The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การอ่าน ภาคเรียนที่ ๑ (ประเมินครูผู้ช่วย รอบ ๔)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Leo Supaporn Palatong, 2024-02-04 08:44:04

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การอ่าน ภาคเรียนที่ ๑ (ประเมินครูผู้ช่วย รอบ ๔)

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การอ่าน ภาคเรียนที่ ๑ (ประเมินครูผู้ช่วย รอบ ๔)

ก ค ำน ำ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เล่มนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทาง ในการจัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้ สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง ทั้งเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม สร้างสถานการณ์การเรียนรู้ทั้งใน ห้องเรียนและนอกห้องเรียน ทำให้นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ได้ในเชิงบูรณา การด้วยวิธีการที่หลากหลาย เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสรุปความรู้ด้วยตนเอง ทำให้ นักเรียนได้รับการพัฒนาทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะ/กระบวนการ และด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ดี นำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เล่มนี้ได้จัดทำตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ วิเคราะห์หลักสูตรและตัวชี้วัด จัดทำกำหนดการสอน โครงสร้างรายวิชา โดยได้นำเสนอ แผนการจัดการเรียนรู้เป็นรายชั่วโมงตามหน่วยการเรียนรู้ และในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ยังมีการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ทั้ง ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ ด้านทักษะ/กระบวนการ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ค่านิยม ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้จะช่วยให้การเรียนการสอน กลุ่มสาระการ เรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ดำเนินไปด้วยดี และทำให้ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ มีทักษะ กระบวนการ และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตรงตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรต่อไป นางสาวสุภาพร ปะละทัง ผู้จัดทำ


ข สำรบัญ เรื่อง หน้ำ คำนำ............................................................................................................................................ .................. ก สารบัญ................................................................................................................................... ........................ ข คำอธิบายรายวิชา........................................................................................................... ................................ ๑ โครงสร้างรายวิชาภาษาไทย........................................................................................................................... ๒ ปฏิทินการสอน…………………………………………………………………….………......................................................... ๕ กำหนดการสอน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง การอ่าน……………….………......................................................... ๖ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง การอ่านคำและสังเกตสระ………..…..…………………………………….................. ๗ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง การอ่านและสังเกตวรรณยุกต์.................................................................... ๑๗ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง การอ่านทำนองเสนาะกลอนสี่..…………...................................................... ๒๘ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง คำคล้องจอง ๒ คำ………….…………......……….............................................. ๓๘ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง การแต่งคำคล้องจอง ๓ คำและ ๔ คำ........................................................ ๔๙ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง การอ่านคำแบบเรียงพยางค์…………….………………...................................... ๕๙ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรื่อง การอ่านในใจ.............................................................................................. ๖๙ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง มดดำ มดแดง................................................... ๘๐ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ เรื่อง วรรณคดีลำนำ กระต่ายไม่ตื่นตูม (การอ่านนิทานเรื่องกระต่ายตื่นตูม)...... ๘๗ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๐ เรื่อง วรรณคดีลำนำ กระต่ายไม่ตื่นตูม (การอ่านนิทานเรื่องกระต่ายแหย่เสือ) ๙๘ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ เรื่อง เรื่อง การอ่านในใจบทเรียนอาหารดี ชีวีมีสุข..…................................... ๑๐๘ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๒ เรื่อง วรรณคดีลำนำ แม่ไก่อยู่ในตะกร้า (๑).................................................. ๑๑๘ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๓ เรื่อง การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง เทพารักษ์กับคนตัดไม้….............................. ๑๒๘ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรื่อง การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง ป่าชายเลน.................................................. ๑๓๘ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๕ เรื่อง การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง อาหารเพื่อสุขภาพ...................................... ๑๔๘ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๖ เรื่อง การอ่านบทอ่านเสริมเพิ่มความรู้ เรื่อง โอ้เอ้วิหารราย.......................... ๑๕๘


๑ ค ำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย รหัสวิชำ ท ๑๓๑๐๑ วิชำภำษำไทยพื้นฐำน ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ เวลำ ๒๐๐ ชั่วโมง/ปี ฝึกอ่านออกเสียงคำ ข้อความ เรื่องสั้นๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคำและ ข้อความที่อ่าน ตั้งคำถาม ตอบคำถามเชิงเหตุผล ลำดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์สรุปความรู้ข้อคิด จาก เรื่องที่อ่าน เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและนำเสนอเรื่องที่ อ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อแนะนำ อธิบายความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยาย เขียนบันทึกประจำวัน เขียนเรื่องตาม จินตนาการ มีมารยาทในการเขียน ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด เล่ารายละเอียด บอกสาระสำคัญ ตั้งคำถาม ตอบคำถาม พูดแสดง ความคิดเห็น ความรู้สึก พูดสื่อสารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด ฝึกเขียนตามหลักการเขียน เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ ระบุชนิด หน้าที่ของคำ ใช้ พจนานุกรมค้นหาความหมายของคำ แต่งประโยคง่ายๆ แต่งคำคล้องจองและคำขวัญ เลือกใช้ภาษาไทย มาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณกรรม เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน รู้จักเพลงพื้นบ้าน เพลง กล่อม เด็ก เพื่อปลูกฝังความชื่นชมวัฒนธรรมท้องถิ่น แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวรรณคดีที่อ่าน ท่องจำบทอาขยาน ตามที่กำหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการสื่อความกระบวนการ แก้ปัญหา การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคำถาม ตอบคำถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูด แสดงความคิดเห็น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอดเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้ เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสม มำตรฐำน/ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙ ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ รวม ๕ มำตรฐำน ๓๑ ตัวชี้วัด


๒ โครงสร้ำงรำยวิชำภำษำไทย ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๖ ภำคเรียนที่ ๑ จ ำนวน ๑๐๐ ชั่วโมง รวมเวลำตลอดทั้งปี ๒๐๐ ชั่วโมง ครูผู้สอน นำงสำวสุภำพร ปะละทัง (ครูเบียร์) ล ำดับ ที่ ชื่อหน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน/ตัวชี้วัด สำระส ำคัญ เวลำ (ชั่วโมง) น้ ำหนัก คะแนน ๑ การอ่าน ท ๑.๑ ป.๓/๑ - การอ่านคำและสังเกตสระ - การอ่านและสังเกตวรรณยุกต์ - การอ่านทำนองเสนาะกลอนสี่ ๖ ๔ ท ๑.๑ ป.๓/๒ - คำคล้องจอง ๒ คำ - การแต่งคำคล้องจอง ๓ คำและ ๔ คำ - การอ่านคำแบบเรียงพยางค์ ๖ ๔ ท ๑.๑ ป.๓/๓ - การอ่านในใจ - การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง มดดำ มด แดง - วรรณคดีลำนำ กระต่ายไม่ตื่นตูม (การอ่านนิทานเรื่องกระต่ายตื่นตูม) - วรรณคดีลำนำ กระต่ายไม่ตื่นตูม (การอ่านนิทานเรื่องกระต่ายแหย่เสือ) ๘ ๕ ท ๑.๑ ป.๓/๔ - การอ่านในใจบทเรียนอาหารดี ชีวีมีสุข - วรรณคดีลำนำ แม่ไก่อยู่ในตะกร้า (๑) ๔ ๔ ท ๑.๑ ป.๓/๕ - การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง เทพารักษ์ กับคนตัดไม้ - การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง ป่าชายเลน - การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง อาหารเพื่อ สุขภาพ - การอ่านบทอ่านเสริมเพิ่มความรู้ เรื่อง โอ้เอ้วิหารราย ๘ ๕


