การบริหารจดั การ
สินค้าคงคลงั
หวั ข้อการอบรม
ประเภทของ Inventory
หน้าที่ของ Inventory
ต้นทนุ การเกบ็ วสั ดคุ งคลงั
ระบบการควบคมุ และตรวจนับวสั ดคุ งคลงั
การจดั หมวดหม่วู สั ดคุ งคลงั
Inventory Lead time
ระดบั การบริการลกู ค้าและสินค้าคงคลงั เพ่ือความปลอดภยั
การกาหนดเวลาในการสงั่ เติมเตม็ วสั ดุ และสินค้าคงคลงั
การกาหนดปริมาณในการสงั่ เติมเตม็ วสั ดุ และสินค้าคงคลงั
การบริหารจดั การ Inventory อย่างมีประสิทธิภาพ
2
ชนิดของ Inventory
หน้าท่ีของ Inventory
Anticipation Inventory: การมวี สั ดุคงคลงั เพอ่ื เกบ็ ไวใ้ ชใ้ นกรณพี เิ ศษ
ต่างๆ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ตามแผนการดาเนินงานทงั้ กรณที ค่ี าดวา่ จะมคี วาม
ตอ้ งการเพมิ่ ขน้ึ จากปกติ เชน่ planned sales promotion programs,
seasonal fluctuations และกรณที ว่ี สั ดหุ รอื สนิ คา้ นนั้ อาจขากแคลนชวั่ คราว
เชน่ plant shutdowns
Fluctuation Inventory: การมวี สั ดุคงคลงั เพอ่ื เกบ็ ไวส้ ารองในกรณที ค่ี วาม
ตอ้ งการของลกู คา้ หรอื การจดั สง่ วสั ดุหรอื สนิ คา้ จะ Supplier มคี วามไม่
แน่นอน
Lot size Inventory: การมวี สั ดุคงคลงั เน่ืองจากกรผลติ หรอื สงั่ ซอ้ื แบบเตม็
Lot เพอ่ื รกั ษาการผลติ ใหม้ อี ตั ราคงทห่ี รอื เพอ่ื ให้ ไดส้ ว่ นลดปรมิ าณจากการ
จดั ซอ้ื จานวนมากต่อครงั้
Hedging Inventory: การมวี สั ดุคงคลงั ไวเ้ พอ่ื เกง็ กาไรในอนาคต
4
ประเภทของ Inventory
วสั ดหุ รือสินค้าที่เกบ็ ตามรอบ ( Cycle Stock): วสั ดหุ รอื สนิ คา้ ทเ่ี กบ็ ตามรอบ
เป็นวสั ดหุ รอื สนิ คา้ ทม่ี ไี วเ้ พอ่ื ทดแทนวสั ดุหรอื สนิ คา้ ทขี ายไปหรอื วสั ดหุ รอื สนิ คา้
ทใ่ี ชไ้ ปในการผลติ ซง่ึ วสั ดุหรอื สนิ คา้ ประเภทน้ีจะเกบ็ ไวเ้ พอ่ื ตอบสนองความ
ตอ้ งการวสั ดุหรอื สนิ คา้ ภายใตเ้ งอ่ื นไขทม่ี คี วามแน่นอน และอยภู่ ายใตส้ มมตฐิ าน
ทว่ี า่ ความตอ้ งการวสั ดุหรอื สนิ คา้ และเวลานาในการสงั่ คงทแ่ี ละทราบลว่ งหน้า
วสั ดหุ รือสินค้าปลอดภยั หรอื วสั ดหุ รอื สินค้ากนั ชน ( Safety or Buffer
Stock): เป็นวสั ดุหรอื สนิ คา้ จานวนหน่ึงทเ่ี กบ็ ไวเ้ กนิ จานวนวสั ดหุ รอื สนิ คา้ ทเ่ี กบ็
ไวต้ ามรอบปกตเิ น่ืองจากความไมแ่ น่นอนในความตอ้ งการ ซง่ึ ปรมิ าณวสั ดคุ ง
คลงั โดยเฉลย่ี จะเทา่ กบั ครง่ึ หน่ึงของปรมิ าณ การสงั่ ซอ้ื ตามปกตบิ วกกบั ปรมิ าณ
วสั ดุหรอื สนิ คา้ ปลอดภยั
5
Cycle Stock and Safety Stock
6
ประเภทของ Inventory
วสั ดคุ งคลงั ระหว่างทาง (In – transit Inventories): เป็นวสั ดุหรอื สนิ คา้ ทอ่ี ยู่
ระหวา่ งการลาเลยี งจากสถานทห่ี น่งึ ไปยงั อกี สถานทห่ี น่งึ ซง่ึ วสั ดุหรอื สนิ คา้
เหล่าน้ีอาจจะถอื ไดว้ า่ เป็นสว่ นหน่ึงของวสั ดุหรอื สนิ คา้ ทเ่ี กบ็ ไวแ้ มว้ า่ วสั ดุหรอื
สนิ คา้ เหลา่ น้ีจะยงั ไมส่ ามารถขายหรอื ขนสง่ ในลาดบั ต่อไปไดจ้ นกวา่ วสั ดุหรอื
สนิ คา้ นนั้ จะไปถงึ ผทู้ ส่ี งั่ วสั ดหุ รอื สนิ คา้ นนั้ เสยี ก่อน ดงั นนั้ ในการคานวณตน้ ทนุ
ในการเกบ็ รกั ษาวสั ดหุ รอื สนิ คา้ ของตน้ ทางควรจะรวมตน้ ทนุ ของวสั ดหุ รอื สนิ คา้
คงคลงั ระหวา่ งทางไวด้ ว้ ย
วสั ดหุ รือสินค้าไม่เคลื่อนไหว (Dead Stock): เป็นวสั ดหุ รอื สนิ คา้ ทกี จิ การเกบ็
ไวน้ านและยงั ไมม่ คี วามตอ้ งการวสั ดหุ รอื สนิ คา้ ชนิดนนั้ เกดิ ขน้ึ ซง่ึ อาจเป็นเพราะ
วสั ดุหรอื สนิ คา้ ลา้ สมยั เสอ่ื มสภาพ ในกรณที เ่ี ป็นวสั ดหุ รอื สนิ คา้ ตกคา้ งควรทา
การพจิ ารณาวา่ เพอ่ื ป้องกนั การเสอ่ื มของวสั ดุหรอื สนิ คา้ หรอื การนามาขายลด
ราคาหน้าโรงงานกอ็ าจจะชว่ ยแกไ้ ขปญั หาน้ีลงได้
7
วตั ถปุ ระสงคข์ อง Inventory
ตอบสนองความต้องการของลกู ค้าที่ประมาณการไว้ในแต่ละช่วงเวลาทงั้ ใน
และนอกฤดกู าล
รกั ษาการผลิตให้มีอตั ราคงท่ีสมา่ เสมอ เพ่ือรกั ษาระดบั การว่าจา้ งแรงงาน การ
เดินเครอื่ งจกั ร ฯลฯ ให้สมา่ เสมอได้ โดยจะเกบ็ วสั ดหุ รอื สินค้าที่ขายไมห่ มด
