The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

SAR-โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนนโน ระดับปฐมวัย 65

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nongnapat Singkram, 2023-06-14 02:29:37

SAR-โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนนโน ระดับปฐมวัย 65

SAR-โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนนโน ระดับปฐมวัย 65


ข ค ำน ำ รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษาปีการศึกษา 2565 โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโนฉบับนี้ จัดท าขึ้นตามกฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ข้อ 3 ระบุให้สถานศึกษาจัดส่ง รายงานผลการประเมินตนเองให้แก่หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่ก ากับดูแลสถานศึกษาเป็นประจ าทุกปี เพื่อรายงานผลการด าเนินงานตามมาตรฐานการศึกษาที่สะท้อนผลการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ซึ่งเป็น ผลส าเร็จจากการบริหารจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาในระดับปฐมวัย 3 มาตรฐาน ได้แก่ คุณภาพของเด็ก กระบวนการบริหารและการจัดการ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นส าคัญ และระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน 3 มาตรฐานได้แก่คุณภาพของผู้เรียนกระบวนการบริหารและการจัดการกระบวนการ จัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญเพื่อน าเสนรายงานผลการจัดการศึกษาในรอบปีที่ผ่านมาต่อ หน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้รับทราบ และเตรียมความ พร้อมในการรับการประเมินภายนอก โดยส านักงานรับรองมาตรฐานการศึกษาและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ต่อไป ขอขอบคุณคณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ที่มี ส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการจัดท ารายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษาปีการศึกษา 2565 ฉบับนี้ คณะผู้จัดท าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารรายงานฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการน าไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพการศึกษาของโรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน ในปีการศึกษาต่อไป ( นายสมพงค์ ดีวันไชย ) ผู้อ านวยการโรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน 3 พฤษภาคม 2565


ค สำรบัญ เรื่อง หน้ำ ค ำน ำ ก สำรบัญ ข บทสรุปส ำหรับผู้บริหำร 1 ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของสถำนศึกษำ 5 - ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา 5 - ข้อมูลการบริหารจัดการแนวทางการจัดการศึกษา 6 - ข้อมูลผู้บริหาร ครูและบุคลากร 9 - ข้อมูลนักเรียน 10 - ข้อมูลหลักสูตรที่จัดการเรียนการสอน 10 - ข้อมูลอาคารสถานที่/ห้องเรียน 18 - ข้อมูลสภาพชุมชนโดยรวม 19 - ข้อมูลผลการประเมินพัฒนาของเด็ก 19 ส่วนที่ 2 ผลกำรประเมินตนเองของสถำนศึกษำ 22 ระดับปฐมวัย ส่วนที่3 สรุปผล และแนวทำงกำรพัฒนำ 30 ระดับปฐมวัย ภำคผนวก 40 - ประกาศใช้มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา - ประกาศค่าเป้าหมายของสถานศึกษา - ค าสั่งแต่งคณะท างาน / คณะกรรมการประเมินมาตรฐานการศึกษา - ผลงานความส าเร็จ รางวัล


4 บทสรุปส ำหรับผู้บริหำร ข้อมูลพื้นฐำน ชื่อโรงเรียน ชุมชนบ้านกลางนาโน ศูนย์เครือข่ายสถานศึกษาโพนแพง บะหว้า ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 กระทรวงศึกษาธิการ ชื่อผู้บริหำรโรงเรียน นายสมพงค์ ดีวันไชย เบอร์โทรศัพท์ 065-293-2069 E-mail : [email protected] จ ำนวนครูและบุคลำกร ผู้อ านวยการโรงเรียน จ านวน 1 คน รองผู้อ านวยการโรงเรียน จ านวน 1 คน ข้าราชการครู จ านวน 15 คน ครูอัตราจ้าง จ านวน 4 คน พี่เลี้ยงเด็กพิการ จ านวน 1 คน ธุรการโรงเรียน จ านวน 1 คน นักการภารโรง จ านวน 1 คน รวมครูและบุคลากรทั้งหมด จ านวน 24 คน จ ำนวนนักเรียน ระดับการศึกษาปฐมวัย จ านวน 83 คน ระดับประถมศึกษา จ านวน 199 คน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จ านวน 107 คน รวมนักเรียนทั้งหมด จ านวน 389 คน สรุปผลกำรประเมินตนเองมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ ระดับปฐมวัย โดยรวม 1) ระดับคุณภำพ ดีเลิศ โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 มีนักเรียนทั้ง หมด 389 คน ครูผู้สอน 24 คน จัดท ารายงานการประเมินคุณภาพตนเองของสถานศึกษา (SAR) ปีการศึกษา2565 เสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานอื่นๆผลการประเมินตนเองในภาพรวม ระดับปฐมวัยอยู่ใน ระดับดีเลิศ มีผลการด าเนินงานดังต่อไปนี้ สถานศึกษาจัดประสบการณ์ที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านได้แก่ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา เป็นผู้มีวินัยมีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ โดยมีครูประจ าชั้น ครบทุกห้อง ดูแลอย่างใกล้ชิด จัดบริการอาหารให้เด็กอย่างเพียงพอและถูกหลักโภชนาการ ครูมีการสร้าง แรงจูงใจในการบริโภคอาหารที่มีคุณค่า มีการประเมินภาวะโภชนาการเป็นประจ าทุกภาคเรียน มีการชั่ง น้ าหนักและวัดส่วนสูงเด็กภาคเรียนละ 2 ครั้ง รวมทั้งนักเรียนได้รับการปลูกจิตส านึกในเรื่องการดูแลสุขภาพ การออกก าลังกายสม่ าเสมอ รู้จักป้องกันตนเองจากโรคภัย อุบัติเหตุ และสิ่งเสพติดให้โทษ ได้รับการส่งเสริม ทักษะด้านการเคลื่อนไหวเต็มตามศักยภาพ มีการทดสอบสมรรถภาพทางกายเป็นประจ าทุกภาคเรียน สถานศึกษาจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อพัฒนาผู้เรียนทุกด้านตามศักยภาพทุกคน ตามโครงการหรือแผนงาน ในแผนปฏิบัติการ เช่น กิจกรรมการไหว้ครู กิจกรรมการแข่งขันกีฬาสีภายใน กิจกรรมวันส าคัญต่าง ๆ เป็นต้น


5 2) วิธีกำรด ำเนินงำน/วิธีกำรพัฒนำ สถานศึกษามีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ มี หลักสูตรสถานศึกษา ที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยและบริบทของ สถานศึกษา ซึ่งการจัดหลักสูตรดังกล่าว เป็นความร่วมมือทั้งครู ผู้ปกครอง และชุมชนมีครูผู้สอนที่มีวุฒิและ ความเชี่ยวชาญที่เพียงพอทุกระดับชั้น มีครูที่สอนตรงกับวิชาเอก มีสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัยเอื้อต่อการ เรียนรู้ของเด็ก พร้อมทั้งมีสื่อและเทคโนโลยีที่สนับสนุนการจัดประสบการณ์ที่ได้มาตรฐาน ผู้บริหารเปิดโอกาส ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา สถานศึกษาเน้นให้ครูจัดประสบการณ์ให้เด็กที่มีประสิทธิภาพ สามารถใช้สื่อและเทคโนโลยีที่ เหมาะสมในการกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็ก จนท าให้เด็กมีพัฒนาการทั้ง 4 ด้านเป็นไปตามเป้าหมายที่ สถานศึกษาก าหนด ครูทุกคนจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นส าคัญ เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการสมบูรณ์ครบ 4 ด้าน ครูรู้จักเด็กเป็นรายบุคคล มีการจัดกิจกรรมที่สร้างโอกาสให้เด็กทุกคนได้รับประสบการณ์ผ่านการเล่นและการ ลงมือปฏิบัติจริง ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ครูสามารถจัดบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกชั้น เรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก ครูใช้สื่อและเทคโนโลยีเพื่อกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก ครูมีการประเมินผล เด็กเป็นรายบุคคลและน าผลมาพัฒนาการจัดประสบการณ์ให้เด็กเพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่สถานศึกษาก าหนด ไว้ มำตรฐำนที่ 1 คุณภำพของเด็ก 1. ผลกำรประเมิน ระดับ ดีเลิศ 2. หลักฐำนสนับสนุน ได้แก่ เด็กระดับปฐมวัย มีน้ าหนักส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์ มีทักษะ การเคลื่อนไหวตามวัย มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพ และหลีกเลี่ยงภาวะเสี่ยงต่อโรค อุบัติเหตุ และสิ่งเสพติด เด็กประสบผลส าเร็จเป็นที่น่าพอใจ เช่น ด้านดนตรี มีการแสดงในวันแม่ วันขึ้นปีใหม่ วันเด็ก ท าให้ผู้ปกครอง ชื่นชมผลงานของลูกหลานในการกล้าแสดงออก เด็กส่วนมากมีจิตส านึกในการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม เด็กระดับปฐมวัย มีวินัยรับผิดชอบ เชื่อฟังค าสั่งสอนของพ่อแม่ ครู อาจารย์ ซื่อสัตย์สุจริต ช่วยเหลือแบ่งปัน เล่นและท างานร่วมกับผู้อื่นได้และประพฤติตนตามวัฒนธรรมไทยและศาสนาที่ตนนับถือ เด็กระดับปฐมวัย มีความสนใจเรียนรู้สิ่งรอบตัว ซักถามอย่างตั้งใจและรักการเรียนรู้ มีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดจากประสบการณ์ การเรียนรู้ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และมีจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ 3. แผนพัฒนำเพื่อให้ได้มำตรฐำนที่สูงขึ้น สถานศึกษาจัดท าโครงการเพิ่มเติม ตามความเหมาะสม โดยค านึงถึงความสามารถและความแตกต่างระหว่างบุคคล เพื่อให้เด็กได้มีการพัฒนา ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิตดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่งเสริมให้เด็กมีระเบียบวินัย อันเป็นพื้นฐานของการท ากิจกรรม อื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้เรียนรู้วัฒนธรรมไทยและศาสนาพุทธอย่างต่อเนื่องและสม่ าเสมอ ส่งเสริม ให้เด็ก ฝึกฟัง พูด ให้คล่องแคล่วและฝึกกิจกรรมการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ทั้งในและนอก ห้องเรียน พัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อย่างจริงจังต่อเนื่อง มำตรฐำนที่ 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร 1. ผลกำรประเมิน ระดับ ดีเลิศ 2. หลักฐำนสนับสนุน ได้แก่ ครูปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล รู้และเข้าใจปรัชญา หลักการและธรรมชาติของการจัดการศึกษาปฐมวัย และสามารถ น ามาประยุกต์ใช้ในการจัดประสบการณ์ จัดท าแผนการจัดประสบการณ์ที่สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษา


6 ปฐมวัยและสามารถจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย สอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างบุคคล บริหารจัดการ ชั้นเรียนที่สร้างวินัยเชิงบวก ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสม สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็ก 3. แผนพัฒนำเพื่อให้ได้มำตรฐำนที่สูงขึ้น ส่งเสริมพัฒนาครูสาขาปฐมวัยหรือที่เกี่ยวข้อง กับการดูแลส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย เข้ารับการอบรม พัฒนาความรู้ความสามารถด้านการสอน คิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ และการเก็บเอกสารสารสนเทศอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง มำตรฐำนที่ 3 กำรจัดประสบกำรณ์ที่เน้นเด็กเป็นส ำคัญ 1. ผลกำรประเมิน ระดับ ดีเลิศ 2. หลักฐำนสนับสนุน ได้แก่ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ส่งเสริมให้เด็กได้ประสบการณ์ โดยตรง จากการเรียนผ่านการเล่น โดยลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเองและการเรียนรู้รายกลุ่ม เพื่อก่อให้เกิด ความมีน้ าใจ ความสามัคคี การแบ่งปัน และการรอคอย เพื่อส่งผลให้เด็กเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีความสุข การจัดบรรยากาศในชั้นเรียนส่งเสริมความสนใจให้แก่ผู้เรียน ชั้นเรียนมีบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความเห็นอกเห็นใจ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและกัน มีห้องเรียนที่มีบรรยากาศแจ่มใส กว้างขวาง เหมาะสม มีมุมส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ มีการตกแต่งห้องเรียนให้สดใส และมีสื่อการเรียนรู้ที่เอื้อต่อ การจัดประสบการณ์การเรียนการสอน 3. แผนพัฒนำเพื่อให้ได้มำตรฐำนที่สูงขึ้น จัดอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนที่หลากหลาย พัฒนา เครื่องเล่นสนามและระบบสาธารณูปโภค จัดกิจกรรมส่งเสริมเด็กเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน จัดกิจกรรมที่เอื้อต่อ การเรียนรู้ โดยส่งเสริมให้มีการใช้สื่อการสอนและเทคโนโลยีให้เหมาะสม 3. จุดเด่น จุดที่ควรพัฒนำ และแผนกำรพัฒนำคุณภำพให้สูงขึ้น 3.1.1) มีการจัดมุมประสบการณ์อย่างน้อย 4 มุม ใช้สื่อและ เทคโนโลยี และเครือข่าย อินเตอร์เน็ตในการ ท ากิจกรรม สภาพแวดล้อมมีความปลอดภัย 3.1.2) โรงเรียนเข้าโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยแห่ง ประเทศไทยตั้งแต่ปี 2550 ถึง ปัจจุบันได้รับตรา พระราชทานคงสภาพเป็นครั้งที่ 3 ได้พัฒนาการจัดการ เรียนรู้เป็นผู้เรียนเป็นส าคัญ เน้นการ ปฏิบัติสู่เด็กนักเรียน 3.1.3) โรงเรียนประชุมผู้ปกครอง อย่างน้อย ปีละ 2 ครั้ง และใช้ไลน์กลุ่มผู้ปกครองแต่ละชั้น เพื่อติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครอง มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่เปิดโอกาสให้ ผู้เกี่ยวข้องมีส่วน ร่วม การปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อคุณภาพ มาตรฐานของสถานศึกษา 3.1.4) จัดแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เด็กได้เลือกเล่น เรียนรู้ ลงมือและสร้างองค์ความรู้ด้วย ตนเอง 3.2.จุดที่ควรพัฒนำ 3.2.1 ควรตรวจสอบ พัฒนา และปรับปรุงสื่อตามมุมประสบการณ์และสื่อในกิจกรรม กลางแจ้งที่ช ารุดและซ่อมแซมให้ใช้ในการงานได้และมีความปลอดภัยกับนักเรียน 3.2.2) ควรเพิ่มและพัฒนาสื่อที่เน้นกระบวนการ คิด ที่มีจ านวนยังไม่เพียงพอและสอดคล้อง กับ การพัฒนาเด็กมากเท่าที่ควร 3.3.3) ครูควรพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ ที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็กทั้ง 4 ด้าน ให้โดด เด่น และมีคุณภาพ สามารถเป็นนวัตกรรมหรือเป็น อย่างที่ดีของครูและของโรงเรียน


