โครงงานการงานอาชีพ
เร่ือง ผลิตภณั ฑ์จากไม้ไผ่
คณะผ้จู ัดทา
นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 6/3
เสนอ
คณุ ครู คณรี ัตน์ สาเล่
โครงงานเล่มนี้เป็ นส่วนหนึง่ ของรายวิชา การนาองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม ( IS3 )
ภาคเรียนที่ 2 ประจาปี การศึกษา 2564
โรงเรียนละงพู ทิ ยาคม ตาบลละงู อาเภอละงู จงั หวัดสตูล
สานกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษาเขต สงขลา สตูล
โครงงานการงานอาชีพ
เร่ือง ผลิตภณั ฑ์จากไม้ไผ่
คณะผ้จู ัดทา
นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 6/3
เสนอ
คณุ ครู คณรี ัตน์ สาเล่
โครงงานเล่มนี้เป็ นส่วนหนึง่ ของรายวิชา การนาองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม ( IS3 )
ภาคเรียนที่ 2 ประจาปี การศึกษา 2564
โรงเรียนละงพู ทิ ยาคม ตาบลละงู อาเภอละงู จงั หวัดสตูล
สานกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษาเขต สงขลา สตูล
ก
ชอื่ : นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 6/3
ชอ่ื เรอ่ื ง : ผลติ ภัณฑจ์ ากไม้ไผ่
ครทู ป่ี รกึ ษา : นางอายซี ะห์ มอเกาะ
นางสาวนาฏยา หยังหลัง
ปกี ารศกึ ษา นางสาวคณรี ตั น์ สาเล่
: 2/2564
บทคดั ยอ่
โครงงาน เรือ่ ง ผลติ ภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่ (Product Bamboo) มจี ดุ มุง่ หมายเพ่อื ใหร้ นุ่ นอ้ งรุ่นตอ่ ไปได้ศึกษา
การทำผลติ ภัณฑ์จากไม้ไผ่ วัตถุประสงคเ์ พื่อศกึ ษาวธิ ีการประดษิ ฐ์ของใช้จากไม้ไผ่ ได้แก่ โต๊ะ เกา้ อี้ โคมไฟ วา่ ว
แจกันและคำนวณต้นทนุ การผลิตและกำหนดราคาจำหนา่ ยของผลติ ภณั ฑ์จากไมไ้ ผ่
จากการสำรวจความคิดเหน็ ของนักเรียนและครูโรงเรียนละงพู ิทยาคม จังหวัดสตูลจำนวน 40 คน จาก
การดูผลิตภณั ฐ์แตล่ ะชนิด ระดับความคดิ เห็นอยู่ในระดับดีมาก การประดษิ ฐ์ผลิตภัณฑ์เรื่อง ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่
ทำให้นกั เรียนได้เรียนรู้ในเรื่องของการประดิษฐ์ของใช้ ได้แลกเปลีย่ นภูมิปัญญาในการทำงาน อีกทั้งส่งเสริมการ
ทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืนทม่ี ีความสามัคคใี นหมู่คณะซ่ึงเปน็ การสง่ เสรมิ กระบวนการทำงานและทักษะการประดิษฐ์ของ
ใช้ จากการดำเนินงานของสมาชิกยังกอ่ ให้เกิดกระบวนการเรยี นรู้ด้วยตนเองตามหน้าที่และยังถือได้วา่ เป็นการ
เรียนร้ตู ลอดชวี ติ
ข
กติ ตกิ รรมประกาศ
การจัดทำโครงงานเรอื่ งผลติ ภัณฑ์จากไมไ้ ผโ่ ครงงานเลม่ น้สี ำเร็จลลุ ว่ งไปได้ดว้ ยดีต้องขอขอบคุณ คณุ ครูอา
ยีซ๊ะห์ มอเกาะ คุณครูนาฏยา หยงั หลงั และคณุ ครูคณีรัตน์ สาเล่ ท่ีใหค้ ำแนะนำ ขอ้ ชแี้ นะขอ้ คดิ ต่างๆตลอดจน
ทำแบบสอบถาม ความถูกตอ้ งของเนื้อหา และภาษาที่ใช้เขียนโครงงานผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่เลม่ นีต้ ้องขอขอบคณุ
คุณครู อายีซ๊ะห์ มอเกาะ คุณครูนาฏยา หยังหลัง และคุณครูคณีรัตน์ สาเล่ คุณครูผู้สอนที่ให้คำปรึกษา
คำแนะนำพรอ้ มทง้ั ใหค้ วามสนับสนนุ ในการทำโครงงานคร้งั น้ขี อขอบคุณผตู้ อบแบบสอบถามขอขอบคุณพ่อแมแ่ ละ
เพื่อนๆท่ีคอยให้คำปรึกษาและคอยให้กำลังใจขอขอบคุณนักเรียนโรงเรียนละงูพิทยาคมทุกท่าน ที่ยอมเสียสละ
เวลาที่มีค่ายิ่งมาให้คำแนะนำและทำแบบประเมินของการทำโครงงานในครั้งนี้และผู้ที่ยังไม่ไดก้ ลา่ วนาม ที่ได้ให้
ความรใู้ ห้การสนับสนุนและใหก้ ำลงั ใจในการทำงานโครงงานในครงั้ นจี้ นสำเร็จตามเปา้ หมายท่ีกำหนดไว้
คณะผ้จู ดั ทำ
นักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/3
ค
คำนำ
โรงเรียนละงูพิทยาคม จังหวัดสตูล ได้เล็งเห็นว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ เรื่อง
ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ โดยได้นำไม้ไผ่มาประดิษฐ์เป็นของใช้ นับว่าเป็นกิจกรรมที่น่าชื่นชมในความสำเร็จของ
นักเรยี น ที่รูจ้ ักเพ่มิ มลู ค่าของไม้ไผ่ซ่งึ เปน็ วัตถุดบิ ที่มีอยู่มากในท้องถ่ินใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สุด ส่งเสริมการมี
รายได้และเศรษฐกิจที่ดีให้เกิดประโยชน์สงู สุดแก่คนในทอ้ งถิน่ ส่งเสรมิ การมีรายได้และการมีเศรษฐกิจท่ีดใี ห้แก่
นกั เรียนในโรงเรียนและเปน็ การคดิ ค้นของใช้ใหมๆ่ ให้มคี วามงดงามหลากหลายและน่าสนใจและยังเป็นการใชเ้ วลา
ว่างของนักเรียนให้เกิดประโยชน์ช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในชุมชนของนักเรียนอีกท้ังยงั ส่งเสริมความคิดริเรม่ิ
สร้างสรรคใ์ นการต่อยอดผลิตภณั ฑ์และทักษะกระบวนการในการทำงาน รูจ้ กั วางแผนในการทำงาน แสดงให้เห็น
ถึงความพยายามและต้ังใจจริง มีความอดทนจนชิ้นงานสำเร็จโดยยึดหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง นักเรียน
สามารถนำความรู้ทไ่ี ดไ้ ปปรบั ใช้ในชีวิตประจำวัน
จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานการการประดิษฐ์ของใช้เรื่องนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาและ
นำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้
ง
สารบญั หนา้
เรอ่ื ง ก
ข
บทคัดย่อ ค
กิตตกิ รรมประกาศ ง
คำนำ 1
สารบัญ 1
บทที่ 1 บทนำ 1
1
1.1 แนวคดิ ทม่ี าของโครงงาน 1
1.2 วัตถปุ ระสงคข์ องโครงงาน 2
1.3 ขอบเขตของโครงงาน 2
1.4 วธิ กี ารดำเนินการ 2
1.5 การสรา้ งครอ่ื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการศึกษาคน้ คว้า 2
1.6 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 2
1.7 การวเิ คราะหข์ ้อมลู 3
1.8 ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะได้รบั 3
1.9 นยิ ามศพั ท์ 7
บทท่ี 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 8
2.1 ความรู้เรอื่ งโครงงานอาชีพ 8
2.2 การคิดต้นทุน - กำไร และการกำหนดราคาจดั จำหนา่ ย 13
2.3 ความร้เู รื่องการประดิษฐผ์ ลติ ภณั ฑ์ 13
2.4 ความรู้เรือ่ งไมไ้ ผ่และผลติ ภัณฑ์จากไม้ไผ่ 13
บทท่ี 3 วิธีการดาเนนิ งานโครงงานอาชพี 35
3.1 ตารางวางแผนกรดำเนนิ งานโครงงาน 35
3.2 ขนั้ ตอนการดำเนนิ โครงงาน 41
บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน 42
4.1 ผลการประเมินความพงึ พอใจตอ่ โครงงานอาชีพเรอื่ ง ผลติ ภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่ 42
4.2 ผลการคำนวณตน้ ทุนการผลติ และกำหนดราคาจำหน่าย
บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายและข้อเสนอแนะ
5.1 สรปุ ผลการศกึ ษา
5.2 สรปุ ผลการดำเนนิ งาน จ
5.3 อภิปรายผล
5.4 ประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั 43
5.5 ข้อเสนอแนะ 44
บรรณานกุ รม 44
ภาคผนวก 44
แบบประเมินความพงึ พอใจ
1
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ท่มี าและความสำคัญของโครงงาน
โรงเรยี นละงพู ทิ ยาคม จงั หวดั สตลู เปน็ พน้ื ทีท่ ี่มตี ้นไผ่ข้นึ เปน็ จำนวนมากซ่ึงต้นไผ่เหล่านั้นไม่มีคนตัด
นำมาใช้เป็นประโยชนจ์ ึงเปน็ ที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผูค้ นที่อยู่ในโรงเรียนได้ ทางกลุ่ม
ของข้าพเจ้าจงึ มีแนวคดิ ทีจ่ ะนำไม้ไผ่เหล่าน้นั มาทำใหเ้ กิดประโยชน์ เพ่ิมมลู คา่ ของไมไ้ ผ่ และเปน็ การทำลายที่
อยู่ของสัตวม์ ีพษิ อีกด้วย โดยนำไมไ้ ผม่ าทำเป็นผลิตภณั ฑ์ของใช้จากไม้ไผ่ ไดแ้ ก่ ว่าว โตะ๊ เกา้ อ้ี ราวไม้ไผ่ และ
โคมไฟ เพื่อเป็นการแกป้ ัญหาดงั กล่าวและเปน็ การสรา้ งรายไดร้ ะหว่างเรยี นอกี ด้วย
ทำให้ทางกลุ่มของข้าพเจ้าได้เรียนรู้ในเรื่องของการ แปรรูปไม้ไผ่เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใ ช้
ประโยชน์ได้และไดแ้ ลกเปลยี่ นภมู ิปญั ญาในการทำงาน อีกทั้งสง่ เสริมการทำงานร่วมกับผอู้ นื่ ที่มีความสามัคคี
ในหมู่คณะซึ่งเป็นการส่งเสริมกระบวนการทำงานและทักษะการแปรรูปผลิตภัณฑ์ จากการดำเนินงานของ
