The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดที่ 7 การวิเคราะห์และสรุปผลการวิจัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by CSNP Journal, 2022-05-11 00:07:55

ชุดที่ 7 การวิเคราะห์และสรุปผลการวิจัย

ชุดที่ 7 การวิเคราะห์และสรุปผลการวิจัย

คำนำ

การจัดการเรียนการสอนด้านอาชีวศึกษา มุ่งเน้นให้ผู้เรียนคิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น
ซ่ึงสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้กาหนดนโยบายปรับวิธีเรียน เปล่ียนวิธีสอน และปฏิรูป
วธิ สี อบ เพอื่ ให้ผู้เรยี นสายอาชีวศึกษาสามารถนาเอาความรู้ในสาขาวิชาตา่ งๆทีตนเองศึกษาอยู่ มาบรู ณา
การสรา้ งเปน็ ชิน้ งาน หรอื ทาเปน็ โครงการทก่ี ่อให้เกดิ ประโยชนต์ ่อผู้เรยี น สถานศึกษา ชุมชนและสงั คม

แบบฝึกทักษะการทาโครงการวิชาชีพเพื่อพัฒนาผู้เรียน วิชาโครงการ 1 รหัสวิชา 3101-8502
จัดทาขึ้นเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนด้านอาชีวศึกษามีความรู้และมีทักษะในการทาโครงงาน วิชาชีพด้วย
กระบวนการวจิ ยั แบบฝกึ ทักษะนป้ี ระกอบด้วยแบบฝึกท้ังหมด 9 ชุดประกอบดว้ ย

ชดุ ที่ 1 แนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดทาโครงการวชิ าชพี ดว้ ยกระบวนการวิจยั
ชดุ ท่ี 2 การคดิ และเลือกหวั ขอ้ โครงการวิชาชพี
ชดุ ที่ 3 การเขยี นโครงการวจิ ยั
ชดุ ที่ 4 การสร้างสือ่ นาเสนอผลงาน
ชดุ ที่ 5 การเตรียมขอ้ มลู เพือ่ ดาเนนิ การวิจยั
ชุดที่ 6 การสรา้ งเคร่อื งมอื วจิ ัยเพ่อื เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
ชุดที่ 7 การวิเคราะหแ์ ละสรปุ ผลการวจิ ยั
ชุดที่ 8 การเขยี นและจดั ทารปู เล่มรายงานวจิ ัย
ชุดที่ 9 การนาเสนอผลการวจิ ัย
ชุดฝึกทั้ง 9 ชุดจะช่วยให้ผู้เรียนได้มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับขั้นตอนในการทาโครงงาน
วิชาชีพ วางแผนการจัดทาโครงงานวิชาชีพ เขียนโครงการวิชาชีพ จัดทาโครงงานวิชาชีพ และนาเสนอ
โครงงานวิชาชีพ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้โครงงานวิชาชีพท่ีผู้เรียนจัดทามีคุณภาพมากขึ้น
กวา่ เดมิ
กิจกรรมในแต่ละกิจกรรมจะใช้หลักการของการมีส่วนร่วมซ่ึงทาให้ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้
สามารถปรับตัวให้เข้ากบั คนอ่ืนได้ และยอมรับความคิดเห็นของผู้อ่ืน รวมทั้งผู้เรียนสามารถนาความรู้ที่
ได้จาการปฏิบตั ิไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้

ธวชั ไชย ลิ้มสุวรรณ
ผูจ้ ดั ทา

แบบฝกึ ทกั ษะการทาโครงงานวชิ าชีพเพื่อพัฒนาผู้เรียนวิชาโครงการ 1 รหสั วิชา 3101-8502

สำรบญั หนา้

คาคาชี้แจงการใช้แบบฝึกชุดท่ี 7 1
หัวข้อเร่ือง 2
สาระสาคัญ 2
จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 2
แบบทดสอบก่อนเรยี นชุดท่ี 7 3
ใบเนอื้ หา ชุดที่ 7 เร่ือง การวิเคราะห์และสรุปผลการวจิ ยั 5
5
การวเิ คราะห์ขอ้ มูลและการแปลผล 10
การสรุปผลการวจิ ยั 13
แบบฝกึ ทักษะท่ี 7-1 14
แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 7-2 15
แบบทดสอบหลงั เรยี น ชุดท่ี 7 17
บรรณานกุ รม 18
ภาคผนวก 19
แบบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 20
แบบประเมนิ สาหรับแบบฝกึ ทักษะท่ี 7-1 21
แบบประเมนิ สาหรบั แบบฝึกทักษะท่ี 7-2

แบบฝกึ ทักษะการทาโครงงานวิชาชพี เพอ่ื พฒั นาผเู้ รยี นวิชาโครงการ 1 รหสั วชิ า 3101-8502

7 การวิเคราะหแ์ ละสรปุ ผลการวจิ ยั 1

คำชี้แจงกำรใชแ้ บบฝกึ ชดุ ที่ 7

แบบฝึกทักษะการทาโครงการวชิ าชีพ วิชาโครงการ 1 รหสั วิชา 3101-8502 ชดุ ท่ี 7 เร่ือง การ
วิเคราะห์และสรุปผลการวิจัย ที่ผู้เรียนกาลังศึกษาอยู่ในขณะน้ีมีจุดมุ่งหมายเพ่ือให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติ
กิจกรรมโครงการวิชาชีพ โดยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองในรูปของกระบวนการกลุ่ม และมีครูคอยให้
คาแนะนาในขณะทาแบบฝึกทักษะการทาโครงการวิชาชีพ ผู้เรียนสามารถปรึกษากับเพื่อนในกลุ่ม หรือ
สอบถามข้อสงสัยจากครู การทาแบบฝึกทักษะการทาโครงการวิชาชีพแต่ละชุด ให้ผู้เรียนปฏิบัติตาม
ขัน้ ตอนดงั นี้

1. ผูเ้ รยี นแตล่ ะคนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เม่ือเสรจ็ แลว้ ส่งใหค้ รตู รวจและบนั ทกึ ผลคะแนน
2. ผู้เรยี นแบง่ กลมุ่ ๆละ 3-4 คน
3. ผู้เรียนอ่านรายละเอียดของกิจกรรม คาช้ีแจงของแต่ละกิจกรรมอย่างละเอียดก่อนลงมือ

ปฏิบตั ิทุกคร้งั
4. ผเู้ รยี นปฏิบัติตามคาชแี้ จงของแต่ละกจิ กรรม
5. เม่ือเสร็จแต่ละกิจกรรมแล้วร่วมกับเพ่ือน ครู เฉลยและอภปิ รายเก่ียวกับคาตอบในแบบฝึก

ทุกคร้ัง
6. ผู้เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน เม่ือทาเสร็จแล้วส่งให้ครูตรวจ บันทึกคะแนนท่ีได้และ

เปรียบเทียบความกา้ วหนา้ ในการเรยี นรู้
7. ผเู้ รยี นร่วมกบั เพ่ือน ครู เฉลยคาตอบของแบบทดสอบหลังเรยี น
8. เวลาท่ใี ช้ในการศกึ ษาแบบฝกึ ทกั ษะชุดที่ 7 จานวน 4 ชั่วโมง

กาหนดการจัดการเรยี นรูแ้ บบฝกึ ทักษะ ชุดที่ 7

ครงั้ ที่ เนื้อหา/กจิ กรรม เวลา (ช่ัวโมง )

13 ทดสอบก่อนเรียนชุดท่ี 7 2

ใบเนื้อหาที่ 7 การวิเคราะหแ์ ละสรปุ ผลการวิจยั หัวขอ้ 1

แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 7-1 การวเิ คราะหข์ อ้ มูล

14 ใบเนอ้ื หาที่ 7 การวิเคราะห์และสรุปผลการวจิ ยั หวั ขอ้ 2
แบบฝึกทกั ษะที่ 7-2 การสรปุ ผลการวิจัย
ทดสอบหลงั เรียนชุดที่ 7

