รายงานวจิ ยั ในชน้ั เรียน
เรอ่ื ง การใช้รูปแบบการสอนแบบใชก้ ิจกรรมเกมบิงโกเพื่อพัฒนา
ทักษะการคดิ คำนวณเรื่องการคณู กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
สำหรับนกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3/3
โดย
นางสญั ลกั ษณ์ ณ หนองคาย
ตำแหนง่ ครชู ำนาญการพิเศษ
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563
โรงเรียนศรแี กง้ ครอ้
สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาชัยภมู ิ เขต 2
สำนกั งานการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ
คำนำ
รายงานวิจัยในช้นั เรียน เรื่อง การวิเคราะห์แก้โจทย์ปัญหาการคณู และการหารของนักเรียนช้ัน
ประถมศึกษาปีที่ 3/3 โรงเรียนศรีแกง้ ครอ้ เลม่ น้ี มจี ุดมุ่งหมายเพ่ือเพ่ือพัฒนาการคดิ วิเคราะหเ์ พอ่ื แกโ้ จทย์
ปัญหา โดยใช้กิจกรรมการสนทนาการหาความหมายของคำและแบบฝึกในการวเิ คราะห์โจทย์ปญั หาของ
นักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓/๓ โดยใหน้ ักเรียนทดสอบก่อนเรียน และเรยี นซ่อมเสริมจากนัน้ ทำแบบฝึกที่ครู
สร้างข้ึน จากนน้ั ทำการทดสอบหลงั เรยี น และวิเคราะหผ์ ลคะแนนโดยใชว้ ิธกี ารหาค่าเฉลย่ี และค่าร้อยละผล
การศึกษาปรากฏวา่ การใช้กิจกรรมตา่ ง ๆ และการใช้แบบฝกึ ทำใหน้ กั เรยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจในการคิด
วิเคราะหเ์ พื่อแกโ้ จทยป์ ญั หา และสามารถทำแบบทดสอบหลงั เรยี นไดค้ ะแนนเพิ่มขน้ จากเดิม ดังจะเห็นไดจ้ าก
การเปรียบเทยี บผลการทดสอบก่อนและหลังเรียนและผูว้ จิ ัยได้แสวงหาข้อมลู และวิธกี ารท่คี าดว่าจะแก้ปญั หา
ที่เกิดขึน้ ชั้นเรยี น อกี ท้ังสามารถชว่ ยพัฒนาการเรียนการสอนใหม้ ปี ระสิทธภิ าพได้และยังช่วยพัฒนาวิชาชพี ครู
ใหม้ คี วามเขม้ แข็งยงิ่ ข้ึน ตามมาตรฐานด้านการจัดการศึกษา ข้อ 7.7 ของมาตรฐานและการประกนั คณุ ภาพ
การศึกษาท่วี ่า ครูมกี ารศึกษา วิจัยและพัฒนาการจดั การเรียนรใู้ นวิชาท่ีตนรับผิดชอบและใชผ้ ลในการปรับการ
สอนของครู
ผู้วิจยั ขอขอบพระคุณ ดร.ประภาส กองจันทร์ ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนศรีแก้งครอ้ และนายประยรู
ศริ ิคุณ รองผู้อำนวยการโรงเรียนศรแี กง้ ครอ้ ทสี่ ่งเสริมและอำนวยความสะดวกใหค้ รูได้จัดทำวจิ ยั ในชนั้ เรยี น
คณะครูประจำสายชั้น คณะครูกล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทยทีก่ รณุ าให้ความอนุเคราะห์ ให้คำแนะนำ ให้
ความรู้ ขอ้ คดิ เห็นที่มปี ระโยชน์ตอ่ การศกึ ษาวิจัยในคร้งั นเ้ี ป็นอย่างดี และขอขอบใจนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปี
ท่ี 3/3 ของโรงเรยี นศรแี กง้ คร้อทกุ คน ทีใ่ ห้ความรว่ มมือเปน็ อยา่ งดีในการวจิ ยั และเกบ็ ข้อมลู ที่ใชใ้ นการศึกษา
วจิ ยั ครั้งน้ี จนกระทงั่ การศึกษาวิจัยครงั้ นเ้ี สรจ็ สมบรู ณ์
. นางสัญลกั ษณ์ ณ หนองคาย
ผ้วู จิ ัย
สารบัญ หนา้
เร่ือง ก
ข
คำนำ
สารบัญ
๑. ชื่อเรอื่ งวจิ ัย
๒. ช่อื ผ้วู ิจยั
๓. ปที คี่ ำการวจิ ยั
๔. ความเปน็ มาและความสำคญั ของปญั หา
๕. วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจยั
๖. สมมติฐานของการวิจยั
๗. ตวั แปรท่ีศกึ ษา
๘. ประโยชนท์ ไ่ี ด้รับจากการวิจยั
๙. ขอบเขตของการวิจยั
๑๐. ระยะเวลาท่ใี ช้ในการวิจัย
๑๑. วธิ ดี ำเนนิ การวิจยั
๑๒. เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในการวจิ ยั
๑๓. การวเิ คราะหข์ อ้ มูล
๑๔. ผลการวจิ ัย
๑๕. สรปุ และอภปิ รายผล
๑๖. ขอ้ เสนอแนะ
เอกสารอา้ งองิ
ภาคผนวก
ชอ่ื งานวจิ ัย รายงานการใชร้ ูปแบบการสอนแบบใช้กจิ กรรมเกมบิงโกเพื่อพฒั นาทักษะการคิด
คำนวณเรื่องการคูณ กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ สำหรบั นกั เรียนชัน้
ผูวจิ ยั ประถมศึกษาปที ี่ 3/3
ปกี ารศึกษา นางสญั ลักษณ์ ณ หนองคาย
2563
บทคดั ยอ
รายงานการพัฒนารูปแบบการสอนด้วยกิจกรรมการใช้เกมบิงโกพัฒนาทักษะการคูณนี้เพื่อ พัฒนา
ผู้เรียนให้มีเจตคติตอ่ การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนของครู ในการพัฒนาผู้เรียนให้ใฝ่เรียนรู้ในกิจกรรมการ
การเรยี นวิชาคณิตศาสตร์ เรอ่ื งการคณู เพ่ือให้ผู้เรยี นมีความสนกุ สนานในการเรียน และเขา้ ใจเน้อื หาได้มากขึ้น
ครูจำเป็นตองศึกษา คนควาเพื่อหาแนวทางปฏิบัติกิจกรรม ในการจัดการเรียนการสอนที่สอดคลองกับชีวิต
จริงที่มีลักษณะไม่หยุดนิ่ง ดังนั้นครูจึงตองทำการศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูล สภาพการเรียนการสอนของ
ตนเองอยางสม่ำเสมอ วิจัยในชัน้ เรียนเป็นการศึกษาคนควาที่สะท้อนตัวครูเอง การวิจัยครั้งนี้มีวัตถปุ ระสงค
เพือ่ พัฒนาทักษะของนักเรยี นในการหาผลคณู ของจำนวนท่ีมหี นงึ่ หลกั กบั จำนวนที่สี่หลักและการคูณจำนวนที่มี
สองหลักกบั จำนวนที่มีสองหลัก โดยใหนักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น แบบฝกเสรมิ ทักษะการคูณจำนวน
10 ชุด และทำแบบทดสอบหลังเรียน และได้นำคะแนนท่ีได้มาหาค่าร้อยละ แลวนำขอมูลมาวิเคราะหและ
หาขอสรปุ พรอมทั้งนำเสนอในรูปของตารางประกอบคำบรรยาย
จากผลการศึกษาปรากฏวา พบนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยรอยละเพิ่มขึ้น 46.00 โดยที่กอนการใชแบบ
ฝึกเสริมทักษะ นักเรียนไดคะแนนเฉลี่ยรอยละ 44.00 แตภายหลังการใชแบบฝกเสริมทักษะ นักเรียนได
คะแนนรอยละเพิ่มเปน 90.00 แสดงวาแบบฝกเสริมทักษะการคูณทั้ง 10 ชุด เป็นแบบฝกเสริมทักษะท่ี
สามารถพัฒนาทักษะของนักเรียนในการหาผลคูณของจำนวนที่มีหนึ่งหลักกับจำนวนท่ีมีสี่หลักและการคูณ
จำนวนทม่ี ีสองหลักกับจำนวนที่มีสองหลักได้เป็นอยางดี ทําใหนักเรียนที่ทําการคณู ตัวต้ังส่ีหลักกับตัวคูณหนึ่ง
หลักและตัวตั้งสองหลักกับตัวคูณสองหลักแตเดิมคูณไมคอยไดสามารถคูณไดคลองขึ้นกวาเดิมมาก นักเรียนมี
ความกระตอื รือรนทจ่ี ะเรยี นคณติ ศาสตร
ประกาศคุณปู การ
งานวิจัยฉบับนี้ สำเร็จสมบูรณ์ได้ด้วยความกรุณาจาก ฐิตินันท์ กล้ารบ ที่ปรึกษางานวิจัย ที่ปรึกษา
งานวิจัย ที่ให้ความอนุเคราะห์ให้ข้อเสนอแนะตลอดจนตรวจแก้ไขข้อบกพร่องด้วยความเอาใจใส่ จนเป็น
งานวจิ ยั ทีเ่ สรจ็ สมบูรณ์ ซ่งึ ผู้วิจยั รู้สกึ ซาบซ้ึงมาก และขอกราบขอบพระคณุ อย่างยงิ่
ขอขอบพระคุณ นายประภาส กองจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีแก้งคร้อ ผู้เชี่ยวชาญที่ให้ความ
กรณุ าตรวจแกไ้ ข และให้ขอ้ เสนอแนะ อนั เป็นประโยชน์ในการจดั ทำงานวจิ ยั ฉบับน้ี
ขอขอบพระคุณคณะครูโรงเรียนศรีแก้งคร้อ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้นำชุมชน
ผ้ปู กครองและปราชญช์ าวบา้ นทเี่ ป็นผู้รว่ มวิจยั ทใี่ หค้ ำแนะนำช่วยเหลือ และอำนวย ความสะดวกตา่ งๆ จนทำ
ใหง้ านวิจัยสำเรจ็ ลุลว่ งไปด้วยดี
ขอขอบพระคุณพ่อ แม่ ผู้ที่คอยให้กำลังใจและช่วยเหลือสนับสนุนตลอดระยะเวลาที่ทำงานวิจัย
คุณประโยชน์และคุณค่าท่ีพึงมีจากงานวจิ ัยฉบับนี้ ขอมอบเปน็ เครือ่ งบชู าพระคุณบิดา มารดา บรู พาคณาจารย์
ตลอดจนผู้มพี ระคุณทกุ ท่าน ด้วยความเคารพอยา่ งสูง