๓ ล ำดับ ที่ ชื่อหน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน/ตัวชี้วัด สำระส ำคัญ เวลำ (ชั่วโมง) น้ ำหนัก คะแนน ๒ การเขียน ท ๒.๑ ป.๓/๑ - รู้ความหมายคำศัพท์ - การคัดลายมือ - เขียนคำ ควรรู้ คู่ความหมาย ๖ ๔ ท ๒.๑ ป.๓/๒ - คำนามและคำสรรพนาม - คำกริยาและคำวิเศษณ์ - ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม และ ประโยคปฏิเสธ ๖ ๔ ท ๒.๑ ป.๓/๓ - นิสัยรักการเขียน - การเขียนบันทึกประจำวัน ๔ ๔ ๓ การฟัง การดู และการพูด ท ๓.๑ ป.๓/๑ - การเขียนสรุปเรื่องจากการอ่าน การ ฟัง การดู - ดาวลูกไก่ - อธิบายเพิ่มเติมความรู้ - การอ่านบทละครนอก เรื่อง ไชยเชษฐ์ ตอน พระนารายณ์ธิเบศร์พบพ่อ ๘ ๕ ท ๓.๑ ป.๓/๒ - การฟังนิทานอีสปเรื่อง หมาจิ้งจอกกับ แพะ - การพูดแนะนำตัวและการพูดแนะนำ สถานที่ ๔ ๔ ท ๓.๑ ป.๓/๓ - การตั้งคำถาม - การอ่านบทอ่านเสริม (เด็กเลี้ยงแกะ) - การอ่านบทอ่านเสริม (ลากับจิ้งหรีด) ๖ ๔ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย ท ๔.๑ ป.๓/๑ - การเขียนพยัญชนะต้นอักษรกลาง - การเขียนคำที่มีพยัญชนะต้นอักษรสูง - การเขียนคำที่มีพยัญชนะต้นอักษรต่ำ - การเขียนคำที่ใช้ ฑ - สระเปลี่ยนรูป ๑๐ ๕ ท ๔.๑ ป.๓/๒ - การอ่านคำที่มี ฤ ฤา ๒ ๔ ท ๔.๑ ป.๓/๓ - การอ่านคำที่มีอักษรนำ - การอ่านคำที่มีตัวการันต์ - กวางป่าสามพี่น้อง ๗ ๕


๔ ล ำดับ ที่ ชื่อหน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน/ตัวชี้วัด สำระส ำคัญ เวลำ (ชั่วโมง) น้ ำหนัก คะแนน ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม ท ๕.๑ ป.๓/๑ - การอ่านวรรณกรรมเด็กเอ๋ยเด็กน้อย (คำศัพท์ในบทเรียน) - การอ่านออกเสียงวรรณคดีลำนำเด็ก เอ๋ยเด็กน้อย - การอ่านคำศัพท์ใหม่วรรณคดีลำนำลูก แกะของซาฟียะห์ - การอ่านเรื่อง ดนตรีในไพรกว้าง ๙ ๕ ท ๕.๑ ป.๓/๒ - เพลงกล่อมเด็กของคุณยาย - ลักษณะของเพลงกล่อมเด็ก ๔ ๔ รวม ๙๘ ๗๐ สอบกลางปี ๒ ๓๐ รวมกลางปี ๑๐๐ ๑๐๐



๖ ก ำหนดกำรสอน หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง กำรอ่ำน หน่วยกำรเรียนรู้ เรื่อง จ ำนวนชั่วโมง หน่วยที่ ๑ กำรอ่ำน ๓๒ ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑ การอ่านคำและสังเกตสระ ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๒ การอ่านและสังเกตวรรณยุกต์ ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓ การอ่านทำนองเสนาะกลอนสี่ ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๔ คำคล้องจอง ๒ คำ ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๕ การแต่งคำคล้องจอง ๓ คำและ ๔ คำ ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๖ การอ่านคำแบบเรียงพยางค์ ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๗ การอ่านในใจ ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๘ การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง มดดำ มดแดง ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๙ วรรณคดีลำนำ กระต่ายไม่ตื่นตูม (การอ่าน นิทานเรื่องกระต่ายตื่นตูม) ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๐ วรรณคดีลำนำ กระต่ายไม่ตื่นตูม (การอ่าน นิทานเรื่องกระต่ายแหย่เสือ) ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๑ การอ่านในใจบทเรียนอาหารดี ชีวีมีสุข ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๒ วรรณคดีลำนำ แม่ไก่อยู่ในตะกร้า (๑) ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๓ การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง เทพารักษ์กับคน ตัดไม้ ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๔ การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง ป่าชายเลน ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๕ การอ่านบทอ่านเสริมเรื่อง อาหารเพื่อสุขภาพ ๒ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๖ การอ่านบทอ่านเสริมเพิ่มความรู้ เรื่อง โอ้เอ้ วิหารราย ๒


๗ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย (รำยวิชำ ท ๑๓๑๐๑) ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง กำรอ่ำน ภำคเรียนที่ ๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง กำรอ่ำนค ำและสังเกตสระ เวลำเรียน ๒ ชั่วโมง สอนวันที่………….เดือน………………………….พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้สอน นำงสำวสุภำพร ปะละทัง มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด สำระที่ ๑ กำรอ่ำน มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๑ อ่านออกเสียงคำ ข้อความ เรื่องสั้นและบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกต้อง คล่องแคล่ว จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถบอกเสียงสระในภาษาไทยได้(K) ๒. นักเรียนสามารถอ่านคำศัพท์ยากได้ถูกต้อง (P) ๓. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สำระกำรเรียนรู้ - สระในภาษาไทย - การอ่านสะกดคำ สำระส ำคัญ สระ หมายถึง เครื่องหมายที่ใช้แทนเสียงที่เปล่งออกมา ตามหลักภาษาถือว่าพยัญชนะจำเป็นต้อง อาศัยสระจึงจะอ่านออกเสียงได้ สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ๑. ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรียนรู้ ๑. รูปภาพผลไม้ ๒. บัตรคำ ๓. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาทีชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๔. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓


๘ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล ๑. การบอกเสียงสระในภาษาไทย ๒. การอ่านคำศัพท์ยาก ๓. การสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๒. เครื่องมือ ๑. แบบประเมินการบอกเสียงสระในภาษาไทย ๒. แบบประเมินการอ่านคำศัพท์ยาก ๓. แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการบอกเสียงสระในภาษาไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๒. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการอ่านคำศัพท์ยากไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๓. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนแบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมี ความมุ่งมั่นในการทำงานไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ขั้นน ำ ๑. นักเรียนดูภาพแล้วสนทนาเกี่ยวกับผลไม้ที่มีอยู่ในภาพ ๒. ให้นักเรียนออกมาเขียนชื่อผลไม้ที่มีอยู่ ได้แก่ ทุเรียน สับปะรด ขนุน ส้มโอ เงาะ ลำไย สละ กล้วย มังคุด มะม่วง ฝรั่ง ชมพู่ ๓. นักเรียนช่วยกันตรวจคำที่เพื่อนเขียน โดยร่วมตรวจสอบความถูกต้อง ๔. ให้นักเรียนอ่านออกเสียง สังเกตและแยกส่วนประกอบของคำโดยให้สังเกตรูปสระและเสียงสระ ขั้นสอน ๕. นักเรียนอ่านคำและสังเกตสระ ชุดที่ ๑ เสียงสระเดี่ยว จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาทีชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หน้า ๑๑ ๖. ครูอธิบายเพิ่มเติมและยกตัวอย่างประกอบ ๗. นักเรียนอ่านคำและสังเกตสระ ชุดที่ ๒ เสียงสระประสม จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาทีชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หน้า ๑๒