สมาชกิ ยังกอ่ ใหเ้ กิดกระบวนการเรียนรู้ด้วย ตนเองตามหน้าที่และยังถือไดว้ า่ เป็นการเรียนรู้ตลอดชวี ิต
1.2 วัตถปุ ระสงคข์ องโครงงาน
1.2.1 เพ่ือศกึ ษาวิธกี ารประดิษฐ์ของใช้จากไมไ้ ผ่ ได้แก่ ว่าว โต๊ะ เกา้ อี้ ราวไมไ้ ผ่ และโคมไฟ
1.2.2 เพ่อื คำนวณตน้ ทุนการผลติ และกำหนดราคาจำหนา่ ยของผลิตภณั ฑ์จากไม้ไผ่
1.2.3 เพ่อื ประเมนิ ความพึงพอใจของผูต้ อบแบบสอบถามต่อโครงงานผลติ ภัณฑจ์ ากไม้ไผ่
1.2.4. เพื่อสามารถนำผลิตภัณฑจ์ ากไม้ไผ่ไปจำหนา่ ยและเปน็ อาชีพในอนาคตได้
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
- ประดิษฐ์ผลิตภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่เปน็ วา่ ว โตะ๊ เกา้ อ้ี ราวไม้ไผ่ และโคมไฟ
1.4 วธิ ีการดำเนินการ
1.4.1 ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง
- นกั เรยี นและบุคลากรโครงการสานฝนั การกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้
1.4.2 เครอ่ื งมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
- โทรศัพท์
-คอมพิวเตอร์
-อินเตอรเ์ น็ต เว็บไซด
1.4.3 วัสดแุ ละอปุ กรณ์และเครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้ในการประดิษฐ์ของใช้จากไมไ้ ผ่ ได้แก่
-ไมไ้ ผ่
-ลวด
-กรรไกรตัดลวด
-ตลบั เมรต
2
-เลอ่ื ย
-กาว
-กระดาษ
-เครอ่ื งเจยี ร
-มดี
-ปืนยิงแม็กอดั ลม
1.5 การสร้างเครอื่ งมือทีใ่ ช้ในการศกึ ษาค้นคว้า
- แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้ตอบแบบสอบถามตอ่ โครงงานผลิตภณั ฑ์จากไมไ้ ผ่
1.6 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล
- รวบรวมขอ้ มลู จากเว็บไซด์ทเ่ี ก่ียวข้อง
1.7 การวิเคราะห์ขอ้ มูล
- วิเคราะห์ตน้ ทุนการผลติ และกำหนดราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์แต่ละชนดิ
- วิเคราะห์ผลการประเมิน
1.8 ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะไดร้ บั
1. ได้รบั ความรู้เกยี่ วกบั วธิ กี ารประดิษฐ์ของใชจ้ ากไมไ้ ผ่
2. สามารถคำนวณตน้ ทุนการผลิตและกำหนดราคาจำหนา่ ยของผลติ ภัณฑ์จากไม้ไผ่
3. ทราบผลประเมินความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามตอ่ โครงงานผลิตภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่
4. นำผลิตภัณฑจ์ ากไมไ้ ผไ่ ปจำหน่ายและเป็นอาชีพในอนาคตได้
1.9 นิยามศพั ท์
ผลติ ภณั ฑ์ คอื สง่ิ ท่ีมีรูปรา่ งหรือมคี ณุ สมบัติทางกายภาพสามารถจบั ตอ้ งได้
ไม้ไผ่ คอื ชอ่ื ไมพ้ ุ่มหลายชนิดและหลายสกลุ ในวงศ์
3
บทที่ 2
เอกสารท่เี กย่ี วขอ้ ง
ในการจัดทำโครงงานอาชีพ เรื่อง ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ผู้จัดทำได้ศึกษาตำรา ค้นคว้าหาความรู้
รวบรวมข้อมลู เอกสารท่ีเกย่ี วขอ้ ง ดงั นี้
2.1 ความรเู้ รอื่ งโครงงานอาชีพ
2.1.1 ความหมายและความสำคัญของโครงงานอาชพี
ความหมาย
โครงงาน หมายถึง กจิ กรรมการศึกษาวิชาการงานทส่ี ง่ เสริมสนับสนนุ ใหน้ ักเรียนไดเ้ ลือกข้ึนมาศึกษา
ค้นควา้ ริเริ่มสร้างสรรคผ์ ลงานตามทีต่ นเองมคี วามถนัด มคี วามพร้อมและสนใจ แล้วลงมอื ปฏิบัติให้บรรลุตาม
จดุ มุ่งหมายท่ีกำหนดไว้ โดยมีรายละเอียดของงานทจ่ี ะทำไว้ลว่ งหนา้ เป็นขั้นตอน พรอ้ มทง้ั คาดการณ์ผลท่ีจะ
เกิดข้นึ ทงั้ น้โี ดยได้คำแนะนำปรึกษาจากครอู าจารยใ์ นโรงเรียนตนเอง
ความสำคัญของโครงงานอาชพี
โครงงานอาชีพมคี วามสำคัญต่อนักเรียน ดังน้ี
1. ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเร่ิมงานที่จะนำไปสู่งานอาชีพ และการศึกษาต่อที่ตนเองมีความ
ถนัด และสนใจ
2. สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏบิ ัตจิ รงิ ด้วยชีวิตจริง ส่งผลให้เกิดความเขา้ ใจอย่างซาบซ้งึ ใน
โครงงานทีส่ รา้ งสรรคข์ ้ึนมา
3. ไดม้ ีโอกาสทดสอบความถนดั ของตนเอง และการแก้ปัญหาในงานท่ีตนเองสนใจ และมีความพร้อม
สง่ ผลให้เกดิ ความมั่นใจในการดำเนินงานต่อไป
4. ก่อใหเ้ กดิ ความภาคภูมิใจท่ไี ด้สรา้ งเกียรตปิ ระวัติในโครงงานท่ีได้รเิ ร่ิมสร้างสรรค์
5. ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันดีงามต่อกันในระหว่างเพื่อนนักเรียนท่ี
ปฏบิ ตั ิงานเป็นกลุ่ม
6. กอ่ ให้เกิดความรู้ทางวชิ าการท่ีกวา้ งขวางข้ึน โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งไดร้ บั ความสำเรจ็ ในการศึกษาตาม
หลักสตู รและตรงกับจุดหมายทก่ี ำหนดไว้
7. กอ่ ใหเ้ กิดกระบวนการเรยี นรดู้ ้วยตนเองทส่ี ามารถนำไปใช้ไดจ้ ริงในชีวติ ประจำวนั ที่กอ่ ให้เกิดอาชพี
8. ก่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบท่ีส่งเสริมความคดิ สร้างสรรค์ที่มผี ลต่อการต่อยอดผลติ ภัณฑ์
โครงงานอาชพี ที่นำไปสคู วามสำเร็จ
9. ก่อใหเ้ กดิ รายได้ในระหว่างเรยี นเปน็ การแบง่ เบาภาระของผปู้ กครอง และเปน็ การใชเ้ วลาว่างให้เกดิ
ประโยชน์
4
2.1.2 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานอาชพี
ขอบขา่ ยของโครงงาน ดำเนนิ งานโดยนักเรียนเป็นผ้รู เิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ และครอู าจารย์เป็นผใู้ ห้
คำแนะนำปรึกษา สรุปได้ดงั น้ี
1. เป็นกิจกรรมการศึกษาที่นักเรียนศึกษาค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเอง โดยอาศัยหลักวิชาการ
ทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์ และกจิ กรรมต่างๆ ท่ีไดพ้ บเหน็ มาแล้ว
2. นกั เรียนทุกคนพจิ ารณาจัดทำโครงงานดว้ ยตนเอง หรือเป็นกลุ่ม จำนวน ๖-๗ คนตอ่ กลุ่ม โดยใช้
ระยะเวลาส้ันๆ เป็นภาคเรียน
3.นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริม่ สรา้ งสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้าคว้าปฏิบัตดิ ้วยตนเองตาม
ความถนดั สนใจ และความพร้อม
4. นักเรียนเปน็ ผูเ้ สนอโครงงาน รายละเอยี ดของโครงงาน แผนปฏบิ ัติงานและการแปรผล รายงานผล
ต่อครู-อาจารย์ที่ปรึกษา เพือ่ ดำเนนิ งานรว่ มกนั ใหบ้ รรลจุ ุดหมายทีก่ ำหนดไว้
5. เป็นโครงงานทเี่ หมาะสมกบั ความรู้ ความสามารถของนกั เรียนตามวยั และสตปิ ัญญา รวมท้ังการใช้
จ่ายเงินดำเนินงานดว้ ย
2.1.3 ประเภทของโครงงานอาชพี
โครงงานอาชพี สามารถแบง่ แยกประเภทได้ดังน้ี
1. ประเภทพัฒนาผลงาน เป็นโครงงานที่เกิดจากการศึกษาเนื้อหาทางวิชาการ หรือหลัก
ทฤษฎีเกี่ยวกับวิชาการงานและอาชีพหรือวิชาสามัญต่างๆแล้วนำมาปรับปรุงและพัฒ นาให้ สอดคล้องกับ
แนวทางทฤษฎีดังกล่าว ส่งผลให้มีผลงานเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น เช่น เมื่อนักเรียนได้ ศึกษาทฤษฎีเกี่ยวกับ
แสงอาทติ ย์ นกั เรียนอาจทำโครงงานสรา้ งเครื่องอบกล้วยด้วยแสงแดด การ ผลิตเอกสารรูปแบบ ต่างๆ
เปน็ ตน้
2. ประเภทศึกษา ค้นคว้า ทดลอง เป็นโครงงานทีเ่ กดิ ขึน้ จากการศึกษาหลักการ ต่างๆ ทาง
วิชาการแลว้ นำมาทดลองคน้ ควา้ เพ่ือยืนยันทฤษฎีหรอื หลักการ หรอื ต้องการทราบแนวทางเพม่ิ คุณค่าและ
การใชป้ ระโยชนใ์ หม้ ากยิง่ ข้นึ เชน่ การศึกษาสูตรอาหารไก่ตอน การศกึ ษาขนมอบชนิด ตา่ งๆ เปน็ ตน้
3. ประเภทสร้างสิ่งประดิษฐ์ เป็นโครงงานสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆขึ้นมาหลงั จากที่ได้
ศึกษาทางทฤษฎี หรือพบเหน็ ผลงานของผู้อ่นื แลว้ เกดิ ความคิดสรา้ งสรรค์ที่จะพัฒนาต่อไป จงึ ป ร ะ ด ิ ษ ฐ์
คดิ ค้นใหส้ ามารถใช้ประโยชน์ได้ดีย่งิ ขึน้ เช่น การประดิษฐ์ของชำรว่ ย การประดษิ ฐเ์ ครอ่ื งเสยี ง เปน็ ต้น
4. ประเภทสำรวจขอ้ มลู เป็นโครงงานศกึ ษาสำรวจข้อมลู สำหรับดำเนินงานพัฒนาปรบั ปรุง
เพิ่มเตมิ ผลงานและส่งเสรมิ ผลผลติ ให้มีคณุ ภาพดีย่ิงข้นึ ขอ้ มูลดงั กล่าวอาจมี ผู้จัดทำขึ้นแต่มีการแปร
เปลี่ยนไปแล้ว ต้องทำการสำรวจจัดทำขึ้นใหม่ให้ทันสมัยอยู่เสมอ เช่น การสำรวจราคาผลผลิตเกษตรใน
ท้องถิน่ การสำรวจปรมิ าณการออกหาปลาในทอ้ งถ่นิ
5
