ิลขสิท ์ธิ @WASANA K. 47
แผนบริหารการสอนประจาบทท่ี 3
หวั ขอ้ เนอื้ หาประจาบท
1. ความหมายของการพัฒนาหลกั สูตร
2. ธรรมชาตหิ รอื ความเปน็ จรงิ ของหลักสตู ร
3. รูปแบบการพฒั นาหลักสตู ร
3.1 รูปแบบการพฒั นาหลกั สตู รของตา่ งประเทศ
3.1.1 รปู แบบการพัฒนาหลักสูตรของ Tyler
3.1.2 รปู แบบการพฒั นาหลักสูตรของ Taba
3.1.3 รปู แบบการพฒั นาหลักสูตรของ Saylor, Alexander และ Lewis
3.1.4 รูปแบบการพฒั นาหลักสูตรของ Oliva
3.1.5 รปู แบบการพัฒนาหลกั สตู รของ Armstrong
3.1.6 รปู แบบการพัฒนาหลกั สตู รของ Hunkins
3.2 รปู แบบการพัฒนาหลกั สูตรของประเทศไทย
3.2.1 รูปแบบการพัฒนาหลกั สูตรของ สงัด อทุ รานันท์
3.2.2 รูปแบบการพฒั นาหลักสตู รของ วิชัย วงษใ์ หญ่
3.2.3 รูปแบบการพัฒนาหลักสตู รของ ธารง บวั ศรี
3.2.4 รปู แบบการพฒั นาหลกั สตู รของ วาสนา กรี ติจาเริญ
4. หลกั การพัฒนาหลักสตู ร
วัตถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
หลงั จากศกึ ษาบทที่ 3 เรอื่ ง “กระบวนการพฒั นาหลักสูตร” แล้ว นักศึกษาสามารถ
1. อธบิ ายความหมายของการพัฒนาหลกั สูตรและธรรมชาติหรอื ความเปน็ จริงของหลักสตู รได้
2. ปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มแบบร่วมมือ อภิปรายและเปรียบเทียบจุดเด่นและข้อจากัดของ
รปู แบบการพฒั นาหลกั สูตรแบบต่าง ๆ ได้
3. อธบิ ายรปู แบบการพฒั นาหลกั สตู รแบบต่าง ๆ ได้
4. อภิปรายและเปรียบเทียบจุดเด่นของรูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของต่างประเทศและ
ของประเทศไทยได้
48
กิจกรรมการเรียนการสอนประจาบท
กจิ กรรมการเรียนการสอนประจาบทที่ 3 ประกอบดว้ ยรายละเอียดดงั นี้
1. บรรยายและศึกษาประเด็นท่ีสาคัญจากเอกสารคาสอน บทท่ี 3 เรื่อง กระบวนการพัฒนา
หลักสตู ร
2. อภปิ รายและแลกเปลี่ยนขอ้ คดิ เห็นจากประเด็นที่นกั ศึกษานาเสนอ
3. ปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยให้นักศึกษาทาใบงานท่ี 3.1 เร่ือง การ
วิเคราะหร์ ูปแบบการพัฒนาหลักสูตร และนาเสนอ พรอ้ มทง้ั แลกเปล่ยี นข้อคดิ เห็นรว่ มกัน
4. อภิปรายจุดเด่นและข้อจากัดของรูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของต่างประเทศและของ
ประเทศไทย
สื่อการเรียนการสอน
ส่อื การเรียนการสอนประจาบทท่ี 3 มดี งั ต่อไปนี้
1. เอกสารคาสอน รายวิชาการพัฒนาหลกั สตู ร
2. ใบงานที่ 3.1 เร่ือง การวิเคราะห์รปู แบบการพฒั นาหลกั สตู ร
3. โปรแกรมนาเสนอดว้ ยคอมพวิ เตอร์ เรอ่ื ง กระบวนการพัฒนาหลกั สตู ร
การวดั ผลและประเมนิ ผล
การวดั ผลและประเมนิ ผลประจาบทท่ี 3 มดี ังต่อไปนี้
1. ประเมนิ จากกจิ กรรมการเรียนการสอน
2. สังเกตพฤตกิ รรมในระหวา่ งการดาเนนิ การเรยี นการสอน
3. ผลของการอภิปรายและการแสดงความคิดเห็นของนักศึกษา
4. อภปิ รายและนาเสนอจากใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง การวิเคราะห์รูปแบบการพัฒนาหลกั สตู ร
5. ความตั้งใจและการมีสว่ นร่วมของผเู้ รียน
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K. 49
บทที่ 3
กระบวนการพฒั นาหลักสตู ร
“การพัฒนาหลักสูตร” ตรงกับภาษาอังกฤษว่า “Curriculum Development” ซ่ึงแปล
ความหมายแบบตรงตัวว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงแก้ไขหลักสูตร ซึ่งจัดเป็นกระบวนการ
สาคัญทนี่ ักพัฒนาหลักสูตรจะต้องปฏิบตั ิ โดยการพัฒนาหลักสตู รจะต้องคานึงถงึ ปัจจัยพ้ืนฐานต่าง ๆ
ได้แก่ ปรัชญาการศึกษา จติ วิทยา สงั คมและวฒั นธรรม เศรษฐกิจ การเมอื งและการปกครอง และ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งได้กล่าวมาแล้วในบทที่ 2 เรื่อง แนวคิดพ้ืนฐานในการพัฒนาหลักสูตร
ดังน้ัน ในบทนี้จะนาเสนอแนวคิดเก่ียวกับ ความหมายของการพัฒนาหลักสูตร ธรรมชาติหรือความ
เปน็ จรงิ ของหลกั สูตร รูปแบบการพัฒนาหลักสตู ร และหลกั การพัฒนาหลกั สูตร
ความหมายของการพฒั นาหลกั สตู ร
มนี ักการศึกษาทัง้ ในประเทศไทยและต่างประเทศได้ให้ความหมายของการพัฒนาหลักสูตรไว้
ดงั ต่อไปนี้
สิทธิพล อาจอินทร์ (2563: 67) ได้กล่าวว่า การพัฒนาหลักสูตร หมายถึง การจัดทา
หลกั สูตรเดมิ ที่มอี ยู่แล้วใหด้ ีขึ้น หรือเป็นการจดั ทาหลกั สตู รใหมโ่ ดยมีหลกั สตู รเดิมอยู่ก่อน
สมาน เอกพิมพ์ (2560 : 43) ได้สรุปความหมายของการพัฒนาหลักสูตรว่า หมายถึง การ
ดาเนินการออกแบบหรือจัดทาหลักสูตร การนาหลักสูตรไปใช้ และการประเมินหลักสูตร ครอบคลุม
ถงึ การเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงและแก้ไขหลักสตู รทม่ี อี ยู่แลว้ ให้ดขี ึ้น
ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์ (2557: 75) ได้ให้ความหมายว่าการพัฒนาหลักสูตรมี 2 ลักษณะ คือ
ลกั ษณะแรกเป็นการพัฒนาหลักสูตรเดิมที่มีอยู่แลว้ ให้ดีขึ้น และลักษณะที่สองเป็นการจัดทาหลักสูตร
ใหม่ท่ีไม่มีหลักสูตรเดิมอยู่ก่อน ซ่ึงการพัฒนาดังกล่าวจะช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะท่ีดีข้ึน
สอดคล้องกบั สภาพสงั คม และบรรลุจุดม่งุ หมายทกี่ าหนดไว้
ทัศนีย์ บุญเติม (2551: 39) กล่าวว่า การพัฒนาหลักสูตร หมายถึง 1) การสร้างหลักสูตร
(Curriculum Planning) หรือการจัดทาหลักสูตร (Curriculum Making) ข้ึนมาใหม่จากภาวะท่ีไม่
เคยมีหลักสูตรน้ันมาก่อน หรือ 2) การปรับปรุงหลักสูตร (Curriculum Improvement) หรือการ
ทบทวนหลกั สูตร (Curriculum Revision) ทม่ี อี ยู่แล้วใหด้ ีข้ึน
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.50
Taba (1962: 48) ได้กล่าวว่า การพัฒนาหลักสูตร หมายถงึ การเปล่ียนแปลงและปรับปรุง
หลักสูตรเดิมให้ได้ผลดีย่ิงขึ้นทั้งในด้านการวางจุดมุ่งหมาย การจัดเน้ือหาสาระ การวัดผลประเมินผล
เพื่อให้บรรลุจุดม่งุ หมายใหมท่ ต่ี ั้งไว้
Good (1973: 57) ได้เสนอว่าการพัฒนาหลักสูตร หมายถึง การปรับปรุงและเปล่ียนแปลง
หลักสูตร การปรับปรุงหลักสูตรเป็นวิธีการพัฒนาหลักสูตรอย่างหน่ึง เพ่ือให้เหมาะสมกับโรงเรียน
จุดมุง่ หมายของการสอน วสั ดุอปุ กรณ์ วิธกี ารจดั การเรียนการสอน รวมท้ังการวัดผลประเมินผล
