The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประมวลรายวิชาศิลปะ ม3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by guy_senson, 2022-03-17 04:32:49

ประมวลรายวิชาศิลปะ ม3

ประมวลรายวิชาศิลปะ ม3

บนั ทึกขอ้ ความ

สว่ นราชการ กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ

ท่ี ...................... วันที่ 19 มีนาคม 2565

เรอ่ื ง ขออนมุ ตั ิใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้

เรยี น ผอู้ ำนวยการโรงเรียน

ตามที่ข้าพเจ้านายสรายุทธ เสนสอน ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ได้รับมอบหมาย

ให้ปฏิบัติการสอนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 รหัสวิชา ศ23101 รายวิชา ศิลปะ 5 จำนวน 1.0 หน่วยกิต

ในภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 นัน้

ขา้ พเจา้ จึงได้วเิ คราะหต์ ัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวชิ า เพ่ือจัดทำแผนการ
จัดการเรียนรู้รายหน่วยและรายคาบ ซึ่งสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสมุทรปราการ

พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับป รุง

พุทธศักราช 2560) โดยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ เพ่ือท่ีจะได้นำไปใชใ้ นการจัดการ

เรยี นร้พู ัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นให้บรรลุเปา้ หมายของหลกั สูตรฯ ต่อไป

จึงเรยี นมาเพื่อโปรดพจิ ารณาอนญุ าต

ลงชอ่ื .................................................
(นายสรายุทธ เสนสอน)
ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย

ความเหน็ ของหัวหนา้ กล่มุ สาระฯ ความเห็นของรองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ

ลงชอ่ื ลงชื่อ
() ()
หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ

ความเหน็ ของผูอ้ ำนวยการโรงเรียน

ลงชอ่ื ......................................................
()

ผอู้ ำนวยการโรงเรียน

ประมวลรายวิชา

รหัสวิชา ศ23101 รายวิชาศลิ ปะ 5

ประเภทรายวิชา ✓รายวิชาพนื้ ฐาน รายวิชาเพิ่มเติม จำนวน 1.0 หน่วยกิต

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ

ระดบั ช้ัน มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

1. เวลา
จำนวน 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์
จำนวน 40 ชั่วโมง/ภาคเรยี น

2. ครผู ูส้ อน หอ้ งเรียนทสี่ อน
ผูส้ อน ม.3/…..

นายสรายทุ ธ เสนสอน

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชว้ี ดั ศ23101 ศิลปะ 5

ศ3.1ม.1/1 อธิบายอิทธพิ ลของนกั แสดงช่อื ดัง ท่ีมผี ลตอ่ การโน้มนา้ วอารมณห์ รือความคดิ ของผ้ชู ม
ศ3.1ม.1/2 ใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละครในการแสดง
ศ3.1ม.1/3 แสดงนาฏศิลปแ์ ละละครในรูปแบบงา่ ย ๆ
ศ3.1ม.1/4 ใช้ทักษะการทำงานเป็นกลมุ่ ในกระบวนการผลติ การแสดง
ศ3.1ม.1/5 ใชเ้ กณฑ์งา่ ย ๆ ทกี่ ำหนดให้ในการพจิ ารณาคณุ ภาพการแสดงทช่ี ม โดยเนน้ เรื่องการใช้
เสยี งการแสดงทา่ และการเคล่อื นไหว
ศ3.1ม.2/1 อธิบายการบรู ณาการศิลปะแขนงอื่น ๆ กบั การแสดง
ศ3.1ม.2/2 สรา้ งสรรค์การแสดงโดยใชอ้ งคป์ ระกอบนาฏศลิ ป์และการละคร
ศ3.1ม.2/3 วเิ คราะห์การแสดงของตนเองและผ้อู น่ื โดยใชน้ าฏยศพั ท์หรือศัพทท์ างการละคร
ทีเ่ หมาะสม
ศ3.1ม.2/4 เสนอข้อคดิ เหน็ ในการปรบั ปรุง การแสดง
ศ3.1ม.2/5 เชอ่ื มโยงการเรียนรูร้ ะหว่างนาฏศิลปแ์ ละการละครกับสาระการเรียนรู้อน่ื ๆ
ศ3.2ม.1/1 ระบปุ จั จยั ท่ีมผี ลตอ่ การเปล่ยี นแปลงของนาฏศิลป์ นาฏศิลปพ์ น้ื บา้ น ละครไทยและละคร
พืน้ บา้ น
ศ3.2ม.1/2 บรรยายประเภทของละครไทยในแตล่ ะยุคสมัย
ศ3.2ม.2/1 เปรียบเทียบลกั ษณะเฉพาะของ การแสดงนาฏศลิ ปจ์ ากวฒั นธรรมต่างๆ
ศ3.2ม.2/2 ระบหุ รือแสดงนาฏศลิ ป์ นาฏศลิ ป์พื้นบา้ น ละครไทย ละครพ้นื บ้าน หรอื มหรสพอื่นท่เี คย
นิยมกนั ในอดตี
ศ3.2ม.2/3 อธิบายอิทธพิ ลของวฒั นธรรมทม่ี ีผลต่อเน้ือหาของละคร

