การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต

การเคลื่อนท่ี

!๋!๋ของส่งิ มีชีวติ"

.

.21

การเคล่อื นที่ของ ง่ิ มชี ี ิต

การเคลอ่ื นทข่ี อง ิ่งมีชี ติ

ิ่งมีชี ิตจำพ ก ัต ์ มีการเคลื่ นที่เพื่ ต บ น งต่ ิ่งเร้าต่างๆ โดยการเคลื่ นที่ข ง
่ิงมีชี ติ แตล่ ะชนิดจะมีลกั ณะที่แตกตา่ งกนั ดงั น้ี

การเคล่อื นทข่ี อง ิง่ มีชี ติ เซลลเ์ ดีย

อะมีบา (amoeba) เป็น ิ่งมีชี ิตเซลล์เดีย เ ลาต้ งการเคลื่ นไ จะ า ัยการไ ลข งไซ
โทพลาซึม ในเซลล์ (Amoeboid Movement) แล้ ดันเยื่ ุ้มเซลล์ใ ้ยื่น กไป เกิดเป็นเท้าเทียม
(Pseudopodium)

พารามีเซียม (Paramecium) มีขนร บๆ ตั ที่เรียก ่า ซิเลีย (Cilia) ไ ้ค ยโบกพัดเม่ื
ต้ งการเคลื่ นทไ่ี ปยังทิ ทางตา่ งๆ

ยูกลีนา (euglena) มี างยา ๆ เรียก ่า แฟลกเจลลา (Flagella) ไ ้ค ยต ัดเ ลาต้ งการ
เคล่ื นที่ (ใ ้นกึ ถงึ างงู รื างปลา เ ลามันต ัด กจ็ ะเลื่ นทีไ่ ปขา้ ง น้า)

เทา้ เทียม
\ //ii.
ซเี ลยี
ii. i.(๋.fi-

.
. ""
.

็.itj?ฐiiii.p%g#: : iO:4iโญ5.:ื๋P'๋ :-
ะ867๋:<ะ๋โ"

i.
#๋ i:+,่i: ..

if .i-.÷ i;F ./.!0๋.ะ.
.
1 ! i://f;.๋fi'
4::่ะ. . .

.
.

.. . ". . ' .
. . . .
. i. . ๐่ .$์#่#๋
. . ะ.
ะ . ่
. i. i
. .fi
.
. i. >

). .

\. .
.
i. ะ . :.
.
.. ..

. . . .
.
. . .

.

. .
'

. i. ÷ . .
. .
. .. f.
. .

. . .
.
\
. . .
. .

' ' . ๐ii.// -
. .
.
. .

9:ะะ÷÷
. .. . .ir:0⑦@#่i i.

iปiปiป.. . " " i. ' = i :ญื๋ f. AB.
. " .
' #. . .
. '' .
h\\ .
. . \ .
.. .
" .. ÷
.
. .
.
' ่ :ญ. ื๋ฐ.ํ๋/Gf./ i.

. .

i. iDi .:D. :. .
. .
. . ..
. "
. ่

' Eะะ;
..
.
.

. . - . . . น . . .
. . . . - . . .
. . .
. .
"
. . #๋:::ะะ,๋I.÷ iji .
" ÷
ไง if i .. . .
ง .
. r. . .
^ f- .

.
.

" J K๋.÷- ส " ไปเ i.
.. .
K๋ i.. . .
. i.i. it.
- . i.
.
. ..
. iii.ii..

. .. :.
. ..
.

..

:

g. . . f.
. .

. .

. i.

.. อ. .
. .

- . .

. . . . 5
. i
. /) . . ='
, hpnip.IM" .
' . . กาม แฟลเจลลาtt
. . \
.
. y\.

. ..

.