จากที่กล่าวมาสรุปได้ว่า การพัฒนาหลักสูตร หมายถึง กระบวนการหรือขั้นตอนในการ
จัดทาหลักสูตร การปรับปรุงแก้ไข การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรให้ดีข้ึนตามจุดมุ่งหมายท่ีกาหนดไว้
เพือ่ ให้เหมาะกับความต้องการของบุคคลและสภาพสังคม
ธรรมชาตหิ รือความเปน็ จรงิ ของหลกั สตู ร
นักการศึกษามีความเห็นว่าหลักสูตรมีธรรมชาติและความเป็นจริง (Axiom of
Curriculum) เพ่ือนามาใช้เป็นหลักในการอ้างอิง การถกเถียงท่ีจะนาไปสู่การปฏิบัติ และการ
แกป้ ัญหา ดงั น้ี (Oliva. 2005 และอญั ชลี สารรัตนะ. 2550)
1. การเปล่ียนแปลงเปน็ ส่งิ ทหี่ ลกี เลย่ี งไม่ได้และมีความสาคัญ จึงควรให้การเปล่ยี นแปลงน้ัน
เปน็ การเปลยี่ นแปลงทที่ าให้ชวี ติ งอกงามและพัฒนาขึน้
2. หลกั สูตรนอกจากจะเปน็ สงิ่ ทชี่ ่วยสะท้อนแลว้ ยังเปน็ ผลผลติ ของช่วงเวลาต่าง ๆ ด้วย
3. ผลที่เกิดจากหลกั สตู รในช่วงต้นจะยงั คงอย่รู ่วมกบั ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ จากหลกั สตู รในช่วงหลัง
4. การเปลีย่ นแปลงหลักสูตรเปน็ ผลจากการเปล่ียนแปลงในคนและประชาชน
5. การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรเป็นผลของความพยายามและความรว่ มมือของกลุม่
6. การพฒั นาหลักสูตรเป็นกระบวนการตดั สินใจ
7. การพัฒนาหลักสูตรเปน็ กระบวนการทตี่ อ่ เนอื่ งและไม่มวี นั สนิ้ สุด
8. การพฒั นาหลักสูตรเปน็ กระบวนการท่ีตอ้ งใช้ความเขา้ ใจ
9. การพัฒนาหลักสูตรเป็นกระบวนการที่ต้องทาอย่างเป็นระบบมากกว่าการทาอย่าง
ลองผิดลองถูก
10. นักพัฒนาหลักสูตรควรเริ่มพัฒนาหลักสูตรจากสภาพท่ีเป็นอยู่เช่นเดียวกับผู้สอนที่เริ่ม
สอนผู้เรียนตามสภาพทผี่ ูเ้ รยี นเป็นอย่จู ริง
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K. 51
จากท่ีกล่าวมาข้างต้น จะพบว่าจะมีการปรับปรุงหลักสูตรอยู่เสมอเม่ือเวลาเปลี่ยนไป
เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพของสังคมท่ีเปล่ียนแปลงไปด้วย ซ่ึงกระบวนการพัฒนาหลักสูตรจะต้อง
ดาเนินไปอย่างเป็นระบบ โดยจะต้องมีการประเมนิ หลักสูตรหลังจากนาหลกั สูตรไปใช้แล้ว และนาผล
การประเมินกลับมาปรบั ปรุงหลักสูตรให้มีความเหมาะสมยิ่งข้ึนไปอีก กระบวนการพฒั นาหลักสูตรจึง
ไม่หยดุ นงิ่ จะต้องมีการปรับปรุงและแก้ไขอยู่ตลอดเวลา
รูปแบบการพฒั นาหลักสูตร
นักการศึกษาได้เสนอแนวคิดและทฤษฎีการพัฒนาหลักสูตรไว้อย่างหลากหลาย ในที่นี้จะ
ขอนาเสนอรูปแบบการพัฒนาหลักสตู รตามแนวคดิ ของนักการศกึ ษาตา่ งประเทศและในประเทศไทย
ซง่ึ มีรายละเอยี ด ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. รูปแบบการพฒั นาหลกั สตู รของตา่ งประเทศ
มีนกั การศึกษาจากต่างประเทศที่มชี อ่ื เสยี งได้เสนอรูปแบบการพัฒนาหลักสตู ร ไว้ดงั น้ี
1.1 รปู แบบการพัฒนาหลักสูตรของ Tyler (สทิ ธิพล อาจอินทร์. 2563: 69 – 74)
Tyler ได้เสนอแนวคิดพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตร หรือท่ีเรียกว่า หลักการและ
เหตุผลของ Tyler ซงึ่ ได้กาหนดปัญหาพ้นื ฐานในการพัฒนาหลักสตู ร 4 ขอ้ ดังนี้ (Tyler. 1949: 3)
1) มีจุดมุ่งหมายของการศกึ ษาอะไรบา้ ง ทีโ่ รงเรยี นจะตอ้ งจัดให้ผู้เรียนไดร้ บั
2) มปี ระสบการณ์ทางการศึกษาอะไรบ้างที่จะทาให้ผู้เรียนบรรลุจดุ มุ่งหมายทาง
การศึกษา
3) จะจดั ประสบการณ์ทางการศกึ ษาใหม้ ปี ระสิทธิภาพไดอ้ ย่างไร
4) จะพิจารณาได้อยา่ งไรวา่ จดุ มุ่งหมายทางการศึกษาท่ีต้ังขึ้นมาได้บรรลแุ ล้ว
สรุปรูปแบบการพฒั นาหลกั สตู รของ Tyler (1949) ไดด้ งั นี้
1.1.1 การกาหนดจุดประสงคห์ รอื จุดมุ่งหมายของหลักสตู ร
Tyler เสนอว่า นักพัฒนาหลักสูตรควรจะต้องกาหนดจุดประสงค์ทั่วไป
ขึน้ มาก่อน โดยพิจารณาจากแหลง่ ขอ้ มูล 3 แหลง่ คอื ขอ้ มูลเก่ียวกับผูเ้ รียน ขอ้ มูลเกี่ยวกับสังคม และ
ข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาวิชา ซึ่งจุดประสงค์ท่ัวไปน้ีจะเป็นเพียงจุดประสงค์ช่ัวคราวเท่าน้ัน โดย
จดุ ประสงค์ท่ัวไปนี้จะได้รบั การกล่นั กรองจากขอ้ มูลด้านปรัชญาการศกึ ษาและข้อมูลด้านจติ วทิ ยาการ
เรียนรู้ ซึ่งอาจมีจดุ ประสงค์ทั่วไปบางข้อถูกตัดออก และจะเหลือแต่จุดประสงค์ทแ่ี ท้จริงในการพัฒนา
หลกั สตู รเทา่ นั้น แนวทางการวเิ คราะหข์ ้อมลู จาก 3 แหลง่ เปน็ ดังนี้
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.52
1.1.1.1 แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับผู้เรียน การเก็บรวบรวมข้อมูลผู้เรียน
อาจจะใช้ได้หลายวิธี ได้แก่ การสังเกตของผู้สอน การสัมภาษณ์ผู้เรียน การสัมภาษณ์ผู้ปกครอง การ
ใช้แบบสอบถาม เป็นต้น เพื่อที่นักพัฒนาหลักสูตรจะได้นาผลการวิเคราะห์มากาหนดจุดประสงค์
ทั่วไปของหลักสตู รต่อไป
1.1.1.2 แหล่งข้อมูลเก่ยี วกับสังคม นักพัฒนาหลักสูตรจะต้องวิเคราะห์
ข้อมูลของสภาพชุมชนทั้งในระดับท้องถ่ินและบริบทของสังคม ซึ่งอาจจะศึกษาข้อมูลในด้านสุขภาพ
ครอบครัว การพักผ่อนหย่อนใจ อาชีพ ศาสนา หรือการบริโภค เพื่อนาข้อมูลจากความต้องการของ
สงั คมมาสรา้ งเปน็ จุดประสงคท์ วั่ ไปของหลักสตู ร
1.1.1.3 แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาวิชา นักพัฒนาหลักสูตรจะต้อง
พิจารณาถึงเน้ือหาวิชา โดยอาศัยผู้เช่ียวชาญด้านเนื้อหาในสาขาวิชานั้น ๆ มาร่วมพิจารณาและสร้าง
จุดประสงค์ทั่วไปของหลกั สตู ร
หลังจากที่นักพัฒนาหลักสตู รกาหนดวตั ถุประสงค์ทั่วไปจาก 3 แหล่งข้อมูล
แลว้ จะต้องนามาผา่ นกระบวนการกรองโดยใช้ปรัชญาการศึกษาและจิตวิทยาการเรียนรู้ เพื่อให้เหลือ
เป็นจุดประสงค์ท่ถี ูกตอ้ ง ทีจ่ ะนาไปใช้ในการจัดการเรยี นการสอนต่อไป
1.1.2 การเลือกและจัดโครงสรา้ งประสบการณก์ ารเรยี นรู้
Tyler เสนอเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกเน้ือหาสาระหรือประสบการณ์
การเรียนรู้ไว้ ดังนี้
1.1.2.1 ผูเ้ รยี นควรมีโอกาสฝึกพฤติกรรมและเรยี นรู้เนื้อหาตามท่ีระบุไว้
ในจุดมุ่งหมายของหลกั สูตร
1.1.2.2 กิจกรรมและประสบการณ์การเรียนรู้ควรทาให้ผู้เรียนพึงพอใจ
