวมส่งหัวหน้ากลุ่มงานเป็นรายสัปดาห์ ก่อนเวลา 15.00 น. ของวันสุดท้ายขอวงการ
ปฏิบัติงานในแตล่ ะสัปดาห์

ท่มี า: www.rit.rru.ac.th/index/.php/en/component

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี 50

ตัวอย่าง การเขียนรายงานการปฏิบตั งิ านอยา่ งสัน้

เรื่อง รายงานสรุปเรอื่ งการศกึ ษานอกห้องเรียนแบบบรู ณาการ
เรียน อาจารยป์ ระจำวิชาภาษาไทย

ตามที่วิทยาลัยเทคนิคพิจิตรได้จัดทำโครงการการศึกษานอกห้องเรียนแบบบูรณาการ เพื่อสร้าง
ประสบการณ์การเรียนรู้จากสภาพจรงิ ให้กับนักเรียนนักศึกษา ที่อำเภอบางกระทุ่ม จงั หวัดพิษณุโลก เมื่อวันท่ี
20 มิถนุ ายน 2549 น้ัน สรปุ ผลการศกึ ษานอกหอ้ งเรยี นแบบบูรณาการไดด้ ังนี้

1. ตัวแทนนกั เรียนนักศึกษาทีเ่ ข้าร่วมโครงการ จำนวน 200 คน มาพร้อมกันทีห่ น้าองคพ์ ระวิษณใุ น
เวลา 08.30 น. เพอื่ ข้ึนรถบัสเดนิ ทางไปสู่อำเภอบางกระทมุ่ จังหวดั พิษณโุ ลก

2. เป้าหมายในการไปศกึ ษานอกหอ้ งเรียนแบบบูรณาการคร้ังนี้ มี 2 แหง่ คือ
2.1 โรงพยาบาลบางกระทุ่ม เป็นโรงพยาบาลที่ได้รับรางวัล ISO นอกจากการรักษาผู้ป่วยแล้ว

โรงพยาบาลแห่งนี้ยังเป็นแหล่งผลิตยาสมุนไพรที่มีชื่อเสียง เช่น ยาหอม ลูกประคบ คาลาไมน์ อาหารเส้นใย
เครอื่ งด่มื สมนุ ไพร สบู่ และอ่ืน ๆ เจ้าหน้าทีใ่ ห้การตอ้ นรบั ด้วยอธั ยาศัยทด่ี ี มกี ารบรรยายสรปุ พาเท่ียวชมแผนก
ต่าง ๆ และเปดิ โอกาสใหซ้ กั ถามขอ้ สงสัยอยา่ งเป็นกนั เอง

2.2 แหลง่ ผลิตกล้วยตากจากพลงั งานแสงอาทิตย์ เปน็ โรงงานผลิตกล้วยตากด้วยกรรมวิธีแบบง่าย
ๆ ด้วยการสร้างตู้ตากกล้วยที่ถูกสุขลักษณะ ป้องกันฝุ่นและแมลงได้ และไปดูโรงงานทำปุ๋ยจากเปลือกกล้วย
ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีประโยชน์มาก เพราะจะได้นำเศษวัสดุเหลือใช้ คือ เปลือกกล้วยมาสร้างให้เกิด
คณุ ค่าเพิม่ และยงั ประหยดั เงินคา่ กำจดั เปลือกกล้วย

3. ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จากการศกึ ษานอกห้องเรียนครัง้ น้ี คือ
3.1 ได้เรยี นรู้ส่ิงใหม่ ๆ น่าสนใจ และมีความสุข
3.2 ไดร้ ปู้ ระโยชนข์ องสมุนไพรไทยในการรักษาโรค
3.3 ไดร้ ู้ถึงประโยชนข์ องกล้วยนำ้ ว้า สามารถใชภ้ มู ปิ ญั ญาชาวบ้านมาดดั แปลงให้เปน็ พชื เศรษกจิ

4. เดนิ ทางกลับถึงวิทยาลยั เทคนิคพจิ ิตร เวลา 16.30 น.
5. ข้อเสนอแนะ ควรจัดการศกึ ษาในรปู แบบนี้บอ่ ย ๆ แตจ่ ัดเปน็ กล่มุ เล็ก ๆ เพราะเวลาฟังบรรยายจะ
ไดย้ ินทว่ั ถึง

จึงเรียนมาเพอื่ โปรดทราบ

(นางสาวนวรัตน์ ฉายตรง)
นกั เรยี นระดับ ปวช.1 กลุ่ม 1

ท่ีมา: อมรรัตน์ ฉายศรี. (2556). ภาษาไทยเพอ่ื อาชีพ. ศนู ยห์ นงั สือเมอื งไทย : นนทบุร.ี

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชีพ 51

5.3 การเขียนบนั ทึกภายในหนว่ ยงาน

1. ความสำคัญของบันทกึ ในหน่วยงาน
จุฑามาศ เรืองทัพ (๒๕๕๘) กลา่ ววา่ การเขยี นบนั ทกึ ในหนว่ ยงานมคี วามสำคญั สรปุ ไดด้ งั น้ี
๑.1 เป็นการช่วยเหลือผู้บังคับบัญชา ด้วยการช่วยสรุปย่อเรื่องให้เข้าใจได้ง่าย ถูกต้อง ตรง

ประเดน็ ช่วยใหข้ อ้ เท็จจริงท่ีเป็นสาเหตุ เรอ่ื งราวเหตุการณ์ ระเบียบ ชว่ ยแสดงขอ้ คดิ เห็นท่ีเป็นประโยชน์หรือ
ความเสียหายทเี่ กิดขึน้ และชว่ ยใหข้ ้อเสนอในการดำเนินการ ซ่งึ จะสะดวกและประหยัดเวลาแก่ผู้บังคับบัญชา
ในการศกึ ษาเร่อื งและตกลงใจ

1.2 เป็นโอกาสดีในการปฏิบัติงาน การเขียนบันทึกเป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานต้องใช้ตลอดระยะเวลา
ทำงานจนเกษียณอายุ อย่างหลีกหนีไม่พ้น หากผู้ใดสามารถเขียนบันทึกได้ดี ตอบสนองผู้บังคับบัญชาได้ก็จะ
เปน็ โอกาสดีในอาชพี การงาน

1.3 เป็นหน้าตาของผู้เขียน ผู้ตรวจ ผู้ลงนาม และหน่วยงาน หนังสือหรือบันทึกแต่ละฉบับ
เกิดขึ้นจากผลพวงของการปฏิบัติงาน ตั้งแต่การหาข้อมูล การประสานงาน การคิดพิจารณา การหาข้อสรุป
แนวทางปฏิบัติ ซึ่งการเขียนหนังสือจะบ่บอกประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของผู้เขียน ผู้ตรวจ ผู้ลงนาม และ
หน่วยงาน ว่ามคี วามรคู้ วามเข้าใจมากน้อยเพยี งใด อันส่งผลตอ่ ภาพลกั ษณ์ที่เกย่ี วข้องท้ังดแี ละไมด่ ีดว้ ย

1.4 เป็นแนวทางในการเขียนบันทึกต่อไป ผู้ปฏิบัติงานรุ่นหลังจะสามารถใช้ตัวอย่างการเขียน
บันทกึ ท่ดี ีเป็นแนวทางในการปฏบิ ัติงาน ซงึ่ จะช่วยใหง้ ่ายตอ่ การปฏิบตั แิ ละประหยดั เวลา

๒. ส่วนประกอบของบนั ทกึ
บนั ทกึ ข้อความทั้งของขา้ ราชการและนกั ธุรกจิ เมื่อแยกสว่ นประกอบแลว้ จะประกอบดว้ ย
2.1 ส่วนนำ จะบอกใหร้ ู้ว่า เปน็ บันทกึ ของหน่วยงานใด เร่อื งอะไร จากใครถึงใคร เขียนเมื่อไร
๒.2 สว่ นเนื้อหา หรอื สว่ นทเ่ี ปน็ ใจความท่ีต้องการสอ่ื สาร
2.3 ส่วนทา้ ย จะบอกใหร้ วู้ า่ ใครเขียน โดยไม่ต้องมคี ำลงท้ายเชน่ เดยี วกับหนงั สือราชการภายใน

3. รูปแบบของบนั ทกึ ขอ้ ความ
3.1 บันทกึ ข้อความตามระเบียบงานสารบรรณ มีรายละเอยี ดในการจดั พิมพ์ดังน้ี
การพมิ พบ์ ันทึกข้อความตามระเบยี บงานสารบรรณ มวี ธิ ีการพมิ พด์ งั น้ี
๑. ตั้งหน้ากระดาษ กัน้ หน้า ๓ เซนตเิ มตร ก้นั หลัง ๒ เซนติเมตร
๒. ขนาดตัวครฑุ ๑.๕ เซนตเิ มตร โดยวางตัวครฑุ ห่างจากขอบกระดาษประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร
๓. คำว่า “บันทึกข้อความ” พิมพ์ด้วยอักษรตัวหนาขนาด ๒๙ พอยท์ และปรับค่าระยะบรรทัด

จาก ๑ เท่าเปน็ คา่ แน่นอน (Exactly) ๓๕ พอยท์
๔. ชั้นความลับ (ถ้ามี) ให้ปั๊มตรงกึ่งกลางด้านบนและด้านล่างของบันทึกข้อความ โดยใช้หมึกสี

แดง
๕. ชน้ั ความเร็ว (ถ้าม)ี ให้ปั๊มระหว่าง ครุฑ กับ บันทึกขอ้ ความ โดยใช้หมกึ สีแดง
๖. คำว่า “ส่วนราชการ” พิมพ์อักษรตัวหนาขนาด ๒๙ พอยท์ สำหรับชื่อส่วนราชการให้ลงช่ือ

หน่วยงานเจ้าของเรื่อง หรือหน่วยงานที่ออกหนังสือ/ โทรศัพท์ พร้อมด้วยไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ของส่วน
ราชการเจา้ ของเรอ่ื ง โดยพิมพ์ด้วยอกั ษรขนาด ๑๗ หรือ ๑๘ พอยท์

๗. คำว่า “ที่” พิมพ์อักษรตัวหนาขนาด ๒๒ พอยท์ โดยลงรหัสตัวพยัญชนะและเลขประจำของ
เจ้าของเรอื่ ง ดว้ ยอักษรขนาด ๑๗ หรือ ๑๘ พอยท์

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี 52

๘. คำว่า “วันท่ี” พิมพ์อักษรตัวหนาขนาด ๒๒ พอยท์ โดยลงตัวเลขของวันที่ ชื่อเต็มของเดือน
และตวั เลขปพี ุทธศักราชทอ่ี อกหนังสอื ด้วยอกั ษรขนาด ๑๗ หรอื ๑๘ พอยท์

๙. คำว่า “เรื่อง” พิมพ์อักษรตัวหนาขนาด ๒๒ พอยท์ โดยลงเรื่องย่อที่เป็นใจความสั้นที่สุดของ
หนังสือฉบับนั้น ในกรณีที่เป็นหนังสือต่อเนือ่ ง ให้ลงเรื่องของหนังสือฉบับเดิม ด้วยอักษรขนาด ๑๗ หรือ ๑๘
พอยท์

๑๐. พิมพ์ “คำขึ้นต้น” ให้มีระยะบรรทัดห่างจากเรื่องเท่ากับระยะบรรทัดปกติ และเพิ่มค่าก่อน
หน้าอกี ๖ พอยท์ (1 Enter + Before 6 pt) การพมิ พ์คำขึน้ ต้นให้ใชต้ ามฐานะของผ้รู ับหนงั สือ

๑๑. พิมพ์ย่อหนา้ แรก “เรื่องเดมิ ” ใหม้ ีระยะบรรทัดปกติ และเพ่ิมค่าก่อนหนา้ อีก ๖ พอยท์
(1 Enter + Before 6 pt) และพิมพ์ “ข้อเท็จจริง” “กฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง” “ข้อพิจารณา”
“ข้อเสนอแนะ” ให้มีระยะบรรทัดปกติ โดยแต่ละหัวข้อให้มีระยะย่อหน้าตามค่าไม้บรรทัดระยะการพิมพ์
เท่ากับ ๒.๕ เซนติเมตร (2 Tab) และพิมพ์ภาคสรุปโดย ให้มีระยะบรรทัดปกติ และเพิ่มค่าก่อนหน้าอีก
๖ พอยต์ (1 Enter + Before 6 pt)

๑๒. ลงชื่อพิมพ์ชื่อเต็มของเจ้าของลายมือชื่อ พร้อมกับตำแหน่งของเจ้าของลายมือชื่อไว้ใต้
ลายมือชอื่ โดยเวน้ ระยะบรรทัดการพิมพ์ ๒.๕ บรรทดั (2 Enter + Before 12 pt)

สำหรับจำนวนบรรทัดในการพิมพ์หนังสือราชการในแต่ละหน้าให้เป็นไปตามความเหมาะสมกับ
จำนวนข้อความ และความสวยงาม

**หมายเหตุ ส่วนหัวของแบบกระดาษบันทึกขอ้ ความจะตอ้ งใช้จุดไขป่ ลาแสดงเสน้ บรรทัดท่เี ปน็
ช่องว่างหลังคำว่า ส่วนราชการ... ที่.... วันที่.... เรื่อง..... ทั้งนี้บันทึกข้อความไม่ต้องมีคำลงท้าย และกรณีที่มี
ความจำเป็น อาจปรบั การพิมพ์หนังสือราชการใหแ้ ตกต่างไดต้ ามความเหมาะสม โดยให้คำนึงถึงความสวยงาม
และรูปแบบของหนงั สือราชการเป็นสำคญั

3.2 บันทึกข้อความของหน่วยราชการ เป็นแบบบันทึกที่หนว่ ยราชการแต่ละแห่งทำขึน้ โดยมาก
มักทำเปน็ เลม่ ๆ ขนาดเลก็ เช่นเดยี วกับสมุดฉกี ใช้สำหรบั เขยี นข้อความติดต่อกันไมเ่ ป็นทางการ หรือใช้บันทึก
ความจำ บันทึกความเห็น

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชีพ 53

ตวั อย่าง การพิมพบ์ ันทึกข้อความตามระเบยี บงานสารบรรณ

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี 54

4. ประเภทของบันทึก
โดยทั่วไปแล้วการบันทึกเสนอผู้บังคับบัญชา สามารถแบ่งตามลักษณะของการนําเสนอได้เป็น

4 ประเภท ได้แก่
๑. บันทึกย่อเรื่อง คือ บันทึกที่ผู้เขียนย่อจากเรื่องหรือรายงานที่เป็นเรื่องยาว ให้สั้นและได้

เพื่อนําเสนอต่อผ้บู ังคับบญั ชาจะได้สะดวกในการอ่านและทราบเรื่องโดยไมต่ ้องเสยี เวลาอ่านข้อความทัง้ หมด
๒. บันทึกรายงาน คือ บันทึกที่ผู้เขียนรายงานผลการปฏิบัติงานตามคําสั่งเสนอต่อผู้บังคับบัญชา

ใหร้ บั ทราบ
๓. บันทึกติดต่อสื่อสาร คือ บันทึกที่ผู้เขียนสื่อสารในเรื่องใดเรื่องหนึ่งกับผู้บังคับบัญชา

เพอ่ื พิจารณาลงความเห็น
๔. บันทึกความเห็น คอื บันทกึ ทีผ่ ู้เขียนแสดงความคดิ เหน็ หรือเสนอแนะในเรื่องใดเรื่องหน่ึงเสนอ

