ภูมิปัญญา-ปราชญ์ชาวบ้าน-ภาคีเครือข่าย

แบบประเมนิ คดั เลอื ก
สาขา ภาคีเครือข่าย
ประเภท ภูมิปัญญา/ปราชญช์ าวบา้ นดเี ด่น

ประจาปี 2564
**************

คาชี้แจง

1. แบบประเมินน้ีใช้ในการประเมินคัดเลือกสาขาภาคีเครือข่าย ประเภทภูมิปัญญา/ปราชญ์ชาวบ้าน
ดเี ดน่ โดยมีกรอบระยะเวลาในการพิจารณาผลงาน 1 ปี (1 กรกฎาคม 2563 – 30 มถิ ุนายน 2564)

๒. นิยามศพั ท์/ขอบเขต ของการคัดเลอื ก
“ภูมิปัญญา/ปราชญ์ชาวบ้าน” หมายถึง บุคคลที่ได้คิดค้นทุกส่ิง ทุกอย่างขึ้นได้เอง และนามาใช้

ในการแก้ปัญหา เป็นเทคนิควิธี เป็นองค์ความรู้ของชาวบ้านทั้งทางกว้างและทางลึก ที่ชาวบ้านคิดเอง ทาเอง
โดยอาศัยศักยภาพท่ีมีอยู่แก้ปัญหาการดาเนินชีวิตในท้องถิ่นและนามาใช้ประโยชน์ในการดารงชีวิตจนประสบ
ผลสาเร็จ สามารถถ่ายทอดเช่ือมโยงคุณค่าของอดีตกับปัจจุบันได้อย่างเหมาะสม และเป็นท่ียอมรับของชุมชน
โดยมีองค์ความรูใ้ นด้านตา่ ง ๆ ดังต่อไปนี้

(1) ด้านเกษตรกรรม
(2) ด้านอตุ สาหกรรม
(3) ดา้ นหัตถกรรม
(4) ดา้ นแพทย์แผนไทย
(5) ดา้ นการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม
(6) ด้านกองทนุ และธุรกิจชมุ ชน
(7) ดา้ นศิลปกรรม
(8) ด้านภาษาและวรรณกรรม
(9) ด้านศาสนาและประเพณี
(10) ดา้ นการศึกษา
(11) อื่น ๆ
๓. การประเมินผลการคัดเลือกให้คณะกรรมการประเมินโดยพิจารณาผลตามแบบประเมิน/เอกสาร/
หลกั ฐาน/รูปภาพ รอ่ งรอยตา่ ง ๆ ที่ได้จัดทาเป็นรูปเลม่ ตามทีส่ านักงาน กศน. จังหวดั /สถานศึกษาขึน้ ตรง กาหนดไว้
และการประเมินเชิงประจกั ษ์ โดยตอ้ งผา่ นการประเมินไมต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ ๗๐ จงึ ถอื วา่ ผ่าน
4. แบบประเมนิ ประกอบด้วย 3 ตอน คะแนนเต็ม 50 คะแนน

ตอนที่ ๑ ขอ้ มลู ท่ัวไป

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบา้ นดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๑

ตอนท่ี ๒ ข้อมลู การประเมนิ มี ๓ ด้าน คะแนนเตม็ 3๐ คะแนน
ตอนท่ี 3 ดา้ นท่ี 1 ความรู้ ความสามารถเฉพาะด้าน (10 คะแนน)
ด้านท่ี 2 การถา่ ยทอดความร้ใู ห้แก่ชุมชน สังคม (10 คะแนน)
ด้านที่ 3 การเป็นแบบอยา่ งทีด่ ีของภมู ิปญั ญา/ปราชญช์ าวบ้าน (10 คะแนน)

ผลงานท่ปี ระสบความสาเรจ็ คะแนนเตม็ 20 คะแนน

ตอนท่ี ๑ ข้อมูลท่ัวไป

๑. ช่ือ นายสุโบ๊ นามสกุล วาหะรักษ์
อาย.ุ ....58.....ปี ระดับการศึกษา...ประถมศกึ ษา.............................................................................
ภมู ปิ ัญญา/ปราชญ์ชาวบ้าน ดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม...............................

๒. ท่ีอยูป่ จั จุบนั เลขท่ี.....10/4..... หมทู่ .ี่ ....5......... ตาบล/แขวง.......บางเตย...........................
อาเภอ/เขต..เมืองพังงา............................ จังหวดั ....พงั งา.........................................
โทรศัพท.์ .......................-.................................. โทรสาร................................................................
โทรศัพทม์ ือถือ.. 083 0647 5903................. E-mail.................................................................

๓. อาชีพ....ทาประมง....................................................................................................................
สถานทท่ี างาน............10/4......หม่ทู ี่ 5 บา้ นเกาะเค่ียม..................................................................
ตาบล/แขวง...บางเตย............................. อาเภอ/เขต...........เมืองพงั งา......................
จงั หวัด...........พงั งา........................................... โทรศพั ท.์ ........ 083 0647 5903.................
โทรสาร................................................................. E-mail................................................................

4. ประวตั ผิ ลงาน ที่ใหก้ ารสนับสนนุ กจิ กรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั
(โดยระบชุ ่ือหนว่ ยงาน หรอื องค์กรที่ทา่ นเข้ารว่ มกจิ กรรม)
4.๑ กรมสง่ เสรมิ สิ่งแวดลอ้ ม....................................................................
4.๒ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ........................................................................
4.๔ กรมอทุ ยานแหง่ชาติ สัตวป์ ่า และพนั ธ์พุ ชื
4.๕ บริษทั ปตท.จากดั (มหาชน)..............................................................
4.6 มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช..........................................................
4.7 กรมพฒั นาชุมชน…………………………………………………………………..
4.8 สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบงั ………………………….
4.9 วิทยาลัยชุมชนจงั หวดั พังงา......................................................................
4.10 สโมสรโรตาร่จี งั หวัดพังงา

5. ชอ่ื สถานศึกษา/หนว่ ยงานทีเ่ สนอขอเขา้ รบั การประเมิน..กศน.อาเภอเมืองพงั งา..............................
สงั กดั สานกั งาน กศน.จงั หวัดพังงา...................................................................................................
..........................................................................................................................................................

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบา้ นดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๒

ตอนท่ี 2 ข้อมลู การประเมนิ (30 คะแนน)

องคป์ ระกอบ ตัวชวี้ ดั หลกั ฐาน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนนทไ่ี ด้
ด้านท่ี ๑ ๑. มอี งค์ความรู้ดา้ นใดด้านหน่ึง ๑. เอกสาร หลักฐานทีเ่ กย่ี วขอ้ ง 10 = มีตวั ชวี้ ัด 5 รายการ
ความรเู้ ชย่ี วชาญ 2. สบื สานและพฒั นาตอ่ ยอด 2. สังเกต สัมภาษณ์ 8 = มตี ัวชว้ี ัด ๔ รายการ
เฉพาะดา้ น 3. ภาพถา่ ย 6 = มีตวั ชว้ี ัด ๓ รายการ
(10 คะแนน) องคค์ วามรู้ 4. โล/่ รางวัล/เกียรตบิ ัตร 4 = มตี ัวช้วี ดั ๒ รายการ
3. นาเทคโนโลยีพ้ืนบ้านมาพฒั นา 5. อื่น ๆ (โปรดระบุ...) 2 = มตี วั ชว้ี ดั ๑ รายการ

