The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ระบบทำความเย็นและปรับอากาศ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by watittu Thummajong, 2020-09-23 23:13:24

ระบบทำความเย็นและปรับอากาศ

ระบบทำความเย็นและปรับอากาศ

ตอนที่ 4 บทที่ 2 หลกั การ/การอนุรกั ษพ ลงั งานในระบบทาํ ความเย็นและปรบั อากาศ ตําราฝก อบรมผรู บั ผิดชอบดา นพลังงาน(ผชพ) ดา นไฟฟา

อุณห ูภมิของนํ้าระบายความ รอน [ºC] ชว งผลติ น้ําเย็น × คา ท่ีวัดได
เสน กราฟประมาณสมรรถนะ

รนุ : VXI-360-2 (อนุกรม)
ปริมาณลม : 90 [%]
ปรมิ าณน้ํา : 7,800 [L/min]
อณุ หภมู ิขาเขา : 20 [ºC]

อุณหภูมิกระเปาะเปย กของอากาศภายนอก [ºC]

รูปที่ 2.59 ผลการคํานวณประมาณสมรรถนะของคูลล่งิ ทาวเวอรแ บบปด

(4) ประสิทธิผล

กําลงั ไฟฟาท่ีลดได 979.4 [MWh/ป]

อัตราทล่ี ดได (เทียบกับคารวม) 2.03 [%]

คา ไฟฟา ทล่ี ดได 2,693,350 [บาท/ป]

กรณศี ึกษาที่ 6 การลดกําลังไฟฟา ในการสง นา้ํ รอนน้ําเย็นและน้ําระบายความรอนดว ยอตั ราไหลแปรผนั
ประเภทกิจการ : การผลติ เครื่องไฟฟา
ผลติ ภณั ฑ : ชนิ้ สว นอิเลก็ ทรอนิกส (คอยล หมอแปลง)

(1) เคา โครง
มีเครอื่ งทําน้ํารอ นน้ําเย็นแบบดดู ซึมติดตงั้ อยเู พื่อปรบั อากาศในโรงงานผลติ ทั้งนํา้ ระบายความรอนของ

ตัวเครื่องทําความเย็น ปมปฐมภูมิ ปมทุติยภูมิ และปมน้ําระบายความรอนจะเดินเครื่องดวยภาระสูงสุดอยูเสมอ
โดยไมขึ้นกับฤดูกาลและการเปล่ียนแปลงภาระระหวางวันตัวอยางน้ีจะพิจารณาระบบอัตราไหลแปรผันเพ่ือให
ไดกําลงั ขาออกของปมทีส่ อดคลอ งกับภาระการปรบั อากาศ

2-101

ตอนที่ 4 บทที่ 2 หลักการ/การอนุรักษพ ลงั งานในระบบทาํ ความเยน็ และปรับอากาศ ตําราฝก อบรมผูรับผดิ ชอบดา นพลังงาน(ผชพ) ดา นไฟฟา

(2) สภาพปจ จุบัน
ขนาด Capacity กําลังขาออกของของเคร่ืองทําน้ํารอนน้ําเย็นไดกําหนดไวดวยภาระการปรับอากาศ

สูงสุดในฤดูรอนและฤดูหนาวบวกกับอัตราเผื่อ อยางไรก็ตาม ชวงเวลาท่ีมีภาระสูงสุดจะมีเพียงชวงหนึ่งของฤดู
รอนกับชวงเวลาเฉพาะระหวางนั้นเทาน้ัน สําหรับภาระการปรับอากาศในชวงอ่ืนๆ จะยังมีกําลังขาออกเหลืออยู
พอสมควร

ปมนํ้ารอนน้ําเย็นและปมน้ําระบายความรอนจะหมุนเวียนนํ้าดวยปริมาณคงท่ีตลอดเวลาโดยไมขึ้นกับ
ภาระการปรับอากาศ กําลงั ไฟฟาของปมกเ็ ดนิ เครือ่ งดว ยคาสงู สุดตามพิกดั

