The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอนวิชา vet micro ส่วนของเชื้อรา ซึ่งใช้ประกอบการสอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ปีการศึกษา 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by venachupia, 2020-05-17 10:55:40

กิณวิทยาทางสัตวแพทย์

เอกสารประกอบการสอนวิชา vet micro ส่วนของเชื้อรา ซึ่งใช้ประกอบการสอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ปีการศึกษา 2563

Keywords: เชื้อรา สัตวแพทย์ สัตว์

ขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางตงั/ แต่ 2-20 ไมครอน รปู รา่ งรี หรอื กลม มผี นงั สเี ขม้ มกี ารแตกหน่อ (budding) แบบ
ฐานแคบ (narrow bases)

การเพาะแยกเชอ/ื ราสามารถทาํ ไดโ้ ดยเพาะเลย/ี งในอาหาร Saubouraud dextrose agar (SDA) ท:ี
อุณหภมู ิ 30 องศาเซลเซยี ส พบโคโลนีเลก็ ๆ ผวิ หน้าโคง้ ผวิ อาจทบึ หรอื มลี กั ษณะคลา้ ยเมอื ก (dull to
mucoid) ผวิ หน้าเรยี บ สคี รมี ถงึ น/ําตาล อาจทาํ การยนื ยนั โดยการเพาะบนอาหาร cornmeal agar, การสรา้ ง
เอนไซม์ urease การใช้ nitrate และการสรา้ งรงควตั ถุสนี /ําตาลบนอาหาร Niger seed agar เป็นตน้

การป้องกนั และควบคมุ
อาจใชย้ าในกลมุ่ azole ในการรกั ษาโรค cryptococcosis และในกรณที เ:ี กดิ การแพรข่ องเชอ/ื ทวั:
รา่ งกายควรใชย้ า amphotericin B ในการรกั ษา โดยการรกั ษาตอ้ งทาํ อยา่ งต่อเน:ืองอยา่ งน้อย 1-2 เดอื น
นบั ตงั/ แต่อาการของโรคลดลง แต่ถา้ ในกรณที ส:ี ตั วเ์ ป็น cryptococcal rhinitis นนั/ การรกั ษามกั ไมค่ อ่ ยสาํ เรจ็
การพยากรณ์โรคจะดถี า้ สตั วไ์ ดร้ บั การรกั ษาในชว่ งตน้ ของการตดิ เชอ/ื

Histoplasmosis

โรค histoplasmosis เป็นโรคทเ:ี กดิ จากการตดิ เชอ/ื รา H. capsulatum ซง:ึ เป็น dimorphic fungus
การตดิ เชอ/ื มกั ทาํ ใหเ้ กดิ วกิ ารทผ:ี วิ หนงั และกระดกู มากกวา่ เกดิ วกิ ารในระบบทางเดนิ หายใจ เชอ/ื ชนิดน/ีอยู่
ใน phylum Ascomycota, class Ascomycetes, order Onygenales, family Onygenaceae เชอ/ื น/ีมี 3
varities ซง:ึ ไดแ้ ก่H. capsulatum var. capsulatum, H. capsulatum var. duboisii และ H. capsulatum var.
farciminosum โดยเชอ/ื H. capsulatum var. capsulatum มกั ทาํ ใหเ้ กดิ โรค histoplasmosis บอ่ ยทส:ี ดุ แต่
อกี 2 ชนิดกท็ าํ ใหเ้ กดิ โรคในสตั วไ์ ด้ เชน่ H. capsulatum var. duboisii ก่อใหเ้ กดิ African histoplasmosis
ซง:ึ จาํ กดั อยใู่ นทวปี แอฟรกิ าเทา่ นนั/ ซง:ึ แสดงอาการทผ:ี วิ หนงั และกระดกู มากกวา่ ทป:ี อด สว่ น H.
capsulatum var. farciminosum นนั/ ทาํ ใหเ้ กดิ subcutaneous mycosis epizootic lymphangitis ในมา้ และ
ลอ่

เชอ/ื เจรญิ ไดด้ ใี นสภาวะทม:ี คี วามชน/ื สงู ในดนิ ทม:ี สี ารไนโตรเจนสงู โดยเฉพาะในดนิ ทม:ี กี าร
ปนเป/ือนของอุจจารระของนกหรอื คา้ งคาว การพบเชอ/ื ในดนิ ทอ:ี ยใู่ นกรงไก่ ดนิ ทม:ี าจากกรงของสตั วป์ ีก
หรอื ดนิ บรเิ วณคอนของนก starling ในการศกึ ษาวจิ ยั พบวา่ เชอ/ื เจรญิ ไดด้ โี ดยเฉพาะในทร:ี ม่ ไมถ่ กู แสง มี
รายงานการเกดิ โรคในอเมรกิ า ซง:ึ มปี ระชากรนก starling ปรมิ าณมาก ไดแ้ ก่ Tennessee, Mississippi,
Ohio, Missouri และ St. Lawrence อยา่ งไรกต็ ามมรี ายงานโรคน/ีอยทู่ วั: โลก โดยเชอ/ื สามารถตดิ ต่อกนั ได้
จากการหายใจ และการกนิ microconidia ของเชอ/ื

โรคน/ีเป็นโรคตดิ เชอ/ื ทป:ี อดทพ:ี บไดบ้ อ่ ยในคน ประมาณ 95% ของคนทต:ี ดิ เชอ/ื เป็นโรคแบบไม่
แสดงอาการ หรอื ภมู คิ มุ้ กนั ของรา่ งกายคนสามารถกาํ จดั เชอ/ื น/ีไดเ้ อง สว่ นอกี ประมาณ 5% เกดิ โรคแบบ
แสดงอาการ ซง:ึ มกั พบในผปู้ ่วยทภ:ี มู คิ มุ้ กนั บกพรอ่ ง แต่กส็ ามารถพบโรคน/ีในคนปกตทิ เ:ี คยมภี มู คิ มุ้ กนั ต่อ
เชอ/ื น/ีอยู่ หรอื คนปกตทิ ส:ี มั ผสั กบั เชอ/ื เป็นปรมิ าณมากได้

สนุ ขั เป็นสตั วท์ ไ:ี วต่อโรคน/ีมากกวา่ สตั วเ์ ลย/ี งชนิดอน:ื ๆ โดยเฉพาะสนุ ขั อายนุ ้อย ทเ:ี ลย/ี งนอกบา้ น
และสนุ ขั สายพนั ธุ์ sporting breed โดยการเกดิ โรคมกั พบเป็น 3 แบบ ไดแ้ กก่ ารเกดิ โรคทร:ี ะบบทางเดนิ
หายใจ (เกดิ การตดิ เชอ/ื ทป:ี อด) การตดิ เชอ/ื ทวั: รา่ งกาย (disseminated disease)ซง:ึ มผี ลทาํ ใหเ้ กดิ การตดิ
เชอ/ื ในหลายๆอวยั วะ และการตดิ เชอ/ื แบบไมแ่ สดงอาการชดั เจนนกั ซง:ึ สตั วส์ ว่ นใหญ่ทต:ี ดิ เชอ/ื มกั ไมแ่ สดง

45

อาการแต่ถา้ แสดงอาการแลว้ อาจเป็นตงั/ แต่เป็นโรคระบบทางเดนิ หายใจแบบออ่ นๆจนถงึ การแสดงอาการ
ทางแบบรนุ แรงทวั: รา่ งกาย อาการทแ:ี สดงออก ไดแ้ ก่ การไอ หายใจลาํ บาก เบอ:ื อาหาร ซมึ การเกดิ แผล
หลุมทป:ี าก และเน/ือเยอ:ื ทโ:ี พรงจมกู สว่ นหน้า ทอ้ งมาน โลหติ จาง lymphandenopathy thrombocytopenia
มไี ข้ และทอ้ งเสยี เป็นตน้ อวยั วะทม:ี กั ไดร้ บั ผลกระทบไดแ้ ก่ ระบบทางเดนิ อาหาร ผวิ หนงั ระบบทอ่
น/ําเหลอื ง ระบบประสาทสว่ นกลาง ไขกระดกู ตา ตบั และมา้ ม

ไมค่ อ่ ยพบโรคน/ีในแมว แต่ไดม้ กี ารศกึ ษาวจิ ยั พบวา่ 44% ของแมวทอ:ี ยใู่ นพน/ื ทท:ี เ:ี คยมกี าร
ระบาดของโรคมยี สี ตอ์ ยใู่ นเน/ือเยอ:ื ของสตั วไ์ ด้ โดยแมวทเ:ี ป็นโรคแสดงอาการน/ําหนกั ลด ผอมแหง้ และมไี ข้
ขน/ึ ๆลงๆ แมวสว่ นน้อยทต:ี ดิ เชอ/ื แลว้ แสดงอาการทางระบบทางเดนิ หายใจ

