The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มคอ.2 M.Sc.ICT 2559

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by waranya poonnawat, 2020-04-14 05:43:36

ICT2559

มคอ.2 M.Sc.ICT 2559

Keywords: STOU ICT Master

1

หลักสูตรวทิ ยาศาสตรมหาบณั ฑติ
แขนงวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร

หลักสูตรปรบั ปรงุ พ.ศ. 2559

ช่ือสถาบนั อุดมศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช

สาขาวิชา วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

หมวดที่ 1 ขอ้ มูลท่วั ไป

1. รหัสและชื่อหลักสตู ร วทิ ยาศาสตรมหาบัณฑิต แขนงวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร
(ชอ่ื ภาษาไทย) Master of Science Program in Information and Communication
(ชือ่ ภาษาองั กฤษ) Technology

2. ชื่อปรญิ ญาและแขนงวิชา
(ชอ่ื เต็มภาษาไทย) วทิ ยาศาสตรมหาบณั ฑิต (เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร)
(อักษรย่อภาษาไทย) วท.ม. (เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร)
(ชอื่ เตม็ ภาษาอังกฤษ) Master of Science (Information and Communication Technology)
(อกั ษรยอ่ ภาษาอังกฤษ) M.Sc. (Information and Communication Technology)

3. วิชาเอก
- ไม่มี -

4. จาํ นวนหน่วยกิตท่เี รียนตลอดหลักสตู ร
ไม่นอ้ ยกว่า 36 หนว่ ยกิต

5. รูปแบบของหลักสตู ร

5.1 รูปแบบ
เปน็ หลักสตู รระดบั ปรญิ ญาโท

5.2 ภาษาที่ใช้

 หลักสตู รจดั การศึกษาเป็นภาษาไทย

หลกั สูตรจัดการศึกษาเป็นภาษาไทยและใชเ้ อกสาร/ตาราในวชิ าของหลักสูตรเป็นภาษาอังกฤษ
หลักสูตรจดั การศึกษาเป็นภาษาต่างประเทศ (ระบุภาษา).....................................

5.3 การรบั เข้าศกึ ษา
รับนักศึกษาไทยและนักศึกษาต่างประเทศท่ีสามารถใช้ภาษาไทยไดเ้ ปน็ อย่างดี

2

5.4 ความรว่ มมือกบั สถาบันอืน่

 เป็นหลกั สูตรของสถาบันโดยเฉพาะ

เป็นหลกั สูตรความรว่ มมือกบั ...................................................................................
5.5 การให้ปริญญาแก่ผู้สาํ เรจ็ การศึกษา

ใหป้ ริญญาเพยี งสาขาวชิ าเดยี ว

6. สถานภาพของหลกั สตู รและการพจิ ารณาอนมุ ตั /ิ เห็นชอบหลักสตู ร
 หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559 กาหนดเปดิ สอน ภาคตน้ ปีการศึกษา 2560
 ปรบั ปรุงจากหลกั สูตร วิทยาศาสตรมหาบณั ฑิต แขนงวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร
หลักสูตรปรับปรงุ พ.ศ. 2554
 สภาวิชาการใหค้ วามเห็นชอบหลกั สตู ร ในการประชมุ ครั้งที่ 6/2559
เมือ่ วนั ท่ี 26 มีนาคม พ.ศ. 2559
 สภามหาวิทยาลัยอนุมตั ิหลักสูตร ในการประชมุ คร้งั ท่ี 5/2559
เม่ือวันท่ี 28 เมษายน 2559

7. ความพร้อมในการเผยแพร่หลกั สูตรท่ีมคี ณุ ภาพและมาตรฐาน
ปีการศึกษา 2561

8. อาชีพทสี่ ามารถประกอบไดห้ ลังสาํ เรจ็ การศึกษา
8.1 นกั วิชาการ/นกั วจิ ัย
8.2 นกั วิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบสารสนเทศ
8.3 นักพัฒนาระบบสารสนเทศ
8.4 ผูบ้ ริหารหนว่ ยงานทวั่ ไป/หนว่ ยงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร
8.5 ผ้ปู ระกอบการธุรกิจทว่ั ไป/ด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร
8.6 ผู้บรหิ ารโครงการทั่วไป/ดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร
8.7 เจา้ หน้าท่ีดูแลระบบขอ้ มลู /ระบบเครอื ขา่ ย
8.8 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบระบบสารสนเทศ
8.9 นกั วิชาชีพที่เกยี่ วข้องกับเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร
8.10 นักวิชาชพี อื่น

3

9. ช่ือ นามสกลุ เลขประจําตวั บตั รประชาชน ตําแหน่ง และคุณวุฒกิ ารศกึ ษาของอาจารย์ผ้รู ับผดิ ชอบหลักสูตร

ลําดบั ตาํ แหน่ง ชื่อ – สกุล รหสั ประจําตวั คุณวุฒิ สาขาวิชา สาํ เร็จการศึกษา

ที่ ทางวชิ าการ ประชาชน สถาบนั ปี

1 รศ.ดร. นางวิภา xxxxxxxxx4358 Ph.D. Computer Science Illinois Institute of 2537

เจรญิ ภณั ฑารักษ์ Technology, USA

วท.ม. วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2526

สต.บ. สถติ ิศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั 2522

2 รศ. นางสาวณฐั พร xxxxxxxxx6764 พบ.ม. คอมพิวเตอร์ สถาบนั บณั ฑติ 2536
เห็นเจริญเลศิ
พัฒนบรหิ ารศาสตร์

วท.บ. วิทยาศาสตร์ทว่ั ไป มหาวิทยาลัย 2530

เกษตรศาสตร์

3 รศ. นางสาววรญั ญา xxxxxxxxx0426 วท.ม. เทคโนโลยกี ารจดั การ มหาวิทยาลยั มหิดล 2539
ปณุ ณวัฒน์
ระบบสารสนเทศ

บธ.บ. คอมพิวเตอร์ธรุ กิจ มหาวิทยาลัย 2535

สงขลานครนิ ทร์

4 ผศ.ดร. นางขจิตพรรณ xxxxxxxxx9294 Ph.D. Electronic University of Surrey, 2552
กฤตพลวมิ าน
Engineering UK

วศ.ม. วศิ วกรรมไฟฟา้ สถาบนั เทคโนโลยีพระจอม 2544

เกล้าเจ้าคณุ ทหาร

ลาดกระบัง

วศ.บ. วิศวกรรม สถาบนั เทคโนโลยีพระจอม 2541

โทรคมนาคม เกล้าเจ้าคณุ ทหาร

ลาดกระบัง

5 ผศ.ดร. นางสาววฤษาย์ xxxxxxxxx8444 ปร.ด. เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวทิ ยาลัยสยาม 2555
รม่ สายหยดุ
วท.ม. เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวทิ ยาลัยอสั สมั ชัญ 2544

วท.บ. ศาสตร์คอมพิวเตอร์ มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง 2538

10. สถานท่ีจดั การเรยี นการสอน
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ตั้งอยู่ที่ตาบลบางพูด อาเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จัดการเรียนการ

สอนในระบบการศึกษาทางไกล โดยไม่มีช้ันเรียนปกติ แต่จัดให้มีการสัมมนาเสริม สัมมนาเข้ม อบรมเข้มเสริม
ประสบการณ์มหาบัณฑิต และจัดสอบ ณ สถานที่ที่มหาวิทยาลัยกาหนด เช่น ท่ีทาการมหาวิทยาลัย ศูนย์วิทย
พฒั นา ศนู ยบ์ ริการการศึกษาประจาจงั หวัด และศูนยบ์ ริการการศึกษาเฉพาะกิจในภมู ภิ าคท่นี ักศึกษามีภมู ลิ าเนา

11. สถานการณภ์ ายนอกหรอื การพัฒนาที่จาํ เปน็ ต้องนาํ มาพิจารณาในการวางแผนหลกั สตู ร
นโยบายดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม (Digital Economy) เป็นนโยบายที่สาคัญเก่ียวข้องกับการนา

เทคโนโลยสี ารสนเทศมาประยกุ ตใ์ ช้ใหเ้ ขา้ กับกิจกรรมทางเศรษฐกจิ และสงั คม

4

การขบั เคลือ่ นเขา้ สู่ความเปน็ ดิจิทัลมีความสาคัญต่อการพฒั นาประเทศในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการพฒั นา
ธุรกิจการสอื่ สารของประเทศไทยในอนาคต ที่จาเป็นตอ้ งมุง่ เน้นการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานดจิ ิทลั โดยมีเป้าหมาย
การครอบคลุมทุกพื้นท่ี การมีขนาดที่พอเพียงกับการใช้งาน มีเสถียรภาพท่ีม่ันคง ในราคาท่ีเหมาะสม เพ่ือเป็น
พน้ื ฐานไปสกู่ ารต่อยอดกิจกรรมการพฒั นาประเทศท้งั ดา้ นเศรษฐกิจและสังคมท่มี ปี ระสิทธภิ าพสูงสุด

รัฐบาลได้กาหนดนโยบายให้มีการส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิทัล และวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลของ
ประเทศอย่างจริงจัง ซ่ึงจะทาให้ทุกภาคเศรษฐกิจก้าวหน้าไปได้ทันโลกและสามารถแข่งขันในโลกสมัยใหม่ได้ ทั้ง
ด้านการผลิต และการค้าผลิตภัณฑ์ดิจิทัลโดยตรง และการใช้ดิจิทัลให้รองรับการให้บริการของภาคธุรกิจการเงิน
และธุรกิจบริการอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิง ภาคส่ือสาร และบันเทิง ตลอดจนการใช้ดิจิทัลรองรับการผลิตสินค้า
อตุ สาหกรรม และการพัฒนาเศรษฐกิจสรา้ งสรรค์

แนวทางขับเคล่ือนมีกรอบยุทธศาสตร์ดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมตามแผนภาพข้างต้น 5 ยุทธศาสตร์
ดังน้ี

1. การพฒั นาโครงสร้างพ้นื ฐานดจิ ิทลั (Hard Infrastructure)
ประเทศไทยจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลต่อไปจนถึงเป้าหมายการครอบคลุมทุกพื้นท่ี การมีขนาดท่ี
พอเพียงกับการใช้งาน มีเสถียรภาพท่ีมั่นคง ในราคาท่ีเหมาะสม เพื่อเป็นพื้นฐานไปสู่การต่อยอดกิจกรรมการ
พัฒนาประเทศท้ังด้านเศรษฐกิจและสังคมท่ีมีประสิทธิภาพสูงสุด รัฐจะเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้
โครงข่ายการส่ือสารครอบคลุมท่ัวประเทศในระดับหมู่บ้าน มีขนาดเพียงพอต่อการใช้งานมีเสถียรภาพในราคาที่
เหมาะสม ทาให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพ้ืนฐานการสื่อสารหรือบรอดแบนด์ความเร็วสูงมากที่มีเสถียรภาพและมี
ราคาถูก (ร่วมกับจุดแข็งอื่นๆของประเทศเช่น ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่มีเสถียรภาพระบบตลาดท่ี
ค่อนขา้ งเสรีสาหรับนักลงทุนต่างชาติ ที่ตัง้ ของประเทศไทยที่อยู่ใจกลางภูมภิ าค และแรงงานทักษะสูงของประเทศ
ท่มี ีคณุ ภาพ) พร้อมใหบ้ รกิ ารสาหรบั ธรุ กจิ ต่างชาตทิ ี่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยท้ังในธรุ กิจ ICT เอง (เชน่ การมา
ต้ัง data center การให้บริการ Cloud Computing การมาร่วมทุนในธุรกิจโทรคมนาคม และซอฟต์แวร์
แอพพลิเคชัน่ ฯลฯ) หรอื ธุรกจิ อ่ืนๆทีใ่ ช้ประโยชน์จากการสอ่ื สารท่ีมีคุณภาพในการเชื่อมต่อกบั โลก
2. การสร้างความม่ันคงปลอดภัย และความเชื่อมั่นในการทาธุรกรรมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Soft
Infrastructure)
รัฐจะเร่งทบทวน ปรับปรุง ยกร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลทุกฉบับ โดยมี
กฎหมาย กฎระเบยี บดา้ นการลงทุนและกากับดูแลด้านโทรคมนาคม (และอินเทอรเ์ น็ต) ที่ทันสมยั เป็นธรรมต่อทุก
ฝ่าย รวมถึงมีกฎหมาย กฎระเบยี บ และแนวทางปฏิบัติทชี่ ัดเจนในเรื่องความม่ันคงปลอดภัยของระบบดิจิทลั และ
การคุ้มครองข้อมูลประเภทต่างๆ เป็นการเพิ่มความเชื่อม่ัน และสร้างบรรยากาศที่ดี เพ่ือดึงดูดนักลงทุนจาก
ต่างประเทศ
3. โครงสรา้ งพืน้ ฐานเพ่ือสง่ เสริมการใหบ้ รกิ าร (Service Infrastructure)
นอกจากการพัฒนาประเทศไทยมีโครงสร้างพ้ืนฐานการให้บริการ ที่ครอบคลุม และมีมาตรฐาน เพื่อ
ส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมบริการผ่านระบบดิจิทัลต่างๆ ของทั้งภาครัฐ และเอกชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและ
คุณภาพสงู มาก โดยมีต้นทุนต่ากว่าเดิมมาก สิ่งที่จาเป็นต้องดาเนินการควบคู่กันไปกค็ ือ การส่งเสริมการให้บริการ
รัฐจะเร่งยกระดับการให้บริการ e-Government โดยการเชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐผ่าน Platform ของรัฐ เน้น

5

บริการพ้ืนฐานและบริการข้ามหน่วยงาน (รวมถึงการสร้างฐานข้อมูลกลาง ID แห่งชาติ และการจัดตั้งศูนย์กลาง
ข้อมูลภาครัฐ) รวมถึงจัดเก็บเปิดเผย และแลกเปล่ียนข้อมูลภาครัฐ ตามมาตรฐาน Open Data (และผลักดันให้มี
กฎหมายการพัฒนา Open Government Data) เพื่ออานวยความสะดวกในการเชื่อมโยงข้อมูลผ่าน API และ
นามาซงึ่ การพฒั นาสินคา้ และบรกิ ารใหมๆ่ เชงิ นวตั กรรมจากภาครฐั และเอกชน

4. การสง่ เสริมและสนับสนนุ ดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกิจ (Digital Economy Promotion)
รัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลอย่างครบวงจร ท่ีมีผู้ประกอบการดิจิทัล
(Digital Entrepreneur) เกิดใหม่จานวนมาก และปรับเปลี่ยนวิธีการทาธุรกิจของผู้ประกอบการไทยในด้านต่างๆ
(เน้น SME) จากการแข่งขันเชิงราคา (ถูก) ไปสู่การแข่งขันเชิงการสร้างคุณค่าของสินค้าและบริการ (Service
Innovation) ที่ผู้บริโภคพอใจสูงสุด รัฐจะเพิ่มขีดความสามารถของภาคธุรกิจ ให้สามารถสร้างมูลค่าเพ่ิมของ
ผลิตภัณฑ์/บริการด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการต่อยอดนวัตกรรม เช่น การต้ังศูนย์บริการ Digital
Business Analytic ให้ผู้ประกอบการ SMEs, การต้ังกองทุนสนับสนุนธุรกิจดิจิทัล SMEs, การสร้าง National
APIs' Platform สาหรับ SMEs, การขยายฐานการพัฒนา Service Platform ที่มีอยู่ให้รองรับบริการรูปแบบใหม่
รวมทั้งสร้าง Agile e-Marketplace บนระบบ Cloud Computing ที่มีความทันสมัยและสะดวกในการ
ปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจ (Business Process) เพ่ือส่งเสริมธุรกิจไทยโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง
และขนาดเล็กตลอดจนการสร้างให้เกิดธุรกิจใหม่ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือสนับสนุนการตลาดทั้ง
ภายในประเทศและตา่ งประเทศ รวมถึง
5. ดิจิทลั เพื่อสงั คมและทรพั ยากรความรู้ (Digital Society)
เพอ่ื เป็นการสนับสนุนการพฒั นาสังคมดิจทิ ัลท่ีมีคณุ ภาพ ดว้ ยการพฒั นาข้อมูลข่าวสาร และบริการของรัฐ
ต่างๆ ท่ีเออื้ อานวยตอ่ คนทุกระดบั คานึงถึงผู้ด้อยโอกาสให้สามารถเขา้ ถึงไดท้ กุ ที่ ทุกเวลา อย่างทว่ั ถึง เทา่ เทียมกัน
ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมท้ังประเทศไทยมีคลังทรัพยากรสารสนเทศเพ่ือเก็บรวบรวมข้อมูล และองค์ความรู้ของ
ประเทศในรูปแบบดิจิทัลที่ประชาชนสามารถเข้าถึงและสามารถเรียกข้อมูลมาใช้หรือนาไปวิเคราะห์ต่อยอดได้
อย่างสะดวกง่ายดาย ตอบสนองต่อการเปลยี่ นแปลงของโลก
11.2 สถานการณ์หรอื การพฒั นาทางสังคมและวัฒนธรรม
1) ด้านสังคม โครงสร้างประชากรของไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทาให้การพัฒนาประเทศมีแนวโน้มต้อง

เผชิญกับภาวะถดถอยเนื่องจากขาดแคลนแรงงานในอนาคต ประชากรที่อยู่ในวัยศึกษาต่อ วัยแรงงาน
ลดลง
2) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีฯ เกิดพัฒนาการการสื่อสารไร้พรมแดน ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสาร เป็นแบบก้าวกระโดด มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารท้ังใน
ระดับบุคคลและหน่วยงานอย่างแพร่หลายในวงกว้าง เกิดการรูปแบบการติดต่อส่ือสารใหม่ๆข้ึน เช่น
การใช้โทรศัพทเ์ คล่ือนที่ การใช้สอ่ื สังคมออนไลน์ (social media) เปน็ ตน้
ดังนั้นจึงควรมีการดาเนินการเพ่ือสร้างสรรค์สังคม ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่าง
ยั่งยืน เพอ่ื ตอบสนองสงั คมและวฒั นธรรม คานึงถงึ ประเด็นหลัก ดงั นี้
1) การพัฒนา Digital Content แบบบรู ณาการ โดย จะมีการดาเนนิ การ ดงั นี้

6

 บูรณาการเน้ือหา/สารัตถะท่ีแปลงเข้าสู่ระบบดิจิทัล ในด้านการศึกษา ด้านวัฒนธรรม ด้าน
สาธารณสขุ และดา้ นพัฒนาทักษะทางอาชพี

 พัฒนา digital platform technology ท่ีภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมและบริการด้าน ICT
สามารถเพ่มิ ขีดความสามารถทางการแข่งขนั ไดใ้ นระดับสากล

 เกิดแพลตฟอร์มด้าน e-commerce, ด้านสาธารณสุข, ด้านการแปลภาษา และด้าน
Application Programming Interface (API) market place แ ล ะ Open Service
Platform