สัญลักษณ์ ณ หนองคาย
รายงานวิจยั ในช้นั เรียน
ชือ่ เรอื่ งวิจัย การพฒั นารูปแบบการสอนโดยใช้เกมบิงโกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดคำนวณเร่ืองการคูณ
กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ สำหรบั นักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3/3
ชอ่ื ผู้วจิ ัย นางสัญลักษณ์ ณ หนองคาย
ปีท่ที ำการวจิ ัย ปี 2563
ความเป็นมาและความสำคัญของปญั หา
คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จในการเรียนรู้และในชีวิตประจำวันในศตวรรษที่ 21
เนื่องจากคณิตศาสตร์ช่วยให้มนุษย์มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ และมีแบบแผน
สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและถี่ถ้วน ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ
แก้ปัญหา ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้
คณติ ศาสตรย์ ังเป็นเครอ่ื งมอื ในการศกึ ษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตรอ์ ่นื ๆ อันเป็นรากฐานในการ
พัฒนาทรัพยากรบุคคลของชาติให้มีคุณภาพและพัฒนาเศรษฐกิจข องประเทศให้ทัดเทียมกั บนานาชาติ
การศึกษาในด้านคณิตศาสตร์จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพ
เศรษฐกิจ สังคม และความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในยุคโลกาภิวัตน์
(ตัวช้ีวดั กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560). 2560:9)
การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการที่สำคัญในการจัดทำหลักสูตรสู่การปฏิบัติในชั้นเรียนให้ผู้เรียนมี
คุณภาพตามที่หลักสูตรกำหนด เพื่อให้การจัดการเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในชั้นเรียน และส่งเสริมให้
ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ โดยหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2561 มีจุดเน้นที่สำคัญในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพใน
การศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพอยา่ งมีความสขุ (แนวทางการจัดการเรียนรู้.2553: 10)
มาลินี คำชมพู (2556:178) จากการประเมินคุณภาพการศึกษาในแผนพัฒนาการศึกษา ฉบับที่ 10
พุทธศักราช 2550-2554 พบว่าในด้านคุณภาพการเรียนรู้ในกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ของนักเรียนในด้านความรู้
ความคิด ยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำทุกด้าน โดยเฉพาะในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จากการประเมิน
ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา รอบแรกได้ข้อสรุปทั่วประเทศว่าผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนวชิ าคณิตศาสตร์อยใู่ นระดับปรังปรุง มีจำนวนนกั เรียนท่ีมีผลสัมฤทธิ์ในระดบั ดี ผ่านเกณฑ์ร้อยละ
75 เพียงร้อยละ 2.5 ซึ่งอยู่ในระดับน้อยมาก และการประเมินของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน
คุณภาพการศึกษารอบสอง ได้ข้อสรุปทั่วประเทศว่า ผลสัมฤทธิ์ทางทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์อยู่ในระดับ
ปรังปรุง มีจำนวนนักเรียนทีม่ ีผลสัมฤทธ์ิในระดับดี ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75 เพียงร้อยละ 2.60 ซึ่งอยู่ในระดบั ต่ำ
ซึ่งจะเห็นได้ว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางทางการเรียนค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับคะแนน 100 คะแนน และการ
สำรวจสภาพการเรียนการสอนจากสำนักทดสอบทางการศึกษา พบว่า นักเรียนระดับประถมศึกษามีปัญหา
เกี่ยวกับความรู้ ความเข้าใจและการแก้ปัญหาในกลุ่มสาระคณติ ศาสตร์ นบั เปน็ ปญั หาท่ีเร้ือรังและไม่มีท่ีส้ินสุด
ผลการสงั เคราะหง์ านวิจยั ของสำนกั นิเทศและพฒั นามาตรฐานการศกึ ษา ปญั หา และอปุ สรรคด้านครูผู้สอนใน
การจัดการเรียนการสอนมี 5 ด้าน คือ ด้านเนื้อหา ด้านวิธีสอน ด้านสื่อ อุปกรณ์ด้านการวัดและประเมินผล
และดา้ นอื่น ๆ สำหรับผู้เรียน มีปัญหาด้านการเรียนการสอน 2 ประการ คอื ประการแรกปญั หาทักษะพ้ืนฐาน
การคดิ คำนวณ ไดแ้ ก่ การบวก การลบ การคูณ การหาร ประการท่สี องเกยี่ วกบั เนอ้ื หาหลัก 2 เรอ่ื ง คือ การแก้
โจทยป์ ัญหาและเศษส่วน จากการจัดการเรยี นการสอนคณติ ศาสตรข์ องช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3
โรงเรียนศรีแก้งคร้อ ที่ผ่านมายังไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ เพราะว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้
คณติ ศาสตรข์ องนักเรียนยังตำ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ใน
สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต เรื่องการคูณจากการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ในปัจจุบันพบว่านักเรียนใน
ระดับชั้นประถมปีที่ 3 ยังขาดทักษะในการหาผลคูณโดยเฉพาะอย่างยิ่งการหาผลคูณของจำนวนที่มีหนึ่งหลัก
กบั จำนวนท่ีมีส่ีหลัก การคูณจำนวนทีม่ ีสองหลักกบั จำนวนท่ีมสี องหลกั
เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น ผู้วิจัยจึงได้ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ
การจัดกิจกรรม เพื่อนำมาพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาการคูณ เพื่อให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
คณิตศาสตร์สูงขน้ึ ซ่งึ วธิ ีการสอนคณติ ศาสตรท์ ี่เหมาะสมและสอดคล้องกับแนวทางการจัดการเรียนรู้อีกวิธีหนึ่ง
คือการใช้รูปแบบกิจกรรมเกมบิงโกในการช่วยพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนด้วยกระบวนการเรียนปนเลน่
เพราะการใช้เกมบิงโก เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ครูผู้สอน สามารถเร้าและกระตุ้น
ความสนใจในการเรียนคณิตศาสตร์พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกฝนตนเอง ในการแสวงหาความรู้ด้วย
ตนเองและความรับผิดชอบต่อตนเอง ดงั นน้ั ผูว้ จิ ยั ซ่งึ ในฐานะทเ่ี ป็นท้งั ครผู สู้ อนคณติ ศาสตรแ์ ละครปู ระจำช้ันจึง
เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้ ทำการวิจัยเพื่อพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ เรื่อง การคูณ ของ
นักเรยี นในระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เพ่ือนำมาเป็นขอ้ มูลในการแก้ปัญหาของนักเรียนในเรือ่ งการขาดทักษะ
การคูณและสามารถคิดหาผลลัพธ์ในเรื่องการคูณได้ถูกต้อง ผลสัมฤทธขิ์ องนักเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มี
เกณฑท์ ดี่ ีขนึ้
วตั ถปุ ระสงค์ของการวจิ ัย
เพือ่ เปรยี บเทยี บทักษะการคิดคำนวณ เรอื่ งการคูณ ของนกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี3/3ก่อนและหลัง
การใช้รปู แบบการสอนแบบใช้เกมบิงโก
สมมติฐานการวิจยั
ทักษะการคดิ คำนวณ เรอื่ งการคูณ ของนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3/3 หลังใช้กิจกรรมเกมบิงโก
