แผนการจดั การเรียนรู้
รหัสวชิ า 2000-1601 วิชา พลศึกษาเพ่อื พฒั นาสขุ ภาพ
หลักสูตรประกาศนียบัตรวชิ าชพี พุทธศกั ราช 2556
ประเภทวิชาเกษตรกรรม
โดย
สดใส หวงั อารี
ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา 2558
วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยรี ะนอง
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา
กระทรวงศกึ ษาธิการ
2000-1601 พลศกึ ษาเพอื่ พฒั นาสุขภาพ
( Physical Education for Health Development )
จดุ ประสงค์รายวชิ า เพอื่ ให้
1. เข้าใจหลกั การเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายเพื่อความพรอ้ มในการประกอบอาชีพ
2. สามารถเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกายตามหลักการบริโภคอาหารและโภชนาการ หลกั การออกกาลังกาย
และหลกั การดูและเล่นกีฬาไทย/ กฬี าสากล
3. มีเจตคตแิ ละกิจนิสยั ทีด่ ีในการเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกายดว้ ยความมีวนิ ยั มีนาใจนักกีฬา ความสามัคคี
เคารพกฎกตกิ าและมีมารยาท
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย หลักการบริโภคอาหารและโภชนาการ
หลกั การออกกาลังกายและหลักการดูและเลน่ กีฬา
2. บริโภคอาหารตามหลกั โภชนาการเพ่อื เสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย
3. ออกกาลังเพ่ือพัฒนาบุคลิกภาพและสมรรถภาพตามหลักการและกระบวนการ
4. ดูและเลน่ กฬี าไทย/ สากล ตามกฎ กติกา มารยาท
5. ใชค้ ่าดรรชนีมวลกายวางแผนปรับปรงุ บุคลิกภาพและสุขภาพ
6. ปฏบิ ตั โิ ครงงานเกีย่ วกับสุขภาพและกีฬา
คาอธบิ ายรายวิชา
ปฏบิ ัตเิ กี่ยวกับ หลักการเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย อาหารและโภชนาการท่ีเสริมสร้างสมรรถภาพ
ทางกาย การทดสอบสมรรถภาพทางกาย การหาค่าดรรชนีมวลกาย หลกั การและรูปแบบการออกกาลังกายด้วย
กีฬาไทย/ กีฬาสากล มีวินัย มีนาใจนักกีฬา เคารพกฎกติกา มีมารยาทในการดูและการเล่นกีฬา เลือกและ
ปฏิบตั ิการออกกาลังกายอย่างเหมาะสม มีความสขุ ภายใต้หลักความพอเพียง พร้อมทจ่ี ะประกอบอาชีพได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ
โครงการสอน
วชิ า พลศกึ ษาเพอื่ พฒั นาสุขภาพ
รหสั 2000 – 1601
จานวน 1 หน่วยกติ (2 ชว่ั โมง / สปั ดาห์)
สัปดาห์ท่ี หนว่ ยที่ สาระการเรยี นรู้ ช่วั โมง
1-5 1 สมรรถภาพทางกาย,การออกกาลงั กาย,การเลือกกีฬา 10
(2)
- ประวัตคิ วามเปน็ มาและความหมายของสมรรถภาพทางกาย
- ความสาคัญของสมรรถภาพทางกาย (4)
- ประโยชน์โดยตรงของสมรรถภาพทางกาย
- ประเภทของสมรรถภาพทางกาย (2)
- หลักการเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย
- หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การดูแลสขุ ภาพ (2)
- หลกั โภชนาการที่เสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย
การทดสอบสมรรถภาพทางกายและการหาคา่ ดรรชนีมวลกาย
- ปจั จยั ทเ่ี กีย่ วข้องซงึ่ เปน็ ตัววัดองคป์ ระกอบของสมรรถภาพ
ทางกาย
- หลักการเลอื กแบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย
- แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายทงั ในและต่างประเทศ
- การหาคา่ ดรรชนีมวลกาย (BMI)
หลักการและรปู แบบการออกกาลงั กาย
- เป้าหมายของการออกกาลงั กาย
- ประโยชนข์ องการออกกาลังกาย
- โทษของการขาดการออกกาลงั กาย
- หลักในการออกกาลังกาย
- ขนั ตอนในการออกกาลงั กาย
- กฎทอง 10 ข้อเพ่อื สง่ เสรมิ ใหค้ นไทยรักการออกกาลงั กาย
การเลือกประเภทกจิ กรรมพลศึกษาหรือกีฬาให้เหมาะสมกบั ตนเอง
- ความหมายของกฬี าเพอ่ื สุขภาพ
- ขอ้ ควรคานึงถงึ กฬี าเพอื่ พฒั นาสุขภาพ
- การเลอื กกีฬาใหเ้ หมาะสมกบั วยั ของตนเอง
- การเลอื กกีฬาตามสรีระ
สปั ดาหท์ ี่ หน่วยที่ สาระการเรยี นรู้ ชั่วโมง
4
6 - 7 2 กีฬาไทย,กีฬาสากลและกฬี าแบดมนิ ตัน (2)
(2)
- ตัวอย่างประเภทกฬี าไทย 2
- ชนิดของกฬี าสากล 4
(2)
8 1 – 2 ทดสอบกลางภาค (2)
9-10 3 การเสริมสรา้ งสมรรถภาพรา่ งกายสาหรับการเล่นแบดมินตัน 14
- ทกั ษะการเคล่ือนไหวเบอื งตน้ (2)
- การเตรียมรา่ งกายให้พรอ้ มสาหรบั การเล่นแบดมนิ ตัน
(1)
11-17 4 ตวั อยา่ งกีฬาสากล กีฬาแบดมินตัน (1)
- ประวตั กิ ีฬาแบดมนิ ตัน (2)
ทักษะพื้นฐานในการเลน่ แบดมินตัน (2)
1. การจับไม้
2. การฟุตเวอรค์ (2)
3. การสง่ ลูก
(2)
- กางสง่ ลกู หนา้ มอื
- การสง่ ลกู หลงั มือ (2)
4. การตลี กู โดง่
- ทกั ษะการตีลกู โด่ง (2)
(2)
5. การตลี กู ดาด
- วิธกี ารตลี ูกดาด
6. การตลี กู หยอด
- ทักษะการตีลูกหยอด
7. การตบลกู
- การตบลกู
11 –12 -
13 – 19 4 14
(2)
20 1 – 4 กติกาการเล่นแบดมินตัน
- สนามแบดมนิ ตนั และลูกแบดมินตัน (12)
- ผเู้ ล่นและจานวนผเู้ ล่น 2
กตกิ าการเลน่ ลูก
การเลน่ แบดมนิ ตนั เพอื่ การแข่งขัน
- การเล่นแบดมนิ ตนั เพอื่ การแล่งขันประเภทเด่ยี ว
- การเลน่ แบดมินตันเพือ่ การแลง่ ขนั ประเภทคู่
- การเลน่ แบดมนิ ตนั เพอ่ื การแลง่ ขันประเภทคผู่ สม
การสอบปฏิบัติ
- การเล่นแบดมินตนั เพอ่ื การแลง่ ขนั ประเภทเดีย่ ว
- การเล่นแบดมินตนั เพอ่ื การแลง่ ขนั ประเภทคู่
- การเล่นแบดมินตนั เพ่อื การแลง่ ขนั ประเภทคผู่ สม
ทดสอบปลายภาค
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1. ประเมินผลระหวา่ งภาคและปลายภาค
2. นาเข้าสู่บทเรยี น โดยการเชือ่ มโยงความรเู้ ดิม มาสู่ความร้ใู หม่
3. ใชว้ ธิ ีสอนโดยใหผ้ ู้เรียนมสี ว่ นร่วม และใช้วิธีการสอนอย่างหลากหลาย เช่น การวางแผน