(3) เน้อื หา
พยายามลดกําลังไฟฟาของปมลงดวยระบบอัตราไหลไมคงที่ที่ควบคุมปริมาณน้ํารอนน้ําเย็นและน้ํา

ระบายความรอ นใหส อดคลองกบั กําลงั ขาออกของเคร่ืองทําความเยน็
เพื่อปองกันปญหาจากการเยือกแข็งภายในเครื่องระเหย (Evaporator) เนื่องจากการหรี่มากเกินไปใน

การเดินเครื่องแบบอตั ราไหลไมค งท่ี ไดกาํ หนดใหอัตราไหลต่ําสุดที่ยอมรับไดมีคาเทากับ 50 [%] ของพิกัด และ
ยังเพิม่ มาตรการปองกันการเยือกแขง็ เขาไปในในระบบควบคุมอีกดว ย

ระบบปมมี 1 ตัว โดยใชการควบคุมความเร็วรอบของปมแบบ VVVF สวนอินเวอรเตอรจะใชเวกเตอร
อนรุ ักษพ ลังงาน (E.S.V) ทาํ การควบคมุ สลปิ ใหมอเตอรมปี ระสทิ ธภิ าพสูงตลอดเวลา

คอยๆ เปล่ียนวาลวสามทางของ AHU ในโรงงานผลิตเปนวาลวสองทาง เพื่อลดปริมาณสงนํ้าของปม
ดา นทุตยิ ภมู ิของน้ํารอนน้ําเยน็

เง่ือนไขการคํานวณประสิทธิผล : ถือวา Load factor โดยเฉลี่ยของเครื่องทํานํ้ารอนนํ้าเย็นขนาด 500
[USRT] มีคาเทา กบั 50 [%] และใหร ะยะเวลาเดินเคร่ืองมคี า เทากบั 2,500 [h/ป]

(4) ประสทิ ธิผล 190 [MWh/ป] (2,500 h)
ลดกําลังไฟฟา ได 8,250 [m3/ป] (2,500 h)
ปริมาณกา ซ 13A ทเ่ี พ่ิมข้นึ 522,500 [บาท/ป]
ตนทุนทล่ี ดได

กรณศี กึ ษาที่ 7 การอนรุ กั ษพลังงานดว ยการเชื่อมตอ ระบบทอจา ยนํา้ รอนนา้ํ เยน็ เขา ดวยกนั
ประเภทกิจการ : กิจการผลิตเครอื่ งไฟฟา
ผลิตภัณฑ : อุปกรณส ื่อสารดวยแสง ฯลฯ

(1) เคาโครง
จากการกอสรางอาคารใหมเพ่ือเพ่ิมกําลังผลิต ทําใหระบบกําเนิดความรอน-ความเย็นท่ีมีอยูเดิมมี

ความสามารถไมเพยี งพอ เพื่อแกไขปญ หาน้ี จงึ ไดพิจารณาเชือ่ มตอ ระบบความรอน-ความเย็น 2 ระบบท่ีมีอยูเดิม
นํามาใชรวมกัน จากการพิจารณามาตรการในกรณีของฤดูรอนและฤดูหนาว จึงไดเลือกใชระบบ mutual backup
ของระบบความความรอน-ความเย็น 2 ระบบ

2-102

ตอนท่ี 4 บทท่ี 2 หลักการ/การอนุรกั ษพ ลงั งานในระบบทาํ ความเย็นและปรับอากาศ ตาํ ราฝกอบรมผูร บั ผดิ ชอบดา นพลงั งาน(ผชพ) ดา นไฟฟา

(2) สภาพปจจุบนั
(1) กรณีท่ีเดินเครือ่ งหมอตมนา้ํ รอ นเพยี งเครอ่ื งเดยี ว
ต้งั แตป ง บประมาณ พ.ศ. 2526 เปนตนมา ไดม กี ารควบคุมแนวโนม ความส้นิ เปลอื งพลงั งานมาทกุ ป ซง่ึ

ตง้ั แตป  พ.ศ. 2532 เปน ตน มา พบวามีแนวโนม เพ่มิ ขึ้น
เมื่อพิจารณาความสามารถในการจายความรอน-ความเย็นของทั้งสองระบบ พบวาความสามารถของ