การคณู สงู กวา่ ก่อนใช้กจิ กรรมเกมบงิ โกการคูณ
ประชากร
- กลมุ่ ประชากรท่ีใชใ้ นการศกึ ษาคน้ ควา้ ครงั้ น้ี ไดแ้ ก่ นกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปี
การศึกษา 2563 โรงเรียนศรีแก้งคร้อ จำนวน 37 คน
- กลุ่มเปา้ หมาย คดั เลือกมา จำนวน 5 คน โดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง
ตวั แปรทีเ่ กี่ยวข้อง
1. ตวั แปรต้น คอื กจิ กรรมเกมบิงโกการคูณ
2. ตวั แปรตาม คอื ทักษะการคิดคำนวณ เรื่องการคูณ
เน้อื หาในการวิจัย
เน้อื หาทนี่ ำมาใช้คือกจิ กรรมเกมบิงโกการคณู ทพี่ ัฒนาขน้ึ โดย นางสาวฉัฐนนั ท์ ช้อยชด ครูโรงเรยี น
บา้ นหนองไศล โดยผูว้ ิจัยไดศ้ ึกษาเพิ่มเติมและรวบรวมจากหนังสือเรยี นรายวชิ าคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560)
ระยะเวลาในการวิจยั
วันท่ี 19 สิงหาคม 2563 – 3 กันยายน 2563 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563
วธิ ีการดำเนนิ งาน
การดำเนนิ การ เดอื นสิงหาคม
สัปดาห์ท่ี 1 สปั ดาหท์ ่ี 2 สัปดาห์ที่ 3
1. ศกึ ษางานวิจยั ท่เี กย่ี วข้อง
2. เก็บรวบรวมขอ้ มูล •
3. วางแผนดำเนินการ •
4. ทดสอบการหาผลคูณก่อนการใชแ้ บบฝกึ •
เสรมิ ทกั ษะการคูณ •
5.ดำเนินการใชแ้ บบฝึกเสริมทักษะการคูณ
6.ทดสอบการหาผลคูณหลงั ใชแ้ บบฝกึ เสรมิ •••
ทักษะการคณู •
7.รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
8.สรปุ ผลการวิจยั •
•
ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั จากการวจิ ัย
1. นกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/3 สามารถหาผลคูณได้อยา่ งถูกต้อง โดยใช้กจิ กรรมเกมบิงโก
การคูณ
2. ได้แนวทางการจัดการเรียนการสอนท่ีใช้กจิ กรรมเกมบงิ โกการคูณ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3/3
นิยามศัพทเ์ ฉพาะ
1. เกมบิงโก(Bingo Game) หมายถึง การเล่นชนิดหนึง่ ท่ีใหค้ วามบนั เทงิ ในกิจกรรมการเลน่ ที่เป็นการ
จำลอง สถานการณใ์ นชีวิตแบบงา่ ยๆ เพ่ือใหผ้ เู้ ลน่ สนกุ สนาน และเป็นทนี่ ยิ มมาก และมีการนำเอาเกมบิงโกมา
ใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพ่ือใหผ้ ูเ้ รยี นสนุกสนานในการเรียนเร่ืองการคณู มากขน้ึ จำนวนทีม่ ีหนง่ึ
หลักกับจำนวนที่มสี ่หี ลกั การคณู จำนวนท่มี สี องหลกั กับจำนวนทม่ี สี องหลกั
2. ทกั ษะการคิดคำนวณ หมายถึง ความสามารถในการคูณ หรือจดั กระทำกับตวั เลขทแ่ี สดงค่า
ปรมิ าณของส่ิงใดสงิ่ หนง่ึ เรื่องการคณู จำนวนที่มหี น่ึงหลักกับจำนวนท่ีมสี ี่หลกั การคูณจำนวนท่มี ีสองหลกั กบั
จำนวนท่ีมีสองหลกั กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3/3
3. การคณู หมายถึง การดำเนนิ การทางคณิตศาสตร์อยา่ งหนงึ่ ทำใหเ้ กิดการเพม่ิ จำนวนหน่งึ ทเ่ี ทา่ กนั
หลายๆ จำนวน
เคร่ืองมอื ท่ีใชใ้ นการวิจัย
1. แบบฝกึ เสริมเกมบิงโกการคูณ จำนวน 10 ชุด
1) แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะการคณู จำนวนท่มี ีหนึ่งหลักกบั จำนวนทื่มีสห่ี ลกั จำนวน 5 ชดุ
2) แบบฝึกเสรมิ ทักษะการคณู จำนวนที่มสี องหลักกับจำนวนที่มีสองหลัก จำนวน 5 ชุด
2. แบบทดสอบทักษะการคณู ก่อนและหลังเรยี น
การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
1. กอ่ นการให้กลุม่ เปา้ หมายทำแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะการคูณ ผวู้ จิ ัยให้นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน
เพือ่ วดั ความสามารถในการหาผลคณู
2. ผู้วิจยั ให้กลมุ่ เปา้ หมายเรยี นรู้การหาผลคณู จากแบบฝึกเสริมทกั ษะการคณู โดยใชเ้ วลา
นอกเหนือจากเวลาเรยี นปกติในแต่ละคาบ ผวู้ ิจัยทำหนา้ ทเี่ ปน็ ผสู้ อนและผสู้ ังเกตการณ์
3. เม่อื สิ้นสุดการทำแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะการคณู ผู้วจิ ัยใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบวดั ความสามารถใน
การหาผลคณู เพื่อตรวจสอบความสามารถในการหาผลคูณ ทเี่ รียนดว้ ยการทำแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะการคณู
วิธวี ิเคราะห์ข้อมลู
1. นำคะแนนของนักเรยี นช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3/3จากแบบฝกึ เสรมิ ทักษะการคูณแตล่ ะชุดมาหา
ค่าเฉลย่ี และร้อยละ
2. เปรยี บเทียบคะแนน ก่อนและหลงั การใชแ้ บบฝกึ เสรมิ ทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี
ที่ 3/3 โดยใช้คา่ เฉลย่ี และรอ้ ยละ
สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
สถติ ทิ ่ใี ชใ้ นการวิจัยคร้ังนแี้ บ่งเปน็ 2 ประเภท โดยอาศยั ประโยชน์จากการใชง้ านดังนี้
1. สถิติพนื้ ฐาน
6.1.1. ร้อยละ(Percentage)ใช้สตู รดงั น้ี (บุญชม ศรีสะอาด. 2553 : 122)
P = f × 100
N
เม่อื P แทน ค่ารอ้ ยละ
f แทน ค่าความถี่ท่ตี ้องการแปลง
N แทน จำนวนความถีท่ ั้งหมด
6.1.2. ค่าเฉลย่ี (Mean) ใช้สูตรดังนี้ (บุญชม ศรสี ะอาด. 2553: 124)
̅ = ∑
เมื่อ ̅ แทน คา่ เฉล่ยี
∑ แทน ผลรวมของคะแนนทง้ั หมดในกลมุ่
N แทน จำนวนคะแนนในกลมุ่
ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู
จากการศึกษาวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ วัตถุประสงคเพ่ือพัฒนาทักษะการคิดคำนวณเรื่องการคูณ ของ
นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 3/3 เพื่อนำผลการวิจัยมาเก็บเป็นข้อมลู เพื่อนำไปแกไขปญหาในการเรยี น
การสอนและเพ่ือใหนักเรียนเห็นความสำคัญของการคูณ โดยใชแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน แบบฝึก
เสริมทักษะการคิดคำนวณเร่อื งคณู จำนวน 10 ชดุ โดยกลุ่มตัวอยา่ งซง่ึ เป็นนักเรยี นช้ันประถมศึกษาปท่ี 3/3
ภาคเรียนที่ 1 ปการศกึ ษา 2563 โรงเรียนบา้ นหนองไศล จำนวน 5 คน โดยสามารถวเิ คราะหผ์ ลได้ดังน้ี
ตารางที่ 1 แสดงแบบบนั ทกึ คะแนนแบบกจิ กรรมเกมบิงโกการคูณ
ช่อื -สกุล ุชดที่ 1
ุชดที่ 2
ุชดท่ี 3
ุชดท่ี 4
ุชดที่ 5
ุชดที่ 6
ุชดท่ี 7
ุชดท่ี 8
ุชดที่ 9
ุชดท่ี 10
รวม
ด.ญ.จริ ชั ญา ชำนาญ 3 5 6 7 9 2 3 4 7 8 54
ด.ญ.ธิชานันท์ กาบบญุ มา 4 5 6 5 8 2 4 5 7 9 55
ด.ช.กฤษนัท ทองพันธ์ 2 5 6 4 8 2 3 4 7 9 50
ด.ช.ศริ วฒั น์ ชนชี 3 4 7 8 8 3 4 4 7 9 57
ด.ช.ชรินทร์ ยุคะรงั 6 5 6 6 9 3 4 6 9 10 64
รวม 18 24 31 30 42 12 18 23 37 45 280
เฉลยี่ 3.6 4.8 6.2 6 8.4 2.4 3.6 4.6 7.4 9 56
ร้อยละ 36 48 62 60 84 24 36 46 74 90 560
นักเรียนได้คะแนนจากการทำกจิ กรรมในแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะแตล่ ะชุด ดงั นี้
1. แบบกจิ กรรมเกมบงิ โกการคูณ ชุดท่ี 1 นักเรยี นไดค้ ะแนนเฉลย่ี คดิ เปน็ รอ้ ยละ 36
2. แบบกิจกรรมเกมบงิ โกการคูณ ชดุ ที่ 2 นกั เรียนได้คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นรอ้ ยละ 48
3. แบบกจิ กรรมเกมบงิ โกการคณู ชุดท่ี 3 นกั เรียนไดค้ ะแนนเฉลยี่ คิดเป็นร้อยละ 62
4. แบบกิจกรรมเกมบิงโกการคูณ ชดุ ท่ี 4 นักเรียนไดค้ ะแนนเฉลยี่ คิดเปน็ รอ้ ยละ 60
5. แบบกิจกรรมเกมบิงโกการคณู ชดุ ท่ี 5 นกั เรียนได้คะแนนเฉลย่ี คดิ เป็นรอ้ ยละ 84