ระดมสมอง อภปิ ราย สาธิต แบ่งกลมุ่ หรอื ฐาน แสดงบทบาทสมมติ วิธีทางวิทยาศาสตร์ และการปฏบิ ตั ิจรงิ เป็นตน้
4. สรปุ เนอื หาร่วมกนั ระหวา่ งผเู้ รยี นกบั ผสู้ อน
5. ทดสอบความรคู้ วามเข้าใจ ตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ของแต่ละหน่วย
6. ทดสอบสมรรถภาพทางกายของผเู้ รยี น เมอ่ื เรียนจบหลกั สูตร
7. ประเมินพฤติกรรมทางดา้ นคุณธรรม และจริยธรรม ในทกุ หน่วยการเรยี น โดยให้ผเู้ รียนและ
ผูส้ อนประเมินรว่ มกัน
สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์
2. รปู ภาพทเี่ กี่ยวข้อง
3. อุปกรณก์ ฬี า เชน่ ฟุตบอล บาสเกตบอล ตะกร้อ กรวยยาง และนกหวีด เป็นต้น
4. นาฬกิ าจบั เวลา (stop watch)
5. เครื่องชงั่ นาหนกั และเคร่อื งวัดสว่ นสูง
6. เทปวัดระยะทางยาวประมาณ 60 นิว หรือสายวดั
7. ไม้บรรทัดทม่ี ีการแบง่ ระยะเป็นเซนตเิ มตร
8. เทปวดั ระยะทาง หรือไมบ้ รรทัดยาวไม่น้อยกวา่ 25 นวิ
9. มา้ ยาว หรอื กลอ่ งกา้ วขึน - ลง หรอื บันไดสูงขนาด 12 นวิ เคร่อื งตังจังหวะ หรอื อาจใชเ้ ทปบันทกึ
จังหวะแทนนาฬกิ าจบั เวลาก็ได้
10. ใบบันทึกสมรรถภาพทางกาย
11. กลอ่ งเครอ่ื งมือสาหรบั วดั ความออ่ นตัว ขนาดยาว 12 นิว กว้าง 12 นวิ สงู 12 นวิ มีตวั เลขกากบั ทุก
ระยะหา่ ง 1 เซนติเมตร
12. ลู่วงิ่ หรอื สนามพนื เรยี บสนามขนาด 440 หลา หรอื 400 เมตร หรอื เป็นระยะทางตรง
13. ป้ายบอกจานวนรอบ
14. เบาะหนา 2 นิว ขนาด 1.00 x 2.00 เมตร
15. ป้ายผา้ ติดหนา้ อกมหี มายเลข 1-30 จานวน 2 ชุด
16. เสือเอยี๊ มติดหมายเลข 1-15 จานวน 3 ชดุ
17. งานมอบหมายโครงงาน และใบงาน
18. เอกสารประกอบการสอน เชน่ ใบความรู้ แบบบันทกึ ผลงาน แนวคิดทค่ี วรได้ และแบบฝกึ หดั
ท้ายหน่วย เป็นตน้
19. หนังสอื แบบเรยี น วชิ า พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสขุ ภาพ(2000 – 1001) เรียบเรยี งโดย
รศ.เจษฏา เจยี ระนยั สานกั พมิ พศ์ ูนยส์ ง่ เสรมิ วิชาการ ปี พ.ศ. 2556 (151หนา้ )
20. หนังสอื พิมพร์ ายวนั
21. วิทยแุ ละโทรทศั น์
22. หอ้ งสมุดทั่วไป
23. การกฬี าแหง่ ประเทศไทย
24. สมาคมกีฬาตา่ ง ๆ
25. ศนู ยก์ ฬี าประจาจงั หวัด และอาเภอ
26. สถาบันการศึกษาตา่ ง ๆ
27. เวบ็ ไซต์ตา่ ง ๆ ที่เกย่ี วข้อง
การวัดผลและประเมนิ ผล 80: 20 คะแนน
1. อัตราสว่ นของคะแนน
2. คะแนนเก็บระหวา่ งภาคเรียน 80 คะแนน
3. คะแนนสอบปลายภาค 20 คะแนน
4. คะแนนเต็ม 100 คะแนน
ลาดับท่ี รายละเอียดของคะแนน จานวนคะแนน
1 ประเมินพฤติกรรมทางดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม 20
2 งานมอบหมาย (โครงงาน) 30
3 ทดสอบภาคทฤษฎี 20
4 ทดสอบภาคปฏิบัติ 30
รวม 100
หมายเหตุ
1. ผูส้ อนสามารถปรบั เปลย่ี นใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพของผูเ้ รยี น และสภาพแวดล้อมของแตล่ ะ
สถานศึกษาไดต้ ามความเหมาะสมแผนการจดั การเรียนรู้ฉบบั นี ใชก้ บั หนงั สือแบบเรยี นวิชาพลศึกษาเพ่อื
พัฒนาสขุ ภาพ (2000 – 1001) เรียบเรียงโดย รศ.เจษฏา เจยี ระนัย สานักพมิ พ์ศูนย์สง่ เสรมิ วชิ าการ ปี
พ.ศ. 2556 (151 หนา้ )
2. ควรมอบหมายงานให้ผเู้ รียนทุกคนทาโครงการพลศึกษาเพ่อื พฒั นาสขุ ภาพ 1 โครงการ
3. งานทุกชนิ ทไ่ี ด้รบั มอบหมายใหท้ า จะตอ้ งจัดเกบ็ ไว้ในแฟม้ สะสมงาน เพ่อื จัดสง่ ผสู้ อนในช่วง
สอบปลายภาค
ชว่ั โมงท่ี 1 –10 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 – 5 สอนครั้งท่ี 1 – 5
หนว่ ยที่ 1 เรอื่ ง สมรรถภาพทางกาย,การออกกาลงั กาย,การเลือกกฬี า จานวนชั่วโมง
สัปดาหท์ ่ี 1 – 5 10
สาระสาคญั
คนมีสมรรถภาพทางกายทส่ี มบรู ณ์แข็งแรงยอ่ มทาให้ชีวติ ประสบความสาเร็จในทกุ ๆ ด้านไมว่ า่ จะเปน็ ด้าน
สติ ปญั ญา ดา้ นอารมณส์ งั คมและครอบครัว ตลอดจนทาใหเ้ ปน็ คนมีชอ่ื เสยี งและเป็นทยี่ อมรบั ในสงั คม การได้
ทดสอบสมรรถภาพตนเองรวมทังการหาค่าดรรชนีมวลกายอยา่ งถูกตอ้ ง แม่นยาตามหลกั และวธิ ีการทาใหผ้ ้เู รียน
สามารถทราบสมรรถภาพของตนเอง ซึง่ เป็นพืนฐานการเรียนรูต้ ลอดจนการเลอื กกีฬาทเ่ี หมาะเพือ่ ใช้เปน็ ปจั จยั ใน
การสง่ เสรมิ พฒั นาสมรรถภาพทางกายของตนเองให้ดียิ่งขนึ ต่อไป
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายความเป็นมาและความหมายของสมรรถภาพทางกายได้
2. อธิบายความสาคญั ของสมรรถภาพทางกายได้
3. อธบิ ายประโยชนโ์ ดยตรงของสมรรถภาพทางกายได้
4. อธบิ ายประเภทและหลกั การเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกายได้
5. อธบิ ายหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงกบั การดแู ลสุขภาพได้
6. อธิบายหลกั โภชนาการทเี่ สริมสร้างสมรรถภาพทางกายได้
7. อธิบายปจั จัยทเ่ี ก่ยี วข้องซง่ึ เปน็ ตัววดั องค์ประกอบของสมรรถภาพทางกายได้
8. อธิบายหลกั การเลือกแบบทดสอบสมรรถภาพทางกายได้
9. ผู้เรียนสามารถผา่ นเกณฑ์การทดสอบสมรรถภาพทางกายได้
10. ผเู้ รยี นสามารถหาคา่ ดรรชนีมวลกาย (BMI) ได้อย่างถูกต้อง
11. อธบิ ายถงึ ประโยชนแ์ ละเป้าหมายของการออกกาลงั กายได้
12. อธบิ ายถงึ โทษของการขาดการออกกาลังกายได้
13. อธบิ ายหลกั ในการออกกาลังกายได้
14. อธบิ ายขันตอนในการออกกาลงั กายได้
15. สามารถนากฎทอง 10 ขอ้ ไปปรบั ประยกุ ตใ์ ช้ไดใ้ นชวี ิตประจาวนั
16. อธิบายความหมายของกีฬาเพ่อื สขุ ภาพได้
17. อธบิ ายข้อควรคานงึ ถงึ กฬี าเพือ่ พัฒนาสขุ ภาพได้
18. สามารถตัดสนิ ใจเลอื กกีฬาท่เี หมาะสมกับวยั ของตนเองได้
19. สามารถเลอื กเล่นกฬี าตามสรรี ะของตนเองได้
เนอ้ื หา