แบบฝกึ ทกั ษะการทาโครงการสาหรับการจดั การเรยี นการสอนวิชาโครงการ 1 รหัสวิชา 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรุปผลการวิจยั 2

ชดุ ท่ี 7 กำรวิเครำะหแ์ ละสรุปผลกำรวจิ ัย


หวั ข้อเรอ่ื ง
1. รายละเอียดรายงานการวิจยั บทที่ 4 และ บทที่ 5
2. การเขยี นรายงานการบทท่ี 4 และ บทท่ี 5

สำระสำคัญ
หลังจากทผี่ ู้วิจัยได้ดาเนนิ การวิจัยตามขั้นตอนท่ีกาหนดไว้ในบทท่ี 3 เรยี บร้อยแล้วจนกระท่ังได้

ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ท่ีกาหนดไว้ ผู้วิจัยจะต้องนาข้อมูลมา
วิเคราะห์และแปลผลเพ่ือนาเสนอข้อมูลท่ีค้นพบ ซ่ึงรายละเอียดดังกล่าวจะปรากฏในบทที่ 4 ของ
รายงานการวิจัย หลังจากน้ันผู้วิจัยจะต้องนาข้อมูลที่แปลผลมาสรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ซ่ึง
รายละเอียดสว่ นนจ้ี ะปรากฏในบทที่ 5 ของรายงานการวจิ ยั ซง่ึ แสดงให้เหน็ ถงึ ขอ้ ค้นพบในงานวจิ ัย และ
การนาผลท่ไี ดจ้ ากการวจิ ัยไปใช้ประโยชนต์ ่อไป

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. บอกส่วนประกอบของรายงานการวิจยั บทท่ี 4 ได้
2. บอกสว่ นประกอบของรายงานการวิจัยบทที่ 5 ได้
3. อธิบายรายละเอยี ดของรายงานการวจิ ัยบทที่ 4 แตล่ ะองคป์ ระกอบได้
4. อธบิ ายรายละเอียดของรายงานการวจิ ัยบทท่ี 5 แต่ละองคป์ ระกอบได้
5. เขยี นรายงานการวิจัยบทที่ 4 ได้
6. เขยี นรายงานการวจิ ยั บทท่ี 5 ได้

แบบฝกึ ทกั ษะการทาโครงการสาหรบั การจดั การเรียนการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วชิ า 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผลการวจิ ยั 3

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชุดท่ี 7
กำรวเิ ครำะห์และสรปุ ผลกำรวจิ ยั

คำชี้แจง
1. แบบทดสอบเรอื่ งการวิเคราะหแ์ ละสรปุ ผลการวิจยั เป็นแบบทดสอบปรนัยชนดิ เลือกตอบ 4
ตวั เลอื ก จานวน 6 ข้อ ขอ้ ละ 1 คะแนน 10 นาที
2. แต่ละข้อมีคาตอบท่ีถูกท่ีสุดเพียงคาตอบเดียว แล้วกาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงใน
ชอ่ ง  ในกระดาษคาตอบ

1. ข้อใดคือเป้าหมายของการวเิ คราะหข์ ้อมูล
ก. การเกบ็ รวบรวมข้อมูลเพื่อนามาสรุปในบทท่ี 4
ข. การเกบ็ รวบรวมข้อมูลเพื่อนามาสรุปในบทที่ 5
ค. การเก็บรวบรวมข้อมลู และวิเคราะห์เพื่อนามาสรุปในบทท่ี 4 และบทท่ี 5
ง. การนาข้อมลู ท่ีได้จากการเก็บรวบรวมข้อมลู มาวเิ คราะห์เพ่ือใหไ้ ด้ข้อมูลท่ตี ้องการ

2. ขอ้ ใด มิใช่ องคป์ ระกอบของการเขียนรายงานการวจิ ัยบทที่ 5
ก. ส่วนสรปุ ผลการวจิ ยั
ข. สว่ นอภปิ รายผลการวิจยั
ค. สว่ นวิเคราะห์ผลการวิจัย
ง. สว่ นข้อเสนอแนะ

3. จากสมมติฐาน “ขาตั้งนิรภัยสร้างขึ้นสามารถดีดตัวขึ้นเองโดยอัตโนมัติทุกคร้ังเม่ือกดคันเกียร์ไป
ขา้ งหน้า 1 คร้ัง” ควรเลือกใชส้ ถติ ิอะไรมาวเิ คราะหข์ ้อมลู

ก. ความถี่
ข. รอ้ ยละ
ค. ความถ่ีและร้อยละ
ง. คา่ เฉลย่ี และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน
4. จากวตั ถุประสงค์ “ความพึงพอใจของผูใ้ ชร้ ถจกั รยานยนต์ทใ่ี ช้ขาตัง้ นิรภยั ” ควรเลือกใช้สถิตอิ ะไร
มาวเิ คราะห์ข้อมูล
ก. ความถี่
ข. ร้อยละ
ค. ความถี่และร้อยละ
ง. คา่ เฉลี่ยและส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน

แบบฝึกทักษะการทาโครงการสาหรับการจดั การเรยี นการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วชิ า 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรุปผลการวิจยั 4

5. ข้อใดคือหลักการเขียนรายงานการวิจยั บทท่ี 4
ก. เลอื กรูปแบบการนาเสนอเพียงรปู แบบเดยี วเท่านั้น
ข. การแปลผลจะตอ้ งแสดงความคิดเห็นของผู้รายงานเพ่ิมเตมิ ด้วย
ค. นาเสนอเฉพาะผลการวิเคราะห์ โดยไมต่ อ้ งคาอธิบายผลการวเิ คราะห์
ง. ควรมีการรวมหลาย ๆ เรือ่ ง เพ่อื นาเสนอในตาราง/แผนภมู /ิ กราฟเดยี วกัน

6. ข้อใด คือหลกั การเขียนรายงานการวิจัยบทที่ 5
ก. สรปุ ผลส้ัน ๆ กระชับ และไม่ควรแสดงความเห็นเพ่ิมเติม
ข. ตอ้ งอภิปรายผลการวจิ ัยทุกขอ้ หา้ มเวน้ แม้จะมิใช่ประเด็นหลกั
ค. วเิ คราะห์ผลและแสดงผลในรูปแบบกราฟ ตาราง เชน่ เดียวกบั บทที่ 4
ง. ขอ้ เสนอแนะไม่ควรเขียนเพราะจะแสดงว่ารายงานมีข้อบกพร่อง

แบบฝกึ ทกั ษะการทาโครงการสาหรับการจดั การเรยี นการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วชิ า 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผลการวจิ ยั 5

ใบเน้อื หำ
ชดุ ท่ี 7 เร่อื ง กำรวเิ ครำะห์และสรปุ ผลกำรวิจัย

การวิเคราะห์และสรุปผลการวิจัยจะปรากฏในรายงานการวิจยั ในบทที่ 4 และบทที่ 5 โดยบทที่
4 จะแสดงรายละเอียดของผลการวิจัย และบทที่ 5 จะเปน็ การสรปุ ผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

สาหรับการวิเคราะห์และแปลผลข้อมูลดาเนินการหลังจากที่ได้เก็บหรือรวบรวมข้อมูลและ
ดาเนินการจัดระเบียบข้อมูลให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยพร้อมท่ีจะนาไปวิเคราะห์ได้แล้ว งานในข้ันต่อไป
ของผูว้ จิ ัยคอื การตัดสินใจว่าจะนาสถติ ิอะไรมาใช้ ซ่ึงในการน้ีผู้วิจัยจะต้องทราบตั้งแต่แรกวา่ ขอ้ มูลทม่ี อี ยู่
ในลกั ษณะใดและต้องการเสนอผลการวเิ คราะห์อะไร