6. แบบกิจกรรมเกมบงิ โกการคณู ชุดท่ี 6 นกั เรยี นไดค้ ะแนนเฉลย่ี คดิ เป็นรอ้ ยละ 24
7. แบบกิจกรรมเกมบงิ โกการคูณ ชดุ ที่ 7 นกั เรียนไดค้ ะแนนเฉลี่ยคิดเปน็ รอ้ ยละ 36
8. แบบกจิ กรรมเกมบิงโกการคณู ชุดที่ 8 นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียคิดเปน็ ร้อยละ 46
9. แบบกจิ กรรมเกมบงิ โกการคณู ชุดท่ี 9 นักเรยี นได้คะแนนเฉลีย่ คิดเปน็ ร้อยละ 74
10. แบบกจิ กรรมเกมบิงโกการคณู ชุดท่ี 10 นกั เรยี นไดค้ ะแนนเฉลี่ยคดิ เป็นร้อยละ 90
ตารางที่ 2 ตารางแสดงความก้าวหน้าจากคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
ท่ี ช่ือ-สกุล กอ่ นเรียน หลังเรยี น ความกา้ วหนา้
1. ด.ญ.จริ ชั ญา ชำนาญ 4 8 4
2. ด.ญ.ธิชานนั ท์ กาบบญุ มา 4 9 5
3. ด.ช.กฤษนัท ทองพนั ธ์ 4 9 5
4. ด.ช.ศิรวัฒน์ ชนชี 5 9 4
5. ด.ช.ชรนิ ทร์ ยุคะรัง 5 10 5
22 45 23
รวม 4.4 9 4.6
เฉลยี่ 44 90 46
รอ้ ยละ
จากการทำแบบทดสอบก่อนการใชแ้ บบฝกึ เสรมิ ทักษะและหลังการใช้แบบกจิ กรรมเกมบิงโกทัง้ 10
ชดุ พบว่า นกั เรยี นมีคะแนนเฉล่ยี ร้อยละเพ่มิ ข้นึ 46 โดยทกี่ ่อนการใช้แบบฝึกเสรมิ ทักษะ นกั เรยี นไดค้ ะแนน
เฉล่ียร้อยละ 44 แต่ภายหลงั การใชแ้ บบฝกึ เสริมทกั ษะ นักเรียนไดค้ ะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 90
สรปุ อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ
สรุปผลการวิจยั
จากผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลจะเหน็ ไดว้ าในระหว่างการใชแบบกิจกรรมเกมบิงโกฝกเสริมทักษะทง้ั 10
ชุด ซึ่งเกี่ยวกับแบบกิจกรรมเกมบิงโกการคูณของจำนวนที่มีหนึ่งหลักกับจำนวนท่ีมีสี่หลัก จำนวน 5 ชุด
นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยรอยละ 36,48,62,60 และ 84 ตามลำดับ และแบบกิจกรรมเกมบิงโกทักษะการคูณ
จำนวนที่มีสองหลักกับจำนวนที่มีสองหลัก จำนวน 5 ชุด นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 24,36,46,74 และ
90 ตามลำดับ นับวาเป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละที่สูงในระดับที่นาพอใจ นอกจากนี้จากการทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนก่อนและหลงั การใชแบบกจิ กรรมเกมบิงโกทักษะการคูณทั้ง 10 ชดุ พบวานักเรยี นมีคะแนนเฉลี่ย
ร้อยละเพิ่มขึ้น 46 โดยที่ก่อนการใชแบบกิจกรรมเกมบิงโกเสริมทักษะนักเรียนได้คะแนนร้อยละ 90 แสดงวา
แบบกิจกรรมเกมบิงโกเสริมทักษะการคูณทั้ง 10 ชุด ที่จัดทำขึ้นเป็นแบบกิจกรรมเกมบิงโกเสริมทักษะที
สามารถพัฒนาทักษะของนักเรียนในการหาผลคูณของจำนวนท่ีมีหนึ่งหลักกับจำนวนท่ีมีสี่หลักและจำนวนที่มี
สองหลกั กับจำนวนท่ีมสี องหลกั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
อภปิ รายผล
จากการสร้างแบบกิจกรรมเกมบิงโกทักษะเพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่
3/3 ในครง้ั นีส้ ามารถอภิปรายผลไดด้ ังน้ี
1. พบวานกั เรยี นมคี ะแนนเฉล่ยี ร้อยละเพ่ิมขึ้น 46 โดยทีก่อนการใชแบบกิจกรรมเกมบงิ โกเสริมทกั ษะ
นักเรยี นได้คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละ 44 แตภ่ ายหลังการใชแบบกจิ กรรมเกมบงิ โกเสริมทักษะนกั เรียนได้คะแนนร้อย
ละ 90แสดงวาแบบกิจกรรมเกมบิงโกทักษะการหาผลคูณทั้ง 10 ชุด ที่จัดทำขึ้นเป็นแบบกิจกรรมเกมบิงโก
ทักษะท่ีสามารถพัฒนาทักษะของนักเรียนในการหาผลคูณของจำนวนท่ีมีหนึ่งหลักกับจำนวนที่มีสี่หลักและ
จำนวนทีม่ สี องหลกั กับจำนวนทีม่ ีสองหลกั ได้เป็นอยา่ งดี
ข้อเสนอแนะ
1. ก่อนนำแบบกิจกรรมเกมบิงโกเสริมทักษะไปใช้ ควรศึกษาคู่มือในการใช้แบบกิจกรรมเกมบิงโก
ทกั ษะ เพ่อื ความสะดวกและเรยี นไดร้ วดเร็ว
2. การใช้แบบกิจกรรมเกมบิงโกเสริมทักษะ แต่ละเล่มต้องให้สัมพันธ์ และต่อเนื่องกันโดยสม่ำเสมอ
ปรับใช้ตามความสามารถของนักเรียน ท้งั เน้ือหาและจำนวนข้อและใช้ควบคู่กับส่ือการสอนอน่ื ๆ ประเมินผล
แล้วต้องบนั ทกึ คะแนนความก้าวหนา้ สงั เกตการพัฒนาและแก้ไขนกั เรียนต่อไป
3. ในการวิจัยในแต่ละครงั้ ควรเก็บขอ้ มลู ใหถกู ตองและเป็นปจจบุ ัน
บรรณานุกรม
จารวุ รรณ สิงหม์ ว่ ง และสุภาภรณแ์ จ้งสขุ . (2559). การพฒั นาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นคณติ ศาสตร์
เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารจำนวนทมี่ ีหลายหลกั ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีท่ี 5 โดยใช้แบบฝกึ ทักษะ. ครุศาสตรบณั ฑิต(คณติ ศาสตร์). ฉะเชิงเทรา:
มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏราชนครนิ ทร.์
จติ รา สมพล. (2547). การพัฒนาแบบฝึกทกั ษะการเขยี นสะกดคำวิชาภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6.
วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญาครุศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขาการจดั การเรยี นรู้, คณะครุศาสตร์,
มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏอบุ ลราชธานี.
ชมนาด เชือ้ สุวรรณทว.ี (2542). การสอนคณิตศาสตร์. [กรงุ เทพฯ] :, ภาควชิ าหลักสูตรและการสอน,
มหาวิทยาลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ.
ณัชญ์ชญาน์ แตงหนู. (2561). การพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบชดุ ฝกึ ทกั ษะคณิตศาสตร์
เร่อื งการคูณ ของนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3. หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต,
สาขาวชิ าคณิตศาสตร์ศึกษาคณะศึกษาศาสตร์, มหาวทิ ยาศาสตร์รามคาํ แหง.
ทองจนั ทร์ ปะสีรัมย์. (2555). ผลการใชแ้ บบฝกึ ทกั ษะคณิตศาสตร์ เร่ืองการบวกลบเศษสว่ นสำหรับ
นกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1. วทิ ยานพิ นธค์ รศุ าสตรมหาบัณฑิต, สาขาวชิ าหลกั สูตรและการสอน,
บณั ฑิตวทิ ยาลยั , มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรรี ัมย์.
นลิ าภรณ์ ธรรมวิเศษ. (2546). การพัฒนาแบบฝกึ ทกั ษะการเขียนสะกดคำในมาตราแม่กดสำหรบั นักเรียน
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4. วิทยานิพนธค์ รุศาสตรมหาบณั ฑติ , มหาวิทยาลัยราชภฏั อบุ ลราชธาน.ี
นฤมล สสี ุข. (2559). การพัฒนาแบบฝึกทกั ษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ และการคูณทศนิยม
กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5. ตรัง: ม.ป.พ.
บุญชม ศรีสะอาด. (2546). การวิจัยสำหรับครู. กรุงเทพฯ : สวุ ีริยาสาสน์ .
ประทีป แสงเปย่ี มสขุ . (2538). แนวทางการสรา้ งแบบฝึกหัดสะกดคำยากสารพฒั นาหลักสตู รอนั ดบั ที่ 11
14 (121) ซ 55-56 : เมษายน – มถิ นุ ายน.
ประภาพร ถิ่นอ่อง. (2553). การพัฒนาแบบฝึกทักษะวชิ าคณติ ศาสตร์ เร่อื ง การแยกตัวประกอบของ
พหุนามดีกรสี อง สำหรบั นักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี3. วทิ ยานิพนธก์ ารศึกษามหาบณั ฑิต,
สาขาวจิ ัยและประเมนิ ผลการศึกษา (วิจัยและพัฒนาการศึกษา), บณั ฑิตวิทยาลัย,
มหาวทิ ยาลยั นเรศวร.