- ประวตั คิ วามเปน็ มาและความหมายของสมรรถภาพทางกาย
- ความสาคัญของสมรรถภาพทางกาย
- ประโยชน์โดยตรงของสมรรถภาพทางกาย
- ประเภทของสมรรถภาพทางกาย
- หลกั การเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย
- หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งกับการดูแลสขุ ภาพ
- หลักโภชนาการทเี่ สรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย
- ปจั จัยที่เก่ียวขอ้ งซงึ่ เป็นตวั วัดองคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกาย
- หลกั การเลอื กแบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย
- แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายทงั ในและตา่ งประเทศ
- การหาคา่ ดรรชนีมวลกาย (BMI)
- เป้าหมายของการออกกาลงั กาย
- ประโยชน์ของการออกกาลงั กาย
- โทษของการขาดการออกกาลงั กาย
- หลักในการออกกาลงั กาย
- ขันตอนในการออกกาลงั กาย
- กฎทอง 10 ข้อเพอื่ สง่ เสรมิ ใหค้ นไทยรกั การออกกาลงั กาย
- ความหมายของกฬี าเพอื่ สขุ ภาพ
- ขอ้ ควรคานึงถึงกฬี าเพื่อพฒั นาสขุ ภาพ
- การเลอื กกฬี าใหเ้ หมาะสมกบั วัยของตนเอง
- การเลือกกฬี าตามสรีระ
กีฬาไทยแลและกฬี าสากล
- ตวั อย่างประเภทกีฬาไทย
- ตวั อยา่ งกฬี าสากล กีฬาแบดมินตนั
- ประวัติกีฬาแบดมินตนั
- ทักษะกีฬาแบดมนิ ตนั
- ประโยชน์ของการเล่นแบดมินตัน
- การดูแลรกั ษาอุปกรณก์ ีฬา
- ทักษะการเคล่ือนไหวเบอื งตน้
,อนั ตรายและการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
- สาเหตขุ องการบาดเจบ็
- การบาดเจบ็ และการปฐมพยาบาล
- หลักสาคญั ในการปฐมพยาบาล
- ขอ้ ควรระวงั ในการปฐมพยาบาล
กิจกรรมการเรียนการสอน
ชัว่ โมงที่ 1 – 2 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1
กจิ กรรมผู้สอน กิจกรรมผเู้ รียน
ปฐมนเิ ทศ
- ชีแจงรายละเอยี ดเกี่ยวกบั การเรียนการสอน ดังนี - ฟัง ซกั ถาม และตอบคาถาม
1. ขอบขา่ ยและจดุ ประสงค์รายวิชา - จดบนั ทกึ ลงในสมุดประจาตัว
2. การจดั เตรยี มอปุ กรณ์การเรียนและการแต่งกาย - จัดเตรยี มอปุ กรณก์ ารเรยี นและเครอื่ งแตง่ กาย
3. การวัดผลและประเมนิ ผล ตามทีผ่ สู้ อนกาหนดไว้
4. งานมอบหมาย (โครงงาน) - รับทราบงานมอบหมาย
ขัน้ นา
- ให้ผ้เู รียนชว่ ยกันยกตวั อย่างความสาคญั และ - ฟัง และตอบคาถาม
ประโยชนข์ องการมีสมรรถภาพทางกายทีด่ ี - รว่ มแสดงความคดิ เหน็
- สรปุ ความคดิ เหน็ ของผเู้ รยี น - ซกั ถาม
ขัน้ สอน - ฟงั ดพู าวเวอร์พอย และรูปภาพประกอบ
- ซักถามและจดบันทกึ
- แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ และเนอื หาทจ่ี ะเรยี น - แบง่ กลุ่มออกเป็น 5 กล่มุ เลือกประธานและ
นาเสนอโดยพาวเวอรพ์ อย และรปู ภาพ ดังนี
ประวัติความเป็นมา ความหมายและประโยชน์ของ เลขาประจากลมุ่
- รับใบงานและเอกสารประกอบการเรียนมา
การมสี มรรถภาพทางกายท่ดี ี
- แบ่งผเู้ รียนออกเป็น 5 กลุม่ แจกใบงานและเอกสาร ช่วยกันทาตามทีใ่ บงานกาหนดให้
ประกอบการเรียนใหก้ ลมุ่ ละ 1 ชุด - ส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนาเสนอผลงานหน้า
หอ้ งเรียน ตามลาดบั
- ใหส้ มาชิกแตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั ทางานตามใบงานที่ 1
กาหนดไว้ - ช่วยกนั ตอบขอ้ ซกั ถามของผสู้ อนและสมาชิก
- ฟงั และซักถาม การนาเสนอผลงานของแต่ละกลุม่ กล่มุ อ่ืน ๆ
- รบั ผลงานและแบบเฉลยใบงาน มาดปู ระกอบ
และใหผ้ เู้ รยี นกล่มุ อน่ื ๆ ช่วยกนั ซกั ถามได้
- ประเมนิ ผลงานของแต่ละกลมุ่ พร้อมกับคนื ผลงาน
และแจกแบบเฉลยใบงานให้ดปู ระกอบ
กิจกรรมการเรียนการสอน (ตอ่ )
ชวั่ โมงที่ 1 – 2 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 1
กิจกรรมผ้สู อน กิจกรรมผู้เรยี น
ข้นั สรุป
- สรปุ เนือหาการนาเสนอของทกุ กลุ่มโดยเปดิ โอกาสให้ - ชว่ ยกันสรุปเนือหาและความร้คู วามเข้าใจท่ีได้
ผูเ้ รยี นได้สรปุ เนอื หาร่วมกนั นาเสนอไปแลว้ ทุกกลมุ่
- ซกั ถามความรู้ ความเข้าใจ เป็นรายบุคคล เพอื่ - ตอบคาถาม และซกั ถาม เพอ่ื ทาความเข้าใจ
ประเมินผลการเรยี นรูท้ ่ไี ด้รบั - ฟงั ดูตวั อย่างโครงงาน และซักถาม
- อธิบายวิธกี ารทาโครงงาน พร้อมกบั ให้ดตู ัวอย่าง - รบั ทราบงานมอบหมาย และการนัดหมาย
และมอบหมายงานใหผ้ เู้ รียนทุกคนทา โครงงาน
เก่ียวกับหลกั การเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกายคน
ละ 1 โครงการ กาหนดส่งในสปั ดาห์สุดทา้ ยกอ่ น
สอบปลายภาคเรียนนี
- นดั หมายการเรียนในครงั ตอ่ ไป
ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้
1. ตัวอยา่ งโครงงาน
2. รปู ภาพ
3. ไฟล์พาวเวอรพ์ อย
4. ใบงาน และเฉลยใบงาน
5. หนังสอื แบบเรียน วิชา พลศกึ ษาเพือ่ พฒั นาสขุ ภาพ (2000 – 1001) เรียบเรียงโดย
รศ.เจษฏา เจยี ระนยั สานักพมิ พ์ศนู ยส์ ง่ เสรมิ วิชาการ ปี พ.ศ. 2556 (151 หน้า)
6. หนงั สือพมิ พร์ ายวนั
7. วิทยุและโทรทศั น์
8. หอ้ งสมุดทัว่ ไป
9. การกฬี าแหง่ ประเทศไทย
10. สมาคมกฬี าต่าง ๆ และศูนยก์ ฬี าประจาจงั หวดั และอาเภอ
11. เว็บไซตท์ เี่ กีย่ วขอ้ ง
การวดั ผลและประเมนิ ผล
1. แบบสงั เกตการมีสว่ นรว่ มแสดงความคดิ เหน็ / การอภปิ รายกลุ่ม
2. แบบประเมินผลการรายงานกลมุ่
3. การซักถาม และการตอบคาถามของผเู้ รยี น
บันทึกหลงั สอน
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………..........................................…………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………….........................................................
