The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สัตว์เศรษฐกิจ E magazine, 2021-10-20 03:04:12

สัตว์เศรษฐกิจ-885

สัตว์เศรษฐกิจ
LIVESTOCK PRODUCTION MAGAZINE ข่ า ว ส า ร แ ล ะ ส า ร ะ ส ำา ห รั บ ว ง ก า ร เ ลี้ ย ง สั ต ว์


WWW.LIVESTOCKMAG.NET









ปี 38 ฉบับที่ 885 ตุลาคม 2564








































หลังวิกฤต ASF...
หลังวิกฤต ASF...
ต้องทำ�อย่�งไร ? ให้ธุรกิจยั่งยืน
ต้องทำ�อย่�งไร ? ให้ธุรกิจยั่งยืน


วัคซีน ASF
วัคซีน ASF
ณ วันนี้...ท�งออก หรือ ท�งตัน ?
ณ วันนี้...ทางออก หรือ ทางตัน ?


ไข้หวัดนก และ ซัลโมเนลลา
ไข้หวัดนก และ ซัลโมเนลลา
กับการส่งออกไก่เนื้อไทย
กับก�รส่งออกไก่เนื้อไทย



พยาธิเม็ดเลือดในโค
พยาธิเม็ดเลือดในโค
ที่พบม�กช่วงหน้�ฝน
ที่พบมากช่วงหน้าฝน







www.hipra.com
www.hipra.com โทรศพท: +66 (0) 2090 9612-4 แฟกซ: +66 (0) 2090 9615

โทรศัพท์: +66 (0) 2090 9612-4 แฟกซ์: +66 (0) 2090 9615





LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE
















Remote audit ช่วยส่งออกทะยานต่อเนื่อง 3 ไตรมาส


พุง 126,000 ล้าน




กรมปศุสัตว์เผยภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปี 2564 สินค้าปศุสัตว ์
ยังมีปริมาณการส่งออกอยู่ในเชิงบวกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ชี้เป็นผลจากการทำางานของกรม
ปศุสัตว์อย่างเข้มงวดต่อเนื่อง ร่วมกับการให้ความร่วมมือของภาคเอกชน จนประเทศคู่ค้าเชื่อมั่นในคุณภาพ
ความปลอดภัยและมาตรฐานการผลิตสินค้าปศุสัตว์ของไทย
อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยว่า กรมปศุสัตว์มีหน้าที่กำากับดูแลและส่งเสริมการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไทย ซึ่ง

ในสถานการณ์โรคโควิดระบาดนี กรมปศุสัตว์ได้พัฒนาระบบการตรวจประเมินสถานประกอบการ เพื่อการ
ส่งออกโดยการตรวจประเมินระยะไกล (Remote Audit) และระบบการออกหนังสือรับรองสุขอนามัยในระบบ


อิเล็กทรอนิกส เพื่อทำาให้การส่งออกสามารถทาได้อย่างต่อเน่อง โดยกรมปศุสัตว์ได้รับรางวัลคุณภาพการ




บริหารจัดการ ภาครฐ 4.0 ในด้านการยกระดับบรการทตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด 19 และด้านการ

อำานวยความสะดวกในการให้บริการภาครัฐ จากสำานักงาน กพร. ในปี 2564 อีกด้วย ปัจจุบันปริมาณ
ส่งออกสินค้าปศุสัตว์ของไทย ในช่วงเดือนมกราคม ถึง สิงหาคม 2564 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของ
ปี 2563 มีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 11% หรือคิดเป็นปริมาณ 1.35 ล้านตัน มูลค่า 126,000 ล้านบาท
โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) มีปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นถึง 35% หรือคิดเป็น
ปริมาณ 4.8 แสนตัน มูลค่า 36,000 ล้านบาท
นายโสภัชย์ ชวาลกุล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์มีหน้าท่กากับดูแลด้านความ


ปลอดภัยอาหาร โดยเฉพาะสินค้าปศุสัตว์ ได้ตระหนักและให้ความสำาคัญในการป้องกันโรคระบาดโควิดไม่ให้

ปนเปื้อนกับสินค้า จึงมีนโยบายสนับสนุนให้ผ้ประกอบการจัดทามาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามคำาแนะนำา

ของกรมควบคุมโรคควบคู่ไปกับการดำาเนินการตามมาตรการของกรมปศุสัตว์อย่างเข้มงวดตลอดห่วงโซ่
การผลิต ตั้งแต่อาหารสัตว์ ฟาร์มสัตว์มาตรฐาน GAP โรงฆ่าสัตว์และโรงแปรรูปที่ถูกสุขอนามัย มาตรการ
ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในโรงงาน เพื่อรองรับไม่ให้เกิดความสูญเสียจากการสั่งปิดโรงงานเป็น
เวลานาน รวมถึงด้านการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับพนักงานใน
ภาคการผลิต โดยในส่วนของโรงงานฆ่าสัตว์ปีกเพื่อการส่งออก ได้ดำาเนินการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรค
ให้กับพนักงานแล้ว ทั้งสิ้น 85% อย่างไรก็ตาม สถานประกอบการยังขาดเแคลนแรงงานอีกจำานวนมาก เพื่อ
ให้การผลิตสินค้าได้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าซึ่งมีความต้องการปริมาณมาก หากประเทศไทย
สามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ต่อเนื่องและมีแรงงานจำานวนเพิ่มขึ้น ก็มั่นใจว่าในสิ้นปีนี้ยอด
ส่งออกจะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างแน่นอน












4 สัตว์เศรษฐกิจ

Biomin BioStabil
®

ไบโอมิน ไบโอสเตบิล





รักษาคุณคาพลังงานในอาหารหยาบหมัก!







การผสมผสานของแบคทีเรียที่ใชออกซิเจน-และไมใชออกซิเจนในการหมัก



• เพื่อใหเกิดกระบวนการหมักที่ดีขึ้น


• ยืดอายุหญาหมักหลังเปดใช ้


• ลดการสูญเสียคุณคาสารอาหารในพืชหมัก


• เพิ่มผลผลิตและกําไรจากการเลี้ยง























บริษัท เออรเบอร ไบโอเทค (ประเทศไทย) จํากัด
1/913 ถ.พหลโยธิน 60 ต.คูคต
อ.ลําลูกกา จ.ปทุมธานี 12130
โทรศัพท: (02) 993 7500
แฟกซ: (02) 993 8499



biostabil.biomin.net


BIOMIN is a registered trademark of
Erber Aktiengesellschaft (IR-509692).











Naturally ahead

885 สารบัญ 38 ฉบับที่ 885 ตุลาคม 2564









สัตว์เศรษฐกิจ





















บรรณาธิการ ผู้พิมพ์, ผู้โฆษณา : คอลัมน์พิเศษ
มุกดา วนิชกุล 14 หลังวิกฤต ASF...ต้องทำาอย่างไร ? ให้ธุรกิจยั่งยืน
ที่ปรึกษา : 20 กรมปศุสัตว์...บุกทลายแหล่งขายวัคซีน ASF “เถื่อน”
รศ.ดร.เยาวมาลย์ ค้าเจริญ 22 วัคซีน ASF ณ วันนี้...ทางออก หรือ ทางตัน ?
ผศ.นาม ศิริเสถียร 26 ปศุสัตว์...ดันฟาร์มสุกรสู่การเลี้ยงเชิงปราณีต
รศ.อุทัย คันโธ
ศ.น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์ ธนาวงษ์นุเวช 28 CPF ป้องเชื้อดื้อยา หนุนสุขภาพหนึ่งเดียว เพื่อผู้บริโภคปลอดภัย
ผศ.ดร.เสกสม อาตมางกูร 30 เตือนอย่าทิ้งสัตว์หรือซากสัตว์ในที่สาธารณะผิดกฎหมาย
อาจารย์ศักดิ์ชัย โตภาณุรักษ์ 31 เดินหน้ามาตรการพยุงราคาไข่ไก่...แจงไม่สกัดนำาเข้าพ่อแม่พันธุ์
บรรณาธิการบริหาร : 32 ไข้หวัดนก และ ซัลโมเนลลา กับการส่งออกไก่เนื้อไทย
ทิพารัตน์ อธิภัทรพงศ์ 36 การควบคุมโรคแซลโมเนลลาในสัตว์ปีก
กองบรรณาธิการ : 39 โรคลัมปีสกิน...กับแนวทางจัดการควบคุม
วิษณุ เจริญพงศ์พูล 42 พยาธิเม็ดเลือดในโคที่พบมากช่วงหน้าฝน
กองจัดการ : 46 นักสัตวบาลดีเด่น ประจำาปี 63
เอกบุรุษ อุมากูล
ออกแบบรูปเล่ม : Chin 52 แพะเนื้อ...อีก 1 สัตว์เศรษฐกิจ เลี้ยงง่าย รายได้ดี
พิสูจน์อักษร : รัชดา กูใหญ่
สำานักงาน : 74/423-424 ซ.รามคำาแหง 180 คอลัมน์ประจำ�
ถ.รามคำาแหง มีนบุรี กรุงเทพฯ 10510 12-13 บอกกล่าว
โทร. 0-2916-3786-7 53 กิจกรรมเด่น
แฟกซ์ : 0-2916-8005 54 แนวโน้มราคาปศุสัตว์
E-mail : [email protected]
โรงพิมพ์ : ก.พลพิมพ์
เพลท : กรกนก กราฟฟิก
โทร. 082-458-4318
จัดจำาหน่าย : นานาสาส์น

885 สารบัญ 38 ฉบับที่ 885 ตุลาคม 2564









สัตว์เศรษฐกิจ





















บรรณาธิการ ผู้พิมพ์, ผู้โฆษณา : คอลัมน์พิเศษ
มุกดา วนิชกุล 14 หลังวิกฤต ASF...ต้องทำาอย่างไร ? ให้ธุรกิจยั่งยืน
ที่ปรึกษา : 20 กรมปศุสัตว์...บุกทลายแหล่งขายวัคซีน ASF “เถื่อน”
รศ.ดร.เยาวมาลย์ ค้าเจริญ 22 วัคซีน ASF ณ วันนี้...ทางออก หรือ ทางตัน ?
ผศ.นาม ศิริเสถียร 26 ปศุสัตว์...ดันฟาร์มสุกรสู่การเลี้ยงเชิงปราณีต
รศ.อุทัย คันโธ
ศ.น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์ ธนาวงษ์นุเวช 28 CPF ป้องเชื้อดื้อยา หนุนสุขภาพหนึ่งเดียว เพื่อผู้บริโภคปลอดภัย
ผศ.ดร.เสกสม อาตมางกูร 30 เตือนอย่าทิ้งสัตว์หรือซากสัตว์ในที่สาธารณะผิดกฎหมาย
อาจารย์ศักดิ์ชัย โตภาณุรักษ์ 31 เดินหน้ามาตรการพยุงราคาไข่ไก่...แจงไม่สกัดนำาเข้าพ่อแม่พันธุ์
บรรณาธิการบริหาร : 32 ไข้หวัดนก และ ซัลโมเนลลา กับการส่งออกไก่เนื้อไทย
ทิพารัตน์ อธิภัทรพงศ์ 36 การควบคุมโรคแซลโมเนลลาในสัตว์ปีก
กองบรรณาธิการ : 39 โรคลัมปีสกิน...กับแนวทางจัดการควบคุม
วิษณุ เจริญพงศ์พูล 42 พยาธิเม็ดเลือดในโคที่พบมากช่วงหน้าฝน
กองจัดการ : 46 นักสัตวบาลดีเด่น ประจำาปี 63
เอกบุรุษ อุมากูล
ออกแบบรูปเล่ม : Chin 52 แพะเนื้อ...อีก 1 สัตว์เศรษฐกิจ เลี้ยงง่าย รายได้ดี
พิสูจน์อักษร : รัชดา กูใหญ่
สำานักงาน : 74/423-424 ซ.รามคำาแหง 180 คอลัมน์ประจำ�
ถ.รามคำาแหง มีนบุรี กรุงเทพฯ 10510 12-13 บอกกล่าว
โทร. 0-2916-3786-7 53 กิจกรรมเด่น
แฟกซ์ : 0-2916-8005 54 แนวโน้มราคาปศุสัตว์
E-mail : [email protected]
โรงพิมพ์ : ก.พลพิมพ์
เพลท : กรกนก กราฟฟิก
โทร. 082-458-4318
จัดจำาหน่าย : นานาสาส์น

 Ñ Ô Ñ

Ñ
Ñ
Ô
ÊÁÒ÷ Ǥ«à¹ª¹ ÊíÒËÃÑºÊØ¡Ã
®
ÊÁÒ÷ Ǥ«à¹ª¹ ÊíÒËÃÑºÊØ¡Ã
®
¢Í¹ÒàÊ¹Í ÎÔ»ÃÒà´ÍÏÁÔ¤ 2.0
í ÊÁÒÏ· ÇѤ«Ô๪ѹ ÊíÒËÃÑºÊØ¡Ã
®
¢Í¹ÒàÊ¹Í ÎÔ»ÃÒà´ÍÏÁÔ¤ 2.0
í
¢Í¹ÒàÊ¹Í ÎÔ»ÃÒà´ÍÏÁÔ¤ 2.0
í






1 Ǥ«¹·ÁҾÌÍÁ¡Ñº CHIP Ñ
è
Ñ
Ñ
Õ
Õ
1
è
è
Õ ÇѤ«Õ¹·ÕÁҾÌÍÁ¡Ñº CHIP
·ÊÒÁÒöÃк¢ŒÍÁÙÅ â´ÂÍÒÈÂ
Ñ
Ø
1
Õ ÇѤ
è
·Ê
è
×ÒÁÒöÃкآŒÍÁÙÅ â´ÂÍÒÈÑÂ
è«Õ¹·ÕÁҾÌÍÁ¡Ñº CHIP
Ñ
Ø
¤Å¹¤ÇÒÁ¶èÇ·Â (RFID) º¹©ÅÒ¡
Ô
Õ
×ÒÁÒöÃкآŒÍÁÙÅ â´ÂÍÒÈÑÂ
Ô
¤Å¹¤ÇÒÁ¶èÇ·Â (RFID) º¹©ÅÒ¡
·Ê
è
Ø
Õ
è
Õ
Õ
Ø
Ô
×
è
¤Å¹¤ÇÒÁ¶èÇ·Â (RFID) º¹©ÅÒ¡
©Õ´Ç¤«¹à¢ŒÒ¼Ç˹§
Ñ
Õ
Ô
Ñ
´ŒÇÂÍØ»¡Ã³©Õ´ÇѤ«Õ¹ª¹Ô´äÃŒà¢çÁ
Ñ
Ô
©Õ´Ç¤«¹à¢ŒÒ¼Ç˹§
Õ
Ñ
2¾ÃŒÍÁºÑ¹·Ö¡¢ŒÍÁÙÅ¡ÒéմÍѵâ¹ÁѵÔ
Ô
Ñ
©Õ´Ç¤«¹à¢ŒÒ¼Ç˹§
´ŒÇÂÍØ»¡Ã³©Õ´ÇѤ«Õ¹ª¹Ô´äÃŒà¢çÁ
Õ
Ñ
®
´ŒÇÂÍØ»¡Ã³©Õ´ÇѤ«Õ¹ª¹Ô´äÃŒà¢çÁ
2¾ÃŒÍÁºÑ¹·Ö¡¢ŒÍÁÙÅ¡ÒéմÍѵâ¹ÁÑµÔ Î»ÃÒà´ÍÃÁÔ¤ 2.0

Ô
2¾ÃŒÍÁºÑ¹·Ö¡¢ŒÍÁÙÅ¡ÒéմÍѵâ¹ÁÑµÔ ®
Ô
λÃÒà´ÍÃÁÔ¤ 2.0

®
ÎÔ»ÃÒà´ÍÃÁÔ¤ 2.0

Ñ
¡Òè´¡ÒâŒÍÁÙÅ
¡Ò÷íÒÇѤ«Õ¹ ´ŒÇÂâ»Ãá¡ÃÁ
Ñ
¡Òè´¡ÒâŒÍÁÙÅ
3 ÎÔ»ÃÒÅÔ§¤ ÇѤ«Ô๪ѹ
¡Òè´¡ÒâŒÍÁÙÅ
¡Ò÷íÒÇѤ«Õ¹ ´ŒÇÂâ»Ãá¡ÃÁ
Ñ
3 ÎÔ»ÃÒÅÔ§¤ ÇѤ«Ô๪ѹ
¡Ò÷íÒÇѤ«Õ¹ ´ŒÇÂâ»Ãá¡ÃÁ
3 ÎÔ»ÃÒÅÔ§¤ ÇѤ«Ô๪ѹ