พยาธิกาํ เนิดของโรค
สตั วไ์ ดร้ บั ระยะตดิ เชอ/ื ของเชอ/ื ราชนิดน/ี นนั: คอื microconidia โดยอาจไดร้ บั ทางการหายใจหรอื
การกนิ หลงั จากนนั/ สว่ นของ microconidia จะมกี ารเปลย:ี นแปลงรปู รา่ งในเน/ือเยอ:ื ของโฮสต์ กลายเป็นยสี ต์
เน:ืองจากอุณหภมู ขิ องรา่ งกายทเ:ี พมิ: ขน/ึ นนั: เอง หลงั จากนนั/ ยสี ตถ์ กู จบั กนิ โดยเซลลเ์ มด็ เลอื ดขาว
(macrophages) เชอ/ื ไมถ่ กู ทาํ ลายแต่มกี ารเพมิ: จาํ นวนของเขอ/ื ในเซลลเ์ มด็ เลอื ดขาว ถา้ ภมู คิ มุ้ กนั ของ
รา่ งกายไมส่ ามารถทาํ ลายเชอ/ื ไดจ้ ะเกดิ การตดิ เชอ/ื ทวั: รา่ งกายโดยผา่ นกระแสเลอื ดและระบบทอ่ น/ําเหลอื ง
เชอ/ื สามารถกอ่ โรคไดใ้ นสตั วน์ นั/ อาจเป็นเพราะการทเ:ี ชอ/ื มี virulence factors ไดแ้ ก่ การทเ:ี ชอ/ื
สามารถเปลย:ี นแปลงตวั เองจาก mold เป็น yeast (dimorphism) ซง:ึ ทาํ ใหเ้ ชอ/ื สามารถดาํ รงชพี อยใู่ น
รา่ งกายของสตั วแ์ ละเพมิ: จาํ นวนต่อไปได้ นอกจากน/ีเชอ/ื ยงั มกี ารสรา้ ง melanin ซง:ึ ทาํ ใหเ้ ซลลเ์ มด็ เลอื ดขาว
ไมส่ ามารถเขา้ จบั กนิ และทาํ ลายเชอ/ื ได้ นอกจากน/ีเชอ/ื ยงั สามารถทนอยใู่ นรา่ งกายของสตั วไ์ ด(้ เน:ืองจาก
เปลย:ี นเป็นยสี ตแ์ ลว้ )

การวินิ จฉัยโรค
ทาํ ไดโ้ ดยการเพาะแยกเชอ/ื รา(fungal isolation) การทดสอบโดยใชเ้ ทคนิกทางอนูชวี ทิ ยา
(molecular biotechnology) การวเิ คราะหเ์ ซลล(์ cytology and histopathology) และการทดสอบทางซรี มั:
วทิ ยา(serological test)
การเพาะเลย/ี งเชอ/ื ราตอ้ งเลย/ี งในทอ:ี ุณหภมู ติ :าํ กวา่ 35 องศาเซลเซยี สในอาหารเลย/ี งเชอ/ื รา
ธรรมดา หรอื ทม:ี ี cycloheximide (เน:ืองจากเชอ/ื ชนิดน/ีสามารถเจรญิ ไดใ้ นอาหารทม:ี ี cycloheximide) เชอ/ื
เจรญิ คอ่ นขา้ งชา้ โคโลนีของเชอ/ื ทอ:ี ายุ 14 วนั มสี ขี าว ต่อมามสี นี /ําตาล ลกั ษณะผวิ เน/ือเป็นแบบ granular
หรอื อาจเป็นแบบ cottony สว่ นลกั ษณะของเชอ/ื ภายใตก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์พบวา่ เป็นสายราใส และมผี นงั กนั/
macroconidia มลี กั ษณะกลม ผนงั หนา และผนงั มลี กั ษณะเป็นตุ่มยน:ื ออกมา(fingerlike projection) สว่ น
microconidia กลม และเป็นเซลลเ์ ดย:ี วๆ
สามารถยนื ยนั วา่ เชอ/ื ราชนิดน/ีเป็น dimorphic fungus ไดโ้ ดยนําเชอ/ื รามาเลย/ี งทอ:ี ุณหภมู สิ งู กวา่
หรอื เทา่ กบั 37 องศาเซลเซยี ส ในสภาวะทค:ี วามชน/ื สงู มกี ๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ และอาหารทใ:ี ชเ้ ลย/ี งเชอ/ื
ราตอ้ งมเี ลอื ดเป็นองคป์ ระกอบ โดยพบเชอ/ื เปลย:ี นแปลงเป็นยสี ตข์ นาดเลก็ เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางประมาณ 2-4
ไมโครเมตร รปู รา่ งรแี ละมฐี านแคบ(narrow based) เชอ/ื ชนิดน/ีเป็นเชอ/ื อนั ตรายสามารถตดิ และทาํ ใหเ้ กดิ
โรคในคนไดค้ วรทาํ การเพาะเลย/ี งในหลอดอาหารเลย/ี งเชอ/ื และทาํ การเพาะเชอ/ื ในตเู้ พาะเชอ/ื ไดม้ าตรฐาน
(biological safety cabinet)

46

การป้องกนั และควบคมุ
เราสามารถรกั ษาโรคทเ:ี กดิ จากการตดิ เชอ/ื ชนิดน/ีไดโ้ ดยการใชย้ า itraconazole ซง:ึ เป็น drug of
choice ของเชอ/ื ชนิดน/ี แต่ยาชนิดอน:ื ๆในกลมุ่ azole กส็ ามารถใชร้ กั ษาโรคน/ีได้ การควบคมุ และป้องกนั
สามารถทาํ ไดโ้ ดยการควบคมุ สงิ: แวดลอ้ มเพอ:ื กาํ จดั เชอ/ื เชน่ การพน่ น/ํายาฆา่ เชอ/ื ดนิ บรเิ วณกรงนก หรอื
บรเิ วณทส:ี งสยั วา่ เสย:ี งต่อการสะสมของเชอ/ื ซง:ึ น/ํายาฆา่ เชอ/ื ทใ:ี ชไ้ ดค้ อื 3% formaline หรอื อาจใช้ 5%
phenol กไ็ ด้ ควบคกู่ บั การกาํ จดั อุจจาระ หรอื สงิ: ขบั ถ่ายของนก รวมทงั/ กาํ จดั คอนไมท้ ใ:ี ชเ้ ลย/ี งนก starling

47

Opportunistic mycoses

Opportunistic mycoses เป็นโรคของการตดิ เชอ/ื ราฉวยโอกาส ซง:ึ โดยปกตแิ ลว้ เชอ/ื ราในกลมุ่ น/ี
ไมใ่ ชเ่ ชอ/ื ราก่อโรค พบไดป้ กตใิ นสงิ: แวดลอ้ มทวั: ไป การก่อโรคสว่ นใหญ่ไมค่ อ่ ยรนุ แรงนกั มกั ไมท่ าํ ใหส้ ตั ว์
เกดิ การตดิ เชอ/ื และเป็นโรคไดง้ า่ ย แต่ถา้ ในสตั วท์ ม:ี คี วามบกพรอ่ งทางภมู คิ มุ้ กนั ไดร้ บั การรกั ษาดว้ ยยา
ปฏชิ วี นะเป็นเวลานาน สตั วอ์ ยใู่ นภาวะเครยี ด การเกดิ การฉกี ขาดของเน/ือเยอ:ื ผวิ หนงั หรอื สภาวะ
รา่ งกายออ่ นแอ เชอ/ื ราเหลา่ น/ีจะฉวยโอกาสกอ่ โรคได้ โดยเชอ/ื ราทม:ี กั พบในสตั วไ์ ดแ้ ก่ Candida spp.,
Aspergillus spp. และสมาชกิ ในชนั/ Zygomycetes ซง:ึ ไดแ้ ก่ Rhizopus spp., Mucor spp., Rhizomucor
spp., Abseidia spp.,Conidiobolus spp. และ Basidiobolus spp. เป็นตน้

Candidiasis

Candidiasis เป็นโรคตดิ เชอ/ื ราทเ:ี กดิ จากเชอ/ื Candida spp. เชอ/ื น/ีอยใู่ นวงศ์ Cryptococcaceae
(order Cryptococcales, class Deuteromycetes) ในจนี สั น/ีมสี มาชกิ มากกวา่ 200 สปีชสี ์ สบื พนั ธโุ์ ดยการ
แตกหน่อ(budding) และสรา้ ง chlamydospore อาจพบการสรา้ งสายราเทยี ม (pseudohyphae) ในบางสปี
ชสี ์ เชอ/ื ในจนี สั น/ีไมส่ ามารถสรา้ ง acetic acid, ballistoconicia หรอื arthrospore และไมม่ กี ารสรา้ งรงค
วตั ถุสแี ดงหรอื สม้ พบเชอ/ื น/ีไดป้ กตใิ นทางเดนิ อาหาร ทางเดนิ หายใจสว่ นตน้ เยอ:ื บุระบบสบื พนั ธุ์ และมกั
ทาํ ใหเ้ กดิ การตดิ เชอ/ื ทผ:ี วิ หนงั และเยอ:ื บุ แต่อยา่ งไรกต็ ามเชอ/ื น/ีสามารถรกุ รานเขา้ ตดิ เชอ/ื ในอวยั วะอน:ื ๆ
ของรา่ งกายไดเ้ ชน่ กนั การทผ:ี วิ หนงั บอบช/าํ หรอื เป็นแผล หรอื การไดร้ บั การรกั ษาโดยใชย้ าปฏชิ วี นะ การ
อกั เสบ โรคทท:ี าํ ใหภ้ มู คิ มุ้ กนั โรคลดลง หรอื การรกั ษาโดยใชย้ า glucocorticoid มกั ทาํ ใหย้ สี ตช์ นิดน/ีเจรญิ
ไดม้ ากกวา่ ปกตเิ กนิ กวา่ ทก:ี ลไกการป้องกนั ของรา่ งกายจะทดั ทานได้ และก่อโรคไดใ้ นทส:ี ดุ