7 3.3. แผนพัฒนำเพื่อให้ได้มำตรฐำนที่สูงขึ้น แผนปฏิบัติงานที่ 1 โครงการโครงการจัดท าหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยของสถานศึกษา แผนปฏิบัติงานที่ 2 โครงการประเมินภายในสถานศึกษา แผนปฏิบัติงานที่ 3โครงการเด็กปฐมวัยสุขภาพดีถ้วนหน้า แผนปฏิบัติงานที่ 4 โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย แผนปฏิบัติงานที่ 5 โครงการปรับปรุงสนามเด็กเล่น แผนปฏิบัติงานที่ 6 โครงการศึกษาแหล่งเรียนรู้ แผนปฏิบัติงานที่ 7 โครงการเติมฝันบัณฑิตน้อย แผนปฏิบัติงานที่ 8 โครงการไหว้สวย ยิ้มง่าย แต่งกายสะอาด แผนปฏิบัติงานที่ 9 โครงการพ่อแม่เป็นครูหนูสุขใจ


8 ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของสถำนศึกษำ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของสถำนศึกษำ 1.1 ข้อมูลพื้นฐำนของสถำนศึกษำ ชื่อสถานศึกษา: โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน รหัสสถานศึกษา 1047540 ที่อยู่: หมู่ที่ 8 บ้านกลาง ต าบลโพนแพง อ าเภออากาศอ านวย จังหวัด สกลนคร รหัสไปรษณีย์47170 สังกัด: ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 โทรศัพท์: 042707379 E-Mail : [email protected] ระดับชั้นเปิดสอน: ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประวัติโรงเรียน(โดยสังเขป) โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโนเดิมมีที่ตั้งอยู่ที่ศาลาวัดบ้านกลางเป็นที่ท าการเรียนการสอน มีชื่อว่า โรงเรียนวัดบ้านกลาง โดยขุนพินิจ นาคภพ นายอ าเภอวานรนิวาส เป็นผู้ตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 14 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2481 มีนายเกิด ราชวงศ์ เป็นครูใหญ่ นายนิล น้อยค ายาง เป็นครูผู้สอน เปิดท าการสอน ตั้งแต่ชั้น ป. 1 – ป 4 ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ การขยายชั้นเรียนปีพุทธศักราช 2513 โรงเรียนได้ขอเปิดสอนชั้นประถมปลาย (ป.7)ในปีพุทธศักราช 2519 โรงเรียนได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก กระทรวงมหาดไทยจ านวน 5,000 บาท เพื่อด าเนินการโรงเรียนชุมชนเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น โรงเรียนชุมชน บ้านกลางนาโนใน ปีพุทธศักราช 2522 ได้รับงบประมาณติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียน จ านวน 6,000 บาทและในปีพุทธศักราช 2539 โรงเรียนได้รับอนุมัติเป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ปัจจุบันได้เปิดท า การสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ปีที่1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้มีผู้บริหารตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโรงเรียนจนถึง ปัจจุบันมีดังนี้ 1. นายเกิด ราชวงศ์ ครูใหญ่ พ.ศ. 2481 – 2483 2. นายทูรย์ อินตาแสง ครูใหญ่ พ.ศ. 2483 – 2488 3. นายปราณี ศิริขันธ์ ครูใหญ่ พ.ศ. 2488 – 2489 4. นายบุญเทียม ศักดิ์วิเศษ ครูใหญ่ พ.ศ. 2489 – 2491 5. นายทูรย์ อินตาแสง ครูใหญ่ พ.ศ. 2491 – 2496 6. นายสุ อุปพงศ์ ครูใหญ่ พ.ศ. 2496 – 2499 7. นายประไมย์ แก้วก่า ครูใหญ่ พ.ศ. 2499 – 2500 8. นายแสงจันทร์ เหง้าละคร ครูใหญ่ พ.ศ. 2500 – 2504 9. นายทูรย์ อินตาแสง ครูใหญ่ พ.ศ. 2504 – 2507 10. นายทองม้วน เลิศศรี ครูใหญ่ พ.ศ. 2507 – 2514 11. นายชุมพล พลมณี ครูใหญ่ พ.ศ. 2514 – 2517 12. นายแสง เพริศแก้ว ครูใหญ่ พ.ศ. 2517 – 2525 13. นายบุญเพ็ง อริยชาติ อาจารย์ใหญ่ พ.ศ. 2525 – 2540 14. นายทองรัตน์ พันธุ์ไชย ผู้อ านวยการโรงเรียน พ.ศ. 2540 – 2547 15. นายชัยวัฒน์ โลกลินไลน์ ผู้อ านวยการโรงเรียน พ.ศ. 2547 – 2555 16. นายสมพงค์ ดีวันไชย ผู้อ านวยการโรงเรียน พ.ศ. 2555 – ปัจจุบัน


9 1.2 ข้อมูลกำรบริหำรจัดกำรแนวทำงกำรจัดกำรศึกษำ ปรัชญำกำรศึกษำปฐมวัย การศึกษาปฐมวัยเป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง ๕ ปีบนพื้นฐาน การอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กแต่ละคนตาม ศักยภาพ ภายใต้บริบทของสังคม วัฒนธรรม ด้วยความรัก ความเอื้ออาทร และความเข้าใจของทุกคน เพื่อ สร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เกิดคุณค่าต่อตนเองและสังคม วิสัยทัศน์ นักเรียนมีความรู้ คู่คุณธรรม น าสู่สากล ด ารงตนแบบพอเพียง พันธกิจ ( MISSSON จัดการศึกษาปฐมวัย (3-5ปี) และการศึกษาภาคบังคับ ให้แก่ประชากรวัย เรียนอย่างทั่วถึง และมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา ดังนี้ 1. จัดการเรียนการสอนประชากรวัยเรียนในเขตบริการอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ 2. จัดการเรียนการสอนตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติโดยเน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ มุ่งฝึก ทักษะด้านการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนให้มีความรู้ตามมาตรฐานการศึกษาและเป็นไปเพื่อการศึกษาใน ระดับที่สูงขึ้น 3. จัดสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน สภาพแวดล้อมของห้องเรียน ให้เหมาะสมกับการจัด กิจกรรมการเรียนการสอนตามแนวปฏิรูปการเรียนรู้ 4. พัฒนาคุณภาพโรงเรียนให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาทั้งในด้านผู้เรียน ด้านการจัดการเรียน การสอน ด้านบริหารและการจัดการ 5. ส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้ความสามารถ มีเจตคติที่ดีต่อการปฏิบัติงาน 6. ประสานกับชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาโรงเรียนและการจัดการศึกษา 7. จัดกิจกรรมที่ท าให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม เป็นผู้มีกิริยามารยาทงดงามเหมาะสมกับวัย 8. ประสานความร่วมมือเพื่อป้องกันปัญหายาเสพติดและอบายมุข เป้ำหมำย 1. เด็กปฐมวัยทุกคนมีพัฒนาการด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา 2. ผู้เรียนร้อยละ 95 มีสุขภาวะที่ดีและมีสุนทรียภาพ 3. ผู้เรียนร้อยละ 95 มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ 4. ผู้เรียนร้อยละ 90 มีทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้ และพัฒนาตนเอง อย่างต่อเนื่อง 5. ผู้เรียนร้อยละ 85 มีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตัดสินใจแก้ปัญหา ได้อย่างมีสติสมเหตุสมผล 6. ผู้เรียนร้อยละ 90 มีความรู้และทักษะที่จ าเป็นตามหลักสูตรสถานศึกษา 7. ผู้เรียนร้อยละ 90 มีทักษะในการท างาน รักการท างาน สามารถท างานร่วมกับผู้อื่นได้และ มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจริต 8. โรงเรียนมีการจัดการหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ 9. ครูร้อยละ 100 จัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ 10. ครูร้อยละ 90 จัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างหลากหลาย 11. ครูร้อยละ 90 ใช้แหล่งเรียนรู้พัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างคุ้มค่า 12. ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของสถานศึกษา และการป้องกันยาเสพติดและ อบายมุข


10 กลยุทธ์ 1. เร่งพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ 2. ปลูกฝังคุณธรรม ความส านึกในความเป็นชาติไทยและวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง 3. สร้างโอกาสทางการศึกษาให้ทั่วถึง 4. พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาสู่มืออาชีพ 5. พัฒนาระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ 6. สร้างและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ เอกลักษณ์ : ภูมิทัศน์สะอาด บรรยากาศร่มรื่น อัตลักษณ์ : ไหว้สวย ยิ้มง่าย แต่งกายสะอาด ปรัชญำโรงเรียน : นตถิ ปัญญา สมาอาภา : แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี ค ำขวัญประจ ำโรงเรียน : เลิศวิทยา กีฬาเด่น เน้นคุณธรรม สีประจ ำโรงเรียน : น้ าเงิน – ขาว : มีความรู้ คู่คุณธรรม สีน้ าเงิน : ฉลาดเชี่ยวชาญ สีขาว : รักสันติภาพ จรรยาดี มีคุณธรรม


11 โครงสร้ำงกำรบริหำร (แผนผัง) ผู้อ ำนวยกำรสถำนศึกษำ นำยสมพงค์ ดีวันไชย รองผู้อ ำนวยกำรสถำนศึกษำ นำงนงนภัส สิงห์ครำม คณะกรรมกำร สถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน นางนงนภัส สิงห์คราม นางสกาวเดือน กองสุวรรณ นางสาวเกษมณี เงินลาง นางสาวปรานี กุลอัก นางสาวจีรนันท์ ผายดี นางสาวลักขณา เหง้าละคร นางสุธาสินี ผิวไหมค า นางสาวพรรณนิภา ผากงค า นางดารุณี ขันตะราช นางทิชากร จันทร์แก้ว นางสาววิไลพร ขอบเมืองฮาม นางสาวพัชรา ใครบุตร นายสมพงค์ ดีวันไชย นางนงนภัส สิงห์คราม นางสาวทิพย์ประภา ทาลุน นางวิไล สืบสุวรรณ นายอภิรักษ์ จันทระ นายธีรยุทธ หมู่มี นางสาวกาญจนา ก้งอินตา นางปัญญา ต่ายเนาว์ดง นายคมกริช สายธิไชย นางสาวกชกร เถาตาจันทร์ นางสาวพิชญา ศรีฤทธิ์ นางสาวธนศร เหง้าละคร นายประสาน สารโคตร งำนวิชำกำร งำนงบประมำณ งำนบุคลำกร งำนบริหำรทั่วไป ผู้ปกครองนักเรียน / ชุมชนและองค์กรอื่น คณะกรรมกำรที่ปรึกษำ


12 1.3 ข้อมูลบุคลำกรของสถำนศึกษำ 1) ข้อมูลผู้บริหารสถานศึกษา ……………………………………………………………………………………………………………………………………… 1) จ านวนบุคลากร บุคลากร ผู้บริหาร ข้าราชการครู พนักงาน ราชการ ครูอัตราจ้าง เจ้าหน้าที่ อื่นๆ รวมทั้งหมด จ านวน 2 15 - 4 3 24 2) วุฒิการศึกษาสูงสุดของบุคลากร บุคลากร ต่ ากว่า ปริญญาตรี ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก รวมทั้งหมด จ านวน 2 16 6 - 24 ร้อยละ 8.33 66.67 25 100 3) สาขาวิชาที่จบการศึกษาและภาระงานสอน สาขาวิชา จ านวน (คน) ภาระงานสอนเฉลี่ยของครู 1 คน ในแต่ละสาขาวิชา (ชม./สัปดาห์) 1. บริหารการศึกษา 2 15 2. ภาษาไทย 2 21 3. คณิตศาสตร์ 2 21 4. วิทยาศาสตร์ 1 21 5. ภาษาอังกฤษ 2 21 6. สังคมศึกษา 1 21 7. เกษตร 1 25 8. คอมพิวเตอร์ 2 25 9. การศึกษาปฐมวัย 5 25 10. การประมง 1 21 11. พละและสุขศึกษา 2 21 12. วุฒิ ม.6 (พี่เลี้ยงเด็ก) 1 15 รวม 22 20.95


13 4) อัตราส่วน อัตรำส่วน ระดับปฐมวัย ครู : เด็ก/ผู้เรียน 4 :84 ห้อง : เด็ก/ผู้เรียน 4 :21 จ ำนวนครู ( ) ครบชั้น ( ) ไม่ครบชั้น 1.4 ข้อมูลนักเรียน จ านวนนักเรียน ปีการศึกษา 2565 รวม 389 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566) ระดับชั้นเรียน จ านวนห้อง เพศ รวม หมายเหตุ ชาย หญิง อ.1 1 11 12 23 อ.2 2 9 16 25 อ.3 2 12 23 35 รวมทั้งหมด 5 32 51 83 1.5 ข้อมูลหลักสูตรที่จัดกำรเรียนกำรสอน 1.5.1โครงสร้างหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย โครงสร้างหลักสูตรหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ช่วงอายุ อายุ 3-6 ปี สาระการเรียนรู้ ประสบการณ์ส าคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านสังคม ด้านสติปัญญา เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและ สถานที่แวดล้อมเด็ก ธรรมชาติรอบตัว สิ่งต่าง ๆรอบตัวเด็ก ระยะเวลาเรียน 180 วัน/1 ปีกำรศึกษำ กำรจัดเวลำเรียน หลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัยก าหนดกรอบโครงสร้างเวลาในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก 2 ปี การศึกษาโดยประมาณ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุของเด็กที่เริ่มเข้าการศึกษาหรือสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยเวลาเรียนสู่ ส าหรับเด็กปฐมวัยจะขึ้นอยู่กับสถานศึกษาแต่ละแห่ง โดยมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า 180 วัน ต่อ 1 ปีการศึกษา ในแต่ละวันจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 25 ชั่วโมงใน 1 ปี แบ่งเป็น 2 ภาคเรียน โดยสามารถปรับให้เหมาะสมตาม บริบทของสถานศึกษา สำระกำรเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ เป็นสื่อกลางในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็ก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ทุกด้านให้เป็นไปตามจุดหมายของหลักสูตรที่ก าหนดการก าหนดสาระการเรียนรู้รายปีเป็นการเตรียมตัว ล่วงหน้า ว่าแต่ละช่วงวัยควรเรียนรู้เรื่องอะไรบนหลักการของพัฒนาการเด็ก หลักการจัดการศึกษา