...
ใบงานที่ 1
เรือ่ ง หลกั การเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เพ่อื ให้ผ้เู รยี นร้แู ละจาแนกหลกั การเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายไดถ้ กู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรยี นรู้ แบ่งผเู้ รยี นออกเปน็ 5 กล่มุ ให้แตล่ ะกลุ่มเลือกประธาน และเลขา ตาแหน่งละ 1 คน แลว้
ชว่ ยกนั อภิปรายเก่ยี วกบั หลกั การเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย ตามประเด็นท่ีกาหนดให้ พรอ้ มกบั ส่งตวั แทนกลมุ่
ออกไปนาเสนอผลงานหนา้ ห้องเรยี น ตามลาดบั
ให้เกบ็ ชินงานไวใ้ นแฟม้ สะสมงาน (Portfolio) ของแตล่ ะบคุ คล แล้วจัดสง่ ผสู้ อนในวันสดุ ท้ายของการสอบ
ปลายภาค
ประเด็นอภปิ ราย แนวคดิ ทีค่ วรได้
กลุ่มที่ 1
ความสาคัญของสมรรถภาพทางกาย
กลมุ่ ที่ 2
ประโยชนข์ องสมรรถภาพทางกาย
กลมุ่ ที่ 3
หลักการเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย
กล่มุ ท่ี 4
หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งกับการดแู ลสขุ ภาพ
กล่มุ ท่ี 5
หลักโภชนาการทเ่ี สรมิ สร้างสมรรถภาพ
รายชือ่ สมาชิกกลุ่มท…่ี ………..
1. …………………………… 2. ……………….…………… 3. ……………………………….
4. …………………………… 5. ……………….…………… 6. ……………………………….
ลงช่อื ………………………………ผสู้ อน
เกณฑ์การประเมินผล ใช้ แบบสงั เกตการมสี ่วนรว่ มแสดงความคิดเห็น / การอภิปรายกลมุ่
และแบบประเมินผลการรายงานกลมุ่
แบบสังเกตการมสี ่วนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ / การอภปิ รายกล่มุ
ใบงานที่ ..............….
เร่อื ง ………………………………..
กล่มุ ที่...........................…..
คะแนน การรบั ฟงั การเสนอ การยอมรับ การสรา้ ง รวม ระดับการมี
ความ ความ คนอ่ืน บรรยากาศ คะแนน สว่ นรว่ ม
ชือ่ – สกลุ คิดเห็น คิดเห็น
1 ในกลุ่ม 20
2 5 5
3 55
4
5
6
7
8
ลงช่ือ………………………………………ผู้สอน
ระดบั ของคะแนนย่อย
พฤติกรรมท่มี กี ารปฏิบตั มิ ากทส่ี ดุ = 5 คะแนน
พฤติกรรมท่มี กี ารปฏิบตั ิค่อนข้างมาก = 4 คะแนน
พฤติกรรมทีม่ กี ารปฏบิ ตั ิปานกลาง = 3 คะแนน
พฤติกรรมที่มกี ารปฏบิ ตั ิค่อนขา้ งนอ้ ย = 2 คะแนน
พฤตกิ รรมที่มกี ารปฏิบตั ิน้อยทสี่ ุด = 1 คะแนน
เกณฑก์ ารประเมินผล
ไดค้ ะแนน 15 – 20คะแนน = แสดงพฤติกรรมทีม่ สี ว่ นรว่ มมาก
ได้คะแนน 8 – 14 คะแนน = แสดงพฤติกรรมทีม่ สี ว่ นร่วมปานกลาง
ไดค้ ะแนน 1 – 7 คะแนน = แสดงพฤตกิ รรมที่มสี ่วนร่วมนอ้ ย
แบบประเมินผลการรายงานกลมุ่
ใบงานที่ …...............…
เรอ่ื ง ……………………………….