ที่จะปฏบิ ตั ิตามพฤตกิ รรมที่ระบไุ วใ้ นจดุ มงุ่ หมายของหลักสตู ร
1.1.2.3 กิจกรรมและประสบการณ์การเรียนรู้ควรอยู่ในขอบข่ายความ
พอใจท่พี ึงปฏิบตั ิได้
1.1.2.4 กิจกรรมและประสบการณ์หลาย ๆ ด้านของการเรียนรู้ อาจ
นาไปสู่จุดม่งุ หมายที่กาหนดไวเ้ พียงขอ้ เดียวกไ็ ด้
1.1.2.5 กิจกรรมและประสบการณ์การเรียนรู้เพียงหนึ่งอย่างอาจ
ตอบสนองจุดม่งุ หมายหลาย ๆ ขอ้ ได้
1.1.3 การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้
Tyler เสนอว่าการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ต้องคานึงถึงความสัมพันธ์
ในด้านเวลาต่อเวลา และเน้ือหาต่อเนื้อหา เรียกว่าเป็นความสัมพันธ์แบบแนวตั้งกับแนวนอน ซึ่งมี
เกณฑ์ในการพจิ ารณา ดงั นี้
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K. 53
1.1.3.1 ความต่อเน่ือง หมายถึง ความสัมพันธ์ในแนวตั้งของส่วน
องค์ประกอบหลักของหลักสูตร จากระดับหนึ่งไปยังอีกระดับหน่ึงท่ีสูงข้ึนไป เช่น วิชาทักษะต้องเปิด
โอกาสให้มีการฝกึ ฝนทกั ษะในกจิ กรรมและประสบการณ์บ่อย ๆ และต่อเนือ่ ง
1.1.3.2 การจัดช่วงลาดับ หมายถึง ความสัมพันธ์ในแนวต้ังของส่วน
องค์ประกอบหลักของหลักสูตร จากส่ิงที่เกิดขึ้นก่อนไปสู่ส่ิงท่ีเกดิ ขึ้นภายหลงั หรอื จากส่ิงทีม่ ีความงา่ ย
ไปสู่สิ่งท่ีมคี วามยาก ดังน้ัน การจัดกิจกรรมและประสบการณ์การเรยี นรู้ควรมกี ารเรยี งลาดับก่อนหลัง
เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นสามารถเรยี นเนอื้ หาไดล้ กึ ซึ้งมากขน้ึ
1.1.3.3 การบูรณาการ หมายถึง ความสัมพันธ์กันในแนวนอนของ
องค์ประกอบหลักของหลักสูตร จากหัวข้อเน้ือหาหนึ่งไปยังอีกหัวข้อหนึ่งของรายวิชาอ่ืน หรือจาก
รายวิชาหนึ่งไปยังรายวิชาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกัน การจัดประสบการณ์การเรียนรู้จึงควรเป็นไปใน
ลักษณะที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เพ่ิมพูนความคิดเห็น และได้แสดงพฤติกรรมท่ีสอดคล้องกัน เนื้อหาท่ีเรียน
เป็นการเพิ่มความสามารถท้ังของผู้เรียนท่ีจะได้ประสบการณ์ในสถานการณ์ต่าง ๆ กัน ประสบการณ์
การเรยี นรูจ้ ึงเป็นแบบแผนของปฏิกริ ิยาระหว่างผู้เรยี นกับสถานการณ์แวดลอ้ ม
1.1.4 การประเมนิ ผล
Tyler เสนอว่า จะต้องมีการประเมินผลหลักสูตร เพื่อตรวจสอบดูว่าการ
จัดการเรียนการสอนบรรลุตามจุดมุ่งหมายท่ีกาหนดไว้หรือไม่ จะต้องมีการแก้ไขส่วนใดบ้างหรือไม่
โดยพิจารณาจากประเดน็ ต่อไปนี้
1.1.4.1 กาหนดจุดมงุ่ หมายท่จี ะวัดและพฤติกรรมท่ีคาดหวงั
1.1.4.2 วดั และวิเคราะห์สถานการณท์ ที่ าใหเ้ กิดพฤติกรรมเหล่านน้ั
1.1.4.3 ศึกษา สารวจข้อมลู เพ่ือสร้างเคร่อื งมอื วดั พฤติกรรมเหลา่ น้ันได้
อยา่ งเหมาะสม
1.1.4.4 ตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ โดยพิจารณาทั้งความเป็น
ปรนยั ความเชือ่ ม่นั ความเทีย่ งตรง และความถูกตอ้ ง
1.1.4.5 การพิจารณาผลการประเมินให้เป็นประโยชน์ เพ่ืออธิบายผล
การเรียนรู้เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม โดยต้องอธิบายถึงข้อดีของหลักสูตรและส่ิงที่ต้องปรับปรุง
แก้ไข เพ่ือเปน็ แนวทางในการปรบั ปรุงหลกั สูตรให้มคี ณุ ภาพต่อไป
จากท่ีกล่าวมา สามารถสรุปขั้นตอนของรูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของ Tyler
ไดด้ ังภาพตอ่ ไปน้ี (ทศั นยี ์ บญุ เตมิ . 2551: 41)
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.54
ภาพที่ 3.1 รูปแบบการพัฒนาหลกั สูตรของ Tyler
ทม่ี า: ทศั นยี ์ บญุ เตมิ . 2551: 41.
1.2 รปู แบบการพฒั นาหลักสตู รของ Taba (บญุ เลี้ยง ทุมทอง. 2557: 184)
Taba ได้เสนอรูปแบบการพฒั นาหลักสูตร โดยใช้วธิ แี บบรากหญา้ (Grass – Root
Approach) ซ่ึงมีความเชื่อว่า หลักสูตรควรได้รับการออกแบบโดยผู้สอนมากกว่าการพัฒนาจาก
องค์กรทีอ่ ยใู่ นระดบั สงู ซงึ่ มีขน้ั ตอนในการพฒั นาหลกั สตู ร 7 ขั้น ดังนี้ (Taba. 1962: 456 – 459)
1.2.1 วิเคราะห์ความต้องการ (Diagnosis of Needs) ใช้วิธีสารวจสภาพปัญหา
ความต้องการ และความจาเป็นของผู้เรียนในสงั คม
1.2.2 กาหนดจุดมุ่งหมาย (Formulation of Objectives) ด้วยข้อมูลที่ได้จาก
การวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการ
1.2.3 คัดเลือกเนื้อหาสาระ (Selection of Content) เม่ือกาหนดจุดมุ่งหมายแล้ว
ต้องเลือกเนื้อหาสาระ ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั จดุ ม่งุ หมาย และตอ้ งคานงึ ถงึ พัฒนาการของผเู้ รียนด้วย
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K. 55
1.2.4 จัดรวบรวมเน้ือหาสาระ (Organization of Content) ต้องคานึงถึงความ
ยากงา่ ยและความต่อเน่อื ง รวมทงั้ จดั ให้เหมาะสมกบั พัฒนาการและความสนใจของผูเ้ รียน
1.2.5 คัดเลือกประสบการณ์ การเรียนรู้ (Selection of Learning Experiences)
ต้องใหส้ อดคล้องกบั จดุ มุ่งหมายและเน้ือหาสาระ
1.2.6 จัดรวบ รวม ป ระสบ การณ์ การเรียน รู้ (Organization of Learning
Experiences) ควรคานงึ ถงึ ความต่อเน่อื งของเน้ือหาสาระ
1.2.7 ก าห น ด วิธีก ารวัด แ ล ะ ป ระเมิ น ผ ล (Determination of What to
Evaluate) มีการประเมินเพื่อตรวจสอบว่าประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีจัดให้บรรลุจุดมุ่งหมายท่ีกาหนด
ไว้หรือไม่ และกาหนดวธิ ีการประเมนิ รวมทงั้ เคร่อื งมือท่ใี ช้ในการประเมินด้วย
จากท่ีกลา่ วมา สรุปรูปแบบการพัฒนาหลักสตู รของ Taba ไดด้ งั ภาพต่อไปน้ี
1. วิเคราะห์ความต้องการ (Diagnosis of Needs)
2. กาหนดจุดมุ่งหมาย (Formulation of Objectives)
3. คดั เลือกเนือ้ หาสาระ (Selection of Content)
4. จัดรวบรวมเน้อื หาสาระ (Organization of Content)
5. คัดเลือกประสบการณก์ ารเรียนรู้ (Selection of Learning Experiences)
6. จัดรวบรวมประสบการณก์ ารเรยี นรู้ (Organization of Learning Experiences)
7. กาหนดวิธีการวดั และประเมินผล (Determination of What to Evaluate)
ภาพท่ี 3.2 รูปแบบการพฒั นาหลักสูตรของ Taba
ที่มา: Taba. 1962: 456 – 459.
