The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัย
Thailand Massive Open Online Course : ThaiMOOC
(การศึกษาแบบเปิด เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต)
รายวิชา “การสร้างวินัยในตนเอง...สำหรับเด็กปฐมวัย”
(PROMOTING EARLY CHILDHOOD CHILDREN SELF-DISCIPLINE)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูปริชญา มาสินธุ์, 2019-12-08 04:10:25

รายงานการอบรม ThaiMOOC รายวิชา “การสร้างวินัยในตนเอง...สำหรับเด็กปฐมวัย”

การเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัย
Thailand Massive Open Online Course : ThaiMOOC
(การศึกษาแบบเปิด เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต)
รายวิชา “การสร้างวินัยในตนเอง...สำหรับเด็กปฐมวัย”
(PROMOTING EARLY CHILDHOOD CHILDREN SELF-DISCIPLINE)

รายงานผล

การเรียนรูด้ ว้ ยตนเองตามอัธยาศัย

Thailand Massive Open Online Course : ThaiMOOC
(การศกึ ษาแบบเปดิ เพ่ือการเรยี นรู้ตลอดชีวติ )

รายวชิ า “การสร้างวินยั ในตนเอง...สำหรับเดก็ ปฐมวยั ”

(PROMOTING EARLY CHILDHOOD CHILDREN SELF-DISCIPLINE)

ของ
นางปรชิ ญา มาสินธุ์
ตำแหนง่ ครู อนั ดับ คศ.3
วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนบ้านสไุ หงโก-ลก
สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานราธวิ าส เขต 2

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธกิ าร

2:

คำนำ

เอกสารเล่มนี้เป็นรายงานผลการเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัยโครงการ Thailand Massive
Open Online Course : ThaiMOOC (การศึกษาแบบเปิด เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต) โดยความร่วมมือของ
สำนกั งานคณะกรรมการอดุ มศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และกระทรวงดิจิทัล
เพื่อเศรษฐกิจและสังคม รายวิชา “การสร้างวินัยในตนเอง...สำหรับเด็กปฐมวัย” (PROMOTING EARLY
CHILDHOOD CHILDREN SELF-DISCIPLINE) จดั โดยมหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช

หวงั ไว้เปน็ อยา่ งยิ่งว่ารายงานสรุปผลเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ในการพฒั นางาน การปรับประยุกต์ใช้
ในการจดั การเรียนการสอน หากมีขอ้ เสนอแนะหรอื ข้อแนะนำจกั ขอบพระคณุ เป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้

นางปรชิ ญา มาสินธุ์
ผู้รายงาน

สารบญั 3:

คำนำ หนา้
สารบญั
บันทกึ ข้อความ 2
รายงานผลการอบรม 3
ภาคผนวก 4
5
สำเนาหนังสอื รบั รองการผ่านการอบรมหลักสูตร 10
ตัวอย่างหลกั สตู รอบรม 11
เนอ้ื หาเพ่ิมเติม 13
13

4:

บนั ทึกขอ้ ความ

ส่วนราชการ โรงเรียนบา้ นสุไหงโก-ลก สงั กัด สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษานราธวิ าส เขต 2
ที่ วันที่ 11 ธนั วาคม 2562
เรอ่ื ง รายงานผลการเรียนรู้ดว้ ยตนเองตามอธั ยาศยั รายวิชา “การสรา้ งวนิ ัยในตนเอง...สำหรับเดก็ ปฐมวัย”

เรยี น ผู้อำนวยการโรงเรยี นบ้านสุไหงโก-ลก

ตามท่ี ข้าพเจา้ นางปรชิ ญา มาสนิ ธุ์ ตำแหนง่ ครู อนั ดบั คศ.3 วิทยฐานะ ครชู ำนาญการพเิ ศษ ได้
ลงทะเบียนเข้ารับการอบรมรายงานผลการเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัยโครงการ Thailand Massive Open
Online Course : ThaiMOOC (การศึกษาแบบเปิด เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต) โดยความร่วมมือของสำนักงาน
คณะกรรมการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงดิจิทัลเพื่อ
เศรษฐกิจและสังคม รายวิชา “การสร้างวินัยในตนเอง...สำหรับเด็กปฐมวัย” (PROMOTING EARLY CHILDHOOD
CHILDREN SELF-DISCIPLINE) จำนวน 10 ชั่วโมงการเรยี นรู้ จัดโดยมหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช

ในการน้ี การอบรมตามโครงการดังกล่าวได้เสรจ็ ส้ินเปน็ ทเ่ี รียบร้อยแล้ว ขา้ พเจา้ ขอรายงานผลการ
อบรม รายละเอยี ดตามเอกสารแนบ

จึงเรยี นมาเพื่อโปรดทราบ

ลงช่ือ..………………………….……………….ผ้รู ายงาน
(นางปรชิ ญา มาสนิ ธ์ุ)

5:

รายงานผลการเรยี นรูด้ ้วยตนเองตามอธั ยาศัย

รายวชิ า “การสร้างวินัยในตนเอง...สำหรับเดก็ ปฐมวัย”
(PROMOTING EARLY CHILDHOOD CHILDREN SELF-DISCIPLINE)

จดั โดยมหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช
********************************************

จากการฝึกอบรมการอบรมตามโครงการ Thailand Massive Open Online Course : ThaiMOOC
รายวิชา “การสร้างวนิ ยั ในตนเอง...สำหรบั เด็กปฐมวัย” จำนวน 10 ชวั่ โมงการเรยี นรู้ สรปุ สาระสำคญั ไดด้ งั นี้

รายละเอยี ดของรายวชิ าอย่างย่อ
วิชา “การสร้างวินัยในตนเอง..สำหรับเด็กปฐมวัย” (Promoting Early Childhood Children Self-

Discipline) นี้ จะทำให้ผู้เรียน ครู ผู้ปกครอง หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจได้เข้าใจถึงความหมาย ความสำคัญ และ
คุณลักษณะของผู้มีวินัยในตนเอง รวมไปถึงทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ปัจจัยที่ส่งผล่อการสร้างวนิ ัยในตนเองให้กับเด็ก แนว
ทางการส่งเสรมิ วินัยในตนเองให้แกเ่ ด็กตั้งแตเ่ ล็ก หลกั การและเทคนิควิธสี ร้างวินัยในนเองให้แก่เด็กไปจนถึงบทบาท
ของพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครตู ่อการสร้างวินัยในตนเองใหแ้ กเ่ ด็ก

ขั้นตอนการเรียนรู้

6:

วตั ถุประสงค์

เพอ่ื ให้ผ้เู รียนสามารถ
1. อธิบายความสำคญั ของการมีวินัยในตนเองได้
2. อธบิ ายทฤษฎที ีเ่ กี่ยวข้องกบั การเกดิ วินัยในตนเองได้
3. อธบิ ายหลักการสร้างวนิ ัยในตนเองใหก้ บั เดก็ ได้
4. อธบิ ายการนำเทคนคิ วธิ ีมาใช้ในการสรา้ งวนิ ัยในตนเองใหก้ บั เดก็ ได้อย่างเหมาะสม
5. อธบิ ายบทบาทของผูป้ กครองและครใู นการสร้างวินัยในตนเองให้แก่เด็กได้

หัวขอการอบรม
หัวขอ้ ที่ 1 ความสำคญั ของการมวี นิ ยั ในตนเองของเด็กปฐมวยั (2 ชั่วโมง)

แบบทดสอบกอนเรยี น
เรอ่ื งที่ 1.1 ความหมายของวนิ ยั ในตนเอง
เรอ่ื งท่ี 1.2 ความสำคัญของวินัยในตนเอง
เรอื่ งท่ี 1.3 ควรสร้างวินัยในตนเองตั้งแต่เม่อื ไร
เรื่องท่ี 1.4 ข้อดีของการสร้างวนิ ยั ในตนให้กับเดก็
เรื่องที่ 1.5 วินยั ในตนเองท่เี ปน็ พ้นื ฐานสําห(2 ชั่วโมง)รบั เดก็ ปฐมวัย
กรณศี ึกษา และ/หรือตัวอยา่ งประกอบ
แบบทดสอบหลังเรียน
หัวข้อท่ี 2 ทฤษฎีทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การเกิดวนิ ัยในตนเอง (2 ชว่ั โมง)
แบบทดสอบกอนเรยี น
เรื่องที่ 2.1 ทฤษฎกี ารเกิดวนิ ัยในตนเองของเมาเรอร์
เรื่องท่ี 2.2 ทฤษฎีแรงจูงใจทางจริยธรรมของเพคและเฮวิคเฮิสต์
เรอ่ื งที่ 2.3 ทฤษฎีพฒั นาการทางจรยิ ธรรมของโคลเบริ ์ก
เรอ่ื งท่ี 2.4 ทฤษฎกี ารสรา้ งวินัยและจรยิ ธรรมสามมิติ
กรณศี กึ ษา และ/หรอื ตวั อย่างประกอบ
แบบทดสอบหลงั เรียน
หวั ขอ้ ท่ี 3 หลกั การสร้างวินยั ในตนเองใหแ้ กเ่ ด็กปฐมวยั (2 ช่วั โมง)
แบบทดสอบกอนเรียน
เรอ่ื งที่ 3.1 หลกั การสรา้ งวินัยในตนเองให้แก่เด็กปฐมวยั
เร่ืองที่ 3.2 ปัจจัยทีม่ ผี ลต่อการสรา้ งวนิ ยั ในตนเองให้กับเดก็
กรณีศกึ ษา และ/หรือตวั อยา่ งประกอบ
แบบทดสอบหลงั เรยี น

7:

หัวขอ้ ท่ี 4 เทคนิควิธใี นการสรา้ งวินัยในตนเองใหแ้ กเ่ ด็กปฐมวัย (2 ชัว่ โมง)
แบบทดสอบกอนเรียน
เร่อื งที่ 4.1 แนวคดิ ในการเลือกใชเ้ ทคนิคการสร้างวินัยในตนเองใหแ้ ก่เด็ก
เรอ่ื งท่ี 4.2 เทคนคิ การสรา้ งวินัยในตนเองใหก้ บั เดก็
เรอื่ งที่ 4.3 ขอ้ เสนอแนะในการฝึกวนิ ยั ในตนเองให้กับเด็ก
กรณศี กึ ษา และ/หรอื ตวั อยา่ งประกอบ
แบบทดสอบหลงั เรียน

หัวขอ้ ท่ี 5 บทบาทของผู้ปกครองและครใู นการสร้างวินัยในตนเองใหแ้ กเ่ ด็กปฐมวัย (2 ช่ัวโมง)
แบบทดสอบกอนเรียน
เร่อื งท่ี 5.1 บทบาทของครูในการสรา้ งวนิ ยั ในตนเองให้แก่เดก็ ปฐมวัย
เร่ืองท่ี 5.2 บทบาทของผปู้ กครองในการสรา้ งวนิ ยั ในตนเองให้แกเ่ ด็กปฐมวัย
กรณศี กึ ษา และ/หรือตวั อย่างประกอบ
แบบทดสอบหลังเรียน

ระยะเวลาในการอบรม ใชเวลาในการอบรม 1 – 2 วัน (10 ชว่ั โมง)

การวัดประเมนิ ผล เกณฑก์ ารให้คะแนน ผา่ น/ไม่ผ่าน
วดั ความรู้ ความเขา้ ใจและประเมินผลจากแบบทดสอบราย Module แบบปรนัย เลือกตอบหรอื แบบถูก-ผิด

จํานวน Module ละ 10 ข้อ ผลคะแนนรวมแต่ละ Module สูงกว่า 80% ขึ้นไป จึงจะ “ผ่าน” ถือว่ามีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรยี นรู้

8:

ภาคผนวก

1. สำเนาหนังสือรับรองการผา่ นการอบรมหลักสูตร
2. ตวั อย่างหลกั สูตรอบรม
3. เนื้อหาประกอบ

9:

สำเนาหนังสือรบั รอง
การผา่ นการอบรมหลักสตู ร

10:

11:

ตัวอยา่ ง
หลกั สตู รอบรม

12:

13:

14:

15:

เนือ้ หาประกอบ

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สําห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 1
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

หัวข้อท่ี 1 ความสาํ คัญของการมีวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัย

1 . ความหมายและความสําคัญของวินัยในตนเอง (Self-discipline)
1.1 ความหมายของวินัยในตนเอง
คํา ว่า “วินัย ” ต า ม พ จ น า นุก ร ม ฉ บับ ร า ช บัณ ฑิต ย ส ถ า น (2525 : 744) ห ม า ย ถึง ก า ร อ ยู่ใ น

ระเบียบแบบแผน และข้อบังคับปฏิบัติ
ทั้งนี้ ก ร ม วิช า ก า ร ใ ห้ค ว า ม ห ม า ย ว่า วินัย ใ น ต น เ อ ง ห ม า ย ถึง ร ะ เ บีย บ ก ฎ เ ก ณ ฑ์ ข้อ ต ก ล ง

ที่กํา ห น ด ขึ้น เ พื่ อ ใ ช้เ ป็น แ น ว ท า ง ใ ห้บุค ค ล ป ร ะ พ ฤ ติป ฏิบัติใ น ก า ร ดํา ร ง ชีวิต ร่ว ม กัน เ พื่ อ ใ ห้อ ยู่
ร า บ รื่น มีค ว า ม สุข ค ว า ม สํา เ ร็จ โ ด ย อ า ศัย ก า ร ฝึก อ บ ร ม ใ ห้รู้จัก ป ฏิบัติต น รู้จัก ค ว บ คุม ต น เ อ ง
(กรมวิชาการ, 2542) ซึ่งคล้ายกับสํานักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กล่าวไว้ว่า วินัย
ในตนเองเกิดจากความสมัครใจของบุคคลในการเลือกข้อประพฤติปฏิบัติที่ดี ไม่ขัดกับความสงบ
สุข ข อ ง สัง ค ม ซึ่ง เ ลือ ก ส ร ร ไ ว้เ ป็น ห ลัก ป ฏิบัติป ร ะ จํา ต น โ ย ไ ม่มีใ ค ร บัง คับ ห รือ ถูก ค ว บ คุม จ า ก
อํานาจภายนอก (นักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ, 2540)

นักการศึกษาหลายท่านให้ความ หมายของ วินัยในตนเอง คล้ายกัน ว่า เป็นความสามารถ
ข อ ง บุค ค ล ใ น ก า ร ค ว บ คุม พ ฤ ติก ร ร ม ข อ ง ต น ใ ห้ป ร ะ พ ฤ ติ ป ฏิบัติใ น ท า ง ที่ดี ที่พึ ง ป ร า ร ถ น า ต า ม
ร ะ เ บีย บ แ ล ะ ก ฎ เ ก ณ ฑ์ที่กํา ห น ด เ ช่น ร ะ เ บีย บ ข อ ง โ ร ง เ รีย น ข อ ง ชุม ช น สัง ค ม ป ร ะ เ ท ศ ต า ม ห ลัก
ศีล ธ ร ร ม เ ป็น ต้น โ ด ย ที่ป ร ะ ป ฏิบัติด้ว ย ต น เ อ ง จ า ก อํา น า จ ภ า ย ใ น ข อ ง ต น เ อ ง ไ ม่ไ ด้ป ฏิบัติเพ ราะ
ไ ด้รับ คํา สั่ง จ า ก ค น อื่น ห รือ ก า ร บัง คับ จ า ก อํา น า จ ภ า ย น อ ก ซึ่ง น อ ก เ ห นือ จ า ก จ ะ ก ร ะ ทํา ใ น สิ่ง ที่
เหมาะสมแล้ว การมีวินัยในตนเองเองยังรวมถึงการยับยั้ง กา ร กระทํา ที่ไม่เหมาะสมด้วย (Good,
1959 และบุญชม ศรีสะอาด, 2555)

1 . 2 ความสาํ คัญของวินัยในตนเอง
“ จ ะ เ กิด อ ะ ไ ร ขึ้น ถ้า ห า ก ค น ใ น สัง ค ม ทํา อ ะ ไ ร ต า ม ใ จ ตัว เ อ ง อ ย า ก ทํา อ ะ ไ ร ก็ทํา
โดยไม่คํานึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับบุคคลอื่น?. . . ”
- เด็กนักเรียนช้ันประถมทาํ ร้ายเพื่ อนจนเสียชีวิต
- เด็กนักเรียนหนีโรงเรียนไปมั่วสุมเสพยา
- เด็กนักเรียนมัธยมสาวยอมขายตัวเพื่ อแลกกับโทรศัพท์เครื่องใหม่
- คนร้ายใช้มีดปาดคอบัณฑิตหนุ่มเพื่ อชิงโทรศัพท์

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สําห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 2
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

- เสี่ยคนดังกราดยิงวัยรุ่นเปิดเพลงเสียงดัง
ข่า ว เ ห ล่า นี้มัก อ ยู่ใ น พ า ด หัว ข่า ว ห น้า ห นึ่ง ข อ ง ห นัง สือ พิ ม พ์ อ ยู่แ ท บ ทุก วัน จ ะ เ ห็น ไ ด้ว่า
ปั ญ ห า เ ห ล่ า น้ี ล้ ว น ม า จ า ก ก า ร ข า ด วิ นั ย ข อ ง ค น ใ น สั ง ค ม ท้ั ง ส้ิ น
ถ้า ไ ม่มีวินัย ชีวิต ก็จ ะ ยุ่ง เ ห ยิง ทํา ล า ย โ อ ก า ส ใ น ก า ร ดํา เ นิน ชีวิต ที่ดีง า ม แ ล ะ โ อ ก า ส ใ น ก า ร
พั ฒ น า ต น เ อ ง สัง ค ม ก็จ ะ วุ่น ว า ย ไ ม่ว่า จ ะ เ ป็น วินัย ด้า น ใ ด ก็ต า ม ล้ว น แ ต่มีค ว า ม สํา คัญ แ ล ะ จํา เ ป็น
ต่อ ก า ร อ ยู่ร่ว ม กัน ใ น สัง ค ม ทั้ง สิ้น ห า ก แ ต่ว่า วินัย ใ น ต น เ อ ง นั้น เ ป็น พื้ น ฐ า น ที่นํา ไ ป สู่ก า ร มีวินัย ใ น
สัง ค ม แ ล ะ ป ร ะ เ ท ศ ช า ติต่อ ไ ป ดัง นั้น ก า ร มีวินัย ใ น ต น เ อ ง ใ น ตัว บุค ค ล ถือ เ ป็น สิ่ง ที่มีค ว า ม สํา คัญ
ม า ก ก า ร มีวินัย ใ น ต น เ อ ง นั้น น อ ก จ า ก จ ะส่ง ผ ล ใ ห้บุคค ล ป ระส บ คว ามสํา เร็จ ใ น ก า ร ดํา รง ชีวิต ไ ด้รับ
ก า ร ย อ ม รับ จ า ก บุค คล อื่น แ ล้ว ยัง ส่ง ผ ล ใ ห้ชุม ช น สัง ค ม เ ป็น สัง ค ม ที่มีคุณ ภ า พ แ ล ะ ป ร ะ เ ท ศ ช า ติมี
ความเจริญก้าวหน้าอีกด้วย (บุญชม ศรีสะอาด, 2555)
ผู้ที่มีวินัย ใ น ต น เ อ ง ย่อ ม ส า ม า ร ถ ว า ง แ ผ น จัด ร ะ เ บีย บ ใ น ก า ร ทํา กิจ วัต ร ป ร ะ จํา วัน ไ ด้อ ย่า ง ล ง
ตัว ทํา ใ ห้ไ ม่มีปัญ ห า วุ่น ว า ย ใ น ชีวิต มีส่ว น ช่ว ย ใ ห้ป ร ะ ส บ ค ว า ม สํา เ ร็จ ใ น ชีวิต ไ ด้ง่า ย ช่ว ย ใ ห้เ กิด
ค ว า ม ส า มัค คีป ร อ ง ด อ ง ใ น ห มู่ค ณ ะ ช่ว ย ใ ห้ทุก ค น รู้จัก ค ว บ คุม ต น เ อ ง แ ล ะ ป ก ค ร อ ง ต น เ อ ง ต า ม
ห ลัก ข อ ง ป ร ะ ช า ธิป ไ ต ย ส่ง ผ ล ใ ห้ทุก ค น อ ยู่ร่ว ม กัน อ ย่า ง มีค ว า ม สุข ใ น สัง ค ม ดัง นั้น ห า ก ทุก ค น ใ น
ป ร ะ เ ท ศ มีวินัย ใ น ต น เ อ ง แ ล้ว จ ะ ช่ว ย ใ ห้ส า ม า ร ถ พั ฒ น า สัง ค ม ใ ห้มีค ว า ม ส ง บ สุข เ ป็น ร ะ เ บีย บ
เรียบร้อย ตลอดจนยังสามารถพั ฒนาประเทศชาติให้ทัดเทียมกับอารยประเทศได้อีกด้วย
น อ ก จ า ก นี้ วินัย ใ น ต น เ อ ง ยัง มีค ว า ม สํา คัญ เ ป็น อ ย่า ง ยิ่ง กับ เ ด็ก ช่ว ย ป ฐ ม วัย ดัง ที่ ค อ ลัม น์ "ฝึก
วินัย ใ ห้ลูก . . . ส ร้า ง ค น ร ะ ย ะ ย า ว ต้อ ง เ ริ่ม ที่ก้า ว แ ร ก ” ผู้จัด ก า ร อ อ น ไ ล น์ (2553) ก ล่า ว ถึง ข้อ ดีข อ ง
การสร้างวินัยในตนเองให้กับเด็ก ว่า
1. ช่ว ย ใ ห้เ ด็ก รู้สึก มั่น ค ง เ ด็ก ที่เ ติบ โ ต ม า ท่า ม ก ล า ง ก า ร เ ลี้ย ง ดู แ ล ะ สิ่ง แ ว ด ล้อ ม ที่เ ป็น ร ะ บ บ
ระเบียบ ก็จะรู้สึกเกิดความม่ันคงในจิตใจ
2. ช่ว ย ป้อ ง กัน เ ด็ก จ า ก อัน ต ร า ย ธ ร ร ม ช า ติข อ ง เ ด็ก เ ล็ก มัก จ ะ มีค ว า ม ซ น แ ล ะ อ ย า ก รู้อ ย า ก เ ห็น
ก า ร ฝึก ใ ห้เ ด็ก มีวินัย ใ น ต น เ อ ง ห รือ อ อ ก ก ฎ บ า ง อ ย่า ง ใ ห้ป ฏิบัติต า ม ก็เ พื่ อ ค ว า ม ป ล อ ด ภัย ข อ ง ตัว
เ ด็ ก เ อ ง
3. ช่ว ย ใ ห้เ ด็ก รู้จัก รับ ผิดชอบ ก า ร ฝึก วินัย จ ะ ช่ว ย ใ ห้เ ด็ก รู้จัก ค ว บ คุม ค ว า ม ต้อ งก า รข อง ตัวเองท่ี
เกินเลย มีความรับผิดชอบทั้งต่อตัวเองและผู้อ่ืน