การนาเสนอผลงาน การบนั ทึกผลงาน รวม ระดับ
คณุ ภาพ
คะแนน ขัน้ นา ขัน้ เสนอ ขั้นสรปุ ถกู ต้อง เรยี บร้อย คะแนน
10 10 10 10 10 50 ของผลงาน
กล่มุ ท่ี
ลงชื่อ………………………………………ผ้สู อน
1
2 = ดีมาก
= ดี
3 = พอใช้
4 = ควรปรบั ปรงุ
5 = คณุ ภาพงานดี
= คณุ ภาพงานปานกลาง
6 = คณุ ภาพงานควรปรับปรงุ
7
8
ระดับของคะแนนย่อย 9 – 10
ได้คะแนน 7–8
5–6
เกณฑ์การประเมนิ ผล 0–4
ได้คะแนน
35 – 50
17 – 34
1 – 16
ชวั่ โมงที่ 3 – 4 กจิ กรรมการเรยี นการสอน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2
กิจกรรมผ้สู อน กจิ กรรมผู้เรยี น
ขัน้ นา
- สุม่ ถามผู้เรยี นถึงเครอ่ื งมอื ทเ่ี กยี่ วขอ้ งซง่ึ เป็นตวั วดั - ฟัง และตอบคาถาม
องคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกาย พร้อมกับสรปุ - แสดงความคดิ เหน็
ความคดิ เห็นของผ้เู รียน - ซกั ถาม
ขั้นสอน
- แจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรแู้ ละเนอื หาสาระทจี่ ะเรยี น - ฟงั และดพู าวเวอร์พอยและรปู ภาพประกอบ
นาเสนอโดยพาวเวอรพ์ อย และรปู ภาพ ดังนี เครอื่ งมอื - ซกั ถาม และจดบันทกึ
ท่ีเกีย่ วขอ้ งซ่งึ เปน็ ตัววดั องคป์ ระกอบของสมรรถภาพทาง - แบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลมุ่ เลือกประธานและ
กายและหลักการเลอื กแบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย เลขาประจากลมุ่
- แบง่ ผเู้ รยี นออกเปน็ 5 กลุ่ม พรอ้ มกบั แจกใบงานและ - รบั ใบงานและเอกสารประกอบการเรียนมา
เอกสารประกอบการเรยี นใหก้ ลมุ่ ละ 1 ชุด ให้สมาชิก ช่วยกนั ทาตามทีใ่ บงานกาหนดให้
แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันทางานตามใบงานท่ี 2 กาหนดให้ - ส่งตัวแทนกลุ่มออกไปนาเสนอผลงานหน้า
- ฟังและซักถาม ผลงานท่ีนาเสนอของแตล่ ะกลมุ่ โดยให้ ห้องเรยี น ตามลาดับ
ผเู้ รยี นกลมุ่ อ่ืน ๆ รว่ มกนั ซกั ถามได้ - ช่วยกันตอบข้อซกั ถามของผ้เู รยี นและสมาชิก
- ประเมินผลงานของแต่ละกลมุ่ พรอ้ มกับคืนผลงานและ กลมุ่ อ่ืน ๆ
แจกแบบเฉลยใบงานให้ดปู ระกอบ - รับผลงานและแบบเฉลยใบงานมาดูประกอบ
ขั้นสรปุ
- สรปุ เนอื หาการนาเสนอของแตล่ ะกลุ่มโดยเปิดโอกาสให้ - ช่วยกนั สรปุ เนอื หาและความรู้ความเขา้ ใจทไี่ ด้
ผูเ้ รยี นไดส้ รปุ ร่วมกัน นาเสนอไปแลว้ ทกุ กลุ่ม และซักถามให้
- ซกั ถามความรคู้ วามเข้าใจ เป็นรายบคุ คล เพอื่ เข้าใจ
ประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ ี่ไดร้ บั - ตอบคาถาม
- นัดหมายการทดสอบแบบฝกึ หัดทา้ ยหนว่ ยที่ 1 ใน - รบั ทราบการนัดหมาย และไปทบทวนเนือหา
ชว่ั โมงเรียนต่อไป หน่วยท่ี 1
ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
1. รูปภาพ
2. ไฟล์ Power Point
3. ใบงาน และเฉลยใบงาน
4. หนังสอื แบบเรยี น วิชา พลศกึ ษาเพอ่ื พัฒนาสขุ ภาพ (2000 – 1001) เรยี บเรียงโดย
รศ.เจษฏา เจยี ระนยั สานักพมิ พ์ศูนย์สง่ เสรมิ วิชาการ ปี พ.ศ. 2556 (151 หน้า)
5. หนงั สอื พมิ พร์ ายวนั
6. วทิ ยแุ ละโทรทศั น์
7. ห้องสมุดทว่ั ไป
8. การกีฬาแหง่ ประเทศไทย
9. สมาคมกฬี าต่าง ๆ
10. ศนู ยก์ ฬี าประจาจงั หวัด และอาเภอ
การวดั ผลและประเมินผล
1. แบบสงั เกตการมีสว่ นรว่ มแสดงความคดิ เห็น / การอภปิ รายกลมุ่
2. แบบประเมินผลการรายงานกลมุ่
3. การซักถาม และการตอบคาถามของผู้เรียน
บันทึกหลงั สอน
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………….......................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………….......................................................
ใบงานท่ี 2
เรื่อง ปัจจยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เพื่อใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ เกยี่ วกับเคร่อื งมือทเี่ กี่ยวขอ้ งซ่ึงเป็นตัววัดองคป์ ระกอบ
ของสมรรถภาพทางกายไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
กจิ กรรมการเรยี นรู้ แบ่งผเู้ รยี นออกเป็น 5 กลมุ่ ให้แต่ละกลุม่ เลือกประธาน และเลขา ตาแหน่งละ 1 คน แลว้
ช่วยกนั อภิปรายเกี่ยวกบั เครอื่ งมอื ทเี่ กยี่ วขอ้ งซงึ่ เปน็ ตัววดั องคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกาย ตามประเดน็ ท่ี
กาหนดให้ พร้อมกับสง่ ตัวแทนกลุม่ ออกไปนาเสนอผลงานหนา้ หอ้ งเรยี น ตามลาดบั
ใหเ้ กบ็ ชินงานไว้ในแฟม้ สะสมงาน (Portfolio) ของแตล่ ะบุคคล แล้วจดั สง่ ผสู้ อนในวันสุดทา้ ยของการสอบ
ปลายภาค
ประเด็นอภิปราย แนวคดิ ท่ีควรได้
กลุม่ ที่ 1
ด้านความสามารถของระบบไหลเวยี นโลหติ
และหายใจ (Circular-Respiratory Fitness)
กลุ่มที่ 2
ดา้ นความอดทน (Endurance)
กลุ่มท่ี 3
ดา้ นความแขง็ แรง (Strength)
กลุม่ ที่ 4
ด้านความออ่ นตัว (Flexibility)
กลุ่มที่ 5
ดา้ นสัดส่วนของร่างกายที่พอเหมาะ
(Body Composition)
รายชือ่ สมาชิกกลมุ่ ท…ี่ ..
1. …………………………… 2. ……………….…………… 3. ……………………………….
4. …………………………… 5. ……………….…………… 6. ……………………………….
