The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kamonchaichannel44, 2020-01-10 03:39:13

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ สังคมออนไลน์

12345

ความรู้เบื้องต้น









เกี่ยวกับ









สังคมออนไลน์

01













ความหมายของสังคมออนไลน์

สังคมออนไลน์ ตรงกับภาษาอังกฤษว่า social online หรือ social media ซึ่งนิยมเรียกกัน


คือ social media มีความหมายดังต่อไปนี้

ค าว่า “social” หมายถึง สังคมในที่นี้จะหมายถึงสังคมออนไลน์ ซึ่งมีขนาดใหญ่มากใน


ปัจจุบัน ส่วนค าว่า “media” หมายถึง สื่อ ก็คือ เนื้อหา เรื่องราว บทความ วิดีโอ เพลง รูปภาพ

เป็นต้น


ดังนั้น ค าว่า social media จึงหมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้


หลายทิศทาง โดยผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ในรูปแบบบทความ วิดีโอ เพลง รูปภาพ ฯลฯ

โดยผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก (social media) ที่ให้บริการบนออนไลน์ ซึ่งในเนื้อหาต่อไปนี้ จะใช้


ค าว่า สังคมออนไลน์ (social network)

02














ประเภทของสังคมออนไลน์

ประเภทของสังคมออนไลน์







ประเภทของสังคมออนไลน์ มีหลายชนิดอยู่กับลักษณะของการน ามาใช้โดยสามารถแบ่งเป็นกลุ่ม


หลัก ดังนี้

1.weblogs หรือเรียกสั้นๆ blogs คือ สื่อส่วนบุคคลบนอินเทอร์เน็ตที่ใช้เผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร


ความรู้ ข้อคิดเห็น บันทึกส่วนตัว สามารถแบ่งบันให้บุคคลอื่นๆ โดยบุคคลที่ต้องการเรียนรู้ สามารถ

เข้าไป อ่านหรือแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ ซึ่งการแสดงเนื้อหาของบล็อกนั่นจะเรียงล าดับจาก


เนื้อหาใหม่ไปสู่เนื้อหาเก่า ผู้เขียนและผู้อ่านสามารถค้นหาเนื้อหาย้อนหลังเพื่ออ่านและแก้ไขเพิ่มเติม


ได้ตลอดเวลา เช่น oknation, bloggang, exteen, wordpress, bolgger

ประเภทของสังคมออนไลน์








2. social networking หรือเครือข่ายทางสังคมอินเทอร์เน็ต เป็นเครือข่ายทางสังคมที่ใช้ส าหรับ

เชื่อมต่อระหว่าง บุคคลหรือกลุ่มบุคคลเพื่อให้เกิดเป็นกลุ่มสังคม (social community) เพื่อ


ร่วมกันแลกเปลี่ยนและแบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน ทั้งด้านธุรกิจ การเมือง การศึกษา ที่นิยมใช้


มากที่สุดในขณะนี้ คือ facebook ผู้ก่อตั้ง คือ mark Zuckerberg (มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก) นอกจากนี้

ในส่วนของ social networking ยังมีอีกมากมาย เช่น myspace, hi5, ning, linked in, youmeo,


friendste

ประเภทของสังคมออนไลน์






3. micro blogging และ micro sharing หรือที่เรียกกันว่า “บล็อกจิ๋ว” เป็นเว็บเซอร์วิสหรือ


เว็บไซต์ที่ให้บริการแก่บุคคลทั่วไป ส าหรับให้ผู้ใช้บริการเขียนข้อความสั้น ๆ ประมาณไม่


เกิน 140 ตัวอักษร ที่เรียกว่า “status” หรือ “notice” เพื่อแสดงสถานะของตัวเองว่าก าลัง

ท างานอะไรอยู่ หรือแจ้งข่าวสารต่าง ๆ แก่กลุ่มเพื่อนในสังคมออนไลน์ (online social


network) ทั้งนี้ การก าหนดให้ใช้ข้อมูลในรูปแบบข้อความสั้น ๆ ก็เพื่อให้ผู้ใช้ที่เป็นทั้งผู้เขียน

และผู้อ่านเข้าใจง่าย ที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย คือ twitter

ประเภทของสังคมออนไลน์






4. online video เป็นเว็บไซต์ที่ใช้บริการวิดีโอออนไลน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบัน


ได้รับความนิยมอย่างยิ่งและขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเนื้อหาที่น าเสนอในวิดีโอ