ระบบทีอ่ าคารเดิมยงั มเี หลอื อยู และมีประสทิ ธภิ าพสงู ถงึ 88 [%] > 72 [%]
ผงั การไหลของระบบแหลงความรอ นในปจ จุบนั แสดงไวในรปู ท่ี 2.55
(2) กรณีที่เดนิ เคร่อื งทาํ ความเย็นเทอรโบเพยี งเคร่ืองเดยี ว
เมื่อเปรียบเทียบเคร่ืองทําความเย็นเทอรโบ กับเคร่ืองทํานํ้ารอนน้ําเย็นแบบดูดซึมแลว ความสิ้นเปลือง

พลังงานแบบดูดซึมจะมีคา เทา กบั 1.6 เทา
สําหรบั มาตรการอนรุ กั ษพลงั งานในฤดูรอ นสามารถรองรับไดด ว ยการเดินเครอื่ งทาํ ความเยน็ เทอรโ บ

เครือ่ งเดียว

(3) เนือ้ หา
มาตรการปรับอากาศรอนในฤดูหนาว จะใชวิธีเปดทอบายพาสระบบอาคารเดิมและระบบอาคารใหม

และหยดุ เคร่ืองกาํ เนิดนํ้ารอน-นาํ้ เยน็ ของระบบอาคารใหม
สําหรับมาตรการปรับอากาศเย็นในฤดูรอน ในชวง 2 เดือนตั้งแตกลางเดือน ก.ค. - กลางเดือน ก.ย. จะ

เดินเคร่ืองทําความเย็นของระบบเดิมและของอาคารใหมตามเดิม แตในฤดูอ่ืน ไดแก กลางเดือน พ.ค. -
กลางเดือน ก.ค. และกลางเดือน ก.ย. - กลางเดือน ต.ค. เปนเวลา 3 เดือน จะมีภาระการปรับอากาศต่ําเพียง 30
[%] เทานัน้ จงึ ใชวิธเี ดินเคร่อื งทาํ ความเย็นเทอรโ บของระบบเดิม 2 เครอ่ื ง

อาคาร 1 อาคาร 5
อาคาร 2.3.14 อาคาร 6
ทอบายพาส

เคร่ืองทํา หมอตม เคร่ืองกําเนดิ
ความเยน็ น้ํารอน น้าํ รอ น-เยน็
เทอรโ บ ระบบอาคารใหม

ระบบอาคารเดมิ เฮดเดอร เฮดเดอร

รูปท่ี 2.60 โฟลวของระบบแหลง ความรอ นกบั ทอบายพาส

2-103

ตอนท่ี 4 บทท่ี 2 หลักการ/การอนรุ กั ษพลงั งานในระบบทาํ ความเย็นและปรบั อากาศ ตาํ ราฝกอบรมผรู บั ผดิ ชอบดา นพลังงาน(ผชพ) ดา นไฟฟา

(4) ประสิทธภิ าพ

ลดการใชน ํา้ มันกา ดได 73 [kL/ป]

อัตราทลี่ ดได (เทยี บกับคา รวม) นา้ํ มนั กาด 21.5 [%]

ลดกาํ ลงั ไฟฟาได 112 [MWh/ป]

ไฟฟา 1.8 [%]

ตนทนุ ท่ีลดได 308,000 [บาท/ป]

กรณศี ึกษาที่ 8 การอนรุ ักษพ ลังงานดว ยการพัฒนาระบบแหลงความเย็นประสิทธิภาพสูง
ประเภทกจิ การ : ผลติ เครือ่ งจกั รขนสง
ผลติ ภณั ฑ : รถยนต

(1) เคา โครง
แหลงความรอนความความเย็นสําหรับปรับอากาศของโรงงาน ไดถูกติดตั้งเพิ่มจนมีขนาด 4,000