อะมีบา พารามีเซยี ม ยกู ลีนา

22

การเคลอ่ื นที่ของ งิ่ มีชี ิต

บริเวณเสน้ ยาวเหนือฐาน
U VW๋งTTf,ZOOM===== 9+2
ทั้ง ซิเลีย และแฟลกเจลลา เป็น
โครง ร้าง ไซโท เกเลต น (Cytoskeleton) == / ไมโครทวิ บู
โดยทั้ง 2 เป็น ไมโครทูบูล (Microtubule) บริเวณฐานของซเิ ลีย
ทง้ั มด 9 กลุ่ม กลมุ่ ละ 2 ท่ และมตี รงกลาง และแฟลเจลลา I
กี 2 ท่ เรยี ก ่า “9+2” โดยบริเ ณฐานข ง iii. ]:ะ:÷^÷ #๋\:!i;ะ ZOOM -
ซิเลีย และแฟลกเจลลา (Basal body รื Basal body
Kinetosome) เป็นไมโครทูบูล ทั้ง มด 9 µ"X๋ะ ::YZเ[น
กลุ่ม กลุ่มละ 3 ท่ และมีตรงกลาง 0 ท่ (9+0)
เรียก า่ “9+0” _์`a่:: ①b์cd่;๐๋..
.l-
eะ.
; _
÷ 7gะ+: i
+÷h

#¢๋,่ :f;:)#่#Iji๋:Akl๋่ะ::ml:่
"iii.n๋

ซิเลยี และแฟลกเจลลา มขี ้ แตกต่างกัน คื ซเิ ลียจะมเี ย ะแยะร บเซลล์ ่ นแฟลกเจลลา จะ

มีแค่ เ น้ เดีย และยา ก ่า ซเิ ลยี ประมาณ 50 เท่า กล้ามเนอ้ื ตามยาว กล้ามเน้ือวง กลา้ มเนื้อวง

คลายตวั คลายตัว หดตวั กลา้ มเนื้อตามยาว
oi*!๋ หดตัว
การเคล่อื นทีข่ อง ัต ไ์ มม่ ีกระดกู นั ลัง

ไ ้เดือนดิน มกี ล้ามเน้ื 2 ชดุ คื ii.] ] / :* ]:]:]]]¥ .
กล้ามเนื้อ งกลมรอบตั ยู่ทางด้าน ,
.
: ...
"

A" "" " p" p× " " A' ' "
"
, µ *m

น ก และกล้ามเนื้อตามยา ตล ด

ลำตั ยู่ทางด้านใน น กจากนี้ไ ้เดื น ]:]!่ :]:]]. q i \\
ยังใช้เดื ยซึ่งเป็นโครง ร้างเล็ก ๆ ที่ยื่น .
. " ÷;]
กจากผนังลำตั ร บปล้ งช่ ยในการ
.
. . " nxip i.. . ""
.
' " " SY
m .

"' " "

m' '' .mn ำ× - mn
mm
,,

เคลื่ นท่ีด้ ย -
การทำงานข งกล้ามเนื้
iii." ii.:]s่ : :* : :]
" "" "

"" n *" " "A µ

A ,µ n

y

งกลม และกล้ามเนื้ ตามยา ดตั และคลายตั เป็นระ-ล กคล่ืน

จากทางดา้ น นา้ มาทางดา้ น ลงั ทำใ ้เกดิ การเคลื่ นทไี่ ปทางด้าน น้า

23

การเคลอื่ นท่ีของ ง่ิ มีชี ติ

%÷.
"๋#๋กล้ามเนื้ ง กล้ามเนื้อตามยา และ
.
ii.กล้ามเนื้อทแยง โดยการเคลื่ นที่จะ า ัย

ii..inกล้ามเนื้ งและกล้ามเนื้ ตามยา ่ น ตัดตามขวางตรงนี้
พลานาเรีย มีกล้ามเนื้ 3 ่ น คื
iigiD.!ะIกล้ามเนื้ ทแยงจะช่ ยใ ้ลำตั แบนบางและ .

การเคลอื่ นที่ของ ตั ม์ กี ระดกู นั ลงั .

ผนังลำตัวคลาย .

t5๋;8t๋iะ;.u!T$๋ะง:v๋.fi?.:i!!:'i. ตัวอีกครง้ั ÷÷
.
.
i:<iIi÷.;เคลื่ นตั ไปได้ดยี ง่ิ ขึน้
. .

