เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๘๓ ก หน้า ๓๙ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๔
ราชกิจจานุเบกษา
ขอ้ บังคบั ของประธานศาลฎกี า
วา่ ดว้ ยการเปล่ียนโทษจาคุกเป็นการใชว้ ธิ ีการเพอื่ ความปลอดภยั การนาเงื่อนไขเพือ่ คุมความประพฤติ
มาใชแ้ ทนการลงโทษ หรือการใหส้ ง่ ตวั จาเลยไปเข้ารบั การบาบดั รักษาในความผดิ ฐานเสพยาเสพตดิ
หรอื มไี วใ้ นครอบครองซึง่ ยาเสพตดิ เพอ่ื เสพ
พ.ศ. ๒๕๖๔
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๗๐ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด
และมาตรา ๒๔ แหง่ พระราชบัญญัติใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๖๔ ประธานศาลฎีกา
โดยความเหน็ ชอบของท่ีประชุมใหญ่ศาลฎีกาออกขอ้ บงั คับว่าด้วยการเปล่ียนโทษจาคุกเปน็ การใช้วธิ ีการ
เพ่ือความปลอดภัย การนาเง่ือนไขเพ่ือคุมความประพฤติมาใช้แทนการลงโทษ หรือการให้ส่งตัวจาเลย
ไปเข้ารับการบาบัดรักษาในความผิดฐานเสพยาเสพติดหรือมีไว้ ในครอบครองซ่ึงยาเสพติดเพื่อเสพ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ดงั ต่อไปนี้
ขอ้ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการเปลี่ยนโทษจาคุก
เป็นการใช้วิธีการเพื่อความปลอดภัย การนาเงื่อนไขเพ่ือคุมความประพฤติมาใช้แทนการลงโทษ
หรือการให้ส่งตัวจาเลยไปเข้ารับการบาบัดรักษาในความผิดฐานเสพยาเสพติดหรือมีไว้ในครอบครอง
ซง่ึ ยาเสพตดิ เพื่อเสพ พ.ศ. ๒๕๖๔”
ขอ้ ๒ ข้อบงั คบั นใี้ หใ้ ชบ้ งั คับตั้งแตว่ นั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ เมื่อกรณีเข้าเง่ือนไขตามมาตรา ๑๖๖ แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด และ
ศาลจะลงโทษจาคุก หากศาลเห็นสมควร ศาลอาจพิจารณาเปลี่ยนโทษจาคุกเป็นการใช้วิธีการ
เพื่อความปลอดภัยตามประมวลกฎหมายอาญา หรือนาเง่ือนไขเพื่อคุมความประพฤติข้อหน่ึงข้อใด
หรือหลายข้อตามมาตรา ๕๖ แห่งประมวลกฎหมายอาญา มาใช้แทนการลงโทษ ตามระยะเวลา
ทศี่ าลกาหนดแต่ต้องไมเ่ กินกวา่ สองปี
ในกรณีท่ศี าลเหน็ วา่ เหตทุ ่ใี ห้ใชว้ ธิ กี ารเพื่อความปลอดภัย หรือพฤตกิ ารณ์ท่เี กย่ี วแก่การกาหนด
เงอ่ื นไขเพื่อคุมความประพฤตเิ ปลีย่ นแปลงไป ศาลอาจไต่สวนกอ่ นที่จะมีคาสัง่ แกไ้ ขเปลยี่ นแปลงก็ได้
ข้อ ๔ หากความปรากฏแก่ศาลวา่ จาเลยฝา่ ฝนื หรือผิดเงื่อนไข แต่ศาลเห็นว่าจาเลยยงั อยใู่ น
วิสัยท่ีจะแก้ไขปรับปรุง หรือปฏิบัติตามเง่ือนไขต่อไปได้ ศาลอาจว่ากล่าวตักเตือน และกาชับจาเลย
ให้ปฏิบัติตามวิธีการหรือเง่ือนไขโดยเคร่งครัด หรือกาหนดวิธีการหรือเง่ือนไขใหม่เพ่ือความเหมาะสม
หากจาเลยฝ่าฝืนหรือผิดเงื่อนไขโดยไม่มีเหตุอันสมควร และการให้ปฏิบัติตามวิธีการหรือเง่ือนไขต่อไป
จะไม่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปรับปรุงพฤติกรรมของจาเลย ให้ศาลพิจารณาลงโทษจาเลย
ตามความเหมาะสมต่อไป
เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๘๓ ก หน้า ๔๐ ๘ ธนั วาคม ๒๕๖๔
ราชกิจจานุเบกษา
ขอ้ ๕ เม่ือกรณีเข้าเงื่อนไขตามมาตรา ๑๖๘ แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด และ
ศาลเห็นว่าพฤติการณ์แห่งคดียังไม่สมควรลงโทษจาเลย หากจาเลยสานึกในการกระทาโดยตกลงเข้ารบั
การบาบัดรักษา เมื่อศาลสอบถามพนักงานอัยการแล้ว หากศาลเห็นสมควร ศาลอาจพิจารณา
สง่ ตัวจาเลยไปยงั สถานพยาบาลยาเสพติดเพื่อเข้ารบั การบาบดั รักษา โดยในช้นั น้ี ใหศ้ าลมีคาส่งั อนญุ าต
ใหป้ ลอ่ ยชว่ั คราวจาเลย
กรณีตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลออกหนังสือส่งตัวจาเลยไปยังสถานพยาบาลยาเสพติดในท้องที่
โดยระบุให้สถานพยาบาลยาเสพติดแจ้งความคืบหน้าในการบาบัดรักษาให้ศาลทราบในระยะเวลา
อนั สมควร และใหจ้ าหนา่ ยคดีออกจากสารบบความชั่วคราว เพ่ือรอฟังผลการบาบัดรักษา
เม่ือศาลได้รับแจ้งการรับรองเป็นหนังสือว่าจาเลยเป็นผู้ผ่านการบาบัดรักษาเป็นที่น่าพอใจ
จากหัวหน้าสถานพยาบาลยาเสพติดหรือสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ให้ศาลนัดพร้อมคู่ความ
เพ่ือมีคาสั่งยุติคดี โดยให้จาเลยพ้นจากความผิดและจาหน่ายคดีออกจากสารบบความ กับมีคาส่ัง
เกีย่ วกับของกลางด้วย
หากศาลได้รับแจ้งผลการบาบัดรักษาจาเลยจากสถานพยาบาลยาเสพติดว่าการบาบัดรักษา
ไม่เป็นท่ีนา่ พอใจหรอื จาเลยไมใ่ ห้ความร่วมมอื ให้ศาลยกคดขี ้นึ พจิ ารณาพพิ ากษาต่อไปโดยเร็ว
ข้อ ๖ ในการพิจารณาพิพากษาตามข้อบังคับน้ีสาหรับผู้กระทาความผิดแต่ละคน ให้ศาล
คานึงถงึ หลกั การตามมาตรา ๑๖๕ แหง่ ประมวลกฎหมายยาเสพตดิ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ กรณดี งั ตอ่ ไปนี้
(๑) การสงเคราะห์ให้จาเลยเลิกเสพยาเสพตดิ ยิง่ กวา่ การลงโทษ
(๒) ข้อเท็จจริงเก่ียวกับพฤติการณ์การกระทาความผิดของจาเลยว่ามีผลร้ายแรงต่อสังคม
เพียงใด และข้อเท็จจริงเก่ียวกับจาเลยจากการสอบถามจาเลย บุคคลในครอบครัว บุคคลที่จาเลย
พักอาศัยอยู่ด้วย ผู้เก่ียวข้องอื่นในคดี รายงานของเจ้าหน้าท่ีท่ีเกี่ยวข้อง การสืบเสาะและพินิจจาเลย
สานวนการสอบสวน หรือการไต่สวนประการอ่ืนใด ว่าจาเลยมีแนวโน้มท่ีจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ไปในทางท่ีดขี น้ึ ไดห้ รอื ไม่เพียงใด
(๓) ชนิดและฤทธิ์ของยาเสพติดท่ีเสพหรือครอบครองเพื่อเสพ ท่ีอาจส่งผลต่อสภาพร่างกาย
และสภาพจิตใจท่ีแตกต่างกัน และวิธีการเยียวยาแก้ไขท่ีต่างกัน จานวนที่เสพหรือครอบครองเพื่อเสพ
การเสพเปน็ คร้งั คราวหรือประจา หรอื เสพเพือ่ ประโยชน์ในการปฏิบตั งิ านบางอย่าง
ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัย ศาลพึงไต่สวนถึงมาตรฐานการตรวจหรือทดสอบหรือส่ังให้รับ
การตรวจหรือทดสอบสารเสพติดในร่างกายของจาเลยโดยเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือพนักงานฝ่ายปกครอง
หรอื ตารวจ และอาจส่ังใหม้ ีการตรวจสอบใหม่ตามประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา
เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๘๓ ก หน้า ๔๑ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๔
ราชกจิ จานเุ บกษา
ขอ้ ๗ ให้สานักงานศาลยุติธรรมจัดทาและพัฒนาระบบงานธุรการและวิธีปฏิบัติงาน
ที่เกี่ยวข้องกับการใช้วิธีการเพ่ือความปลอดภัย การคุมความประพฤติของจาเลย และการส่งตัวจาเลย
ให้สถานพยาบาลยาเสพติดเพื่อเข้ารับการบาบัดตามข้อบังคับนี้ การประสานงานกับหน่วยงานอื่น
รวมถงึ การจดั ทาและรายงานสถติ ิคดที ่ีเกี่ยวขอ้ ง
ในกรณีจาเปน็ ต้องมีวิธกี ารใดในทางธุรการเพอื่ ใหก้ ารปฏิบัติตามข้อบังคับน้ีเปน็ ไปโดยเรียบร้อย
ใหเ้ ลขาธิการสานักงานศาลยตุ ิธรรมเปน็ ผู้กาหนดวธิ กี ารนัน้
ขอ้ ๘ ให้ประธานศาลฎกี าเปน็ ผู้รกั ษาการตามข้อบังคบั น้ี
ประกาศ ณ วนั ที่ 1 ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖4
ปิยกลุ บุญเพม่ิ
ประธานศาลฎกี า
ฉบบั ส่งคณะกรรมการอำนวยการ 7 ตค.64
บันทึกหลักการและเหตผุ ล
กำหนดปรมิ าณยาเสพติดใหโ้ ทษในประเภท ๑ ประเภท ๒ หรอื ประเภท ๕
หรอื วตั ถอุ อกฤทธิ์ในประเภท ๑ หรอื ประเภท ๒ ทใี่ หส้ ันนิษฐานไวก้ ่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
พ.ศ. ....
หลักการ
กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ประเภท ๒ หรือ ประเภท ๕ หรือวัตถุออก
ฤทธ์ิในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ ท่ีให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. .... กำหนดไว้เพื่อ
เจตนารมณ์ใช้ประกอบการพิจารณา ให้โอกาสแก่ผ้เู สพผู้ติดยาเสพติด ที่ครอบครองยาเสพติดหรือวตั ถุออกฤทธ์ิ
ไว้เพื่อการเสพ โดยไม่ถือเป็นโทษความผิดร้ายแรง และพิจารณาให้รับการบำบัดรักษา ท้ังนี้ให้พิจารณาควบคู่
กบั พฤตกิ รรมอื่นท่ีเกยี่ วกบั จำหนา่ ยยาเสพติด หรอื ระดับความรนุ แรงของการเสพติดของบุคคลน้ันร่วมดว้ ย
เหตผุ ล
โดยท่ีมาตรา ๑๐๗ แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด บัญญัติให้ห้ามผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งยา
เสพติดให้โทษในประเภท ๑ ประเภท ๒ หรือประเภท ๕ หรือวัตถุออกฤทธ์ิในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ เพื่อ
เสพ การมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ประเภท ๒ หรือประเภท ๕ หรือวัตถุออกฤทธ์ิใน
ประเภท ๑ หรือประเภท ๒ ในปริมาณเล็กน้อยซึ่งไม่เกินปริมาณที่รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสุขกำหนดใน
กฎกระทรวง ใหส้ นั นิษฐานไวก้ ่อนว่ามีไวใ้ นครอบครองเพื่อเสพ จึงจำเปน็ ต้องออกกฎกระทรวง น้ี
ร่าง
กฎกระทรวง
กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ประเภท ๒ หรอื ประเภท ๕
หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ หรอื ประเภท ๒ ที่ให้สันนษิ ฐานไวก้ ่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
พ.ศ.....