[USRT] จึงตองการลดขนาดแหลงความรอนลง และพิจารณาเครื่องทําความเย็นซ่ึงเปนอุปกรณหลักของระบบ
แหลงความรอน โดยพัฒนาและนําเครื่องทําความเย็นเทอรโบขับดวยเครื่องยนตดีเซลประสิทธิภาพสูงเขามาใช
เพอื่ อนรุ กั ษพ ลงั งานใหไดจาํ นวนมาก

(2) สภาพปจจบุ นั
แหลงความรอนความเย็น 4,000 [USRT] เปนแบบ Distributed โดยติดต้ังเคร่ืองทําความเย็นเทอรโบ

หรอื ชลิ เลอรทาํ นํา้ เยน็ ทแ่ี ตละโรงงานและอาคารหอ งทดลอง

พลงั งานการแผค วามรอ น นาํ ความรอ นของน้ําระบาย
พลงั งาน ความรอนเส้อื สบู กลับมาใช
ทาํ ความเยน็
นาํ ความรอนท้ิงในกาซไอเสีย

กลบั มาใช

กา ซไอเสยี E/G

ํกา ัลงขับ

เชื้อเพลงิ การแผความรอน
กา ซไมเผาไหม

รูปที่ 2.61 สมดลุ ความรอน (แปลงเปน พลังงานปฐมภมู )ิ

2-104

ตอนที่ 4 บทท่ี 2 หลกั การ/การอนุรกั ษพ ลงั งานในระบบทาํ ความเย็นและปรับอากาศ ตําราฝก อบรมผูรับผดิ ชอบดา นพลงั งาน(ผชพ) ดา นไฟฟา

เครื่องทําความเยน็ ท่พี ัฒนาขึ้น นา้ํ มันหนกั A
นํา้ มันหนกั A เครอ่ื งทําความเยน็ ดดู ซมึ

นาํ้ เย็น (หมนุ เวยี น) เคร่อื งทาํ ความเย็นเทอรโ บ แบบเผาโดยตรง นาํ้ เยน็ (กลับ)
ขบั ดว ยเคร่อื งยนตด เี ซล RA-1

RT-1

ความรอนทิ้ง รวม

เครอ่ื งทาํ ความเยน็ ดูดซึม
นาํ ความรอ นทิง้ กลับมาใช

รูปท่ี 2.62 โครงสรา งของระบบแหลงความรอ นความเยน็

(3) เนื้อหา
ในกรณีของเทอรโบขับดวยมอเตอร จะมีประสิทธิภาพรวมเพียงประมาณ 30 [%] แตถาใชเครื่องยนต

ดเี ซล (D/E) และนําความรอ นท้งิ กลับมาใชแลว จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพใหส งู ขน้ึ ไดเปน 55 [%]
เมือ่ เปรยี บเทียบดวยพลังงานปฐมภมู แิ ลว การขบั ดวย D/E จะปรับปรุงใหดีข้ึน 30 [%] และการนําความ

รอ นทง้ิ กลบั มาใชจ ะปรับปรุงใหดีข้ึน 10 [%] รวมแลวคา COP (Coefficient of performance ในการทําความเย็น)
จะเพิ่มขน้ึ จากเดิม 40 [%] กลายเปน 2.3 รูปท่ี 2.61 แสดงสมดลุ ความรอนท่แี ปลงเปนพลงั งานปฐมภมู แิ ลว

เคร่ืองยนตดีเซลเลือกใชเคร่ืองยนตอเนกประสงคขนาดกะทัดรัดและมีสมรรถนะสูง เปนเครื่องยนต 8
สูบ 4 จังหวะ มีพิกัด 2,100 [rpm] และใชนํา้ มนั หนกั A เปน เชอ้ื เพลงิ ดว ยความสิ้นเปลอื ง 85 [L/h]

เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพของเครื่องทําความเย็นและเพิ่มเวลาเดินเครื่องตลอดป จึงใชรวมกับเครื่องทํา
ความเย็นดูดซึมแบบเผาน้ํามันเตา A โดยตรง ทําใหมีโครงสรางเหมือนกันรูปที่ 2.62 และใชวิธีควบคุมแบบ
อุณหภมู แิ ปรผันโดยเพมิ่ อุณหภูมิขาออกน้าํ เย็นเม่ือเดินเครื่องดว ยภาระไมเตม็ พิกดั จาก 6 [°C] ถงึ 9.44 [°C]