รายละเอยี ดการเก็บคะแนน

ระยะเวลา ศ3.1ม.1/1 ศ3.1ม.1/2 ศ3.1ม.1/3 ศ3.1ม.1/4 ศ3.1ม.1/5 ศ3.2 ศ3.2 ศ3.2 ศ3.2 ศ3.2 รวม

กอ่ นสอบกลางภาค ศ3.1ม.2/1 ศ3.1ม.2/3 ศ3.1ม.2/2 ศ3.1ม.2/4 ศ3.1ม.2/5 ม.1/1 ม.1/2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 30
สอบกลางภาค 20
หลงั สอบกลางภาค 10 10 10 30
สอบปลายภาค 20
10 10

10 10 10

10 10

3. วิธีการจดั การเรียนการสอน

4.1 การบรรยายและอภปิ ราย

4.2 การสาธติ การแสดงนาฏศิลป์

4.3 การจดั การเรยี นรู้โดยใชค้ ำถามกระตุ้น (Questioning Method)

4.4 การจัดการเรียนรยู้ กตวั อยา่ งประกอบการเรียนการสอนสื่อ powerpoint

4.5 การวิจารณ์การแสดงนาฏศลิ ป์

4.6 การปฏบิ ตั ิการแสดงนาฏศลิ ป์

4.7 การเรยี นร้จู ากสภาพจรงิ (Authentic Learning)

4.8 การจัดการเรียนรู้รปู แบบการเรยี นรู้เน้นการปฏิบตั ิ

4.9 การเรยี นร้แู บบรว่ มมือ

4. สอ่ื อุปกรณ์การเรียนการสอน

4.1 หนังสอื เรียน ดนตรี-นาฏศลิ ป์ 3 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 สถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.)

4.2 สือ่ POWERPOINT

4.3 สอ่ื สงิ่ พิมพ/์ สื่อโฆษณา

4.4 ผลงานบคุ คลสำคัญทางนาฏศิลป์

4.5 ผลงานคร/ู นกั เรียน

4.6 สือ่ E-Book โดยสแกนผ่านระบบ QR Code

5. ภาระงาน/ชนิ้ งาน(รายละเอียดการมอบหมายงาน หรือการได้มาซ่ึงคะแนน)

เก็บคะแนนกอ่ นสอบกลางภาคเรยี น 30 คะแนน ม.3 ภาคเรยี นที่ 1

ที่ รายการ คะแนน

1 สอบปฏบิ ตั นิ าฏยศัพท์และภาษาท่า 5

2 ชนิ้ งานประเภทของนาฏศลิ ป์ไทย 5

3 นำเสนอผลงานประเภทของนาฏศลิ ป์ไทย 5

4 สอบร้องเพลงรำวงมาตรฐาน(เพลงหญงิ ไทยใจงามและเพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า) 5