ในคนมกั เกดิ การตดิ เชอ/ื ไดจ้ ากการทร:ี า่ งกายมภี าวะออ่ นแอ มกั พบโรคน/ีในผปู้ ่วยเอดส์ ผปู้ ่วยท:ี
ไดร้ บั การฉดี ยาเขา้ เสน้ เลอื ดบอ่ ยๆ ซง:ึ ทาํ ใหเ้ กดิ การตดิ เชอ/ื และอกั เสบของเยอ:ื บุกลา้ มเน/ือหวั ในดา้ นใน
(endocarditis) ตามมา และการไดร้ บั สง:ิ แปลกปลอม เชน่ การใชส้ ายสวน (catheters) อาจทาํ ใหเ้ กดิ การ
เพม:ิ จาํ นวนของเชอ/ื ไดใ้ นบรเิ วณทใ:ี ช้ และเป็นสาเหตุโน้มนําทาํ ใหเ้ กดิ การตดิ เชอ/ื ตามมาได้

ไดใ้ นสนุ ขั และแมวพบ cutaneous candidiasis แต่ไมค่ อ่ ยบอ่ ยนกั โดยการตดิ เชอ/ื มกั มสี าเหตุมา
จาก C. albicans, C. parapsilosis และ C. guilliermondii โดยเกดิ การลอกของผวิ หนงั บรเิ วณ จมกู ขา
หนีบ อณั ฑะ เทา้ เป็นตน้ อาจพบการอกั เสบของต่อมไขมนั บรเิ วณรขู มุ ขน (seborrhea) การคนั อยา่ ง
รนุ แรง และขนรว่ งได้ โดยมกั พบรว่ มกบั การอกั เสบของหชู นั/ นอก(otitis externa) ในแมวพบวา่ เชอ/ื ทาํ ให้
เกดิ การตดิ เชอ/ื ทผ:ี วิ หนงั ไดแ้ ตไ่ มบ่ อ่ ย โดยอาจพบการตดิ เชอ/ื แบบเฉพาะทบ:ี างบรเิ วณหรอื เป็นทวั: รา่ งกาย
ได้ แมวทต:ี ดิ เชอ/ื สว่ นใหญ่มกั เกดิ รว่ มกบั ภาวะเมด็ เลอื ดขาวในรา่ งกายต:าํ (panleukopenia) และภาวะ
ภมู คิ มุ้ กนั บก่ พรอ่ งทเ:ี กดิ จากเชอ/ื ไวรสั

การตดิ เชอ/ื ราทก:ี ระเพาะพกั ในสตั วป์ ีกมกั เกดิ จากเชอ/ื C. albicans โดยมกั เกดิ การตดิ เชอ/ื ราชนิด
น/ีไดใ้ นนกหลายชนิด โดยอาจเกดิ การตดิ เชอ/ื บรเิ วณกระเพาะพกั ปาก หลอดอาหาร กระเพาะแท้ และกน´ึ
ได้ โดยวกิ ารทม:ี กั พบไดแ้ กก่ ารเกดิ รอยคราบขาว(white plaques) หรอื อาจเกดิ แผลหลมุ ในชนั/ superficial
(superficial ulcers) ไดห้ ลงั จากทค:ี ราบขาวๆหลดุ ออกไปแลว้ พบวา่ อตั ราการตายสงู ในลกู นก และโรคน/ี
มกั เกดิ ในสตั วท์ ม:ี ภี าวะออ่ นแอ เชน่ เป็นโรคตดิ เชอ/ื intestinal coccidiosis หรอื การเลย/ี งทไ:ี มถ่ กู สขุ ลกั ษณะ
และโรงเรอื นทม:ี สี ตั วห์ นาแน่นจาํ นวนมากเกนิ ไป เป็นตน้

48

ในสกุ รมกั พบวา่ เกดิ จากเชอ/ื C. albicans และมกั เกดิ รว่ มกนั การมภี าวะเครยี ด ภมู คิ มุ้ กนั ถกู กด
และโรงเรอื นทไ:ี มถ่ กู สขุ ลกั ษณะ โรคมกั เกดิ กบั ผวิ หนงั ทงั/ ชนั/ cutaneous และ mucocutaneous โดยจะ
พบวา่ ผวิ หนงั มวี กิ ารเป็นวงและปกคลุมดว้ ยน/ําเหนียวๆ สเี ทาทไ:ี หลซมึ ออกมาจากวกิ ารนนั/ (exudates)
และนอกจากน/ีสกุ รอาจแสดงอาการขนรว่ งรว่ มดว้ ย ถา้ สกุ รเป็นโรคน/ีแบบเรอ/ื รงั พบผวิ หนงั เหย:ี วยน่ และ
หนาตวั ขน/ึ สว่ นวกิ ารท:ี mucocutaneous คลา้ ยกบั ทเ:ี กดิ ในสตั วป์ ีก โดยพบวา่ เกดิ pseudomembranous
formation

พยาธิกาํ เนิดของโรค
ปัจจยั โน้มนําทท:ี าํ ใหส้ ตั วเ์ กดิ โรคไดแ้ ก่ ภาวะทภ:ี มู คิ มุ้ กนั ถกู กดเป็นเวลานาน ภาวะทเ:ี มด็ เลอื ด
ขาวชนิดนิวโทรฟิลดล์ ดลง(neutropenia)ซง:ึ เป็นผลมาจากการรกั ษาทางเคม(ี chemotherapy) ภาวะ
โรคเบาหวาน การรกั ษาดว้ ย glucocorticoid เป็นเวลานาน และการรกั ษาดว้ ยยาปฏชิ วี นะเป็นเวลานาน
เป็นตน้ ทาํ ใหเ้ กดิ การสรา้ งอาณาณคิ ม และเพมิ: จาํ นวนอยบู่ รเิ วณเยอ:ื บุของรา่ งกาย(epitheliam)
โดยเฉพาะบรเิ วณเยอ:ื บุของผวิ หนงั ทม:ี กี ารฉกี ขาด ซง:ึ เชอ/ื สามารถกอ่ โรคไดโ้ ดยเฉพาะสตั วท์ ภ:ี มู คิ มุ้ กนั ถกู
กด แต่ในสตั วท์ ม:ี ภี มู คิ มุ้ กนั ต่อตวั เชอ/ื กส็ ามารถกอ่ โรคไดเ้ ชน่ กนั โดยเชอ/ื จะเกาะกบั ผวิ เยอ:ื บุ เซลลข์ องผนงั
หลอดเลอื ด และรกุ รานเยอ:ื บุผวิ หนงั (superficial)และเยอ:ื เมอื ก(mucous membrane) โดยปัจจยั ทก:ี ่อ
ความรนุ แรงของตวั เชอ/ื ไดแ้ ก่ความสามารถของเชอ/ื ในการเกาะตดิ กบั epithelial และ endothelial cells
การสรา้ ง extracellular enzyme และ phenotypic switching เป็นตน้
การวินิ จฉัยโรค
การเพาะแยกเชอ/ื จากสง:ิ สง่ ตรวจไมส่ ามารถใชใ้ นการยนื ยนั ไดว้ า่ เชอ/ื สาเหตุคอื Candida spp.
แต่จะตอ้ งพบยสี ตท์ งั/ ในสง:ิ สง่ ตรวจทม:ี วี กิ าร และในเน/ือเยอ:ื จากการตรวจโดยพยาธวิ ทิ ยา (histological
evaluation)
เชอ/ื Candida spp. เป็นเชอ/ื ทเ:ี จรญิ ไดง้ า่ ย และรวดเรว็ ไมไ่ ดต้ อ้ งการอาหารพเิ ศษใดๆ ในอาหาร
เลย/ี งเชอ/ื ราธรรมดาเชน่ Sabouraud dextrose agar หรอื Potato dextrose agar เลย/ี งทอ:ี ุณหภมู ิ 25-30
องศาเซลเซยี ส เชอ/ื ราชนิดน/ีกส็ ามารถเจรญิ ไดด้ ี ใหย้ สี ตโ์ คโลนีทม:ี สี คี รมี ขาว ขนุ่ และคอ่ นขา้ งกลมภายใน
2-3 วนั yeast identification ใชล้ กั ษณะภายใตก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์ชว่ ยในการวนิ ิจฉยั โดยดลู กั ษณะของเชอ/ื ท:ี
เจรญิ บนอาหารชนิด cornmeal-Tween agar ซง:ึ เชอ/ื สรา้ งรงควตั ถุ การสรา้ ง germ tube นอกจากน/ีอาจใช้
คณุ สมบตั ขิ องยสี ตเ์ ชน่ การสรา้ งเอนไซม์ urease และการหมกั carbohydrate ในการวนิ ิจฉยั รว่ มดว้ ย
การแยกเชอ/ื C. albicans ออกจากเชอ/ื Candida spp. ทาํ ไดโ้ ดยการทดสอบการสรา้ ง germ
tube (germ tube test) ซง:ึ วธิ กี ารทดสอบคอื การนําเชอ/ื ไปใสใ่ นหลอดทดลองทม:ี ซี รี มั: ของสตั ว(์ animal
serum) และบม่ เพาะทอ:ี ุณหภมู ิ 37 องศาเซลเซยี สเป็นระยะเวลา 3 ชวั: โมง เมอ:ื นํามาสอ่ งดภู ายใตก้ ลอ้ ง
จลุ ทรรศน์จะพบวา่ มกี ารงอกของสายราสนั/ ๆ ไมม่ กี ารแบง่ หอ้ ง ไมม่ กี ารตบี แคบระหวา่ งสายราทง:ี อก
ออกมากบั เซลลย์ สี ต(์ without constrictions, at the junction of blastoconidium and germ tube) ในสาย
พนั ธทุ์ ส:ี ามารถสรา้ ง germ tube
การควบคมุ และป้องกนั
ทาํ ไดโ้ ดยการใหก้ ารจดั การสขุ ศาสตรท์ ด:ี ี โดยการกาํ จดั ปัจจยั โน้มนําใหเ้ กดิ การตดิ เชอ/ื ได้ เชน่ ใน
สตั วใ์ หญ่ทม:ี กี ารตดิ เชอ/ื ราทผ:ี วิ หนงั ควรทาํ การรกั ษาเชน่ การรกั ษาแผลใหห้ ายโดยการใชย้ าเฉพาะท:ี หรอื
การใช้ providone-iodine, copper sulfate หรอื copper naphthenate สว่ นในสตั วเ์ ลก็ มกั ใชย้ ากลมุ่
azole ซง:ึ ไดแ้ ก่ ketoconazole, miconazole, itraconazole ใหโ้ ดยการฉดี เขา้ เสน้ เลอื ด หรอื การใช้