2.1.4 การพจิ ารณาการจัดทำโครงงานอาชพี
การพิจารณาทำโครงงานเป็นการดำเนินงานที่ต้องตัดสินใจทำโครงงานให้บรรลุตาม
จุดประสงคท์ ี่กำหนดไว้ มีองคป์ ระกอบท่สี ำคญั ดังนี้ คือ
1.การเลอื กหัวขอ้ เร่อื งโครงงานอาชีพ
2.การศกึ ษาขอ้ มลู ของโรงงานอาชีพ
3.การวเิ คราะห์โครงงานอาชพี
2.1.5 การเลอื กหวั ข้อเรอื่ งโครงงานอาชพี มหี ลักการพจิ ารณา ดงั น้ี
1. สำรวจความถนัด ความพรอ้ มและความสนใจ หมายถึง การพิจารณาตนเองวา่ มคี วามถนดั
ความพร้อมและความสนใจที่จะทำโครงงานในการในเรือ่ งท่ีตนเอง มคี วามชอบ และรกั ที่จะทำอยา่ งแท้จริง
2. สำรวจสิ่งอำนวยความสะดวก หมายถงึ การสำรวจข้อมูลตา่ งๆ ที่จะอำนวยความสะดวก
ให้การทำโครงงานไดด้ ำเนินไปอย่างราบร่ืน ทำใหโ้ ครงงานได้รับความสำเรจ็ ด้วยดี
3. สังเกตสภาพแวดล้อม หมายถึง การสังเกตสิ่งต่างๆ ที่อยู่ใกล้สภาพแวดล้อมที่สามารถ
ดำเนนิ งานตามโครงงาน มีผลกระทบตอ่ โครงงานท่ีทำใหเ้ กดิ ผลดหี รือเสียหายและเอ้ืออำนวยต่อ การ
ปฏิบัติงานอย่างไร
2.1.6 การศึกษาขอ้ มูลของโครงงานอาชีพ
การศึกษาข้อมูลโครงงาน เป็นงานที่สนับสนุนให้งานที่ปฏิบัตสิ ำเรจ็ ลุลว่ งไปได้ด้วยดี ทำให้
เกิดแนวความคิดและประสบการณ์อย่างหลากหลาย โดยศึกษาข้อมูลได้จากแหล่งต่างๆ เช่น การเยี่ยมชม
กิจการตามแหล่งวิชาการ การฟังคำบรรยายทางวชิ าการ การศกึ ษาผลงานของผอู้ ื่น การสนทนากบั เพ่ือน การ
เข้าชมนทิ รรศการ การสงั เกตสิง่ ทพ่ี บเห็นในชีวิตประจำวนั งานอดเิ รกที่ตนเองชอบ เป็นตน้
2.1.7 การวิเคราะห์โครงงานอาชพี
เป็นการวเิ คราะห์โครงงานทีต่ นเองหรอื กลุ่มกำหนดไว้ โดยต้องเลอื กเอาโครงงานอาชีพท่ีตน
หรือกลุ่มเห็นว่าน่าทำที่สุด โดยกำหนดรายการต่างๆ ที่จะนำมาเคราะห์เพื่อเรียงลำดับ เช่น ความรู้ และ
ประสบการณใ์ นโครางงาน ความต้ังใจ สนใจ และความจริงใจ เครอ่ื งมอื และวัสดุ อปุ กรณ์ ความเหมาะสมของ
สถานท่ปี ฏบิ ัตงิ าน ความเห็นชอบของครู อาจารย์ทป่ี รึกษา การสนับสนนุ ของเพอื่ นในกลุม่ การขยายโครงงาน
ผลกระทบตอ่ สภาพแวดลอ้ ม และความสะดวกตา่ งๆในการปฏบิ ัติงาน เป็นตน้
2.1.8 ทกั ษะกระบวนการ
ทกั ษะกระบวนการ หมายถงึ กระบวนการทำงาน ท่ดี ำเนนิ การเป็นขน้ั ตอนอยา่ งคล่องแคล่ว
แม่นยำจนบรรลผุ ลท่ีต้องการอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยใช้เวลาและทรัพยากรนอ้ ยทส่ี ดุ
การทำงานหรอื โครงงานใดๆ อาจดำเนนิ การตามหลักของทกั ษะกระบวนการไดเ้ สมอทักษะ
กระบวนการมี 9 ข้อ ดังนี้
1.ตระหนักในปญั หา และความจำเปน็
2.คดิ วเิ คราะห์วิจารณ์
6
3.สรา้ งทางเลือกอยา่ งหลากหลาย
4.ประเมนิ และเลือกทางเลอื ก
5.กำหนดและลำดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิ
6.ปฏิบัตดิ ้วยความชน่ื ชม
7.ประเมนิ ระหว่างปฏิบตั ิ
8.ปรับปรุงให้ดีขน้ึ อยู่เสมอ
9. ประเมนิ ผลรวมเพ่ือให้เกิดความภาคภมู ใิ จ
2.2 การคดิ ต้นทุน – กำไร และการกำหนดราคาจดั จำหน่าย
2.2.1 การกำหนดราคาขาย
การกำหนดราคาขาย เป็นหน้าทีข่ องเจ้าของกิจการนั้นๆ ซึ่งอาจมอบให้ผู้หนึ่งผู้ใดทำหนา้ ท่ี
รับผิดชอบต่อผลกำไรสุทธิของธรุ กจิ นั้น หรือเจา้ ของกจิ การเปน็ ผู้ดำเนนิ การเอง การขายสินคา้ ใดกต็ าม ผู้ขาย
ต้องกำหนดราคาขายให้เหมาะสมกับชนิดและประเภทของอาหาร โดยเพิ่มส่วนที่เป็นกำไรไว้ด้วย ราคาจึง
กำหนดราคาขายให้เหมาะสมกับชนิดและประเภทของอาหาร โดยเพิ่มส่วนที่เป็นกำไรดว้ ย ราคาขายจึงมกั
กำหนดขน้ึ จากราคาต้นทุน ซงึ่ เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยตา่ งๆ ในการดำเนนิ ธุรกิจ นั้นๆ เช่น วัตถุดิบ ค่าแรง ค่าสึกหรอ
ของอปุ กรณ์ เคร่ืองมือเคร่ืองใช้ ฯลฯ และบวกกำไรท่ีตอ้ งใชเ้ ขา้ ไป
การกำหนดราคาขายไม่ควรตั้งราคาให้สูงเกินไปเพื่อใหเ้ หมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปจั จุบัน
และสภาพของท้องถ่นิ ตลอดจนสะดวกตอ่ การประกอบกจิ การให้เจริญกา้ วหนา้ และคง สภาพอยู่ได้นาน สิ่งที่
ผปู้ ระกอบการควรพิจารณาในการกำหนดราคาขายอาหารแตล่ ะชนดิ คือ
1. ราคาอาหารทรี่ ะบุครอบคลุมตน้ ทนุ ทกุ ชนดิ ของการดำเนินงาน
2. ผู้ใช้บรกิ ารได้รบั ผลตอบแทนท่ีเหมาะสมและคุม้ คา่ กบั เงนิ ทีจ่ า่ ย
3. ราคาขายใหผ้ ลกำไรแกส่ ถานประกอบการในปรมิ าณท่ีเหมาะสม
2.2.2 องค์ประกอบของการกำหนดราคาขาย
1. ทุน หมายถึง การใชจ้ ่ายตา่ งๆ ในการดำเนินกิจการนน้ั
1.1. ค่าวัสดุของสดและวสั ดขุ องแห้งที่ใชป้ ระกอบการ
1.2. ค่าเชื่อเพลงิ คา่ น้ำ คา่ ไฟ
1.3. ค่าแรงในการทำงาน แมเ้ ป็นแรงงานลูกหลาน ญาติพนี่ ้องในบ้านก็ตามต้องคิด
คา่ แรงเปน็ ทุนด้วยทุกคน ตามอัตราค่าแรงรายวัน
1.4. ค่าสกึ หรอของอปุ กรณเ์ ครื่องใช้ (คิด ๑๐% ของราคาต่อปี)
1.5. ค่าภาชนะทใี่ ชบ้ รรจอุ าหาร (กรณีท่ขี ายพรอ้ มภาชนะ)
1.6. คา่ บริการ
1.7. ค่าเชา่ สถานท่ี
1.8. ค่าภาษี
7
2. การคิดราคาขาย ควรคำนึงถึงสงิ่ ตอ่ ไปน้ี
2.1. คณุ ภาพของอาหาร คณุ ภาพของอาหารดีย่อมมรี าคาแพง
2.2. สถานที่จำหน่าย มีสิ่งตกแต่งหรืออำนวยความสะดวก ราคาก็ย่อมแพงตาม
วตั ถดุ ิบทีส่ ูงข้นึ ในปจั จบุ นั
2.3. กำลังซ้อของผู้บริโภค ถ้ากำลังซอื้ ไม่ดี ราคายอ่ มถกู
2.2.3 กำไร
หมายถงึ เงินสว่ นทีไ่ ด้รบั เกินจากทุน หรอื ราคาสินคา้ ดังนั้นในการกำหนดราคาขายต้องรวม
สว่ นน้ีกบั ทนุ การคิดกำไรขึน้ อย่กู บั ผู้จำหน่ายจะคดิ 10-50-100
2.2.4 การคิดตน้ ทนุ กำไร ในการประกอบอาหาร
การคิดต้นทุน กำไร ในการประกอบอาหาร จะต้องพิจารณาลักษณะของการขายชนิดของ
อาหารท่ขี าย โดยพิจาณาองค์ประกอบในการกำหนดราคาขายดว้ ย
2.2.5 การทำบัญชี
การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย หมายถึง การจดบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับการเงินหรอื
อย่างน้อยที่สดุ บางสว่ นเกีย่ วข้องกับการเงิน โดยผ่านการวิเคราะห์ จัดประเภทและบันทึกไว้ในแบบฟอร์มท่ี
กำหนด เพื่อแสงฐานะการเงิน โดยผ่านการวิเคราะห์ จัดประเภทและบันทึกไว้ในแบบฟอร์มที่กำหนด เพ่ือ
แสดงฐานะการเงิน และผลการดำเนนิ งานของกิจการในชว่ งระยะหนง่ึ
2.2.6 ประโยชน์ของการจัดทำบัญชีรายรบั -รายจ่าย
1. เพ่ือเปน็ หลกั ฐานประกอบการดำเนนิ กิจการ เพ่ือให้ทราบว่ามที รพั ย์สนิ หนีส้ ิน และ
เงนิ ทุนเป็นจำนวนเท่าใด
2. เพื่อเปน็ หลกั ฐานในการสำรวจสอบเงินสดกับยอดบัญชีวา่ ถูกตอ้ งหรือผิดพลาดอย่างไร
3. เปน็ สถติ ิชว่ ยในการบริหาร การควบคุมในการทำงบประมาณ เพือ่ ใหผ้ ลงานมี
ประสิทธิภาพดยี ่งิ ขึน้
4. ช่วยเป็นหลกั ฐานในการบรหิ ารงาน เพื่อปอ้ งกนั ความผิดพลาดที่เกิดขนึ้ อีก
5. ช่วยในการคำนวณผลการดำเนนิ งานวา่ มกี ำไรหรอื ขาดถนุ อย่างไร
6. ชว่ ยให้ทราบฐานะการเงินของกิจการว่า สินทรัพย์ หนส้ี ิน และเงินทนุ ในขณะใด
ขณะหน่ึงเป็นจำนวนเทา่ ใด (สาหมาย พงศ์เศรษฐ์กุล,2556-90)
จากการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงงานอาชีพ สรุปว่า โครงงานอาชีพเป็นกิจกรรม
การศกึ ษาวิชาการงานอาชีพทส่ี ง่ เสรมิ สนบั สนนุ ให้นกั เรียนไดเ้ ลอื กขนึ้ มาศกึ ษาคน้ ควา้ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ผลงาน
ตามที่ตนเองถนัด โดยมีความสำคัญ คือ ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเร่ิมที่นำไปสู่งานอาชีพ สร้างเสริม
ประสบการณจ์ ากการปฏบิ ตั ิจรงิ ไดม้ ีโอกาสทดสอบความถนัด และการแกไ้ ขปัญหาในงานทตี่ นเองสนใจ และ
ในการศึกษาในคร้งั นี้ ผู้จัดทำได้เลือกประเภทโครงงาน คือ โครงงานประเภทศกึ ษา ค้นคว้า ทดลอง โดย
การทดลองทำผลติ ภัณฑ์จากปลากะตงั ที่นำไปสู่การประกอบอาชพี และการมีรายได้
8
2.3 ความร้เู รือ่ งการประดษิ ฐ์ผลติ ภัณฑ์
2.3.1 ความหมายของการประดษิ ฐ์
การประดิษฐ์ (Invention) หมายถึง ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับ ลักษณะองค์ประกอบ