5 สอบปฏิบตั ิรำวงมาตรฐาน(เพลงหญิงไทยใจงามและเพลงดวงจนั ทรข์ วัญฟา้ ) 5

6 ช้ินงานโขน 5

รวม 30

สอบกลางภาคเรยี น 20 คะแนน

เก็บคะแนนก่อนสอบปลายภาคเรยี น 30 คะแนน

ท่ี รายการ คะแนน

1 สอบปฏิบัติทา่ รำเพลงเซ้ิงโปงลาง 10

2 อภปิ รายเร่ืองหลักการวจิ ารณ์การแสดงนาฏศิลป์ไทย 5

3 ชน้ิ งานเร่ืองบุคคลสำคญั ในวงการนาฏศลิ ป์ไทย 5

4 อภปิ รายเรอื่ งปจั จยั ท่ีมีผลต่อการเปลีย่ นแปลงนาฏศลิ ป์ 5

5 อภิปรายเรอ่ื งการอนรุ ักษน์ าฏศลิ ป์ไทย 5

รวม 30

สอบปลายภาคเรียน 20 คะแนน

6. การวดั และประเมนิ ผล ผลการเรยี น
4
ช่วงคะแนน 3.5
80 คะแนนขน้ึ ไป 3
2.5
75 – 79 2
70 – 74 1.5
65 – 69 1
60 – 64 0
55 – 59 มส
50 – 54 ร
ต่ำกว่า 50 คะแนน
มีเวลาเรยี นไมถ่ งึ ร้อยละ 80
ไมไ่ ดว้ ัดผลกลางภาคเรียน/ปลายภาคเรียน

7. เอกสาร ตำรา หนงั สืออ่านประกอบและแหล่งสืบคน้ ขอ้ มูล
7.1 หนังสอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐานนาฏศิลป์ 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 สถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ
(พว.)
7.2 เวบ็ ไซต์เก่ยี วกับงานนาฏศลิ ป์

8. กำหนดการจดั การเรยี นรู้รายชว่ั โมง

โครงการสอน รายวิชา ศ23101 ศลิ ปะ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3

สัปดาหท์ ี่ วัน/เดอื น/ปี เร่ืองทส่ี อน จำนวน หมาย
ช่วั โมง เหตุ
1
2 นาฏยศัพท์และภาษาทา่ 4 ปฏิบัติ
3
4 องค์ประกอบของนาฏศิลป์ 2 ปฏิบตั ิ
5 ความหมายท่ีมาและประเภทของนาฏศลิ ป์ไทย 2
6 ปฏิบตั ิ
7 รำวงมาตรฐาน 6
8
9 โขน 4
10 สอบกลางภาคเรียน 2
11
12 นาฏศลิ ปพ์ ้นื เมือง 6
13
14 หลักการวจิ ารณ์การแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย 4
15
16 บคุ คลสำคญั ในวงการนาฏศลิ ป์ไทย 4
17
18 ปัจจยั ทมี่ ีผลต่อการเปลี่ยนแปลงนาฏศลิ ป์ 2
19 การอนรุ ักษ์นาฏศิลป์ 2
20 สอบปลายภาคเรียน 2
40
รวม

ลงชอ่ื .................................................
(นายสรายุทธ เสนสอน)
ครผู สู้ อน

รายวชิ า ศลิ ปะ5 รหัสวชิ า ศ23101 คำอธิบายรายวชิ า
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ
เวลา 40 ชัว่ โมงจํานวน 1.0 หนว่ ยกิต

อธิบายการบูรณาการศิลปะแขนงอ่ืนๆกับการแสดง สร้างสรรค์การแสดงโดยใช้ องค์ประกอบ
นาฏศิลป์และการละคร วิเคราะห์การแสดงของตนเองและผู้อ่ืน โดยใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ การละคร
ท่ีเหมาะสม เปรียบเทียบลักษณะเฉพาะของการแสดงนาฏศิลป์จากวัฒนธรรมต่างๆ และภูมิปัญญาท้องถ่ิน
อธบิ ายอิทธพิ ลของ วัฒนธรรมท่ีมีผลต่อเน้ือหาของละคร

ระบุโครงสร้างของบทละครในการใช้ศัพท์ทางการละคร ใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการ ละครท่ี
เหมาะสมบรรยายเปรียบเทียบการแสดงอากัปกิริยาของผู้คนในชีวิตประจำวันและในการแสดง มี ทักษะใน
การใช้ความคิดในการพัฒนารูปแบบการแสดง มีทักษะในการแปลความและการส่ือสารผ่าน การแสดง
ออกแบบและสร้างสรรค์อุปกรณ์และเครื่องแต่งกายเพื่อแสดงนาฏศิลป์และละครที่มาจาก วัฒนธรรมต่างๆ
หรอื ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิน่

วิจารณ์และเปรียบเทียบงานนาฏศิลป์ท่ีมีความแตกต่างกันโดยใช้ความรู้เรื่ององค์ประกอบ นาฏศิลป์
ร่วมจัดงานการแสดงในบทบาทหน้าที่ต่างๆนำเสนอแนวคิดจากเนื้อเรื่องของการแสดงที่สามารถนำไปใช้ใน
ชีวิตประจำวัน อธิบายความสำคัญและบทบาทของนาฏศิลป์และการละครในชีวิตประจำวัน หรือภูมิปัญญา
ทอ้ งถนิ่ แสดงความคดิ เหน็ ในการอนรุ ักษ์