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 3
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

4. ช่ว ย ใ ห้เ ด็ก เ ข้า สัง ค ม เ มื่อ ถึง วัย ที่จ ะ อ อ ก ไ ป พ บ ค น อื่น ม า ก ขึ้น ก า ร ที่เ ด็ก รู้ว่า สิ่ง ค ว ร ทํา สิ่ง ใ ด
ไ ม่ค ว ร ทํา เ มื่อ ต้อ ง อ ยู่ร่ว ม กับ ค น อื่น ล้ว น เ ป็น พื้ น ฐ า น สํา คัญ ที่ทํา ใ ห้เ ด็ก เ ข้า สัง ค ม แ ล ะ ส า ม า ร ถ อ ยู่
ร่ ว ม กั บ ค น อื่ น ไ ด้ อ ย่ า ง มี ค ว า ม สุ ข
5. ช่วยให้เด็กประสบความสาํ เร็จ การส่งเสริมให้เด็กมีวินัยในตัวเอง มุ่งม่ันทาํ สิ่งต่างๆ ให้ลุล่วง
ทํางานให้เสร็จ จ ะ ทําให้เด็กรู้สึกภูมิใ จ ใ น ตัวเอง และเป็นแรงจูงใจให้อยากทําอยากเรียนรู้อย่า ง อื่น
ต่ อ ไ ป
6. ช่ว ย ใ ห้เ ด็ก ไ ด้ฝึก ก า ร ว า ง แ ผ น ก า ร ก า ร คิด อ ย่า ง เ ป็น ร ะ บ บ เ ด็ก จ ะ ไ ด้ฝึก คิด ว่า ค ว ร ทํา อ ะ ไ ร
ก่อนหลัง และรู้ว่าอะไรที่ควรทาํ และไม่ควรทาํ
ก ล่า ว โ ด ย ส รุป วินัย ใ น ต น เ อ ง เ ป็น อ ง ค์ป ร ะ ก อ บ ห นึ่ง ข อ ง ลัก ษ ณ ะ ชีวิต ที่มีค ว า ม สํา คัญ อ ย่า ง ยิ่ง ต่อ
การประสบความสําเร็จอย่า งยั่ง ยืน ใ น ชีวิต คนเราจะไม่สามารถนําชีวิตไปสู่สิ่งที่ดีงามได้จนกว่า จ ะ
ตั้ง อ ยู่บ น ฐ า น ข อ ง ค ว า ม มีวินัย ใ น ต น เ อ ง เ พ ร า ะ วินัย ใ น จ น เ อ ง จ ะ ส ร้า ง ค ว า ม รับ ผิด ช อ บ ก า ร
ควบคุมตนเอง การกํากับตนเ อง สร้างระเบียบแบบแผนในชีวิต สร้างคนให้เป็นคนดี สร้างคนให้
เ ป็น ค น เ ก่ง ดัง นั้น วินัย ใ น ต น เ อ ง จึง เ ป็น เ รื่อ ง สํา คัญ ที่จํา เ ป็น ต้อ ง ส ร้า ง ใ ห้เ กิด ขึ้น กับ ค น ทุ ก ค น
ต้ั ง แ ต่ วั ย เ ด็ ก

2. ลักษณะของผู้ท่ีมีวินัยในตนเอง
นักวิชาการหลายท่านได้กล่าวถึงองค์ประกอบของวินัยในตนเอง และลักษณะของผู้ท่ีมี

วินัยในตนเองไว้หลากหลาย สรุปได้ ดังนี้ 1) มีความรับผิดชอบ 2) มีความเช่ือมั่นในตนเอง 3)
มีความอดทน อดกล้ัน 4) มีความซ่ือสัตย์ 5) มีความตรงต่อเวลา 6) มีความเป็นผู้นาํ 7)
สามารถควบคุมอารมณ์ได้ 8) มีความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์
ของสังคม 9) มีความสามารถในการชะลอความต้องการ 10) ให้ความร่วมมือ 11) มีเหตุผล 12)
สามารถช่วยเหลือตนเองหรือพ่ึ งตนเองได้ 13) มีความต้ังใจจริง มุ่งม่ัน 14) สามารถแก้ปัญหา
ได้ 15) มีความเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน 16) มีความพากเพี ยร ไม่ย่อท้อ 17) ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบ
ของสังคม 18) เคารพในสิทธิของผู้อื่น 19) ยอมรับผลของการกระทํา และ 20) ขยันหม่ันเพี ยร
(ดวงเดือน พั นธุมนาวิน, 2538 ; ฉันทนา ภาคบงกชและคนอ่ืน ๆ, 2539; กุลยา ตันติผลาชีวะ,
2542; บุญชม ศรีสะอาด, 2555; Baruch, 1949 ; Wiggins ; et al, 1971 ; Ausubel,
1972)

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 4
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

จากการรวบรวมคุณลักษณะของผู้ท่ีมีวินัยในตนเองจากนักวิชาการหลายท่าน สามารถ
สรุปเป็น 2 ด้าน ดังนี้

1. วินัยในตนเองที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ประกอบด้วย มีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีความ
เ ชื่อ มั่น ใ น ต น เ อ ง มีค ว า ม ซื่อ สัต ย์ต่อ ต น เ อ ง ส า ม า ร ถ ค ว บ คุม อ า ร ม ณ์ไ ด้ มีเ ห ตุผ ล ส า ม า ร ถ
ช่ว ย เ ห ลือ ต น เ อ ง ห รือ พึ่ ง ต น เ อ ง ไ ด้ มีค ว า ม ตั้ง ใ จ จ ริง มุ่ง มั่น ส า ม า ร ถ แ ก้ปัญ ห า ไ ด้ มีค ว า ม
พากเพี ยร ไม่ย่อท้อ ยอมรับผลของการกระทํา และขยันหมั่นเพี ยร

2. วินัย ใ น ต น เ อ ง ที่เ กี่ย ว ข้อ ง กับ ผู้อื่น แ ล ะ สัง ค ม ป ร ะ ก อ บ ด้ว ย มีค ว า ม ซื่อ สัต ย์ต่อ ผู้อื่น มี
ค ว า ม ต ร ง ต่อ เ ว ล า มีค ว า ม เ ป็น ผู้นํา มีค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร ค ว บ คุม พ ฤ ติก ร ร ม ใ ห้เ ป็น ไ ป ต า ม
กฎเกณฑ์ของสังคม มีความสามารถในการชะลอความต้องการ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน ปฏิบัติ
ตนตามกฎระเบียบของสังคม และ เคารพในสิทธิของผู้อื่น

สําหรับเด็กปฐมวัยผู้ปกครอง ครู และบุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถปลูกฝังวินัยในตนเองโดย
เริ่มจากเรื่องง่าย และใกล้ตัวเด็กก่อน เช่น รู้จักเวลาในการทํากิจ วัตรประจําวัน เก็บของเล่น แ ล ะ
ของใช้ส่วนตัวเข้าท่ีให้เรียบร้อยเมื่อเลิกเล่นหรือเลิกใช้ พู ดจาไพเราะ และปฏิบัติตามกฎของที่บ้าน
แ ล ะ โ ร ง เ รีย น ง่า ย ๆ โ ด ย เ ด็ก จํา เ ป็น ต้อ ง เ รีย น รู้สิ่ง ต่า ง ๆ เ พื่ อ ที่จ ะ นํา ไ ป สู่พ ฤ ติก ร ร ม ก า ร มีวินัย ใ น
ตนเองของเด็กปฐมวัย (Gordon และ Browne, 1996) ดังน้ี

1. เรียนรู้ในการควบคุมตนเอง (Learning self-control)
2. เรียนรู้ในการตระหนักถึงความเป็นตนเอง และเชื่อม่ันในตนเอง
3. เรียนรู้ในการพึ่ งตนเอง (Becoming autonomous)
4. เรียนรู้ในการร่วมมือกับผู้อื่น (Learning cooperate)
5. เรียนรู้ในการรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น (Becoming empathetic)
6. เรียนรู้ในแก้ปัญหาง่าย ๆ (Becoming a problem solver)
7. เรียนรู้ในการพั ฒนาทางด้านศีลธรรม (Developing a moral consciousness)

วินัยในตนเองพ้ื นฐานสาํ หรับเด็กประกอบด้วย 3 ด้าน คือ
1. วินัย ใ น ต น เ อ ง เ กี่ย ว กับ ทัก ษ ะ ท า ง สัง ค ม เ ช่น ต ร ง ต่อ เ ว ล า รู้จัก ก า ล เ ท ศ ะ พู ด จ า ไ พ เ ร า ะ
ปฏิบัติตามกฏระเบียบของบ้าน โรงเรียน และสังคม
2. วินัย ใ น ต น เ อ ง เ กี่ย ว กับ ก า ร ใ ช้ชีวิต ป ร ะ จํา วัน เ ช่น เ ก็บ ข อ ง เ ล่น ข อ ง ใ ช้เ ป็น ที่เ มื่อ เ ลิก ใ ช้

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สําห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 5
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

กินนอนเป็นเวลา ช่วยเหลือตัวเองได้เหมาะสมตามวัย
3. วินัย ใ น ต น เ อ ง เ กี่ย ว กับ ก า ร ค ว บ คุม ต น เ อ ง เ ช่น ค ว บ คุม อ า ร ม ณ์ไ ด้ รู้จัก ก า ร ร อ ค อ ย มี

ค ว า ม อ ด ท น ไ ม่แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม ที่ไ ม่เ ห ม า ะ ส ม เ มื่อ ถูก ขัด ใ จ ห รือ ไ ม่ไ ด้ดั่ง ใ จ ทั้ง นี้ ก า ร ค ว บ คุม
ต น เ อ ง นั้น ถือ เ ป็น สิ่ง สํา คัญ เ ด็ก ต้อ ง เ รีย น รู้ที่จ ะ ค ว บ คุม อ า ร ม ณ์แ ล ะ พ ฤ ติก ร ร ม ข อ ง ต น เ อ ง เ พื่ อ
ไ ม่ใ ห้ก ล า ย เ ป็น เ ด็ก ที่เ อ า แ ต่ใ จ ต น เ อ ง ก้า ว ร้า ว ห รือ ข า ด ค ว า ม ยัง ยั้ง ชั่ง ใ จ ใ น เ รื่อ ง ต่า ง ๆ ซึ่ง จ ะ
ส่ ง ผ ล เ สี ย ต่ อ ตั ว เ ด็ ก เ อ ง แ ล ะ ผู้ อื่ น ไ ด้ ท้ั ง ใ น ร ะ ย ะ ส้ั น แ ล ะ ร ะ ย ะ ย า ว

จ ะ เ ห็น ไ ด้ว่า วินัย ใ น ต น เ อ ง ถือ เ ป็น พื้ น ฐ า น ที่ค ว ร ป ลูก ฝัง ใ ห้กับ เ ด็ก ตั้ง แ ต่ยัง เ ล็ก เ พื่ อ ใ ห้
เ ติบ โ ต ไ ป เ ป็น ผู้ใ ห ญ่ที่ส ม บูร ณ์ใ น อ น า ค ต แ ต่อ ย่า ง ไ ร ก็ต า ม พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ คุณ ค รูจ ะ ต้อ ง
เข้าใจตรงกันว่า เด็กแต่ละคนมีพื้ นฐานทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคมที่แตกต่างกัน
ส่ง ผ ล ใ ห้มีพ ฤ ติก ร ร ม ที่แ ส ด ง อ อ ก ม า ย่อ ม แ ต ก ต่า ง กัน ดัง นั้น พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ คุณ ค รู
จํา เ ป็น ต้อ ง ร่ว ม มือ กัน ใ น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง โ ด ย ใ ช้วิธีก า ร ที่เ ห ม า ะ เ ห ม า ะ ส ม กับ เ ด็ก เ ป็น
รายบุคคล ซ่ึงจะกล่าวถึงในบทต่อไป

3. พฤติกรรมการแสดงออกถึงความมีวินัยในตนเองของเด็กปฐมวัย
พ ฤ ติก ร ร ม ก า ร แ ส ด ง อ อ ก ถึง ค ว า ม มีวินัย ใ น ต น เ อ ง ข อ ง เ ด็ก ป ฐ ม วัย นั้น สัม พั น ธ์กับ

พั ฒนาการตามวัยของเด็ก ดังนั้น พ่ อแม่ ผู้ปกครอง และครูควรทราบพั ฒนาการของเด็กแ ต่ล ะ
ช่ว ง วัย เ พื่ อ จ ะ ไ ด้ฝึก วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้เ ห ม า ะ ส ม ต า ม วัย แ ล ะ ไ ม่ค ว ร ค า ด ห วัง พ ฤ ติก ร ร ม ที่ย า ก เ กิน
วัย ข อ ง เ ด็ก ตัว อ ย่า ง เ ช่น ต้อ ง ก า ร ใ ห้เ ด็ก รู้จัก ก า ร ร อ ค อ ย โ ด ย ฝึก ใ ห้เ ด็ก อ า ยุ 3 ปี นั่ง ร อ นิ่ง ๆ
ค รึ่ง ชั่ว โ ม ง แ ต่ต า ม พั ฒ น า ก า ร แ ล้ว เ ด็ก วัย นี้ เ ด็ก มีช่ว ง ข อ ง ค ว า ม ส น ใ จ ต่อ สิ่ง ใ ด สิ่ง ห นึ่ง ไ ม่เ กิน
10-15 นาที ยกเว้นจะเป็นกิจกรรมท่ีสนใจมาก และไม่สามารถอยู่นิ่งๆ ได้เป็นเวลานาน

ตัว อ ย่า ง เ ช่น พั ฒ น า ก า ร โ ด ย ร ว ม ข อ ง เ ด็ก ใ น ช่ว ง วัย 3-5 ปี คือ เ ริ่ม ค ว บ คุม อ า ร ม ณ์
ค ว า ม รู้สึก ข อ ง ตัว เ อ ง ไ ด้ดีขึ้น ส า ม า ร ถ แ ส ด ง อ อ ก ถึง ค ว า ม ต้อ ง ก า ร ค ว า ม รู้สึก ข อ ง ตัว เ อ ง เ ป็น
คํา พู ด ไ ด้ม า ก ขึ้น เ ข้า ใ จ ค ว า ม รู้สึก ข อ ง ต น เ อ ง ม า ก ขึ้น แ ต่ยัง ไ ม่ค่อ ย เ ข้า ใ จ อ า ร ม ณ์ค ว า ม รู้สึก ข อ ง
ผู้อื่น เริ่ม มีปฏิสัมพั นธ์กับคนรอบข้าง รู้จักการเล่นกับเพื่ อนๆ แต่อาจยังยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง
อ ยู่บ้า ง ดัง นั้น เ ว ล า ที่เ ด็ก เ ล่น กัน ก็อ า จ มีท ะเ ล ะกัน โ ต้เ ถีย ง กัน ไ ด้บ่อย ห รือ แ ย่ง ข อ ง เ ล่น กัน รู้จัก
กฎกติกามารยาทง่าย ๆ ของท่ีบ้านและท่ีโรงเรียน รู้จักรอคอยให้ถึงคิวของตนเอง

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 6
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต
ตัวอย่าง พฤติกรรมการแสดงออกถึงความมีวินัยในตนเองของเด็กวัย 3-5 ปี
- ปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรียน
- มีความกล้าแสดงออก
- ทาํ งานกลุ่มร่วมกับเพ่ื อนด้วยดี
- ต้ังใจทาํ งานท่ีครูมอบหมายจนเสร็จ
- สามารถปฏิบัติกิจวัติตนเองได้ตามวัย
- มีความพยายามในการทาํ สิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง
- ไม่ร้องไห้ อาละวาด ลงมือลงไม้ หรือทุบตีคนอื่นเม่ือรู้สึกโกรธ หรือผิดหวัง
- พู ดขอบคุณเม่ือได้รับการช่วยเหลือหรือได้รับส่ิงของ
- พู ดขอโทษ เมื่อทาํ ให้ผู้อ่ืนเดือดร้อน
- เข้าคิวตามลาํ ดับก่อนหลัง
ฯลฯ

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สําห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 1
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

หัวข้อท่ี 2 ทฤษฎีที่เก่ียวข้องกับการเกิดวินัยในตนเอง

การมีวินัยในตนเองเป็น ลักษณะของผู้ต้องการประสบความสําเร็จ ใ น ชีวิต พึ งมี การศึกษาทฤษฎีที่
เกี่ยวข้องวินัยในตนเอง ถือเป็น สิ่งสําคัญที่ทําให้ทราบว่าการเกิดวินัยในต นเองน้ันม าที่มาอย่างไร
และควรปลูกฝังอย่างไ รในแต่ละช่วย วัย เพื่ อให้เด็กเกิด วินัยในตนเองอย่า งแ ท้จ ริง จนกลายเป็น
ลัก ษ ณ ะ นิสัย ที่ติด ตัว เ ด็ก ไ ป ต น โ ต นัก ท ฤ ษ ฎีห ล า ย ท่า น ไ ด้อ ธิบ า ย ถึง ท ฤ ษ ฎีที่เ กี่ย ว ข้อ ง กับ วินัย ใ น
ตนเองในลักษณะท่ีแต่งต่างกัน ดังนี้