ในช่วงขายไมด่ ีไว้ขายตอนช่วงขายดีซ่ึงช่วงนัน้ อาจจะผลิตไม่ทนั ขาย
ทาให้ธรุ กิจได้ส่วนลดปริมาณจากการจดั ซื้อจานวนมากต่อครงั้ ป้ องกนั การ
เปลี่ยนแปลงราคาแลผลกระทบจากเงินเฟ้ อเมอ่ื วสั ดหุ รอื สินค้าในท้องตลาดมี
ราคาสงู ขนึ้
ป้ องกนั ของขาดมือด้วยวสั ดหุ รือสินค้าเผอื่ ขาดมอื เมอื่ เวลารอคอยล่าช้าหรอื
บงั เอิญได้คาสงั่ ซื้อเพิ่มขนึ้ กะทนั หนั
ทาให้กระบวนการผลิตสามารถดาเนินการต่อเนื่องอยา่ งราบรน่ื ไม่มีการ
หยดุ ชะงกั เพราะของขาดมือจนเกิดความเสียหายแก่กระบวนการผลิต
8
การบรหิ ารจดั การวสั ดคุ งคลงั ทม่ี ีประสิทธภิ าพ
มีระบบการพยากรณ์ท่ีเชื่อถือได้ และสามารถบง่ ชี้ข้อผิดพลาดในการพยากรณ์ได้
สามารถประมาณการเกี่ยวกบั ต้นทนุ ด้านต่างๆ ได้
◦ ตน้ ทนุ จากคา่ ใชจ้ า่ ยทจ่ี ่ายไปเพอ่ื ใหไ้ ดว้ สั ดหุ รอื วสั ดหุ รอื สนิ คา้ นนั้ ๆมา
◦ ตน้ ทนุ การเกบ็ วสั ดุคงคลงั
◦ ตน้ ทนุ ในการสงั่ ซอ้ื
◦ ตน้ ทุนจากการขาดแคลนวสั ดคุ งคลงั
มีระบบในการควบคมุ และ ติดตามปริมาณ วสั ดคุ งคลงั
มีระบบการจดั หมวดหมู่วสั ดคุ งคลงั ท่ีดี
มีข้อมลู เก่ียวกบั เวลานา ในการสงั่ ซื้อวตั ถดุ ิบ หรอื ชิ้นส่วนในการผลิตแต่ละประเภท
มีการกาหนดปริมาณการสงั่ ซื้อและรอบเวลาในการเติมเตม็ วสั ดคุ งคลงั ท่ีเหมาะสม
9
การบรหิ ารจดั การวสั ดคุ งคลงั ทีม่ ีประสิทธิภาพ
มีระบบการพยากรณ์ที่เช่ือถือได้ และสามารถบง่ ชี้ข้อผิดพลาดในการพยากรณ์ได้
สามารถประมาณการเก่ียวกบั ต้นทนุ ด้านต่างๆ ได้
◦ ตน้ ทนุ จากคา่ ใชจ้ า่ ยทจ่ี า่ ยไปเพอ่ื ใหไ้ ดว้ สั ดุหรอื วสั ดุหรอื สนิ คา้ นนั้ ๆ
◦ ตน้ ทนุ การเกบ็ วสั ดุคงคลงั
◦ ตน้ ทนุ ในการสงั่ ซอ้ื
◦ ตน้ ทนุ จากการขาดแคลนวสั ดุคงคลงั
มีระบบในการควบคมุ และ ติดตามปริมาณ วสั ดคุ งคลงั
มีระบบการจดั หมวดหม่วู สั ดคุ งคลงั ท่ีดี
มีข้อมลู เกี่ยวกบั เวลานา ในการสงั ่ ซื้อวตั ถดุ ิบ หรอื ชิ้นส่วนในการผลิตแต่ละประเภท
มีการกาหนดปริมาณการสงั ่ ซื้อและรอบเวลาในการเติมเตม็ วสั ดคุ งคลงั ที่เหมาะสม
10
ต้นทนุ วสั ดคุ งคลงั
ค่าใช้จ่ายท่ีจ่ายไปเพื่อให้ได้วสั ดหุ รอื วสั ดหุ รือสินค้านัน้ ๆมา (Item cost)
ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ประกอบด้วย
◦ ราคาวสั ดุหรอื วสั ดหุ รอื สนิ คา้
◦ คา่ ขนสง่
◦ คา่ ประกนั
◦ คา่ ธรรมเนียมต่างๆ
◦ คา่ ภาษศี ุลกากร
11
ต้นทุนวสั ดคุ งคลงั
ค่าใช้จ่ายในการสงั่ ซื้อ (Ordering Cost) เป็นค่าใช้จ่ายท่ีต้องจ่ายเพื่อให้
ได้มาซ่ึงวสั ดคุ งคลงั ที่ต้องการ ซ่ึงจะแปรตามจานวนครงั้ ของการสงั่ ซื้อ แต่
ไม่แปรตามปริมาณวสั ดคุ งคลงั เพราะสงั่ ซื้อของมากเท่าใดกต็ ามในแต่ละ
ครงั้ ค่าใช้จ่ายในการสงั่ ซื้อกย็ งั คงที่ แต่ถ้าย่ิงสงั่ ซื้อบอ่ ยครงั้ ค่าใช้จ่ายใน
การสงั่ ซื้อจะย่ิงสงู ขึน้ ค่าใช้จ่ายในการสงั่ ซื้อได้แก่
◦ คา่ เอกสารใบสงั่ ซอ้ื
◦ คา่ จา้ งพนกั งานจดั ซอ้ื
◦ คา่ โทรศพั ท์
◦ คา่ ขนสง่ วสั ดหุ รอื สนิ คา้
◦ คา่ ใชจ้ า่ ยในการตรวจรบั ของและเอกสาร
◦ คา่ ธรรมเนยี มการนาของออกจากศุลกากร
◦ คา่ ใชจ้ า่ ยในการชาระเงนิ
12
ต้นทนุ วสั ดคุ งคลงั
ค่าใช้จ่ายในการเกบ็ รกั ษา (Carrying Cost) เป็นค่าใช้จ่ายจากการมีวสั ดุ
คงคลงั และการรกั ษาสภาพให้วสั ดคุ งคลงั นัน้ อย่ใู นรปู ที่ใช้งานได้ ซ่ึงจะ
แปรตามปริมาณวสั ดคุ งคลงั ที่ถือไว้และระยะเวลาที่เกบ็ วสั ดคุ งคลงั นัน้ ไว้
ค่าใช้จ่ายในการเกบ็ รกั ษา ได้แก่
◦ ตน้ ทนุ เงนิ ทุนทจ่ี มอยกู่ บั วสั ดุคงคลงั ซง่ึ คอื คา่ ดอกเบย้ี จา่ ยถา้ เงนิ ทุนนนั้ มาจากการกยู้ มื หรอื
เป็นคา่ เสยี โอกาสถา้ เงนิ ทุนนนั้ เป็นสว่ นของเจา้ ของ
◦ คา่ คลงั วสั ดุหรอื สนิ คา้
◦ คา่ ไฟฟ้าเพอ่ื การรกั ษาอุณหภมู ิ
◦ คา่ ใชจ้ า่ ยของวสั ดหุ รอื วสั ดุหรอื สนิ คา้ ทช่ี ารดุ เสยี หายหรอื หมดอายุเสอ่ื มสภาพจากการเกบ็
นานเกนิ ไป
◦ คา่ ภาษแี ละการประกนั ภยั
◦ คา่ จา้ งยามและพนกั งานประจาคลงั วสั ดุหรอื สนิ คา้ ฯลฯ
13
ต้นทุนวสั ดคุ งคลงั : Trade off
14