ข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาได้บางคร้ังยังมีรูปแบบท่ีกระจัดกระจายเป็นรายบุคคล ไม่เป็นระบบ
จาเป็นต้องมีกระบวนการจัดกระทาข้อมูลเหล่าน้ันให้เป็นระบบหรือเป็นหมวดหมู่เกิดเป็นสารสนเทศที่
สามารถนาไปใช้ประโยชน์ เพ่อื สรุปอา้ งอิงไปยังประชากรต่อไป ศาสตรท์ ี่ถูกนาเข้ามาช่วยในขนั้ ตอนของ
การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือไปจนถึงการอ้างอิงเหล่าน้ี เรียกว่า สถิติ ซึ่งได้กาหนดไว้ในบทที่ 3
วธิ ีดาเนนิ การแลว้ นั้น

1. กำรวิเครำะห์ข้อมลู และกำรแปลผล
การวิเคราะห์ข้อมูล คือ การนาข้อมูลท่ีเก็บรวบรวมจากเครื่องมือวิจัยมาวิเคราะห์เพ่ือให้ได้

ข้อมูลที่ต้องการโดยใช้สถิติเข้ามาช่วย ทั้งนี้ผู้วิจัยจะใช้สถิติอะไรมาวิเคราะห์ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และ
สมมตฐิ านทีก่ าหนดไว้ เช่น

กำรวิจยั เร่ือง กำรสร้ำงและหำประสิทธิภำพของขำตงั้ นิรภยั รถจกั รยำนยนต์

กำหนดวตั ถปุ ระสงค์ ดงั นี้
1. เพื่อสรำ้ งขำตงั้ นิรภยั รถจกั รยำนยนต์
2. เพ่ือหำประสิทธิภำพในกำรทำงำนของขำตงั้ นิรภยั รถจกั รยำนยนต์
3. เพื่ อศึ กษำควำมพึงพอใจของผู้ใช้ รถจักรยำนยนต์ท่ี ใช้ ขำตั้งนิ รภัย

จกั รยำนยนต์

จากวตั ถปุ ระสงคข์ ้อที่ 1

สิ่งท่ีต้องการ คือ ขาต้ังนิรภัยรถจักรยานยนต์ โดยการอธิบายผลท่ีได้การสร้าง ดังน้ัน จึงไม่ต้องใช้สถิติ
มาวเิ คราะห์เพียงแตอ่ ธบิ ายเป็นความเรียงและใช้ภาพประกอบ

แบบฝกึ ทักษะการทาโครงการสาหรับการจดั การเรยี นการสอนวิชาโครงการ 1 รหัสวิชา 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผลการวิจยั 6

จากวตั ถปุ ระสงคข์ ้อท่ี 2

ส่ิงที่ต้องการ คือ ประสิทธิภาพในการทางานของขาตั้งนิรภัยของรถจักรยานยนต์ สาหรับ
ประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับลักษณะการทางานของส่ิงประดิษฐ์ ดังน้ันการพิจารณาเลือกใช้สถิติ ต้อง
พิจารณาสมมติฐานประกอบด้วย ทั้งนี้เมื่อพิจารณาสมมติฐานได้กาหนดไว้ว่า ขาตั้งนิรภัยสร้างขึ้น
สามารถดีดตัวขึ้นเองโดยอัตโนมัติทุกคร้ังเมื่อกดคันเกียร์ไปข้างหน้า 1 คร้ัง ดังน้ันควรเลือกใช้ สถิติ
ความถแ่ี ละร้อยละมาวเิ คราะห์ โดยนามาจากแบบบนั ทกึ ข้อมูล

จากวตั ถปุ ระสงคข์ ้อที่ 3

สงิ่ ที่ตอ้ งการ คือ ความพึงพอใจของผ้ใู ชร้ ถจักรยานยนต์ท่ใี ช้ขาตั้งนิรภัยของรถจักรยานยนต์ สาหรับ
ความพึงพอใจได้จากการสอบถามความคิดเห็นของผู้ใช้รถจักรยานยนต์จากแบบสอบถาม 5 ระดับ
ดังนั้นการพิจารณาเลือกใช้สถิติควรเลือกใช้ สถิติค่าเฉล่ีย เน่ืองจากจะต้องนาข้อมูลจากแบบสอบถาม
ของแตล่ ะคนมาหาค่าเฉลยี่ เพ่ือตอบในภาพรวมของทุกคน

การนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลและการแปลผล จะนาเสนอตามลาดับวัตถุประสงค์ในการ
วิจัย ซ่ึงในการเขียนผลการวิจัยนั้นแบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนท่ี 1 การเสนอผล เป็นการนาข้อมูลที่ได้
วเิ คราะห์แล้วมาเสนอในรูปแบบท่ี เข้าใจง่าย และมีความหมายมากที่สุด และสว่ นที่ 2 การแปลผล เป็น
การชี้ ให้ผู้อ่านทราบว่า การวิจัยน้ันค้นพบข้อเท็จจริงอะไร ในการนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล อาจ
นาเสนอในรูปข้อความ ข้อความกง่ึ ตาราง หรือตาราง หรอื รูปภาพก็ได้ตามความเหมาะสม อยา่ งไรกต็ าม
ในการนาเสนอผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ผวู้ ิจัยจะต้องนาเสนอผลการวิเคราะห์ไปตามความจริง การแปลผล
ควรแปลผลเฉพาะประเด็นสาคัญไม่เขียนวกวนซ้าซ้อน ห้ามนาความคิดเห็นของผู้วิจัยเข้าไปอธิบาย
ประกอบ

ตวั อย่างการนาเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมลู และการแปลผล

1. ในการนาผลการวิเคราะห์ข้อมูลและการแปลผล หากงานวิจัยมีการเก็บรวบรวมจากกลุ่ม
ตวั อย่าง เช่น สอบถามความพึงพอใจ ก็ตอ้ งมีการนาเสนอขอ้ มูลของกลมุ่ ตัวอย่าง เช่น

แบบฝึกทักษะการทาโครงการสาหรับการจดั การเรยี นการสอนวิชาโครงการ 1 รหัสวชิ า 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผลการวจิ ยั 7

ตำรำงท่ี 7-1 แสดงจานวนและร้อยละของขอ้ มลู สว่ นบุคคลของกลุ่มตวั อย่าง

เพศ ขอ้ มูลส่วนบุคคล จำนวน รอ้ ยละ
ชาย รวม
หญงิ 35 70.0
15 30.0
ระดบั กำรศึกษำ
ปวช. 10 20.0
ปวส. 35 70.0
ปริญญาตรี 5 10.0
50 100

จากตารางที่ 4-1 พบว่า กลุ่มตัวอย่างจานวน 50 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศชายมากท่ีสุดร้อยละ
70.0 ส่วนระดับการศึกษามากที่สุด ได้แก่ ระดับ ปวส. ร้อยละ 70.0 รองลงมา ได้แก่ ระดับปวช. ร้อย
ละ 20.0

การสรปุ ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลตามวตั ถปุ ระสงค์การวจิ ัย

วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 กำรสร้ำงขำต้ังนิรภัยรถจักรยำนยนต์ ดังที่กล่าวข้างต้น คือ ไม่ต้องใช้
สถิติมาวิเคราะห์เพียงแต่ใช้ภาพประกอบและอธิบายเป็นความเรียง เพอื่ สรุปว่าลักษณะของสง่ิ ประดิษฐ์
ทส่ี ร้างมีรปู ร่างหนา้ ตาอยา่ งไร หรือมีส่วนประกอบอะไรบา้ ง เป็นตน้