49

เฉพาะทใ:ี นรปู ของแชมพู ซง:ึ อาจเป็น chlorhexidine และ selenium sulfide สว่ น crop mycoses ในสตั ว์
ปีกอาจทาํ การรกั ษาโดยการให้ copper sulfate ผสมในน/ําใหก้ นิ ในโรงเรอื น หรอื อาจผสม nystatin ลงใน
อาหารสตั วซ์ ง:ึ ควรทาํ อยา่ งต่อเน:ืองเป็นระยะเวลา 2 สปั ดาห์

Aspergillosis

เชอ/ื รากอ่ โรคแบบฉวยโอกาสอกี ตวั หน:ึงคอื Aspergillus spp. ซง:ึ มสี มาชกิ ถงึ 180 สปีชสี ์ อยใู่ น
phylum Ascomycota, order Eurotiales, family Trichomaceae ซง:ึ ชนิดทม:ี กั ก่อโรค Aspergillosis ใน
สตั วไ์ ดแ้ ก่ A. fumigatus, A. nidulans, A. flavus และ A. niger ซง:ึ เชอ/ื เหลา่ น/ีเป็นเชอ/ื ทพ:ี บไดท้ วั: ไปใน
สงิ: แวดลอ้ ม และสามารถพบไดใ้ นซากพชื และในดนิ

โรคน/ีจดั เป็นโรคตดิ เชอ/ื ราในคนทต:ี ดิ จากโรงพยาบาล(fungal disease requiring
hospitalization) อนั ดบั ทส:ี องรองจากโรค candidiasis ซง:ึ มกั ก่อโรคในผปู้ ่วยทม:ี ภี าวะภมู คิ มุ้ กนั ต:าํ การ
เพาะเชอ/ื ถงึ แมว้ า่ จะพบแคเ่ พยี ง 1 โคโลนีในคนกม็ คี วามสาํ คญั การเพาะเชอ/ื จากผปู้ ่วยทภ:ี มู คิ มุ้ กนั ต:าํ มกั
พบผลบวกจากหลายๆอวยั วะทส:ี ง่ ตรวจ เน:ืองจากมกี ารลุกลามของเชอ/ื ไปทวั: รา่ งกายแลว้ (invasive
aspergillosis) โดยปัจจยั เสย:ี งของการตดิ โรคน/ีไดแ้ ก่ leukemic granulocytopenia การใชย้ า
corticosteroid การใชก้ ญั ชา ภาวะเมด็ เลอื ดขาวชนิดนิวโทรฟิลดต์ :าํ หลงั จากการปลกู ถ่ายเน/ือเยอ:ื การกอ่
โรคในสตั วม์ กั ทาํ ใหเ้ กดิ mycotic pneumonia, guttural pouch mycosis, chronic rhinitis, systemic
disease, cutaneous disease, allergy, abortion, gastrointestinal aspergillosis, mastitis และ
keratomycosis

เชอ/ื ราชนิดน/ีพบไดท้ วั: ไปในสงิ: แวดลอ้ ม โดยเชอ/ื อาจมกี ารปนเป/ือนในอาหาร เจรญิ และเพมิ:
จาํ นวนไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ภายใตส้ ภาวะทม:ี คี วามชน/ื สงู และการทส:ี ตั วห์ ายใจเอาสปอรข์ องเชอ/ื เขา้ ไปอาจมผี ล
ทาํ ใหเ้ กดิ การระบาดของโรค aspergillosis โดยเฉพาะในลกู เป็ด หรอื ลกู ไก่ ทาํ ใหส้ ตั วแ์ สดงอาการ
หายใจลาํ บาก เบอ:ื อาหาร เป็นไข้ และตายอยา่ งรวดเรว็ ใน 48 ชวั: โมง อาการเรอ/ื รงั พบไดใ้ นสตั วป์ ีกทม:ี ี
อายมุ าก โดยพบอาการไอ จาม เดนิ โซเซ torticollis กระจกตาขนุ่ มวั และผอมแหง้ ได้ ใน Trachea และ
bronchi เตม็ ไปดว้ ย caseous exudate และมเี มด็ ตุ่ม (nodule) สขี าวถงึ เหลอื งในสมอง ถงึ แมว้ า่
เป้าหมายหลกั ของเชอ/ื คอื ระบบทางเดนิ หายใจแต่กอ็ าจพบอาการทร:ี ะบบอน:ื ๆไดเ้ ชน่ ผวิ หนงั อกั เสบ
(dermatitis) ลาํ ไสอ้ กั เสบ(enteritis) และสมองอกั เสบ (encephalitis) โดยมกั พบเชอQื A. fumigatus และ A.
flavus เป็นสาเหตุของโรค

ในมา้ พบวา่ เชอ/ื ทาํ ใหเ้ กดิ ลาํ ไสอ้ กั เสบ (enteritis) และทาํ ใหเ้ กดิ โรคอน:ื ๆของระบบทางเดนิ
อาหาร ซง:ึ ปัจจยั เหลา่ น/ีน่าจะมาจากการตดิ เชอ/ื ราทร:ี ะบบทางเดนิ หายใจ สตั วไ์ ดร้ บั เชอ/ื จากการหายใจเอา
สปอรข์ องเชอ/ื ในอาหารเขา้ ไป พบการตดิ เขอ/ื ราท:ี guttural pouch (auditory tube diverticulum) ไดไ้ ม่
บอ่ ยนกั ในมา้ พบการอกั เสบแบบมเี น/ือตายและมกี ารสรา้ ง diphtheritic membrane ใน pouch อาการทม:ี กั
พบไดแ้ ก่ epistaxis, dysphagia, parotid pain, abnormal head position และ unilateral mucopurulent
nasal discharge. เมอ:ื สอ่ งตรวจดว้ ย กลอ้ ง endoscopeดใู น guttural pouch จะพบ white diphtheritic
membrane การแพรก่ ระจายของเชอ/ื ไปยงั อวยั วะต่างๆทวั: รา่ งกาย(systemic or disseminated
aspergillosis) สามารถพบไดใ้ นมา้

ในสนุ ขั เชอ/ื มกั ทาํ ใหเ้ กดิ การอกั เสบของเยอ:ื บุโพรงจมกู canine rhinitis หรอื nasal
aspergillosis ซง:ึ มกั เกดิ ในสนุ ขั ทส:ี ขุ ภาพแขง็ แรง อายนุ ้อย สนุ ขั พนั ธหุ์ น้ายาว และยาวปานกลาง
(dolichocephalic และ mesaticephalic breeds) โดย A. fumigatus มกั เป็นสาเหตุของการเกดิ โรคในสนุ ขั