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 2๔ แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด
พ.ศ. 2564 และมาตรา 10๗ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
สาธารณสุขออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปน้ี
ข้อ 1 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
ข้อ 2 กฎกระทรวงนี้ไม่ใช้บังคับกับการมีไว้ในครอบครองเพื่อเสพตามคำส่ังของผู้
ประกอบวิชาชพี ผใู้ หก้ ารบำบดั รกั ษา
ข้อ ๓ การมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ประเภท ๒ หรือ
ประเภท ๕ หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ ในปริมาณเล็กน้อยซึ่งไม่เกินปริมาณ
ดังต่อไปน้ี ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
(1) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑
(ก) เฮโรอีนมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงสามร้อยมิลลิกรัม
(ข) เมทแอมเฟตามีนมีปริมาณไม่ถึงสิบห้าหน่วยการใช้ ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ให้
โทษ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงหนึ่งจุดห้ากรัม หรือ คำนวณน้ำหนักเป็นสารบริสุทธิ์ไม่ถึง 375
มิลลิกรัม
(ค) แอมเฟตามีนมีปริมาณไม่ถึงสิบห้าหน่วยการใช้ ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ
หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงหนึ่งจุดห้ากรัม
(ง) ๓, ๔-เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนมีปริมาณไม่ถึงสิบห้าหน่วยการใช้ ตาม
กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงสามกรัม
(จ) เมทิลลีนไดออกซีแอมเฟตามีนมีปริมาณไม่ถึงสิบห้าหน่วยการใช้ตามกฎหมาย ว่าด้วย
ยาเสพติดให้โทษ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงสามกรัม
(ฉ) เอ็น เอทิล เอ็มดีเอ หรือเอ็มดีอี มีปริมาณไม่ถึงสิบห้าหน่วยการใช้ตามกฎหมาย ว่าด้วย
ยาเสพติดให้โทษ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงสามกรัม
(ช) เด็กซ์โตรไลเซอร์ไยด์ หรือ แอล เอส ดี มีปริมาณไม่ถึงสิบห้าหน่วยการใช้ตามกฎหมาย
ว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงสามร้อยมิลลิกรัม
(ซ) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ นอกจาก (ก) ถึง (ช) มีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงสามกรัม
(๒) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒
(ก) โคคาอีนมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงหกร้อยมิลลิกรัม
(ข) ฝ่ินมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงสิบห้ากรัม
(ค) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒ นอกจาก (ก) และ (ข) มีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงสามกรัม หรือ
ที่เป็นของเหลวมีปริมาตรสุทธิไม่ถึงสองร้อยห้าสิบมิลลิลิตร
(๓) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕
(ก) กัญชามีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงสิบห้ากรัม
๒
(ข) ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ นอกจาก (ก) มีน้ำหนักสุทธิไม่เกินหน่ึงร้อยสามสิบ
ห้ากรัม
(๔) วัตถุออกฤทธ์ิในประเภท ๑ คำนวณสารบริสุทธ์ิไม่เกิน ๐.๕๐๐ กรัม
(ก) คาทิโนน (cathinone)
(ข) ไซโลซีน (psilocine หรือ psilotsin) คำนวณสารบริสุทธิ์ไม่เกิน ๐.๑๐๐ กรัม
(ค) ไซโลไซบีน (psilocybine) คำนวณสารบริสุทธิ์ไม่เกิน ๐.๑๐๐ กรัม
(ง) ดีอีที (DET) คำนวณสารบริสุทธ์ิไม่เกิน ๐.๕๐๐ กรัม
(จ) ดีเอ็มที (DMT) คำนวณสารบริสุทธ์ิไม่เกิน ๐.๕๐๐ กรัม
(ฉ) ดีเอ็มเอชพี (DMHP) คำนวณสารบริสุทธ์ิไม่เกิน ๐.๕๐๐ กรัม
(ช) เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol หรอื THC) คำนวณสารบรสิ ทุ ธไ์ิ มเ่ กนิ ๐.๑๐๐ กรมั
(ซ) ทีซีพี (TCP หรือ tenocyclidine) คำนวณสารบริสุทธ์ิไม่เกิน ๐.๑๐๐ กรัม
(ฌ) พาราเฮกซิล (parahexyl) คำนวณสารบริสุทธิ์ไม่เกิน ๐.๕๐๐ กรัม
(ญ) พีซีอี (PCE หรือ eticyclidine) คำนวณสารบริสุทธ์ิไม่เกิน ๐.๑๐๐ กรัม
(ฎ) พีเอชพี หรอื พซี พี ีวาย (PHP หรือ PCPY หรือ rolicyclidine) คำนวณสารบริสทุ ธิไ์ มเ่ กิน ๐.๑๐๐ กรัม
(ฏ) ฟีนาซีแพม (phenazepam) คำนวณสารบริสุทธิ์ไม่เกิน ๐.๓๐๐ กรัม
(ฐ) เมทคาทิโนน (methcathinone) คำนวณสารบริสุทธิ์ไม่เกิน ๐.๕๐๐ กรัม
(ฑ) ๔-เมทิลอะมิโนเรกซ์ (4-methylaminorex) คำนวณสารบริสุทธิ์ไม่เกิน ๐.๕๐๐ กรัม
(ฒ) เมสคาลีน (mescaline) คำนวณสารบริสุทธ์ิไม่เกิน ๐.๕๐๐ กรัม
(ณ) อีทริพตามีน (etryptamine) คำนวณสารบริสุทธ์ิไม่เกิน ๐.๕๐๐ กรัม
(๕) วัตถุออกฤทธ์ิในประเภท ๒ คำนวณสารบริสุทธิ์ไม่เกิน ๐.๕๐๐ กรัม
(ก) คีตามีน (ketamine) คำนวณสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 0.720 กรัม
(ข) ซูโดอีเฟดรีน (pseudoephedrine) คำนวณสารบริสุทธ์ิไม่เกิน 0.030 กรัม
(ค) ไนตราซีแพม (nitrazepam) คำนวณสารบริสุทธ์ิไม่เกิน 0.005 กรัม
(ง) ไนเมตาซีแพม (nimetazepam) คำนวณสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 0.113 กรัม
(จ) เฟนเตอมีน (phentermine) คำนวณสารบริสุทธิ์ไม่เกิน๐.๔๕๐ กรัม
(ฉ) มิดาโซแลม (midazolam) คำนวณสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 0.012 กรัม
(ช) อัลปราโซแลม (alprazolam) คำนวณสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 0.600 กรัม
(ซ) อีเฟดรีน (ephedrine)
ยาเสพติดให้โทษตาม (๑), (๒),(3) วัตถุออกฤทธิ์ตาม (๔) และ (๕) ให้รวมถึงวัตถุที่เรียกชื่อเป็น
อย่างอื่น แต่มีสูตรโครงสร้างทางเคมีอย่างเดียวกันกับยาเสพติดให้โทษ หรือวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าว
และเกลือใด ๆ ของยาเสพติดให้โทษ หรือวัตถุออกฤทธ์ิดังกล่าวด้วย
ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ พ.ศ. ....
กฎหมายทีเ่ กยี่ วขอ้ ง รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสขุ
ร่างพระราชบญั ญตั ิให้ใชป้ ระมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. ....
