The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การอ่าน ภาคเรียนที่ ๑ (ประเมินครูผู้ช่วย รอบ ๔)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Leo Supaporn Palatong, 2024-02-04 08:44:04

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การอ่าน ภาคเรียนที่ ๑ (ประเมินครูผู้ช่วย รอบ ๔)

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การอ่าน ภาคเรียนที่ ๑ (ประเมินครูผู้ช่วย รอบ ๔)

๔๙ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย (รำยวิชำ ท ๑๓๑๐๑) ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง กำรอ่ำน ภำคเรียนที่ ๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง กำรแต่งค ำคล้องจอง ๓ ค ำและ ๔ ค ำ เวลำเรียน ๒ ชั่วโมง สอนวันที่………….เดือน………………………….พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้สอน นำงสำวสุภำพร ปะละทัง มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด สำระที่ ๑ กำรอ่ำน มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๒ อธิบายความหมายของคำและข้อความที่อ่าน จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. นักเรียนบอกความหมายของคำคล้องจองได้(K) ๒. นักเรียนสามารถแต่งต่อคำคล้องจองตามที่กำหนดให้ได้ถูกต้อง (P) ๓. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สำระกำรเรียนรู้ - คำคล้องจอง - การแต่งคำคล้องจอง สำระส ำคัญ การแต่งคำคล้องจอง ให้เกิดสัมผัสตามฉันทลักษณ์เป็นศิลปะทางภาษา และนำไปใช้ให้ถูกต้อง อ่าน ออกเสียงร้อยกรอง หมายถึง การอ่านถ้อยคำที่มีผู้เรียบเรียงหรือประพันธ์ไว้โดยการเปล่งเสียง และจังหวะ วรรคตอน ทำนอง น้ำเสียงให้ชัดเจน ถูกต้องไพเราะ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ผู้ฟัง ซึ่งจะทำให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ ร่วมคล้อยตามไปกับเรื่องราว หรือรสประพันธ์ที่การอ่านออกเสียงบทเรียนจะต้องอ่านตามหลักการอ่านออก เสียงให้ถูกต้อง สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน


๕๐ สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรียนรู้ ๑. บัตรคำคล้องจอง ๒. หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๓. เกมการแต่งต่อคำคล้องจอง ๒ พยางค์ ๔. แบบฝึกหัดภาษาเพื่อชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล ๑. การบอกความหมายของคำคล้องจอง ๒. การแต่งต่อคำคล้องจอง ๓. การสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๒. เครื่องมือ ๑. แบบประเมินการบอกความหมายของคำคล้องจอง ๒. แบบประเมินการแต่งต่อคำคล้องจอง ๓. แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการบอกความหมายของคำคล้องจองไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๒. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการแต่งต่อคำคล้องจองไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๓. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนแบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมี ความมุ่งมั่นในการทำงานไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ขั้นน ำ ๑. กิจกรรมตามหาเนื้อคู่ ครูแจกหัวใจครึ่งเซี่ยวให้นักเรียน โดยซึกหนึ่งเป็นรูปภาพ อีกซีกหนึ่งเป็นคำ คล้องจอง จากนั้นให้นักเรียนหาคู่ของตัวเองที่มีรูปภาพตรงกับคำคล้องจองนั้นแล้วนำไปติดบนกระดาน อำหำร ลูกนก ตกใจ จำนใหญ่ ตัวอย่ำงค ำคล้องจองที่ใช้ รถยนต์ ขนดิน ทะเล เวลา เนยสด หมดแล้ว รถไฟ ไปเที่ยว กะลา นาเกลือ กินนม อมยิ้ม


๕๑ ขั้นสอน ๒. นักเรียนสังเกตคำที่อยู่บนกระดาน โดยสังเกตว่าในคำที่ครูเขียนมีกี่คำ กี่พยางค์ ๓. ครูถามนักเรียนว่า คำที่อยู่บนกระดานแต่ละคู่มีสิ่งใดเหมือนกัน (ขณะที่นักเรียนตอบคำถาม ครู อย่างรีบเฉลยว่าถูกหรือผิด หากนักเรียนยังตอบไม่ถูก ให้พยายามหาตัวอย่างที่ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม หรือถามคนที่ เข้าใจแล้วให้ยกตัวอย่างก่อน) ๔. ครูให้นักเรียนออกมาขีดเส้นใต้คำที่มีส่วนที่เหมือนกันทีละคน ๕. ให้นักเรียนจับคู่ ๒ คน คิดคำคล้องจอง (โดยครูให้คำว่าว่า ให้นักเรียนคิดคำที่มีลักษณะเหมือนกับ ตัวอย่างบนกระดาน คู่ละ ๒ พยางค์) ๖. เล่นเกม ช่วยหมีด้วย โดยครูมีคำ ๒ พยางค์ที่อยู่ในตัวหมีให้นักเรียนอ่าน พร้อมบอกครูว่าคำที่อยู่ ในกรงหมี คล้องจองกับคำที่ขีดเสนใต้ไหม ๗. ครูถามนักเรียนว่า คำที่อยู่บนกระดานเรียงกันเรียกว่าคำอะไร .... (คำคล้องจอง) ๘. ครูให้นักเรียนแยกลักษณะของคำคล้องจอง (คำคล้องจองที่มีตัวสะกด คำคล้องจองที่ไม่มีตัวสะกด) ว่าแต่ละรูปแบบคำคล้องจองมีสิ่งใดเหมือนกันบ้าง ขั้นสรุป ๙. นักเรียนเล่นเกม จดหมายเสี่ยงดวง โดยให้นักเรียนเลือกซองจดหมาย ๑ ซอง พร้อมหยิบบัตรคำที่ ได้อ่านให้เพื่อนฟัง และบอกว่าเป็นคำคล้องจองหรือไม่ โดยในซองจดหมายที่นักเรียนเลือกจะมีทั้งคำคล้องจอง ๒ พยางค์ ๓ พยางค์ ๔ พยางค์ เมื่อนักเรียนตอบถูกจะได้รับสิ่งของ ๑ อย่างตามที่ติดไว้หน้าซองจดหมาย ๑๐. นักเรียนและครูช่วยกันสรุปเนื้อหาจากบทเรียนทั้งหมดอีกครั้ง ชั่วโมงที่ ๒ ขั้นน ำ ๑. ครูทบทวนการแต่งคำคล้องจอง ๒ คำ โดยครูคิดคำขึ้นต้นให้จากนั้นให้นักเรียนมาแต่งต่อคำคล้อง จอง ๒ คำ ไปเรื่อยๆ ขั้นสอน ๒. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงความหมายของคำคล้องจองและยกตัวอย่างคำคล้องจองให้ นักเรียนเข้าใจ ๓. ให้นักเรียนแต่ละคนดำเนินกิจกรรม ดังนี้ ๓.๑ ให้นักเรียนในแต่ละกลุ่มทำแบบฝึกหัดภาษาเพื่อชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ข้อที่ ๓ ฝึก ทักษะการใช้ภาษาในหน้า ๔๘ จนถึงหน้า ๕๐ ๓.๒ ร่วมกันระดมความคิดเห็นและร่วมกันหาคำตอบเพื่อตอบลงในแบบฝึกหัด ๓.๓ นำผลงานมาเพื่อให้ครูตรวจผลงาน ขั้นสรุป ๔. สรุปการแต่งต่อคำคล้องจอง ๓ - ๔ พยางค์