.

พลิ้ ไปตามน้ำ น กจากนี้ ยังใช้ซิเลียที่ ยู่ กลา้ มเน้อื วง
ทางด้านล่างข งลำตั จะโบกพัดไปมาช่ ย

กล้ามเนอ้ื ตามยาว กลา้ มเนอื้ ทแยง

ิทศทางการเค ืล่อน ่ที แมงกะพรุน เคลื่ นที่โดยการ ดตั ข ง

÷ เนื้ เยื่ บริเ ณข บกระดิ่งและที่ผนังลำตั

% ;๋! ผนังลำตวั หดตวั ทำให้ตัวบีบ ลับกันทำใ ้พ่นน้ำ กมาทางด้านล่าง ่ นตั
เข้่า น้ำพุ่งออก เกดิ แรงดัน จะพุ่งไปในทิ ทางตรงข้ามกับทิ ทางน้ำที่พ่น

ไปทางตรงข้าม กมาการ ดตั นี้จะเป็นจัง ะทำใ ้ตั

%๊wำ ผนงั ลำตัวคลายตัวทำใหต้ วั แมงกะพรนุ เคล่ื นไปเป็นจัง ะ
พองออก นำ้ เขา้ ไปในลำตัว

แมงกะพรุน มขี งเ ล ที่ เรียก า่ มีโซเกลยี แทรก ยูร่ ะ า่ งเนื้ เย่ื ชัน้ น กและเนื้ เยื่

มึก เคลื่ นที่โดยการ ดตั ของกล้ามเนื้อลำตั พ่นน้ำ กมาจาก ท่อไซฟอน ซึ่ง ยู่ทาง

่ นลา่ งข ง ่ น ั ทำใ ต้ ั พุ่งไปขา้ ง นา้ ในทิ ทางท่ตี รงขา้ มกบั ทิ ทางข งน้ำ

&น ไ.iงt÷
ทิศทางการเคลื่อนท่ี iii. ฐํ่ ,๋ ii.÷
.
ทศิ ทางนำ้ -
-
÷ ÷÷
..
.

y. ทิศทางการเคล่ือนที่ ท่ ไซฟ น ามารถเคลื่ นไ ได้ ทำใ ้
#น % t.f.tt?ฐ÷. เกิดการเปลี่ยนแปลงทิ ทางข งน้ำที่พ่น
:> ÷.
. กมา และยังทำใ ้เกิดการเปลี่ยนแปลง
. .

÷ . .
. .

.

ิทศทาง ้นำ ทิ ทางข งการเคล่ื นที่

ท่อไซฟอน

ากน้ำพงุ่ กแรง ก็จะเคล่ื นทไี่ ดเ้ ร็ และครีบดา้ นข้างลำตั ช่ ยในการทรงตั ใ ้เคล่ื นท่ี 24

ไปในทิ ทางท่เี มาะ ม

การเคล่อื นท่ีของ ่ิงมชี ี ติ

ดา ทะเล า ัยระบบท่ น้ำในการเคลื่ นที่ โดยประก บด้ ย มาดรีโพไรต์ โตนแคเนล ริง

แคแนล เรเดียลแคแนล ทิ บฟ์ ีท และแ มพูลลา

มาดรโี พไรต์วงแหวนรอบปาก

'XS'เรเดยี ลแคแนล น้ำเข้า ู่ระบบท่ มาดรีโพไรต์และ
ไ ลผ่านท่ งแ นรอบปากเข้า ู่ท่
แอมพลู ลา เรเดียลแคแนล และทิ บ์ฟีท เมื่
ทวิ บฟ์ ีท กล้ามเน้ื ที่ แอมพลู ลา ดตั ดนั น้ำไปยัง
ทิ บ์ฟีท ทิ บ์ฟีทจะยืดยา ก ไปดัน
กับพื้นที่ ยู่ด้านล่างทำใ ้เกิดการ
เคล่ื นที่
X.E #f/tH-E :.D:'feM.el_แมลงมีโครงร่างภายนกเป็นารพกไคทินเกาะกันด้ยข้ต่ซึ่งเป็นเยื่ที่งได้ข้ต่ข้
แรกข งขากบั ลำตั เป็นข้ ต่ แบบ บ ลแ นด์ซ กเกต็ ่ นข้ ต่ แบบ ื่นๆ เปน็ แบบบานพับ