ตอ่ ผ้บู งั คบั บญั ชาเพอ่ื พิจารณาสั่งการ

5. วิธเี ขยี นและการใช้ภาษา
บันทึกภายในขององค์กรที่ไม่เป็นราชการมักเขียนโดยกรอกข้อความไปตามแบบฟอร์มของแต่ละ

หน่วยงานที่คิดแบบขึ้นมาเอง เขียนเฉพาะใจความสำคัญ และเขียนตรงไปตรงมา ใช้ภาษามาตรฐานคำนึงถึง
ผู้รบั วา่ เปน็ ใคร อาจใชภ้ าษาท่ีเป็นกันเอง (กง่ึ ทางการ) มากกวา่ จดหมายทว่ั ไป ไมต่ ้องเขยี นคำขึ้นตนั คำลงท้าย
แตล่ งช่ือผู้เขยี น

ภาษาและสำนวนในการเขยี นบนั ทกึ
จุดสำคัญในการเขียนบันทึก คือ การนั้นที่ความเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นหลัก ส่วนภาษาที่ใช้และ
สำนวนในการเขียนถือว่าเป็นเรื่องรองลงมา การติดต่อต้องการความถูกต้อง รวดเร็วของการปฏิบัติจึงไม่อาจ
ขัดเกลาสำนวนภาษาให้สละสลวย ขอ้ ความท่คี วรเขียนใหช้ ดั เจนคอื "ข้อความปิดท้าย"
หลักการใช้ภาษามีดงั น้ี

๑. สัน้ และง่าย
๒. เปน็ ที่เข้าใจ
3. ตรงุ ไปตรงมา
๔. ถูกตอ้ งและครบถว้ น
ขอ้ ควรคำนงึ ถึงในการเขียนบันทกึ
๑. ควรคำนึงถงึ ขนั้ ตอนในการเขียนบันทกึ
๑.๑ นกึ เสยี ก่อนว่าจะเขียนกับใคร เร่อื งอะไร ตอ้ งการใหผ้ รู้ บั ดำเนนิ การอย่างไร
๑.๒ ลงมือเขยี นข้อมูลให้ถูกต้อง ชัดเจน สมบูรณ์
๑.๓ ตรวจทานบนั ทึกทเ่ี ขียนวา่ ครบถ้วนตามท่นี กึ ไวห้ รือไม่
๒. คำนงึ เกยี่ วกับวิธกี ารเขียนบันทึก
๒.๑ อย่าเขยี นยาวเกินไป ถา้ จำเป็นใหแ้ บง่ เป็นขอ้ ๆ หรอื ทำเป็นเอกสารแนบ
๒๒ อยา่ เขียนหลายเรอ่ื งที่ไม่เกยี่ วข้องกันลงในบันทึกเดียวกนั
๒.๓ อยา่ เขยี นย่อเกินไปโดยคดิ วา่ ผรู้ บั เข้าใจอยแู่ ลว้ เชน่ ย่อตำแหนง่ ยอชอื่ หนว่ ยงาน

*****************************

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชพี 55

แบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 5
5.1 การเขยี นรายงานการประชุม

ตอนที่ 1 จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. รายงานการประชมุ หมายถงึ อะไร
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
2. สำนักนายกรฐั มนตรวี า่ ด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ ได้กำหนดระเบียบวาระไว้กี่วาระ วาระใดบา้ ง
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
3. การบนั ทกึ การประชุมสามารถทำไดก้ ่ีวธิ ี วธิ ีใดบา้ ง
.................................................................................................... ..........................................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................... ..........................................
4. “ทป่ี ระชุม” กับ “องคป์ ระชมุ ” แตกต่างกนั อยา่ งไร
................................................................................................................................................................... ...........
............................................................................................................................. .................................................
5. ผู้บันทกึ การประชมุ ที่ดีควรมลี ักษณะอยา่ งไร
................................................................................................................................................................. .............
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

ตอนที่ 2 จงทำเครอ่ื งหมาย / หน้าขอ้ ท่ีถูก และทำเคร่ืองหมาย X หนา้ ขอ้ ทีผ่ ดิ
........1. รายงานการประชมุ หมายถงึ การแสดงความคิดเหน็ ในทป่ี ระชุม
........2. รายงานการประชมุ เปน็ เอกสารสำคัญในการทำงานรว่ มกนั ระหวา่ งหัวหนา้ กับลูกนอ้ ง
........3. รายงานการประชุมใช้ยดึ ถือเปน็ แนวทางในการปฏิบัติงาน
........4. รายงานการประชุมเป็นเอกสารอา้ งอิงทนี่ า่ เชื่อถือตามกฎหมาย
........5. รายงานการประชมุ ใช้เป็นเครื่องมือจับผิดผ้ปู ฏบิ ตั ิงาน
........6. ผู้บนั ทกึ รายงานการประชมุ เปน็ หนา้ ที่ของทุกคนท่เี ขา้ ร่วมประชมุ
........7. ผบู้ นั ทึกรายงานการประชุมควรมคี วามรู้เกย่ี วกบั เรื่องท่ปี ระชุม
........8. ผู้บันทกึ รายงานการประชุมควรมีทักษะการสรปุ ความทีด่ ี
........9. ญตั ตขิ องทป่ี ระชุมคือความเห็นของทุกคนทีเ่ หน็ พ้องต้องกัน
........10. การบนั ทึกรายงานการประชมุ ทำได้ 2 แบบ คือ บนั ทึกเป็นเสียงหรือเปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชิงวิชาชพี 56

ตอนที่ 3 จากโจทย์ที่กำหนดให้ จงเขียนรายงานการประชุมให้ถูกต้องตามรูปแบบการเขียนรายงาน
การประชมุ

สมมุติใหน้ ักศึกษาเปน็ กรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการการจัดงาน “เทิดพระคุณอาจารย์”
วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาอตุ รดิตถ์ ไดม้ กี ารประชมุ คณะกรรมการไปเมอื่ วันท่ี ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๓๐ น.
มีคณะกรรมการดังนี้ นายจีรพัฒน์ เจี้ยมกลิ่น เป็นประธาน นายพิเชษฐ สุวรรณชื่น นางบุศรา คงศักด์ิ
นางรัตนา เหรียญทอง นางมาลัยวัลย์ วงศ์ใหญ่ นางผกามาศ พุกอินทร์ นางสุภาวกุล ไชโย เป็นกรรมการที่มา
ประชุม นางเบญจพร อ่ำแจ้ง เป็นกรรมการที่ไม่มาประชุมเพราะติดราชการ เมื่อกรรมการมาพร้อมกันที่ห้ อง
ลีลาวดี อาคารอำนวยการ เรยี บร้อยแล้ว ประธานเร่มิ ประชุมด้วยการแจ้งวา่ ขณะนี้ทราบจำนวนของอาจารย์ที่
จะเกษียณอายุในปี ๒๕๕๗ แล้วว่ามีทั้งหมด ๔ ท่าน เป็นอาจารย์คณะบริหารธุรกิจ ๒ ท่าน และคหกรรม
ศาสตร์ ๒ ทา่ น แจ้งแลว้ ใหด้ รู ายงานการประชุมครั้งที่แลว้ (๒/๕๕๗ นางสภุ าวกุล ไชโย ขอให้แก้ไขเรื่องสะกด
คำผิดในหน้า ๓ จากคำว่า การศึกษาบัณฑิต เป็น การศึกษามหาบัณฑิต ไม่มีกรรมการท่านใดคัดค้าน เรื่อง
ต่อไปพิจารณา คือ คัดเลือกแบบโล่ ที่ประชุมได้พิจารณาโล่ที่ประธานนำมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ๒ แบบคือ รูป
ส่ีเหลี่ยมจัตุรัส และสี่เหลยี่ มผืนผ้า เสยี งส่วนใหญเ่ ลอื กส่เี หลีย่ มผนื ผ้า ส่วนวสั ดขุ อใหเ้ ปล่ยี นจากไม้มะค่าเป็นไม้
สักทอง ต่อไปพิจารณาเรื่องการจัดเลี้ยง นายพิเชษฐ์เสนอให้สั่งอาหารร้านครัวตากะยาย เพราะอาหารอร่อย
และสามารถสั่งได้ในราคาพิเศษ แต่นางบุศราแย้งว่าวิทยาลัยมีสาขาคหกรรมศาสตร์ สมควรให้นัก ศึกษาได้
ฝึกฝนวิชาชีพของตนเอง ประกอบมีอาจารย์ในสาขาคหกรรมศาสตร์ ๒ ท่านที่เกษียณอายุ นางรัตนา
เหรียญทองเสนอว่า เกรงจะเป็นการรบกวนอาจารย์ในสาขาคหกรรมศาสตร์ และนักศึกษาอยู่ในระหว่างการ
สอบปลายภาค เกรงว่าจะรบกวนการอ่านหนังสือของนักศึกษา ในที่สุดเสียงส่วนใหญ่เลือกร้านครัวตากะยาย
และมอบหมายให้นายพิเชษฐ์เป็นผูต้ ิดต่อร้าน เร่ืองการสั่งอาหาร วาระสดุ ทา้ ยสดุ พิจารณาเรื่องการตกแต่งเวที
กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่า ควรติดต่อนักศึกษาสาขาศิลปกรรมให้ช่วยเรื่องนี้ โดยมอบให้เลขาเป็นผู้ติดต่อกับ
สาขาศิลปกรรม ก่อนปิดการประชุม ประธานได้ขอนัดประชุมอีกในวันพฤหัสบดีหน้า เวลาและสถานที่เดิม
ประธานปิดการประชุมเวลา ๑๓.๐๐ น.

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชพี 57

แบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 5
5.2 การเขียนรายงานการปฏิบัติงาน

ตอนที่ 1 จงตอบคำถามต่อไปน้ี
1. การเขียนรายงานการปฏิบัติงานหมายถงึ อะไร
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ประโยชนข์ องการเขยี นรายงานการปฏบิ ัตงิ าน จงอธบิ ายมา 2 ขอ้
....................................................................................................... .......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
3. รายงานการปฏบิ ัตงิ านมกี ี่ประเภท อะไรบ้าง
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
4. วธิ ีการเขยี นรายงานการปฏิบัติงานอยา่ งยาว มีองคป์ ระกอบใดบ้าง
.................................................................................................... ..........................................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................... ...........................................
5. การใชภ้ าษาในการเขียนรายงานการปฏบิ ตั ิงานควรเปน็ อยา่ งไร
........................................................................................................................................................... ...................
............................................................................................................... ...............................................................
ตอนท่ี 2 ใหน้ กั เรยี นเขียนเข้ารว่ มกจิ กรรมของวทิ ยาลัย คนละ 1 กจิ กรรม

ชอ่ื -สกล.ุ ...........................................แผนกวชิ า...............................

กิจกรรมวันสำคัญ.............................................................................................................. ....................................
สถานที่จัดกจิ กรรม................................................................................................................................................
กิจกรรมทป่ี ฏบิ ัติ (ระบุมาเป็นขอ้ ๆ พร้อมอธบิ ายรายละเอียดของกจิ กรรม)........................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ประโยชน์ทไี่ ดร้ บั

1................................................................................................................. ............................................
2............................................................................................................................ .................................
ข้อเสนอแนะ
1.............................................................................................................................................................
2............................................................................................................................ .................................
ชอื่ ผูจ้ ัดงาน/ผูม้ อบหมายงาน................................................................................................................................

...........................................................ผูร้ ับรอง
(นางสาวศุภมาศ ชะเอม)

หัวหนา้ งานกิจกรรมนักเรียน นกั ศึกษา

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวชิ าชพี 58

แบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 5
5.3 การเขียนบันทกึ ภายในหนว่ ยงาน

คำชีแ้ จง ให้นักศึกษาเลอื กเขียนบันทึกข้อความเพียงข้อใดข้อหนง่ึ

1. สมมตุ นิ กั ศึกษาเป็นประธานชมรมพัฒนาชุมชน วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาลพบุรีจัดทำโครงการพัฒนาวัดขุนนวน
โดยเข้าไปทำความสะอาดและทาสีรั้ววัดใหม่ วันท่ี ๑๖-๑๗ มีนาคม ๒๕64 นักศึกษาเขียนบันทึกติดต่อขอใช้
รถหกล้อของวิทยาลัย เพื่อใช้รับ-ส่ง นักศึกษาชมรมพัฒนาชุมชนจำนวน ๒๘ คน ตามวันดังกล่าว เวลา
๐๘.๐๐ - ๑๗.๐๐ น.

๒. สมมตินักศึกษาเป็นพนักงานคนหนึง่ ในบรษิ ัท (ตั้งชื่อเอง) เขียนบันทึกถึงผู้จัดการฝ่ายซื้อขอความเห็นเรือ่ ง
การขายสินค้าที่ค้างอยู่ในคลังสินค้า รายละเอียดอื่น ๆ นักศึกษาสามารถสมมุติได้ตามความเหมาะสม เช่น
สินค้าที่เหลือเป็นสินค้าอะไร จำนวนเท่าไร เป็นต้น และความเห็นของนักศึกษาจะทำอย่างไรกับสินค้าเหล่าน้ี
กระดาษบนั ทึกภายในบรษิ ัทนักศกึ ษาสามารถออกแบบไดต้ ามความเหมาะสม

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วิชาชพี 59

แบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยท่ี 1
การเขียนในงานอาชีพ

คำชีแ้ จง ใหท้ ำเคร่อื งหมายกากบาท (X) ลงหนา้ ตัวเลือกท่ถี กู ตอ้ งที่สดุ

1. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชนข์ องรายงานการประชมุ 6. ขอ้ ใดต่างจากพวก

ก. เปน็ หลักฐานอา้ งอิง ก. วีรพล : มานพเขียนบันทึกการทำรายงาน

ข. เป็นคู่มอื ปฏิบัตงิ าน สง่ หวั หน้า

ค. เป็นขอ้ มูลประชาสัมพนั ธ์ ข. ณัฐพงษ์ : บอกหัวหน้าแผนกว่าไม่มีปัญหา

ง. เปน็ หลักฐานการปฏิบัติงาน ในการทำงาน

2. ข้อใดเป็นวิธีการจดบันทึกรายงานการประชมุ ท่ี ค. พลกฤต : กรอกแบบฟอร์มรายงานผล

นยิ มมากท่ีสดุ การขายสนิ ค้าประจำวัน

ก. จดแบบใดก็ได้ ง. สราวุธ : ทำรายงานเรื่อง “อินเตอร์เน็ตกับ

ข. จดละเอยี ดทกุ คำพูด การเรียน” สง่ อาจารย์

ค. จดเฉพาะวาระและมตขิ องที่ประชมุ 7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่รายงานผลการปฏบิ ตั ิงาน

ง. จดประเดน็ สำคัญพร้อมมติของทีป่ ระชุม ก. รายงานประจำปี ข. รายงานขนาดสนั้

3. บุคคลใดมีคุณสมบัติเหมาะแก่การเป็นผู้จด ค. บนั ทกึ ประจำวนั ง. รายงานขนาดยาว

รายงานการประชุม 8. ข้อใดไม่ใช่รูปแบบการเขียนรายงานการ

ก. ไก่เรียนหนงั สือเก่ง ปฏบิ ตั ิงาน

ข. ปลาเปน็ คนพูดเก่ง ก. ใช้แบบตามหน่วยงาน

ค. ผง้ึ มรี า่ งกายแข็งแรง ข. ใช้รปู แบบรายงานขนาดสนั้

ง. หมมี ีทักษะในการสรุปความ ค. ใชร้ ปู แบบการเขยี นจดหมาย

4. ข้อใดหมายถงึ องคป์ ระชมุ ง. ใช้รปู แบบท่เี ปน็ ทน่ี ิยมมากทีส่ ุด

ก. ผ้ทู เ่ี ขา้ ประชุมทกุ คน 9. ข้อใดท่ีไมต่ ้องมีในบนั ทึกขอ้ ความ

ข. ผทู้ ่มี ีส่วนร่วมในการจดั การประชมุ ก. เรียน........