ÊíÒËÃѺ¢ŒÍÁÙÅà¾ÔÁàµÔÁ: â»Ã´µÔ´µ‹ÍÊѵÇᾷ¢Í§·‹Ò¹

ÊíÒËÃѺ¢ŒÍÁÙÅà¾ÔÁàµÔÁ: â»Ã´µÔ´µ‹ÍÊѵÇᾷ¢Í§·‹Ò¹

ÊíÒËÃѺ¢ŒÍÁÙÅà¾ÔÁàµÔÁ: â»Ã´µÔ´µ‹ÍÊѵÇᾷ¢Í§·‹Ò¹






AAFFrllpHipradermicENG.indd 1 18/9/17 9:56

AAFFrllpHipradermicENG.indd 1 18/9/17 9:56
AAFFrllpHipradermicENG.indd 1 18/9/17 9:56

การตอบสนองภูมิคุ้มกัน และประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคกลุ่มอาการระบบสืบพันธุ์ และระบบทางเดินหายใจสุกร ชนิดเชื้อเป็น
(HIPRA, SPAIN) ที่ฉีดด้วยวิธีเข้าผิวหนัง (intradermal) และเข้ากล้าม (intramuscular) ในสุกร

ดร. อรรถกร มาดาป้อง ผศ. ดร. เดชฤทธิ์ นิลอุบล และคณะ

ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเทศไทย


เรยบเรยงโดย เรองอุไร กจโชดก (สพ.บ., วท.ม.,เกียรตบัตรทางการตลาด ) และทมวชาการบรการและการตลาดสกร







บทนำ (B) 1400 ปรมาณเชื้อ PRRSV (US) ในซีร่ม • กลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีนมีปริมาณเชื้อ

Type 2 PRRSV RNA in serum



▪ การปองกนโรคพีอารอารเอส (PRRS) จากการฉีดวัคซีนด้วยวิธีเข้ากล้าม 1200 PRRSV (US) ในซีรั่มสูงที่สุด ณ วันที่



(intramuscular, IM) เป็นวิธีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ในปัจจุบันการฉีดวัคซีน 1000 a 7 หลังพ่นเชื้อพิษทับ
ด้วยวิธีเข้าผิวหนัง (intradermal, ID) เรมได้รบความนิยมมากขน เพราะเป็นบรเวณทม ่ ี ี PRRSV genomic copies/ml 800 VacIM/PRRS2 • กลุ่มที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรค PRRS






VacID/PRRS2
NV/PRRSV2
เซลล์เม็ดเลือดขาวที่ท าหน้าที่ในการดักจับแอนติเจนและน าเสนอแอนติเจนเข้าสู่ต่อม 600 b c a VacIM/PRRS1+2 (HIPRA, SPAIN) ทั้ง IM และ ID มี
VacID/PRRS1+2
NV/PRRS1+2
น้ าเหลืองจ านวนมาก อีกทั้งการฉีดเข้าผิวหนัง (ID) สามารถลดการเกิดบาดแผลและลด 400 d b NV/Unch ปริมาณเชื้อ PRRSV (US) ในซีรั่ม
ความเจ็บปวดเมื่อเทียบกับการฉีดเข้ากล้าม (IM) อีกด้วย 200 Challenge c น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ท าวัคซีน ในวันที่ 7

จุดประสงคกำรทดลอง 0 0 DPV 7 DPV 14 DPV 21 DPV 28 DPV 35 DPV 3 DPC 7 DPC e 14 DPC d 35 DPC และ 14 หลังพ่นเชื้อพิษทับ
Days post-vaccination (DPV) / Days post-challenge (DPC)
▪ เพื่อทดสอบการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและประสิทธิภาพของวัคซีนปองกนโรค PRRS ชนิด (B) Type 2 PRRSV RNA in nasal swabs


1400 • กลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีน พบปริมาณเชื้อ



เชื้อเป็น (HIPRA, SPAIN) เมื่อฉีดด้วยวิธีเข้ากล้าม (IM) หรือเข้าผิวหนัง (ID) ต่อการติด ปรมาณเชื้อ PRRSV (US) ในสารคดหล่งจมูก PRRSV (US) ในสารคัดหลั่งจมูกสูง
1200
เชื้อไวรัส PRRS สายพันธุ์ยุโรปและอเมริกาเหนือ (HP-PRRSV) ในสุกร (nasal swab) ที่สุด ณ วันที่ 7 หลังพ่นเชื้อพิษทับ
วัสดุอุปกรณ และวิธกำรทดลอง 1000 800 a VacIM/PRRS2 • กลุ่มที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรค PRRS


▪ แบ่งสุกรอายุ 3 สัปดาห์ จ านวน 42 ตัว ออกเป็น 7 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ตัว ท าการฉีดวัคซีน PRRSV genomic copies/ml 600 b VacID/PRRS2 (HIPRA, SPAIN) ทั้ง IM และ ID มี
NV/PRRS2
VacIM/PRRS1+2
ปริมาณเชื้อ PRRSV (US) ในสารคัด
VacID/PRRS1+2
เก็บตัวอย่างเลือด ชั่งน้ าหนัก พ่นพิษทับด้วยเชื้อไวรัส และท าการุณยฆาต ดังภาพ NV/PRRS1+2
NV/Unch
400 a c หลั่งจมูกน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีน
ฉีดวัคซีน b c a
Challenge d ในวันที่ 7 และ 14 หลังพ่นเชื้อพิษ
200
b b
c ทับ
0 c e c
0 DPV 7 DPV 14 DPV 21 DPV 28 DPV 35 DPV 3 DPC 7 DPC 14 DPC 35 DPC
Days post-vaccination (DPC) / Days post-challenge (DPC)
Homologous virus recall (vaccine virus)
20
ไซโตไคน์ อินเตอร์ลิวคิน-10 (IL-10) • กลุ่มที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรค PRRS
(ไซโตไคน์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการกดภูมิคุ้มกัน) (HIPRA, SPAIN) ด้วยวิธี ID สามารถ
15 กระตุ้นการสร้าง IL-10 ได้ช้ากว่า
Vaccine virus-specific IL-10 (pg/ml) 10 a a a a a a a a VacIM/PRRS2 (21 วันหลังฉีดวัคซีน) กลุ่มที่ฉีดด้วย
VacID/PRRS2
ผลกำรทดลอง VacIM/PRRS1+2 IM (7 วันหลังฉีดวัคซีน) อีกทั้งยังมี
NV/PRRS2
VacID/PRRS1+2
NV/PRRS1+2
(A) PRRSV-specific antibodies (IDEXX) b NV/Unch ระดับที่ต่ ากว่าและลดลงอย่าง
2.8 5 b a
การตรวจแอนติบอดีที่จ าเพาะต่อ PRRSV (IDEXX) a รวดเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ฉีด
2.4 Challenge a b
b b b c c b b ด้วย IM
b
2.0 a b c b
a a a 0 b b
a
a a a 0 7 14 21 28 35
a a Days post-vaccination (DPV)
1.6 a a a a a a a a a VacIM/PRRS2
S/P ratio a a a a a a a VacID/PRRS2
NV/PRRS2
VacIM/PRRS1+2
1.2 a a a a VacID/PRRS1+2 กลุ่มทดลอง Macroscopic scores Microscopic lesion
NV/PRRS1+2
a NV/Unch
a b
0.8 (การสังเกตด้วยตาเปล่า) (ผ่านกล้องจุลทรรศน์)
b
b
0.4 Cut-off 7 DPC * 35 DPC 7 DPC * 35 DPC
b
b b b b b b c c
0.0 VacIM/PRRS2 58.02.0 c 00 1.620.11 b 00
0 DPV 7 DPV 14 DPV 21 DPV 28 DPV 35 DPV 3 DPC 7 DPC 14 DPC 35 DPC
Days post-vaccination (DPV) / Days post-challenge (DPC) VacID/PRRS2 27.32.4 e 00 1.330.14 c 00
การฉีดวัคซีนป้องกันโรค PRRS ชนิดเชื้อเป็น (HIPRA, SPAIN) ทั้ง IM และ ID สามารถกระตุ้น
การตอบสนองของแอนติบอดีได้รวดเร็วภายใน 14 วันหลังฉีดวัคซีน NV/PRRS2 71.33.2 b 2.01.0 2.380.11 a 00
(พบครั้งแรกที่ 7 วันหลังฉีดวัคซีน) เมื่อตรวจด้วย IDEXX ELISA VacIM/PRRS1+2 62.32.4 c 2.00.3 1.880.06 b 00
(A) PRRSV-specific neutralizing antibodies aginst homologous viurs (vaccine virus) VacID/PRRS1+2 41.07.0 d 1.00.3 1.510.10 c 00
8
การตรวจนิวทรัลไลซิ่งแอนติบอดี a NV/PRRS1+2 84.03.5 a 2.01.0 2.370.07 a 00
ที่จ าเพาะต่อไวรัสวัคซีน a NV/Unch 00 00 00 00
6
a a a a b
Challenge a กลุ่มที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรค PRRS ชนิดเชื้อเป็น (HIPRA, SPAIN) ทั้ง IM และ ID มีคะแนนรอยโรคปอดจากการสังเกต
a a b
a a b a VacIM/PRRS2
Titers (2 n ) 4 a a b VacID/PRRS2 ด้วยตาเปล่า และผ่านกล้องจุลทรรศน์ น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีน ในวันที่ 7 และ 35 วัน หลังพ่นเชื้อพิษทับ โดยกลุ่มที่ฉีด
NV/PRRS2
VacIM/PRRS1+2
b a a VacID/PRRS1+2
a NV/PRRS1+2
b b NV/Unch ด้วยวิธี ID มีคะแนนรอยโรคปอดน้อยที่สุด ในวันที่ 7 หลังพ่นเชื้อพิษทับ
สรุปผลกำรทดลอง
2
c
c
c c b c b d
0 ▪ วัคซีนป้องกันโรคPRRS ชนิดเชื้อเป็น (HIPRA, SPAIN) เมื่อฉีดด้วยวิธีเข้ากล้าม (IM) และเข้าผิวหนัง
0 DPV 7 DPV 14 DPV 21 DPV 28 DPV 35 DPV 7 DPC 14 DPC 35 DPC
Days post-vaccination (DPV) / Days-post challenge (DPC)
การฉีดวัคซีนป้องกันโรค PRRS ชนิดเชื้อเป็น (HIPRA, SPAIN) ทั้ง IM และ ID สามารถกระตุ้น (ID) สามารถกระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของสุกรได้
นิวทรัลไลซิ่งแอนติบอดีที่จ าเพาะต่อไวรัสวัคซีนที่ 21 วันหลังฉีดวัคซีน ✓ กระตุ้นการตอบสนองของแอนติบอดีได้รวดเร็วภายใน 14 วันหลังฉีดวัคซีน
✓ กระตุ้นการตอบสนองของนิวทรัลไลซิ่งแอนติบอดีได้ใน 21 วันหลังฉีดวัคซีน
จ านวนเซลล์ที่สร้างไซโตไคน์ IFN- เมื่อกระตุ้นด้วยไวรัสวัคซีน ✓ สามารถกระตุ้นเซลล์ที่สร้าง IFN-γ ได้เร็วภายใน 28 วันหลังฉีดวัคซีน โดยกลุ่มที่ฉีด ID สามารถกระตุ้นได้เร็วกว่า กลุ่มที่ฉีด IM
(เกี่ยวข้องกับการท างานของภูมิคุ้มกันชนิดพึ่งเซลล์เพื่อท าลายเชื้อไวรัส) และมีระดับที่สูงกว่า
▪ วัคซีนป้องกันโรคPRRS ชนิดเชื้อเป็น (HIPRA, SPAIN) เมื่อฉีดด้วยวิธีเข้ากล้าม (IM) และเข้าผิวหนัง
(ID) ให้ความคุ้มโรคข้ามสายพันธุ์ (Partial heterologous protection) ต่อเชื้อไวรัส PRRS
✓ สุกรที่ฉีดวัคซีนสามารถลดปริมาณเชื้อ PRRSV ในกระแสเลือด ในสารคัดหลั่งจมูกและสามารถลดรอยโรคที่ปอดภายหลังจากพ่นพิษ
ทับด้วยเชื้อ PRRSV (ทั้ง EU และ US) เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีน
▪ วัคซีนป้องกันโรคPRRS ชนิดเชื้อเป็น (HIPRA, SPAIN) เมื่อฉีดด้วยวิธีเข้าผิวหนัง (ID) เป็นอีกหนึ่ง
ตัวเลือกที่ดี
✓ มีการกระตุ้นการสร้าง IL-10 ที่ช้ากว่าและมีระดับที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ฉีดเข้าผิวหนัง (IM)
กลุ่มที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรค PRRS ชนิดเชื้อเป็น (HIPRA, SPAIN) ด้วยวิธี ID พปริมาณ ✓ มีการกระตุ้นเซลล์ที่สร้างไซโตไคน์ IFN- ที่เร็วกว่าและมีระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ฉีดเข้าผิวหนัง (IM)
เซลล์ที่สร้าง IFN- ได้เร็วกว่า (ภายใน 28 วันหลังฉีดวัคซีน) และมีระดับที่สูงกว่ากลุ่มที่ฉีด IM

INTRADERMAL APPLICATION

OF VACCINES IN PIGS





Mechanism of action













EPIDERMIS



DERMIS Inflamatory
Dendritic Cell (DC)
Blood vessel
Resident DC taking
ADIPOSE TISSUE (S.C.) up antigen
Lymph vessel with DC
migrating to lymph node

The dermis represents an excellent
site for vaccine delivery being rich in
resident DC, lymph vessels and
blood capillaries.

1 2 3

90º



Pig skin Pig skin Pig skin
As a needle-free injector, Hipradermic ®1 injector head must contact the surface of the pig's skin at a 90º angle. Hipradremic ® has no trigger, so it
is enough to make a small movement towards the animal to carry out the vaccination.

Adequate regions for intradermal Correct administration Comparison between intradermal (ID)
administration of vaccines of the vaccine and intramuscular (IM) application











1 2 3 4 5 6 7 8
Sows Sows Papule in sows In the ID application the vaccine is deposited
Observed in 90% of the sows vaccinated with at the dermal layer of the skin (before the
®2
Hipradermic . subcutaneous fat).










Sows Piglets Injection point in piglets For IM application is very important to select
In piglets no papule is observed, just an the adequate needle length tacking into
injection point can be seen. account the subcutaneous fat.
(1) Hipradermic ®, needle-free device with full traceability
for the vaccination of sows and piglets.
(2) Busquet et al., 2017. ESPHM Proceedings.
www.hipra.com








INTRADERMAL APPLICATION ประสทธภาพและความปลอดภัยของวัคซนปองกันโรคกลุมอาการระบบสบพันธุและระบบทางเดิน











OF VACCINES IN PIGS หายใจสุกร (พีอารอารเอส) ชนดเชอเปน (สายพันธุยุโรป) และวัคซนปองกันโรคพิษสุนขบาเทียมสุกร


ชนดเชอเปน ในฟารมสุกร ประเทศไทย




1*


2
2





เรองอุไร กิจโชดก อทธพัทธ วงศ์อารย์สวัสด์ เกรยงไกร โลหะพรม สทธกร ไตรยราช 1

Mechanism of action



1 แผนกวิชาการ และการตลาดสกร กล่มธรกิจสกร บรษัทแอนมอล เฮลท์ (ไทยแลนด์) จ ากัด









2 แผนกผู้แทนขายสกร กล่มธรกิจสกร บรษัทแอนมอล เฮลท์ (ไทยแลนด์) จ ากัด



*ผู้รบผิดชอบบทความ: สพ.ญ. เรองอไร กิจโชดก ([email protected])
บทนา ผลการทดลอง


ปจจบัน การฉดวัคซนในรปแบบผสม (Combination vaccine) จากการทดลอง ไม่พบอาการไม่พงประสงค์ในสกรพันธทกตัว (0%)






















EPIDERMIS ได้รบความนยมอย่างมากในอตสาหกรรมการเล้ยงสกร เนองจากง่าย ภายหลังฉดวัคซนชนดเช้อเปนในรปแบบผสมเข้าผิวหนัง ด้วยอุปกรณ ์



ต่อการจัดการสขภาพสกร การวางโปรแกรมและการบรหารวัคซน






ีว่าสกรได้รบวัคซน และ


HIPRADERMIC® พบเพยงจดแดง ทบ่งช้


ลดความเครยดของสกร ประหยัดเวลาและไม่เพ่มแรงงานระหว่างการ สามารถหายเองได้ ภายใน 2 วัน (ภาพท 1. และ 2)

ี่








DERMIS Inflamatory ฉดวัคซน รวมทั้งการฉดวัคซนในรปแบบผสมเพยงคร้งเดยว สามารถ ภายหลังการฉดวัคซน ได้ 3 สัปดาห เจาะเลอดตรวจ พบว่าสกรพันธ ์ ุ





Dendritic Cell (DC)



1







Blood vessel กระต้นภมค้มกันได้มากกว่า 1 โรค ไม่พบผลบวกต่อยีน gE ของเช้อพษสนัขบ้าเทยม และไม่พบเช้อไวรส


อย่างไรก็ตาม วัคซนทสามารถน ามาผสมรวมกันได้ต้องผ่าน




Resident DC taking PRRSทั้งสายพันธอเมรกา และยุโรป




ADIPOSE TISSUE (S.C.) up antigen กระบวนการทดลองทางห้องปฏบัตการ ได้รบการรองรบมาตรฐาน
Lymph vessel with DC



ในด้านความปลอดภัย และประสทธภาพของวัคซนภายหลังการผสม
migrating to lymph node


และภายหลังฉดเข้าส่ตัวสัตว์ รวมทั้งได้รบการจดทะเบยนจาก


The dermis represents an excellent
site for vaccine delivery being rich in ส านักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
resident DC, lymph vessels and

blood capillaries. ดังนั้น วัตถประสงค์ของการทดลอง คือ การทดสอบความปลอดภัย จุดแดง (ลูกศรสดา) บ่งช้ว่า สกรได้รบวัคซน ี




และประสทธภาพ ภายหลังสกรได้รบวัคซนส าหรบปองกันโรคกล่ม









1 2 3 อาการระบบสบพันธและระบบทางเดนหายใจสกร (Porcine




reproductive and respiratory syndrome, PRRS) ชนิดเชื้อ
90º


เป็น (HIPRA, SPAIN) ผสมร่วมกับ วัคซนส าหรบปองกันโรคพิษ



สนัขบ้าเทยมสกร ชนดเช้อเปน (HIPRA, SPAIN) ด้วยวิธการฉดเข้า










Pig skin Pig skin Pig skin ผิวหนัง (Intradermal injection, ID) ด้วยอุปกรณ์ไร้เข็มฮิปรา จุดแดง (ลูกศรสดา) บ่งช้ว่า สกรได้รบวัคซน ี
เดอรมค (HIPRADERMIC®) ณ ฟาร์มสุกร จ. ราชบุรี ประเทศไทย สกรพันธมแนวโน้มผลผลตดข้น สรปได้ ดังตารางท 2.