เอก็ เคทลนาเยซตอัวร์ ขางอ

การเคลื่ นไ เกิดจาก

ทำงาน ลับกันข ง กล้ามเนื้iii÷. iii. K๋์ะ เฟลห็กดเซตอวั ร์
เฟล็กเซ ร์ และเ ็กเทนเซ ร์ ซ่ึง
เกาะ ยู่โพรงไคทินนี้ โดยกล้ามเน้ื เอ็กเทหนดเตซวั อร์ ขาเหยยี ด

ะญื๋.is!:ig2;?:..เฟล็กเซ ร์ ทำ น้าที่ในการง ขา

4.:si:8/:::.และกล้ามเนื้ เ ็กเทนเซ ร์ ทำ

.hฐญื๋×(น้าทีใ่ นการเ ยียดขา
\เฟล็กเซอร์
il คลายตัว

เฟลก็ เซ ร์ และเ ็กเทนเซ ร์ ทำงานแบบ Antagonism (ทำงาน ลับกัน) ข้ พบั แขนขา

คนก็เป็นแบบน้เี ช่นกัน 25

ปกี ยก การเคล่อื นท่ีของ ่งิ มชี ี ิต
กลา้ มเนอ้ื
ตามยาวกล้ามเนอ้ื ท่ียดึ กลา้ มเน้ือที่ยึด ในการบินข งแมลง จะใช้กล้ามเนื้ ที่ยึด
กับผนงั ส่วนอก กบั ผนงั สว่ นอก กับผนัง ่ น ก และกล้ามเนื้ ตามยา โดยการ
iii.¥คลายตัว ทำงานตรงกันข้าม (กล้ามเนื้ ทั้ง งจะไม่ติด
หดตวั คลายตัว กับปีกนะ แต่ า ัยการเปลี่ยนแปลงข งโครง
รา่ งเพ่ื ขยับปีก)
ปีกกด กลา้ มเน้ือ

ตามยาว

หดตวั

การเคลอื่ นทขี่ อง ัต ์ทม่ี ีกระดูก ัน ลัง

ปลา มีระบบกล้ามเนื้ ที่ยึดติด ยู่ 2 ข้างข งกระดูก ัน ลงั โดยการ ดตั ข งกล้ามเนื้ ขา้ ง

ใดข้าง นึ่งทั้งชุดเริ่มจาก ั ไป าง ่งผลใ ้เกิดการพัดโบกข งครีบ างทำใ ้ปลาเคลื่ นที่ไป

ขา้ ง น้าได้โดยมีลัก ณะเป็นรูปตั S

II.4 i i . ÷. กระดกู สัน.

..
..
.
.

.

o่;๋#๋#่::*zฅู๊\ภ๋
%
iii.÷÷ะ
-
ซ้ายคลาย ัตว ครีบ ลัง และครีบ าง (ครีบเดี่ย )
ขวาหดตัว จะช่ ยพัดโบกใ ้ปลาเคลื่ นที่ไปข้าง น้า
่ นครีบ ก และครีบ ะโพก (ครีบคู่) ช่ ย
้ซายหดตัว ในการพยงุ ตั และเคลื่ นท่ีลงในแน ด่งิ
ขวาคลายตัว

นก ใช้กลา้ มเน้ื ที่ยึด ยรู่ ะ ่างโคนปกี กับกระดกู ก (keel or sternum) ในการขยับปีก โดย
กล้ามเนื้ เพกท ราลิ ไมเน ร์ (pectorlis minor) ทำ น้าที่เป็น กล้ามเนื้อยกปีก (levater
muscle) และกล้ามเนื้ เพกท ราลิ เมเจ ร์ (pectorralis major) ทำ น้าที่เป็นกล้ามเนื้อกดปีก
(depresser muscle)