โดยใช้กระบวนการการสร้างความรู้ความเข้าใจ กระบวนการคิดวิเคราะห์กระบวนการจัดการเรียนรู้
ด้วยตนเอง กระบวนการสืบค้นข้อมูลและอภิปราย กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ และกระบวนการสร้าง
เสริมคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ เพื่อให้เกดิ การเรยี นรเู้ ทคนิควิธีการทำงาน มเี จตคติที่ดตี ่องานศิลปะ ตลอดจน
เปิดโอกาสให้แสดงออกอย่างอสิ ระ มีความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ จนิ ตนาการ มีสุนทรียภาพ มีคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ในด้านอยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะและอนุรักษ์ภูมิปัญญา
ทอ้ งถนิ่

ตวั ช้ีวัด
ศ3.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3,ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6, ม.3/7
ศ3.2 ม.3/1, ม.3/2 ,ม.3/3

รวม 10 ตวั ชี้วัด

โครงสรา้ งรายวิชา นาฏศิลป์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3

ลำดับท่ี มาตรฐานการ สาระสำคัญ ชื่อหนว่ ย เวลา น้ำหนัก
1
เรียนรู้ / ตวั ชี้วดั การเรียนรู้ (คาบ) คะแนน
2
ศ 3.1 ม.3/2 นาฏศิลป์ คือ ศิลปะแห่งการฟ้อนรำ อันมีที่มาจากความรู้สึกสะเทือนอารมณ์ นาฏยศพั ท์ 4 5
3
4 ศ 3.1 ม.3/4 ภายในของมนุษย์ แล้วแสดงออกมาในรูปแบบของท่าทาง การเต้น การฟ้อนรำ ภาษาท่า

5 ประกอบกับดนตรีและการ ขับร้อง โดยมีลักษณะท่าทางที่เป็นการเลียนแบบ

6 ธรรมชาติ พฤติกรรมของมนุษย์และสัตวแ์ ละปรับปรุงใหม้ ีความสวยงาม
7
8 ศ 3.1 ม.3/5 นาฏศิลปไ์ ทยเป็นศลิ ปะการแสดงทม่ี คี วามอ่อนช้อย งดงาม เป็นศลิ ปะทแ่ี สดงถงึ ความ องคป์ ระกอบ 2 5
9
เป็นชาตไิ ทย ซงึ่ ในการจัดการแสดงนาฏศิลป์ ไทยจะต้องใช้องค์ประกอบของนาฏศิลป์ นาฏศิลป์
10
และมีหลักวิธกี ารในการสร้างสรรคก์ ารแสดงเพื่อให้การแสดงมีความสวยงาม สมบรู ณ์

และเป็นที่ประทบั ใจตอ่ ผชู้ ม

ศ 3.1 ม.3/3 การแสดงของไทยมหี ลายประเภท แตล่ ะประเภทจะมีทม่ี าและไดร้ บั อิทธิพลจากการแสดง ประเภท 2 5

อื่นๆทแ่ี ตกตา่ งกนั ไปจนพัฒนาและกลายเปน็ เอกลกั ษณข์ องการแสดงนัน้ นาฏศิลป์ไทย

ศ 3.1 ม.3/2 รำวงเป็นการละเล่นพ้ืนเมืองภาคกลาง เดิมเรียกว่า “รำโทน” เพราะใช้โทนเป็น รำวงมาตรฐาน 6 10

ศ 3.1 ม.3/3 ดนตรีสำคัญ มีเครอ่ื งประกอบโทน คือ ฉิ่งและกรับ ลักษณะการรำไม่เป็นแบบแผน

มีการร้องเล่นง่ายๆ เน้นสนุกสนาน รำเป็นคู่ๆเป็นวงกลม เช่น เพลงช่อมาลี เธอรำ

ชา่ งน่าดู หลอ่ จรงิ นะดารา ตามองตา ยวนยาเหล ใกล้เข้ามอีกนิด

ศ 3.1 ม.3/2 โขน เป็นนาฏศิลป์ช้นั สูงอย่างหนึ่งของไทย ปรับปรงุ จากการเลน่ 3 ประเภท คือ โขน 4 5

หนงั ใหญ่ ชกั นาค ดกึ ดำบรรพ์ และกระบี่

กระบอง เรื่องทใี่ ช้โขนคือ เรื่องรามเกียรต์ิ เน้ือเร่ืองสว่ นใหญเ่ ป็นการทำสงคราม