ลงช่อื …...........................……………………ผ้สู อน
เกณฑ์การประเมนิ ผล ใช้ แบบสังเกตการมสี ว่ นรว่ มแสดงความคิดเหน็ / การอภิปรายกลมุ่
และแบบประเมินผลการรายงานกลมุ่
ชวั่ โมงท่ี 5 – 6 กจิ กรรมการเรียนการสอน
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3
กจิ กรรมผู้สอน กิจกรรมผู้เรยี น
ขน้ั นา
- สมุ่ ถามผเู้ รียนว่า ทผ่ี ่านมาเคยมีประสบการณห์ รือเข้ารว่ มทดสอบ - ฟงั และตอบคาถาม
สมรรถภาพทางกายที่ใดบ้าง พรอ้ มกับสรุปความคดิ เหน็ ของผู้เรยี น - แสดงความคดิ เหน็ และซักถาม
ขนั้ สอน
- แจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนร้แู ละเนอื หาสาระทจ่ี ะเรียน นาเสนอโดย - ฟงั และดูพาวเวอร์พอยพร้อมรูปภาพประกอบ
พาวเวอร์พอย และรูปภาพ ดงั นี แบบประเมินสมรรถภาพทาง - จับควู่ าดภาพคนอ้วน คนผอมตามผู้สอนบอก
กายทงั ในและต่างประเทศ - ซักถาม และจดบนั ทึก
- ให้ผเู้ รียนจับคู่ คนท่ี 1 ให้หาภาพหรอื วาดภาพคนอ้วนสุด ๆ คนที่ - แบง่ กลุ่มออกเปน็ 11 กล่มุ
2 ให้หาภาพหรอื วาดภาพคนท่ผี อมสดุ ๆ ให้ทงั ค่เู ขียนถงึ ข้อดีและ - รบั ใบงานพรอ้ มเข้ารบั การทดสอบสมรรถภาพทาง
ข้อเสยี ของบคุ คลในภาพทงั คนอ้วนและคนผอม กายตามที่ไดร้ ับมอบหมาย
- ใหท้ ังคู่แลกเปล่ียนข้อคดิ เห็นซ่ึงกันและกนั จากนนั ให้ชว่ ยกันวาด - บนั ทึกผลการทดสอบ
ภาพคนทค่ี ดิ ว่าสมบรู ณ์และแข็งแรงทสี่ ดุ พรอ้ มทงั อธบิ ายถึง
องคป์ ระกอบข้อดีและประโยชนข์ องการมีรปู ร่างที่สมส่วน
รา่ งกายที่แข็งแรง
- สุ่มตวั อย่างนาเสนอภาพ คนอ้วน ผอมและสมบูรณห์ น้าชันเรียน
และให้เพ่อื นในชนั เรียนช่วยกันคดิ ว่าจะทาอย่างไรจะทดสอบได้วา่
คนในภาพมสี มรรถภาพทางกายที่ดี
- แบง่ ผ้เู รียนออกเปน็ 11 กลมุ่ ตามฐานกิจกรรมทดสอบสมรรถภาพ
พรอ้ มกับแจกใบงานให้สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ เขา้ ประจาสถานที ดสอบ
สมรรถภาพทางกาย วนจากฐานท่ี 1 ไปฐานที่ 2 และจากฐานท่ี
2 ไปฐานท่ี 3 จนผูเ้ รยี นทดสอบครบทกุ ฐาน
- บันทกึ ผลการทดสอบและประเมนิ ผลการทดสอบตามเกณฑ์
มาตรฐาน
ข้นั สรุป
- มอบหมายให้ผ้เู รียนสรปุ ผลการทดสอบสมรรถภาพตามแต่ละคน - สรปุ ผลการทดสอบสมรรถภาพตามแตล่ ะคนตาม
ตามเกณฑ์ท่ีกาหนด เกณฑ์ทก่ี าหนด
- มอบหมายให้แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันสรุปประเมินผลโดยภาพรว่ ม ทังที่ - ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มช่วยกนั สรปุ ประเมนิ ผลโดยภาพรว่ ม
ผ่านเกณฑ์และไมผ่ ่านเกณฑ์ทดสอบจานวนเท่าไร เพราะเหตุใด ทังทผ่ี า่ นเกณฑ์และไมผ่ ่านเกณฑท์ ดสอบจานวน
- จากผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ให้ผู้เรยี นแต่ละคนช่วยกัน เทา่ ไร เพราะเหตุใด
ศกึ ษา คน้ ควา้ คิดหาวธิ ีการสง่ เสรมิ สมรรถภาพทางกาย อาจารย์ - ศึกษาค้นคว้าเพม่ิ เตมิ เพอื่ หาวิธีการสง่ เสริม
ผู้สอนมอบหมายงานใหผ้ ้เู รียนฝึกเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกายเพื่อ สมรรถภาพทางการส่วนบคุ คลและคิดหาแนวทาง
สุขภาพและนดั หมายทาการทดสอบทุกเดอื น (อาจารย์ผ้สู อน ตลอดจนการเลือกเล่นกีฬาทเี่ หมาะสมกนั ตนเอง
ออกแบบใบบันทึกคะแนนประจาตวั ผู้เรียน) โดยมีคะแนน เพ่ือใช้เป็นข้อมูลพืนฐานในการเรียนรใู้ นบทต่อ ๆไป
พัฒนาการเปน็ ส่วนหนงึ่ ของคะแนนการเรยี น
ใบงานท่ี 3
เร่อื ง ใบบันทึกผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ภายในประเทศและตา่ งประเทศ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เพื่อให้ผ้เู รยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจ และทดสอบสมรรถภาพทางกายของตนเองได้
กจิ กรรมการเรียนรู้ แบง่ ผเู้ รยี นออกเปน็ 11 กลุ่ม เพอ่ื เขา้ ฐานการทดสอบสมรรถภาพทางกายทงั 11 ฐาน
ใหเ้ กบ็ ชินงานไวใ้ นแฟม้ สะสมงาน (Portfolio) ของแต่ละบคุ คล แล้วจัดสง่ ผสู้ อนในวันสดุ ท้ายของการสอบ
ปลายภาค
ลาดบั ฐานแบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย
ลาดับฐาน วธิ กี ารทดสอบ แบบทดสอบทีใ่ ชข้ ้อมลู ใส่เครอื่ งหมาย ()เม่อื
เข้าฐานแล้ว
SATST / AAHPERD
1 ชั่งนาหนกั วัดสว่ นสงู SATST
2 สัดส่วนรอบเอวตอ่ รอบสะโพก (WHR) SATST
3 แตะมอื ดา้ นหลงั (มอื ขวาอยบู่ น:ซม.) SATST
4 แตะมอื ด้านหลัง (มือซ้ายอยู่บน:ซม.) SATST
SATST
5 นัง่ งอตัว (นิว) SATST
6 นอนยกตัว (ครัง/นาที) SATST
7 ดนั พนื (ครงั /นาที)
8 ชพี จรหลังก้าวขนึ -ลง 3 นาที (ครัง/ AAHPERD
AAHPERD
นาที) AAHPERD
9 ความอ่อนตัว
10 ลกุ -นงั่ 1 นาที
11 เดิน/วง่ิ 1.5 ไมล์
ใบบันทึกผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ภายในประเทศและตา่ งประเทศ
ชอ่ื ..................................................................ชัน..........................อาย.ุ ...................เพศ
ชาย หญิง
บันทึกสรปุ ผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์มาตรฐานของ SATST
ลาดับที่ วธิ ีการทดสอบ คะแนนที่ได้ สรปุ ผลตามเกณฑ์
1 ดรรชนีความหนารา่ งกาย (BMI:กก./ม2)
2 สดั ส่วนรอบเอวตอ่ รอบสะโพก (WHR)
3 แตะมอื ด้านหลงั (มอื ขวาอยบู่ น:ซม.)
4 แตะมอื ด้านหลงั (มือซา้ ยอยู่บน:ซม.)
5 น่ังงอตัว (นวิ )
6 นอนยกตัว (ครัง/นาท)ี
7 ดันพนื (ครัง/นาท)ี
8 ชพี จรหลังก้าวขึน-ลง 3 นาที (ครงั /นาที)
ลงชื่อ.........................................................
ผู้บนั ทกึ ผลการทดสอบ
บันทกึ แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อสขุ ภาพ AAHPERD Health-Related Physical Fitness Test
ลาดับท่ี รายการทดสอบ ผลการทดสอบ
1 นาหนัก ........................กโิ ลกรัม
....................... เมตร
ส่วนสูง .......................เซ็นติเมตร
2 ความอ่อนตวั
...................... ครงั
3 ลุก-น่ัง 1 นาที ....................... นาที
4 เดนิ /ว่ิง 1.5 ไมล์
ลงช่ือ.........................................................