14 ประสบการณ์ส าคัญและสาระที่ควรเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ความต้องการ/ ความสนใจของเด็กปฐมวัย ส าหรับสาระที่ควรเรียนรู้นั้นควรพิจารณาเรื่องราวในชีวิตประจ าวันที่ใกล้ตัวเด็ก และข้อมูลสภาพภูมิศาสตร์ สถานที่ส าคัญได้แก่ วัดโกรกพระใต้ วัดโกรกพระเหนือ วัฒนธรรมด้านอาหาร ได้แก่ ข้าวแช่ ประเพณีส าคัญในชุมชน ท้องถิ่นได้แก่ ประเพณีงานบุญข้าวแช่ การละเล่นกลองยาวในวัน ส าคัญ แหล่งเรียนรู้ส าคัญที่เหมาะสมกับระดับ พัฒนาการเด็กปฐมวัย โดยอาศัยประสบการณ์ของครูผู้สอน ผู้แทนผู้ปกครอง ผู้แทนชุมชนร่วมกันก าหนดสาระที่ควรเรียนรู้รายปี ให้สอดคล้องกับความต้องการ/ความ สนใจของเด็กปฐมวัย มีความทันสมัย และควรตรวจสอบความครอบคลุมหัวเรื่องที่ระบุไว้ 4 สาระที่ควรเรียนรู้ และประสบการณ์ส าคัญของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 และได้น ารายละเอียดมาบรรจุไว้ใน หลักสูตรสถานศึกษาดังนี้ 1. ประสบกำรณ์ส ำคัญ เป็นแนวทางส าหรับผู้สอนน าไปใช้ในการออกแบบการจัดประสบการณ์ให้เด็กปฐมวัย เรียนรู้ ลงมือปฏิบัติ และได้รับการส่งเสริมพัฒนาการที่คลอบคลุมทุกด้าน ดังนี้ 1.1 ประสบกำรณ์ส ำคัญที่ส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาส พัฒนาการใช้ กล้ามเนื้อใหญ่กล้ามเนื้อเล็กและการประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อและระบบประสาทในการ ท ากิจวัตร ประจ าวันหรือท ากิจกรรมต่าง ๆ และสนับสนุนให้เด็กมีโอกาสFดูแลสุขภาพ และสุขอนามัยสุขนิสัย และการ รักษาความปลอดภัยดังนี้ ด้ำนร่ำงกำย ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.1.1 กำรใช้กล้ำมเนื้อใหญ่ (1) การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ (2) การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ (3) การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุอุปกรณ์ (4) การเคลื่อนไหวที่ใช้การประสานสัมพันธ์ของการใช้ กล้ามเนื้อใหญ่ในการขว้าง การจับ การโยน การเตะ (5) การเล่นเครื่องเล่นสนามอย่างอิสระ 1.1.2 กำรใช้กล้ำมเนื้อเล็ก (1) การเล่นเครื่องเล่นสัมผัสและการสร้างสิ่งต่างๆ จากแท่ง ไม้ บล็อก (2) การเขียนภาพและการเล่นกับสี (3) การปั้น (4) การประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ด้วยเศษวัสดุ (5) การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฝึก การตัด การปะ และ การร้อยวัสดุ 1.1.3 กำรรักษำสุขภำพอนำมัย (1) การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย สุขนิสัยที่ดีในกิจวัตร ประจ าวัน 1.1.4 กำรรักษำควำมปลอดภัย (1) การปฏิบัติตนให้ปลอดภัยในกิจวัตรประจ าวัน (2) การฟังนิทาน เรื่องราว เหตุการณ์เกี่ยวกับการป้องกัน และรักษาความปลอดภัย (3) การเล่นเครื่องเล่นสนามอย่างปลอดภัย (4) การเล่นบทบาทสมมติเหตุการณ์ต่างๆ 1.1.5 กำรตระหนักรู้เกี่ยวกับร่ำงกำย ตนเอง (1) การเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเองไปในทิศทาง ระดับ และพื้นที่ (2) การเคลื่อนไหวข้ามสิ่งกีดขวาง


15 1.2 ประสบกำรณ์ส ำคัญที่ส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จิตใจ เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้ แสดงออกทาง อารมณ์และความรู้สึกของตนเองที่เหมาะสมกับวัย ตระหนักถึงลักษณะพิเศษเฉพาะที่เป็น อัตลักษณ์ ความ เป็นตัวของตัวเอง มีความสุข ร่าเริงแจ่มใส การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ได้พัฒนาคุณธรรมจริยธรรม สุนทรียภาพ ความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และความเชื่อมั่นในตนเองขณะปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้ ด้ำนอำรมณ์ จิตใจ ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.2.1 สุนทรียภำพ ดนตรี (1) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดงปฏิกิริยา โต้ตอบเสียงดนตรี (2) การเล่นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ (3) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลงดนตรี (4) การเล่นบทบาทสมมติ (5) การท ากิจกรรมศิลปะต่าง ๆ (6) การสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม 1.2.2 กำรเล่น (1) การเล่นอิสระ (2) การเล่นรายบุคคล กลุ่มย่อย และกลุ่มใหญ่ (3) การเล่นตามมุมประสบการณ์/มุมเล่นต่างๆ (4) การเล่นนอกห้องเรียน 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม (1) การปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่นับถือ (2) การฟังนิทานเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม (3) การร่วมสนทนา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิง จริยธรรม 1.2.4 กำรแสดงออกทำงอำรมณ์ (1) การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น (2) การเล่นบทบาทสมมติ (3) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลงดนตรี (4) การร้องเพลง (5) การท างานศิลปะ 1.2.5 กำรมีอัตลักษณ์เฉพำะตน และ เชื่อว่ำตนเองมีควำมสำมำรถ (1) การปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ตามความสามารถของตนเอง 1.2.6 กำรเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (1) การแสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นมีความสุข เห็นใจเมื่อผู้อื่น เศร้าหรือเสียใจและ การช่วยเหลือปลอบโยนเมื่อผู้อื่นได้รับ บาดเจ็บ


16 1.3 ประสบกำรณ์ส ำคัญที่ส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนสังคม เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาสปฏิสัมพันธ์ กับบุคคลและสิ่งแวดล้อมต่างๆ รอบตัวจากการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ผ่านการเรียนรู้ทางสังคม เช่น การเล่น การท างานกับผู้อื่น ฯลฯ การปฏิบัติกิจวัตรประจ าวัน การแก้ปัญหาข้อขัดแย้งต่างๆ ดังนี้ ด้ำนสังคม ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.3.1 กำรปฏิบัติกิจวัตร ประจ ำวัน (1) การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจ าวัน (2) การปฏิบัติตนตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1.3.2 กำรดูแลรักษำธรรมชำติ และ สิ่งแวดล้อม (1) การมีส่วนร่วมรับผิดชอบดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและ ภายนอกห้องเรียน (2) การใช้วัสดุและสิ่งของเครื่องใช้อย่างคุ้มค่า (3) การท างานศิลปะที่น าวัสดุหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้แล้ว มาใช้ซ้ า หรือแปรรูป แล้วน ากลับมาใช้ใหม่ (4) การเพาะปลูกและดูแลต้นไม้ (5) การเลี้ยงสัตว์ (6) การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมในชีวิตประจ าวัน 1.3.3 กำรปฏิบัติตำมวัฒนธรรม ท้องถิ่นและควำมเป็นไทย (1) การเล่นบทบาทสมมุติการปฏิบัติตนในความเป็นคนไทย (2) การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อาศัยและประเพณีไทย (3) การประกอบอาหารไทย (4) การศึกษานอกสถานที่ (5) การละเล่นพื้นบ้านของไทย 1.3.4 กำรมีปฏิสัมพันธ์ มีวินัย มี ส่วนร่วมและบทบำทสมำชิกของ สังคม (1) การร่วมก าหนดข้อตกลงของห้องเรียน (2) การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของห้องเรียน (3) การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ (4) การดูแลห้องเรียนร่วมกัน (5) การร่วมกิจกรรมวันส าคัญ 1.3.5 กำรเล่นและท ำงำนแบบ ร่วมมือร่วมใจ (1)การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (2) การเล่นและท างานร่วมกับผู้อื่น (3) การท าศิลปะแบบร่วมมือ 1.3.6 กำรแก้ปัญหำควำมขัดแย้ง (1) การมีส่วนร่วมในการเลือกวิธีการแก้ปัญหา (2) การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง 1.3.7 กำรยอมรับในควำมเหมือน และควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล (1)การเล่นหรือท ากิจกรรมร่วมกับกลุ่มเพื่อน


17 1.4 ประสบกำรณ์ส ำคัญที่ส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนสติปัญญำ เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้รับรู้และ เรียนรู้สิ่ง ต่าง ๆ รอบตัวผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม บุคคล และสื่อต่าง ๆ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่ หลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กพัฒนาการใช้ภาษา จินตนาการความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาการคิดเชิง เหตุผล การคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวและมีความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานของการ เรียนรู้ต่อไปดังนี้ ด้ำนสติปัญญำ ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.4.1 กำรใช้ภำษำ (1) การฟังเสียงต่างๆ ในสิ่งแวดล้อม (2) การฟังและปฏิบัติตามค าแนะน า (3) การฟังเพลง นิทาน ค าคล้องจอง บทร้อยกรอง หรือ เรื่องราวต่างๆ (4) การพูดแสดงความคิด ความรู้สึก และความต้องการ (5) การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง หรือพูด เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง (6) การพูดอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของ เหตุการณ์ และ ความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ (7) การพูดอย่างสร้างสรรค์ในการเล่นและการกระท าต่างๆ (8) การรอจังหวะที่เหมาะสมในการพูด (9) การพูดเรียงล าดับค าเพื่อใช้ในการสื่อสาร (10) การอ่านหนังสือภาพ นิทานหลากหลายประเภท/ รูปแบบ (11) การอ่านอย่างอิสระตามล าพัง การอ่านร่วมกัน การอ่าน โดยมีผู้ชี้แนะ (12) การเห็นแบบอย่างของการอ่านที่ถูกต้อง (13) การสังเกตทิศทางการอ่านตัวอักษร ค า และข้อความ (14) การอ่านและชี้ข้อความ โดยกวาดสายตาตามบรรทัด จากซ้ายไปขวาจากบนลงล่าง (15) การสังเกตตัวอักษรในชื่อของตน หรือค าคุ้นเคย (16) การสังเกตตัวอักษรที่ประกอบเป็นค าผ่านการอ่านหรือ เขียน (17) การคาดเดาค า วลี หรือประโยคที่มีโครงสร้างซ้ าๆ กัน จากนิทาน เพลง ค าคล้องจอง (18) การเล่นเกมทางภาษา (19) การเห็นแบบอย่างของการเขียนที่ถูกต้อง (20) การเขียนร่วมกันตามโอกาส และการเขียนอิสระ (21) การเขียนค าที่มีความหมายกับตัวเด็ก/ค าคุ้นเคย (22) การคิดสะกดค าและเขียนเพื่อสื่อความหมายด้วยตนเอง อย่างอิสระ


18 ด้ำนสติปัญญำ ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.4.2 กำรคิดรวบยอด กำรคิดเชิง เหตุผล กำรตัดสินใจและแก้ปัญหำ (1) การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลง และ ความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ โดยใช้ประสาทสัมผัสอย่าง เหมาะสม (2) การสังเกตสิ่งต่างๆ และสถานที่จากมุมมองที่ต่างกัน (3) การบอกและแสดงต าแหน่ง ทิศทาง และระยะทางของ สิ่งต่างๆ ด้วยการกระท า ภาพวาด ภาพถ่าย และรูปภาพ (4) การเล่นกับสื่อต่างๆ ที่เป็นทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย (5) การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการจ าแนกสิ่งต่างๆ ตาม ลักษณะ และรูปร่าง รูปทรง (6) การต่อของชิ้นเล็กเติมในชิ้นใหญ่ให้สมบูรณ์ และการ แยกชิ้นส่วน (7) การท าซ้ า การต่อเติม และการสร้างแบบรูป (8) การนับและแสดงจ านวนของสิ่งต่างๆในชีวิตประจ าวัน (9) การเปรียบเทียบและเรียงล าดับจ านวนของสิ่งต่างๆ (10) การรวมและการแยกสิ่งต่างๆ (11) การบอกและแสดงอันดับที่ของสิ่งต่างๆ (12) การชั่ง ตวง วัดสิ่งต่างๆโดยใช้เครื่องมือและหน่วยที่ ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน (13) การจับคู่ การเปรียบเทียบและ การเรียงล าดับสิ่งต่างๆ ตามลักษณะความ ยาว/ความสูง น้ าหนัก ปริมาตร (14) การบอก และเรียงล าดับกิจกรรมหรือเหตุการณ์ตาม ช่วงเวลา (15) การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์กับเหตุการณ์ใน ชีวิตประจ าวัน (16) การอธิบายเชื่อมโยงสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นใน เหตุการณ์หรือการกระท า (17) การคาดเดาหรือการคาดคะเนสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นอย่าง มีเหตุผล (18) การมีส่วนร่วมในการลงความเห็นจากข้อมูลอย่างมี เหตุผล (19) การตัดสินใจและมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ปัญหา 1.4.3 จินตนำกำรและควำมคิด สร้ำงสรรค์ (1) การรับรู้ และการสร้างความคิด ความรู้สึกผ่านสื่อวัสดุ ของเล่น และชิ้นงาน สร้างสรรค์ (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านภาษา ท่าทาง การ เคลื่อนไหว และศิลปะ (3) การสร้างสรรค์ชิ้นงานโดยใช้รูปร่างรูปทรงจากวัสดุที่ หลากหลาย