ประมง สวสั ดลี าภา. (2552). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาไทยสำหรับนกั เรียน
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 โรงเรียนวดั เศวตฉัตร. สารนพิ นธ์การศกึ ษามหาบัณฑิต.กรุงเทพมหานคร:
มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒประสานมิตร.
ประยงค์ มาแสง . (2552). การพฒั นาชุดฝกึ ความคิดสรา้ งสรรค์สำหรับเดก็ ปฐมวยั และนกั เรียน
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 (ชยั ภูมิ เขต 1). กรงุ เทพมหานคร : สำนกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาต.ิ
ปราณี จณิ ฤทธ.ิ์ (2552). ผลการใช้แบบฝกึ ทกั ษะคณิตศาสตร์ท่ีมีต่อผลสัมฤทธิ์และเจตคติ
ทางการเรียนคณติ ศาสตร์ของนกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรยี นเคหะประชา สามัคคี
จังหวัดนครราชสีมา. วิทยานพิ นธ์ ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต, สาขาวิชาศึกษาศาสตร์,
มหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช.
พงษ์ศกั ด์ิ ศริ ิวงศ.์ (2549). การพัฒนาแบบฝกึ ทักษะการอ่านจบั ใจความวิชาภาษาไทยสำหรบั นักเรยี น
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6. วทิ ยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อุบลราชธาน.ี
ภพ เลาหไพบูลย.์ (2542). แนวการสอนวิทยาศาสตร์ (พิมพ์ครง้ั ท่ี 3). กรงุ เทพฯ:ไทยวัฒนาพานชิ .
มาลนิ ี คําชมพู (2556). การพฒั นาการเรียนรู้ เรอ่ื ง การคูณ โดยใช้แบบฝึกกลุ่มสาระการเรยี นรู้
คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4. วารสารบัณฑติ ศึกษา สาขาวิชาการพัฒนาหลกั สูตรและการ
จดั การเรยี นรู้ มหาวิทยาลัยอีสาน.
วนั เพ็ญ บุญเที่ยง. (2549). การพัฒนาแบบฝกึ ทักษะการเขยี นสะกดคำท่ีไมต่ รงมาตรา แม่กด
กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สำหรบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วทิ ยานพิ นธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต,
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อบุ ลราชธาน.ี
วรรณทพิ า รอดแรงค้า และพิมพนั ธ์ เดชะคปุ ต.์ (2542). การพฒั นาการคดิ ของครูด้วยกิจกรรมทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์. กรุงเทพมหานคร:เดอะมาสเตอร์กรุ๊ปแมเนจเม้นท.์
ศันสนีย์ สอ่ื สกลุ . (2554). การพฒั นาชุดฝึกทกั ษะการเขียนเชิงคดิ วิเคราะห์ วชิ าภาษาไทยสำหรับนักเรยี น
ชนั้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 1 โรงเรียนสตรวี ิทยา 2 ในพระราชูปถัมภส์ มเด็จพระศรีนครินทราบรมราช
ชนนี. ปรญิ านพิ นธ์ กศ.ม. (การมัธยมศึกษา). กรงุ เทพฯ:บัณฑิตวทิ ยาลัย,
มหาวทิ ยาลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ ประสานมิตร.
สริ พิ ร ทิพย์คง. (2545). หลักสูตรและการสอนคณติ ศาสตร์. (พิมพ์ครั้งท่ี 1). กรงุ เทพฯ:
บริษัทพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ(พว.) จำกัด.
สคุ นธ์ สินธพานนท์. (2552). นวัตกรรมการเรียนการสอนเพือ่ พัฒนาคุณภาพของเยาวชน. (พิมพค์ รั้งท3ี่ ).
กรุงเทพฯ: 9119 เทคนิคพริน้ ตง้ิ .
สุนนั ทา สนุ ทรประเสรฐิ . (2550). การผลิตนวัตกรรมการเรยี นการสอน เล่ม 2 การสร้างแบบฝึก.
ชยั นาท: ม.ป.พ.
สำลี รกั สุทธี. (ม.ป.ป.). คูม่ ือการจดั ทำสอื่ นวตั กรรมและแผนฯ ประกอบสื่อนวัตกรรม.
นนทบุรี:เพิม่ ทรัพย์การพิมพ์.
สนอง อินละคร. (2544). เทคนิควธิ กี ารและนวตั กรรมทีใ่ ชจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนทเี่ นนนกั เรยี น
เปน็ ศูนยกลาง. อบุ ลราชธานี : อุบลกิจออฟเซทการพมิ พ.
สมศรี อภัย. (2553). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ เรือ่ งการบวกและการลบจำนวน
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 โดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะ. การศกึ ษาค้นควา้ อิสระการศึกษามหาบณั ฑิต,
สาขาวชิ าหลักสตู รและการสอน, มหาวิทยาลยั มหาสารคาม.
สมพร ตอยยีบ.ี (2554). การพฒั นาแบบฝึกทักษะการเขียนเชงิ สร้างสรรค์สำหรบั นักเรียน
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 โรงเรียนเซนต์เทเรซา หนองจอก กรุงเทพฯ. ปริญญานิพนธก์ ารศกึ ษา
มหาบณั ฑติ , สาขาวิชาการมัธยมศกึ ษา, บัณฑติ วทิ ยาลัย, มหาวทิ ยาลัยศรีนครินทรวโิ รฒ.
สรศกั ดิ์ แพรดํา. (2544). ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร. อบุ ลราชธานี : สถาบันราชภัฏอุบลราชธาน.ี
อุษณยี ์ เสือจนั ทร์. (2553). การพัฒนาแบบฝกึ ทกั ษะแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่องวิธเี รียงสับเปลยี่ น
และวิธีจดั หมู่ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5.
วทิ ยานิพนธก์ ารศึกษามหาบัณฑติ , สาขาวจิ ยั และประเมินผลการศึกษา (วจิ ัยและพัฒนาการศึกษา),
บัณฑติ วทิ ยาลัย, มหาวิทยาลัยนเรศวร.
อดลุ ย์ ภูปลื้ม. (2539). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิการเขียนสะกดคำสำหรับนกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1
ทเ่ี รยี นโดยใชแ้ บบฝกึ ทีจ่ ัดทำเปน็ กลมุ่ คำ. ปรญิ ญานพิ นธ์ กศ.ม. (การประถมศึกษา).มหาสารคาม,
บัณฑิตวทิ ยาลยั , มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
Rivers, W.M. (1968). Teaching foreign language skills. Chicago : The University of
ChicagoPress.
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก : นวตั กรรมทางการศกึ ษา
ชุดท่ี 1 : การคณู จานวนทม่ี หี น่ึงหลกั กับจานวนทม่ี สี ห่ี ลัก
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชีแ้ จง จงหาผลคณู ของจานวนต่อไปนี้
1. 6 2 5 0 2. 3 2 8 0 3. 9 2 1 3 4. 5 1 8 1
2 5× 6× 7×
/ / / /................................
................................. ................................. .................................
×
5. 3 3 6 2 ××6. 2 8 3 5 7. 3 0 2 8
3× ×××5× 4×
××× ×
/ / /
................................. ................................. .................................
8. 1 3 6 7 9. 6 6 5 4
8× 3×
/ /
................................. .................................
.
10. 2 3 9 9
9×
/
.................................
ชุดที่ 2 : การคูณจานวนทม่ี หี นึ่งหลักกบั จานวนทม่ี สี ีห่ ลกั
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชีแ้ จง จงหาผลคณู ของจานวนต่อไปนี้
1. 9 9 1 0 2. 5 2 4 8 3. 6 1 2 1 4. 7 7 1 4
9× 6× 3× 2×
/ .... ./ /................................ /
/................................ /................................ /................................
× ×× ×
5. 3 9 6 2 6. 8 7 8 0 7. 3 1 7 1
4× 8× 5×
/ / /
/................................ /................................ /................................
×× ×
8. 2 0 2 2 9. 3 8 9 0
9× 6×
/ /
/................................ /................................
××
10. 3 7 5 1 ×
7×
/
/................................
ชุดท่ี 3 : การคณู จานวนทมี่ หี นึ่งหลักกับจานวนทมี่ ีสห่ี ลกั
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชแี้ จง จงหาผลคณู ของจานวนต่อไปนี้
1. 6 3 2 3 2. 8 5 4 2 3. 9 1 2 0 4. 6 4 9 6
3× 2× 4× 9×
/ / / /
...................................... ...................................... ...................................... ......................................
×× ×
5. 8 3 8 5 6. 5 1 8 8 7. 4 3 1 1
7× 5× 6×
/ / /
...................................... ...................................... ......................................
8. 9 3 7 0 9. 2 1 9 1
8× 3×
/ /
...................................... ......................................
10. 8 6 1 1
9×
/
......................................
ชุดที่ 4 : การคูณจานวนทมี่ หี น่ึงหลักกับจานวนทมี่ ีสห่ี ลกั
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชีแ้ จง จงหาผลคณู ของจานวนตอ่ ไปนี้
1. 4141 2. 6783 3. 9930 4. 6 3 2 8
2× 5× 4× 9×
/ / /
...................................... ...................................... ...................................... ......................................
/
5. 2 15 3 6. 3 8 4 0 7. 1 5 2 9
7× 3× 4×
/ / /
...................................... ...................................... ......................................
8. 1 2 6 3 9. 8 7 3 1
8× 6×
/ /
...................................... ......................................
10. 1 9 1 4
6×
/
......................................