ต้นทุนวสั ดคุ งคลงั
ค่าใช้จ่ายเนื่องจากวสั ดหุ รือสินค้าขาดแคลน (Shortage Cost หรอื Stock
out Cost) เป็นคา่ ใชจ้ า่ ยทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการมวี สั ดุคงคลงั ไมเ่ พยี งพอตอ่ การผลติ
หรอื การขาย ทาใหล้ กู คา้ ยกเลกิ คาสงั่ ซอ้ื ขาดรายไดท้ ค่ี วรได้ กจิ การเสยี ชอ่ื เสยี ง
กระบวนการผลติ หยดุ ชะงกั เกดิ การวา่ งงานของเครอ่ื งจกั รและคนงาน ฯลฯ
คา่ ใชจ้ า่ ยเน่ืองจากวสั ดุหรอื วสั ดุหรอื สนิ คา้ ขาดแคลน ไดแ้ ก่ คาสงั่ ซอ้ื
ของลอ็ ตพเิ ศษทางอากาศเพอ่ื นามาใชแ้ บบฉุกเฉิน คา่ ปรบั เน่ืองจากวสั ดุหรอื
สนิ คา้ ใหล้ กู คา้ ลา่ ชา้ คา่ เสยี โอกาสในการขาย คา่ ใชจ้ า่ ยทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการเสยี คา่
ความนยิ ม ฯลฯ
คา่ ใชจ้ า่ ยน้ีจะแปรผกผนั กบั ปรมิ าณวสั ดคุ งคลงั ทถ่ี อื ไว้ นนั่ คอื ถา้ ถอื วสั ดุ
หรอื สนิ คา้ ไวม้ ากจะไมเ่ กดิ การขาดแคลน แตถ่ า้ ถอื วสั ดุคงคลงั ไวน้ ้อยกอ็ าจเกดิ
โอกาสทจ่ี ะเกดิ การขาดแคลนไดม้ ากกวา่
15
ต้นทนุ วสั ดคุ งคลงั
ค่าใช้จ่ายในการปรบั ตงั้ เครื่องจกั รใหม่ (Capacity- Related Cost) เป็น
คา่ ใชจ้ า่ ยทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการทเ่ี ครอ่ื งจกั รจะตอ้ งเปลย่ี นการทางานหน่ึงไปทางาน
อกี อยา่ งหน่ึง ซง่ึ จะเกดิ การวา่ งงานชวั่ คราว วสั ดุคงคลงั จะถกู ทง้ิ ใหร้ อ
กระบวนการผลติ ทจ่ี ะตงั้ ใหม่
คา่ ใชจ้ า่ ยในการตงั้ เครอ่ื งจกั รใหมน่ ้ีจะมลี กั ษณะเป็นตน้ ทนุ คงทต่ี อ่ ครงั้ ซง่ึ
จะขน้ึ อยกู่ บั ขนาดของลอ็ ตการผลติ ถา้ ผลติ เป็นลอ็ ตใหญ่มกี ารตงั้ เครอ่ื งใหมน่ าน
ครงั้ คา่ ใชจ้ า่ ยในการตงั้ เครอ่ื งใหมก่ จ็ ะต่า แต่ยอดสะสมของวสั ดุคงคลงั จะสงู ถา้
ผลติ เป็นลอ็ ตเลก็ มกี ารตงั้ เครอ่ื งใหมบ่ อ่ ยครงั้ คา่ ใชจ้ า่ ยในการตงั้ เครอ่ื งใหมก่ จ็ ะ
สงู แตว่ สั ดุคงคลงั จะมรี ะดบั ต่าลง และสามารถสง่ มอบงานใหแ้ กล่ กู คา้ ไดเ้ รว็ ขน้ึ
16
ต้นทุนวสั ดคุ งคลงั : Trade off
17
การบริหารจดั การวสั ดคุ งคลงั ท่ีมีประสทิ ธิภาพ
มีระบบการพยากรณ์ท่ีเช่ือถอื ได้ และสามารถบง่ ชี้ข้อผิดพลาดในการพยากรณ์ได้
สามารถประมาณการเกี่ยวกบั ต้นทนุ ด้านต่างๆ ได้
◦ ตน้ ทุนจากคา่ ใชจ้ า่ ยทจ่ี า่ ยไปเพอ่ื ใหไ้ ดว้ สั ดุหรอื วสั ดหุ รอื สนิ คา้ นนั้ ๆมา
◦ ตน้ ทนุ การเกบ็ วสั ดคุ งคลงั
◦ ตน้ ทุนในการสงั่ ซอ้ื
◦ ตน้ ทุนจากการขาดแคลนวสั ดุคงคลงั
มีระบบในการควบคมุ และ ติดตามปริมาณ วสั ดคุ งคลงั
มีระบบการจดั หมวดหม่วู สั ดคุ งคลงั ที่ดี
มีข้อมลู เก่ียวกบั เวลานา ในการสงั ่ ซื้อวตั ถดุ ิบ หรือชิ้นส่วนในการผลิตแต่ละประเภท
มีการกาหนดปริมาณการสงั ่ ซื้อและรอบเวลาในการเติมเตม็ วสั ดคุ งคลงั ที่เหมาะสม
18
ระบบการควบคมุ และตรวจนับวสั ดคุ งคลงั
ระบบวสั ดคุ งคลงั อย่างต่อเนื่อง (Continuous Inventory System Perpetual
System)
◦ เป็นระบบวสั ดคุ งคลงั ทม่ี กี ารเกบ็ ขอ้ มลู ทกุ ครงั้ ทม่ี กี ารรบั และจา่ ยของ ทาใหม้ ี
ขอ้ มลู ทแ่ี สดงยอดคงเหลอื ทแ่ี ทจ้ รงิ ของวสั ดคุ งคลงั อยเู่ สมอ ซง่ึ จาเป็นอยา่ งยงิ่ ใน
การควบคุมวสั ดุคงคลงั รายการทส่ี าคญั ทป่ี ลอ่ ยใหข้ าดมอื ไมไ่ ด้
◦ ปจั จุบนั การนาเอาคอมพวิ เตอรเ์ ขา้ มาประยกุ ตใ์ ชก้ บั งานสานกั งานและบญั ชี
สามารถชว่ ยแกไ้ ขปญั หาในขอ้ น้ี โดยการใชร้ หสั แหง่ (Bar Code) ตดิ บนวสั ดุ
หรอื สนิ คา้ แลว้ ใชเ้ ครอ่ื งอา่ นรหสั แหง่ (Laser Scan) ซง่ึ วธิ นี ้ีนอกจากจะมี
ความถกู ตอ้ ง แมน่ ยา เทย่ี งตรงแลว้ ยงั สามารถใชเ้ ป็นฐานขอ้ มลู ของการบรหิ าร
วสั ดุคงคลงั ในซพั พลายเชนของวสั ดหุ รอื สนิ คา้ ไดอ้ กี ดว้ ย
19
ระบบการควบคมุ และตรวจนับวสั ดคุ งคลงั
ระบบวสั ดคุ งคลงั เมื่อสิ้นงวด (Periodic Inventory System)
◦ เป็นระบบวสั ดุคงคลงั ทม่ี กี ารเกบ็ ขอ้ มลู เฉพาะในชว่ งเวลาทก่ี าหนดไวเ้ ทา่ นนั้
เชน่ ตรวจนบั และลงบญั ชที ุกปลายสปั ดาหห์ รอื ปลายเดอื น และจะมกี ารสงั่ ซอ้ื