56
1.3 รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของ Saylor, Alexander และ Lewis (บุญเล้ียง
ทมุ ทอง. 2557: 188 – 189)
Saylor, Alexander และ Lewis ได้เสนอรูปแบบการพัฒนาหลักสูตร โดยมี
ข้ันตอนท่ีสาคัญ 4 ข้ันตอน ดังต่อไปนี้ (Saylorและ Alexander. 1974: 265 และ Saylor,
Alexander และ Lewis. 1981: 181)
1.3.1 เป้าหมาย วัตถุประสงค์ และความครอบคลุม ประกอบด้วย เป้าหมาย
วัตถุประสงค์ และในแต่ละเป้าหมายควรบ่งบอกถึงความครอบคลุมของหลักสูตร (Curriculum
Domain) วัตถุประสงค์ พัฒนาส่วนบุคคล มนุษยสัมพันธ์ ทักษะการเรียนรู้ที่ต่อเน่ือง และความ
ชานาญเฉพาะด้าน ซ่ึงกาหนดจากความเป็นโลกาภิวัตน์ ความต้องการของสังคมที่อยู่อาศัย กฎหมาย
ขอ้ บังคับ เปน็ ตน้
1.3.2 การออกแบบหลกั สูตร (Curriculum Design) คือ การวางแผนเพื่อตัดสินใจ
เก่ียวกับการเลือกและจัดเนื้อหาสาระ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับเป้าหมาย
วตั ถุประสงค์ โดยคานึงถึงปรัชญา ความตอ้ งการของสงั คมและผู้เรยี นมาพิจารณาดว้ ย
1.3.3 การนาหลักสูตรไปใช้ (Curriculum Implementation) ผู้สอนต้องเป็น
ผู้วางแผนและวางแผนการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบต่าง ๆ (Instructional Plans) รวมท้ังการ
จัดทาสอ่ื การเรียนการสอน เช่น ตารา แบบเรียน วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในสิ่ง
ที่ผ้สู อนตั้งเปา้ หมายไว้
1.3.4 การประเมินผลหลักสูตร (Curriculum Evaluation) ผู้สอนและผู้ท่ีมีส่วน
เกี่ยวข้องร่วมกันตัดสินใจเพื่อเลือกวิธีการประเมินผลที่สามารถประเมินได้ว่า หลักสูตรที่พัฒนาข้ึน
ได้ผลตามความมุ่งหมาย การประเมินหลักสูตรจะเป็นข้อมูลสาคัญท่ีบอกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ว่าควร
จะปรับปรุงหลักสตู รในจดุ ใด เพือ่ ประกอบการตัดสนิ ใจในการวางแผนการใช้หลักสูตรในอนาคต
จากที่กล่าวมา สรุปรูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของ Saylor, Alexander และ
Lewis ไดด้ งั ภาพต่อไปนี้
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K. 57
ภาพที่ 3.3 รูปแบบการพฒั นาหลักสตู รของ Saylor, Alexander และ Lewis
ทม่ี า: Saylor, Alexander และ Lewis. 1981: 181.
1.4 รูปแบบการพฒั นาหลกั สูตรของ Oliva (สมาน เอกพิมพ์. 2560: 62)
Oliva ได้เสนอรูปแบบการพัฒนาหลักสูตร โดยมีข้ันตอนท่ีสาคัญ 12 ข้ันตอน
ดงั ตอ่ ไปน้ี (Oliva. 1982: 172)
1.4.1 กาหนดเป้าหมายของการจัดการศึกษา ปรัชญา และหลักจิตวิทยาการ
เรียนรู้ ซงึ่ เปา้ หมายนเี้ ปน็ ความเช่อื ท่ไี ดม้ าจากความต้องการของสังคมและผู้เรยี น
1.4.2 วิเคราะห์ความต้องการของชุมชน ผู้เรียน และเนื้อหาวิชา ในขั้นนี้จะได้
ข้อมูลการวิเคราะห์ความต้องการจาเป็นของชุมชนท่ีโรงเรียนน้ัน ๆ ตั้งอยู่ ความต้องการจาเป็นของ
ผเู้ รยี นในชุมชน และเนอ้ื หาวิชาทจ่ี าเป็นที่ต้องสอนในโรงเรยี น
1.4.3 กาหนดจดุ หมายของหลักสูตร โดยอาศัยขอ้ มูลจากข้ันท่ี 1 และ 2
1.4.4 กาหนดวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ในข้ันน้ีจะแตกต่างจากขั้นที่ 3 เน่ืองจาก
จะมีลกั ษณะเฉพาะเจาะจงเพ่ือนาไปสู่การประยกุ ตใ์ ช้หลักสูตร และการกาหนดโครงสร้างหลกั สูต
1.4.5 จัดโครงสร้างของหลักสูตรและนาหลักสูตรไปใช้ เป็นขั้นของการกาหนด
โครงสร้างหลักสตู ร
1.4.6 กาหนดจุดหมายของการเรียนการสอน
1.4.7 กาหนดจดุ ประสงค์ของการเรยี นการสอน
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.58
1.4.8 เลือกยุทธวิธีการจัดการเรียนการสอน เป็นขั้นท่ีผู้เรียนเลือกยุทธวิธีท่ี
เหมาะสมกับผูเ้ รยี น
1.4.9 เลือกวธิ ีการประเมินผลกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน
1.4.10นายทุ ธวิธกี ารจัดการเรียนการสอนไปใช้
1.4.11ประเมินผลการจัดการเรยี นการสอน
1.4.12ประเมนิ ผลหลักสูตร เปน็ การประเมนิ ผลหลกั สตู รทั้งฉบบั ทีจ่ ัดทาขน้ึ
จากทก่ี ล่าวมา สรุปรปู แบบการพฒั นาหลักสูตรของ Oliva ไดด้ ังภาพตอ่ ไปน้ี
ภาพที่ 3.4 รปู แบบการพฒั นาหลกั สตู รของ Oliva
ท่มี า: Oliva. 1982: 173.