ค. ผทู้ ี่มีรายชอ่ื เปน็ คณะกรรมการทุกคน ข. ชอื่ -สกุลผบู้ ันทึก

ง. ผู้ที่เข้าประชุมมีจำนวน 2 ใน 3 ของสมาชิก ค. ขอแสดงความนับถือ

ท้งั หมด ง. จึงเรียนมาเพอื่ โปรดทราบ

5. ขอ้ ใดเป็นการเขยี นรายงานอย่างยาว 10. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของการเขียนบันทึก

ก. เขียนบทความช้ีแจงเหตกุ ารณ์ผดิ ปกติ ข้อความ

ข. เขียนแบบฟอร์มรายงานผลการเข้ารับ ก. เพอื่ บังคบั ใหท้ ำตามท่ไี ด้กำหนดไว้

การอบรม ข. เพอ่ื เป็นเอกสารและหลักฐานในราชการ

ค. เขียนรายงานผลการจัดกิจกรรมการ ค. เพื่อให้เป็นกฎของสำนักงานและให้ปฏิบัติ

ปฏบิ ตั ิงาน ตาม

ง. เขียนบันทึกข้อความรายงานผลการเข้าร่วม ง. เพือ่ ให้ผ้เู ก่ียวข้องทราบหรือเมื่อทราบแล้วให้

ประชมุ ปฏบิ ตั ติ าม

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชพี 60

หน่วยที่ 6

การเขียนโครงการ

โครงการ (Project) เป็นแผนงานการจัดกิจกรรมขององค์กรหรือหน่วยงานที่มาดำเนินงานอย่างใด
อย่างหนึ่งท่ีองค์กรกำหนดขึ้น การดำเนินตามโครงการในแต่ละโครงการมีสว่ นสำคัญในการพัฒนาศักยภาพใน
การดำเนินงาน การจดั ทำโครงการจะต้องมกี ารวางแผนโดยการเรยี บเรยี งรายละเอียดอยา่ งเปน็ ระบบรอบคอบ
เพอื่ บรรลุตามวัตถุประสงคแ์ ละเกิดประโยชน์

6.1 ความรเู้ บ้อื งต้นเกย่ี วกบั การเขียนโครงการ

โครงการ หมายถึง การกำหนดแผนงานกจิ กรรมตา่ ง ๆ ท่ีบุคคล หนว่ ยงาน หรือองคก์ รตา่ ง ๆ กำหนด
ข้นึ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกับแผนงาน งบประมาณและทรัพยากรของหน่วยงาน มผี ลดีต่อการพฒั นาหนว่ ยงานหรือองค์กร
ให้ดีย่ิงขึน้ ในแตล่ ะโครงการจะมจี ดุ มงุ่ หมายเฉพาะเพือ่ ให้แผนงานหลกั ดำเนนิ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

โครงการ มีความความสำคัญอย่างยิ่งจะเป็นแนวทางในการพัฒนางานทุกด้านให้บรรลุเป้าหมายท่ี
กำหนดไวด้ งั น้ี

1. โครงการ คือ แนวทางการแก้ปัญหารว่ มกนั ทม่ี ีความชดั เจนและเขา้ ใจงา่ ย
2. เป็นการทำงานตามนโยบายท่เี ห็นไดช้ ดั และดำเนินไปอยา่ งประสทิ ธภิ าพ
3. ช่วยลดภาวะความขัดแย้งและความซ้ำซ้อน ความรับผิดชอบของหน่วยงานเนื่องในแต่ละงานได้
จัดทำโครงการแยกออกจากกันชดั เจน
4. ช่วยให้บคุ ลากรเกดิ ความสามัคคแี ละรบั ผดิ ชอบรว่ มกัน
5. ชว่ ยให้บุคลากรไดแ้ สดงความร้คู วามสามารถอยา่ งเตม็ ท่ี
6. เป็นแนวทางในการพัฒนาคนพัฒนางาน เป็นปัจจัยสำคัญนำไปสู่แนวทางการพัฒนาและ
ความเจริญของหน่วยงาน

6.2 ประเภทของโครงการ

โครงการแบ่งออกได้หลายประเภทตามความต้องการและความเหมาะสม ได้แก่ แบ่งตามระยะเวลา
เช่น โครงการระยะส้ัน โครงการระยะยาว หรือแบ่งตามความสำคัญ เช่น โครงการหลัก โครงการเสรมิ เป็นต้น
แต่ที่นยิ มกนั โดยท่ัวไป มักจะแบ่งประเภทของโครงการตามลักษณะของผู้เสนอโครงการ ดังต่อไปน้ี

๑. โครงการที่เสนอโดยตัวบุคคล หมายถึง โครงการที่ริเริ่มขึ้นโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ทั้งนี้อาจเป็น
ความคิดริเร่ิมของตวั ผเู้ ขยี นโครงการเอง หรอื ไดร้ ับการมอบหมายจากผอู้ ่นื ให้เปน็ ผู้เขียนโครงการกไ็ ด้

๒. โครงการที่เสนอโดยกลุ่มบุคคล หมายถึง โครงการที่ริเริ่มขึ้นโดยบุคคลมากกว่า ๒ คนขึ้นไป ที่มี
ความเห็นพ้องต้องกันในวัตถุประสงค์ วิธีการ และมีเจตนาที่จะทำงานร่วมกัน ซึ่งส่วนประกอบของโครงการ
จะต้องได้รับการอภิปรายจนเป็นที่พอใจของกลุ่ม การเขียนโครงการโดยกลุ่มบุคคล มีผลดีเพราะนอกจากจะ
ได้รับประสบการณ์จากการเขียนโครงการแล้ว ยังได้มีการประชุม อภิปราย แสดงความคิดเห็น และการใช้
เหตุผลพร้อมกับการเรียนรู้วิธีการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ ดังนั้น โครงการนำเสนอโดยกลุ่มบุคคลจึงมี
ความสมบูรณ์ และรดั กมุ มากกว่าการเขียนโครงการโดยตัวบคุ คล

๓. โครงการที่เสนอโดยหน่วยงาน หมายถึง โครงการที่อาจจะเริ่มโดยตัวบุคคล หรือกลุ่มบุคคลก็ได้
แต่เป็นโครงการที่ดำเนินการในนามของหน่วยงาน ซึ่งหมายความว่าทุกคนในหน่วยงานนั้นจะต้องเห็นด้วย

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชิงวิชาชีพ 61

และร่วมกันรับผิดชอบ โครงการที่เสนอโดยหน่วยงานจึงจัดเป็นโครงการใหญ่ที่ต้องประสานงาน และร่วมมือ
กนั ทกุ ฝ่าย นบั วา่ เป็นโครงการท่ีมีความสมบูรณม์ ากกว่าโครงการประเภทอืน่

6.3 ลักษณะของโครงการทีด่ ี

โครงการเป็นกิจกรรมที่จัดทำขึ้น เพื่อการปฏิบัติภารกิจให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการทดี่ ยี อ่ มมผี ลตอบแทนหน่วยงาน หรอื องคก์ ารอย่างคุ้มคา่ ลกั ษณะของโครงการทีด่ มี ีดงั ต่อไปนี้

๑. สามารถแกป้ ญั หาองค์กรหรือหน่วยงานได้
๒. มปี ระสิทธิภาพและก่อใหเ้ กิดผลตอบแทนคุ้มคา่
๓. รายละเอียดของโครงการตอ้ งสอดคล้อง และสัมพันธ์กัน
๔. วัตถุประสงคแ์ ละเปา้ หมายตอ้ งชดั เจน และมีความเปน็ ไดส้ งู
๕. สามารถสนองความต้องการขององค์กรและหนว่ ยงานได้อยา่ งดี
๖. สามารถนำไปปฏบิ ัตไิ ด้สอดคล้องกบั แผนงาน
๗. กำหนดข้ึนจากข้อมูลท่มี ีความเป็นจริง และได้รบั การวเิ คราะห์อยา่ งรอบคอบ
๘. ตอ้ งไดร้ ับการสนบั สนนุ ด้านทรัพยากรหรอื คา่ ใช้จา่ ยอยา่ งเหมาะสม
๙. ตอ้ งมีระยะเวลาการดำเนนิ โครงการชดั เจน

6.4 สว่ นประกอบของโครงการ

ในการเขียนโครงการจำเป็นต้องเข้าใจส่วนประกอบต่าง ๆ ทั้งนี้ เพื่อให้การเขียนโครงการเป็นไป
ตามลำดบั ขนั้ ตอน มีเหตผุ ลน่าเชอ่ื ถือ และการเขียนสว่ นประกอบของโครงการครบถว้ นช่วยให้การลงมือปฏิบัติ
ตามโครงการเป็นไปโดยราบรนื่ รวดเรว็ และสมบรู ณ์ ส่วนประกอบของโครงการ จำแนกได้ ๓ สว่ น ดังต่อไปน้ี

๑. ส่วนนำ หมายถึง ส่วนที่ให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการนั้น ๆ ส่วนนำของโครงการมุ่งตอบ
คำถามต่อไปนี้ คือ โครงการนั้นคือโครงการอะไร เกี่ยวข้องกับใคร ใครเป็นผู้เสนอหรือดำเนินโครงการ
โครงการนั้นมีความเป็นมา หรือความสำคัญอย่างไร ทำไมจึงจัดโครงการนั้นขึ้นมา และมีวัตถุประสงค์อย่างไร
จะเห็นได้ว่า ความในส่วนนำต้องมีรายละเอียดเพียงพอที่จะให้ผู้อ่าน และผู้เกี่ยวข้องได้เข้าใจข้อมูลพื้นฐาน
ก่อนจะอ่านรายละเอยี ดในโครงการตอ่ ไป สว่ นนำของโครงการประกอบด้วยหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้

๑.๑ ชื่อโครงการ (Project Title)
๑.๒ โครงการหลกั (Main Project)
๑.๓ แผนงาน (Plan)
๑.๔ ผูร้ ับผดิ ชอบ หรือผดู้ ำเนินโครงการ (Project Responsibility)
๑.๕ ลักษณะโครงการ (Project Characteristic)
๑.๖ หลักการและเหตุผล (ความเป็นมาและความสำคัญของโครงการ) (Reason for Project
Determination)
๑.๗ วตั ถุประสงค์ (Objectives)
การเขียนส่วนนำของโครงการต้องทำให้ผู้อา่ นเกิดความเขา้ ใจ และเห็นความสำคัญของโครงการ
นั้น พร้อมตัดสินใจว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจหรือไม่ หากผู้อ่านเป็นกลุ่มบุคคลที่มีหน้าที่ต้องพิจารณาอนุมัติ
หรือให้การสนับสนุนก็อาจจะเกิดแนวคิดว่าจะให้ความช่วยเหลือโครงการนั้นแค่ไหน เพียงใด ก่อนที่จะอ่าน

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ 62

รายละเอียดอื่น ๆ ต่อไป ดังนั้น ผู้เขียนโครงการต้องพิถีพิถันในการใช้ภาษาให้ถูกต้องชัดเจน รัดกุม และ
เหมาะสม โดยชีแ้ จงเหตุผลสำคัญ ๆ ท่เี กยี่ วข้องให้ชัดเจน

๒. ส่วนเนอ้ื ความ หมายถงึ สว่ นทีเ่ ป็นสาระสำคัญของโครงการ ได้แก่ วธิ ดี ำเนินการซง่ึ กล่าวถึงลำดับ
ขั้นตอนต่าง ๆ ในการปฏิบัติงาน รวมทั้งพื้นที่การปฏิบัติงาน ซ่ึงครอบคลุมปริมาณ และคุณภาพ ตลอดจน
การดำเนนิ งานตาม วัน เวลา และสถานที่ สว่ นเนือ้ ความของโครงการประกอบดว้ ย หัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี

๒.๑ เป้าหมายของโครงการ (Goal)
๒.๒ ขั้นตอนการดำเนินงาน (Work Procedure)
๒.๓ วนั เวลา และสถานทีใ่ นการดำเนนิ งาน (Duration and Place)
2.4 ระยะเวลาการดำเนนิ การ
วิธีดำเนินการจัดเปน็ หัวใจสำคัญของโครงการ ผู้เขียนต้องพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ทำให้ผู้อ่านเกิด
ความสับสน วิธีดำเนินการควรแยกอธิบายเป็นข้อ ๆ ให้ชัดเจนตามลำดับขั้นตอนการทำงาน อาจทำแผนผัง
สรปุ วิธดี ำเนินการตาม วัน เวลา เพ่อื ความชัดเจนด้วยก็ได้
๓. สว่ นขยายความ หมายถึง ส่วนประกอบท่ีให้รายละเอียดอ่ืน ๆ เกี่ยวกบั โครงการไดแ้ ก่ ประโยชน์
หรือผลที่คาดว่าจะได้รับงบประมาณดำเนินการ หรือแหล่งเงินทุนสนับสนุนตลอดจนการติดตามและ
ประเมินผล สว่ นขยายเนอ้ื ความของโครงการ ประกอบดว้ ยหวั ข้อตอ่ ไปนี้
๓.๑ งบประมาณทใี่ ช้ (Budgets)
๓.๒ การประเมนิ โครงการ (Project Evaluation)
๓.๓ ผลที่คาดว่าจะได้รบั (Benefits)
3.4 สถานที่ (Place)
ในส่วนขยายความ อาจจะเพิ่มเติมผู้เสนอโครงการไว้ในตอนท้ายของโครงการ ในกรณีที่เป็น
โครงการที่ตอ้ งเสนอผ่านตามลำดับขน้ั ตอน และผอู้ นุมตั โิ ครงการลงนามในตอนทา้ ยสดุ ของโครงการ

6.5 ส่วนประกอบของการเขยี นโครงการ

โครงการทุกโครงการที่ทำขึ้น จะต้องมีบุคคลหรือบุคคลเป็นผู้ดำเนินโครงการ และเขียนขึ้นเพื่อขอ
อนุมตั ิ โดยการเขียนโครงการมสี ่วนประกอบดังน้ี

1. ชื่อโครงการ
เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้อ่าน หรือผู้อนุมัติโครงการเข้าใจว่า ผู้จัดโครงการควรเขียนชื่อโครงการให้

ชดั เจน เม่อื ผอู้ า่ นอา่ นแล้วสามารถทราบไดท้ นั ทีว่าเป็นโครงการเกีย่ วกบั อะไร ดังนนั้ ผู้เขียนโครงการจำเปน็ ต้อง
ตั้งชื่อเรื่องให้ชัดเจน โครงการดังกล่าวเป็นโครงการอะไร มีลักษณะการจัดกิจกรรมแบบใด หรือวัตถุประสงค์
อย่างไร เช่น โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ าร เรอ่ื ง พดู อยา่ งไรให้โดนใจผู้ฟัง โครงการเลขานกุ ารมอื อาชีพ เปน็ ตน้