As a needle-free injector, Hipradermic ®1 injector head must contact the surface of the pig's skin at a 90º angle. Hipradremic ® has no trigger, so it







is enough to make a small movement towards the animal to carry out the vaccination. วัสดุอุปกรณ และวิธการทดลอง ตารางที่ 2. ผลผลตในสกรพันธ์ จานวน 150 ตัว ภายหลังจากการฉดวัคซน



ดัชนผลผลิต กอนฉดวัคซน ภายหลังฉดวัคซน ความแตกตาง (Diff)




Adequate regions for intradermal Correct administration Comparison between intradermal (ID) ฟารมสุกรเปด ขนาด 1,170 แม จ. ราชบุร ี 87 92* +5




administration of vaccines of the vaccine and intramuscular (IM) application อัตราการผสมตด (%)
ประเทศไทย ในป พ.ศ. 2561 อัตราการเข้าคลอด (%) 84 90* +6

อัตราการแท้ง (%) 7 1* -6





สกรภายในฟารมไม่ได้รบวัคซนปองกันโรคไวรส PRRS มาก่อน


ลกตายแรกคลอด (%) 2.1 1.1* -1





สกรพันธ์มอาการแท้งสงถง 7% แม่สกรส่วนใหญ่น ้านมแห้ง ลก จ านวนลกสกรมชวิต (%) 10.8 12.5* +1.7












สกรดดนมอ่อนแอ และลกสกรก่อนหย่านมสญเสยสงถง 10-15% ลกกรอก (%) 1.9 0.4* -1.5





ลกสกรตายก่อนหย่านม (%) 13 7* -6


พบผลบวกต่อเช้อไวรส PRRS สายพันธ์ อเมรกา (US) จากการ หมายเหตุ: * มความแตกต่างอย่างมนัยสาคัญทางสถต ิ ิ




1 2 3 4 5 6 7 8



Sows Sows Papule in sows In the ID application the vaccine is deposited ตรวจด้วยวิธอณชวโมเลกุล (RT-PCR, KASETSAT อภิปรายผล และสรุปผลการทดลอง
Observed in 90% of the sows vaccinated with at the dermal layer of the skin (before the UNIVERSITY) และ Real-time PCR, DIAGNOS HIPRA)
®2
Hipradermic . subcutaneous fat).
สกรพันธทกตัวทได้รบการฉดวัคซนเพอปองกันโรค PRRS และโรคพิษ












ฟารมตัดสนใจปพรม วัคซนส าหรบปองกันโรค PRRS ชนิด สนัขบ้าเทยมสกร ในรปแบบผสม (HIPRA, SPAIN) เข้าผิวหนัง (ID) ด้วย











เช้อเปน (HIPRA, SPAIN) ร่วมกับวัคซนปองกันโรคพษสุนัข อุปกรณไรเข็ม HIPRADERMIC® มีความปลอดภัย และให้ผลเพ่ม








บ้าเทยมสกร ชนดเช้อเปน (HIPRA, SPAIN) ในรปแบบผสม ประสทธภาพผลผลตในสกรพันธ รวมทั้งลดอัตราการตายทมสาเหตมาจาก




















ื่



ฉดวัคซนผสม เข้าผิวหนัง (ID) เครองอุปกรณไรเข็ม เช้อไวรส PRRS ในลูกสุกรก่อนหย่านมทีเกิดจากแม่สุกรทีฉีดวัคซีน

HIPRADERMIC®ขนาด 0.2 มล.ในสกรพันธ์ทกตัว กิตติกรรมประกาศ




Sows Piglets Injection point in piglets For IM application is very important to select ผู้เขยนขอบคณเจ้าของฟารมสกร จ. ราชบร ทสนับสนนการท างานในทกขั้นตอน








In piglets no papule is observed, just an the adequate needle length tacking into





injection point can be seen. account the subcutaneous fat. สังเกตลักษณะอาการทางคลนกภายหลังฉดวัคซน และ อางอิง
(1) Hipradermic ®, needle-free device with full traceability









for the vaccination of sows and piglets.
(2) Busquet et al., 2017. ESPHM Proceedings. เปรยบเทยบประสทธภาพผลผลตสกรพันธก่อนและหลังฉด
1 Dodd, 2003. AM J Manag Care. 9(1): S6-S12.
www.hipra.com

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE


กำาหนดให้การฆ่าสัตว์ต้องกระทาในโรงฆ่าสัตว์เท่าน้น ดังนั้น การ












เชือดสกรเพือจำาหน่ายทบ้านตนเอง หรอสถานทไม่ใช่โรงฆ่าสตว์ทได้

รับอนุญาตไม่ว่าสุกรนั้นจะเป็นสุกรท่เล้ยงเองหรือว่าสุกรท่มาจาก


บริษัทจึงเป็นการกระทำาที่ผิดกฎหมาย
บอกกล่าวเล่าสิบ ตามพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำาหน่ายเน้อสัตว ์

พ.ศ. 2559 เป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นเพื่อกำากับดูแลเรื่องโรงฆ่าสัตว์
บอกกล่าวเล่าสิบ ประจำาฉบับที่ 885 เดือนตุลาคม...เริ่มจาก เพื่อความปลอดภัยของผ้บริโภค เน่องจากโรงฆ่าสัตว์เป็นสถานท่ผลิต



นายกฯ เสนอตั้ง Sandbox ปศุสัตว์ หวังเพิ่มช่องทางรายได้เสริม เนื้อสัตว์ก่อนจำาหน่ายถึงผู้บริโภค จึงมีความจำาเป็นที่ต้องกำากับดูแล
ให้เกษตรกร สร้างความยั่งยืนให้อาชีพเกษตกร พล.อ.ประยุทธ์ ให้สามารถตรวจสอบแหล่งท่มาของสัตว์มีชีวิต มีความสะอาดใน



จันทร์โอชา นายกรัฐมนตร เปิดโอกาสให้ นายประพัฒน์ กระบวนการผลิตและมีสวัสดิภาพสัตว์ และท่สาคัญต้องมีการตรวจ

ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติและคณะเข้าพบ สุขภาพสัตว์ก่อนฆ่าและเนื้อสัตว์หลังฆ่า โดยพนักงานตรวจโรคสัตว์




เพื่อรับมอบนโยบายและแนวทางขับเคล่อนสภาเกษตรกรแห่งชาติ ซึ่งเป็นผ้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ หรือผ้ท่ได้รับการอบรมจาก
ปีงบประมาณรายจ่ายประจำาปี พ.ศ. 2565 โดยมีนายเฉลิมชัย สัตวแพทยสภาหรือกรมปศุสัตว์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาดจาก
ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมหารือด้วย โดยนายก สัตว์สู่คน (Zoonosis)

รัฐมนตรีเสนอแนวคิดให้ตั้ง Sandbox ปศุสัตว์ หวังเพิ่มช่องทาง นอกจากนี้ โรงฆ่าสัตว์ยังมีกฎหมายกากับดูแลเพื่อป้องกันไม่
รายได้สร้างความยั่งยืนให้อาชีพเกษตกร ให้สร้างเหตุเดือดร้อนรำาคาญให้แก่ประชาชนข้างเคียง เช่น พระราช

โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำาคัญในการดูแล บัญญัติการสาธารณสุข พระราชบัญญัติผังเมือง เป็นต้น ท้งนี้

พี่น้องเกษตรกรคนไทยทุกจังหวัดโดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย โดย เนื้อสัตว์ท่มาจากโรงฆ่าท่ไม่ได้รับอนุญาตน้น จะไม่ทราบแหล่งท่มา





มีเป้าหมาย คือ การเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกร ซึ่งรัฐบาลยัง ของสัตว์ ไม่มีการตรวจสอบใดๆ ไม่ได้ผานการตรวจโรคมากอน และ

มีแนวคิดส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ เช่น โค กระบือ สุกร เป็นช่องทาง ผ่านกระบวนการฆ่าสัตว์ท่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทาให้มีความเสี่ยงท ี ่

เพิ่มรายได้ควบคู่กับการทำาการเกษตร พร้อมมอบหมายให้กระทรวง เน้อสัตว์ถูกชาแหละแล้วไปวางจำาหน่ายให้กับผ้บริโภคปนเปื้อน





เกษตรและสหกรณ์ จัดทา “Sandbox ปศุสัตว์” พิจารณากาหนด เชื้อโรคสูง อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค


พื้นท่ กล่มเป้าหมาย ควบคุมโรคสัตว์ ให้เป็นโครงการนำาร่อง ระบาดที่สำาคัญ หรืออันตรายจากสารตกค้าง เช่น สารเร่งเนื้อแดง


ขณะเดียวกน ยังให้หารือกับกระทรวงพาณชย์ เพื่อหาช่องทางส่งออก ฮอร์โมน และยาปฏิชีวนะ เป็นต้น
ไปยังประเทศเพือนบ้านและตลาดต่างประเทศได้ท่ต้องการนาเข้าโค โดยการฆ่าสัตว์นอกโรงฆ่าสัตว์มีความผิดตามมาตรา 15 แห่ง



อยู่แล้ว ดังนั้น ทำางานร่วมกันระหว่างภาคเกษตรกรและฝ่ายบริหาร พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำาหน่ายเน้อสัตว์ พ.ศ.

เพื่อช่วยกันหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ๆ ให้กับพี่น้องเกษตรกร 2559 คือประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษจำาคุก
ควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพใน ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำาทั้งปรับ และ

ท้องถิ่น ยังมีโทษตามมาตรา 31 แหง พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสตว ์

“ข่าวปลอม อย่าแชร! ขายหมูทแผงตนเอง ต้องนำาหมูของ เพื่อการจำาหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 คือฆ่าสัตว์โดยไม่แจ้งการฆ่า




ซีพีมาขาย 50 เปอร์เซ็นต์ ไม่อย่างนั้นจะผิดกฎหมาย” ตามที่มีการ ต่อพนักงานท้องถ่น ซึ่งมีโทษปรับตามรายตัวสุกร ตัวละไม่เกิน 2
แชร์ข้อมูลในส่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เร่อง ขายหมูท่แผงตนเอง ต้อง หมื่นบาท ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่มาจากโรงฆ่าสัตว์




นำาหมูของซีพีมาขาย 50% ไม่อย่างนั้นจะผิดกฎหมายทางศูนย์ ท่ได้รับอนุญาต เพื่อเป็นการส่งเสริมโรงฆ่าสัตว์ท่ได้รับอนุญาตตาม

ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำาเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมปศุสัตว์ กฎหมาย โดยสามารถสังเกตตราสัญลักษณปศุสัตว OK ซึงเป็น





กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูล ตราสัญลักณ์ท่กรมปศุสัตว์ให้การรับรองร้านจำาหน่ายเน้อสัตว์ว่านำา
เท็จ กรณีที่มีการโพสต์ข้อความที่ระบุว่า ขายหมูของตัวเอง 100% เน้อสัตว์มาจากโรงฆ่าสัตว์ท่ได้อนุญาตตามกฎหมาย ดังนั้น ขอให ้


ถือว่าผิดกฎหมาย ต้องนำาหมูของ CP มาร่วมขายด้วย 50% ถึง ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือ
จะขายได้แบบไม่ผิดกฎหมายนั้น ทางกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตร แชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้
และสหกรณ์ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ตามกฎหมายแล้วประชาชน ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมปศุสัตว์ สามารถติดตามได้ที่

สามารถเชือดหมูของตนเองเพื่อจำาหน่ายได้ 100 % แต่ต้องทาที่ เว็บไซต์ www.dld.go.th หรือโทร. 02 6534444

โรงฆ่าสัตว์ท่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย โดยปัจจุบันกฎหมายท่กากับ บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ตามกฎหมายแล้วประชาชนสามารถ


ดูแลการเชือดสัตว์เพื่อการจำาหน่ายของประเทศไทย คือ พระราช เชือดหมูของตนเองเพื่อจำาหน่ายได้ 100 % แต่ต้องทำาที่โรงฆ่าสัตว์
บัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำาหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 ซึ่ง ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายเท่านั้น
12 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE






กำาหนดให้การฆ่าสัตว์ต้องกระทาในโรงฆ่าสัตว์เท่าน้น ดังนั้น การ อีก 1 ข่าวปลอม จากกรณีการให้ข้อมูลท่ระบุว่ามีการฉีด ท้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้มุ่งเน้นการยกระดับมาตรฐานอาหาร



เชือดสกรเพือจำาหน่ายทบ้านตนเอง หรอสถานทไม่ใช่โรงฆ่าสตว์ทได้ โกรทฮอร์โมน หรือสารเร่งโตให้กับสัตว์ที่จะนำามาบริโภค โดยเฉพาะ ปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Value Chain) ตามนโยบายของ









รับอนุญาตไม่ว่าสุกรนั้นจะเป็นสุกรท่เล้ยงเองหรือว่าสุกรท่มาจาก ในส่วนของอกไก่ และปีกไก่นั้น ทางกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาโดยตลอด รวมถึงผ้ประกอบการมีการ


บริษัทจึงเป็นการกระทำาที่ผิดกฎหมาย และสหกรณ์ได้ให้ข้อมูลว่า ประเทศไทยมีกฎหมายห้ามการใช้สารเร่ง พัฒนาการนาเทคโนโลยีมาใช้ปรับปรุงพัฒนาอุตสาหกรรมไก่เน้อ


บอกกล่าวเล่าสิบ ตามพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำาหน่ายเน้อสัตว ์ การเจริญเติบโตในการเลี้ยงสัตว์ โดยสำานักงานคณะกรรมการอาหาร ให้มีระบบการป้องกันโรคท่ดี เล้ยงในโรงเรือนระบบปิดท่ทันสมัย ผ่าน




มาตรฐานฟาร์มท่กรมปศุสัตว์รับรอง จึงไม่มีการใช้ฮอร์โมนเร่งโต
และยา (อย.) มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ 417/2528 ลงวันที่
พ.ศ. 2559 เป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นเพื่อกำากับดูแลเรื่องโรงฆ่าสัตว์




บอกกล่าวเล่าสิบ ประจำาฉบับที่ 885 เดือนตุลาคม...เริ่มจาก เพื่อความปลอดภัยของผ้บริโภค เน่องจากโรงฆ่าสัตว์เป็นสถานท่ผลิต 23 ก.ย.2529 ให้เพิกถอนทะเบียนตำารับยาสำาหรับสัตว์ Hexoestrol เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั้งไทยและตลาดโลก
นายกฯ เสนอตั้ง Sandbox ปศุสัตว์ หวังเพิ่มช่องทางรายได้เสริม เนื้อสัตว์ก่อนจำาหน่ายถึงผู้บริโภค จึงมีความจำาเป็นที่ต้องกำากับดูแล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ใช้ในสัตว์ปีก กรมปศุสัตว์ขอยืนยันว่าในปัจจุบัน เนื้อไก่ไม่มีการฉีดฮอร์โมน