๕๒ แบบประเมินกำรบอกควำมหมำยของค ำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนบอกควำมหมำยของค ำคล้องจอง ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม ตรงจุดประสงค์ ที่ก ำหนด เรียบเรียงค ำได้ ตรงตำมเวลำ ที่ก ำหนด บอก ควำมหมำย ของค ำคล้อง จองได้ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๕๓ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรบอกควำมหมำยของค ำคล้องจอง ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ตรงจุดประสงค์ที่ ก ำหนด มีความสอดคล้องกับจุด ประสงค์ ทุกประเด็น สอดคล้องกับจุดประสงค์ เป็น ส่วนใหญ่ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ ๒. เรียบเรียงค ำได้ เนื้อหาสาระมีความถูก ต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระมีความถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระไม่ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ๓. ตรงตำมเวลำที่ก ำหนด สามารถตอบคำถาม หรือส่งงานตรงตาม เวลาที่กำหนด ตอบคำถามหรือส่งงานช้ากว่า เวลาที่กำหนด ไม่ตอบคำถามและส่งงานที่ ครูมอบหมายให้ทำ ๔. บอกควำมหมำยของ ค ำคล้องจองได้ สามารถบอกความหมาย ของคำคล้องจองได้ ถูกต้อง ครบถ้วน สามารถบอกความหมายของ คำคล้องจองได้ไม่ค่อยตรง ประเด็น ไม่สามารถบอกความหมาย ของคำคล้องจองได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรบอกควำมหมำยของค ำคล้องจอง กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๕๔ แบบประเมินกำรแต่งต่อค ำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนแต่งต่อค ำคล้องจอง ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม เวลำ มำรยำท ในกำรเขียน กำรเว้นวรรค ตอนถูกต้อง ควำมสะอำด เป็นระเบียบ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๕๕ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรแต่งต่อค ำคล้องจอง ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. เวลำ ส่งงานตามเวลาที่ กำหนด ส่งงานหลังเวลาที่กำหนดปาน กลาง ไม่ส่งงานตามเวลาที่กำหนด ๒. มำรยำทในกำรเขียน มีสมาธิ และมีความตั้งใจ ในการเขียนอย่าง สม่ำเสมอ ไม่พูดคุย เล่น ระหว่างทำงาน มีความตั้งใจในการเขียน พอสมควร พูด คุย เล่น ระหว่างทำงานเป็นบางครั้ง ไม่มีความตั้งใจในการเขียน พูด คุย เล่น ระหว่างทำงาน ตลอดเวลาต้องคอยตักเตือน ๓. กำรเว้นวรรคตอน ถูกต้อง การเขียนเว้นวรรคตอน ได้ถูกต้องตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง การเขียนเว้นวรรคตอนผิดบ้าง เป็นบางครั้ง การเขียนเว้นวรรคตอนผิด ตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจน จบเรื่อง ๔. ควำมสะอำดเป็น ระเบียบ ตัวอักษรสม่ำเสมอ เรียบร้อย สวยงาน ผลงานสะอาด ไม่มี รอยลบขีดฆ่า ตัวอักษรไม่ค่อยสม่ำเสมอ ผลงานไม่สะอาด มีรอยลบขีด ฆ่า ๓ - ๕ แห่ง ตัวอักษรไม่สมำเสมอมีรอย ลบขีดฆ่ามากกว่า ๖ แห่ง เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรแต่งต่อค ำคล้องจอง กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ - ๑๒ ดี ๘ - ๑๐ ปานกลาง ๐ - ๗ ปรับปรุง


๕๖ แบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัยใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นกำรท ำงำน ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ครูผู้สอนท ำเครื่องหมำย ลงในช่องที่นักเรียนแสดงพฤติกรรม ที่ ชื่อ – สกุล รำยกำรประเมิน รวม สรุป มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในกำรท ำงำน ๓ ๓ ๓ ๙ ผ่ำน ไม่ผ่ำน ๑. เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒. เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓. เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔. เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ รวมผลกำรประเมิน ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๕๗ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน รำยกำรประเมิน ๓ (ดีมำก) ๒ (ดี) ๑ (ปรับปรุง) ๑. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นอย่างดี ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นบางครั้ง ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและข้อบังคับ ของโรงเรียนได้ ๒. ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้เป็นบางครั้ง นักเรียนไม่ตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในกำร ท ำงำน ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น อย่างดี ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น บางส่วน ไม่ตั้งใจทำงานและไม่ รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ การงาน และทำงานด้วยความ เพียรพยายามและอดทนไม่ได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน กำหนด ไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๕ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๘ – ๙ ดี ๖ – ๗ ปานกลาง ๐ – ๕ ปรับปรุง


๕๘ ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ตรวจ / นิเทศ / เสนอแนะ / รับรอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ (นางจุฬาลักษณ์ อรรคชัย) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึงโคกสะอาด รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไผ่ ............/................................./.......................... บันทึกผลหลังกำรสอน ๑. ผลกำรจัดกำรเรียนรู้ ๑.๑ ด้ำนควำมรู้ (K) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ ด้ำนทักษะ/กระบวนกำร (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๓ ด้ำนคุณลักษณะ (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ปัญหำและอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ข้อเสนอแนะ / แนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ...................................................ผู้สอน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) ........../........................../..................


๕๙ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย (รำยวิชำ ท ๑๓๑๐๑) ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง กำรอ่ำน ภำคเรียนที่ ๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง กำรอ่ำนค ำแบบเรียงพยำงค์ เวลำเรียน ๒ ชั่วโมง สอนวันที่………….เดือน………………………….พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้สอน นำงสำวสุภำพร ปะละทัง มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด สำระที่ ๑ กำรอ่ำน มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๒ อธิบายความหมายของคำและข้อความที่อ่าน จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. นักเรียนบอกความหมายและลักษณะการอ่านแบบเรียงพยางค์ได้(K) ๒. นักเรียนสามารถอ่านคำที่มีลักษณะการอ่านแบบเรียงพยางค์ได้ถูกต้อง (P) ๓. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สำระกำรเรียนรู้ - การอ่านออกเสียงคำที่มีลักษณะการอ่านแบบเรียงพยางค์ - การเขียนคำที่มีมีการอ่านแบบเรียงพยางค์และนำไปแต่งประโยคได้อย่างถูกต้อง สำระส ำคัญ คำที่มีลักษณะการอ่านแบบเรียงพยางค์จะพบในคำที่ขึ้นต้นด้วยอักษรต่ำ นำหน้าพยัญชนะ ง ญ น ม ย ร ล ว ซึ่งให้ออกเสียง อะ เพียงครึ่งเสียงที่พยางค์หน้า ส่วนพยางค์หลังให้อ่านออกเสียงอักษรต่ำประสมกับ เสียงสระตามปกติ สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๒. บัตรคำเพื่อให้นักเรียนฝึกอ่าน