1. ทฤษฎีการเกิดวินัยในตนเองของเมาเรอร์ (Mowrer)
เมาเรอร์ ได้อธิบายถึงทฤษฎีการเกิดวินัยในตนเองว่า การเกิดวินัยในตนเองของบุค ค ล

นั้น จ ะ ต้อ ง มีพื้ น ฐ า น ม า ตั้ง แ ต่ร ะ ย ะ แ ร ก เ กิด จ น ก ร ะ ทั่ง เ ติบ โ ต ขึ้น ม า สิ่ง ที่สํา คัญ คือ ค ว า ม สัม พั น ธ์
ระหว่างพ่ อแม่ ห รือผู้เลี้ยงดูกับเด็กตั้งแต่วัยทารก โดยเด็กจะเกิดการเรียนรู้จากผู้เลี้ยงดู โดยท่ี
การเรียนรู้นี้จะเกิดขึ้นในสภาพอันเหมาะสมเท่านั้น และการได้รับการตอบสนองความต้องการต่า ง
ๆ ทั้ง ท า ง ก า ย แ ล ะ ท า ง ใ จ เ ช่น ค ว า ม หิว แ ล ะ ค ว า ม สุข ส บ าย ต่า ง ๆ ที่ทํา ใ ห้เ ด็ก รู้สึก พึ ง พ อ ใ จ ห รือ
มีค ว า ม สุข ก่อ ใ ห้เ กิด ค ว า ม รัก แ ล ะ ค ว า ม ผูก พั น กับ พ่ อ แ ม่ ห รือ ผู้ที่เ ลี้ย ง ซึ่ง ค ว า ม รัก แ ล ะ ค ว า ม
ผูกพั นของเด็กที่มีต่อผู้เลี้ยงดูนี้ จะนาํ ไปสู่การปฏิบัติตามคําอบรมสั่งสอน การเลียนแบบผู้ที่ตนรัก
และพอใจท้ังการกระทํา คําพู ด บุคลิกลักษณะใ นทางที่ดีและไม่ดีเท่ากัน ตราบเท่าที่ลักษณะนั้นเป็น
ลัก ษ ณ ะ ข อ ง ผู้ที่ต น รัก แ ล ะ พ อ ใ จ เ ช่น ถ้า เ ด็ก เ ห็น ผู้เ ลี้ย ง ดูสูบ บุห รี่เ ส ม อ เ มื่อ เ ด็ก สูบ บุห รี่บ้า ง ก็จ ะ
เ กิด ค ว า ม สุข แ ล ะ พ อ ใ จ เ พ ร า ะ เ ป็น ลัก ษ ณ ะ ข อ ง ผู้ที่ต น รัก ก ล่า ว คือ บุค ค ล ที่สํา คัญ ต่อ ก า ร เ รีย น รู้
เริ่มแรกของเด็ก คือ ผู้เลี้ยงดูที่ตอบสนองความต้องการขอ ง เด็กทุกค รั้งที่ต้องการ ผู้ที่ใ ห้ความ
รัก ความสุขสบายกับเด็ก ซ่ึงอาจเป็นพ่ อแม่หรือผู้อื่นก็ได้

เ ม า เ ร อ ร์ เ ชื่อ ว่า ลัก ษ ณ ะ ที่แสดงถึง ก า รบ ร ร ลุวุฒิภาวะท างจิตใจ ของบุคคลนั้น จ ะ ป ร ากฎ
ขึ้น ใ น ผู้ที่มีอ า ยุป ร ะ ม า ณ 8-10 ข ว บ แ ล ะ จ ะ พั ฒ น า ต่อ ไ ป จ น ส ม บูร ณ์เ มื่อ เ ติบ โ ต เ ป็น ผู้ที่ส า ม า ร ถ
ค ว บ คุม ก า ร ป ฏิบัติต น อ ย่า ง ส ม เ ห ตุส ม ผ ล ใ น ส ถ า น ก า ร ณ์ต่า ง ๆ สํา ห รับ ผู้ที่ข า ด วินัย ใ น ต น เ อ ง ห รือ
ข า ด ก า ร ค ว บ คุม ต น เ อ ง มีส า เ ห ตุม า จ า ก ไ ม่ไ ด้ผ่า น ก า ร เ รีย น รู้ตั้ง แ ต่วัย ท า ร ก จึง ก ล า ย เ ป็น บุค ค ล ท่ี
ข า ด ค ว า ม ยับ ยั้ง ชั่ง ใ จ ใ น ก า ร ก ร ะ ทํา ต่า ง ๆ ก ล า ย เ ป็น ผู้ทํา ผิด ข้อ บัง คับ ข อ ง สัง ค ม ก ฎ ห ม า ย ข อ ง
บ้านเมืองอยู่เสมอ ในรายที่รุนแรงอาจกลายเป็นอาชญากรเรื้อรังหมดโอกาสที่จะแก้ไข

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สําห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 2
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

ดังนั้น ตามทฤษฎีของเมาเรอร์ การเกิดวินัยในตนเองต้ังแต่เด็กจนเป็นผู้ที่บรรลุวุฒิภาวะทางจิต
นั้น จ ะ ต้อ ง เ ริ่ม ต้น จ า ก า ร เ ลี้ย ง ดูใ น วัย ท า ร ก อ ย่า ง มีค ว า ม สุข ค ว า ม อ บ อุ่น แ ล ะ ผ่า น ก า ร อ บ ร ม สั่ง
ส อ น ห รือ ก า ร เ ลีย น แ บ บ ที่ดีง า ม จ า ก ผู้ที่เ ลี้ย ง ดูต น จึง จ ะ พั ฒ น า เ ป็น ลัก ษ ณ ะ ที่เ ด่น ชัด ใ น จิต ส า นึก
ข อ ง บุค ค ล นั้น แ ล ะ ก ล า ย เ ป็น พ ฤ ติก ร ร ม ที่ถูก ต้อ ง มีเ ห ตุผ ล ข อ ง บุค ค ล นั้น ( ด ว ง เ ดือ น พั น ธุม
นาวิน, 2527)

2. ทฤษฎีแรงจูงใจทางจริยธรรมของเพคและเฮวิคเฮิสต์ (Peck and Havighurst)
เ พ ค แ ล ะ เ ฮ วิค เ ฮิส ต์ เ ชื่อ ว่า ก า ร ค ว บ คุม อีโ ก้ ( Ego Control) แ ล ะ ซุป เ ป อ ร์อีโ ก้ ( Super

Ego Control) จ ะ ช่ว ย ใ ห้บุค ค ล เ กิด ค ว า ม ต้อ ง ก า ร แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม เ พื่ อ ผู้อื่น ไ ด้อ ย่า ง ส ม เ ห ตุผ ล
ซึ่งพลังในการควบคุม อีโ ก้และ ซุป เปอ ร์อีโ ก้ของแต่ละคนจะไม่เท่า กัน บางคนอาจจะมีมาก บางค น
อ า จ จ ะ มีน้อ ย เ นื่อ ง จ า ก ก า ร ไ ด้รับ ค ว า ม รู้ท า ง จ ริย ธ ร ร ม ที่ทํา ใ ห้ท ร า บ ถึง ผ ล ที่เ กิด จ า ก ก า ร แ ส ด ง
พ ฤ ติก ร ร ม ไ ม่เ ท่า กัน ซึ่ง จ ะ ส่ง ผ ล ท า ใ ห้มีวินัย ใ น ต น เ อ ง ต่า ง กัน นัก ท ฤ ษ ฎีทั้ง ส อ ง จํา แ น ก ลัก ษ ณ ะ
และความแตกต่างของบุคลิกภาพของบุคคลได้ 5 ประเภท ดังนี้

1. พ ว ก ป ร า ศ จ า ก จ ริย ธ ร ร ม ( Amoral Person) ห ม า ย ถึง บุค ค ล ที่มีพ ลัง ค ว บ คุม ข อ ง อี
โ ก้แ ล ะ ซุป เ ป อ ร์อีโ ก้น้อ ย ม า ก บุค ค ล ป ร ะ เ ภ ท นี้จ ะ ยึด ต น เ อ ง เ ป็น ศูน ย์ก ล า ง แ ล ะ เ ห็น แ ก่ตัว โ ด ย ไ ม่
เ รีย น รู้ที่จ ะ ใ ห้ผู้อื่น ไ ม่ส า ม า ร ถ ค ว บ คุม ต น เ อ ง ไ ด้ แ ล ะ ก ร ะ ทํา สิ่ง ต่า ง ๆ อ ย่า ง ไ ม่ไ ต ร่ต ร อ ง บุค ค ล
ป ร ะ เ ภ ท นี้ถูก ค ว บ คุม โ ด ย ค ว า ม เ ห็น แ ก่ตัว ข อ ง ต น เ อ ง แ ล ะ เ ป็น ผู้ที่ข า ด ค ว า ม มีวินัย ใ น ต น เ อ ง ห รือ มี
น้ อ ย ม า ก

2. พ ว ก เ อ า แ ต่ไ ด้ ( Expedient Person) ห ม า ย ถึง บุค ค ล ที่มีพ ลัง ค ว บ คุม ข อ ง อีโ ก้น้อ ย
แ ต่พ ลัง ค ว บ คุม ซุป เ ป อ ร์อีโ ก้มีม า ก ขึ้น แ ต่ก็ยัง จัด อ ยู่ใ น ป ร ะ เ ภ ท ป า น ก ล า ง ค่อ น ข้า ง น้อ ย บุค ค ล
ป ร ะ เ ภ ท นี้ยัง ยึด ต น เ อ ง เ ป็น ศูน ย์ก ล า ง แ ล ะ ทํา ทุก อ ย่า ง เ พื่ อ ค ว า ม พึ ง พ อ ใ จ แ ล ะ ผ ล ป ร ะ โ ย ช น์ข อ ง
ต น เ อ ง ไ ม่จ ริง ใ จ ย อ ม อ ยู่ใ ต้ก า ร ค ว บ คุม ข อ ง ผู้ที่มีอํา น า จ ถ้า จ ะ ทํา ใ ห้ต น ไ ด้รับ ผ ล ที่ต้อ ง ก า ร ไ ด้ เ ป็น
ผู้ที่มีวินัย ใ น ต น เ อ ง น้อ ย ลัก ษ ณ ะ นี้จ ะ ป ร า ก ฏ ตั้ง แ ต่วัย เ ด็ก ต อ น ต้น แ ต่ใ น บ า ง ค น จ ะ ติด ตัว ไ ป จ น
ต ล อ ด ชี วิ ต

3. พวกคล้อยตาม (Conforming Person) หมายถึง บุคคลท่ีมีพลังควบคุม
ของอีโก้น้อยเหมือนคนสองประเภทแรก แต่มีพลังควบคุมของซุปเปอร์มีมากกว่า คือ อยู่ในระดับ
ปาน

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 3
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

ก ล า ง ค่อ น ข้า ง ม า ก บุค ค ล ป ร ะ เ ภ ท จ ะ ยึด พ ว ก พ้ อ ง เ ป็น ห ลัก ค ล้อ ย ต า ม ผู้อื่น โ ด ย ไ ม่ต้อ ง ไ ต ร่ต ร อ ง
อยู่ภายใต้การควบคุมของสังคม และเป็นผู้ท่ีมีวินัยในตนเองปานกลางแต่ไม่แน่นอน

4. พวกต้ังใจจริงแต่ขาดเหตุผล (Irrational Conscientious Person) หมายถึง
บุคคลท่ีมีพลังควบคุมของอีโก้ในระดับปานกลาง แต่มีพลังควบคุมซุปเปอร์อีโก้มีมาก จะเป็นผู้ท่ี
ย อ ม รับ แ ล ะ ทํา ต า ม ก ฎ เ ก ณ ฑ์แ ล ะ กฎ ห ม า ย อ ย่า ง ยึด มั่น แ ล ะ ศ รัท ธ า ถูก ค ว บ คุม โ ด ย ค่า นิย ม บ ร ร ทัด
ฐ า น ข อ ง สัง ค ม บุค ค ล ป ร ะ เ ภ ท นี้จ ะ เ ป็น ห ลัก ข อ ง ชุม ช น เ พ ร า ะ มีค ว า ม มั่น ค ง ใ น ค ว า ม เ ชื่อ แ ล ะ ก า ร
ก ร ะ ทํา ใ ห้ผู้อื่น เ ห็น ไ ด้ง่า ย ทํา ต า ม ก ฎ อ ย่า ง เ ค ร่ง ค รัด แ ม้จ ะ เ กิด ผ ล เ สีย ห า ย แ ก่ผู้อื่น ก็ไ ม่ส น ใ จ ข า ด
ความยืดหยุ่น เป็นผู้ที่มีวินัยในตนเองค่อนข้างมากแต่ยังไม่สมบูรณ์

5. พวกเห็นแก่ผู้อื่นอย่างมีเหตุผล (Rational Altruistic Person) หมายถึง บุคคลที่มี
พ ลัง ค ว บ คุม อีโ ก้มีม า ก แ ล ะ พ ลัง ค ว บ คุม ซุป เ ป อ ร์อีโ ก้ก็ม า ก ด้วย จ น เ กิด ส ม ดุล ร ะ ห ว่า ง ก า ร ป ฏิบัติ
ต น ต า ม ก ฎ เ ก ณ ฑ์ข อ ง สัง ค ม แ ล ะ ค ว า ม ส ม เ ห ตุส ม ผ ล เ ห็น แ ก่ผู้อื่น ค ว บ คุม ต น เ อ ง อ ย่า ง มีเ ห ตุผ ล
มิไ ด้ตกอยู่ในอิทธิพลของกลุ่มใน สังคม ห รืออยู่ใต้อิทธิพลของกฎเกณฑ์อย่างปราศจากเหตุผล มี
เ ห ตุมีผ ล ร่ว ม มือ กับ สัง ค ม มีค ว า ม รับ ผิด ช อ บ เ สีย ส ล ะ เ พื่ อ ส่ว น ร่ว ม แ ล ะ ใ ห้ค ว า ม เ ค า ร พ ต่อ เ พื่ อ
ม นุษ ย์โ ด ย ทั่ว ไ ป บุค ค ล ป ร ะ เ ภ ท นี้ถือ เ ป็น ผู้ที่มีวินัย ใ น ต น เ อ ง สูง ม า ก ซึ่ง มีไ ม่ม า ก นัก ใ น แ ต่ล ะ สังคม
นักทฤษฎีท้ังสองเชื่อว่า ขั้นน้ีเป็นบุคลิกภาพท่ีพั ฒนาถึงขีดสูงสุดของมนุษย์

3. ทฤษฎีพั ฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบอร์ก (Kohlberg)
ก า ร พั ฒ น า ก า ร ท า ง จ ริย ธ ร ร ม ห ม า ย ค ว า ม ถึง ก า ร เ จ ริญ เ ติบ โ ต ใ น ก า ร เ ข้า สัง ค ม ข อ ง เ ด็ก

ป ร ะ ก อ บ ด้ว ย ค ว า ม เ ข้า ใ จ บ ท บ า ท แ ล ะ ห น้า ที่ข อ ง ต น ที่มีต่อ บุค ค ล อื่น แ ล ะ สัง ค ม โ ด ย ส่ว น ร ว ม
จุด มุ่ง ห ม า ย ข อ ง ก า ร พั ฒ น า ท า ง จ ริย ธ ร ร ม คือ ก า ร ที่บุค ค ล จ ะ ทํา ใ ห้เ กิด ค ว า ม ส ง บ สุข แ ล ะ ค ว า ม
เจริญ ทั้งทางวัตถุจิตใจในกลุ่มของตนในสังคมหรือในโลกโดยส่วนรวม (ดวงเดือน พั นธุมนาวิน
, 2521)

ตามแนวคิดของโคลเบอร์ก (พรรณทิพย์ ศิริวรรณบุศย์, 2553; วัลภา สบายย่ิง, 2553;
อ้างถึงใน Kohlberg, 1976) เชื่อว่า พั ฒนาการทางจริยธรรม ของบุคคลจะเกิดขึ้น เป็น ลําดับข้ัน
โดยเริ่มจากขั้นแรกก่อน แต่ระยะเวลาในการอยู่ในแต่ละระยะนั้นจะแตกต่างกันแล้วแต่บุคคล ห รือ
บ า ง ค น อ า จ อ า จ อ ยู่ใ น ขั้น ที่ค า บ เ กี่ย ว กัน ก็ไ ด้ พั ฒ น า ก า ร ท า ง จ ริย ธ ร ร ม จ ะ ดํา เ นิน ไ ป เ ช่น เ ดีย ว กับ
พั ฒ น า ก า ร ท า ง ค ว า ม คิด แ ล ะ เ ห ตุผ ล โ ด ย จ ะ ค่อ ย ๆ มีก า ร เ ป ลี่ย น แ ป ล ง ใ น ก า ร แ ย ก แ ย ะ ถึง ผ ล ดี-

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สําห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 4
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

ผลเสีย แล้วนําไปก่อให้เกิดการจัดระบบใ หม่ ที่นาไปสู่การสร้างสมดุลของเหตุผลและการกระทําใน
ท่ีสุด พั ฒนาการทางจริยธรรมของมนุษย์ แบ่งเป็น 3 ระดับ แต่ละระดับแบ่งออกเป็น 2 ข้ัน ตาม
ลักษณะการให้เหตุผลทางจริยธรรมได้ดังน้ี (พั ชรี สวนแก้ว, 2545 : 106-107)

1 . ร ะ ดับ ก่อ น เ ก ณ ฑ์ ( Pre-Conventional Level) เ ป็น ขั้น เ ริ่ม มีจ ริย ธ ร ร ม ข อ ง เ ด็ก อ า ยุ
2-10 ปี พ ฤ ติก ร ร ม ท า ง จ ริย ธ ร ร ม ข อ ง บุค ค ล จ ะ ขึ้น อ ยู่กับ เ ห ตุผ ล ที่ผู้มีอํา น า จ กํา ห น ด ใ ห้ จ ะ เ ลือ ก ทํา
ใ น สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองเป็น หลัก โ ด ย ไ ม่คํานึงถึงผลที่จะเกิด ขึ้นกับผู้อื่น ในระดับจริยธรรม
นี้ ยังแบ่งเป็น 2 ข้ันย่อย คือ

ขั้น ที่ 1 ห ล บ ห ลีก ก า ร ถูก ล ง โ ท ษ ( The punishment and obedience orientation)
ใ น ขั้น นี้จะเป็นพฤติกรรมทางจริยธรรมของเด็กในช่วงอายุก่อน 7 ปี เป็นขั้นหลบหลีกการลงโ ท ษ
เด็กจะยอมทําตามคําสั่ง ห รือกฎเกณฑ์ของผู้ใหญ่เพ ราะไม่ต้องการให้ตนถูกลงโทษมากกว่าอย่าง
อื่น การตัดสิน ว่าพฤติกรรมใดถูกหรือผิดขึ้นอยู่กับผู้มีอํานาจเหนือพฤติกรรมของตนกําหนด เช่น
พ่ อแม่ หรือ ครู

ขั้น ที่ 2 ขั้น ยึด ห ลัก ก า ร แ ส ว ง ห า ร า ง วัล ( The instrumental relativist orientation)
ขั้น นี้จะเป็นพฤติกรรมทางจริยธรรมของเด็กอายุระหว่าง 7-10 ปี เป็น ขั้นแสวงหารางวัล เด็กจะ
แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม ที่ดีง า ม ป ฏิบัติต า ม คํา สั่ง แ ล ะ ก ฎ ร ะ เ บีย บ ต่า ง ๆ เ พื่ อ ใ ห้ไ ด้ม า ใ น สิ่ง ที่ต น ต้อ ง ก า ร
และขึ้นอยู่กับรางวัลท่ีตนจะได้รับ เช่น ช่วยเหลือคุณครูเพราะต้องการคาํ ชม หรือรางวัล