องคค์ วามรู้
4. นาเทคโนโลยีท่ที นั สมัยมาพฒั นา

องค์ความรู้
5. นาองคค์ วามรไู้ ปใช้ในการปฏิบตั ิ

จริงและเกดิ เป็นรปู ธรรม

ดา้ นท่ี ๒ 1. เผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ อยา่ งนอ้ ย ๑. เอกสาร หลักฐานท่เี ก่ียวขอ้ ง 10 = มตี ัวช้ีวดั 5 รายการ
การถ่ายทอด 1 ครัง้ /เดือน 2. สังเกต สัมภาษณ์ ขน้ึ ไป
ความรู้ให้แก่ 3. ภาพถา่ ย
ชุมชน/สังคม 2. ไดร้ บั เชิญเป็นวทิ ยากรถ่ายทอด 4. โล่/รางวัล/เกยี รติบัตร 8 = มตี ัวชี้วัด ๔ รายการ
(10 คะแนน) องค์ความรู้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 5 ครง้ั /ตอ่ ปี 5. อนื่ ๆ (โปรดระบ.ุ ..) 6 = มตี ัวชวี้ ดั ๓ รายการ
4 = มตี ัวชว้ี ดั ๒ รายการ
3. มจี านวนผู้รับบรกิ าร เฉล่ยี 30 คน/เดือน 2 = มตี วั ชี้วดั ๑ รายการ
4. วัดความพงึ พอใจของผู้รับบริการ
5. นาเทคโนโลยีมาใช้ในการถา่ ยทอดองค์

ความรู้
6. มีสอื่ เพ่ือใชใ้ นการเผยแพร่องคค์ วามรู้

ดา้ นท่ี ๓ ๑. มแี นวทางในการพัฒนาตนเอง ๑. เอกสาร หลกั ฐานทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 10 = มีตวั ชวี้ ดั 5 รายการ
การเปน็ 2. มจี ิตอาสาทจี่ ะเผยแพรอ่ งค์ความรู้ 2. สงั เกต สมั ภาษณ์ ขน้ึ ไป
แบบอยา่ งทด่ี ีของ 3. มเี ครือข่ายมาร่วมในการจดั การเรยี นรู้ 3. ภาพถา่ ย
ภมู ปิ ัญญา/ 4. มีผลงานเป็นทยี่ อมรบั /เป็นท่ศี ึกษาดงู าน 4. โล่/รางวัล/เกยี รติบัตร 8 = มีตัวชว้ี ัด ๔ รายการ
ปราชญ์ชาวบา้ น 5. มีผ้เู รยี นนาองคค์ วามรไู้ ปปฏิบตั ิ 5. อน่ื ๆ (โปรดระบุ...) 6 = มตี วั ช้ีวดั ๓ รายการ
(10 คะแนน) 6. มกี ารประพฤตติ นเปน็ ทีย่ อมรบั ของคน 4 = มีตัวชี้วดั ๒ รายการ
2 = มีตัวชีว้ ดั ๑ รายการ
ในชมุ ชน

คะแนนประเมนิ ตอนท่ี 2 ทงั้ 3 ด้าน (3๐ คะแนน)
เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ ๗๐ (21 คะแนน)

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบา้ นดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๓

ตอนที่ 3 ผลงานท่ปี ระสบความสาเรจ็ (20 คะแนน)

องค์ประกอบ ตวั ชี้วดั หลกั ฐาน เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนทไ่ี ด้
ผลงานท่ีประสบ มผี ลงานเด่นท่ีเป็นประโยชน์ ๑. เอกสาร หลักฐานที่เก่ยี วข้อง พจิ ารณาในเชิงคณุ ภาพ
ความสาเร็จ ต่อผู้รบั บรกิ าร ชมุ ชนและ 2. สงั เกต สมั ภาษณ์
(20 คะแนน) สังคม 3. ภาพถา่ ย
4. โล่/รางวลั /เกยี รตบิ ัตร
5. อืน่ ๆ (โปรดระบ.ุ ..)

คะแนนประเมนิ ตอนที่ 3 (2๐ คะแนน)
เกณฑก์ ารผ่านต้องไม่ตา่ กว่าร้อยละ ๗๐ (14 คะแนน)
รวมคะแนนประเมิน ตอนที่ 2 และ ตอนที่ 3 (5๐ คะแนน)
เกณฑ์การผา่ นตอ้ งไม่ต่ากว่ารอ้ ยละ ๗๐ (35 คะแนน)

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบ้านดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๔

ตอนท่ี ๑ ขอ้ มูลทั่วไป

๑. ชอ่ื นายสโุ บ๊ นามสกลุ วาหะรกั ษ์
อาย.ุ ....58.....ปี ระดับการศกึ ษา...ประถมศกึ ษา.............................................................................
ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบ้าน ดา้ นการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม...............................

๒. ท่ีอย่ปู จั จุบนั เลขท.ี่ ....10/4..... หมทู่ .ี่ ....5......... ตาบล/แขวง.......บางเตย...........................
อาเภอ/เขต..เมอื งพงั งา............................ จงั หวดั ....พงั งา.........................................
โทรศัพท์........................-.................................. โทรสาร................................................................
โทรศพั ทม์ อื ถอื .... 083 0647 5903............... E-mail.................................................................

๓. อาชพี ....ทาประมง....................................................................................................................
สถานทที่ างาน............10/4......หม่ทู ี่ 5 บา้ นเกาะเคี่ยม..................................................................
ตาบล/แขวง...บางเตย............................. อาเภอ/เขต...........เมืองพังงา......................
จังหวัด...........พงั งา........................................... โทรศพั ท.์ ......083 0647 5903.......................
โทรสาร................................................................. E-mail................................................................

4. ประวัติผลงาน ทีใ่ หก้ ารสนับสนนุ กิจกรรมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั
(โดยระบชุ ่ือหนว่ ยงาน หรือองค์กรที่ทา่ นเข้าร่วมกิจกรรม)
4.๑ กรมสง่ เสรมิ สิง่ แวดลอ้ ม....................................................................
4.๒ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ........................................................................
4.๔ กรมอทุ ยานแหง่ชาติ สตั ว์ป่า และพนั ธุ์พชื
4.๕ บริษทั ปตท.จากัด (มหาชน)..............................................................
4.6 มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช..........................................................
4.7 กรมพฒั นาชุมชน…………………………………………………………………..
4.8 สถาบนั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคณุ ทหารลาดกระบงั ………………………….
4.9 วทิ ยาลยั ชุมชนจังหวดั พังงา......................................................................
4.10 สโมสรโรตาร่จี งั หวัดพังงา

5. ช่อื สถานศกึ ษา/หน่วยงานทเี่ สนอขอเขา้ รับการประเมนิ ..กศน.อาเภอเมอื งพงั งา..............................
สงั กัดสานักงาน กศน.จังหวดั พงั งา...................................................................................................
..........................................................................................................................................................