๖๐ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล ๑. การบอกความหมายและลักษณะการอ่านแบบเรียงพยางค์ ๒. การอ่านคำที่มีลักษณะการอ่านแบบเรียงพยางค์ ๓. การสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๒. เครื่องมือ ๑. แบบประเมินการบอกความหมายและลักษณะการอ่านแบบเรียงพยางค์ ๒. แบบประเมินการอ่านคำที่มีลักษณะการอ่านแบบเรียงพยางค์ ๓. แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการบอกความหมายและลักษณะการอ่านแบบเรียงพยางค์ไม่ น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๒. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการอ่านคำที่มีลักษณะการอ่านแบบเรียงพยางค์ไม่น้อยกว่าร้อย ละ ๗๐ % ๓. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนแบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมี ความมุ่งมั่นในการทำงานไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ขั้นน ำ ๑. Warm Up สร้างบรรยากาศในการเรียน โดยพานักเรียน Warm Up เพลง ตบมือ ตบตัก ตบไหล่ ประกอบท่าแล้วให้นักเรียนทำตาม จากนั้นครูกับนักเรียนจึงสนทนาทบทวนเรื่องที่เรียนในชั่วโมงก่อน เนื้อเพลง ตบมือ ตบตัก ตบไหล่ มือ มือ มือ ตบตัก ตบมือ ตบมือ ตบไหล่ มือ มือ มือ ตบตัก ตบมือ ตบมือ ตบไหล่ แล้วสลับ แล้วสลับ กันไป แล้วสลับ แล้วสลับ กันไป ตบตัก ตบไหล่ ตบมือ ตบมือ ขั้นสอน ๒. ครูติดบัตรคำศัพท์ดังต่อไปนี้บนกระดานดำ อร่อย ทนาย ชรา ถนน พลัง ตลก ขยับ สนุก พลัง ทยอย ตวัด ทลาย ๓. นักเรียนอ่านออกเสียงคำจากบัตรคำ สังเกตการณ์อ่านออกเสียงของนักเรียนและยังไม่ต้องบอก นักเรียนว่าคำใดอ่านถูกและคำใดอ่านผิด


๖๑ ๔. ครูเฉลยว่าคำใดอ่านออกเสียงแบบอักษรนำและคำใดอ่านออกเสียงแบบเรียงพยางค์ ๕. ครูอธิบายหลักการสังเกตคำซึ่งมีลักษณะคำเหมือนกันแต่ต่างกันตรงที่อ่านแบบอักษรนำหรืออ่าน แบบเรียงพยางค์ ขั้นสรุป ๖. นักเรียนร่วมกันอ่านออกเสียงคำที่เป็นอักษรนำทุกชนิดและอ่านคำที่อ่านแบบเรียงพยางค์ ๗. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำสมุดคำศัพท์การอ่านคำอักษรนำและคำที่อ่านแบบเรียงพยางค์ ชั่วโมงที่ ๒ ขั้นน ำ ๑. Warm Up สร้างบรรยากาศในการเรียน โดยครูสนทนากับนักเรียนทบทวนความรู้ที่ได้สอนไปใน ชั่วโมงที่แล้ว ขั้นสอน ๒. นักเรียนอ่านออกเสียงจากบัตรคำอีกครั้ง ๓. กำหนดภาระงานให้นักเรียนเขียนคำอ่านของบัตรคำบนกระดานดำลงในสมุดแบบฝึกหัดพร้อมกับ ใช้คำที่อยู่บนกระดานมาแต่งประโยคให้ถูกต้องตามหลักการใช้ภาษาไทย ๔. นักเรียนนำผลงานมาส่งครู ขั้นสรุป ๕. ครูและนักเรียนช่วยกันอภิปรายและสรุปองค์ความรู้ เรื่อง การอ่านคำแบบเรียงพยางค์ พร้อมทั้ง บันทึกลงในสมุด


๖๒ แบบประเมินกำรบอกควำมหมำยและลักษณะกำรอ่ำนแบบเรียงพยำงค์ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่บอกควำมหมำยและลักษณะกำรอ่ำนแบบเรียงพยำงค์ ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม ตรงจุดประสงค์ ที่ก ำหนด เรียบเรียงค ำได้ ตรงตำมเวลำ ที่ก ำหนด บอก ควำมหมำยและ ลักษณะกำร อ่ำนแบบเรียง พยำงค์ได้ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๖๓ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรบอกควำมหมำยและลักษณะกำรอ่ำนแบบเรียงพยำงค์ ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ตรงจุดประสงค์ที่ ก ำหนด มีความสอดคล้องกับจุด ประสงค์ ทุกประเด็น สอดคล้องกับจุดประสงค์ เป็น ส่วนใหญ่ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ ๒. เรียบเรียงค ำได้ เนื้อหาสาระมีความถูก ต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระมีความถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระไม่ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ๓. ตรงตำมเวลำที่ก ำหนด สามารถตอบคำถาม หรือส่งงานตรงตาม เวลาที่กำหนด ตอบคำถามหรือส่งงานช้ากว่า เวลาที่กำหนด ไม่ตอบคำถามและส่งงานที่ ครูมอบหมายให้ทำ ๔. บอกควำมหมำยและ ลักษณะกำรอ่ำนแบบ เรียงพยำงค์ได้ สามารถบอกความหมาย และลักษณะการอ่าน แบบเรียงพยางค์ได้ ถูกต้อง ครบถ้วน สามารถบอกความหมายและ ลักษณะการอ่านแบบเรียง พยางค์ได้ไม่ค่อยตรงประเด็น ไม่สามารถบอกความหมาย และลักษณะการอ่านแบบ เรียงพยางค์ได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรบอกควำมหมำยและลักษณะกำรอ่ำนแบบเรียงพยำงค์กำหนดไว้ ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ - ๗ ปรับปรุง


๖๔ แบบประเมินกำรอ่ำนค ำที่มีลักษณะกำรอ่ำนแบบเรียงพยำงค์ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนอ่ำนค ำที่มีลักษณะกำรอ่ำนแบบเรียงพยำงค์ ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม . ควำมเร็วใน กำรอ่ำน อ่ำนถูกต้อง ตำมอักขรวิธี กำรเว้นวรรค ตอนถูกต้อง น้ ำเสียง เหมำะสมกับ เรื่องที่อ่ำน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๖๕ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรอ่ำนค ำที่มีลักษณะกำรอ่ำนแบบเรียงพยำงค์ ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ควำมเร็วในกำรอ่ำน อ่านเร็วหรือช้าตลอด เวลา อ่านเร็วหรืออ่านชาเป็น บางชวง อ่านไม่เร็วหรือช้าเกินไป ตลอดเวลา ๒. อ่ำนถูกต้องตำม อักขรวิธี อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ออกเสียง ร ล และคำ ควบกล้ำ ร ล ว ชัดเจน อ่านถูกต้องตามอักขรวิธีออก เสียง ร ล และคำควบกล้ำ ร ล ว ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ออกเสียง ร ล และคำควบ กล้ำ ร ล ว ไม่ชัดเลย ๓. กำรเว้นวรรคตอน ถูกต้อง อ่านเว้นวรรคตอนได้ ถูกต้องตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง อ่านเว้นวรรคตอนผิดบ้างเป็น บางครั้ง อ่านเว้นวรรคตอนผิดตลอด ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ๔. น้ ำเสียงเหมำะสมกับ เรื่องที่อ่ำน อ่านเสียงดังชัดเจน น้ำ เสียงเหมาะสมกับเรื่องที่ อ่าน อ่านเสียงดังชัดเจน น้ำเสียง เหมาะสมบ้างเป็นบางครั้ง อ่านเสียงไม่ชัดเจน น้ำเสียง ไม่เหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ตลอดทั้งเรื่อง เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรอ่ำนค ำที่มีลักษณะกำรอ่ำนแบบเรียงพยำงค์กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๖๖ แบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ครูผู้สอนท ำเครื่องหมำย ลงในช่องที่นักเรียนแสดงพฤติกรรม ที่ ชื่อ – สกุล รำยกำรประเมิน รวม สรุป มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในกำรท ำงำน ๓ ๓ ๓ ๙ ผ่ำน ไม่ผ่ำน ๑. เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒. เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓. เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔. เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ รวมผลกำรประเมิน ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๖๗ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน รำยกำรประเมิน ๓ (ดีมำก) ๒ (ดี) ๑ (ปรับปรุง) ๑. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นอย่างดี ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นบางครั้ง ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและข้อบังคับ ของโรงเรียนได้ ๒. ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้เป็นบางครั้ง นักเรียนไม่ตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในกำร ท ำงำน ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น อย่างดี ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น บางส่วน ไม่ตั้งใจทำงานและไม่ รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ การงาน และทำงานด้วยความ เพียรพยายามและอดทนไม่ได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน กำหนด ไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๕ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๘ – ๙ ดี ๖ – ๗ ปานกลาง ๐ – ๕ ปรับปรุง


