CC39D09C-42AB-40BC-A4EC-340153ECACC2

วัฏจักฮราเบบออรร์์น

บลู

พริ้ง

วัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์

นักวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นและพัฒนาวัฏจักรบอร์น-ฮาเบอร์ คือ ฟริทซ์ ฮาเบอร์ ฟริทซ์ ฮาเบอร์
และมัคส์ บอร์น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงนำชื่อของผู้คิดค้นตั้งชื่อวัฏจักรเพื่อให้ มัคส์ บอร์น
เกียรติในคุณงามความดี

โดยวัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์ เป็นกระบวนการที่ประกอบด้วยขั้นตอนย่อย ๆ หลายขั้นตอน ที
มีทั้งคายความร้อนและดูดความร้อน เช่น กระบวนการเกิดโซเดียมคลอไรด์

โดยเริ่มต้นจากโลหะโซเดียมที่ยังเป็นของแข็ง (solid ,s) หรือ Na(s) และเริ่มจากก๊าซ
คลอรีน (Cl2) หรือ Cl2(g) ซึ่งมีสมบัติเป็นโมเลกุล จะประกอบด้วยขั้นตอนย่อย ๆ ดังนี้
1.พลังงานการระเหิด (Heat of sublimation) เป็นพลังงานที่อะตอมของโลหะ
โซเดียม ใช้ในการเปลี่ยนสถานะ

2. พลังงานพันธะ (Bond energy) เป็นพลังงานที่ใช้ในการสลายพันธะ

3. พลังงานไอออไนเซชัน (lonization energy) เป็นพลังงานที่อะตอมของโซเดียม
ในสถานะแก๊สเสียอิเล็กตรอน

4. สัมพรรคภาพอิเล็กตรอน (Electron affinity) เป็นพลังงานที่สัมพันธ์กับ
พลังงานที่คายออกมาก

5. พลังงาน โครงผลึก หรือแลตทิช (Lacttice energy)

วัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์ 1

แนะนำตัวละคร

บลู พริ้ง

เป็นเพื่อนสนิทกับพริ้ง เป็นคนจิตใจดี พริ้งเป็นคนน่ารัก ช่วยเหลือผู้อื่นตลอด
ขยัน มุ่งมั่นและตั้งใจเรียนมาก ใจดีและเป็นคนเฟลนลี่

วัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์ 2

เปิดเทอมวันแรก ณ สวัสดีบลูปิดเทอมเป็น
ห้องเคมี ไงบ้าง

วัฐจักรบอร์น ฮาเบอร์
คืออะไรล่ะเนี่ย

นายพอช่วยอธิบายให้ชั้น
ได้มั้ย

สนุกดีนะ ทั้งเรียน ทั้งกิน ทั้งเที่ยว
ที่เราดูมาเคมี

วัฐจักรบอร์น ฮาเบอร์
ยากมากเลย!

พริ้งน่ารักจัง>< ได้สิ เราไม่ ขอบคุณนะบลู
แน่ใจว่าจะ เพื่อนรัก
อธิบายให้เธอ
เข้าใจได้มั้ย แต่
เราจะพยายาม

นะ

วัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์ 3

กระบวนการเกิดวัฐจักรบอร์น-ฮาเบอร์ กระบวนการเกิดวัฐจักรบ
อร์นฮาเบอร์ มี 5 ขั้นตอน
ขั้นที่ 1 จะเกิดการระเหิดของโลหะที่เป็นของแข็ง
เปลี่ยนเป็นไอ เป็น กระบวณการดูดความร้อน เดี๋ยวเราลองยกตัวอย่าง
ให้ดูนะ
ขั้นที่ 2 อะตอมของธาตุในสถานะ g ได้รับ
พลังงานจนเสียอิเล็กตรอน ได้เลย
ขอบคุณนะบลู
ขั้นที่ 3 โมเลกุลของก๊าซ เกิดการแยกสลายเป็น
อะตอมอิสระ 4

ขั้นที่ 4 อะตอมของ Cl ในสภาวะก๊าซรับอิเล็กตรอน วัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์
กลายเป็นไอออนลบ คือ พลังงานอิเล็กตรอนอัฟฟินิตี



ขั้นที่ 5 Na+(g) รวมตัวกับ Cl-(g) แล้วเปลี่ยนสถานะ
เป็นของแข็งคือผลึกของ NaCl ขั้นตอนนี้คายพลังงาน

เรียกว่าพลังงานโครงร่างผลึก

กระบวนการเกิดวัฐจักรบอร์น-ฮาเบอร์ พลังงานการระเหิด
ของ NaCL
เป็นพลังงานที่ใช้ในการที่อะตอมของโลหะโซเดียมใช้
ขั้นที่ 1 ในการเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส

ขั้นแรกก่อนที่เรา Na(s)+CL(g)
จะเริ่มต้องดูธาตุ
โลหะโซเดียมซึ่งเป็นของแข็งได้รับความร้อน →Na(s) Na(g) ;
ว่าใช่ โลหะที่ เกิดการหลอมเหลว ให้ความร้อนต่อไปจน
สามารถเปลี่ยน เดือดและกลายเป็นไอ ถ้าคิดรวมกันเป็นขั้น ΔH1 = +107 kJ/mol
เป็นแก๊สได้มั้ย ตอนเดียว คือจากของแข็งเป็นไอ (ก๊าซ)