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบา้ นดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๕

ตอนที่ 2 ขอ้ มูลการประเมนิ
ด้านท่ี ๑ ความรู้เชีย่ วชาญ เฉพาะดา้ น
๑.1 มอี งคค์ วามรู้ดา้ นใดดา้ นหนง่ึ
นายสุโบ๊ วาหะรักษ์ ผู้นาชุมนบ้านท่าไร่ เกาะเคียม เป็นบุคคลต้นแบบในมีการใช้แนวปฏิบัติที่เป็น

เลิศในการดู รักษา และฟ้ืนฟูป่าชายเลน โดยร่วมกับชุมชนมีการน้อมนาปรัชญาของเศรษฐกิจ มาใช้ ผนวกกับ
การแสวงหาเครือข่ายอนุรักษ์ฟื้นฟู ป่าชายเลน การใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องเหมาะสมจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
และการจัดการอย่างเปน็ ระบบ ประกอบไปดว้ ย ปัจจัยเง่ือนไขท่ีส่งผลต่อความสาเรจ็ ของชุมชน คือ ผ้นู าชุมชน
ปราชญ์ มีความเข้มแข็ง ชาวบ้านในชุมชนมีความผูกพันกับป่าชายเลน ใช้สอยอย่างประหยัดและรคู้ ่า และการ
เปิดโอกาสในการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในชุมชน ทาให้ชุมชนแห่งน้ีเป็น
แหล่งที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ป่าชายเลนมากที่สุดแห่ง
หนึง่ ของประเทศไทย
นายสุโบ๊ วาหะรักษ์ ผู้นาชุมชนมีแนวทางการฟ้ืนฟูระบบนิเวศป่าชาย
เลนชุมชน 3 ด้าน ประกอบด้วย การจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลน การ
ก่อต้ังศูนย์เรียนรู้ชุมชนเพ่ือขยายองค์ความรู้เกี่ยวกับป่าชายเลนและการ
เพาะพันธ์ปูดา(ปูทะเลนอกกระดอง) สู่ชาวบ้านในชุมชนและเครือข่าย
ผู้สนใจ และ แสวงหาความร่วมมือเพือ่ นาองค์ความรู้ใหม่มาปรับใช้ให้เกิด
การบูรณาการร่วมกับชุมชนผ่านการประชุม การจัดเสวนา แลกเปลี่ยน
เรียนรู้ และผ่านการเรียนการสอน เพ่ือสร้างจิตสานึกและความอยู่ดีกินดีของชาวบ้านชุมชนต้นแบบบ้านท่าไร่
และเป็นต้นแบบแห่งการมีวิถีชีวิตร่วมกับระบบนิเวศธรรมชาติอย่างยั่งยืน ร่วมแรงร่วมใจและความร่วมมือกับ
ทกุ ภาคส่วน แสดงออกใหเ้ ห็นพลงั ของชมุ ชนท่ผี ลักดนั ให้เกิดเปน็ ชมุ ชน ตน้ แบบแหง่ การพัฒนาอย่างยั่งยนื

1.2. สืบสานและพัฒนาต่อยอด องค์ความรู้ นายสุโบ๊ วาหะรักษ์ สืบสานและพัฒนาต่อ
ยอด องค์ความรู้จากนักอนุรักษ์ป่าชายเลนสานต่อนักอนุรักษ์เพื่อส่วนรวมและลูกหลานคนรุ่นหลังในการจัดต้ัง

แหล่งเรียนรู้"บ้านปูดา "เพาะพันธุ์ปูทะเลปล่อยออกสู่
ธรรมชาติเพ่ือเพ่ิมประชากรปูทะเลในทะเลอ่าวพังงาและ
พื้ น ที่ ใ ก ล้ เคี ย ง มี ก า ร ท า ง า น ร่ ว ม กั บ เค รื อ ข่ า ย ห ล า ย
หน่วยงานรวมถึง กศน.อาเภอเมืองพังงา จัดกิจกรรม
ให้ กั บ ป ระช าชน แ ล ะนั ก ศึ ก ษ าใน พื้ น ท่ี จัด ส ถ าน ที่ บ่ อ
เพาะพันธ์ุปูทะเลอิงแบบธรรมชาติมากที่สุดและนาวัสดุ
เหลือใช้ที่ไม่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติมาใช้เรียนรู้อย่าง
สม่าเสมอจนเข้าใจบริบทต่างๆทั้งตัวปูทะเลและระบบ
นิเวศตา่ งๆมีการขยายเปน็ องค์ความรแู้ กผ่ ูส้ นใจต่างๆ และส่งเสริมกจิ การเครือข่ายทุกรูปแบบ

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบา้ นดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๖

1.3. นาเทคโนโลยีพ้ืนบ้านมาพัฒนา องคค์ วามรู้ นายสโุ บ๊ วาหะรกั ษ์ นาความรทู้ ีไ่ ด้
ผสมผสานกบั เทคโนโลยพี ้นื บ้านในการนาแม่พันธ์ปูทอี่ ยู่ในทะเล
มาพกั คอยในบอ่ ดนิ ทีก่ นั ด้วยไม้ไผ่ยางฝังดนิ ลงไป1 เมตร ที่เป็น
ภมู ิ ปัญญาท้องถนิ่ ของคนร่นุ ก่อนและดูแลความเปน็ อยู่ของปู
ทะเลโดยปทู ะเลจะอยู่ 1 รู 1 ตวั รูใครรูมัน ให้อาหารดูระดับ
นา้ และการใหอ้ าหารแบบมีคุณภาพและให้ประโยชน์สงู สุดใน
การใชว้ ตั ตุดบิ ต่างๆ มีการผสมผสานการดูแลระบบนิเวศภายใน

บอ่ เล้ยี งโดยใสห่ อยหลกั ควายไว้เพ่ือกาจดั ซากอาหารเหลอื กิน
จากปไู มใ่ หบ้ อ่ เลยี งมกี ลิน่ คิดค้นอปุ กรณ์จบั ปูทะเลอย่างหลาย
รูปแบบเพอื่ เหมาะสมกบั การใชง้ านในแตล่ ะเวลา ส่งเสริมการ
เรียนรู้หน่วยงานท่ีเปน็ เครือข่ายอยา่ งตอ่ เน่ืองเพ่อื ใหบ้ คุ คลต่าง
ไดเ้ รียนร้ทู ่หี ลากหลายมีการจาลองระบบนเิ วศการเรยี นรูเ้ ป็นชดุ
การเรียนรู้นอกสถานที่

1.4. นาเทคโนโลยีท่ีทนั สมยั มาพฒั นา องค์ความรู้ มีการนาเทคโนโลยีรว่ มพัฒนาองค์
ความรู้และขยายเครือขา่ ยอย่างต่อเนอื่ งเพ่ือชมุ ชนและประโยชนต์ กแกช่ ุมชนและชาวบา้ นรนุ่ ต่อโดยใช้ถงั เพาะ
พลาสติกร่วมกบั การเพาะแบบธรรมชาตซิ ึ่งผลการนาเทคโนโลยีมาใช้นนั้ ทาให้ผลผลติ หรือลูกปูมีปรมิ าณทรี่ อด
ชีวิตมากกวา่ แบบธรรมชาตแิ ละแข็งแรงกวา่ เป็นการเพม่ิ ปริมาณลกู ปูอยา่ งตอ่ เน่อื งและเปน็ การพัฒนาตัวภมู ิ
ปัญญาในการพฒั นาตนเองอยางสมา่ เสมอมีการประชมุ เครอื ขายหรือสมาชิกผา่ นระบบออนไลนใ์ นสถานการ
โรคระบาดโควิด - 19 นาเทคโนโลยมี าพัฒนาการทางานอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ศกึ ษาหาความรใู้ หม่ๆเข้าใจใน
เทคโนโลยี

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบ้านดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๗

1.5 นาองคค์ วามรูไ้ ปใชใ้ นการปฏิบตั ิ จรงิ และเกิดเป็นรปู ธรรม ต้งั เปา้ หมายการจัดการความรู้เพือ่ พฒั นา 3
ประเด็น
- งาน พฒั นางาน
- คน พัฒนาคน
- องค์กร เปน็ องคก์ รการเรียนรู้