ชุดท่ี 5 : การคูณจานวนทมี่ หี นึ่งหลักกบั จานวนทมี่ ีส่ีหลกั
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชแี้ จง จงหาผลคณู ของจานวนตอ่ ไปนี้
1. 8992 2. 4561 3. 2090 4. 6 1 1 6
4× 5× 8× 3×
/ / / /
...................................... ...................................... ...................................... ......................................
5. 6 5 1 9 6. 1 2 7 5 7. 3 4 5 8
7× 5× 4×
/ / /
...................................... ...................................... ......................................
8. 6 5 6 4 9. 1 2 7 9
3× 4×
/ /
...................................... ......................................
10. 6 7 8 3
9×
/
......................................
ชุดที่ 6 : การคูณจานวนทม่ี สี องหลักกับจานวนทม่ี ีสองหลัก
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชแี้ จง จงหาผลคณู ของจานวนตอ่ ไปนี้
1. 2. 3.
28 28 × 16
92 × 53 25 ×
….…............ ….…............ ….…............
__________ __________ __________
__________ __________
__________
4. 5. 6.
45 90 14
71 × 16 × 82 ×
….…............ ….…............ ….…............
__________ __________ __________
__________ __________ __________
7. 8. 9.
47 44 × 53
21 × 20 65 ×
….…............ ….…............ ….…............
__________ __________ __________
__________ __________
__________
10.
16
45
….…............
__________
__________
ชุดที่ 7 : การคณู จานวนทม่ี ีสองหลักกบั จานวนทม่ี ีสองหลกั
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชแี้ จง จงหาผลคณู ของจานวนตอ่ ไปนี้
1. 2. 3.
32 × 17 × 51
90 41 24 ×
….…............ ….…............ ….…............
__________ __________ __________
__________
__________ __________
4. 5. 6.
73 × 61 × 93 ×
59 26 72
….…............ ….…............ ….…............
__________ __________ __________
__________ __________ __________
7. 8. 9.
74 29 98
38 33 63
….…............ …__._…__.._.._.._.._.._.×. ….…............
__________× __________ __________×
__________ __________
10. __________
59 ×
80
….…............
__________
__________
ชุดท่ี 8 : การคณู จานวนทมี่ สี องหลักกบั จานวนทม่ี ีสองหลัก
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชีแ้ จง จงหาผลคณู ของจานวนตอ่ ไปนี้
1. 2. 3.
22 × 14 × 94
40 82 74 ×
….…............ ….…............ ….…............
__________ __________ __________
__________
__________ __________
4. 5. 6.
35 × 29 × 83 ×
62 77 43
….…............ ….…............ ….…............
__________ __________ __________
__________ __________ __________
7. 8. 9.
92 36 92
42 85 23
…__._…__.._.._.._.._.._.×. …__._…__.._.._.._.._.._.×. ….…............×
__________ __________ __________
__________
10.
78 ×
45
….…............
__________
__________
ชุดท่ี 9 : การคณู จานวนทม่ี สี องหลักกับจานวนทม่ี ีสองหลัก
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชแี้ จง จงหาผลคณู ของจานวนต่อไปนี้
1. 2. 3.
40 × 31 × 71
30 41 20 ×
….…............ ….…............ ….…............
__________ __________ __________
__________
__________ __________
4. 5. 6.
21 × 14 × 29 ×
12 50 11
….…............ ….…............ ….…............
__________ __________ __________
__________ __________ __________
7. 8. 9.
63 96 57
51 67 55
…__._…__.._.._.._.._.._.×. ….…...........×. …__._…__.._.._.._.._.._.×.
__________ __________ __________
__________
10.
98 ×
90
….…............
__________
__________
ชุดที่ 10 : การคณู จานวนทมี่ ีสองหลักกับจานวนทมี่ สี องหลัก
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชีแ้ จง จงหาผลคณู ของจานวนตอ่ ไปนี้
1. 2. 3.
46 × 31 × 51
12 89 24 ×
….…............ ….…............ ….…............
__________ __________ __________
__________
__________ __________
4. 5. 6.
21 94 29
82 52 61
….…............ ….…............ ….…............
__________ __________ __________
__________× __________× __________×
7. 8. 9.
53 96 77
91 37 15
…__._…__.._.._.._.._.._.×. ….…...........×. …__._…__.._.._.._.._.._.×.
__________ __________ __________
__________
10.
18 ×
39
….…............
__________
__________
ตวั อยา่ งแผนการจดั การเรยี นรู้
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3
เวลา 12 ชว่ั โมง
กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์
บทที่ 7 เรอ่ื ง การคณู เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ เรอื่ ง ทบทวนการคูณ
จดั กิจกรรมวันที.่ ............เดือน.................พ.ศ. ................ เวลา..............................น.
สาระการเรียนรู้
1. ความหมายของการคูณ
2. การใชเ้ ครื่องหมายคูณ
สาระสำคัญ
การบวกจำนวนที่เท่ากันหลายๆ จำนวน อาจแสดงได้ดว้ ยการคณู จำนวนสองจำนวน คือ จำนวน
กลุม่ ของจำนวนทนี่ ำมารวมกันกบั จำนวนน้นั จำนวนท่ีได้จากการคณู สองจำนวนเขา้ ด้วยกนั เรียกว่า ผลคูณ
สาระท่ี 1 จำนวนและการดำเนินการ
มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.2 เขา้ ใจถึงผลทเ่ี กิดข้นึ จากการดำเนนิ การของจำนวนและความสัมพันธ์ระหวา่ ง
การดำเนินการต่าง ๆ และใช้การดำเนนิ การในการแก้ปญั หา
ตัวชีว้ ัดชั้นปี
ค 1.2 ป.3/1 บวก ลบ คณู หาร และบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนับไม่เกนิ หน่งึ แสน และศูนย์
พรอ้ มทั้งตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของการคณู และการใช้เครือ่ งหมายคูณได้(K)
2. นักเรยี นสามารถคูณจำนวนนับไม่เกนิ หน่ึงแสนและศูนย์ได้ พร้อมทงั้ ตระหนักถึงความสมเหตุสมผล
ของคำตอบได้ (P)
3. นกั เรยี นทำงานส่งตรงตามเวลาทกี่ ำหนดให้ (A)
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขนั้ ท่ี 1 นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครทู บทวนความหมายการคูณ โดยให้ผู้แทนนกั เรียน 3 คน ออกมาหยิบดินสอ คนละ 4 แทง่ ให้
ผ้แู ทนนักเรยี นอีก 1 คน ออกมาเขยี นประโยคการบวกบนกระดาน (4 + 4 + 4 = 12) นักเรียนในหอ้ ง
รว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
ข้นั ที่ 2 ข้ันสอนเนอื้ หาใหม่
2. จากกจิ กรรมข้อ 1 ครถู ามคำถามนักเรยี น ดังน้ี
- มีผู้แทนนักเรยี นออกมาหยิบดินสอ ทั้งหมดกี่คน (3 คน)
- มีดินสอทน่ี ำมารวมกนั ก่จี ำนวน (3 จำนวน)
- ผู้แทนนกั เรยี นแต่ละคนออกมาหยิบดนิ สอ คนละกแ่ี ทง่ (4 แทง่ )
- จากประโยคการบวก นกั เรียนสงั เกตเห็นอะไร (เปน็ ประโยคการบวกจำนวนมากกว่า 2 จำนวนครง้ั ละ
เทา่ ๆ กนั )
- จำนวนทซ่ี ำ้ กนั คอื จำนวนใด (4)
- มีจำนวนที่ซำ้ กนั กต่ี วั /ครั้ง (3)
- ดงั นน้ั 3 ครง้ั ของ 4 เท่ากับเท่าไร (12)
ครูแนะนำวา่ 3 คร้ังของ 4 เขยี นในรูปการคณู จำนวน 2 จำนวน ได้ 3 × 4 = 12 อ่านวา่ 3 คณู ดว้ ย 4
เทา่ กบั 12 ครสู าธิตการเขยี นประโยคการคูณและแนะนำการใชเ้ ครื่องหมาย × แสดงการคูณ
ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง
ครดู ำเนินกิจกรรมข้อ 1 และกจิ กรรมน้ีอีกครง้ั โดยใหผ้ ู้แทนนกั เรยี น 2 คนออกมาหยบิ หลอดคนละ 5
หลอด แลว้ ใหผ้ แู้ ทนนกั เรยี นอีก 2 คน ออกมาเขียนประโยคการบวกและประโยคการคูณ บนกระดาน
ให้นกั เรียนสังเกตความสัมพันธร์ ะหว่างประโยคการบวกและการคณู วา่ ประโยคการคูณเขียนโดยนำ
จำนวนครงั้ หรอื จำนวนกลุม่ มาคูณกับจำนวนสมาชิกในแต่ละครงั้ /กลุ่มซง่ึ จะไดผ้ ลลัพธ์เท่ากับประโยคการบวก
3. ครตู ดิ บัตรภาพบนกระดานแล้วถามคำถามนักเรยี น ดงั นี้
- มีโบผูกผมกี่กลุ่ม (5 กลุ่ม)
- โบผูกผมแต่ละกลุ่มมีกอ่ี ัน (2 อัน)
- เขยี นเป็นประโยคการบวกได้อยา่ งไร (2 + 2 + 2 + 2 + 2 = 10) ให้นักเรยี นออกมาเขียนบนกระดาน
- เขยี นแสดงเป็นขอ้ ความได้อย่างไร (5 กลุ่มของ 2 เท่ากบั 10)
- เขยี นเป็นประโยคการคูณได้อย่างไร (5 × 2 = 10) ให้นักเรยี นออกมาเขียนบนกระดาน
- สรุปคำตอบได้อย่างไร (มโี บผูกผมทงั้ หมด 10 อัน)
ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบ
ขนั้ ที่ 3 ขน้ั สรปุ
1. ครูพร้อมนกั เรียนร่วมกันอภปิ ลายเกีย่ วกบั การคณู
2. ให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัด 7.1