โครงสร้างหรอื กลไกของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งกรรมวธิ ใี นการผลติ การรักษา หรือปรับปรงุ คุณภาพของผลติ ภณั ฑใ์ ห้
ดีขนึ้ หรอื ทำใหเ้ กดิ ผลติ ภณั ฑ์ขึน้ ใหม่ ทแ่ี ตกต่างไปจากเดมิ
(การประดิษฐ์ผลิต. สบื คน้ เมอื่ วันที่ 15 กันยายน 2564 จาก http://tuipi.tu.ac.th/tuip01.php )
จากการศึกษาความรู้เรื่องการประดิษฐ์ สรุปได้ว่า การประดิษฐ์เป็นการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบหรือ
ผลผลิตใหเ้ กิดเปน็ ผลิตภณั ฑใ์ หม่ๆ มีวธิ ีการทำไดห้ ลายข้นั ตอน สามารถก่อให้เกดิ อาชีพใหมแ่ ละชว่ ยแกปัญหา
ราคาผลิตตกต่ำได้ ผู้จัดทำได้นำความรู้ไปใช้ในการประดิษฐ์จากไม้ไผ่ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทีประโยชน์และมี
คณุ ภาพ สามารถจัดจำหนา่ ยเพอื่ หารายได้ในระหวา่ งเรยี นและสามารถนำไปประกอบอาชีพไดใ้ นอนาคต
2.4 ความรูเ้ รือ่ งไมไ้ ผ่และผลติ ภณั ฑ์จากไม้ไผ่
ไม้ไผ่ เปน็ ไมท้ ี่ขึ้นงา่ ยและเติบโตเรว็ ขน้ึ ได้ดีในทกุ สภาวะอากาศดำรงอยู่ได้ในพืน้ ดนิ ทุกชนิด ทสี่ ำคัญ
คือ ไผเ่ ป็นพนั ธ์ุไม้ทีอ่ ำนวยประโยชน์หลายประการ ทง้ั ประโยชนท์ างตรงและทางอ้อม และเปน็ พืชที่ลำต้นก่ิงมี
ลกั ษณะแปลกสวยงาม ไผเ่ ปน็ ไมท้ ่ตี ายยาก ถา้ ไผ่ออกดอกเมอ่ื ใดจึงจะตาย แตก่ ย็ ากมากและนานมากท่ีไผ่จะ
ออกดอก ไม้ไผ่มปี ระโยชนม์ ากกับคนเราคนเราสามารถนำไม้ไผม่ าสร้างบ้านท่อี ยู่อาศัย และทำเคร่ืองจักสาน
อื่นๆอีกมากมายสำหรับไมไ่ ผ่นัน้ ใช้ได้ทุกสว่ นตัง้ แต่ หน่อ ลำต้น ใบ ราก เยื่อไผ่ ขุยไผ่ มีประโยชน์ใช้สอยใน
ชีวิตประจำวัน ในปัจจุบันเราสามารถนำไม้ไผม่ าจักรสานทำเป็นอาชีพหารายได้ให้แก่ครอบครัว และยังเปน็
งานที่เราส่งออกไปขายอยู่นอกประเทศสำหรบั คนไทยเราแล้ว งานที่ใช้ฝีมือถือว่าเป็นงานที่ประณีตระเอียด
และสวยงามมาก
2.4.1 ลักษณะของไม้ไผ่
ไผเ่ ป็นพรรณไม้ยนื ตน้ ลำต้นแตกเป็นกอเปน็ ไม้พุ่มขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ กอหน่ึงมีประมาณ
20-50ตน้ ลำตน้ มคี วามสูงประมาณ 5 - 15 เมตรลกั ษณะลำตน้ เปน็ ขอ้ ปล้องผิวเกลยี้ งแข็งมสี ีเขียวหรือเหลือง
แถบเขียวลักษณะของขอ้ ปล้องขนาดและ สขี ึ้นกบั ชนดิ พนั ธุ์ใบเปน็ ใบเดย่ี วยาวแคบลักษณะคลา้ ยรูปหอกขอบ
ใบเรียบผิวใบสีเขยี วมีขนอ่อนๆคลุมบนผวิ ใบขนาด ใบกวา้ งประมาณ 1 - 2 นิ้วยาวประมาณ512นวิ้ หรือขึ้นกับ
ชนิดพันธุ์ออกดอกเป็นช่อตามปลายยอดบริเวณข้อปล้องเมื่อดอกแห้งก็จะตายไป ผลหรือลูกคล้ายเมล็ด
ข้าวสาร
2.4.2 สรรพคุณและประโยชน์ไมไ้ ผ่
ประโยชนข์ องไมไ้ ผ่
1.ดา้ นการอนรุ กั ษ์ธรรมชาติ
- ปอ้ งกนั การพงั ทลายของดินตามริมฝ่งั
- ช่วยเป็นแนวป้องกันลมพายุ
- ชะลอความเรว็ ของกระแสน้ำป่าเม่อื ฤดนู ำ้ หลากกนั ภาวะน้ำท่วมฉบั พลนั
9
- ให้ความรม่ รื่น
- ใชป้ ระดบั สวน จดั แตง่ เปน็ มมุ พักผ่อนหยอ่ นใจในบ้านเรอื น
2.ประโยชนจ์ ากลกั ษณะทางฟสิ ิกส์
จากความแข็งแรง ความเหนียว การยืดหด ความโค้งงอ และการสปริงตวั ซึง่ เปน็ คณุ ลกั ษณะ
ประจำตวั ของไมไ้ ผ่ เราสามารถนำมนั มาใชเ้ ปน็ วัสดเุ สริมในงานคอนกรตี และเปน็ ส่วนตา่ งๆ ของการ
สร้างที่อยอู่ าศัยแบบประหยดั ได้เป็นอยา่ งดีอีกดว้ ย
3. ประโยชน์จากลักษณะทางเคมีของไมไ้ ผ่
- เน้ือไผใ่ ชบ้ ดเปน็ เย่ือกระดาษ
- เสน้ ไยใชท้ ำไหมเทียม
- เนื้อไผบ่ างชนิดสามารถสกัดทำยารกั ษาโรคได้
- ใชใ้ นงานอตุ สาหกรรมนานาชนิด
4 การใชไ้ ม้ไผ่ในผลติ ภัณฑ์หัตถกรรม และอสุ าหกรรม แบง่ ออกได้ ดงั น้ี ผลติ ภัณฑเ์ ครอ่ื งจกั สาน
จากเส้นตอก ไดแ้ ก่ กระจาด กระบงุ กระด้ง กระเช้าผลไม้ ตะกรา้ จ่ายตลาด ชะลอม ตะกรา้ ใส่
ขยะ กระเป๋าถือสตรี เขง่ ใส่ขยะ เครอื่ งมือจบั สตั วน์ ้ำ เช่น ขอ้ งใสป่ ลา ลอบ ไซ ฯลฯ
ผลติ ภัณฑ์จากลำต้น และกิง่ ของไม้ไผ่ ได้แก่ เกา้ อ้ี โตะ๊ ชั้นวางหนังสอื ทำดา้ มไมก้ วาด ไม้เท้า คนั เบ็ด
ราวตากผ้า โครงสรา้ งบา้ นสว่ นตา่ งๆ ทำแคร่ น่งั ร้านกอ่ สร้าง ทอ่ สง่ น้ำ รางน้ำ
ผลิตภณั ฑจ์ ากเนื้อไมไ้ ผ่ ไดแ้ ก่ ถาดใสข่ นม ทัพพีไม้ ตะเกยี บ ไมเ้ สยี บอาหาร
กรอบรปู ไมก้ ้านธปู ไม้พาย ไม้เกาหลัง เคร่อื งดนตรี พืน้ บา้ น ไมบ้ รรทดั
ผลติ ภณั ฑท์ ไ่ี ด้จากไผ่ซกี ไดแ้ ก่ โครงโคมกระดาษ โครงพัด โครงร่ม ลกู ระนาด
คันธนู พ้นื มา้ นั่ง แผงตากปลา สมุ่ ปลา สมุ่ ไก่
5. ประโยชน์ทางด้านการบริโภค เช่น การนำหนอ่ ไม้ไผม่ าทำเปน็ อาหาร ไมว่ ่าจะเป็นซบุ แกง ต้ม หรือ
นำมาดองจมิ้ น้ำพรกิ
สรรพคุณของหน่อไม้
-ลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ป้องกันอาการท้องผูก ช่วยย่อยอาหาร เป็นสรรพคุณทีเ่ ห็นผลมาก เพราะ
หน่อไม้เปน็ อาหารทใ่ี ห้เสน้ ใยสงู จงึ ช่วยกระตุ้นการบบี ตัวของลำไส้ เมื่อหนอ่ ไม้ผ่านการย่อยร่างกายจะดูด
ซึมสารอหารเขา้ สกู่ ระแสเลอื ด สว่ นกากอาหารทเ่ี หลอื หรอื สารพิษตา่ งๆ เช่น ยาฆ่าแมลงหรอื โลหะหนัก
จะไปรวมกนั ทล่ี ำไส้ใหญ่ แตถ่ ้ามกี ากใยอาหารมากๆ กากใยอาหารเหล่าน้จี ะช่วยดูดน้ำและเพ่ิมปริมาณ
ทำใหก้ ากอาหารมีน้ำหนักมากจะเคลื่อนออกสู่โลกภายนอกไดเ้ รว็ กากใยอาหารจึงช่วยลดการเกิดมะเร็ง
ลำไสใ้ หญ่
-แก้กระหาย ขบั ปสั สาวะ ละลายเสมหะ แกไ้ อ บำรุงกำลงั แก้อาการร้อนตา่ งๆ ไดด้ ี เพราะมีฤทธ์ิเย็น
เช่นเดยี วกบั เหด็
-ขับพิษใต้ผวิ หนัง ขับผ่นื หัดรวมถงึ ผืน่ ชนดิ อ่ืนๆ เพียงด่มื น้ำแกงท่ไี ดจ้ ากการตม้ หน่อไมร้ ่วมกบั ปลา
ตะเพยี น
10
-แก้โรคบดิ เรอ้ื รงั ได้
นอกจากหนอ่ ไม้สดจะมคี ณุ ค่าทางอาหารสูงแลว้ ตัวหน่อไมด้ องเองแมจ้ ะไมม่ ีคณุ ค่าทางอาหาร แต่
ยังมคี ุณค่าแฝงอยอู่ กี คอื จะมีแบคทเี รยี ในหน่อไม้ดองทช่ี ่ือ คลอสทรเิ ดยี เปน็ แบคทีเรียท่ีปนอยู่ในดิน
เจริญเตบิ โตไดด้ ใี นสภาวะไรอ้ อกซเิ จน เชน่ ในอาหารจำพวกของหมักดองทั้งหลายและรวมทง้ั อาหาร
กระปอ๋ งท่ีไมไ่ ดผ้ ่านกระบวนการทำลายแบคทเี รียอยา่ งถกู วิธี แบคทเี รียชนดิ นี้มีพษิ แตม่ นั กม็ ปี ระโยชน์
ซง่ึ สำนกั งานอาหารและยา หรอื FDA ของสหรฐั อเมริกาอนญุ าตใหน้ ำแบคทเี รียนีไ้ ปผา่ นกระบวนการ
แยกเอาสารพิษออกแลว้ ทำใหเ้ จอื จาง เพอ่ื นำไปใช้ในการบำบัดรักษาโรคท่เี ก่ียวกับกล้ามเนือ้ โดยตั้งชือ่
ใหม่วา่ โบทอ็ ก (Botox)
ท่ีมา http://xn--72ca4b1a1axb6ltdxa9bt.blogspot.com/2013/11/blog-post_26.html
2.4.3 ลักษณะของวา่ ว
ว่าว เปน็ ของเล่นชนิดหนึ่งที่มนษุ ยป์ ระดษิ ฐข์ ้ึนเพื่อใหล้ อยอยใู่ นอากาศไดด้ ้วยแรงลมและมี
สายปา่ นคอยบังคบั ให้ลอยอยใู่ นทิศทางท่ีตอ้ งการ โดยเร่ิมจากประเทศจนี โดยใช้ไมไ้ ผแ่ ละผ้าไหมเป็น
อปุ กรณ์ ตอ่ มาได้ประดษิ ฐว์ า่ วในหลายรูปแบบตามวฒั นธรรมของหลายประเทศ เชน่
ว่าวไทย ในอดีตมีกลา่ วอยู่ในพงศาวดารเหนอื วา่ พระรว่ งทรงเล่นวา่ วอย่างไม่ถือพระองค์ว่า
เป็นท้าวพระยา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 1893 – 2310) ก็มีการเล่นว่าวกันมากถึงกับมีกฎ
มณเฑียรบาลห้ามมิใหป้ ระชาชนเลน่ วา่ วทับพระราชวัง ต่อมาในสมัยกรงุ รัตนโกสนิ ทร์ กม็ กี ารเลน่ วา่ ว
ดังเชน่ ในสมัย กม็ ีการเลน่ วา่ ว เชน่ ในรัชกาลท่ี 5 กโ็ ปรดใหใ้ ช้สถานทีใ่ นพระราชวังดสุ ติ และสนามเสอื
ป่าเป็นทีเ่ ล่นวา่ วจุฬากับปักเป้า เป็นต้น ว่าวของไทยท่ีทำข้ึนเล่นกันเป็นพื้นมีอยู่ 4 ชนิดด้วยกัน คือ
วา่ วอีลุม วา่ วปกั เป้า วา่ วจุฬา และวา่ วต๋ยุ ตยุ่
วา่ วอลี มุ้ มลี ักษณะเป็นรูปสเี่ หลยี่ มขนมเปยี กปนู มีไมไ้ ผเ่ ปน็ โครงสองอนั คอื อกและปกี อกจะ
สั้นกว่าปีกเล็กน้อย กระดาษทีใ่ ช้ปิดทาบลงบนโครงนี้ คือกระดาษวา่ ว ซึ่งบางเป็นพิเศษ ส่วนปลาย
ของปกี ทัง้ สองขา้ งจะติดพกู่ ระดาษเพ่ือช่วยในการทรงตวั ในขณะทวี่ า่ วลอยอยใู่ นอากาศ มหี างสำหรบั
ถ่วงนำ้ หนกั ปอ้ งกันไม่ใหว้ า่ วส่ายไปมา
วา่ วปกั เปา้ มลี ักษณะเช่นเดียวกบั วา่ วอลี มุ แต่ไม้สว่ นโครงท่เี ปน็ ปีกจะแข็งกว่าปกี ของอลี ้มุ