ใชก้ ารจดั การความรเู้ ปน็ เครื่องมือเพือ่ บรรลุความสาเรจ็ และความม่นั คงในระยะยาว การจดั ทีมรเิ รมิ่ เนนิ การ
การฝกึ อบรมโดยการปฏิบตั จิ ริง และดาเนินการตอ่ เนอ่ื ง การจดั การระบบการจัดการความรู้ แรงจูงใจในการ
ริเรมิ่ ดาเนินการจัดการความรู้ แรงจูงใจแทต้ อ่ การดาเนินการจัดการความรู้ คอื เป้าหมายท่ีงาน คน องคก์ ร
และความเป็นชมุ ชนในที่ทางานดงั กลา่ วแลว้ เปน็ เงือ่ นไขสาคัญ ในระดบั ท่ีเป็นหวั ใจสคู่ วามสาเร็จในการจดั การ
ความรโู้ ดยความร้ทู น่ี ามาใช้คอื หัวใจของการจดั การความรู้

1.“คน” เป็นองค์ประกอบท่สี าคญั ท่ีสุดเพราะเป็นแหล่งความรู้ และเป็นผนู้ าความร้ไู ปใชใ้ หเ้ กิด
ประโยชน์

2.“เทคโนโลย”ี เปน็ เครอ่ื งมือเพื่อใหค้ นสามารถค้นหา จดั เก็บ แลกเปลยี่ น รวมท้งั นาความรู้ไปใช้
อยา่ งง่าย และรวดเรว็ ขนึ้

3.“กระบวนการความรู”้ เปน็ การบรหิ ารจัดการ เพอ่ื นาความรจู้ ากแหล่งความร้ไู ปใหผ้ ู้ใช้ เพือ่ ทาให้
เกิดการปรับปรุง และนวตั กรรม องคป์ ระกอบท้ัง 3 ส่วนนี้ จะต้องเชือ่ มโยงและบรู ณาการอย่างสมดลุ แต่ท่ีขาด
ไม่ได้อกี อย่างหนึง่ ในหารทางานและการบรหิ ารจดั การร่วมกับเครอื ขา่ ยคอื เงินทนุ ในทกุ วนั นี้การอนุรักป่าชาย
เลนและกลุ่มบา้ นปูดา ดาเนนิ งานมาเป็นเวลา 1 ปี ประสบผลสาเรจ็ และทั้งตวั บคุ คล เครอื ขา่ ย องคก์ ร มี
การศึกษาดูงาน เรียนรจู้ ากสถานท่จี ริง สรา้ งเป็น Clip VDO ลงใน Youtube โดยเครือขา่ ยรว่ มบริหาร
จดั การโดยวิทยาลัยชุมชนพังงา และทกุ เครือข่ายที่เขา้ เรียนรู้และสนบั สนนุ เกดิ เปน็ ผลงานอยา่ งเป็นรูปธรรม
และเรียนรไู้ ด้ตลอดเวลาไม่หมดสิน้ เรยี นรไู้ ดท้ ุกเรอ่ื งกับนายสโุ บ๊ะ วาหะรักษ์

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบา้ นดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๘

ดา้ นท่ี ๒ การถา่ ยทอดความรใู้ ห้แกช่ ุมชน/สงั คม
2.1. เผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ อย่างนอ้ ย 1 ครงั้ /เดอื น นายสุโบ๊ะ วาหะรักษ์ เผยแพรอ่ งค์

ความรูม้ ากมายในแต่ละเดอื นท้ังเรอ่ื งการเพาะเลีย้ งปดู า ความรเู้ กย่ี วกับบอนสีรูปแบบต่างๆและการเข้าศึกษา
ดงู านการประชาสมั พันธ์กิจกรรมหลังร่วมงานกบั เครอื ข่ายผ่านเฟสบคุ๊ สว่ นตัวหรอื แบบกลุ่มทาให้เปน็ ทร่ี ู้จัก
และการตดิ ตามผลงานของกลุ่มสมาชิกและเครือข่ายท่ีร่วมงาน

2.2. ได้รบั เชญิ เป็นวทิ ยากรถา่ ยทอด องคค์ วามรู้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 5 ครงั้ /ต่อปี
นายสุโบะ๊ วาหะรกั ษ์ ไดร้ ับเชิญเปน็ วทิ ยากรถา่ ยทอดองค์ความรแู้ กป่ ระชนและผู้สนใจหลายหนว่ ยงาน
หลากหลายกล่มุ เป้าหมาย ในสว่ นของสถานศกึ ษาหรอื กศน.อาเภอเมืองพังงา กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น 3 โครงการ
โครงการพฒั นาสังคมและชมุ ชน 1 โครงการ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 3 โครงการประกอบดว้ ย
1. โครงการพฒั นาแห่งเรยี นรใู้ นชมุ ชน นกั ศึกษา กศน.ตาบลบางเตย เขา้ ร่วมกิจกรรม 20 คน

2. โครงการโครงการคา่ ยศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้และภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ตาบลบางเตย ภาคเรียนที่ 1 ปี
การศึกษา 2564 มีผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ 20 คน

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบา้ นดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๙

3. โครงการคา่ ยเพมิ่ พน้ื ทส่ี ีเขยี วปลูกตน้ ไมเ้ ฉลมิ พระเกียรติในรชั กาลท่ี 10
มีผู้เขา้ รว่ มโครงการ 20 คน

โครงการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน 1 โครงการ
1. โครงการฝกึ อบรมการอนรุ กั ษป์ ูทะเล มี

ผ้เู ข้าร่วมโครงการ 20 คน

และโครงการอื่นๆที่รว่ มจัดหนว่ ยงานและเครือขา่ ยอนื่ ๆอกี หลายกจิ กรรม
1. โครงการปลกู ปา่ ชายเลนปลอ่ ยพันธ์ปุ ูทะเลสรา้ งความมน่ั คงและยัง่ ยืนให้ชมุ ชน รว่ มกบั สโมสรโรตา

รีพงั งา ภาค 3330 โรตารี่สากล

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบ้านดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๑๐

2. โครงการขยายพันธ์ุปดู า รว่ มกบั สานักงานทรพั ยากรทางทะเลและชายฝัง่ ที่ 6

2.3. มจี านวนผู้รบั บรกิ าร เฉลีย่ 30 คน/เดือน บ้านปดู าหรอื กลมุ อนรุ ักษป์ ่าชายเลน
บา้ นนายสโุ บ๊ะ วาหะรกั ษ์ มีจานวนผรู้ บั บริการทุกกจิ กรรมตอ่ เดือนมากกว่า 100 คน ในชว่ งสถานณก์ ารการ
ระบาดจากเชอ้ื โควิด - 19 ก็มกี ารบรหิ ารจัดการที่ดีมกี ารแจง้ สมาชกิ หรอื ผสู้ นใจในการจดั กจิ กรรมและปลุกปา่
ชายเลน กลมุ่ ละไม่เกิน 30 คน โดยทางนายสุโบ๊ะวาหะรกั ษ์ ประสาน โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตาบลบ้าน
เกาะเคย่ี มตรวจวัดอณุ หภูมิเพ่อื ส่งเสริมมาตรการทางการแพทย์ และบ้านปูดา ยังเปน็ บา้ นหนงั สือชุมชน หมูที่
5 บ้านเกาะเคี่ยม ตาบลบางเตย โดยการดูแลและหมนุ เวยี นหนังสอื โดย กศนตาบลบางเตย มกี ารจดั กิจกรรม
สง่ เสรมิ การอา่ นให้เด็กในชมุ ชนอยูบ่ อ่ ยคร้งั และสง่ เสรมิ การจัดกจิ กรรมในแหลง่ เรียนรขู้ องโรงเรียนบา้ นเกาะ
เคี่ยม