2) การพัฒนาบุคลากร โดยการเพิ่มศักยภาพบุคลากรให้สอดคล้องกับความตอ้ งการทั้งภาคการศึกษา
ภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม จะมกี ารดาเนนิ การ ดังนี้
 พัฒนาบคุ ลากรทมี่ ที ักษะใหมๆ่ ด้าน ICT เพื่อสรา้ งให้เกดิ ธรุ กจิ รปู แบบใหม่
 พฒั นาบคุ ลากรทกุ ภาคสว่ นให้ไดร้ ับการพฒั นาทกั ษะและการประยกุ ต์ ICT

นอกจากน้ีควรเน้นการบริหารจัดการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างย่ังยืน โดยจะมีการ
ดาเนนิ การ ดังน้ี

 มีนโยบายการขบั เคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างบรู ณาการ
 เกดิ หนว่ ยงานกลางสนับสนนุ การดาเนนิ งานเพื่อการขับเคล่อื นเศรษฐกิจและสงั คมดิจทิ ัล
 เกิดโครงการต้นแบบที่ประสบความสาเร็จ อาทิ ชุมชนชายขอบ SMEs วิสาหกิจชุมชน

ผู้ประกอบการร่นุ ใหม่ เป็นตน้

หมายเหตุ แหลง่ ท่ีมาข้อมลู อ้างองิ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร “นโยบายดจิ ิทลั เพ่อื เศรษฐกิจ
และสังคม (Digital Economy)” คน้ หา20 สิงหาคม2558
http://www.mict.go.th/view/1/Digital%20Economy

12. ผลกระทบจาก ข้อ 11.1 และ 11.2 ตอ่ การพัฒนาหลักสตู รและความเกี่ยวข้องกับพันธกิจของสถาบัน
12.1 การพัฒนาหลกั สตู ร
จากผลกระทบจากสถานการณ์ภายนอกในการพัฒนาหลักสูตรจึงจาเป็นต้องพัฒนาหลักสูตรที่ตอบสนองต่อ

การเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และสามารถรองรับการแข่งขัน โดยการผลิตบุคลากร
ทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่มีคณุ สมบัติพร้อมจะปฏิบัติงานได้ทันทีและมีศักยภาพสูงในการพัฒนา
ตนเองให้เข้ากับลักษณะงานท้ังด้านวิชาการและวิชาชีพ ในการนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ วิเคราะห์และแก้ปัญหาใน
การปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพ อย่างมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม

12.2 ความเกย่ี วข้องกับพันธกจิ ของสถาบัน
ในการพัฒนาและปรับปรงุ หลกั สูตรที่นาเสนอน้ี คณะกรรมการพัฒนาและบริหารหลักสตู รฯ ไดด้ าเนินการ

โดยศกึ ษา วิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์การเปล่ียนแปลงทัง้ ภายในและภายนอก รวมท้ัง การดาเนนิ การตามปรัชญา
การศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ ในการพัฒนาการเรียนการสอนทางไกล โดยมุ่งผลิตบัณฑิตทุกระดับเพื่อตอบสนอง

7

ต่อการพัฒนาประเทศ ตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชในระยะ 5 ปี ฉบับปรับปรุงปีงบประมาณ
พ.ศ. 2556-2560 ในการพัฒนาการเรียนการสอนทางไกล โดยมุ่งผลิตบัณฑิตทุกระดับเพื่อตอบสนองต่อการ
พัฒนาประเทศ (พันธกิจ ข้อ 1) และข้อมูลจากการบรรยายวิสัยทัศน์ และ Roadmap เพ่ือพัฒนา มสธ. ในระยะ
15 ปีข้างหน้า ของ ศาสตราจารย์ ดร.วจิ ิตร ศรีสอ้าน เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2553 เก่ียวกับการเปลย่ี นแปลงและ
นัยยะที่มีต่ออุดมศึกษา ในด้านต่างๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ การกระจายอานาจสู่ท้องถ่ิน ตลาดแรงงาน ที่ส่งผลต่ อ
อุดมศึกษา และการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เพื่อรองรับความต้องการของ
ตลาดแรงงาน และการขยายตัวด้านบัณฑิตศึกษาและการวิจัย ทั้งในระดับท้องถ่ินของประเทศ ของภูมิภาค และ
ของโลก ซ่ึงเปน็ ข้อมูลหลกั ท่สี าคัญในการจดั ทาและปรบั ปรงุ หลกั สตู ร

13. ความสมั พนั ธ์กับหลักสูตรอืน่ ท่เี ปิดสอนในสาขาวิชาอ่นื ของสถาบนั
13.1 ชดุ วิชา/รายวิชาทต่ี ้องเรียนจากสาขาวิชาอื่น
- ไม่มี –
13.2 ชุดวิชา/รายวิชาในหลกั สูตรนท้ี เ่ี ปดิ สอนให้สาขาวิชาหรือหลกั สตู รอ่นื ต้องเรยี น
- ไมม่ ี -
13.3 การบริหารจดั การ
13.3.1 การบริหารเชิงวิชาการ
การบรหิ ารเชิงวิชาการ ดาเนินการโดยคณะกรรมการผลิต/ปรับปรุงและบริหารชุดวชิ าประจา

แตล่ ะชดุ วชิ า ครอบคลมุ การจดั การเรียนการสอน และการประเมินผล
13.3.2 การบริหารเชงิ ระบบ
การบรหิ ารเชงิ ระบบดาเนนิ การยดึ หลกั “การรวมบริการ-ประสานภารกจิ ” โดยมีหนว่ ยงาน

สนบั สนุนการจัดการเรียนการสอนของทุกชดุ วชิ า ได้แก่
สาํ นกั เทคโนโลยกี ารศกึ ษา มหี น้าที่ออกแบบ จดั ระบบ ผลติ และเผยแพร่สอื่ การศึกษาประจา

ชุดวิชาต่างๆ รว่ มกบั คณะกรรมการผลิต/บริหารชุดวิชา เชน่ การผลิตซดี เี สียงประจาชุดวิชา วซี ดี ปี ระจาชุดวิชา
ซีดมี ัลติมเี ดีย รายการวิทยุกระจายเสียงและวทิ ยโุ ทรทัศน์ สื่อ e-Learning เปน็ ต้น

สํานกั ทะเบียนและวัดผล มีหน้าที่วัดและประเมนิ ผลการศึกษา ร่วมกับคณะกรรมการผลิต/
ปรับปรุงและบริหารชดุ วิชา เช่น การจัดทาแบบทดสอบ การจัดสอบ การตรวจข้อสอบ การตัดสินผลสอบ รวมท้งั
การแจ้งผลการสอบใหก้ บั นักศึกษา เป็นตน้

สาํ นักบัณฑติ ศึกษา มหี นา้ ท่ีประสานงานการจัดสัมมนาเสริม สมั มนาเข้ม รวมทงั้ การจัด
กิจกรรมแนะแนวการศึกษาให้กบั นักศึกษา

สาํ นักวชิ าการ มหี น้าทีป่ ระสานงานการใช้ชุดวชิ าร่วมกัน ของหลกั สตู รต่างๆ

8

หมวดที่ 2 ขอ้ มูลเฉพาะของหลักสูตร

1. ปรัชญา ความสาํ คญั และวัตถุประสงค์ของหลกั สูตร
1.1 ปรัชญา มุ่งสรา้ งบัณฑติ ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารที่มีความรู้ ความสามารถ นาความรู้

ไปประยุกต์ใช้ วิเคราะห์และแก้ปัญหาในการปฏิบัติงาน มีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อประกอบอาชีพและรองรับการ
พฒั นาประเทศ

1.2 วัตถปุ ระสงค์ของหลกั สตู ร
1.2.1 ศกึ ษาคน้ คว้าปญั หาทางวิชาการเชงิ ลึก/ขัน้ สงู สามารถแก้ไขปัญหาและใช้ทักษะต่างๆ ทไี่ ดเ้ รียนรใู้ น

สถานการณต์ า่ งๆ ที่เก่ียวขอ้ งกับเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารได้
1.2.2 สามารถตดิ ตอ่ ส่อื สาร ทางานรว่ มกบั ผอู้ ่นื และแสดงออกซง่ึ ภาวะผนู้ าในกลมุ่ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
1.2.3 มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คมตามจรรยาบรรณวชิ าชพี
1.2.4 มีความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง และมีการพัฒนาทางวิชาชีพอย่าง

ต่อเนอ่ื ง
1.3 คุณลักษณะบัณฑิตทีพ่ งึ ประสงค์
มหาวิทยาลัยได้มีประกาศเรื่องคุณลักษณะบัณฑิตท่ีพึงประสงค์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ.2555

เมื่อวันท่ี 25 มีนาคม 2555 โดยสาขาวิชานาไปกาหนดเป็นเป้าหมายในการพฒั นา/ปรับปรงุ หลักสูตร ตามคาขวัญ
“เปน็ คนดี มีความรอบรู้ มงุ่ ม่นั สอ่ื สารสัมพนั ธ์ ก้าวทนั เทคโนโลยี” ดังนี้

1.3.1 มคี ุณธรรม จริยธรรม บณั ฑิตที่พึงประสงค์ควรมีความซื่อสัตย์ สจุ รติ มีความขยันหม่ันเพียร มีความ
พอเพียงและมีวนิ ัย มีเจตคตทิ ี่เหมาะสม มวี ฒั นธรรม คณุ ธรรมและศลี ธรรมอนั ดมี ีจรรยาบรรณวชิ าชีพ

1.3.2 มีความรอบรู้และมี ประสบการณ์ บัณฑิตที่พึงประสงค์ควรมีความรอบรู้ลุ่มลึกในศาสตร์ท่ีศึกษา มี
ความรู้รอบในศาสตร์ที่เก่ียวข้อง มีความสามารถในการประยุกต์ความรู้สู่การใช้ประโยชน์ มีความสามารถในการ
สรา้ งสรรคท์ างวิชาการ

1.3.3 คิดเป็น แก้ปัญหาได้ บัณฑิตที่พึงประสงค์ควรมีทักษะในการคิดเชิงระบบ วิเคราะห์ สังเคราะห์
วิพากษ์ วจิ ารณ์บนพน้ื ฐานวิชาการ แสวงหาความรใู้ หม่ แก้ปัญหาที่ซบั ซอ้ นไดด้ ี มคี วามคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์

1.3.4 มีความรับผิดชอบ บัณฑิตที่พึงประสงค์ควรมีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีความรับผิดชอบต่อ
องค์กร มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มและสงั คม ทุกระดับ มจี ติ อาสา และจิตสาธารณะ

1.3.5 มีมนุษยสัมพันธ์ดี บัณฑิตที่พึงประสงค์ควรมีความสัมพันธ์ท่ีดีกับบุคคลอื่น สามารถทางานร่วมกับ
ผอู้ ืน่ ได้เปน็ ผูน้ าและผตู้ ามทด่ี ี

1.3.6 มีความสามารถใน การส่ือสารและการ ใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสม บัณฑิตที่พึงประสงค์ควรมี
ทักษะการสื่อสารท่ีดี มีทักษะในการใช้ภาษา มีทักษะในการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสืบค้นติดตาม
ความก้าวหน้าทางวิชาการอย่างรู้เท่าทัน มีความสามารถในการศึกษา วิเคราะห์และนาเสนอผลการศึกษา
วิเคราะห์

1.3.7 ทักษะการศึกษาทางไกล และ สามารถศึกษา ค้นคว้าได้ด้วยตนเอง บัณฑิตที่พึงประสงค์ควรมี
ความสามารถในการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ใฝร่ ู้ใฝเ่ รียนอย่างต่อเน่อื ง มีความมุ่งมั่น ขยันหมัน่ เพยี รอยู่ เปน็ นิจ

9

2. แผนพัฒนาปรับปรุง

2.1 แผนการพัฒนา/ ปรับปรงุ 2.2 กลยุทธ์ 2.3 หลักฐาน/ตวั บ่งช้ี

มติ ทิ ่ี 1 ผ้เู รยี น 1.1.1) ผลการเรยี นแตล่ ะชดุ วิชาใน
รายงานตาม มคอ. 3, 5 และผลการ
1) มีการปรับเปลย่ี นวิธีจดั การเรยี น 1.1) วเิ คราะห์ผลสมั ฤทธ์ทิ างการ ดาเนนิ การของหลักสูตรตาม มคอ. 7
2.1.1) ผลการสารวจความต้องการ
การสอนใหส้ อดคล้องกบั ผเู้ รยี น เรยี นของนักศึกษา ของผเู้ รียน
2.2.1) ผลการประเมินเอกสาร
2) มีการจดั เนื้อหาสาระ เพ่ิมเตมิ 2.1) สารวจความตอ้ งการของ การสอน

ตามองค์ความรู้ท่เี ปล่ียนแปลงไป ผูเ้ รยี น 1.1.1) รายงานผลการประเมิน
ความพงึ พอใจของผู้ใช้บณั ฑิต
และปรับปรุงหลกั สูตรใหส้ อดคลอ้ ง 2.2) การประเมินเอกสารการสอน 2.1.1) รายงานการประชมุ

กบั ความต้องการของผเู้ รยี น 1.1.1) ผลการวิพากษห์ ลักสตู ร/
ผลการประชมุ ระดมความคิดเห็น/
มิตทิ ี่ 2 ผูใ้ ช้บัณฑติ รายงานการประชุม

1) มกี ารติดตามความพึงพอใจของ 1.1) สารวจความพึงพอใจของ

ผ้ใู ช้บณั ฑติ ผใู้ ชบ้ ณั ฑติ

2) มีการปรับปรุงหลักสูตรให้ 2.1) มกี ารจดั ประชมุ

สอดคลอ้ งกับความต้องการของ คณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตร

สังคม

มิติท่ี 3 อื่นๆ

1) ความสอดคล้องของหลักสูตรกับ 1.1) การจดั วิพากษ์หลักสตู รเพ่ือ

นโยบายรฐั บาลและแผนพัฒนา ปรับปรุงหลักสตู รและการระดม

เศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ความคิดเห็นผู้ทรงคุณวฒุ ิจาก

ภาครัฐและภาคเอกชน

หมวดท่ี 3 ระบบการจัดการศึกษา การดําเนินการ และโครงสรา้ งของหลักสูตร

1. ระบบการจดั การศึกษา
1.1 ระบบ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล โดยจัดสาระของ

หลักสูตรเป็นชุดวิชาท่ีบูรณาการเนื้อหาสาระและประสบการณ์ต่างๆ ของชุดวิชาท่ีมีความสัมพันธ์กันเข้า
ไว้ด้วยกันอย่างมีระบบในรูปของชุดการสอนเรียกว่า “ชุดวิชา” ซ่ึงแต่ละชุดวิชามีค่าไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิต
ทวิภาค ของหลักสูตรระดับอุดมศึกษา ชุดวิชาหน่ึงแบ่งหน่วยการสอนออกเป็น 15 หน่วย แต่ละหน่วย
การสอนใช้เวลาศกึ ษาประมาณ 18 ชว่ั โมงตอ่ สัปดาห์

มหาวิทยาลัยจัดการศึกษาเป็นระบบทวิภาค ปีการศึกษาหน่ึงมี 2 ภาคการศึกษาปกติ แต่ละภาค
การศึกษาปกติมีระยะเวลาเรียนไม่น้อยกว่า 15 สัปดาห์ ในภาคการศึกษาปกติแต่ละภาค นักศึกษาจะต้อง

10

ลงทะเบียนเรียนไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิตแต่ไม่เกิน 12 หน่วยกิต แต่นักศึกษาสามารถลงทะเบียนเรียนได้
18 หน่วยกิต ตามท่ีสาขาวิชากาหนดเป็นรายกรณี ส่วนในภาคการศึกษาพิเศษนักศึกษาจะลงทะเบียนเรียนได้
ไม่เกิน 6 หน่วยกิต จนกว่าจะครบจานวนหน่วยกิตตามหลักสูตรในสาขาวิชาที่ศึกษา ท้ังน้ี นักศึกษาต้องใช้เวลา
ศึกษาไม่เกนิ 6 ปกี ารศกึ ษา นับจากวนั เปดิ ภาคการศกึ ษาแรกทเ่ี ข้าศกึ ษาในหลักสตู รนี้

ระบบการศึกษาทางไกลทม่ี หาวิทยาลยั ใชเ้ ป็นระบบการเรียนการสอนทเี่ อื้อให้นักศึกษาสามารถศึกษา
ดว้ ยตนเอง โดยไมต่ ้องเข้าห้องเรยี นตามปกติ แตใ่ ช้วิธกี ารศกึ ษาโดยผา่ นส่ือการสอนต่างๆ ดังนี้

1.1.1 การศึกษาจากส่ือหลัก ส่ือหลัก หมายถึง สื่อสิ่งพิมพ์ที่รวบรวมเน้ือหาสาระ มโนมติ กิจกรรม
และวิธปี ฏิบัติทงั้ หมดของชดุ วชิ า ประกอบด้วย

1) แนวการศึกษา เป็นเอกสารคู่มือการเรียนการสอนของชุดวิชา ประกอบด้วย ส่วนแนะนา
ขอบข่าย วัตถุประสงค์ และวิธีศึกษา หรือส่วนที่เป็นสาระปฐมนิเทศชุดวิชา ส่วนที่เป็นแผนการสอนประจาหน่วย
การสอน สาระสังเขปและกิจกรรม และส่วนที่เปน็ ขา่ วสาร รายละเอียดกิจกรรม บทความอ้างองิ หรือสื่อส่ิงพิมพ์ท่ี
จาเปน็ และเหมาะสม

2) ประมวลสาระชุดวิชา เป็นเนื้อหาสาระในส่วนที่ทดแทนการบรรยายความ ความคิดเห็น
ผลงานและจุดยืนของอาจารย์ผู้สอนเก่ียวกับเน้ือหาสาระของชุดวิชา จัดพิมพ์เป็นตาราชุดตามปกติ ชุดวิชาละ
ไมเ่ กิน 15 หนว่ ย แตล่ ะหนว่ ยมีเน้ือหาสาระทจ่ี ะต้องใช้เวลาศกึ ษาประมาณ 6-18 ชั่วโมง

3) แผนกิจกรรมการศึกษาประจาชุดวิชา เป็นเอกสารคู่มือแนะแนวประกอบกิจกรรม
การศึกษาของนักศึกษาตลอดภาคการศึกษา โดยนักศึกษาจะตอ้ งศึกษาแผนกิจกรรมการศึกษาประจาชุดวชิ าก่อน
ดาเนินกิจกรรมการศึกษา เพื่อจะได้ทราบถึงรายละเอียดต่างๆ ได้แก่ โครงสร้างของเนื้อหาชุดวิชา การเตรียมตัว
ของนักศึกษา การดาเนินการศึกษา งานท่ีกาหนดให้ทา การส่งงาน การเสนอผลงาน การประเมินผลการเรียน
การสัมมนาเขม้ ตารางการศกึ ษาชุดวิชา ตารางการศึกษาประจาสปั ดาห์ และแบบฟอร์มรายงาน เป็นตน้