๖๘ ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ตรวจ / นิเทศ / เสนอแนะ / รับรอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ (นางจุฬาลักษณ์ อรรคชัย) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึงโคกสะอาด รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไผ่ ............/................................./.......................... บันทึกผลหลังกำรสอน ๑. ผลกำรจัดกำรเรียนรู้ ๑.๑ ด้ำนควำมรู้ (K) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ ด้ำนทักษะ/กระบวนกำร (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๓ ด้ำนคุณลักษณะ (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ปัญหำและอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ข้อเสนอแนะ / แนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ...................................................ผู้สอน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) ........../........................../..................


๖๙ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย (รำยวิชำ ท ๑๓๑๐๑) ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง กำรอ่ำน ภำคเรียนที่ ๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๗ เรื่อง กำรอ่ำนในใจ เวลำเรียน ๒ ชั่วโมง สอนวันที่………….เดือน………………………….พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้สอน นำงสำวสุภำพร ปะละทัง มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด สำระที่ ๑ กำรอ่ำน มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๓ ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. การตั้งคำถามและตอบคำถามเพื่อจับใจความสำคัญบทเรียน (K) ๒. นักเรียนสามารถลำดับเหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากโดยระบุเหตุผลประกอบได้ (P) ๓. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สำระกำรเรียนรู้ - การอ่านในใจเพื่อจับใจความสำคัญบทเรียน - การปฏิบัติตนในการอ่านในใจเพื่อจับใจความสำคัญ สำระส ำคัญ การอ่านจับใจความสำคัญ และการวิเคราะห์เรื่อง เป็นการพิจารณาส่วนต่างๆ ของเรื่อง เช่น ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ส่วนดีและส่วนบกพร่องของเนื้อเรื่อง จุดประสงค์ของผู้แต่ง ความเหมาะสมในการใช้ คำ ประโยค ข้อความ ฯลฯ สรุปข้อคิดที่ได้จากเรื่อง สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรียนรู้ ๑. แผนภูมินิทานกลอนเรื่อง “มดแดง” ๒. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาทีชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๓. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓


๗๐ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล ๑. การตั้งคำถามและตอบคำถามเพื่อจับใจความสำคัญบทเรียน ๒. การลำดับเหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องโดยระบุเหตุผลประกอบ ๓. การสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๒. เครื่องมือ ๑. แบบประเมินการตั้งคำถามและตอบคำถามเพื่อจับใจความสำคัญบทเรียน ๒. แบบประเมินการลำดับเหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องโดยระบุเหตุผล ประกอบ ๓. แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการตั้งคำถามและตอบคำถามเพื่อจับใจความสำคัญบทเรียนไม่ น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๒. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการลำดับเหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องโดยระบุ เหตุผลประกอบไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๓. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนแบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมี ความมุ่งมั่นในการทำงานไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ขั้นน ำ ๑. นักเรียนดูแผนภูมิกลอน “นิทานมดแดง” อ่านออกเสียงดังๆ พร้อมกัน ตามครู๑ เที่ยว จากนั้น อ่านกันเองพร้อมปรบมือประกอบจังหวะให้เกิดความสนุกก่อนเรียนแล้วสนทนา แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ เนื้อเรื่องที่อ่าน นิทำนมดแดง ยังมีนิทานขานกล่าว เป็นเรื่องราวของเหล่ามดแดง ถึงตัวเล็กแต่ใจแข็งแกร่ง ไม่กลัวแรงแม้แต่ช้างใหญ่ หากใครเข้ามาราวี พร้อมมันเร็วรี่หาช้าไม่ รวมพลังต่อสู้หัวใจ ไม่เคยหวั่นแม้ตายก็ยอม มนุษย์เราควรเอาเยี่ยงอย่าง ร่วมสรรค์สร้างสามัคคีให้มีพร้อม


๗๑ เสียสละสร้างความดีประนีประนอม ทุกอย่างย่อมสำเร็จดังเจตนา ครูถามนำเพื่อจุดประกายความคิด เช่น ถามว่า - เนื้อหาของนิทานกลอนกล่าวถึงเรื่องอะไร (มดแดง) - คุณธรรมที่สำคัญของมดแดงคืออะไร (ความสามัคคี) - ข้อใดที่แสดงว่ามดแดงไม่กลัวตาย (สู้ได้แม้กระทั่งช้าง) - นักเรียนคิดว่าเราควรเอาอย่างมดแดงในเรื่องใด (สามัคคีเสียสละ ต่อสู้อดทน) ฯลฯ ขั้นสอน ๒. ครูอธิบายหลักการจับใจความสำคัญให้นักเรียนทราบ โดยให้นักเรียนสามารถ ตั้งคำถามและตอบ คำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ลำดับเหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน โดยระบุเหตุผล ประกอบและสรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่านเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน โดยมารยาทในการอ่าน ๓. ครูให้นักเรียนอ่านในใจบทเรียนเรื่องปฏิบัติการสายลับจิ๋วจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทยชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาทีชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่ละย่อหน้า และครูตั้งคำถามเพื่อทดสอบความ เข้าใจ ๔. นักเรียนอ่านในใจบทเรียนเรื่องปฏิบัติการสายลับจิ๋วจนจบ ขั้นสรุป ๕. นักเรียนและครูสรุปเกี่ยวกับการอ่านเพื่อจับใจความสำคัญจากเรื่องปฏิบัติการสายลับจิ๋ว ๖. นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ ๑ เรื่องที่ ๑ อ่านหนังสือเรียนแล้วตอบคำถามข้อย่อยที่ ๑ - ๖ จาก แบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐาน ชุดภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๗. ครูนัดแนะเกี่ยวกับการเรียนในครั้งต่อไป ชั่วโมงที่ ๒ ขั้นน ำ ๑. ครูสนทนากับนักเรียนทบทวนความรู้ที่ได้สอนไปในชั่วโมงที่แล้ว ขั้นสอน ๒. นักเรียนอ่านในใจบทเรียนเรื่องปฏิบัติการสายลับจิ๋วจนจบ ๓. นักเรียนช่วยกันตอบคำถามปากเปล่าจากเรื่องที่อ่าน - เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ไหน - เด็กๆ กำลังวางแผนทำอะไร - เพราะเหตุใดเด็กๆ จึงทำงานสำเร็จ - นักเรียนได้ข้อคิดอย่างไรจากเรื่องที่อ่าน - นักเรียนสามารถนำความรู้จากเรื่องไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ๔. นักเรียนจับคู่กับเพื่อนตั้งคำถามและตอบคำถามจากเรื่องปฏิบัติการสายลับจิ๋ว คนละ ๒ ชุด คำถามคำตอบ ๕. ครูสุ่มนักเรียนออกมาตั้งคำถามเพื่อถามเพื่อนให้ห้องเรียนเพื่อตรวจสอบความเข้าใจในการอ่าน