ระหว่าง พระราม กษัตรยิ ธ์ รรมิกราชแหง่ นครอโยธยา กับ ทศกัณฐ์พญายกั ษแ์ ห่ง

กรงุ ลงกา

ศ 3.1 ม.3/3 การแสดงพน้ื เมอื งเป็นศิลปะแห่งการร่ายรำทีม่ ที ัง้ รำ ระบำ หรือการละเล่นทีเ่ ป็น นาฏศิลป์ 2 10

เอกลกั ษณข์ องกลมุ่ ชนตามวัฒนธรรมในแต่ละภูมภิ าค ซง่ึ สามารถแบ่งออกเปน็ พ้นื เมือง

ภูมิภาคได้ 4 ภาค

ศ 3.1 ม.3/4 วิจารณ์เปรียบเทียบงานนาฏศิลป์ที่มีความแตกต่างกัน โดยใช้ความรู้องค์ประกอบ หลักการวจิ ารณ์ 8 5

นาฏศลิ ป์ การแสดง

นาฏศิลปไ์ ทย

ศ 3.2 ม.4-6/2 กระบวนการสืบทอดในสมยั โบราณ เปน็ การสบื ทอดจากครูตัวต่อตัว โดยวธิ กี าร บุคคลสำคญั ใน 2 5

จำ ไมม่ กี ารบันทึกไว้เป็นลายลกั ษณ์อักษร องค์ความรทู้ ้งั หมดจะอยู่ในตัวครู วงการนาฏศิลป์

ศ 3.2 ม.1/1 การเปลี่ยนแปลงของนาฏศิลปแ์ ขนงต่าง ๆ น้ันมใี หเ้ ห็นโดยตลอด เมอื่ มีการ ปัจจยั ที่มีผลตอ่ 2 5

ปรับปรงุ นาฏศลิ ป์ประเภทละคร การรา่ ยรำตา่ ง ๆ ก็ลดลง เพราะนาฏศิลป์ การ

ประเภทละครมรี ูปแบบทแี่ ปลกใหม่ สนกุ สนาน ใกล้เคยี งกับชวี ิตความเป็นจริง เปล่ียนแปลง

จงึ ทำให้การแสดงนาฏศิลป์มคี วามเปลีย่ นแปลงเร่มิ ข้นึ จากสมัยรชั กาลที่ 5 นาฏศิลป์

ศ 3.2 ม.3/3 นาฏศิลปไ์ ทยประกอบไปด้วยโขน ละคร ระบำ รำ ฟอ้ น และการแสดงพืน้ เมือง การอนุรักษ์ 2 5

ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมดา้ นศลิ ปะการแสดงของไทยมาแต่อดีตที่ได้รบั การ นาฏศิลป์

อนรุ ักษ์ ฟนื้ ฟู สบื สาน ถ่ายทอด และพัฒนามาจนกระท่ังปัจจุบนั น้ี

สอบกลางภาค ปลายภาค 4 40

รวมทั้งสิน้ 40 100

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ รหัสวชิ า ศ23101 รายวิชา ศลิ ปะ 5 ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
เร่อื ง โขน จำนวน 1 ชว่ั โมง

1. สาระสำคญั
โขนเป็นนาฏศิลป์ช้ันสูงของไทยที่มีมาแต่โบราณ แสดงให้เห็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทยบ่งบอกถึง

ความเป็นชาติท่ีมีอารยธรรม สืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน สันนิษฐานว่านำรูปแบบการแสดงการแต่งกาย
การพากย์ มาจากการแสดง 3 ชนิดคือ โขนนำรูปแบบการแสดงและการแต่งตัวมาจากการเล่นชักนาคดึกดำ
บรรพ์ โขนนำท่าต่อสู้โลดโผนจากกระบ่ีกระบอง และโขนนำศิลปะการพากย์ การเจรจา เพลงหน้าพาทย์
และท่าเต้นมาจากการแสดงหนังใหญ่
2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด

2.1 มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศลิ ปอ์ ยา่ งสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณค์ ณุ ค่า
นาฏศลิ ปถ์ ่ายทอดความรู้สกึ ความคิดอย่างอิสระ ชนื่ ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน

2.2 ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้
ศ 3.1 ม.3/2 ใช้นาฏยศัพทห์ รอื ศัพทท์ างการละครที่เหมาะสม บรรยายเปรียบเทียบการแสดง
อากปั กิรยิ าของผู้คนในชีวิตประจำวันและในการแสดง

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
- นักเรียนสามารถอธบิ ายเก่ยี วกบั เร่อื ง ววิ ฒั นาการของโขนได้
3.2 ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
- นักเรยี นสามารถอธิบายและเขียนแผนภาพความคิด เรือ่ ง วิวฒั นาการของโขนได้
3.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude)
- นกั เรียนเหน็ คุณคา่ ของการแสดงโขน

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
- โขน เร่ือง วิวัฒนาการของโขน
4.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process)
- การอธิบายประวตั ิความเป็นมา เรื่อง ววิ ฒั นาการของโขน
1) การละเล่นกระบ่กี ระบอง
2) การแสดงหนังใหญ่
3) การเล่นชกั นาคดกึ ดำบรรพ์

4.3 ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude)

- คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551

 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยอู่ ยา่ งพอเพียง

ซื่อสตั ยส์ ุจรติ มุ่งมัน่ ในการทำงาน

มวี นิ ัย รักความเป็นไทย

ใฝ่เรียนรู้ มจี ติ สาธารณะ

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
 ความสามารถในการสื่อสาร
 ความสามารถในการคดิ
 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กระบวนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นำ
1. ครูได้สวมหัวโขนหนุมานเพื่อเป็นการนำเข้าสู่บทเรียน เพื่อให้นักเรียนเกิดความสนใจในการเรียน

การสอน
2. ครสู นทนากับนกั เรยี นเกี่ยวกบั หวั โขนทีน่ ำมาเปน็ สือ่ การเรยี นรู้ โดยครตู งั้ คำถามดังต่อไปนี้
- นักเรียนทราบหรือไม่ว่าหัวโขนที่ครสู วมใส่อยูค่ ือตัวละครตัวใด
- นกั เรยี นทราบหรือไม่ว่าการแสดงโขนนิยมแสดงเรอื่ งอะไร
- นักเรียนรูห้ รือไมว่ ่าการแสดงโขนมวี วิ ฒั นาการมาจากอะไร
- นักเรียนทราบหรือไม่ว่าลิงภาษาอังกฤษอ่านว่าอย่างไร (บูรณาการกับวิชาภาษาอังกฤษ เรื่อง

คำศัพท)์
- มนี ักเรียนคนไหนอยากลองใสห่ วั โขนบ้างไหม

ขัน้ สอน
3. นักเรยี นฟังครอู ธิบายทีม่ าของคำวา่ “โขน” โดยมีรายละเอียดดงั น้ี

คำว่า “โขน” นายธนิต อยู่โพธิ์ (อธบิ ดีกรมศิลปากร) ได้สันนิษฐานวา่ มาจาก 3 ทางดว้ ยกัน คือ 1)
โขนในภาษาเบงคาลี 2) โขนในภาษาทมิฬ 3) โขนในภาษาอิหร่าน โดยครูใช้สื่อ Power Point เรื่อง ท่ีมาของ
คำว่า “โขน”

4. นักเรียนฟังครูอธิบายเน้ือหา เร่ือง วิวัฒนาการของโขน โดยครูใช้สื่อ Power Point เรื่อง
วิวัฒนาการของโขน ควบคู่กับส่ือ “กระเป๋าแห่งวิวัฒนาการของโขน” ท่ีครูผู้สอนได้พัฒนาขึ้น โดยมี
รายละเอียดดงั น้ี “โขน”ปรบั ปรุงและพัฒนามาจากการแสดง 3 ประเภท คือ

4.1 การละเลน่ กระบ่กี ระบอง (บูรณาการกับวชิ าภาษาไทย เรือ่ ง คำไวพจน์ โดยใชค้ ำว่า กระบี่)

4.2 การแสดงหนังใหญ่ (บรู ณาการกบั วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรือ่ ง แสงและเงา)
4.3 การเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ (บูรณาการกับวิชาภาษาไทย เรื่องของคำ และวิชาวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี เรื่อง การเสียดสีของวตั ถุ)
5. นักเรียนฟังครูอธบิ ายขัน้ ตอนในการปฏิบัตกิ ิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการเลน่ เกม wordwall “เราคือ
พวกเดียวกนั ” โดยรายละเอียดและขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมดงั ต่อไปนี้

- นักเรียนนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสแกนที่ QR Code โดยครูจะนำเสนอ QR Code ผ่าน
Power Point