1.1.2 การศึกษาจากส่ือเสริม เพื่อใหน้ กั ศึกษาสามารถศึกษาเน้ือหาและทากิจกรรมการเรียนการสอน
เพมิ่ เติมนอกเหนือจากสอื่ หลกั ประกอบดว้ ย

1) การเรียนการสอนออนไลน์ เน้นการจัดการเรียนการสอนแบบปฏิสัมพันธ์และการส่ือสาร
บนเครือข่าย ครอบคลุมประกาศ ปฐมนิเทศชุดวิชา รายละเอียดชุดวิชา ปฏิทินการศึกษา การมอบหมายกิจกรรม
การตรวจกิจกรรม การตอบคาถามนักศึกษา การใหข้ ้อมูลยอ้ นกลบั และการสมั มนาเสริมออนไลน์

2) บทเรียนออนไลน์ (ถา้ มี) เสนอเน้ือหาสาระและประสบการณ์ในรูปแบบการสรปุ เสริมเติมเต็ม
3) ดีวีดีประจาชุดวิชา (ถ้ามี) เสนอเนื้อหาสาระและประสบการณ์ ในรูปแบบกรณีศึกษา หรือ
เสรมิ เนือ้ หา
1.1.3 การศึกษาจากแหล่งค้นคว้าและแหล่งวิทยาการต่างๆ ภายใต้การให้คาแนะนาจากอาจารย์ที่
ปรกึ ษา
1.1.4 การเข้าร่วมกิจกรรมปฏิสมั พันธ์ ไดแ้ ก่ การปฐมนเิ ทศเชงิ ปฏิบตั ิการบณั ฑติ ศึกษา การสัมมนา
เสรมิ การสมั มนาเข้ม การอบรมเข้มเสริมประสบการณ์มหาบัณฑิต และการฝึกอบรม/การฝึกปฏบิ ตั ิตามทห่ี ลกั สตู ร
กาหนด

11

1.2 การจัดการศึกษาภาคพิเศษ
ไม่มี

1.3 การเทยี บเคียงหน่วยกติ ในระบบทวิภาค
ไม่มี

2. การดาํ เนินการหลกั สูตร

2.1 วัน – เวลาในการดาํ เนนิ การเรยี นการสอน

 ภาคตน้ 15 กันยายน ถงึ 20 มกราคม ของทุกปี

 ภาคปลาย 15 มนี าคม ถึง 20 กรกฎาคม ของทุกปี

2.2 คณุ สมบตั ิของผเู้ ข้าศกึ ษา

1) สาเรจ็ การศึกษาข้ันปรญิ ญาตรี หรือเทยี บเท่าจากสถาบันอดุ มศึกษาทีส่ ภามหาวิทยาลัยรบั รอง

2) มีประสบการณ์การทางานภายหลังจากสาเร็จการศึกษาขัน้ ปรญิ ญาตรีไม่น้อยกวา่ 1 ปี

3) มคี วามรคู้ วามสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษและการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้

4) ผู้มีสทิ ธเิ ขา้ ศึกษาซึ่งมคี ุณสมบัติตามข้อ 1) – 3) ตอ้ งไม่เปน็ โรคท่เี ป็นอปุ สรรคต่อการศกึ ษาหรือ

เคยถูกถอนสถานภาพการเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเน่ืองจากความประพฤติเสื่อมเสยี หากการกระทานนั้ ได้

กระทาโดยมิได้มีเจตนากระทาความผิด หรือกระทาโดยประมาท และลแุ ก่โทษในการกระทาจะกลับเข้าศกึ ษาใหม่

ได้ หากสภาวชิ าการเหน็ สมควรใหเ้ ขา้ ศึกษา ท้งั น้เี มอ่ื พ้นกาหนด 5 ปี นบั ตั้งแตว่ นั ประกาศถอนสภาพการเป็น

นักศึกษา

2.3 ปัญหาของนกั ศึกษาแรกเข้า 2.4 กลยุทธ์ในการดําเนินการเพอ่ื แกไ้ ขปญั หา/
ข้อจํากดั ของนกั ศึกษา

2.3.1 ปญั หาจากการศกึ ษาในระบบการศึกษาทางไกล 2.4.1 กลยุทธ์ในการดําเนนิ การเพอื่ แกไ้ ขปัญหา/
1) ความไม่คุ้นเคยกับระบบการศกึ ษาทางไกล ข้อจาํ กดั ของนักศกึ ษาในระบบการศกึ ษาทางไกล

1) ก่อนเรียนมีการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ใน
รูปการประชมุ เชงิ ปฏบิ ัตกิ ารที่นกั ศกึ ษาทุกคนจะต้องเข้า
ร่วม

2) มีการให้ สื่อส่ิงพิ มพ์ อิเล็กท รอนิ กส์การ
ปฐมนิเทศแก่นกั ศกึ ษาทุกคน

3) มีการให้ข้อมูล ข่าวสาร คาแนะนาวิธีการ
แก้ปัญหาการเรียนต้ังแต่ก่อนเรียน ระหว่างเรียน ในสื่อ
ส่งิ พิมพ์/ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ตา่ งๆ เช่น คู่มอื นกั ศกึ ษา เป็น
ตน้

4) มีการใหค้ าปรกึ ษาแนะนาและช่วยแก้ไขปัญหา
ต่างๆ แก่นักศึกษาโดยตรงจากนักแนะแนวการศึกษา
และอาชพี ประจาฝา่ ยแนะแนวการศกึ ษา สานกั บรกิ าร

2.3 ปญั หาของนักศึกษาแรกเข้า 12

2) การปรบั ตัวในการเรียน 2.4 กลยุทธ์ในการดําเนินการเพอ่ื แก้ไขปญั หา/
3) ทกั ษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อจาํ กดั ของนักศกึ ษา
4) ค่าใชจ้ า่ ยในการศกึ ษา
การศึกษา สานกั บัณฑิตศกึ ษา สานักวิชาการ คณาจารย์
ของสาขาวชิ า และศูนย์วทิ ยพัฒนา มสธ. 10 ศูนย์ทวั่
ประเทศ

5) มชี อ่ งทางการตดิ ต่อสอบถามเกีย่ วกบั ปัญหา
การเรียนหลายชอ่ งทางเพ่ืออานวยความสะดวกให้
นักศกึ ษา ได้แก่ โทรศัพท์ โทรสาร อินเทอร์เนต็
ไปรษณีย์ และการติดต่อโดยตรงทม่ี หาวิทยาลัยหรอื ศนู ย์
วทิ ยพฒั นา มสธ. ท่ัวประเทศ เป็นตน้

6) มกี ารสนับสนนุ ให้นักศึกษาแต่ละจงั หวดั
รวมกันจดั ต้งั ชมรมนักศึกษา จังหวัดละ 1 ชมรม
กระจายอยูท่ ั่วประเทศ เพื่อสรา้ งเสริม สรา้ งสรรค์ และ
สนับสนุนการเรยี นด้วยตนเองซ่ึงกันและกนั โดย
มหาวิทยาลัยเป็นทป่ี รกึ ษา เป็นต้น

1) จดั ปฐมนเิ ทศเชงิ ปฏิบัติการ
2) จัดอาจารย์ทีป่ รกึ ษาวชิ าการให้คาแนะนาแก่
นักศกึ ษา
3) จัดส่ือ (ซีดี) เพ่ือจัดเตรียมความพร้อมด้านวิธี
เรียนและดา้ นเนื้อหาหรือใหค้ วามรพู้ นื้ ฐานแก่นกั ศึกษา
4) การจัดกิจกรรมรุ่นพี่พบรุ่นน้องในวันปฐมนิเทศ
เพ่ื อ ให้ ค า ป รึ ก ษ า แ ล ะ แ บ่ ง ปั น ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ให้ แ ก่
นักศึกษาใหม่

1) จัดแนะนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวัน
ปฐมนิเทศและมีซีดีแนะนาการค้นคว้าให้นักศึกษา
ทกุ คน

1) มีทุนสนับสนุนการทาวิทยานิพนธ์ การศึกษา
คน้ ควา้ อสิ ระและการไปนาเสนอผลงานวิจยั แกน่ กั ศึกษา

13

2.3 ปัญหาของนักศึกษาแรกเข้า 2.4 กลยุทธใ์ นการดําเนนิ การเพื่อแก้ไขปญั หา/

ข้อจาํ กดั ของนกั ศึกษา

2.3.2 ปญั หาซ่งึ เปน็ ลกั ษณะเฉพาะของหลักสตู ร 2.4.2 กลยุทธ์ในการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหลกั สูตร

1) นักศึกษาส่วนใหญ่มีงานทาอยู่แล้ว มักมีปัญหา 1) มกี ารแจ้งกาหนดเวลาของแต่ละชุดวชิ าเพ่ือให้

การลางานเพื่อมาทากิจกรรมของหลักสูตร เช่น การ นกั ศกึ ษาไดว้ างแผนการเรยี นล่วงหนา้

ปฐมนิเทศ สัมมนาเสริม สัมมนาเข้ม เป็นต้น ตามเวลา 2) จัดการเรยี นการสอนทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ –

และสถานทท่ี ีม่ หาวิทยาลัยกาหนด สัมมนาเสรมิ ออนไลน์

2) ปัญหาของเนื้อหาชุดวิชาทางด้านเทคโนโลยี 1) จดั อาจารย์ทีป่ รกึ ษาทางวิชาการ
สารสนเทศและการส่ือสารในบางส่วนท่ีมีความซับซ้อน 2) จัดการเรียนการสอนทางอิเลก็ ทรอนิกส์
รวมท้ังการใช้ซอฟต์แวร์ที่เก่ียวข้องกับเนื้อหา จึงยากต่อ
นกั ศกึ ษาทีจ่ ะศกึ ษาดว้ ยตนเอง

2.5 แผนการรับนกั ศึกษาและผู้สาํ เร็จการศกึ ษาในระยะ 5 ปี
จานวนนักศึกษาที่คาดว่าจะเข้าศึกษาและสาเร็จการศึกษาตามหลักสูตรในแต่ละปีการศึกษา เป็น

ระยะเวลา 5 ปกี ารศกึ ษา โดยเร่ิมต้งั แต่ปีการศึกษา 2560 ถงึ ปกี ารศกึ ษา 2564

จานวนนกั ศกึ ษา (หน่วย : คน)
ปกี ารศกึ ษา
นักศกึ ษาใหม่ 2560 2561 2562 2563 2564
นกั ศกึ ษาเดิมปี 2-3 50 50 50 50 50
รวม - 45 49 50 50
จานวนทค่ี าดว่าจะสาเรจ็ การศึกษา 50 95 99 100 100
- 24 26 27 27

หมายเหตุ จานวนอาจารย์ผู้สอนต่อนักศกึ ษาปรญิ ญาโท ตามเกณฑ์ภาระงานทกี่ าหนด ดงั น้ี
แผน ก 1:10
แผน ข 1:15

14

2.6 งบประมาณตามแผน

2.6.1 งบประมาณรายรบั (หนว่ ย : บาท)

รายละเอียดรายรบั 2560 ปงี บประมาณ 2564
2561 2562 2563
ค่าบารงุ การศกึ ษา 350,000
ค่าลงทะเบยี น 2,100,000 530,000 546,000 550,000 550,000
2,450,000
รวมรายรับ 3,450,000 3,486,000 3,495,000 3,495,000

3,980,000 4,032,000 4,045,000 4,045,000

2.6.2 งบประมาณรายจ่าย

(หนว่ ย : บาท)

หมวดเงนิ ปงี บประมาณ

2560 2561 2562 2563 2564

ก. งบดาเนินการ

1. คา่ ใชจ้ ่ายบคุ ลากร 295,620 313,357 332,159 352,088 373,213
3,361,040 2,377,440 2,381,540 2,381,540
2. ค่าใช้จา่ ยดาเนินงาน 3,078,900 168,052 118,872 119,077 119,077
3,842,449 2,828,471 2,852,705 2,873,830
3. รายจ่ายระดับมหาวิทยาลยั 153,945

รวม (ก) 3,528,465

ข. งบลงทุน

คา่ ครุภณั ฑ์ - - - - -
- - - -
รวม (ข) - 3,842,449 2,828,471 2,852,705 2,873,830
95 99 100 100
รวม (ก) + (ข) 3,528,465 40,447 28,570 28,527 28,738

จานวนนักศึกษา 50

ค่าใชจ้ า่ ยต่อหวั นกั ศึกษา 70,569

ค่าใช้จา่ ยตอ่ หัวนกั ศกึ ษา 72,477 บาทต่อปี

2.7 ระบบการศกึ ษา
แบบชน้ั เรยี น

 แบบทางไกลผ่านสื่อสิง่ พิมพ์เป็นหลัก
แบบทางไกลผ่านสื่อแพร่ภาพและเสียงเป็นส่ือหลัก
แบบทางไกลทางอเิ ล็กทรอนิกส์เป็นสือ่ หลกั (e-Learning)
แบบทางไกลทางอินเทอรเ์ น็ต
อนื่ ๆ (ระบ)ุ ……………………………….

15

2.8 การเทียบโอนหน่วยกิต ชุดวชิ าและการลงทะเบียนเรียนข้ามมหาวิทยาลัย
การเทียบโอนหน่วยกิตและชุดวิชา ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้รับผิดชอบหลักสูตร

คณะกรรมการบัณฑิตศึกษาสาขาวิชา และคณะกรรมการบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ต้องเป็นไปตาม
ข้อบังคับว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ประกาศหลักเกณฑ์การเทียบโอนผลการเรียนรู้ของสานักงาน
คณะกรรมการการอดุ มศึกษา และประกาศหรอื ขอ้ กาหนดทเี่ ก่ียวขอ้ ง

3. หลกั สูตรและอาจารย์ผู้สอน

3.1 หลักสตู ร

3.1.1 จาํ นวนหน่วยกติ

รวมตลอดหลักสตู รตอ้ งศกึ ษาไม่น้อยกว่า 36 หนว่ ยกติ

3.1.2 โครงสร้างหลักสูตร

โครงสรา้ งหลกั สูตร แบ่งเปน็ หมวดวิชาสอดคล้องกบั ท่ีกาหนดไว้ในเกณฑ์มาตรฐานหลักสตู รของ

กระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. 2548 ดังนี้

แผน ก แบบ ก 2 ตลอดหลักสตู รศึกษาไมน่ ้อยกวา่ 36 หน่วยกิต

ก. หมวดวชิ าเฉพาะ 4 ชดุ วชิ า (24 หนว่ ยกิต)

ข. วทิ ยานิพนธ์ (12 หนว่ ยกิต)

ค. การอบรมเขม้ เสริมประสบการณม์ หาบัณฑิต (ไม่นับหน่วยกิต)

แผน ข ตลอดหลักสูตรศึกษาไมน่ อ้ ยกวา่ 36 หน่วยกิต

ก. หมวดวิชาเฉพาะ 5 ชุดวชิ า (30 หนว่ ยกิต)

ข. การศึกษาค้นคว้าอิสระ 1 ชดุ วิชา (6 หน่วยกติ )

ค. การอบรมเข้มเสริมประสบการณม์ หาบัณฑิต (ไมน่ ับหนว่ ยกิต)

3.1.3 ชุดวิชา

1) ความหมายของรหสั ชดุ วชิ า

เน่ืองจากมหาวิทยาลัยมีนโยบายปรับปรงุ รหัสชุดวิชาจากเดิมตัวเลข 5 หลัก เป็นตัวเลข 8 หลัก

ดงั น้ัน ความหมายของรหัสชุดวิชาจงึ มี 2 รปู แบบ ดงั น้ี

ก. รหสั ชดุ วชิ าตวั เลข 5 หลกั

มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีประกาศเรื่อง การกาหนดรหัสชุดวิชา ลงวันท่ี

6 พฤศจิกายน 2534 กาหนดรหสั ชุดวชิ าตา่ งๆ ดังนี้

ใหช้ ดุ วชิ าตา่ งๆ มรี หัสประจาชุดวิชาเป็นเลข 5 หลัก โดยมีความหมาย ดังน้ี

สองหลักแรก เป็นรหัสบอกสาขาวชิ า แขนงวชิ า และวิชาเอก

หลักที่สาม เป็นรหัสบอกระดบั ข้ันของชุดวิชา

หลกั ทสี่ ีแ่ ละห้า เป็นรหัสบอกลาดบั ของชดุ วิชา

การกาหนดรหสั หลักที่สามให้มีความหมาย ดงั นี้

0 หมายถงึ 16
1 หมายถงึ
2 หมายถึง ชุดวชิ าท่ีตา่ กว่าระดบั ปรญิ ญาตรี
3 หมายถึง ชดุ วชิ าระดบั ปรญิ ญาตรี ชัน้ ปีที่ 1
4 หมายถงึ ชุดวิชาระดับปริญญาตรี ชัน้ ปีท่ี 2
5 หมายถึง ชดุ วิชาระดบั ปรญิ ญาตรี ชั้นปที ี่ 3
ชุดวิชาระดับปรญิ ญาตรี ชัน้ ปที ี่ 4
6 หมายถึง ชดุ วิชาระดบั ประกาศนยี บตั รบัณฑิต และเป็นชุดวชิ าท่ีโอนเทยี บ
หน่วยกิตเพ่อื ศกึ ษาในระดับปรญิ ญาโท หรือ หลงั ปริญญาโทไม่ได้
7 หมายถึง ชดุ วชิ าระดบั ประกาศนียบตั รบัณฑิต และเป็นชุดวชิ าท่ีโอนเทียบ
หนว่ ยกิตเพือ่ ศึกษาในระดับปรญิ ญาโท หรอื หลังปรญิ ญาโทได้
ชุดวชิ าระดบั ปริญญาโท

8 หมายถงึ ชดุ วชิ าในหลักสตู รหลงั ปรญิ ญาโท

9 หมายถงึ ชุดวิชาระดบั ปรญิ ญาเอก

ข. รหัสชดุ วชิ าตัวเลข 8 หลกั

มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช มีประกาศเรื่อง กาหนดมาตรฐานข้อมลู ตา่ งๆ ของ

มหาวิทยาลยั พ.ศ. 2554 ลงวนั ท่ี 27 พฤษภาคม 2554 กาหนดรหัสชดุ วชิ าดงั นี้

หลกั ท่ี 1 หมายถึง ระดับการศึกษา

รหัสระดบั การศกึ ษา ระดบั การศกึ ษา

0 สัมฤทธิบตั ร

1 ประกาศนียบตั ร/อนปุ ริญญา

2 ปริญญาตรี

3 สัมฤทธิบัตรบณั ฑิต

4 ประกาศนยี บัตรบัณฑติ

5 ปริญญาโท

6 ประกาศนยี บตั รบณั ฑติ ชั้นสูง

7 ปริญญาเอก

8 Post Doctoral Diploma

9 อืน่ ๆ

หลกั ท่ี 2 - 3 หมายถึง หลักท่ี 2 - 3 ของรหัสสาขาวิชา
หลักท่ี 4 หมายถึง แขนงวิชาหรอื เทยี บเทา่
หลักที่ 5 หมายถึง หมวดวชิ า