ออนไลน์ไม่ถูกจ ากัดโดยผังรายการที่แน่นอน ท าให้ผู้ใช้บริการสามารถติดตามชมได้


อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผู้ใช้สามารถชมเนื้อหาได้ตามความต้องการ โดยเฉพาะดูละคร


โทรทัศน์ย้อนหลัง และยังสามารถจัดท าวิดีโอน าเสนอผลงานหรือเนื้อหาที่สนใจเพื่อให้

ผู้อื่นเข้ามาดูได้อีกด้วย เช่น youtube, msn, yahoo

ประเภทของสังคมออนไลน์






5. photo sharing เป็นเว็บไซต์ที่เน้นให้บริการฝากรูปภาพ โดยผู้ใช้บริการสามารถอัพโหลด


(upload) และดาวน์โหลด (download) รูปภาพเพื่อน ามาใช้งานได้ ที่ส าคัญนอกเหนือจาก

ผู้ใช้บริการจะมีกาศแบ่งปันรูปภาพแล้ว ยังสามารถเพื่อใช้เป็นพื้นที่เสนอขายภาพที่ตนเอง


น าเข้าไปฝากได้อีกด้วย เช่น flickr, photobucket, photoshop, express, zoom

ประเภทของสังคมออนไลน์







6. wikis เป็นเว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็นแหล่งข้อมูลหรือความรู้ (data/knowledge) ซึ่ง


ผู้เขียนส่วนใหญ่อาจจะเป็นนักวิชาการ นักวิชาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน

ต่าง ๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและการศึกษา ซึ่งผู้ใช้สามารถเขียน


หรือแก้ไชได้อย่างอิสระ เช่น Wikipedia, google earth, diggzy favorites online

ประเภทของสังคมออนไลน์







7. virtual worlds คือการสร้างโลกจินตนาการโดยจ านองส่วนหนึ่งชองชีวิตลงไป จัดเป็นสื่อสังคม

ออนไลน์ที่บรรดาผู้ท่องโลกไซเบอร์ (world cyber) ใช่เพื่อสื่อระหว่างกันบนอินเทอร์เน็ตในลักษณะ


โลกเสมือนจริง (virtual reality) ซึ่งผู้ที่จะเข้าไปใช้บริการอาจจะเป็นบริษัทหรือองค์กรด้านธุรกิจ ด้าน


การศึกษา รวมกันองค์กรด้านสื่อ เช่น ส านักข่าวรอยเตอร์ ส านักข่าวซีเอ็นเอ็น ทั้งนี้ ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ในการซื้อ เพื่อให้บุคคลในบริษัทหรือองค์กรได้มีช่องทางการน าเสนอเรื่องราวต่าง ๆ ไปยังกลุ่ม


เครือข่ายผู้ใช้สื่อออนไลน์ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทหรือองค์กรก็ได้ ปัจจุบันเว็บไซต์ที่ใช้

หลัก virtual worlds ได้ประสบผลส าเร็จและมีชื่อเสียง คือ second life

ประเภทของสังคมออนไลน์






8. crowd sourcing มาจากการรวมของค าสองค า คือ crowd และ outsourcing เป็นหลักการขอความ


ร่วมมือจากบุคคลในเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยสามารถจัดท าในรูปแบบของเว็บไซต์ที่มี

วัตถุประสงค์หลักเพื่อค้นหาค าตอบและวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งทางธุรกิจ การศึกษา รวมทั้งการ


สื่อสาร โดยอาจจะเป็นการขอความร่วมมือจากเครือข่ายทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไปหรือ


ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาช่วยตรวจสอบข้อมูล เสนอความคิดเห็นหรือให้ข้อเสนอแนะ ข้อดีของการใช้

หลัก crowd souring คือ ท าให้เกิดความหลากหลายทางความคิด เพื่อน าไปสู่การแก้ปัญหาที่มี


ประสิทธิภาพ ตลอดจนช่วยตรวจสอบหรือคัดกรองข้อมูลซึ่งเป็นปัญหาสาธารณะร่วมกันได้ เช่น idea

storm, mystarbucks idea

ประเภทของสังคมออนไลน์







9. podcasting หรือ podcast มาจากรวมตัวของค าสองค า คือ “pod” กับ “broadcasting” ซึ่ง “pod”


หรือ personal on-demand คือ อุปสงค์หรือความต้องการส่วนบุคคล ส่วน “broadcasting” เป็นการ