2 . ร ะ ดับทําตามเกณฑ์ ( Co nventional level) เป็นระดับจ ริยธรรมของเด็กวัย 10-16 ปี
เ ป็น ขั้น เ ริ่ม มีจ ริย ธ ร ร ม ต า ม ก ฎ แ ล ะ ป ร ะ เ พ ณีนิย ม ข อ ง สัง ค ม ห รือ ข อ ง ก ลุ่ม เ ริ่ม ใ ช้ก ฎ เ ก ณ ฑ์กํา ห น ด
ค ว า ม ถูก ต้อ ง ค ว า ม ดี ไ ม่อ ย า ก ทํา ผิด เ พ ร า ะ ต้อ ง ก า ร ใ ห้ก ลุ่ม ห รือ สัง ค ม ย อ ม รับ ต้อ ง ก า ร ย ก ย่อ ง
ช ม เ ช ย จ า ก สัง ค ม แ ล ะ ห ลีก เ ลี่ย ง คํา ตํา ห นิ ร ะ ดับ นี้ยัง ต้อ ง ค ว บ คุม จ า ก ภ า ย น อ ก แ ต่ ยัง มี
ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร เ อ า ใ จ เ ข า ม า ใ ส่ใ จ เ ร า ส า ม า ร ถ แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม ที่สัง ค ม ต้อ ง ก า ร ไ ด้ แ บ่ง
ออกเป็น 2 ข้ันคือ

ขั้น ที่ 3 ห ลัก ก า ร ทํา ต า ม ผู้อื่น เ ห็น ช อ บ ( The interpersonal concorda orientation)
ขั้น นี้จ ะ เ ป็น พ ฤ ติก ร ร ม ท า ง จ ริย ธ ร ร ม ข อ ง เ ด็ก อ า ยุป ร ะ ม า ณ 10-13 ปี เ ป็น ก า ร ทํา ใ ห้ผู้อื่น พ อ ใ จ ทํา
ต า ม แ บ บ แ ผ น ค น ส่ว น ใ ห ญ่ ยึด ถือ ต า ม ค ว า ม เ ห็น ช อ บ ข อ ง ก ลุ่ม ทํา ต า ม ก ฎ เ ก ณ ฑ์ข อ ง สัง ค ม เ พื่ อ
ต้ อ ง ก า ร ก า ร ย อ ม รั บ ข อ ง ก ลุ่ ม ห รื อ สั ง ค ม

ข้ันท่ี 4 ขั้นหลักการทําตามหน้าที่ทางสังคม (The law and order orientation)

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 5
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

ผู้ที่มีจริยธรรมในข้ันนี้อายุประมาณ 13-16 ปี เด็กจะรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของตนและสามารถทําตาม
ห น้า ที่ข อ ง ต น ต า ม เ ก ณ ฑ์ที่สัง ค ม กํา ห น ด ใ น ก า ร ดํา เ นิน ชีวิต เ ค า ร พ ก ฎ ห ม า ย ป ฏิบัติห น้า ที่ต า ม
ค่านิยมและกฎเกณฑ์ของสังคม เช่น ไ ม่ฆ่าสัต ว์เพราะผิดศีล ถือเป็น ผู้ที่มีจริยธรรมใ นขั้นนี้ถือว่ามี
จ ริ ย ธ ร ร ม ท่ี ดี พ อ ส ม ค ว ร

3. ระดับเหนือเกณฑ์ (Post-Conventional level) บุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
ร ะ ย ะ นี้พ ฤ ติก ร ร ม ท า ง จ ริย ธ ร ร ม ขึ้น อ ยู่กับ อิท ธิพ ล ข อ ง สัง ค ม สิ่ง ที่ถูก ต้อ ง ดีง า ม คือ สิ่ง ที่ค น ใ น
สัง ค ม ส่ว น ม า ก ย อ ม รับ แ ล ะ จ า ก ก า ร เ รีย น รู้ใ น ก า ร เ ป็น ส ม า ชิก ข อ ง สัง ค ม ย อ ม รับ ก ฎ เ ก ณ ฑ์ข อ ง
สัง ค ม ป ฏิบัติต น อ ยู่บ น พื้ น ฐ า น ข อ ง จ ริย ธ ร ร ม ทํา ใ ห้บุค ค ล พั ฒ น า สิ่ง ที่ดีไ ด้ด้ว ย ต น เ อ ง ร ะ ดับ นี้
แบ่งออกเป็น 2 ข้ันคือ

ข้ันที่ 5 ข้ันยึดหลักตามคําม่ันสัญญา (The social contract legalistic orientation)
ผู้ที่มีจ ริย ธ ร ร ม ใ น ขั้น นี้อ า ยุตั้ง แ ต่ 16 ปีขึ้น ไ ป ใ น ขั้น นี้ยึด มั่น ใ น สิ่ง ที่ถูก ต้อ ง ต า ม ก ฎ ห ม า ย แ ต่ยัง
เ ห็น ว่า ก า ร แ ก้ไ ข เ ป ลี่ย น แ ป ล ง ก ฎ เ ป็น สิ่ง ที่ทํา ไ ด้ เ มื่อ ไ ด้ใ ช้วิจ า ร ญ า ณ ด้ว ย เ ห ตุผ ล ที่จ ะ ทํา ใ ห้เ กิด
ป ร ะ โ ย ช น์สุข ข อ ง ทุก ค น ใ น สัง ค ม แ ล ะ เ พื่ อ พิ ทัก ษ์สิท ธิข อ ง ทุก ค น ใ น สัง ค ม เ ข้า ใ จ ว่า บุค ค ล ใ น สังคม
ต่ า ง มี ค่ า นิ ย ม แ ล ะ ค ว า ม เ ห็ น แ ต ก ต่ า ง กั น ไ ด้

ขั ้น ที ่ 6 ขั ้น ย ึด ห ล ัก ก า ร ย ึด อ ุด ม ค ต ิส า ก ล ( The universal ethical principle
orientation)พั ฒ น า ก า ร ท า ง จ ริย ธร ร ม ขั้น สูง สุด นี้ จ ะ พ บ ใ น ผู้ใ ห ญ่ที่มีค ว า ม เ จ ริญ ท า ง ส ติปัญญา
มี ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ แ ล ะ ค ว า ม รู้อ ย่า ง ก ว้า ง ข ว า ง เ กี่ย ว กับ สัง ค ม แ ล ะ วัฒ น ธ ร ร ม ที่เ ป็น ส า ก ล จึง มี
ค ว า ม คิด ที่ ก ว้า ง ไ ก ล ไ ป ก ว่า ก ลุ่ม แ ล ะ สัง ค ม ที่ต น เ ป็น ส ม า ชิก อ ยู่ เ ป็น บุค ค ล ที่มีอุด ม ค ติมีค ว า ม
สมเหตุสมผลคาํ นึงถึงความเท่าเทียมกันของสิทธิมนุษยชน
ป ฏิบัติต า ม ค ว า ม ถูก ต้อ ง ห รือ ห ลัก ก า ร ที่เ ป็น ส า ก ล แ ล ะ ต้อ ง เ ป็น ค ว า ม ถูก ต้อ ง ที่ไ ด้รับ ก า ร ย อ ม รับ
จ า ก ค น ส่ ว น ม า ก ท่ั ว โ ล ก แ ล ะ ทุ ก สั ง ค ม

ใ น ปี ค . ศ . 1983 โ ค ล เ บ อ ร์ก ไ ด้ทํา ก า ร ศึก ษ า ค้น ค ว้า อ ย่า ง ต่อ เ นื่อ ง แ ล ะ ไ ด้พั ฒ น า ก า ร ท า ง
จริยธรรมอีก 1 ขั้น คือ

ขั้น ที่ 7 ขั้น จ ริย ธ ร ร ม ข อ ง ผู้สูง อ า ยุ ( The Cosmic Perspective) โ ด ย เ ชื่อ ว่า เ มื่อ บุค ค ล
เ ข้า สู่วัย สูงอายุ บุค ค ล จ ะ พั ฒ น า ค ว า ม ง อ ก ง า ม ใ น จิต ใ จ ข อ ง ต น จ ะ เ ลิก มุ่ง ห วัง สิ่งต อ บแ ท น ใ น ก า ร
กระทาํ เพราะการถึงจุดหมายปลายทางของชีวิต การกอบโกย การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนจะลด

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สําห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 6
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

น้อยลง จะเริ่มเอื้อเฟ้ ือเผื่อแผ่ต่อคนอื่น และทาความดีโ ด ย ไ ม่ห วังผลตอบแทน คํานึงถึงแต่ค ว า ม
สบายใจ ความสุขสงบในบ้ันปลายชีวิตเท่าน้ัน (พรรณทิพย์ ศิริวรรณบุศย์, 2553)

4. ทฤษฎีการสร้างวินัยและจริยธรรมสามมิติ
ก า ร ส ร้า ง วินัย แ ล ะ จ ริย ธ ร ร ม เ ป็น ก ร ะ บ ว น ก า ร ที่ต้อ ง มีจุด มุ่ง ห ม า ย แ น่ชัด แ ล ะ ต้อ ง

ดํา เ นิน ก า ร อ ย่า ง ต่อ เ นื่อ ง กัน ใ น ทั้ง 3 ขั้น ต อ น คือ 1) ก า ร ส ร้า ง ศ รัท ธ า 2) ก า ร ส ร้า ง แ บ บ อ ย่า ง
และ 3) การฝึกให้ทาํ เป็นนิสัย ดังต่อไปนี้

ข้ันท่ี 1 การสร้างศรัทธา ถ้าต้องการให้คนมีวินัยห รือจ ริยธรรมในเรื่องใด ต้องสร้างความ
ศ รัทธาให้เกิดขึ้นเป็นอันดับแรก ( Value Clarification ห รือ V.C. ) เพื่ อให้เห็นคุณค่าของ
สิ่งนั้น ใ ห้ไ ด้ว่าสิ่งเหล่านั้นเกิดผลดีกับตน เอ ง และสังคมอย่างแท้จ ริง เช่น การสร้างศรัทธาใ ห้ค น
เ ค า ร พ ก ฎ จ ร า จ ร จํา เ ป็น จ ะ ต้อ ง เ ริ่ม จ า ก ก า ร ส ร้า ง ค ว า ม เ ข้า ใ จ ว่า ใ น ก า ร อ ยู่ร่ว ม กัน ข อ ง ค น ห มู่ม า ก
ก็ต้อ ง มีก ฎ มีร ะ เ บีย บ ไ ว้ เ พื่ อ ค ว า ม ส ง บ สุข เ รีย บ ร้อ ย เ ป็น ธ ร ร ม ป ล อ ด ภัย แ ล ะ คุ้ม ค ร อ ง สิท ธิ
ของทุกคน ถ้าหากปฏิบัติตามกฎจราจรแล้วจะเกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุกคน
นอกจากน้ี ในการสร้างความเข้าใจเพื่ อให้เกิดศรัทธาดังกล่าวน้ี อาจจําเป็นต้องชี้ให้เห็นถึงผลเสีย
ข อ ง ก า ร ที่ส ม า ชิก ค น ใ ด ค น ห นึ่ง ใ น สัง ค ม มัก ง่า ย ไ ม่รัก ษ า สิ่ง ที่ต้อ ง ก า ร ป ลูก ฝัง นั้น ๆ ด้ว ย ว่า มี
อย่างไรบ้าง เพ่ื อให้ตระหนักถึงผลกระทบท่ีจะเกิดข้ึนตามมา

ขั้น ที่ 2 ก า ร ส ร้า ง พ ฤ ติก ร ร ม แ บ บ อ ย่า ง ( Modeling ) โ ด ย อ า ศัย ก ระ บ ว น ก า ร ห รือ
ห ลัก ก า ร เ รีย น รู้ท า ง สัง ค ม ( Social Learning ห รือ S.L. ) ต า ม ห ลัก ที่ว่า พ ฤ ติก ร ร ม ข อ ง
คนเป็นผลมาจากการ ลอ กเลียน แบบพ ฤติกร รมใน สังคม ใ น ขั้นตอนนี้จึงเป็นการ กา รเรียน รู้ผ่า น
ก า ร เ ลีย น แ บ บ โ ด ย ก า ร ล อ ก เ ลีย น แ บ บ พ ฤ ติก ร ร ม ดี ที่พึ ง ป ร ะ ส ง ค์จ า ก พ ฤ ติก ร ร ม แ บ บ อ ย่า ง ที่
ส ร้า ง ขึ้น ใ ห้ดู ซึ่ง เ ป็น ก า ร ใ ช้อิท ธิพ ล ข อ ง ก ลุ่ม นั่น เ อ ง แ ล ะ ก ลุ่ม จ ะ ช่ว ย ทํา ห น้า ที่ค ว บ คุม ใ ห้มีก า ร
ป ฏิ บั ติ ต า ม ข้ อ ต ก ล ง ข อ ง ก ลุ่ ม ด้ ว ย

ขั้น ที่ 3 ก า ร เ ส ริม แ ร ง เ พื่ อ ใ ห้ทํา เ ป็น นิสัย ก า ร ส ร้า ง วินัย ห รือ จ ริย ธ ร ร ม ใ น ขั้น ต อ น นี้
อ า ศัย ห ลัก จิต วิท ย า ที่ว่า พ ฤ ติก ร ร ม ข อ ง ค น เ ป็น ผ ล ข อ ง ค ว า ม สัม พั น ธ์ร ะ ห ว่า ง สิ่ง เ ร้า กับ ก า ร
ตอบสนอง ถ้าพฤติกรรมใดทําแล้ว ไ ด้รับผลเป็น ที่น่าพอใจ เช่น ไ ด้รับคําชมเชย ยกย่อง สนใจ ก็
จะมีแนวโน้มแสดงพฤติกรรมนั้นออกมาอีก และในทางตรงกันข้ามหา กพ ฤติกรรมใด ทํา แล้วได้ รับ
ผ ล อ ย่า ง ไ ม่น่า พ อ ใ จ เ ช่น ถูก ตํา ห นิ ห รือ ถูก ล ง โ ท ษ ก็จ ะ มีแ น ว โ น้ม ไ ม่แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม นั้น อีก สิ่ง

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 7
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต
เ ห ล่า นี้ คือ ก ร ะ บ ว น ก า ร ป รับพฤติก ร ร ม ( Behaviour Modification ห รือ B.M. ) โ ด ย อาศัย
การเสริมแรง ( Reinforcement ) ทั้งทางบวกและทางลบ มากระตุ้น ใ ห้แสดงพฤติกรรมที่พึ ง
ประสงค์ออกมาบ่อย ๆ หรือถี่ขึ้นจนทาํ ติดเป็นนิสัย

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 1
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

หัวข้อท่ี 3 หลักการสร้างวินัยในตนเองให้แก่เด็กปฐมวัย

พ่ อแม่ ผู้ปกครอง และครู คงอยากให้เด็กท่ีตนเองดูแลมีลักษณะนิสัย ดังน้ี
... มีความรับผิดชอบ และรู้หน้าท่ีของตนเอง
... เป็นเด็กมีเหตุผล อธิบายอะไรก็เข้าใจง่าย
… รู้เวลาในการปฏิบัติกิจวัตรประจําวันของตนเอง
… ควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดี
… เข้ากับเพ่ื อนได้ดี เป็นท่ีรักของเพ่ื อนๆ
ฯลฯ

ถ้าหากต้องการให้เด็กมีลักษณะนิสัยดังที่กล่าวม า ทุกฝ่ายจําเป็นต้องร่วมมือกันในการสร้างวินัย
ในตนเองให้แก่เด็กตั้งแต่เด็กยังเล็ก สิ่งเหล่านี้จะแทรกซึมกลายเป็นบุคลิกภาพ เป็นลักษณะนิสัย
ที่จ ะ ติด ตัว เ ด็ก แ ล ะ ฝ่ ั ง แ น่น อ ยู่ใ น ตัว เ ด็ก จ น ก ร ะ ทั่ง เ ป็น ผู้ใ ห ญ่ ก ล า ย เ ป็น ผู้ใ ห ญ่ที่มีวินัย ใ น ต น เ อ ง
เป็น ผู้ที่ส า ม า ร ถ ค ว บ คุม พ ฤ ติก ร ร ม ข อ ง ต น เ อ ง ใ ห้มีก า ร แ ส ด ง อ อ ก อ ย่า ง เ ห ม า ะ ส ม ต า ม ก ฎ ร ะ เ บีย บ
และบรรทัดฐานของสังคม ซึ่งจะนําไปสู่การพั ฒนาของประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น
ก า ร ส ร้า ง เ ส ริม วินัย ใ น ต น เ อ ง สํา ห รับ เ ด็ก นั้น จ ะ ต้อ ง อ า ศัย ค ว า ม ร่ว ม มือ จ า ก บุค ค ล แ ล ะ ส ถ า บัน
ต่า ง ๆ ที่มีส่ว น เ กี่ย ว ข้อ ง กับ เ ด็ก ผู้ที่มีส่ว น ร่ว ม ใ น ก า ร พั ฒ น า ส่ง เ ส ริม วินัย ใ น ต น เ อ ง สํา ห รับ เ ด็ก มี
หลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็น สถาบันครอบครัว โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา เพื่ อน ชุมชน สื่อมวลชน
เ ป็ น ต้ น

1 . ส ถ า บัน ค ร อ บ ค รัว ถือ เ ป็น ส ถ า บัน ห ลัก ที่จ ะ ทํา ห น้า ที่ใ น ก า ร ป ลูก ฝัง ห ล่อ ห ล อ ม ร ะ เ บีย บ
วินัย ใ ห้แก่สมาชิกในครอบครัว ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ทางตรง คือ การอบรมสั่งสอนเด็ก
โดยตรง และทางอ้อมคือ การประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เพื่ อให้เด็กเกิดการเลียนแบบ
พ่ อ แ ม่ ญ า ติผู้ใ ห ญ่ แ ล ะ ส ม า ชิก ค น อื่น ๆ ใ น ค ร อ บ ค รัว เ ป็น บุค ค ล ที่สํา คัญ แ ล ะ ที่มีอิท ธิพ ล ต่อ ก า ร
ป ลูก ฝัง แ ล ะ ห ล่อ ห ล อ ม จ ริย ธ ร ร ม คุณ ธ ร ร ม แ ล ะ คุณ ลัก ษ ณ ะ นิสัย ต่า ง ๆ ใ ห้แ ก่เ ด็ก ดัง นั้น ค น ใ น
ครอบครัวควรมีแนวทางใน การ สร้า งวินัยในตนเองให้กับเ ด็กไปในทิศทางเดียวกัน ตัวอย่างเช่น
ถ้าพ่ อแม่กําหนดเวลาให้เด็กเข้านอนไว้ตอน 2 ทุ่ม ไม่ว่าพ่ อแม่จะอยู่หรือไม่อยู่เด็กควรนอน 2 ทุ่ม
ตามท่ีได้กําหนดไว้ ไม่ใช่สามารถเล่นต่อหรือดูทีวีต่อได้จนดึก

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 2
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

2. โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา การปลูกฝังวินัยในตนเองให้กับเด็กในขณะอยู่โรงเ รียน
ถือ เ ป็น ห น้า ที่ห ลัก ข อ ง ท า ง โ ร ง เ รีย น เ ช่น กัน ดัง นั้น บ ริห า ร ค ณ ะ ค รู แ ล ะ บุค ล า ก ร ใ น โ ร ง เ รีย น มี
ห น้า ที่ใ น ก า ร อ บ ร ม สั่ง ส อ น เ ป็น ตัว อ ย่า ง อัน ดีง า ม ใ ห้กับ เ ด็ก จัด ส ภ า พ แ ว ด ล้อ ม ใ น โ ร ง เ รีย น ใ ห้
เรียบร้อย และสะอาดสะอ้านอยู่เสมอ และจัด กิจกรรมต่างๆ เพื่ อปลูกฝังและสร้างเสริม คุณ ธ ร ร ม
จ ริยธรรมที่ดีโดยเฉพาะให้กับเด็กนักเรียน เช่น กิจกรรมดาวเด็กดี เพื่ อเป็นรางวัลให้กับเด็กที่ทํา
ดี หรือมีคุณธรรมด้านต่างๆที่ได้กาํ หนดไว้