(4) ประสทิ ธิผล
ประสทิ ธิผลการอนุรกั ษพลงั งาน (ตารางที่ 2.16) เมอ่ื เดนิ เครื่องท่ี 2,000 [USRT]
คา COP เทากับ 2.3
ปรมิ าณการปลอยกา ซ CO2 เทยี บกบั เทอรโบ : ลดลง 70 [%]
เทียบกับคามาตรฐาน NOx ท่ี 500 [ppm] แลวมีคาต่ํากวา คือเทา กบั ไมเกนิ 480 [ppm]

ตารางที่ 2.16 ประสิทธิผลการอนรุ กั ษพ ลงั งาน 1,999,630 [บาท/ป]
265,353 [บาท/ป]
(เวลาเดินเคร่ือง 3,000 [h/ป] คา load factor เทา กบั 0.6)
(1) การขับเครอ่ื งทาํ ความเยน็ เทอรโบ มอเตอร → เครื่องยนตด ีเซล 132,677 [บาท/ป]
(2) ตดิ ตงั้ เครื่องทําความเย็นเทอรโบท่ีทางเขาน้ําเย็น ควบคุมอุณหภูมิน้ําเย็นใหสูงขึ้นในฤดูระหวาง 88,135 [บาท/ป]

ฤดูรอ น-หนาว 132,677 [บาท/ป]
(3) ควบคุมอณุ หภูมิน้ําเยน็ เขา เครอื่ งทําความเยน็ ดูดซึมใหค งท่ี 2,618,472 [บาท/ป]
(4) จํากัด NOx ไมใหเกิดคาหนึ่ง และควบคุมความเร็วรอบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเมื่อมีภาระไมเต็ม

พกิ ัด
(5) ปรับปรุงการควบคมุ เปล่ียนจํานวนเคร่ืองอัดอากาศ
รวม

2-105

ตอนที่ 4 บทท่ี 2 หลกั การ/การอนรุ กั ษพ ลงั งานในระบบทาํ ความเย็นและปรบั อากาศ ตําราฝก อบรมผรู ับผดิ ชอบดา นพลงั งาน(ผชพ) ดา นไฟฟา

กรณศี กึ ษาที่ 9 การเดนิ เครอ่ื งโกดงั แชเยน็ แบบเกบ็ ความรอ นดวยนํ้าแข็งเปน รายแรกในวงการ
ประเภทกจิ การ : ขนสง
ผลติ ภัณฑ : ระบบเกบ็ ความเย็น

(1) เคา โครง
ศูนยขนสงสินคาแชแข็ง มีปรัชญาการบริหารวา “ความพยายามในมาตรการดานสิ่งแวดลอมจะมีผล

ชวยเพิ่มความสามารถในการแขงขัน” จึงไดดําเนินการรีไซเคิล เปลี่ยนมาใชสารฟรีออนทดแทนในอุปกรณแช
แข็ง สง เสรมิ การใชก ําลงั ไฟฟา กลางคนื ฯลฯ อยา งกระตอื รอื รน ในครง้ั น้ีจงึ นําระบบเก็บความเย็นแบบเก็บความ
รอนดวยน้ําแข็งมาใชเปนรายแรกในวงการกิจการประเภทน้ี โกดังแชแข็งนี้ใชเปนศูนยขนสงสําหรับพักและ
กระจายผลติ ภัณฑน ม นมกลอง ฯลฯ ซึ่งการใชวิธีเก็บความรอนดวยนํ้าแข็ง ทําใหสามารถลดคาไฟฟาไดจํานวน
มาก ดวยการใชส ัญญาปรับเปลยี่ นกําลงั ไฟฟาดวยการเกบ็ ความรอ นสําหรับอตุ สาหกรรมซงึ่ มีอัตราคาไฟต่ํา
(2) เนอ้ื หา