17

รหสั หมวดวชิ า ชอื่ หมวดวิชา

1 หมวดวิชาศกึ ษาทว่ั ไป

2 * หมวดวชิ าแกน

3 * หมวดวชิ าเฉพาะ/บงั คบั /เลือก/เลอื กเสรี

4 ดษุ ฎีนพิ นธ์/วทิ ยานพิ นธ์/การศกึ ษาค้นคว้าอสิ ระ

5 การอบรมเข้มเสริมประสบการณ์/ประสบการณ์

วชิ าชีพ (ทุกระดับการศึกษา)

* กรณชี ดุ วิชานนั้ อยู่ในหมวดวชิ าแกนของหลกั สูตรหนึง่ แต่อยู่ในหมวดวชิ าเฉพาะของอีกหนงึ่ หลกั สูตร

จะใชร้ หสั หมวดวชิ าแกน

หลักท่ี 6 - 8 หมายถงึ ลาดับชุดวชิ า

2) ความหมายของกาํ หนดเวลาการศกึ ษา
มหาวิทยาลยั กาหนดเวลาที่นักศกึ ษาควรใช้ในการศึกษาชุดวชิ าแต่ละชุดวิชาในแต่ละสปั ดาห์ เพอ่ื เป็น

แนวทางให้นักศึกษาสามารถวางแผนการศึกษาของตนเองได้อย่างเหมาะสม โดยแต่ละชุดวิชาจะมีกาหนดเวลา
แตกต่างกันตามเน้ือหาสาระ และวัตถุประสงค์ของชุดวิชา แต่ทั้งนี้เวลาศึกษาท้ังหมดจะรวมกันได้ประมาณ
18 ชัว่ โมงต่อสัปดาห์ โดยกระจายเวลาสาหรับแตล่ ะกจิ กรรมตามทร่ี ะบเุ ปน็ สญั ลักษณด์ ังนี้

6 (อ - ส - ป - ก) = 18 ชวั่ โมง หมายถงึ
6 หมายถงึ 6 หนว่ ยกติ
อ หมายถึง การศึกษาจากส่ือหลกั คือ สื่อส่ิงพิมพ์ หรือสอื่ อิเล็กทรอนิกส์ตามท่หี ลักสตู รกาหนด
สอื่ สิ่งพิมพ์ ประกอบดว้ ย ประมวลสาระชดุ วิชา หรือหนงั สือทดแทน หรือเอกสารคัดสรร แหล่งความรู้
คัดสรรหรือตาราเรียนดว้ ยตนเอง หรือหนังสือชุดความรู้ และแนวการศึกษา แผนกิจกรรมการศึกษาชุดวิชา รวมท้ังส่ือ
อื่นๆ ท่ีเป็นส่อื ประจาชุดวิชา เช่น ซีดีเสียง/ ดีวีดี/ ซีดีมลั ตมิ ีเดยี ประจาชุดวชิ า (ถา้ ม)ี เป็นต้น
ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ประกอบด้วย วธิ ีการผสมผสานระหว่างการเรยี นการสอนแบบออนไลน์ หรือ
ออฟไลน์ แบบดจิ ิทัล หรอื แอนะล็อก แบบเข้าถึงไดไ้ ม่พร้อมกนั (Asynchronous) หรือเข้าถงึ ได้พร้อมกนั ในเวลา
เดยี วกัน (Synchronous) ซง่ึ ประกอบด้วย บทเรยี นอเิ ล็กทรอนกิ ส์ แนวการศึกษาชุดวิชา และแผนกจิ กรรม
การศึกษาชดุ วิชา
ทัง้ น้ี ใช้เวลาประมาณ 12-14 ช่วั โมงตอ่ สปั ดาห์
ส หมายถึง การศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเติมจากแหล่งความรู้ และเอกสารแนะนา ใชเ้ วลาประมาณ
0-2 ช่วั โมงตอ่ สปั ดาห์
ป หมายถึง การทากิจกรรมภาคปฏิบัติ การสัมมนาเข้ม การอบรมเข้มเสริมประสบการณ์
มหาบณั ฑิตใชเ้ วลาประมาณ 0-2 ชวั่ โมงต่อสปั ดาห์ หรอื ตามท่ีสภาวชิ าชีพ/ องค์กรวิชาชีพกาหนด

18

ก หมายถงึ การศึกษาจากสื่อและกจิ กรรมปฏสิ ัมพนั ธ์ คอื การสมั มนาเสริมแบบเผชญิ หนา้ /หรือ
ผ่านสอ่ื อิเลก็ ทรอนิกส์ ใช้เวลาประมาณ 0-2 ช่วั โมงตอ่ สัปดาห์

โดยแบง่ การจดั การเรยี นการสอน 2 รปู แบบ ดงั นี้
รูปแบบที่ 1 สาหรบั ชุดวิชาทกี่ าหนดใหม้ ีกิจกรรมปฏิสัมพันธ์ รอ้ ยละ 25 ดงั น้ี
6 (14-2-0-2) = 18 ชั่วโมง หมายถงึ
6 = 6 หน่วยกิต
14 = ศึกษาจากสื่อหลัก คือ สื่อส่งิ พิมพ์ หรือสือ่ อิเล็กทรอนิกสต์ ามทห่ี ลกั สูตรกาหนด
ส่ือสิ่งพิมพ์ ประกอบด้วย ประมวลสาระชุดวชิ า หรือหนงั สือทดแทน หรือเอกสารคัดสรร แหล่งความรู้
คัดสรรหรือตาราเรียนดว้ ยตนเอง หรือหนังสือชุดความรู้ และแนวการศึกษา แผนกิจกรรมการศึกษาชุดวิชา รวมทั้งส่ือ
อืน่ ๆ ที่เป็นสอ่ื ประจาชดุ วชิ า เชน่ ซีดีเสียง/ ดีวีดี/ ซดี ีมัลติมีเดียประจาชุดวิชา (ถ้าม)ี เป็นต้น
สอื่ อิเล็กทรอนกิ ส์ ประกอบด้วย วธิ ีการผสมผสานระหวา่ งการเรียนการสอนแบบออนไลน์ หรอื
ออฟไลน์ แบบดจิ ิทัล หรอื แอนะล็อก แบบเขา้ ถึงไดไ้ ม่พร้อมกนั (Asynchronous) หรือเข้าถงึ ได้พร้อมกันในเวลา
เดยี วกนั (Synchronous) ซง่ึ ประกอบด้วย บทเรยี นอเิ ล็กทรอนิกส์ แนวการศกึ ษาชดุ วชิ า และแผนกจิ กรรม
การศึกษาชดุ วิชา
ใชเ้ วลาประมาณ 14 ชวั่ โมงต่อสัปดาห์
2 = ศกึ ษาคน้ ควา้ เพ่มิ เติมจากแหล่งความรู้ และเอกสารแนะนา ใชเ้ วลาประมาณ
2 ชัว่ โมงตอ่ สปั ดาห์
0 = ไมม่ ีกิจกรรมภาคปฏิบตั ิ การสัมมนาเข้ม การอบรมเข้มเสริมประสบการณ์
มหาบณั ฑติ หรือตามทสี่ ภาวชิ าชพี / องค์กรวชิ าชพี กาหนด
2 = ศึกษาจากสอ่ื และกิจกรรมปฏิสัมพนั ธ์ คือ การสัมมนาเสริมแบบเผชญิ หน้า /
หรือผ่านสื่ออิเล็กทรอนกิ ส์ ใช้เวลาประมาณ 2 ช่วั โมงต่อสปั ดาห์
รูปแบบท่ี 2 สาหรับชดุ วชิ าที่กาหนดใหม้ ีกิจกรรมปฏิสมั พันธ์ รอ้ ยละ 50 ดังนี้
6 (12-2-2-2) = 18 ชัว่ โมง หมายถึง
6 = 6 หนว่ ยกติ
12 = ศึกษาจากสื่อหลัก คือ ส่ือสง่ิ พิมพ์ หรือสื่ออิเล็กทรอนกิ สต์ ามท่ีหลกั สตู รกาหนด
สอื่ ส่ิงพิมพ์ ประกอบด้วย ประมวลสาระชุดวิชา หรือหนงั สือทดแทน หรือเอกสารคัดสรร แหลง่ ความรู้
คัดสรรหรือตาราเรียนด้วยตนเอง หรือหนังสือชุดความรู้ และแนวการศึกษา แผนกจิ กรรมการศึกษาชุดวชิ า รวมท้ังส่ือ
อน่ื ๆ ที่เป็นสือ่ ประจาชุดวิชา เช่น ซีดีเสียง/ ดีวีดี/ ซดี ีมัลติมีเดียประจาชุดวิชา (ถา้ มี) เป็นต้น
สอื่ อิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย วิธกี ารผสมผสานระหวา่ งการเรยี นการสอนแบบออนไลน์ หรือ
ออฟไลน์ แบบดิจิทัล หรือแอนะล็อก แบบเข้าถึงไดไ้ มพ่ ร้อมกนั (Asynchronous) หรือเข้าถงึ ได้พร้อมกนั ในเวลา

19

เดียวกนั (Synchronous) ซง่ึ ประกอบดว้ ย บทเรียนอิเล็กทรอนกิ ส์ แนวการศึกษาชดุ วชิ า และแผนกิจกรรม

การศึกษาชดุ วิชา

ใช้เวลาประมาณ 12 ชัว่ โมงต่อสปั ดาห์

2 = ศึกษาค้นควา้ เพ่ิมเติมจากแหล่งความรู้ และเอกสารแนะนา ใชเ้ วลาประมาณ

2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ = มกี จิ กรรมภาคปฏบิ ัติ การสัมมนาเข้ม การอบรมเข้มเสริมประสบการณ์
2

มหาบัณฑติ ใชเ้ วลาประมาณ 2 ช่วั โมงต่อสปั ดาห์ หรือตามทส่ี ภาวชิ าชีพ/ องค์กรวชิ าชพี กาหนด

2 = ศึกษาจากสือ่ และกจิ กรรมปฏิสมั พนั ธ์ คือ การสมั มนาเสรมิ แบบเผชิญหน้า /

หรอื ผา่ นส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์ ใช้เวลาประมาณ 2 ชัว่ โมงตอ่ สัปดาห์

3) ชอ่ื ชุดวิชา

แผน ก แบบ ก 2

ก. หมวดวิชาเฉพาะ 4 ชดุ วชิ า

บังคับ 3 ชดุ วิชา

99703 (51133003) การจัดการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารเชิงกลยทุ ธ์ 6(14-2-0-2)

Strategic Information and Communication Technology

Management

99708 (51133008) ระเบยี บวิธวี จิ ัยและเครอื่ งมือในการพัฒนาระบบด้านเทคโนโลยี 6(12-2-2-2)

สารสนเทศและการสื่อสาร

Research Methodology and Tools in System Development for

Information and Communication Technology

99709 (51133009) ธุรกจิ ดิจทิ ัลและการประยกุ ต์ 6(14-2-0-2)

Digital Business and Applications

และเลือก 1 ชุดวิชาจากชุดวิชาต่อไปนี้ 6(12-2-2-2)
99705 (51133005) ความม่นั คงดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6(12-2-2-2)
6(12-2-2-2)
Information and Communication Technology Security 6(12-2-2-2)
99707 (51133007) ระบบสารสนเทศภมู ิศาสตรแ์ ละการประยกุ ต์

Geographic Information System and Applications
99710 (51133010) เทคโนโลยเี คล่อื นท่ีไร้สายและการประยุกต์

Mobile Wireless Technology and Application
99711 (51133011) การวเิ คราะห์ข้อมลู ขนาดใหญส่ าหรบั ธรุ กิจ

Big Data Analytics for Business

20

ข. วทิ ยานพิ นธ์

99798 (51134001) วิทยานิพนธ์ (12 หน่วยกิต)

Thesis

ค. การอบรมเข้มเสรมิ ประสบการณม์ หาบณั ฑิต

99799 (51135001) การอบรมเข้มเสรมิ ประสบการณม์ หาบัณฑติ (ไมน่ ับหนว่ ยกิต)

เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร*

Graduate Professional Experience in Information and

Communication Technology

* เปน็ การอบรมเข้มท่เี น้นการฝกึ ปฏิบตั เิ พื่อเสริมสร้างประสบการณ์ โดยมีการ

ประเมนิ ผลการอบรมเข้ม แต่ไมเ่ ปน็ ผลมาคดิ หนว่ ยกิตสะสม

แผน ข

ก. หมวดวชิ าเฉพาะ 5 ชุดวิชา

บังคับ 4 ชุดวิชา

99703 (51133003) การจดั การเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารเชงิ กลยุทธ์ 6(14-2-0-2)

Strategic Information and Communication Technology

Management

99708 (51133008) ระเบียบวิธีวจิ ัยและเครือ่ งมือในการพฒั นาระบบด้านเทคโนโลยี 6(12-2-2-2)

สารสนเทศและการสื่อสาร

Research Methodology and Tools in System Development for

Information and Communication Technology

99709 (51133009) ธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั และการประยุกต์ 6(14-2-0-2)

Digital Business and Applications

99710 (51133010) เทคโนโลยีเคลื่อนที่ไร้สายและการประยกุ ต์ 6(12-2-2-2)

Mobile Wireless Technology and Application

และเลือก 1 ชดุ วิชาจากชุดวิชาต่อไปน้ี 6(12-2-2-2)
99705 (51133005) ความม่ันคงด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร 6(12-2-2-2)
6(12-2-2-2)
Information and Communication Technology Security
99707 (51133007) ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และการประยุกต์

Geographic Information System and Applications
99711 (51133011) การวิเคราะห์ข้อมลู ขนาดใหญส่ าหรับธรุ กจิ

Big Data Analytics for Business

21

ข. การศึกษาคน้ คว้าอสิ ระ

99797 (51134002) การศกึ ษาค้นคว้าอิสระ (6 หนว่ ยกติ )

Independent Study

ค. การอบรมเข้มเสรมิ ประสบการณ์มหาบัณฑิต

99799 (51135001) การอบรมเขม้ เสรมิ ประสบการณ์มหาบณั ฑติ (ไม่นบั หนว่ ยกิต)

เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร*

Graduate Professional Experience in Information and

Communication Technology

* เปน็ การอบรมเข้มท่ีเน้นการฝึกปฏบิ ตั เิ พ่อื เสรมิ สรา้ งประสบการณ์ โดยมกี าร

ประเมนิ ผลการอบรมเขม้ แต่ไม่เป็นผลมาคิดหนว่ ยกิตสะสม

3.1.4 แผนการศึกษา

แผน ก แบบ ก 2

ปที ่ี 1 ภาคตน้ หนว่ ยกิต (กําหนดเวลาการศกึ ษา)

99708 (51133008) ระเบียบวิธวี จิ ัยและเครอื่ งมือในการพฒั นาระบบด้านเทคโนโลยี 6(12-2-2-2)

สารสนเทศและการสอ่ื สาร

99709 (51133009) ธุรกจิ ดิจิทัลและการประยกุ ต์ 6(14-2-0-2)

ปที ่ี 1 ภาคปลาย หนว่ ยกติ (กําหนดเวลาการศกึ ษา)

99703 (51133003) การจดั การเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเชิงกลยุทธ์ 6(14-2-0-2)

และเลือก 1 ชดุ วิชาจากชุดวชิ าต่อไปนี้

99705 (51133005) ความม่นั คงดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร 6(12-2-2-2)

99707 (51133007) ระบบสารสนเทศภูมศิ าสตรแ์ ละการประยกุ ต์ 6(12-2-2-2)

99710 (51133010) เทคโนโลยเี คลือ่ นที่ไร้สายและการประยุกต์ 6(12-2-2-2)

99711 (51133011) การวิเคราะห์ข้อมลู ขนาดใหญส่ าหรับธุรกจิ 6(12-2-2-2)

ปที ่ี 2 ภาคต้น หน่วยกติ (กาํ หนดเวลาการศกึ ษา)
99798 (51134001) วทิ ยานิพนธ์ (12 หนว่ ยกิต)
ปที ี่ 2 ภาคปลาย
99798 (51134001) วทิ ยานพิ นธ์ หนว่ ยกติ (กาํ หนดเวลาการศึกษา)
99799 (51135001) การอบรมเข้มเสริมประสบการณ์มหาบณั ฑิต (12 หน่วยกิต)

เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (ไมน่ ับหน่วยกติ )

22

แผน ข

ปีที่ 1 ภาคตน้ หน่วยกิต (กําหนดเวลาการศึกษา)

99708 (51133008) ระเบียบวิธีวิจัยและเคร่ืองมือในการพัฒนาระบบด้านเทคโนโลยี 6(12-2-2-2)

สารสนเทศและการสอื่ สาร

99709 (51133009) ธุรกจิ ดิจิทลั และการประยกุ ต์ 6(14-2-0-2)

ปีที่ 1 ภาคปลาย หน่วยกติ (กําหนดเวลาการศึกษา)

99703 (51133003) การจัดการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารเชงิ กลยุทธ์ 6(14-2-0-2)

และเลือก 1 ชดุ วชิ าจากชุดวชิ าต่อไปนี้

99705 (51133005) ความมน่ั คงดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร 6(12-2-2-2)

99707 (51133007) ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และการประยกุ ต์ 6(12-2-2-2)

99711 (51133011) การวเิ คราะห์ขอ้ มูลขนาดใหญส่ าหรับธรุ กจิ 6(12-2-2-2)

ปีท่ี 2 ภาคต้น หน่วยกิต (กาํ หนดเวลาการศกึ ษา)
99710 (51133010) เทคโนโลยีเคลอื่ นที่ไรส้ ายและการประยกุ ต์ 6(12-2-2-2)
99797 (51134002) การศึกษาคน้ คว้าอสิ ระ (6 หน่วยกติ )
ปที ่ี 2 ภาคปลาย
99799 (51135001) การอบรมเข้มเสรมิ ประสบการณ์มหาบณั ฑติ หนว่ ยกติ (กาํ หนดเวลาการศึกษา)
(ไม่นับหน่วยกติ )
เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร

3.1.5 คาํ อธิบายชุดวิชา
รายละเอยี ดปรากฏตามที่ระบใุ นภาคผนวก ก

23

3.2 ชอ่ื สกุล เลขประจาํ ตัวบัตรประชาชน ตําแหนง่ คณุ วุฒขิ องอาจารย์

3.2.1 อาจารยป์ ระจําหลักสูตร สาขาวชิ า สาเร็จการศึกษา ภาระงานการ
สถาบัน
ลาดับ ตาแหน่ง ชือ่ – สกุล คณุ วฒุ ิ ปี เป็นคณะ

ท่ี ทางวชิ าการ กรรมการบริหาร

ชดุ วิชา

(ชุดวิชา/ปี

การศึกษา)