€ #๋กล้ามเนือ้ ยกปีก
....
กลา้ มเนื้อกดปีก

*หากกล้ามเนื้อใดหดตวั จะทำใหป้ กี ไปในทิศทางนน้ั ๆ 26

การเคลื่อนท่ีของ งิ่ มชี ี ติ

การเคล่อื นที่ของคน !๋กระดกู แกน

ระบบโครงกระดกู }| *่๋ กระดูกรยางค์

ระบบโครงกระดูกข ง *
คนแบ่ง กเป็น 2 ่ นง่ายๆ เลย
คื กระดูกแกน (axial skeleton) #
80 ช ิ ้ น แ ล ะ ก ร ะ ด ู ก ร ย า ง ค์
(appendicular skeleton) 126 ชิ้น i.

¥+

ข้อต่อ (Joints) คื ตำแ นง่ ท่กี ระดกู ตั้งแต่ 2 ชิ้น ขน้ึ ไปมาจรดกันโดยมีเนื้ เย่ื เก่ีย พัน มา

ยดึ ใ ต้ ิดกนั เป็นข้ ซึ่งบรเิ ณข้ ต่ าจเคลื่ นไ ได้ รื ไมไ่ ด้กไ็ ด้
c; ข้อต่อแบบ
#่ะ ขอ้ ต่อแบบ เบ้ากระดกู ขอ้ ต่อแบบ
อานมา้
n๋- เคลอ่ื นไหวไมไ่ ด้
.irt?.i'.?E..i?i.f:gi?:#๋ะ i.
ข้อตอ่ แบบเดอื ย

ะ.

.
.

.

.

¥ขอ้ ต่อแบบ ข้อตอ่ แบบ
สไลด์
v๋บานพบั
¥
กระดูกอ่อน (Cartilage) เป็นกระดูกท่ีร งรับ ่ นที่ ่ นนุ่มข งร่างกาย เนื่ งจากผิ ข ง

กระดูก ่ นเรยี บ ทำใ ้การเคล่ื นไ ได้ ะด ก

-

กระดกู สันหลงั
i,ii. ::#๋#่หมอนรองกระดูก เอ็นยดึ กระดกู
กระดูกออ่ น - น้ำไขขอ้

÷ 27

การเคลอื่ นที่ของ ่งิ มชี ี ติ

ระบบกลา้ มเน้ือ ##~๋

1. กล้ามเนื้อเรียบ (smooth muscle) เป็น
กล้ามเนื้ ที่ไม่มีลาย ตามข าง ประก บด้ ยเซลล์ที่มี
ลัก ณะแบนยา ั ท้ายแ ลม ภายในเซลล์มี
นิ เคลยี อันเดีย ตรงกลาง
ทำงาน ยู่น ก ำนาจจิตใจ (ระบบประ าท ัตโน ัติ)
เชน่ กล้ามเน้ื ข ง ัย ะภายในต่างๆ

2. กล้ามเนื้อลาย (skeletal muscle) เป็น i.-\
กล้ามเนื้ ชนิดเดีย ที่ยึดเกาะกับกระดกู ประก บด้ ย คง
เซลล์ที่มีลัก ณะเป็นทรงกระบอกยา เรียก ่า เ ้น ต
ใยกล้ามเน้ื (muscle fiber) เ ็นเปน็ แถบลาย ีเขม้
ี ่ น ลับกันเ ็นเป็นลายตามข าง แต่ละเซลล์มี
ลายนิ เคลยี

การทำงาน ยู่ภายใต้การค บคุมข งจิตใจ
(ระบบประ าทโซมาติก) เช่น กล้ามเนื้ ที่ แขน ขา
น้า ลำตั เป็นต้น