2. หน่วยงานท่ีรบั ผดิ ชอบ
ผู้จัดโครงการควรระบุหน่วยงาน หรือต้นสังกัดที่รับผิดชอบการจัดโครงการนั้นให้ชัดเจน ทั้งนี้เพ่ือ

ความสะดวกในการขออนมุ ตั ิโครงการของงบประมาณ และการตดิ ตามผลการประเมนิ โครงการ
3. ชื่อผ้เู สนอโครงการ/ผูร้ บั ผิดชอบโครงการ
ชื่อผู้เสนอโครงการ/ผู้รับผิดชอบโครงการ เป็นส่วนที่บอกว่าใครเป็นผู้เสนอชื่อผู้เสนอโครงการ

ใครรบั ผดิ ชอบและเปน็ ผู้ดำเนนิ โครงการในการปฏิบัตงิ านตามโครงการ

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชพี 63

4. หลักการและเหตุผล
หลกั การและเหตุผลหรือความสำคัญของโครงการ บอกสาเหตหุ รือปัญหาท่ีทำให้เกิดโครงการนี้ข้ึน

และที่สำคัญคือต้องบอกได้ว่า ถ้าได้ทำโครงการแล้วจะแก้ไขปัญหานี้ตรงไหน การเขียนอธิบายปัญหาที่มา
โครงการ ควรนำข้อมูลสถานการณ์ปัญหาจากหน่วยงานหรือพื้นที่ที่จะทำโครงการมาแจกแจงให้ผู้พิจารณา
โครงการเกดิ ความเขา้ ใจชดั เจนขึ้น

5. วัตถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายของโครงการ
วัตถุประสงค์เป็นการบอกจุดหมายในการทำโครงการ และผลที่จะเกิดขึ้นจากการทำโครงการ

คำวา่ วตั ถปุ ระสงค์ และเปา้ หมายมคี วามแตกตา่ งกัน ดังน้ี
วัตถุประสงค์ หมายถึง สภาพที่จะทำให้เกิดขึ้นให้ได้ในช่วงการทำโครงการ และเป็นขั้นตอนหนึ่ง

ของการไปให้ถึงเป้าหมายท่ีวางไว้
เป้าหมายของโครงการ หมายถึง สภาพที่อยากให้เกิดขึ้นในอนาคตที่ไกลกว่าเมื่อโครงการจบลง

รับปากไม่ได้ว่าจะเกิดไดภ้ ายในระยะเวลาโครงการแต่เป็นทิศทางที่ต้องไปใหถ้ ึง การเขียนเปา้ หมายต้องชัดเจน
สามารถระบุผลทีจ่ ะเกดิ ขึ้นหลังโครงการจำนวนเทา่ ไร กลุม่ เปา้ หมายมใี ครบ้าง

6. สถานทีด่ ำเนินโครงการ
สถานที่ดำเนินโครงการเป็นส่วนที่บอกให้ทราบว่าโครงการจะดำเนินการที่ใด บริเวณใด อาคารใด

พ้ืนทีใ่ ด ผเู้ ขยี นจะตอ้ งระบุให้ชัดเจน
7. ระยะเวลาในการดำเนนิ โครงการ
ระยะเวลาในการดำเนินโครงการ จะต้องระบุกำหนดระยะเวลาเริม่ ดำเนนิ โครงการและระยะเวลา

สน้ิ สดุ การดำเนินโครงการทช่ี ัดเจน โดยปกติแลว้ โครงการจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในปีงบประมาณ คือ ต้ังแต่
เดือนกันยายนถึงเดอื นตลุ าคมของทุกปี

8. วธิ ดี ำเนนิ โครงการ
วิธีดำเนินโครงการ คือ ภารกิจสำคัญที่ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการจะตอ้ งปฏิบัติตามลำดับก่อนและหลัง

ใหบ้ รรลตุ ามวัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ ว่าจะทำอะไร ท่ีไหน อย่างไร ใครรับผิดชอบ ให้ชดั เจน เพอื่ ให้โครงการ
บรรลุตามวัตถปุ ระสงค์

9. งบประมาณ
เป็นส่วนที่แสดงยอดเงินงบประมาณ พร้อมแจกแจงค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ หากมี

แหล่งทุนหลายแห่งให้ข้อมูลที่โปร่งใสด้วย โดยระบุรายละเอียดอย่างชัดเจนว่ารับทุนจากแหล่ใดบ้าง จำนวน
เท่าไร และจากแต่ละแหล่งแบง่ สรรไปใช้กบั งบประมาณสว่ นใด

10. ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังจากโครงการจบลงโดยแยกให้เห็น

ชัดเจนระหว่างผลที่เกิดโดยตรงทันทีที่สิ้นสุดโครงการ และผลที่จะเกิดตามมาในระยะยาว ถ้าหากผู้เสนอ
โครงการแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่า ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากโครงการนี้ไม่ได้เป็นแค่ไฟไหม้ฟาง แต่จะเป็น
เช้อื ที่นำสู่การเปลยี่ นแปลงใหเ้ กดิ การสร้างสุขภาพตอ่ ไปอยา่ งต่อเน่ือง

11. การตดิ ตามประเมินผลโครงการ
หลังเริ่มดำเนินโครงการควรมีการติดตามประเมินผลว่าแต่ละกิจกรรมของโครงการก่อให้เกิดผล

ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ หากพบปัญหาก็จะสามารถแก้ไขได้ทันเวลา ดังนั้น จึงต้องนำเสนอไว้ว่าจะติดตาม
ประเมนิ ดว้ ยวธิ ใี ด ท้งั ในขัน้ ตอนการดำเนินกจิ กรรม และหลงั จบโครงการแล้ว พร้อมทัง้ ระบุตัวชี้วดั ความสำเร็จ
ทัง้ ในแงป่ ริมาณและคณุ ภาพวา่ คืออะไร

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชีพ 64

ตวั อยา่ ง แบบฟอร์มการเขยี นแบบเสนอโครงการของวิทยาลยั อาชีวศึกษาลพบุรี

ชอ่ื โครงการ: ..................................................................................................................................................

ผวู้ ิจยั : 1. …………………………………………………… ช้นั ปวส……….. สาขางาน................................
2. …………………………………………………… ชั้น ปวส……….. สาขางาน................................

ครูทป่ี รกึ ษาโครงการ: ...................................................................................

ครปู ระจำวชิ า: ...................................................................................

ความเปน็ มาของโครงการ
................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

................................................................................................................................. .............................................

..............................................................................................................................................................................

วตั ถุประสงค์ของโครงการ
1. เพอื่ ........................................................................................................................ ............................

2. เพอ่ื ....................................................................................................................................................

ขอบเขตของโครงการ
ดา้ นประชากร
ประชากร คอื .........................................................................................................................................
ด้านกล่มุ ตัวอยา่ ง
กล่มุ ตวั อยา่ ง คอื .....................................................................................................................................

ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รบั
1. ....................................................................... .............................................................................
2. .......................................................................................................................... ..........................

สมมติฐานของการศกึ ษา
................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วิชาชพี 65

ขนั้ ตอนดำเนนิ การ
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

.......................................................................................................................................................................... ....

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

แผนการดำเนนิ โครงการ
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

สปั ดาห์ท่ี ระยะเวลาดำเนนิ โครงการ

กิจกรรม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18

1. ศึกษาขอ้ มูลการจดั ทำ

โครงการเบอื้ งตน้

2. พบครูทป่ี รกึ ษาและครู

ประจำวชิ า

3. เสนอหัวขอ้ โครงการ

4. ศึกษา/รวบรวมขอ้ มูลที่
เกย่ี วขอ้ ง
5. เขยี นเสนอโครงร่างบทที่ 1
6. แก้ไขรายละเอียดโครงร่าง
บทท่ี 1
7. รวบรวมขอ้ มูลบทท่ี 2
8. คน้ คว้าขอ้ มูลเพิ่มเตมิ
9. จัดทำแบบสอบถาม
10. วเิ คราะหแ์ บบสอบถาม
11. จัดทำผลการวิเคราะห์
ข้อมูล บทท่ี 4
12. สรปุ ผลโครงการ บทที่ 5
13. นำเสนอโครงการ
14. ปรับปรุงแก้ไขเอกสาร
โครงการ
15. ส่งรูปเล่มเอกสารโครงการ
แบบสมบรู ณ์

เครื่องมอื และอุปกรณ์
1. เคร่ืองมือและอปุ กรณ์

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชิงวิชาชีพ 66

2. งบประมาณท่ีใช้ในการจัดทำโครงการ จำนวน.................บาท
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

นยิ ามศพั ท์
..............................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................ ..............

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

เอกสารอา้ งอิง
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ผ้เู สนอโครงการ

................................................................. .................................................................
(.................................................................) (........................................ .......................)

ความเหน็ ของครทู ีป่ รกึ ษาโครงการ
............................................................................................................................. .................................................

................................................................................................................................................................

ลงช่อื ........................................................
(.......................................................)

ความเห็นของครปู ระจำวิชา
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ..............................................................................

ลงชือ่ ........................................................
(......................................................)

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชพี 67

ความเหน็ ของหัวหนา้ แผนกวชิ า......................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่ือ........................................................
(......................................................)

ความเหน็ ของรองผู้อำนวยการฝ่ายวชิ าการ
 เห็นควรอนุมตั ิ
 ไมเ่ หน็ ควรอนมุ ตั ิ เพราะ...........................................................................................................

ลงชอื่ ........................................................
(.....................................................)
รองผอู้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ

ความเหน็ ของผู้อำนวยการวิทยาลยั อาชีวศึกษาลพบุรี
 เห็นควรอนมุ ัติ
 ไม่เห็นควรอนมุ ัติ เพราะ............................................................................................................

ลงช่อื ........................................................
(......................................................)

ผู้อำนวยการวทิ ยาลัยอาชีวศึกษาลพบรุ ี

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชิงวิชาชพี 68

ตวั อยา่ ง การเขียนแบบเสนอโครงการ

ชอื่ โครงการ: การสรา้ งสื่อการเรียนรู้ด้วยโปรแกรมนำเสนอข้อมลู Microsoft Office PowerPoint
เรือ่ ง การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CS5

ผู้วิจยั : 1. นายววิ ัฒน์ เกดิ ผล ชั้น ปวส.2/4 สาขางานคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ
2. นายจมุ พล เกิดศักดิ์ ชน้ั ปวส.2/4 สาขางานคอมพิวเตอร์ธรุ กจิ

ครทู ่ปี รึกษาโครงการ: นางสาวกลั ยาณี คำเวียง

ครูประจำวชิ า: นายสมชาย เอี่ยมละมัย

ความเป็นมาของโครงการ
ปัจจุบันทั่วโลกให้ความสำคัญกับการลงทุนทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information

and Communication Technology : ICT) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ
สงั คม และการศกึ ษา โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่เปลยี่ นรูปแบบของการจัดการเรียนการสอนจากการออกแบบ
การเรียน การสอนให้ครูเป็นผู้ถ่ายทอดใหน้ ักเรยี น โดยการให้คำแนะนำ ฝึกฝนให้ผู้เรียนสามารถศึกษาค้นควา้
หาความรู้ได้ด้วยตนเองจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายและจากแหล่งความรู้ใหม่ ๆ การที่ผู้สอนใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศมาช่วยในการจัดการเรียนการสอนโดยนำคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมาใช้ในกระบวนการเรียนรู้ ทำให้
ผเู้ รยี นมแี หลง่ ข้อมูลเพ่ิมมากขนึ้ รวมถงึ สนับสนนุ การเรยี นการสอนในการใหท้ างเลือกแก่ครเู พ่ือนำเสนอข้อมูล
และให้ทางเลือกแก่นักเรียนในการเรียน การจัดประสบการณ์เรียนแก่ผู้เรียนอ่อน หรือเพื่อปรับแต่งสื่อการ
เรียนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติเพื่อให้เกิดความชำนาญเทคโนโลยีที่
ก้าวหน้าสามารถเพิ่มความซับซ้อนของการเรียนการสอนใช้งานง่ายและมีคุณภาพสูงสุดโดยใช้ทรัพยากรน้อย
ที่สุด ในสภาพการณ์และเนื้อหาที่มีความยาวเหมาะสมกับวุฒิภาวะทางการรับรู้ของผู้เรียน ให้ผู้เรียนกับ
คอมพิวเตอร์มีปฏิสัมพันธ์กัน มีส่วนร่วมในกิจกรรมอย่างกระตือรือร้น และผู้เรียนได้ทราบผลแห่งการทำ
กิจกรรมทันทีทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ถึงวิธีการเรียน ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นผู้เรียนอิสระ และส่งผลให้เป็นผู้เรียนรู้
ตลอดชีวิต

สอื่ การสอนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างประสบการณ์ทางการเรียนรใู้ ห้แก่ผเู้ รียน ส่ือการสอน
มีให้เลือกมากชนิด สิ่งสำคัญคือผู้สอนจะต้องเลือกและใช้สื่อการสอนให้เหมาะกับบทเรียน สื่อการสอนนั้น
จะต้องใช้ได้อย่างสะดวกและเมื่อนำมาใช้แล้วต้องช่วยให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างย่งิ
ส่ือประสมท่ีมคี วามหลากหลายในรูปแบบการนำเสนอจะช่วยดึงดูดความสนใจของผ้เู รียน

จากเหตุที่กล่าวมาข้างต้น การสร้างสื่อการเรียนรู้เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้มี
รูปแบบน่าสนใจ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความสนใจใฝ่รู้มากขึ้น ผู้จัดทำจึงมีแนวคิดการสร้างสื่อการเรียนรู้ด้วย
โปรแกรมนำเสนอข้อมูล Microsoft Office PowerPoint ขึ้น เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้วยโปรแกรมนำเสนอ
ขอ้ มูล และเปน็ การเผยแพรส่ ื่อการสอนให้กะบนักเรยี น นักศึกษา วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาลพบุรี

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชีพ 69

วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ
1. เพื่อสร้างสื่อการเรียนรู้ด้วยโปรแกรมนำเสนอข้อมูล Microsoft Office PowerPoint เรื่อง การใช้

โปรแกรม Adobe Photoshop CS5

2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้น ปวช. 1 ที่มีผลต่อสื่อการเรียนรู้ด้วยโปรแกรมนำเสนอ

ขอ้ มลู Microsoft Office PowerPoint เรอื่ ง การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CS5

ขอบเขตของโคงการ

ดา้ นประชากร
ประชากร คอื นกั เรียนระดบั ชัน้ ปวช.1 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2562 วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาลพบรุ ี

ดา้ นกลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนระดับชั้น ปวช.1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน ซึ่ง

ผู้วิจยั ทำการสุม่ กลุ่มตวั อย่างแบบเจาะจง โดยแบ่งกล่มุ ตัวอย่างเป็น

นกั เรียน นกั ศึกษาแผนกวชิ าคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ 15 คน

นักเรียน นกั ศกึ ษาแผนกวชิ าอาหารและโภชนาการ 15 คน

รวมกล่มุ ตวั อยา่ งทง้ั สน้ิ 30 คน

ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ
1. ได้สื่อการเรียนรู้ด้วยด้วยโปรแกรมนำเสนอข้อมูล Microsoft Office PowerPoint เรื่อง การใช้

โปรแกรม Adobe Photoshop CS5

2. ทราบผลความพึงพอใจของนกั เรยี นช้นั ปวช. 1 ทม่ี ผี ลต่อสอื่ การเรียนรดู้ ว้ ยโปรแกรมนำเสนอข้อมูล