มาก จึงต้องมีหางที่ทำด้วยผ้าเป็นเส้นยาวถ่วงอยู่ที่ส่วนก้น เมื่อชักข้ึนไปลอยอยู่ในอากาศแล้วจะไม่
ลอยอยู่เฉยๆจะส่ายตัวไปมาน่าดูมากและเมือถูกคนชักกระตุกสายเชือกป่านตามวิธีการแล้ว มันจะ
เคล่ือนไหวโฉบเฉยี่ วไปมาทา่ ทางต่างๆตามตอ้ งการ
ว่าวจุฬา มลี ักษณะเป็น 5 แฉก ประกอบเปน็ โครงขนึ้ ดว้ ยไม้ 5 อนั นกั เลงว่าวจะเสาะหาไม้
ไผ่สีสกุ ท่ีมีปลอ้ งยาวเรยี ว เรียกว่า “เพชรไม้” มาเหลา อันกลางเรยี กวา่ “อก” เหลาปลายเรยี วหวั ทา้ ย
1 อัน อีก 2 อัน ผูกขนาบตัวปลายให้จรดกันเป็นปีก และอีก 2 อัน เป็นขาว่าวเรียกว่า “ขากบ”
จากน้นั ขึงดา้ ยเปน็ ตารางตลอดตัวว่าว เรยี กวา่ “ผูกสกั ” แลว้ ใช้กระดาษสาปิดทบั ลงบนโครง สำเร็จ
เป็นวา่ วจุฬา ถ้าหากไม่ถกู สัดส่วนแล้ว ว่าวจะไมอ่ าจลอยตัวขึ้นได้เลย
11
วา่ วดุ้ยดุ่ย มรี ปู รา่ งแบบเดียวกบั วา่ วจุฬาแตข่ ากบเปน็ รปู เดยี วกับปกี ติดอยู่ซอ้ นกัน สว่ นบน
ใหญส่ ว่ นล่างจะเลก็ สุดตวั ตอนลา่ งมีไมข้ วางอกี อันหนงึ่ สำหรบั ผกู หาง ซงึ่ มีสองหางชว่ ยในการทรงตัว
เมื่อลอยขึ้นไปอยู่ในอากาศ ส่วนบนของหัว ไม้อันท่ีเป็นอกยื่นออกมาในราวหนึ่งคืบ เป็นเดือยใน
ลักษณะสเ่ี หลย่ี มเพื่อเสยี บทท่ี ำเสียง ซงึ่ เปน็ คนั เหมือนที่ทำกระสุนหรือธนู ทำด้วยไมไ้ ผ่ เจาะรูให้เป็น
สี่เหลี่ยม กึ่งกลางคันให้พอดีกับเดือยสี่เหลี่ยมที่ยืน่ ออกมา ตัวกลางที่ทำให้เกิดเสียงนัน้ ใช้ไม้ไผ่หรือ
หวายเส้นโตๆ เหลาให้เปน็ แผ่นบางๆ แล้วเอาปลายเชอื กสองข้างผกู ตดิ กบั ปลายคัน เม่อื ติดเคร่ืองทำ
เสยี งนี้แล้วก็จดั การให้ว่าวขึน้ ไปลอยอยู่บนอากาศ ไมไ้ ผห่ รอื หวายแผน่ บางๆท่ีถกู ขงึ อยู่นนั้ เมอื่ สายลม
มาปะทะ กจ็ ะพลวิ้ ตวั ทำใหเ้ กดิ เสยี งดังต๋ยุ ตยุ่ อยตู่ ลอดเวลา ว่าวน้ที ำเล่นกันตามชนบท โดยมากพระ
เปน็ ผู้ทำ นิยมชกั ข้ึนในเวลากลางคืน
ทีม่ า https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7
2.4.4 ลกั ษณะของโต๊ะ
โต๊ะ เปน็ เครอ่ื งเรือนท่ีมพี นื้ ผวิ ด้านบนเรยี บขนานกบั พน้ื รองรับนำ้ หนักโดยขาโต๊ะ โดยอาจใช้
สำหรบั วางสิ่งของอย่างเช่นอาหาร โดยความสงู มคี วามพอเหมาะสำหรับการนัง่ และโดยมากจะใชค้ ู่
กับเกา้ อ้ี โต๊ะในยุคกอ่ นหน้านี้ จะแตกต่างจากปัจจุบันซึ่งโต๊ะสมัยใหมม่ กั ไมม่ ีลิ้นชัก โต๊ะสำหรับมีไว้
เขยี นและทำงานในออฟฟิสจะเรียก โต๊ะทำงาน (desk) ซง่ึ จะมีล้นิ ชักอยา่ งน้อย 1 อนั หรือมากกวา่ นน้ั
ข้างใต้ บางชน้ิ สว่ นของโต๊ะอาจขยบั ปรบั เปลีย่ นได้
ทีม่ า https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%8A%E0%B8%B0
2.4.5 ลกั ษณะของเก้าอี้
เก้าอ้ี คือที่นั่งประเภทหนึ่ง โดยมักจะเป็นที่นั่งสำหรับคนเดียว โดยในส่วนท่ีน่ังจะอยู่เหนอื
จากระดับพืน้ มีขาเก้าอี้ 4 ขารองรับขา้ งใต้ สว่ นเก้าอ้ที นี่ ง่ั ไดม้ ากกวา่ 1 คน อาจเรยี กวา่ โซฟา เก้าอี้ที่
พบในประวัตศิ าสตรเ์ ชน่ เก้าอข้ี องกรีก ท่คี าดว่านา่ จะสร้างราว 600 ปกี ่อนครสิ ต์ศกั ราช เป็นเก้าอี้สี่
ขาตวั ตรงและมีพนกั พิงตง้ั ตรง ถดั มาเปน็ เกา้ อีใ้ นประเทศจีน ในสมัยราชวงศ์ถงั (ค.ศ. 618-907)
ในปัจจุบัน วัสดุที่ใช้ทำเก้าอี้มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะทำจาก เก้าอี้ไม้ เก้าอี้โลหะ เก้าอ้ี
พลาสติก เริ่มมกี ารผลิตและใชง้ านเป็นจำนวนมาก ใช้ทุกระดับชั้น มีการออกแบบดีไซนเ์ ก้าอีห้ ลาก
ลายมากมาย
สำหรับคำว่า เก้าอี้ นั้น เป็นคำมาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว ตรงกับภาษาจีนกลางว่า เจียวอ่ี (交椅
jiāoyǐ) ซง่ึ เปน็ เก้าอชี้ นิดหน่งึ มพี นัก มขี าแบบไขว้กัน สามารถพบั เก็บได้
ทม่ี า
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0
%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%89
2.4.6 ลกั ษณะของราว
ราว ของใชห้ รืออุปกรณท์ ใี่ ช้สำหรบั ตากผ้าหลังจากซกั ทำความสะอาดเสร็จแล้ว และท่สี ำคัญ
ทุกบ้านเรือนที่อาศัยจะต้องมีเจ้าอุปกรณ์ของใช้สิ่งนี้ ซึ่งอาจจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ใน
12
สมยั กอ่ นเมอื่ นึกถึงราวตากผา้ กม็ กั จะนกึ ถงึ ราวไม้ ราวเชือกลวด และราวเหล็ก แตใ่ นสมัยปัจจุบันนี้
ราวตากผ้าได้รับการดีไซน์ออกแบบผลิตออกมาหลากหลายแบบเพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ในการใช้
และตรงกบั ตามไลฟส์ ไตล์วัตถปุ ระสงค์ในการใช้งานมากยิ่งข้ึน เช่น ใช้แขวนเส้ือผ้าภายในบา้ น หรือ
ใช้เป็นราวตากผา้ ภายนอกตัวบ้าน
ท่มี า http://oknation.nationtv.tv/blog/Asean-Focus/2020/03/14/entry-2
2.4.7 ลกั ษณะของโคมไฟ
โคมไฟ เปน็ ของตกแตง่ บ้านอกี ประเภทหน่ึงทนี่ อกจากใหแ้ สงสว่างภายในบ้านในห้องทำงาน
หรือให้แสงสว่างภายในบริเวณบ้านแล้ว การเลือกประเภทและรูปแบบของโคมไฟยังเพิ่มความ
สวยงามทำให้บ้านโดดเด่นบ่งบอกรสนิยมของเจ้าของบา้ นได้เป็นอย่างดี ประโยชน์ของโคมไฟ และ
โคมไฟสำคัญอย่างไรกบั งานออกแบบอนิ ทเี รยี ร์หรอื ออกแบบตกแตง่ ภายใน
ท่มี า https://xn--12c2cca9b2ca8b1iod.com/howto-lamp-important-to-interior-design/
13
บทที่ 3
วธิ กี ารดำเนนิ งานโครงงานอาชพี
3.1 ตารางวางแผนการดำเนนิ งานโครงงาน
สปั ดาห์ วนั / เดอื น / ปี กจิ กรรมทป่ี ฏบิ ตั ิ
1 16 พฤศจิกายน 2564 -สำรวจขอ้ มลู / วิเคราะห์ข้อมูลประกอบการตดั สนิ ใจเลอื กอาชพี
2 22 พฤศจกิ ายน 2564 -ศึกษาวิธกี ารเขียนโครงงานอาชพี / เขียนโครงงานอาชีพและขออนมุ ตั ิ
โครงงานอาชพี
2-5 26 พฤศจิกายน 2564 -ศึกษาความรเู้ กย่ี วกบั อาชีพทเี่ ลอื ก/เตรยี มอปุ กรณ์ /
- สถานท่ี ประชาสมั พันธใ์ หล้ ูกค้าในกลมุ่ เป้าหมายทราบ
3 ธันวาคม 2564
6 6 ธันวาคม 25654 - - ผลติ และจำหนา่ ยผลิตภณั ฑ์
10 ธนั วาคม 2564
7-11 15 ธันวาคม 2564 - -เขียนรายงานโครงงานทำรูปเลม่
29 มกราคม 2565 -ผลติ และจำหน่ายผลติ ภัณฑ/์ ประเมินผลโครงงานระหว่างการดำเนินงาน
12 19 มกราคม 2565 - -ประเมนิ สรปุ การปฏบิ ตั งิ านโครงงานผลิตภัณฑจ์ ากไม้ไผ่
24 กุมภาพันธ์ 2565
25 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 -นำเสนอโครงงาน
3.2 ขน้ั ตอนการดำเนนิ งานโครงงาน
3.2.1 ขน้ั ตอนการเตรยี มวสั ดุ อปุ กรณ์ เครอื่ งมอื
3.2.1.1 ขั้นตอนการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ นการทำวา่ ว
-เลอ่ื ย
14
-มีด
-เชอื ก
-กาว
-กระดาษว่าว
15
-ตลับเมตร
3.2.1.2 ข้ันตอนการเตรยี มวัสดุ อุปกรณ์ เคร่อื งมอื ท่ใี ชใ้ นการทำโต๊ะ
-เลือ่ ย
-มีด
-ปืนยงิ แมก็ อัดลม
16
-ตลับเมตร
3.2.1.3 ขน้ั ตอนการเตรยี มวัสดุ อปุ กรณ์ เคร่อื งมอื ท่ใี ช้ในการทำเกา้ อ้ี
-เล่อื ย
-มีด
-ปืนยิงแมก็ อดั ลม
17
-ตลับเมตร
-ลวด
-กรรไกรตดั ลวด
3.2.1.4 ขน้ั ตอนการเตรียมวัสดุ อปุ กรณ์ เครอื่ งมอื ท่ใี ชใ้ นการทำราวไมไ้ ผ่
-เล่ือย
18
-มีด
-ตลับเมตร
-ปนื ยงิ แมก็ อดั ลม
3.2.1.5 ข้นั ตอนการเตรียมวัสดุ อปุ กรณ์ เคร่ืองมอื ทใ่ี ชใ้ นการทำโคมไฟ
-เลอื่ ย
19
-มดี
-ตลบั เมตร
-หลอดไฟ
-ขั้วหลอดไฟ
20
-เคร่ืองเจียร
3.2.2 ขน้ั ตอนการทำ
ในการดำเนนิ การทำโครงงานผลติ ภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่ ผ้จู ัดทำโครงงานไดศ้ ึกษาวธิ ีการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์
จากไมไ้ ผ่ ซึ่งมีวิธีการทำ ดงั น้ี
3.2.2.1 ขน้ั ตอนการทำวา่ ว
ว่าว เปน็ เป็นของเลน่ ชนิดหนึ่งทมี่ ีการทีม่ นุษยป์ ระดษิ ฐข์ ึ้นเพือ่ ให้ลอยอย่ใู นอากาศไดด้ ว้ ยแรงลมและมี
สายปา่ นคอยบงั คบั ใหล้ อยอยู่ในทิศทางทต่ี อ้ งการ จากการกล่าวมาขา้ งต้นผรู้ ายงานมคี วามคดิ เหน็ วา่ วา่ ว เปน็
ของเล่นท่มี มี าต้งั ตาอดีตและเดก็ ๆนิยมเลน่ กนั สามารถทำเองได้ และยังเป็นการสร้างรายได้เสรมิ ได้ดังนัน้ จงึ
เลือกประเด็นนม้ี าเขยี นเป็นองคค์ วามรู้ โดยใชห้ วั ข้อเร่อื งผลติ ภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่