3 . เ พื่ อ น เ ป็น ผู้ที่มีบ ท บ า ท สํา คัญ ใ น ก า ร กํา ห น ด ค่า นิย ม ท า ง จ ริย ธ ร ร ม ใ ห้กับ เ ด็ก ไ ด้เ ช่น กัน
เ ด็ก มัก จ ะ มีพ ฤ ติก ร ร ม ที่ค ล้อ ย ต า ม เ พื่ อ น เ ลีย น แ บ บ พ ฤ ติก ร ร ม เ พื่ อ น ทั้ง พ ฤ ติก ร ร ม ที่ดีแ ล ะ ไ ม่ดี
ส่วนเด็กท่ีเริ่มโตมักจะแสดงพฤติกรรมเพ่ื อให้ได้รับการยอมรับจากเพ่ื อน ๆ

4 . ชุม ช น แ ล ะ ผู้นํา ท า ง ศ า ส น า จ ะ เ ป็น ผู้ที่อ บ ร ม สั่ง ส อ น คุณ ธ ร ร ม แ ล ะ จ ริย ธ ร ร ม ใ ห้แ ก่
ป ร ะ ช า ช น ทั้ง เ ด็ก แ ล ะ ผู้ใ ห ญ่ใ น ท้อ ง ถิ่น นั้น ๆ ซึ่ง ก า ร ป ฏิบัติข อ ง ผู้นํา ชุม ช น แ ล ะ ผู้นํา ท า ง ศ า ส น า จ ะ มี
อิ ท ธิ พ ล ต่ อ ก า ร ป ลู ก ฝั ง คุ ณ ธ ร ร ม แ ล ะ จ ริ ย ธ ร ร ม แ ก่ บุ ค ค ล ใ น ท้ อ ง ถิ่ น นั้ น ด้ ว ย

5. ส่ือมวลชนทุกรูปแบบ ทั้งสื่อทางโทรทัศน์ และสื่อสิ่งพิ มพ์ ต่าง ๆ ล้วนมีบทบาทท่ีสาํ คัญ
ใ น ก า ร นํา เ ส น อ พ ฤ ติก ร ร ม แ ล ะ ค่า นิย ม ข อ ง ค น ใ น สัง ค ม ห า ก สื่อ นํา เ ส น อ เ รื่อ ง ร า ว ข อ ง บุค ค ล ที่
ป ร ะ พ ฤ ติป ฏิบัติใ น สิ่ง ที่ดีง า ม เ ช่น เ ด็ก เ รีย น ดีย อ ด ก ตัญ ญูดูแ ล พ่ อ แ ม่ที่ป่ว ย เ ด็ก เ จ อ เ งิน ใ น
สิ่งของท่ีมีผู้นํามาบริจาคและส่งคืนเจ้าของ ส่ิงเหล่านี้จะช่วยปลูกฝังให้เด็กอยากเป็นผู้มีจริยธรรม
อัน ดีง า ม ใ น ท า ง ต ร ง กัน ข้า ม ถ้า สื่อ นํา เ ส น อ พ ฤ ติก ร ร ม ใ น เ ชิง ล บ เ ช่น ก ลุ่ม เ ด็ก นัก เ รีย น ย ก พ ว ก ตี
กัน เ ด็ก แ ว้น ป่ว น เ มือ ง เ ด็ก รัก เ รีย น รุ่น พี่ ทํา ร้า ย รุ่น น้อ ง เ ด็ก อ า จ ม อ ง ว่า ถ้า มีพ ฤ ติก ร ร ม เ ห ล่า นี้จ ะ
ช่ว ย ใ ห้ตนเองได้รับการยอมรับจากกลุ่มเพื่ อน เป็น ฮีโ ร่ของกลุ่ม ถึงแม้จะเป็นการกระทาํ ในเชิงลบ
ก็ต า ม ดัง นั้น สื่อ ค ว ร เ ลือ ก นํา เ ส น อ สิ่ง ที่ดี แ ล ะ เ ป็น แ บ บ อ ย่า ง ที่ดีใ ห้แ ก่เ ด็ก ถือ เ ป็น ก า ร ป ลูก ฝั ง
คุ ณ ธ ร ร ม จ ริ ย ธ ร ร ม อั น ดี ง า ม ใ ห้ กั บ เ ด็ ก ใ น สั ง ค ม

ปัจ จัยที่มีผลต่อการสร้างวินัยในตนเองให้กับเด็ก
ก า ร ส ร้า ง วินัยในตนเองให้กับเด็กจะประ สบคว ามสําเร็จหรือ ไ ม่นั้น มีปัจ จัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น
ตัวเด็ก พ่ อแม่ ผู้ปกครอง ครู ความสัมพั นธ์ท่ีดีระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ และสภาพแวดล้อม ดังน้ี

1 . ตัว เ ด็ก ถือ เ ป็น ปัจ จัย ห ลัก ใ น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง เ นื่อ ง จ า ก เ ด็ก แ ต่ล ะ ค น ก็มีค ว า ม
แตกต่างทางอายุ ความสามารถทางเชาวน์ปัญญา พื้ นฐานทางอารมณ์ และปัญหาทางอารมณ์ท่ี

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 3
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

แ ต ก ต่า ง กัน ดัง นั้น มีปัจ จัย ที่ห ล า ก ห ล า ย เ กี่ย ว กับ ตัว เ ด็ก ที่ต้อ ง คํา นึง ถึง ใ น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น
ตนเอง ดังนี้

1.1 อายุ
อายุเป็น ปัจ จัยที่ต้องคํานึงถึงในการสร้างวินัยในตนเอง เพราะเด็กแต่ละวัย

มีค ว า ม คิด ค ว า ม รู้สึก ก า ร รับ รู้ ค ว า ม ต้อ ง ก า ร แ ล ะ ก า ร ก ร ะ ทํา แ ต ก ต่า ง กัน ไ ป เ ช่น
เ ด็ก เ ล็ก ๆ มีค ว า ม ส า ม า ร ถ ที่จ ะ เ ข้า ใ จ เ ห ตุผ ล น้อ ย จ ด จํา คํา สั่ง ส อ น ข อ ง ผู้ใ ห ญ่ไ ม่ไ ด้
น า น แ ล ะ ก า ร ค ว บ คุม ต น เ อ ง ใ ห้อ ยู่ใ น ก ฎ ร ะ เ บีย บ ห รือ อ ด ท น ต่อ ค ว า ม คับ ข้อ ง ใ จ ห รือ
สิ่งต่างๆ นั้น ยังมีน้อย ดังนั้น เด็กเล็กจะรักษาวินัยไม่ไ ด้ดีเท่ากับเด็กโต อย่างไรก็
ต า ม ใ น เ ด็ก ที่โ ต ขึ้น แ ม้จ ะ เ ข้า ใ จ เ ห ตุผ ลแ ล ะค ว บ คุม ต น เ อ ง ไ ด้ม า ก ขึ้น แ ล้วก็ต า ม แ ต่ก็
จ ะ มีค ว า ม เ ป็น ตัว ข อ ง ตัว เ อ ง สูง ขึ้น มีอ า ร ม ณ์ห ล า ก ห ล า ย แ ล ะ มีป ฏิกิริย า โ ต้ต อ บ
ท า ง อ า ร ม ณ์ที่รุน แ ร ง ม า ก ขึ้น ดัง นั้น พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รู ค ว ร ค า ด ห วัง
พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร มี วิ นั ย ใ น ต น เ อ ง ข อ ง เ ด็ ก ใ น แ ต่ ล ะ วั ย ที่ แ ต ก ต่ า ง กั น

1.2 ความสามารถทางเชาวน์ปัญญา
ใ น เ ด็ก ป ก ติก า ร เ ข้า ใ จ เ ห ตุผ ล แ ล ะ ผ ล ข อ ง ก ฎ ร ะ เ บีย บ ต่า ง ๆ จ ะ ทํา ใ ห้เ ด็ก รู้ว่า

ก ฎ ร ะ เ บีย บ ห รือ คํา สั่ง นั้น เ ป็น สิ่ง ที่ดีแ ล ะ ต น ค ว ร จ ะ ป ฏิบัติต า ม แ ล ะ เ ข้า ใ จ ว่า ห า ก ต น
ป ฏิบัติต า ม แ ล้ว จ ะ เ กิด ผ ล ดีอ ย่า ง ไ ร แ ต่สํา ห รับ เ ด็ก ที่มีค ว า ม ส า ม า ร ถ ท า ง เ ช า ว น์
ปัญ ญ า ไ ม่สูง ม า ก นัก มัก มีปัญ ห า ใ น ด้า น ค ว า ม เ ข้า ใ จ เ ห ตุผ ล ก า ร จ ด จํา แ ล ะ ก า ร
ป ฏิบัติต า ม คํา สั่ง จ ะ สัง เ ก ต เ ห็น ไ ด้ว่า สั่ง อ ะ ไ ร ไ ป ก็มัก จ ะ จํา ไ ม่ไ ด้ ห รือ ส อ น อ ะ ไ ร ไ ปไ ม่
นานก็ลืม และทําให้ความเข้าใจเหตุและผ ลไม่ดีไปด้วย เด็กจะไม่รู้ว่า ทําไมตนต้องทํา
ตามคําสั่งนี้และทําไปแล้วจะเกิดประโยชน์อย่างไร อย่างไรก็ตามไม่ได้ห มายความว่า
ในเด็กที่มีเชาวน์ปัญญาสูงจะมีวินัยดีกว่าเด็กที่มีเชาวน์ปัญญาตา่ํ เสมอไป บ่อยคร้ัง
ท่ีเด็กฉลาดก็สามารถหาวิธีหลบหลีกกฎเกณฑ์ต่างๆ หรือทําการฝ่าฝืนกฎโดยผู้ใหญ่
อ า จ จั บ ไ ม่ ไ ด้ ไ ล่ ไ ม่ ทั น ก็ ไ ด้

1.3 พื้ นอารมณ์ (Temperament)
พื้ น อ า ร ม ณ์ ห ม า ย ถึง แ น ว โ น้ม ข อ ง เ ด็ก ใ น ก า ร ต อ บ ส น อ ง ต่อ สิ่ง แ ว ด ล้อ ม

ร อ บ ตัว ไ ม่ว่า จ ะ เ ป็น ค น สิ่ง ข อ ง ห รือ ส ถ า น ที่ พื้ น อ า ร ม ณ์เ ป็น สิ่ง ที่ติด ตัว ม า ตั้ง แ ต่

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 4
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

เ กิด มีผ ล ม า จ า ก พั น ธุก ร ร ม คุณ ภ า พ ก า ร ตั้ง ค ร ร ภ์ แ ล ะ ค ว า ม เ ค รีย ด ข อ ง แ ม่ เ ร า
ส า ม า ร ถ สัง เ ก ต พื้ น อ า ร ม ณ์ข อ ง เ ด็ก ไ ด้ตั้ง แ ต่แ ร ก เ กิด ยิ่ง เ ด็ก โ ต ขึ้น ก็จ ะ เ ห็น ไ ด้ชัด
ยิ่ง ขึ้น อ ย่า ง ไ ร ก็ต า ม แ ม้พื้ น อ า ร ม ณ์จ ะ เ ป็น สิ่ง ที่ติด ตัว ม า ตั้ง แ ต่เ กิด ก็ต า ม แ ต่ก็
สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ดีข้ึนได้ โดยวิธีการเลี้ยงดูที่เหมาะสม

โ ด ย ทั่วไปแล้วสามารถแบ่งเด็กตามพื้ นอารมณ์เป็น 3 ประเภท (Thomas
and Chess, 1 9 9 7 ) คือ 1 ) เ ด็ก เ ลี้ย ง ง่า ย ( easy child) จ ะ มีลัก ษ ณ ะ อ า ร ม ณ์ดี
ป รับ ตัว ง่า ย เ ข้า ห า ผู้อื่น ไ ด้ง่า ย ไ ม่มีป ฏิกิริย า รุนแรง มีส ม า ธิดีแ ล ะ มีค ว า ม อ ด ท น สูง
2 ) เ ด็ก เ ลี้ย ง ย า ก ( difficult child) จ ะ มีลัก ษ ณ ะ อ า ร ม ณ์ห งุด ห งิด ง่า ย แ ล ะ
แปรปรวนเร็ว มีปฏิกิริยารุนแรงและอดทนต่อความคับข้องใจได้น้อย ลักษณะแบบ
นี้ทํา ใ ห้ย า ก ต่อ ก า ร ฝึก ร ะ เ บีย บ วินัย แ ล ะ 3 ) เ ด็ก ป รับ ตัว ช้า ( slow to warm up)
มักจะปรับตัวต่อสิ่งใหม่ๆได้ช้า มักจะเป็นแบบถอยหนี แต่เมื่อได้เจ อสิ่งบ่อยๆ ซ้ํา ๆ
เด็กก็จะเริ่มคุ้นเคยและปรับตัวได้ หลายคนเรียกเด็กกลุ่มน้ีว่าเด็กขี้อาย

ดัง นั้น เ ด็ก ที่มีพื้ น อ า ร ม ณ์แ ต ก ต่า ง กัน จึง ต้อ ง ก า ร ก า ร ต อ บ ส น อ ง จ า ก พ่ อ
แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รูแ ต ก ต่า ง กัน ด้ว ย เ ช่น ใ น เ ด็ก ที่มีพื้ น อ า ร ม ณ์เ ป็น เ ด็ก เ ลี้ย ง
ย า ก พ่ อ แ ม่ แ ล ะ ค รูต้อ ง ใ จ เ ย็น ไ ม่ยั่ว ใ ห้เ ด็ก โ ม โ ห พู ด คุย กับ เ ด็ก อ ย่า ง มีเ ห ตุผ ล แ ล ะ
ใ ช้วิธีส ร้า ง แ ร ง จูง ใ จ ใ ห้ทํา สิ่ง ที่เ ห ม า ะ ส ม ม า ก ก ว่า ใ ช้วิธีล ง โ ท ษ เ มื่อ ทํา ผิด เ ด็ก ก็จ ะ มี
อารมณ์หงุดหงิดน้อยลงและควบคุมตนเองได้ดีขึ้นในท่ีสุด สําหรับเด็กในกลุ่มเด็กขี้
อาย ถ้าผู้ใหญ่เข้าใจลักษณะของเด็ก ให้เวลาเด็กในการปรับตัว ให้โอกาสเพิ่ มข้ึนใน
ก า ร ฝึก ทัก ษ ะ สุด ท้า ย เ ด็ก ก็จ ะ พั ฒ น า ต่อ ไ ป ไ ด้ดี เ พ ร า ะ ฉ ะ นั้น ก า ร เ ข้า ใ จ พื้ น อ า ร ม ณ์
เด็กจึงเป็นส่ิงสาํ คัญ ซ่ึงจะทาํ ให้ตอบสนองและดูแลเด็กได้ง่ายข้ึน

1.4 ปัญหาทางอารมณ์
ใ น เ ด็ก ที่มีปัญ ห า พ ฤ ติก ร ร ม แ ล ะ ข า ด ร ะ เ บีย บ วินัย สิ่ง ที่สํา คัญ ก็คือ ต้อ ง ห า ว่า มี
สาเหตุมาจากปัญหาทางอารมณ์ของเด็กหรือไม่ ปัญหาทางอารมณ์ในเด็กส่วนใหญ่มัก
เ กิด จ า ก ค ร อ บ ค รัว เ ช่น พ่ อ แ ม่ท ะ เ ล า ะ เ บ า ะ แ ว้ง ค ร อ บ ค รัว แ ต ก แ ย ก พ่ อ แ ม่ห ย่า ร้า ง ห รือ
แ ย ก ท า ง กัน ห รือ เ ด็ก ไ ม่ไ ด้อ ยู่กับ พ่ อ แ ม่เ นื่อ ง จ า ก ค ว า ม จํา เ ป็น ด้า น อื่น ๆ เ ช่น พ่ อ แ ม่ต้อ ง

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 5
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

ทํา ง า น เ ป็น ต้น ห า ก แ ก้ปัญ ห า ดัง ก ล่า ว ไ ด้แ ล้ว เ ด็ก มัก จ ะ มีพ ฤ ติก ร ร ม ดีขึ้น แ ล ะ ส า ม า ร ถ ฝึก
ร ะ เ บี ย บ วิ นั ย ไ ด้ ง่ า ย ขึ้ น ด้ ว ย

2 . ตัว พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รู เ ป็น บุค ค ล สํา คัญ ใ น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้เ กิด ขึ้น ใ น ตัว เ ด็ก
ซึ่งไม่ใ ช่เรื่องง่าย และต้องใช้เวลานาน มีปัจ จัยมากมากที่ส่งผลให้การสร้างวินัย ใ ห้กับเด็กประสบ
ความสาํ เร็จ หรือล้มเหลว ปัจจัยดังกล่าวประกอบไปด้วย

2.1 ทัศนคติ
พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รูจํา น ว น ม า ก คิด ว่า ก า ร ฝึก วินัย ใ ห้กับ เ ด็ก เ ป็น เ รื่อ ง ที่ไ ม่
สํา คัญ เ มื่อ เ ด็ก โ ต ขึ้น เ ด็ก จ ะ ดีเ อ ง ห รือ เ ด็ก จ ะ เ รีย น รู้ไ ด้เ อ ง จ า ก สัง ค ม ร อ บ ตัว ส่ง ผ ล ใ ห้
ไ ม่ไ ด้ฝึก วินัย ใ น ต น เ อ ง อ ย่า ง จ ริง จัง ตั้ง แ ต่ยัง เ ล็ก ดัง นั้น เ ด็ก จ ะ เ ติบ โ ต ขึ้น ม า แ บ บ ข า ด วินัย
แ ล ะ จ ะ มี ปั ญ ห า พ ฤ ติ ก ร ร ม ใ น ท่ี สุ ด
2.2 ความต้ังใจจริง และความสม่าํ เสมอ
ห ล า ย ค น เ ชื่อ ว่า วินัย ใ น ต น เ อ ง เ ป็น เ รื่อ ง สํา คัญ แ ล ะ จํา เ ป็น ต้อ ง ส ร้า ง ใ ห้แ ก่เ ด็ก แ ต่ก็
ไ ม่ไ ด้ทํา อ ะ ไ ร อ ย่า ง จ ริง จัง ไ ม่ไ ด้พ ย า ย า ม ทํา ก า ร ฝึก วินัย อ ย่า ง มีแ บ บ แ ผ น แ ล ะ ข า ด ค ว า ม
ตั้ง ใ จ จ ริง ใ น ก า ร ฝึก วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ เ ด็ก อ ย่า ง จ ริง จัง อีก ห นึ่ง ปัญ ห า ที่มัก พ บ บ่อ ย ๆ
ใ น ก า ร ฝึก วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ เ ด็ก คือ พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รูไ ม่มีค ว า ม ส ม่ํา เ ส ม อ ทํา ๆ
หยุดๆ ทําบ้างไม่ทําบ้าง อยากทําเมื่อไรก็ทํา ไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนให้เด็กปฏิบัติตาม หรือ
เ ป ลี่ย น ข้อ ต ก ล ง บ่อ ย ๆ บ า ง ค น อ า จ ไ ม่ไ ด้ตั้ง ก ฎ ที่แ น่น อ น เ ล ย ก็ไ ด้ เ ด็ก จ ะ รับ รู้ไ ด้ว่า ผู้ใ ห ญ่
ไ ม่ไ ด้จ ริง จัง ใ น ก า ร ฝึก วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ พ ว ก เ ข า ดัง นั้น ไ ม่จํา เ ป็น ต้อ ง ทํา ต า ม ห รือ ไ ม่
ต้ อ ง มี วิ นั ย ก็ ไ ด้
2.3 การมีวินัยในตนเองของผู้ใหญ่
บ่อ ย ค รั้ง ที่ค น ฝึก วินัย เ ป็น ค น ไ ม่มีวินัย เ สีย เ อ ง แ ส ด ง พ ฤ ติก ก ร ม ก า ร ข า ด วินัย ใ ห้
เ ด็ก เ ห็น เ ช่น ว า ง สิ่ง ข อ ง ไ ม่เ ป็น ที่เ ป็น ท า ง ทิ้ง ข ย ะ ไ ว้เ ก ลื่อ น พื้ น ไ ม่ต ร ง ต่อ เ ว ล า ไ ป ส า ย
เสมอไม่ว่าจะนัดกับใคร ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ เป็นต้น การขาดวินัยในตนเองของ
ผู้ใ ห ญ่มัก จ ะ ทํา ใ ห้เ ด็ก เ ติบ โ ต ม า อ ย่า ง ข า ด วินัย ด้ว ย เ ช่น กัน เ พ ร า ะ เ ด็ก จ ะ เ รีย น รู้จ า ก ก า ร
เลียนแบบบุคคลที่อยู่ใกล้ชิด มากกว่าเรียนรู้จากสิ่งที่ผู้ใหญ่พยายามสอน