1 รศ.ดร. นางวิภา Ph.D. Computer Illinois Institute of 2537 3 ชุดวชิ า
เจริญภณั ฑารักษ์ Science
Technology, USA
xxxxxxxxx4358 วท.ม. วทิ ยาศาสตร์
คอมพิวเตอร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย 2526

สต.บ. สถิติศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั 2522

2 รศ. นางสาวณฐั พร พบ.ม. คอมพิวเตอร์ สถาบันบัณฑิต 2536 3 ชุดวชิ า
3 รศ. เหน็ เจรญิ เลศิ
xxxxxxxxx6764 พัฒนบริหารศาสตร์

นางสาววรัญญา วท.บ. วิทยาศาสตร์ทว่ั ไป มหาวทิ ยาลยั 2530
ปุณณวัฒน์
xxxxxxxxx0426 เกษตรศาสตร์

วท.ม. เทคโนโลยีการ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล 2539 3 ชดุ วิชา

จดั การระบบ

สารสนเทศ

บธ.บ. คอมพวิ เตอร์ธุรกจิ มหาวทิ ยาลยั 2535
สงขลานครินทร์

4 ผศ.ดร. นางขจติ พรรณ Ph.D. Electronic University of Surrey, UK 2552 3 ชดุ วิชา
กฤตพลวิมาน 3 ชดุ วิชา
xxxxxxxxx9294 Engineering

5 ผศ.ดร. นางสาววฤษาย์ วศ.ม. วิศวกรรมไฟฟ้า สถาบนั เทคโนโลยีพระจอมเกล้า 2544
รม่ สายหยุด
xxxxxxxxx8444 เจ้าคุณทหารลาดกระบัง

วศ.บ. วศิ วกรรม สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ 2541

โทรคมนาคม เจา้ คณุ ทหารลาดกระบัง

ปร.ด. เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสยาม 2555

สารสนเทศ

วท.ม. เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอสั สัมชญั 2544

สารสนเทศ

วท.บ. ศาสตรค์ อมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยรามคาแหง 2538

24

3.2.2 อาจารย์ประจาํ วท.บ., พบ.ม.(คอมพิวเตอร)์ สถาบันบณั ฑิตพฒั นบริหารศาสตร์
รองศาสตราจารย์ณัฏฐพร พิมพายน บธ.บ., ค.บ., วท.ม.(วทิ ยาการคอมพิวเตอร์) มหาวทิ ยาลยั รงั สิต
รองศาสตราจารย์ทศั นยี ์วรรณ์ ศรปี ระดษิ ฐ์ วท.บ., M.Phil.(Printing Technology) West Herts College, UK
รองศาสตราจารย์ผกามาศ ผจญแกล้ว กศ.บ., วท.ม.(พฤกษศาสตร์), M.Phil.(Printing Technology)
รองศาสตราจารย์ศภุ ณี เรยี บเลิศหริ ัญ London College of Printing and Distributive Trades, UK
วท.บ., M.Phil.(Printing Technology) West Herts College, UK
รองศาสตราจารยส์ ุณี ภสู่ มี ว่ ง วท.บ., M.Sc.(Packaging) Michigan State University, USA
รองศาสตราจารย์สุภาวดี ธีรธรรมากร วท.บ., M.S.(Graphic Arts System), วท.ด. (เทคโนโลยถี า่ ยภาพ)
ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร. บุญชยั จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วลีธรชพี สวัสด์ิ วท.บ., วศ.ม., วศ.ด. (วศิ วกรรมอตุ สาหการ) มหาวทิ ยาลยั พระจอมเกล้า
อาจารย์ ดร. จรี านชุ บดุ ดีจีน พระนครเหนือ
วท.บ., วท.ม.(เคมีประยกุ ต)์ , Ph.D.(Environmental Technology)
อาจารย์ ดร.แววบญุ แย้มแสงสังข์ The Joint Graduate School of Energy and Environment
(JGSEE)
ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์กชกร ณ นครพนม ศษ.บ., วท.ม.(Computational Science) จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย
อาจารย์กรรณิการ์ ยิ้มนาค วท.บ., วท.ม. (เทคโนโลยกี ารบรรจุ) มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์
อาจารย์ปิยพร นุรารกั ษ์ วศ.บ., M.Sc.(Electrical Engineering) University of
Massachusetts, Lowell, USA
อาจารย์ ดร. พมิ ผกา ประเสริฐศิลป์ วท.บ., วท.ม.(เทคโนโลยสี ารสนเทศ), PhD (Information Systems
and Technology) Claremont Graduate University, USA
อาจารย์ภริ มย์ คงเลิศ วศ.บ., วศ.ม.(คอมพวิ เตอร์) มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
อาจารย์ภมู ิ เจอื ศริ ภิ กั ดี B.Eng., M.Sc (Electromechanical Engineering), Group-T International
University College Leuven, Netherland
อาจารย์ ดร. ศรีสทิ ธ์ิ เจยี รบุตร วศ.บ.,ส.บ., วศ.ม.Ph.D. (Engineering Science), University of
Southampton, UK
อาจารย์สทิ ธชิ ยั รชั ยศโยธนิ วศ.บ., วศ.ม.(วิศวกรรมเครือ่ งกล) สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร
ลาดกระบงั , MSc (Mechanical and Manufaturing Engineering)
อาจารยอ์ ิทธเิ ดช มูลมงั่ มี University of Greenwich, UK
วศ.บ., วศ.ม. (เครือ่ งกล) มหาวิทยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบุรี

25

3.2.3 อาจารยพ์ ิเศษ
มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าชไดแ้ ต่งต้ังผู้ทรงคุณวฒุ จิ ากสถาบันอุดมศึกษาและหนว่ ยงาน

ต่างๆ เปน็ อาจารย์พิเศษ โดยความเหน็ ชอบจากสภาวชิ าการ ปฏบิ ัติหนา้ ทใ่ี น 3 ลกั ษณะ ดังน้ี
1) ผทู้ รงคุณวฒุ ิที่รว่ มผลติ ชดุ วชิ าในคณะกรรมการผลติ /ปรับปรงุ และบรหิ ารชดุ วิชา
2) ผู้ทรงคณุ วฒุ ทิ ่รี ่วมในการสัมมนาเสรมิ /สมั มนาเข้มชุดวิชา/อบรมเขม้ เสรมิ ประสบการณ์

มหาบณั ฑติ
3) ผูท้ รงคุณวฒุ ทิ ่รี ่วมในการเป็นอาจารยท์ ปี่ รึกษา/กรรมการสอบวิทยานิพนธ์

4. องคป์ ระกอบเกี่ยวกับประสบการณ์ภาคสนาม
หลกั สตู รวทิ ยาศาสตรมหาบัณฑิต แขนงวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร ไมม่ ีองคป์ ระกอบเกยี่ วกับ

การจดั ประสบการณ์ภาคสนามโดยเฉพาะ แต่ได้จัดการฝึกปฏบิ ตั ิในสว่ นท่จี าเปน็ ไว้เป็นส่วนหน่งึ ของการเรยี นการ
สอนชุดวิชา และการจัดฝึกปฏิบัตโิ ดยรวมตลอดหลกั สูตรในการเรยี นการสอนชดุ วชิ าอบรมเขม้ เสรมิ ประสบการณ์
มหาบัณฑิต

5. ขอ้ กาํ หนดเกย่ี วกับการทําโครงงานหรืองานวจิ ยั
5.1 คาํ อธบิ ายโดยย่อ
สรา้ งหรือพัฒนาชน้ิ งานทีเ่ ปน็ นวัตกรรมและนามาศึกษาทางเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร
5.2 มาตรฐานผลการเรยี นรู้
หลักสูตรวทิ ยาศาสตรมหาบัณฑิต แขนงวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร มีดงั นี้
วิทยานพิ นธ์
1) สามารถเลอื กปัญหาหรือหวั ขอ้ ที่สนใจศึกษา หรือการวิจัยสาหรับวิทยานิพนธ์
2) มที กั ษะในการนาแนวคดิ ทฤษฎี และวธิ ีการท่ีได้จากการศึกษาจากชดุ วิชาตา่ งๆ และ
ประสบการณ์ทเี่ ก่ยี วข้องใช้ในการศกึ ษาค้นควา้ สามารถสารวจและวิเคราะห์วรรณกรรมท่ี
เกี่ยวข้องกับเรื่องท่ีจะทาวิทยานิพนธ์
3) สามารถศึกษาค้นควา้ และพฒั นาเกย่ี วกับเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร
4) สามารถออกแบบการวจิ ยั สาหรับวิทยานิพนธ์
5) มีความรแู้ ละทักษะในการเขียนและเสนอโครงการวทิ ยานิพนธ์
6) สามารถพฒั นาเครื่องมือเพอ่ื การวจิ ัยสาหรบั วิทยานพิ นธ์
7) สามารถรวบรวม วิเคราะห์ และนาเสนอข้อมูลสาหรบั วิทยานพิ นธ์
8) สามารถนาเสนอและสอบปกป้องวิทยานพิ นธ์
9) สามารถเขียนรายงานวิทยานพิ นธฉ์ บับสมบรู ณ์
10) สามารถนาเสนอผลงานวิจยั เพื่อการเผยแพร่

26

การศึกษาคน้ คว้าอิสระ
1) สามารถเลอื กปัญหาหรือหวั ข้อท่ีสนใจสาหรับการศึกษาค้นควา้ อิสระ
2) มที ักษะในการนาแนวคดิ ทฤษฎี และวธิ ีการท่ีได้จากการศึกษาจากชดุ วิชาต่างๆ และ
ประสบการณท์ เ่ี กี่ยวข้องใชใ้ นการศึกษาคน้ คว้า สามารถสารวจและวิเคราะหว์ รรณกรรมท่ี
เก่ยี วขอ้ งกบั เร่ืองท่จี ะทาการศึกษาค้นควา้ อสิ ระ
3) สามารถศึกษาค้นคว้าและพัฒนาเก่ยี วกับเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร
4) สามารถออกแบบการวจิ ัยสาหรับการศึกษาคน้ คว้าอสิ ระ
5) มคี วามรแู้ ละทักษะในการเขยี นและเสนอโครงการการศึกษาคน้ ควา้ อสิ ระ
6) สามารถพฒั นาเคร่ืองมือเพ่อื โครงการการศึกษาคน้ ควา้ อิสระ
7) สามารถรวบรวม วิเคราะห์ และนาเสนอข้อมลู สาหรบั โครงการการศกึ ษาค้นควา้ อสิ ระ
8) สามารถนาเสนอและสอบปกปอ้ งการศึกษาคน้ ควา้ อสิ ระ
9) สามารถเขียนรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอิสระฉบับสมบรู ณ์
10) สามารถนาเสนอผลงานการศึกษาคน้ ควา้ อสิ ระเพือ่ การเผยแพร่

5.3 ชว่ งเวลา : แผน ก แบบ ก 2 วิทยานิพนธ์ ปีท่ี 2 ภาคต้นและปลาย
แผน ข การศึกษาคน้ ควา้ อิสระ ปที ่ี 2 ภาคตน้

5.4 จาํ นวนหน่วยกิต : แผน ก แบบ ก 2 วทิ ยานิพนธ์ 12 หน่วยกติ

แผน ข การศึกษาคน้ ควา้ อิสระ 6 หน่วยกติ

5.5 การเตรียมการ

5.5.1 จดั ปฐมนิเทศนกั ศึกษาเพ่ือเตรียมความพร้อมในการทากรณีศกึ ษาและหวั ข้องานวจิ ัย

5.5.2 นักศึกษาและอาจารย์ทป่ี รกึ ษารว่ มกนั กาหนดกรณศี ึกษาและหัวข้องานวิจยั

5.5.3 จดั ตารางเวลาให้คาปรึกษาและตดิ ตามการทางานของนักศึกษา

5.5.4 ประสานความร่วมมือกับบุคคล แหล่ง/สถานท่ีทางานวจิ ยั

5.5.5 เตรียมเครอ่ื งมือและวสั ดุอุปกรณส์ าหรับทางานวิจยั

5.6 กระบวนการประเมินผล
ดาเนนิ การประเมนิ ผล และกลไกการทวนสอบมาตรฐาน ดังน้ี
5.6.1 ประเมนิ ความก้าวหน้าในระหว่างการทากรณีศกึ ษาและโครงงานโดยนกั ศึกษา และ
อาจารยป์ ระจาชุดวชิ า
5.6.2 ประเมนิ ผลสรุปการทางานของนกั ศึกษา จากการติดตามการทางานผลงานที่เกิดในแตล่ ะ
ขัน้ ตอนและรายงานโดยอาจารยป์ ระจาชุดวชิ า
5.6.3 ประเมนิ คณุ ภาพการทากรณศี ึกษาและโครงงาน โดยนกั ศกึ ษา และอาจารยป์ ระจาชดุ วิชา

27

หมวดที่ 4 ผลการเรียนรู้ กลยุทธก์ ารสอนและการประเมินผล

1. การพฒั นาคุณลกั ษณะพิเศษของนักศึกษา กลยทุ ธ์หรือกิจกรรมของนกั ศึกษา
1.1 คุณลักษณะพิเศษของนักศึกษา
ในระบบทางไกล 1.1) การสอนสอดแทรกในชุดวิชาโดยการบรู ณา
การเน้ือหาเชิงวชิ าการและการปฏบิ ตั ใิ นชวี ิตจริง
1) จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชพี มกี ารวิเคราะห์ สังเคราะห์ตัวอย่างและประสบการณ์
2) การมวี นิ ัยในตนเองและความรบั ผดิ ชอบ ที่เกย่ี วข้องกบั จรรยาบรรณ
2.1) การสอนสอดแทรกการมีวนิ ยั และความ
3) การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง รับผิดชอบในการศกึ ษาด้วยตนเองในชดุ วิชา โดยให้
นกั ศกึ ษาเรยี นรทู้ ่จี ะวเิ คราะห์ สงั เคราะหพ์ ฤตกิ รรม
4) การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ การกระทาของตนเอง มีส่วนร่วมในกจิ กรรมการเรียน
5) การทางานเปน็ ทมี การสอน มีวินยั และความรับผิดชอบในการบริหาร
เวลา ทั้งในดา้ นการเรียน ส่วนตวั และสงั คม
2.2) การมอบหมายงาน และการกาหนดตารางเวลา
โดยเปิดโอกาสใหน้ กั ศึกษารบั ผดิ ชอบงานต่างๆ ทงั้
ด้านการเรียน ด้านสว่ นตวั และสงั คม วางแผนงานที่
ไดร้ ับมอบหมาย รวมทง้ั กาหนดตารางเวลาและปฏิบตั ิ
ใหเ้ ป็นไปตามแผนงานทก่ี าหนด
3.1) ศกึ ษาสอื่ หลัก และสือ่ เสรมิ ด้วยตนเอง
3.2) การจัดกจิ กรรมใหน้ ักศกึ ษาไดพ้ ฒั นาทกั ษะ
การเรียนรู้ดว้ ยตนเองด้วยการคน้ ควา้ ขอ้ มูลสารสนเทศ
และแสวงหาความรจู้ ากแหลง่ การเรียนรู้และสือ่
อิเล็กทรอนิกส์ โดยอาจารย์จะชว่ ยเหลือในการ
แนะแนวแหล่งการเรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย
4.1) การมอบหมายใหน้ ักศึกษาได้ทากจิ กรรมด้าน
วชิ าการและความรู้ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง และมีสว่ นรว่ ม
เช่น การประชมุ สมั มนา สมั มนาเชิงปฏบิ ัตกิ าร
5.1) การมอบหมายให้นกั ศึกษาทางานกลุ่ม เพือ่ ให้
นักศึกษามโี อกาสไดฝ้ ึกปฏิบัตหิ น้าท่ีของผนู้ ากลุ่มและ
บทบาทของสมาชิกกลมุ่ อยา่ งครบถว้ น ไดแ้ ลกเปล่ยี น
เรียนรู้ และรว่ มมอื กนั ในการทางานเปน็ ทมี

2

2. การพัฒนาผลการเรียนรู้ในแต่ละด้าน

ผลการเรียนรู้ กลยุทธก์ ารสอนที่ใชพ้ ัฒ

1. คุณธรรม จริยธรรม

1) การเคารพกฎ ระเบยี บ และข้อบังคบั ต่างๆ 1) มีการปลูกฝงั คุณธรรม จริยธร

2) ความมีระเบียบวนิ ัย ตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์ เรยี นการสอนของมหาวิทยาลัย เ

สุจริตและเสยี สละ แผนการสอน การเข้าห้องสอบ ก

3) ความรบั ผิดชอบต่อตนเอง สงั คมและวิชาชพี ชดุ วชิ าตามกาหนด การเข้ารับกา

4) การเคารพและรับฟังความคดิ เหน็ ของผู้อืน่ เข้ม และการปฏิบตั ติ ามระเบียบ

เคารพในคณุ คา่ และศกั ด์ิศรีของความเปน็ มหาวทิ ยาลัย เป็นต้น

มนษุ ย์ 2) มีการสอดแทรกคุณธรรม จริย

5) มคี วามตระหนกั ในความสาคัญของบทบาท สาระของเอกสารการสอน/กิจกร

หน้าทต่ี ามจรรยาบรรณวชิ าชพี ชุดฝึกปฏิบัติ และชดุ วิชาอบรมเข

มหาบัณฑติ รวมทงั้ การกิจกรรมส

เข้มตา่ งๆ

3) มีการสอดแทรกคุณธรรม จรยิ

ปฐมนเิ ทศนักศึกษา กจิ กรรมชมร

กจิ กรรมของมหาวิทยาลัย

2. ความรู้

ผลการเรยี นรูด้ ้านความรู้ ครอบคลมุ ส่งิ ต่อไปนี้

1) มีความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับแนวคิด ปรัชญา 1) มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธ

หลักการหรือทฤษฎีที่สาคัญในเนื้อหาวิชาของ สอนในระบบการสอนทางไกล โด

28

ฒนาการเรียนรู้ กลยทุ ธก์ ารประเมินผลการเรียนรู้

รรม ผา่ นกระบวนการ 1) ประเมนิ จากพฤติกรรมของนกั ศึกษาในการ
เช่น การปฏบิ ตั ิตาม ดาเนนิ การตามกระบวนการเรยี นการสอนและการ
การสง่ กิจกรรมประจา ปฏบิ ตั ติ ามระเบียบ ข้อบงั คับตา่ งๆ ของมหาวทิ ยาลยั
ารสัมมนาเสรมิ /สัมมนา โดยการสงั เกต ข้อมูลสถติ ิ รายงานผลการประเมินจาก
ขอ้ บงั คับตา่ งๆ ของ หนว่ ยงานทเี่ กี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก เป็นตน้
2) ประเมินจากคะแนนความรู้ความเข้าใจทเี่ กยี่ วกบั
ยธรรมไว้ ในเนือ้ หา คณุ ธรรม จรยิ ธรรมท่บี รรจุในเนอ้ื หาของเอกสารการ
รรมในชุดวชิ าท่เี ป็น สอน ซง่ึ เป็นการประเมินพน้ื ฐานความรู้ทถ่ี ูกต้องอนั
ข้มเสริมประสบการณ์ นาไปส่กู ารเป็นผมู้ ีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
สมั มนาเสรมิ สัมมนา 3) ประเมินจากการจัดกจิ กรรมสง่ เสริมคณุ ธรรม
จรยิ ธรรม เช่น การปลูกปา่ การบริจาคโลหิต ทา
ยธรรมไวใ้ นกิจกรรม ประโยชนแ์ ก่สว่ นรวม หรือเสียสละ การยกย่องศิษยเ์ กา่
รมนกั ศึกษา และ ศษิ ย์ปัจจุบันทที่ าความดี เปน็ ตน้