ให้เกษตรกร สร้างความยั่งยืนให้อาชีพเกษตกร พล.อ.ประยุทธ์ ให้สามารถตรวจสอบแหล่งท่มาของสัตว์มีชีวิต มีความสะอาดใน หากมีการลักลอบใช้ถือว่าผิดกฎหมาย และหากนับจากวันท ี ่ แต่อย่างใด จึงขอฝากให้ผ้บริโภคควรเลือกแหล่งท่มาของเนื้อไก่ว่า





จันทร์โอชา นายกรัฐมนตร เปิดโอกาสให้ นายประพัฒน์ กระบวนการผลิตและมีสวัสดิภาพสัตว์ และท่สาคัญต้องมีการตรวจ ประกาศจนถึงปัจจุบัน ก็เป็นระยะเวลาเกือบ 35 ปีแล้วท่มีการใช้ ผ่านการตรวจสอบจากระบบมาตรฐาน โดยดูจากตราสัญลักษณ์ต่างๆ












ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติและคณะเข้าพบ สุขภาพสัตว์ก่อนฆ่าและเนื้อสัตว์หลังฆ่า โดยพนักงานตรวจโรคสัตว์ กฎหมายน จึงทาใหฮอรโมนทใช้เรงโตในไกดังกล่าวถกปราบปราม บนบรรจุภัณฑ์ ท่สำาคัญเน้นใส่ใจตั้งแต่การเลือกซื้อเนื้อไก่มาบริโภค







เพื่อรับมอบนโยบายและแนวทางขับเคล่อนสภาเกษตรกรแห่งชาติ ซึ่งเป็นผ้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ หรือผ้ท่ได้รับการอบรมจาก จนหมดจากอตสาหกรรมการเลียงไกไทย และเป็นไปไม่ได้เลยท ่ ี โดยท้งผ้บริโภคโดยท่วไปให้สังเกตสถานท่จำาหน่ายไข่สดท่มีตรา






ปีงบประมาณรายจ่ายประจำาปี พ.ศ. 2565 โดยมีนายเฉลิมชัย สัตวแพทยสภาหรือกรมปศุสัตว์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาดจาก อุตสาหกรรมไก่เน้อของไทยจะใช้สารเร่งการเจริญเติบโต เพราะผิด สัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” ก่อนเลือกซื้อ เนื่องจากมั่นใจได้ว่าเนื้อไก่
ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมหารือด้วย โดยนายก สัตว์สู่คน (Zoonosis) ทั้งกฎหมายของไทย และขัดต่อข้อบังคับของสหภาพยุโรปและญี่ปุ่น มาจากฟาร์มมาตรฐาน GAP 100% ผลิตจากโรงฆ่ามาตรฐานและ
รัฐมนตรีเสนอแนวคิดให้ตั้ง Sandbox ปศุสัตว์ หวังเพิ่มช่องทาง นอกจากนี้ โรงฆ่าสัตว์ยังมีกฎหมายกากับดูแลเพื่อป้องกันไม่ ซึ่งเป็นกล่มประเทศคู่ค้าสำาคัญซึ่งเป็นจุดแข็งของไทย นอกจากน้ ตรวจสอบย้อนกลับได้ ดังน้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูล








รายได้สร้างความยั่งยืนให้อาชีพเกษตกร ให้สร้างเหตุเดือดร้อนรำาคาญให้แก่ประชาชนข้างเคียง เช่น พระราช สายพันธ์ไก่เน้อท่ผ้ประกอบการเล้ยงในปัจจุบันผ่านการปรับปรุงพันธุ ์ ดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่อง

โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำาคัญในการดูแล บัญญัติการสาธารณสุข พระราชบัญญัติผังเมือง เป็นต้น ท้งนี้ มาอย่างยาวนานจนเติบโตเร็ว ไม่มีความจำาเป็นต้องใช้ฮอร์โมนในการ ทางส่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสาร



พี่น้องเกษตรกรคนไทยทุกจังหวัดโดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย โดย เนื้อสัตว์ท่มาจากโรงฆ่าท่ไม่ได้รับอนุญาตน้น จะไม่ทราบแหล่งท่มา เร่งการเจริญเติบโต ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตและผิดกฎหมาย จากกรมปศุสัตว์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dld.go.th หรือ




มีเป้าหมาย คือ การเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกร ซึ่งรัฐบาลยัง ของสัตว์ ไม่มีการตรวจสอบใดๆ ไม่ได้ผานการตรวจโรคมากอน และ แต่อย่างใด โทร. 02 6534444...สวัสดี...



มีแนวคิดส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ เช่น โค กระบือ สุกร เป็นช่องทาง ผ่านกระบวนการฆ่าสัตว์ท่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทาให้มีความเสี่ยงท ี ่
เพิ่มรายได้ควบคู่กับการทำาการเกษตร พร้อมมอบหมายให้กระทรวง เน้อสัตว์ถูกชาแหละแล้วไปวางจำาหน่ายให้กับผ้บริโภคปนเปื้อน CPF คว้ารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประจำาปี 2564



เกษตรและสหกรณ์ จัดทา “Sandbox ปศุสัตว์” พิจารณากาหนด เชื้อโรคสูง อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค สะท้อนความมุ่งมั่นนำานวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจ




พื้นท่ กล่มเป้าหมาย ควบคุมโรคสัตว์ ให้เป็นโครงการนำาร่อง ระบาดที่สำาคัญ หรืออันตรายจากสารตกค้าง เช่น สารเร่งเนื้อแดง


ขณะเดียวกน ยังให้หารือกับกระทรวงพาณชย์ เพื่อหาช่องทางส่งออก ฮอร์โมน และยาปฏิชีวนะ เป็นต้น


ไปยังประเทศเพือนบ้านและตลาดต่างประเทศได้ท่ต้องการนาเข้าโค โดยการฆ่าสัตว์นอกโรงฆ่าสัตว์มีความผิดตามมาตรา 15 แห่ง สำานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) มอบรางวัลนวัตกรรม

อยู่แล้ว ดังนั้น ทำางานร่วมกันระหว่างภาคเกษตรกรและฝ่ายบริหาร พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำาหน่ายเน้อสัตว์ พ.ศ. แห่งชาติ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประจำาปี 2564 (รางวัลเกียรติคุณ

ประเภทองค์กรภาคเอกชนขนาดใหญ่) ให้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำากัด
เพื่อช่วยกันหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ๆ ให้กับพี่น้องเกษตรกร 2559 คือประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษจำาคุก (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ผู้นำาธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร
ควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพใน ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำาทั้งปรับ และ มุงมันในการนำานวตกรรมและเทคโนโลยีขับเคลือนการดำาเนินธุรกจอย่างมี







ท้องถิ่น ยังมีโทษตามมาตรา 31 แหง พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสตว ์ ประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อ


“ข่าวปลอม อย่าแชร! ขายหมูทแผงตนเอง ต้องนำาหมูของ เพื่อการจำาหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 คือฆ่าสัตว์โดยไม่แจ้งการฆ่า ผ้บริโภค และยกระดับศักยภาพของบุคลากร ตอกย้ำาการสร้างวัฒนธรรมองค์กร



ซีพีมาขาย 50 เปอร์เซ็นต์ ไม่อย่างนั้นจะผิดกฎหมาย” ตามที่มีการ ต่อพนักงานท้องถ่น ซึ่งมีโทษปรับตามรายตัวสุกร ตัวละไม่เกิน 2 แห่งนวัตกรรม เพื่อร่วมพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ในโอกาสวันที่ 5 ตุลาคม


แชร์ข้อมูลในส่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เร่อง ขายหมูท่แผงตนเอง ต้อง หมื่นบาท ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่มาจากโรงฆ่าสัตว์ ของทุกปี เป็น “วันนวัตกรรมแห่งชาติ” สำานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การ




นำาหมูของซีพีมาขาย 50% ไม่อย่างน้นจะผิดกฎหมายทางศูนย์ ท่ได้รับอนุญาต เพื่อเป็นการส่งเสริมโรงฆ่าสัตว์ท่ได้รับอนุญาตตาม มหาชน) ร่วมกับองค์กรภาคเอกชนชั้นนำา ภาคสถาบันการศึกษา ภาค
ประชาสังคม จัดงานวันนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อเทิดพระเกียรติและราลึกถึง

ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำาเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมปศุสัตว์ กฎหมาย โดยสามารถสังเกตตราสัญลักษณปศุสัตว OK ซึงเป็น พระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุยเดช





กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูล ตราสัญลักณ์ท่กรมปศุสัตว์ให้การรับรองร้านจำาหน่ายเน้อสัตว์ว่านำา มหาราช บรมนาถบพิตร เป็น “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” และจัดให้มีการ

เท็จ กรณีที่มีการโพสต์ข้อความที่ระบุว่า ขายหมูของตัวเอง 100% เน้อสัตว์มาจากโรงฆ่าสัตว์ท่ได้อนุญาตตามกฎหมาย ดังนั้น ขอให ้ ประกาศเกียรติคุณองค์กรท่สร้างสรรค์ผลงานท่มีความเป็นนวัตกรรมโดดเด่น



ถือว่าผิดกฎหมาย ต้องนำาหมูของ CP มาร่วมขายด้วย 50% ถึง ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือ และเกิดคุณค่าที่ชัดเจนต่อประเทศชาติ
จะขายได้แบบไม่ผิดกฎหมายนั้น ทางกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตร แชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ โดยปีนี้ ซีพีเอฟ ได้รับรางวัลองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประจำาปี 2564
และสหกรณ์ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ตามกฎหมายแล้วประชาชน ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมปศุสัตว์ สามารถติดตามได้ที่ (รางวัลเกียรติคุณ ประเภทองค์กรภาคเอกชนขนาดใหญ่) มี นายไพโรจน์
สามารถเชือดหมูของตนเองเพื่อจำาหน่ายได้ 100 % แต่ต้องทาที่ เว็บไซต์ www.dld.go.th หรือโทร. 02 6534444 อภิรักษ์นุสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจสัตว์น้ำา และ นายพีรพงศ์

กรินชัย รองกรรมการผ้จัดการบริหาร ด้านวิศวกรรมกลาง ซีพีเอฟ เป็น

โรงฆ่าสัตว์ท่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย โดยปัจจุบันกฎหมายท่กากับ บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ตามกฎหมายแล้วประชาชนสามารถ ผู้แทนบริษัทรับโล่เชิดชูเกียรติ



ดูแลการเชือดสัตว์เพื่อการจำาหน่ายของประเทศไทย คือ พระราช เชือดหมูของตนเองเพื่อจำาหน่ายได้ 100 % แต่ต้องทำาที่โรงฆ่าสัตว์
บัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำาหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 ซึ่ง ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายเท่านั้น
12 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 13

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE









































หลังวิกฤต ASF...ต้องทำ�อย่�งไร ?


ให้ธุรกิจยั่งยืน





กว่า 3 ปี ที่ผ่านมา โรค ASF ถือเป็นวิกฤตสำาคัญของธุรกิจ 1. กลุ่มเลี้ยงหลังบ้าน ที่มักติดเชื้อจากรถจับสุกร เพราะต้องยอมให้
สุกร หลังสร้างความเสียหายให้กับการผลิตสุกรในหลายประเทศ พ่อค้าเข้าไปจับถึงหน้าโรงเรือน 2. กลุ่มฟาร์มขนาดกลาง (200-500

ขณะท่ไทยยังคงไม่มีรายงานการระบาด เน่องจากการเฝ้าระวังป้องกัน ตัว) ส่วนใหญ่นำาสุกรไปขายที่หน้าฟาร์มได้ แต่มักติดเชื้อเกิดปัญหา


โรคท่เข้มงวด และการยกระดับระบบไบโอซีเคียวริตี้ของฟาร์ม แต่ ได้จากการที่บุคลากรไม่อาบน้ำาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเข้าฟาร์ม 3. กลุ่ม

อย่างไรก็ดี ผ้เล้ยงสุกรต้องไม่ประมาทและเตรียมรับมือ เพราะมีความ ฟาร์มขนาดใหญ่ ที่มักเสียหายจากสัตว์พาหะ โดยเฉพาะแมลงวันที่

เสี่ยงที่ ASF จะเข้ามาสร้างความสูญเสียได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะ นำาเชื้อเข้ามาในฟาร์ม
แนวทางการจัดการควบคุมกำาจัดและการฟื้นฟูฟาร์ม เพื่อให้กลับมา ดังนั้น ทำ�เล มีความสำาคัญอันดับ 1 ของการจัดการปัญหา
เลี้ยงใหม่ได้อย่างยั่งยืน ASF ฟาร์มที่ทำาเลดี ห่างจากเขตเลี้ยงสุกร ถือเป็นต้นทุนที่ดี โดย
น.สพ.ระพี ปัญญาทอง รองกรรมการผ้จัดการ สัตวแพทย์ ทำ�เลดี คือ รัศมี 3-5 กิโลเมตร ต้องไม่มีฟาร์มขนาดใหญ่ (สุกร

บริการวิชาการสุกร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำากัด (มหาชน) มากกว่า 500 ตัวขึ้นไป) และในรัศมี 1 กิโลเมตร ต้องไม่มีการเลี้ยง



เปิดเผยว่า สาเหตุที่นำาเชื้อ ASF เข้าสู่ฟาร์ม ประกอบด้วย แหล่งน้ำา สุกรเลย แม้กระท่งการเล้ยงหลังบ้าน นอกจากน้นต้องมีองค์ประกอบ
สุกรทดแทน รถขนส่ง บุคลากร อุปกรณ์สิ่งของ เน้อสุกร สัตว์พาหะ พื้นฐานในการป้องกันโรค ได้แก่ โรงสเปรย์ยาฆ่าเชื้อ บ่อจุ่มล้อ

และการขาย จึงต้องวางระบบไบโอซีเคียวริตี้ (Biosecurity) ท ี ่ อ่างจุ่มเท้า ห้องอาบน้ำาเปลี่ยนเสื้อผ้า ตู้ยูวี รวมถึงการเก็บตัวอย่าง


เก่ยวข้องกับ ทาเล องค์ประกอบฟาร์ม การปฏิบัติ และการเฝ้าระวัง เฝ้าระวังป้องกันโรคโดยองค์ประกอบฟาร์มการป้องกันโรค แบ่งเป็น
ซึ่งในทางปฏิบัติ สิ่งสำาคัญ 3 อย่าง คือ “ทำ�เล ทำ�เล และทำ�เล” “อย�กรอดต้องมี” และ “อย�กรอดต้องทำ�”







เน่องจากหลายฟารมลงทนวางระบบไบโอซีเคียวรตีทดี แต่กไม่รอด อย�กรอดต้องมี เริ่มจาก “รั้ว” ถือเป็นพื้นฐานที่กรมปศุสัตว์


เพราะอยู่ในพื้นท่เล้ยงสุกรหนาแน่น ทาให้จัดการปัญหาสัตว์พาหะ กำาหนดให้ฟาร์มขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐาน GAP และฟาร์มรายย่อย



ไม่ได้ หากโรค ASF เข้ามาต้องแบ่งฟาร์มเป็น 3 กลุ่ม คือ มาตรฐาน GFM ต้องมี โดย ร้ว ตามคำานิยามของกรมปศุสัตว์
14 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่�วส�รและส�ระสำ�หรับวงก�รเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE


ก่อนนำาไปใช้ ซึ่งบางฟาร์มอาจเพิ่มการใช้หลอดยูวีฆ่าเชื้อ หรืออบ

โอโซน หรือบางฟาร์มเก็บตัวอย่างตรวจจนผลเป็นลบก่อนนาไปใช้
เพื่อความมั่นใจ ส่วนฟาร์มที่ผสมอาหารเอง ต้องมีระบบตรวจสอบ
วัตถุดิบ เพราะจากข้อมูลการสำารวจพบเชื้อ ASF ในวัตถุดิบหลักทั้ง
ข้าวโพด รำา หรือมันเส้น ซึ่งปนเปื้อนในกระบวนการผลิต หรือเป็น
วัตถุดิบจากฟาร์มที่มีปัญหาแล้วนำามาขายต่อ ดังนั้น ควรซื้อวัตถุดิบ