๙ ขั้นสรุป ๘. นักเรียนและครูร่วมกันสนทนาเพื่อสรุปความเข้าใจเรื่องสระว่า สระประกอบด้วยรูปสระและเสียง สระ รูปสระบางรูปมีเสียงเหมือนกัน เสียงสระมีสระเดี่ยว สระประสม และสระที่มีเสียงพยัญชนะท้าย ๙. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ ๑ ตอนที่ ๓ ฝึกการใช้ภาษา ข้อที่ ๒ ในแบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เป็นการบ้าน ๑๐. ครูนัดแนะเกี่ยวกับการเรียนในครั้งต่อไป ชั่วโมงที่ ๒ ขั้นน ำ ๑. ครูทักทายและสนทนากับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่การทบทวนความรู้เดิมจากชั่วโมงที่แล้ว ขั้นสอน ๒. จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติม ดังนี้ • เอีย ประสมจากสระ อีและ อา • เอือ ประสมจากสระ อือ และ อา • อัว ประสมจากสระ อูและ อา สระประสมถ้าออกเสียงสั้น จะเป็นเอียะ เอือะ อัวะ ในปัจจุบันสระเหล่านี้ให้เขียนคำที่เลียน ธรรมชาติ ๓. ให้นักเรียนนำสระเอีย สระเอือ และสระอัว แต่ละคนนำพยัญชนะและวรรณยุกต์มาประสมกับสระ ที่ได้รับให้เป็นคำที่มีความหมาย ๔. ให้นักเรียนแต่ละคนผลัดกันอ่านออกเสียงคำที่ช่วยกันประสมได้ให้คนอื่นฟัง พร้อมทั้งอธิบาย ความหมายของคำ ครูช่วยแนะนำและอธิบายเพิ่มเติม ๕. ครูติดบัตรคำบนกระดานให้นักเรียนอ่านออกเสียงคำตามบัตรคำต่อไปนี้ “ยำ ใย ไย เยา” ๖. นักเรียนอ่านคำและสังเกตสระ ชุดที่ ๓ เสียง สระอะที่มีเสียงพยัญชนะท้าย จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาทีชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หน้า ๑๒ ๗. ให้นักเรียนสังเกตสระที่ใช้ในการประสมคำ และลองคิดว่ามีเสียงตัวสะกดใดแฝงในคำอยู่บ้าง สระ อำ ออกเสียงเหมือนมี ม เป็นตัวสะกด สระ ใอ ออกเสียงเหมือนมีย เป็นตัวสะกด สระ ไอ ออกเสียงเหมือนมีย เป็นตัวสะกด สระ เอา ออกเสียงเหมือนมีว เป็นตัวสะกด ๘. ให้นักเรียนอ่านบัตรคำที่ครูติดบนกระดานแล้วช่วยกันบอกเสียงสระของคำนั้น ได้แก่ ฉุกเฉิน มดงาน เซ็งแซ่ โด่งดัง ฟูฟ่อง ลำไย ขั้นสรุป ๙. ครูชื่นชมและชมเชยเพื่อเป็นการเสริมแรงบวกให้กับนักเรียน ๑๐. นักเรียนและครูร่วมกันสนทนาเพื่อสรุปความเข้าใจเรื่องสระว่า สระประกอบด้วยรูปสระและเสียง สระ รูปสระบางรูปมีเสียงเหมือนกัน เสียงสระมีสระเดี่ยว สระประสม และสระที่มีเสียงพยัญชนะท้าย


๑๐ แบบประเมินกำรบอกเสียงสระในภำษำไทย ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนบอกเสียงสระในภำษำไทย ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม ตรงจุดประสงค์ ที่ก ำหนด เรียบเรียง ประโยคจำกค ำ ที่ประสมสระ ได้ ตรงตำมเวลำที่ ก ำหนด บอกเสียงสระ ในภำษำไทย ได้ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๑๑ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรบอกเสียงสระในภำษำไทย ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ตรงจุดประสงค์ที่ ก ำหนด มีความสอดคล้องกับจุด ประสงค์ ทุกประเด็น สอดคล้องกับจุดประสงค์ เป็น ส่วนใหญ่ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ ๒. เรียบเรียงประโยคจำก ค ำที่ประสมสระได้ เนื้อหาสาระมีความถูก ต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระมีความถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระไม่ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ๓. ตรงตำมเวลำที่ก ำหนด สามารถตอบคำถาม หรือส่งงานตรงตาม เวลาที่กำหนด ตอบคำถามหรือส่งงานช้ากว่า เวลาที่กำหนด ไม่ตอบคำถามและส่งงานที่ ครูมอบหมายให้ทำ ๔. บอกเสียงสระใน ภำษำไทยได้ สามารถบอกเสียงสระ ในภาษาไทยได้ถูกต้อง ครบถ้วน สามารถบอกเสียงสระใน ภาษาไทยได้ไม่ค่อยตรง ประเด็น ไม่สามารถบอกเสียงสระ ในภาษาไทยได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรบอกเสียงสระในภำษำไทย กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๑๒ แบบประเมินกำรอ่ำนค ำศัพท์ยำก ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนบอกเสียงสระในภำษำไทย ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม ควำมเร็วใน กำรอ่ำน อ่ำนถูกต้อง ตำมอักขรวิธี กำรเว้นวรรค ตอนถูกต้อง น้ ำเสียง เหมำะสมกับ เรื่องที่อ่ำน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๑๓ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรอ่ำนค ำศัพท์ยำก ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ควำมเร็วในกำรอ่ำน อ่านเร็วหรือช้าตลอด เวลา อ่านเร็วหรืออ่านชาเป็น บางชวง อ่านไม่เร็วหรือช้าเกินไป ตลอดเวลา ๒. อ่ำนถูกต้องตำม อักขรวิธี อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ออกเสียง ร ล และคำ ควบกล้ำ ร ล ว ชัดเจน อ่านถูกต้องตามอักขรวิธีออก เสียง ร ล และคำควบกล้ำ ร ล ว ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ออกเสียง ร ล และคำควบ กล้ำ ร ล ว ไม่ชัดเลย ๓. กำรเว้นวรรคตอน ถูกต้อง อ่านเว้นวรรคตอนได้ ถูกต้องตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง อ่านเว้นวรรคตอนผิดบ้างเป็น บางครั้ง อ่านเว้นวรรคตอนผิดตลอด ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ๔. น้ ำเสียงเหมำะสมกับ เรื่องที่อ่ำน อ่านเสียงดังชัดเจน น้ำ เสียงเหมาะสมกับเรื่องที่ อ่าน อ่านเสียงดังชัดเจน น้ำเสียง เหมาะสมบ้างเป็นบางครั้ง อ่านเสียงไม่ชัดเจน น้ำเสียง ไม่เหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ตลอดทั้งเรื่อง เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรอ่ำนค ำศัพท์ยำก กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๑๔ แบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ครูผู้สอนท ำเครื่องหมำย ลงในช่องที่นักเรียนแสดงพฤติกรรม ที่ ชื่อ – สกุล รำยกำรประเมิน รวม สรุป มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในกำรท ำงำน ๓ ๓ ๓ ๙ ผ่ำน ไม่ผ่ำน ๑. เด็กชายพีรวัตถ์ หงษ์จำนงค์ ๒. เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓. เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔. เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ รวมผลกำรประเมิน ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๑๕ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน รำยกำรประเมิน ๓ (ดีมำก) ๒ (ดี) ๑ (ปรับปรุง) ๑. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นอย่างดี ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นบางครั้ง ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและข้อบังคับ ของโรงเรียนได้ ๒. ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้เป็นบางครั้ง นักเรียนไม่ตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในกำร ท ำงำน ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น อย่างดี ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น บางส่วน ไม่ตั้งใจทำงานและไม่ รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ การงาน และทำงานด้วยความ เพียรพยายามและอดทนไม่ได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน กำหนด ไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๕ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๘ – ๙ ดี ๖ – ๗ ปานกลาง ๐ – ๕ ปรับปรุง


๑๖ ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ตรวจ / นิเทศ / เสนอแนะ / รับรอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ (นางจุฬาลักษณ์ อรรคชัย) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึงโคกสะอาด รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไผ่ ............/................................./.......................... บันทึกผลหลังกำรสอน ๑. ผลกำรจัดกำรเรียนรู้ ๑.๑ ด้ำนควำมรู้ (K) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ ด้ำนทักษะ/กระบวนกำร (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๓ ด้ำนคุณลักษณะ (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ปัญหำและอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ข้อเสนอแนะ / แนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ...................................................ผู้สอน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) ........../........................../...................