2. ผลการสร้างขาต้ังนิรภัยรถจักรยานยนต์มีรูปร่างดังภาพท่ี 7-1 ซ่ึงระบบการทางานจะ
สัมพันธ์กับการกดคันเกียร์รถจักรยานยนต์โดย เม่ือกดคันเกียร์ไปข้างหน้า โดยขาตั้งให้ดีดขึ้นเองโดย
อตั โนมัติ

ภาพที่ 7-1 ขาตัง้ นริ ภัยรถจกั รยานยนตท์ สี่ ร้าง

วัตถุประสงค์ข้อท่ี 2 กำรหำค่ำประสิทธิภำพในกำรทำงำนของขำต้ังนิรภัยของ
รถจักรยำนยนต์ ซึง่ สมมติฐานได้กาหนดไว้ว่า ขาตั้งนริ ภัยสรา้ งขึ้นสามารถดีดตัวขึ้นเองโดยอัตโนมัติทุก
ครั้งเมื่อกดคันเกียร์ไปข้างหน้า 1 ครั้ง ดังนั้นจึงเลือกใช้สถิติความถ่ีและร้อยละมาวิเคราะห์ โดยนามา
จากแบบบนั ทกึ ข้อมลู

แบบฝึกทักษะการทาโครงการสาหรับการจดั การเรียนการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วิชา 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรุปผลการวจิ ยั 8

3. ผลการศกึ ษาประสทิ ธภิ าพการดดี ตวั ของขาตงั้ นิรภัยของรถจกั รยานยนตเ์ ม่ือกดคันเกียรร์ ถ
ในลกั ษณะตา่ งๆปรากฏผลดงั ตารางท่ี 7-2

ตำรำงที่ 7-2 ผลการศึกษาประสิทธิภาพการดีดตัวของขาตั้งนิรภัยของรถจักรยานยนต์เม่ือกดคันเกียร์
ไปขา้ งหนา้

ครง้ั ที่ การดดี ตัวของขาต้ังเม่ือกดคนั เกยี ร์ไปข้างหน้า

1 ขาตง้ั ลอยอยู่เหนือพน้ื ขาตง้ั จอดตดิ กบั พ้นื
2
3 ดีดขนึ้ ไมด่ ดี ขึ้น
4
5 ดดี ข้ึน ไมด่ ดี ขึน้
6
7 ดดี ขึน้ ไมด่ ีดขน้ึ
8
9 ดดี ขน้ึ ไม่ดีดขน้ึ
10
คิดเปน็ % ดดี ขน้ึ ไม่ดีดขน้ึ

ดีดข้นึ ไมด่ ีดข้ึน

ดีดขึ้น ไม่ดดี ขึ้น

ดีดขนึ้ ไมด่ ดี ขน้ึ

ดดี ขน้ึ ไมด่ ดี ขนึ้

ดดี ขึน้ ไม่ดดี ขึ้น

100 % 100 %

จำกตำรำงท่ี 7-2 พบว่า ขาต้ังจะดีดขึ้นเม่ือกดคันเกียร์ไปข้างหน้าและขาต้ังลอยอยู่เหนือพื้น
เท่านั้นคิดเป็น 100 % ส่วนการกดคันเกียร์ไปข้างหน้าขณะขาตั้งจอดติดกับพ้ืนขาต้ังจะไม่ดีดตัวข้ึน คิด
เปน็ 100 % เช่นเดียวกัน

วัตถุประสงค์ข้อท่ี 3 กำรศึกษำควำมพึงพอใจของผู้ใช้รถจักรยำนยนต์ที่ใช้ขำต้ังนิรภัยของ
รถจักรยำนยนต์ สาหรับความพึงพอใจได้จากการสอบถามความคิดเห็นของผู้ใช้รถจักรยานยนต์จาก
แบบสอบถาม 5 ระดับ ดังน้นั การวเิ คราะหจ์ งึ เลอื กใช้สถติ คิ า่ เฉลี่ย

4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่มีต่อขาตั้งนิรภัย ปรากฏผลดังใน
ตารางที่ 7-3

แบบฝึกทักษะการทาโครงการสาหรบั การจดั การเรียนการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วิชา 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรุปผลการวจิ ยั 9

ตำรำงท่ี 7-3 แสดงคา่ เฉล่ียและความเบย่ี งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผูใ้ ชร้ ถจกั รยานยนตท์ ีม่ ีต่อ
ขาตง้ั นริ ภัยของรถจักรยานยนต์

รายการประเมนิ ระดับความพงึ พอใจของผู้ใชข้ าตัง้ นริ ภยั

1. ด้ำนโครงสรำ้ งท่ัวไป X S.D แปลผล
1.1 ขนาดมีความเหมาะสม
1.2 ความสวยงาม 3.50 0.53 มาก
1.3 ความแข็งแรงทนทาน 3.63 0.52 มาก
ค่าเฉลี่ย 3.63 0.74 มาก
4.13 0.75 มาก
2. ดำ้ นกำรออกแบบ
2.1 กลไกการทางานมีความเหมาะสม 4.50 0.53 มากท่ีสดุ
2.2 การติดตง้ั อปุ กรณม์ ีความเหมาะสม 4.13 0.83 มาก
2.3 การเลือกใชว้ ัสดุมคี วามเหมาะสม 3.75 0.89 มาก
ค่าเฉลี่ย 4.13 0.75 มาก

3. ดำ้ นกำรใช้งำน 4.13 0.64 มาก
3.1 ใช้งานไดง้ ่าย 4.13 0.64 มาก
3.2 ดูแลรักษาไดง้ า่ ย 4.00 0.76 มาก
3.3 ใชง้ านไดต้ ามวัตถปุ ระสงค์ 4.63 0.52 มากที่สดุ
3.4 มีความปลอดภัยในการใช้งาน 3.84 0.58 มาก
3.5 คุ้มค่าต่อการลงทุน 4.14 0.63 มาก
ค่าเฉล่ีย

จากตารางท่ี 7-3 พบว่า ผู้ใช้มีความพึงพอใจต่อขาต้ังนิรภัยท้ัง 3 ด้าน คือด้านโครงสร้างทั่วไป
ด้านการออกแบบ และด้านการใช้งาน เฉลี่ยอยู่ในระดับมาก แต่เม่ือพิจารณาจากค่าเฉล่ียรายข้อพบว่า
ผู้ใช้มีความพึงพอใจในข้อความปลอดภัยในการใช้งานมากที่สุด รองลงมาคือกลไกการทางานมีความ
เหมาะสม และต่าสุดคอื ขนาดมคี วามเหมาะสม

โดยสรุป การวิเคราะห์ข้อมูลและการแปลผล ผู้วิจัยจะต้องพิจารณาตามวัตถุประสงค์และ
สมมติฐานการวจิ ยั (ถ้ามี) หลงั จากน้ันจึงเลอื กใชส้ ถิติท่ีสอดคล้องซงึ่ ได้กาหนดไวใ้ นบทที่ 3 วิธดี าเนินการ
วิจัยไว้แล้ว เม่ือนาค่าท่ีเก็บรวบรวมข้อมูลจากเครื่องมือวิจัยไปวิเคราะห์แล้วจึงนามาสรุปในตารางหรือ
รูปแบบอืน่ ๆ โดยทล่ี ่างตารางจะตอ้ งมีการสรุปผลท่เี รียกวา่ การแปลผลน่ันเอง

แบบฝกึ ทกั ษะการทาโครงการสาหรับการจดั การเรยี นการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วิชา 3101-8502

7 การวิเคราะหแ์ ละสรปุ ผลการวจิ ยั 10

2. กำรสรุปผลกำรวจิ ยั
การสรุปผลการวจิ ัย คอื การนาผลทไ่ี ด้จากการวเิ คราะห์ข้อมลู ท่ตี รงตามวตั ถุประสงค์การวิจัยท่ี