ธิราช จัดการเรียนการ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ด้านความรูโ้ ดยเครอื่ งมอื ทีม่ คี วาม
ดยนักศกึ ษาศึกษา จาก เป็นมาตรฐานในการสร้าง โดยคณะกรรมการออก

2

ผลการเรียนรู้ กลยุทธก์ ารสอนทใี่ ชพ้ ัฒ

หลักสูตร และเนื้อหาวิชาท่ีเกี่ยวข้องอย่าง ส่ือหลักและส่ือเสริม หรือศึกษา

กวา้ งขวาง เป็นระบบและทนั สมัย โดยมีกรรมการผลิตและบริหารช

2) มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎ ระเบียบ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเน

ข้อบังคับ และมาตรฐานท่ีเก่ียวกับวิชาชีพท่ี เทคโนโลยีการศึกษาและด้า

เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ การศึกษา และมีการปรับปรุงช

3) สามารถนาความรู้เก่ียวกับกระบวนการวิจัย เนื้อหาวิชามีความทันสมัย และท

มาใช้ในการแก้ปัญหา ต้ังแต่การวิเคราะห์ ทางเศรษฐกิจ สงั คม สภาพแวดล

ปัญหาและความต้องการ กาหนดวัตถุประสงค์ 2) จัดให้มีการเรียนจากกรณีศ

แนวทางในการแก้ปัญหา และการตัดสินใจที่ เรื่อง โดยการสอดแทรกกรณีศึก

เหมาะสมและตอ่ ยอดองคค์ วามรู้ การสอน รวมทั้งจัดให้มีการเรีย

หรอื สถานการณจ์ าลอง ในกิจกร

เข้ม ชุดวิชาอบรมเข้มเสริมประ

หรือการเชิญผู้เช่ียวชาญที่มีปร

วิทยากรบรรยายเฉพาะเรอื่ ง

29

ฒนาการเรยี นรู้ กลยุทธก์ ารประเมินผลการเรียนรู้

าด้วยระบบ e-Learning ข้อสอบในแต่ละชุดวชิ าประกอบด้วย คณาจารย์

ชุดวิชา ซ่ึงประกอบด้วย ผเู้ ชย่ี วชาญในเนอื้ หา และอาจารยด์ า้ นการวัดและ

นื้อหา กรรมการด้าน ประเมนิ ผลการศึกษา โดยอาจารยด์ า้ นเนอ้ื หาต้องผา่ น

านวัดและประเมินผล การฝกึ อบรมเทคนคิ การวดั และประเมนิ ผลในระบบการ

ชุดวิชาทุกๆ 5 ปี เพ่ือให้ สอนทางไกล มกี ารจัดทาแผนผงั การสรา้ งข้อสอบท่ี

ทันต่อการเปล่ียนแปลง ครอบคลุมเนอื้ หาวชิ าทุกหนว่ ย ในการประเมนิ ผลการ

ลอ้ ม และเทคโนโลยี เรียนรู้ด้านความรู้ จัดแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ

ศึกษา หรือกิจกรรมท้าย 1) การประเมนิ ผลก่อนเรียน เป็นการประเมนิ ผลการ

กษา/กิจกรรมในเอกสาร เรียนรดู้ ้านความร้ขู องนักศึกษาดว้ ยตนเอง โดยการทา

ยนรู้จากสถานการณ์จริง แบบประเมินผลตนเองกอ่ นเรียน และมีเฉลยคาตอบไว้

รรมสัมมนาเสริม สัมมนา ใหน้ กั ศึกษาตรวจสอบคาตอบดว้ ยตนเอง

ะสบการณ์มหาบัณฑิต 2) การประเมินผลระหวา่ งเรยี น เป็นการประเมินผลการ

ระสบการณ์ตรงมาเป็น เรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง โดยการทากิจกรรมท้ายเร่ือง และการ

ทาแบบประเมนิ ผลตนเองหลังเรียน ภายหลังจาก

การศกึ ษาแต่ละหวั เรือ่ ง และแต่ละหน่วยการเรียน โดย

ได้จดั ทาแนวการตอบไวใ้ ห้ในแตล่ ะกิจกรรมทา้ ยเรื่อง

และมีการจัดทาเฉลยคาตอบของแบบประเมนิ ผลตนเอง

หลังเรียนไวใ้ ห้นกั ศึกษาตรวจสอบดว้ ยตนเอง นอกจากน้ี

ได้จดั ให้มีกจิ กรรมประจาโมดูลบน e-learning กิจกรรม

สัมมนาเสรมิ สัมมนาเข้ม มีการใหค้ ะแนนและนา

ผลการเรียนรู้ 3
กลยุทธก์ ารสอนทีใ่ ชพ้ ัฒ

3. ทักษะทางปัญญา
นกั ศกึ ษาไดร้ บั การพัฒนาทักษะทางปัญญา 1) การใชก้ รณีศึกษา/กจิ กรรมใน
ควบคไู่ ปกับความรแู้ ละคุณธรรม จริยธรรม มอบหมายใหน้ กั ศึกษาทา
เพอ่ื ให้สามารถประกอบอาชพี /วิชาชพี และ 2) การฝกึ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ ข
พ่ึงพาตนเองได้ โดยนักศกึ ษาจะมคี ุณสมบตั ิท่ี การจดั ฝกึ อบรม
เป็นทักษะทางปัญญา ดังน้ี
1) มีทักษะในการสบื ค้น รวบรวมขอ้ มลู
สารสนเทศ ศึกษาวเิ คราะห์ ประเมนิ สารสนเทศ
และสรุปประเดน็ ต่าง ๆ เพ่ือนาไปใชใ้ นการ
แกป้ ญั หาและการพฒั นาได้
2) มที ักษะในการวิเคราะหแ์ ละแก้ปัญหา และ
ทักษะในการตัดสินใจ
3) สามารถประยุกต์ความรสู้ ู่การปฏบิ ตั ิ มี
ทักษะทจ่ี าเป็นตามวชิ าชีพทีห่ ลกั สตู รกาหนด
4) มีทกั ษะที่มีความเฉพาะในวชิ าชีพ สามารถ
ปฏบิ ัติและเสนอแนวทางในการพัฒนาวิชาชีพ

30 กลยุทธ์การประเมนิ ผลการเรียนรู้
ฒนาการเรียนรู้ คะแนนไปรวมกับคะแนนสอบปลายภาค
3) การประเมนิ ผลหลังเรยี น เป็นการสอบปลายภาคทุก
ชุดวิชา โดยจัดใหม้ กี ารสอบพร้อมกนั
ทวั่ ประเทศ

นเอกสารการสอนท่ี การประเมินตามสภาพจริง โดยการสอบ การสงั เกตใน
ของนักศึกษาในระหวา่ ง ระหว่างการทากิจกรรม การพดู คยุ สมั ภาษณ์ การตรวจ
ผลงานจากการปฏิบัตขิ องนักศึกษา เชน่ การนาเสนอ
หรอื การรายงานผลงาน การทากิจกรรมประจาโมดลู บน
e-learning กจิ กรรมสัมมนาเสรมิ กจิ กรรมสัมมนาเขม้
การเข้าอบรมเข้มเสรมิ ประสบการณม์ หาบัณฑติ

3

ผลการเรียนรู้ กลยุทธ์การสอนทใ่ี ชพ้ ัฒ

4. ทักษะความสมั พันธ์ระหว่างบคุ คลและ

ความรบั ผดิ ชอบ

นักศึกษาท่ีจบหลักสตู รจะต้องเขา้ สู่การ การสอนผา่ นส่ือ สอดแทรกทักษะ

ประกอบอาชีพ/วิชาชพี ต้องมีความสมั พนั ธ์ ตวั บคุ คลและความรบั ผิดชอบ ใน

เกย่ี วขอ้ งกับผ้รู ่วมงาน ไดแ้ ก่ ผบู้ งั คบั บัญชา ท่ีใชใ้ นการสอนให้สอดคลอ้ งกับห

เพอ่ื นร่วมงาน ผ้ใู ต้บงั คับบัญชา ตอ้ งมีการ ชดุ วชิ าสมั มนาเสริม สัมมนาเข้ม

ประสานงานกับหน่วยงาน/องคก์ รต่างๆ ดังน้นั ประสบการณ์มหาบณั ฑติ ให้ใชบ้ ท

นักศึกษาต้องมีคณุ สมบัติดังต่อไปนี้ กลมุ่ สมั พนั ธ์ ทักษะการคิดแก้ปัญ

1) มีความสามารถในการเปน็ ผนู้ าหรือผู้รว่ มทมี ฝึกอบรม และในกจิ กรรมของชม

ทางานท่ดี ี เพือ่ เอ้ืออานวยให้การแกป้ ัญหาตาม

สถานการณต์ ่างๆ มีความราบร่ืนและรวดเรว็ มี

ทกั ษะการทางานเปน็ ทีม ทักษะการ

ประสานงานกับบคุ คล กลุ่มในระดับต่างๆ ได้

2) มีความคิดรเิ ร่ิมในการนาเสนอประเด็นและการ

แก้ปัญหาอย่างเหมาะสมบนพื้นฐานของตนเอง

และกลุ่ม

3) มีความรบั ผดิ ชอบในการพัฒนาการเรียนรทู้ ง้ั

ของตนเองและของวชิ าชีพอย่างต่อเนื่อง

4) มคี วามรบั ผดิ ชอบในงานของตนเองและงาน

ของกลุ่มตามที่ไดร้ ับมอบหมาย

31 กลยุทธ์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ฒนาการเรียนรู้

ะความสมั พันธ์ระหว่าง ประเมินผลโดยการทดสอบความรดู้ ว้ ยการสอบปลาย

นเน้อื หาวชิ าหรือส่อื อื่นๆ ภาค แบบประเมนิ ผลตนเองก่อนเรียน หลงั เรยี น

หลกั สตู ร ในกรณีท่ีเปน็ กจิ กรรมท้ายเร่อื ง กิจกรรมประจาโมดูลใน e-learning

หรอื อบรมเข้มเสริม กิจกรรมสัมมนาเสรมิ กจิ กรรมสัมมนาเข้ม การสังเกตใน

ทบาทสมมตุ ิ กิจกรรม ระหว่างการทากจิ กรรม การพดู คยุ สมั ภาษณ์ การปฏบิ ตั ิ

ญหาในกิจกรรมการ ของนักศึกษา และสังเกตพฤตกิ รรมในกจิ กรรมตา่ งๆ ท่ี

มรมนักศึกษา กาหนดไว้ เพื่อสงั เกตภาวะผ้นู า การมสี ว่ นรว่ มในกลุ่ม

ความคดิ รเิ ริม่ ความรับผดิ ชอบ การรับฟังความคิดเหน็

ของกล่มุ

3

ผลการเรียนรู้ กลยุทธก์ ารสอนทใ่ี ช้พัฒ
5. ทกั ษะการวเิ คราะห์เชิงตวั เลข การส่อื สาร
และการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 1) สอดแทรกข้อมลู ตัวเลขในเน
1) สามารถวิเคราะหป์ ญั หา ศึกษาค้นควา้ และ สอดแทรกเนื้อหาท่ีกระตุน้ ให้เห็น
เสนอแนวทางในการแกไ้ ขปัญหาโดยเลือกและ ของทกั ษะการส่อื สารและการใชเ้
ประยกุ ต์เทคนคิ วิธีทางสถติ ิและคณิตศาสตรไ์ ด้ ในสภาพปัจจุบัน
อย่างเหมาะสม 2) เพิ่มตัวอยา่ งขอ้ มลู ตวั เลขในกา
2) สามารถใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการเกบ็ ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยใี นการประ
รวบรวมขอ้ มูล การประมวลผล การแปล แปลความหมายเพือ่ ส่ือสารได้อย
ความหมาย และการนาเสนอขอ้ มูลได้ 3) เพ่ิมกจิ กรรมการฝึกทักษะ กา
3) มคี วามสามารถในการใช้ภาษาไทย และ/ การสอ่ื สาร และการใชเ้ ทคโนโล
หรอื ภาษาตา่ งประเทศในการส่ือสารได้อย่างมี ทม่ี ีปฏสิ ัมพันธ์ระหวา่ งนักศึกษาก
ประสทิ ธิภาพ รวมทั้งเลือกใช้รปู แบบและสื่อใน ที่มกี จิ กรรมสมั มนาเสริม สมั มนา
การนาเสนอท่ีเหมาะสมกบั สถานการณ์และ อบรมเข้มเสริมประสบการณ์มหา
กลุ่มผู้ฟงั 4) สอนผ่านส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ตา่ ง
สอื่ สารอย่างมปี ฏิสัมพนั ธ์ เช่น กร

32 กลยุทธ์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ฒนาการเรยี นรู้

นือ้ หาวิชาต่างๆ รวมท้งั 1) ประเมนิ ผลโดยการทดสอบความรดู้ ้วยการสอบปลาย
นความสาคัญ ภาค แบบประเมินผลตนเองก่อนเรียน
เทคโนโลยีสารสนเทศ หลังเรียน กจิ กรรมทา้ ยเรื่อง ด้านการวเิ คราะหเ์ ชิง
ตัวเลข การแปล การตีความหมายข้อมูล
ารฝกึ ปฏบิ ตั แิ ละ 2) ประเมินโดยการสงั เกตจากการทากิจกรรมการฝกึ
ะมวลผลและ ทกั ษะการวเิ คราะหเ์ ชงิ ตวั เลข การสือ่ สาร
ยา่ งเหมาะสม และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชุดวิชาทม่ี ี
ารวิเคราะหเ์ ชิงตวั เลข ปฏิสมั พันธร์ ะหวา่ งนกั ศึกษากับอาจารย์
ลยีสารสนเทศในชดุ วชิ า 3) ประเมนิ จากจานวนและระยะเวลาการเข้าใชส้ ื่อ
กบั อาจารย์ เช่น ชุดวิชา อิเล็กทรอนกิ ส์ (บทเรยี น กระดานสนทนา e-
าเขม้ ต่างๆ หรือชุดวชิ า Learning) และการวิเคราะห์เนื้อหาจากการ สือ่ สาร
าบัณฑิต อย่างมปี ฏสิ ัมพันธ์
งๆ รวมท้งั จดั ให้มี การ
ระดานสนทนา เป็นต้น

33

3. แผนที่แสดงการกระจายความรับผดิ ชอบมาตรฐานผลกา
 ความรับผดิ ชอบหลกั

ชดุ วชิ า 1.คุณธรรม จรยิ ธ

1234

99703 (51133003) การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและการ    

สอื่ สารเชิงกลยทุ ธ์

99705 (51133005) ความม่ันคงดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศและ    

การส่ือสาร

99707 (51133007) ระบบสารสนเทศภูมศิ าสตร์และการ    

ประยกุ ต์

99708 (51133008) ระเบียบวิธีวิจัยและเครื่องมอื ในการพัฒนา    

ระบบด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร

99709 (51133009) ธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั และการประยุกต์ 

99710 (51133010) เทคโนโลยีเคล่ือนที่ไร้สายและการ    

ประยกุ ต์

99711 (51133011) การวิเคราะห์ข้อมลู ขนาดใหญ่สาหรบั ธุรกจิ    

99797 (51134002) การศึกษาค้นคว้าอสิ ระ 

3

ารเรยี นร้จู ากหลักสูตรสูช่ ุดวิชา (Curriculum Mapping)

 ความรับผิดชอบรอง

5.ทักษะการ

ธรรม 2.ความรู้ 3.ทักษะทางปญั ญา 4.ทักษะ วเิ คราะห์เชิง
ความสัมพันธ์ ตัวเลข การ
ระหวา่ งบคุ คลและ ส่อื สาร และ
ความรับผิดชอบ
การใช้
เทคโนโลยี

สารสนเทศ

4512312341234123

            

            

            

            

            
            

            
           

34

ชุดวชิ า 1.คณุ ธรรม จริยธ

99798 (51134001) วทิ ยานพิ นธ์ 1234
99799 (51135001) การอบรมเขม้ เสริมประสบการณ์ 
มหาบัณฑติ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร 

4

5.ทักษะการ

ธรรม 2.ความรู้ 3.ทกั ษะทางปญั ญา 4.ทกั ษะ วเิ คราะหเ์ ชิง
ความสมั พนั ธ์ ตัวเลข การ
ระหว่างบุคคลและ สือ่ สาร และ
ความรับผิดชอบ
การใช้
เทคโนโลยี

สารสนเทศ

4512312341234123

           



35

หมวดที่ 5 หลักเกณฑใ์ นการประเมนิ ผลนักศกึ ษา

1. กฎระเบยี บหรือหลักเกณฑ์ในการให้ระดบั คะแนน (เกรด)
1.1 การวดั ผลการศกึ ษา
แผน ก แบบ ก 2 ประเมนิ ผลการศกึ ษาจากผลงานท่ไี ด้มอบหมายให้ทาการสอบชดุ วชิ า

ประจาภาคการศึกษา การสอบปกป้องวิทยานิพนธ์ รวมท้ังการเข้ารับการอบรมเข้มเสริมประสบการณ์มหาบัณฑิต
ตามที่กาหนดไว้ในหลักสูตร ดงั น้ี

1.1.1 การสอบชุดวชิ าประจาภาคการศึกษา เปน็ การสอบประจาภาคการศึกษา เพ่อื วัดว่านักศึกษามี
ความรใู้ นชุดวิชา ซง่ึ อาจเปน็ การสอบข้อเขียนหรือการวดั ผลการศึกษาโดยวิธอี น่ื โดยนักศึกษาจะตอ้ งสอบชุดวิชา
ทกุ ชดุ วิชาทีล่ งทะเบียนเรียนไว้ เว้นแต่ชดุ วชิ าน้ันไดถ้ อนอย่างถูกต้องตามประกาศมหาวิทยาลัย