Microsoft Office PowerPoint เรอื่ ง.การใชโ้ ปรแกรม Adobe Photoshop CS5

3. เปน็ การเผยแพร่สอ่ื การเรียนรู้ให้กับนักเรยี น นักศกึ ษา วิทยาลัยอาชวี ศกึ ษาลพบุรี

สมมตฐิ านของการศึกษา
ความพึงพอใจของนกั เรียนช้นั ปวช. 1 ทีม่ ีผลต่อสื่อการเรยี นร้ดู ว้ ยโปรแกรมนำเสนอขอ้ มลู Microsoft

office PowerPoint เรอ่ื ง การใชโ้ ปรแกรม Adobe Photoshop CS5 อยใู่ นระดบั มาก

ข้ันตอนดำเนินการ
ขั้นตอนการดำเนินโครงการในครั้งนี้เป็นการสร้างสื่อการเรียนรู้ด้วยด้วยโปรแกรมนำเสนอข้อมูล

Microsoft Office PowerPoint มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ขึ้น โดย
ดำเนนิ การตามข้ันตอนดังน้ี

1. ศึกษาตำราเอกสารข้อมลู ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง

2. กำหนดนกั เรยี นและกลุ่มตวั อย่าง
3. สร้างเครอื่ งมอื ท่ีใชใ้ นการจัดทำโครงการ คอื แบบสอบถาม

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วิชาชพี 70

ขั้นตอนการจัดทำโครงการ Flow Chart

การศึกษาเก่ยี วกับข้อมลู ที่ใชใ้ นการจดั ทำโครงการ

เสนอหวั ขอ้ โครงการตอ่ ครูประจำวชิ าและครูทีป่ รกึ ษา

กำหนดวตั ถุประสงค์ กำหนดขอบเขต ประโยชนท์ ่ไี ด้รบั จากโครงการ

1

ได้รบั อนมุ ตั โิ ครงการจากครูประจำวชิ าและครทู ปี่ รึกษา

สร้างส่อื การเรยี นรู้ เร่อื ง การใชโ้ ปรแกรม Adobe Photoshop CS5

จัดทำแบบสอบถาม

แจกแบบสอบถามเพื่อทำการประเมนิ

ตรวจแบบสอบถาม

เกบ็ รวบรวมข้อมูลและวเิ คราะห์ขอ้ มูล

สรปุ ผลโครงการ

นำเสนอโครงการ

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชีพ 71

แผนการดำเนนิ โครงการ
โครงการ เรื่อง การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CS5 ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 21 ตุลาคม

พ.ศ. 2562 ถงึ 21 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2563 โดยกำหนดแผนการดำเนนิ โครงการ ดังตาราง

สปั ดาหท์ ่ี ระยะเวลาดำเนินโครงการ

กจิ กรรม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18

1. ศึกษาขอ้ มูลการจัดทำโครงการ

เบ้อื งตน้

2. พบครทู ่ปี รกึ ษาและครูประจำวชิ า

3. เสนอหวั ข้อโครงการ

4. ศึกษา/รวบรวมขอ้ มลู ทเี่ กีย่ วขอ้ ง
5. เขยี นเสนอโครงรา่ งบทที่ 1
6. แก้ไขรายละเอยี ดโครงร่างบทท่ี 1
7. รวบรวมขอ้ มูลบทท่ี 2
8. คน้ คว้าขอ้ มลู เพ่มิ เติม

9. จัดทำแบบสอบถาม
10. วเิ คราะหแ์ บบสอบถาม
11. จัดทำผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล
บทท่ี 4
12. สรปุ ผลโครงการ บทที่ 5
13. นำเสนอโครงการ
14. ปรับปรุงแก้ไขเอกสารโครงการ

15. สง่ รูปเล่มเอกสารโครงการแบบ
สมบูรณ์

เครื่องมอื และอุปกรณ์

1. Hardware

1.1 เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ 1 ชุด

1.2 เครอื่ งพิมพ์ 1 เครอ่ื ง

1.3 แผ่นซีดี (CD-ROM) 5 แผ่น

2. Software

2.1 ระบบปฏบิ ัติการ Windows 7, Windows 8, Windows 10

2.2 โปรแกรมประยุกต์ Microsoft office 2010

3. งบประมาณทใ่ี ชใ้ นการจัดทำโครงการ จำนวน 550 บาท แบง่ ค่าใช้จา่ ยดงั นี้

3.1 กระดาษ จำนวน 1 รมี เปน็ เงิน 120 บาท
บาท
3.2 ค่าจัดทำรูปเลม่ เปน็ เงนิ 300 บาท
บาท
3.3 คา่ สำเนาเอกสาร เปน็ เงนิ 80

3.4 คา่ แผน่ ซดี ี (CD-ROM) จำนวน 5 แผ่น เป็นเงิน 50

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ 72

นยิ ามศัพท์
สื่อการเรียนรู้หรือสื่อการสอน (Instructional Media) หมายถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ใช้เป็นเครื่องมือ หรือ

ช่องทางสำหรับทำให้การสอนของครูไปถึงผู้เรียน และทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ตามจุดประสงค์ หรือจุดมุ่งหมายท่ี
วางไว้เป็นอย่างดี สื่อที่ใช้ในการสอนนี้ อาจจะเป็นวัตถุสิ่งของที่มีตัวตน หรือไม่มีตัวตนก็ได้ เช่น วัตถุสิ่งของ
ตามธรรมชาติ ปรากฎการณต์ ามธรรมชาติ วตั ถสุ งิ่ ของท่คี ดิ ประดษิ ฐห์ รือสรา้ งขน้ึ สำหรับการสอน คำพูดท่าทาง
วัสดุ และเคร่อื งมือสื่อสาร กจิ กรรมหรอื กระบวนการถา่ ยทอดความรู้ต่าง ๆ

โปรแกรมนำเสนอข้อมูล Microsoft office PowerPoint หมายถึง โปรแกรมหนึ่งในตระกูล
Microsoft Office เหมาะสำหรับการจัดสรรงานนาเสนอข้อมูล (Presentation) สำหรับนำไปประยุกต์ใช้ใน
งานได้หลายประเภท เช่น การนาเสนอข้อมูลสินค้าและบริการ การจัดทำ Slide Show การออกแบบแผ่นพบั
จุดเด่นของโปรแกรม PowerPoint ก็คือสามารถสร้างงานที่จะนำเสนอได้อย่างง่ายดาย สามารถใส่ภาพ เสียง
ตลอดจนภาพเคลื่อนไหวในลักษณะวดิ ีโอลงในสไลด์ จึงเป็นสื่อที่นำเสนอข้อมูลได้แบบมัลติมีเดีย ทาให้งานนา
เสนอดว้ ย โปรแกรม Microsoft PowerPoint นา่ ชม นา่ ฟัง และมีความน่าสนใจมากขึ้น

เอกสารอา้ งอิง
รตั นาภรณ์ สงู ประเสริฐกุล. (ม.ป.ป.). ความหมายและความสาํ คญั ของสือ่ การสอน. สืบค้นเมื่อ

4 พฤศจิกายน 2562. เขา้ ถงึ ได้จาก https://sites.google.com/site/ratnaphrn56040590/

bth-thi2-xeksar-thi-keiywkhxng/2-2-khwam-hmay-laea-khwam-saakhay-khxng-sux-

kar-sxn

อาพร มณนี ลิ . (2560). พฒั นาบทเรยี นดว้ ยโปรแกรม Microsoft power point ขัน้ สูง เร่อื งระบบเลข

ฐาน 16 เพือ่ ใช้ในการสอนเสรมิ ของนกั เรียนระดับประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชั้นปที ี่ 2 สาขา
งานคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ . สืบค้นเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2562. เขา้ ถึงไดจ้ าก https://sites.
google.com/a/pl-tech.ac.th/kar-chi-ngan-porkaerm-microsoft-powerpoint-2013/

ผเู้ สนอโครงการ

................................................................. .................................................................
(นายววิ ฒั น์ เกิดผล) (นายจุมพล เกิดศักด์ิ)

ความเหน็ ของครูทป่ี รึกษาโครงการ
............................................................................................................................. .................................................

............................................................................................................................................................... ..............

ลงชื่อ........................................................
(นางสาวกลั ยาณี คำเวยี ง)

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชีพ 73

ความเหน็ ของครูประจำวิชา
............................................................................................................................. .................................................
...................................................................................................................................... ........................................

ลงชอ่ื ........................................................
(นายสมชาย เอี่ยมละมัย)

ความเห็นของหัวหน้าแผนกคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ
.............................................................................................................................................................. ................
................................................................................................................... ..........................................................

ลงช่อื ........................................................
(นางสาวกลั ยาณี คำเวียง)

ความเหน็ ของรองผ้อู ำนวยการฝา่ ยวิชาการ
 เห็นควรอนมุ ตั ิ
 ไมเ่ ห็นควรอนมุ ตั ิ เพราะ...........................................................................................................

ลงชื่อ........................................................
(นางณชิ าพัฒน์ กนั หริ)
ครชู ำนาญการ ทำหนา้ ที่

รองผ้อู ำนวยการฝ่ายวิชาการ

ความเหน็ ของผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาลพบรุ ี
 เหน็ ควรอนมุ ัติ
 ไม่เหน็ ควรอนุมตั ิ เพราะ............................................................................................................

ลงช่อื ........................................................
(นายสำเริง ชูสุข)

ผ้อู ำนวยการวทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาลพบรุ ี

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชีพ 74

6.6 การใชถ้ ้อยคำสำนวนในการเขียนโครงการ

ผู้เขียนโครงการต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการใช้ถ้อยคำ สำนวนภาษาเป็นอย่างดี เนื่องจาก
โครงการจะบรรลุเป้าหมายหรือประสบผลสำเร็จขึ้นอยู่กับการใช้ถ้อยคำภาษาเป็นสำคัญ ถ้าใช้ถ้อยคำภาษา
ถูกต้อง ชัดเจน สละสลวย ย่อมสื่อความหมายได้ง่าย และรวดเร็ว ดังนั้นผู้เขียนโครงการจึงต้องรู้จักเลือกใช้
ถ้อยคำทีม่ ลี ักษณะดังตอ่ ไปนี้

๑. ใช้ภาษาให้ถูกต้อง คือ ใช้ให้ถูกต้องตรงตามความหมายและเขียนให้ถูกต้องตามอักษรวิธี
ทงั้ พยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ ตัวสะกด และการันต์

๒. ให้ภาษาให้กะทัดรัด คือ ใช้ถ้อยคำกระชับ รัดกุม ไม่เยิ่นเย้อ ยืดยาว ประหยัดถ้อยคำ แต่ต้องได้
ใจความสมบรู ณ์

๓. ใหภ้ าษาให้ชัดเจน คือ ใช้ถ้อยคำทม่ี คี วามหมายตรงไปตรงมา หรอื ตรงตามตัวทำให้ผ้รู ับสารเข้าใจ
ทนั ที ไม่ใชถ้ ้อยคำคลุมเครอื หรอื กำกวม

๔. ใช้ภาษาใหเ้ หมาะสม คอื ใชภ้ าษาให้เหมาะสมกบั เน้ือความ หรือเหมาะสมกับกาลเทศะ
๕. ใชภ้ าษาใหส้ ภุ าพ คือ ใช้ภาษาเขยี นเป็นภาษาทมี่ แี บบแผน ไม่ใชภ้ าษาพูดในการเขยี นโครงการ
๖. เขยี นวัตถุประสงค์ นยิ มใชค้ ำและหลีกเล่ียงการใชค้ ำ ดังตารางตอ่ ไปนี้

ตารางแสดงคำทีค่ วรใช้และคำท่คี วรหลีกเลีย่ งในการเขียนโครงการ

คำทคี่ วรใช้ คำทีค่ วรหลกี เลี่ยง

เพอ่ื กลา่ วถึง เพ่อื เขา้ ใจถึง

เพื่ออธบิ ายถงึ เพอ่ื ทราบถงึ

เพื่อพรรณาถึง เพอ่ื ค้นุ เคยกบั

เพอ่ื เลอื กสรร เพ่ือซาบซ้งึ ใน

เพือ่ ระบุ เพื่อรูซ้ ึ้งถงึ

เพื่อจำแนกแยกแยะ เพอ่ื สนใจใน

เพ่อื ลำดับ หรอื เพอ่ื แจกแจง เพ่อื เคยชินกบั

เพอ่ื ประเมนิ เพื่อยอมรับใน

เพ่อื สรา้ งเสริม เพื่อเชอื่ ถือใน

เพื่อกำหนดรูปแบบ เพอ่ื สำนึกใน

โครงการเป็นส่วนประกอบของแผนงานและเป็นแนวทางการพัฒนางานในทุก ๆ ด้าน ให้บรรลุ
เป้าหมายที่กำหนดไว้ โครงการแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ โครงการที่แบ่งตามระยะเวลาดำเนินงาน
ได้แก่ โครงการระยะสั้น ที่มีระยะเวลาปฏิบัติงานสิ้นสุดภายใน 1 ปี และโครงการระยะยาวหรือโคร งการ
ตอ่ เนอ่ื ง ท่ใี ช้ระยะเวลามากกวา่ 1 ปี หรืออาจแบ่งเปน็ โครงการทเี่ สนอโดยบุคคลเพียงคนเดียว กลุ่มบคุ คลและ
หน่วยงาน โครงการที่ดีมีหลักการและเหตุผลสอดคล้องกับแผนพัฒนา แก้ปัญหาของหน่วยงานได้
มีงบประมาณสนับสนุนที่เหมาะสม หลังเสร็จสิ้นโครงการควรรายงานผลการดำเนินงานที่สามารถตรวจสอบ
และประเมินผลได้

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชิงวชิ าชพี 75

แบบฝึกหดั หน่วยที่ 6
การเขยี นโครงการ

ตอนท่ี 1 จงตอบคำถามต่อไปน้ี
1. โครงการมคี วามสำคัญอย่างไร
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
2. การต้ังช่ือโครงการ ควรต้ังอยา่ งไร
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
3. ส่งิ ใดเปน็ ตวั ช้วี ัดศกั ยภาพของการจดั โครงการ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
4. ส่วนนำของโครงการบอกให้เราทราบถงึ ส่งิ ใด
............................................................................................................ ..................................................................
............................................................................................................................. .................................................
5. ส่วนท้ายของโครงการ ประกอบด้วยอะไรบ้าง
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................ ......
............................................................................................................................ ..................................................