น าสื่อต่าง ๆ มารวมกันในรูปของภาพและเสียง หรืออาจกล่าวง่าย ๆ ว่า podcast คือ การบันทึกภาพ

และเสียงแล้วน าไปลงในเว็บเพจ(web pageX) เพื่อเผยแพร่ให้บุคคลภายนอก (the public in


general) ที่สนใจดาวน์โหลด (download) เพื่อน าไปใช้งาน เช่น dual geek podcast, wiggly podcast

ประเภทของสังคมออนไลน์










10. discuss/review/opinion เป็นเว็บบอร์ดที่ผู้ใช้


อินเทอร์เน็ตสามารถแสดงความคิดเห็น โดยอาจจะ


เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ประเด็นสาธารณะทาง

การเมือง เศรษฐกิจ สังคม เช่น epinions moutshut,


yahoo! Answer, pantip, yelp

03












วัตถุประสงค์ของสังคมออนไลน์

วัตถุประสงค์ของสังคมออนไลน์






1.เผยแพร่ตัวตน (Identity Network) เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่มุ้งเน้นการน าเสนอ


ตัวตนของผู้ใช้งาน เรื่องราวของตัวเอง ภาพถ่ายของตัวเอง เช่น Facebook, Twitter

เป็นต้น


2.เผยแพร่ผลงาน (Creative Network) เป็นเว็บไซต์ที่เน้นผลงานของเจ้าของผลงาน


มากกว่าตัวตนของเจ้าของผลงานส่วนมากเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กประเภทนี้มัก

รวมผู้คนที่ท างานประเภทเดียวกันไว้ด้วยกัน เช่นเว็บไซต์รวมนักเขียนนิยาย


เว็บไซต์รวมคนรักการถ่ายภาพ ฯลฯ ซึ่งการสร้างเครือข่ายลักษณะนี้มักใช้ในการ

หาลูกค้าหรือเพื่อนร่วมอาชีพเป็นส าคัญ

วัตถุประสงค์ของสังคมออนไลน์





3.ความสนใจกัน (Interested Network) เว็บไซต์ประเภทนี้คล้าย ๆ กับเว็บไซต์เผยแพร่

ผลงาน คือ รวบรวมผู้ที่สนใจในเรื่องเดียวกันมาไว้ด้วยกัน แต่ต่างกันที่ Interested


Network เจ้าของเว็บไซต์ไม่ต้องเป็นเจ้าของผลงาน เพียงแต่ท าการแชร์ลิงก์ หรือ


เว็บไซต์ที่ตัวเองสนใจ เช่น Pinterest, Zickr เป็นต้น

วัตถุประสงค์ของสังคมออนไลน์





4.โลกเสมือน (Virtual life/Game online) เป็นลักษณะการจ าลองตัวของผู้ใช้งาน


เป็นตัวละครตัวหนึ่งในเกมหรือสถานการณ์สมมติ โดยมีเรื่องราวหรือภารกิจให้

ปฏิบัติ อาจจะปฏิบัติโดยล าพังแข่งกับผู้เล่นคนอื่นหรือร่วมกันเป็นทีมก็ได้ โดยใน


ระหว่างเล่นสามารถพูดคุยหรือสื่อสารกับผู้เล่นอื่น ๆ ได้ ท าให้มีลักษณะเป็น


Social Network แบบหนึ่ง เช่น call of duty, Black Desert, Dota, GTA V เป็นต้น

04
















ประโยชน์ของสังคมออนไลน์

ประโยชน์ของสังคมออนไลน์






สังคมออนไลน์มีทั้งประโยชน์และโทษ ผู้ใช้จะต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมใน


การใช้สังคมออนไลน์ ซึ่งในส่วนของประโยชน์ มีดังนี้

1.ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในสิ่งที่สนใจร่วมกันได้ เพราะสามารถเสนอและ


แสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนความรู้ หรือตั้งค าถามในเรื่องต่างๆ เพื่อให้บุคคลอื่น

ที่สนใจหรือมีค าตอบสามารถเข้ามาตอนค าถามได้


2.เป็นคลังข้อมูลความรู้ขนาดใหญ่ที่สามรถเข้าไปค้นหาข้อมูลได้

3.ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่น ท าให้มีความสะดวกรวดเร็ว