เคา โครงของเคร่ืองจักร
พื้นทป่ี รับอากาศของโกดังแชแ ข็ง : 1,930 [m2]
เครอื่ งทําความเยน็ : 37 [kW] × 2 เคร่ือง, 33 [kW] × 1 เครอื่ ง
พดั ลมเครือ่ งควบแนน : 1.1 [kW] × 3 เคร่ือง
ถังเกบ็ ความเยน็ ดวยนํ้าแข็ง : 30 [m3]
เคาโครงของระบบแสดงไวในรูปที่ 2.63

สาํ นกั งาน
ไป

สําหรับเบส
เครอื่ งทําความเยน็

สําหรบั เก็บความรอน เครือ่คงวแาลมกรอเปนลยี่ น โกดงั แชเ ยน็
ตอนกลางคนื ยนู ิตกําเนิดความเยน็ กลับ

เครอื่ งทําความเย็น ถังเก็บความรอน
ดวยนา้ํ แข็ง 30 [m3]

รูปท่ี 2.63 เคา โครงของระบบ

2-106

ตอนท่ี 4 บทท่ี 2 หลกั การ/การอนรุ กั ษพลงั งานในระบบทาํ ความเยน็ และปรบั อากาศ ตาํ ราฝกอบรมผรู ับผดิ ชอบดา นพลงั งาน(ผชพ) ดา นไฟฟา

กรณีศึกษาที่ 10 การจดั การการเดนิ เครอื่ งทาํ ความเย็นแบบดูดซึมอยา งมีประสิทธิภาพสูงกับการอนุรกั ษ
พลงั งาน

ประเภทกจิ การ : ผลติ เคร่ืองใชไ ฟฟา
ผลิตภณั ฑ : ครวั สาํ เร็จรปู ไมอ ัด ฯลฯ

(1) เคา โครง
ในเครื่องทําความเย็นดูดซึมย่ิงนํ้าระบายความรอนมีอุณหภูมิต่ําลง จะย่ิงมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และเมื่อ

นํ้าระบายความรอนมีอุณหภูมิต่ํากวาขีดจํากัดคาหนึ่ง สารดูดซึม (absorbent) จะเกิดผลึกข้ึนทําใหไมสามารถ
เดินเครื่องได โครงการนี้จะทําการทดสอบ ดวยเคร่ืองจริงเพ่ือหาขีดจํากัดนี้แลวกําหนดจุด อุณหภูมิที่เหมาะสม
ท่ีสดุ ในการเดินเครื่องใหม ปี ระสิทธิภาพสงู

(2) สภาพปจจุบนั
(1) ในจํานวนเคร่ืองทําความเย็นดูดซึม ที่เปนเปาหมาย มี 3 เครื่องที่มีหนาท่ีปรับอากาศหอง

คอมพวิ เตอร ซง่ึ จะเดินเคร่อื ง 24 ช่วั โมง 365 วนั
(2) คุณลักษณะของอุณหภูมิน้าํ ระบายความรอ น
เมอ่ื ลดอณุ หภูมินํา้ ระบายความรอนจาก 32 [°C] เปน 28 [°C] ประสิทธิภาพจะเพมิ่ ข้นึ 10 [%]
เมื่อลดอณุ หภูมนิ าํ้ ระบายความรอนเปน 24 [°C] แลวจะเขา สูชว งการตกผลึกของสาร ดูดซึม จงึ ตองให

อุณหภมู ไิ มต ่ํากวา 24 [°C]
(3) ปญ หาในปจจุบนั
การควบคมุ อณุ หภูมติ ํ่าสดุ ของนํา้ ระบายความรอ นเพื่อใหเ ดนิ เครอ่ื งทาํ ความเย็นไดอ ยา งปลอดภยั ยงั ไม

มีการนาํ มาทาํ ใหเ ปน ระบบ
แมวาจะลดอุณหภูมิขาเขาของนํ้าระบายความรอนลงได แตถาทอนํ้าระบายความรอนสกปรก

ประสิทธผิ ลจะลดตาํ่ ลง

(3) เน้อื หา
การกําหนดเปาหมาย : เพ่ิมประสิทธิภาพการเดินเครื่องขึ้น 10 [%] (ใหคา COP ของเคร่ืองทําความเย็น