ตอนที่ 2 จงนำตวั อักษรด้านขวามอื ไปใสล่ งในช่องวา่ งดา้ นซ้ายมอื ให้ถูกต้องและสมั พนั ธก์ ัน

………… 1. เพ่ือใหพ้ นักงานมสี ถานท่ีพักผ่อน ก. ชอ่ื โครงการ
………… 2. ใช้งบประมาณท้ังสน้ิ 200,000 บาท ข. ชอื่ ผู้เสนอโครงการ/ผ้รู ับผิดชอบโครงการ
………… 3. ปัจจุบันบรษิ ทั ไม่มีห้องนันทนาการ ค. หลกั การและเหตผุ ล
………… 4. ปรับปรุงหอ้ งนันทนาการ 1 ห้อง รองรับ ง. วัตถปุ ระสงค์
จ. เป้าหมาย
พนกั งานได้ 200 คน ฉ. สถานท่ดี ำเนินโครงการ
………… 5. นายวีรยุทธ พีราวชั ร ช. ระยะเวลาดำเนินงาน
………… 6. จัดต้ังคณะกรรมการและจัดวางแผนงาน ซ. วธิ ีดำเนนิ โครงการ
………… 7. ประหยดั คา่ ไฟฟา้ ในสถานศกึ ษา ฌ. งบประมาณ
………… 8. การสงั เกตการณ์ ญ. การประเมินผล
………… 9. หอประชุมวทิ ยาลยั อาชวี ศึกษาสโุ ขทัย ฎ. ผลทึ่คาดวา่ จะได้รบั
………… 10. โครงการประกวดมารยาทไทย
………… 11. ระหว่างวนั ที่ 10-20 กรกฎาคม 2562

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชพี 76

แบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยที่ 6
การเขยี นโครงการ

คำชี้แจง ใหท้ ำเคร่อื งหมายกากบาท (X) ลงหนา้ ตวั เลือกที่ถูกตอ้ งท่สี ุด

๑. ขอ้ ใดคือขอ้ คำนงึ ถงึ การเขียนร่างโครงการ

ก. ความเปน็ มา ข. ความสำคัญของปัญหา

ค. ประโยชน์ทจ่ี ะไดร้ ับ ง. แผนดำเนนิ งาน การประเมินผล

จ. ถกู ทกุ ขอ้

๒. ข้อใดไมใ่ ช่แนวปฏบิ ตั ิในการตัง้ ชอื่ โครงการ

ก. สัน้ กะทดั รัด ชัดเจน

ข. ควรตั้งชอื่ เรือ่ งให้น่าสนใจ ทันเหตุการณ์

ค. สือ่ ความหมายครอบคลมุ ความสำคัญของเร่ือง

ง. ชือ่ เร่อื งภาษาไทย ควรสอดคล้องกบั ช่อื กลุ่มเป้าหมาย

จ. ระบสุ งิ่ ทต่ี ้องการบอกให้ทราบว่า โครงการจะทำอะไร เพือ่ อะไร

๓. ข้อใดไม่ใช่แนวปฏบิ ัติการเขียนความเปน็ มาของโครงการ

ก. เขยี นระบถุ งึ ความสำคัญของปัญหา ความจำเปน็ คุณค่าและประโยชน์ทจ่ี ะไดร้ บั อยา่ งมเี หตผุ ล

ข. เขียนระบคุ วามเป็นมาของโครงการจำเป็นตอ้ งอาศัยข้อมลู มาประกอบในการพิจารณา

ค. ระบไุ ด้ว่ามีการศกึ ษาเก่ียวกบั เรอื่ งน้ีหรอื ไม่ มที ีใ่ ดบ้าง

ง. เขยี นระบถุ งึ การค้นคว้าจากอนิ เทอร์เน็ต

จ. การศกึ ษาน้ีจะชว่ ยเพิม่ คณุ คา่ ได้อยา่ งไร

๔. “ผู้เสนอโครงการต้องแสดงให้เห็นว่า มีความรู้พื้นฐานและเข้าใจในปัญหาที่กำลังจะศึกษาอย่างชัดเจน ทั้ง

ทางทฤษฎีและปฏบิ ัติ สามารถระบถุ งึ ความสำคญั ของปญั หา ความจำเป็น คณุ คา่ และประโยชนท์ ่ีจะไดร้ ับอย่าง

มีเหตุผล ระบุได้ว่ามีการศกึ ษาเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอื ไม่ มีที่ใดบ้าง และการศึกษานี้จะช่วยเพิม่ คุณค่าไดอ้ ย่างไร”

จากข้อความขา้ งตน้ หมายถงึ ข้อใด

ก. ความเป็นมาของโครงการ ข. วิธีการดำเนินงาน

ค. ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ ับ ง. วธิ กี ารวิเคราะหข์ ้อมลู

จ. สรปุ ผลโครงการ

๕. ขอ้ ใดคือขนั้ ตอนกรอบแนวคดิ การวจิ ัย

ก. ศึกษาข้อมลู สร้าง นำไปใช้ ข. กำหนดกรอบสร้างแบบสอบถาม

ค. ศกึ ษาขอ้ มลู นำไปใช้ วเิ คราะห์ข้อมูล ง. สร้าง หาประสิทธภิ าพ นำไปใช้ ประเมนิ ผล

จ. สร้าง หาประสทิ ธภิ าพ ประเมินผล วเิ คราะห์ขอ้ มลู

๖. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชนข์ องการอ้างองิ ในการจัดทำโครงการและเรยี บเรยี งเขยี นรายงาน

ก. การอ้างอิงแหลง่ ท่ีมาของข้อมูลทุกครั้งเพราะการอา้ งอิงเปน็ ส่ิงแสดงถึงการศึกษาค้นคว้าและความ

น่าเชือ่ ถอื ของขอ้ มูลของรายงานและทำให้ผอู้ ่านค้นคว้าเพิ่มเติมได้

ข. ผเู้ สนอได้แนวคิดหรือไดศ้ ึกษาค้นคว้าจากแหล่งความรู้ใดบ้างเพื่อให้ผู้อา่ นได้มองเห็นความสัมพันธ์

ของแนวคดิ นัน้ กบั แนวคดิ ของผู้เสนอ

ค. การนำข้อมูลจากแหล่งความรู้ใดมาบ้างเพื่อให้ผู้อ่านได้มองเห็นความสัมพันธ์ของแนวคิดนั้นกับ

แนวคดิ ของผเู้ สอน

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวชิ าชีพ 77

ง. การอา้ งองิ จะเปน็ การบอกถงึ งบประมาณและเวลาที่ใช้ในการจัดทำโครงการ

จ. ถูกทุกข้อ

๗. การระบุผลที่ต้องการให้เกิดขึ้นหลังการดำเนินโครงการ จะเขียนโดยยึดตามวัตถุประสงค์ ประโยชน์และ

ผลกระทบจากการดำเนินงานซึง่ เป็นการคาดการลว่ งหน้า จากขอ้ ความคือหลักการหรือแนวทางการเขียนส่วน

ใดของโครงการ

ก. ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะได้รับ ข. กรอบแนวคดิ การวจิ ยั

ค. วิธีการดำเนินงาน ง. การวิเคราะห์ข้อมลู

จ. การแปลข้อมลู

๘. การเขียนต้องเขียนเป็นภาษาไทยที่เข้าใจง่าย ทำการทดสอบได้ เฉพาะเจาะจงไม่คลุมเครือ บ่งชี้ถึงสิ่งที่จะ

ทำ ขอบเขตก็ควรจะอยู่ในห้วงของขอบเขตวัตถุประสงค์ต้องสอดคล้องกับชื่อเรื่องและความเป็นมาโดยทั่วไป

เขียนในรูปประโยคบอกเล่า แยกเป็นข้อ ๆ เพื่อชี้ให้เห็นถึงกระบวนการเรียงตามลำดับดำเนินโครงการ จาก

ข้อความคอื หลกั การหรอื แนวทางการเขยี นสว่ นใดของโครงการ

ก. ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะไดร้ ับ ข. วธิ ีการดำเนนิ งาน

ค. วัตถปุ ระสงค์ของโครงการ ง. กรอบแนวคิดการวจิ ัย

จ. การแปลขอ้ มูล

๙. ขอ้ ใดคือประโยชน์ของการเขียนแผนการสรปุ งบประมาณการดำเนินโครงการ

ก. ประหยัดงบประมาณ ข. จำกดั งบประมาณ

ค. วางแผนของงบประมาณ ง. ของบประมาณได้มากตามความต้องการ

จ. ทำใหก้ ารกำหนดงบประมาณใกล้เคยี งกับทีค่ วรจะเปน็

๑๐. การกำหนดคำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับโครงการและการให้คำจำกัดความที่เฉพาะเจาะจงในประเด็นท่ี

เก่ียวข้องกบั การดำเนินโครงการวิจัย ควรนิยามในรูปคำปฏิบตั ิการใหช้ ัดเจนไม่กำกวมหรือกว้างเกินไป เพ่ือให้

ผู้ดำเนินโครงการและผู้อ่านมีความเข้าใจตรงกัน มักนิยามในเรื่องของนวัตกรรม และเนื้อหารายละเอียดย่อย

ของเร่อื งท่นี ำมาพฒั นาหมายถงึ ข้อใด

ก. ช่ือโครงการ ข. คำนิยามศัพท์

ค. ประโยชน์ของโครงการ ง. วัตถุประสงค์ของโครงการ

จ. กลมุ่ ตัวอย่างในการทดลอง

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชีพ 78

หน่วยที่ 7

การนำเสนอผลงาน

การนำเสนอผลงานเป็นทักษะการส่ือสารท่จี ำเป็น เนื่องจากบ่อยครัง้ ที่เราต้องเผชิญกับการพูดต่อหน้า
ผู้อื่น เช่น การนำเสนองานหน้าชั้นเรียน การนำเสนอต่อที่ประชุม การเสนอโครงการเพื่อดำเนินงานต่าง ๆ
รวมถึงการนำเสนอข้อมูลจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ดังนั้น ทุกคนจึงควรฝึกฝนทักษะในการนำเสนอผลงาน
เพ่อื ให้เกดิ ความชำนาญ และเกดิ ประสิทธภิ าพในการนำเสนอ

7.1 ความหมายของการนำเสนอผลงาน

การนำเสนอ หมายถึง การเผยแพร่สิ่งอันเป็นคุณประโยชน์ เพื่อสาธารณชนได้รับรู้และเกิด
ความเขา้ ใจในคุณค่าตอ่ สิ่งน้นั อยา่ งแทจ้ ริง

ผลงาน หมายถึง ผลของการศึกษาค้นคว้าหรือกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งจนกระทั่งเกิดผลผลิต
ทส่ี ัมฤทธผิ ลเปน็ รูปธรรมข้นึ มา

การนำเสนอผลงาน หมายถึง การเผยแพร่ผลผลิตที่กระทำโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งจนประสบ
ผลสำเร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สาธารณชนได้รับรู้และเกิดความเข้าใจในคุณค่าหรือคุณประโยชน์ของผลผลิต
จากงานท่ที ำนนั้ ๆ

ภาพการนำเสนอผลงานโดยนักเรียน
ทม่ี า: https://www.youtube.com/watch?v=SI6GvMvvypc

7.2 จุดมงุ่ หมายในการนำเสนอผลงาน

โดยทั่วไปการนำเสนอผลงานควรจะมุ่งเน้นในวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจง ไม่ควรนำเสนอด้วย
วัตถุประสงค์ที่มากมายหลายดา้ น เพราะจะเป็นเหตใุ ห้ไม่สามารถบรรลผุ ลได้อย่างแท้จริง การนำเสนอผลงาน
เป็นระบบการสื่อสารที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อกระบวนการปฏิบัติงานในหน่วยงานทุกองค์กร
ซ่งึ สว่ นใหญม่ ักนำไปใชด้ ้วยจุดมงุ่ หมายอย่างใดอย่างหน่ึง ดงั น้ี

๑. เพือ่ การประชาสัมพันธ์
๒. เพ่อื ให้ไดร้ ับการพิจารณา
๓. เพื่อแลกเปล่ยี นเรียนรู้
๔. เพอื่ ใหไ้ ด้รบั การสนบั สนุน
๕. เพอ่ื การฝึกอบรม/สมั มนา

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชิงวชิ าชพี ๗๙

๖. เพื่อรายงานการปฏบิ ัตงิ าน
๗. เพือ่ รายงานในการตรวจเยี่ยม

7.3 รปู แบบการนำเสนอผลงาน

รูปแบบการนำเสนอผลงาน ทำได้หลายแบบดังนี้
1. นำเสนอดว้ ยปากเปล่า การนำเสนอด้วยปากเปล่าอาจทำให้ขาดความน่าสนใจ และหากใช้วิธีการ
ก้มหน้าก้มตาอ่านไม่สนใจผู้ฟังยิ่งขาดความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ผู้นำเสนอจึงต้องใช้น้ำเสียงให้มีประสิทธิภาพ
เนน้ หนักเบา สงู ต่ำ เพอื่ เพ่มิ ความสนใจ
2. นำเสนอด้วยสอ่ื การนำเสนอด้วยส่ือใหส้ ่ือทำหนา้ ที่นำเสนอผลงานเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องอธิบาย
เพิม่ เติม ผู้สนใจตอ้ งทำความเข้าใจผลงานดว้ ยตนเอง
3. นำเสนอด้วยปากเปล่าพร้อมสื่อประกอบ สื่อที่ใช้ เช่น ป้ายนิเทศ แผ่นโปสเตอร์ โปรแกรม
PowerPoint ผู้นำเสนอต้องมกี ารอธิบายเพม่ิ เตมิ
การจะใช้รูปแบบใดในการนำเสนอผลงานขึ้นอยู่กับความเหมาะสม แต่ทั้งนี้ต้องทำให้ผู้รับสารรู้ว่า
เหตใุ ดจงึ ทำผลงานน้ี มวี ิธีการทำอยา่ งไร ทำแล้วไดอ้ ะไร ผลงานน้ันหมายความวา่ อยา่ งไรใหช้ ดั เจน

7.4 ประเภทของการนำเสนอผลงาน

การนำเสนอผลงานเป็นการสื่อสารที่มีความแตกต่างกันในทางปฏิบัติ วัตถุประสงค์ของการนำเสนอ
และความต้องการของผู้รับการนำเสนอ การแบ่งประเภทของการนำเสนอแบ่งตามวิธีการที่ใช้ในการนำเสนอ
ดงั น้ี

๑. การนำเสนอดว้ ยการจดั แสดงนทิ รรศการ

ภาพการนำเสนอดว้ ยการจัดนทิ รรศการ
ทมี่ า: https://www2.opdc.go.th/page.php?url=tab_view&cat=N&id=1062

๒. การนำเสนอด้วยการแสดงประกอบการบรรยาย การนำเสนอลักษณะนี้มักเป็นผลงานที่เนื้อหา
ต้องใช้กรรมวิธีในการสาธิตให้ผู้ฟังได้ดู เวลานำเสนอจะต้องเรียบเรียงลำดับขั้นตอนให้ถูกต้อง มีการอธิบาย
ประกอบในแต่ละขั้น ต้องมีความชัดเจนและสอดคล้องกัน ส่วนใหญ่ใช้กับผลงานที่เป็นสิ่งประดิษฐ์คนรุ่นใหม่
ข้อเสนอแนะ คือ ควรมีเอกสารประกอบการสาธติ ใหผ้ ชู้ มได้ศกึ ษาไปพร้อม ๆ กัน

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ ๘๐

ภาพการนำเสนอด้วยการแสดงประกอบการบรรยาย
ท่ีมา: http://www.geocities.ws/thaweesak/index1.html

๓. การนำเสนอดว้ ยส่ือประกอบการบรรยาย

ภาพการนำเสนอด้วยสื่อประกอบการบรรยาย
ทีม่ า: https://www.tistr.or.th/tistrblog/?p=2357

๔. การนำเสนอด้วยวิธีการผสมผสาน การนำเสนองานลักษณะนี้อาจใช้สื่อประกอบหลายประเภท
เข้ามาชว่ ยในขณะท่ีนำเสนอ ไดแ้ ก่ สื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส์ สือ่ ของจรงิ สอ่ื เคลอื่ นไหว ประกอบการบรรยาย มักเป็น
ผลงานที่มเี นื้อหาคอ่ นขา้ งซับซ้อน มีอปุ กรณป์ ระกอบหลายช้ิน ต้องใช้กรรมวิธใี นการสาธิตหลายขั้นตอน