วัตถุประสงค์ของสังคมออนไลน์




4.เป็นสื่อในการน าเสนอผลงานของตัวเอง เช่น บทความ ผลงานการวิจัย งาน


เขียน รูปภาพ วิดีโอ ต่างๆ ให้ผู้อื่นได้เข้ามารับชมและแสดงความคิดเห็น


5.ใช้เป็นสื่อในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือบริการลูกค้าส าหรับบริษัทและ

องค์กรต่างๆ ช่วย สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า

วัตถุประสงค์ของสังคมออนไลน์







6.ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ผู้ใช้งาน เกิดการจ้างงานแบบใหม่ๆ ขึ้น

7.ช่วยให้มีการผ่อนคลายจากการท างาน เพราะผู้ใช้สามารถหาเพื่อนคุยได้


8.สร้างความสัมพันธ์ที่ดีจากเพื่อนสู่เพื่อนได้

05









โทษของสังคมออนไลน์

โทษของสังคมออนไลน์





สังคมออนไลน์ถึงแม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีโทษอยู่บ้าง ฉะนั้น


ผู้ใช้ต้องพึงใช้ในส่วนที่เป็นประโยชน์ให้มาก และป้องกันมิให้เกิดผลเสียจากการ


ใช้สังคมออนไลน์ ทั้งนี้โทษของสังคมออนไลน์ มีดังนี้

1. เว็บไซต์ให้บริการบางแห่งอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป หาก


ผู้ใช้บริการไม่ระมัดระวังในการกรอกข้อมูล อาจถูกผู้ไม่หวังดีน ามาใช้ในทาง

เสียหาย หรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้


2. สังคมออนไลน์เป็นสังคมที่กว้าง หากผู้ใช้รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดวิจารณญาณ

อาจถูกหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ต หรือการนัดพบกันเพื่อจุดประสงค์รายได้

วัตถุประสงค์ของสังคมออนไลน์






3. เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้าง เพราะสังคม

ออนไลน์เป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงาน รูปภาพต่างๆ ให้บุคคลอื่นได้ดูและแสดงความ


คิดเห็น

4. ข้อมูลที่ต้องกรอกเพื่อสมัครสมาชิกและแสดงบนเว็บไซต์ในรูปแบบสังคมออนไลน์


ยากแก่การตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ดังนั้น อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ก าหนดอายุ


การสมัครสมาชิก หรือการถูกหลอกโดยบุคคลที่ไม่มีตัวตนได้

5. ผู้ที่เข้าใช้สังคมออนไลน์และอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจจะสายตาเสีย


ได้

6. ถ้าผู้ใช้หมกมุ่นอยู่กับสังคมออนไลน์มากเกินไป อาจท าให้เสียการเรียนหรือผลการ


เรียนตกต ่าลงได้ จะท าให้เสียเวลาถ้าผู้ใช้ใช้อย่างไร้ประโยชน์

06












ข้อควรระวังเกี่ยวกับสังคมออนไลน์

ข้อควรระวังเกี่ยวกับสังคมออนไลน์






เนื่องจากสื่อสังคมออนไลน์ เป็นเครื่องมือที่มีทั้งประโยชน์และโทษที่ควร


ระวังโดยเฉพาะข้อมูลข่าวสารบางอย่างที่เผยแพร่ออกสู่สาธารณะไปแล้วอาจไม่


สามารถเรียกกลับคืนได้ และอาจก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อตนเอง ต่อผู้อื่น และ

ต่อองค์กร จึงมีข้อควรระวังเพื่อเป็นแนวปฏิบัติส าหรับผู้ที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์


(Social Network) ดังนี้

1. พึงตระหนักว่าข้อความหรือความเห็นที่เผยแพร่บนสังคมออนไลน์ เป็นข้อความที่


สามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะ ผู้เผยแพร่ต้องรับผิดชอบทั้งทางด้านสังคมและ


กฎหมาย นอกจากนี้ ยังอาจมีผลกระทบต่อชื่อเสียง การท างาน และอนาคตของ

วิชาชีพของตนได้

วัตถุประสงค์ของสังคมออนไลน์





2. ใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการเผยแพร่ความคิดเห็นที่อาจกระตุ้นหรือน าไปสู่


การโต้แย้งที่รุนแรง เช่น เรื่องเกี่ยวกับการเมืองหรือศาสนา


3. ต้องไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น หากต้องการกล่าวอ้างถึงแหล่งข้อมูลที่