เขา้ มาเตมิ ใหเ้ ตม็ ระดบั ทต่ี งั้ ไว้ ระบบน้ีจะเหมาะกบั วสั ดหุ รอื สนิ คา้ ทม่ี กี าร
สงั่ ซอ้ื และเบกิ ใชเ้ ป็นชว่ งเวลาทแ่ี น่นอน เชน่ รา้ นขาย CD จะมกี ารสารวจ
ยอดCDในแตล่ ะวนั และสรปุ ยอดตอนสน้ิ สปั ดาห์ เพอ่ื ดปู รมิ าณ CD คงคา้ ง
ในรา้ นและคลงั วสั ดหุ รอื สนิ คา้ เพอ่ื เตรยี มสงั่ มาเพม่ิ เพราะจะมกี ารเผอ่ื สารอง
การขาดมอื โดยไมค่ าดคดิ ไวก้ ่อนลว่ งหน้าบา้ ง และระบบน้ีจะทาใหม้ กี ารปรบั
ปรมิ าณการสงั่ ซอ้ื ใหม่ เมอ่ื ความตอ้ งการเปลย่ี นแปลงไปดว้ ย
20
ระบบการควบคมุ และตรวจนับวสั ดคุ งคลงั
ข้อดีของระบบวสั ดคุ งคลงั แบบต่อเน่ือง
◦ มวี สั ดุคงคลงั เผ่อื ขาดมอื น้อยกวา่ โดยจะเผ่อื วสั ดุหรอื สนิ คา้ ไวเ้ ฉพาะชว่ งเวลา
รอคอยเทา่ นนั้ เน่ืองจากสามารถสงั่ เพม่ิ ใหมไ่ ดต้ ลอด ในขณะทก่ี ารตรวจนบั
วสั ดุคงคลงั เมอ่ื สน้ิ งวดตอ้ งเผ่อื วสั ดุหรอื สนิ คา้ ไวท้ งั้ ชว่ งเวลารอคอย และเวลา
ระหวา่ งการสงั่ ซอ้ื เน่ืองจากจะไมส่ ามารถสงั่ ซอ้ื ถา้ ยงั ไมถ่ งึ ชว่ งเวลาทก่ี าหนด
ข้อดีของระบบวสั ดคุ งคลงั เมื่อสิ้นงวด
◦ ใชเ้ วลาน้อยกวา่ และเสยี คา่ ใชจ้ า่ ยในการควบคมุ น้อยกวา่ ระบบตอ่ เน่ือง
◦ คา่ ใชจ้ า่ ยในการเกบ็ ขอ้ มลู วสั ดคุ งคลงั ต่ากวา่
21
การบริหารจดั การวสั ดคุ งคลงั ท่ีมีประสทิ ธิภาพ
มีระบบการพยากรณ์ท่ีเช่ือถอื ได้ และสามารถบง่ ชี้ข้อผิดพลาดในการพยากรณ์ได้
สามารถประมาณการเกี่ยวกบั ต้นทนุ ด้านต่างๆ ได้
◦ ตน้ ทุนจากคา่ ใชจ้ า่ ยทจ่ี า่ ยไปเพอ่ื ใหไ้ ดว้ สั ดุหรอื วสั ดหุ รอื สนิ คา้ นนั้ ๆมา
◦ ตน้ ทนุ การเกบ็ วสั ดคุ งคลงั
◦ ตน้ ทุนในการสงั่ ซอ้ื
◦ ตน้ ทุนจากการขาดแคลนวสั ดุคงคลงั
มีระบบในการควบคมุ และ ติดตามปริมาณ วสั ดคุ งคลงั
มีระบบการจดั หมวดหม่วู สั ดคุ งคลงั ที่ดี
มีข้อมลู เก่ียวกบั เวลานา ในการสงั ่ ซื้อวตั ถดุ ิบ หรือชิ้นส่วนในการผลิตแต่ละประเภท
มีการกาหนดปริมาณการสงั ่ ซื้อและรอบเวลาในการเติมเตม็ วสั ดคุ งคลงั ที่เหมาะสม
22
ระบบการจาแนกวสั ดคุ งคลงั เป็นหมวดเอบซี ี
ระบบนี้เป็นวิธีการจาแนกวสั ดคุ งคลงั ออกเป็นแต่ละประเภทโดยพิจารณาปริมาณและ
มลู ค่าของวสั ดคุ งคลงั แต่ละรายการเป็นเกณฑ์ เพื่อลดภาระในการดแู ล ตรวจนับ และ
ควบคมุ วสั ดคุ งคลงั ที่มีอย่มู ากมาย ซ่ึงถ้าควบคมุ ทกุ รายการอยา่ งเข้มงวดเท่าเทียมกนั
จะเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมากเกินความจาเป็น เพราะในบรรดาวสั ดคุ งคลงั ทงั้ หลาย
ของแต่ละธรุ กิจจะมกั เป็นไปตามเกณฑด์ งั ต่อไปนี้
◦ A เป็นวสั ดุคงคลงั ทม่ี ปี รมิ าณน้อย (5-15% ของวสั ดุคงคลงั ทงั้ หมด) แต่มมี ลู คา่ รวม
คอ่ นขา้ งสงู (70-80% ของมลู คา่ ทงั้ หมด)
◦ B เป็นวสั ดคุ งคลงั ทม่ี ปี รมิ าณปานกลาง (30% ของวสั ดคุ งคลงั ทงั้ หมด) และมมี ลู คา่ รวม
ปานกลาง (15% ของมลู คา่ ทงั้ หมด)
◦ C เป็นวสั ดคุ งคลงั ทม่ี ปี รมิ าณมาก (50-60% ของวสั ดุคงคลงั ทงั้ หมด) แต่มมี ลู คา่ รวม
คอ่ นขา้ งต่า (5-10% ของมลู คา่ ทงั้ หมด)
23
ระบบการจาแนกวสั ดคุ งคลงั เป็นหมวดเอบีซี
ประเภท ปริมาณการใช้ ต้นทนุ /หน่วย ($) มลู ค่าการใช้ ($) เปอรเ์ ซน็ ตม์ ลู ค่าการใช้
1 5,000 1.50 7,500 2.9%
2 1,500 8.00 12,000 4.7%
3 10,000 10.50 105,000 41.2%
4 6,000 2.00 12,000 4.7%
5 7,500 0.50 3,750 1.5%
6 6,000 13.60 81,600 32.0%
7 5,000 0.75 3,750 1.5%
8 4,500 1.25 5,625 2.2%
9 7,000 2.50 17,500 6.9%
10 3,000 2.00 6,000 2.4%
100.0%
Total $ 254,725
24
ระบบการจาแนกวสั ดคุ งคลงั เป็นหมวดเอบีซี
มูลค่าการใช้($) เปอร์เซน็ ต์มูลค่าการใช้
3 41.2%
6 32.0%
9 6.9%
2 4.7%
4 4.7%
1 2.9%
10 2.4%
8 2.2%
5 1.5%
7 1.5%
25
ระบบการจาแนกวสั ดคุ งคลงั เป็นหมวดเอบซี ี
45.0%Percent Usage 120.0%
40.0% Cumulative % Usage100.0%
35.0% 80.0%
30.0% 60.0%
25.0% 40.0%
20.0% 20.0%
15.0% 0.0%
10.0%
Cumulative Percentage
5.0%
0.0%
Item No.