๑๗ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย (รำยวิชำ ท ๑๓๑๐๑) ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง กำรอ่ำน ภำคเรียนที่ ๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง กำรอ่ำนและสังเกตวรรณยุกต์ เวลำเรียน ๒ ชั่วโมง สอนวันที่………….เดือน………………………….พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้สอน นำงสำวสุภำพร ปะละทัง มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด สำระที่ ๑ กำรอ่ำน มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๑ อ่านออกเสียงคำ ข้อความ เรื่องสั้นและบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกต้อง คล่องแคล่ว จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถบอกเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยได้(K) ๒. นักเรียนสามารถอ่านคำศัพท์ยากได้ถูกต้อง (P) ๓. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สำระกำรเรียนรู้ - รูปและเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทย สำระส ำคัญ วรรณยุกต์หมายถึง เครื่องหมายที่ใช้กำกับเสียง มี๔ รูป คือ (ไม้เอก) (ไม้โท) (ไม้ตรี) (ไม้จัตวา) และ ๕ เสียง คือ สามัญ เอก โท ตรีจัตวา สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ๑. ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรียนรู้ ๑. บัตรคำ ๒. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาทีชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๓. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓


๑๘ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล ๑. การบอกเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทย ๒. การอ่านคำศัพท์ยาก ๓. การสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๒. เครื่องมือ ๑. แบบประเมินการบอกเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทย ๒. แบบประเมินการอ่านคำศัพท์ยาก ๓. แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการบอกเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๒. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการอ่านคำศัพท์ยากไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๓. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนแบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมี ความมุ่งมั่นในการทำงานไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ขั้นน ำ ๑. ให้นักเรียนช่วยกันทายปริศนาคำทาย ดังนี้ ตัวฉันนั้นหรือ ลือชื่อดุร้าย หน้าตาดูคล้าย แมวลายแสนเชื่อง (เสือ) ใช้ปูนั่งนอน พักผ่อนทุกที่ ม้วนได้ง่ายดี เดิมทีเป็นหญ้า (เสื่อ) ตัดเย็บจากผ้า นำมาสวมใส่ หญิงชายใช้ได้ บอกใบ้มีแขน (เสื้อ) เมื่อนักเรียนทายถูก เขียนคำบนกระดานให้นักเรียนอ่านออกเสียงพร้อมกัน ขั้นสอน ๒. ให้นักเรียนอ่านคำบนกระดาน และพิจารณาคำทีละคำว่ามีอะไรเหมือนกันและต่างกัน โดยครูใช้ คำถาม ดังนี้ - คำว่า “เสือ เสื่อ เสื้อ” มีอะไรที่เหมือนกัน (พยัญชนะต้น สระ ตัวสะกด) - คำว่า “เสือ เสื่อ เสื้อ” มีอะไรที่เขียนแตกต่างกัน (วรรณยุกต์) - คำทั้ง ๓ คำ อ่านออกเสียงเหมือนกันหรือไม่ (ไม่เหมือนกัน) - คำทั้ง ๓ คำ มีความหมายเหมือนกันหรือไม่ (ไม่เหมือนกัน) - สิ่งที่ทำให้คำทั้ง ๓ คำ มีเสียงและความหมายต่างกัน คืออะไร (วรรณยุกต์)


๑๙ ๓. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาถึงความรู้เดิมเกี่ยวกับวรรณยุกต์โดยใช้คำถาม ดังนี้ - วรรณยุกต์คืออะไร (เครื่องหมายกำหนดเสียงของคำ ทำให้ระดับเสียงของคำและ ความหมายแตกต่างกัน) - วรรณยุกต์มีกี่รูปอะไรบ้าง (มี๔ รูป คือ - - - -) - วรรณยุกต์มีกี่เสียงอะไรบ้าง (มี๕ เสียง คือ เสียงสามัญ เสียงเอก เสียงโท เสียงตรีเสียง จัตวา) ขั้นสรุป ๗. นักเรียนและครูร่วมกันสนทนาเพื่อสรุปความเข้าใจเรื่องวรรณยุกต์ว่า วรรณยุกต์เป็นเครื่องหมายที่ ใช้กำกับเสียง มี๔ รูป คือ (ไม้เอก) (ไม้โท) (ไม้ตรี) (ไม้จัตวา) และ ๕ เสียง คือ สามัญ เอก โท ตรีจัตวา ๘. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ ๑ ตอนที่ ๓ ฝึกการใช้ภาษา ข้อที่ ๓ ในแบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทยชุดภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เป็นการบ้าน ๙. ครูนัดแนะเกี่ยวกับการเรียนในครั้งต่อไป ชั่วโมงที่ ๒ ขั้นน ำ ๑. Warm Up สร้างบรรยากาศในการเรียน โดยพานักเรียน Warm Up เพลง ตบมือ ตบตัก ตบไหล่ ประกอบท่าแล้วให้นักเรียนทำตาม จากนั้นครูกับนักเรียนจึงสนทนาทบทวนเรื่องที่เรียนในชั่วโมงก่อน เนื้อเพลง ตบมือ ตบตัก ตบไหล่ มือ มือ มือ ตบตัก ตบมือ ตบมือ ตบไหล่ มือ มือ มือ ตบตัก ตบมือ ตบมือ ตบไหล่ แล้วสลับ แล้วสลับ กันไป แล้วสลับ แล้วสลับ กันไป ตบตัก ตบไหล่ ตบมือ ตบมือ ขั้นสอน ๒. นักเรียนอ่านคำและสังเกตวรรณยุกต์ จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อ ชีวิตภาษาพาทีชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หน้า ๑๓ โดยให้นักเรียนอ่านในใจ ๑ รอบ และอ่านพร้อมกัน โดยมี อาสาสมัครอ่านนำ เพื่อนๆ อ่านตาม ครูต้องพยายามให้นักเรียนทุกคนอาสาสมัครออกมาทำกิจกรรม ๓. ครูอธิบาเพิ่มเติมและยกตัวอย่างประกอบ ๔. ให้นักเรียนแต่ละคนแต่งประโยคจากคำที่กำหนดให้ข้อละ ๒ คำ คนละ ๒ ประโยค และเขียนบน กระดาษที่ครูแจกให้จากคำต่อไปนี้ ๑) นา น่า น้า ๒) ทอง ท่อง ท้อง ๓) ขา ข่า ข้า ๔) เผา เผ่า เผ้า ๕) เกา เก่า เก้า ๖) ปู ปู่ ปู้ ๗) ไข ไข่ ไข้ ๘) โจ โจ่ โจ้


๒๐ ตัวอย่ำง นอง น่อง น้อง - ฉันมีน้องสาวอยู่ที่จังหวัดระนอง เมื่อเสร็จแล้วให้แต่ละคนนำเสนอหน้าห้องและติดกระดาษบน กระดาน ครูและนักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นสรุป ๕. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเพื่อสรุปความเข้าใจเรื่องวรรณยุกต์ว่า วรรณยุกต์เป็นเครื่องหมายที่ ใช้กำกับเสียง มี๔ รูป คือ (ไม้เอก) (ไม้โท) (ไม้ตรี) (ไม้จัตวา) และ ๕ เสียง คือ สามัญ เอก โท ตรีจัตวา