50

สตั วท์ เ:ี ป็นโรคแสดงอาการ จาม มนี /ํามกู ไหล และไมต่ อบสนองต่อการรกั ษาดว้ ยยาปฏชิ วี นะ อาจมกี ารตดิ
เชอ/ื ลามเขา้ ไปยงั paranasal sinuses และ nasal cavity อาจมกี ารทาํ ลาย turbinate bones และลกุ ลาม
เขา้ ไปยงั สมอง การแพรก่ ระจายของเชอ/ื ไปยงั อวยั วะต่างๆในสนุ ขั พบไดน้ ้อยแต่กส็ ามารถพบได้
โดยเฉพาะในสนุ ขั พนั ธุ์ German shepherds Cutaneous aspergillosis กพ็ บไดใ้ นสนุ ขั แต่พบไดน้ ้อย
โดยเชอ/ื สาเหตุมกั เป็น A. niger และ A. terreus ซง:ึ มกั เป็นผลมาจากการตดิ เชอ/ื ทวั: รา่ งกาย หรอื อาจเกดิ
จากผวิ หนงั มกี ารบาดเจบ็ หรอื บอบช/าํ

เชอ/ื มกั กอ่ ใหเ้ กดิ การอกั เสบตดิ เชอ/ื ของกระเพาะอาหาร (mycotic gastritis) ในสตั วเ์ คย/ี วเออ/ื ง
(เชอ/ื สาเหตุมกั เป็นเชอ/ื รากลมุ่ Aspergillus spp. และกลมุ่ Zygomycetes โดยเฉพาะในลกู โค กระเพาะ
rumen หยดุ การเคลอ:ื นไหว มผี ลทาํ ใหอ้ ุจจาระมลี กั ษณะเหมอื นแป้งเปียก หลวมๆ ไมเ่ ป็นกอ้ นเหมอื น
อุจจาระปกติ

นอกจากน/ีแลว้ เชอ/ื ยงั สามารถทาํ ใหเ้ กดิ การแทง้ ลกู ในโคกระบอื และมา้ ได้ โดยวกิ ารทพ:ี บมกั เกดิ
ทร:ี ก(placenta) ซง:ึ พบลกั ษณะเน/ือตายทวั: ไป และพบมกี ารเจรญิ ของเชอ/ื ราบรเิ วณ cotyledons เชอ/ื ราอาจ
มกี ารลุกลามมายงั ตวั ลกู ได้ โดยจะเหน็ เป็นวกิ ารคลา้ ยกลาก(ring worm) ซง:ึ เป็นโคโลนีของเชอ/ื รา ขน/ึ ท:ี
ผวิ หนงั ของตวั ลกู (fetus) และมกั พบเชอ/ื A. fumigatus เป็นสาเหตุของการแทง้

สตั วห์ รอื นกทม:ี สี ขุ ภาพแขง็ แรงสามารถทนต่อการสมั ผสั สปอรข์ องเชอ/ื เขา้ ไปไดใ้ นธรรมชาติ
พยาธิกาํ เนิดของโรค
การหายใจเอาสปอรข์ องเชอ/ื จาํ นวนมากเขา้ ไป หรอื การไดร้ บั อาหารทม:ี สี ปอรข์ องเชอ/ื อยเู่ ป็น
จาํ นวนมากทาํ ใหส้ ตั วต์ ดิ เชอ/ื ได้ โดยสปอรข์ องเชอ/ื มขี นาดพอเหมาะทจ:ี ะฝังตวั อยใู่ นถุงลม กลไกการ
ตอบสนองต่อตวั เชอ/ื เพอ:ื ป้องกนั host จากเชอ/ื นนั/ ยงั ไมเ่ ป็นทส:ี รปุ อยา่ งชดั เจน แต่พบวา่ มปี ัจจยั ทท:ี าํ ใหเ้ ชอ/ื
มคี วามสามารถในการก่อโรคในสตั วไ์ ด้ เชน่ ความสามารถของเชอ/ื ในการสรา้ งเอนไซม์ elastase ซง:ึ ทาํ ให้
เชอ/ื สามารถทาํ ลายเน/ือเยอ:ื ปอดได้ โดยการทาํ ลายระบบการป้องกนั เชอ/ื ในปอด และทาํ ใหเ้ ชอ/ื สามารถ
รกุ รานไปยงั ระบบอน:ื ๆของรา่ งกายได้ ไดม้ กี ารวจิ ยั พบวา่ เชอ/ื Aspergillus spp. ทไ:ี มม่ กี ารสรา้ ง elastase
นนั/ กอ่ โรคไมร่ นุ แรงในหนูทดลอง นอกจากน/ียงั มเี อนไซม์ fibrinolytic enzyme และ anticoagulative ทม:ี ี
สว่ นชว่ ยทาํ ใหต้ วั เชอ/ื มคี วามสามารถในการจบั กบั ผนงั หลอดเลอื ดไดด้ ยี ง:ิ ขน/ึ
การวินิ จฉัยโรค
การวนิ ิจฉยั โรคควรทาํ ดว้ ยความระมดั ระวงั เน:ืองจากเชอ/ื ชนิดน/ีพบไดท้ วั: ไปในสง:ิ แวดลอ้ ม ใน
ธรรมชาติ ดงั นนั/ จงึ เป็นไปไดว้ า่ อาจทาํ ใหเ้ กดิ การปนเป/ือนในระหวา่ งการเพาะเชอ/ื ซง:ึ พบวา่ เชอ/ื ชนิดน/ีทาํ
ใหเ้ กดิ การปนเป/ือนไดเ้ ป็นประจาํ และในสตั วป์ กตกิ ส็ ามารถพบเชอ/ื น/ีไดใ้ นระบบทางเดนิ หายใจสว่ นตน้
ดงั นนั/ จงึ ไมส่ ามารถสรปุ ไดว้ า่ เชอ/ื สาเหตุของการตดิ เชอ/ื ทวั: รา่ งกายนนั/ เกดิ จากเชอ/ื น/ีไดจ้ ากการเพาะเชอ/ื
ซง:ึ การเพาะเชอ/ื ควรทาํ ซ/าํ หลายๆครงั/ และควรทาํ wet mount หรอื histopathology รว่ มดว้ ยทกุ ครงั/
การทาํ wet mount ทาํ ไดโ้ ดยการนําตวั อยา่ งมายอ่ ยโดยใช้ potassium hydroxide(KOH) และ
นําตวั อยา่ งไปสอ่ งดผู า่ นกลอ้ งจลุ ทรรศน์จะพบสายราใสแบบมผี นงั กนั (septate hyaline hyphae) ขนาด
กวา้ งประมาณ 3-6 ไมโครเมตร dichotomous branching คอื มกี ารแตกกง:ิ กา้ นสาขาแบบ 2 ขา้ งเทา่ กนั
ซง:ึ รายละเอยี ดของเชอ/ื เมอ:ื เพาะในอาหารเลย/ี งเชอ/ื ราไดก้ ลา่ วไปแลว้ ในบทท:ี 2 เรอ:ื งเชอ/ื ราปนเป/ือน
การป้องกนั และควบคมุ
ทาํ ไดโ้ ดยการจดั การสงิ: แวดลอ้ มใหถ้ กู สขุ ลกั ษณะ(โดยเฉพาะในสตั วป์ ีก) และการจดั การการ
เลย/ี งทถ:ี กู ตอ้ ง เชน่ การทาํ ความสะอาดคอก กรง หรอื เลา้ ทกุ วนั ทาํ ความสะอาดรางใหอ้ าหารและรางน/ํา

51

โดยใชน้ /ํายาฆา่ เชอ/ื เพอ:ื ป้องกนั การสรา้ งอาณานิคมของเชอ/ื ราบรเิ วณดงั กลา่ ว ลดประมาณฝ่นุ ทอ:ี ยใู่ น
โรงเรอื นโดยการเพม:ิ ระบบระบายอากาศเพอ:ื ลดอุบตั กิ ารณ์การเกดิ โรค พน่ น/ํายาฆา่ เชอ/ื ทพ:ี น/ื โดยเฉพาะ
บรเิ วณรางอาหารและรางน/ําโดยใช้ bleach หรอื copper sulfate solution ใสย่ าตา้ นเชอ/ื ราเชน่ nystatin
ในอาหาร เพอ:ื ป้องกนั การเกดิ โรคในชว่ งทม:ี กี ารระบาด

การพยากรณ์โรคคอ่ นขา้ งไมด่ ี สตั วม์ กั ตาย โดยเฉพาะสตั วท์ ป:ี ่วยระยะสดุ ทา้ ย แต่ถา้ พบโรค
ตงั/ แต่เรมิ: แรกของการตดิ เชอ/ื และดาํ เนินการรกั ษาในชว่ งตน้ สตั วอ์ าจหายจากโรคได้ itraconazole ให้
ประสทิ ธภิ าพดใี นการรกั ษา ถงึ แมต้ อ้ งใชร้ ะยะเวลานาน (3-4 เดอื น) การรกั ษาโรคในสนุ ขั ทเ:ี ป็น nasal
aspergillosis คอ่ นขา้ งยาก การรกั ษามกั ใชย้ าตา้ นเชอ/ื รารว่ มกบั การผา่ ตดั

Zygomycosis

Zygomycosis เป็นโรคตดิ เชอ/ื ราฉวยโอกาสทเ:ี กดิ จากเชอ/ื ราใน class Zygomycetes ซง:ึ อยใู่ น
phylum Zygomycota โดยเชอ/ื ราทอ:ี ยใู่ นกลุม่ น/ีมสี ายราทม:ี ขี นาดใหญ่ เป็นสายราใส และไมม่ ผี นงั กนั/ หอ้ ง
(broad, nonseptate, hyaline hyphae) ใน class น/ีประกอบดว้ ย 6 order, 29 families, 120 genera และ
ประมาณ 800 species