๓
มาตรา 2๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รักษาการตามนี้และตามประมวลกฎหมาย
ยาเสพตดิ ทา้ ยพระราชบัญญัตนิ ี้ ทงั้ น้ี ในสวนที่เก่ยี วขอ้ งกับหน้าท่ีและอำนาจของตน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีอำนาจออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศ เพ่ือ
ปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติน้ีและตามประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัติน้ี
ท้ังน้ี ในส่วนทเี่ กย่ี วข้องกบั หน้าทีแ่ ละอำนาจของตน
รา่ งประมวลกฎหมายยาเสพตดิ
มาตรา 1
“ยาเสพติด” หมายความวา่ ยาเสพติดใหโ้ ทษ วตั ถอุ อกฤทธิ์ หรอื สารระเหย
“ยาเสพตดิ ให้โทษ” หมายความวา่ สารเคมี พชื หรอื วัตถุชนดิ ใด ๆ ซง่ึ เม่อื เสพแลว้ ทำใหเ้ กดิ ผล
ตอ่ รา่ งกายและจิตใจในลกั ษณะสำคัญ เช่น ต้องเพิม่ ขนาดการเสพข้ึนเป็นลำดบั มอี าการถอนยาเม่ือขาด
ยา มีความต้องการเสพท้ังทางร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงตลอดเวลา และสุขภาพโดยทั่วไปจะทรดุ
โทรมลง กับใหร้ วมถึงสารเคมีท่ใี ชใ้ นการผลิตยาเสพตดิ ใหโ้ ทษด้วย แต่ไมห่ มายความรวมถึงยาสามัญ
ประจำบ้านบางตำรับที่มียาเสพติดใหโ้ ทษผสมอยตู่ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยยา
“วัตถุออกฤทธิ์” หมายความว่า วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทท่ีเป็นส่ิงธรรมชาติหรือที่ได้
จากสงิ่ ธรรมชาติ หรือวตั ถุที่ออกฤทธ์ติ อ่ จิตและประสาทที่เป็นวตั ถุสังเคราะห์
“ความผิดร้ายแรงเก่ียวกับยาเสพติด” หมายความว่า ความผิดเก่ียวกับการผลิต นำเข้า
ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซ่ึงยาเสพติด เว้นแต่มีไว้ในครอบครองเพ่ือเสพ และให้
หมายความรวมถงึ การสมคบ สนบั สนนุ ชว่ ยเหลือ หรอื พยายามกระทำความผดิ ดงั กลา่ วด้วย
มาตรา 10๗
ห้ามผู้ใดมีไว้ในครอบครองซ่ึงยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ประเภท ๒ หรือประเภท ๕ หรือ
วตั ถอุ อกฤทธใิ์ นประเภท ๑ หรอื ประเภท ๒ เพ่ือเสพ
การมีไว้ในครอบครองซ่ึงยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ประเภท ๒ หรือประเภท ๕ หรือวัตถุ
ออกฤทธิ์ในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ ในปริมาณเล็กน้อยซ่ึงไม่เกินปริมาณท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
สาธารณสขุ กำหนดในกฎกระทรวง ใหส้ ันนษิ ฐานไวก้ อ่ นว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
มาตรา 1๑๓
ผู้ใดยกเหตุว่าตนได้เสพยาเสพติดตามมาตรา ๑๖๒ หรือมาตรา ๑๖๓ หรือมีไว้ในครอบครองซ่ึง
ยาเสพติดใหโ้ ทษหรอื วัตถุออกฤทธิเ์ พอ่ื เสพตามมาตรา ๑๖๔ และได้สมัครใจขอเข้ารับการบำบัดรกั ษาใน
สถานพยาบาลยาเสพติด อีกทั้งได้ปฏิบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ
บำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนได้รับการรับรองเป็น
หนังสือว่าเป็นผู้ผ่านการบำบัดรักษาเป็นที่น่าพอใจจากหัวหน้าสถานพยาบาลยาเสพติดหรือสถานฟ้ืนฟู
สมรรถภาพผู้ตดิ ยาเสพตดิ ใหผ้ นู้ ้ันพ้นจากความผดิ ในมาตราดังกลา่ ว
มาตรา 16๔
ผูใ้ ดมไี วใ้ นครอบครองซึ่งยาเสพติดใหโ้ ทษในประเภท ๑ ประเภท ๒ หรอื ประเภท ๕ หรอื วตั ถุ
ออกฤทธ์ิในประเภท ๑ หรอื ประเภท ๒ เพือ่ เสพ อันเปน็ การฝา่ ฝืนมาตรา ๑๐๗ ต้องระวางโทษจำคุกไม่
เกนิ สองปี หรอื ปรบั ไม่เกนิ สห่ี มืน่ บาท หรอื ทั้งจำท้ังปรบั