๒๑ แบบประเมินกำรบอกเสียงวรรณยุกต์ในภำษำไทย ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนบอกเสียงวรรณยุกต์ในภำษำไทย ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม ตรงจุดประสงค์ ที่ก ำหนด เรียบเรียงค ำได้ ตรงตำมเวลำที่ ก ำหนด บอกเสียงสระ ในภำษำไทย ได้ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๒๒ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรบอกเสียงวรรณยุกต์ในภำษำไทย ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ตรงจุดประสงค์ที่ ก ำหนด มีความสอดคล้องกับจุด ประสงค์ ทุกประเด็น สอดคล้องกับจุดประสงค์ เป็น ส่วนใหญ่ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ ๒. เรียบเรียงค ำได้ เนื้อหาสาระมีความถูก ต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระมีความถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระไม่ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ๓. ตรงตำมเวลำที่ก ำหนด สามารถตอบคำถาม หรือส่งงานตรงตาม เวลาที่กำหนด ตอบคำถามหรือส่งงานช้ากว่า เวลาที่กำหนด ไม่ตอบคำถามและส่งงานที่ ครูมอบหมายให้ทำ ๔. บอกเสียงวรรณยุกต์ ในภำษำไทยได้ สามารถบอกเสียง วรรณยุกต์ในภาษาไทย ได้ถูกต้อง ครบถ้วน สามารถบอกเสียงวรรณยุกต์ ในภาษาไทยได้ไม่ค่อยตรง ประเด็น ไม่สามารถบอกเสียง วรรณยุกต์ในภาษาไทยได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรบอกเสียงวรรณยุกต์ในภำษำไทยกำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๒๓ แบบประเมินกำรอ่ำนค ำศัพท์ยำก ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนอ่ำนค ำศัพท์ยำก ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม . ควำมเร็วใน กำรอ่ำน อ่ำนถูกต้อง ตำมอักขรวิธี กำรเว้นวรรค ตอนถูกต้อง น้ ำเสียง เหมำะสมกับ เรื่องที่อ่ำน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๒๔ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรอ่ำนค ำศัพท์ยำก ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ควำมเร็วในกำรอ่ำน อ่านเร็วหรือช้าตลอด เวลา อ่านเร็วหรืออ่านชาเป็น บางชวง อ่านไม่เร็วหรือช้าเกินไป ตลอดเวลา ๒. อ่ำนถูกต้องตำม อักขรวิธี อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ออกเสียง ร ล และคำ ควบกล้ำ ร ล ว ชัดเจน อ่านถูกต้องตามอักขรวิธีออก เสียง ร ล และคำควบกล้ำ ร ล ว ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ออกเสียง ร ล และคำควบ กล้ำ ร ล ว ไม่ชัดเลย ๓. กำรเว้นวรรคตอน ถูกต้อง อ่านเว้นวรรคตอนได้ ถูกต้องตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง อ่านเว้นวรรคตอนผิดบ้างเป็น บางครั้ง อ่านเว้นวรรคตอนผิดตลอด ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ๔. น้ ำเสียงเหมำะสมกับ เรื่องที่อ่ำน อ่านเสียงดังชัดเจน น้ำ เสียงเหมาะสมกับเรื่องที่ อ่าน อ่านเสียงดังชัดเจน น้ำเสียง เหมาะสมบ้างเป็นบางครั้ง อ่านเสียงไม่ชัดเจน น้ำเสียง ไม่เหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ตลอดทั้งเรื่อง เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรอ่ำนค ำศัพท์ยำก กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๒๕ แบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ครูผู้สอนท ำเครื่องหมำย ลงในช่องที่นักเรียนแสดงพฤติกรรม ที่ ชื่อ – สกุล รำยกำรประเมิน รวม สรุป มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในกำรท ำงำน ๓ ๓ ๓ ๙ ผ่ำน ไม่ผ่ำน ๑. เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒. เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓. เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔. เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ รวมผลกำรประเมิน ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๒๖ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน รำยกำรประเมิน ๓ (ดีมำก) ๒ (ดี) ๑ (ปรับปรุง) ๑. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นอย่างดี ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นบางครั้ง ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและข้อบังคับ ของโรงเรียนได้ ๒. ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้เป็นบางครั้ง นักเรียนไม่ตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในกำร ท ำงำน ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น อย่างดี ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น บางส่วน ไม่ตั้งใจทำงานและไม่ รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ การงาน และทำงานด้วยความ เพียรพยายามและอดทนไม่ได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน กำหนด ไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๕ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๘ – ๙ ดี ๖ – ๗ ปานกลาง ๐ – ๕ ปรับปรุง


๒๗ ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ตรวจ / นิเทศ / เสนอแนะ / รับรอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ (นางจุฬาลักษณ์ อรรคชัย) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึงโคกสะอาด รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไผ่ ............/................................./.......................... บันทึกผลหลังกำรสอน ๑. ผลกำรจัดกำรเรียนรู้ ๑.๑ ด้ำนควำมรู้ (K) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ ด้ำนทักษะ/กระบวนกำร (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๓ ด้ำนคุณลักษณะ (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ปัญหำและอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ข้อเสนอแนะ / แนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ...................................................ผู้สอน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) ........../........................../...................


๒๘ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย (รำยวิชำ ท ๑๓๑๐๑) ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง กำรอ่ำน ภำคเรียนที่ ๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง กำรอ่ำนท ำนองเสนำะกลอนสี่ เวลำเรียน ๒ ชั่วโมง สอนวันที่………….เดือน………………………….พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้สอน นำงสำวสุภำพร ปะละทัง มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด สำระที่ ๑ กำรอ่ำน มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๑ อ่านออกเสียงคำ ข้อความ เรื่องสั้นและบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกต้อง คล่องแคล่ว จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. นักเรียนบอกลักษณะบังคับทางฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ได้ถูกต้อง (K) ๒. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงและอ่านแบ่งวรรคคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ได้ถูกต้อง (P) ๓. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สำระกำรเรียนรู้ - การบอกลักษณะทางฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ - การอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ สำระส ำคัญ การอ่านออกเสียงร้อยกรอง หมายถึง การอ่านถ้อยคำที่มีผู้เรียบเรียงหรือประพันธ์ไว้โดยการเปล่ง เสียง และจังหวะวรรคตอน ทำนอง น้ำเสียงให้ชัดเจน ถูกต้องไพเราะ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ผู้ฟัง ซึ่งจะทำ ให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ร่วมคล้อยตามไปกับเรื่องราว หรือรสประพันธ์ที่อ่าน สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน


๒๙ สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรียนรู้ ๑. แผนผังคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ๒. ใบงานการแบ่งวรรคและโยงเส้นสัมผัสของกลอนสี่ ๓. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๔. แบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล ๑. การบอกลักษณะบังคับทางฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ๒. การอ่านออกเสียงและอ่านแบ่งวรรคคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ๓. การสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๒. เครื่องมือ ๑. แบบประเมินการบอกลักษณะบังคับทางฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ๒. แบบประเมินการอ่านออกเสียงและอ่านแบ่งวรรคคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ๓. แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการบอกลักษณะบังคับทางฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์ ประเภทกลอนสี่ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๒. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการอ่านออกเสียงและอ่านแบ่งวรรคคำประพันธ์ประเภทกลอน สี่ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๓. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนแบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมี ความมุ่งมั่นในการทำงานไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ขั้นน ำ ๑. ครูสนทนากับนักเรียนถึงเนื้อหาในบทอ่านทำดีอย่าหวั่นไหวและให้นักเรียนสังเกตลักษณะคำ ประพันธ์ที่นำมาใช้แต่งเรื่อง ขั้นสอน ๒. ครูติดแผนผังคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่บนกระดานดำเพื่อให้นักเรียนได้ศึกษา