กาหนดไว้ต้องการโดยใช้สถิติเข้ามาช่วย ท้ังน้ีผู้วิจัยจะใช้สถิติอะไรมาวิเคราะห์ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์
และสมมติฐานที่กาหนดไว้ เม่ือสรุปผลการวิจัยซึ่งรายละเอียดปรากฏในบทท่ี 5 ของรายงานการวิจัย
แล้ว ผู้วิจัยจะต้องอภิปรายผล และให้ข้อเสนอแนะ ดังนั้นในรายงานการวิจัยบทท่ี 5 จะประกอบด้วย
ส่วนต่างๆ ได้แก่ สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ซ่ึงรายละเอียดแต่ละองค์ประกอบ มี
ดังนี้

กำรสรปุ ผลกำรวิจัย
การสรปุ ผลการวิจัยจะตอ้ งสนั้ เฉพาะเจาะจงในสาระสาคัญจากการวิจัยเท่าน้ัน ส่วนใหญ่
กจ็ ะสรปุ ตามวัตถุประสงค์การวิจยั ว่า “การวิจยั ได้ผลอย่างไร เป็นไปตามสมมติฐานหรือไม่เพียงใด” ซ่ึง
นามาจากบทที่ 4 ทไ่ี ด้แปลความไว้นั่นเอง
กำรอภิปรำยผล
การอภิปรายผลการวิจัย เป็นการหยิบยกผลการวิจัยบางประเดน็ มาอภปิ ราย เชน่ สิ่งทดี่ ี
ขอ้ ด้อย ความเห็นที่แตกต่างกันมาก หรอื ส่งิ ทเี่ สียงส่วนใหญ่มีแนวโน้มทจี่ ะเหน็ ดว้ ยหรือไม่เหน็ ด้วยกต็ าม
อาจเทียบเคยี งผลกบั งานวิจยั อ่ืนๆ ทีใ่ กล้เคียงกันดว้ ยก็ได้
ขอ้ เสนอแนะ
ข้อเสนอแนะ เปน็ การใหข้ ้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากสิง่ ที่คน้ พบในงานวิจัย เพ่ือเป็นข้อสังเกตสาหรับ
ผนู้ าผลการวจิ ยั ไปใช้ หรอื ผู้ท่จี ะวิจยั ตอ่ ยอดต่อไป ทั้งน้สี ่วนใหญ่จะเสนอแนะ 2 ประเดน็ ไดแ้ ก่

ก. ข้อเสนอแนะจากการวิจัย เป็นการแนะนา ผู้ที่จะนานวัตกรรมจากการวิจัยนี้ไปใช้ว่า
“จะตอ้ งจดั เตรยี มอะไรอย่างไร จงึ จะทาให้ไดผ้ ลลัพธท์ ด่ี ี หรือดีกวา่ งานวิจยั น้ที ่ไี ด้ดาเนนิ การมาแล้ว”

ข. ข้อเสนอเพื่อการวจิ ัยต่อไป เปน็ การแนะนาใหผ้ ้ทู ่ีจะทาวจิ ัยเพ่ือพัฒนานวัตกรรมต่อจาก
การวิจยั น้วี ่า ควรท่ีจะจัดเตรยี มอะไร อย่างไร หรือจะปรบั ปรงุ งานวจิ ยั นท้ี ี่ส่วนไหนจงึ จะทาให้ได้ผลลพั ธ์
ทีด่ กี วา่ งานวิจยั นี้

ตวั อย่างการสรปุ ผลการวิจยั การอภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

การศึกษาวิจัยคร้ังนี้เป็นการสร้างขาตั้งนิรภัยของรถจักรยานยนต์ เพ่ือป้องกันการหลงลืมการ
เอาขาตั้งข้ึนขณะขับขี่ โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัย ดังน้ี เพื่อสร้างขาต้ังนิรภัยของรถจักรยานยนต์ เพ่ือ
ศึกษาประสิทธิภาพในการทางานของขาตั้งนิรภัยของรถจักรยานยนต์ เม่ือกดคันเกียร์ในลักษณะต่างๆ
และเพื่อศกึ ษาความพึงพอใจของผใู้ ช้รถจักรยานยนต์ที่มตี ่อขาตง้ั นิรภัยของรถจักรยานยนต์

แบบฝึกทักษะการทาโครงการสาหรับการจดั การเรียนการสอนวิชาโครงการ 1 รหัสวิชา 3101-8502

7 การวิเคราะหแ์ ละสรุปผลการวจิ ยั 11

สรปุ ผลกำรวิจยั
1. ขาตงั้ นิรภัยของรถจักรยานยนต์ ที่สร้างขึ้นทางานสัมพันธก์ ับการเข้าเกียร์ของรถ โดยขาต้ัง

จะดดี ข้นึ พบั เองโดยอัตโนมตั ิเมือ่ กดคันเกียร์ไปข้างหน้า1 คร้ัง
2. ขาตั้งนิรภัยของรถจักรยานยนต์ มีประสิทธิภาพการดีดขึ้น 100 % เม่ือกดคันเกียร์ไป

ข้างหน้าในขณะขาตงั้ ลอยอยู่เหนือพื้น ส่วนการกดคันเกียร์ขณะขาต้ังจอดสัมผัสพื้นขาตั้งจะไม่ดีดตัวข้ึน
คดิ เป็น 100 %

3. ความพึงพอใจของผูใ้ ช้รถจักรยานยนตท์ ี่มตี ่อขาตงั้ นิรภัยของรถจักรยานยนต์ ด้านโครงสรา้ ง
ทั่วไป ดา้ นการออกแบบ และด้านการใช้งานอยู่ในระดบั ดี

กำรอภิปรำยผล
จากผลการวจิ ัย ผูว้ จิ ัยได้แยกประเดน็ อภิปรายดังต่อไปน้ี
1. รูปแบบและกลไกของขาต้ังนิรภัยของรถจักรยานยนต์ ท่ีผู้จัดทาออกแบบสร้างข้ึนมี

ประสิทธิภาพในการทางานท่ีดีเน่ืองจากกลไกดังกล่าวถูกออกแบบให้สัมพันธ์กับการเข้าเกียร์ของ
รถจักรยานยนต์ โดยเมื่อผขู้ ับขร่ี ถจักรยานยนต์กดคันเกียร์ไปข้างหน้าเพ่ือเข้าเกียร์1 คนั เกียร์ด้านหลงั จะ
ถกู ยกขน้ึ กลไกการทางานของขาตั้งจะทาให้สปริงขาต้ังดีดออก ดึงขาตั้งให้ลอยตัวขึ้นโดยอตั โนมัติทาให้
สะดวกสบายต่อผู้ใช้ โดยทีไ่ ม่ต้องปลดขาต้ังขณะใช้รถ และยังปอ้ งกันการหลงลืม การขนึ้ ขาต้ังขณะขบั ขี่
จึงถือได้ว่ากลไกดังกล่าวมีประสิทธิภาพเหมาะต่อการใช้งานเป็นอย่างย่ิง (หากข้อค้นพบของผู้วิจัยไป
สอดคล้องกับงานวิจัยของใคร ที่ได้ศึกษาไว้ในบทท่ี 2 ก็สามารถอภิปรายเพ่ิมเติมได้ เช่น สอดคล้องกับ
งานวจิ ยั ของ ธวชั ไชย ล้ิมสวุ รรณ (2554: บทคดั ย่อ) ที่ศึกษาวิจัยเรื่อง......................พบว่า..................)