- นักเรียนเร่ิมเล่นเกมส์ โดยการจับคู่คำและภาพให้เกิดความสัมพันธ์กัน และนักเรียนที่ทำ
เวลาไดด้ ีทส่ี ดุ จะเปน็ ผู้ชนะ

ข้ันสรุป
6. นักเรียนกับครูช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้รับจากกการเรียนการสอนและการปฏิบัติกิจกรรม โดยมี
ครูผู้สอนคอยให้คำแนะนำและให้ความรู้เพ่ิมเติม และให้นักเรียนเขียนสรุปเป็นแผนผังความรู้ (Mind Map)
เพ่อื เปน็ การทบทวนความรู้

7. แนวทางการบูรณาการ การพูดการอธิบายถึงการวิวัฒนาการของโขน และการแสดงความ
ภาษาไทย คิดเหน็ และการตอบคำถามตา่ งๆ
การสอดแทรกเน้ือหาของวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง แสง
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเงา และเร่ือง การเสียดสีของวัตถุ และการใช้สื่อเทคโนโลยีในการ
เรยี นรู้
ภาษาองั กฤษ การสอดแทรกเน้อื หาของวชิ าภาษาองั กฤษ เรื่อง คำศัพท์
ศลิ ปะ (ทัศนศิลป์) การออกแบบสื่อทำมอื เพื่อใหส้ อดคลอ้ งกบั การเรยี นรู้

8. ภาระ/ชน้ิ งาน
8.1 กจิ กรรมการเรียนรผู้ ่านการเลน่ เกม wordwall “เราคือพวกเดยี วกนั ”
8.2 เขียนสรปุ เปน็ แผนผงั ความรู้ (Mind Map)

9. ส่ือ/อุปกรณ/์ แหลง่ เรยี นรู้
9.1 Power Point เร่อื ง ววิ ฒั นาการของโขน
9.2 ส่อื “กระเปา๋ แหง่ วิวัฒนาการของโขน”
9.3 หนงั สือเรียนนาฏศิลป์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 สถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ(พว.)
9.4 QR Code wordwall “เราคอื พวกเดยี วกนั ”

10. การวดั ผลและการประเมินผล

ดา้ น ส่งิ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวัด เครอ่ื งมอื วัดผล เกณฑก์ ารประเมนิ

ความรู้ (Knowledge) นกั เรยี นสามารถอธบิ าย สังเกตจากการ แบบสมั ภาษณ์ รอ้ ยละ 80

เกี่ยวกบั เรือ่ ง ววิ ฒั นาการ ถาม ผ่านเกณฑ์

ของโขนได้

ทกั ษะ/กระบวนการ นักเรยี นสามารถอธบิ ายและ การทำแผนผัง การทำ ร้อยละ 80

(Process) เขียนแผนภาพความคิด เรอ่ื ง ความรู้ (Mind แบบฝึกหัด ผา่ นเกณฑ์

ววิ ฒั นาการของโขนได้ Map)

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึง เหน็ คณุ คา่ ของการแสดงโขน สังเกตจากการ แบบสัมภาษณ์ ร้อยละ 80

ประสงค์ (Attitude) ถาม ผา่ นเกณฑ์

11. การประเมนิ ผล

1. เกณฑ์การผา่ นรายบคุ คล

1.1 นกั เรียนไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 ของคะแนนเตม็

1.2 นักเรยี นได้ระดบั คณุ ภาพตง้ั แตร่ ะดบั 2 ข้ึนไปจาก 3 ระดบั คุณภาพของการประเมิน

2. เกณฑ์การผา่ นรายกลมุ่

2.1 จำนวนนกั เรียนร้อยละ 80 ได้คะแนนไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 60 ของคะแนนเตม็

2.2 จำนวนนกั เรียนร้อยละ 80 ได้ระดับคณุ ภาพตั้งแตร่ ะดับ 2 ขนึ้ ไปจาก 3 ระดับ

คณุ ภาพของการประเมิน

การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)

ระดบั คะแนน

เกณฑ์การประเมิน 4 3 2 1

(10 คะแนน) (9 คะแนน) (7-8 คะแนน) (5-6 คะแนน)

1. นกั เรียนสามารถ อธบิ ายเกย่ี วกับ อธิบายเกยี่ วกบั อธิบายเก่ียวกับ เร่ือง อธบิ ายเก่ียวกับ