19 ด้ำนสติปัญญำ ประสบกำรณ์ส ำคัญ 1.4.4 เจตคติที่ดีต่อกำรเรียนรู้และ กำรแสวงหำควำมรู้ (1) การส ารวจสิ่งต่างๆ และแหล่งเรียนรู้รอบตัว (2) การตั้งค าถามในเรื่องที่สนใจ (3) การสืบเสาะหาความรู้เพื่อค้นหาค าตอบของข้อสงสัย ต่างๆ (4) การมีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูล และน าเสนอข้อมูล จากการสืบเสาะหา ความรู้ในรูปแบบต่างๆ และแผนภูมิ อย่างง่าย 2. สำระที่ควรเรียนรู้ สาระที่ควรเรียนรู้ เป็นเรื่องราวรอบตัวเด็กที่น ามาเป็นสื่อกลางในการจัดกิจกรรมให้เด็กเกิดแนวคิด หลังจากได้รับการจัดประสบการณ์ เพื่อให้บรรลุจุดหมายที่ก าหนดไว้ ทั้งนี้ไม่เน้นการท่องจ าเนื้อหา ผู้สอน สามารถก าหนดรายละเอียดขึ้นเองให้สอดคล้องกับวัย ความต้องการและความสนใจของเด็กโดยให้เด็กได้ เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ส าคัญทั้งนี้อาจยืดหยุ่นเนื้อหาได้โดยค านึงถึงประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมในชีวิตจริง ของเด็กดังนี้ 2.1 เรื่องรำวเกี่ยวกับตัวเด็ก เด็กควรเรียนรู้ชื่อ นามสกุล รูปร่างหน้าตา อวัยวะต่างๆวิธีระวัง รักษา ร่างกายให้สะอาดและมีสุขภาพอนามัยที่ดี รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ มีประโยชน์ในท้องถิ่นหรือ อาหารที่เด็กควรรู้จักคือ ข้าวแช่ขนมไทย เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน ข้าวโปง การระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองจากผู้อื่น และภัยใกล้ตัว รวมทั้งการปฏิบัติต่อ ผู้อื่นอย่างปลอดภัย การรู้จักประวัติ ความเป็นมาของตนเองและครอบครัว การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน การเคารพสิทธิ ของตนเองและผู้อื่น การรู้จักแสดง ความคิดเห็นของตนเองและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การก ากับตนเอง การเล่นและท าสิ่งต่างๆด้วยตนเอง ตามล าพังหรือกับผู้อื่น การตระหนักรู้เกี่ยวกับตนเอง ความภูมิใจในตนเอง การสะท้อนการรับรู้อารมณ์และ ความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น การแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกอย่าง เหมาะสม การแสดงมารยาทที่ดี การมีคุณธรรมจริยธรรม 2.2 เรื่องรำวเกี่ยวกับบุคคลและสถำนที่แวดล้อมเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับครอบครัว สถานศึกษา ชุมชน และบุคคลต่างๆ ที่เด็กต้องเกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจ าวัน สถานที่ ส าคัญใน ชุมชนได้แก่ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร วัดพระธาตุพนม วันส าคัญได้แก่วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา วันมาฆบูชา วันแม่ วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช รัชกาลที่ 9 วันลอยกระทง อาชีพของคนในชุมชนได้แก่ ค้าขาย ท าไร่ ท าสวน ท านา รับจ้างทั่วไป แหล่ง วัฒนธรรมในชุมชนได้แก่ ชุมชนหมู่ที่๒ การละเล่นกลองยาว สัญลักษณ์ส าคัญของชาติไทยและปฏิบัติตาม วัฒนธรรมท้องถิ่นและความเป็นไทย หรือแหล่งเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นอื่นๆได้แก่ ประเพณีข้าวแช่ 2.3 ธรรมชำติรอบตัว เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับชื่อ ลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลง และ ความสัมพันธ์ของมนุษย์ สัตว์ พืช และสัตว์ พืชในท้องถิ่นที่เด็กควรรู้จักได้แก่ ตลอดจนการรู้จักเกี่ยวกับดิน น้ า ท้องฟ้า สภาพอากาศ ภัยธรรมชาติ แรงและพลังงานในชีวิตประจ าวัน ที่แวดล้อมเด็ก รวมทั้งการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมและการรักษาสาธารณสมบัติแม่น้ าเจ้าพระยา แหล่งเรียนรู้ธรรมชาติในท้องถิ่นสวนกล้วยไข่ ไร่ข้าวโพด สระเลี้ยงปลา ตะพาบน้ า วัดโกรกพระเหนือ 2.4 สิ่งต่ำงๆรอบตัวเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมายใน ชีวิตประจ าวัน ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการใช้หนังสือและตัวหนังสือ รู้จักชื่อ ลักษณะ สี ผิวสัมผัส ขนาด รูปร่าง รูปทรง ปริมาตร น้ าหนัก จ านวน ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงและความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ รอบตัว เวลา เงิน


20 ห้องสมุด เสาธง ส้วม ที่ดื่มน้ า ส้วม ที่ดื่มน้ า บ้านพักครู บ้านพักครู ประโยชน์ การใช้งาน และการเลือกใช้สิ่งของเครื่องใช้ ยานพาหนะ การคมนาคมในชุมชนที่เด็กควรรู้จักได้แก่ เทคโนโลยีและการสื่อสารต่างๆที่ใช้อยู่ในชีวิตประจ าวันอย่างประหยัด ปลอดภัย ได้แก่ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ แทปเลต และรักษาสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนได้แก่ ลานเล่านิทาน สนามเด็กเล่น โรงหนังในสวน(กิจกรรมนิทาน เงา) โรงเรือนเกษตร บ้านต้นไม้ 1.6 ข้อมูลอำคำรสถำนที่ / ห้องเรียน แผนผังโรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน แท่นพระพุทธรูป อาคารเมตตา อาคารกรุณา อาคารพรหมวิหาร อาคารมุทิตา อาคารอุเบกขา โรงอาหาร สนามฟุตบอล สนามเด็กเล่น สนามวอลเล่ย์บอล ทิศเหนือ


21 - ข้อมูลห้องเรียน ห้อง จ ำนวน (ห้อง) หมำยเหตุ ห้องเรียนปฐมวัย 4 ห้องเรียนประถมศึกษา 6 ห้องเรียนมัธยมศึกษา 4 ห้องปฏิบัติการ 5 ห้องพยาบาล 1 ห้องสมุด 1 อื่นๆ (ห้องเสมารักษ์) 1 1.7 ข้อมูลสภำพชุมชนโดยรวม รำยกำรแหล่งเรียนรู้ภำยใน สถำนศึกษำ รำยกำรแหล่งเรียนรู้ภำยนอก สถำนศึกษำ / ในชุมชน รำยกำรภูมิปัญญำท้องถิ่น ห้องสมุด วัด สวนมะนาว สวนสมุนไพร ห้อง ICT ประชารัฐ 1.8 ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนระดับสถำนศึกษำปีกำรศึกษำ 2565 ระดับปฐมวัย ร้อยละของนักเรียนที่มีผลการประเมินพัฒนาการแต่ละด้านในระดับ 3 ขึ้นไป ระดับชั้น ผลกำรประเมินพัฒนำกำรนักเรียนด้ำน (จ ำนวนคน) ครบทั้ง 4 ด้ำน ร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญำ อนุบาล 1 21 22 23 20 23 อนุบาล 2 21 25 25 20 25 อนุบาล 3/1 15 16 17 15 17 อนุบาล 3/2 17 17 17 17 17 รวม 74 80 82 72 82 ร้อยละ 89.15 96.38 98.79 86.74 98.79


22 แสดงข้อมูลกำรเปรียบเทียบผลกำรประเมินพัฒนำกำรเด็กปฐมวัย ปีกำรศึกษำ 2563-2565 ระดับชั้น ร้อยละของเด็กที่ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินพัฒนำกำร ครบทั้ง 4 ด้ำน ( 3 ขึ้นไป ) ปีกำรศึกษำ 2563 ปีกำรศึกษำ 2564 ปีกำรศึกษำ 2565 ร้อยละของผลต่ำงระหว่ำง ปีกำรศึกษำ 2563 - 2565 อนุบาล 1 100 100 100 0 อนุบาล 2 100 97.05 100 5.55 อนุบาล 3 96.77 100 98.79 2.06 รวม 98.92 99.01 99.59 7.61 แผนภูมิแสดงข้อมูลกำรเปรียบเทียบผลกำรประเมินพัฒนำกำรเด็กปฐมวัย ปีกำรศึกษำ 2563-2565 95 95.5 96 96.5 97 97.5 98 98.5 99 99.5 100 ปีการศึกษา 2563 ปีการศึกษา 2564 ปีการศึกษา 2565 ร้อยละของเด็กที่ผ่านเกณฑ์การประเมินพัฒนาการ ครบทั้ง 4 ด้าน ( 3ขึ้นไป ) 100 100 100 100 97.05 100 96.77 100 98.79 98.92 99.01 99.59 อนุบาล 1 อนุบาล 2 อนุบาล 3 รวม


23 4) ร้อยละของผู้ส ำเร็จกำรศึกษำ ปีกำรศึกษำ 2565 ระดับชั้น จ ำนวนนักเรียน (คน) คิดเป็นร้อยละ ชำย หญิง รวม อนุบาลปีที่ 3 12 23 35 100 รวม 12 23 35 100 สถิติจ ำนวนเด็กที่เข้ำเรียน ชั้นประถมศึกษำปีที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2563- 2565 ปีกำรศึกษำ จ ำนวนเด็กที่ส ำเร็จ กำรศึกษำ (คน) จ ำนวนเด็กที่เข้ำเรียน ชั้น ป. 1 (โรงเรียนเดิม) คิดเป็นร้อยละ 2563 30 30 100 2564 31 30 96.77 2565 35 32 91.42


24 ส่วนที่2 ผลกำรประเมินตนเองของสถำนศึกษำ ระดับปฐมวัย ผลกำรประเมินตนเองตำมมำตรฐำนกำรศึกษำปฐมวัย ภำพรวมมำตรฐำนกำรศึกษำ : ดีเลิศ มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับคุณภำพ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก ดีเลิศ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ดีเลิศ มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นส าคัญ ดีเลิศ มำตรฐำนที่1 คุณภำพของเด็ก ระดับคุณภำพ : ดีเลิศ 1 ผลการด าเนินงาน มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา ค่ำ เป้ำหมำย ผลกำร ประเมิน สรุปผลกำร ประเมิน มำตรฐำนที่ 1 คุณภำพของเด็ก 1.1 มีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความ ปลอดภัยของตนเองได้ ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย 1.2 มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และแสดงออกทาง อารมณ์ได้ ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย 1.3 มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของ สังคม ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย 1.4 มีพัฒนาการด้านสติปัญญาสื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และ แสวงหาความรู้ได้ ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย สรุปผลกำรประเมินมำตรฐำนที่1 ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย


25 2. วิธีการพัฒนา ข้อมูล หลักฐาน เอกสารเชิงประจักษ์ ที่สนับสนุนผลการประเมินตนเอง 2.1 กระบวนการ / กิจกรรม ที่ส่งผลต่อระดับคุณภาพของเด็ก (ระบุกระบวนการ หรือวิธี ด าเนินงาน มีขั้นตอนต่อเนื่องสัมพันธ์กัน โดยให้เห็นถึงกระบวนการ PDCA) 1. นักเรียนปฐมวัยโรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน มีผลการประเมินพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ตาม หลักสูตรการศึกษา ปฐมวัย พุทธศักราช 2560 อยู่ในระดับดีเลิศ คิดเป็นร้อยละ 98.79ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ 1.1 พัฒนาการด้านร่างกาย เด็กมีน้ าหนัก ส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐาน เคลื่อนไหวร่างกาย คล่องแคล่ว ทรงตัวได้ดี ใช้มือและตามประสานสัมพันธ์กันได้ดี ดูแลรักษาสุขภาพอนามัยส่วนตนและปฏิบัติจน เป็นนิสัย ปฏิบัติตนตามข้อตกลงเกี่ยวกับความปลอดภัย หลีกเลี่ยงสภาวะที่เสี่ยงต่อโรค สิ่งเสพติด และระวัง ภัยจาก บุคคล สิ่งแวดล้อม และสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตราย 1.2 พัฒนาการด้านอารมณ์-จิตใจ เด็กร่าเริง แจ่มใส แสดงอารมณ์ความรู้สึกได้เหมาะสม รู้จักยับยั้งชั่ง ใจ อดทนในการรอคอย ยอมรับและพอใจในความสามารถและผลงานของตนเองและผู้อื่น มีจิตส านึกและ ค่านิยมที่ดี มีความมั่นใจ กล้าพูด กล้าแสดงออก ช่วยเหลือแบ่งปัน เคารพสิทธิ รู้หน้าที่ รับผิดชอบ อดทนอด กลั้น ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรมตามที่โรงเรียนก าหนด ชื่นชมและมีความสุขกับ ศิลปะ ดนตรี และการ เคลื่อนไหว 1.3 พัฒนาการด้านสังคม เด็กช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจ าวัน มีวินัยใน ตนเอง ประหยัดและพอเพียง มีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในและนอกห้องเรียน มีมารยาทตามวัฒนธรรม ไทย เช่น การไหว้ การยิ้ม ทักทาย และมีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ เป็นต้น ยอมรับหรือเคารพความแตกต่าง ระหว่างบุคคล เล่นและท างานร่วมกับผู้อื่นได้ รู้จักแก้ไขความขัดแย้งโดยปราศจากความรุนแรง 1.4 พัฒนาการด้านสติปัญญา เด็กสนมนาโต้ตอบและเล่าเรื่องให้ผู้อื่นเข้าใจ ตั้งค าถามในสิ่งที่ ตนเอง สนใจหรือสงสัย และพยายามค้นหาค าตอบ อ่านนิทานและเล่าเรื่องที่ตนเองอ่านได้เหมาะสมกับวัย มีความสามารถในการคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผลทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ การคิดแก้ปัญหาและ สามารถตัดสินใจเรื่องง่ายๆ ได้ สร้างสรรค์ผลงานตามความคิดและจินตนาการ เช่น งานศิลปะ การเคลื่อนไหว ท่าทาง การเล่นอิสระ เป็นต้น และใช้สื่อเทคโนโลยี เช่น แว่นขยาย แม่เหล็ก กล้องดิจิตอล เป็นต้น เป็น เครื่องมือในการแสวงหาความรู้ได้ 2. นักเรียนชั้นอนุบาล 3 มีความพร้อมในการเข้าเรียนเข้าเรียนชั้น ป.1 คิดเป็นร้อยละ 100 3. จุดเด่น 3.1 เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายสมวัย มีน้ าหนัก ส่วนสูง ตามเกณฑ์สมวัย ร่างกายแข็งแรง เคลื่อนไหว ได้อย่างคล่องแคล่ว กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็ก ประสาทสัมพันธ์กันดี 3.2 เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ –จิตใจ สมวัย สามารถแสดงออกทางอารมณ์ ได้อย่าง เหมาะสมกับ กาละเทศ มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น 3.3 เด็กมีพัฒนาการด้านสังคมสมวัย มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัยใน ตนเอง รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์สิ่งที่เป็นสาธารณะสมบัติส่วนรวม มีมารยาทตาม วัฒนธรรมไทย ยิ้มง่าย ไหว้สวย รู้จักทักทายผู้มาเยือน 3.4 เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญาสมวัย มีความกล้าแสดงออก ทั้งทางด้านการใช้ท่าทาง ค าพูด การ ปฏิบัติสัมพันธ์ การใช้สื่อเทคโนโลยีในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 3.5 มีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา และมีแผนงาน/โครงการ/ กิจกรรมเสริม ในการพัฒนาผู้เรียนอย่างเป็นระบบ 4. จุดควรพัฒนา 4.1 สื่อที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ได้แก่ สนามเด็กเล่น อุปกรณ์ เครื่องเล่นสนามช ารุด


26 ทรุดโทรม บางอย่าง แตกหัก มีสภาพที่ไม่ปลอดภัย ควรได้รับการปรับปรุง และจัดหามาเพิ่มเติม 4.2 ควรเพิ่มการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ คอบครัว ชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริม พัฒนาการเด็ก 4.3 ควรเพิ่มความต่อเนื่องของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา และ การ ด าเนินงานตามแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมเสริมในการพัฒนาผู้เรียน 5. แผนพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น แผนปฏิบัติงานที่ 1 โครงการโครงการจัดท าหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยของสถานศึกษา แผนปฏิบัติงานที่ 2 โครงการประเมินภายในสถานศึกษา แผนปฏิบัติงานที่ 3โครงการเด็กปฐมวัยสุขภาพดีถ้วนหน้า แผนปฏิบัติงานที่ 4 โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย แผนปฏิบัติงานที่ 5 โครงการปรับปรุงสนามเด็กเล่น แผนปฏิบัติงานที่ 6 โครงการศึกษาแหล่งเรียนรู้ แผนปฏิบัติงานที่ 7 โครงการเติมฝันบัณฑิตน้อย แผนปฏิบัติงานที่ 8 โครงการไหว้สวย ยิ้มง่าย แต่งกายสะอาด แผนปฏิบัติงานที่ 9 โครงการพ่อแม่เป็นครูหนูสุขใจ


27 มำตรฐำนที่2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร ระดับคุณภำพ : ดีเลิศ 1. ผลการด าเนินงาน มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา ค่ำ เป้ำหมำย ผลกำร ประเมิน สรุปผลกำร ประเมิน มำตรฐำนที่ 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร 2.1 มีหลักสูตรครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย 2.2 จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย 2.3 ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย 2.4 จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและ เพียงพอ ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย 2.5 ให้บริการสื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และสื่อการเรียนรู้เพื่อ สนับสนุนการจัดประสบการณ์ ดี ดีเลิศ เท่าค่าเป้าหมาย 2.6 มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้มีผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วน ร่วม ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย สรุปผลกำรประเมินมำตรฐำนที่2 ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย 2. วิธีการพัฒนา ข้อมูล หลักฐาน เอกสารเชิงประจักษ์ที่สนับสนุนผลการประเมินตนเอง 2.1 กิจกรรม /กระบวนการบริหารจัดการที่ส่งผลต่อระดับคุณภาพ การด าเนินงานโครงการพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนอย่างรอบด้านตามหลักสูตร สถานศึกษา เพื่อพัฒนาและใช้หลักสูตรสถานศึกษาที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน เน้นการเตรียมความ พร้อมโดยไม่เร่งรัดวิชาการ เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและปฏิบัติจริง สอดคล้องกับวิถีชีวิตของครอบครัวและ ชุมชน 2.2 สถานศึกษาได้ด าเนินการจัดหาครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน ครูจบการศึกษาด้านปฐมวัยโดยตรง และ มีความรู้ความสามารถในการออกแบบการจัดกิกรรมและประเมินพัฒนาการเด็กและครอบครัว โดยส่งเสริมให้ ครูพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถในการจัดประสบการณ์ส าหรับเด็กปฐมวัยอย่าง เหมาะสมเพื่อความ พร้อมในการพัฒนาเด็กสู่ศตวรรษที่ 21 อย่างครูมืออาชีพ 2.3 การด าเนินงานโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ เพื่อสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัย 2.4 การด าเนินงานโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกสถานศึกษา ด าเนินการจัด สภาพแวดล้อมที่มีความเหมาะสม และปลอดภัยในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย 2.5 ส่งเสริมการใช้สื่อเทคโนโลยี โดยการให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อ สนับสนุนการจัดประสบการณ์ที่เหมาะสมส าหรับเด็กปฐมวัย และส่งเสริมให้ครูจัดมุมประสบการณ์ที่ หลากหลายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็ก ปฐมวัย 2.6 สถานศึกษาได้ก าหนดมาตรฐาน แผนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา สอดคล้องกับมาตรฐานที่ สถานศึกษาก าหนด มีการติดผลตามการด าเนินงานและรายงานการประเมินตนเองประจ าปี น าผลการ ประเมินไปปรับปรุงการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โดยผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม และจัดส่ง รายงานการประเมินตนเองให้ต้นสังกัด โดยใช้กระบวนการ PLC เพื่อขับเคลื่อนการด าเนินงานให้ครบวงจร


28 คุณภาพ PDCA มีการนิเทศ ก ากับ ติดตาม การด าเนินงานอย่างต่อเนื่อง ตามรูปแบบการนิเทศภายในของ โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน เพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัยของโรงเรียน จากผลการด าเนินงานในมาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ อธิบายเพิ่มเติมได้ดังนี้ 1. สถานศึกษามีหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัยฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2565 ตามหลักสูตร การศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่สอดคล้องกับบริบทของ สถานศึกษา 2. ครูมีจ านวนเพียงพอและเหมาะสมกับชั้นเรียน ซึ่งครูผู้สอนจบปริญญาตรีด้านการศึกษา ปฐมวัย โดยตรง มีการส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพด้านการ จัด ประสบการณ์ที่ส่งผลต่อคุณภาพเด็กเป็นรายบุคคลตรงตามความต้องการของครูและสถานศึกษา 3. สถานศึกษาเข้าร่วมโครงการ”บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ในพระราชด าริสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โรงเรียนคุณภาพมาตรฐานกิจกรรมวิทยาศาสตร์ส าหรับเด็กปฐมวัย บ้าน นักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย” 4. สถานศึกษาจัดสภาพแวดล้อมอย่างปลอดภัย และมีสื่อเพื่อการเรียนรู้อย่างเพียงพอและ หลากหลาย ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้ เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ เหมาะสม กับบริบทของสถานศึกษา 5. สถานศึกษามีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องมีส่วน ร่วม การปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อคุณภาพมาตรฐานของสถานศึกษา บูรณาการการปฏิบัติงานและเปิดโอกาสให้ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม 3. จุดเด่น 3.1 โรงเรียนมีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่น และมี การประเมิน การใช้หลักสูตรทุกปีการศึกษา 3.2 ครูมีวุฒิการศึกษา จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาอนุบาล ทั้ง 4 คน ครบชั้นเรียน 3.3 ครูได้พัฒนาตนเองคือเข้ารับการอบรมพัฒนาคูปองครูหรืออบรมออนไลน์ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19 เพื่อให้ครูได้พัฒนาศักยภาพที่จะน ามาจัด ประสบการณ์ส าหรับ เด็กและเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการประกอบวิชาชีพระดับสูงต่อไป 3.4 มีการจัดมุมประสบการณ์อย่างน้อย 4 มุม ใช้สื่อและเทคโนโลยี และเครือข่าย อินเตอร์เน็ตในการ ท ากิจกรรม สภาพแวดล้อมมีความปลอดภัย 3.5 โรงเรียนเข้าโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบัน ได้รับ ตราพระราชทานคงสภาพเป็นครั้งที่ 2 ได้พัฒนาการจัดการเรียนรู้เป็นผู้เรียนเป็นส าคัญ เน้นการปฏิบัติสู่ เด็ก นักเรียน 3.6 โรงเรียนประชุมผู้ปกครอง อย่างน้อย ปีละ 2 ครั้ง และใช้ ไลน์ กรุ้ป ผู้ปกครองแต่ละชั้น เพื่อ ติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครอง มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องมีส่วน ร่วม การปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อคุณภาพมาตรฐานของสถานศึกษา 4. จุดควรพัฒนำ 4.1 ควรตรวจสอบ พัฒนา และปรับปรุงสื่อตามมุมประสบการณ์และสื่อในกิจกรรมกลางแจ้ง ที่ช ารุดและซ่อมแซมให้ใช้ในการงานได้และมีความปลอดภัยกับนักเรียน 4.2 ควรพัฒนาระบบการบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาให้ส่งผลต่อคุณภาพการจัด การศึกษา มากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นแบบอย่างที่ดี หรือนวัตกรรมการบริหารของสถานศึกษาได้ 5. แผนพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น


29 แผนปฏิบัติงานที่ 1 โครงการโครงการจัดท าหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยของสถานศึกษา แผนปฏิบัติงานที่ 2 โครงการประเมินภายในสถานศึกษา แผนปฏิบัติงานที่ 3โครงการเด็กปฐมวัยสุขภาพดีถ้วนหน้า แผนปฏิบัติงานที่ 4 โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย แผนปฏิบัติงานที่ 5 โครงการปรับปรุงสนามเด็กเล่น แผนปฏิบัติงานที่ 6 โครงการศึกษาแหล่งเรียนรู้ แผนปฏิบัติงานที่ 7 โครงการเติมฝันบัณฑิตน้อย แผนปฏิบัติงานที่ 8 โครงการไหว้สวย ยิ้มง่าย แต่งกายสะอาด แผนปฏิบัติงานที่ 9 โครงการพ่อแม่เป็นครูหนูสุขใจ มำตรฐำนที่3 กำรจัดประสบกำรณ์ที่เน้นเด็กเป็นส ำคัญ ระดับคุณภำพ : ดีเลิศ 1. ผลการด าเนินงาน มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา ค่ำเป้ำหมำย ผลกำร ประเมิน สรุปผลกำรประเมิน มำตรฐำนที่ 3 กำรจัดประสบกำรณ์ที่เน้นเด็กเป็นส ำคัญ 3.1 จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้าน อย่าง สมดุลเต็มศักยภาพ ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย 3.2 สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติ อย่างมีความสุข ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย 3.3 จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่ เหมาะสมกับวัย ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย 3.4 ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและน าผลการประเมิน พัฒนาการเด็ก ไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย สรุปผลกำรประเมินมำตรฐำนที่3 ดี ดีเลิศ สูงกว่าค่าเป้าหมาย 2. วิธีการพัฒนา ข้อมูล หลักฐาน เอกสารเชิงประจักษ์ที่สนับสนุนผลการประเมินตนเอง 2.1 กิจกรรม /กระบวนการบริหารจัดการที่ส่งผลต่อระดับคุณภาพ 1. ครูวิเคราะห์ข้อมูลเด็กเป็นรายบุคคล จัดท าแผนการจัดประสบการณ์ จากการวิเคราะห์ มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในหลักสูตรสถานศึกษา โดยมีกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็กครบทุกด้าน ไม่มุ่งเน้น การพัฒนาด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว 2. ครูจัดประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิม ให้เด็กมีโอกาสได้เลือกท ากิจกรรม อย่างอิสระ ตามความสนใจ ความต้องการ ความสามารถ ตอบสนองต่อวิธีการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล หลากหลาย รูปแบบจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เด็กได้เลือกเล่น ลงมือ กระท า และสร้างองค์ความรู้ด้วย ตนเอง 3. ครูจัดห้องเรียนได้สะอาด อากาศถ่ายเท ปลอดภัย มีพื้นที่แสดงผลงานเด็ก พื้นที่ส าหรับ มุมประสบการณ์และการจัดกิจกรรม เด็กมีส่วนร่วมในการจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน เช่น ป้ายนิเทศ การ ดูแล ต้นไม้ เป็นต้น ครูใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับช่วงอายุ ระยะความสนใจและวิถีการเรียนรู้ของเด็ก เช่น กล้องดิจิตอล คอมพิวเตอร์ แว่นขยาย สื่อของเล่นที่กระดุ้นให้คิดและหาค าตอบ เป็นต้น