๓๐ ๓. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงลักษณะบังคับทางฉันทลักษณ์ของกลอนสี่และวิธีการอ่านออก เสียงของกลอนสี่ ๔. เมื่อนักเรียนทำความเช้าใจลักษณะของกลอนสี่แล้ว จากนั้นครูให้นักเรียนระดมสมองทำงานที่ มอบหมายดังต่อไปนี้ ๔.๑ ให้ร่วมกันศึกษาเนื้อหาบทอ่านทำดีอย่าหวั่นไหว ๔.๒ ให้นักเรียนโยงเส้นลักษณะบังคับทางฉันทลักษณ์ตามแผนผังของคำประพันธ์ โดยให้ สมาชิกทุกคนในกลุ่มต้องช่วยกันคิดและช่วยกันทำ ๔.๓ จากนั้นให้ออกมารายงานหน้าชั้นเรียนเกี่ยวกับการโยงเส้นสัมผัสและฝึกอ่านออกเสียง ให้นักเรียนคนอื่นในชั้นเรียนได้ฟัง ขั้นสรุป ๕. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเพื่อสรุปความเข้าใจ เรื่อง การอ่านทำนองเสนาะกลอนสี่ ชั่วโมงที่ ๒ ขั้นน ำ ๑. ครูและนักเรียนทบทวนเนื้อหาในชั่วโมงที่แล้ว ขั้นสอน ๒. นักเรียนแต่ละคนอ่านกลอนสี่สุภาพ “ป่าชายเลน” หน้า ๓๓, ๓๗ และหน้า ๔๕ ในหนังสือเรียน โดยครูสาธิตการอ่านให้ฟังจากนั้นให้นักเรียนฝึกอ่านให้ถูกต้อง ครูและนักเรียนช่วยกันอภิปรายความหมายของ บทกลอน และข้อคิดที่ได้ ๓. ครูมอบหมายให้นักเรียนท่องบทกลอนนี้ ๔. ทำแบบฝึกหัดทักษะภาษา แบบฝึกหัดที่ ๓ ข้อ ๔ และ แบบฝึกหัดที่ ๔ ขั้นสรุป ๕. นักเรียนและครูช่วยกันสรุปเนื้อหาจากบทเรียนทั้งหมดอีกครั้ง


๓๑ แบบประเมินกำรบอกลักษณะบังคับทำงฉันทลักษณ์ของค ำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนบอกลักษณะบังคับทำงฉันทลักษณ์ของค ำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม ตรงจุดประสงค์ ที่ก ำหนด เรียบเรียงค ำได้ ตรงตำมเวลำ ที่ก ำหนด บอกลักษณะ บังคับทำง ฉันทลักษณ์ ของค ำ ประพันธ์ ประเภท กลอนสี่ได้ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๓๒ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรบอกลักษณะบังคับทำงฉันทลักษณ์ของค ำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ตรงจุดประสงค์ที่ ก ำหนด มีความสอดคล้องกับจุด ประสงค์ ทุกประเด็น สอดคล้องกับจุดประสงค์ เป็น ส่วนใหญ่ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ ๒. เรียบเรียงค ำได้ เนื้อหาสาระมีความถูก ต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระมีความถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระไม่ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ๓. ตรงตำมเวลำที่ก ำหนด สามารถตอบคำถาม หรือส่งงานตรงตาม เวลาที่กำหนด ตอบคำถามหรือส่งงานช้ากว่า เวลาที่กำหนด ไม่ตอบคำถามและส่งงานที่ ครูมอบหมายให้ทำ ๔. บอกลักษณะบังคับ ทำงฉันทลักษณ์ของ ค ำ ประพันธ์ประเภทกลอนสี่ สามารถบอกลักษณะ บังคับทางฉันทลักษณ์ ของคำประพันธ์ประเภท กลอนสี่ได้ถูกต้อง ครบถ้วน สามารถบอกลักษณะบังคับ ทางฉันทลักษณ์ของคำ ประพันธ์ประเภทกลอนสี่ได้ ไม่ค่อยตรงประเด็น ไม่สามารถบอกลักษณะ บังคับทางฉันทลักษณ์ของ คำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรบอกลักษณะบังคับทำงฉันทลักษณ์ของค ำประพันธ์ประเภทกลอน สี่กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ - ๗ ปรับปรุง แบบประเมินกำรอ่ำนออกเสียงและอ่ำนแบ่งวรรคค ำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓


๓๓ ค ำชี้แจง :ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนอ่ำนออกเสียงและอ่ำนแบ่งวรรคค ำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม ควำมเร็วใน กำรอ่ำน อ่ำนถูกต้อง ตำมอักขรวิธี กำรเว้นวรรค ตอนถูกต้อง น้ ำเสียง เหมำะสมกับ เรื่องที่อ่ำน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๓๔ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรอ่ำนออกเสียงและอ่ำนแบ่งวรรคค ำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ควำมเร็วในกำรอ่ำน อ่านเร็วหรือช้าตลอด เวลา อ่านเร็วหรืออ่านชาเป็น บางชวง อ่านไม่เร็วหรือช้าเกินไป ตลอดเวลา ๒. อ่ำนถูกต้องตำม อักขรวิธี อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ออกเสียง ร ล และคำ ควบกล้ำ ร ล ว ชัดเจน อ่านถูกต้องตามอักขรวิธีออก เสียง ร ล และคำควบกล้ำ ร ล ว ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ออกเสียง ร ล และคำควบ กล้ำ ร ล ว ไม่ชัดเลย ๓. กำรเว้นวรรคตอน ถูกต้อง อ่านเว้นวรรคตอนได้ ถูกต้องตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง อ่านเว้นวรรคตอนผิดบ้างเป็น บางครั้ง อ่านเว้นวรรคตอนผิดตลอด ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ๔. น้ ำเสียงเหมำะสมกับ เรื่องที่อ่ำน อ่านเสียงดังชัดเจน น้ำ เสียงเหมาะสมกับเรื่องที่ อ่าน อ่านเสียงดังชัดเจน น้ำเสียง เหมาะสมบ้างเป็นบางครั้ง อ่านเสียงไม่ชัดเจน น้ำเสียง ไม่เหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ตลอดทั้งเรื่อง เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรอ่ำนออกเสียงและอ่ำนแบ่งวรรคค ำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๓๕ แบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ครูผู้สอนท ำเครื่องหมำย ลงในช่องที่นักเรียนแสดงพฤติกรรม ที่ ชื่อ – สกุล รำยกำรประเมิน รวม สรุป มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในกำรท ำงำน ๓ ๓ ๓ ๙ ผ่ำน ไม่ผ่ำน ๑. เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒. เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓. เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔. เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ รวมผลกำรประเมิน ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๓๖ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน รำยกำรประเมิน ๓ (ดีมำก) ๒ (ดี) ๑ (ปรับปรุง) ๑. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นอย่างดี ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นบางครั้ง ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและข้อบังคับ ของโรงเรียนได้ ๒. ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้เป็นบางครั้ง นักเรียนไม่ตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในกำร ท ำงำน ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น อย่างดี ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น บางส่วน ไม่ตั้งใจทำงานและไม่ รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ การงาน และทำงานด้วยความ เพียรพยายามและอดทนไม่ได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน กำหนด ไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๕ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๘ – ๙ ดี ๖ – ๗ ปานกลาง ๐ – ๕ ปรับปรุง


๓๗ ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ตรวจ / นิเทศ / เสนอแนะ / รับรอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ (นางจุฬาลักษณ์ อรรคชัย) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึงโคกสะอาด รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไผ่ ............/................................./.......................... บันทึกผลหลังกำรสอน ๑. ผลกำรจัดกำรเรียนรู้ ๑.๑ ด้ำนควำมรู้ (K) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ ด้ำนทักษะ/กระบวนกำร (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๓ ด้ำนคุณลักษณะ (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ปัญหำและอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ข้อเสนอแนะ / แนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ...................................................ผู้สอน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) ........../........................../..................