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. บัตรภาพ
2. แบบฝึกหัดที่ 7.1 เรือ่ ง ทบทวนการคูณ
3. หนงั สอื เรียนคณิตศาสตร์ ป. 3
กระบวนการวดั และการประเมิณผล
จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวดั เคร่อื งมือท่ใี ช้วดั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
1. นักเรยี นสามารถอธิบาย - การตรวจแบบฝกึ 7.1 - แบบฝกึ หัด 7.1 ผา่ นเกณฑ์เมื่อได้ 6
ความหมายของการคูณและ คะแนนขน้ึ ไป
การใช้เครอ่ื งหมายคูณได้(K) - บัตรภาพ - แบบบันทึกคะแนน
2. นกั เรยี นสามารถคูณจำนวน - ตรวจแบบฝกึ หัด 7.1 - แบบฝึกหัด 7.1 ผ่านเกณฑเ์ มือ่ ได้ 6
นบั ไม่เกนิ หน่ึงแสนและศนู ยไ์ ด้ - บตั รภาพ - แบบบันทกึ คะแนน คะแนนขน้ึ ไป
พรอ้ มทัง้ ตระหนักถงึ ความ
สมเหตสุ มผลของคำตอบได้(P) แบบสงั เกตพฤติกรรม ได้ 4 คะแนนขน้ึ ไป
3. นักเรียนทำงานส่งตรงตาม สังเกตพฤตกิ รรม
เวลาที่กำหนดให้ (A)
เกณฑก์ ารตรวจแบบฝึกหัด 7.1 เร่อื ง ทบทวนการคูณ
8 – 10 คะแนนคดิ เป็นร้อยละ 80 – 100 หมายถึง เน้ือหาถกู ต้อง ครบทุกประเด็น ไม่คัดลอกงานของ
ผอู้ ื่น สง่ งานตามกำหนด ความสะอาด มีระเบยี บ
6 – 7 คะแนนคิดเป็นร้อยละ 60 – 70 หมายถึงเน้อื หาถกู ต้อง ไม่คัดลอกงานของผู้อนื่ สง่ งานตามกำหนด
ความสะอาด
4 – 5 คะแนนคดิ เป็นร้อยละ 40 – 50 หมายถึง เนอ้ื หาถูกตอ้ ง ไม่คัดลอกงานของผู้อ่ืน
1 - 3 คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ 10 – 30 หมายถึงเนื้อหาถกู ต้องบางสว่ น
>>>>เกณฑ์การผ่าน ต้องได้ 6 คะแนน หรือ รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป
บันทกึ ผลหลงั กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจัดการเรยี นรู้
- ดา้ นความรู้ (K)
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
- ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
- ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
.................................................................................................................................... ..........................................
......................................................................................... .....................................................................................
๒. ปญั หา/อุปสรรค
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................................................... ...............
.................................................................................................................... ..........................................................
ลงชือ่ ............................................................
(นางสญั ลักษณ์ ณ หนองคาย)
ครผู สู้ อน
ความเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ................................................................................................................... ......................................
............................................................................................................................. .................................................
ลงชอื่ ......................................................
( นายประยูร ศริ คิ ุณ )
รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นศรแี ก้งคร้อ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเรยี นวชิ าคณิตศาสตร์
เร่อื ง ทบทวนการคณู
เลขท่ี ชื่อ – สกลุ ความ มุ่งมน่ั ในการ รวมคะแนน ผลการ
ของผ้รู ับการประเมิณ รับผดิ ชอบ ทำงาน/ทำ ประเมณิ
ในการ แบบฝกึ หดั
ทำงาน
3 3 6 ผ/มผ
ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน
(นางสญั ลักษณ์ ณ หนองคาย)
วันที่..............เดอื น...................ป.ี ...............
เกณฑก์ ารประเมิน / ระดับคุณภาพ ดี
4 – 6 คะแนน ระดับ ปรับปรงุ
1 - 3 คะแนน ระดบั
ผ่านเกณฑเ์ มอ่ื ได้ 4 คะแนนขึ้นไป
เกณฑก์ ารประเมินพฤตกิ รรมการเรยี น
รายการประเมิน ๓ (ดมี าก) คำอธิบายคณุ ภาพ ๑ (พอใช้)
๒ (ด)ี
ทำกิจกรรมท่ีไดร้ บั ทำกจิ กรรมท่ีไดร้ ับ ทำกจิ กรรมที่ได้รบั
มอบหมายและสง่ งาน
มคี วามรับผิดชอบใน ตรงตามเวลาทุกคร้งั มอบหมายและสง่ งานตรง มอบหมายบ้าง แต่ไม่
การทำงาน
ตามเวลาบ้างบางครั้ง ส่งงานตรงตามเวลา
สนใจงานท่ีไดร้ บั สนใจงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย สนใจงานท่ีได้รับ
มอบหมายเป็นอย่างดี
มีความมุ่งม่ันในการ และสนใจตอบคำถาม เป็นบางคร้ังและสนใจตอบ มอบหมายน้อย แต่
ทำงาน/ทำแบบฝกึ หดั อย่างสม่ำเสมอ
คำถามบ้างบางครงั้ ส่วนใหญไ่ มส่ นใจเลย
และตอบคำถามบา้ ง
บางคร้งั แต่ส่วนใหญ่
ไมต่ อบคำถาม
แบบฝึกหดั 7.1
เรือ่ ง ทบทวนการหาร
ชื่อ............................................................................ชนั้ ............................เลขท่.ี ......................
ภาคผนวก ข : เครื่องมอื
แบบทดสอบกอ่ นการใชแ้ บบฝึ กเสรมิ ทักษะ
เรอื่ ง การคูณ ช้ันประถมศกึ ษาปี ที่ 3
ช่ือ..............................................................................................................ชนั้ ..........................เลขท่.ี ..............
คาชีแ้ จง นกั เรยี นเลือกคาตอบท่ถี กู ตอ้ ง เพยี งคาตอบเดยี ว
1. แบบทดสอบการคณู จานวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน
2. เวลาในการทาแบบทดสอบ 30 นาที
1. 6,095 × 9 มีผลลพั ธเ์ ท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 24,825 ข. 34,835 ค. 44,845 ง. 54,855
2. 9,704 × 8 มีผลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 57,742 ข. 67,732 ค. 77,632 ง. 87,642
3. 1,116 × 7 มผี ลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 7,812 ข. 5,812 ค. 3,812 ง. 1,821
4. 3,525 × 4 มผี ลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 44,000 ข. 34,100 ค. 24,100 ง. 14,100
5. ผลคณู ขอ้ ใดมคี า่ มากท่ีสดุ ค. 42 48 ง. 62 36
ก. 2,376 3 ข. 1,524 2
6. 5,860 × 5 มีผลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 19,200 ข. 29,300 ค. 39,400 ง. 49,500
7. 52 × 17 มผี ลลพั ธเ์ ท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 11,804 ข. 11,084 ค. 12,084 ง. 12,804
8. 12 × 24 มีผลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด ค. 488 ง. 388
ก. 288 ข. 588 ค. 1,115 ง. 2,150
ค. 675 ง. 554
9. 50 × 31 มีผลลพั ธเ์ ท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 2,110 ข. 1,550
10. 27 × 25 มีผลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 485 ข. 474
เรื่อง การคูณ แบบทดสอบหลังการใช้แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3
ชอ่ื ..............................................................................................................ช้นั ....... ...................เลขที.่ ..............
คำชแ้ี จง นักเรียนเลือกคำตอบทีถ่ กู ต้อง เพยี งคำตอบเดยี ว
1. แบบทดสอบการคูณ จำนวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน
2. เวลาในการทำแบบทดสอบ 30 นาที
1. 9,704 × 8 มผี ลลัพธ์เท่ากับข้อใด
ก. 57,742 ข. 67,732 ค. 77,632 ง. 87,642
2. 6,095 × 9 มผี ลลัพธ์เท่ากับขอ้ ใด
ก. 24,825 ข. 34,835 ค. 44,845 ง. 54,855
3. 3,525 × 4 มผี ลลัพธ์เท่ากับขอ้ ใด
ก. 44,000 ข. 34,100 ค. 24,100 ง. 14,100
4. 1,116 × 7 มผี ลลัพธ์เท่ากับขอ้ ใด
ก. 7,812 ข. 5,812 ค. 3,812 ง. 1,821
5. 5,860 × 5 มผี ลลพั ธ์เท่ากับข้อใด
ก. 19,200 ข. 29,300 ค. 39,400 ง. 49,500
6. ผลคณู ขอ้ ใดมคี ่ามากท่สี ดุ
ก. 2,376 3 ข. 1,524 2 ค. 42 48 ง. 62 36
7. 52 × 17 มีผลลพั ธเ์ ทา่ กับข้อใด
ก. 11,804 ข. 11,084 ค. 12,084 ง. 12,804
ค. 488 ง. 388
8. 12 × 24 มผี ลลพั ธเ์ ท่ากบั ข้อใด ค. 1,115 ง. 2,150
ก. 288 ข. 588 ค. 675 ง. 554
9. 50 × 31 มีผลลพั ธ์เทา่ กบั ข้อใด
ก. 2,110 ข. 1,550
10. 27 × 25 มีผลลพั ธเ์ ท่ากับขอ้ ใด
ก. 485 ข. 474
เฉลยแบบทดสอบก่อนการใชแ้ บบฝึ กเสริมทกั ษะ
เรอ่ื ง การคณู ชน้ั ประถมศึกษาปี ท่ี 3
ช่อื ..............................................................................................................ชนั้ ..........................เลขท่.ี ..............