Percentage of Total Dollar Usage
26
ระบบการจาแนกวสั ดคุ งคลงั เป็นหมวดเอบีซี
การจาแนกวสั ดคุ งคลงั เป็นหมวด ABC จะทาให้การควบคมุ วสั ดคุ งคลงั แตกต่าง
กนั ดงั ต่อไปนี้
A ควบคุมอยา่ งเขม้ งวดมาก ดว้ ยการลงบญั ชที กุ ครงั้ ทม่ี กี ารรบั จา่ ย และมกี ารตรวจนบั
จานวนจรงิ เพอ่ื เปรยี บเทยี บกบั จานวนในบญั ชอี ยบู่ อ่ ยๆ (เชน่ ทุกวนั หรอื ทกุ สปั ดาห)์
การควบคมุ จงึ ควรใชร้ ะบบวสั ดคุ งคลงั อยา่ งตอ่ เน่อื งและตอ้ งเกบ็ ของไวใ้ นทป่ี ลอดภยั
ในดา้ นการจดั ซอ้ื กค็ วรหาผขู้ ายไวห้ ลายรายเพอ่ื ลดความเสย่ี งจากการขาดแคลนวสั ดุ
หรอื สนิ คา้ และสามารถเจรจาต่อรองราคาได้
B ควบคุมอยา่ งเขม้ งวดปานกลาง ดว้ ยการลงบญั ชคี ุมยอดบนั ทกึ เสมอเชน่ เดยี วกบั A
ควรมกี ารเบกิ จา่ ยอยา่ งเป็นระบบเพอ่ื ป้องกนั การสญู หาย การตรวจนบั จานวนจรงิ กท็ า
เชน่ เดยี วกบั A แต่ความถน่ี ้อยกวา่ (เชน่ ทกุ สปั ดาห์ หรอื ทุกสน้ิ เดอื น) และการ
ควบคุม B จงึ ควรใชร้ ะบบวสั ดคุ งคลงั อยา่ งตอ่ เน่ืองเชน่ เดยี วกบั A
27
ระบบการจาแนกวสั ดคุ งคลงั เป็นหมวดเอบีซี
C ไมม่ กี ารจดบนั ทกึ หรอื มกี เ็ พยี งเลก็ น้อย วสั ดคุ งคลงั ประเภทน้ีจะวางใหห้ ยบิ
ใชไ้ ดต้ ามสะดวกเน่ืองจากเป็นของราคาถกู และปรมิ าณมาก ถา้ ทาการควบคมุ
อยา่ งเขม้ งวด จะทาใหม้ คี า่ ใชจ้ า่ ยมากซง่ึ ไมค่ มุ้ คา่ กบั ประโยชน์ทไ่ี ดป้ ้องกนั ไมใ่ ห้
สญู หาย การตรวจนบั C จะใชร้ ะบบวสั ดคุ งคลงั แบบสน้ิ งวดคอื เวน้ สกั ระยะจะมา
ตรวจนบั ดวู า่ พรอ่ งไปเทา่ ใดแลว้ กซ็ อ้ื มาเตมิ หรอื อาจใชร้ ะบบสองกล่อง (Two
bin system) ซง่ึ มกี ลอ่ งวสั ดุอยู่ 2 กลอ่ งเป็นการเผอ่ื ไว้ พอใชข้ องในกลอ่ งแรก
หมดกน็ าเอากลอ่ งสารองมาใชแ้ ลว้ รบี ซอ้ื ของเตมิ ใสก่ ลอ่ งสารองแทน ซง่ึ จะทาให้
ไมม่ กี ารขาดมอื เกดิ ขน้ึ
28
การบรหิ ารจดั การวสั ดคุ งคลงั ท่ีมีประสทิ ธิภาพ
มีระบบการพยากรณ์ท่ีเชื่อถอื ได้ และสามารถบง่ ชี้ข้อผิดพลาดในการพยากรณ์ได้
สามารถประมาณการเกี่ยวกบั ต้นทนุ ด้านต่างๆ ได้
◦ ตน้ ทนุ จากคา่ ใชจ้ า่ ยทจ่ี า่ ยไปเพอ่ื ใหไ้ ดว้ สั ดุหรอื วสั ดหุ รอื สนิ คา้ นนั้ ๆมา
◦ ตน้ ทนุ การเกบ็ วสั ดคุ งคลงั
◦ ตน้ ทุนในการสงั่ ซอ้ื
◦ ตน้ ทนุ จากการขาดแคลนวสั ดุคงคลงั
มีระบบในการควบคมุ และ ติดตามปริมาณ วสั ดคุ งคลงั
มีระบบการจดั หมวดหมวู่ สั ดคุ งคลงั ที่ดี
มีข้อมลู เก่ียวกบั เวลานา ในการสงั ่ ซื้อวตั ถดุ ิบ หรือชิ้นส่วนในการผลิตแต่ละประเภท
มีการกาหนดปริมาณการสงั ่ ซื้อและรอบเวลาในการเติมเตม็ วสั ดคุ งคลงั ที่เหมาะสม
29
Lead Time & Its Impact
เวลานา (Lead Time) คือ ช่วงเวลาตงั้ แต่เริ่มมีความต้องการ
วสั ดคุ วงคลงั จนกระทงั่ ได้รบั วสั ดคุ งคลงั หรอื สินค้านัน้ มา
Lead time can be defined as “the time it takes from when
you first determine a need for a product until it arrives on your
doorstep”. If lead time was zero, inventory could be zero.