ภาพการนำเสนอด้วยวิธกี ารผสมผสาน ๘๑
ท่มี า: https://sites.google.com/a/petkasem.ac.th/

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ

7.5 คุณสมบัตทิ ่ดี ีของผนู้ ำเสนอผลงาน

การนำเสนองานคุณสมบัติอันเป็นลักษณะประจำตัวของผู้นำเสนอผลงานถือว่าเป็นส่วนสำคัญของ
ความสำเร็จในการนำเสนอ เพราะคุณสมบัติของผู้นำเสนอจะมีอิทธิพลต่อการโน้มน้าวชักจูงให้ผู้ฟังเกิด
ความไว้วางใจเชื่อถือ ศรัทธาและยอมรับได้มากเท่ากับผลงานที่นำเสนอ ผู้นำเสนอที่ประสบความสำเร็จ
สว่ นใหญจ่ ะมีคณุ สมบัติ ดังน้ี

๑. บุคลกิ ภาพดี มีความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง
๒. ชา่ งสังเกต
๓. มไี หวพรบิ ปฏภิ าณในการตอบคำถาม
๔. มคี วามน่าเชอ่ื ถอื ไวว้ างใจได้
๕. มีความรูใ้ นเรือ่ งทน่ี ำเสนอ
๖. มจี ติ วิทยาในการโนม้ นา้ วใจ
๗. มกี ารใช้โสตทศั นูปกรณ์ไดด้ ี
๘. มคี วามสามารถในการพูด

7.6 ทกั ษะการเปน็ ผูน้ ำเสนอผลงาน

ผู้นำเสนอผลงานจะต้องศึกษาและฝึกฝนตนเองให้มีทักษะหลายด้าน เพื่อเตรียมความพร้อมใน
การเป็นผู้นำเสนอที่ดี เพราะผู้นำเสนอเป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จของการนำเสนอ โดยทั่วไปผู้นำเสนอ
จะต้องเสริมสร้างทักษะดังตอ่ ไปน้ี

๑. ทักษะในการคดิ (conceptual skill) ผู้นำเสนอจะต้องเรียนรู้ และ สร้างความชำนาญชัดเจนใน
การคิดแม้ว่าจะมีเนื้อหาสาระจากข้อมูลที่มีอยู่ ผู้นำเสนอก็จะต้องคิดพิจารณาเลือกใช้ข้อมูล และลำดับ
ความคิด เพอื่ จะนำเสนอใหเ้ หมาะแกผ่ ้รู บั การนำเสนอ ระยะเวลา และโอกาส

๒. ทักษะในการฟัง (listening skill) ผู้นำเสนอจะต้องสดับรับฟัง และสั่งสมปัญญาเป็นการรอบรู้
จากการได้ฟงั ผูร้ แู้ ละผู้เชี่ยวชาญในเร่อื งท่ีจะนำเสนอเพอื่ นำมากลน่ั กรอง เรยี บเรยี งเปน็ เน้ือหาในการนำเสนอ

๓. ทักษะในการพูด (speaking skill) ผู้นำเสนอจะต้องฝึกฝนการพูด เพื่อบอกเล่าเนื่องโน้มน้าว
จงู ใจ ให้ผ้รู บั ฟงั การนำเสนอเหน็ ด้วย อนั จะเปน็ ทางทำให้บรรลุวตั ถปุ ระสงค์ของการนำเสนอ

7.7 ลกั ษณะทด่ี ใี นการนำเสนอผลงาน

นอกจากการเลอื กรปู แบบของการนำเสนอใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสมแล้ว จะต้องคำนงึ ถงึ ลกั ษณะของ
การนำเสนอที่จะช่วยให้บรรลุผลตามวัตถุประสงคข์ องการนำเสนอด้วย โดยทั่วไปลกั ษณะของการนำเสนอท่ดี ี
ควรมีดังต่อไปนี้

๑. มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน กล่าวคือ มีความต้องการที่แน่ชัดว่า เสนอเพื่ออะไร โดยไม่ต้องให้ผู้รับ
การนำเสนอตอ้ งถามว่าต้องการให้พจิ ารณาอะไร

๒. มีรูปแบบการนำเสนอเหมาะสม กล่าวคือ มีความกระทัดรัดได้ใจความ เรียงลำดับไม่สนใช้ภาษา
เข้าใจงา่ ย ใชต้ าราง แผนภมู ิ แผนภาพ ชว่ ยใหพ้ ิจารณาข้อมูลได้สะดวก

๓. เนื้อหาสาระดี กล่าวคือ มีความน่าเชื่อถือ เที่ยงตรง ถูกต้อง สมบูรณ์ครบถ้วน ตรงตาม
ความต้องการ มีข้อมูลทเ่ี ป็นปัจจุบันทันสมัย และมีเนือ้ หาเพียงพอแกก่ ารพิจารณา

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี ๘๒

๔. มีข้อเสนอที่ดี กล่าวคอื มีขอ้ เสนอทส่ี มเหตูสมผล มีข้อพิจารณาเปรียบเทียบ ทางเลือกท่ีเห็นได้ชัด
เสนอแนะแนวทางปฏบิ ัตทิ ่ชี ัดเจน

7.8 หลกั การนำเสนอผลงาน
ในการนำเสนอผลงานเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ก็ตาม ผู้นำเสนอจะต้องพิจารณาถึงหลักการที่จะใช้เปน็

ข้อยึดถือ เพราะฉะนั้นจึงต้องพิจารณาหลกั การนำเสนอผลงาน ดังนี้
๑. คำนึงถงึ ความถูกต้องของเน้อื หา
๒. คำนึงถึงความเหมาะสมของสถานการณ์และโอกาส
๓. คำนึงถงึ ความชัดเจนของรายละเอยี ดและคำอธิบาย
๔. คำนงึ ถึงประสทิ ธภิ าพและความนา่ เช่ือถอื
๕. คำนงึ ถงึ ประโยชน์ที่ทุกฝา่ ยจะได้รบั

7.9 การเตรียมการนำเสนอผลงาน

การจัดทำผลงานเมือ่ ต้องการนำออกแสดงเพ่ือการสาธติ ผู้ทจ่ี ะตอ้ งนำเสนอจะต้องเตรียมการนำเสนอ
ตามลำดบั ขน้ั ตอนตอ่ ไปน้ี

๑. การกำหนดจุดมงุ่ หมายของการนำเสนอ
การนำเสนอจะต้องมีจุดมงุ่ หมายท่ีอยูบ่ นพื้นฐานของหลักการ ดงั น้ี
๑.๑ ต้องก่อประโยชนท์ ั้งต่อฝ่ายผนู้ ำเสนอและผรู้ ับการนำเสนอ
๑.๒ ต้องคำนึงถึงผรู้ ับการนำเสนอเปน็ หลัก
๑.๓ ต้องมจี ดุ มุ่งหมายทม่ี คี วามเป็นไปได้
๑.๔ ตอ้ งไม่กำหนดจดุ มุ่งหมายมากหลากหลายจนคลมุ เครือ
๑.๕ ต้องกำหนดจุดมุ่งหมายใหส้ อดคลอ้ งกบั สถานการณ์

๒. การเลือกรูปแบบการนำเสนอ
การแสดงผลงานนัน้ อาจทำได้หลายรูปแบบต่าง ๆ กนั ดังนี้
๒.๑ การนำเสนอผลงานในรปู นทิ รรศการ
๒.๒ การนำเสนอผลงานแบบโปสเตอร์ โปสเตอรท์ ่นี ยิ มใชใ้ นปัจจบุ ันนีม้ ี ๓ แบบ คือ
๒.๒.๑ แบบบอร์ดแผ่นเดียว

ภาพโปสเตอร์แบบบอรด์ แผ่นเดียว ๘๓
ทมี่ า: https://www.masterkoolevent.com/event/

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชพี

๒.๒.๒ แบบบอรด์ สามส่วน

ภาพโปสเตอรแ์ บบบอร์ดสามส่วน
ทม่ี า: https://www.facebook.com/229147420797065/photos/

๒.๒.๓ แบบบอรด์ พับมีขาตง้ั

ภาพโปสเตอรแ์ บบบอรด์ พับมีขาต้งั
ท่มี า: https://www.billion-plus.com/product/

๓. การรวบรวมข้อมูล
การนำเสนอเอกสารประกอบจะต้องมีความรอบคอบ จัดทำอย่างเป็นระบบ มีความสมบูรณ์

ครบถว้ น ฉะน้ันผนู้ ำเสนอจะต้องค้นหาข้อเท็จจริงประกอบหลกั ฐานอา้ งอิงทน่ี า่ เช่ือถือ ถ้ามีหลกั ฐานอา้ งอิงเป็น
เอกสาร จะต้องตรวจความสมบูรณ์ถูกต้อง การใช้สถิติ หรือบันทึกเหตุการณ์จากแหล่งข้อมูลใดผู้นำเสนอ
จะตอ้ งพิสจู น์ความถกู ตอ้ งครบถว้ น และจะต้องทำความเข้าใจข้อมลู ตา่ ง ๆ ให้แน่ชัด

๔. การวางโครงสร้างนำเสนอ
โครงสร้างการนำเสนอเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การนำเสนอมีความสมรูป ตามเนื้อหาของ

การนำเสนอ จงึ ควรจัดโครงสร้างตามหลักการดังน้ี
๔.๑ ต้องมีส่วนของการกล่าวนำ ให้รู้ว่าผู้นำเสนอ หรือคณะผู้นำเสนอเป็นใคร หรือประกอบด้วย

ผใู้ ดบา้ ง และนำเสนอในนามของหน่วยงานใด บอกชื่อเร่อื งที่นำเสนอ พร้อมด้วยวัตถปุ ระสงค์ บอกระยะเวลาท่ี
จะใช้ในการนำเสนอ และแจง้ ใหร้ ถู้ ึงข้อมูลที่ไดเ้ สนอให้พิจารณาแลว้ ล่วงหนา้

๔.๒ ต้องมสี ่วนแจ้งให้รู้ถึงสถานการณ์ ความเป็นมาของเร่ือง ให้ร้ถู งึ ความเดิมก่อนที่จะนำเสนอว่า
มีความสืบเนื่องประการใด

๔.๓ ต้องมีส่วนที่ชี้ถึงสภาพปัญหา สาเหตุของปัญหา และตัวแปรที่สัมพันธ์เกี่ยวข้อง เช่น
ข้อกฎหมาย

๔.๔ ต้องมสี ่วนทชี่ ้ีถงึ ทางเลอื กในการแก้ปัญหาพร้อมด้วยการประเมินข้อดีและข้อเสยี

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชิงวิชาชพี ๘๔

๔.๕ ตอ้ งมีส่วนทีเ่ ป็นข้อเสนอในการแกป้ ญั หาอนั เป็นการตัดสินใจเลือกทางเลือกท่ีดีท่สี ดุ
๔.๖ ต้องมีส่วนที่เป็นบทสรุป ทั้งข้อเท็จจริง และข้อโต้แย้งที่สำคัญ ถ้าเป็นการนำเสนอเพ่ือ
ขออนมุ ัติ จะต้องกล่าวถงึ ข้ันตอนการดำเนินงานต่อไป ถ้าไดร้ บั อนุมตั ิ
๕. การเตรียมเนอื้ หาทจ่ี ะเสนอ

เนื้อหาในการนำเสนอเป็นส่วยสำคัญในการนำเสนอ ฉะนั้นจะต้องเรียงลำดับขั้นตอนและ
จดั เปน็ หมวดหมู่ โดยคำนงึ ถึงหลกั การเฉพาะของการนำเสนอ ดงั นี้

๕.๑ ต้องจัดทำร่างเน้ือหาตามโครงสรา้ งให้พอเหมาะแก่ระยะเวลาในการนำเสนอ
๕.๒ ต้องลำดับเรือ่ งให้เกิดความเชอื่ มโยงตามขั้นตอน
๕.๓ ต้องเรยี บเรียงขอ้ มูลใหเ้ ขา้ ใจง่ายและทำความเข้าใจไดร้ วดเร็ว
๕.๔ ต้องแสดงใหเ้ ห็นถงึ ประโยชน์ท่ีผฟู้ งั จะไดร้ ับจากข้อคิดเห็นทนี่ ำเสนอในทกุ ด้าน
๕.๕ ตอ้ งเชอ่ื มโยงเหตุผล โดยมหี ลักฐานประกอบใหส้ อดคลอ้ งและกลมกลนื กัน
๖. การตอบคำถามในการนำเสนอ
ในการนำเสนอส่วนใหญ่ จะมีการเชื้อเชิญให้มีการซักถามในตอนท้ายของการนำเสนอ ดังนั้น
ผู้นำเสนอจึงต้องมหี ลักการเปน็ ขอ้ ยึดถอื ในการปฏบิ ัติ ดงั นี้
๖.๑ ต้องจัดเวลาให้เหมาะสมในการเปดิ การซักถาม
๖.๒ ต้องคาดคะเนคำถามท่จี ะเกิดขึน้ ไว้ล่วงหนา้ เพอ่ื จะได้เตรยี มคำตอบทเ่ี หมาะสม
๖.๓ ต้องแสดงความยินดีตอ้ นรบั คำถาม แมจ้ ะเป็นคำถามทไ่ี รส้ าระ หรือแฝงด้วยความประสงค์
รา้ ย แต่ก็สามารถจะเลือกตอบ และสงวนคำตอบไวต้ อบเฉพาะตวั ผู้ถามภายหลงั กไ็ ด้
๖.๔ ต้องรจู้ ักเรียบเรียงคำถามทม่ี ีขอ้ ความยดื ยาว เยิน่ เย้อให้กระชบั ขน้ึ
๖.๕ ต้องตอบใหต้ รงประเด็น หมายถึงตรงกับเรอื่ งท่ีถามไมต่ อบเลย่ี ง หรอื ตอบคลมุ เครือ

7.10 ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิในการนำเสนอผลงาน
๑. กอ่ นนำเสนอ
๑.๑ เลอื กเคร่อื งแตง่ กายใหเ้ หมาะสมกบั กลุม่ ผฟู้ ังและสถานท่ี
๑.๒ รจู้ กั ผอ่ นคลายอริ ยิ าบถเพ่ือระงบั ความกงั วล ความประหม่า
๑.๓ ควรเดินทางไปถงึ สถานท่ีนำเสนออยา่ งน้อย ๑๕ นาที
๑.๔ เตรียมการซักถามดว้ ยความมนั่ ใจ สขุ มุ รอบคอบ
๒. ขณะนำเสนอ
๒.๑ รกั ษาเวลาตามท่ีกำหนด
๒.๒ นำเสนอให้ดูเป็นธรรมชาติ
๒.๓ ย้ิมแย้มแจ่มใส เป็นมิตรกบั ผฟู้ ัง
๒.๔ ใช้ภาษาและทา่ ทที ส่ี ุภาพ เข้าใจงา่ ย ใช้ภาษาทา่ ทางประกอบอย่างเหมาะสม
๒.๕ ใช้สื่อประกอบการบรรยายไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
๒.๖ หากมขี อ้ ผิดพลาดเกิดข้นึ ควรกล่าวคำวา่ “ขออภยั ”
๒.๗ นำหลักการพูดในทช่ี มุ ชนมาประยุกต์ใช้
๓. หลังการนำเสนอ
๓.๑ ประเมนิ ผ้ฟู ังดว้ ยการสงั เกตปฏิกิรยิ าของผู้ฟงั
๓.๒ ประเมินผู้ฟังด้วยแบบสอบถาม นำผลการประเมินมาใชใ้ นการพัฒนาการนำเสนอในครัง้ ต่อไป