30 4. ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากกิจกรรมและกิจวัตรประจ าวันด้วยเครื่องมือและวิธีการที่ หลากหลาย ไม่ใช้แบบทดสอบ วิเคราะห์ผลการประเมินพัฒนาการเด็กโดยผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วม และน าผล การประเมินไปพัฒนาคุณภาพเด็กและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดประสบการณ์ที่มีประสิทธิภาพ 3. จุดเด่น 3.1 ครูรู้จักเด็กเป็นรายบุคคลและจัดกิจกรรมที่สาสามารถส่งเริมพัฒนาการได้ครอบคลุมทั้ง4 ด้าน อย่างเป็นองค์รวม และค านึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลด้วย 3.2 ครูมีการจัดประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิม ให้เด็กมีโอกาสเลือกท า กิจกรรมอิสระ ตามความต้องการ เด็กได้เรียนรู้อย่างมีความสุขผ่านการเล่นจากกิจกรรมที่ครูออกแบบ 3.3 จัดแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เด็กได้เลือกเล่น เรียนรู้ ลงมือและสร้างองค์ความรู้ด้วย ตนเอง 3.4 ครูจัดห้องสะอาด อากาศถ่ายเท ปลอดภัย มีพื้นที่แสดงผลงานเด็ก พื้นที่ส าหรับมุม ประสบการณ์และครู ใช้สื่อ ห้องเรียนมีป้ายนิเทศ มีสื่อและเทคโนโลยี มีคอมพิวเตอร์ ทีวี สื่อของเล่นที่กระตุ้น ให้คิดและหาค าตอบ 3.5 ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากกิจกรรมและกิจวัตรประจ าวันด้วยเครื่องมือและวิธีการที่ หลากหลาย ไม่ใช้แบบทดสอบ เน้นการประเมินจากสภาพจริง จากกิจกรรมที่เด็กปฏิบัติในกิจกรรมประจ าวัน วิเคราะห์ผล การประเมินพัฒนาการเด็ก โดยผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม และน าผลการประเมินไป พัฒนาเด็กและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 3.6 ครู จ านวนร้อยละ 100 เข้ารับการพัฒนาตนเองและมีชั่วโมงการพัฒนาตนเอง ผ่าน เกณฑ์ที่ กคศ. ก าหนด และใช้กระบวนการ PLC มาด าเนินการพัฒนาขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาที่เกิดจาก กิจกรรมการเรียน การสอนได้อย่างต่อเนื่อง 4. จุดควรพัฒนา 4.1 ควรเพิ่มและพัฒนาสื่อที่เน้นกระบวนการคิด ที่มีจ านวนยังไม่เพียงพอและสอดคล้องกับ การพัฒนา เด็กมากเท่าที่ควร 4.2 ครูควรพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็กทั้ง 4 ด้าน ให้โดดเด่น และมี คุณภาพ สามารถเป็นนวัตกรรมหรือเป็นอย่างที่ดีของครูและของโรงเรียน 5. แผนพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น แผนปฏิบัติงานที่ 1 โครงการโครงการจัดท าหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยของสถานศึกษา แผนปฏิบัติงานที่ 2 โครงการประเมินภายในสถานศึกษา แผนปฏิบัติงานที่ 3โครงการเด็กปฐมวัยสุขภาพดีถ้วนหน้า แผนปฏิบัติงานที่ 4 โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย แผนปฏิบัติงานที่ 5 โครงการปรับปรุงสนามเด็กเล่น แผนปฏิบัติงานที่ 6 โครงการศึกษาแหล่งเรียนรู้ แผนปฏิบัติงานที่ 7 โครงการเติมฝันบัณฑิตน้อย แผนปฏิบัติงานที่ 8 โครงการไหว้สวย ยิ้มง่าย แต่งกายสะอาด แผนปฏิบัติงานที่ 9 โครงการพ่อแม่เป็นครูหนูสุขใจ


31 ส่วนที่ 3 สรุปผล และแนวทำงกำรพัฒนำ ระดับปฐมวัย สรุปผลกำรประเมินมำตรฐำนกำรศึกษำระดับปฐมวัย มำตรฐำนกำรศึกษำ: (ดีเลิศ) มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับคุณภำพ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก ดีเลิศ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ดีเลิศ มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นส าคัญ ดีเลิศ สรุปผล และแนวทางการพัฒนา ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาถือเป็นข้อมูลสารสนเทศส าคัญที่สถานศึกษาจะต้องน าไป วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อสรุปน าไปสู่การเชื่อมโยงหรือสะท้อนภาพความส าเร็จกับแผนพัฒนาการจัด การศึกษาของสถานศึกษา(3-5 ปี) และน าไปใช้ในการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ดังนั้น จากผลการด าเนินงานของสถานศึกษา สามารถสรุปผลการประเมินในภาพรวมของจุดเด่น จุดควร พัฒนาของแต่ละมาตรฐาน พร้อมทั้งแนวทางการพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น ดังนี้ระดับปฐมวัย สรุปผล จุดเด่น จุดควรพัฒนา คุณภาพของเด็ก 1) เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายสมวัย มีน้ าหนัก ส่วนสูง ตาม เกณฑ์สมวัย ร่างกายแข็งแรง เคลื่อนไหว ได้อย่าง คล่องแคล่ว กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็ก ประสาท สัมพันธ์กันดี 2) เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ –จิตใจ สมวัย สามารถ แสดงออกทางอารมณ์ ได้อย่างเหมาะสมกับกาละเทศ มี ความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น 3) เด็กมีพัฒนาการด้านสังคมสมวัย มีทักษะชีวิตและ ปฏิบัติ ตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัยในตนเอง รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์สิ่งที่เป็น สาธารณะสมบัติส่วนรวม มี มารยาทตามวัฒนธรรม ไทย ยิ้มง่าย ไหว้สวย รู้จักทักทายผู้มา เยือน 4) เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญาสมวัย มีความกล้า แสดงออก ทั้งทางด้านการใช้ท่าทาง ค าพูด การปฏิบัติ สัมพันธ์ การใช้สื่อเทคโนโลยีในการแสวงหาความรู้ด้วย คุณภาพของเด็ก 1) สื่อที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ได้แก่ สนาม เด็กเล่น อุปกรณ์ เครื่องเล่นสนามช ารุด ทรุดโทรม บางอย่าง แตกหัก มีสภาพที่ไม่ ปลอดภัย ควรได้รับ การปรับปรุง และจัดหามา เพิ่มเติม 2) ควรเพิ่มการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใน การส่งเสริม พัฒนาการเด็ก 3) ควรเพิ่มความต่อเนื่องของการจัด ประสบการณ์ การเรียนรู้ตามหลักสูตร สถานศึกษา และการ ด าเนินงานตามแผนงาน/ โครงการ/กิจกรรมเสริมใน การพัฒนาผู้เรียน


32 ตนเอง 5) มีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตร สถานศึกษา และมีแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมเสริมใน การพัฒนาผู้เรียน อย่างเป็นระบบ กระบวนการบริหารและการจัดการ 1) โรงเรียนมีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่น และมีการประเมินการใช้ หลักสูตรทุกปีการศึกษา 2) ครูมีวุฒิการศึกษา จบการศึกษาปริญญาตรี สาขา ปฐมวัย ทั้ง 2 คน และมีครูครบชั้นเรียน 3) ครูได้พัฒนาตนเองคือเข้ารับการอบรมพัฒนาคูปอง ครูเพื่อให้ครูได้พัฒนาศักยภาพที่จะน ามาจัด ประสบการณ์ส าหรับเด็กและเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการ ประกอบวิชาชีพระดับสูงต่อไป กระบวนการบริหารและการจัดการ 1) ควรตรวจสอบ พัฒนา และปรับปรุงสื่อตาม มุม ประสบการณ์และสื่อในกิจกรรมกลางแจ้งที่ ช ารุด และซ่อมแซมให้ใช้ในการงานได้และมี ความ ปลอดภัยกับนักเรียน 2) ควรพัฒนาระบบการบริหารจัดการคุณภาพ ของสถานศึกษาให้ส่งผลต่อคุณภาพการจัด การศึกษามากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นแบบอย่างที่ ดี หรือนวัตกรรมการบริหารของสถานศึกษาได้ จุดเด่น จุดควรพัฒนา 4) มีการจัดมุมประสบการณ์อย่างน้อย 4 มุม ใช้สื่อ และ เทคโนโลยี และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในการ ท า กิจกรรม สภาพแวดล้อมมีความปลอดภัย 5) โรงเรียนเข้าโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยแห่ง ประเทศไทยตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบันได้รับตรา พระราชทานคงสภาพเป็นครั้งที่ 2 ได้พัฒนาการ จัดการ เรียนรู้เป็นผู้เรียนเป็นส าคัญ เน้นการปฏิบัติสู่ เด็กนักเรียน 6) โรงเรียนประชุมผู้ปกครอง อย่างน้อย ปีละ 2 ครั้ง และใช้ไลน์กลุ่มผู้ปกครองแต่ละชั้น เพื่อติดต่อสื่อสาร กับผู้ปกครอง มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของ สถานศึกษาที่เปิดโอกาสให้ ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม การ ปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อคุณภาพ มาตรฐานของ สถานศึกษา การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นส าคัญ 1) ครูรู้จักเด็กเป็นรายบุคคลและจัดกิจกรรมที่สา สามารถส่ง เริมพัฒนาการได้ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน อย่างเป็นองค์รวม และ ค านึงถึงความแตกต่างระหว่าง บุคคลด้วย 2) ครูมีการจัดประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับ ประสบการณ์เดิม ให้เด็กมีโอกาสเลือกท ากิจกรรม อิสระตามความต้องการ เด็ก ได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ผ่านการเล่นจากกิจกรรมที่ครู ออกแบบ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นส าคัญ 1) ควรเพิ่มและพัฒนาสื่อที่เน้นกระบวนการ คิด ที่มี จ านวนยังไม่เพียงพอและสอดคล้องกับ การพัฒนา เด็กมากเท่าที่ควร 2) ครูควรพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ ที่ ส่งเสริมพัฒนาการเด็กทั้ง 4 ด้าน ให้โดดเด่น และมี คุณภาพ สามารถเป็นนวัตกรรมหรือเป็น อย่างที่ดี ของครูและของโรงเรียน


33 3) จัดแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เด็กได้เลือกเล่น เรียนรู้ ลง มือและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง 4) ครูจัดห้องสะอาด อากาศถ่ายเท ปลอดภัย มีพื้นที่ แสดงผลงานเด็ก พื้นที่ส าหรับมุมประสบการณ์และครู ใช้สื่อ ห้องเรียนมีป้ายนิเทศ มีสื่อและเทคโนโลยี มี คอมพิวเตอร์ ทีวี สื่อของเล่นที่กระตุ้นให้คิดและหา ค าตอบ จุดเด่น จุดควรพัฒนา 5) ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากกิจกรรมและกิจวัตร ประจ าวันด้วยเครื่องมือและวิธีการที่หลากหลาย ไม่ใช้ แบบทดสอบ เน้นการประเมินจากสภาพจริง จาก กิจกรรมที่ เด็กปฏิบัติในกิจกรรมประจ าวัน วิเคราะห์ ผล การประเมิน พัฒนาการเด็ก โดยผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม และ น าผลการประเมินไปพัฒนาเด็กและแลกเปลี่ยน เรียนรู้ 6) ครู จ านวนร้อยละ 100 เข้ารับการพัฒนาตนเองและ มีชั่วโมงการพัฒนาตนเอง ผ่านเกณฑ์ที่กคศ. ก าหนด และใช้ กระบวนการ PLC มาด าเนินการพัฒนา ขับเคลื่อนการแก้ไข ปัญหาที่เกิดจากกิจกรรมการเรียน การสอนได้อย่างต่อเนื่อง แผนพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น แผนปฏิบัติงานที่ 1 โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย แผนปฏิบัติงานที่ 2 โครงการศึกษาแหล่งเรียนรู้ แผนปฏิบัติงานที่ 3 โครงการประเมินภายในสถานศึกษา แผนปฏิบัติงานที่ 4 โครงการปฐมวัยสุขภาพดีถ้วนหน้า แผนปฏิบัติงานที่ 5 โครงการปรับปรุงสนามเด็กเล่น แผนปฏิบัติงานที่ 6 โครงการไหว้สวย ยิ้มง่าย แต่งกายสะอาด แผนปฏิบัติงานที่ 7 โครงการเติมฝันบัณฑิตน้อย แผนปฏิบัติงานที่ 8 พ่อแม่เป็นครูหนูสุขใจ แผนปฏิบัติงานที่ 9 โครงการจัดท าหลักสูตรปฐมวัย


34 ผลงำนปฏิบัติงำนที่เป็นแบบอย่ำงที่ดี ( Best Practice )หรือนวัตกรรม ( Innovation) ระดับปฐมวัย ควำมเป็นมำและควำมส ำคัญ ของผลงำนหรือนวัตกรรม 1. สภำพปัจจุบันปัญหำ ควำมส ำคัญและควำมจ ำเป็น โครงการ“บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย”เป็นโครงการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระกรุณา พระราชทาน พระราชด าริให้คณะ กรรมการน าไปพิจารณาริเริ่มด าเนินการน าร่องในประเทศไทย โดยได้ทอดพระเนตรตัวอย่างโครงการนี้ คราว เสด็จพระราชด าเนินเยือนประเทศเยอรมนี เมื่อปีพ.ศ. 2552คณะกรรมการโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย จึงได้ติดต่อกับมูลนิธิ Haus der kleinen Forscher โดยการประสานงานของ Mr. Thomas Tillmann เพื่อขออนุญาตน ากิจกรรมนี้มาทดลองท าในประเทศไทย บัดนี้ทั้งสองฝ่ายได้ท าความตกลงร่วมกัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์ของเด็กไทย ยังอยู่ในระดับต่ ากว่าค่าเฉลี่ย อีกทั้งยัง ขาดแคลนนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่จะร่วมมือขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ งานวิจัยยืนยันว่า เราควรสร้าง ทัศนคติที่ดีด้านการเรียนรู้ทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กตั้งแต่ระดับปฐมวัย (อายุ 3-6 ปี) เพราะเป็นช่วงอายุที่มีความสามารถในการเรียนรู้และจดจ ามากที่สุด ซึ่งโครงการได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเป็นแนวทางการ พัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ส าหรับเด็กปฐมวัยอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนโดยเริ่มน าใบงานชุดกิจกรรม การทดลองเรื่อง “น้ า” มาให้เด็ก ๆ ได้สนุกกับการทดลองวิทยาศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจ าวันจนถึง ณ ปัจจุบัน โครงการได้พัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมสร้างความตระหนักและความรู้ ทักษะเชื่อมโยงกับสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน วัตถุประสงค์ 2.1. เพื่อปลูกฝังให้เด็กๆ มีเจตคติที่ดีทางวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติและเทคโนโลยี ด้วย กิจกรรมที่สร้างความสนุก ความเพลิดเพลิน ความสนใจใฝ่รู้และความกระตือรือร้น 2.2. เพื่อฝึกให้เด็กหัดสังเกต รู้จักตั้งค าถาม และค้นหาค าตอบให้ตนเอง 2.3. เตรียมความพร้อมการเป็นนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร หรือทรัพยากรบุคคลที่มีจิตวิทยา ศาสตร์ และมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้า