ดูดซมึ เทา กับ 1.0)
อุณหภูมิตา่ํ สุดท่ตี ้งั ไวจะใหมีคาเทากับ 27.5 [°C] (เม่อื อณุ หภูมิเทา กบั 27 [°C] สัญญาณเตือนจะทํางาน

และบังคับใหกําลังขาออกลดลง)
เมอื่ ประเมนิ คา COP ในสภาพตา งๆ และเผ่ือไวอีกเล็กนอยแลว จึงกําหนดอุณหภูมิ ขาเขาของน้ําระบาย

ความรอ นใหเทา กบั 28 [°C]
ใหค า COP ที่ต่ําลงเนื่องจากความสกปรกของทอ นํ้าระบายความรอนเทา กบั
คา Scale factor ของเครือ่ งดดู ซมึ : 0.14
คา Scale factor ของเคร่อื งควบแนน : 0.037 โดยตอ งทําความสะอาดใหไ มเกินคาดังกลา ว

2-107

ตอนที่ 4 บทที่ 2 หลกั การ/การอนุรักษพลงั งานในระบบทาํ ความเยน็ และปรับอากาศ ตําราฝก อบรมผรู ับผิดชอบดา นพลงั งาน(ผชพ) ดา นไฟฟา

ในการควบคุมแหลง ความรอ นของระบบหองคอมพิวเตอร ไดนาํ ระบบผูช ํานาญการตรวจวเิ คราะห
ความผิดปกตเิ ขามาใช เพื่อรักษาคา COP ใหเทากบั 1.0 ตลอดเวลา

เงอ่ื นไขอุณหภมู ิของน้ําระบายความรอนกับคา COP แสดงไวในตารางท่ี 2.17

ตารางท่ี 2.17 การประเมินคา COP ในสภาพเงอื่ นไขตา งๆ

(ปรมิ าณความรอน [kcal/h])

อุณหภูมขิ าเขา นํ้าระบาย ความรอนของ ความรอนของนา้ํ ระบาย คา เทยี บกบั

ความรอ น กา ซ ความรอน COP ปจ จุบัน

32.5 [°C] 372,000 0.87 ลดลง 3 [%]

28.0 [°C] 427,725 432,000 1.01 เพม่ิ ขนึ้ 12 [%]

27.5 [°C] 456,000 1.07 เพม่ิ ข้ึน 19 [%]

(4) ประสิทธผิ ล

ลดการใชกา ซ 13A ได 72,130 [m3/ป] (8 เดือน)

อัตราการใชก า ซ 13A ลดลง (เทยี บกับคา รวม)0.67 [%]

ลดคาเช้ือเพลิงได 962,000 [บาท/ป] (8 เดอื น)

2-108

ตอนท่ี 4 บทที่ 2 หลักการ/การอนุรักษพ ลงั งานในระบบทาํ ความเย็นและปรบั อากาศ ตาํ ราฝกอบรมผรู ับผดิ ชอบดา นพลงั งาน(ผชพ) ดา นไฟฟา

เอกสารอา งอิง

1. C P Arora. Refrigeration and Air Conditioning. Second Edition. McGraw-Hill, 2001
2. เอกสารอนรุ กั ษพ ลังงานของญปี่ ุน
3. ชชู ยั ต.ศริ วิ ฒั นา. พิมพค ร้งั ท่ี 4. การทาํ ความเย็นและการปรบั อากาศ. สมาคมสงเสริมเทคโนโลยี (ไทย-

ญ่ปี ุน) สํานักพิมพ ส.ส.ท. 2547
4. ศริ ิพรรณ ธงชยั และพชิ ัย อัษฎมงคล. การอนรุ ักษพ ลังงานไฟฟา . : สถาบนั เทคโนโลยีพระจอมเกลาพระ

นครเหนอื , 2548.
5. รวมบทความจากวารสารเทคนิค , ระบบปรับอากาศชดุ ที่ 2., กรุงเทพฯ,เอม็ แอนดอี,2546.

2-109


Click to View FlipBook Version