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 6
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

3 . ค ว ามสัม พั น ธ์ท่ีดีระหว่างผู้ใ หญ่กับเด็ก ความสัมพั นธ์ระห ว่างผู้ใหญ่กับเด็กเป็นสิ่งสําคัญย่ิงใน
ก า ร ฝึก วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ เ ด็ก ห า ก ค ว า ม สัม พั น ธ์ร ะ ห ว่า ง กัน ไ ม่ดี เ ด็ก จ ะ ต่อ ต้า น ก ฎ ร ะ เ บีย บ ห รือ
ข้อ ต ก ล ง ที่ตั้ง ขึ้น แ ล ะ จ ะ มีป ฏิกิริย า เ มื่อ ผู้ใ ห ญ่พ ย า ย า ม ส อ น ห รือ ค ว บ คุม ใ ห้เ ข า อ ยู่ใ น วินัย แ ล ะ
บ่อยครั้งที่เด็กจะเข้าใจความประสงค์ของผู้ใหญ่ผิดๆ เช่น คิดว่าการท่ีผู้ใหญ่คอยสอดส่องดูเขาก็
เพื่ อจับผิด ห รือการที่ผู้ใ ห ญ่บังคับให้ทําต ามข้อต กลง เพราะเป็น ไ ม่รักเขา เป็น ต้น ในทางตรงกัน
ข้า ม ห า ก ค ว า ม สัม พั น ธ์ข อ ง ผู้ใ ห ญ่กับ เ ด็ก เ ป็น ไ ป ด้ว ย ดี เ ด็ก จ ะ ย อ ม รับ แ ล ะ นับ ถือ ใ น ตัว พ่ อ แ ม่
ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รู เ มื่อ คุณ พู ด เ ด็ก จ ะ ฟัง ใ น สิ่ง ที่ผู้ใ ห ญ่ส อ น ห รือ เ มื่อ มีข้อ ต ก ล ง ร่ว ม กัน เ ด็ก จ ะ
พยายามปฏิบัติตามแม้มันจะยากก็ตาม หรือเมื่อถูกลงโทษ เด็กจะไม่โกรธหรือเคียดแค้น

4 . กลวิธีในการฝึ กวินัยในตนเองให้กับเด็ก การฝึกวินัยในตนเองให้กับเด็กจาํ เป็นจะต้องมีกลยุทธ์
ห รือ เ ท ค นิค ที่เ ห ม า ะ ส ม ด้ว ย ห า ก ใ ช้วิธีก า ร ที่ไ ม่ดี ก า ร ฝึก ก็ย่อ ม ไ ม่ป ร ะ ส บ ค ว า ม สํา เ ร็จ เ ช่น ห า ก ใ ช้
วิธีอ อ ก คํา สั่ง อ ยู่ร่ํา ไ ป ห รือ ใ ช้วิธีก า ร ขู่ ใ น ที่สุด เ ด็ก ก็จ ะ ไ ม่ย อ ม ฟัง เ ล ย ห า ก ล ง โ ท ษ โ ด ย ก า ร ตีทุก
ค รั้ง ที่เ ด็ก ทํา ผิด เ ด็ก ก็จ ะ ก ล า ย เ ป็น ค น ด้า น ไ ม้เ รีย ว ไ ป ห รือ ห า ก ใ ห้ร า ง วัล ลูก ทุก ค รั้ง ที่ต้อ ง ก า ร ใ ห้
เด็กทําอะไร ผู้ใ ห ญ่ก็จะต้องเพ่ิ มรางวัลมากขึ้น หรือแพงขึ้นเรื่อยๆ ทําอะไรก็หวังแต่รางวัล ห รือไม่
ก็เด็กจะเบ่ือรางวัลและขาดแรงจูงใจที่จะทาํ ตามคําสั่งในที่สุด

จ า ก ปัจ จัย ที่ไ ด้ก ล่า ว ม า ข้า ง ต้น จ ะ เ ห็น ไ ด้ว่า ก า ร ฝึก วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ เ ด็ก จ ะ ป ร ะ ส บ
ค ว า ม สํา เ ร็จ ห รือ ไ ม่นั้น ขึ้น อ ยู่กับ ปัจ จัย ห ล า ย อ ย่า ง ดัง นั้น พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รูจํา เ ป็น ต้น
คํา นึง ถึง ปัจ จัย ทุก อ ย่า ง ไ ม่ว่า จ ะ เ ป็น ก า ร รู้จัก เ ด็ก อ ย่า ง แ ท้จ ริง รู้จัก ต น เ อ ง ป ฏิบัติต น ใ ห้เ ป็น
แบบอย่างที่ดี มีความตั้งใจทําอย่างจริงจังและเสมอต้นเสมอปลาย ด้วยวิธีการที่เหมาะสมในการ
ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ เ ด็ก แ ล ะ พ ย า ย า ม แ ก้ไ ข ข้อ บ ก พ ร่อ ง ที่ส่ง ผ ล ก ร ะ ท บ ต่อ ก า ร ฝึก วินัย ใ น
ต น เ อ ง ใ ห้ กั บ เ ด็ ก

ห ลั ก ก า ร ส ร้ า ง วิ นั ย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้ แ ก่ เ ด็ ก
ห ลัก ก า ร สํา คัญ ใ น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ ห้แ ก่เ ด็ก สํา ห รับ พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง ค รู แ ล ะ บุค ล ท่ี

เกี่ยวข้องมี ดังนี้
1. ตอบสนองทางด้านร่างกายและจิตใจข้ันพ้ื นฐานให้กับเด็ก กล่าวคือ เด็กทุกคนนอกจาก

ต้อ ง ก า ร ก า ร กิน อิ่ม น อ น ห ลับ ส บ า ย ไ ด้รับ ก า ร ป ก ป้อ ง จ า ก ภัย อัน ต ร า ย ต่า ง ๆ ร อ บ ตัว แ ล ะ มีที่วิ่ง
เล่นแล้ว เด็กๆ ยังต้องการความรัก ความสงบสุข ความเป็นมิตร ความใส่ใจ การยอมรับ ความ

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สําห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 7
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต
มีเ ห ตุผ ล ก า ร มีแ บ บ แ ผ น ข อ ง ชีวิต ที่ส อ ด ค ล้อ ง กัน แ ล ะ ก า ร ค ว า ม เ ข้า อ ก เ ข้า ใ จ จ า ก บุค ค ล ร อ บ ข้า ง
ดัง นั้น พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รู จํา เ ป็น ต้อ ง ต อ บ ส น อ ง ท า ง ร่า ง ก า ย แ ล ะ จิต ใ จ ข อ ง เ ด็ก ใ ห้ไ ด้รับ
ความต้องการขั้นพื้ นฐาน
2 . ส ร้า ง สัม พั น ธ ภ า พ ที่ดีกับ เ ด็ก แ ล ะ มีเ จ ต ค ติที่ดีกับ ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ เ ด็ก
เ นื่อ ง จ า ก ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ เด็ก นั้น จ ะ ต้อ ง ค่อ ย เ ป็น ค่อ ย ไ ป แ ล ะ ต้อ ง ใ ช้เ ว ล า ฝึก ฝ น จ น
เ กิด เ ป็น นิสัย ไ ม่ใ ช่ส า ม า ร ถ ส ร้า ง ขึ้น ไ ด้ภ า ย ใ น 1 - 2 วัน ใ ส่ใ จ แ ล ะ พ ย า ยา ม ใ น ก า ร ส ร้า ง ด้ว ย ก า ร ใ ช้
สัม พั น ธ ภ า พ ที่ดีกับ เ ด็ก ใ ห้คํา แ น ะ นํา ถึง ก า ร ป ร ะ พ ฤ ติที่ถูก ต้อ ง ฝึก เ ด็ก ใ ห้รู้จัก ก า ร บัง คับ ต น เ อ ง
อ ย่า ง มีเ ห ตุผ ล ใ ห้กํา ลัง ใ จ เ มื่อ เ ด็ก ทํา ถูก ต้อ ง แ ล ะ ช ม เ ช ย ใ ช้วิธีก า ร ชัก จูง ใ จ ใ ห้มีส่ว น ร่ว ม ใ น ก า ร
ป ฏิ บั ติ ม า ก ก ว่ า บั ง คั บ
3 . ก า ร ป ฏิบัติต่อ เ ด็ก อ ย่า ง ส ม่ํา เ ส ม อ มีกิจ ก ร ร ม ใ น ชีวิต ป ร ะ จํา วัน ที่เ ป็น แ บ บ แ ผ น แ ล ะ
ส มํ่า เ ส ม อ ค ว บ คู่กัน มีก ฎ เ ก ณ ฑ์แ ล ะ ข้อ ต ก ล ง ที่ชัด เ จ น ก า ร ทํา สิ่ง ใ ด ซํ้า ๆ ส ม่ํา เ ส ม อ ทํา เ ป็น ป ร ะ จํา
ทุก วัน ก็จ ะ ก ล า ย เ ป็น นิสัย แ ล ะ เ ด็ก เ รีย น รู้ก า ร ค ว บ คุม ต น เ อ ง จ า ก ผู้ใ ห ญ่ที่ค ง เ ส้น ค ง ว า ทั้ง ท า ง
อารมณ์และพฤติกรรม ไ ม่ใ ช่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เพราะเด็กจะคาดเดาอารมณ์ของผู้ใหญ่ไม่ได้และไม่
รู้ ว่ า จ ะ ป ฏิ บั ติ ตั ว อ ย่ า ง ไ ร
ก ล่า ว โ ด ย ส รุป ห ลัก ก า ร สํา คัญ ใ น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ ห้แ ก่เ ด็ก ค ว ร คํา นึง ถึง พั ฒ น า ก า ร เ ด็ก เ ป็น
สํา คัญ ค ว ร ใ ช้วิธีก า ร จูง ใ จ ม า ก ก ว่า ก า ร บัง คับ ทํา แ บ บ ค่อ ย เ ป็น ค่อ ย ไ ป แ ล ะ ต้อ ง มีค ว า ม ส ม่ํา เ ส ม อ
ไม่ใช่ทําบ้างไม่ทําบ้าง ให้แรงเสริมเชิงบวกเมื่อเด็กแสดงพฤติกรรมท่ีพึ งประสงค์ ให้เด็กได้เรียนรู้
แ ล ะ ป ฏิบัติด้ว ย ต น เ อ ง อ ย่า ง มั่น ใ จ เ ป็น แ บ บ อ ย่า ง ที่ดีใ ห้กับ เ ด็ก แ ล ะ ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง ที่ดี
ค ว ร มี แ น ว ป ฏิ บั ติ ไ ป ใ น ทิ ศ ท า ง เ ดี ย ว กั น ทั้ ง ท่ี บ้ า น แ ล ะ ท่ี โ ร ง เ รี ย น

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 1
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

หัวข้อท่ี 4 เทคนิควิธีในการสร้างวินัยในตนเองให้แก่เด็กปฐมวัย

ใ น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ เ ด็ก นั้น ไ ม่ส า ม า ร ถ กํา ห น ด เ ท ค นิค ห รือ วิธีก า ร ที่แ น่น อ น ไ ด้
เพราะขึ้นอยู่กับตัวเด็ก อายุ บุคลิกภาพ การเรีย น รู้ และการรับรู้ของเด็กแ ต่ละคน นอกจากนี้ยัง
ขึ้น อ ยู่กับ พ ฤ ติก ร ร ม ที่ต้อ ง ก า ร ส อ น แ ล ะ ส ถ า น ก า ร ณ์ใ น ข ณ ะ นั้น ด้ว ย ดัง นั้น พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง
แ ล ะ ค รูค ว ร มีค ว า ม รู้เ กี่ย ว กับ เ ท ค นิค วิธีก า ร ต่า ง ๆ ที่ห ล า ก ห ล า ย ใ น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ
เ ด็ก เ พื่ อ นํา เ ท ค นิค เ ห ล่า นี้ไ ป ป รับ ใ ช้ใ ห้เ ห ม า ะ ส ม กับ ส ถ า น ก า ร ณ์ แ ล ะ ตัว เ ด็ก ใ ห้ม า ก ที่สุด อ ย่า ง ไ ร ก็
ตามวิธีการหรือเทคนิคที่เลือกมาใช้ควรเป็นเชิงบวก ไม่ควรใช้เทคนิคการสร้างวินัยในตนเองเชิง
ล บ เ ช่น ก า ร ล ง โ ท ษ ซึ่ง ก า ร ล ง โ ท ษ เ ด็ก มีห ล า ย วิธี เ ช่น ก า ร ล ง โ ท ษ ด้ว ย คํา พู ด ก า ร ทํา ร้า ย ใ จ จิต
และการลงโทษทางร่างกาย แต่ละวิธีล้วนสร้างความเจ็บปวดให้เด็กทั้งทางกายและทางใจ

ก า ร ส ร้ า ง วิ นั ย เ ชิ ง บ ว ก
ข้ อ ดี ข อ ง ก า ร ส ร้ า ง วิ นั ย ใ น ต น เ อ ง เ ชิ ง บ ว ก

 ช่วยให้เด็กเรียนรู้พฤติกรรมท่ีเหมาะสม
 เสริมสร้างความสัมพั นธ์ท่ีดีระหว่างเด็กและผู้ใหญ่
 เป็นตัวอย่างท่ีดีให้กับเด็ก
 ส่งผลให้พั ฒนาความสามารถทางด้านอารมณ์และสังคมของเด็กเป็นไปในทิศทางท่ีดีขึ้น
 อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
 เด็กมีความรับผิดชอบ และมีความเช่ือม่ันในตนเอง

ข้ อ จํา กั ด ข อ ง ก า ร ส ร้ า ง วิ นั ย ใ น ต น เ อ ง เ ชิ ง บ ว ก
 ใช้เวลานาน และพ่ อแม่ ผู้ปกครอง และครูต้องมีความอดทนสูง
ก า ร ส ร้ า ง วิ นั ย เ ชิ ง ล บ

ข้ อ ดี ข อ ง ก า ร ส ร้ า ง วิ นั ย ใ น ต น เ อ ง เ ชิ ง ล บ
 ยับยั้งพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสมของเด็กได้ทันที แต่จะใช้ได้ผลเฉพาะในช่วงแรกเท่านั้น

ข้อจาํ กัดของการสร้างวินัยในตนเองเชิงลบ
 ส่งผลให้เด็กมีความก้าวร้าวมากย่ิงข้ึน และส่งผลต่อสุขภาพจิตของเด็ก
 ไม่ช่วยเสริมสร้างพฤติกรรมท่ีเหมาะสมให้กับเด็ก

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สําห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 2
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

 ส่งผลต่อความสัมพั นธ์ระหว่างเด็กและผู้ใหญ่
 เป็นตัวอย่างท่ีไม่ดีให้กับเด็ก
 มีผลต่อการพั ฒนาความสามารถทางด้านอารมณ์และสังคมของเด็ก
 ทาํ ลายความม่ันใจของเด็ก

เ ท ค นิ ค ใ น ก า ร ส ร้ า ง วิ นั ย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้ กั บ เ ด็ ก
การสร้างวินัยในตนเองให้กับเด็กมีมากมายหลากหลายวิธี พ่ อแม่ ผู้ปกครอง และครู ควร

เลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมเด็ก เทคนิคในการสร้างวินัยในตนเองควรเป็นเชิงบวก มากกว่าเชิงลบ
เพราะการสร้างวินัยเชิงลบ คือ การบังคับ เคียวเข็ญ การควบคุมพฤติกรรมของเด็กโดยใช้การ
ล ง โ ท ษ ด้ว ย คํา พู ด ห รือ ก า ร ก ร ะ ทํา ที่ทํา ร้า ย จิต ใ จ ดัง นั้น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง ค ว ร เ ป็น ใ น เ ชิง
บวก และสร้างสรรค์ทั้งคาํ พู ด วิธีพู ด และการกระทํา ดังนี้

1. การให้แรงเสริมเชิงบวก
ก า ร ใ ห้แ ร ง เ ส ริม เ ชิง บ ว ก เ มื่อ เ ด็ก แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม ที่เ ห ม า ะ ส ม ถือ ว่า เ ป็น แ ร ง ก ร ะ ตุ้น ท่ี
สํา คัญ ที่ทํา ใ ห้เ ด็ก แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม เ ห ล่า นั้น ต่อ ไ ป ก า ร ใ ห้แ ร ง เ ส ริม เ ชิง บ ว ก ดัง ก ล่า ว อ า จ เ ป็น ก า ร
ให้รางวัลท่ีเป็นคําชมเชย การยิ้ม การปรบมือ หรือเป็นสิ่งของ สิทธิพิ เศษ
พ่ อแม่ ผู้ปกครอง และครูควรชมเชยเมื่อเด็กแสดงพฤติกรรมที่ดี ท่ีเป็นที่ยอมรับ โดยระบุ
ใ ห้ชัดเจนในสิ่งที่เด็กทําจริง ไ ม่ยกย่องเด็กเกิน จ ริง ห รือพู ดชมไปเรื่อย เพื่ อให้เด็กเข้าใจสิ่งที่เ ข า
ทํา ไ ด้ รู้ว่า ต น เ อ ง มีค ว า ม ส า ม า ร ถ แ ล ะ ช่ว ย ใ ห้เ ด็ก ทํา พ ฤ ติก ร ร ม เ ห ล่า นั้น บ่อ ย ขึ้น จ น ก ล า ง เ ป็น นิสัย
และในขณะที่พู ด ชื่นชม เด็กควรสบตากับเด็กด้วยเพื่ อแสดงความจริงใจ และแสดงให้เด็กเห็นว่าผู้
พู ด กํา ลัง ส น ใ จ เ ข า อ ย่า ง แ ท้จ ริง ตัว อ ย่า ง เ ช่น ค ว ร ช ม ว่า “ ดีจัง ห นูแ บ่ง ข อ เ ล่น ใ ห้เ พื่ อ น ด้ว ย ”
แทน “เก่งจังเลย หรือหนูเป็นเด็กดี”
การให้รางวัลเม่ือเด็กแสดงพฤติกรรมท่ีเหมาะสม รางวัลอาจเป็นส่ิงของ กิจกรรมพิ เศษท่ี
เ ด็ก ช อ บ พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รูจํา เ ป็น ต้อ ง ใ ห้ร า ง วัล อ ย่า ง เ ห ม า ะ ส ม ไ ม่ค ว ร ใ ห้พ ร่ํา เ พ รื่อ
เพราะจะทาํ ให้เด็กทาํ ดีเพื่ อหวังส่ิงตอบแทนเท่านั้น
2. การสร้างข้อตกลงร่วมกัน
ก า ร บ อ ก ก ฎ ห รือ ข้อ ต ก ล ง ใ ห้เ ด็ก ท ร า บ อ ย่า ง ชัด เ จ น ช่ว ย ใ ห้เ ด็ก รู้ว่า จ ะ ป ฏิบัติต น อ ย่า ง ไ รใ ห้
เป็น ไ ป ต า ม ค ว า ม ค า ด ห วัง ข อ ง ผู้ใ ห ญ่ แ ล ะ ท ร า บ ข อ บ เ ข ต ค ว า ม ป ร ะ พ ฤ ติข อ ง ต น เ อ ง แ ล ะ ข้อ ต ก ล ง

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 3
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