เพื่อไม่ให้มีขั้นตอนมากเกินไปจะเป็นการ
ระเหิด เป็นกระบวนการดูดความร้อน

ดังสมการ ;




วัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์ 5

กระบวนการเกิด อะตอมของ Na ในสถานะก๊าซ
วัฐจักรบอร์น-ฮาเบอร์ Na(g) ได้รับพลังงานจนเสียอิเล็กตรอน

ขั้นที่ 2 (พลังงานไอออไนเซชัน อันดับ 1 , IE1)
ขั้นตอนนี้ เป็นกระบวนการดูดความร้อน
พลังงานพันธะ
ดังสมการ
เป็นพลังงานที่ใช้ในการสลายพันธะของ CL-CL
กลายเป็นคลอรีนอะตอมในสถานะแก๊ส →Na(g) Na
+(g) + e- ΔH2

พลังงานไอออไนเซชั่น = + 496 kJ/mol


เป็นพลังงานที่อะตอมของโซเดียมในสถานะแก๊ส
เสียอิเล็กตรอนกลายเป็น Na+

วัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์ 6

โอ้ยตายแหละ สู้ๆ นะเเรกๆเรา โอเคจ้า ขอบคุณนะ ไปต่อขั้นต่อ
นี่ยังมีอีกหรอ ก็เป็นแบบนี้ ไปได้เลยเราพร้อมแล้ว
เนี่ย แค่นี้เราก็
รู้สึกไม่ไหวแล้ว

กระบวนการเกิดวัฐจักรบอร์น-ฮาเบอร์ สมการ

ขั้นที่ 3 →Cl2(g) Cl(g)

โมเลกุลของก๊าซคลอรีน (Cl2) เกิดการแยกสลายออกเป็นอะตอมอิสระในสภาวะก๊าซ ΔH3 = +122 kJ/mol
เป็นการสลาย


พันธะระหว่างอะตอมของคลอรีนในโมเลกุล ขั้นตอนนี้เป็นกระบวนการดูดความร้อน
ดังสมการ



วัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์ 7

กระบวนการเกิดวัฐจักรบอร์น-ฮาเบอร์

ขั้นที่ 4

อะตอมของ Cl ในสภาวะก๊าซรับอิเล็กตรอน
กลายเป็นไอออนลบ กระบวนการนี้คายพลังงาน
คือ พลังงานอิเล็กตรอนอัฟฟินิตี , EA ดังสมการ

→


Cl(g) + e- Cl-(g)
ΔH4 = -349 kJ/mol

สัมพรรคภาพ
อิเล็กตรอน

เป็นพลังงานที่สัมพันธ์กับ
พลังงานที่ใครออกมาเมื่อ

อะตอมของคลอรีนในสถานะแก๊สได้รับอิเล็กตรอน

วัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์ 8

กระบวนการเกิดวัฐจักรบอร์น-ฮาเบอร์ พลังงานโครงร่างผลึก

ขั้นที่ 5 เป็นพลังงานที่ไอออนของคลอรีน
และไอออนของโซเดียมในสถานะ
Na+(g) รวมตัวกับ Cl-(g) แล้วเปลี่ยนสถานะ แก๊สใครออกมาเพื่อเกิดเป็นผลึก
เป็นของแข็งคือผลึกของ NaCl
ขั้นตอนนี้คายพลังงาน เรียกว่า โซเดียมคลอ ไรด์

พลังงานโครงร่างผลึก (lattice energy) อ๋อ แบบนี้นี่เอง
ดังสมการ
เหลือการคิดพลังงานขั้น
→Na+(g) + Cl-(g
) NaCl(s) สุดท้ายแล้ว

ΔH5 = -787 kJ/mol




วัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์ 9

ถ้านำพลังงานที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนทั้ง 5 ขั้นตอนนี้มารวมกัน
(นำเครื่องหมาย + หรือ – ของ

แต่ละค่ามาด้วย) ผลลัพท์ที่ได้เราเรียกว่า พลังงานของ
ปฏิกิริยา (ΔHf) ดังสมการ



ΔHf = ΔH1 + ΔH2 +
ΔH3 + ΔH4 + ΔH5
= +107 kJ/mol + 122 kJ/mol + 496 kJ/mol

+(-349 kJ/mol) + (-787 kJ/mol)
= - 411 kJ/mol



→เขียนแสดงในรูปสมการรวมได้ดังนี้

Na(s) + Cl2(g) NaCl(s) ; ΔHf = -411 kJ/mol



10

วัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์

เราอธิบายแบบนี้พริ้ง เราเข้าใจขึ้นเยอะเลย พวกเราขอลาไปก่อน
พอเข้าใจมั้ย นะ บ้ายบ๊ายยทุกคน






ขอบคุณนายมากนะบลู ไม่เป็นไรเลย พริ้งเข้าใจ 11
นายเป็นเพื่อนรักที่ดีกับฉันมา เราก็ดีใจแล้ว
วัฏจักรบอร์น ฮาเบอร์
ตลอดเลย รักนะ





บลู



จัดทำโดย



นางสาวศุภากร โพธิ์แก้ว ม.4/2 เลขที่ 2
นางสาวกุลิสรา ทรงศิริ ม.4/2 เลขที่ 4

Thank you