2. ประสิทธิภาพในการทางานของขาตั้งนิรภัยของรถจักรยานยนต์ เม่ือกดคันเกียร์ในลักษณะ
ตา่ งๆ ผวู้ จิ ัย แบ่งการอภปิ รายออกเปน็ 2 ประเดน็ หลกั ดังต่อไปนี้

2.1 กรณีขาตั้งลอยอยู่เหนือพ้ืน (รถอยูใ่ นสภาพพร้อมขับขี่) จากการทดลอง พบว่า เมือ่ ขา
ตงั้ ลอยเหนือพ้ืนการดีดตัวกลับของขาต้ังนิรภัยมีประสิทธิภาพ 100 % เม่ือมีการกดคันเกียรไ์ ปข้างหน้า
ซ่ึงสอดคล้องกับสมมติฐานข้อ 1 ที่ตั้งไว้ ท้ังนี้เป็นเพราะขณะรถจอดสปริงที่ใช้ดึงขาต้ังจะถูกดึงทาให้ยึด
ออกอยู่ในแนวด่ิง และจะถูกล็อคเอาไว้ให้อยู่นิ่ง เมื่อมีการกดคันเกียร์ไปข้างหน้า กลไกของขาตั้งจะดัน
ข้ึนทาให้มกี ารปลดลอ็ คเกดิ ข้นึ สปริงทถี่ ูกยืดไวจ้ ะดดี กลบั ทนั ที ทาใหข้ าต้ังรถดีดตวั ข้นึ เองโดยอัตโนมตั ิ

2.2 กรณีขาตั้งจอดติดกับพ้ืน (รถอยู่ในสภาพไม่พร้อมขับขี่) จากการทดลอง พบว่า
ในขณะท่ีรถจอดอยู่ ขาตั้งของรถจะกดกับพ้ืนเม่ือกดคันเกียร์ไปข้างหน้าขาต้ังจะไม่ดีดขึ้นซึ่งสอดคล้อง
กบั สมมติฐานที่กาหนดไว้ในข้อ 1 ท้ังนี้เป็นเพราะ น้าหนักของรถจะกดลงบนขาต้ังด้านขา้ งทาให้รถทรง
ตวั อยไู่ ด้ ซึ่งในขณะที่รถจอดอยูค่ ันล๊อคขาตง้ั จะยึดติดกับคันบังคับเกียร์ไว้ ถึงแม้จะมกี ารกดคันเกียร์ไป
ข้างหน้า ก็ไมส่ ามารถทาให้ขาตั้งดีดข้นึ ได้ ทาใหม้ ีความปลอดภัยมากย่งิ ข้ึน กล่าวคือขาต้ังนิรภัยจะไม่ดีด
ขึ้นในกรณที ี่เทา้ ไปเหยียบคันเกยี ร์โดยไม่ตง้ั ใจ รถก็ยงั คงจอดได้ตามปกติโดยไมล่ ้ม

แบบฝึกทักษะการทาโครงการสาหรับการจดั การเรียนการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วชิ า 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรุปผลการวจิ ยั 12

3. ความพึงพอใจของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ท่ีมีต่อขาต้ังนิรภัยของรถจักรยานยนต์
ด้านโครงสร้างท่ัวไป ด้านการออกแบบ และด้านการใช้งาน อยู่ในระดับดี ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐาน
ทีต่ ้ังไว้ในข้อที่ 2 ท้ังน้ีเปน็ เพราะขาต้ังนิรภัยของรถจักรยานยนต์ สามารถอานวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่
รถจักรยานยนต์ โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมเอาขาตั้งข้ึนขณะขับข่ี ท้ังมีประสิทธิภาพในการทรง
ตวั ของรถจอดรถในพื้นที่ลาดเอียงได้ ประกอบกับกลไกการทางานของขาตั้งนิรภัยมีหลักการทางานง่าย
ซ่อมบารงุ รักษางา่ ย มองดแู ล้วไม่แตกต่างจากขาตง้ั ธรรมดาทม่ี อี ยสู่ ่งผลใหผ้ ู้ใชม้ ีความพึงพอใจในระดับดี

ขอ้ เสนอแนะ
ก. ข้อเสนอแนะจากการวจิ ยั
1. การใช้งานไมต่ ้องเอาขาต้งั ขนึ้ เม่อื ติดเครื่องยนต์แล้วกดคันเกียร์ไปข้างหน้า ขาต้ังจะดีด

ตัวขึน้ เองโดยอตั โนมัติ
2. การดูแลรกั ษาควรใช้น้ามันหล่อล่ืนหยดตรงบรเิ วณกลไกการทางานกรณีท่จี อดรถทงิ้ ไว้

นานๆโดยไมไ่ ดข้ ับขี่เพ่ือป้องกันการเกดิ สนิม
ข. ข้อเสนอเพอ่ื การวิจัยต่อไป
ควรศึกษาประสิทธิภาพการทรงตัวของรถจักรยานยนต์ท่ีจอดด้วยขาต้ังนิรภัยในที่ลาด

เอียงทม่ี สี ภาพพ้นื ท่ตี า่ งๆ

โดยสรุปการสรุปผลการวิจัย การอภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ที่ปรากฏในรายงานการวิจัย
บทท่ี 5 เปน็ การสรปุ ผลท่ีได้จากการดาเนินการวจิ ัยทีก่ าหนดไว้ในวตั ถุประสงค์ของการวิจัยซึ่งอาจ
สอดคล้องหรอื ไมส่ อดคลอ้ งกับสมมติฐานการวิจยั ท่ีกาหนดไวก้ ็ได้ หากสอดคลอ้ งหรอื ไม่สอดคลอ้ ง
ก็อภิปรายผลว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร ผู้อ่านหรือผู้ท่ีนาผลวิจัยไปใช้จะได้พัฒนาหรือปรับปรุง
ต่อไป

แบบฝึกทักษะการทาโครงการสาหรบั การจดั การเรียนการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วิชา 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผลการวิจยั 13

แบบฝกึ ทักษะท่ี 7-1

คำสง่ั จากการวจิ ยั เร่ือง การสรา้ งดา้ มต่อมดี กรดี ยางแบบสไลด์ ซึ่งกาหนดวัตถุประสงค์ไว้ดังนี้
1. เพ่อื สร้างดา้ มตอ่ มีดกรีดยางพาราแบบสไลด์
2. เพื่อศึกษาความพงึ พอใจของผูใ้ ช้ด้ามต่อมดี กรดี ยางพาราแบบสไลด์
ผวู้ จิ ยั ได้ดาเนนิ การวจิ ยั และเก็บรวบรวมขอ้ มูลโดยใช้เครื่องมอื วิจัย ซึ่งเป็นแบบสอบถามความพึง

พอใจของผู้ใชด้ า้ มต่อมีดกรดี ยางพาราแบบสไลด์ ปรากฏผล ดงั น้ี

คน สถานภาพ ข้อคาถาม/ค่าความพงึ พอใจ

ท่ี เพศ ประสบการณ์ 1.ขนาด 2.น้าหนัก 3.ความสะดวก 4.ระยะของ 5.การ
ดา้ มตอ่ ในการใชง้ าน การสไลด์ บารงุ รกั ษา
ในการกรดี ยาง ดา้ มตอ่
44 5 5
1 ชาย 3 ปี 3 45 4 5
53 3 4
2 หญิง 4 ปี 4 34 4 5
34 4 4
3 ชาย 3 ปี 4 45 4 3
53 5 4
4 ชาย 2 ปี 3 55 3 4
44 4 5
5 ชาย 5 ปี 2 34 5 4

6 หญิง 3 ปี 4

7 หญงิ 6 ปี 4

8 ชาย 8 ปี 5

9 ชาย 4 ปี 4

10 หญิง 2 ปี 3

จากข้อมลู ดงั กลา่ วให้นักศึกษาดาเนนิ การดังนี้
วเิ คราะหข์ ้อมูลด้วยคา่ สถิติท่ีสอดคล้องกบั วตั ถุประสงคแ์ ละนาเสนอผลการวิเคราะห์พร้อมแปล
ผล (บทท่ี 4 ของรายงานการวจิ ยั )