35 กระบวนกำรด ำเนินงำน 2.2.1. มีแผนงำน/โครงกำร ชัดเจนครอบคลุมภำระงำน ทางโรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโนได้จัดโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ขึ้นไว้ในแผนปฏิบัติงานของทุกปีการศึกษา และจัดท าโครงงานเพื่อเข้ารับตราพระราชทานในทุก สามปีการศึกษา ดังนี้ ที่ กิจกรรม ระยะเวลำ งบประมำณ ผู้รับผิดชอบ 1 ประชุมชี้แจงรายละเอียดโครงงาน เมษายน 2564 คณะครู 2 แต่งตั้งผู้รับผิดชอบโครงการ เมษายน 2564 ฝ่ายบริหาร 3 ครูผู้สอนเข้ารับการอบรมตาม โครงการจากส านักงานเขตพื้นที่ ตามที่เขตพื้นที่ ก าหนด นางสุธาสินี ผิวไหมค า 4 จัดกิจกรรมตามแผนการด าเนินงาน ตลอดปีการศึกษา 2564 ๕,๐๐๐ คณะครูผู้สอนระดับ ปฐมวัย 5 ประเมิน สรุปพัฒนาการ ตุลาคม 2564 เมษายน 2565 นางสุธาสินี ผิวไหมค า 6 ก ากับติดตามการด าเนินงาน ตุลาคม 2564 เมษายน 2565 ผู้บริหาร 7. สรุปและรายงานผล เมษายน 2565 นางสุธาสินี ผิวไหมค า 2.2.2. มีกระบวนกำรด ำเนินตำมแผนงำนเป็นขั้นตอนมีผลกำรบันทึกผลและแสดงผล อย่ำงชัดเจน โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน มีกระบวนการและขั้นตอนการด าเนินงานในโครงการ ดังนี้ 1) โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโนจัดครูผู้สอนเข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการ ส าหรับครู: ผู้น าเครือข่ายท้องถิ่นจะเป็นผู้จัดกิจกรรมการอบรมเชิง ปฏิบัติการให้ครูของโรงเรียนอนุบาลตาม ข้อก าหนด ทั้งการอบรมเชิงปฏิบัติการขั้นที่ 1 และการอบรมเชิง ปฏิบัติการขั้นที่ 2 โดยผู้น าเครือข่ายท้องถิ่น จะเป็นผู้ก าหนดเวลาและสถานที่ และเชิญครูมาเข้าร่วมการอบรม ใน การอบรมแต่ละครั้งโรงเรียนอนุบาลต้อง ส่งครูเข้าร่วมการอบรมอย่างน้อย 2 คน เพื่อน าความรู้ไปใช้ในระยะยาว ในโรงเรียน และทุก  ๆ  ปีจะมีการจัด อบรมเชิง ปฏิบัติการเฉพาะทางขึ้นอีกหนึ่งครั้ง เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่มเติม 2) การส่งมอบสื่อและเอกสารประกอบการเรียนการสอน: ส านักงานโครงการ จะ จัดสื่อและเอกสาร ประกอบการเรียนการสอนส าหรับโรงเรียนอนุบาล ได้แก่ กล่องนักวิทยาศาสตร์น้อย ใบ กิจกรรมทดลอง, แนวทาง การส าหรับท าโครงงาน คู่มือครูแผ่นพับประชาสัมพันธ์แบบฟอร์มต่าง  ๆ เพื่อใช้ใน การท างานของผู้น าเครือข่าย ท้องถิ่น หน้าที่ของหน่วยงานประสานงานเครือข่ายคือ การประสานงานเพื่อขอ สื่อและเอกสารการเรียนการสอนที่จ าเป็นในโครงการส าหรับไปแจกจ่ายครูผู้สอนส าหรับการจัดอบรม 3) ติดต่อนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรพี่เลี้ยง: โครงการปรารถนาอย่างยิ่งให้ โรงเรียนอนุบาลแต่ละแห่ง มีนักวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรพี่เลี้ยงอย่างน้อย 1 คน เพื่อช่วยเหลือครูในการ ถ่ายทอดเนื้อหาวิทยาศาสตร์แก่เด็ก วิธีการคือ การไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนอนุบาลที่ตนเองเป็นพี่เลี้ยงอย่าง สม่ าเสมอ โดยเว้นระยะเวลาอย่างเหมาะสม ช่วยกระตุ้นครูช่วยตอบปัญหา และท าการทดลองร่วมกับเด็ก ผู้น า


36 เครือข่ายท้องถิ่นจะร่วมกับโรงเรียนอนุบาล ค้นหานักวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรพี่เลี้ยงจากผู้ปกครอง หรือ มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย หรือบริษัทต่าง  ๆ  ในท้องถิ่น ของตน 4) เข้าร่วมกิจกรรมเทศกาลบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย: งานนี้จะจัดขึ้นปีละ ๑ ครั้งตาม ค าแนะน า เพื่อการแจกจ่ายสื่อและเอกสารประกอบการเรียนการสอน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการ จัดพิมพ์สูง หน่วยงานผู้น าเครือข่ายท้องถิ่น ควรดูแลให้มีการใช้สื่อและเอกสารอย่างประหยัดและประสิทธิภาพ มากที่สุด โดยสื่อและเอกสารประกอบการเรียนการสอนดังกล่าวจะไม่ได้รับอนุญาต ให้น าไปจ าหน่ายต่อ หรือ ใช้เพื่อการพาณิชย์ใด ๆ ทั้งสิ้น 9 ก าหนดการที่ส านักงานโครงการ “บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย” เป็นผู้ก าหนด ซึ่งทางโครงการจะ ประชาสัมพันธ์ให้ทราบล่วงหน้า งานนี้มีความส าคัญมากและเป็นโอกาสดีที่ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้มาพบเจอกัน ดังนั้นผู้น าเครือข่ายท้องถิ่นและโรงเรียนอนุบาลที่เข้าร่วมโครงการไม่ควร พลาดเข้าร่วมงานนี้เป็นอย่างยิ่ง 5)จัดกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติมให้โรงเรียนอนุบาล: โครงการมีความยินดีให้ผู้น าเครือข่าย ท้องถิ่นจัดหา กิจกรรมเพิ่มเติมให้ครูเด็กและผู้ปกครองด้วยตนเอง ซึ่งอาจจะเป็นการอบรมหรือสัมมนาเพิ่มเติม การจัดประชุม โดยสม่ าเสมอ วันที่มีกิจกรรมทดลองร่วมกัน หรือวันนัดพบผู้ปกครอง โดยกิจกรรมเหล่านี้ต้อง ไม่ขัดแย้งกับ แนวทางหลักของ “บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย” 6) การประเมินคุณภาพและรับรองโรงเรียนอนุบาลเป็น“บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย”: ผู้น า เครือข่าย ท้องถิ่นจะร่วมประเมินคุณภาพการอบรม เอกสารการท างานและการรับรองโรงเรียนอนุบาล โดย จะสุ่มตรวจสอบ ความสมบูรณ์ของเอกสารที่จ าเป็นต่อการรับรอง และส่งมอบต่อให้ส านักงานโครงการ ผู้มอบ ใบเกียรติบัตรรับรอง ให้โรงเรียนอาจเป็นผู้น าเครือข่ายท้องถิ่นหรือผู้สนับสนุนของโรงเรียนอนุบาล จากนั้นทาง ผู้น าเครือข่ายท้องถิ่นจะ รายงานต่อส านักงานโครงการปีละครั้ง เกี่ยวกับสถานภาพและผลการด าเนินงานของ โรงเรียนอนุบาลที่เข้าร่วม


37 กระบวนกำรด ำเนินงำน การประชุมวางแผนงาน อบรมเชิงปฏิบัติการ ขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 อบรมเฉพาะทางที่ทาง เขตพื้นที่จัดขึ้น จัดการเรียนรู้ผ่านการ ทดลอง ๒๐ กิจกรรม จัดท า โครงงาน ๑ โครงงาน ผู้บริหาร/เขตพื้นที่ประเมินผลเพื่อรับ ตราพระราชทาน ผ่าน ไม่ผ่าน สรุปผล/ผู้บริหาร/เขต พื้นที่ประเมินผล กิจกรรม ๒๐ กิจกรรม รับโล่รางวัลตราพระราชทาน


38 2.3 ผลกำรด ำเนินงำน 1. ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน 1.1. เด็กในระดับปฐมวัยมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ สติปัญญาสมวัย 1.2. เด็กในระดับปฐมวัยมีทักษะกระบวนการคิด คิดแก้ปัญหา และคิดอย่าง สร้างสรรค์ 1.3. เด็กในระดับปฐมวัยมีเจตคติที่ดีทางวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติและเทคโนโลยี ด้วยกิจกรรมที่สร้างความสนุก เพลิดเพลิน ความสนใจใฝ่รู้และความกระตือรือร้น 1.4. เด็กในระดับปฐมวัยรู้จักการสังเกต รู้จักตั้งค าถาม และค้นหาค าตอบให้กับ ตนเอง 1.5. เด็กมีความพร้อมการเป็นนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร หรือทรัพยากรบุคคลที่มี จิตวิทยาศาสตร์ และมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้า ผู้เรียนมีทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ระดับกลุ่มเครือข่าย จนได้รับรางวัล การประกวด แข่งขันในกิจกรรมต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 การปั้นดินน้ ามัน ระดับชั้นปฐมวัย 2) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันฉีก ติด ปะ ระดับปฐมวัย 2. ส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อสถำนศึกษำ/ผู้บริหำร 2.1. โรงเรียนเป็นที่ยอมรับและศรัทธาต่อผู้ปกครองและชุมชนผ่านการประเมิน กิจกรรมบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยแห่งประเทศไทย สามารถด าเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพจนประสบ ความส าเร็จ คือ - ได้รับตราพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณให้เป็น “โรงเรียน บ้านนัก วิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย” จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3. เกิดประโยชน์ต่อกำรศึกษำในภำพรวม มีการด าเนินงานที่เข้มแข็งมีประสิทธิภาพ นักเรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ มี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีทักษะชีวิต ที่ดีในการด ารงชีวิต อย่างมีความสุขและปลอดภัย มีความพร้อมการ เป็นนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร หรือทรัพยากรบุคคลที่มีจิตวิทยาศาสตร์ และมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่จะ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้า ซึ่งส่งผลให้นักเรียนสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และประสบความส าเร็จ 4 เกิดประโยชน์ต่อผู้ปกครอง ชุมชน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกำรจัดกำรเรียนรู้ โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาประเภทขนาดกลาง ในสังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 เน้นการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับภาคี เครือข่ายทุกภาคส่วน 4.1. ผู้ปกครองให้ความร่วมมือสนับสนุนการจัดกิจกรรมของเด็กในระดับปฐมวัย 4.2. ผู้ปกครองมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวครูในการสนับสนุน เข้าร่วมกิจกรรม พัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเนื่องด้วยความเต็มใจและร่วมพัฒนาเด็กได้อย่างดียิ่ง 4.3. ผู้ปกครองให้ความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการของโรงเรียน โดยส่งบุตรหลาน เข้ามาเรียน


39 4.4. ชุมชนมีความมั่นใจในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน 4.5. ชุมชนมีความภาคภูมิใจ ศรัทธาต่อโรงเรียน และช่วยกันพัฒนาโรงเรียนเพิ่มขึ้น 4.6. สร้างเครือข่ายในชุมชน ในกลุ่มโรงเรียน อ าเภอ และส านักงานเขตพื้นที่ การศึกษา เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และพัฒนา ปรับปรุงในส่วนที่บกพร่อง ให้ดียิ่งขึ้น 4.7. ประสานกับชุมชน สร้างความตระหนัก ให้ชุมชนได้เห็นความส าคัญของการ พัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ 2.3.6) สรุปประโยชน์ที่ได้จำกกำรด ำเนินงำน กำรขยำยผล และกำรเผยแพร่ผลกำร ด ำเนินงำน โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน ได้รับการยกย่องชมเชยและสนับสนุนการด าเนินงาน ในการจัดการบริหารการศึกษาระดับปฐมวัย เป็นที่ยอมรับของสังคม และได้เข้าร่วมการพัฒนาระบบการจัด การศึกษา การส่งผลงานเข้าประกวดในโอกาส ของส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนครเขต 3 ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และโรงเรียนได้รับการประเมินนิเทศ การคัดเลือกสถานศึกษาเพื่อรับโล่รางวัล ตราพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รำงวัลที่ได้รับ - - ได้รับตราพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