30
ระดบั การบริการลกู ค้า (Service Level)
ระดบั การบริการลกู ค้า หมายถึง ความน่าจะเป็นท่ีความต้องการของ
ลกู ค้าจะไม่เกินกว่าปริมาณวสั ดคุ งคลงั ที่มีอย่คู ลงั ท่ีมีอย่ใู นขณะนัน้
Service level = 95%
ถา้ มลี กู คา้ สงั่ วสั ดหุ รอื สนิ คา้ 100 ครงั้ จะมแี ค่ 5 ครงั้ ทเ่ี ราจะไมม่ วี สั ดุหรอื สนิ คา้ ให้
ทนั ที (วสั ดุหรอื สนิ คา้ ทม่ี อี ยใู่ นคลงั วสั ดหุ รอื สนิ คา้ ไมเ่ พยี งพอ)
ถา้ ระดบั Service Level สงู จะมใี นการตดั สนิ ใจวา่ จะกาหนดระดบั Service
Level เป็นเทา่ ไหรต่ อ้ งคานึงถงึ ตน้ ทุนทเ่ี กดิ เพมิ่ ซง่ึ คอื ตน้ ทุนในการเกบ็ วสั ดหุ รอื
สนิ คา้ ไวใ้ นคงคลงั ในรปู แบบของ safety stock
ถา้ ระดบั Service Level สงู จะมตี น้ ทุนในการเกบ็ วสั ดุหรอื สนิ คา้ ไวใ้ นคงคลงั
(The cost of carrying safety stock) มาก และตน้ ทนุ จากการทวี สั ดหุ รอื สนิ คา้
ขาด (the cost of a stockout) น้อย
31
วสั ดคุ งคลงั ท่ีเกบ็ สารองเพอ่ื ความปลอดภยั
(Safety Stock)
วสั ดคุ งคลงั เพอ่ื ความปลอดภยั (Safety stock) เป็นวสั ดคุ งคลงั ทต่ี อ้ งสารองไว้
กนั วสั ดหุ รอื สนิ คา้ ขาดเมอ่ื วสั ดุหรอื สนิ คา้ ถกู ใชม้ ากกวา่ ทค่ี าดการณ์ไว้
วสั ดคุ งคลงั ทเ่ี กบ็ สารองไว้ โดยปรมิ าณของ Safety stock จะมากหรอื น้อยนนั้
จะขน้ึ กบั ความไมแ่ น่นอนของปรมิ าณความตอ้ งการ ถา้ ปรมิ าณความตอ้ งการ
วสั ดหุ รอื สนิ คา้ ในแต่ละชว่ งเวลาไมส่ ามารถคาดการณ์ไดอ้ ยา่ งแน่นอน อาจทา
ตอ้ งเกบ็ Safety stock ในปรมิ าณมากข้ ึน
32
วสั ดคุ งคลงั ที่เกบ็ สารองเพื่อความปลอดภยั
(Safety Stock)
33
การกาหนดปริมาณ Safety Stock
ความถูกตอ้ งในการพยากรณ์ (Forecast Accuracy) ถา้ ความถูกตอ้ งในการ
พยากรณ์มากจะชว่ ยใหป้ รมิ าณ Safety Stock น้อยลง
เป้าหมายการบรกิ ารลกู คา้ (Target service Level ) ถา้ เราตงั้ เป้าหมายในการบรกิ าร
ลกู คา้ ไวส้ งู เราจะตอ้ งเกบ็ Safety Stock ในปรมิ าณมากขน้ึ
ความถใ่ี นการเตมิ เตม็ (Replenishment Frequency) ถา้ เราสามารถเตมิ เตม็ วสั ดคุ ง
คลงั ไดบ้ อ่ ยๆ เราจะสามารถลดปรมิ าณ Safety Stock ลงได้ เน่ืองจากเรามโี อกาสถ่ี
ขน้ึ ทจ่ี ะสงั่ วสั ดุหรอื สนิ คา้ มาเพมิ่
เวลานาและความแปรปรวนของเวลานา (Lead time & Its’ variability) ถา้ เวลานาใน
การเตมิ เตม็ วสั ดคุ งคลงั ลดลง เราสามารถลดปรมิ าณ Safety Stock ลงได้ เน่ืองจาก
เราสามารถสงั่ วสั ดหุ รอื สนิ คา้ มาเพม่ิ ไดโ้ ดยใชเ้ วลาไมน่ าน นอกจากน้ีถา้ เวลานามี
ความแน่นอนหรอื มคี วามแปรปรวนต่า จานวน Safety Stock เราอาจไมต่ อ้ งเกบ็
Safety Stock
34
การกาหนดปริมาณ Safety Stock
ถา้ ตอ้ งการเพม่ิ Service Level
ปรมิ าณวสั ดุคงคลงั ทเ่ี ราจะตอ้ ง
เกบ็ จะเพม่ิ มากไปดว้ ย
โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ถา้ เรา
ตอ้ งการเพมิ่ Service Levelให้
ใกล้ 100% เราจะตอ้ งเพมิ่
ปรมิ าณวสั ดคุ งคลงั เป็นจานวน
มาก
35
การบริหารจดั การวสั ดคุ งคลงั ทม่ี ีประสิทธิภาพ
มีระบบการพยากรณ์ที่เช่ือถอื ได้ และสามารถบง่ ชี้ข้อผิดพลาดในการพยากรณ์ได้
สามารถประมาณการเกี่ยวกบั ต้นทนุ ด้านต่างๆ ได้
◦ ตน้ ทนุ จากคา่ ใชจ้ า่ ยทจ่ี า่ ยไปเพอ่ื ใหไ้ ดว้ สั ดุหรอื วสั ดหุ รอื สนิ คา้ นนั้ ๆมา
◦ ตน้ ทนุ การเกบ็ วสั ดคุ งคลงั
◦ ตน้ ทุนในการสงั่ ซอ้ื
◦ ตน้ ทุนจากการขาดแคลนวสั ดคุ งคลงั
มีระบบในการควบคมุ และ ติดตามปริมาณ วสั ดคุ งคลงั
มีระบบการจดั หมวดหมวู่ สั ดคุ งคลงั ที่ดี
มีข้อมลู เกี่ยวกบั เวลานา ในการสงั ่ ซื้อวตั ถดุ ิบ หรอื ชิ้นส่วนในการผลิตแต่ละประเภท
36
การตดั สินใจเกี่ยวกบั การจดั การวสั ดคุ งคลงั
ควรสงั่ ซอ้ื วสั ดุหรอื สนิ คา้ เมอื ไร บอ่ ยแคไ่ หน (ความถ่ี ) และแต่ละครงั้ หา่ งกนั
เท่าไร (Timing)
ควรสงั่ ซอ้ื วสั ดุหรอื สนิ คา้ ครงั้ ละเทา่ ไร (Quantity)
ควรมวี สั ดคุ งคลงั สารองไวบ้ า้ งหรอื ไม่ ดว้ ยจานวนเทา่ ใด (Safety Stock)
37
การกาหนดรอบเวลาในการเติมเตม็ วสั ดคุ งคลงั
38
การกาหนดรอบเวลาในการเติมเตม็ วสั ดคุ งคลงั