โรค zygomycosis เป็นโรคตดิ เชอ/ื ราทม:ี กั ทาํ ใหเ้ กดิ granulomatous disease ซง:ึ เกดิ จากสมาชกิ
ใน 2 order ไดแ้ ก่ Mucorales และ Entomophthorales โดยเชอ/ื เหลา่ น/ีเป็นสาเหตุก่อโรคตดิ เชอ/ื ราไดท้ งั/ ใน
มนุษยแ์ ละสตั ว์ โดยทาํ ใหเ้ กดิ โรคทผ:ี วิ หนงั ปอด ระบบทางเดนิ อาหาร และอาจเกดิ การแพรข่ องเชอ/ื ทวั:
รา่ งกายและทาํ ใหเ้ กดิ การแทง้ ลกู ได้ เชอ/ื กอ่ โรคคอ่ นขา้ งรนุ แรง โรคตดิ เชอ/ื น/ีพบไดใ้ นมา้ สนุ ขั โคกระบอื
แกะ แพะ สกุ ร สตั วป์ ีก ลงิ กระต่าย มงิ ค์ สตั วฟ์ ันแทะ แมวน/ํา ปลา สตั วเ์ ลอ/ื ยคลาน และสตั วค์ รง:ึ บกครง:ึ
น/ํา เป็นตน้

พบเชอ/ื เหลา่ น/ีไดม้ ากมายในสงิ: แวดลอ้ มทวั: ไป ตามซากพชื สตั วท์ เ:ี น่าเป:ือย และพบสปอรข์ อง
เชอ/ื มากมายในอากาศ เชอ/ื เจรญิ ไดด้ ใี นอาหารทม:ี นี /ําตาลและไนโตรเจนสงู เพอ:ื ใชใ้ นการสรา้ งเซลลส์ บื พนั ธุ์
ทงั/ แบบอาศยั เพศ และไมอ่ าศยั เพศ สว่ นของ asexual phase เรยี กวา่ sporangiospores อยใู่ น
sporangium สว่ นของ sexual spore เรยี กวา่ zygospores นนั/ มขี นาดใหญ่ ผนงั หนา ดงั ทไ:ี ดเ้ คยกลา่ วไว้
แลว้ ในบทท:ี 1

Mucorales

ประกอบดว้ ย 13 families โดย families ทม:ี กั ก่อโรคในคนและสตั ว์ ไดแ้ ก่ Mucoraceae,
Mortierellaceae, Cunninghamellaceae, Saksenaceae, Syncephalastraceae และ Thamnidiaceae
ซง:ึ family Mucoraceae นนั/ มกั ก่อใหเ้ กดิ โรคในคน และสตั วบ์ อ่ ยทส:ี ดุ จงึ ไดใ้ ชค้ าํ วา่ mucormycosis
สาํ หรบั โรคทเ:ี กดิ จากการการตดิ เชอ/ื ราใน order น/ี

พบเชอ/ื ไดท้ วั: ไปในสงิ: แวดลอ้ ม ทงั/ ในดนิ ฟาง ธญั พชื และอุจจาระสตั ว์ โดยสตั วท์ ต:ี ดิ เชอ/ื อาจเกดิ
วกิ ารทผ:ี วิ หนงั แทง้ ลกู เกดิ การตดิ เชอ/ื ในระบบทางเดนิ อาหาร เกดิ โรคเตา้ นมอกั เสบ ปอดอกั เสบ และอาจ
เกดิ การแพรก่ ระจายของเชอ/ื ทวั: รา่ งกายและเกดิ วกิ ารไดใ้ นอวยั วะต่างๆ

โดยเชอ/ื ทม:ี กั ก่อใหเ้ กดิ โรคไดแ้ ก่ Rhizopus spp., Mucor spp, Rhizomucor spp. และ Abseidia
spp. การกอ่ โรคในสตั วเ์ คย/ี วเออ/ื งเชอ/ื อาจทาํ ใหเ้ กดิ การแทง้ ลกู และรกอกั เสบในแมส่ ตั วท์ ก:ี าํ ลงั ตอ้ งทอ้ ง
และมกั ทาํ ใหเ้ กดิ แผลหลุมในกระเพาะแท้ (abomasal ulcers) โดยเฉพาะในสตั วเ์ คย/ี วเออ/ื งทไ:ี ดร้ บั อาหาร

52

ขน้ ผสมยาปฏชิ วี นะ เมอ:ื ผา่ ซากพบวกิ ารของเน/ือตายเป็นวงและมรี อยเลอื ดรอบเน/ือตาย และพบการเจรญิ
ของเชอ/ื ราบรเิ วณทม:ี วี กิ าร

ในสกุ รเชอ/ื มกั ทาํ ใหเ้ กดิ แผลหลุมทก:ี ระเพาะอาหาร (gastric ulcer) ไมค่ อ่ ยพบการเกดิ โรคน/ีใน
สนุ ขั และแมว แต่อาจทาํ ใหเ้ กดิ โรคในระบบทางเดนิ อาหารได้ โดยเฉพาะในสตั วท์ อ:ี อ่ นแอ เชน่ การทล:ี าํ ไสม้ ี
การบอบช/าํ หรอื เป็นแผล (intestinal trauma) โรคทท:ี าํ ใหร้ ะบบภมู คิ มุ้ กนั ต:าํ เชน่ feline leukemia หรอื
panleukopenia, diabetes, malnutrition หรอื การใชย้ าทท:ี าํ ใหร้ ะบบภมู คิ มุ้ กนั ต:าํ เชน่ steroids หรอื
antibiotic สตั วแ์ สดงอาการอาเจยี น และทอ้ งเสยี ได้ โดยถา้ เป็นแบบเรอ/ื รงั พบวกิ ารเน/ือตายทผ:ี นงั ของ
ลาํ ไส้ และอาจเกดิ การตดิ เชอ/ื ในชอ่ งทอ้ ง และการอุดตนั ของลาํ ไสไ้ ด้ เป็นตน้

พยาธิกาํ เนิดของโรค
อาศยั การทร:ี ะบบภมู คิ มุ้ กนั ของรา่ งกายสตั วต์ :าํ ลง การทเ:ี ชอ/ื สามารถกอ่ ใหเ้ กดิ การแพรก่ ระจาย
ของโรคทวั: รา่ งกายไดเ้ น:ืองจากความสามารถของเชอ/ื ในการรกุ รานและเขา้ ไปยงั กระแสโลหติ ไดอ้ ยา่ ง
รวดเรว็ เชอ/ื แต่ละชนิดสามารถก่อความรนุ แรงไดเ้ ชน่ เชอ/ื Rhizopus spp., Rhizomucor spp. และ
Absidia spp. สามารถมชี วี ติ อยไู่ ดใ้ นทอ:ี ุณหภมู สิ งู (thermotolerant ) ซง:ึ ทาํ ใหเ้ ชอ/ื สามารถเจรญิ ใน
รา่ งกายได้ Rhizopus spp. สามารถสรา้ งเอนไซม์ ketone reductase ทาํ ใหเ้ ชอ/ื สามารถเจรญิ ในสภาวะท:ี
เป็นกรดและสภาวะทป:ี รมิ าณน/ําตาลกลโู คลสงู ไดด้ ี โดยเชอ/ื สามารถเจรญิ เพม:ิ จาํ นวนไดอ้ ยา่ งรวดเรว็
เอนไซม์ proteases และ lipases สามารถทาํ ใหเ้ ชอ/ื เพม:ิ จาํ นวน และรกุ รานเขา้ เน/ือเยอ:ื ของสตั วไ์ ดอ้ ยา่ ง
รวดเรว็ Absidia spp. ยงั สามารถสรา้ ง siderophores ซง:ึ เป็น iron scarvenging และ keratinase ซง:ึ ทาํ ให้
เชอ/ื บุกรกุ เขา้ ไปในผวิ หนงั ทม:ี บี าดแผลไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ เป็นตน้
เชอ/ื สามารถเขา้ ไปในรา่ งกายสตั วไ์ ดห้ ลายทางไดแ้ ก่ การปนเป/ือนของสปอรใ์ นบาดแผลหรอื
ผวิ หนงั ทบ:ี อบชา/ํ ซง:ึ อาจทาํ ใหเ้ กดิ โรคบรเิ วณผวิ หนงั การกนิ อาหารทม:ี กี ารปนเป/ือนของเชอ/ื รา ทาํ ใหเ้ กดิ
การตดิ เชอ/ื ทร:ี ะบบทางเดนิ อาหาร การหายใจเอาสปอรข์ องเชอ/ื เขา้ ไปเป็นจาํ นวนมาก กอ่ ใหเ้ กดิ การตดิ
เชอ/ื ทป:ี อด และการเกดิ การแทง้ ลกู ของสตั วเ์ ป็นผลเน:ืองมาจากการแพรก่ ระจายของเชอ/ื ในกระแสโลหติ
เป็นตน้
การวินิ จฉัยโรค
คลา้ ยกบั การวนิ ิจฉยั ชอ/ื ราก่อโรคฉวยโอกาสอน:ื ตอ้ งมกี ารเพาะแยกเชอ/ื ซ/าํ จากตวั อยา่ งทม:ี กี าร
ตดิ เชอ/ื รา โดยเชอ/ื เหลา่ น/ีเจรญิ เรว็ ในอาหารเลย/ี งเชอ/ื ราธรรมดา ทไ:ี มไ่ ดเ้ ตมิ cycloheximide โดยเชอ/ื จะขน/ึ
ไดง้ า่ ย โคโลนีสเี ทา ฟูคลา้ ยขนสตั วเ์ ตม็ จานอาหารเลย/ี งเชอ/ื โดยใชเ้ วลาประมาณ 2-3 วนั โดยความ
แตกต่างของแต่ละจนี สั ใชก้ ารพบ และตาํ แหน่งของ rhizoid แต่การจาํ แนกระดบั สปีชสี น์ นั/ คอ่ นขา้ งยาก
การป้องกนั และควบคมุ
ทาํ ไดค้ อ่ นขา้ งยาก ตอ้ งอาศยั การจดั การเปลย:ี นแปลงสง:ิ แวดลอ้ มเพอ:ื ใหส้ ตั วส์ มั ผสั เชอ/ื เหลา่ น/ีให้
น้อยทส:ี ดุ จากการหายใจเอาสปอรข์ องเชอ/ื เขา้ ไป อาจทาํ ไดโ้ ดยการเพมิ: การระบายอากาศของโรงเรอื น
หรอื จากการกนิ สปอรข์ องเชอ/ื เหลา่ น/ี ทป:ี นเป/ือนมากบั หญา้ ฟาง ธญั พชื หรอื อาหารหยาบอน:ื ๆกอ็ าจทาํ ให้
สตั วต์ ดิ เชอ/ื เหลา่ น/ีได้ การควบคมุ ปัจจยั เสยี งเหลา่ น/ีจะมคี วามสาํ คญั ต่อความสาํ เรจ็ ในการป้องกนั และ
ควบคมุ การสมั ผสั กบั เชอ/ื เหลา่ น/ี การรกั ษาโรคและการทาํ ศลั ยกรรมกม็ คี วามจาํ เป็นในการควบคมุ การ
แพรก่ ระจายของเชอ/ื Amphotericin B เป็นยาตา้ นเชอ/ื ราทใ:ี หผ้ ลเป็นทน:ี ่าพอใจเมอ:ื ทดสอบกบั เชอ/ื เหล่าน/ี
ในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร

53

Entomorphthorales

คาํ วา่ Entomorphthorales มาจากคาํ วา่ entomon เป็นภาษากรกี แปลวา่ แมลง เน:ืองจากเชอ/ื ใน
order น/ึมกั กอ่ ใหเ้ กดิ โรคในสตั วข์ าปลอ้ ง สตั วเ์ ลอ/ื ยคลาน และสตั วค์ รง:ึ บกครง:ึ น/ํา ทาํ ใหเ้ กดิ โรคตดิ เชอ/ื ราท:ี
เรยี กวา่ entomophthoromycoses ซง:ึ ทาํ ใหเ้ กดิ โรคกบั ผวิ หนงั ชนั/ ในและเยอ:ื บุโพรงจมกู ซง:ึ แบง่ ออกเป็น 2
จนี สั ไดแ้ ก่ Conidiobolus spp. และ Basidiobolus spp.

Conidiobolus spp.

เชอ/ื ในกลุม่ น/ีพบไดใ้ นดนิ และในซากพชื ทเ:ี น่าเป:ือย ยงั พบเชอ/ื เหลา่ น/ีในอุจจาระของสตั ว์
เลอื ดเยน็ และจากแมลงได้ พบเชอ/ื ราชนิดน/ี ไดท้ วั: ไปทวั: โลก และมกั พบมากในบรเิ วณทม:ี อี ากาศรอ้ น เชน่
ประเทศอนิ เดยี ออสเตรเลยี อเมรกิ ากลาง บราซลิ โคลมั เบยี เป็นตน้ การกอ่ โรคของเชอ/ื ชนิดน/ีพบไดน้ ้อย
ในสตั วเ์ ลย/ี งลกู ดว้ ยนม (ในมา้ พบบอ่ ยทส:ี ดุ ) ในคนมกั ทาํ ใหเ้ กดิ โรคเกย:ี วกบั เยอ:ื บุโพรงจมกู ทาํ ใหเ้ กดิ ตงิ:
เน/ือยน:ื ออกมาในโพรงจมกู อาจทาํ ใหร้ ะบบทางเดนิ หายใจเกดิ การอุดตนั ได้

การตดิ เชอ/ื ทเ:ี กดิ จาก Conidiobolus spp. เรยี กวา่ conidiobolomycosis โดยเชอ/ื ทม:ี กั ก่อโรคไดแ้ ก่
C. coronata, C. incongruus และ C. lamprauges มกั พบโรคน/ีใน มา้ , mules, สนุ ขั , แกะ, กวาง, ลงิ และ
aquatic mammals ถา้ สตั วเ์ หลา่ น/ีตดิ เชอ/ื อาจทาํ ใหเ้ กดิ chronic sinusitis โดยพบกอ้ นเน/ือบรเิ วณเยอ:ื บุ
โพรงจมกู (subcutaneous mass on nasal mucosal surfaces)

โดยมา้ เป็นสตั วท์ พ:ี บโรคน/ีไดบ้ อ่ ยทส:ี ดุ โดย equine conidiobolomycosis มรี ปู แบบการเกดิ คลา้ ย
กบั rhinophycomycosis ซง:ึ เป็นการตดิ เชอ/ื และทาํ ใหเ้ กดิ ตุ่มหนองท:ี nasal mucosa สตั วแ์ สดงอาการ
น/ํามกู ไหล (nasal discharge), มเี ลอื ดกาํ เดา (epitaxis) และหายใจลาํ บาก (dyspnea) นอกจากน/ีอาจทาํ ให้
เกดิ การตดิ เชอ/ื ท:ี sinuses, larynx หรอื pharynx และพบตุ่มเน/ือทบ:ี รเิ วณโพรงจมกู สว่ นหน้า รจู มกู และ
soft palate และทาํ ใหก้ ารกนิ และการหายใจมอี ุปสรรคได้

พยาธิกาํ เนิดของโรค
การตดิ เชอ/ื เรมิ: การการหายใจเอาสปอรข์ องเชอ/ื หรอื แมลงตวั เลก็ ทม:ี เี ชอ/ื เกาะอยเู่ ขา้ ไปทางระบบ
ทางเดนิ หายใจ หรอื การเกดิ รอยบอบชา/ํ ของผวิ หนงั ทถ:ี กู แมลงกดั ถงึ แมว้ า่ ในตอนนนั/ สตั วจ์ ะมสี ขุ ภาพดกี ็
ตาม เชอ/ื ชนิดน/ีไมค่ อ่ ยมคี วามรนุ แรงนกั จงึ ไมค่ อ่ ยกอ่ โรคในสตั วเ์ ทา่ ใดนกั virulecne factor ของเชอ/ื ไดแ้ ก่
การทเ:ี ชอ/ื มคี วามสามารถสรา้ งเอนไซมท์ ส:ี ามารถทาํ ลายเน/ือเยอ:ื ของสตั วไ์ ด้ เชน่ proteases, lipase และ
collagenase และความสามารถดาํ รงชวี ติ อยใู่ นสภาวะทอ:ี ุณหภมู สิ งู ได้ โดยเจรญิ ไดท้ อี ุณหภมู ิ 37oC
การวินิ จฉัยโรค
การวนิ ิจฉยั โรคทาํ ไดโ้ ดยการยอ้ มดจู ากตุ่มเน/ือไดโ้ ดยตรงการขดู จากตุ่มเน/ือ พบสายราทม:ี ขี นาด
คอ่ นขา้ งใหญ่ และการเพาะแยกเชอ/ื จากตุ่มเน/ือ หรอื โดยการตดั ชน/ิ เน/ือมายอ้ มสเี พอ:ื ตรวจหาสว่ นของเชอ/ื
ราทเ:ี ป็นสาเหตุของโรคพบสายราทม:ี ขี นาดใหญ่
เชอ/ื สามารถเจรญิ ไดร้ วดเรว็ บนอาหารเลย/ี งเชอ/ื ราธรรมดา เชน่ SDA หรอื PDA เจรญิ เตม็ ทท:ี :ี 48
ชวั: โมงทอ:ี ุณหภมู ิ 25 องศาเซลเซยี ส เรมิ: แรกโคโลนีของเชอ/ื มสี ขี าว ต่อมาเมอ:ื อายมุ าขน/ึ จะคอ่ ยๆ
เปลย:ี นเป็นสเี ทา โคโลนีแบน มนั วาว หรอื แผค่ ลา้ ยหนงั สตั ว์ เมอ:ื แก่ขน/ึ โคโลนียน่ ผวิ เน/ือคลา้ ยแป้ง
(powdery) สแี ทน หรอื สนี /ําตาล และสรา้ ง arial hyphae ขน/ึ ไปดา้ นบน ดา้ นใตโ้ คโลนีมสี ขี าว เมอ:ื ดลู กั ษณะ
ของเชอ/ื ภายใตก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์ พบสายราขนาดใหญ่ ไมค่ อ่ ยเหน็ ผนงั กนั/ หอ้ ง ผนงั ของสายราคอ่ นขา้ ง
refractile, sporangiophore ไมม่ กี ารแตกสาขา และขนาดเลก็ ลงจนถงึ ปลายยอด

54

การควบคมุ และป้องกนั
ทาํ ไดค้ อ่ นขา้ งยาก เน:ืองจากเชอ/ื อยใู่ นสงิ: แวดลอ้ มทวั: ไป การรกั ษาการตดิ เชอ/ื ในมา้ ทาํ ไดโ้ ดย
การฉดี ยาตา้ นเชอ/ื ราเขา้ ไปในวกิ าร (intralesional injection) โดยใช้ amphotericin B ตามดว้ ยการรกั ษาทงั/
ระบบโดยการใช้ sodium และ potassium iodide ยาอน:ื ทใ:ี ชไ้ ดผ้ ลไดแ้ กย่ ากลมุ่ Azole และ trimethophrim-
sulfamethoxazole

Basidiobolus spp.