3. กล้ามเนื้ ั ใจ ( cardiac muscle ) เป็น :/๋ญื่!่÷ \±÷ ÷±±±..
กล้ามเน้ื ข ง ั ใจโดยเฉพาะรปู รา่ งเซลล์ จะมีลาย
ตามข างและมีนิ เคลยี ลายอันเ มื นกล้ามเนื้ ฐ็
ลายแต่ตั เซลลแ์ ยกเป็นแขนงและเช่ื มโยงตดิ ต่ กนั
กบั เซลลข์ ้างเคยี งการทำงาน ยู่น ก ำนาจจิตใจ
เชน่ เดีย กบั กลา้ มเน้ื เรียบ

28

การเคล่ือนที่ของ ่งิ มชี ี ิต

การเคลื่ นไ ่ นต่างๆ ข งร่างกาย เช่น การง แขน เกิดจากกล้ามเนื้ 2 ชุด ได้แก่

กล้ามเนื้อไบเซพ (biceps) “ ยู่ด้านในข งข้ พับ” และกล้ามเนื้อไตรเซพ (triceps) ทำงานตรงข้าม

กนั โดยถา้ กลา้ มเน้ื ไบเซพคลายตั จะทำใ ้แขนเ ยียดตรง ในขณะเดยี กันนั้นกล้ามเน้ื ไตรเซพจะ ด

ตั ดังนั้นกล้ามเนื้ ไบเซพจึงเป็นกล้ามเนื้ เฟล็กเซ ร์ (ทำใ ้ง ) ่ นกล้ามเนื้ ไตรเซพ จะเป็น

กลา้ มเนื้ เ ็กซเ์ ทนเซ ร์ (ทำใ เ้ ยยี ด)

- n€

ไบเซพหดตัว
ไบเซพคลายตัว

~๋0/ / *
ไตรเซพคลายตัว ไตรเซพหดตวั ง×

oการหดตวั ของกล้ามเน้ือเกsิดจากไมโอซนิ เข้าจับกบั oแอคทนิ โดยใช้ ATP แลsะอาศัย แคลเซียมชว่ ย

ในมัดกล้ามเนื้ ประก บไปด้ ยเซลล์กล้ามเนื้ (muscle cell) รื เ ้นใยกล้ามเนื้

(muscle fiber) ภายในมีกล้ามเนื้ เล็ก เรียก ่า ซาร์โคเมียร์ (sarcomere) ประก บด้ ย โปรตีน

แ กทิน (actin) และโปรตนี ไมโ ซีน (myosin)
ƒ๋4 .i÷nt#:.n.i.5i.l่.:\÷ -

t๋t#๋ ๋ิ . "

. . ะ÷
์
ไว
ฺ

j.joะ3๋ ÷:Ei. 2 ,ฺ

.

ZOOM แอกทนิ

ก ้ลามเ ้ืนอหดตัว น9นญื†๋่a maณ่ำย _ ไมโอซนิ
เมอ่ื ถูกกระตนุ้ จากเซลลป์ ระสาท Sacoplasmic อฒ๊;ำน3ึv๊อ๋ฒ¥๊
6 …8นง …ฒน
reticulum (SER ของ sarcomere) จะหล่งั แคลเซยี ม
ไอออนไปเกาะทโี่ ปรตนี ของแอกทิน 0ฒ<๊๋7ง

เมอ่ื ATP ทีต่ ิดอย่กู ับไมโอซนิ ถูกสลาย เกดิ การจับ II
ตัวของไมโอซนิ และแอกติน สง่ ผลให้เกิดการเคลื่อนท่ขี อง Band H Band
แอกทิน ทำให้กลา้ มเนอื้ หดตวั Zone t
กล้ามเ ืน้อคลาย ัตว เ-
หากแคลเซียมไมจ่ บั อย่ทู โี่ ปรตีนของแอกทิน ไมโอซิน tn
จะจับกบั แอกทินไม่ได้ การหดตวั ของกล้ามเนื้อจะไมเ่ กดิ ¥-โพฑ๊ง@ฒึmma8๖
น. น. ต. . 3
:Dปริมาณแคลเซยี ม จงึ มผี ลตอ่ การชกั กระตุกของคน
เพราะมันมผี ลตอ่ การหดตวั ของเซลล์กลา้ มเน้ือ ÷ดงดาน