จากแหล่งท่เชื่อถือได้ แบ่งพื้นท่เก็บให้ดี และเก็บตัวอย่างตรวจ หาก
ผลเป็นบวกก็ไม่ควรนำามาเลี้ยงสุกร หรือใช้ผลิตภัณฑ์ เช่น กรด
ผสมในอาหาร ซึ่งจากการทดลองพบว่า ช่วยลดปริมาณไวรัสได้ใน
ระดับ 1,000 เท่า แต่ถ้าไวรัสมีมากกว่านั้น ก็กำาจัดไม่ได้
“บ่อพักน้ำ�” เชื้อ ASF ที่ปนเปื้อนในแหล่งน้ำาถือเป็นปัญหาที่
แก้ไขได้ยาก เพราะหากทิ้งซากสุกรป่วยลงน้ำา 1 ตัว สามารถปล่อย
8
ไวรัสได้ถึง 100 ล้านตัว (10 ) และเชื้อเพียง 1 ตัว ก็ทำาให้สุกรติด
เชื้อและป่วยได้ โดยมีการทดลองเก็บน้ำาในพื้นที่ระบาดก็พบว่า เป็น
บวก ดังน้น การเจาะน้าบาดาล ลึก 30 เมตร จึงเป็นวิธีการท ่ ี


ปลอดภัยที่สุด แต่ถ้าใช้น้ำาไหลหรือน้ำาผิวดินก็ต้องลุ้น เพราะยังไม่มี




วิธีการฆ่าเชื้อปนเป้อนในนาท่มีประสิทธิภาพ มีงานทดลองใช้คลอรีน
3.2 เปอร์เซ็นต์ หรือ 32,000 พีพีเอ็ม ที่ฆ่าเชื้อได้ แต่ก็ใช้เลี้ยง
สุกรไม่ได้ เนื่องจากเป็นพิษกับสุกรอย่างรุนแรง ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆ
หลังวิกฤต ASF...ต้องทำ�อย่�งไร ? ก็ลดปริมาณเชื้อได้เพียง 1,000-10,000 เท่า ไม่สามารถกำาจัดเชื้อ
ทั้งหมดได้





ให้ธุรกิจยั่งยืน “ห้องอาบนา” ถือเป็นพื้นฐานท่ทุกฟาร์มต้องมี แต่ส่งสาคัญ

คือ การทาใหบุคลากรทุกคนก่อนเข้าฟาร์มต้องอาบนา เปลี่ยนเสือผ้า







และรองเท้า เพราะจากการทดสอบใหพนกงานทฝงซากสุกรเกบ



ตัวอย่างจากผมและซอกเล็บพบว่า บวก แล้วให้ไปอาบน้าสระผม

กว่า 3 ปี ที่ผ่านมา โรค ASF ถือเป็นวิกฤตสำาคัญของธุรกิจ 1. กลุ่มเลี้ยงหลังบ้าน ที่มักติดเชื้อจากรถจับสุกร เพราะต้องยอมให้ ด้านล่างทึบสูงจากพื้น 80 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์อื่นลอด ออกมาตรวจอีกครั้ง ผลเป็นลบ แสดงให้เห็นว่า การอาบน้ำาสระผม

สุกร หลังสร้างความเสียหายให้กับการผลิตสุกรในหลายประเทศ พ่อค้าเข้าไปจับถึงหน้าโรงเรือน 2. กลุ่มฟาร์มขนาดกลาง (200-500 เข้าไปได้ ด้านบนเหนือร้วทึบต้องขึงด้วยลวดหนามจนมีความสูงรวม ทำาให้เชื้อหลุดได้จริง โดยเชื้อหลุดอยู่ในห้องอาบน้ำา ก็ต้องทำาการฆ่า


ขณะท่ไทยยังคงไม่มีรายงานการระบาด เน่องจากการเฝ้าระวังป้องกัน ตัว) ส่วนใหญ่นำาสุกรไปขายที่หน้าฟาร์มได้ แต่มักติดเชื้อเกิดปัญหา 150 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลปีนเข้าไปในฟาร์มได้ เชื้อห้องอาบน้ำาด้วย โดยกำาหนดให้พ่นยาฆ่าเชื้อห้องอาบน้ำาทุกด้าน
โรคท่เข้มงวด และการยกระดับระบบไบโอซีเคียวริตี้ของฟาร์ม แต่ ได้จากการที่บุคลากรไม่อาบน้ำาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเข้าฟาร์ม 3. กลุ่ม “เคร่องพ่นยาฆ่าเชื้อ” และ “บ่อดิบล้อ” รถท่ผ่านเข้าฟาร์ม (บน ล่าง ซ้าย ขวา หน้า หลัง) ทุกวันเช้าและเย็น





อย่างไรก็ดี ผ้เล้ยงสุกรต้องไม่ประมาทและเตรียมรับมือ เพราะมีความ ฟาร์มขนาดใหญ่ ที่มักเสียหายจากสัตว์พาหะ โดยเฉพาะแมลงวันที่ หากเชื้อ ASF เข้ามาในไทยแล้วคงกำาจัดให้หมดได้ยาก ดังนั้น ควร “ตู้ยูวี” จากการทดลองสเปรย์เชื้อใส่อุปกรณ์แล้วนำาเข้าตู้ยูวีตาม

เสี่ยงที่ ASF จะเข้ามาสร้างความสูญเสียได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะ นำาเชื้อเข้ามาในฟาร์ม เลือกใช้ยาฆ่าเชื้อท่มีประสิทธิภาพดีและราคาสมเหตุสมผล เพื่อลด เวลาท่กาหนดพบว่า สามารถฆ่าเชื้อได้ ดังน้น ฟาร์มควรมีตู้ยูวี เพื่อ



แนวทางการจัดการควบคุมกำาจัดและการฟื้นฟูฟาร์ม เพื่อให้กลับมา ดังนั้น ทำ�เล มีความสำาคัญอันดับ 1 ของการจัดการปัญหา ภาระต้นทุน ซึ่งยาฆ่าเชื้อท่จำาหน่ายในท้องตลาดจากการทดสอบ ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่จำาเป็นต้องเข้าไปในฟาร์ม

เลี้ยงใหม่ได้อย่างยั่งยืน ASF ฟาร์มที่ทำาเลดี ห่างจากเขตเลี้ยงสุกร ถือเป็นต้นทุนที่ดี โดย พบว่า หากมีระยะเวลาสัมผัส 30 นาทีขึ้นไป ก็ฆ่าเชื้อได้ท้งหมด “ต�ข่�ยกันแมลงวันเข้�เล้�” หลายฟาร์มไม่ทำา แต่ถ้าแมลงวัน


น.สพ.ระพี ปัญญาทอง รองกรรมการผู้จัดการ สัตวแพทย์ ทำ�เลดี คือ รัศมี 3-5 กิโลเมตร ต้องไม่มีฟาร์มขนาดใหญ่ (สุกร แต่ฟาร์มต้องวางระบบจัดการรถเพื่อให้มีระยะเวลาสัมผัสตามกาหนด เพิ่มขึ้น หรือบางวันไฟฟ้าดับ ต้องเปิดผ้าม่าน แมลงวันหลุดเข้าไป

บริการวิชาการสุกร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำากัด (มหาชน) มากกว่า 500 ตัวขึ้นไป) และในรัศมี 1 กิโลเมตร ต้องไม่มีการเลี้ยง โดยอาจใช้ไม้ก้น หรือทาลานให้พักรถ บันทึกเวลา หรือใช้ระบบ ในโรงเรือน ไม่นานก็เกิดโรค ASF เสียหาย ดังนั้น ควรคลุมตาข่าย



เปิดเผยว่า สาเหตุที่นำาเชื้อ ASF เข้าสู่ฟาร์ม ประกอบด้วย แหล่งน้ำา สุกรเลย แม้กระท่งการเล้ยงหลังบ้าน นอกจากน้นต้องมีองค์ประกอบ GPS ติดตาม และบางแห่งก็พ่นยาฆ่าเชื้อในห้องคนขับ เพื่อลดความ กันสัตว์พาหะไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน โดยต้องคลุมทุกช่องเปิด แม้กระทั่ง

สุกรทดแทน รถขนส่ง บุคลากร อุปกรณ์สิ่งของ เน้อสุกร สัตว์พาหะ พื้นฐานในการป้องกันโรค ได้แก่ โรงสเปรย์ยาฆ่าเชื้อ บ่อจุ่มล้อ เสี่ยงด้วย คูลลิ่งแพดและพัดลม ซึ่งฟาร์มโรงเรือนเปิดหลายแห่งที่ใช้ตาข่ายกัน


และการขาย จึงต้องวางระบบไบโอซีเคียวริตี้ (Biosecurity) ท ี ่ อ่างจุ่มเท้า ห้องอาบน้ำาเปลี่ยนเสื้อผ้า ตู้ยูวี รวมถึงการเก็บตัวอย่าง “โกดังอาหาร” จากบทเรียนในพื้นท่ระบาด พบการเชื้อติด แมลงแล้วไม่เสียหาย เพราะแมลงวันเป็นพาหะนำาเชื้อ ASF ท่สาคัญ



เก่ยวข้องกับ ทาเล องค์ประกอบฟาร์ม การปฏิบัติ และการเฝ้าระวัง เฝ้าระวังป้องกันโรคโดยองค์ประกอบฟาร์มการป้องกันโรค แบ่งเป็น ปนเปือนไปกบอาหาร ซึงอาจเกดจากผขายไปส่งอาหารทฟารม จากการศึกษาพบว่า หากแมลงวันท่มีเชื้อปนเปื้อนท่ขา เข้าไปใน













ซึ่งในทางปฏิบัติ สิ่งสำาคัญ 3 อย่าง คือ “ทำ�เล ทำ�เล และทำ�เล” “อย�กรอดต้องมี” และ “อย�กรอดต้องทำ�” แห่งหน่งท่มีความเส่ยงแล้วปนเปื้อนเชื้อก่อนนาอาหารไปส่งให้กับ โรงเรือนเพียง 10 ตัว ก็ทาให้สุกรติดเชื้อป่วยเสียหายได้ ยิ่งเป็น










เน่องจากหลายฟารมลงทนวางระบบไบโอซีเคียวรตีทดี แต่กไม่รอด อย�กรอดต้องมี เริ่มจาก “รั้ว” ถือเป็นพื้นฐานที่กรมปศุสัตว์ ฟาร์มอ่นๆ เกิดการระบาด และจากการเก็บตัวอย่างท่ถุงอาหารตรวจ แมลงวันที่มาจากซากสุกรยิ่งปนเปื้อนไวรัสมาก ไม่ต้องถึง 10 ตัว




เพราะอยู่ในพื้นท่เล้ยงสุกรหนาแน่น ทาให้จัดการปัญหาสัตว์พาหะ กำาหนดให้ฟาร์มขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐาน GAP และฟาร์มรายย่อย ก็พบเชื้อ ASF ดังนั้น จึงต้องแบ่งโกดังเป็น 2 ส่วน คือ โซนอาหาร ก็สร้างปัญหาได้แล้ว หากพบแมลงวันเกิน 10 ตัว ในโรงเรือนถือว่า




ไม่ได้ หากโรค ASF เข้ามาต้องแบ่งฟาร์มเป็น 3 กลุ่ม คือ มาตรฐาน GFM ต้องมี โดย ร้ว ตามคำานิยามของกรมปศุสัตว์ เก่า และโซนอาหารใหม่ โดยอาหารที่เพิ่งมาลง ต้องพัก 2-3 วัน เสี่ยง โดยรัศมีในการหากินของแมลงวันอยู่ที่ 1-3 กิโลเมตร (รัศมี
14 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 15

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE








1 กิโลเมตร ในพื้นท่อาหารสมบูรณ และ 3 กโลเมตร ในพืนทอาหาร
ไม่สมบูรณ์) ดังน้น หากในพื้นท่มีการระบาดแล้วแมลงวันในฟาร์ม


เพิ่มขึ้นต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจมีซากสุกรมาทิ้งในพื้นที่ หรือการฝัง



ไม่ถกต้อง อย่างไรกดี ตาข่ายจะใช้แบบใดกได้ตามความเหมาะสม
แต่เน้นไม่ให้แมลงวันหลุดเข้าไปในโรงเรือนเป็นหลัก
“ท�งเดินสุกร” ใช้เคลื่อนย้ายสุกร โดยเฉพาะการขาย ป้องกัน
ไม่ให้รถจับสุกรเข้ามาถึงหน้าโรงเรือน สุดท้าย “บ่อทิ้งซ�ก” ที่ส่วน
ใหญ่มักมีปัญหาไม่เพียงพอ และต้องยอมรับว่า ไทยยังมีการขายซาก
สุกร ซึ่งแท้จริงเจ้าของฟาร์มอาจไม่ต้องการขาย แต่ไม่มีวีธีกาจัด

ซาก ซึ่งจากการเก็บตัวอย่างจากรถรับซื้อหมูตายพบว่า เป็นบวก

100 เปอร์เซ็นต์ โดยรถรับซ้อหมูตาย จึงถือเป็นความเส่ยงสูงสุด


ต้องนาไปล้างทาความสะอาดฆ่าเชื้อถึง 3 รอบ ถึงได้ผลเป็นลบ



ดังนั้น ต้องหาวิธีการกาจัดซากท่ดีและเพียงพอ เพราะฉะน้น เจ้าของ

ฟาร์มควรสำารวจว่า สิ่งเหล่านี้แล้วหรือไม่ และต้องไม่เป็นเพียงการ
มีเชิงสัญลักษณ์ แต่ต้องใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันโรค
อย�กรอดต้องทำ� เริ่มจาก 1. แบ่งพื้นที่อยู่อาศัยกับโรงเรือน
เลี้ยงสุกรให้ชัดเจน 2. พ่นฆ่าเชื้อรถเข้าฟาร์ม และจอดพัก 30 นาที


ทุกคันท่ผ่านเข้าฟาร์ม และต้องเปล่ยนยาฆ่าเชื้อท่บ่อดิบล้อเป็นประจำา

อย่างน้อยทุก 7 วัน หรือหากมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนมากก็ต้องเปลี่ยน
เร็วขึ้น 3. อาบน้ำา สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนเข้าฟาร์ม ต้องหา ห้ามข้ามพื้นที่ทำางานระหว่างกัน แยกที่พัก ห้ามทำากิจกรรมร่วมกัน

วิธีจัดการให้ทา 100 เปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างเช่น ติดกล้องวงจรปิดด้าน แยกซักเสื้อผ้าร่วมกัน ขณะที่รถขนสุกรต้องล้างทำาความสะอาด สุ่ม
หน้าและด้านหลังห้องอาบน้ำา เพื่อจับเวลาว่า พนักงานใช้เวลาเท่าใด ตรวจหาเชื้อเป็นประจำา แม้จากการเก็บข้อมูลพบว่า เล้าขายมีโอกาส
เร็วเกินไปหรือไม่ หรืออาจใช้พนักงานตรวจหลังอาบน้ำา นอกจากนี้ ตรวจเจอเชื้อ แต่หลังจากเสร็จกิจกรรมการขายก็มีการฆ่าเชื้อ





ในช่วงทมีความเสยงต่อการระบาดการรบพนกงานใหม่เป็นสิงทต้อง ทำาความสะอาด กช่วยให้โรคไม่แพรย้อนกลับเข้ามาสรางความ








พิจารณา เพราะพนักงานใหม่อาจมาจากฟาร์มท่เกิดการระบาดได้ เสียหายในฟาร์ม

หากจัดการควบคุมการอาบน้าได้ไม่ดี ก็มีโอกาสเสียหาย ดังนั้น ขณะที่รถขนส่งอาหาร ควรใช้รถไซโล ส่งอาหารผ่านท่อมาลง
ฟาร์มต้องวางระยะพักโรค โดยทางวิชาการแนะนำาให้พัก 30 วัน ซึ่ง ในไซโอเก็บอาหารหน้าฟาร์ม โดยที่รถไม่ต้องเข้า แต่ในกรณีอาหาร
เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ แต่ต้องเน้นการอาบน้ำาทุกรอบก่อนเข้า ถุงต้องทาจุดรับ แยกรถขนส่งในกรณีพื้นท่เสี่ยง คนในฟาร์มห้าม


ฟาร์ม แล้วใช้ระยะพักโรค 3-5 วัน ก็เพียงพอ และต้องระลึกไว้เสมอ สัมผัสรถขนส่งอาหาร และพักอาหาร 48 ชั่วโมงก่อนใช้ ฟาร์มควร
ว่า ไม่มีการอาบน้ำาก่อนเข้าฟาร์ม ถือเป็นความเสี่ยงสูง 4. ฆ่าเชื้อ มีรว 2 ชัน ชันนอกและชันใน โดยหลังร้วชันนอก เป็นบรเวณ








อุปกรณ์ด้วย UV ก่อนเข้าฟาร์มทุกคร้ง 5. พักอาหารอย่างน้อย สำานักงาน ที่พักอาศัย แยกที่พักคนเลี้ยงและคนงานเล้าขาย มีจุดรับ