ผ้บู ันทกึ ผลการทดสอบ
ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้
1. รูปภาพ
2. ไฟล์พาวเวอร์พอย
3. ใบงานบนั ทึกผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
4. ตารางแสดงเกณฑม์ าตรฐาน SATST
5. หนงั สอื แบบเรยี น วิชา พลศกึ ษาเพื่อพฒั นาสุขภาพ (2000 – 1001) เรียบเรียงโดย
รศ.เจษฏา เจียระนัย สานกั พมิ พศ์ นู ย์สง่ เสริมวชิ าการ ปี พ.ศ. 2556 (151 หนา้ )
6. หนังสือพมิ พร์ ายวัน
7. วทิ ยแุ ละโทรทศั น์
8. หอ้ งสมดุ ท่วั ไป
9. การกีฬาแหง่ ประเทศไทย
10. สมาคมกฬี าต่าง ๆ
11. ศนู ย์กีฬาประจาจังหวัด และอาเภอ
12. เว็บไซตท์ ีเ่ กีย่ วข้อง
การวัดผลและประเมนิ ผล
จากแบบทดสอบสมรรถภาพทางกายตามเกณฑม์ าตรฐานของ SATST และ AAHPERD
บันทึกหลงั สอน
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………….............................................................................................…
กิจกรรมการเรยี นการสอน
ชวั่ โมงท่ี 7-10 แผนการจัดการเรียนรู้ 4-5
กิจกรรมผู้สอน กจิ กรรมผเู้ รียน
ขน้ั นา
- ทบทวนหลักการเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกายและผล - ฟงั และซักถาม
ท่ไี ด้จากการทดสอบสมรรถภาพทางกายทผี่ า่ นมา - ดรู ูปภาพประกอบ
ขัน้ สอน
- แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูแ้ ละเนือหาสาระ - ฟงั แลกเปลยี่ นประสบการณ์
- ให้ผเู้ รยี นแลกเปลยี่ นประสบการณ์ถงึ ประโยชน์ - ร่วมกนั จัดบอรด์ ประชาสัมพนั ธเ์ ชอื เชญิ คน
ของ ทว่ั ไปมาออกกาลงั กาย
การออกกาลังกายและโทษของการขาดการออกกาลัง - สารวจคนในครอบครัว จบั ค่แู ละเปล่ียน
กาย ข้อมลู กบั เพอื่ นและกลุม่ เพ่ือน
- ร่วมกันจัดบอรด์ ประชาสมั พนั ธ์เชือเชิญคนท่วั ไป - ดกู ารสาธติ
มา - ซกั ถามและจดบนั ทกึ
ออกกาลงั กาย - ส่งแบบบันทกึ ผลงาน
- แนะนาให้ผเู้ รยี นเข้าร่วมเปน็ สมาชกิ ของชมรมหรอื - ออกไปนาเสนอผลงานตามลาดบั ทจ่ี ัดไว้
สมาคมทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั การออกกาลงั กาย - ตอบข้อซกั ถามของผสู้ อนและผเู้ รยี นคน
- นาเสนอการออกกาลงั กายโดยการอธบิ าย และสาธิต อน่ื ๆ
ให้ดู - รับผลงานและแบบประเมินคืนไป
- ให้ผู้เรียนสารวจคนในครอบครัว มีจานวนเท่าไร แบง่
ออกเป็นวยั เด็ก วยั ร่นุ วัยหนุ่มสาว วัยกลางคนและผู้
สงู วยั อย่างละกคี่ น เขียนและจดบันทึก
- ให้ผู้เรยี นจับคกู่ บั เพ่ือน สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมลู กนั
- จากผูเ้ รยี นทจ่ี บั คู่กนั 2 คน ให้รวมกลุ่มกันเป็น 4 คน
เพ่อื สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ซึ่งกันและกนั
- ผู้สอนสมุ่ ตัวอยา่ งผู้ทม่ี จี านวนสมาชกิ มากทสี่ ดุ และผู้
ท่ีมีจานวนสมาชิกออกกาลังกายเป็นประจาอยา่ ง
สมา่ เสมอมากทสี่ ุด นาเสนอขอ้ มลู ท่ีมหี น้าชันเรียน
- ใหส้ มาชกิ แตล่ ะกลมุ่ ปฏบิ ัตติ ามใบงานที่ 4 กาหนดไว้
- ดแู ละซกั ถาม การนาเสนอผลงานของแต่ละกลมุ่ และ
ให้ผู้เรยี นกลมุ่ อ่ืน ๆ ชว่ ยกันซกั ถามได้
- ประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน
- คนื ผลงาน และผลการประเมนิ ของแต่ละคน
ขนั้ สรปุ - ช่วยกนั สรปุ เนอื หา และความรคู้ วามเขา้ ใจท่ี
- สรปุ เนอื หาการนาเสนอของแตล่ ะกลุม่ โดยเปดิ โอกาส ไดน้ าเสนอไปแล้วทุกคน
ให้ผูเ้ รียนไดส้ รุปเนอื หาร่วมกัน - ตอบคาถาม และซกั ถาม เพอื่ ทาความเขา้ ใจ
- ซักถามความรู้ความเข้าใจ เปน็ รายบุคคล เพอ่ื รบั ทราบการนดั หมาย
ประเมนิ ผลการเรียนร้ขู องผู้เรยี น
- นัดหมายการเรียนในครังต่อไป โดยใหก้ ลมุ่ ที่ยงั ไม่ได้
นาเสนอผลงาน ไปจัดเตรยี มข้อมลู มานาเสนอผลงาน
ในชวั่ โมงเรียนตอ่ ไป
สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้
1. รูปภาพ
2. ใบงาน และแบบบนั ทกึ ผลงาน
3. หนงั สือแบบเรยี น วิชา พลศกึ ษาเพ่ือพฒั นาสุขภาพ (2000 – 1001) เรยี บเรียงโดย
รศ.เจษฏา เจียระนยั สานกั พมิ พ์ศนู ยส์ ง่ เสริมวิชาการ ปี พ.ศ. 2556 (151 หนา้ )
4. หอ้ งสมุดทว่ั ไป
5. การกฬี าแหง่ ประเทศไทย
6. สมาคมกฬี าต่าง ๆ
7. ศูนยก์ ฬี าประจาจงั หวดั และอาเภอ
8. สนามกฬี า
9. เวบ็ ไซต์ทีเ่ กยี่ วข้องต่างๆ
การวัดผลและประเมนิ ผล
1. แบบประเมินผล เรือ่ ง การสาธติ ขันตอนในการออกกาลงั กายหรอื เล่นกีฬา
2. แบบบันทกึ ผลงาน
3. แบบประเมนิ พฤติกรรมทางด้านคุณธรรม และจรยิ ธรรม
บันทึกหลงั สอน
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบงานท่ี 4
เร่อื ง การสาธติ ขน้ั ตอนในการออกกาลงั กายหรือเล่นกฬี า
คาแนะนา
1. ผเู้ รยี นทกุ คนต้องเตรยี มความพร้อมทางด้านรา่ งกาย และชดุ ท่สี วมใส่ใหเ้ หมาะสม ตลอดจนการจดั เตรยี ม
อุปกรณท์ จี่ ะใช้ในการนาเสนอ
2. บนั ทึกเนือหาลงในแบบบันทกึ ผลงานตามที่กาหนดให้ แลว้ จดั ส่งผ้สู อนเพื่อตรวจสอบความถูกตอ้ ง ก่อน
นาเสนอผลงาน
3. ใหเ้ กบ็ ชินงานไวใ้ นแฟม้ สะสมงาน (Portfolio) ของแตล่ ะบคุ คล แล้วจดั สง่ ผ้สู อนในวนั สุดท้าย
ของการสอบปลายภาค
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นสามารถปฏิบัติตามขนั ตอนในการออกกาลังกายหรอื เล่นกฬี าได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
กจิ กรรมการเรียนรู้
1. ให้ผู้เรียนแต่ละกลมุ่ ผลัดเปลยี่ นกนั ออกไปสาธิตขันตอนในการออกกาลงั กายหรอื เลน่ กฬี า 1 อย่าง และ
ใหผ้ ู้เรียนกลมุ่ อ่ืน ๆ ปฏบิ ัตติ าม ตามขันตอนของการออกกาลังกายที่ถูกตอ้ ง โดยใหห้ มนุ เวียนกนั ปฏิบตั จิ นครบทุก
กลมุ่
2. ใช้เวลาในการนาเสนอกลุม่ ละประมาณ 20 – 30 นาที
หมายเหตุ แบง่ จานวนกลุ่มใหเ้ หมาะสมกบั จานวนของชัว่ โมงเรียน ตามแผนการจัดการเรียนรู้
แบบบนั ทกึ ผลงาน
ใบงานที่ 4
เร่อื ง การสาธติ ขั้นตอนในการออกกาลังกายหรือเล่นกฬี า
ชนิดการออกกาลังกายหรอื กีฬา แนวคดิ ท่ีควรได้
ตามทีผ่ เู้ รยี นแตล่ ะกลุ่มไดก้ าหนดไว้
เพื่อนาเสนอผลงาน
รายชอื่ สมาชกิ กลุ่มท…ี่ .............................