๓๘ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย (รำยวิชำ ท ๑๓๑๐๑) ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง กำรอ่ำน ภำคเรียนที่ ๑ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง ค ำคล้องจอง ๒ ค ำ เวลำเรียน ๒ ชั่วโมง สอนวันที่………….เดือน………………………….พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้สอน นำงสำวสุภำพร ปะละทัง มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด สำระที่ ๑ กำรอ่ำน มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๒ อธิบายความหมายของคำและข้อความที่อ่าน จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. นักเรียนบอกความหมายของคำคล้องจองได้(K) ๒. นักเรียนสามารถแต่งต่อคำคล้องจองตามที่กำหนดให้ได้ถูกต้อง (P) ๓. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สำระกำรเรียนรู้ - คำคล้องจอง - การแต่งคำคล้องจอง สำระส ำคัญ การแต่งคำคล้องจอง ให้เกิดสัมผัสตามฉันทลักษณ์เป็นศิลปะทางภาษา และนำไปใช้ให้ถูกต้อง อ่าน ออกเสียงร้อยกรอง หมายถึง การอ่านถ้อยคำที่มีผู้เรียบเรียงหรือประพันธ์ไว้โดยการเปล่งเสียง และจังหวะ วรรคตอน ทำนอง น้ำเสียงให้ชัดเจน ถูกต้องไพเราะ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ผู้ฟัง ซึ่งจะทำให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ ร่วมคล้อยตามไปกับเรื่องราว หรือรสประพันธ์ที่การอ่านออกเสียงบทเรียนจะต้องอ่านตามหลักการอ่านออก เสียงให้ถูกต้อง สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน


๓๙ สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรียนรู้ ๑. บัตรคำคล้องจอง ๒. หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๓. เกมการแต่งต่อคำคล้องจอง ๒ พยางค์ ๔. แบบฝึกหัดภาษาเพื่อชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๕. กระดาษ A ๔ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล ๑. การบอกความหมายของคำคล้องจอง ๒. การแต่งต่อคำคล้องจอง ๓. การสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๒. เครื่องมือ ๑. แบบประเมินการบอกความหมายของคำคล้องจอง ๒. แบบประเมินการแต่งต่อคำคล้องจอง ๓. แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการบอกความหมายของคำคล้องจองไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๒. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนการแต่งต่อคำคล้องจองไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % ๓. นักเรียนทุกคนมีผลคะแนนแบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมี ความมุ่งมั่นในการทำงานไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ % กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ขั้นน ำ ๑. ครูติดบัตรคำคล้องจองบนกระดานและให้นักเรียนร่วมกันพิจารณา - เข็นครก ขึ้นเขา - หนักเอา เบาสู้ - คนดี ผีคุ้ม ๒. นักเรียนอ่านออกเสียงพร้อมกับออกมาโยงเส้นสัมผัสระหว่างคำ ขั้นสอน ๓. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงความหมายของคำคล้องจองและยกตัวอย่างคำคล้องจองให้ นักเรียนเข้าใจ ๔. ให้นักเรียนแต่ละคนปฏิบัติกิจกรรมดังต่อไปนี้ ๔.๑ ครูแจกกระดาษและปากกาให้นักเรียนคนละ ๑ ชุด ๔.๒ เมื่อครูชูบัตรคำคล้องจองให้นักเรียนสังเกต เช่น


๔๐ ไปดู .......... จากนั้นให้นักเรียนเขียนคำคล้องจองลงไปในกระดาษที่ครูแจกให้และปิดไว้เพื่อไม่ให้เพื่อนดู ๔.๓ เมื่อครูกำหนดให้เฉลยคำตอบให้ทุกคนออกมาอ่านหน้าชั้นเรียน เช่น ไปดู ปูนา เป็นต้น ๔.๔ คนไหนแต่งต่อคำคล้องจองได้ถูกต้องจะได้คะแนน ขั้นสรุป ๕. สรุปการแต่งต่อคำคล้องจอง ๒ พยางค์ ๖. ทำแบบฝึกหัดชุดทักษะภาษา ข้อ ๓ ฝึกทักษะการใช้ภาษาข้อ ๑ และข้อ ๑ เป็นการบ้าน ชั่วโมงที่ ๒ ขั้นน ำ ๑. นักเรียนและครูสนทนาเกี่ยวกับคำคล้องจองเพื่อทบทวนความรู้เดิม ๒. จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังนี้ ๏ คำคล้องจองเกิดขึ้นได้อย่างไร ๓. ครูให้นักเรียนออกมานั่งเป็นวงกลมหน้าชั้นเรียน ครูชี้ที่นักเรียนคนใดคนหนึ่งให้บอกคำ ๒ พยางค์ ที่มีความหมายคนละ ๑ คำ ตามเสียงสระที่ครูบอก ต่อจากนั้นเพื่อนคนที่นั่งขวามือบอกต่อๆ กันไปเรื่อยๆ ครู อาจจะให้นักเรียนบอกคำที่มีเสียงสระเดียวกันประมาณ ๓ – ๔ คน ครูก็เปลี่ยนเสียงสระไปเรื่อยๆ จนครบ นักเรียนทุกคน ถ้าจำนวนนักเรียนน้อยอาจจะวน ๒ รอบก็ได้ หรือให้นักเรียนบอกคำจนกว่าจะคล่องและเร็ว ตัวอย่ำง ครูบอก สระอา นักเรียนบอกคำ กา มา ตา นา ยา ครูบอก สระ เอีย นักเรียนบอกคำ เสีย เมีย เนีย เลีย เปีย ฯลฯ ๔. ให้นักเรียนเลือกคำที่กำหนดเติมลงในช่องว่างให้คล้องจองกัน เมื่อนักเรียนทำเสร็จแล้วช่วยกัน ตรวจสอบความถูกต้องของคำที่เติมและขออาสาสมัครอ่านนำ ให้เพื่อนๆ อ่านตามพร้อมกัน ครูทบทวน ลักษณะของคำคล้องจองแต่ละข้อ ขั้นสอน ๕. ให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง คำคล้องจอง ครูให้สังเกตการโยงเส้นคำที่คล้องจองกันหรือสัมผัสกัน ๖. ครูติดบัตรคำที่ใช้สระเสียงเดียวกันบนกระดาน ให้นักเรียนจับคู่คำคล้องจองพร้อมโยงเส้นสัมผัส ดังนี้ ตัวอย่ำง หมาไทย ใจด งามตา ใบยอ โลเล พายุ เป่าปี่ กอไผ่ เทวา ที่นา ให้นักเรียนอ่านคำทั้ง ๘ คำ คนไหนคิดว่าคำใดเป็นคำคล้องจองให้ยกมือออกมาเขียนบนกระดาน พร้อมโยงเส้นสัมผัส ครูนักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของคำ และการโยงเส้นสัมผัส ดังนี้