วสั ดุ
1.ไม้ไผ่ 1 ตน้
2.กาว 1 หลอด
3.กระดาษวา่ ว 6 แผ่น
4.เชือก 1 ขด
ขน้ั ตอนการทำ
1.วดั ไม้ไผใ่ หไ้ ด้ขนาดที่ต้องการ และตัดไม้ไผ่ตามทว่ี ัดเอาไว้
21
2.เหลาไมไ้ ผเ่ ปน็ ซๆ่ี
3.ขน้ึ โครงวา่ วมดั เชือกใหแ้ น่น
4.ติดกระดาษวา่ วทำลวดลาย
22
3.2.2.2 ขน้ั ตอนการทำโตะ๊
โต๊ะเปน็ ของใชท้ ำดว้ ยไม้ทม่ี ีพน้ื ผิวด้านบนเรียบขนานกบั พื้น รองรบั น้ำหนกั โดยขาโต๊ะ โดยอาจใช้
สำหรบั วางสิง่ ของอยา่ งเชน่ อาหาร โดยความสูงมีความพอเหมาะสำหรับการนงั่ จากการกล่าวมาขา้ งต้น
ผู้รายงานมคี วามคิดเห็นวา่ ตะ๊ เปน็ ของใช้ท่ีทุกบ้านต้องมี ซงึ่ สามารถทำเองได้ และยังเป็นการสร้างรายได้
เสรมิ ได้ดงั น้นั จึงเลือกประเด็นน้มี าเขยี นเปน็ องค์ความรู้ โดยใช้หวั ข้อเร่อื งผลิตภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่
วสั ดุ
1.ไม้ไผ่ 3 ต้น
2.ลกู แม็ก 200 ตัว
ขน้ั ตอนการทำ
1.วดั ไมไ้ ผใ่ หไ้ ด้ขนาดทตี่ อ้ งการ และตัดไม้ไผท่ ่วี ดั ไว้
2.ผ่าไมไ้ ผเ่ พอื่ ทำที่ผยงุ ขาโต๊ะ และส่วนของดา้ นบนโตะ๊ แลว้ เหลาใหส้ วยงาม
3.ประกอบขาโตะ๊ โดยการใชป้ ืนยงิ แมก็ อดั ลมยงิ ทผี่ ยงุ ขาโต๊ะท้ัง4ด้าน
23
4.นําไม้ที่ผา่ มาเรียงเปน็ ทีร่ องโตะ๊ เเล้วนำปนื ยิงแม็กอดั ลมยิงตามท่ีเรียงไว้
3.2.2.3ขนั้ ตอนการทำเกา้ อี้
เกา้ อี้เป็นของใช้ท่ีทำดว้ ยไม้ รบั รองนำ้ หนกั โดยขาเก้าอี้ ใชส้ ำหรับการนงั่ จาการกลา่ วมาข้างต้น
ผ้รู ายงานมคี วามคิดเหน็ ว่าเก้าอี้ เป็นของใช้ที่ทุกบา้ นตอ้ งมี สามารถทำเองไดแ้ ละยังเปน็ การสรา้ งรายได้เสรมิ
ได้ดังนนั้ จงึ เลอื กประเด็นนม้ี าเขียนเป็นองคค์ วามรู้ โดยใช้หัวข้อเรอื่ งผลติ ภัณฑ์จากไม้ไผ่
วสั ดุ
1.ไมไ้ ผ่ 3 ต้น
2.ลูกแมก็ 200 ตวั
3.ลวด 1 ขดี
ขน้ั ตอนการทำ
1.วดั ไมไ้ ผ่ใหไ้ ด้ขนาดทต่ี ้องการ และตดั ไม้ไผท่ ่วี ัดไว้
2.ผา่ ไมไ้ ผ่เพอ่ื ทำที่พยงุ ขาเกา้ อี ท่ีน่ัง และท่วี างแขน แลว้ เหลาใหส้ วยงาม
24
3.เจาะรทู ่ขี าไม้ไผท่ งั้ 4ดา้ นเพอ่ื นําไมไ้ ผส่ อดในขาเกา้ อ้ใี ห้เก้าอ้ีเเขง็ แรง
4.นาํ ไมไ้ ผท่ งั้ หมดมาประกอบกันโดยใช้แม็กอดั ลม และพันลวดตามจุดที่ยดึ เก้าอหี้ รือเชื่อมให้
เเข็งเเรงของไม้ไผ่
3.2.2.4 ขนั้ ตอนการทำราวไมไ้ ผ่
ราวไม้ไผ่ เป็นของใช้ในบา้ นทชี่ ว่ ยในการจัดระเบยี บเสอ้ื ผา้ หรือสงิ่ ของอน่ื ๆ อย่างเชน่ กระเปา๋ หมวก
เป็นตน้ จากการกล่าวมาข้างตน้ ผรู้ ายงานมคี วามคดิ เห็นวา่ ราวไม้ไผ่ เปน็ ของใช้ทีท่ ุกบบ้านมี สามารถทำเอง
ได้ และยังเปน็ การสรา้ งรายได้เสรมิ ได้ดงั น้ันจงึ เลือกประเดน็ น้มี าเขียนเป็นองคค์ วามรู้ โดยใช้หวั ขอ้ เรื่อง
ผลติ ภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่
วสั ดุ
1.ไม้ไผ่ 3 ต้น
2.ลกู แม็ก 100 ตัว
3.ลวด 1 ขีด
25
ขนั้ ตอนการทำ
1.วัดไม้ไผใ่ ห้ได้ขนาดทีต่ ้องการ และตดั ไม้ไผ่ทว่ี ดั ไว้
2.เหลาไมไ้ ผ่ใหส้ วยงาม
3.ผา่ ไมไ้ ผเ่ พอ่ื ทำขาตัง้ และทีพ่ ยงุ
4.ประกอบกันโดยใช้เมก็ อดั ลมยงิ ที่ไมไ้ ผเ่ เตล่ ่ะจุด และใชล้ วดเพ่ือใชย้ ดึ ส่วนฐาน
26
3.2.2.5 ขนั้ ตอนการทำโคมไฟ
โคมไฟเปน็ ของใช้สำหรับตกแตง่ ภายในบา้ น ชว่ ยเพ่ิมความสว่าง และความสวยงามภายในบ้าน
จาการกล่าวมาข้างตน้ ผู้รายงานมีความคิดเห็นวา่ โคมไฟเปน็ ของใช้ท่ีมคี วามแปลกใหม่
สามารถทำเองได้ และยงั เปน็ การสรา้ งรายไดเ้ สริมไดด้ ังน้นั จงึ เลือกประเด็นนม้ี าเขียนเป็นองคค์ วามรู้
โดยใช้หัวข้อเรือ่ งผลิตภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่
วสั ดุ
1.ไมไ้ ผ่ 1 ต้น
2.ลูกแมก็ 100 ตวั
3.ลวด 1 ขีด
4.หลอดไฟ 1 ดวง
5.ขัว้ หลอดไฟ 1 อนั
ขน้ั ตอนการทำ
1.วัดไมไ้ ผใ่ หไ้ ด้ขนาดท่ีต้องการ และตัดไม้ไผ่ทว่ี ัดไว้
2.รา่ งลวดลายบนไม้ไผ่
27
3.ใชห้ ินเจยี นสรา้ งลวดลายตามที่เราสรา้ งไว้
4.ตดั ฟาบนเจาะรเู้ พ่อื ใหใ้ ส่ไฟได้
5.นาํ ไฟใสลงในรูทเี่ จาะเอาไว้แลว้ ปดิ ฟาทเ่ี ราตดั ตดิ ดว้ ยกาว
6.เจาะรดู า้ นบน แลว้ ใสล่ วดสำหนับแขวน
28
3.2.3 ขนั้ ตอนการรวบรวมขอ้ มลู
3.2.3.1 แบบประเมนิ
3.2.3.2 สตู รการคดิ
คำนวณตน้ ทนุ การผลิต
29
การคำนวณราคาตน้ ทนุ กำไร ราคาจำหนา่ ยของวา่ ว
ท่ี รายการ ปรมิ าณ/หน่วย ราคา/หน่วย(บาท) ปริมาณที่ใช้ ราคาท่ีใช้ (บาท)
1 ไม้ไผ่ 1 ต้น - 1 ตน้ -
2 กระดาษ 6 แผ่น 5 6 แผ่น 30
3 เชอื ก 1ขด 15 1 ขด 15
4 กาว 1 หลอด 7 1 หลอด 7
อน่ื ๆคิดเปน็ ร้อยละ 10 5.2
รวม 57.2
การคดิ หากำไร = ต้นทนุ การผลติ x เปอรเ์ ซ็นตก์ ำไรทตี่ อ้ งการ
100
กำหนดราคาขาย
ราคาต่อหนว่ ยท่ีขาย = 57.2 x 70
100
รวมต้นทนุ ทง้ั หมด
ได้กำไร = 40.04
= ตน้ ทุนการผลติ + กำไร
= 57.2 + 40.04
= 97.24
= 97.24
1
= 97.24
= 1 ลำ ราคาขายลำละ 100 บาท ได้ 100 บาท
57.2 บาท
100 – 57.2 = 42.8 บาท
30
การคำนวณราคาตน้ ทนุ กำไร ราคาจำหนา่ ยของโตะ๊
ท่ี รายการ ปริมาณ/หน่วย ราคา/หนว่ ย (บาท) ปริมาณทีใ่ ช้ ราคาทใี่ ช้ (บาท)
1 ไม้ไผ่ 3 ตน้ - 3 ต้น -
2 ลูกแมก็ 1 กล่อง 175 200 นัด 7
(5000 นัด)
อ่นื ๆคดิ เปน็ ร้อยละ 10 0.7
รวม 7.7
การคดิ หากำไร = ต้นทนุ การผลติ x เปอรเ์ ซ็นตก์ ำไรท่ตี ้องการ
กำหนดราคาขาย 100
= 7.7 x 70
100
= 5.39
= ต้นทนุ การผลติ + กำไร
= 7.7 + 5.39
= 13.09
ราคาตอ่ หน่วยทข่ี าย = 13.09
1
รวมตน้ ทนุ ทง้ั หมด
ไดก้ ำไร = 13.09
= 1 ตวั ราคาขาย ตวั ละ 200 บาท
7.7 บาท
200 – 7.7 = 192.3 บาท
31
การคำนวณราคาตน้ ทนุ กำไร ราคาจำหนา่ ยของเกา้ อี้
ที่ รายการ ปริมาณ/หนว่ ย ราคา/หน่วย(บาท) ปริมาณท่ีใช้ ราคาท่ใี ช้ (บาท)
1 ไมไ้ ผ่ 3 ตน้ - 3 ตน้ -
2 ลกู แม็ก 1 กล่อง 175 200 นดั 7
(5000 นดั )
3 ลวด 1ขด(3 ขดี ) 60 1 ขีด 20
อนื่ ๆคดิ เปน็ รอ้ ยละ 10 2.7
รวม 22.7
การคิดหากำไร = ตน้ ทนุ การผลิต x เปอรเ์ ซ็นตก์ ำไรที่ตอ้ งการ
100
=
22.7 x 70
กำหนดราคาขาย = 100
ราคาตอ่ หนว่ ยที่ขาย =
= 15.89
= ต้นทุนการผลติ + กำไร
= 22.7 + 15.89
38.59
= 38.59
=
1
รวมตน้ ทุนทงั้ หมด 38.59
ได้กำไร 1 ตวั ราคาขาย ตวั ละ 200 บาท
22.7
200 – 22.7 = 177.3 บาท
32
การคำนวณราคาตน้ ทนุ กำไร ราคาจำหนา่ ยของราวไมไ้ ผ่
ท่ี รายการ ปริมาณ/หน่วย ราคา/หนว่ ย(บาท) ปรมิ าณทใ่ี ช้ ราคาทใ่ี ช้ (บาท)
1 ไมไ้ ผ่ 1 ตน้ - 1 ต้น -
2 ลกู แมก็ 1 กล่อง 175 100 นดั 3.5
(5000 นัด)
3 ลวด 1ขด(3 ขดี ) 60 1 ขดี 20
อ่นื ๆคิดเป็นร้อยละ 10 2.35
รวม 22.35
การคดิ หากำไร = ต้นทนุ การผลติ x เปอรเ์ ซน็ ตก์ ำไรที่ต้องการ
100
=
22.35 x 70
กำหนดราคาขาย = 100
ราคาตอ่ หน่วยท่ีขาย =
= 15.645
= ต้นทนุ การผลิต + กำไร
= 22.35 + 15.645
37.695
= 37.695
=
1
รวมต้นทนุ ทง้ั หมด 37.695
ไดก้ ำไร 1 อัน ราคาขายอนั ละละ 150 บาท
22.35
150 – 22.35 = 127.65บาท
33
การคำนวณราคาตน้ ทนุ กำไร ราคาจำหนา่ ยของโคมไฟ
ท่ี รายการ ปรมิ าณ/หนว่ ย ราคา/หนว่ ย(บาท) ปริมาณท่ใี ช้ ราคาทีใ่ ช้ (บาท)
1 ไม้ไผ่ 1ต้น - 1/3 ต้น -
2 ลวด 1ขด(3 ขดี ) 60 1 ขีด 20
3 หลอดไฟ 1 หลอด 25 1 หลอด 25
4 ขวั้ หลอดไฟ 1อัน 25 1 อนั 25
อนื่ ๆคดิ เป็นรอ้ ยละ 10 7
รวม 77
การคิดหากำไร = ตน้ ทนุ การผลิต x เปอรเ์ ซ็นตก์ ำไรท่ีตอ้ งการ
100
กำหนดราคาขาย
ราคาต่อหนว่ ยท่ขี าย = 77 x 70
100
รวมต้นทุนทงั้ หมด
ได้กำไร = 53.9
= ต้นทุนการผลติ + กำไร
= 77 + 53.9
= 130.9
= 130.9
1
= 130.9
= 1 ดวง ราคาขาย ดวงละ 200 บาท
77
200 – 77 = 123 บาท
34
3.2.3.3 วิธกี ารตอบแบบสอบถาม
จำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม ทง้ั หมด 40 คน
-นักเรียนมธั ยมตอนต้น 10 คน
-นกั เรยี นมธั ยมตอนปลาย 10 คน
-ครแู ละบคุ ลากร 10คน
-ผปู้ กครอง 10 คน
3.2.4. ขนั้ ตอนการสรปุ และประเมนิ ผล
สรปุ การทำโครงงานเรอ่ื ง ผลิตภณั ฑจ์ กไม้ไผ่ จะอยใู่ นบทท่ี 5
35
บทที่ 4
ผลการดำเนนิ งาน