2.4. วดั ความพึงพอใจของผูร้ ับบรกิ าร ความพงึ พอใจวัดจากการจดั กิจกรรมของ กศน.ผ่าน
ระบบ Google ฟอร์ม และจากหน่วยงานที่ร่วมจะไดจ้ ากจากหนังสอื
ตรวจเยย่ี มและขอคอมเมน็ ตห์ ลงั จากการจดั กจิ กรรมแลว้ ลง
ประชาสัมพนั ธ์ผา่ น facebook ส่วนตัวหรอื กลุม่ เราจะเห็นไดว้ า่ ความ
พึงพอใจของผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรมหรือเชญิ ใหเ้ ปน็ วิทยากรมีความพึงพอใจ
อยู่ในระดบั ดมี าก facebook ช่อื สุโบ๊ะ วาหะรกั ษ์

2.5. นาเทคโนโลยมี าใชใ้ นการถ่ายทอดองค์
ความรู้ เราจะเหน็ ไดว้ ่าในส่วนการใชเ้ ทคโนโลยใี นการถ่ายทอดองค์
ความรู้ ดา้ นนายสุโบ๊ะ วาหะรกั ษ์ จะมีทมี งานชว่ ยเหลือในการจดั ทาสือ
สง่ เสริมการเรยี นรู้และผ้ชู ว่ ยเหลือด้าน Clip VDO นามแฝงวา่ พรานทะเล ในการใช้เทคโนโลยปี ระชาสัมพันธ์
และเป็นการใหค้ วามรูผ้ า่ นภาพเคล่ือนไหวทาให้มคี วามนา่ สนใจต่อผู้เขา้ ชมกจิ กรรมหรอื บรรยากาศการเรยี นรู้
ท่ีและสามารถเรียนรไู้ ดตลอดและรูปแบบการถ่ายทอดที่หลากหลาย

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบ้านดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๑๑

2.6. มีสื่อเพ่ือใช้ในการเผยแพร่องค์ความรู้ นายสุโบ๊ะ วาหะรักษ์ ใช้ส่ือท่ีหลากหลายเช่น
สื่อบุคคลใช้การสื่อสารด้วยบุคคลจะเป็นการใช้คาพูดเป็นหลัก ด้วยวิธีการสนทนา อภิปราย บรรยาย สาธิต
ประชุมในการจัดโครงการหรือกิจกรรมเป็นการส่ือความเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจต่อเน่ืองในเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง
โดยผู้ฟังเป็นผู้รับสาร และผู้บรรยายเป็นผู้ให้สารหรือความรู้ หรือ Clip VDO ดึงดูดความสนใจได้มาก และ
เป็นทส่ี นใจในการศกึ ษาหาความรู้ ส่วนใหญช่ อ่ งทางเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้เนน้ เทคโนโลยแี ละการจัดเก็บ สามารถ
ย้อนดูได้ตลอด

ด้านท่ี ๓ การเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ีของภมู ิปญั ญา/ปราชญ์ชาวบา้ น
3.๑. มีแนวทางในการพัฒนาตนเอง เม่ือเข้ามาอยู่ในช่วงชีวิตของการทางานหรือเป็นผู้ให้

ความรู้แกผู้อื่นได้ ไม่ว่าใครก็อยากให้ตัวเองมีความก้าวหน้าในการทางาน เพื่อสร้างโอกาสดี ๆ หลายอย่างใน
ชีวิตให้กับตนเอง แต่การทางานให้ประสบความสาเร็จการทางานให้ประสบความสาเร็จนั้น จาเป็นต้องอาศัย
ปัจจัยหลายอย่างเข้ามาประกอบ เพ่ือช่วยกระตุ้นให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทางานน้ัน ๆ ให้สาเร็จลุล่วงไปได้
ด้วยดี ฉะนั้นใครที่เคยคิดว่า เพียงแค่ทางานท่ีได้รับ
ม อ บ ห ม า ย ให้ อ อ ก ม า ดี ท่ี สุ ด เพี ย ง พ อ แ ล้ ว มั น ไม่ ใ ช่
ความคิดของผู้ชายท่ีชื่อ นายสุโบ๊ะ วาหะรักษ์ "การ
พัฒนาตนเอง" เพ่ือให้ตนสามารถเดินต่อในเส้นทางการ
ทางานได้อย่างเช่ียวชาญ ซ่ึงการพัฒนาตนเองในการ
ทางาน มีผลต่อความก้าวหน้าที่จะเกิดขึ้นต่อๆไป
ตั้งเป้าหมายแล้วพัฒนาตัวเองดู โดยเริ่มต้นในเรื่องง่าย
ๆ อย่างตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ให้มีเวลาทบทวนเน้ือหาของ
งานวา่ มจี ุดไหนทีต่ ้องแกไ้ ขหรือไม่ นอกจากนอี้ าจหมน่ั
สร้างพลังบวก ใหก้ ับตวั เอง ซงึ่ ชว่ ยสรา้ งความม่ันใจในตัวเองไดม้ ากขึ้นหมนั่ ศกึ ษาหาความรอู้ ยู่ตลอดเวลา
สร้างและพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ เปน็ การจัดให้มีการศึกษาท่ีเก้ือหนุนให้บคุ คลใน ชุมชนสามารถเรียนรู้ได้
อยา่ งตอ่ เนอื่ ง ตลอดชีวิต โดยการกระจายโอกาสทางการศึกษาใหท้ ่ัวถึง ภายใตส้ ่ิงทีม่ ีอยู่ในสังคมรอบ ๆ ตวั ทั้ง
ที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต เช่น จากประสบการณ์ของวิทยากรหรือ ปราชญ์ชาวบ้าน จากแปลงสาธิตบ้านปูดา โดย
มุ่งหวงั ให้เกดิ การเรียนรู้จากประสบการณ์ จริง ในลักษณะของการศึกษานอกระบบหรือการศึกษาอย่างไม่เป็น
ทางการ ที่ไม่เน้นการเรยี นรู้ เฉพาะในห้องเรียน ดงั นั้นการสรา้ งแหลง่ เรียนรทู้ หี่ ลากหลายในชมุ ชนจงึ เปน็ อกี ส่ิง

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบ้านดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๑๒

หน่ึงท่ีจะก่อ ประโยชน์ตอ่ กระบวนการเรียนรู้ที่ในสถาบันการศึกษาไดใ้ ช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้เพ่ือดาเนิน
กจิ กรรมตา่ ง ๆ ทกี่ อ่ ให้เกิดการเรยี นรรู้ ว่ มกัน และก่อให้เกดิ การจารกึ ข้อมูลชมุ ชนทเ่ี ปน็ ระบบด้วย เชน่