48 ชั่วโมง ก่อนนำาไปใช้ 6. เปลี่ยนรองเท้าบู๊ท จุ่มน้ำายาฆ่าเชื้อก่อน เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ต่างๆ มีจุดพ่นสเปรย์ยาฆ่าเชื้อ ตู้ยูวี ทุกอย่างที่










เข้าเล้า โดยใช้รองเทาต่างสีกน และต้องมีพื้นทเปลียนท่เหมาะสม นำาเข้าฟาร์มต้องพัก 1-2 วน ก่อนนาไปใช้ หรออาจสุมตัวอย่างตรวจ



เพือลดโอกาสการปนเปื้อนใหน้อยทสุด และต้องควบคุมให้ปฏบัติ 100 หาเชื้อด้วย PCR เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยก่อน ส่วนพนักงานหาก


เปอร์เซ็นต์ 7. ไล่สุกรขาย โดยไม่ให้รถจับสุกรเข้าเขตฟาร์ม และ ออกนอกฟาร์ม ต้องอาบน้ำาก่อนกลับเข้ามาทุกครั้ง และควรอาบอีก

ต้องไม่ขายสุกรตาย กำาจัดในบ่อทิ้งซากเท่านั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการ คร้งก่อนเข้าพื้นท่เลี้นยงสุกร มีตาข่ายคลุมป้องกันแมลงวัน และหาก



ปฏิบัติขั้นพื้นฐานของระบบไบโอซีเคียวริตี้ อยู่ในพื้นท่เส่ยงมีการระบาด หรือเลี้ยงสุกรหนาแน่น ควรคลุมทาง
เน่องจากกิจกรรมการขายสุกร ถือเป็นความเส่ยงสาคัญใน เดินด้วยตาย ป้องกันไม่ให้แมลงวันอย่างเด็ดขาด




การนำาโรคเข้าฟาร์ม เพราะต้องยอมรับว่า ควบคุมให้รถรับซื้อสุกร ด้านการป้องกันการติดเชื้อจากอาหารสัตว์ เร่มจากรับวัตถุดิบ
ล้างทาความสะอาดก่อนมาไม่ได้ท้งหมด ดังน้น จึงตัดความเส่ยงด้วย จากแหล่งทปลอดภัย ไม่รับวัตถดิบจากพื้นท่เสียงการระบาด










การนาสุกรไปขายนอกฟาร์ม ด้วยการสร้างเล้าขายกลาง ซึ่งควรห่าง รถขนส่ง มีระบบฆ่าเชื้อก่อนเข้าฟาร์ม มีจุดรับวัตถุดิบ และส่มตรวจ

จากฟาร์มอย่างน้อย 1 กิโลเมตร โดยแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน เริ่ม ก่อนใช้ หลังจากผสมเสร็จสุ่มตรวจอีกครั้ง วางระบบขนส่งที่ดี ซึ่ง
จากโซนรับสุกร โซนขาย และโซนส่งสุกรขึ้นรถ พนักงานแต่ละโซน ผ้ผลิตอาหารสัตว์ส่วนใหญ่วางระบบป้องกันได้ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็น

16 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่�วส�รและส�ระสำ�หรับวงก�รเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE








1 กิโลเมตร ในพื้นท่อาหารสมบูรณ และ 3 กโลเมตร ในพืนทอาหาร สามีเล้ยงสุกรขุนแล้วพบการติดเชื้อ หลังจากน้นก็พบโรคในเล้า





ไม่สมบูรณ์) ดังน้น หากในพื้นท่มีการระบาดแล้วแมลงวันในฟาร์ม อ้มท้องท่ภรรยาดูแลอยู่ ซึ่งเป็นผลจากการไม่อาบนาก่อนออกจาก





เพิ่มขึ้นต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจมีซากสุกรมาทิ้งในพื้นที่ หรือการฝัง ฟาร์ม และการอาบนาก่อนเข้ามาทางานไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น


ไม่ถกต้อง อย่างไรกดี ตาข่ายจะใช้แบบใดกได้ตามความเหมาะสม จึงออกกฎให้อาบน้ำาก่อนออกจากฟาร์มอีกด้วย เพราะไม่ทราบว่า


แต่เน้นไม่ให้แมลงวันหลุดเข้าไปในโรงเรือนเป็นหลัก เชื้อจะเข้าที่โรงเรือนใด



“ท�งเดินสุกร” ใช้เคลื่อนย้ายสุกร โดยเฉพาะการขาย ป้องกัน ความเสี่ยงท่นาโรคเข้าฟาร์ม เร่มจาก การขาย รถขนส่ง
ไม่ให้รถจับสุกรเข้ามาถึงหน้าโรงเรือน สุดท้าย “บ่อทิ้งซ�ก” ที่ส่วน รถอาหาร ถุงอาหารสัตว์ บุคคล วัสดุสิ่งของ สุกรทดแทน และสัตว์
ใหญ่มักมีปัญหาไม่เพียงพอ และต้องยอมรับว่า ไทยยังมีการขายซาก พาหะ ดังนั้น ฟาร์มต้องมี 10 มาตรการป้องกันโรคที่สำาคัญ เริ่ม






สุกร ซึ่งแท้จริงเจ้าของฟาร์มอาจไม่ต้องการขาย แต่ไม่มีวีธีกาจัด จาก 1. การอาบนา เปล่ยนเส้อผ้าก่อนเข้าพื้นท่ฟาร์ม โดยมีห้อง
ซาก ซึ่งจากการเก็บตัวอย่างจากรถรับซื้อหมูตายพบว่า เป็นบวก อาบน้ำา 2 ชั้น ก่อนเข้าฟาร์ม และก่อนเข้าบริเวณเลี้ยงสุกร 2. รถ

100 เปอร์เซ็นต์ โดยรถรับซ้อหมูตาย จึงถือเป็นความเส่ยงสูงสุด ในฟาร์มห้ามออก รถภายนอกห้ามเข้า ให้ได้มากที่สุด 3. รถที่มา



ต้องนาไปล้างทาความสะอาดฆ่าเชื้อถึง 3 รอบ ถึงได้ผลเป็นลบ ฟาร์มต้องผ่านการล้างฆ่าเชื้ออย่างทั่วถึงและพัก 30 นาที 4. ของ

ดังนั้น ต้องหาวิธีการกาจัดซากท่ดีและเพียงพอ เพราะฉะน้น เจ้าของ ที่นำาเข้าฟาร์มต้องผ่านการฆ่าเชื้อ ท้ง ตู้ยูวี หรือพ่นยาฆ่าเชื้อท้งหมด




ฟาร์มควรสำารวจว่า สิ่งเหล่านี้แล้วหรือไม่ และต้องไม่เป็นเพียงการ 5. ป้องกันสัตว์พาหะติดตาข่ายกันแมลง 6. ใช้น้าบาดาลหรือน้า



มีเชิงสัญลักษณ์ แต่ต้องใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันโรค ภายในฟาร์มเท่าน้น 7. กาจัดซากและขยะอย่างถูกวิธี 8. พ่นยา

อย�กรอดต้องทำ� เริ่มจาก 1. แบ่งพื้นที่อยู่อาศัยกับโรงเรือน ฟาร์มที่ผสมอาหารเองก็ต้องตรวจอย่างเข้มงวด เลือกซื้อจากแหล่ง ฆ่าเชื้อ โรยปูนขาวรอบฟาร์ม 9. การขายถูกต้อง แบ่งโซนชัดเจน

เลี้ยงสุกรให้ชัดเจน 2. พ่นฆ่าเชื้อรถเข้าฟาร์ม และจอดพัก 30 นาที ที่เชื่อถือได้ ระวังการสวมโดยบอกว่า เป็นวัตถุดิบจากพื้นที่ไม่เสี่ยง และ 10. พนักงานมีความร้และให้ความร่วมมือในการป้องกันโรค




ทุกคันท่ผ่านเข้าฟาร์ม และต้องเปล่ยนยาฆ่าเชื้อท่บ่อดิบล้อเป็นประจำา ท้งท่จริงแล้วมาจากพื้นท่ระบาด หรือาจมาจากฟาร์มท่เกิดปัญหา สิ่งเหล่านี้ หากทำาได้ดี ก็ช่วยป้องกันไม่ให้เสียหายได้




อย่างน้อยทุก 7 วัน หรือหากมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนมากก็ต้องเปลี่ยน โดยวัตถุดิบหลักส่วนใหญ่ตรวจพบผลบวกแล้ว แต่ปริมาณเชื้อยังไม่ สำาหรับฟาร์มท่เสียหาย และต้องการกลับมาใหม่ มักพบคำาถาม

เร็วขึ้น 3. อาบน้ำา สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนเข้าฟาร์ม ต้องหา ห้ามข้ามพื้นที่ทำางานระหว่างกัน แยกที่พัก ห้ามทำากิจกรรมร่วมกัน สูง หากใช้สารเสริมเติมเข้าไปจัดการเชื้อได้ แต่บางฟาร์มที่ไม่มีทาง ว่า ต้องใช้เวลาเท่าใด ? ซึ่งเป็นคำาถามท่ตอบได้ยาก เนื่องจากปัจจัย


วิธีจัดการให้ทา 100 เปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างเช่น ติดกล้องวงจรปิดด้าน แยกซักเสื้อผ้าร่วมกัน ขณะที่รถขนสุกรต้องล้างทำาความสะอาด สุ่ม เลือกจำาเป็นต้องใช้ก็อาจใช้การผสมกับวัตถุดิบดีเติมสารเสริมแล้วผสม สำาคัญไม่ได้อยู่ท่ระยะเวลา แต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพการล้างฆ่าเชื้อ

หน้าและด้านหลังห้องอาบน้ำา เพื่อจับเวลาว่า พนักงานใช้เวลาเท่าใด ตรวจหาเชื้อเป็นประจำา แม้จากการเก็บข้อมูลพบว่า เล้าขายมีโอกาส เป็นอาหารสุกรขุนช่วง 7 วันก่อนขาย และห้ามนำาวัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ ทำาความสะอาด เพราะฟาร์มท่ล้างฆ่าเชื้อได้ดี ใช้เวลาเพียง 7-14
เร็วเกินไปหรือไม่ หรืออาจใช้พนักงานตรวจหลังอาบน้ำา นอกจากนี้ ตรวจเจอเชื้อ แต่หลังจากเสร็จกิจกรรมการขายก็มีการฆ่าเชื้อ เก่ยวข้องเข้าฟาร์ม มีล็อคเกอร์เก็บของพนักงาน บางแห่งทาห้อง วัน ก็กลับมาเลี้ยงใหม่ได้ ต่างจากฟาร์มที่จัดการล้างไม่ดี พักคอก












ในช่วงทมีความเสยงต่อการระบาดการรบพนกงานใหม่เป็นสิงทต้อง ทำาความสะอาด กช่วยให้โรคไม่แพรย้อนกลับเข้ามาสรางความ UV มีตระแกรง ไว้วางอุปกรณ์ที่จำาเป็น เพื่อฆ่าเชื้อที่อาจติดมากับ 8 เดือน กลับมาเลี้ยงก็ยังเสียหาย ซึ่งมีคำาแนะนำาให้พักคอกประมาณ


พิจารณา เพราะพนักงานใหม่อาจมาจากฟาร์มท่เกิดการระบาดได้ เสียหายในฟาร์ม สิ่งของก่อนนำาเข้าฟาร์ม ส่วนการป้องกันการติดเชื้อจากน้ำา ห้ามใช้ 2 เดือน โดยนับหลังจากนำาสุกรตัวสุดท้ายออกไป หลังล้างทำาความ





หากจัดการควบคุมการอาบน้าได้ไม่ดี ก็มีโอกาสเสียหาย ดังนั้น ขณะที่รถขนส่งอาหาร ควรใช้รถไซโล ส่งอาหารผ่านท่อมาลง น้ำาผิวดินหรือจากแหล่งนาสาธารณะนอกฟาร์ม ควรใช้น้าบาดาล หลัง สะอาดแล้วต้องสุ่มเก็บตัวอย่าง ณ วันที่ 7, 14, 21 และ 28 ตรวจ
ฟาร์มต้องวางระยะพักโรค โดยทางวิชาการแนะนำาให้พัก 30 วัน ซึ่ง ในไซโอเก็บอาหารหน้าฟาร์ม โดยที่รถไม่ต้องเข้า แต่ในกรณีอาหาร ดูดขึ้นมาแล้วต้องพัก 12 ชั่วโมง มีระบบเติมคลอรีน และใช้ให้หมด เชื้อ เพื่อให้มั่นใจว่า จากนั้นนำาสุกรปลอดเชื้อเข้าไปเลี้ยงอีก 21 วัน


เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ แต่ต้องเน้นการอาบน้ำาทุกรอบก่อนเข้า ถุงต้องทาจุดรับ แยกรถขนส่งในกรณีพื้นท่เสี่ยง คนในฟาร์มห้าม ไปทีละบ่อ ถ้ารอด ตรวจต่อมน้าเหลืองแล้วไม่พบเชื้อก็กลับมาเล้ยงใหม่ได้



ฟาร์ม แล้วใช้ระยะพักโรค 3-5 วัน ก็เพียงพอ และต้องระลึกไว้เสมอ สัมผัสรถขนส่งอาหาร และพักอาหาร 48 ชั่วโมงก่อนใช้ ฟาร์มควร ท่กล่าวมาเป็น องค์ประกอบการป้องกันโรคในฟาร์ม และข้อ อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาปัจจัยแวดลอมประกอบด้วย เช่น มี








ว่า ไม่มีการอาบน้ำาก่อนเข้าฟาร์ม ถือเป็นความเสี่ยงสูง 4. ฆ่าเชื้อ มีรว 2 ชัน ชันนอกและชันใน โดยหลังร้วชันนอก เป็นบรเวณ ปฏิบัติในการป้องกัน แต่จุดท่มักพบข้อผิดพลาด หรือ ตกม้าตาย ฟาร์มใกล้เคียงกาลังเสียหาย ก็ต้องรอให้ปัญหาในฟาร์มนันสงบ




อุปกรณ์ด้วย UV ก่อนเข้าฟาร์มทุกคร้ง 5. พักอาหารอย่างน้อย สำานักงาน ที่พักอาศัย แยกที่พักคนเลี้ยงและคนงานเล้าขาย มีจุดรับ คือ การห้ามนำาเนื้อสุกร มุ้งกันแมลงวัน ห้องอาบน้ำา และการห้าม อย่างน้อย 30 วัน เพื่อให้เชื้อในสิ่งแวดล้อมหายไปก่อน ค่อยเริ่มลง

48 ชั่วโมง ก่อนนำาไปใช้ 6. เปลี่ยนรองเท้าบู๊ท จุ่มน้ำายาฆ่าเชื้อก่อน เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ต่างๆ มีจุดพ่นสเปรย์ยาฆ่าเชื้อ ตู้ยูวี ทุกอย่างที่ ขายซากสุกร เริ่มจาก การห้ามนำาเนื้อสุกรเข้ามาในฟาร์ม เคยเกิด เลี้ยงใหม่ และเน้นย้ำาว่า “การกลับมาเลี้ยงใหม่กรอบเวลาการพักเล้า













เข้าเล้า โดยใช้รองเทาต่างสีกน และต้องมีพื้นทเปลียนท่เหมาะสม นำาเข้าฟาร์มต้องพัก 1-2 วน ก่อนนาไปใช้ หรออาจสุมตัวอย่างตรวจ กรณในฟารมปิดขนาดใหญ่แหงหน่ง ทหามทานเน้อสุกร จนพนักงาน ไม่สำาคัญเท่ากับคุณภาพการล้างฆ่าเชื้อทำาลายความสะอาด”












เพือลดโอกาสการปนเปื้อนใหน้อยทสุด และต้องควบคุมให้ปฏบัติ 100 หาเชื้อด้วย PCR เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยก่อน ส่วนพนักงานหาก ทนไม่ไหวแอบนาเน้อสกรเข้ามาทาน ส่งผลใหเกิดการติดเชือและ ปัจจัยที่ทำาให้การควบคุมโรคประสบความสำาเร็จ ได้แก่ “รู้เร็ว”



เปอร์เซ็นต์ 7. ไล่สุกรขาย โดยไม่ให้รถจับสุกรเข้าเขตฟาร์ม และ ออกนอกฟาร์ม ต้องอาบน้ำาก่อนกลับเข้ามาทุกครั้ง และควรอาบอีก เสียหาย ดังนั้น ต้องทำาความเข้าใจกับพนักงานว่า กฎที่ออกมาต้อง คือ การเก็บตัวอย่างถูกต้อง ตรวจยืนยันได้รวดเร็ว “จัดการเร็ว” คือ