๔๑ งามตา พายุ ใบยอ กอไผ่ โลเล เทวา เป่าปี่ ที่นา ๗. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปได้ว่า คำคล้องจองที่มีสระเหมือนกัน จะเป็นสระเสียงสั้น หรือเสียงยาวก็ได้ ๘. ให้นักเรียนแต่ละคน แต่งคำคล้องจองสองพยางค์ที่มีเสียงสระเหมือนกัน คนละ ๘ คำ (๔ คู่) โดยที่ เสียงสระแต่ละกลุ่มต้องไม่ซ้ำกัน ครูแจกกระดาษ A ๔ ให้แต่ละคนเขียนบนกระดาษ เมื่อแต่งเสร็จนำเสนอที ละคนและติดบนกระดาน ครูและเพื่อนๆ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของคำและสัมผัส อ่านคำคล้องจอง พร้อมกัน ๙. ให้นักเรียนเติมคำให้คล้องจองกัน ๑) มะระ ๒) งามตา ๓) เตาไฟ ๔) หัวเราะ ๕) สีสัน ๖) ตาดี ๗) พ่อแม่ ๘) ดีใจ ๙) ปรีดา ๑๐) สีสวย ขั้นสรุป ๑๐. นักเรียนและครูช่วยกันสรุปเนื้อหาจากบทเรียนทั้งหมดอีกครั้ง


๔๒ แบบประเมินกำรบอกควำมหมำยของค ำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนบอกควำมหมำยของค ำคล้องจอง ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม ตรงจุดประสงค์ ที่ก ำหนด เรียบเรียงค ำได้ ตรงตำมเวลำ ที่ก ำหนด บอก ควำมหมำย ของค ำคล้อง จองได้ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๔๓ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรบอกควำมหมำยของค ำคล้องจอง ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ตรงจุดประสงค์ที่ ก ำหนด มีความสอดคล้องกับจุด ประสงค์ ทุกประเด็น สอดคล้องกับจุดประสงค์ เป็น ส่วนใหญ่ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ ๒. เรียบเรียงค ำได้ เนื้อหาสาระมีความถูก ต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระมีความถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระไม่ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ๓. ตรงตำมเวลำที่ก ำหนด สามารถตอบคำถาม หรือส่งงานตรงตาม เวลาที่กำหนด ตอบคำถามหรือส่งงานช้ากว่า เวลาที่กำหนด ไม่ตอบคำถามและส่งงานที่ ครูมอบหมายให้ทำ ๔. บอกควำมหมำยของ ค ำคล้องจองได้ สามารถบอกความหมาย ของคำคล้องจองได้ ถูกต้อง ครบถ้วน สามารถบอกความหมายของ คำคล้องจองได้ไม่ค่อยตรง ประเด็น ไม่สามารถบอกความหมาย ของคำคล้องจองได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรบอกควำมหมำยของค ำคล้องจอง กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ – ๑๒ ดี ๘ – ๑๐ ปานกลาง ๐ – ๗ ปรับปรุง


๔๔ แบบประเมินกำรแต่งต่อค ำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินขีด ลงในช่องที่นักเรียนแต่งต่อค ำคล้องจอง ที่ ชื่อ – สกุล แบบรำยงำนกำรสังเกต รวม เวลำ มำรยำท ในกำรเขียน กำรเว้นวรรค ตอนถูกต้อง ควำมสะอำด เป็นระเบียบ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๒ ๑ เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒ เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓ เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔ เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๔๕ เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรแต่งต่อค ำคล้องจอง ประเด็นที่ประเมิน เกณฑ์กำรให้คะแนน/ระดับ ๓ (ดี) ๒ (ปำนกลำง) ๑ (ปรับปรุง) ๑. เวลำ ส่งงานตามเวลาที่ กำหนด ส่งงานหลังเวลาที่กำหนดปาน กลาง ไม่ส่งงานตามเวลาที่กำหนด ๒. มำรยำทในกำรเขียน มีสมาธิ และมีความตั้งใจ ในการเขียนอย่าง สม่ำเสมอ ไม่พูดคุย เล่น ระหว่างทำงาน มีความตั้งใจในการเขียน พอสมควร พูด คุย เล่น ระหว่างทำงานเป็นบางครั้ง ไม่มีความตั้งใจในการเขียน พูด คุย เล่น ระหว่างทำงาน ตลอดเวลาต้องคอยตักเตือน ๓. กำรเว้นวรรคตอน ถูกต้อง การเขียนเว้นวรรคตอน ได้ถูกต้องตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง การเขียนเว้นวรรคตอนผิดบ้าง เป็นบางครั้ง การเขียนเว้นวรรคตอนผิด ตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจน จบเรื่อง ๔. ควำมสะอำดเป็น ระเบียบ ตัวอักษรสม่ำเสมอ เรียบร้อย สวยงาน ผลงานสะอาด ไม่มี รอยลบขีดฆ่า ตัวอักษรไม่ค่อยสม่ำเสมอ ผลงานไม่สะอาด มีรอยลบขีด ฆ่า ๓ - ๕ แห่ง ตัวอักษรไม่สมำเสมอมีรอย ลบขีดฆ่ามากกว่า ๖ แห่ง เกณฑ์กำรให้คะแนนควำมถูกต้องในกำรแต่งต่อค ำคล้องจอง กำหนดไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๘ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๑๑ - ๑๒ ดี ๘ - ๑๐ ปานกลาง ๐ - ๗ ปรับปรุง


๔๖ แบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓ ค ำชี้แจง : ครูผู้สอนท ำเครื่องหมำย ลงในช่องที่นักเรียนแสดงพฤติกรรม ที่ ชื่อ – สกุล รำยกำรประเมิน รวม สรุป มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในกำรท ำงำน ๓ ๓ ๓ ๙ ผ่ำน ไม่ผ่ำน ๑. เด็กชายพีรวัตถ์ หงส์จำนงค์ ๒. เด็กหญิงชนิดา สุพวงแก้ว ๓. เด็กหญิงพิญชญา เถาว์ชาลี ๔. เด็กหญิงจินดารัตน์ สุมุลละ รวมผลกำรประเมิน ข้อเสนะแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) วันที่.......เดือน.........................พ.ศ.................


๔๗ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน รำยกำรประเมิน ๓ (ดีมำก) ๒ (ดี) ๑ (ปรับปรุง) ๑. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นอย่างดี ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและ ข้อบังคับของ โรงเรียนได้เป็นบางครั้ง ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบและข้อบังคับ ของโรงเรียนได้ ๒. ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ นักเรียนตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้เป็นบางครั้ง นักเรียนไม่ตั้งใจสนใจในการ เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในกำร ท ำงำน ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น อย่างดี ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่การงาน และ ทำงานด้วยความเพียร พยายามและอดทนได้เป็น บางส่วน ไม่ตั้งใจทำงานและไม่ รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ การงาน และทำงานด้วยความ เพียรพยายามและอดทนไม่ได้ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบประเมินกำรสังเกตพฤติกรรมควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นกำรท ำงำน กำหนด ไว้ดังนี้ ๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง ปานกลาง ๑ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์กำรประเมิน ๗๐ % ขึ้นไป (๕ คะแนนขึ้นไป) ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ๘ – ๙ ดี ๖ – ๗ ปานกลาง ๐ – ๕ ปรับปรุง


๔๘ ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ตรวจ / นิเทศ / เสนอแนะ / รับรอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ (นางจุฬาลักษณ์ อรรคชัย) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึงโคกสะอาด รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไผ่ ............/................................./.......................... บันทึกผลหลังกำรสอน ๑. ผลกำรจัดกำรเรียนรู้ ๑.๑ ด้ำนควำมรู้ (K) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ ด้ำนทักษะ/กระบวนกำร (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๓ ด้ำนคุณลักษณะ (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ปัญหำและอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ข้อเสนอแนะ / แนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ...................................................ผู้สอน (นางสาวสุภาพร ปะละทัง) ........../........................../..................


Click to View FlipBook Version