40 ภำคผนวก


41 ประกาศโรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย และ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ................................................................. โดยที่มีการประกาศใช้กฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ที่ปรับปรุงใหม่ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการ ประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ประกาศคณะกรรมการการประกันคุณภาพ ภายใน ระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน เรื่อง ก าหนดหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการประกันคุณภาพภายใน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน นโยบายการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 21 ที่ก าหนดเป้าหมายและ ยุทธศาสตร์อย่างชัดเจนในการพัฒนา คุณภาพคนไทยและการศึกษาไทยในอนาคต รวมทั้งอัตลักษณ์และจุดเน้น ของสถานศึกษา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 มาตรา 9(3) ได้ก าหนดการจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการจัดการศึกษา ให้ยึดหลักที่ส าคัญข้อหนึ่งคือมีการ ก าหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา โดย มาตรา 31 ให้กระทรวงมีอ านาจหน้าที่ก ากับดูแลการศึกษาทุกระดับ และทุกประเภท ก าหนดนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษา และมาตรา 48 ให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีระบบประกันคุณภาพ ภายในสถานศึกษา และให้ถือว่าการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารการศึกษาที่ต้อง ด าเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดท ารายงานประจ าปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อน าไปสู่การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษา ฉะนั้น อาศัยอ านาจความในมาตรา 5 มาตรา 9(3) มาตรา 31 และมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 ประกอบกับมติคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการประชุมครั้งที่ 5/2561 เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ เพื่อเป็นหลักในการเทียบเคียงส าหรับสถานศึกษา หน่วยงานต้น สังกัด และส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประกอบกับมติคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชน บ้านกลางนาโน ในการประชุมครั้งที่ 1 /2566 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 จึงประกาศให้ใช้มาตรฐาน การศึกษาระดับปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา โรงเรียน ชุมชนบ้านกลางนาโน ในการพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน ก ากับดูแลและติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ตามเอกสารแนบถ่ายประกาศฉบับนี้ ประกาศ ณ วันที่ 15 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ลงชื่อ.......... ...... ......................... (นายสมพงค์ ดีวันไชย) ผู้อ านวยการโรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน


42 มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับปฐมวัย แนบท้ำยประกำศโรงเรียนชุมชนบ้ำนกลำงนำโน เรื่อง ให้ใช้มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับปฐมวัย ฉบับลงวันที่ 12 พฤษภำคม 2561 ………………………………………………………………………….. มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย พ.ศ. 2561 เพื่อการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนชุมชนบ้าน กลางนาโน มีจ านวน 3 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นส าคัญ แต่ละมาตรฐาน มีรายละเอียด ดังนี้ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก 1.1 มีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ 1.2 มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และแสดงออกทางอารมณ์ได้ 1.3 มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม 1.4 มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหาความรู้ได้ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ 2.1 มีหลักสูตรครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น 2.2 จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน 2.3 ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ 2.4 จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและเพียงพอ 2.5 ให้บริการสื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ 2.6 มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้มีผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นส าคัญ 3.1 จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้าน อย่างสมดุลเต็มศักยภาพ 3.2 สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติอย่างมีความสุข 3.3 จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย 3.4 ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและน าผลการประเมินพัฒนาการเด็ก ไปปรับปรุงการ จัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก


43 มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน แนบท้ำยประกำศโรงเรียนชุมชนบ้ำนกลำงนำโน เรื่อง ให้ใช้มำตรฐำนกำรศึกษำระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ฉบับลงวันที่ 12 พฤษภำคม 2561 ………………………………………………………………………….. มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2561 เพื่อการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนชุมชนบ้าน กลางนาโน มีจ านวน 3 มาตรฐาน ดังนี้ มำตรฐำนที่ 1 คุณภำพของผู้เรียน 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน 1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน มำตรฐำนที่ 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร มำตรฐำนที่ 3 กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ แต่ละมาตรฐานมีรายละเอียด ดังนี้ มำตรฐำนที่1 คุณภำพของผู้เรียน 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน 1) ความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและการคิดค านวณตาม เกณฑ์ของแต่ละระดับชั้น 2) ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหา 3) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ตามเกณฑ์ของแต่ละระดับชั้น 4) มีความสามารถในการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเหมาะสมตามวัย 5) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรของสถานศึกษา 6) มีความรู้ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ 1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน 1) การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษาก าหนด โดยไม่ขัดกับวิถีชุมชน กฎหมาย และวัฒนธรรมอันดีของสังคม 2) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย 3) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย 4) สุขภาวะทางร่างกายและจิตสังคม มำตรฐำนที่ 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำรของผู้บริหำรสถำนศึกษำ 2.1 การมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษาก าหนดอย่างชัดเจน 2.2 ระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา 2.3 ด าเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพของผู้เรียนรอบด้าน ตามหลักสูตรของสถานศึกษา ทุกกลุ่มเป้าหมาย และด าเนินอย่างเป็นรูปธรรม 2.4 พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ 2.5 จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ 2.6 จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ 2.7 นิเทศ ก ากับ ติดตาม ประเมินผลการบริหารและการจัดการศึกษา


44 มำตรฐำนที่ 3 กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ 3.1 จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสารมารถน าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ 3.2 ใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ 3.3 มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก 3.4 ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และน าผลมาพัฒนาผู้เรียน 3.5 มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ 3.6 จัดการเรียนรู้ STEM บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย


45 ประกำศโรงเรียนบ้ำนชุมชนบ้ำนกลำงนำโน เรื่อง ค่ำเป้ำหมำยมำตรฐำนกำรศึกษำระดับปฐมวัยและระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน เพื่อกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ ………………………………………………… อาศัยอ านาจความในมาตรา 5 มาตรา 9(3) มาตรา 31 และมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 และกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 และประกาศส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง แนวปฏิบัติการด าเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2561 ประกอบกับมติคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน ในการ ประชุมครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 จึงประกาศค่าเป้าหมายมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน ในการพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน ก ากับดูแลและติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ดังนี้


46 ระดับกำรศึกษำปฐมวัย มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา ค่าเป้าหมาย ร้อยละ/ระดับคุณภาพ 2564 2565 2566 มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก ดีเลิศ ยอด เยี่ยม ยอดเยี่ยม 1.1 มีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัย ของตนเองได้ 90 92 93 1.2 มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และแสดงออกทางอารมณ์ได้ 85 87 88 1.3 มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม 90 92 93 1.4 มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และ แสวงหาความรู้ได้ 87 89 90 มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ดีเลิศ ดีเลิศ ดีเลิศ 2.1 มีหลักสูตรครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น 89 91 92 2.2 จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน 90 92 93 2.3 ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ 85 87 88 2.4 จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและเพียงพอ 85 87 88 2.5 ให้บริการสื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการ จัดประสบการณ์ 88 90 91 2.6 มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้มีผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม 87 87 88 มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นส าคัญ ดีเลิศ ดีเลิศ ดีเลิศ 3.1 จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้าน อย่างสมดุลเต็ม ศักยภาพ 90 92 93 3.2 สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติอย่างมีความสุข 85 87 88 3.3 จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย 85 87 88 3.4 ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและน าผลการประเมินพัฒนาการ เด็ก ไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก 85 87 88


47 กำรก ำหนดค่ำเป้ำหมำยของโรงเรียน 1. ศึกษาข้อมูลเดิม ผลการด าเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา และผลการประเมินต่าง ๆ เพื่อเป็น ฐานข้อมูลในการก าหนดค่าเป้าหมาย 2. การก าหนดค่าเป้าหมายแต่ละมาตรฐาน ก าหนดเป็นเกณฑ์ระดับคุณภาพ 5 ระดับ เพื่อให้ สอดคล้องกับการประเมินระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ดังนี้ ตารางเทียบเคียง ระดับ แปลผล ค่าร้อยละ 5 ยอดเยี่ยม 90 – 100 4 ดีเลิศ 80 – 89 3 ดี 70 - 79 2 ปานกลาง 60 - 69 1 ก าลังพัฒนา ต่ ากว่า 60


48 ค ำสั่งโรงเรียนชุมชนบ้ำนกลำงนำโน ที่ 028 / 2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมกำรประเมินคุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ และจัดท ำรำยงำนกำรประเมินตนเองระดับกำรศึกษำปฐมวัย (SAR) ปีกำรศึกษำ 2565 …………………………………………………………………………………………………………………………………………. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หมวด 6 ว่าด้วยมาตรฐานประกันคุณภาพ การศึกษา มาตรา 47 ให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุก ระดับ ประกอบด้วยระบบประกันภายในและระบบการประกันคุณภาพภายนอกระบบหลักเกณฑ์และวิธีการ ประกันคุณภาพการศึกษาให้เป็นไปตามที่ก าหนดในกฎกระทรวง มาตรา 48 ให้หน่วยงานต้นสังกัดและ สถานศึกษาจัดให้มีระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาและให้ถือว่าการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วน หนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษาที่ต้องด าเนินการอย่างต่อเนื่องและตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 หมวด 2 การประกันคุณภาพภายในของ สถานศึกษาที่ก าหนดให้มีคณะกรรมการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาให้ได้มาตรฐานอย่างเป็นระบบมีประสิทธิภาพอันส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพ การศึกษา โดยมีการจัดท ารายงานประจ าปีเสนอหน่วยงานต้นสังกัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเปิดเผยต่อ สาธารณชน เพื่อน าไปสู่การพัฒนาและมาตรฐานการศึกษาและเพื่อรองรับการประกันคุณภาพภายนอก โรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน จึงแต่งตั้งบุคคลในท้ายค าสั่งนี้เป็นคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายใน สถานศึกษา เพื่อท าการประเมินมาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แล้วเสร็จ ดังต่อไปนี้ 1. นางสุธาสินี ผิวไหมค า ครู วิทยฐานะครูช านาญการ ประธานกรรมการ 2. นางปัญญา ต่ายเนาว์ดง ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ กรรมการ 3. นางสาวกชกร เถาตาจันทร์ ครูอัตราจ้าง กรรมการ 4. นางสาวพิชญา ศรีฤทธิ์ ครูอัตราจ้าง กรรมการ 5.นางสาววิไลพร ขอบเมืองฮาม ครู ค.ศ.1 กรรมการ มีหน้ำที่ ด าเนินการรวบรวมข้อมูลจัดท ารายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ปีการศึกษา 2565 เพื่อน าเสนอต่อคณะกรรมการสถานศึกษาและเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งด าเนินการประเมินตรวจสอบตามรูปแบบการประเมินให้ได้ข้อมูลครบถ้วน ถูกต้อง ตามสภาพความเป็นจริงที่สุด จัดส่งหน่วยงานต้นสังกัด จ ำนวน 1 เล่ม ภำยในวันที่ 5 พฤษภำคม 2565 ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยอันจะยังส่งผลให้เป็นไปตามทิศทางและวัตถุประสงค์การพัฒนา การศึกษาสู่มาตรฐานการศึกษาต่อไป ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 5 เดือน เมษายน พ.ศ. 2566 สั่ง ณ วันที่ 5 เดือน เมษายน พ.ศ. 2566 รำงวัลที่ภำคภูมิใจ ประจ ำปีกำรศึกษำ 2565 (ลงชื่อ) (นางสมพงค์ ดีวันไชย) ผู้อ านวยการโรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน


49 รำงวัลระดับ สถำนศึกษำ ที่ ชื่อกิจกรรมที่ได้รับรำงวัล ระดับรำงวัล หน่วยงำน ที่จัด หลักฐำน 1 ได้เข้าร่วมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และจัด นิทรรศการน าเสนอผลงานการบริหารจัดการ ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามโครงการ คัดเลือกส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อรับ รางวัลระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนระดับ ภูมิภาค(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ประจ าปี ๒๕๖๔ - เขตพื้นที่ การศึกษา 2 รางวัลระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ประจ าปี 2565 ระดับดีเยี่ยม สพป. สกลนคร เขต 3 3 ผ่านการประเมินสถานศึกษาปลอดบุหรี่และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปีงบประมาณและเป็น สถานศึกศึกษาต้นแบบต่อเนื่องใน ปีงบประมาณ2565-2568 - จังหวัด สกลนคร 4 เป็นสถานศึกษาที่มีส่วนร่วมในด าเนินการคัด กรองผู้มีอาการมึนเมาสุราเบื้องต้นปี2565 - จังหวัด สกลนคร 5 เป็นโรงเรียนรอบรู้ด่านสุขภาพ จากกระทรวง สาธารณสุข กระทรวง สาธารณสุข กรม อนามัย


50 รำงวัลนักเรียน ที่ ชื่อกิจกรรมที่ได้รับรำงวัล ระดับรำงวัล หน่วยงำน ที่จัด หลักฐำน .1 เด็กหญิงปรีชยา มุดผา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 กิจกรรมการ แข่งขันปั้นดินน้ ามัน ระดับชั้นอนุบาล งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่70 ระดับศูนย์ ศูนย์ เครือข่าย ใบประกาศ 2 เด็กหญิงบุญยาพร บุรชาติ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 กิจกรรมการ แข่งขันปั้นดินน้ ามัน ระดับชั้นอนุบาล งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่70 ระดับศูนย์ ศูนย์ เครือข่าย ใบประกาศ 3 เด็กหญิงณัฐกมล ธิอินทิ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 กิจกรรมการ แข่งขันปั้นดินน้ ามัน ระดับชั้นอนุบาล งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่70 ระดับศูนย์ ศูนย์ เครือข่าย ใบประกาศ 4 เด็กหญิงพัชรินทร์ สิงห์งอย ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 กิจกรรมการ แข่งขันฉีก ตัด ปะ ระดับชั้นอนุบาล งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่70 ระดับศูนย์ ศูนย์ เครือข่าย ใบประกาศ 5 เด็กหญิงนันทิกานต์ เพื่อนใจมี ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 กิจกรรมการ แข่งขันฉีก ตัด ปะ ระดับชั้นอนุบาล งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่70 ระดับศูนย์ ศูนย์ เครือข่าย ใบประกาศ 6 เด็กหญิงจิรภิญญา สมใจ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 กิจกรรมการ แข่งขันฉีก ตัด ปะ ระดับชั้นอนุบาล งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่70 ระดับศูนย์ ศูนย์ เครือข่าย ใบประกาศ


Click to View FlipBook Version