อธิบายเกี่ยวกับ เร่ือง เร่อื ง ววิ ฒั นาการ เรอื่ ง วิวฒั นาการ วิวฒั นาการของโขน เร่ือง วิวัฒนาการ

วิวัฒนาการของโขน ของโขนไดถ้ ูกต้อง ของโขนไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ งบางส่วน ของโขนไดถ้ ูกตอ้ ง

ได(้ K) ชดั เจน เลก็ นอ้ ย

2. นักเรียนสามารถ อธบิ ายและเขียน อธิบายและเขียน อธิบายและเขยี น อธบิ ายและเขยี น

อธิบายและเขยี น แผนภาพความคิด แผนภาพความคิด แผนภาพความคิด แผนภาพความคิด

แผนภาพความคิด เรอ่ื ง วิวฒั นาการ เรื่อง ววิ ัฒนาการ เรือ่ ง ววิ ฒั นาการ เรอื่ ง ววิ ัฒนาการ

เรื่อง ววิ ัฒนาการของ ของโขนได้ถูกต้อง ของโขนได้ถูกตอ้ ง ของโขนได้ถูกต้อง ของโขนได้ถูกต้อง

โขนได้(P) ชดั เจน บางส่วน เล็กนอ้ ย

3. เห็นคุณค่าของการ เหน็ คุณคา่ ของการ เหน็ คุณค่าของการ เห็นคุณค่าของการ เห็นคณุ ค่าของการ

แสดงโขน (A) แสดงโขนมากท่ีสดุ แสดงโขนมาก แสดงโขนปานกลาง แสดงโขนนอ้ ย

บนั ทกึ ผลหลังการสอน

1. ขอ้ เสนอแนะ
……………………….……………………………………………………………………………………………………..………………
……………………………………………….…………………………………………………………………………..…………………
……………………….……………………………………………………………………………………………………..………………

2. ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรยี นจำนวน......................คน

2.1 ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรโู้ ดยรวม..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ........................

2.2 ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนรโู้ ดยรวม..............คน คิดเปน็ ร้อยละ........................

2.3 นกั เรียนทีไ่ มผ่ ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ดา้ นความรู้ (K) จำนวน..................คน

2.4 นักเรยี นทไ่ี ม่ผา่ นการประเมนิ จดุ ประสงค์ดา้ นความทักษะ (P) จำนวน..................คน

2.5 นกั เรยี นทีไ่ ม่ผา่ นการประเมินจดุ ประสงค์ด้านเจตคติ (A) จำนวน..................คน

3. ปัญหา/อุปสรรค
……………………………………….……………………………………………………………………………………..………………
………………………………………….…………………………………………………………………………………..………………

4. แนวทางแก้ไข/ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………….………………………………………………………………………………..……………………
………………………………………….…………………………………………………………………………………..………………

ลงชอื่ ....................................................................
(นายสรายทุ ธ เสนสอน)
ครูผสู้ อน

5. ความคิดเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้
……………………………………….………………………………………………………………………………..……………………
………………………………………….…………………………………………………………………………………..………………

ลงชื่อ....................................................................
()
หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

แบบประเมนิ การปฏิบัติกจิ กรรม

คำชีแ้ จง ใหค้ รเู ขียนเครอื่ งหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับประเด็นการประเมิน

ลำดบั ชื่อ-สกลุ 4 ระดับคะแนน 1 รวม
32

บันทึกตรวจสอบท้ายแผนการจดั การเรียนรู้
ของ นายสรายทุ ธ เสนสอน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
แผนการจัดการเรียนรู้ รหสั วิชา ศ23101 ชือ่ วิชา ศิลปะ 5
ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1.0 หน่วยกิต รวมทง้ั ส้นิ แผน

( ) เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่เี หมาะสมสำหรับใชจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
( ) ควรปรับปรงุ เก่ียวกบั

ลงชอื่ .......................................................
()

หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

( ) เป็นแผนการจัดการเรียนรทู้ เ่ี หมาะสมสำหรับใช้จดั กิจกรรมการเรยี นการสอน
( ) ควรปรับปรงุ ดังเสนอ
( ) อื่น ๆ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ...................................................
()

รองผอู้ ำนวยการกลุม่ บรหิ ารวิชาการ

( ) เห็นชอบตามหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรแู้ ละกลุ่มบริหารวิชาการ
( ) อน่ื ๆ
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื )
(

ผู้อำนวยการโรงเรียน


Click to View FlipBook Version