29

แบบฝึกหัดการเคลื่อนท่ี

1. การเคลอ่ื นท่ขี อง ิง่ มีชี ิตเซลลเ์ ดีย ได้แก่ อะมีบา พารามีเซยี ม ยกู ลีนา เ มอื น รอื
แตกต่างกัน อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………

2. Antagonism คืออะไร พบได้บรเิ ณใดของร่างกายคน
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………

3. กล้ามเนอ้ื ในร่างกานเรามีกี่ประเภท แตล่ ะประเภทแตกตา่ งกันอย่างไร
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
4. จงใ เ่ ครือ่ ง มายถูก ( / ) นา้ ขอ้ ค ามทีถ่ ูกต้อง ใ เ่ ครอื่ ง มายผดิ (X) นา้ ข้อค ามทไี่ ม่
ถกู ตอ้ ง พรอ้ มคำอธบิ ายประกอบ
………4.1 การเคลื่อนที่ของ มึกเกิดจากการ ดตั ของกล้ามเนื้อบริเ ณลําตั ทำใ ้น้ำภายใน

ลาํ ตั พน่ ออกทางไซฟอน มึกจงึ เคลื่อนที่ไปในทิ ทางเดีย กบั น้ำท่ีพ่น ออกมา

………4.2 ขณะทก่ี ล้ามเนื้อเฟล็กเซอร์คลายตั กล้ามเนอ้ื เอ็กเทนเซอร์ ดตั จะทำใ ข้ าของแมลง
งอเขา้

………4.3 การเคลื่อนที่ของ ัต ์มีกระดูก ัน ลังเกิดจากการทำงานร่ มกันของกระดูกและ
กลา้ มเนื้อ โดยมรี ะบบประ าททำ น้าท่ีค บคมุ

………4.4 การบบี ตั และคลายตั ของ ั ใจเกดิ จากการทำงานของกล้ามเนื้อเรยี บ

………4.5 กระดูกบางชิ้นในทารกแรกเกิดยังไม่เชื่อมประ านกันทำใ ้จำน นชิ้นของกระดูกมี
มากก ่าในผูใ้ ญ่

………4.6 ขณะเออ้ื มมอื ไป ยบิ ของ กล้ามเนื้อไบเซฟจะ ดตั และกล้ามเนือ้ ไตรเซฟจะคลายตั

30

………4.7 แคลเซียมไอออนที่ปล่อยจากซาร์โคพลา มิกเรติคูลัมจะจับกับโปรตีนค บคุมท ำใ ้
ไมโอซนิ จับกับแอกทินได้ เกิดการเลือ่ นของแอกทินเขา้ ากันและทำใ ้กลา้ มเน้อื ดตั

………4.8 การกระตุ้นโดยเซลล์ประ าททำใ ้กล้ามเนื้อ ดตั และเมื่อไม่มีการกระตุ้นจะทำใ ้
กลา้ มเนื้อคลายตั

………4.9 เนื้อเย่ือเกี่ย พันทยี่ ดึ ระ า่ งกระดกู 2 ช้นิ บริเ ณข้อต่อ เรยี ก ่า เอน็ ยดึ กระดูก
………4.10 ขอ้ ต่อทบ่ี ริเ ณ ั ไ ล่เปน็ ขอ้ ต่อชนดิ เดีย กับขอ้ ตอ่ ที่ตน้ คอกับฐานของกะโ ลก รี ะ
………4.11 เมื่อพิจารณาในแต่ละซาร์โคเมียร์ การ ดตั และคลายตั ของกล้ามเนื้อเกิดจากการ

เลือ่ นของแอกทินและไมโอซิน
………4.12 ผูป้ ่ ยที่มอี าการโรคขอ้ เข่าเ ื่อมแบบทีม่ ีน้ำไขข้อลดลง เมอื่ เคล่ือนไ จะทำใ ก้ ระดูกใน

บรเิ ณเข่าเ ยี ด กี ัน และเกิดอาการเจ็บป ด

31