1.5 รปู แบบการพฒั นาหลกั สูตรของ Armstrong (อดิศร เนาวนนท์. 2550: 58 – 59)
Armstrong ได้เสนอรูปแบบการพัฒนาหลักสูตร โดยมีขั้นตอนท่ีสาคัญ 7 ขั้นตอน
ดังตอ่ ไปนี้ (Armstrong. 1989: 33)
59
1.5.1 ระบุความต้องการจาเป็นและเป้าประสงค์ เป็นขั้นแรกของการพัฒนา
หลักสูตร โดยต้องวิเคราะห์สิ่งท่ีควรจะเป็นกับสิ่งที่เป็นอยู่ แล้วระบุความแตกตา่ งหรือช่องว่างออกมา
ซงึ่ จะช่วยใหก้ าหนดเป้าประสงค์ได้ เป้าประสงค์อาจกวา้ งหรือแคบก็ได้แต่ตอ้ งชดั เจนเพ่ือเป็นแนวทาง
ในการตดั สนิ ใจทีม่ ีเหตผุ ลต่อไป
1.5.2 เลือกและจัดระบบผู้มีส่วนร่วม ความต้องการจาเป็นและเป้าประสงค์ที่
กาหนดขึ้นจะเป็นแนวการเลือกผู้ท่ีมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร หากต้องการพัฒนาหลักสูตร
ระดับโรงเรียนหรือระดับวิชา ระดับชั้น ต้องเลือกผู้ร่วมพัฒนาหลักสูตรและจัดระบบการเข้ามามีส่วน
รว่ มให้ชดั เจน ผู้มีส่วนรว่ มแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คอื กลมุ่ วิชาชีพกับกลุ่มท่ีไมเ่ ปน็ วชิ าชีพ
1.5.3 พัฒนาแผนดาเนินงานจัดทาหลักสูตร ถ้าหลักสูตรท่ีจะพัฒนาข้ึนต้องใช้ใน
วงกว้าง ครอบคลุมทั้งโรงเรียนหรือเขตพื้นท่ีการศึกษา นักพัฒนาหลักสูตรต้องจัดทาแผนการ
ดาเนินงานให้ชัดเจน ระบุข้ันตอน ผู้รับผิดชอบ ช่วงเวลา กิจกรรม ผลงานที่จะเกิดขึ้น เพ่ือให้การ
ดาเนินงานจัดทาหลกั สตู รเป็นไปอย่างมรี ะบบ
1.5.4 พัฒนารายละเอียดต่าง ๆ ในการดาเนินงาน เมื่อจัดทาแผนการดาเนินงาน
แล้วเสร็จ จะต้องจัดทารายละเอียดของแต่ละส่วนในหลักสูตรออกมาเป็นส่วนประกอบที่ชัดเจน
สาหรับนาไปใชจ้ ดั การเรยี นการสอนไดจ้ ริง
1.5.5 ทดลองใช้ วัดผล และจัดระบบใหม่ เม่ือจัดทาเอกสารหลักสูตรในขั้นที่ 4
เสร็จ ต้องนาไปทดลองใช้เป็นโครงการนาร่อง ตรวจสอบการทดลองใช้และปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์
เพ่ือเผยแพร่และนาไปใชต้ ่อไป
1.5.6 เผยแพร่และนาไปใช้ เป็นการเผยแพร่หลักสูตรและสื่อต่าง ๆ ท่ีพัฒนาข้ึน
เพื่อนาไปใช้ โดยการนาไปใชต้ อ้ งมกี ารนเิ ทศติดตามอย่างต่อเน่อื ง
1.5.7 ประเมินผลและแก้ไข เป็นการติดตามประเมินผลการนาหลักสูตรไปใช้ ซึ่ง
ตอ้ งใชว้ ิธีการประเมนิ ผลหลายอย่าง ผลการประเมนิ ผลจะทาให้การแก้ไขเป็นไปโดยสะดวก
จากท่ีกลา่ วมา สรุปรปู แบบการพฒั นาหลักสูตรของ Armstrong ได้ดงั ภาพตอ่ ไปน้ี
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.60
ภาพที่ 3.5 รูปแบบการพฒั นาหลกั สตู รของ Armstrong
ทม่ี า: Armstrong. 1989: 33.
1.6 รปู แบบการพัฒนาหลักสตู รของ Hunkins (อดิศร เนาวนนท.์ 2550: 60 – 61)
Hunkins ได้เสนอรูปแบบการพัฒนาหลักสูตร โดยมีขั้นตอนท่ีสาคัญ 7 ข้ันตอน
ดงั ตอ่ ไปน้ี (Hunkins. 1980: 17)
1.6.1 การกาหนดกรอบความคิดและการทาให้เป็นท่ียอมรับโดยท่ัวกัน เป็นขั้น
แรกท่ีสาคัญ นักพัฒนาหลักสูตรต้องตัดสินใจเกี่ยวกับหลักสูตรที่จะพัฒนาท้ังระบบว่า หลักสูตรจะมี
รูปร่างหน้าตาอย่างไร ประกอบด้วยส่วนสาคัญอะไรบ้าง แต่ละส่วนสัมพันธ์กันอย่างไร และมี
ความสาคัญเพียงใด ตอ้ งทาให้ภาพของหลักสูตรทอ่ี ยากได้ และกรอบความคิดทัง้ หมดเป็นท่ีเขา้ ใจและ
ยอมรับของทุกฝ่าย จากนน้ั จงึ สารวจความตอ้ งการจาเปน็ ของผเู้ รียน
1.6.2 การวินจิ ฉยั ขั้นนี้มงี าน 2 อยา่ ง ที่ตอ้ งทาคือ 1) การแปลความตอ้ งการ
จาเป็นไปเปน็ มลู เหตุของความตอ้ งการจาเปน็ น้ันวา่ คืออะไร อะไรคือเหตุผลเบ้ืองหลงั ความต้องการ
จาเปน็ ทง้ั น้ีเพื่อทาความกระจา่ งความต้องการจาเป็นใหช้ ัดเจนทีส่ ดุ 2) การกาหนดเป้าหมายและ
จดุ มุ่งหมายจากความต้องการจาเปน็ เพื่อแสดงใหเ้ ห็นถึงผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ทต่ี อ้ งการเปา้ หมายและ
จดุ มุง่ หมายทาหน้าทีเ่ ปน็ กรอบในการเลือกเนื้อหาสาระต่อไป
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K. 61
1.6.3 การเลือกเนื้อหาสาระ เน้อื หาคือ วตั ถดุ บิ ของหลักสตู รทีต่ ้องนามาสอนและ
เป็นรากฐานสาคัญของหลักสูตร เนอ้ื หาสาระควรประกอบด้วย ขอ้ เทจ็ จริง (Facts) ความคิดรวบยอด
(Concepts) หลกั การ (Principles) ทฤษฎี (Theories) และนัยสรุป (Generalizations)
1.6.4 การเลือกประสบการณ์ คือการเลือกวธิ สี อนทจี่ ะใช้ เลือกกิจกรรมทางการ
ศกึ ษาท่จี ะสง่ เสริมการเรยี นรู้ของผู้เรยี นให้เป็นไปอย่างเกิดผล และสนกุ สนานสาหรบั ผ้เู รยี น และจะ
นาเอาเน้ือหาสาระทเ่ี ลือกไว้น้ันไปให้ผู้เรียนมปี ระสบการณ์ไดอ้ ย่างไรทจี่ ะบรรลุเปา้ หมายและ
จุดมุ่งหมายที่กาหนดข้ึน ครูเป็นบคุ คลสาคัญที่จะให้ขอ้ มูลในส่วนนไี้ ด้ดที ่ีสดุ
1.6.5 การนาหลกั สตู รไปใช้ แบ่งเป็น 2ระยะ คือ ชว่ งแรกเปน็ การทดลองหลกั สูตร
ทีพ่ ัฒนาข้นึ เพ่ือหาจุดบกพร่อง ชว่ งที่สองเปน็ การเผยแพรห่ ลักสูตรไปสผู่ ู้ใชห้ ลักสตู รเพือ่ ให้แน่ใจวา่
การนาหลกั สตู รไปใช้จะดาเนินไปอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ต้องจัดระบบบรหิ ารจดั การท่ีดี ตง้ั แตก่ าร
ประชาสมั พันธ์ การกระตนุ้ ส่งเสริมครู และการนเิ ทศติดตาม
1.6.6 การประเมินผล เปน็ การตรวจสอบคณุ ภาพหลักสตู รทุกด้านอย่างครอบคลุม
1.6.7 การสง่ เสริมบารงุ รกั ษา เมื่อนาหลักสตู รไปใช้ระบบแล้วเพอื่ ใหห้ ลักสูตร
ดาเนนิ ไปอยา่ งมีคณุ ภาพ ไมห่ ยุดชะงกั หรือเบี่ยงเบนไปจากหลกั การที่กาหนดไว้ ต้องจัดใหม้ ีการ
สง่ เสรมิ สนบั สนนุ การใช้หลกั สูตรอย่างต่อเน่อื ง อาทิ สนับสนนุ ด้านการสอน สื่อ และเทคโนโลยีตา่ ง ๆ
การฝกึ อบรมพฒั นาผู้สอน การแกไ้ ขปญั หาอปุ สรรค และการสนับสนุนงบประมาณ
จากทก่ี ลา่ วมา สรปุ รปู แบบการพัฒนาหลักสูตรของ Hunkins ได้ดังภาพต่อไปนี้
ภาพท่ี 3.6 รปู แบบการพัฒนาหลักสตู รของ Hunkins
ทม่ี า: Hunkins. 1980: 17.