1. …………………………… 2. ……………….…………… 3. ……………………………….
4. …………………………… 5. ……………….…………… 6. ……………………………….
ผู้สอน ……………………………….
แบบประเมนิ ผลงาน
ใบงานท่ี 4
เรื่อง การสาธติ ขนั้ ตอนในการออกกาลังกายหรือเลน่ กีฬา
กลมุ่ ท่ี...............................……
ระดบั คะแนน
ลาดับ รายการประเมิน 1234 หมายเหตุ
1 การเตรยี มความพรอ้ มทางด้านอปุ กรณ์ ความหมายของระดบั
และสถานที่ ……… ……… ……… ……… คะแนน
2 การเตรยี มเนือหาสาระ ……… ……… ……… ……… 4 = มากที่สดุ
3 ลาดบั ขันการนาเสนอ ……… ……… ……… ……… 3 = มาก
4 ทักษะการเป็นผู้นา … … … … 2 = น้อย
5 การสรุปผล 1 = น้อยทสี่ ุด
คะแนนเตม็ 20 คะแนน รวม คะแนน
รายชื่อสมาชิกกลุ่มท…ี่ ..
1. …………………………… 2. ……………….…………… 3. ……………………………….
4. …………………………… 5. ……………….…………… 6. ……………………………….
ลงชื่อ………………………………..ผ้สู อน
เกณฑ์การประเมินผล
18 – 20 คะแนน หมายถงึ ดมี าก
14 – 17 คะแนน หมายถึง ดี
10 – 13 คะแนน หมายถึง พอใช้
0 – 9 คะแนน หมายถึง ควรปรบั ปรงุ
แบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยท่ี 1
คาช้ีแจง จงเติมคาหรอื ข้อความที่ถูกตอ้ ง จานวน 10 ข้อ ๆ ละ 2 คะแนน ( 20 คะแนน)
1. เหตุท่มี ผี ลต่อการเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพในท่นี หี มายถึง ………………………………….........................……………
2. ปัจจัยทีม่ ผี ลตอ่ การเสริมสร้างสมรรถภาพในทนี่ หี มายถงึ …………………………………..............................……………
3.ประโยชนก์ ารเสริมสร้างสมรรถภาพทาให้เกิดกาลงั ใจในการพัฒนาตนเองอยา่ งตอ่ เนอื่ งและจริงจัง
เพราะ……………………………….…………………..……………………….........................…………....................….........……….
4. BMI (ดรรชนีมวลกาย) ย่อมาจาก…………………………………………………………………....................................……….
5. การนง่ั งอตัว (Sit and reach test) มีวัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือชวี ัดถงึ ความยดื หยนุ่ ของกลมุ่ กลา้ มเนอื
บรเิ วณ………………………………………………………………………………………..………......................................................…
6.ขันอบอนุ่ ร่างกาย (Warm Up) มวี ัตถุประสงคเ์ พอื่ …………………………………..……………........................……..
7. ขนั การคลายเย็น (Cool Down) มีวัตถุประสงคเ์ พอ่ื ………………………………..................................................….
8.กฎทอง 10 ข้อเพื่อสง่ เสรมิ ใหค้ นไทยรกั การออกกาลงั กายในขอ้ ที่ 10 พักใหเ้ ปน็ มีวตั ถปุ ระสงค์เพอื่
……………………………………………………………………………………..…………..…………………………………………………………
…..……………..…………...............................................................................................................................................
9. กฬี าทเี่ หมาะสมสาหรบั เดก็ ไดแ้ ก…่ …………………………………….………………………………...................................…
10. กฬี าทเ่ี หมาะสมสาหรบั วัยรุน่ ได้แก่ ……………………….………….…………………………………..................................
เกณฑ์การประเมนิ ผล
ระดบั คะแนน 16 – 20 = ดี , 11 – 15 = พอใช้ และ 0 – 10 = ควรปรับปรงุ
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมทางด้านคณุ ธรรม และจรยิ ธรรม
ชือ่ (นาย/น.ส.)…………………………………………..…ระดบั ชัน ปวช. ………….สาขา………………..
ลาดบั พฤติกรรมทป่ี ระเมิน ระดบั คะแนน หมายเหตุ
1 ความรบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าทแี่ ละงานที่ไดร้ บั 321
มอบหมาย
2 ความตงั ใจในการมสี ่วนรว่ มกิจกรรมกลุ่ม …. …. ….. ความหมายของระดับคะแนน
3 ความมมี นุษยสัมพนั ธ์ภายในกลมุ่ …. …. … 3 = ปฏิบัตอิ ย่างสม่าเสมอ โดย
4 การกลา้ แสดงความคดิ เห็นในเชงิ สร้างสรรค์ …. …. …. ไม่ต้องมีการชนี าหรอื ตกั เตอื น
5 การใหค้ วามร่วมมือต่อกลมุ่ ยอ่ ยและใหญ่
6 การให้ความเคารพในสทิ ธิของผอู้ ่ืน ….. …. …. 2 = ปฏบิ ัติบา้ งในบางครงั
7 การยอมรับและปฏบิ ัตติ ามมตขิ องกลมุ่ ….. …. …. จาก
8 ไดร้ บั การยอมรบั จากสมาชกิ ภายในกลมุ่ ..… .… .… การเชญิ ชวน หรอื ชีนา
9 มีลักษณะของการเปน็ ผ้นู า
10 แสดงความมีนาใจตอ่ คร-ู อาจารย์และเพือ่ น .…. …. …. 1 = ต้องสงั่ บงั คับวา่ กลา่ วหรอื
นักเรยี น – นักศกึ ษาอ่นื ๆ .… ….. …. ตักเตอื น ถงึ จะปฏิบัติ หรือมกั จะ
รวม (คะแนนเต็ม 30 คะแนน) … …. ปฏิบัตใิ นทางทผี่ ิดเสมอ
.… เกณฑก์ ารประเมินผล
…. …. 26 – 30 คะแนน = ดีมาก
21 – 25 คะแนน = ดี
16 – 20 คะแนน = พอใช้
0 – 15 คะแนน = ปรับปรงุ
บันทกึ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………...................................................…
ลงช่อื ……………............……………………..ผูป้ ระเมิน
(.........................................................)