1.1.2 การสอบปกป้องวทิ ยานิพนธ์ เปน็ การสอบเพื่อประเมินผลงานวิทยานพิ นธข์ องนักศึกษา
หลักสตู รปรญิ ญาโท แผน ก ประกอบด้วย การตรวจประเมนิ คณุ ภาพผลงาน การทดสอบความร้ขู องนักศึกษา
ด้วยวธิ กี ารสอบปากเปล่า กระทาโดยคณะกรรมการสอบวิทยานพิ นธ์ จานวนไมเ่ กิน 4 คน ทค่ี ณะกรรมการ
บัณฑติ ศึกษามหาวทิ ยาลัยเป็นผพู้ จิ ารณาแต่งตงั้ คณะกรรมการสอบปกปอ้ งวทิ ยานพิ นธ์โดยผา่ นความเหน็ ชอบ
จากคณะกรรมการบัณฑติ ศกึ ษาประจาสาขาวชิ า และถือว่าสอบผ่านวทิ ยานิพนธเ์ มื่อคณะกรรมการสอบท้ังคณะ
มีมติเปน็ เอกฉันทใ์ ห้สอบผ่าน นักศึกษามีสทิ ธสิ อบปกป้องวิทยานิพนธ์ไม่เกิน 2 คร้งั

1.1.3 การเข้ารบั การอบรมเข้มเสริมประสบการณม์ หาบัณฑิตเปน็ กิจกรรมท่ีกาหนดให้นักศกึ ษา
หลักสตู รปริญญาโทจะต้องเข้ารบั การอบรม เพ่ือพัฒนาทกั ษะและบคุ ลิกภาพทีเ่ หมาะสม สง่ เสริมภาวะผนู้ า
รวมทัง้ การส่งเสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาวชิ าชีพ ในภาคการศึกษาสดุ ท้ายก่อนสาเร็จการศึกษาหรอื
ตามทกี่ าหนดไว้ในหลกั สูตร

แผน ข ประเมินผลการศึกษาจากผลงานท่ีได้รับมอบหมายให้ทา การสอบชุดวิชาประจาภาคการศึกษา
การสอบประมวลความรู้ (Comprehensive Examination) และการศึกษาค้นคว้าอิสระ รวมทั้งการเข้ารับการ
อบรมเข้มเสริมประสบการณ์มหาบณั ฑิตตามทกี่ าหนดไว้ในหลกั สตู ร ดังนี้

1.1.4 การสอบชุดวิชาประจาภาคการศึกษา เปน็ การสอบประจาภาคการศึกษาเพื่อวัดวา่ นักศึกษามี
ความรูใ้ นชุดวิชา ซ่งึ อาจเปน็ การสอบข้อเขยี นหรือการวัดผลการศกึ ษาโดยวธิ ีอ่ืน โดยนักศึกษาจะต้องสอบชดุ วชิ า
ทกุ ชุดวิชาทล่ี งทะเบยี นเรยี นไว้ เว้นแตช่ ุดวิชานน้ั ไดถ้ อนอย่างถูกต้องตามประกาศมหาวทิ ยาลยั

1.1.5 การสอบประมวลความรู้ (Comprehensive Examination) เปน็ การสอบข้อเขียนและการสอบ
ปากเปล่า หรอื เป็นการสอบข้อเขียนอย่างเดียว สาหรบั นกั ศึกษาหลักสตู รปริญญาโท แผน ข เพ่อื วัดความสามารถ
ในการบูรณาการความรู้ที่ได้ศึกษาไปแล้วของนักศึกษา โดยนกั ศึกษามสี ทิ ธสิ อบประมวลความรูเ้ ม่ือสอบผ่านชุดวิชา
ครบตามหลักสูตรหรือกาลังศึกษาชุดวิชาในภาคการศกึ ษาสุดทา้ ย และมีคะแนนเฉลี่ยสะสมไมต่ ่ากวา่ 3.00
การสอบให้สอบข้อเขียนเป็นหลกั ส่วนการสอบปากเปล่าเพม่ิ เติมให้อยูใ่ นดลุ ยพนิ ิจของคณะกรรมการบัณฑติ ศึกษา
ประจาสาขาวชิ า การสอบประมวลความรภู้ าคขอ้ เขยี นประกอบดว้ ย 2 สว่ น คอื ภาคทฤษฎี และภาคประยุกต์
โดยมรี ะยะเวลาในการสอบรวมกนั ไมน่ ้อยกวา่ 6 ชวั่ โมง กระทาโดยคณะกรรมการสอบประมวลความรู้แยกตาม

36

หลักสูตรหรือแขนงวิชา จานวนไม่นอ้ ยกวา่ 3 คน แตไ่ มเ่ กิน 5 คน คณะกรรมการบณั ฑติ ศึกษามหาวทิ ยาลยั เป็น

ผ้พู ิจารณาแต่งตงั้ คณะกรรมการสอบประมวลความรโู้ ดยผ่านความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการบณั ฑิตศึกษา

ประจาสาขาวชิ า นกั ศึกษามีสิทธิสอบประมวลความรู้ไม่เกนิ 2 ครงั้

1.1.6 การสอบการศึกษาคน้ คว้าอิสระ เปน็ การสอบปากเปลา่ เพ่ือประเมนิ ความรูค้ วามเข้าใจใน

การศกึ ษาค้นคว้าอสิ ระของนักศกึ ษาหลักสูตรปริญญาโท แผน ข ประกอบดว้ ย การตรวจประเมนิ คุณภาพผลงาน

การทดสอบความรู้ของนักศึกษาด้วยวธิ ีการสอบปากเปลา่ และการประชมุ พิจารณาผลงานของกรรมการ กระทา

โดยคณะกรรมการสอบการศึกษาค้นคว้าอสิ ระ จานวนไม่เกิน 2 คน คณะกรรมการบณั ฑิตศึกษาประจาสาขาวชิ า

เปน็ ผพู้ จิ ารณาแต่งตั้ง และถือวา่ สอบผา่ นการศกึ ษาค้นคว้าอิสระ เมือ่ คณะกรรมการสอบท้ังคณะมีมตเิ ป็นเอกฉนั ท์

ให้สอบผ่าน นกั ศึกษามสี ิทธสิ อบการศกึ ษาค้นควา้ อิสระไมเ่ กิน 2 ครัง้

1.1.7 การเขา้ รบั การอบรมเข้มเสริมประสบการณ์มหาบัณฑติ เป็นกจิ กรรมท่ีกาหนดให้นักศึกษา

หลักสตู รปริญญาโทจะต้องเข้ารบั การอบรมเพ่ือพัฒนาทกั ษะและบุคลกิ ภาพทเ่ี หมาะสม สง่ เสรมิ ภาวะผ้นู า

รวมทง้ั การสง่ เสริมคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาวชิ าชีพ ในภาคการศึกษาสดุ ท้ายก่อนสาเรจ็ การศกึ ษาหรือ
ตามท่ีกาหนดไวใ้ นหลักสตู ร

1.2 การประเมนิ ผลการศกึ ษา

การประเมนิ ผลการศึกษาของแต่ละชดุ วิชา ให้กระทาเปน็ สัญลักษณซ์ ่ึงมีความหมายและคา่ คะแนน

ต่อหนว่ ยกิต ดงั น้ี

อักษรระดับคะแนน ความหมาย คะแนนตอ่ หน่วยกติ

A ผลการประเมินขนั้ ดีเยี่ยม (Excellent) 4.0

B+ ผลการประเมนิ ขน้ั ดมี าก (Very Good) 3.5

B ผลการประเมนิ ข้นั ดี (Good) 3.0

C+ ผลการประเมนิ ขน้ั ค่อนขา้ งดี (Fairly Good) 2.5

C ผลการประเมินขน้ั พอใช้ (Fair) 2.0

D ผลการประเมนิ ขน้ั อ่อน (Poor) 1.0

F ผลการประเมนิ ข้นั ตก (Failed) 0

นกั ศึกษาที่ได้ระดับคะแนนตา่ กว่า 2.0 ถือวา่ สอบไมผ่ า่ น ต้องลงทะเบียนเรยี นชุดวชิ านนั้ ใหม่

ผลการศกึ ษาอาจแสดงได้ด้วยสัญลกั ษณอ์ ื่น ดังนี้

P (Passed) สอบผา่ นสาหรับการประเมินผลทไ่ี ม่คิดคะแนน
U (Unsatisfactory) สอบไม่ผา่ นสาหรบั การประเมินผลทไ่ี ม่คิดคะแนน
I (Incomplete) การประเมนิ ผลไมส่ มบูรณ์ เนือ่ งจากไม่ได้ดาเนนิ
กจิ กรรมครบตามท่ีกาหนดไวใ้ นหลักสูตร
IP (In Progress) ผลการประเมินความก้าวหน้าตามจานวนหน่วยกิต
ท่ีไดร้ ับการประเมินในภาคการศกึ ษาน้ัน

W (Withdrawn) การยกเลกิ ใชใ้ นกรณีทนี่ ักศกึ ษาขอถอนชุดวชิ าท่ี

37

N (Not Graded and Credited) ลงทะเบียนเรียนไว้แลว้ ภายในระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยกาหนด
SP (Suspended) ไม่นับคะแนน
ผลสอบของชดุ วชิ าทล่ี งทะเบียนเพ่ือยกระดับคะแนน
ในภาคการศึกษาท่ีผ่านมา

2. กระบวนการทวนสอบมาตรฐานผลสมั ฤทธ์ขิ องนักศกึ ษา
มหาวิทยาลัยมีการทวนสอบมาตรฐานผลสมั ฤทธขิ์ องนักศึกษา 2 ระดับ คือ ระดับชดุ วิชา และระดบั

หลกั สูตร
ระดบั ชดุ วิชา
2.1 ทวนสอบโดยคณะกรรมการผลิต/ปรบั ปรงุ และบริหารชุดวิชา พิจารณาความเหมาะสมของข้อสอบ

ใหเ้ ป็นไปตามแผนการสอน
2.2 มีการประเมินข้อสอบ โดยคณาจารย์จากสานักทะเบยี นและวดั ผล
2.3 มีคณะกรรมการตรวจข้อสอบ กรณีข้อสอบอัตนัย
ระดับหลักสูตร
2.4 มีการตดิ ตามบัณฑติ ด้านภาวะการมีงานทา ความพงึ พอใจของบณั ฑติ ในการนาความรู้ไปพัฒนา

คณุ ภาพชีวิต ความพงึ พอใจของผใู้ ชบ้ ัณฑิต
2.5 มีการประเมนิ เม่ือครบรอบการเปดิ สอนหลักสูตรโดยผทู้ รงคณุ วฒุ ภิ ายนอก อาจารย์พเิ ศษ

นักศึกษา บณั ฑติ ผใู้ ชบ้ ณั ฑติ องค์กรวชิ าชีพ หรอื ผู้เกีย่ วข้อง

3. เกณฑ์การสาํ เร็จการศึกษาตามหลกั สตู ร
3.1 แผน ก แบบ ก 2 ศึกษาชุดวิชา ตามท่ีกาหนดในหลักสูตร และข้อกาหนดของมหาวิทยาลัยโดย

ได้รับคะแนนเฉล่ียไม่ต่ากว่า 3.00 สอบวิทยานิพนธ์ผ่านและส่งเล่มวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ตามรูปแบบที่
มหาวิทยาลยั กาหนด ทั้งนี้ผลงานหรือส่วนหนึง่ ของผลงานวิทยานพิ นธ์ ตอ้ งได้รบั การตีพมิ พ์หรือได้รบั การยอมรับ
ให้ตีพิมพ์ในวารสารหรือส่ิงพิมพ์ทางวิชาการ หรือเสนอต่อที่ ประชุมวิชาการท่ีมีรายงานการประชุม
(Proceedings)

3.2 แผน ข ศึกษาชุดวิชาครบถ้วนตามท่ีกาหนดในหลักสูตร โดยได้รับคะแนนเฉล่ียไม่ต่ากว่า 3.00
สอบการศึกษาค้นคว้าอิสระ ผ่านและส่งเล่มการศึกษาค้นคว้าอิสระฉบับสมบูรณ์ตามรูปแบบท่ีมหาวิทยาลัยกาหนด และ
สอบผา่ นการสอบประมวลความรู้ (Comprehensive Examination) ตามท่สี าขาวิชากาหนด

38

หมวดท่ี 6 การพัฒนาคณาจารย์

1. การเตรียมการสาํ หรบั อาจารย์ใหม่
มกี ารปฐมนิเทศอาจารยใ์ หม่ให้เข้าใจบทบาทหน้าท่ีของอาจารย์ และเข้าใจระบบการศึกษาทางไกลของ

มหาวิทยาลัย รวมทั้งเข้าใจหลักสูตรและบทบาทของคณะกรรมการผลติ หรือปรบั ปรุงชุดวิชาและคณะกรรมการ
บรหิ ารชุดวิชา

2. การพฒั นาความรู้และทักษะให้แก่คณาจารย์
2.1 การพฒั นาทักษะการจดั การเรียนการสอน การวดั และการประเมินผล
2.1.1 มีการจดั อบรมใหค้ วามรู้ พร้อมท้ังฝกึ ปฏิบตั ิแกค่ ณาจารยใ์ หมท่ ุกคน ในการผลิตชุดวชิ าท้ัง

ระดบั ปริญญาตรีและระดับบัณฑติ ศึกษา ในเร่อื งต่อไปนี้
1) อบรมการผลิตสือ่ สิ่งพิมพ์
2) อบรมบรรณาธกิ ารชุดวิชา
3) อบรมการจัดการเรียนการสอน เชน่ การสอนผ่านสอ่ื ตา่ ง ๆ
4) อบรมการวดั และประเมนิ ผลในระบบการสอนทางไกล
5) อบรมการทาวิจัยในชนั้ เรยี น เพอื่ พัฒนาการเรยี นการสอน

2.1.2 มกี ารทางานเปน็ ทีมในรูปคณะกรรมการผลติ หรือปรับปรงุ ชดุ วชิ า ดังนัน้ คณาจารย์ใหม่
สามารถแลกเปลีย่ นเรียนร้จู ากการทางานร่วมกับคณาจารย์อาวโุ ส ผ้ทู รงคุณวุฒิภายนอก
2.2 การพัฒนาวิชาการและวิชาชพี ด้านอน่ื ๆ

2.2.1 สนับสนุนใหค้ ณาจารยเ์ ขา้ ร่วมอบรม ประชุม สมั มนาทางวิชาการทง้ั ภายในและภายนอก
ของมหาวิทยาลยั รวมท้งั การเขา้ รว่ มประชุม เสนอผลงานทางวชิ าการท้ังในและนอกประเทศ

2.2.2 สนบั สนุนให้อาจารยเ์ พ่ิมคุณวุฒิ
2.2.3 สนับสนุนให้อาจารยท์ าการวจิ ยั เพ่ือพฒั นาวิชาการวชิ าชพี
2.2.4 สนับสนุนใหอ้ าจารยม์ ีส่วนรว่ มในกจิ กรรมบริการวชิ าการ วชิ าชพี แกส่ งั คม

หมวดท่ี 7 การประกันคุณภาพหลักสูตร

1. การบริหารหลกั สูตร
1.1 มีอาจารย์ประจาหลักสูตร คณะกรรมการบริหารหลักสูตร ซ่ึงมีคุณวุฒิและจานวนตามเกณฑ์

มาตรฐานหลักสูตรที่ สกอ. กาหนด ทาหน้าท่ีบริหารจดั การหลักสูตรและการเรียนการสอนอยา่ งมีประสิทธิภาพ
และประสิทธิผล ประเมินหลักสูตร ปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของสงั คม ปรับปรุง
ดัชนีด้านมาตรฐานและคุณภาพการศึกษาเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่องอย่างน้อยทุกๆ 5 ปี ติดตามบัณฑิตและผู้ใช้
หลักสูตร และรายงานผลการใช้หลกั สตู รรายภาคเรียนและรายปีต่อมหาวทิ ยาลยั

39

1.2 มีการพิจารณากลั่นกรองการดาเนินงานหลักสูตรในรูปคณะกรรมการ เช่น คณะกรรมการประจา
สาขาวิชา คณะกรรมการทปี่ รึกษาประจาสาขาวิชา สภาวิชาการ และสภามหาวิทยาลยั

1.3 มีคณะกรรมการพัฒนา/ปรับปรุงหลักสูตร ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิภายในและภายนอก
ดาเนนิ การพฒั นา/ปรับปรุงหลักสตู ร ใหเ้ ปน็ ไปตามเกณฑม์ าตรฐานหลกั สูตรของกระทรวงศกึ ษาธิการ

1.4 มีคณะกรรมการผลิตและบริหารชุดวิชา ซ่ึงประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิภายในและภายนอก กาหนด
โครงสรา้ งเนื้อหาวชิ า วางแผนการผลิตชดุ วิชา ออกแบบกระบวนการเรียนการสอน และการประเมินผล

1.5 มกี ารประเมนิ และปรบั ปรงุ หลกั สูตรทกุ 5 ปี

2. การบรหิ ารทรัพยากรการเรยี นการสอน
2.1 การบริหารงบประมาณ
หลกั สูตรวทิ ยาศาสตรมหาบัณฑิต แขนงวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารได้รบั การจดั สรร

งบประมาณจากมหาวิทยาลัยทั้งงบประมาณแผ่นดิน และเงินนอกงบประมาณ ท้งั จากงบประมาณเงินรายได้
และดอกผลจากเงินกองทุนเป็นการเฉพาะ ในการจดั ซ้ือทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมดุ อย่างเพยี งพอ เพ่ือ
สนับสนนุ การเรยี นการสอนและสรา้ งสภาพแวดล้อมใหเ้ หมาะสมกับการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองของนักศึกษา

2.2 ทรัพยากรการเรยี นการสอนทม่ี ีอยเู่ ดิม
หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต แขนงวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีความพร้อมด้าน
ทรัพยากรสารสนเทศที่หลากหลาย เพื่อการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยจัดระบบการให้บริการห้องสมุดออกเป็น 2
ระดบั คอื

2.2.1 ระดบั มหาวิทยาลยั มสี านักบรรณสารสนเทศทาหน้าทเี่ ปน็ ห้องสมุดกลาง จัดหาหนงั สือและ
รายงานวิจัย จานวน 160,767 ช่ือเร่ือง วิทยานิพนธ์ จานวน 11,856 ช่ือเร่ือง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ จานวน
364 ชื่อเรื่อง และ 2 ฐานข้อมูล วารสารด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาษาไทยและภาษาอังกฤษรวม
จานวน 101 ชื่อเร่ือง วารสารอิเล็กทรอนิกส์ จานวน 24 ช่ือเรื่อง และฐานข้อมูลออนไลน์ จานวน 21 ฐาน
รวมท้ังการพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศในรูปดิจิทัล โดยมีจุดให้บริการท้ังที่ส่วนกลาง และผ่านเครือข่ายการ
ให้บริการห้องสมุดสาขา ณ ห้องสมุดศูนย์วิทยพัฒนาของมหาวิทยาลัย จานวน 10 แห่งท่ัวประเทศ ท้ังนี้จัดให้มี
ฐานข้อมลู กลางของทรัพยากรสารสนเทศที่ให้บริการในห้องสมุดทุกแห่งผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต บริการนาส่ง
เอกสารแก่นักศึกษาท้ังทางอิเล็กทรอนิกส์และไปรษณี ย์ บริการยืมระหว่างห้องสมุดกับห้ องสมุด
สถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ 24 แห่ง บริการยืมระหว่างกัน (Reciprocal Borrowing) กับกลุ่มห้องสมุด
สถาบันอุดมศึกษาในส่วนภูมิภาคจานวน 20 แห่งทั่วประเทศ รวมท้ังบริการค้นฐานข้อมูลทางวิชาการในสาขา
ตา่ งๆ