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.62
2. รปู แบบการพัฒนาหลกั สูตรของประเทศไทย
มนี ักการศึกษาในประเทศไทยหลายท่านไดเ้ สนอรปู แบบการพฒั นาหลักสตู ร ไวด้ ังนี้
2.1 รปู แบบการพฒั นาหลักสูตรของ สงดั อทุ รานันท์ (สมาน เอกพิมพ.์ 2560: 66 – 67)
สงัด อุทรานันท์ ได้เสนอรูปแบบการพัฒนาหลักสูตร โดยมีข้ันตอนที่สาคัญ 7
ข้ันตอน ดงั ต่อไปนี้ (สงดั อุทรานันท์. 2532: 39 – 42)
2.1.1 การจัดวิเคราะห์ขอ้ มลู พื้นฐานเพื่อการพัฒนาหลักสูตร การพัฒนาหลักสูตร
ไม่ว่าจะเป็นการร่างหลักสูตรขึ้นมาใหม่ หรือการปรับปรุงแก้ไขหลักสูตรท่ีมีอยู่แล้วให้ดีขึ้น จาเป็น
จะต้องคานึงถึงพื้นฐานของหลักสูตร คือ ข้อมูลทางด้านประวัติและปรัชญาการศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับ
ผู้เรียนและทฤษฎีการเรียนรู้ ข้อมูลทางสังคมและวัฒนธรรม และข้อมูลเก่ียวกับธรรมชาติและ
เนื้อหาวิชา ซึ่งก่อนท่ีจะมีการร่างหลักสูตรข้ึนมาใหม่ ควรจะต้องมีการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ท่ี
เป็นพื้นฐานของหลักสูตรก่อน เพ่ือให้ทราบสภาพปัญหาและความต้องการของสังคมและผู้เรียน และ
ในกรณีที่เป็นการปรับปรุงหลักสูตรก็เช่นเดียวกัน ต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็นพ้ืนฐานของ
หลักสูตร เพื่อให้หลักสูตรที่ทาการปรับปรุงแก้ไขมีความสอดคล้องกับสภาพและความต้องการของ
สังคมและผเู้ รยี นให้มากทส่ี ุด
2.1.2 การกาหนดจุดมุ่งหมาย หลังจากได้ทาการวิเคราะห์ข้อมูลและได้ทราบ
สภาพปัญหาและความต้องการของสังคมและผู้เรียนแล้ว ก็จะถึงขั้นการกาหนดจุดมุ่งหมายของ
หลกั สตู ร เพื่อเป็นการมุ่งแกป้ ญั หาและสนองความต้องการท่ไี ดจ้ ากการวิเคราะห์ข้อมูลดงั กล่าว
2.1.3 การคัดเลือกและจัดเนื้อหาสาระ เน้ือหาสาระและประสบการณ์เป็นส่ิงที่มี
ความสาคัญเป็นอย่างมาก เพราะเน้ือหาสาระท่ีจะนามาสอนเป็นเสมือนสื่อกลางที่จะพาให้ผู้เรียนไปสู่
จดุ มงุ่ หมายท่ไี ดก้ าหนดไว้
2.1.4 การกาหนดมาตรการวัดและประเมินผล เป็นการกาหนดมาตรการให้ทราบว่า
ควรจะวัดผลและประเมินผลอย่างไร จึงจะสอดคล้องกับความมุ่งหมายของหลักสูตร ใน
กระบวนการพัฒนาหลักสตู รนั้น การทดลองใช้หลักสูตรถอื วา่ เป็นขัน้ ท่คี วามสาคญั และจาเป็นอยา่ งย่ิง
เพราะเปน็ การศึกษาหาจดุ ออ่ นหรอื ขอ้ บกพร่องต่าง ๆ เพอ่ื หาทางแก้ไขให้ดขี ึ้น
2.1.5 การนาหลักสูตรไปใช้ เป็นขั้นตอนของการนาเอาหลักสูตรไปสู่ภาคปฏิบัติ
หรือไปสู่การเรียนการสอนในโรงเรียน การนาหลักสูตรไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องอาศัย
กิจกรรมและกระบวนการต่าง ๆ หลายประเภท เช่น การจัดทาเอกสารและคู่มือการใช้หลักสูตร การ
เตรียมบุคลากร การบริหารและจัดการหลักสูตร การดาเนินการสอนตามหลักสูตร การนิเทศและ
ตดิ ตามผลการใช้หลกั สตู ร เป็นต้น
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K. 63
2.1.6 การประเมนิ ผลการใชห้ ลักสูตร ตอ้ งมีความม่งุ หมายท่จี ะประเมินสัมฤทธผิ ล
ของหลักสูตร เพ่ือให้ทราบว่ามีผลผลิตท่ีได้จากหลักสูตรนั้นเป็นไปตามความมุ่งหวังของสังคมและ
ผู้เรียนเพียงใด ถ้าผลของการประเมินพบข้อบกพร่องตรงไหนก็จะส่งผลให้มีกิจกรรมการปรับปรุง
แก้ไขหลกั สูตรในลาดับตอ่ ไป
2.1.7 การปรับปรุงแกไ้ ขหลักสูตร เป็นกระบวนการของการเปลย่ี นแปลงหลักสูตร
ท่ีใช้อยู่ให้มีความเหมาะสม หรือสอดคล้องกับสภาพของสังคมมากข้ึน กระบวนการในการปรับปรุง
แก้ไขหลักสูตรเป็นส่วนหน่ึงของการพัฒนาหลักสูตร ซึ่งจะเร่ิมปรับปรุงแก้ไขในข้ันตอนใดของ
กระบวนการพัฒนาหลักสูตรก็ได้ แต่เมื่อเริ่มตรงข้ันตอนไหนก็จะต้องดาเนินการในข้ันตอนต่อไปจน
ครบทุกระบวนการในวฏั จักรของกระบวนการพฒั นาหลกั สูตร
จากท่ีกลา่ วมา สรปุ รปู แบบการพัฒนาหลักสตู รของ สงัด อุทรานนั ท์ ได้ดงั ภาพต่อไปน้ี
ภาพที่ 3.7 รูปแบบการพฒั นาหลกั สตู รของ สงัด อุทรานันท์
ทีม่ า: สงดั อุทรานันท์. 2532: 39.
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.64
2.2 รูปแบบการพัฒนาหลกั สตู รของ วชิ ยั วงษ์ใหญ่ (ชัยวัฒน์ สุทธริ ัตน์. 2557: 89 – 91)
วชิ ัย วงษ์ใหญ่ ได้เสนอรูปแบบการพัฒนาหลักสูตร โดยแบ่งเป็นระบบได้ 3 ระบบ
ดังตอ่ ไปน้ี (วิชยั วงษใ์ หญ่. 2537: 5 – 30)
2.2.1 ระบบการรา่ งหลกั สูตร ประกอบดว้ ย 4 ขั้นตอน ดังน้ี
2.2.1.1 ส่ิงกาหนดหลักสูตร คือ ข้ันของการเตรียมศึกษาข้อมูลพ้ืนฐานด้าน
ต่าง ๆ ที่นามาใช้สาหรับการพัฒนาหลักสูตร ได้แก่ สิ่งกาหนดทางวิชาการ ส่ิงกาหนดทางสังคม
วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ส่งิ กาหนดทางการเมือง เป็นต้น
2.2.1.2 รูปแบบหลักสูตร เป็นข้ันของการนาข้อมูลพื้นฐานจากส่ิงกาหนด
หลักสูตรด้านต่าง ๆ มาใช้ เพื่อกาหนดรูปแบบหลักสูตรว่าควรมีลักษณะใด ควรมีโครงสร้างและ
องค์ประกอบหลักสูตรอย่างไร ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นภาพรวมและมาตรฐานการศึกษาของแต่ละ
หลักสูตร
2.2.1.3 การตรวจสอบหลกั สตู ร เป็นขนั้ ของการตรวจสอบคณุ ภาพและศึกษา
ความเป็นไปไดข้ องหลักสูตรท่รี า่ งขึ้น เพอ่ื ปรบั ปรุงแก้ไขกอ่ นนาไปใช้จรงิ
2.2.1.4 การปรับแก้หลักสูตรก่อนนาไปใช้ เป็นการนาข้อมูลจากข้อ 2.2.1.3
ท่ีไดม้ าสงั เคราะหเ์ ปน็ หมวดหม่ชู ัดเจน มาปรับแก้ไขหลักสูตรอย่างเป็นระบบและมปี ระสทิ ธิภาพ
2.2.2 ระบบการนาหลักสูตรไปใช้ ประกอบดว้ ย 3 ข้ันตอน ดังน้ี
2.2.2.1 การขออนุมัติหลักสูตร เมื่อได้ตรวจสอบคุณภาพและได้ปรับแก้ไข
หลักสูตรเรียบร้อยแล้ว ข้ันตอนต่อไปก่อนจะนาหลักสูตรไปใช้ต้องนาหลักสูตรไปเสนอหน่วยงาน
ระดบั สงู เพือ่ ขอความเห็นชอบในการนาไปใช้ได้
2.2.2.2 การวางแผนใช้หลักสูตร เป็นข้ันตอนที่ดาเนินการควบคู่ไปกับขั้น
การขออนุมัติหลักสูตร ซ่ึงนี้จะประกอบด้วย 1) การประชาสัมพันธ์หลักสูตร 2) การเตรียม
งบประมาณ 3) การเตรียมความพร้อมของบุคลากรท่ีเกี่ยวข้องกับหลักสูตร 4) การเตรียมวัสดุ
หลักสูตร 5) การเตรียมงานบรกิ ารสนับสนุนอาคารสถานที่ 6) การเตรียมระบบบริหารหลกั สตู รของ
โรงเรยี น 7) การฝกึ อบรมเชงิ ปฏิบตั ิการใหก้ ับผสู้ อน 8) การประเมินผลและติดตามการใช้หลักสูตร
2.2.2.3 การดาเนินการใช้หลักสูตรหรือบริหารหลักสูตร จัดเป็นขั้นตอนที่
สาคญั โดยนักพฒั นาหลักสูตรต้องวางแผนการใช้หลักสูตรอยา่ งเป็นระบบและใช้เทคโนโลยีการศึกษา
มาชว่ ยเสริม และจะต้องทาความเข้าใจกับผใู้ ชห้ ลกั สตู รให้ชดั เจนอีกด้วย
2.2.3 ระบบการประเมินหลักสูตร เป็นข้ันตอนสุดท้ายของการพัฒนาหลักสูตร
เป็นการเปรียบเทียบระหว่างผลการใช้หลักสูตรท่ีวัดได้กับวัตถุประสงค์ของหลักสูตรว่าปฏิบัติได้จริง
หรือไม่ จุดประสงคข์ องการประเมินหลกั สตู ร คอื
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K. 65
2.2.3.1 เพื่อศึกษาว่าหลักสูตรเม่ือนาไปปฏิบัติจริงได้ผลเพียงใด บรรลุ
วตั ถุประสงค์หรือไม่
2.2.3.2 เพอ่ื คน้ หาแนวทางปรับปรงุ หลักสูตร หากพบส่งิ บกพร่อง
2.2.3.3 เพื่อวเิ คราะห์ขอ้ ดแี ละขอ้ จากัดของวิธีการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้
2.2.3.4 เพ่ือช่วยตัดสินใจของฝ่ายบริหารว่า ควรจะใช้หลักสูตรน้ีต่อไปอีก
หรือไม่ โดยระบบการประเมินหลักสูตรมีดังน้ี 1) การวางแผนการประเมินหลักสูตร 2) การเก็บ
ข้อมลู 3) การวเิ คราะห์ข้อมลู และ 4) การรายงานขอ้ มลู
จากท่กี ลา่ วมา สรปุ รูปแบบการพฒั นาหลักสตู รของ วิชยั วงษใ์ หญ่ ได้ดงั ภาพต่อไปนี้
ภาพท่ี 3.8 รปู แบบการพัฒนาหลกั สูตรของ วชิ ัย วงษใ์ หญ่
ทีม่ า: วชิ ัย วงษ์ใหญ่. 2537: 30.