การใชก้ ารวางแผนความตอ้ งการวสั ดุ (Material requirement Planning)
การสงั่ ซอ้ื เมอ่ื ถงึ จุดสงั่ เตมิ เตม็ วสั ดหุ รอื สนิ คา้ คงคลงั ใหม่ (Reorder Point)
การสงั่ เมอ่ื ครบรอบเวลาในการสงั่ (Fixed-Order-Interval)
39
การวางแผนความตอ้ งการวสั ดุ
แนวคดิ ของระบบ MRP มงุ่ เน้นการสงั่ วสั ดุใหถ้ กู ตอ้ ง เพยี งพอกบั จานวนท่ี
ตอ้ งการ และในเวลาทต่ี อ้ งการ การจะดาเนินการใหบ้ รรลุตามเป้าหมายดงั กลา่ วน้ี
ได้ จาเป็นตอ้ งมกี ารประสานงานภายในระบบ เป็นอยา่ งดี ระหวา่ ง ความตอ้ งการ
ของลกู คา้ (Customers) ผผู้ ลติ และผสู้ ง่ มอบ (Suppliers) โดยมหี น่วยงานกลาง
เชน่ ฝา่ ยวางแผนชว่ ยในการประสานและรวบรวมขอ้ มลู ของฝา่ ยตา่ งๆมาทาการ
ประมวลผลและจดั ทาเป็นแผนความตอ้ งการวสั ดุแต่ละรายการ
ผลจากระบบ MRP จะเป็นรายงานทบ่ี อกใหท้ ราบวา่ จะตอ้ งทาการสงั่ ซอ้ื หรอื สงั่
ผลติ วสั ดุอะไร จานวนเทา่ ไร และ เมอ่ื ไร โดยแผนการสงั่ วสั ดุทงั้ หมดจะมี
เป้าหมายทส่ี อดคลอ้ งกนั คอื ผลติ ภณั ฑ์ หรอื วสั ดขุ นั้ สดุ ทา้ ยทก่ี าหนดไวใ้ นตาราง
การผลติ หลกั (Master Production schedule)
แผนความตอ้ งการวสั ดุน้ีจงึ เปรยี บเสมอื นเป็นตวั ประสานเป้าหมายของบรษิ ทั กบั
ทุกฝา่ ย
40
การวางแผนความตอ้ งการวสั ดุ
คาสงั่ ซอ้ื แผนการผลิตรวม พยากรณ์
จากลกู คา้ ตารางการผลิตหลกั ความ
ตอ้ งการ
การ การ
เปลย่ี นแปลง เปลย่ี นแปลง
ทางวศิ วกรรม วสั ดคุ งคลงั
แฟ้มขอ้ มลู รายการวสั ดุ ระบบ MRP แฟ้มขอ้ มลู สถานะของคงคลงั
(BOM) (Inventory Record File)
รายงานขนั้ ตน้ รายงานขนั้ ท่ี 2
รายงานแผนกาหนดการออกใบสงั ่ รายงานปญั หาพเิ ศษ
รายงานการเปลย่ี นแปลงใบสงั่ เดมิ รายงานผลการดาเนนิ งาน
สถานะวสั ดุคงคลงั รายงานกาวางแผน
การวางแผนความต้องการวสั ด:ุ Input
ตารางการผลิตหลกั เป็นตารางทแ่ี สดงกาหนดการของรายการวสั ดุทเ่ี ป็น
ความตอ้ งการอสิ ระ (Independent Demand) ซง่ึ ไดแ้ กผ่ ลติ ภณั ฑข์ นั้ สดุ ทา้ ยของ
บรษิ ทั ทจ่ี าหน่ายใหแ้ กล่ กู คา้ ซง่ึ อาจจะเป็นผลติ ภณั ฑส์ าเรจ็ รปู หรอื ชน้ิ สว่ นท่ี
บรษิ ทั ผลติ ขายออกไปในลกั ษณะของชน้ิ สว่ นบรกิ าร โดยตารางการผลติ หลกั จะ
บรรจุกาหนดการผลติ ทไ่ี ดร้ บั ความเหน็ ชอบแลว้ และ จะแสดงใหท้ ราบวา่
ตอ้ งการจะผลติ อะไร จานวนเท่าไร และ เมอ่ื ไร สาหรบั ตารางการผลติ หลกั อาจ
กาหนดขน้ึ จากแหลง่ ขอ้ มลู แหลง่ ใดแหลง่ หน่ึงหรอื หลายแหลง่ ดงั ตอ่ ไปน้ี เชน่
จากใบสงั่ ของลกู คา้ ซง่ึ สงั่ ซอ้ื ผลติ ภณั ฑช์ นดิ ใดชนิดหน่ึงโดยเฉพาะ และมกั จะ
กาหนดเวลาสง่ มอบผลติ ภณั ฑท์ แ่ี น่นอน หรอื จาก การพยากรณ์ความตอ้ งการ
ซง่ึ คานวณตามหลกั การทางสถติ จิ ากขอ้ มลู ยอดขายในอดตี และจากการวจิ ยั
ตลาด
42
การวางแผนความต้องการวสั ด:ุ Input
ตารางการผลติ หลกั
Item: Ladder-back chair Order Policy: 150 units
Lead Time: 1 week
Quantity 55 1 April 4
on Hand: 30 23 30 May
38 30 30 8 5678
Forecast 35 35 35 35
17 27 24 77
Customer 0000
orders booked 0 0
150 0
Projected on- 137 107 42 7 122 87
hand
inventory
MPS quantity 150 0 0 0 150 0
0 0
MPS start 0 150 0 0
43
การวางแผนความต้องการวสั ด:ุ Input
บญั ชีรายการวสั ดุ (Bill of Material) หรือ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าแฟ้ มโครงสรา้ ง
ผลิตภณั ฑ(์ Product Structure Files) จะบรรจสุ ารสนเทศทเ่ี ป็นรายละเอยี ดของ
ผลติ ภณั ฑแ์ ตล่ ะรายการอยา่ งสมบรู ณ์ โดยแฟ้มบญั ชรี ายการวสั ดุจะบรรจโุ ครงสรา้ ง
ของผลติ ภณั ฑท์ ุกๆรายการของบรษิ ทั รายละเอยี ดภายในโครงสรา้ งผลติ ภณั ฑจ์ ะ
แสดงใหท้ ราบถงึ รายการวสั ดุทกุ ๆรายการ พรอ้ มทงั้ ปรมิ าณความตอ้ งการวสั ดุแตล่ ะ
รายการทจ่ี าเป็นตอ่ การผลติ เป็นผลติ ภณั ฑส์ าเรจ็ รปู แตล่ ะรายการหน่ึงหน่วย
รายการวสั ดดุ งั กลา่ วน้ียงั ถกู บรรจุอยใู่ นแฟ้มบญั ชรี ายการวสั ดุทส่ี ะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ
โครงสรา้ งของการผลติ เป็นผลติ ภณั ฑ์ โดยแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความสมั พนั ธข์ องวสั ดุแต่ละ