คาชีแ้ จง นกั เรียนเลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง เพยี งคาตอบเดยี ว
1. แบบทดสอบการคณู จานวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน
2. เวลาในการทาแบบทดสอบ 30 นาที
1. 6,095 × 9 มผี ลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 24,825 ข. 34,835 ค. 44,845 ง. 54,855
2. 29,704 × 8 มีผลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 57,742 ข. 67,732 ค. 77,632 ง. 87,642
3. 1,116 × 7 มผี ลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 7,812 ข. 1,812 ค. 5,812 ง. 3,821
4. 3,525 × 4 มผี ลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 44,000 ข. 34,100 ค. 24,100 ง. 14,100
5. ผลคณู ขอ้ ใดมีค่ามากท่สี ดุ ค. 42 48 ง. 62 36
ก. 2,376 3 ข. 1,524 2
6. 5,860 × 5 มีผลลพั ธเ์ ท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 19,200 ข. 29,300 ค. 39,400 ง. 49,500
7. 52 × 17 มีผลลพั ธเ์ ท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 11,804 ข. 11,084 ค. 12,084 ง. 12,804
ค. 488 ง. 388
8. 12 × 24 มผี ลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 288 ข. 588
9. 50 × 31 มผี ลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 2,110 ข. 1,550 ค. 1,115 ง. 2,150
ค. 675 ง. 554
10. 27 × 25 มผี ลลพั ธเ์ ท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 485 ข. 474
เฉลยแบบทดสอบหลงั การใช้แบบฝึ กเสรมิ ทกั ษะ
เรอ่ื ง การคณู ชัน้ ประถมศึกษาปี ที่ 3
ช่อื ..............................................................................................................ชนั้ ..........................เลขท่.ี ..............
คาชแี้ จง นกั เรยี นเลอื กคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง เพียงคาตอบเดียว
1. แบบทดสอบการคณู จานวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน
2. เวลาในการทาแบบทดสอบ 30 นาที
1. 9,704 × 8 มีผลลพั ธเ์ ท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 57,742 ข. 67,732 ค. 77,632 ง. 87,642
2. 6,095 × 9 มผี ลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 24,825 ข. 34,835 ค. 44,845 ง. 54,855
3. 3,525 × 4 มีผลลพั ธเ์ ท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 44,000 ข. 34,100 ค. 24,100 ง. 14,100
4. 1,116 × 7 มผี ลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 7,812 ข. 1,812 ค. 5,812 ง. 3,821
5. 5,860 × 5 มีผลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 19,200 ข. 29,300 ค. 39,400 ง. 49,500
6. ผลคณู ขอ้ ใดมีคา่ มากท่สี ดุ
ก. 2,376 3 ข. 1,524 2 ค. 42 48 ง. 62 36
7. 52 × 17 มผี ลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด
ก. 11,804 ข. 11,084 ค. 12,084 ง. 12,804
ค. 488 ง. 388
8. 12 × 24 มผี ลลพั ธเ์ ทา่ กบั ขอ้ ใด ค. 1,115 ง. 2,150
ก. 288 ข. 588 ค. 675 ง. 554
9. 50 × 31 มีผลลพั ธเ์ ท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 2,110 ข. 1,550
10. 27 × 25 มีผลลพั ธเ์ ท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 485 ข. 474
ชุดท่ี 1 : เฉลยการคณู จานวนทม่ี ีหน่ึงหลักกับจานวนทม่ี ีสี่หลัก
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชแี้ จง จงหาผลคณู ของจานวนตอ่ ไปนี้
1. 6 , 2 5 0 2. 3. 9 , 2 1 3 4. 5 , 1 8 1
2 6×/ 7×
3,280 ×
12500 5 55278 36267
/
16400
×
5. 3 , 3 6 2 ××6. 2 , 8 3 57. 3 , 0 2 8
3× ×××5× 4×
××× ×
10086 14175 12112
8. 1 , 3 6 7 9. 6 , 6 5 43×
8× /1 9 9 6 2
10936
10.
2 , 3 9 99×
21591
ชุดท่ี 2 : เฉลยการคณู จานวนทม่ี ีหน่ึงหลักกบั จานวนทมี่ สี ห่ี ลัก
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชแี้ จง จงหาผลคณู ของจานวนต่อไปนี้
1. 9910 2. 5 2 4 8 3. 6 1 2 1 4. 7 7 1 4
9× 6× 3× 2×
89190 31488 18363 /1 5 4 2 8
/ / / /
× ×× ×
5. 3 9 6 2 6. 8 7 8 0 7. 3 1 7 1 ×
4× 8× 5×
15848 /7 0 2 4 0 15855
/ / /
××
8. 2 0 2 2 9. 3 8 9 0
9× 6×
18198 23340
/ /
××
10. 3 7 5 1 ×
7×
26257
/
ชุดที่ 3 : เฉลยการคณู จานวนทมี่ ีหน่ึงหลกั กับจานวนทม่ี ีสหี่ ลกั
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชีแ้ จง จงหาผลคณู ของจานวนต่อไปนี้
1. 6323 2. 3. 9 1 2 0 4. 6 4 9 6
3× 4 9
8 5 4 22×
18969 /1 7 0 8 4
×× × × ×
36480 /5 8 4 6 4
5. 8 3 8 5 × 6. 5 1 8 8 7. 4 3 1 16×
7 5× /2 5 8 6 6
58695
25940
8. 9 3 7 0 9. 2 1 9 13×
8× /6 5 7 3
74960
10.
8 6 1 19×
77499
ชุดท่ี 4 : เฉลยการคณู จานวนทม่ี ีหน่ึงหลกั กบั จานวนทม่ี สี ีห่ ลกั
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชแี้ จง จงหาผลคณู ของจานวนต่อไปนี้
1. 4 1 4 1 2. 6783 3. 9 9 3 0 4. 6 3 2 8
2 5× 4× 9
× ×
33915 39720
8282 /5 6 9 5 2
5. 2 1 5 3 × 6. 3840 7. 1529 ×
7 3× 4
15071 /1 1 5 2 0 /6116
8. 1 2 6 3 9. 8 7 3 1
8× 6
×
10104
/5 2 3 8 6
10. 1 9 1 4
6×
11484
ชุดท่ี 5 : เฉลยการคณู จานวนทม่ี ีหนึ่งหลักกบั จานวนทม่ี ีสี่หลัก
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชแี้ จง จงหาผลคณู ของจานวนตอ่ ไปนี้
1. 8992 2. 4 5 6 1 3. 2 0 9 0 4.
4× 5 8×
× 6116
35968 /1 6 7 2 0 3×
/2 2 8 0 5
/1 8 3 4 8
5. 6 5 1 9 6. 1 275 × 7. 3 4 5 8
7× 5 4×
/6375
/4 5 6 3 3 13832
8. 6 5 6 4 9. 1 2 7 9
3 4×
×
/5 1 1 6
/1 9 6 9 2
10. 6 7 8 3
9×
61047
ชุดท่ี 6 : เฉลยการคูณจานวนทมี่ ีสองหลักกบั จานวนทมี่ ีสองหลกั
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชแี้ จง จงหาผลคณู ของจานวนตอ่ ไปนี้
1. 2. 3.
28 28 × 16
92 × 53 25 ×
56 84 80
252 140 32
2576 1484 400
4. 5. 6.
45 90 14
71 × 16 × 82 ×
45 540 28
315 90 112
3195 1440 1148
7. 8. 9.
47 44 × 53
21 × 20 65 ×
47 000 265
94 88 318
987 880 3445
10.
16
45
80
64
720
ชุดท่ี 7 : เฉลยการคณู จานวนทม่ี สี องหลักกบั จานวนทม่ี สี องหลัก
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชีแ้ จง จงหาผลคณู ของจานวนต่อไปนี้
1. 2. 3.
32 × 17 × 51
90 41 24 ×
000 17 204
288 68 102
2880 697 1224
4. 5. 6.
73 61 93
59 × 26 × 72 ×
3627 5766 186
3515 1922 651
4307 1586 6696
7. 8. 9.
74 × 29 × 98 ×
38 33 63
3792 87 294
1422 87 588
2812 957 6174
__________
10.
59
80 ×
00
472
4720
ชุดที่ 8 : เฉลยการคณู จานวนทม่ี สี องหลกั กบั จานวนทมี่ สี องหลกั
ช่ือ.........................................................................................วนั ท่.ี ....................................
คาชีแ้ จง จงหาผลคณู ของจานวนต่อไปนี้
1. 2. 3.
22 × 14 × 94
40 82 74 ×
00 28 376
88 112 658
880 1148 6956
4. 5. 6.
35 × 29 × 83 ×
62 77 43
1070 4403 249
3210 4403 332
2170 2233 3569
7. 8. 9.
92 36 × 92
42 × 85 23 ×
184 180 276
368 288 184
3864 3060 2116
10.
78
45 ×
390
312
3510