2.3 รปู แบบการพฒั นาหลักสตู รของ ธารง บัวศรี (สิรนิ าถ จงกลกลาง. 2558: 67)
ธารง บัวศรี ได้เสนอรูปแบบการพัฒนาหลักสูตร ข้ันตอนท่ีสาคัญ 4 ข้ันตอน
ดงั ต่อไปน้ี (ธารง บวั ศรี. 2542: 151)
2.3.1 การจัดทาหลักสตู รต้นแบบ มีขนั้ ตอนท่สี าคญั ไดแ้ ก่ 1) การวิเคราะห์ข้อมูล
พืน้ ฐาน 2) การกาหนดจุดมุ่งหมายของหลักสูตร 3) การกาหนดรูปแบบและโครงสร้างของหลักสูตร
4) การกาหนดจุดประสงค์ของวิชา 5) การเลือกเน้ือหา 6) การกาหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ 7)
การกาหนดประสบการณ์การเรียนรู้ 8) การกาหนดยุทธศาสตร์การเรียนรู้ 9) การประเมินผลการ
เรยี นรู้ และ 10) การจดั ทาวสั ดุหลักสูตรและสอ่ื การเรยี นการสอน
2.3.2 การจัดทาหลักสูตรแม่บท มีขั้นตอนท่ีสาคัญ ได้แก่ 1) การวางแผนการ
จัดการเรยี นการสอนเพ่อื ทดลองและทดสอบหลักสตู ร 2) การทดลองและทดสอบหลกั สูตรตน้ แบบ
2.3.3 การนาหลกั สตู รไปใช้
2.3.4 การประเมินผลหลกั สตู ร
จากที่กล่าวมา สรปุ รูปแบบการพัฒนาหลกั สูตรของ ธารง บวั ศรี ไดด้ ังภาพต่อไปนี้
66
ภาพท่ี 3.9 รูปแบบการพฒั นาหลักสตู รของ ธารง บวั ศรี
ที่มา: ธารง บวั ศรี. 2542: 151.
2.4 รูปแบบการพฒั นาหลักสตู รของ วาสนา กรี ตจิ าเริญ
จากการศึกษารูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของนักการศึกษาทั้งจากต่างประเทศ
และในประเทศไทย ในที่นี้ผู้เขียนขอสรุปรูปแบบการพัฒนาหลักสูตรตามแนวคิดของผู้เขียนเอง ได้
เป็นขั้นตอน 8 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การวิเคราะห์ข้อมูลพ้ืนฐาน 2) การกาหนดวัตถุประสงค์ของ
หลักสูตร 3) การกาหนดโครงสร้างเนื้อหาสาระของหลักสูตร 4) การกาหนดประสบการณ์การเรียนรู้
5) การกาหนดวิธีการวัดผลและประเมินผล 6) การนาหลักสูตรไปใช้ 7) การประเมนิ หลักสูตร และ
8) การปรบั ปรุงและแก้ไขหลกั สูตร ซึ่งแสดงได้ดังภาพตอ่ ไปน้ี
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K. 67
ภาพท่ี 3.10 รปู แบบการพัฒนาหลกั สตู รของ วาสนา กีรติจาเริญ
หลักการพัฒนาหลกั สูตร
การพัฒนาหลักสูตรเป็นกระบวนการที่มีข้ันตอนการพัฒนาอย่างเป็นระบบ เพ่ือให้การ
พัฒนาหลักสูตรดาเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลให้ได้หลักสูตรที่มีคุณภาพ ดังนั้นในการ
พฒั นาหลักสูตร ควรคานึงถึงหลักการสาคญั ดงั ตอ่ ไปน้ี (สทิ ธิพล อาจอินทร์. 2563: 99 – 100)
1. การพัฒนาหลักสูตรต้องดาเนินการในรูปคณะกรรมการ เพื่อให้สามารถดาเนินการพัฒนา
หลักสตู รได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. การพัฒนาหลักสูตรจาเป็นต้องมีผู้เช่ียวชาญและมีความรู้ ความสามารถในการพัฒนา
หลักสตู รเป็นอย่างดี
3. การพฒั นาหลักสตู รต้องเกิดจากความร่วมมือและการประสานงานของผู้ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในการ
พฒั นาหลักสูตรทุกฝา่ ยและทกุ ระดับ
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.68
4. การพัฒนาหลกั สูตรต้องมีการวางแผนและดาเนินงานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบแบบแผน
อยา่ งต่อเนื่อง และมขี ้ันตอนท่ชี ดั เจน
5. การพัฒนาหลักสูตรต้องพัฒนาการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน เช่น ปรัชญาการศึกษา สังคม
และวัฒนธรรม จิตวิทยาการเรียนรู้ ธรรมชาติของการเรียนรู้ ความรู้เก่ียวกับผู้เรียน เศรษฐกิจ
การเมอื งและการปกครอง ความก้าวหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปน็ ต้น
6. การพัฒนาหลักสูตรต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม เพ่ือให้ผู้เรียนนา
ความรู้ ประสบการณท์ ไ่ี ด้รับไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจาวัน และแก้ไขปัญหาทเี่ กิดขึ้นได้
7. การพัฒนาหลักสูตรต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียนและทฤษฎีการ
เรียนรู้ เพ่อื ใหส้ ามารถนาไปใช้ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
8. การพัฒนาหลักสูตรต้องมุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนทุกด้าน กล่าวคือ ด้านความรู้ ความ
เข้าใจ ทักษะกระบวนการ และเจตคตขิ องผ้เู รียน
9. การพัฒนาหลักสูตรต้องคานึงถึงความสอดคล้องขององค์ประกอบของหลักสูตร ได้แก่
จุดมุ่งหมายของหลักสูตร เนื้อหาสาระ แนวการจัดการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผลการ
เรยี นต้องสอดคล้องสมั พันธก์ ัน
10. การพัฒนาหลักสูตรต้องคานึงถึงความเป็นไปได้ในการนาหลักสูตรไปใช้จริงในการเรียน
การสอน
11. การพัฒนาหลักสูตรต้องมีการประเมินหลักสูตร เพื่อให้ทราบคุณค่าของหลักสูตรว่ามี
คณุ ภาพดเี พยี งใด และขอ้ บกพรอ่ งของหลักสตู รเพ่อื การปรับปรงุ แกไ้ ขหลักสูตรให้มีคณุ ภาพดยี ่งิ ขน้ึ
12. ควรมกี ารวิจัยติดตามผลการพัฒนาหลักสูตร การนาหลกั สตู รไปใช้ เพื่อเปน็ ขอ้ มูลสาคัญ
ในการปรับปรงุ และพัฒนาหลักสตู รให้มีความเหมาะสมกบั สภาพสังคมและยคุ สมัย
ในท่ีนี้ จะขอสรุปขั้นตอนการพัฒนาหลักสูตรได้เป็น 10 ขั้น ได้แก่ 1) การวิเคราะห์ข้อมูล
พื้นฐาน 2) การกาหนดจุดมุ่งหมายของหลักสูตร 3) การกาหนดเน้ือหาสาระ 4) การกาหนดแนว
การจัดการเรียนการสอน 5) การกาหนดวิธีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 6) การประเมิน
หลกั สตู รก่อนนาไปใช้ 7) การนาหลักสูตรไปทดลองใช้ 8) การนาหลักสูตรไปใช้ 9) การประเมินผล
การใช้หลักสูตร และ 10) การปรับปรุงแก้ไขหลักสูตร ซ่งึ ขั้นตอนท่ี 1 – 5 จัดเป็นข้ันตอนที่แสดงถึง
การสร้างและพัฒนาหลักสูตร ส่วนข้ันตอนที่ 8 เป็นขั้นตอนการนาหลักสูตรไปใช้ (จะอธิบายละเอียด
ในบทที่ 5 เร่อื ง การพฒั นาหลักสูตรและนาหลกั สูตรไปใช)้ ส่วนข้ันตอนที่ 6 และ 9 – 10 เป็นข้ันตอน
ท่ีแสดงถึงการประเมินหลักสูตร (จะอธิบายละเอียดในบทที่ 8 เรื่อง การประเมินหลักสูตร) โดย
ขัน้ ตอนการพฒั นาหลกั สูตร แสดงได้ดังภาพต่อไปนี้
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K. 69
ภาพที่ 3.11 ขน้ั ตอนการพัฒนาหลกั สตู ร
ที่มา: สิทธพิ ล อาจอินทร.์ 2563: 97.