1. ใชเ้ ป็นแหล่งคน้ ควา้ หาความรูเ้ พิม่ เติมทั้งทมี่ ใี นตาราเรยี นและทไี่ ม่มีในตาราเรยี น
2. ใชเ้ ปน็ สถานทีใ่ นการจัดการเรียนการสอน การฝึกอบรม
3. ใช้เปน็ สถานที่พบปะ แลกเปลย่ี นความรู้ ประสบการณ์ ความคดิ เห็น
4. ใชเ้ ป็นแหล่งสถานทีศ่ กึ ษาดงู าน ฝึกฝนอาชีพ
5. ใช้เป็นส่ือเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนการสอนท่ีมีมิติ มีชีวิต เช่น ร่องรอยประวัติศาสตร์
นิเวศวทิ ยา สตั วต์ า่ ง ๆ ทีม่ ีอยู่ในชมุ ชน
6. ใช้เปน็ สถานท่ีถ่ายทอดความรู้ ข้อมูล ข่าวสารทั่ว ๆ ไป รวมท้ังเป็นสถานที่ ประชาสัมพันธ์เผยแพร่
หรือแจง้ ข้อมูลท่ีตอ้ งการสื่อไปถงึ คนในชมุ ชน
7. ใช้เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม โบราณสถาน
โบราณวตั ถุ ฯลฯ ไมใ่ ห้ลบเลือนสาหรบั สบื ตอ่ ไปยังชนรุ่นหลัง
8. ใช้เป็นศูนย์กลางในการดาเนินกิจกรรมอ่ืน ๆ อาทิ เป็นศูนย์จาหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นจุด
รวบรวมผลผลติ พื้นท่ีรวมกล่มุ ทากจิ กรรม
เป็นผู้จัดการเรียนรู้ หรือผู้ท่ีดาเนินการจัดกระบวนการเรียนรู้ในที่น้ีจะเน้นให้ชุมชนเป็นผู้มี บทบาท
สาคัญในการดาเนินงานทุกข้ันตอนต้ังแต่การวางแผน การเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งท่ีมา ของความรู้ ไป
จนถึงการประเมินและติดตามผลการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างย่ิงชุมชนจะต้องเป็นกาลัง หลักในการถ่ายทอด
ความรู้ให้ผู้ที่สนใจ (ขั้นจัดกระบวนการเรียนรู้) เพื่อให้ความรู้จากแหล่งเรียนรู้ ชุมชนแผ่ขยายในวงกว้างใน
ลกั ษณะชมุ ชนส่ชู ุมชน โดยไม่ต้องพ่งึ พิงภาครัฐมากเกนิ ไป ดังนั้นผจู้ ัดการเรียนรจู้ งึ ควรจะตอ้ งมีความรเู้ กีย่ วกบั
เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดีมีทักษะในการสื่อสาร เข้าใจถึงวิธีการจัด กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม และรู้จัก
ธรรมชาติของผเู้ รียน เพอื่ ให้สามารถออกแบบกระบวนการ เรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับความต้องการของผเู้ รียนและ
ถา่ ยทอดความรูไ้ ด้อย่างชัดเจนมากทสี่ ุด

3.2. มีจิตอาสาท่ีจะเผยแพร่องค์ความรู้ นายสุโบ๊ะ วาหะรักษ์ มีจิตอาสาที่จะเผยแพร่องค์
ความรู้ท่ีมีตลอดเวลาไม่เยปฏิเสธแม้นแต้คร้ังเดียวทุกหน่วยงานให้ความเคารพในความเป็นกันเองแนะนาการ
ด าเนิ น ชีวิต แ ล ะให้ อ งค์ ค วาม รู้ต่ างๆ ที่ มี แ ล ะ
หลากหลายเกี่ยวกับเร่ืองต่างๆที่อยากรู้ มีเกร็ดเล็ก
เกร็ดน้อยท่ีจะเป็นความรู้หรือเน้ือหาหลักๆสาคญั ๆ ที่
สาคัญการติดตามผลงานหรือองค์ความรู้เพียงเข้าไป
เรียนรู้จาก facebook ช่ือ สุโบ๊ะ วาหะรักษ์ ก็
สามารถได้ความรู้มากมาย หรือจัดเป็นกิจกรรมใน
บา้ นปูดา หรือจัดนอกสถานท่ีก็พร้อมให้ความรู้แก่ทุก
ท่านทุกหน่วยงานที่เชิญมาเพื่อเป็นวิทยากร เร่ือง
ค่าตอบแทนแล้วแต่หน่วยงาน หรือขอความอนุเคราะห์ก็ได้ พร้อมท่ีจะให้ความรู้เท่าที่มีหรือสามารถ
แลกเปลยี่ นกนั ได้ตลอด

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบ้านดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๑๓

3.3 มีเครือข่ายมาร่วมในการจัดการเรียนรู้ เครือข่ายสาคัญ นายสุโบ๊ะ วาหะรักษ์ กล่าว
ไว้ว่า "เรามิอาจทาอะไรได้เพียงลาพัง " เครือข่ายแต่ละที่มีศักยภาพ
ที่แตกต่างกันไปบ้างเรื่องเทคโนโลยี การประชาสัมพันธ์ งบประมาณ
อานาจการต่อรอง เครือข่ายสายการศึกษาโรงเรียนในระบบต่างๆ
และ กศน.อาเภอเมืองพังงา เพราะเรื่องการอนุรักษ์ต้องฝังรากไว้
ให้กับเยาวชนคนรุ่นหลัง การบริหารการจัดการสานักงานทรัพยากร
ทางทะเลและชายฝั่ง สานักงานปา่ ชายเลนร่วมจัดตลอดถึง เอ็นจีโอ
มีการนากลุ่มเป้าหมายมาร่วมเรียนรู้ ใช้บ้านปูดาเป็นสถานท่ีจัด
กิจกรรมแบบบูรณาการ แมน้ ในชว่ ง 2 ปีหลังสถานการณ์โควดิ - 19
จัดประชมุ เครือขา่ ยผ่านระบบออนไลน์ จดั กจิ กรรมในสว่ นของ กศน.
มีเครือข่ายต่างพื้นท่ีร่วมจัดทุกกิจกรรม เอ็นจีโอร่วมจัดกิจกรรม
ออกบู๊ทถอดองค์ความรู้เร่ืองปูดา ในการประเมินศูนย์เรียนรู้
เศรษฐกจิ พอเพยี ง กศน.อาเภอเมืองพงั งา

3.4 มีผลงานเป็นที่ยอมรับ/เป็นท่ีศึกษาดูงาน บ้านปูดา และนายสุโบ๊ะ วาหะรักษ์ มี
ผลงานเป็นท่ียอมรับจากหน่วยงานต่างๆในพ้ืนท่ีและต่างพ้ืนท่ีตลอดถึงต่างจังหวัดเนื่องจากมีความรู้
ความสามารถด้านต่างๆท่ีหลากหลายในการบริการจัดการการอนุรักษ์ป่าชายเลนและการเพาะเล้ียงสัตวท์ ะเล
และการประกอบอาชพี เหมาะเป็นทศี่ ึกษาดูงานทกุ ด้าน

การให้บริการ มีความพร้อมในการให้บริการ ซ่ึง สามารถสัมผัสไดจ้ ากก้าวแรกท่ีเรามาถึงบ้านปราชญ์
เตรียมงาน เตรียมการต้อนรับ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งท่ีสามารถแสดงออกถึง ความใส่ใจในการให้บริการ ส่วนหน่ึง
อาจกล่าวได้วา่ การที่นายสุโบ๊ะ วาหะรักษ์ ให้ความสาคัญก็จะทาให้บคุ ลากรทุกภาคสว่ นมี ความกระตอื รือรน้
และใส่ใจการทางานด้านบริการมากย่ิงข้ึนด้วย อาคาร สถานที่ และภูมิทัศน์ เหมาะสมกับพื้นท่ีจัดสรรได้เป็น
สัดส่วนเหมาะแก่การเรียนรู้และให้ความรู้แก่ผู้เข้าศึกษาดูงานและได้รับรางวัล ทสม.ดีเด่น ระดับจังหวัดพังงา
ประจาปีพุทธศักราช 2563 ในวันท่ี 4 ธันวาคม 2563 และผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการประกอบอาชีพ
เพาะพันธ์หุ อยนางรม จากวิทยาวัยชุมชนจังหวัดพังงา จัดทาสื่อการเรียนออนไลน์เพื่อการเรียนรู้ มีนักศึกษา
แลกเปลี่ยนสหรัฐอเมริกาเข้าศึกษาเรียนรู้จานวน 2 นุ่นๆละ 2 ท่าน เพ่ือเรียนรู้ระบบนิเวศและการ
เพาะพันธปุ์ ทู ะเล