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี ๘๕

7.11 การใชภ้ าษาในการนำเสนอผลงาน

ภาษาทีผ่ ู้นำเสนอใชใ้ นการนำเสนอผลงานมีทง้ั วัจนภาษาอวัจนภาษา ดังน้นั จงึ ควรใช้ใหเ้ หมาะสม ดังน้ี
๑. การพูด ไม่ควรพูดเร็วเกินไป หรือใช้เสียงสูงมากเกินความจำเป็น ควรพูดให้เป็นธรรมชาติ ไม่เร็ว
หรอื ช้าจนเกินไป และไม่ควรใช้วิธีการอ่านจากบทอา่ นตลอดเวลา
๒. การใช้สายตา ควรมีการประสานตาหรือสบตากับผูฟ้ ังเป็นระยะ ๆ มองผู้ฟังให้รอบจะชว่ ยให้ผู้ฟงั
รู้สกึ ดตี อ่ ผูน้ ำเสนอได้
๓. การเคล่อื นไหว ไม่ควรเดินไปมาบ่อย ๆ และไม่ควรล้วงแคะแกะเกาในขณะที่พูด เพราะอาจทำให้
ผูฟ้ ังร้สู ึกรำคาญ
๔. การใช้มือ ควรใช้มอื ประกอบการพูดให้ดเู ปน็ ธรรมชาติมากท่ีสดุ
๕. การวางท่าทาง ควรพยายามหลีกเลี่ยงกิริยาที่จะก่อให้เกิดความรำคาญใจแก่ผู้ฟัง วางท่าทางให้
เป็นธรรมชาติ เช่ือมนั่ ในตนเอง และมคี วามกระตอื รอื รน้

การนำเสนอผลงานเป็นการสื่อสารเพื่อถ่ายทอดข้อมูลที่มีวัตถุประสงค์แน่ชัดให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจ
ภายในระยเวลากำหนด ฉะนน้ั ผพู้ ดู จะต้องมีการเตรียมการอย่างดี โดยจะตอ้ งเตรยี มตัวและเตรียมความพร้อม
ทุกด้าน นับตั้งแต่การเตรียมเรื่อง ผู้พูดควรกำหนดวัตถุประสงค์หลักของการพูดให้ชัดเจนว่าต้องการให้ผู้ฟัง
ทราบเรื่องอะไร แล้วจึงกำหนดวัตถุประสงค์รองเป็นเป็นประเด็นต่าง ๆ ต่อมา คือ การสร้างความเชื่อมั่นใน
ตนเองด้วยการฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ นอกจากนี้ยังต้องเตรียมเรื่องการแต่งกาย บุคลิกภาพ และอุปกรณ์
การนำเสนออน่ื ๆ ท่ีจำเป็นดว้ ย

***************************

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วิชาชพี ๘๖

แบบฝกึ หัดหน่วยที่ 7
การนำเสนอผลงาน

ตอนท่ี 1 จงตอบคำถามต่อไปนี้
๑. จงอธิบายความหมายของการนำเสนอผลงาน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
๒. การเตรียมการนำเสนอผลงานมีวธิ กี ารปฏิบตั ิอย่างไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................... ...............................
๓. การนำเสนอผลงานมีวัตถปุ ระสงค์อยา่ งไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
๔. ลักษณะของการนำเสนอทด่ี ีควรมีลกั ษณะอย่างไร
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................... ...............................................
..............................................................................................................................................................................
๕. การใช้ภาษาในการนำเสนอควรมลี กั ษณะอยา่ งไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................ ......................
๖. การเตรยี มข้อมูลในการนำเสนอควรมีรายละเอียดอะไรบ้าง
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
๗. การนำเสนอให้มีประสิทธภิ าพได้นั้นมีปัจจยั ท่ีสำคัญอยา่ งไร
..............................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................... ........................
๘. ถา้ นักเรยี นรบั หน้าทีน่ ำเสนอผลงาน นักเรยี นจะเตรยี มการนำเสนอยา่ งไร
................................................................................................................................................................... ...........
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
9. รูปแบบการนำเสนอผลงานมีก่รี ปู แบบ อะไรบ้าง
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
10. นักเรียนคิดวา่ การนำเสนอผลงานมีความสำคญั ต่อการเรียนหรือการประกอบอาชีพอย่างไร จงอธิบาย
..............................................................................................................................................................................

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชิงวิชาชพี ๘๗

แบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยท่ี 7
การนำเสนอผลงาน

คำชแี้ จง ใหท้ ำเครือ่ งหมายกากบาท (X) ลงหน้าตวั เลือกทถี่ ูกต้องที่สุด
๑. ข้อใดจดั เปน็ ความหมายของการนำเสนอผลงาน

ก. สิ่งที่ผสู้ ่งสารส่ือไปยงั ผรู้ บั สาร ข. การส่งสารผา่ นสอื่ ไปยังผรู้ ับสาร

ค. การรบั ขอ้ มูลขา่ วสารจากผู้สง่ สาร ง. สื่อกลางในการส่งผ่านไปยงั ผู้รบั สาร

จ. การนำสารจากผู้ส่งสารไปยงั ผู้รบั สาร

๒. ข้อใดไม่จัดเปน็ ความสำคัญของการนำเสนอผลงาน

ก. ใชใ้ นการเผยแพร่ความรใู้ หม่ ๆ ข. ใชใ้ นการเบกิ จา่ ยงบประมาณได้

ค. ใช้ช้ีแจงระเบยี บในการปฏิบัตงิ านได้ ง. ใช้เสนอขอจัดทำโครงการต่าง ๆ

จ. ใชเ้ สนอขออนุมตั แิ ผนงานตา่ ง ๆ

๓. ข้อใดไมจ่ ัดเปน็ ลกั ษณะของการนำเสนอท่ีดี

ก. มเี น้ือหาสาระดี ข. มจี ุดมงุ่ หมายที่ดี

ค. มรี ปู แบบที่เหมาะสม ง. มวี ัตถปุ ระสงค์ชดั เจน

จ. มีความสำคัญอย่างยง่ิ

๔. ข้อใดจัดเป็นการเตรยี มเนื้อหาในการนำเสนองานท่ีไม่ถูกตอ้ ง

ก. จัดเตรียมหาหลกั ฐานอ้างอิงตา่ ง ๆ ให้ครบถว้ น

ข. เตรยี มการยกตัวอยา่ งหรือกรณีศึกษามาประกอบ

ค. จดั ทำรา่ งเน้ือหาตามโครงสรา้ งที่เหมาะสมแกร่ ะยะเวลา

ง. เรียงลำดับเร่ืองเพื่อใหเ้ กดิ ความเชอื่ มโยงเปน็ เอกภาพ

จ. ตอ้ งคดั เลือกเนอื้ หาทนี่ า่ สนใจตามความต้องการของผู้พูด

๕. ข้อใดไม่เก่ยี วข้องกับการนำเสนอ

ก. การปาฐกถา ข. การอภปิ ราย

ค. การบรรยาย ง. การให้โอวาท

จ. การแถลงข่าว

๖. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้อง

ก. ถ้าเปน็ การนำเสนอด้วยการพดู ควรใช้ภาษาท่ีเข้าใจง่าย

ข. การนำเสนอควรลำดบั เนื้อหาใหม้ คี วามเชือ่ มโยงสัมพันธ์กนั

ค. การนำเสนอผลงานอาจใชเ้ ทคนคิ หรือวิธกี ารต่าง ๆ ประกอบได้

ง. การนำเสนอดว้ ยการบรรยายไม่จำเป็นต้องใช้ส่ือโสตทัศนูปกรณ์

จ. ข้อมลู ทีน่ ำเสนอควรเรียบเรียงจากความรู้ความเข้าใจของผนู้ ำเสนอ

30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี ๘๘

๗. ภาษาทีใ่ ชใ้ นการนำเสนอควรเปน็ ลกั ษณะใด

ก. พูดแบบสมั ภาษณเ์ ร่ืองราวต่าง ๆ ข. พดู ลักษณะเปน็ การส่ือสารทางเดยี ว

ค. พดู ดว้ ยการสร้างความเชื่อมนั่ ใหต้ นเอง ง. พดู ให้ผฟู้ งั เข้าใจเร่ืองราวนั้น ๆ อย่างแจม่ แจ้ง

จ. พูดซกั ถามความคดิ เห็นระหวา่ งบคุ คลสองฝา่ ย

๘. ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ ง

ก. การนำเสนอผลงานต้องคำนงึ ถงึ ผู้นำเสนอเป็นหลัก

ข. การรายงานผลการปฏบิ ัติงานไมจ่ ดั ว่าเปน็ การนำเสนอ

ค. การนำเสนอใช้ในการแนะนำในการเยยี่ มชมกจิ การต่าง ๆ ได้

ง. การนำเสนอผลงานนำไปใช้ไดเ้ ฉพาะพนกั งานในบริษัทเท่านน้ั

จ. การนำเสนอไมส่ ามารถนำไปใชใ้ นการพิจารณาอนมุ ตั ิเร่ืองตา่ ง ๆ ได้

๙. ข้อใดไม่จดั เป็นการนำเสนอเฉพาะกลุ่ม

ก. การฝึกอบรมทำขนมอบ ข. การสัมมนาครูภาษาไทย

ค. การประชุมผ้ปู กครอง ง. การบรรยายทางโทรทัศน์

จ. ทุกขอ้ ที่กลา่ วมา

๑๐. ข้อใดจดั เป็นการนำเสนอในทีป่ ระชุม

ก. การฝกึ อบรมทำขนมอบ ข. การสมั มนาครูภาษาไทย

ค. การประชุมผู้ปกครอง ง. การบรรยายทางโทรทัศน์

จ. ทุกข้อท่ีกลา่ วมา

30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี ๘๙

เอกสารอ้างองิ

คณาจารย์คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ภาษาไทย ๑. พิมพ์ครั้งท่ี ๓. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๓๘.

คณาจารยภ์ าควชิ าภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร.์ การใช้ภาษาไทย ๒. พมิ พ์คร้งั ท่ี ๓.
กรุงเทพฯ: สำนกั พิมพม์ หาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๒.

จไุ รรัตน์ ลกั ษณะศิริ. ภาษากับการสือ่ สาร. นครปฐม: มหาวิทยาลยั ศิลปากร , ๒๕๔๓.
ทพิ วรรณ หอมพลู . การใชภ้ าษาไทยเพ่อื การอาชีพ ๒. กรุงเทพฯ: วงั อักษร, ๒๕๓๘.
นพดล จนั ทรเ์ พ็ญ. การใช้ภาษาไทย. กรงุ เทพฯ: ต้นอ้อ, ๒๕๓๕.
นภาลยั สุวรรณธาดา และคณะ. การเขียนผลงานทางวิชาการและบทความ. กรุงเทพฯ:

มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช, ๒๕๔๘.
บรรเทา กติ ติศักด.ิ์ ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร. กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์, ๒๕๔๒.
บญุ ธรรม กจิ ปรีดาบรสิ ทุ ธ์ิ. คมู่ ือการเขยี นรายงานและวทิ ยานพิ นธ.์ กรุงเทพฯ: จามจรุ ีโปรดกั ซ์, ๒๕๔๖.
ประวณี ณ นคร. การทำบนั ทึกเสนอ การจดรายงานการประชุม การเขียนคำกล่าวในพธิ ี. พมิ พ์ครัง้ ท่ี ๖.

กรุงเทพฯ: สำนกั งาน ก.พ, ๒๕๔๐.
พิมพร สอพิมาย. ทกั ษะภาษาไทยเพอื่ อาชีพ. กรงุ เทพฯ: แมค็ , ๒๕๔๖.
ผะอบ โปษะกฤษณะ. ลักษณะเฉพาะของภาษาไทย. พมิ พ์ครง้ั ท่ี ๔. กรุงเทพฯ: รวมสาส์น, ๒๕๓๒.
ภาควชิ าบรรณารักษศาสตร์ คณะอกั ษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . การค้นควา้ และการเขยี นรายงาน.

พมิ พค์ ร้ังท่ี ๗. กรุงเทพฯ: โครงการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการคณะอักษรศาสตร์, ๒๕๔๙.
ภาควชิ าภาษาไทย คณะอกั ษรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร. ภาษากับการสอื่ สาร. นครปฐม: มหาวิทยาลยั

ศิลปากร, ๒๕๔๐.
รุง่ รัตน์ ชัยสำเรจ็ . การเขยี นเพื่อการประชาสมั พนั ธ์. พิมพ์คร้งั ท่ี ๒. กรงุ เทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ,

๒๕๔๓.
วีระชยั มีชอบธรรม และคณะ. การค้นควา้ และการเขยี นรายงาน. กรงุ เทพฯ: ม.ป.ท, ม.ป.ป.
ศรไี พร ศกั ดร์ิ งุ่ พงศากุล. การเขียนรายงานโครงงาน. ภาควชิ าคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ คณะบริหารธุรกจิ

มหาวทิ ยาลยั สยาม, ๒๕๕๐.
สุโขทัยธรรมาธิราช, มหาวิทยาลยั . การเขยี นเพื่อการสอ่ื สารธรุ กจิ . นนทบรุ ี: มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช

, ๒๕๓๔.
สโุ ขทัยธรรมาธิราช,มหาวทิ ยาลยั . การอ่านภาษาไทย. พมิ พ์ครงั้ ท่ี ๘ . กรงุ เทพฯ: สุโขทัยธรรมธิราช, ๒๕๔๓.
สภุ าพ รุ่งเจรญิ . ภาษาไทยเพ่ืออาชีพ ๑. กรุงเทพฯ: ม.ป.ท, ม.ป.ป.
หอการค้าไทย, มหาวิทยาลัย. ภาษาไทยเพือ่ การส่อื สาร. กรุงเทพฯ: ดอกหญ้า, ๒๕๔๑.
คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร. ภาษากับการสอ่ื สาร. กรงุ เทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๔๐.
กรมอาชวี ศึกษา. แผนการสอนการใช้ภาษาไทยเพือ่ การอาชีพ ๑. กรุงเทพฯ: กรมอาชวี ศึกษา, ๒๕๓๗.
อมรรตั น์ ฉายศรี. ภาษาไทยเพื่ออาชีพ. ศูนย์หนังสอื เมืองไทย: นนทบุรี. 2556.
อุดม บัวผัน. การใชภ้ าษาไทยเพอ่ื การอาชีพ ๑. พมิ พค์ ร้ังท่ี ๒. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ วี เค โปรปรน้ิ ต์, ๒๕๓๘.
เอกฉทั จารเุ มธชี น. ภาษาไทยธรุ กิจ. พิมพค์ รัง้ ท่ี ๔. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์, ๒๕๔๑.

วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาลพบุรี

139 หมู่ 6 ถนนสระแกว้ -ปา่ หวาย ตาบลป่าตาล อาเภอเมืองลพบุรี จงั หวัดลพบรุ ี
โทรศพั ท์ : 0 3642 1245 โทรสาร : 0 3642 1245
E-mail : [email protected]


Click to View FlipBook Version