แบบฝกึ ทักษะการทาโครงการสาหรับการจดั การเรยี นการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วิชา 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรุปผลการวิจยั 14

แบบฝกึ ทักษะที่ 7-2

คำส่งั จากการวิจัย เรือ่ ง การสรา้ งด้ามต่อมีดกรีดยางแบบสไลด์ ซง่ึ กาหนดวัตถปุ ระสงค์ไว้ดงั น้ี
1. เพอ่ื สร้างดา้ มตอ่ มดี กรีดยางพาราแบบสไลด์
2. เพอื่ ศึกษาความพงึ พอใจของผู้ใช้ดา้ มต่อมีดกรีดยางพาราแบบสไลด์
ผวู้ จิ ยั ได้ดาเนินการวจิ ัยและเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมอื วจิ ยั ซง่ึ เป็นแบบสอบถามความพึง

พอใจของผู้ใช้ด้ามต่อมดี กรดี ยางพาราแบบสไลด์ ปรากฏผล ดังน้ี

คน สถานภาพ ขอ้ คาถาม/คา่ ความพงึ พอใจ

ที่ เพศ ประสบการณ์ 1.ขนาด 2.น้าหนัก 3.ความสะดวก 4.ระยะของ 5.การ
ด้ามตอ่ ในการใช้งาน การสไลด์ บารงุ รกั ษา
ในการกรดี ยาง ดา้ มตอ่
44 5 5
1 ชาย 3 ปี 3 45 4 5
53 3 4
2 หญิง 4 ปี 4 34 4 5
34 4 4
3 ชาย 3 ปี 4 45 4 3
53 5 4
4 ชาย 2 ปี 3 55 3 4
44 4 5
5 ชาย 5 ปี 2 34 5 4

6 หญิง 3 ปี 4

7 หญิง 6 ปี 4

8 ชาย 8 ปี 5

9 ชาย 4 ปี 4

10 หญงิ 2 ปี 3

จากข้อมูลดงั กลา่ วให้นักศึกษาดาเนินการดังนี้
สรุปผลการวจิ ัย อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ (บทที่ 5 ของรายงานการวิจัย)

แบบฝึกทักษะการทาโครงการสาหรบั การจดั การเรยี นการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วชิ า 3101-8502

7 การวิเคราะหแ์ ละสรปุ ผลการวิจยั 15

แบบทดสอบหลังเรียน ชดุ ที่ 7
กำรวิเครำะหแ์ ละสรุปผลกำรวิจัย

คำชี้แจง
1. แบบทดสอบเรื่องการวิเคราะห์และสรุปผลการวิจัย เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ
4 ตัวเลอื ก จานวน 6 ข้อ ขอ้ ละ 1 คะแนน 10 นาที
2. แต่ละข้อมีคาตอบท่ีถูกที่สุดเพียงคาตอบเดียว แล้วกาเครื่องหมายกากบาท (X) ลงใน
ชอ่ ง  ในกระดาษคาตอบ

1. ข้อใด มใิ ช่ องค์ประกอบของการเขียนรายงานการวิจัยบทที่ 5
ก. สว่ นสรปุ ผลการวจิ ัย
ข. ส่วนอภปิ รายผลการวจิ ัย
ค. สว่ นวเิ คราะห์ผลการวิจยั
ง. ส่วนข้อเสนอแนะ

2. จากสมมตฐิ าน “ขาตั้งนริ ภยั สรา้ งขึ้นสามารถดีดตวั ขึ้นเองโดยอัตโนมตั ทิ ุกคร้งั เมื่อกดคันเกียร์ไป
ข้างหน้า 1 ครงั้ ” ควรเลอื กใชส้ ถิติอะไรมาวิเคราะหข์ อ้ มลู
ก. ความถ่ี
ข. รอ้ ยละ
ค. ความถีแ่ ละร้อยละ
ง. ค่าเฉล่ยี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน

3. จากวตั ถุประสงค์ “ความพงึ พอใจของผู้ใชร้ ถจักรยานยนตท์ ี่ใชข้ าตง้ั นริ ภัย” ควรเลอื กใช้สถติ ิ
อะไรมาวิเคราะห์ข้อมูล
ข. ความถ่ี
ข. ร้อยละ
ค. ความถี่และร้อยละ
ง. คา่ เฉล่ยี และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

4. ข้อใดคอื เป้าหมายของการวิเคราะห์ข้อมูล
ก. การเกบ็ รวบรวมข้อมูลเพื่อนามาสรปุ ในบทที่ 4
ข. การเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนามาสรปุ ในบทที่ 5
ค. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู และวิเคราะหเ์ พ่ือนามาสรปุ ในบทที่ 4 และบทท่ี 5
ง. การนาข้อมลู ที่ได้จากการเก็บรวบรวมขอ้ มูลมาวเิ คราะห์เพ่อื ใหไ้ ด้ขอ้ มลู ทตี่ อ้ งการ

แบบฝึกทักษะการทาโครงการสาหรับการจดั การเรียนการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วชิ า 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผลการวจิ ยั 16

5. ขอ้ ใดคอื หลักการเขียนรายงานการวจิ ยั บทท่ี 4

ก. เลอื กรูปแบบการนาเสนอเพียงรปู แบบเดยี วเทา่ น้นั

ข. การแปลผลจะต้องแสดงความคิดเห็นของผู้รายงานเพิ่มเตมิ ด้วย
ค. นาเสนอเฉพาะผลการวิเคราะห์ โดยไม่ต้องคาอธบิ ายผลการวเิ คราะห์
ง. ควรมกี ารรวมหลาย ๆ เร่ือง เพือ่ นาเสนอในตาราง/แผนภูม/ิ กราฟเดียวกนั
6. ข้อใด คอื หลกั การเขยี นรายงานการวิจยั บทท่ี 5
ก. สรปุ ผลสน้ั ๆ กระชบั และไม่ควรแสดงความเห็นเพ่ิมเตมิ
ข. ตอ้ งอภิปรายผลการวิจัยทุกข้อ หา้ มเวน้ แม้จะมใิ ชป่ ระเดน็ หลัก
ค. วเิ คราะหผ์ ลและแสดงผลในรปู แบบกราฟ ตาราง เช่นเดยี วกับ บทท่ี 4
ง. ข้อเสนอแนะไม่ควรเขยี นเพราะจะแสดงว่ารายงานมีข้อบกพรอ่ ง

แบบฝกึ ทักษะการทาโครงการสาหรบั การจดั การเรยี นการสอนวิชาโครงการ 1 รหัสวชิ า 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผลการวจิ ยั 17

บรรณำนกุ รม

ยพุ า วรี ะไวทยะ และปรยี า นพคณุ . สอนวทิ ยำศำสตรแ์ บบมืออำชีพ. กรุงเทพมหานคร :
มูลนธิ ิสดศรีสฤษดวิ์ งศ์, 2544.

ลัดดาวัลย์ เพชรโรจน์ และอจั ฉรา ชานิประศาสน.์ ระเบียบวิธกี ำรวิจัย. กรงุ เทพมหานคร : พิมพ์
ดีการพิมพจ์ ากดั , 2547.

วรรณทิพา รอดแรงคา้ . กำรสอนวิทยำศำสตรท์ ี่เป็นทกั ษะกระบวนกำร. กรุงเทพมหานคร : สถาบัน
พฒั นาคุณภาพวิชาการ, 2540.

วรรณทพิ า รอดแรงค้า และพมิ พันธ์ เดชะคุปต.์ กำรพฒั นำกำรคดิ ของครดู ้วยกจิ กรรมทักษะ
กระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์. พิมพค์ ร้งั ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั เดอะมาสเตอร์กรปุ๊
แมนเนเจอร์จากัด, 2542.