เชอ/ื Basidiobolus spp. มอี ยเู่ พยี งสปีชสี เ์ ดยี วเทา่ นนั/ ทก:ี ่อโรคในสตั วไ์ ดแ้ ก่ B. ranarum พบไดใ้ น
ซากพชื ทเ:ี น่าเป:ือย อุจจาระจากสตั วเ์ ลอ/ื ยคลาน สตั วค์ รง:ึ บกครง:ึ น/ําและแมลง พบเชอ/ื ในเขตรอ้ นเชน่ ทวปี
เอเชยี อเมรกิ าใต้ และแอฟรกิ า เชอ/ื ทาํ ใหเ้ กดิ โรค basidiobolomycosis โรคน/ีพบไดบ้ อ่ ยในสตั วท์ ม:ี สี ขุ ภาพ
แขง็ แรง โดยเฉพาะในมา้ และสนุ ขั

ในมา้ พบวา่ มกั เกดิ วกิ ารบรเิ วณดา้ นขา้ งลาํ ตวั ทอ้ งดา้ น ventral คอ อก และศรษี ะ พบตุ่มคนั ท:ี
บวมน/ํา(pruritic granulomatous lesion with a characteristic edematous surface)ขน/ึ บรเิ วณผวิ หนงั ท:ี
บาดเจบ็ ในสนุ ขั อาจเกดิ แผลหลุมบรเิ วณขาทม:ี ตี ุ่มขน/ึ และมกั ไมค่ อ่ ยแพรก่ ระจายไปยงั อวยั วะต่างๆทวั:
รา่ งกาย และการตดิ เชอ/ื ทร:ี ะบบทางเดนิ อาหารและระบบทางเดนิ หายใจ

พยาธิกาํ เนิดของโรค
การตดิ เชอ/ื ในสตั วอ์ าจตอ้ งทาํ การศกึ ษาต่อไปเพอ:ื ยนื ยนั ซง:ึ สตั วอ์ าจตดิ เชอ/ื ไดจ้ ากการหายใจ
การตดิ เชอ/ื บรเิ วณแผลทผ:ี วิ หนงั และการไดร้ บั เชอ/ื ราโดยการกนิ สปอรข์ องเชอ/ื ราเขา้ ไป เชน่ เดยี วกบั
Conidiobolus spp. แมลงมบี ทบาทสาํ คญั ในการตดิ เชอ/ื ราชนิดน/ี เน:ืองจากแมลงสามารถเป็นพาหะ นํา
สปอรข์ องเชอ/ื ซง:ึ ตดิ อยบู่ นตวั แมลงซง:ึ ทาํ ใหเ้ กดิ การตดิ เชอ/ื ในสตั วไ์ ด้ โดย virulence factor ของเชอ/ื รา
ชนิดน/ีเหมอื นกบั Conidiobolus spp. มากทงั/ thermotolerance และ tissue destructive enzyme
การวินิ จฉัยโรค
เหมอื นกบั conidiobolomycosis คอื ควรทาํ การสอ่ งตรวจจากสง:ิ สง่ ตรวจ หรอื จากวกิ ารโดยตรง
(direct examination) และทาํ การเพาะเชอ/ื จากตวั อยา่ งสง่ ตรวจ และผลทาง histopathology ซง:ึ จะพบเชอ/ื
ราทม:ี สี ายราขนาดใหญ่ ผนงั บาง และพบผนงั กนั/ บา้ ง แต่ไมม่ าก
เชอ/ื เจรญิ ไดด้ บี นอาหารเลย/ี งเชอ/ื ราธรรมดา เชน่ SDA หรอื PDA โดยเชอ/ื ใชเ้ วลาโตเตม็ ท:ี
ประมาณ 5 วนั โคโลนีของเชอ/ื ลกั ษณะคลา้ ยกบั Conidiobolus spp. คอื โคโลนีแบน มนั วาว และสเี ทาทบึ
เมอ:ื แกข่ น/ึ โคโลนียน่ และมกี ารสรา้ ง arial hyphae บางสายพนั ธุส์ รา้ งกลน:ิ เหมน็ อบั ลกั ษณะภายใตก้ ลอ้ ง
จลุ ทรรศน์ พบวา่ เชอ/ื มสี ายราทม:ี ขี นาดใหญ่ และอาจพบผนงั กนั/ ไดบ้ า้ ง พบเชอ/ื มกี ารสรา้ ง primary spore
เดย:ี วๆบนปลายของสายราทพ:ี องออก และไมม่ กี ารแตกแขนง
การป้องกนั และควบคมุ
ผลการรกั ษาขน/ึ กบั ความรนุ แรงและตาํ แหน่งของวกิ าร เชน่ การรกั ษา visceral
basidiobolomycosis ทาํ ไดโ้ ดยการผา่ ตดั นําสว่ นของวกิ ารออก และใชย้ าตา้ นเชอ/ื รา ซง:ึ การพยากรณ์โรค
คอ่ นขา้ งไมด่ (ี poor) สว่ นการรกั ษาโรคตดิ เชอ/ื ราชนิดน/ีทบ:ี รเิ วณผวิ หนงั มกั พบวา่ มกั ใชย้ าตา้ นเชอ/ื รากลุม่
azole, amphotericin B และ potassium iodide นนั/ ไดผ้ ลดี ซง:ึ ยาในเหลา่ น/ีใชไ้ ดผ้ ลดเี มอ:ื ทดสอบใน
หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร

55

บรรณานุกรม
- Carter GR, Veterinary v, Wise DJja, Carter GREovmALTTVb, mycology. Essentials of veterinary

bacteriology and mycology. 6th ed. Ames, Iowa: Iowa State Press; 2004.
- Deacon JW. Introduction to modern mycology. New York: Blackwell Scientific; 1980.
- Ho PL, Yuen. KY. Aspergillosis in bone marrow transplant recipients. Crit Rev Oncol Hematol.

2000;34:55-69.
- Knudtson WU, Kirkbride. CA. Fungi associated with bovine abortion in the northern plains states

(USA). J Vet Diagn Invest. 1992;4:181-5.
- Kurup VP, Banerjee. B. Fungal allergens and peptide epitopes. Peptides. 2000;21:589-99.
- McVey DS, Kennedy M, Chengappa MM. Veterinary microbiology. Iowa : Wiley-Blackwell; 2013.
- Mori T, Matsumura M, Yamada K, Irie S, Oshimi K, Suda K, et al. Systemic aspergillosis caused

by an aflatoxin-producing strain of Aspergillus flavus. Med Mycol. 1998;36:107-12.
- Pitt JI. Toxigenic fungi which are important? Med Mycol. 2000;38:17-22.
- Quinn PJ, Markey BK, Leonard FC, Hartigan P, Fanning S, Fitzpatrick ES. Veterinary microbiology

and microbial disease. West Sussex: Wiley-Blackwell; 2011.
- Schaafsma AW, Nicol RW, Savard ME, Sinha RC, Reid LM, Rottinghaus G. Analysis of Fusarium

toxins in maize and wheat using thin layer chromatography. Mycopathologia.
1998;142:107-13.
- Songer JG, Post KWja. Veterinary microbiology : bacterial and fungal agents of animal disease.
St. Louis, Mo.: Elsevier Saunders; 2005.
- Sumbali G, Johri BMe. The Fungi. Harrow, Middlesex: Alpha Science International; 2005.
- นงนุช วณติ ยธ์ นาคม, ปราโมทย์ วณติ ยธ์ นาคม. วทิ ยาเชอ/ื ราการแพทย.์ พมิ พค์ รงั/ ท:ี 2. กรงุ เทพ: พ.ี บ.ี
ฟอเรน บุ๊คส์ เซน็ เตอร;์ 2542.
- บงกชวรรณ สตุ ะพาหะ. การตรวจพสิ จู น์เชอ/ื ราก่อโรคทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร = Laboratory identification of
-pathogenic fungi. พมิ พค์ รงั/ ท:ี 1. ed. เชยี งใหม:่ หจก.ดาราวรรณการพมิ พ;์ 2550.

56

57


Click to View FlipBook Version