๗๒ ขั้นสรุป ๖. ครูและนักเรียนช่วยกันอภิปรายและสรุปองค์ความรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความ พร้อมทั้งบันทึกลง ในสมุด


๗๓ แบบประเมินกำรตั้งค ำถำมและตอบค ำถำมเพื่อจับใจควำมส ำคัญบทเรียน ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่ตั้งค ำถำมและตอบค ำถำมเพื่อจับใจควำมส ำคัญบทเรียน ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม ตรงจุดประสงค์ ที่ก ำหนด กำรตั้งค ำถำมได้ ตอบค ำถำม ได้ ตรงตำมเวลำที่ ก ำหนด ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๗๔ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรตั้งค ำถำมและตอบค ำถำมเพื่อจับใจควำมส ำคัญบทเรียน ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ตรงจุดประสงค์ที่ ก ำหนด มีความสอดคล้องกับจุด ประสงค์ ทุกประเด็น สอดคล้องกับจุดประสงค์ เป็น ส่วนใหญ่ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ ๒. กำรตั้งค ำถำมได้ เนื้อหาสาระมีความถูก ต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระมีความถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระไม่ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ๓. ตอบค ำถำมได้ สามารถตอบคำถามได้ ถูกต้อง ครบถ้วน สามารถตอบคำถามได้ไม่ค่อย ตรงประเด็น ไม่สามารถตอบคำถามได้ ๔. ตรงตำมเวลำที่ก ำหนด สามารถตอบคำถาม หรือส่งงานตรงตาม เวลาที่กำหนด ตอบคำถามหรือส่งงานช้ากว่า เวลาที่กำหนด ไม่ตอบคำถามและส่งงานที่ ครูมอบหมายให้ทำ เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรตั้งค ำถำมและตอบค ำถำมเพื่อจับใจควำมส ำคัญบทเรียน กำหนด ไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๗๕ แบบประเมินกำรล ำดับเหตุกำรณ์และคำดคะเนเหตุกำรณ์จำกเรื่องโดยระบุเหตุผลประกอบ ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่กำรล ำดับเหตุกำรณ์และคำดคะเนเหตุกำรณ์ ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม ควำมเร็วใน กำรล ำดับ เหตุกำรณ์และ คำดคะเน เหตุกำรณ์ เขียนถูกต้อง ตำมอักขรวิธี กำรเว้นวรรค ตอนถูกต้อง ตรง จุดประสงค์ที่ ก ำหนด ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๗๖ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรล ำดับเหตุกำรณ์และคำดคะเนเหตุกำรณ์จำกเรื่องโดยระบุเหตุผลประกอบ ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ควำมเร็วในกำรล ำดับ เหตุกำรณ์และคำดคะเน เหตุกำรณ์ ไม่เร็วหรือช้าเกินไป ตลอดเวลา เร็วหรืออ่านชาเป็นบางชวง เร็วหรือช้าตลอดเวลา ๒. เขียนถูกต้องตำม อักขรวิธี เขียนตามอักขรวิธีได้ ถูกต้องตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง เขียนตามอักขรวิธีผิดบ้างเป็น บางครั้ง เขียนตามอักขรวิธีผิดตลอด ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ๓. กำรเว้นวรรคตอน ถูกต้อง เขียนเว้นวรรคตอนได้ ถูกต้องตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง เขียนเว้นวรรคตอนผิดบ้างเป็น บางครั้ง เขียนเว้นวรรคตอนผิดตลอด ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ๔. ตรงจุดประสงค์ที่ ก ำหนด มีความสอดคล้องกับจุด ประสงค์ ทุกประเด็น สอดคล้องกับจุดประสงค์ เป็น ส่วนใหญ่ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรล ำดับเหตุกำรณ์และคำดคะเนเหตุกำรณ์จำกเรื่องโดยระบุเหตุผล ประกอบ กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๗๗ แบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ครูผู้สอนท ำเครื่องหมำย ลงในช่องที่นักเรียนแสดงพฤติกรรม ที่ ชื่อ – สกุล รำยกำรประเมิน รวม สรุป มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในกำรท ำงำน ๓ ๓ ๓ ๙ ผ่ำน ไม่ผ่ำน ๑. เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒. เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓. เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔. เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ รวมผลกำรประเมิน ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๗๘ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน รำยกำรประเมิน ๓ (ดีมำก) ๒ (ดี) ๑ (ปรับปรุง) ๑. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นอย่างดี ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นบางครั้ง ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและข้อบังคับ ของโรงเรียนได้ ๒. ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้เป็นบางครั้ง นักเรียนไม่ตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในกำร ท ำงำน ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น อย่างดี ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น บางส่วน ไม่ตั้งใจทำงานและไม่ รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ การงาน และทำงานด้วยความ เพียรพยายามและอดทนไม่ได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน กำหนด ไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๕ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๘ – ๙ ดี ๖ – ๗ ปานกลาง ๐ – ๕ ปรับปรุง


๗๙ ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ตรวจ / นิเทศ / เสนอแนะ / รับรอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ (นางจุฬาลักษณ์ อรรคชัย) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึงโคกสะอาด รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไผ่ ............/................................./.......................... บันทึกผลหลังกำรสอน ๑. ผลกำรจัดกำรเรียนรู้ ๑.๑ ด้ำนควำมรู้ (K) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ ด้ำนทักษะ/กระบวนกำร (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๓ ด้ำนคุณลักษณะ (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ปัญหำและอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ข้อเสนอแนะ / แนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ...................................................ผู้สอน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) ........../........................../..................