ดังกล่าวควรสอดคล้องกับธรรมชาติของเด็กแต่ละวัย เช่น ในเด็กอายุ 3-4 ปี เพี ยงแค่ให้เด็กไม่
ลุกเดินและไม่ส่งเสียงดังขณะที่ครูสอน เป็นความคาดหวังที่ถือว่าสมเหตุสมผล และเป็นมารยาท
ทางสังคมเบื้องต้น ที่เด็กจะต้องควบคุม ตัวเองให้ไ ด้ สําหรับเด็กที่โ ต ขึ้น การให้เด็กมีส่ว น ร่ว ม ใ น
การสร้างข้อตกลง เนื่องจากถ้าเด็กๆมีส่วน ร่วม จะทาํ ให้เด็ก ๆ ยอมรับ และทําตามข้อตกลงม า ก
ขึ้น แ ล ะ ป้อ ง กัน ไ ม่ใ ห้เ ด็ก เ กิด ค ว า ม รู้สึก ต่อ ต้า น ข้อ ต ก ล ง ที่มีเ ห ตุผ ล ชัด เ จ น แ ล ะ เ ข้า ใ จ ง่า ย
รวมถึงการกระตุ้นให้เด็กปฏิบัติตามอย่างสมาํ่ เสมอจะช่วยพั ฒนาให้เด็กเกิดวินัยในตนเองได้

3. การบอกเหตุผลอย่างตรงไปตรงมา
ก า ร อ ธิบ า ย ใ ห้เ ด็ก เ ข้า ใ จ ว่า สิ่ง ใ ด ค ว ร ทํา แ ล ะ สิ่ง ใ ด ไ ม่ค ว ร ทํา เ พ ร า ะ เ ห ตุใ ด ซึ่ง ก า ร อ ธิบ า ย
เหตุผลน้ันต้องสั้น กระชับ และเข้าใจง่าย
4 . การเบี่ยงเบนกิจกรรม ห รือเบี่ยงเบนความสนใจของเด็ก
การเปลี่ยนไปทําสิ่งอื่นหรือเบี่ยงเบน ความสนใจของเด็กก่อนที่จะแสดงพฤติกรรมท่ีไม่เป็น
ที่ย อ ม รับ ก า ร ห้า ม เ ด็ก ไ ม่ใ ห้ทํา สิ่ง ใ ด สิ่ง ห นึ่ง ค ว ร มีกิจ ก ร ร ม อื่น ม า ท ด แ ท น ใ ห้เ ด็ก ทํา แ ท น ซึ่ง เ ป็น
ก า ร ส อ น ใ ห้ เ ด็ ก รู้ จั ก ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า อี ก ด้ ว ย
5. การเพิ กเฉย
ก า ร ไ ม่ใ ห้ค ว า ม ส น ใ จ พ ฤ ติก ร ร ม ที่เ รีย ก ร้อ ง ค ว า ม ส น ใ จ ข อ ง เ ด็ก แ ต่พ ฤ ติก ร ร ม ดัง ก ล่า ว
จะต้องไม่ส่งผลกระทบ หรือเป็นอันตรายต่อตัวเด็กเองและต่อผู้อ่ืน เช่น เด็กกรีดร้อง และลงไป
น อ น ดิ้น กับ พื้ น เ มื่อ ไ ม่ไ ด้ข อ ง เ ล่น แ ต่ถ้า เ ด็ก มีพ ฤ ติก ร ร ม ที่อ า ล ะ ว า ด ทํา ล า ย สิ่ง ข อ ง ก า ร แ ย ก เ ด็ก
ไ ป อ ยู่ลํา พั ง ใ น ส ถ า น ที่ที่จํา กัด เ ช่น มุม ห้อ ง ห รือ ห้อ ง ที่เ งีย บ ไ ม่มีเ ค รื่อ ง เ ล่น ห รือ ข อ ง ใ ช้ใ ด ใ ด ที่จ ะ
ดึง ค ว า ม ส น ใ จ ไ ด้ เ พื่ อ เ ป็น ก า ร ใ ห้เ ด็ก ไ ด้เ รีย น รู้ถึง ค ว า ม เ พิ ก เ ฉ ย ไ ม่ไ ด้รับ ค ว า ม ส น ใ จ เ มื่อ ตัว เ อ ง
ทําผิด และจ ะไม่แสดงพฤติกรรมเหล่า นั้นอีก โดยจะใช้เวลาไ ม่เกิน 5 นาที และจะได้ผลดีกับเด็ก ที่
อ า ยุ 2 ปีขึ้น ไ ป แ ล ะ เ มื่อ เ ด็ก ส ง บ แ ล้ว ผู้ใ ห ญ่ค ว ร เ ข้า ไ ป พู ด คุย กับ เ ด็ก แ ล ะ อ ธิบ า ย ใ ห้เ ด็ก ฟัง ว่า
เ พ ร า ะ เ ห ตุ ใ ด ถึ ง ไ ม่ ค ว ร แ ส ด ง พ ฤ ติ ก ร ร ม ดั ง ก ล่ า ว
6 . การงดสิท ธิพิ เศษ
สิท ธิพิ เ ศ ษ ห ม า ย ถึง ข น ม สิ่ง ข อ ง ห รือ กิจ ก ร ร ม ที่เ ด็ก ช อ บ ทํา ง ด สิท ธิพิ เ ศ ษ เ มื่อ เ ด็ก ไ ม่ป ฏิบัติ
ตามข้อตกลง หรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหม าะสม แต่ก็ไม่ควรใช้วิธีนี้บ่อยจนเกินไป เพราะเด็ก จ ะ
รู้ สึ ก ไ ม่ ดี แ ล้ ว อ า จ เ กิ ด ก า ร ต่ อ ต้ า น ไ ด้

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สําห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 4
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

7. การรับผลจากการกระทํา
ก า ร ใ ห้เ ด็ก ไ ด้รับ ผ ล ข อ ง ก า ร ก ร ะ ทํา ที่เ ห ม า ะ ส ม จ ะ ช่ว ย ใ ห้เ ด็ก เ รีย น รู้ไ ด้ดีขึ้น ว่า อ ะ ไ ร ที่ค ว ร ทํา
ห รือ อ ะ ไ ร ที่ไ ม่ค ว ร ทํา ตัว อ ย่า ง เ ช่น เ มื่อ เ ด็ก ไ ม่ทํา ก า ร บ้า น ผ ล ที่ไ ด้รับ คือ ถูก ค รูทํา โ ท ษ ที่โ ร ง เ รีย น
หรือเมื่อเด็กไม่รับประทานอาหารตามเวลาท่ีกาํ หนด ก็จะไม่มีอาหารรับประทาน เป็นต้น
พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รูค ว ร ป รับ เ ป ลี่ย น เ ท ค นิค ใ น ก า ร ฝึก วินัย ใ น ต น เ อ ง แ ล ะ เ ท ค นิค ก า ร
ส อ น ใ ห้เ ห ม า ะ ส ม กับ ส ถ า น ก า ร ณ์ใ น เ ด็ก แ ต่ล ะ วัย แ ล ะ แ ต่ล ะ ค น เ พ ร า ะ เ ด็ก แ ต่ล ะ ค น มีพื้ น ฐ า น ก า ร
เ ลี้ย ง ดู แ ล ะ อ า ร ม ณ์แ ต ก ต่า ง กัน เ ท ค นิค ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง จึง ไ ม่มีสูต ร ต า ย ตัว แ ต่ค รู
สามารถนําดังที่กล่าวไว้ข้า งต้นมาปรับใช้ให้เหม าะ กับกับส ถาน การ ณ์และเด็กเป็นรายบุคคลให้ม า ก
ที่สุด แต่ท้ังนี้ทั้งน้ันไม่ว่าจะเลือกใช้เทคนิคใด ควรคิดเสมอว่าวิธีการที่เลือกนั้น...
 เป็นการแก้ปัญหาระยะยาว เพื่ อพั ฒนาการสร้างวินัยในตนเองของเด็ก
 เ ป็น ก า ร สื่อ ส า ร กัน อ ย่า ง ชัด เ จ น เ กี่ย ว กับ ค ว า ม ค า ด ห วัง ข้อ ต ก ล ง แ ล ะ มีก า ร กํา ห น ด

ข อ บ เ ข ต ที่ ชั ด เ จ น ใ ห้ เ ด็ ก เ ข้ า ใ จ
 เป็นการสร้างความสัมพั นธ์ที่ดีระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ให้เกิดความเคารพซ่ึงกัน
 เ ป็น ก า ร เ ส ริม ส ร้า ง ค ว า ม มั่น ใ จ ใ ห้กับ เ ด็ก ใ น ก า ร แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม แ ล ะ จัด ก า ร กับ

ส ถ า น ก า ร ณ์ ท่ี ท้ า ท า ย
 เ ป็น ก า ร ส อ น ใ ห้เ ด็ก รู้จัก ก า ร แ ก้ปัญ ห า ที่ถูก ต้อ ง ไ ม่ใ ช้ค ว า ม รุน แ ร ง คํา นึง ถึง ค ว า ม รู้สึก

ของผู้อื่น และเคารพในสิทธิของผู้อื่น

ข้อแนะนําในการฝึ กวินัยในตนเองให้กับเด็ก
1 . คํา นึง ถึง พั ฒ น า ก า ร ข อ ง เ ด็ก เ ป็น ห ลัก เ ท ค นิค ที่ใ ช้แ ล ะ ก า ร ฝึก ต้อ ง เ ห ม า ะ ส ม กับ

พั ฒ น า ก า ร ต า ม วัย ข อ ง เ ด็ก เ ช่น เ ด็ก วัย เ ต า ะ แ ต ะ เ ป็น วัย ที่อ ย า ก รู้อ ย า ก เ ห็น ถ้า ต้อ ง ห ยุด
พ ฤติกรรมที่ไ ม่พึ งประสงค์ สิ่งแรกที่ใ ช้คือ เบี่ยงเบนความสนใจ ถ้าไม่สําเร็จ ก็ใ ห้อุ้มเด็กออ ก จ า ก
ตรงนั้น แต่เมื่อเด็กโตข้ึน อาจใช้การเพิ กเฉย หรือแยกออกไปอยู่ตามลําพั ง

2 . การฝึกวินัยในตนเองต้องใช้วิธีการที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละบุคล ขึ้น กับพื้ นฐานอารมณ์
ก า ร เ รีย น รู้ แ ล ะ ค ว า ม เ ข้า ใ จ ซึ่ง พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รู จํา เ ป็น ต้อ ง ศึก ษ า ทั้ง ลัก ษ ณ ะ ข อ ง เ ด็ก
และเทคนิคต่าง ๆ ท่ีเหมาะสมกับเด็กแต่ละบุคคล

3. ให้เด็กได้เห็นพฤติกรรมตัวอย่างที่ดี จะเข้าใจได้ดีกว่าการพู ดเพี ยงอย่างเดียว

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 5
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต
4 . ห ลัง ก า ร ฝึก วินัย ใ น ต น เ อ ง แ ต่ล ะ ด้า น พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รูค ว ร พู ด คุย กับ เ ด็ก
แ ส ด ง ใ ห้เ ห็น ว่า ทุก ค น เ ข้า ใ จ ค ว า ม รู้สึก เ ด็ก แ ล ะ ส อ น ใ ห้เ ด็ก เ ข้า ใ จ ค ว า ม รู้สึก ที่เ กิด ขึ้น แ ล ะ วิธีที่จ ะ
จั ด ก า ร กั บ อ า ร ม ณ์ ข อ ง ต น เ อ ง อ ย่ า ง เ ห ม า ะ ส ม
5 . มีค ว า ม ส มํ่า เ ส ม อ ใ น ก า ร ฝึก วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ เ ด็ก แ ล ะ อ ย่า ลืม ใ ห้แ ร ง เ ส ริม เ มื่อ เ ด็ก
แ ส ด ง พ ฤ ติ ก ร ร ม ท่ี ดี

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 1
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

หัวข้อท่ี 5 บทบาทของผู้ปกครองและครูในการสร้างวินัยในตนเอง
ให้แก่เด็กปฐมวัย

พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง แ ล ะ ค รูเ ป็น ผู้ที่มีบ ท บ า ท สํา คัญ อ ย่า ง ยิ่ง ใ น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้แ ก่เ ด็ก
ปฐมวัย การสร้างวินัย ใ ห้แก่เด็กจะมีประสิท ธิภาพห รือไม่ ขึ้นอยู่ กับศักยภาพ ของบุคคลผู้เ ลี้ย ง ดู
เ ด็ก เ ป็น สํา คัญ เ ป็น สํา คัญ เ นื่อ ง จ า ก ค รู เ ป็น ผู้ที่อ ยู่ใ ก ล้ชิด อ บ ร ม สั่ง ส อ น แ ล ะ เ ลือ ก วิธีก า ร
แนวทาง หรือเทคนิคต่างๆ มาใช้ให้เหมาะสมกับเด็ก

บทบาทของพ่ อแม่ และผู้ปกครองในการสร้างวินัยในตนเองให้แก่เด็กได้
พ่ อ แ ม่ แ ล ะ ผู้ป ก ค ร อ ง เ ป็น ผู้ที่มีบ ท บ า ท สํา คัญ ยิ่ง ใ น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ เ ด็ก

เ นื่อ ง จ า ก เ ป็น บุค ค ล ที่เ ด็ก มีโ อก า ส อ ยู่ใ ก ล้ชิด ด้ว ย ม า ก ที่สุด ทั้ง นี้บ ท บ า ท ข อ ง พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง ใ น
การปลูกฝังวินัยในตนเองให้กับเด็ก มีดังนี้

1 . การเป็นแบบอย่างที่ดี
พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง ค ว ร เ ป็น แ บ บ อ ย่า ง ใ ห้เ ด็ก เ ห็น ซํ้า ๆ เ พ ร า ะ เ มื่อ เ ด็ก เ ห็น บ่อ ย ๆ แ ล ะ เ ป็น
แบบอย่างในระยะเวลาที่นานพอ จะเกิดเป็นความทรงจาํ ระยะยาว เด็กจะจําได้นานเป็นปีหรือคงอยู่
ต ล อ ด ไ ป แ ล ะ ค ว ร เ ป็น แ บ บ อ ย่า ง ที่ค ง เ ส้น ค ง ว า เ ช่น วัน นี้พ่ อ แ ม่มีวินัย พ รุ่ง นี้แ ล ะ วัน ต่อ ๆ ไ ป พ่ อ
แม่ต้องแสดงพฤติกรรมท่ีมีวินัยด้วย เพ่ื อให้เด็กไม่เกิดความสับสนว่าควรยึดถือส่ิงใดแน่ และส่ิง
สําคัญคือ การเป็นแบบอย่างที่เหมือนกันท้ังพ่ อทั้งแม่ และครอบครัว ถ้าถ้าหากพ่ อทําอย่าง แม่ทาํ
อีก อ ย่า ง ห นึ่ง เ ด็ก จ ะ สับ ส น แ ล ะ ไ ม่รู้ว่า ค ว ร ทํา ต า ม แ บ บ ใ น กัน แ น่ สุด ท้า ย เ ด็ก จ ะ เ ลือ ก ทํา ต า ม
แ บ บ อ ย่ า ง ท่ี ง่ า ย แ ล ะ ต น เ อ ง พ อ ใ จ
2 . สร้างความสัม พั น ธ์ที่ดีกับเด็ก
พ่ อ แ ม่ แ ล ะ ผู้ป ก ค ร อ ง ค ว ร แ ส ด ง ค ว า ม รัก ต่อ เ ด็ก ด้ว ย วิธีก า ร โ อ บ ก อ ด ห อ ม ลูบ ศีร ษ ะ
บ อ ก รัก ร ว ม ทั้ง ก า ร ช ม เ ช ย เ มื่อ เ ด็ก ทํา แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม ที่ดีอ ยู่เ ส ม อ สิ่ง เ ห ล่า นี้จ ะ ทํา ใ ห้เ ด็ก มี
ความสุข และก่อให้เกิดความมั่นคงทางจิต ใ จ และมั่น ใ จ ว่าพ่ อแม่รักเขาอย่างแท้จ ริง ถึงแม้ว่าเขา
จ ะ ทํา ผิด ก็ต า ม น อ ก จ า ก นี้ พ่ อ แ ม่ค ว ร มีเ ว ล า ใ น ก า ร อ บ ร ม สั่ง ส อ น แ ล ะ ทํา กิจ ก ร ร ม ร่ว ม กับ เ ด็ก เ ป็น
ป ร ะ จํา ส มํ่า เ ส ม อ มีเ ว ล า ที่จ ะ ร่ว ม พู ด คุย ห รือ ทํา กิจ ก ร ร ม ที่เ ด็ก ช อ บ ก า ร มีเ ว ล า พิ เ ศ ษ เ ห ล่า นี้จ ะ ช่ว ย
ส ร้า ง ค ว า ม สัม พั น ธ์อัน ดีร ะ ห ว่า ง พ่ อ แ ม่กับ ลูก แ ล ะ ช่ว ย ใ ห้พ่ อ แ ม่ส อ น ลูก ไ ด้มีป ร ะ สิท ธิภ า พ ม า ก ขึ้น
เ นื่อ ง จ า ก ส ภ า พ เ ศ ร ษ ฐ กิจ ใ น ปัจ จุบัน ส่ง ผ ล ใ ห้พ่ อ แ ล ะ แ ม่ต้อ ง ทํา ง า น ห นัก ขึ้น เ พื่ อ ห า ร า ย ไ ด้ใ ห้

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 2
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

เพี ยงพอต่อรายจ่าย ส่งผลให้พ่ อแม่หลายท่านไม่มีเวลาในการอบรมส่ังสอนเด็ก หรือมีเวลาเพี ยง
น้อยนิด จะเสมือนเป็นการบังคับให้เด็กทาํ โดยไม่ได้อธิบายเหตุผล

ตัวอย่างการใช้เวลาว่างร่วมกันระหว่างพ่ อแม่ลูก เช่น การดูโทรทัศน์ร่วมกัน ซึ่งพ่ อแม่จะ
ค อ ย อ ธิบ า ย ใ ห้ค ว า ม รู้กับ ลูก ไ ป พ ร้อ ม ๆ กัน ก า ร ร้อ ง เ พ ล ง ก า ร อ่า น ห นัง สือ ก า ร ทํา ส ว น ค รัว ก า ร
อ อ ก กํา ลัง ก า ย ก า ร ท่อ ง เ ที่ย ว ก า ร เ ยี่ย ม ญ า ติผู้ใ ห ญ่ ก า ร ทํา บุญ ไ ห ว้พ ร ะ ห รือ กิจ ก ร ร ม ท า ง ศ า ส น า
อื่นๆ ซ่ึงจะทาํ ให้เด็กได้เรียนรู้กฎกติกาของสังคม โดยพ่ อแม่ต้องเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตนท่ี
ดีใ ห้แ ก่เ ด็ก แ ล ะ สิ่ง สํา คัญ คือ พ่ อ แ ม่ แ ล ะ ผู้ป ก ค ร อ ง ต้อ ง ย อ ม รับ ใ น ตัว เ ด็ก พ ย า ย า ม ทํา ค ว า ม
เ ข้า ใ จ ค ว า ม รู้สึก แ ล ะ ก า ร ก ร ะ ทํา ข อ ง เ ด็ก ใ ห้โ อ ก า ส เ ด็ก ไ ด้แ ส ด ง ค ว า ม คิด เ ห็น ใ น ก า ร ก ร ะ ทํา ข อ ง
ต น เ อ ง แ ล้ว พ่ อ แ ม่จ ะ เ ข้า ใ จ เ ห ตุผ ล แ ล ะ ก า ร ก ร ะ ทํา ข อ ง เ ด็ก ม า ก ขึ้น อีก ทั้ง ยัง เ ป็น แ บ บ อ ย่า ง ที่ดี
ใ ห้กับ เ ด็ก ใ น ก า ร รับ ฟัง เ ห ตุผ ล ข อ ง ค น อื่น อีก ด้ว ย แ ล ะ สิ่ง เ ห ล่า นี้จ ะ ทํา ใ ห้เ ด็ก เ ชื่อ ฟัง ก ฎ ร ะ เ บีย บ
หรือข้อตกลงของพ่ อแม่ได้ง่ายขึ้น เพราะเด็กจะไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้ทาํ