4.1 ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจตอ่ โครงงานเรอ่ื ง ผลติ ภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่
จากการทำตอ่ โครงงานผลติ ภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่ โดยนำไม้ไผ่ทีม่ อี ยู่ในบรเิ วณโรงเรยี นละงูพิทยาคม มาเป็น
วัสดใุ นการประดษิ ฐผ์ ลติ ภณั ฑจ์ ากไมไ้ ผ่ ไดแ้ ก่ ว่าว โตะ๊ เก้าอี้ ราวไมไ้ ผ และโคมไฟ เพือ่ เพิ่มมูลคา่ ของไม้ไผ่
ปรากฏวา่ อย่ใู นระดบั ความพ่ึงพอใจมากทีส่ ุด
แบบประเมนิ ความพึงพอใจโครงงานเรอื่ งผลติ ภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่ ดงั น้ี
ตารางท1ี่ แสดงขอ้ มลู ทว่ั ไปเก่ยี วขอ้ งกบั สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม
สถานภาพ เพศ รอ้ ยละ
ชาย หญงิ ชาย หญงิ
นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 10 - 25 -
นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 55 12.5 12.5
55 12.5 12.5
ครู 55 12.5 12.5
ผู้ปกครอง
40 100
รวม
ตารางที่ 1 แสดงขอ้ มลู ทั่วไปเกย่ี วข้องกับสถานภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม
จากตาราง พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 40 คน เปน็ เพศชาย 25 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 62.5 และ
เพศหญงิ 15 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 37.5
36
ตารางท่ี 2 แสดงผลการประเมินความพึงพอใจของว่าว
สรปุ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผสู้ อบถาม
รายการประเมนิ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย N x S.D. แปล
ท่ี กลาง ทส่ี ดุ ความ
สดุ
54 3 21
1.สามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้จรงิ 29 9 1 1 0 40 4.65 0.65 มากทส่ี ุด
2.การนำวสั ดทุ มี่ ใี นทอ้ งถนิ่ มา 36 4 0 0 0 40 4.90 0.30 มากที่สุด
่วาว ประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์
3.สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ 30 8 2 0 0 40 4.70 0.56 มากท่ีสดุ
4.ผลิตภณั ฑม์ ีความทนทาน แข็งแรง 28 10 2 0 0 40 4.65 0.57 มากที่สุด
5.ความคดิ สร้างสรรค์ 35 5 0 0 0 40 4.88 0.33 มากทส่ี ดุ
รวม 158 36 5 1 0 200 4.76 0.51 มากทสี่ ุด
ตารางท่ี2 ตารางแสดงผลการประเมินความพึงพอใจของว่าว
จากตารางพบว่าผตู้ อบแบบสอบถามให้คะแนนการประเมินดา้ นการนำไปใช้ประโยชน์ได้จรงิ คะแนน
เฉลยี่ 4.65 อยใู่ นระดบั ดมี ากที่สดุ ด้านการนำวสั ดุท่มี ใี นทอ้ งถน่ิ มาประยกุ ต์ใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ คะแนนเฉล่ยี
4.90 อย่ใู นระดบั ดมี ากทส่ี ดุ ด้านการนำไปประกอบอาชพี ได้คะแนนเฉลย่ี 4.70 อยใู่ นระดับดีมากทส่ี ดุ ดา้ น
ผลติ ภณั ฑม์ ีความทนทาน แข็งแรง คะแนนเฉลยี่ 4.65 อยใู่ นระดบั ดีมากทสี่ ดุ ดา้ นความคดิ สรา้ งสรรค์
คะแนนเฉล่ยี 4.88 อยใู่ นระดับดีมากที่สุด
ผลสรปุ จากการประเมินแบบสอบถามในด้านต่างๆ ผลรวมเฉลีย่ 4.76 อยใู่ นระดบั ดมี ากทส่ี ดุ
37
ตารางท3่ี แสดงผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของโตะ๊
สรปุ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผสู้ อบถาม
รายการประเมนิ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย N X S.D. แปล
ที่ กลาง ทสี่ ดุ ความ
สดุ
54 3 21
1.สามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้จริง 40 0 0 0 0 40 5.00 0.00 มากทส่ี ุด
2.การนำวสั ดุทมี่ ีในทอ้ งถ่นิ มา 36 4 0 0 0 40 4.90 0.30 มากที่สุด
โต๊ะ ประยุกต์ใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์
3.สามารถนำไปประกอบอาชพี ได้ 40 0 0 0 0 40 5.00 0.00 มากท่ีสุด
4.ผลติ ภณั ฑ์มคี วามทนทาน แข็งแรง 29 11 0 0 0 40 4.73 0.45 มากที่สดุ
5.ความคดิ สรา้ งสรรค์ 36 4 0 0 0 40 4.90 0.30 มากทส่ี ดุ
รวม 181 19 0 0 0 200 4.91 0.40 มากทสี่ ุด
ตารางที่ 3 ตารางแสดงผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของโต๊ะ
จากตารางพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามใหค้ ะแนนการประเมนิ ดา้ นการนำไปใช้ประโยชนไ์ ดจ้ รงิ คะแนน
เฉลีย่ 5.00 อยูใ่ นระดบั ดมี ากท่ีสุด ด้านการนำวสั ดทุ ม่ี ใี นทอ้ งถนิ่ มาประยุกตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ คะแนนเฉล่ยี
4.90 อย่ใู นระดับดมี ากทส่ี ดุ ด้านการนำไปประกอบอาชีพได้คะแนนเฉลย่ี 5.00 อยใู่ นระดับดมี ากทสี่ ุด ดา้ น
ผลติ ภณั ฑ์มคี วามทนทาน แขง็ แรง คะแนนเฉลี่ย 4.73 อยูใ่ นระดับดมี ากทส่ี ุด ด้านความคิดสร้างสรรค์
คะแนนเฉลยี่ 4.90 อยใู่ นระดับดมี ากทีส่ ุด
ผลสรปุ จากการประเมนิ แบบสอบถามในด้านตา่ งๆ ผลรวมเฉล่ยี 4.83 อยูใ่ นระดบั ดมี ากทสี่ ดุ
38
ตารางท่4ี แสดงผลการประเมินความพงึ พอใจของเกา้ อี้
สรปุ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผสู้ อบถาม
รายการประเมนิ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย N X S.D. แปล
ท่ี กลาง ทสี่ ดุ ความ
สดุ
54 3 21
1.สามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ไดจ้ ริง 40 0 0 0 0 40 5.00 0.00 มากทส่ี ุด
2.การนำวัสดทุ มี่ ใี นทอ้ งถ่นิ มา 36 4 0 0 0 40 4.90 0.30 มากที่สุด
เ ้กา ้ีอ ประยกุ ตใ์ ช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์
3.สามารถนำไปประกอบอาชพี ได้ 40 0 0 0 0 40 5.00 0.00 มากท่ีสุด
4.ผลติ ภัณฑ์มคี วามทนทาน แขง็ แรง 35 5 0 0 0 40 4.88 0.33 มากที่สดุ
5.ความคิดสรา้ งสรรค์ 36 4 0 0 0 40 4.90 0.30 มากทส่ี ดุ
รวม 187 13 0 0 0 200 4.94 0.24 มากทสี่ ุด
ตารางท่ี 4 ตารางแสดงผลการประเมินความพงึ พอใจของเกา้ อี้
จากตารางพบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามให้คะแนนการประเมนิ ดา้ นการนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้จรงิ คะแนน
เฉลย่ี 5.00 อย่ใู นระดบั ดีมากทีส่ ุด ด้านการนำวสั ดุท่มี ใี นทอ้ งถิน่ มาประยุกตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ คะแนนเฉล่ยี
4.90 อยใู่ นระดับดมี ากทสี่ ุด ดา้ นการนำไปประกอบอาชีพได้คะแนนเฉลย่ี 5.00 อย่ใู นระดบั ดมี ากทสี่ ุด ดา้ น
ผลติ ภัณฑม์ ีความทนทาน แขง็ แรง คะแนนเฉล่ีย 4.73 อยูใ่ นระดับดีมากทสี่ ดุ ดา้ นความคดิ สร้างสรรค์
คะแนนเฉล่ีย 4.90 อยใู่ นระดบั ดมี ากที่สุด
ผลสรปุ จากการประเมนิ แบบสอบถามในด้านตา่ งๆ ผลรวมเฉล่ยี 4.83 อยใู่ นระดบั ดมี ากทส่ี ดุ
39
ตารางที่5 แสดงผลการประเมินความพงึ พอใจของราวไม้ไผ่
สรปุ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผสู้ อบถาม
รายการประเมนิ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย N X S.D. แปล
ท่ี กลาง ทส่ี ดุ ความ
สดุ
54 3 21
1.สามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้จริง 40 0 0 0 0 40 5.00 0.00 มากทส่ี ุด
2.การนำวัสดุทมี่ ใี นทอ้ งถน่ิ มา 40 0 0 0 0 40 5.00 0.00 มากที่สุด
ราวไม้ไผ่ ประยุกต์ใช้ใหเ้ กิดประโยชน์
3.สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ 35 5 0 0 0 40 4.88 0.33 มากที่สุด
4.ผลิตภณั ฑม์ คี วามทนทาน แข็งแรง 36 4 0 0 0 40 4.90 0.30 มากที่สดุ
5.ความคิดสรา้ งสรรค์ 38 2 0 0 0 40 4.95 0.22 มากทสี่ ดุ
รวม 189 11 0 0 0 40 4.95 0.18 มากทส่ี ุด
ตารางที่ 5 ตารางแสดงผลการประเมินความพงึ พอใจของราวไม้ไผ่
จากตารางพบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามใหค้ ะแนนการประเมนิ ดา้ นการนำไปใชป้ ระโยชน์ไดจ้ รงิ คะแนน
เฉลย่ี 5.00 อยใู่ นระดบั ดมี ากท่สี ดุ ด้านการนำวสั ดทุ ่ีมีในทอ้ งถ่ินมาประยุกตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ คะแนนเฉล่ยี
5.00 อยใู่ นระดับดมี ากทส่ี ดุ ด้านการนำไปประกอบอาชพี ได้คะแนนเฉล่ยี 4.88 อยใู่ นระดับดมี ากทส่ี ุด ด้าน