๘๐ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย (รำยวิชำ ท ๑๓๑๐๑) ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง กำรอ่ำน ภำคเรียนที่ ๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง กำรอ่ำนบทอ่ำนเสริมเรื่อง มดด ำ มดแดง เวลำเรียน ๒ ชั่วโมง สอนวันที่………….เดือน………………………….พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้สอน นำงสำวสุภำพร ปะละทัง มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด สำระที่ ๑ กำรอ่ำน มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๓ ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องมดดำ มดแดงได้(K) ๒. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงนิทานเรื่องมดดำ มดแดงได้อย่างถูกต้อง (P) ๓. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สำระกำรเรียนรู้ - การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง มดดำ มดแดง สำระส ำคัญ การอ่านเสริมบทเรียน ทำให้ผู้อ่านได้รับความรู้ความบันเทิงและข้อคิดจากการอ่าน และสามารถเลือก หนังสืออ่านได้ตรงตามความต้องการ นอกจากนี้ที่สำคัญ คือสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการอ่านมาปรับใช้ให้ เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรียนรู้ ๑. รูปภาพมดดำ มดแดง ๒. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาทีชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๓. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓


๘๑ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล ๑. การตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องมดดำ มดแดง ๒. การอ่านออกเสียงนิทานเรื่องมดดำ มดแดง ๓. การสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๒. เครื่องมือ ๑. แบบประเมินการตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องมดดำ มดแดง ๒. แบบประเมินการอ่านออกเสียงนิทานเรื่องมดดำ มดแดง ๓. แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องมดดำ มด แดงไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๒. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการอ่านออกเสียงนิทานเรื่องมดดำ มดแดงไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๓. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนแบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมี ความมุ่งมั่นในการทำงานไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ขั้นน ำ ๑. ครูทบทวนเรื่อง ปฏิบัติการสายลับจิ๋ว ในคาบเรียนที่แล้ว ๒. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ ขั้นสอน ๓. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงบทอ่านเสริมเรื่องมดดำ มดแดง จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทยชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาทีชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ พร้อมกัน ๔. นักเรียนพูดคุย สนทนา เกี่ยวกับ “เรื่องมดดำ มดแดง” จากความรู้ที่ได้อ่านโดยตั้งคำถามดังนี้ - รูปร่างลักษณะของมดดำกับมดแดง - ที่อยู่อาศัยของมดดำกับมดแดง - มดดำกับมดแดงมีลักษณะที่เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร - เรื่องมดดำ มดแดงให้ข้อคิดกับนักเรียนในเรื่องใดบ้าง ๕. ครูสุ่มนักเรียนออกมาตั้งคำถามเพื่อถามเพื่อนให้ห้องเรียนเพื่อตรวจสอบความเข้าใจในการอ่าน ขั้นสรุป ๖. ครูและนักเรียนช่วยกันอภิปรายและสรุปองค์ความรู้ เรื่อง มดดำ มดแดง


๘๒ ชั่วโมงที่ ๒ ขั้นน ำ ๑. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับความรู้เรื่องมด ว่านักเรียนรู้จัดมด ชนิดใดบ้าง ลักษณะเป็นอย่างไร ขั้นสอน ๒. ครูติดรูปมดดำ และมดแดง ให้นักเรียนดูและสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับมดทั้ง ๒ ชนิดนี้ว่า นักเรียนรู้จักหรือไม่ อย่างไร เพื่อนำเข้าสู่การอ่านบทเสริมเรื่อง มดดำมดแดง ๓. นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ ๑ เรื่องที่ ๑ อ่านหนังสือเรียนแล้วตอบคำถามข้อย่อยที่ ๗ - ๘ จาก แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน ชุดภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๔. ครูและนักเรียนร่วมกับตรวจสอบคำตอบจากการทำแบบฝึกหัด ขั้นสรุป ๕. นักเรียนและครูสรุปเกี่ยวกับการอ่านเรื่อง มดดำ มดแดง ๖. ครูนัดแนะเกี่ยวกับการเรียนในครั้งต่อไป


๘๓ แบบประเมินกำรตั้งค ำถำมและตอบค ำถำมเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องมดด ำ มดแดง ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่ตั้งค ำถำมและตอบค ำถำมเชิงเหตุผล ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม ตรงจุดประสงค์ ที่ก ำหนด ตั้งค ำถำมได้ ตอบค ำถำม เชิงเหตุผลได้ ตรงตำมเวลำที่ ก ำหนด ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๘๔ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรตั้งค ำถำมและตอบค ำถำมเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องมดด ำ มดแดง ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ตรงจุดประสงค์ที่ ก ำหนด มีความสอดคล้องกับจุด ประสงค์ ทุกประเด็น สอดคล้องกับจุดประสงค์ เป็น ส่วนใหญ่ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ ๒. ตั้งค ำถำมได้ เนื้อหาสาระมีความถูก ต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระมีความถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระไม่ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ๓. ตอบค ำถำมเชิงเหตุ ผลได้ ตอบคำถามเชิงเหตุผลได้ ถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามเชิงเหตุผลได้ไม่ ค่อยตรงประเด็น ไม่ตอบคำถามเชิงเหตุผลได้ ๔. ตรงตำมเวลำที่ก ำหนด สามารถตอบคำถาม หรือส่งงานตรงตาม เวลาที่กำหนด ตอบคำถามหรือส่งงานช้ากว่า เวลาที่กำหนด ไม่ตอบคำถามและส่งงานที่ ครูมอบหมายให้ทำ เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรตั้งค ำถำมและตอบค ำถำมเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องมดด ำ มดแดง กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๘๕ แบบประเมินกำรอ่ำนออกเสียงนิทำนเรื่องมดด ำ มดแดง ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนอ่ำนออกเสียงนิทำนเรื่องมดด ำ มดแดง ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม . ควำมเร็วใน กำรอ่ำน อ่ำนถูกต้อง ตำมอักขรวิธี กำรเว้นวรรค ตอนถูกต้อง น้ ำเสียง เหมำะสมกับ เรื่องที่อ่ำน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๘๖ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรอ่ำนออกเสียงนิทำนเรื่องมดด ำ มดแดง ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ควำมเร็วในกำรอ่ำน อ่านเร็วหรือช้าตลอด เวลา อ่านเร็วหรืออ่านชาเป็น บางชวง อ่านไม่เร็วหรือช้าเกินไป ตลอดเวลา ๒. อ่ำนถูกต้องตำม อักขรวิธี อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ออกเสียง ร ล และคำ ควบกล้ำ ร ล ว ชัดเจน อ่านถูกต้องตามอักขรวิธีออก เสียง ร ล และคำควบกล้ำ ร ล ว ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ออกเสียง ร ล และคำควบ กล้ำ ร ล ว ไม่ชัดเลย ๓. กำรเว้นวรรคตอน ถูกต้อง อ่านเว้นวรรคตอนได้ ถูกต้องตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง อ่านเว้นวรรคตอนผิดบ้างเป็น บางครั้ง อ่านเว้นวรรคตอนผิดตลอด ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ๔. น้ ำเสียงเหมำะสมกับ เรื่องที่อ่ำน อ่านเสียงดังชัดเจน น้ำ เสียงเหมาะสมกับเรื่องที่ อ่าน อ่านเสียงดังชัดเจน น้ำเสียง เหมาะสมบ้างเป็นบางครั้ง อ่านเสียงไม่ชัดเจน น้ำเสียง ไม่เหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ตลอดทั้งเรื่อง เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรอ่ำนออกเสียงนิทำนเรื่องมดด ำ มดแดงกำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๘๗ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย (รำยวิชำ ท ๑๓๑๐๑) ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง กำรอ่ำน ภำคเรียนที่ ๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๙ เรื่อง วรรณคดีล ำน ำ กระต่ำยไม่ตื่นตูม (กำรอ่ำนนิทำนเรื่องกระต่ำยตื่นตูม) เวลำเรียน ๒ ชั่วโมง สอนวันที่………….เดือน………………………….พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้สอน นำงสำวสุภำพร ปะละทัง มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด สำระที่ ๑ กำรอ่ำน มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๓ ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องกระต่ายตื่นตูมได้(K) ๒. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงนิทานเรื่องกระต่ายตื่นตูมได้อย่างถูกต้อง (P) ๓. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สำระกำรเรียนรู้ - การอ่านนิทานเรื่องกระต่ายตื่นตูม สำระส ำคัญ การอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมจะต้องเข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและ วรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรียนรู้ ๑. รูปภาพเรื่องกระต่ายตื่นตูม ๒. กล่องคำถาม ๓. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต วรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๔. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓


๘๘ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล ๑. การตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องกระต่ายตื่นตูม ๒. การอ่านออกเสียงนิทานเรื่องกระต่ายตื่นตูม ๓. การสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๒. เครื่องมือ ๑. แบบประเมินการตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องกระต่ายตื่นตูม ๒. แบบประเมินการอ่านออกเสียงนิทานเรื่องกระต่ายตื่นตูม ๓. แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องกระต่าย ตื่นตูมไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๒. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการอ่านออกเสียงนิทานเรื่องกระต่ายตื่นตูมไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๓. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนแบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมี ความมุ่งมั่นในการทำงานไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ขั้นน ำ ๑.ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นโดยครูใช้คำถาม ดังนี้ ๏ นักเรียนรู้จักข่าวลือหรือไม่ ข่าวลือมีประโยชน์หรือโทษอย่างไร ๒. ครูสนทนากับนักเรียนว่านักเรียนรู้จักนิทานอะไรบ้าง และรู้หรือไม่ว่ามีนิทานที่สอนใจหรือไม่ (ครู สอนเชื่อมโยงจะเข้าเองกระต่ายตื่นตูม) ขั้นสอน ๓. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงบทเรียน เรื่องกระต่ายไม่ตื่นตูม จากหนังสือหนังสือเรียน รายวิชา พื้นฐานภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต วรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ (หน้าที่ ๒ - ๗) พร้อมกัน ๑ รอบ ๔. ให้นักเรียนทำกิจกรรมเสริมทักษะการเรียนรู้โดยให้นักเรียนอ่านออกเสียงเรื่อง กระต่ายไม่ตื่นตูม แล้วช่วยกันอธิบายความหมายของคำและข้อความที่อ่าน โดยครูตรวจสอบให้นักเรียนอ่านอย่างถูกต้องและมี มารยาทในการอ่าน ๕. ครูแสดงภาพวาด เรื่อง กระต่ายตื่นตูม ดังนี้ ภาพที่ ๑ เป็นรูปกระต่ายกำลังนอนหลับอยู่ใต้ต้นตาลอย่างมีความสุข ภาพที่ ๒ เป็นรูปพายุพัดอย่างแรงท้องฟ้ามืดครึ้มมีใบไม้ฝุ่นผงปลิวไปทั่ว ภาพที่ ๓ มีลูกตาลลูกหนึ่งหล่นลงมาจากต้นตาลใกล้ๆ กับที่กระต่ายนอน


๘๙ ภาพที่ ๔ กระต่ายตกใจวิ่งหนีมีสัตว์อื่นตามเป็นขบวน บางตัวตกเหวตาย บางตัวขาหักนอน บาดเจ็บ ภาพที่ ๕ เหล่าสัตว์ป่าพบราชสีห์จึงเล่าเรื่องฟ้าถล่มให้ฟัง ภาพที่ ๖ สัตว์ทั้งหลายพาราชสีห์ไปดูที่เกิดเหตุพบลูกตาลหล่นอยู่ใต้ต้นตาล ขั้นสรุป ๖. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปบทเรียนเรื่องกระต่ายไม่ตื่นตูมพร้อมกันอีกครั้ง พร้อมแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับข้อคิดที่ได้จากเรื่อง ๗. ครูนัดแนะเกี่ยวกับการเรียนในครั้งต่อไป ชั่วโมงที่ ๒ ขั้นน ำ ๑. ครูสนทนากับนักเรียนเพื่อทบทวนความรู้เดิมในชั่วโมงที่แล้ว ๒. นักเรียนดูภาพประกอบจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต วรรณคดีลำ นำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ บทที่ ๑ เรื่องกระต่ายไม่ตื่นตูม โดยร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นจากภาพตาม ประเด็นดังต่อไปนี้ - สัตว์มีอะไรบ้าง - เหตุการณ์ในภาพเกิดขึ้นที่ไหน - สัตว์ต่างๆ ในภาพแสดงท่าทางอย่างไรบ้าง ขั้นสอน ๓. ครูให้นักเรียนจับคู่ และแจกภาพวาดให้นักเรียนคู่ละ ๑ ภาพให้ช่วยกันเขียนข้อความประกอบภาพ จากนั้นให้ตัวแทนกลุ่มออกมาอ่านข้อความที่บรรยายภาพให้ต่อเป็นเรื่องเดียวกัน ๔.ให้นักเรียนตั้งคำถามคนละ ๑ คำถามเกี่ยวกับเรื่องกระต่ายตื่นตูมใส่ลงในกล่องคำถามที่ครูจัดให้ ๕. ให้นักเรียนแข่งขันกันตอบคำถาม โดยครูนำคำถามที่นักเรียนช่วยกันเขียนมาถามทีละข้อ ใครตอบ ได้ให้ยกมือ ใครตอบก่อนได้คะแนน นักเรียนที่ได้คะแนนมากที่สุดชนะ ๖. ให้นักเรียนทำกิจกรรมเสริมทักษะการเรียนรู้โดยตอบคำถามจากเนื้อเรื่องกระต่ายตื่นตูมเพิ่มเติม ดังนี้ ๑) กระต่ายคิดว่าเกิดฟ้าถล่มเพราะเหตุใด (นอนหลับอยู่แล้วมีลูกตาลหล่นลงมาบนพื้นจึงตกใจ) ๒) พระยาราชสีห์มีลักษณะนิสัยอย่างไร (รอบคอบ ไม่เชื่ออะไรโดยไม่มีเหตุผล รู้จักพิจารณา ไตร่ตรอง) ๓) สัตว์ต่างๆ ได้รับความเดือดร้อนเพราะเหตุใด (ไม่คิดพิจารณาไตร่ตรอง ไม่รอบคอบ) ๔) ถ้าพระยาราชสีห์เชื่อกระต่ายเหมือนสัตว์อื่นเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ทั้ง พระยาราชสีห์และสัตว์ทุกตัวต่างวิ่งหนีต่อไปจนต้องล้มตายและบาดเจ็บกันทั้งหมด) ๕) เรื่องกระต่ายตื่นตูมให้ข้อคิดอะไรกับนักเรียน (ตัวอย่างคำตอบ อย่าตื่นตกใจกับเรื่องที่ได้ ยิน ต้องคิดพิจารณาด้วยเหตุผลให้รอบคอบ การหลงเชื่ออย่างไม่มีเหตุผลอาจทำให้เกิดผลร้ายต่อตนเองและ ผู้อื่นได้)