สรุป
การพัฒนาหลักสูตร เป็นกระบวนการหรือขัน้ ตอนในการจัดทาหลักสูตร การปรับปรุงแกไ้ ข
การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรให้ดีขึ้นตามจุดมุ่งหมายที่กาหนดไว้ เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของ
บุคคลและสภาพสังคม นอกจากนี้การพัฒนาหลักสูตรยังหมายถึงการสร้างหลักสูตร การใช้หลักสูตร
และประเมินหลกั สตู ร และการปรับปรุงหลกั สตู รอีกด้วย
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K.70
นักการศึกษาได้เสนอรูปแบบการพัฒนาหลักสูตรที่หลากหลายตามแนวคิดของแต่ละท่าน
ซึ่งแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของหลักสูตรที่มาจากแนวคิดและปรัชญาท่ีนักพัฒนาหลักสูตร ยึดถือ
ในการออกแบบหลักสตู ร โดยแตล่ ะรูปแบบจะมขี ัน้ ตอนและองค์ประกอบย่อยท่แี ตกตา่ งกันไป จะไม่
สามารถสรุปอย่างชัดเจนว่ารปู แบบการพัฒนาหลักสูตรของนักการศึกษาท่านใดดีท่ีสุด ดังน้ัน การท่ีจะ
นารปู แบบใดไปใชก้ ข็ ึ้นอยู่กับจดุ มุ่งหมายของการจัดการศึกษาของแตล่ ะสถานศกึ ษาเป็นหลัก สามารถ
พจิ ารณานาขอ้ ดีของหลักสูตรแตล่ ะรปู แบบไปประยุกต์ใชไ้ ด้ตามความเหมาะสม
ในที่น้ี สรุปรูปแบบการพัฒนาหลักสูตรได้เป็นข้ันตอน 8 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การวิเคราะห์
ข้อมูลพ้ืนฐาน 2) การกาหนดวัตถุประสงค์ของหลักสูตร 3) การกาหนดโครงสร้างเนื้อหาสาระของ
หลักสูตร 4) การกาหนดประสบการณ์การเรียนรู้ 5) การกาหนดวิธีการวัดผลและประเมินผล
6) การนาหลกั สูตรไปใช้ 7) การประเมนิ หลกั สูตร และ 8) การปรับปรุงและแก้ไขหลักสตู ร
คาถามท้ายบท
1. อธิบายความหมายของการพฒั นาหลกั สตู ร
2. จากธรรมชาติหรือความเป็นจริงของหลักสูตร ท่ีกล่าวว่า “การพัฒนาหลักสูตรเป็น
กระบวนการท่ีต่อเน่ืองและไม่มีวันสิ้นสุด” ท่านเห็นด้วยกับคาพูดดังกล่าวหรือไม่ เพราะเหตุใด จง
อธิบาย
3. จากการศึกษารูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของนักการศึกษาต่างประเทศและนักการ
ศึกษาของประเทศไทย ท่านคิดว่ารูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของใครมีกระบวนการท่ีสมบูรณ์แบบ
ที่สดุ จงอธิบาย
เอกสารอา้ งอิง
ชัยวฒั น์ สุทธริ ัตน์. (2557). การพัฒนาหลกั สตู ร ทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. พมิ พ์ครง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพฯ:
โรงพมิ พ์อลนี เพลส.
ทัศนีย์ บญุ เติม. (2551). การสร้างหลักสูตร. ขอนแกน่ : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ธารง บัวศรี. (2542). ทฤษฎีหลักสูตร การออกแบบและพัฒนา. พิมพ์คร้ังท่ี 2. กรุงเทพฯ:
พฒั นาศกึ ษา.
บุญเลยี้ ง ทุมทอง. (2557). การพฒั นาหลักสูตร. พมิ พ์ครัง้ ที่ 4. กรงุ เทพฯ: สานักพิมพแ์ หง่
จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
ิลขสิท ์ธิ @WASANA K. 71
วิชยั วงษใ์ หญ่. (2537). กระบวนการพัฒนาหลกั สูตรและการสอนภาคปฏบิ ัติ. กรงุ เทพฯ:
สวุ ีรยิ าสาส์น.
สงดั อทุ รานนั ท์. (2532). พื้นฐานและหลกั การพัฒนาหลักสูตร. พิมพค์ ร้งั ที่ 3. กรงุ เทพฯ :
คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย.
สมาน เอกพิมพ.์ (2560). การพัฒนาหลกั สูตร: ทฤษฎีสปู่ ฏบิ ัตกิ ารออกแบบและพัฒนา.
มหาสารคาม: ตกั ศิลาการพิมพ์.
สิทธิพล อาจอินทร์. (2563). การพัฒนาหลักสตู ร. พิมพค์ ร้ังท่ี 5. ขอนแก่น: โรงพมิ พ์
มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ .
สริ ินาถ จงกลกลาง. (2558). การพฒั นาหลักสตู ร. นครราชสมี า: คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัย
ราชภฏั นครราชสมี า.
อดิศร เนาวนนท์. (2550). เอกสารประกอบการสอนวิชาหลักสูตรและการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน.
นครราชสีมา: คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั นครราชสมี า.
อญั ชลี สารรตั นะ. (2550). เอกสารประกอบการสอนวชิ า 230401 การพฒั นาหลักสตู ร.
ขอนแก่น: คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น. อ้างใน สิทธพิ ล อาจอินทร์. (2563).
การพัฒนาหลักสูตร. พิมพ์คร้ังที่ 5. ขอนแกน่ : โรงพมิ พ์มหาวิทยาลัยขอนแกน่ .
Armstrong, D.G. (1989). Developing and Documenting the Curriculum. Needham
Heights, Mass: Allyn and Bacon.
Good, C.V. (1973). Dictionary of Education. 3rd ed. New York: McGraw - Hill book.
Hunkins, F. P. (1980). Curriculum Development Program Improvement. Columbus,
Ohio: Merrill.
Oliva, P.F. (1982). Developing the Curriculum. Boston: Little Brown and Company.
Saylor, G. J., Alexander, W. M. and Arther, J. L. (1981). Curriculum Planning for
Better Teaching and Learning. 4th ed. New York: Holt Rinehart and
Winston.
Saylor, J. G. and Alexander, W.M. (1974). Planning Curriculum for Schools. 3rd ed.
New York: Holt, Rinehart and Winston.
Taba, H. (1962). Curriculum Development Theory and Practice. New York:
Harcourt, Brace and World.