ต้องไม่ขายสุกรตาย กำาจัดในบ่อทิ้งซากเท่านั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการ คร้งก่อนเข้าพื้นท่เลี้นยงสุกร มีตาข่ายคลุมป้องกันแมลงวัน และหาก ปฏบัติอย่างเข้มงวด แต่ถาออกนอกฟารมกทานเนือสกรได้อย่าง ควบคุมการเคลื่อนย้าย วางแผนการคัดทิ้งทำาลายสุกรที่เป็นโรคและ









ปฏิบัติขั้นพื้นฐานของระบบไบโอซีเคียวริตี้ อยู่ในพื้นท่เส่ยงมีการระบาด หรือเลี้ยงสุกรหนาแน่น ควรคลุมทาง เต็มที่ เพราะจากการศึกษาพบว่า พนักงานที่ทานเนื้อสุกรปนเปื้อน เส่ยงสูง “จบเร็ว” คือ ควบคุมโรคได้ไม่แพร่กระจายไปฟาร์มอ่น





เน่องจากกิจกรรมการขายสุกร ถือเป็นความเส่ยงสาคัญใน เดินด้วยตาย ป้องกันไม่ให้แมลงวันอย่างเด็ดขาด ASF แล้วถ่ายออกมาเก็บตัวอย่างไปตรวจไม่พบเชื้อ เน่องจากความ เพราะหากโรคเข้าฟาร์ม ยกตัวอย่าง ฟาร์ม 1,000 แม่ อาจมีชุด

การนำาโรคเข้าฟาร์ม เพราะต้องยอมรับว่า ควบคุมให้รถรับซื้อสุกร ด้านการป้องกันการติดเชื้อจากอาหารสัตว์ เร่มจากรับวัตถุดิบ เป็นกรดในกระเพาะทำาลายเชื้อได้ ผสม 5 ชุด ห่างกัน 1 สัปดาห์ สิ่งที่ต้องทำา คือ หยุดกิจกรรมและ



ล้างทาความสะอาดก่อนมาไม่ได้ท้งหมด ดังน้น จึงตัดความเส่ยงด้วย จากแหล่งทปลอดภัย ไม่รับวัตถดิบจากพื้นท่เสียงการระบาด ขณะที่ห้องอาบน้ำา เน้นการตรวจสอบให้พนักงานปฏิบัติ 100 การเคลื่อนย้ายสุกรในฟาร์ม ทั้ง การรีดน้ำาเชื้อ การผสม การตรวจ







การนาสุกรไปขายนอกฟาร์ม ด้วยการสร้างเล้าขายกลาง ซึ่งควรห่าง รถขนส่ง มีระบบฆ่าเชื้อก่อนเข้าฟาร์ม มีจุดรับวัตถุดิบ และส่มตรวจ เปอร์เซ็นต์ หากพบว่า ใครไม่ปฏิบัติตามก็อาจต้องมีบทลงโทษให้เป็น สัด ไม่นำาสุกรขึ้นคลอด หยุดหย่านม แม้อาจทำาทันทีไม่ได้แต่ต้องหา

จากฟาร์มอย่างน้อย 1 กิโลเมตร โดยแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน เริ่ม ก่อนใช้ หลังจากผสมเสร็จสุ่มตรวจอีกครั้ง วางระบบขนส่งที่ดี ซึ่ง แบบอย่าง นอกจากนั้น ฟาร์มที่มีปัญหามักพบการระบาดผ่านความ จังหวะที่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว เพื่อยืดเวลาออก 3-4 วัน ในการ

จากโซนรับสุกร โซนขาย และโซนส่งสุกรขึ้นรถ พนักงานแต่ละโซน ผ้ผลิตอาหารสัตว์ส่วนใหญ่วางระบบป้องกันได้ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็น สัมผัสของพนักงาน เช่น เป็นเพื่อนร่วมห้อง หรือสามีภรรยา เช่น รอผลตรวจ และวางแผนคัดทิ้งทำาลายต่อไป
16 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 17

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE



โดยการตรวจต้องทาร่วมกับการสังเกตอาการ เพราะการเก็บตัวอย่าง
อาจบกพร่อง เช่น บางฟาร์มให้สุกรเคี้ยวเชือก ก็มีแต่ตัวที่แข็งแรง
มาเคี้ยว แต่ตัวป่วยลุกไม่ไหวนอนซมอยู่ในคอก จึงต้องเข้าไปดูว่า

สุกรมีลักษณะอาการท่ผิดปกติหรือไม่ ถ้าคอกใดมีอาการก็จำาเป็นต้อง

คัดท้งท้งคอก ซึ่งหากจัดการตรวจและทาลายได้ดี ส่วนใหญ่โรค


จะสงบได้ภายใน 2 รอบ หรือภายใน 30 วัน ถ้าตรวจแล้วได้ผล
เป็น ลบ ก็ไม่ควรดีใจเกินไป ต้องตรวจซ้ำายืนยัน เพราะบางครั้งอาจ

เก็บตัวอย่างไม่ดี ทาให้ได้ผลลบ แต่อีกไม่นานก็พบสุกรเสียหาย

ดังน้น ต้องเก็บข้อมูลช่วย โดยกาหนดให้รายงานสุกรตายทุกวัน หาก

มีการตรวจเกินมาตรฐาน ต้องเก็บต่อมนาเหลืองมาตรวจ เพื่อยืนยัน


การเก็บตัวอย่างมักเป็นปัญหาคอขวด โดยบางฟาร์มใช้การ ผลทันที









เจาะเลือด ในกระบวนการบังคับสุกรด้วยอุปกรณ์เก่ยวปาก ถ้าไม่ แนวทางการปฎบัติงานเบื้องต้น ในฟารมท่อยูในพืนทเสียง

เปล่ยนก็ทาให้แพร่เชื้อได้ หรืออาจแพร่จากทีมท่เจาะเลือด กลาย เริ่มจาก 1. เข้าฟาร์มวันละ 1 ครั้ง ยกเลิกการเข้าคอก เข้าเฉพาะ


เป็นว่า การเก็บตัวอย่างทำาให้เกิดการแพร่เชื้อเสียเอง ดังนั้น ควร ที่จำาเป็น 2. งดการปูพรหมวัคซีน และเปลี่ยนเข็มทุกแม่ สุกรขุน
เลือกเก็บ น้ำาลายหรือการสวอปพื้นผิว (Surface Swab) ที่มีวิธีการ ทุกคอก 3. มีอุปกรณ์ฉีดยาอย่างน้อย 2-3 ชุดต่อหลัง สำาหรับสลับ


เก็บง่ายกว่า อีกท้งการตรวจหาเชื้อทาในระบบตัวแทนอยู่แล้วก็ไม่ ใช้และล้างฆ่าเชื้อ 4. เก็บตัวอย่างส่งตามโปรแกรม เตรียมอุปกรณ์

จำาเป็นต้องเก็บรายตัว ซึ่งยุ่งยากและเส่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ การตรวจให้พร้อม ถ้าสงสัยสุกรป่วยให้รีบเก็บตัวอย่างส่งตรวจ
แต่ในบางฟาร์มให้คนงานเก็บตัวอย่างมาตรวจก่คร้งก็ได้แต่ผลลบ แต่ 5. ตรวจเช็คการอาบน้ำาและเปลี่ยนชุดทุกวัน 6. สุกรตายมีรูปถ่าย


มีสุกรตาย เมื่อเก็บต่อมน้าเหลืองมาตรวจพบผลบวก จึงสอบสวน สุกรที่อยู่ในบ่อทิ้งซากหรือหลุม และรูปถ่ายการโรยปูนขาว 7. ปรับ

โรค ทราบว่า คนงานเกรงว่า ผลจะบวกแล้วจะโดนตำาหนิ จึงเก็บ ระบบ Big Pen ให้มีขนาดคอกเล็กลง เพื่อป้องกันการระบาด


ตัวอย่างไมดี ซึ่งเป็นอนตราย เพราะกว่าจะทราบ เช้ออาจแพรไป 8. เปลี่ยนบู๊ท อุปกรณ์ คนงานแยกออกจากกันในแต่ละหลัง แต่ละ




เกิน 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ดังน้น ต้องทาความเข้าใจให้ตรงกันกับ โซน 9. พ่นยาฆ่าเชื้อรอบฟาร์ม โรยปูนขาว 10. วางยาเบื่อหนู พ่น
พนักงาน เพื่อความร่วมมือในการป้องกันโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ยาฆ่าแมลง กำาจัดสัตว์พาหะ จำากัดพื้นที่เลี้ยงสัตว์


อีกปัญหาที่พบ ในการเก็บตัวอย่าง คือ ระยะเวลาในการตรวจ รูปแบบการจัดการควบคุม กรณีท่เกิดโรค ถ้าตัดใจทาลายสุกร


หากเป็นฟาร์มขนาด 1,000 แม่ มีจำานวนตัวอย่างมาก หากใช้เคร่อง หลังท่มีปัญหาท้งหมด ส่วนใหญ่โรงเรือนใกล้เคียงจะรอด แต่ถ้าไม่




ตรวจ PCR ขนาดใหญ่ ก็อาจทำาครั้งละ 90 ตัวอย่าง ในเวลา 2 อยากทาลายท้งหลัง ก็ต้องใช้การตรวจท่รวดเร็วและแม่นยำา เพื่อ
ชั่วโมง ระยะเวลา 3-4 วันก็ทราบผลทั้งหมด แต่ถ้าเป็นเครื่อง PCR คัดคอกที่มีปัญหาและคอกที่เสี่ยงสูงออก หากทำาได้ดี ก็อาจเสียหาย
ขนาดเล็ก ที่ฟาร์มนิยมใช้ เพราะเป็นระบบอัตโนมัติ มีศักยภาพใน เพียง 3-4 คอก ส่วนแนวทางการเลือกรูปแบบการทำาลายสุกรที่พบ
การตรวจ 20-30 ตัวอย่างต่อรอบ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ถ้ามี 1,000 โรคระบาด
ตัวอย่างก็อาจทาไม่ทัน หลายฟาร์มจึงตรวจไปก่อน แต่หยุดกิจกรรม 1. การทำาลายสุกรทั้งหมด (Total depopulation) ใช้ในกรณี



นานไม่ได้ หลังจากตรวจเล้าคลอดเสร็จ ก็พบการป่วยท่เล้าผสม ท่ตรวจพบโรคช้า การกระจายแพร่ไปหลายจุด สุกรแสดงอาการป่วย
ส่งผลให้การคัดทิ้งตัวป่วยตัวเสี่ยง (partial depopulation) ทำาลาย หลายคอก สุกรแสดงอาการป่วยมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ หรือตาย

ไม่สำาเร็จ หยุดโรคไม่ได้ มากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ มีกิจกรรมเชื่อมโยง ในกรณีท่มีโรงเรือน
นอกจากนั้น ไม่ควรเก็บตัวอย่างตรวจทั้งฟาร์ม โดยโรคยังไม่ หลายหลัง ไม่ได้คนเลี้ยงหรืออุปกรณ์แต่ละหลัง รางน้ำา รางอาหาร
ระบาดเข้ามาในพื้นที่ (รัศมี 5 กิโลเมตร) เพราะเป็นการสิ้นเปลือง ส้วมน้ำา พื้นที่เลี้ยง เชื่อมถึงกัน มีการปูพรหมวัคซีน
ต้นทุนเกินไป ควรเลือกสุ่มตัวอย่างจากจุดเสี่ยง เช่น เล้าขาย หรือ 2. การทำาลายสุกรบางส่วน (Partial depopulation) ใช้กรณี


โรงเชือด แต่ถ้าโรคเข้ามาในรัศมี 1-3 กิโลเมตร ก็ต้องตรวจเข้มงวด ทตรวจพบโรคได้เร็ว ยังไม่กระจายไปหลายจุด สุกรแสดงอาการป่วย
ขึ้น โดยอาจดักแมลงวันหน้าฟาร์มมาตรวจ ซึ่งหากผลเป็นบวก ก็ ในคอกเดียว ยังไม่กระจายไปหลายจุด หรือตรวจไม่พบเชื้อในคอก
แสดงว่า มีฟาร์มใกล้เคียงเกิดโรค แต่ถ้าโรคเข้าฟาร์มแล้ว ก็ต้อง อื่นๆ สุกรแสดงอาการป่วยน้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ หรือตายน้อย
ตรวจ 100 เปอร์เซ็นต์ หยุดกิจกรรมภายในฟาร์มทั้งหมด จัดการ กว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีกิจกรรมเชื่อมโยงกันในโรงเรือนแต่ละหลัง
ทำาลายตัวป่วยตัวเสี่ยงอย่างรวดเร็ว แยกคนเลี้ยงและอุปกรณ์แต่ละหลัง รางน้ำา รางอาหาร ส้วมน้ำา แยก

หากโรค ASF อยู่ในประเทศ ฟาร์มท่รอดต้องมีโปรแกรม จากกัน ไม่มีการทำาวัคซีนหรือให้ยาแบบปูพรหม
การตรวจท่มีประสิทธิภาพ และไม่เป็นการเพิ่มต้นทุนจนเกินไป

18 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่�วส�รและส�ระสำ�หรับวงก�รเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE


โดยการตรวจต้องทาร่วมกับการสังเกตอาการ เพราะการเก็บตัวอย่าง ใกล้กัน คอกติดกัน เล้ากันชน ต้องทำาลายด้วย ประชุม วางแผน

อาจบกพร่อง เช่น บางฟาร์มให้สุกรเคี้ยวเชือก ก็มีแต่ตัวที่แข็งแรง ขั้นตอนการทำางาน วางผังของพื้นที่การฝัง เส้นทางการเคลื่อนย้าย
มาเคี้ยว แต่ตัวป่วยลุกไม่ไหวนอนซมอยู่ในคอก จึงต้องเข้าไปดูว่า สุกร กาหนดพื้นท่การฝัง โดยเลือกบริเวณท่อยู่ในบริเวณฟาร์ม ไม่ใช่




สุกรมีลักษณะอาการท่ผิดปกติหรือไม่ ถ้าคอกใดมีอาการก็จำาเป็นต้อง ตาน้ำาหรือมีทางเชื่อมไปยังแหล่งน้ำาอื่น มีพื้นที่เพียงพอ ดินสามารถ

คัดท้งท้งคอก ซึ่งหากจัดการตรวจและทาลายได้ดี ส่วนใหญ่โรค ขุดได้ ไม่แข็งเกินไป หากอยู่ไกล รถที่ขนสุกรต้องเข้าถึงได้ เตรียม


จะสงบได้ภายใน 2 รอบ หรือภายใน 30 วัน ถ้าตรวจแล้วได้ผล วัสดุอุปกรณ์ น้ำายาฆ่าเชื้อ ปูนขาว ทีมงาน รถแมคโคร และอื่นๆ

เป็น ลบ ก็ไม่ควรดีใจเกินไป ต้องตรวจซ้ำายืนยัน เพราะบางครั้งอาจ ให้พร้อม ทาทางเดินสุกร ก้นพื้นท่ ปูผ้าใบทางเดินภายนอกเล้า



เก็บตัวอย่างไม่ดี ทาให้ได้ผลลบ แต่อีกไม่นานก็พบสุกรเสียหาย ขุดดินให้ลึกมากกว่า 3 เมตร โรยปูนขาวก้นหลุม-ระหว่างชั้น-

ดังน้น ต้องเก็บข้อมูลช่วย โดยกาหนดให้รายงานสุกรตายทุกวัน หาก ด้านบน โดยดินกลบสุกรต้องมากกว่า 100 เซนติเมตร และทำาการ

มีการตรวจเกินมาตรฐาน ต้องเก็บต่อมนาเหลืองมาตรวจ เพื่อยืนยัน พูนดินอีกอย่างน้อย 50 เซนติเมตร พ่นน้ำายาฆ่าเชื้อทั้งในและนอก


การเก็บตัวอย่างมักเป็นปัญหาคอขวด โดยบางฟาร์มใช้การ ผลทันที โรงเรือน โรยปูนขาวตามแนวทางเดินสุกร ทำาการไล่สุกร ตามทาง













เจาะเลือด ในกระบวนการบังคับสุกรด้วยอุปกรณ์เก่ยวปาก ถ้าไม่ แนวทางการปฎบัติงานเบื้องต้น ในฟารมท่อยูในพืนทเสียง เดินท่กาหนดไว้ ซึ่งไม่ควรผ่านหน้าสุกรตัวอ่นท่ปกติ ทาการช็อตสุกร

เปล่ยนก็ทาให้แพร่เชื้อได้ หรืออาจแพร่จากทีมท่เจาะเลือด กลาย เริ่มจาก 1. เข้าฟาร์มวันละ 1 ครั้ง ยกเลิกการเข้าคอก เข้าเฉพาะ การจัดการสุกรติดเชื้อโรค ASF ต้องทำาลายสุกรในพื้นที่ฟาร์ม (แม่พันธุ์ >380 volt สุกรขุน >220 volt) โดยต้องระวังเรื่องความ