๙๐ ๗. ครูให้นักเรียนร่วมกันยกตัวอย่างผลร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งใดแล้วไม่ไตร่ตรอง เช่น เด็กคนหนึ่งได้ ยินเสียงตึงตังข้างห้องเรียนนึกว่าแผ่นดินไหวรีบวิ่งมาบอกเพื่อน เพื่อนในห้องพากันเชื่อรีบวิ่งหนีลงบันได หรือ อาจกระโดดไปทางหน้าต่าง ขั้นสรุป ๘. นักเรียนทำแบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๓ อ่านหนังสือเรียนแล้วตอบคำถาม หนังสือเรียนวรรณคดีลำนำ บทที่ ๑ เรื่องกระต่ายไม่ตื่นตูม ข้อ ๑ - ๔ (ให้นักเรียนทำเป็นการบ้าน) ๙. ครูสังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมในชั้นเรียนของนักเรียน และบันทึกลงในแบบประเมิน ๑๐. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปบทเรียนเรื่องกระต่ายไม่ตื่นตูมพร้อมกันอีกครั้ง พร้อมแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับข้อคิดที่ได้จากเรื่อง


๙๑ แบบประเมินกำรตั้งค ำถำมและตอบค ำถำมเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องกระต่ำยตื่นตูม ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่ตั้งค ำถำมและตอบค ำถำมเชิงเหตุผล ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม ตรงจุดประสงค์ ที่ก ำหนด ตั้งค ำถำมได้ ตอบค ำถำม เชิงเหตุผลได้ ตรงตำมเวลำที่ ก ำหนด ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๙๒ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรตั้งค ำถำมและตอบค ำถำมเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องกระต่ำยตื่นตูม ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ตรงจุดประสงค์ที่ ก ำหนด มีความสอดคล้องกับจุด ประสงค์ ทุกประเด็น สอดคล้องกับจุดประสงค์ เป็น ส่วนใหญ่ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ ๒. ตั้งค ำถำมได้ เนื้อหาสาระมีความถูก ต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระมีความถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระไม่ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ๓. ตอบค ำถำมเชิงเหตุ ผลได้ ตอบคำถามเชิงเหตุผลได้ ถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามเชิงเหตุผลได้ไม่ ค่อยตรงประเด็น ไม่ตอบคำถามเชิงเหตุผลได้ ๔. ตรงตำมเวลำที่ก ำหนด สามารถตอบคำถาม หรือส่งงานตรงตาม เวลาที่กำหนด ตอบคำถามหรือส่งงานช้ากว่า เวลาที่กำหนด ไม่ตอบคำถามและส่งงานที่ ครูมอบหมายให้ทำ เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรตั้งค ำถำมและตอบค ำถำมเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องกระต่ำยตื่นตูม กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ - ๑๒ ดี ๘ - ๑๐ ปานกลาง ๐ - ๗ ปรับปรุง


๙๓ แบบประเมินกำรอ่ำนออกเสียงนิทำนเรื่องกระต่ำยตื่นตูม ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนอ่ำนออกเสียงนิทำนเรื่องกระต่ำยตื่นตูม ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม . ควำมเร็วใน กำรอ่ำน อ่ำนถูกต้อง ตำมอักขรวิธี กำรเว้นวรรค ตอนถูกต้อง น้ ำเสียง เหมำะสมกับ เรื่องที่อ่ำน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๙๔ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรอ่ำนออกเสียงนิทำนเรื่องกระต่ำยตื่นตูม ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ควำมเร็วในกำรอ่ำน อ่านเร็วหรือช้าตลอด เวลา อ่านเร็วหรืออ่านชาเป็น บางชวง อ่านไม่เร็วหรือช้าเกินไป ตลอดเวลา ๒. อ่ำนถูกต้องตำม อักขรวิธี อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ออกเสียง ร ล และคำ ควบกล้ำ ร ล ว ชัดเจน อ่านถูกต้องตามอักขรวิธีออก เสียง ร ล และคำควบกล้ำ ร ล ว ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ออกเสียง ร ล และคำควบ กล้ำ ร ล ว ไม่ชัดเลย ๓. กำรเว้นวรรคตอน ถูกต้อง อ่านเว้นวรรคตอนได้ ถูกต้องตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง อ่านเว้นวรรคตอนผิดบ้างเป็น บางครั้ง อ่านเว้นวรรคตอนผิดตลอด ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ๔. น้ ำเสียงเหมำะสมกับ เรื่องที่อ่ำน อ่านเสียงดังชัดเจน น้ำ เสียงเหมาะสมกับเรื่องที่ อ่าน อ่านเสียงดังชัดเจน น้ำเสียง เหมาะสมบ้างเป็นบางครั้ง อ่านเสียงไม่ชัดเจน น้ำเสียง ไม่เหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ตลอดทั้งเรื่อง เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรอ่ำนออกเสียงนิทำนเรื่องกระต่ำยตื่นตูม กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๙๕ แบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ครูผู้สอนท ำเครื่องหมำย ลงในช่องที่นักเรียนแสดงพฤติกรรม ที่ ชื่อ – สกุล รำยกำรประเมิน รวม สรุป มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในกำรท ำงำน ๓ ๓ ๓ ๙ ผ่ำน ไม่ผ่ำน ๑. เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒. เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓. เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔. เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ รวมผลกำรประเมิน ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๙๖ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน รำยกำรประเมิน ๓ (ดีมำก) ๒ (ดี) ๑ (ปรับปรุง) ๑. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นอย่างดี ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นบางครั้ง ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและข้อบังคับ ของโรงเรียนได้ ๒. ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้เป็นบางครั้ง นักเรียนไม่ตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในกำร ท ำงำน ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น อย่างดี ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น บางส่วน ไม่ตั้งใจทำงานและไม่ รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ การงาน และทำงานด้วยความ เพียรพยายามและอดทนไม่ได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน กำหนด ไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๕ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๘ – ๙ ดี ๖ – ๗ ปานกลาง ๐ – ๕ ปรับปรุง


๙๗ ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ตรวจ / นิเทศ / เสนอแนะ / รับรอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ (นางจุฬาลักษณ์ อรรคชัย) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึงโคกสะอาด รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไผ่ ............/................................./.......................... บันทึกผลหลังกำรสอน ๑. ผลกำรจัดกำรเรียนรู้ ๑.๑ ด้ำนควำมรู้ (K) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ ด้ำนทักษะ/กระบวนกำร (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๓ ด้ำนคุณลักษณะ (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ปัญหำและอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ข้อเสนอแนะ / แนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ...................................................ผู้สอน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) ........../........................../..................


๙๘ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย (รำยวิชำ ท ๑๓๑๐๑) ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง กำรอ่ำน ภำคเรียนที่ ๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๐ เรื่อง วรรณคดีล ำน ำ กระต่ำยไม่ตื่นตูม (กำรอ่ำนนิทำนเรื่องกระต่ำยแหย่เสือ) เวลำเรียน ๒ ชั่วโมง สอนวันที่………….เดือน………………………….พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้สอน นำงสำวสุภำพร ปะละทัง มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด สำระที่ ๑ กำรอ่ำน มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๓ ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องกระต่ายแหย่เสือได้(K) ๒. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงนิทานเรื่องกระต่ายแหย่เสือได้อย่างถูกต้อง (P) ๓. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สำระกำรเรียนรู้ - การอ่านนิทานเรื่องกระต่ายแหย่เสือ สำระส ำคัญ การอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมจะต้องเข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและ วรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรียนรู้ ๑. รูปภาพเรื่องกระต่ายแหย่เสือ ๒. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต วรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๓. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓


Click to View FlipBook Version