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบา้ นดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๑๔

3.5. มีผู้เรียนนาองค์ความรู้ไปปฏิบัติ หลังจากการจัดกิจกรรมหรือโครงการมีการติดตาม
ผลการอบรมผู้เรียนมีการนาไปปฏบิ ัตแิ ละเข้าสู่กระบวนการสร้างเครือข่ายในตาบลเช่นการเขียนรายงาน SAR
ทาง กศน.อาเภอเมืองพังงา การสอบถามและติดตามการนาไปใช้ในการดารงชีวิตเรียงจากความสาเร็จในการ
เรยี นรแู้ ละการนาไปใช้

1. นายหยนั วารศี รี นาความรจู้ ากการเรียนรู้กบั วิทยากรไปใชใ้ น
ชีวิตประจาวันและเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ปูทะเลบ้านท่าไร่
ดาเนินการร่วมกันทางานงานเป็นทีมและเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนและ
ตน้ แบบของจังหวัด และร่วมเปน็ วิทยากรบรรยายใหก้ บั ผู้เขา้ เรียนรู้

2. นายส้าแหล้หมัน วาหะรักษ์ ร่วมกันทางานเป็นทีมและเป็น
แหลง่ เรียนรู้ของชุมชนและตน้ แบบของจงั หวัด

3. นายอภิชาต มะลิวัลย์ ร่วมกันทางานเป็นทีมงานกลุ่มอนุรักษ์
ปทู ะเลและเปน็ แหลง่ เรียนร้ขู องชุมชนและตน้ แบบของจงั หวัด

4. นางสุกัญญา วาหะรักษ์ เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ปู
ทะเลและเป็นแหลง่ เรียนร้ขู องชุมชนและตน้ แบบของจังหวัดในนามหมู่ที่ 8
บ้านบางพัฒน์

5. นางสุพี สุพรส เช่ือมโยงเป็นเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ปูทะเล และเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนและ
ตน้ แบบของจงั หวดั ในนามหมู่ท่ี 6 บ้านกลาง

6. นางกาญจนา วาหะรกั ษ์ เช่ือมโยงเป็นเครือข่ายกล่มุ อนุรกั ษป์ ูทะเลและเป็นแหล่งเรยี นรู้ของชุมชน
และตน้ แบบของจังหวดั ในนามหมู่ที่ 6 บา้ นกลาง

7.นายด้าหนี่ หาผล เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ปูทะเลและเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนและ
ต้นแบบของจงั หวดั ในนามหมู่ท่ี 9 บา้ นกลาง เป็นประธานกลุ่ม

ตลอดถึงตาบลรอบขา้ งทีม่ า เรียนรู้กลับไปปฏิบัติเข้าร่วมเปน็ เครือข่ายระดับอาเภอ

3.6 มีการประพฤติตนเป็นที่ยอมรับของคน ในชุมชน นายสุโบ๊ะ วาหะรักษ์ มีการประพฤติ

ตนเป็นท่ียอมรับของคน ในชุมชน มีตาแน่งประธานชุมชน หมู่ท่ี 5 บ้านเกาะเค่ียมและมีการดาเนินชีวิตตาม
หลักการศาสนาอิสลามปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของสังคม การอยู่ร่วมกันสังคม สมาชิกทุกคนจะต้อง
ปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของชมุ ชน รวมถึงต้องมีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด รับฟังความ
คิดเห็นของผู้อ่ืน เป็นหัวใจความเป็นผู้นา ในการอยู่ร่วมกันย่อมต้องมีการทากิจกรรมร่วมกัน บางคร้ังอาจจะ
ต้องมีการปรึกษาหารือ มีการระดมความคิด ซ่ึงย่อมมีความคิดเห็นที่แตกตา่ งกัน ดงั นั้นสมาชิกในสังคมจะต้อง
เป็นคนท่ีรบั ฟงั ความคิดเห็นของผอู้ นื่ ทีม่ เี หตุผลดีกวา่ ประนีประนอมกันในความคิด ไม่ยดึ ถอื ความคดิ ของ

ตนเองถูกต้องสมอไป เป็นคนมีเหตุผล ในการตัดสินใจทา หน้า ๑๕
กิจกรรมการงานใดๆ ก็ตาม จะต้องรู้จักใช้ ความคิด
วิเคราะห์อย่างมีเหตผุ ล เพ่ือส่งผลให้งานนั้นมีประสิทธิภาพ
และยอมรับมติของเสียงส่วนใหญ่ เมื่อมีความขัดแย้งกันใน

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบ้านดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา

การดาเนินกิจกรรมอันเกิด จากความคิดเห็นแตกต่างกันและจาเป็นต้องตัดสินปัญหาด้วยเสียงข้างมากน้ัน ถ้า
มติส่วนใหญ่ว่าอย่างไรถึงแม้วา่ ไม่ตรงกับความคดิ เหน็ ของตนเอง แตเ่ ราก็ตอ้ งปฏิบัติตาม มีสว่ นรว่ มในกิจกรรม
ส่วนรวม ในสังคมประชาธิปไตยนั้นจะมีการรวมกลุ่มกันทา กิจกรรมต่างๆ ซ่ึงมีทั้งกลุ่มเล็กๆ จนกระทั่งสังคม
ใหญ่ๆ ระดับประเทศ สังคมประชาธิปไตยจึงต้องศึกษาหาความรู้และทางปฏิบัตทิ ่ีถูกต้อง เพือ่ เข้าไปมีส่วนร่วม
ในกจิ กรรมกลุ่มในระดบั ตา่ งๆ การร่วมกิจกรรมบาเพญ็ ประโยชนแ์ กส่ ังคม กิจกรรมอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติ
และส่ิงแวดล้อม กิจกรรมสืบสานภูมิปัญญาท้องถ่ิน ต่างๆเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม การอยู่น่วมกันในสังคม
ประชาธิปไตยน้ัน ในบางคร้ัง สมาชิกในสังคมต้องเสียสละผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม เป็น
การสง่ ผลต่อความมัน่ คงกา้ วหนา้ ของสังคม
ผลงานที่ประสบความสาเรจ็