ผลิตภณั ฑ์มีความทนทาน แขง็ แรง คะแนนเฉล่ยี 4.90 อยูใ่ นระดบั ดีมากทสี่ ุด ด้านความคดิ สร้างสรรค์
คะแนนเฉล่ีย 4.95 อยู่ในระดับดีมากทส่ี ดุ
ผลสรปุ จากการประเมนิ แบบสอบถามในด้านต่างๆ ผลรวมเฉลยี่ 4.95 อยู่ในระดับดมี ากทส่ี ุด
40
ตารางท่ี6 แสดงผลการประเมินความพงึ พอใจของโคมไฟ
สรปุ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผสู้ อบถาม
รายการประเมนิ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย N X S.D. แปล
ที่ กลาง ทสี่ ดุ ความ
สดุ
54 3 2 1
1.สามารถนำไปใช้ประโยชน์ไดจ้ รงิ 40 0 0 0 0 40 5.00 0.00 มากทส่ี ุด
2.การนำวสั ดุทม่ี ีในทอ้ งถน่ิ มา 37 3 0 0 0 40 4.93 0.26 มากที่สุด
โคมไฟ ประยกุ ต์ใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์
3.สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ 40 0 0 0 0 40 5.00 0.00 มากท่ีสดุ
4.ผลิตภัณฑม์ ีความทนทาน แขง็ แรง 40 0 0 0 0 40 5.00 0.00 มากที่สุด
5.ความคดิ สร้างสรรค์ 40 0 0 0 0 40 5.00 0.00 มากทส่ี ดุ
รวม 197 3 0 0 0 200 4.99 0.2 มากทสี่ ุด
ตารางที่ 6 ตารางแสดงผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของโคมไฟ
จากตารางพบว่าผตู้ อบแบบสอบถามใหค้ ะแนนการประเมนิ ดา้ นการนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้จรงิ คะแนน
เฉลย่ี 5.00 อยใู่ นระดบั ดีมากทส่ี ดุ ดา้ นการนำวสั ดุทม่ี ีในทอ้ งถ่นิ มาประยุกตใ์ ช้ใหเ้ กิดประโยชน์ คะแนนเฉลีย่
4.93 อยูใ่ นระดับดมี ากทสี่ ดุ ดา้ นการนำไปประกอบอาชีพได้คะแนนเฉลี่ย 5.00 อยู่ในระดบั ดีมากทสี่ ดุ ดา้ น
ผลิตภัณฑ์มีความทนทาน แขง็ แรง คะแนนเฉลยี่ 5.00 อยใู่ นระดับดมี ากทส่ี ุด ด้านความคดิ สร้างสรรค์
คะแนนเฉลีย่ 5.00 อยใู่ นระดับดมี ากทีส่ ุด
ผลสรปุ จากการประเมนิ แบบสอบถามในดา้ นตา่ งๆ ผลรวมเฉลี่ย 4.99 อยู่ในระดับดมี ากทสี่ ดุ
41
4.2 ผลการคำนวณตน้ ทนุ การผลติ และกำหนดราคาจำหนา่ ย
จากการทำต่อโครงงานผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ โดยนำไม้ไผ่ทม่ี ีอย่ใู นบรเิ วณโรงเรียนละงูพทิ ยาคม มาเปน็
วัสดใุ นการประดิษฐผ์ ลิตภณั ฑ์จากไม้ไผ่ ได้แก่ วา่ ว โตะ๊ เก้าอี้ ราวไม้ไผ และโคมไฟ เพ่ือเพม่ิ มลู คา่ ของไมไ้ ผ่
สามารถแสดงผลการคำนวณตน้ ทนุ การผลติ และกำหนดราคาจำหนา่ ย ไดด้ งั นี้
ตารางท่7ี แสดงผลการคิดคำนวณคา่ ใชโ้ ครงงานเรอ่ื งผลิตภัณฑ์จากไมไ้ ผก่ ำไรในการจำหนา่ ย มรี ายละเอียด
ดงั นี้
รายการผลิตภัณฑ์ ตน้ ทนุ การผลิต ราคา/ชนิ้ ขายได้ เป็นเงิน กำไร
ว่าว
โตะ๊ 57.2 บาท 100 บาท 1ลำ 100 บาท 42.8 บาท
เก้าอี้
7.7 บาท 200 บาท 1 ตัว 200 บาท 192.3 บาท
ราวไม้ไผ่
โคมไฟ 22.7 บาท 200 บาท 1 ตัว 200 บาท 177.3 บาท
รวม
22.35 บาท 150 บาท 1 อัน 150 บาท 127.65 บาท
77 บาท 200 บาท 1 ดวง 200 บาท 123 บาท
186.95 บาท 850 บาท 663.05 บาท
ตารางท่ี 7 แสดงผลการคิดคำนวณโครงงานเร่อื งผลติ ภณั ฑ์จากไม้ไผ่กำไรในการจำหน่าย
จากตารางพบว่า วา่ ว ใชต้ น้ ทุนในการผลติ 57.2 บาท จำหนา่ ยราคาชิน้ ละ 100 บาท ไดก้ ำไร 42.8
บาท โต๊ะใช้ตน้ ทนุ ในการผลิต 7.7 บาท จำหนา่ ยราคาช้ินละ 200 บาท ไดก้ ำไร 192.3 บาท เก้าอี้ ใช้ต้นทนุ ใน
การผลิต 22.7 บาท จำหนา่ ยราคาชน้ิ ละ 200 บาท ได้กำไร 177.3บาท ราวไมไ้ ผ่ ใชต้ ้นทุนในการผลิต 22.35
บาท จำหนา่ ยราคาช้ินละ 150 บาท ไดก้ ำไร 127.65 บาท โคมไฟ ใช้ต้นทุนในการผลิต 77 บาท จำหนา่ ย
ราคาชน้ิ ละ 200 บาท ไดก้ ำไร 123 บาท รวมตน้ ทุนการผลติ ทง้ั หมด 186.95 บาท ไดก้ ำไรท้ังหมด 663.05
บาท
42
บทที่ 5
สรปุ ผลการศกึ ษา
5.1 สรปุ ผลการศกึ ษา
จากการศึกษาการทำโครงงานอาชีพเรื่อง ผลิตภัณฑ์จากไผ่ สมาชิกในกลุ่มกจิ กรรม ได้ผลิตภัณฑ์
จากไม้ไผท่มี ปี ระโยชน์ มีคุณภาพ และกอ่ ใหเ้ กดิ รายได้ทนี่ ำไปใช้ไดจ้ รงิ ในชีวติ ประจำวัน อีกทงั้ สมาชิกในกลุ่ม
กิจกรรมโครงงานอาชีพได้เรียนรู้เรื่องผลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ ซึ่งเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรม นอกจากนี้สมาชิกใน
กลุ่มกจิ กรรมโครงงานอาชพี ได้เรยี นรูก้ ารทำอาหารพ้นื บา้ น ซึง่ เป็นการสืบสานภูมปิ ญั ญาท้องถิ่นของไทย และ
ในการจัดทำโครงงานอาชีพในครัง้ นี้สมาชิกในกลุ่มกิจกรรมโครงงานอาชีพได้ศึกษาการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์
ประดิษฐ์ผลิตภัณฑจ์ ากไม้ไผ่ ดงั รายละเอยี ดตามตาราง
ตารางที่ 1 แสดงอายุการใชง้ านผลติ ภณั ฑ์จากไมไ้ ผ่ การเก็บรกั ษา
6 เดือน
อายกุ ารใชง้ านผลิตภณั ฑ์จากไม้ไผ่ 2 ปี
1 ปี
ที่ รายการ 1 ปี
1 วา่ ว 6 เดือน
2 โตะ๊
3 เก้าอี้
4 ราวไม้ไผ่
5 โคมไฟ
จากการศึกษาอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ทำใหส้ มาชิกในกลุ่มกจิ กรรมมคี วามรใู้ นเรอื่ ง
ของการเลอื กใช้วัสดุอุปการณ์มากยง่ิ ขึ้น เกดิ การเรียนรดู้ ว้ ยตนเองในการวางระบบงานและการสร้างงานตาม
หนา้ ที่ของสมาชกิ ดงั รายละเอียดตารางท่ี
43
ตารางท่ี 2 แสดงหนา้ ท่ีความรับผดิ ชอบของสมาชกิ ในกลมุ่ กิจกรรมโครงงานอาชพี
ที่ รายช่ือ ระดบั ชน้ั หน้าที่
1 นายณัฐกิตติ์ อัลมาตร ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 วางแผนการดำเนนิ งาน
2 นายณัฐภัทร หมาดหมนี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 วางแผนการดำเนินงาน
3 นายธนภทร พนั นธค์ ีรี ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 วางแผนการดำเนนิ งาน
4 นายรอชีดี อาจหลัง ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ขออนุมตั โิ ครงงานอาชีพ
5 นายร่งุ โรจน์ ขนุ เศษ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ขออนุมตั ิโครงงานอาชีพ
6 นายรุ่งอรุณ หมาดแนง้ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ประสานงาน
7 นายศกั ดา สายวารี ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ประสานงาน
8 นายศักรินทร์ รูบามา ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 วางแผนการดำเนินงาน
9 นายอัครพล หลงกอหราบ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 วางแผนการดำเนินงาน
10 นายอัฟฟาน สาบหอม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 วางแผนการดำเนนิ งาน
11 นายอคิ ตยิ ารุดดีน สาเกน็ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ประสานงาน
12 นายบุคอรี นาฮดุ า ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ประสานงาน
13 นายริสกี ด่านเท่ง ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 วางแผนการดำเนินงาน
ตารางที่ 2 แสดงหน้าที่ความรับผิดชอบของสมาชิกในกลุ่มกิจกรรมโครงงานอาชีพ เป็นการสร้าง
ความมรี ะเบยี บวินยั ความรบั ผิดชอบ ความขยนั ความอดทน ซ่งึ เปน็ สิ่งสำคัญในการดำเนนิ งานโครงงานอาชพี
การต่อยอดพัฒนา
5.2 สรปุ ผลการดำเนนิ งาน
ผลการดำเนินงานโครงงานอาชพี เรอื่ ง ผลิตภณั ฑ์จากไมไ้ ผ่ ทำให้นกั เรยี นเห็นคณุ ค่าของการประกอบ
อาชพี มีความมุ่งม่ัน ตั้งใจ ทน่ี ำไปใช้ในชีวติ ประจำวัน เป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง รจู้ กั ใช้เวลาว่างให้
เป็นประโยชน์โดยการหารายได้ในระหว่างเรียน การจัดทำโครงงานอาชีพในครั้งนี้สามารถสร้างประโยชน์แก่
สมาชกิ กลมุ่ กจิ กรรม ผู้ปกครอง ชุมชน ดงั น้ี
1. สมาชิกในกลุ่มกิจกรรมโครงงานอาชีพมีทักษะการดำรงชีวิตทีด่ ขี ้นึ สามารถใช้ชีวติ ได้อย่างพอเพียง
และไม่ทำใหผ้ อู้ ่นื เดือดร้อน
2. ผู้บริโภคได้ใชผ้ ลิตภณั ฑจ์ ากไม้ไผ่ทม่ี ีประโยชนแ์ ละมคี ณุ ภาพ และราคาถกู
3. เป็นการสรา้ งความสมั พนั ธใ์ นการทำงานระหวา่ งเพ่อื นนกั เรยี น คุณครผู สู้ อน ผูป้ กครอง ชมุ ชน ซึ่ง
เปน็ พ้นื ฐานของความสามคั คใี นหมู่คณะ