สนับสนุนข้อความของตน ควรให้การอ้างอิงถึงแหล่งข้อมูลนั้นอย่างชัดเจน


4. หากต้องการสร้าง Page หรือ Account ที่เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลอย่าง


เป็นทางการแต่กรณี ต้องแจ้งรายชื่อของผู้ดูแล Page(Admin) หรือเจ้าของ Account

นั้นทราบด้วย

วัตถุประสงค์ของสังคมออนไลน์





5. พึงตระหนักว่าการใช้สังคมออนไลน์นั้น การแบ่งแยกระหว่างเรื่องส่วนตัวและ


เรื่องหน้าที่การงานเป็นสิ่งที่ท าได้ยาก หากประสงค์จะใช้สังคมออนไลน์เพื่อเผยแพร่

ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องหน้าที่การงานหรือข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยงาน ควรแยกบัญชีผู้ใช้


(Account)ระหว่างการใช้เพื่อเรื่องส่วนตัว เพราะถ้าเรื่องส่วนตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่ม


หน้าที่การงาน ก็จะท าให้เสียหายกับสิ่งที่ไม่ควรเผยแพร่ หรือเรื่องหน้าที่การงานไป

อยู่ในกลุ่มส่วนตัว อาจท าให้ความลับของหน้าที่การงานถูกเผยแพร่ให้กับผู้ที่ไม่


สมควรได้รับ

07









ระบบ Social Network

ระบบ Social Network




ระบบ Social Network หรือระบบสังคมออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ประกอบด้วย อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และอุปกรณ์เครือข่าย(Network) ดังนี้


ฮาร์ดแวร์ ประกอบด้วย

คอมพิวเตอร์ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ส่วน


บุคคล (PC) หรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค (Notebook)

ระบบ Social Network




สมาร์ทโฟน (SmartPhone) คือ โทรศัพท์มือถือที่นอกเหนือจากใช้โทรออก-รับสายแล้ว


ยังมีแอพพลิเคชั่นให้ใช้งานมากมาย สามารถรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน 3G,

Wi-Fi และใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กและแอพพลิเคชั่น สนทนาชั้นน า เช่น Line, Youtube,


Facebook, Twitter ฯลฯ โดยที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่งลูกเล่นการใช้งานสมาร์ทโฟนให้

ตรงกับความต้องการได้มากกว่าโทรศัพท์มือถือธรรมดา

ระบบ Social Network





สมาร์ททีวี (Smart TV) เป็นการพัฒนาจากโทรทัศน์แบบ LCD มาเป็น Smart TV ซึ่ง

นอกจากจะดูโทรทัศน์ปกติแล้ว ยังใช้ในรูปแบบของสังคมออนไลน์ (Social Network)


คือ สามารถที่จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

ระบบ Social Network




แท็บเล็ต (Tablet) คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีหน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ มีขนาด

หน้าจอตั้งแต่ 7 นิ้วขึ้นไป พกพาได้สะดวก สมารถใช้งานหน้าจอผ่านการสัมผัสกับ


ปลายนิ้วได้โดยตรง มีแอพพลิเคชั่นมากมายให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะรับ-ส่งอีเมล เล่น

อินเทอร์เน็ต


ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือแม้กระทั่งใช้ท างานเอกสารออฟฟิศ ข้อดีของแท็บเล็ต คือ


มีหน้าจอที่กว้างท าให้มีพื้นที่การใช้งานมาก มีน ้าหนักเบา พกพาได้สะดวกกว่า

โน้ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ สามารถจดบันทึกหรือใช้เป็นอุปกรณ์เพื่อการศึกษาได้อย่างดี

08









อุปกรณ์เครือข่าย

อุปกรณ์เครือข่าย




เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เครื่องแม่ข่าย เป็นเครื่อง


คอมพิวเตอร์หลักในเครือข่ายที่ท าหน้าที่จัดเก็บและให้บริการไฟล์ข้อมูลและทรัพยากร

อื่นๆ กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ในเครือข่าย โดยปกติคอมพิวเตอร์ที่น ามาใช้เป็น


เซิร์ฟเวอร์มักจะเป็นเครื่องที่มีสมรรถนะสูง และมีฮาร์ดดิสก์ความจ าสูงกว่าคอมพิวเตอร์

ในเครื่องอื่นๆ


ไคลเอนต์(Client) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เครื่องลูกข่าย เป็นคอมพิวเตอร์ใน