วมิ ลศรี สุวรรณรตั น์ และมาฆะ ทพิ ยศิร.ิ โครงงำนวทิ ยำศำสตร์. กรงุ เทพมหานคร : สถาบันพัฒนา
คณุ ภาพวชิ าการ, 2542.

นายศภุ ชยั สาราญ และคณะ. โครงงำนวทิ ยำศำสตร์ขำตั้งนริ ภยั . สุราษฎรธ์ านี : วทิ ยาลัยเทคนิค
สรุ าษฎรธ์ าน,ี 2551.

สมจิตร รตั นฤทัย. คมู่ ือกำรนิเทศเชิงปฏิบัตกิ ำรกำรสอนโครงงำนวทิ ยำศำสตร์ตำมแนวคดิ
Constructivism. หน่วยศึกษานเิ ทศก์, กรมอาชีวศกึ ษา, ม.ป.ป.

สวุ ทิ ย์ มลู คา และอรทัย มลู คา. 20 วธิ ีกำรจัดกำรเรียนรู้. พมิ พค์ ร้ังท่ี 3. กรุงเทพมหานคร :
หา้ งหุ้นส่วนจากดั ภาพพมิ พ์, 2545.

แบบฝึกทักษะการทาโครงการสาหรบั การจดั การเรยี นการสอนวิชาโครงการ 1 รหัสวชิ า 3101-8502

7 การวิเคราะหแ์ ละสรุปผลการวจิ ยั 18

ภำคผนวก

แบบฝึกทกั ษะการทาโครงการสาหรบั การจดั การเรยี นการสอนวิชาโครงการ 1 รหัสวชิ า 3101-8502

7 การวิเคราะหแ์ ละสรปุ ผลการวจิ ยั 19

แบบเฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน

ก่อนเรยี น หลังเรียน

ขอ้ ท่ี คาตอบ ขอ้ ท่ี คาตอบ
1ง 1ข
2ค 2ค
3ค 3ง
4ง 4ง
5ค 5ค
6ข 6ข

แบบฝกึ ทักษะการทาโครงการสาหรบั การจดั การเรียนการสอนวิชาโครงการ 1 รหัสวิชา 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรุปผลการวจิ ยั 20

แบบประเมนิ
สำหรบั แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 7-1

คำช้แี จง คะแนนเตม็ 10 คะแนน
เกณฑ์การให้คะแนนพิจารณาจาก
1. ทกุ คนในกลุ่มมีสว่ นรว่ มในการทากิจกรรม
2. มีการจดั ทาข้อมูลครบตามแบบฟอร์มท่กี าหนด
3. เลือกใชส้ ถิติในการวเิ คราะห์ข้อมลู ได้ถกู ต้อง
4. รายละเอยี ดขอ้ มลู แต่ละข้อมีความถูกตอ้ ง
5. ส่งงานภายในเวลาท่กี าหนด

กลุ่มท.่ี ..........สมาชกิ ในกลมุ่ 1………………………………………………2…………………………………………………
3…………………………….…………………..4……………………………………………….

คะแนน เกณฑ์การพิจารณา ผลการประเมิน หมายเหตุ
9 - 10 มคี รบสมบูรณ์ทั้ง 5 รายการ
7 - 8 มคี รบสมบรู ณ์ 4 รายการ
5 - 6 มคี รบสมบรู ณ์ 3 รายการ
3 - 4 มคี รบสมบูรณ์ 2 รายการ
1 - 2 มีครบสมบรู ณ์ 1 รายการ

0 ไมจ่ ดั ทา ไม่มีงานสง่

สรปุ คะแนนท่ีได้..........................คะแนน ลงชือ่ ผู้ประเมนิ .............................................................

แบบฝกึ ทักษะการทาโครงการสาหรับการจดั การเรียนการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วิชา 3101-8502

7 การวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผลการวจิ ยั 21

แบบประเมิน
สำหรบั แบบฝกึ ทักษะที่ 7-2

คำช้แี จง คะแนนเตม็ 10 คะแนน
เกณฑ์การให้คะแนนพจิ ารณาจาก
1. ทกุ คนในกลุ่มมีสว่ นร่วมในการทากิจกรรม
2. มกี ารบนั ทึกข้อมูลครบตามแบบฟอร์มที่กาหนด
3. รายละเอียดข้อมูลแต่ละข้อมีความถูกต้อง
4. ข้อมูลแต่ละสว่ นเช่ือมโยงกันอย่างสมบรู ณ์
5. ส่งงานภายในเวลาที่กาหนด

กลุ่มท.่ี ..........สมาชกิ ในกลมุ่ 1………………………………………………2…………………………………………………
3…………………………….…………………..4……………………………………………….

คะแนน เกณฑ์การพิจารณา ผลการประเมนิ หมายเหตุ
9 - 10 มีครบสมบรู ณ์ทั้ง 5 รายการ
7 - 8 มคี รบสมบูรณ์ 4 รายการ
5 - 6 มีครบสมบูรณ์ 3 รายการ
3 - 4 มคี รบสมบูรณ์ 2 รายการ
1 - 2 มคี รบสมบรู ณ์ 1 รายการ

0 ไมจ่ ัดทา ไมม่ ีงานส่ง

สรปุ คะแนนที่ได้..........................คะแนน ลงชือ่ ผู้ประเมนิ .............................................................

แบบฝกึ ทกั ษะการทาโครงการสาหรบั การจดั การเรียนการสอนวิชาโครงการ 1 รหัสวิชา 3101-8502

7 การวิเคราะหแ์ ละสรุปผลการวิจยั 22

แบบสงั เกตพฤติกรรมแต่ละแบบฝกึ
เกณฑ์การให้คะแนนพฤตกิ รรมคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 12 คะแนน
ช่อื ......................................................................หอ้ ง......................กลุ่มท.่ี ................

รายการประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน
1. ความมมี นษุ ยส์ ัมพนั ธ์ 3 = มคี รบทั้ง 3 รายการ
2 = มี 2 รายการ
ก. ใหค้ วามร่วมมอื ในการทางาน 1 = มี 1 รายการ
ข. แสดงความคิดเห็น 0 = ไมม่ ีทุกรายการ
ค. ยอมรับฟังความคิดเหน็ ของคนอนื่

2. ความรับผดิ ชอบ 3 = มีครบทง้ั 3 รายการ

ก. ทางานตามทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 2 = มี 2 รายการ

ข. เกบ็ รกั ษาวัสดุ อปุ กรณเ์ ป็นระเบียบ 1 = มี 1 รายการ

ค. ทางานเสรจ็ ตามที่กาหนดและส่งงานตรงเวลา 0 = ไมม่ ที ุกรายการ

3. ความสนใจใฝ่รู้ 3 = มีครบทง้ั 3 รายการ
ก. มคี วามกระตอื รือรน้ คล่องแคลว่ ในการทา 2 = มี 2 รายการ
กิจกรรม 1 = มี 1 รายการ
ข. สนใจศกึ ษาเนื้อหาใบความรู้ท่ีแจกให้ 0 = ไมม่ ีทกุ รายการ
ค. ซักถามข้อสงสยั ตา่ งๆ

4. ความคิดสร้างสรรค์ 3 = มคี รบท้งั 3 รายการ
ก. อภปิ รายผลการทดลองอย่างสร้างสรรค์ 2 = มี 2 รายการ
ข. แสดงความคิดเห็นที่เปน็ ประโยชน์ 1 = มี 1 รายการ
ค. มวี ธิ กี ารในการแกป้ ัญหาท่ีเกิดขน้ึ ขณะทา 0 = ไม่มีทกุ รายการ
กจิ กรรม

แบบฝกึ ทักษะการทาโครงการสาหรบั การจดั การเรยี นการสอนวิชาโครงการ 1 รหสั วชิ า 3101-8502


Click to View FlipBook Version