3. การดูแล และปกครองเด็ก
บ ท บ า ท ข อ ง พ่ อ แ ม่ที่สํา คัญ อีก ป ร ะ ก า ร ห นึ่ง คือ ต้อ ง ป ก ค ร อ ง ดูแ ล ลูก ข อ ง ตัว เ อ ง ใ ห้ไ ด้
เนื่องจากในปัจ จุบัน พ่ อแม่จํานวนมากไม่สามารถปกครอง ห รือควบคุมพฤติกรรมของลูกได้ และ
ป ล่อ ย ใ ห้เ ด็ก ข่ม ขู่ต่า ง ๆ น า น า เ ช่น จ ะ ไ ม่ไ ป โ ร ง เ รีย น ถ้า ไ ม่ไ ด้ข อ ง เ ล่น ห รือ ไ ม่ย อ ม ท า น ข้า ว ถ้า
ไ ม่ไ ด้ดูก า ร์ตูน เ รื่อ ง โ ป ร ด ตัว ย อ ย่า ง ข่า ว ล่า สุด คือ “ เ ด็ก อ า ยุ 1 0 ปี ก ร ะ โ ด ด ถีบ แ ม่ที่สั่ง ห้า ม เ ล่น
เ ก ม อ อ น ไ ล น์ ”
4. การจัดสภาพแวดล้อมในบ้าน
พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง ค ว ร จัด ส ภ า พ แ ว ด ล้อ ม ใ น บ้า น ใ ห้มีค ว า ม เ ป็น ร ะ เ บีย บ เ รีย บ ร้อ ย จัง ว า ง
สิ่ง ข อ ง ใ ห้เ ป็น ที่เ ป็น ท า ง ไ ม่ส ก ป ร ก เ ล อ ะ เ ท อ ะ เ พื่ อ เ ป็น แ บ บ อ ย่า ง ที่ดีกับ เ ด็ก จัด ส ภ า พ แ ว ด ล้อ ม
ภ า ย ใ น บ้า น ใ ห้มีค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม เ ช่น จัด เ ก็บ ห รือ จัด ว า ง ข อ ง ที่แ ต ก หัก ง่า ย ใ ห้พ้ น มือ เ ด็ก จัด ว า ง
ข อ ง เ ล่น ข อ ง ใ ช้ข อ ง เ ด็ก ใ น ที่ที่เ ด็ก ส า ม า ร ถ ห ยิบ ถึง โ ด ย ไ ม่ต้อ ง ข อ ค ว า ม ช่ว ย เ ห ลือ จ า ก บุค ค ล อื่น
และมีสถานที่สําหรับเด็กในการจัดเก็บของใช้ส่วนตัวเพื่ อสร้างความรับผิดชอบให้แก่เด็ก ส่งเสริม
ใ ห้ เ ด็ ก ช่ ว ย ต น เ อ ง ไ ด้ ม า ก ข้ึ น
5. การให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียน
ค ว า ม ร่ว ม มือ ที่ดีข อ ง พ่ อ แ ม่ ผู้ป ก ค ร อ ง กับ ท า ง โ ร ง เ รีย น ใ น ก า ร เ ส ริม ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง
ใ ห้กับ เ ด็ก นั้น จ ะ ช่ว ย ใ ห้เ ด็ก มีวินัย ใ น ต น เ อ ง ไ ด้ดีขึ้น แ ล ะ ส า ม า ร ถ ป รับ พ ฤ ติก ร ร ม ที่ไ ม่พึ ง ป ร ะ ส ง ค์

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 3
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

ข อ ง เ ด็ก ใ ห้ห า ย ไ ป ไ ด้อ ย่า ง ง่า ย ด า ย ค รูมีป ร ะ ส บ ก า ร ณ์เ พ ร า ะ ส อ น เ ด็ก ม า ห ล า ย รุ่น อีก ทั้ง ก า ร ป รับ
พ ฤ ติก ร ร ม นั้น ต้อ ง ทํา อ ย่า ง ส มํ่า เ ส ม อ ถ้า ร่ว ม มือ กัน ทํา ทั้ง ที่โ ร ง เ รีย น แ ล ะ ที่บ้า น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น
ต น เ อ ง ใ ห้ กั บ เ ด็ ก จ ะ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ม า ก ขึ้ น

บ ท บ า ท ข อ ง ค รู ใ น ก า ร ส ร้ า ง วิ นั ย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้ แ ก่ เ ด็ ก ไ ด้
ค รูเ ป็น ผู้มีส่ว น สํา คัญ ใ น ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ เ ด็ก เ นื่อ ง จ า ก เ ด็ก ใ ช้เ ว ล า อ ยู่ที่

โ ร ง เ รีย น ใ น แ ต่ล ะ วัน อ ย่า ง น้อ ย 8 ชั่ว โ ม ง ก า ร ส ร้า ง วินัย ใ น ต น เ อ ง ใ ห้กับ เ ด็ก จ ะ มีป ร ะ สิท ธิภ า พ
ห รือไม่ขึ้นอยู่กับศักยภาพ ของครูเป็น สําคัญ ทั้งนี้ บทบาทของครูในการสร้างวินัยใ นตนเองใ ห้กับ
เด็กสรุปได้ ดังน้ี

1 . การเป็นแบบอย่างท่ีดี
ค รูค ว ร ป ฏิบัติต น เ ป็น แ บ บ อ ย่า ง ที่ดีข อ ง พ ฤ ติก ร ร ม ที่ดี ที่ต้อ ง ก า ร ใ ห้เ ด็ก ป ฏิบัติ เ พ ร า ะ สิ่ง ที่ค รู
กระทําสําคัญกว่าสิ่งที่ครูสอน เด็กจะซึม ซับและปฏิบัติตามได้อย่างเหมาะสม เช่น เป็นแบบอย่างที่
ดีใ น ก า ร จัด เ ก็บ ข อ ง เ ล่น ข อ ง ใ ช้ใ ห้เ ป็น ร ะ เ บีย บ เ ป็น แ บ บ อ ย่า ง ที่ดีใ น ก า ร พู ด จ า ไ พ เ ร า ะ กับ ทุ ก ค น
กล่าวคําขอโทษเม่ือรู้ว่าทําผิดกับเด็กหรือผู้อ่ืน เป็นต้น นอกจากนี้ ครูควรปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง
ที่ดีด้า น ก า ร ค ว บ คุม อ า ร ม ณ์ข อ ง ต น เ อ ง ค รูค ว ร มีส ติ รู้ตัว แ ล ะ ค ว บ คุม อ า ร ม ณ์ข อ ง ต น เ อ ง ใ ห้ไ ด้
เ มื่อ เ ด็ก แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม ที่ไ ม่เ ป็น ที่ย อ ม รับ ถ้า ค รูไ ม่ส า ม า ร ถ ค ว บ คุม อ า ร ม ณ์ต น เ อ ง ไ ด้เ มื่อ เ ด็ก
แสดงพฤติกรรมที่เป็น ปัญหากับชั้นเรียน ครูอาจจะโมโห และลงโทษเด็กโดยขาดสติ โดยการพู ด
บ่น มีนํ้า เ สีย ง ที่ดุดัน เ ก รีย ว ก ร า ด ห รือ ที่แ ย่ที่สุด คือ ก า ร ตีเ ด็ก พ ฤ ติก ร ร ม เ ห ล่า นี้ล้ว น เ ป็น
แ บ บ อ ย่า ง ใ น ก า ร ใ ช้ค ว า ม รุน แ ร ง ใ น ก า ร แ ก้ปัญ ห า ซึ่ง ถือ เ ป็น สิ่ง ที่ไ ม่เ ห ม า ส ม เ ป็น อ ย่า ง ยิ่ง ที่จ ะ
แสดงต่อหน้าเด็ก ท้ังนี้เพราะเด็กอาจเลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าว

2. การตอบสนองต่อพฤติกรรมของเด็ก
ค รูมีบ ท บ า ท สํา คัญ ใ น ก า ร ต อ บ ส น อ ง ต่อ พ ฤ ติก ร ร ม ข อ ง เ ด็ก อ ย่า ง เ ห ม า ะ ส ม ทั้ง พ ฤ ติก ร ร ม ที่เ ป็น ท่ี
ยอมรับ และพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับของเด็ก ดังนี้

2 . 1 ก า ร ต อ บ ส น อ ง ต่อ เ ด็ก อ ย่า ง เ ห ม า ะ ส ม เ มื่อ เ ด็ก แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม ที่เ ป็น ที่ย อ ม รับ
ค รูค ว ร แ ส ด ง ใ ห้เ ด็ก เ ห็น อ ย่า ง ชัด เ จ น ว่า ค รูเ ห็น คุณ ค่า ข อ ง ก า ร ป ฏิบัติข อ ง เ ด็ก เ มื่อ เ ด็ก แ ส ด ง
พ ฤ ติก ร ร ม ที่ดี อ ย่า ป ล่อ ย ใ ห้ก า ร ทํา ค ว า ม ดีข อ ง เ ข า ผ่า น ไ ป โ ด ย ค รูไ ม่ส น ใ จ ค รูอ า จ เ พี ย ง ส บ ต า ยิ้ม
ห รือ พู ด ชื่น ช ม ใ ห้กํา ลัง ใ จ ต่อ พ ฤ ติก ร ร ม ที่ดีเ ห ล่า นั้น ๆ ก า ร ต อ บ ส น อ ง เ ช่น นี้ทํา เ ด็ก รู้ว่า ค รูศ รัท ธ า ใ น

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สาํ ห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 4
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต

ตัว เ ข า แ ล ะ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ข อ ง เ ข า ดัง นั้น ค รูจึง ค ว ร พ ย า ย า ม สัง เ ก ต พ ฤ ติก ร ร ม ที่ดีใ น ตัว เ ด็ก ค รู
ไ ม่ ค ว ร ท่ี ค อ ย แ ต่ จ ะ จ้ อ ง จั บ ผิ ด เ ด็ ก

2 . 2 ก า ร ต อ บ ส น อ ง ต่อ เ ด็ก อ ย่า ง เ ห ม า ะ ส ม เ มื่อ เ ด็ก แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม ที่ไ ม่เ ป็น ท่ี
ยอมรับ ครูต้องคํานึงถึงผลกระทบระยะยาวท่ีมีต่อเด็กมากกว่าการหยุดพฤติกรรมของเด็กอย่าง
ทัน ทีทันใด รวมทั้งควรสอนให้เด็กเรียนรู้การแก้ปัญหาด้วย โดยครูควรพิ จารณาว่าใน การวิธีการ
ต อ บ ส น อ ง ต่อ เ ด็ก นั้น เ ห ม า ะ ส ม กับ พั ฒ น า ก า ร ข อ ง เ ด็ก ต อ บ ส น อ ง โ ด ย ไ ม่ใ ห้เ ด็ก รู้สึก เ สีย ห น้า ต่อ
บุคคลอื่น ตอบสนองโดยมีเป้าหมายเพื่ อช่วยให้เด็กสามารถควบคุมตนเองได้ดีข้ึน ตอบสนองบน
พื้ น ฐ า น ข อ ง ค ว า ม รัก แ ล ะ ค ว า ม ห่ว ง ใ ย เ ด็ก เ พี ย ง แ ต่ไ ม่ย อ ม รับ เ ฉ พ า ะ ก า ร ก ร ะ ทํา ที่ไ ม่เ ห ม า ะ ส ม ข อ ง
เด็กเท่านั้น และตอบสนองโดยรู้ความเป็นมาท่ีเก่ียวข้องกับเด็ก เมื่อเด็กแสดงพฤติกรรมที่ไม่เป็น
ที่ย อ ม รับ ค รูอ า จ ต อ บ ส น อ ง โ ด ย ก า ร เ บี่ย ง เ บ น ค วา ม สน ใ จ ขอ ง เ ด็ก ก่อ น ที่เ ด็ก จ ะ แ ส ด ง พ ฤ ติก ร ร ม ท่ี
ไ ม่เป็น ที่ยอมรับ การเพิ กเฉยพ ฤ ติกรรม เรีย ก ร้อ ง ค ว า ม ส น ใ จ การให้ข้อเสนอแนะที่ชัดเจนต่อ เ ด็ก
ก า ร ใ ห้เ ด็ก ไ ด้รับ ผ ล ที่ส ม เ ห ตุส ม ผ ล กับ ก า ร ก ร ะ ทํา แ ล ะ ก า ร ส อ น ใ ห้เ ด็ก แ ก้ไ ข ค ว า ม ผิด พ ล า ด ข อ ง
ตนเอง เป็นต้น

3. การจัดสภาพแวดล้อม
ม า ค รูค ว ร จัด ส ภ า พ แ ว ด ล้อ ม ใ น ห้อ ง เ รีย น ใ ห้มีพื้ น ที่ก ว้า ง เ พี ย ง พ อ สํา ห รับ ก า ร ทํา กิจ ก ร ร ม
ก ลุ่ม ใ ห ญ่ เ พื่ อ ใ ห้เ ด็ก ไ ม่เ บีย ด เ สีย ด แ ล ะ ช น กัน มุม เ ล่น แ ต่ล ะ มุม ใ น ห้อ ง มีข น า ด ที่เ ห ม า ะ ส ม ส า ม า ร ถ
เ ข้า ไ ป เ ล่น ร ว ม ก ลุ่ม กัน ไ ด้ ก า ร จัด พื้ น ที่ห้อ ง ใ น ลัก ษ ณ ะ นี้จ ะ ช่ว ย ใ ห้ค รูส า ม า ร ถ ม อ ง เ ห็น พ ฤ ติก ร ร ม
และดูแลเด็กในห้องได้อย่างทั่วถึงเพื่ อลดปัญหาต่างๆ ในการเล่นของเด็ก การจัดสภาพแวดล้อม
ใ น ห้องเรียน และการจัดสรรพื้ น ที่อย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกัน ปัญหาพฤติกร รมของ เด็ก อีกทั้ง
ยัง เ ป็น ก า ร ช่ว ย ส่ง เ ส ริม ป ฏิสัม พั น ธ์ท า ง บ ว ก ร ะ ห ว่า ง เ ด็ก กับ เ ด็ก อีก ด้ว ย น อ ก จ า ก นี้ ก า ร จัด ว า ง
สิ่ง ข อ ง ค ว ร อ ยู่ใ น ร ะ ดับ ที่เ ด็ก ส า ม า ร ถ ห ยิบ จับ นํา ม า ใ ช้แ ล ะ เ ก็บ เ อ ง ไ ด้ สิ่ง ข อ ง ใ ด ที่แ ต ก ง่า ย ห รือ
ชํา รุด ค ว ร เ ก็บ ใ ห้พ้ น มือ เ ด็ก สิ่ง เ ห ล่า นี้จ ะ ส่ง ผ ล ใ ห้เ ด็ก มีค ว า ม รับ ผิด ช อ บ ช่ว ย เ ห ลือ ต น เ อ ง แ ล ะ รู้
บ ท บ า ท ห น้ า ท่ี ข อ ง ต น เ อ ง ม า ก ขึ้ น
4 . การสร้างข้อตกลงและกํากับพฤติกรรมของเด็ก
ค รูจํา เ ป็น ต้อ ง สร้า ง ข้อ ต ก ล ง ขอ ง ห้อ ง เ รีย น แ ล ะ ข้อ ต ก ล ง ข อ ง ก า ร ทํา กิจ ก ร ร ม เ พื่ อ ใ ห้เด็ก ท ร า บ ว่า
สิ่ง ใ ด ที่ค ว ร ทํา แ ล ะ สิ่ง ใ ด ที่ไ ม่ค ว ร ทํา น อ ก จ า ก นี้ ก า ร กํา กับ ติด ต า ม พ ฤ ติก ร ร ม ข อ ง เ ด็ก ว่า ป ฏิบัติ
ต า ม ข้อ ต ก ล ง ห รือ ไ ม่ เ พื่ อ ใ ห้เ ด็ก เ รีย น รู้ว่า ข้อ ต ก ล ง ที่ส ร้า ง ขึ้น นั้น มีค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ จํา เ ป็น ต้อ ง

 

s t o u 0 11 ก า ร ส ร้ างวิ นั ยใ นตน เอง สําห รั บเ ด็กปฐมวัย | ห น้า 5
อาจารย์ ด ร .พ ร ชุลี ลัง ก า โ ร ง เ รีย น ส า ธิต ล ะ อ อ อุทิศ ม ห า วิทยาลัย สว น ดุสิต
ปฏิบัติตาม ครูบางคนอาจจะละเลยในการติดตามว่าเด็กปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรียนหรือ
กิจกรรมหรือไม่ เนื่องจากจํานวนเด็กต่อชั้นเรียน ค่อนข้างเย อะ ภาระงานและความรับผิดชอบที่มี
ม า ก ใ น แ ต่ ล ะ วั น
กล่าวโดยสรุป ในปัจจุบันปัญหาการขาดความมีวินัยในตนเองของเด็ก เช่น ไม่สามารถ
ค ว บ คุม ต น เ อ ง มีพ ฤ ติก ร ร ม ต า ม ใ จ ต น เ อ ง ไ ม่มีค ว า ม รับ ผิด ช อ บ ก า ร ที่เ ย า ว ช น ซึ่ง เ ป็น กํา ลัง
สํา คัญ ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ต ก อ ยู่ใ น ภา ว ะไ ร้ร ะ เ บีย บ วินัย ก็จ ะ ทํา ใ ห้ป ร ะ เ ท ศ ช า ติพั ฒ น า เ จ ริญ ก้า ว ห น้า ไ ปไ ด้
ย า ก จ ะ เ ห็นว่าการสร้า ง เ ส ริมวินัยในต นเองให้แก่เด็กนั้นมิใ ช่หน้า ที่หรือความรับผิดชอบของผู้ใด
ผู้ห นึ่ง ห รือ ส ถ า บัน ใ ด ส ถ า บัน ห นึ่ง เ ท่า นั้น แ ต่จ ะ ต้อ ง อ า ศัย ค ว า ม ร่ว ม มือ แ ล ะ รับ ผิด ช อ บ จ า ก ห ล า ย
ฝ่า ย ด้ว ย กัน โ ด ย เ ริ่ม ตั้ง แ ต่จ า ก ค ร อ บ ค รัว ที่อ ยู่ใ ก ล้ชิด กับ เ ด็ก ม า ก ที่สุด ต่อ ม า ก็คือ โ ร ง เ รีย น ซึ่ง มี
ครูผู้อบรมสั่งสอนและให้ความรู้ทางจริยธรรมแก่เด็ก รวมทั้งสภาพแวดล้อมทางสังคมของเด็ก
ก็มีส่วนในการช่วยพั ฒนาวินัยในตนเองให้แก่เด็กด้วย
พ่ อ แ ม่ แ ล ะ ค รูผู้ส อ น ถือ เ ป็น กํา ลัง ห ลัก ใ น ก า ร อ บ ร ม ใ ห้เ ด็ก มีวินัย ใ น ต น เ อ ง เ ป็น บุค ค ล ที่มี
บ ท บ า ท ใ น ก า ร ส ร้า ง เ ส ริม คุณ ลัก ษ ณ ะ ที่พึ ง ป ร ะ ส ง ค์ใ ห้เ ด็ก วินัย ใ น ต น เ อ ง มีคุณ ธ ร ร ม จ ริย ธ ร ร ม
เพื่ อให้เด็กได้ปฏิบัติในสิ่งที่ดีงามและแสดงพฤติกรรมท่ีถูกต้องและเหมาะสมได้ต่อไป พ่ อแม่ และ
ค รูจ ะ ต้องตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการสอดแทรกการมีวินัยในต นเองไปใน ทุก ๆ
กิจกรรม ถึงแม้ว่าการปลูกฝังวินัยในตนเองให้กับเด็กไม่สามารถทําแล้วเห็นผลได้ในทันที จะต้อง
ใ ช้ค ว า ม อ ด ท น ค ว า ม ส ม่ํา เ ส ม อ แ ล ะ ค ว า ม จ ริง จัง ใ น ก า ร ป ลูก ฝัง แ ต่อ ย่า ง ไ ร ก็ต า ม ห า ก ทุก ค น
ร่วมมือกันอย่างจริงจัง ดอกผลแห่งความงดงาม จะออกดอกออกผลให้เราได้ช่ืนชมในไม่ช้า

 


Click to View FlipBook Version