เครือข่ายที่ร้องขอบริการและเข้าถึงไฟล์ข้อมูลที่จัดเก็บในเซิร์ฟเวอร์ หรือพูดง่ายๆ คือ

ไคลเอนต์ เป็นคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้แต่ละคนในระบบเครือข่าย

อุปกรณ์เครือข่าย




ฮับ (HUB) หรือรีพีตเตอร์ (Repeater) คือ อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกลุ่ม

คอมพิวเตอร์ ฮับ มีหน้าที่รับส่งเฟรมข้อมูลทุกเฟรมที่ได้รับจากพอร์ตใดพอร์ตหนึ่ง ไปยัง


พอร์ตที่เหลือ คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับฮับและแชร์แบนด์วิธหรืออัตราข้อมูลของ

เครือข่าย ดังนั้น ถ้ามีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อมากจะท าให้อัตราการส่งข้อมูลลดลง


เน็ตเวิร์ก สวิตช์ (Switch) คือ อุปกรณ์เครือข่ายที่ท าหน้าที่ในเลเยอร์ที่ 2 และท า


หน้าที่ส่งข้อมูลที่ได้รับมาจากพอร์ตหนึ่งไปยังพอร์ตเฉพาะที่เป็นปลายทางเท่านั้น และท า

ให้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับพอร์ตที่เหลือส่งข้อมูลถึงกันในเวลาเดียวกัน ดังนั้นอัตราการ


รับ-ส่งข้อมูลหรือแบนด์วิธจึงไม่ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ปัจจุบันนิยมเชื่อมต่อแบบนี้

มากกว่าฮับ เพราะลดปัญหาการชนกันของข้อมูล






ฮับ เน็ตเวิร์ก สวิตซ์

อุปกรณ์เครือข่าย




เราท์เตอร์ (Router) เป็นอุปกรณ์ที่ท าหน้าที่ในเลเยอร์ที่ 3 เราท์เตอร์จะอ่านที่อยู่


(Address) ของสถานีปลายทางที่ส่วนหัว (Header) ขอแพ็กเกจข้อมูล เพื่อที่จะก าหนดและ


ส่งแพ็กเกจต่อไป เราท์เตอร์จะมีตัวจัดเส้นทางในแพ็กเกจ เรียกว่า เราติ้งเทเบิ้ล (Routing

Table) หรือตารางจัดเส้นทาง นอกจากนี้ยังส่งข้อมูลไปยังเครือข่ายที่ให้โพรโทคอลต่าง


กันได้ เช่น IP (Internet Protocol) IPX (Internet Package Exchange)

และ Apple Talk และยังเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นได้ เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ต

อุปกรณ์เครือข่าย



บริดจ์ (Bridge) เป็นอุปกรณ์ที่มักใช้ในการเชื่อมต่อวงแลน(LAN Segments)


เข้าด้วยกันท าให้สามารถขยายขอบเขตของ LAN ออกไปได้เรื่อยๆ โดยที่ประสิทธิภาพ

รวมของระบบไม่ลดลงมากนัก เนื่องจากการติดต่อของเครื่องที่อยู่ในเซกเมนต์เดียวกัน จะ


ไม่ถูกส่งผ่านไปรบกวนการจราจรของเซกเมนต์อื่นเนื่องจากบริดจ์เป็นอุปกรณ์ที่ท างานอยู่


ในระดับ Data Link Layer จึงท าให้สามารถใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายที่แตกต่างกันใน

ระดับ Physical และ Data Link ได้ เช่นระหว่าง Eternet กับ Token Ring เป็นต้น


บริดจ์มักจะถูกใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายย่อยๆ ในองค์กรเข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายใหญ่

เพียงเครือข่ายเดียว เพื่อให้เครือข่ายย่อยๆ เหล่านั้นสามารถติดต่อกับเครือข่ายย่อยๆ


อื่นได้

อุปกรณ์เครือข่าย




เกตเวย์(Gateway) เป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่อเครือข่ายต่างประเภทเข้า


ด้วยกัน เช่น การใช้เกตเวย์ในการเชื่อมต่อเครือข่ายที่เป็นคอมพิวเตอร์ประเภทพีซี (PC)


เข้ากับคอมพิวเตอร์ประเภทแมคอินทอช (MAC) เป็นต้น

จบการน าเสนอ





ขอบคุณครับ


Click to View FlipBook Version