รายการตามลาดบั ขนั้ ในการผลติ เป็นผลติ ภณั ฑส์ าเรจ็ รปู นบั ตงั้ แต่ วตั ถุดบิ (Raw
materials) ชน้ิ สว่ น (Parts) ประกอบยอ่ ย (Subassemblies) และชน้ิ สว่ นประกอบ
(Assemblies) ผลติ ภณั ฑแ์ ตล่ ะรายการจะตอ้ งมหี น่ึงโครงสรา้ งผลติ ภณั ฑ์ หรอื หน่ึง
บญั ชรี ายการวสั ดุ
44
Bill of Materials
A
Ladder-back
chair
B (1) C (1) D (2) E (4)
Ladder-back Seat Front Leg
subassembly subassembly legs supports
F (2) G (4) H (1) I (1)
Back legs Back slats Seat frame Seat cushion
BOM for a Ladder-Back Chair J (4)
Seat-frame
boards
การวางแผนความต้องการวสั ด:ุ Input
แฟ้ มขอ้ มลู สถานะพสั ดคุ งคลงั (Inventory Record Files) เป็นแฟ้มขอ้ มลู ท่ี บนั ทกึ
รายการวสั ดุแตล่ ะรายการทค่ี งคลงั ไวอ้ ยา่ งสมบรู ณ์
ขอ้ มลู สถานะพสั ดุคงคลงั ทจ่ี าเป็นต่อการประมวลผลในระบบ MRP สามารถแยกได้
เป็น 2 กลมุ่ หลกั คอื กลมุ่ ทม่ี กี ารเคลอ่ื นไหวตลอดเวลา และกลมุ่ ทค่ี อ่ นขา้ งคงทไ่ี ม่
คอ่ ยมกี ารเคลอ่ื นไหวหรอื เปลย่ี นแปลง
ความถกู ตอ้ งและทนั สมยั ของขอ้ มลู ในแฟ้มขอ้ มลู สถานะของคงคลงั นบั วา่ มสี ว่ นสาคญั
เป็นอยา่ งยงิ่ ตอ่ ความมปี ระสทิ ธผิ ลของการดาเนินงานระบบ MRP และปจั จยั สาคญั ท่ี
ทาใหแ้ ฟ้มขอ้ มลู สถานะพสั ดุคงคลงั มคี วามถกู ตอ้ งและเป็นปจั จบุ นั แบบเวลาจรงิ
(Real-time) อยตู่ ลอดเวลา กค็ อื การมรี ะบบการบนั ทกึ การเคลอ่ื นไหวของของคงคลงั
ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ ทงั้ ดา้ นความถกู ตอ้ ง รวดเรว็ และ ครบถว้ น
46
แฟ้ มขอ้ มลู สถานะพสั ดคุ งคลงั
ข้อมลู พสั ดคุ งคลงั ที่แสดงสถานะจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา (Status
Data)จาก การรบั เข้าหรอื การจ่ายออกพสั ดคุ งคลงั
◦ แผนการสงั่ (Planed order Releases)
◦ พสั ดคุ งคลงั ในมอื (Inventory on hand)
◦ วสั ดุระหวา่ งการสงั่ (Materials on order)
◦ พสั ดคุ งคลงั พรอ้ มใช(้ Available Inventory)
47
แฟ้ มข้อมลู สถานะพสั ดคุ งคลงั
ส่วนอีกกล่มุ หน่ึง ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมลู ท่ีเก่ียวข้องกบั ปัจจยั ด้านการ
วางแผนที่ใช้ในระบบ MRP
◦ ขนาดรนุ่ การสงั่ (Lot sizes)
◦ ชว่ งเวลานา (Lead Times)
◦ ระดบั สต๊อกเผอ่ื ความปลอดภยั (Safety Stock Level)
◦ อตั ราของเสยี (Scrap Rates)
◦ อตั ราผลได้ (Yield)
48
การวางแผนความต้องการวสั ด:ุ Output
ผลไดจ้ ากระบบ MRP จะออกมาในรปู ของรายงานตา่ งๆ ทเ่ี ป็นตาราง
กาหนดการในการจดั หาวสั ดแุ ต่ละรายการในอนาคตเพอ่ื ตอบสนองต่อความ
ตอ้ งการของMPSในแต่ละชว่ งเวลา ซง่ึ มกั จะมกี ารเปลย่ี นแปลงเกดิ ขน้ึ
ตลอดเวลา ตารางดงั กลา่ วน้ีจะเป็นสารสนเทศทช่ี ่วยผบู้ รหิ ารในการตดั สนิ ใจใน
การดาเนินการดา้ นการจดั การพสั ดุคงคลงั ของบรษิ ทั
◦ แผนการสงั่ ซอ้ื หรอื สงั่ ผลติ
◦ ใบสงั่ ซอ้ื หรอื สงั่ ผลติ
◦ การเปลย่ี นแปลงแผนการสงั่
◦ ขอ้ มลู สถานะพสั ดุคงคลงั
49
จดุ สงั่ เติมเตม็ วสั ดหุ รอื สินค้าคงคลงั ใหม่
จุดสงั่ เตมิ เตม็ วสั ดุหรอื สนิ คา้ คงคลงั ใหม่ (Reorder Point) เป็นการบรหิ ารจดั การ
วสั ดแุ ละสนิ คา้ คงคลงั โดยกาหนดจุดทจ่ี ะสงั่ เตมิ เตม็ วสั ดหุ รอื สนิ คา้ คงคลงั ใหมไ่ ว้
ล่วงหน้า
จดุ สงั่ เตมิ เตม็ วสั ดหุ รอื สนิ คา้ คงคลงั ใหม่ (Reorder Point)นนั้ มคี วามสมั พนั ธแ์ ปร
ตามตวั แปร 2 ตวั คอื อตั ราความตอ้ งการใชว้ สั ดคุ งคลงั และรอบเวลานาในการ
สงั่ เตมิ เตม็ วสั ดุหรอื สนิ คา้ คงคลงั (Lead Time)
ระดบั วสั ดคุ งคลงั รายการนนั้ จะลดต่าลงในชว่ งสงั่ เตมิ เตม็ วสั ดหุ รอื สนิ คา้ คงคลงั
จนถงึ ระดบั ต่าสดุ ทว่ี างแผนไว้ และเมอ่ื ถงึ กาหนดเวลารบั วสั ดุหรอื สนิ คา้ จะทา
การรบั สนิ คา้ เขา้ มา
◦ การรบั สนิ คา้ แต่ละครงั้ มปี รมิ าณทจ่ี ะทาใหม้ สี นิ คา้ คงคลงั ถงึ ระดบั ทว่ี างแผนไว้ (Min-Max)
◦ การรบั สนิ คา้ แต่ละครงั้ มปี รมิ าณคงท่ี ตาม lot size ทก่ี าหนดไว้
50