มีผลงานเด่นที่เป็นประโยชน์ต่อผู้รับบรกิ าร ชุมชนและสังคม นายสุโบ๊ะ วาหะรกั ษ์ มีผลงานเด่นท่ี
เป็นประโยชน์ต่อผู้รับบริการ ชุมชนและสังคม เป็นบุคคลต้นแบบในมีการใช้แนวปฏิบัติท่ีเป็นเลิศในการดู
รักษา และฟื้นฟูป่าชายเลน การเพาะพันธุ์ปูทะเล (ปูดา) ปล่อยคืนธรรมชาติเพื่อเพ่ิมประชากรปูและอนุรักษ์
พันธุ์ปูทะเล โดยร่วมกับชุมชนมีการนอ้ มนาปรชั ญาของเศรษฐกจิ มาใช้ ผนวกกับการแสวงหาเครือข่ายอนุรักษ์
ฟืน้ ฟู ปา่ ชายเลนท่ีเป็นรูปธรรมได้รับรางวัล ทสม.ดีเด่น ระดับจังหวัดพังงา ประจาปีพุทธศักราช 2563 ใน
วันที่ 4 ธันวาคม 2563 รางวัลนี้ให้ไว้สาหรับอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมหมู่บ้าน
(ทสม.คือ บคุ คลในท้องถนิ่ หรือ หมู่บ้าน หรือชมุ ชนที่มี
ค ว า ม ส น ใ จ มี ก า ร แ ส ว ง ห า ค ว า ม รู้ แ ล ะ
ประสบการณ์ มีความเสียสละ และอุทิศตัวในการ
ทางานด้านการอนุรักษ์ สงวน คุ้มครอง และฟื้นฟู
ท รัพ ย าก รธรรม ชาติ แ ล ะ สิ่ งแ วด ล้ อ ม ใน ท้ อ งถ่ิ น ข อ ง
ตนเองอย่างยง่ั ยืน ทสม. มีบทบาทสาคัญใน
ฐานะผู้นาการเปล่ียนแปลงด้านการบริหารจัดการ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมแบบบูรณาการ การเฝ้าระวังปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดล้อม รวมทั้งมีกระบวนการสร้างจิตสานึกในการอนุรักษ์และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม
ให้กับประชาชนและกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต่อเน่ือง เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของหวงแหน บารุงรักษา
ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมในทอ้ งถ่นิ ตนเองใหค้ งอย่ใู นสภาพสมบูรณ์ได้อยา่ งยง่ั ยนื

ทสม. เป็นยุทธศาสตร์ท่ีสาคัญท่ียึดคนเป็นศูนย์กลางในการพฒั นาการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ
สิ่งแวดล้อมของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ที่เป็นรูปแบบให้ประชาชนมีส่วนร่วมในลักษณะ
การเป็นตัวแทน ผู้นาและเป็นผู้ประสานงานระหว่างประชาชนและทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเป็น
เจ้าของ และได้รับผลประโยชน์ร่วมกันในลักษณะการบริหารจัดการในรูปแบบคณะกรรมการ และมีการ
เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย เช่ือมโยงกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของคนในสังคม เช่ือมโยงการทางานด้านการ
บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ระหว่างระดับนโยบาย และระดับชุมชน อันจะนาไปสู่การ
บริหารจัดการและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยมีปรัชญาพ้ืนฐาน
ในการดาเนนิ การ คอื

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบา้ นดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๑๖

1. การดาเนินการทอี่ ยู่บนพ้ืนฐานความตอ้ งการจากชมุ ชน
2. ชมุ ชนต้องมีสว่ นร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาตทิ ุกขนั้ ตอน
3. ชุมชนมีความรสู้ ึกเป็นเจา้ ของ
4. เพิม่ มลู คา่ ทางเศรษฐกจิ จากการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของชุมชน
5. ยดึ หลกั ธรรมาภิบาลในการดาเนนิ งาน
การส่งเสริมให้มี “ อาสาสมัครพทิ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน “ หรือ “ทสม.” จึง
เป็นอีกแนวทางหน่ึงท่ีเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการสงวน ฟ้ืนฟู อนุรักษ์ และใช้
ประโยชนท์ รัพยากรธรรมชาติของชุมชน
เป็นผู้สาเร็จการสรา้ งแหล่งเรยี นรูใ้ นชุมชนการสร้างและพัฒนาชมุ ชนแห่งการเรยี นรู้ เป็นการจัดให้มี
การศึกษาท่ีเกื้อหนุนให้บุคคลใน ชุมชนสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดชีวิต โดยการกระจายโอกาสทาง
การศึกษาให้ทั่วถึง ภายใต้ส่ิงที่มีอยู่ในสังคมรอบ ๆ ตัว ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต เช่น จากประสบการณ์ของ
วทิ ยากรหรือ ปราชญ์ชาวบา้ น จากแปลงสาธติ บ้านปูดา โดยมงุ่ หวังให้เกดิ การเรยี นรู้จากประสบการณ์ จริง ใน
ลักษณะของการศึกษานอกระบบหรือการศึกษาอย่างไม่เป็นทางการ ที่ไม่เน้นการเรียนรู้ เฉพาะในห้องเรียน
ดังนั้นการสร้างแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายในชุมชนจึงเป็นอีกส่ิงหน่ึงที่จะก่อ ประโยชน์ต่อกระบวนการเรียนรู้ที่
ในสถาบันการศึกษาได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้เพื่อดาเนิน กิจกรรมต่าง ๆ ท่ีก่อให้เกิดการเรียนรู่ร่วมกัน
และก่อให้เกดิ การจารึกขอ้ มลู ชุมชนทเี่ ปน็ ระบบดว้ ย เชน่
1. ใช้เป็นแหล่งคน้ คว้าหาความรเู้ พ่ิมเตมิ ทงั้ ท่มี ีในตาราเรยี นและท่ีไมม่ ใี นตาราเรยี น
2. ใช้เป็นสถานที่ในการจดั การเรียนการสอน การฝกึ อบรม
3. ใช้เป็นสถานที่พบปะ แลกเปล่ียนความรู้ ประสบการณ์ ความคดิ เหน็
4. ใช้เปน็ แหลง่ สถานที่ศึกษาดงู าน ฝกึ ฝนอาชพี
5. ใช้เป็นส่ือเรียนรู้ ส่ือประกอบการเรียนการสอนที่มีมิติ มีชีวิต เช่น ร่องรอยประวัติศาสตร์
นิเวศวทิ ยา สตั วต์ ่าง ๆ ท่มี ีอยใู่ นชุมชน
6. ใช้เป็นสถานท่ีถ่ายทอดความรู้ ข้อมูล ข่าวสารท่ัว ๆ ไป รวมท้ังเป็นสถานท่ี ประชาสัมพนั ธ์เผยแพร่
หรอื แจง้ ขอ้ มูลทต่ี ้องการสอ่ื ไปถงึ คนในชุมชน
7. ใช้เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม โบราณสถาน
โบราณวตั ถุ ฯลฯ ไมใ่ ห้ลบเลือนสาหรับสืบตอ่ ไปยังชนรนุ่ หลัง
8. ใช้เป็นศูนย์กลางในการดาเนินกิจกรรมอื่น ๆ อาทิ เป็นศูนย์จาหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นจุด
รวบรวมผลผลติ พื้นท่รี วมกลุม่ ทากจิ กรรม

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบา้ นดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๑๗

ผู้จดั ทา

ท่ปี รึกษา ครชู านาญการพเิ ศษรกั ษาการในตาแหน่ง
1. นายตรยั วค์ ณุ สขุ ประเสรฐิ ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอเมืองพงั งา
ครูชานาญการพเิ ศษ
2. นางสาลี สถิรวกิ รานต์ ครผู ูช้ ว่ ย
3. นางสาวนินุรอสั รนี า สาเมาะ นักวิชาการศกึ ษา
4. นางสาวฤทยั นติ ย์ นจิ ผล
คณะผูจ้ ัดทา ครู กศน.ตาบลบางเตย
1. นายศริ ิศักดิ์ เทพณรงค์

ภมู ิปัญญา/ปราชญช์ าวบ้านดีเด่นประจาปี 2564 กศน.อาเภอเมืองพงั งา หน้า ๑๘