2.2.2 ระดับท้องถ่ิน โดยสานักบรรณสารสนเทศร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก ได้แก่ สานักงาน
ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กรุงเทพมหานคร และกรมราชทัณฑ์ เพ่ือการจัดต้ัง
ศูนย์บริการในระดับท้องถ่ิน คือ ศูนย์บริการการศึกษาเฉพาะกิจมุม มสธ. ในห้องสมุดประชาชนประจาจังหวัด

40

ทั่วประเทศ ห้องสมุดประชาชนของกรงุ เทพมหานคร และห้องสมุดเรอื นจา/ทัณฑสถาน นอกจากนั้นยังมีความ

รว่ มมอื กับโรงเรียนมหาวชิราวธุ จังหวดั สงขลา และหอสมดุ รัชมังคลาภิเษก วังไกลกงั วล ในการจัดต้ังศูนย์วิทยบริการ

บัณฑติ ศึกษา ศนู ย์ดังกล่าวให้บรกิ ารเอกสารการสอนของมหาวิทยาลยั และส่ือการสอนอื่น ๆ แกน่ ักศึกษาใน

ท้องถน่ิ และเขตพนื้ ทใ่ี หบ้ ริการ รวมท้ังบรกิ ารพนื้ ฐานทีส่ าคัญ

2.3 การจัดหาทรพั ยากรการเรยี นการสอนเพิม่ เตมิ
มหาวิทยาลัยจัดสรรงบประมาณประจาปี เพื่อการจัดหาทรัพยากรสารสนเทศเพ่ิมเติมในห้องสมุด

นอกจากน้ันยังสนับสนุนให้มีการพัฒนาระบบห้องสมุดดิจิทัล เพ่ือขยายขอบเขตการเข้าถงึ ทรัพยากรสารสนเทศ
แก่นกั ศกึ ษาในระบบการศกึ ษาทางไกลให้กว้างขวางขึน้

ในส่วนของสานักบรรณสารสนเทศ ได้จัดตั้งคณะทางานเลือกสรรส่ือการศึกษา ซึ่งมีผู้แทนจาก
สาขาวิชาทั้งหมด และให้คณาจารย์จากสาขาวิชา สานัก และเจ้าหน้าท่ีจากทุกหน่วยงานได้เสนอรายช่ือ
ทรัพยากรสารสนเทศ เพื่อพัฒนาระบบการเรียนการสอนในด้านต่าง ๆ ย่ิงกว่านั้นยังมีการศึกษาความต้องการ
ของคณาจารยเ์ ปน็ ประจาทุกปี

ในส่วนบริการห้องสมุด ได้จัดช่องทางการขอเข้าใช้บริการที่หลากหลาย ท้ังในรูปจดหมาย
โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ และผ่านเว็บไซต์ของห้องสมุด ที่นักศึกษาสามารถติดต่อและขอใช้
บริการได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะบริการช่วยค้นคว้า และบริการค้นฐานข้อมูลทางวิชาการ และจัดบริการ
นาส่งเอกสารแก่นกั ศกึ ษาท้ังทางอิเล็กทรอนกิ ส์ และทางไปรษณีย์

ในด้านห้องสมุดดิจทิ ัล มีสว่ นท่ีให้บริการแกน่ ักศึกษาทุกระดบั ได้พัฒนาทรัพยากรสารสนเทศทาง
วชิ าการในรูปดจิ ทิ ลั เช่น หนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ของมหาวิทยาลัย เอกสารการสอนชุดวชิ าของมหาวิทยาลัยฉบับ
ก่อนการปรับปรงุ คร้งั ล่าสุด เอกสารด้านนนทบรุ ศี กึ ษา เป็นตน้ สาหรบั นักศึกษาระดบั บัณฑติ ศึกษาได้จัดบริการ
ค้นฐานขอ้ มลู ทางวชิ าการทีห่ ลากหลายในสาขาท่เี ก่ยี วข้อง ท้ังทเี่ ปน็ ฐานข้อมูลบรรณานกุ รมฐานขอ้ มลู เอกสาร
ฉบับเตม็ หนงั สือและวารสารอเิ ล็กทรอนกิ ส์ วิทยานิพนธ์ งานวจิ ยั เป็นต้น โดยนักศกึ ษาระดบั บัณฑิตศึกษาทวั่
ประเทศสามารถเข้าใชผ้ า่ นบัญชขี องนักศึกษาในระบบบริการอินเทอร์เนต็ ของมหาวทิ ยาลยั

2.4 การประเมินความเพียงพอของทรัพยากร
มคี ณะทางานเลอื กสรรสอ่ื การศึกษา ของสานักบรรณสารสนเทศ ทาหน้าท่ีคัดเลือกและ

ประสานงานการจัดซ้ือทรพั ยากรสารสนเทศทุกประเภท เพอื่ ใหบ้ ริการในระบบหอ้ งสมุด และประเมนิ ความ
เพียงพอ จากความต้องการใช้ของคณาจารย์ และนกั ศึกษา ทง้ั ในด้านระบบหอ้ งสมดุ ในระดับตา่ ง ๆ และ
ห้องสมุดดจิ ิทลั ขณะเดียวกัน ยังมีการสารวจความพงึ พอใจของนักศึกษาต่อการให้บรกิ ารของห้องสมุดเป็น
ประจาทกุ ปี

3. การบริหารคณาจารย์
3.1 การรับอาจารยใ์ หม่
3.1.1 กาหนดคณุ สมบัติของอาจารยต์ ามมาตรฐานของมหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช โดย

คานึงถงึ คณุ วุฒกิ ารศึกษา ความรู้ และประสบการณ์ทีเ่ หมาะสม และสอดคล้องกบั ความต้องการจาเป็นของ

41

สาขาวชิ า
3.1.2 มีกระบวนการรบั สมัครอาจารยใ์ หม่ โดยกองการเจ้าหนา้ ทข่ี องมหาวิทยาลัย
3.1.3 มกี ระบวนการสอบคดั เลือกอาจารยใ์ หม่ ท้ังภาคฝึกปฏบิ ัติ และสัมภาษณ์ความเหมาะสมกับ

ตาแหนง่ ตามขอ้ กาหนดของมหาวทิ ยาลยั
3.2 การมีส่วนร่วมของคณาจารย์ ในการวางแผน การตดิ ตามและทบทวนหลักสตู ร
คณาจารย์มีส่วนในการวางแผน การติดตามและทบทวนหลักสูตร ในรปู ของคณะกรรมการตา่ งๆ

ดังน้ี
3.2.1 คณะกรรมการพัฒนา/ปรับปรุงหลักสูตร มีหน้าท่ี จัดทารายละเอียดหลักสูตรในหัวข้อ

ตา่ งๆ ตามแนวทางการจดั ทาเอกสารหลกั สูตรของสานกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
3.2.2 คณะกรรมการบริหารหลกั สูตร มหี น้าที่ ดงั นี้
1) จดั ใหม้ ีการประชุมเพอื่ พิจารณา วางแผน ตดิ ตาม ทบทวน การดาเนนิ งานหลกั สตู ร
2) บริหารจัดการหลักสูตรและการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตาม

เกณฑ์มาตรฐานหลักสตู รระดับอุดมศกึ ษา และกรอบมาตรฐานคณุ วุฒิระดับอุดมศึกษาแหง่ ชาติ
3) พิจารณาจัดทาแผนการผลิตชุดวิชาในภาพรวมของหลักสูตร โดยประสานงานกับ

คณะกรรมการอื่นๆ ท่เี กี่ยวข้อง ไดแ้ ก่ คณะกรรมการกลุ่มผลิตหรือปรับปรุงชดุ วิชา คณะกรรมการบริหารชุดวิชา
(คบ.ช.) ในหลักสูตรระดับปริญญาตรี และคณะกรรมการผลิตหรือปรับปรุงและบริหารชุดวิชาในหลักสูตรระดับ
บัณฑิตศึกษา รวมทั้งการจัดทารายละเอียดของรายวิชา (มคอ.3) และรายละเอียดของประสบการณ์ภาคสนาม
(มคอ.4) (ถา้ มี) เพอื่ เสนอสาขาวชิ าและสภาวิชาการ

4) ประเมนิ วิเคราะห์ รวบรวม และรายงานผลการดาเนนิ การของหลักสูตร ดงั น้ี
(1) รายงานรายภาคการศึกษาต่อสาขาวิชาและสภาวิชาการ ได้แก่ รายงานผลการ

ดาเนนิ การของรายวชิ า (มคอ.5) รายงานผลการดาเนินการของประสบการณ์ภาคสนาม (มคอ.6) (ถ้ามี)
(2) รายงานรายปีการศึกษาต่อสาขาวิชาและสภาวิชาการ ได้แก่ รายงานผลการ

ดาเนินการของหลักสตู ร (มคอ.7)
(3) รายงานผลการประเมินหลักสูตรรอบ 5 ปี ต่อสาขาวิชา สภาวิชาการ และสภา

มหาวิทยาลัย
5) ติดตามบณั ฑิต และผใู้ ช้บณั ฑิต โดยใช้ผลการประเมนิ จากสถาบนั วิจัยและพัฒนา
6) ปรับปรงุ การจดั การเรยี นการสอนให้มีประสทิ ธภิ าพ สอดคลอ้ งกบั ผลการประเมนิ
7) ปรับปรงุ ดชั นีดา้ นมาตรฐานและคณุ ภาพการศกึ ษาเปน็ ระยะๆ อยา่ งต่อเนื่อง อยา่ งนอ้ ย

ทกุ ๆ 5 ปี
8) หน้าทอี่ น่ื ท่เี กี่ยวข้อง

3.2.3 คณะกรรมการผลิตชดุ วิชา มหี น้าท่ี ดงั น้ี
1) กาหนดโครงรา่ งเนอื้ หาชดุ วชิ าเป็นหนว่ ยการสอน 15 หน่วย โดยแบ่งเนื้อหาเปน็ ตอน

และวางแผนการผลิต แลว้ เสนอคณะกรรมการบัณฑิตศึกษาประจาสาขาวิชาทราบ

42

2) พิจารณาใหค้ วามเห็นชอบในสดั สว่ นการผลติ เน้ือหาวิชาในกรณีที่มผี ูผ้ ลิตหลายคนในแต่
ละหน่วยและให้ความเหน็ ชอบการนาผลงานทางวชิ าการของผู้ทรงคุณวุฒิอืน่ มาใชป้ ระกอบชุดวชิ าทรี่ ับผดิ ชอบ
การผลติ

3) กาหนดผรู้ บั ผิดชอบการผลิตเน้ือหาวชิ าแต่ละหนว่ ยการสอน
4) พิจารณากาหนดรายละเอียดของสื่อปฏิสัมพนั ธ์
5) พจิ ารณาความเหมาะสมในการใชส้ อื่ โสตทศั น์ ส่อื อิเล็กทรอนกิ ส์ หรือส่อื เสริมอน่ื ๆ
ประกอบชุดวชิ าทรี่ ับผิดชอบ
6) พจิ ารณาใหค้ วามเหน็ ชอบการแบง่ เน้ือหาชุดวิชาในระดับหัวเรื่องทีผ่ ู้รับผิดชอบการผลติ
เสนอมา
7) พจิ ารณารายละเอียดของแนวการศกึ ษาตามท่ีผรู้ บั ผิดชอบการผลิตเสนอ โดยพิจารณาถงึ
ความสอดคล้องกันระหวา่ งวัตถุประสงค์และกิจกรรมการศึกษา
8) พจิ ารณาเนื้อหาของประมวลสาระชุดวชิ าตามทีผ่ ู้รบั ผิดชอบการผลิตเสนอ โดยพิจารณา
ถงึ ความสอดคล้องกบั แนวการศกึ ษาและวตั ถุประสงค์ของชดุ วชิ า
9) พจิ ารณาเลือกใชต้ ารา หนังสือ และเอกสารทางวิชาการอน่ื ทม่ี ีเน้ือหาสอดคลอ้ งกับ
แนวการศกึ ษาชดุ วิชาและวัตถุประสงค์ชุดวิชาเพื่อทดแทนการผลติ ประมวลสาระชดุ วิชา
10) วินจิ ฉัยปัญหาทางวชิ าการตา่ งๆ ทีเ่ กีย่ วข้องกบั การผลิตชุดวิชาท่ีรับผิดชอบ
11) รายงานความก้าวหนา้ ในการผลติ ชุดวิชาทีร่ ับผดิ ชอบตอ่ คณะกรรมการบัณฑิตศกึ ษา
ประจาสาขาวิชาเป็นรายเดือน
12) ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีอ่นื ๆ ที่เกี่ยวกบั การผลติ ชดุ วชิ าทร่ี ับผิดชอบตามท่คี ณะกรรมการ
บัณฑติ ศึกษาประจาสาขาวชิ ามอบหมาย
3.2.4 คณะกรรมการปรับปรุงชดุ วิชา มีหน้าท่ี ดงั นี้
1) วิเคราะหเ์ น้ือหาสาระทจี่ ะปรับปรงุ และกาหนดสดั ส่วนในการปรบั ปรงุ ชุดวชิ าระดบั
บัณฑิตศึกษา
2) เสนอผูป้ รับปรุงและผู้ร่วมปรับปรงุ ชดุ วชิ าระดบั บณั ฑติ ศึกษาแต่ละหน่วย
3) พจิ ารณาปรบั ปรุงสอื่ หลักและส่ือเสรมิ ท่เี ก่ยี วข้องกับชดุ วชิ าระดบั บณั ฑิตศึกษาที่ทาการ
ปรับปรงุ ให้มคี วามเหมาะสม ทันสมัยและสอดคล้องกนั
4) พิจารณาเลือกใชต้ ารา หนงั สอื และเอกสารทางวชิ าการอน่ื ท่มี ีเนื้อหาสอดคล้องกบั แนว
การศึกษาชดุ วิชาและวตั ถปุ ระสงค์ชดุ วิชา เพือ่ ทดแทนการผลิตประมวลสาระชดุ วิชา
5) พิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับรายละเอียดการสัมมนาเสริม หรอื สมั มนาเข้มชุดวชิ า
ระดบั บัณฑติ ศึกษาต่อคณะกรรมการบณั ฑิตศึกษาประจาสาขาวชิ า
6) พจิ ารณาความเหมาะสมในการกาหนด วิธกี าร ขน้ั ตอน และเคร่ืองมือในการวัดและ
ประเมินผลการสัมมนาเสรมิ หรอื สมั มนาเข้ม ระหวา่ งเรียนและการสอบไล่

43

7) จดั ทารายงานผลการปรับปรุงชดุ วิชาระดบั บณั ฑติ ศกึ ษาตอ่ คณะกรรรมการบณั ฑิตศึกษษ
ประจาสาขาวิชาเป็นประจาทุกเดือน

3.3 การแตง่ ต้ังคณาจารยพ์ เิ ศษ
มเี กณฑ์การแตง่ ตัง้ คณาจารยพ์ เิ ศษจากภายนอกมหาวิทยาลัยที่เปน็ ผู้มปี ระสบการณ์ตรง หรอื มีวฒุ ิ

การศึกษาไมต่ า่ กว่าปรญิ ญาโทมาร่วมในคณะกรรมการผลติ /ปรบั ปรงุ และบริหารชดุ วิชา

4. การบรหิ ารบุคลากรสนับสนนุ การเรยี นการสอน
4.1 การกําหนดคณุ สมบัติเฉพาะสาํ หรับตาํ แหน่ง
มหาวทิ ยาลยั มีการกาหนดคุณสมบตั เิ ฉพาะสาหรบั ตาแหน่งของบุคลากรสายสนบั สนุนที่เกี่ยวขอ้ ง

ตามเกณฑ์มาตรฐานตาแหนง่ เชน่ สานักพมิ พ์ สานักบริการการศกึ ษา สานกั คอมพวิ เตอร์ ฯลฯ ตามนโยบาย
“รวมบริการประสานภารกิจ” ของมหาวทิ ยาลยั

4.2 การเพิ่มทักษะความรเู้ พ่ือการปฏบิ ัตงิ าน
มหาวิทยาลยั มกี ารเพม่ิ พูนความรแู้ ละทักษะในการปฏบิ ตั งิ านของบคุ ลากรสายสนบั สนนุ เป็น

ประจาทุกปี

5. การสนบั สนุนและการให้คาํ แนะนาํ นกั ศกึ ษา
5.1 การให้คาํ ปรกึ ษาด้านวิชาการ และอน่ื ๆ แก่นกั ศึกษา
5.1.1 มีระบบการให้คาปรึกษาทางวิชาการโดยมีการกาหนดผู้รับผิดชอบตอบปัญหาและให้คาแนะนา

แก่ นักศึกษาผ่านช่องทางที่หลากหลาย ได้แก่ จดหมาย โทรศัพท์ มาพบด้วยตนเอง ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
และกระดานสนทนาบนอนิ เทอร์เน็ต เป็นต้น

5.1.2 มีการวิเคราะห์และสรุปปัญหา/ข้อคาถามของนักศึกษา เพ่ือนาเสนอต่อคณะกรรมการประจา
สาขาวชิ าพิจารณาแกไ้ ขปัญหาในภาพรวม

5.1.3 มีระบบการสนับสนุนและการให้คาแนะนานักศึกษาทั้งในระดับหลักสูตรและระดับชุดวิชาใน
รูปแบบที่หลากหลาย เช่น อาจารย์ที่ปรึกษา เอกสาร วีซีดี สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์
แผนการสอนประจาชดุ วชิ าและประจาหน่วยการสอน เป็นตน้

5.1.4 มีการจดั ปฐมนิเทศแกน่ กั ศกึ ษา โดยคณาจารย์ และสื่อในรูปแบบอนื่ ๆ เชน่ คู่มอื รายการ
วิทยกุ ระจายเสยี ง วทิ ยุโทรทศั น์ ซดี ี วซี ดี ี เว็บไซต์ Webcasting เป็นตน้

5.1.5 มกี ารจัดบรกิ ารสอนเสริม อบรมเข้ม อบรมเข้มพเิ ศษ การฝกึ ปฏบิ ตั เิ สรมิ ทกั ษะ การทา
กิจกรรมประจาชดุ วชิ า และให้คาแนะนาแกน่ กั ศึกษา (สาหรับระดบั ปรญิ ญาตร)ี

5.1.6 มีการจดั บรกิ ารสัมมนาเสริม สมั มนาเข้ม อบรมเข้ม ใหค้ าแนะนาแกน่ กั ศกึ ษา (สาหรบั ระดบั
บณั ฑติ ศกึ ษา)

5.2 การอุทธรณ์ของนักศกึ ษา
เม่ือมหาวิทยาลัยพิจารณาและมีคาสั่งหรือคาวินิจฉัยในเร่ืองใดแล้ว หากนักศึกษาไม่เห็นด้วยกับคาส่ัง


Click to View FlipBook Version