เป็นว่า การเก็บตัวอย่างทำาให้เกิดการแพร่เชื้อเสียเอง ดังนั้น ควร ที่จำาเป็น 2. งดการปูพรหมวัคซีน และเปลี่ยนเข็มทุกแม่ สุกรขุน โดยมาตรฐานหลุมฝังทำาลายควรกว้างไม่น้อยกว่า 4 เมตร ยาวไม่ ปลอดภัยของคนและสุกรตัวอ่น ขนสุกรไปยังหลุมท่เตรียมไว้ พ่น
เลือกเก็บ น้ำาลายหรือการสวอปพื้นผิว (Surface Swab) ที่มีวิธีการ ทุกคอก 3. มีอุปกรณ์ฉีดยาอย่างน้อย 2-3 ชุดต่อหลัง สำาหรับสลับ น้อยกว่า 20 เมตร ลึกไม่น้อยกว่า 3 เมตร อยู่ห่างจากแหล่งน้ำาใน น้ำายาฆ่าเชื้อตามทางเดินที่สุกรเดิน หรือรถขนย้าย เคลื่อนผ่านทุก














เก็บง่ายกว่า อีกท้งการตรวจหาเชื้อทาในระบบตัวแทนอยู่แล้วก็ไม่ ใช้และล้างฆ่าเชื้อ 4. เก็บตัวอย่างส่งตามโปรแกรม เตรียมอุปกรณ์ ฟาร์ม 20 เมตรขึ้นไป สุกรขุนน้ำาหนัก 100 กิโลกรัม ใช้สัดส่วน 4 ครง เมือเสรจส้นกจกรรมใหทงเสือผาหรออปกรณ์ท่ไม่สามารถฆ่า


จำาเป็นต้องเก็บรายตัว ซึ่งยุ่งยากและเส่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ การตรวจให้พร้อม ถ้าสงสัยสุกรป่วยให้รีบเก็บตัวอย่างส่งตรวจ ตัวต่อลูกบาศ์กเมตร พ่อแม่พันธุ์ใช้สัดส่วน 2 ตัวต่อลูกบาศ์กเมตร เชื้อได้แล้วฝังลงไปพร้อมกัน โรยปูนขาวตามทางเดิน หรือบริเวณที่




แต่ในบางฟาร์มให้คนงานเก็บตัวอย่างมาตรวจก่คร้งก็ได้แต่ผลลบ แต่ 5. ตรวจเช็คการอาบน้ำาและเปลี่ยนชุดทุกวัน 6. สุกรตายมีรูปถ่าย ใส่ซากแล้วต้องเว้นขอบบ่อไม่ต่ากวา 1 เมตร สาหรับการฝังกลบ มีการปนเปื้อน รวมถึงหลุมสุกร ต้องอาบนาออกจากฟาร์มทุกคร้ง





มีสุกรตาย เมื่อเก็บต่อมน้าเหลืองมาตรวจพบผลบวก จึงสอบสวน สุกรที่อยู่ในบ่อทิ้งซากหรือหลุม และรูปถ่ายการโรยปูนขาว 7. ปรับ และต้องกลบดินสูงขึ้นมาจากพื้นไม่ต่ำากว่า 50 เซนติเมตร และควร รวมถึงล้างฆ่าเชื้อยานพาหนะ และพักโรคตามกำาหนด

โรค ทราบว่า คนงานเกรงว่า ผลจะบวกแล้วจะโดนตำาหนิ จึงเก็บ ระบบ Big Pen ให้มีขนาดคอกเล็กลง เพื่อป้องกันการระบาด มีหลุมสำาหรับฝังอุปกรณ์หรืออาหารด้วย เพื่อป้องกันการกระจายเชื้อ ขั้นตอนการปฏิบัติงานหลังจากทำาลายสุกร ตรวจสอบสุขภาพ






ตัวอย่างไมดี ซึ่งเป็นอนตราย เพราะกว่าจะทราบ เช้ออาจแพรไป 8. เปลี่ยนบู๊ท อุปกรณ์ คนงานแยกออกจากกันในแต่ละหลัง แต่ละ การทาหลุมฝังซากต้องทาให้ดี มิฉะนั้น หลุมอาจเกิดการระเบิด หรือ สุกรท่เหลือ อย่างน้อย 14 วัน ว่ามีอาการป่วยหรือตายเพิ่มเติมหรือ

เกิน 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ดังน้น ต้องทาความเข้าใจให้ตรงกันกับ โซน 9. พ่นยาฆ่าเชื้อรอบฟาร์ม โรยปูนขาว 10. วางยาเบื่อหนู พ่น มีน้ำาเหลืองผุดออกมา ซึ่งจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อและทำาให้สุกรที่เหลือ ไม่ เก็บตัวอย่างประเมินติดตามทุก 2-3 วัน ในช่วงอาทิตย์แรก พ่น





พนักงาน เพื่อความร่วมมือในการป้องกันโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ยาฆ่าแมลง กำาจัดสัตว์พาหะ จำากัดพื้นที่เลี้ยงสัตว์ ในฟาร์มมีความเสี่ยงทันที น้ำายาฆาเชือภายใน-ภายนอกฟารม โรยปูนขาวด้านนอก แบ่งโซน



อีกปัญหาที่พบ ในการเก็บตัวอย่าง คือ ระยะเวลาในการตรวจ รูปแบบการจัดการควบคุม กรณีท่เกิดโรค ถ้าตัดใจทาลายสุกร การปฏิบัติหลังจากพบสุกรสงสัยป่วยด้วยโรคระบาด เร่มจาก สกปรก-สะอาดให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการปนเปื้อน มีผู้รับผิดชอบ 1





หากเป็นฟาร์มขนาด 1,000 แม่ มีจำานวนตัวอย่างมาก หากใช้เคร่อง หลังท่มีปัญหาท้งหมด ส่วนใหญ่โรงเรือนใกล้เคียงจะรอด แต่ถ้าไม่ ทำาการแยกคนเล้ยง อุปกรณ์ และรถขนส่งทันท ระหว่างเล้าปกติ คน เพื่อโรยปูนขาวพื้นที่ฝัง/ปนเปื้อน เช้า-เย็น ติดต่อกัน 1 เดือน



ตรวจ PCR ขนาดใหญ่ ก็อาจทำาครั้งละ 90 ตัวอย่าง ในเวลา 2 อยากทาลายท้งหลัง ก็ต้องใช้การตรวจท่รวดเร็วและแม่นยำา เพื่อ และเล้าป่วย รวมถึงท่มีประวัติเชื่อมโยงภายใน 15 วันก่อนท่สุกร โดยจะไม่เข้าไปปฏิบัติงานในเล้าสุกรอย่างเด็ดขาด


ชั่วโมง ระยะเวลา 3-4 วันก็ทราบผลทั้งหมด แต่ถ้าเป็นเครื่อง PCR คัดคอกที่มีปัญหาและคอกที่เสี่ยงสูงออก หากทำาได้ดี ก็อาจเสียหาย แสดงอาการป่วย งดกิจกรรมทั้งหมด ภายในฟาร์ม เหลือแค่การให้ ปัจจัยสู่ความสำาเร็จของการทำาลาย (Depopulation) ประกอบ
ขนาดเล็ก ที่ฟาร์มนิยมใช้ เพราะเป็นระบบอัตโนมัติ มีศักยภาพใน เพียง 3-4 คอก ส่วนแนวทางการเลือกรูปแบบการทำาลายสุกรที่พบ อาหารสุกร ระงับการสั่งอาหาร วัสดุ อุปกรณ์มาส่งที่ฟาร์ม ทำาการ ด้วย การประเมินความเสี่ยงการติดต่อโรค ว่ามีความเสี่ยงมากหรือ

การตรวจ 20-30 ตัวอย่างต่อรอบ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ถ้ามี 1,000 โรคระบาด ตรวจโรคแบบปูพรม โดยต้องแยกคนเก็บตัวอย่าง ระหว่างเล้าท่สงสัย น้อย การตรวจพบโรคได้ทันทีในพื้นท่ การเฝ้าระวังโรคให้เน้น




ตัวอย่างก็อาจทาไม่ทัน หลายฟาร์มจึงตรวจไปก่อน แต่หยุดกิจกรรม 1. การทำาลายสุกรทั้งหมด (Total depopulation) ใช้ในกรณี ออกจากเล้าปกติ เตรียมอุปกรณ์สำาหรับการทาลายสุกร และกาหนด การติดตามการตาย/ป่วยในทุกวัน หากมี อาการป่วยผิดปกติหรือ


นานไม่ได้ หลังจากตรวจเล้าคลอดเสร็จ ก็พบการป่วยท่เล้าผสม ท่ตรวจพบโรคช้า การกระจายแพร่ไปหลายจุด สุกรแสดงอาการป่วย พื้นที่ในการฝังสุกร ตายเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุให้รีบเก็บตัวอย่างตรวจทันที การ



ส่งผลให้การคัดทิ้งตัวป่วยตัวเสี่ยง (partial depopulation) ทำาลาย หลายคอก สุกรแสดงอาการป่วยมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ หรือตาย จากนั้น ทาการสืบสวนย้อนกลับไปยังฟาร์มหรือเล้าสุกรท่เก่ยว รู้เร็ว ทำาลายกลุ่มติดเชื้อทันที และสุกรมีความเชื่อมโยงน้อย การ



ไม่สำาเร็จ หยุดโรคไม่ได้ มากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ มีกิจกรรมเชื่อมโยง ในกรณีท่มีโรงเรือน เนื่องในช่วงระยะ 15 วันก่อนสุกรแสดงอาการป่วยเพื่อทาการ แยกคนเลี้ยงและอุปกรณ์ตั้งแต่แรก และการหยุดกิจกรรมท่จะแพร ่
นอกจากนั้น ไม่ควรเก็บตัวอย่างตรวจทั้งฟาร์ม โดยโรคยังไม่ หลายหลัง ไม่ได้คนเลี้ยงหรืออุปกรณ์แต่ละหลัง รางน้ำา รางอาหาร ตรวจโรค ระงับกิจกรรมและการเคลื่อนย้าย โดยอาจเกิดจาก ใช้รถ โรค ไม่มีการย้ายสุกรข้ามเล้า การย้ายฝากลูก การตอน การตัดเขี้ยว
ระบาดเข้ามาในพื้นที่ (รัศมี 5 กิโลเมตร) เพราะเป็นการสิ้นเปลือง ส้วมน้ำา พื้นที่เลี้ยง เชื่อมถึงกัน มีการปูพรหมวัคซีน รับซื้อลูกสุกร สุกรมีชีวิต สุกรป่วย หรือ มูลสุกรร่วมกัน ใช้รถขนส่ง การตัดหาง ตัดเบอร์หู การเจาะเลือด


ต้นทุนเกินไป ควรเลือกสุ่มตัวอย่างจากจุดเสี่ยง เช่น เล้าขาย หรือ 2. การทำาลายสุกรบางส่วน (Partial depopulation) ใช้กรณี อาหารรวมกัน ใช้นาเชื้อสุกรร่วมกน หรือมีการใช้พ่อพันธุ์เร่ผสม การทำาลายสุกร หากทำาแล้วยังกำาจัดตัวป่วยได้ไม่หมด มักจะ












โรงเชือด แต่ถ้าโรคเข้ามาในรัศมี 1-3 กิโลเมตร ก็ต้องตรวจเข้มงวด ทตรวจพบโรคได้เร็ว ยังไม่กระจายไปหลายจุด สุกรแสดงอาการป่วย มีกิจกรรมท่ใช้พนักงาน/คนงานร่วมกัน หรือมีบุคคลไปเข้าฟาร์มหรือ พบภายใน 14 วน กต้องทาการคัดทงอก รอบ ซ่งหากทาได้ดี

ขึ้น โดยอาจดักแมลงวันหน้าฟาร์มมาตรวจ ซึ่งหากผลเป็นบวก ก็ ในคอกเดียว ยังไม่กระจายไปหลายจุด หรือตรวจไม่พบเชื้อในคอก เล้าหมูร่วมกัน ใช้แหล่งน้ำาสาธารณะร่วมกัน อยู่บริเวณใกล้กัน โดย ส่วนใหญ่โรคจะจบภายใน 2-3 รอบ หลังจากนั้น ถ้าไม่พบตัวป่วย
แสดงว่า มีฟาร์มใกล้เคียงเกิดโรค แต่ถ้าโรคเข้าฟาร์มแล้ว ก็ต้อง อื่นๆ สุกรแสดงอาการป่วยน้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ หรือตายน้อย ไม่มีมุ้งกันแมลงวัน รวมถึงมีสัตว์พาหะภายในบริเวณนั้น เช่น หนู เพิ่มอีก ภายใน 30 วัน ก็ถือว่า ฟาร์มรอดจากปัญหาของโรคแล้ว
ตรวจ 100 เปอร์เซ็นต์ หยุดกิจกรรมภายในฟาร์มทั้งหมด จัดการ กว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีกิจกรรมเชื่อมโยงกันในโรงเรือนแต่ละหลัง สุนัข แมว ฟาร์มทั้งหมดที่ย้ายหมูออกไป แต่ยังจำาเป็นต้องป้องกันโรคให้ดี สังเกตอาการ เก็บตัวอย่างถูกต้อง


ทำาลายตัวป่วยตัวเสี่ยงอย่างรวดเร็ว แยกคนเลี้ยงและอุปกรณ์แต่ละหลัง รางน้ำา รางอาหาร ส้วมน้ำา แยก ขั้นตอนการปฏิบัติงานในการทาลายสุกร เริ่มจาก ตรวจสอบ ส่งตรวจให้เร็ว แจ้งเฉพาะผ้เก่ยวข้อง ไม่ขายสุกรสงสัยติดเชื้อ




หากโรค ASF อยู่ในประเทศ ฟาร์มท่รอดต้องมีโปรแกรม จากกัน ไม่มีการทำาวัคซีนหรือให้ยาแบบปูพรหม ว่าสุกรจุดใดติดเชื้อ หรือแสดงอาการบ้าง จากอาการและผลการ ควบคุมการเคล่อนย้าย และทาลายสุกรอย่างถูกต้อง เพื่อควบคุมโรค

การตรวจท่มีประสิทธิภาพ และไม่เป็นการเพิ่มต้นทุนจนเกินไป ตรวจโรค ตรวจสอบสุกรที่มีจุดเชื่อมโยงกัน ใช้รางน้ำาเดียวกัน อยู่ อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป...
18 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 19

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE


กรมปศุสัตว์...


บุกทลายแหล่งขายวัคซีน ASF “เถื่อน”





นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว เปิดเผยว่า
โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) เป็นโรคประจำาถ่นแถบทวีป

แอฟริกา โดยเริ่มแพร่ระบาดไปที่ทวีปยุโรป จนมาถึงรัสเซียใช้เวลา
ไม่ถึง 1 ปี ต่อมาถึงประเทศจีน เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2561 กรม
ปศุสัตว์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้กองสารวัตรและกักกันเข้มงวด

ตรวจสอบการนาเข้าสินค้าปศุสัตว์จากจีนและประเทศในกลุ่มเส่ยง

อาทิ ประเทศเวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า ฯลฯ สินค้าส่วนใหญ่
ที่พบเป็นผลิตภัณฑ์จากสุกรที่ติดมากับสัมภาระ (Hand carry) การ
ตรวจสอบมีท้ง การตรวจตลอด 24 ชั่วโมง ทางด่านกักกันสัตว ์




ทาอากาศยาน ทาเรอ และชายแดนประเทศเพือนบ้าน กมพูชา


สปป.ลาว พม่า มาเลเซีย ให้กำาลังพล เจ้าหน้าที่สลับสับเปลี่ยนกัน
จากทั่วประเทศ
ผลการดำาเนินการตรวจยึด ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561-ปัจจุบัน
รวมกว่า 6,482 ตัวอย่าง แบ่งเป็น ด่านกักกันสัตว์สนามบิน 1,007
ตัวอย่าง และ ด่านกักกันสัตว์ชายแดน 5,475 ตัวอย่าง โดยกรม
ปศุสัตว์ได้ดำาเนินการ ตรวจสินค้าจากสัมภาระ เพื่อค้นหา/สินค้า/

ผลิตภัณฑ์ ท่มาจากสุกร ในหลายพื้นท่จากจุดตรวจสนามบิน/ท่าเรือ/

ชายแดน และเข้มงวดตรวจสอบการเคลอนย้ายภายในประเทศ ได้แก



1) ตรวจสอบในอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ 2) ตรวจสุขภาพ
สัตว์ 3) พ่นนายาฆ่าเชื้อรถท่ใช้ในการขนส่งสัตว์และซากสัตว์



4) บันทึกข้อมูลการตรวจสอบในระบบ e-Movement พร้อมท้ง

เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย การตรวจห้องเย็น จับกุมโรงฆ่าสัตว์
เถ่อน ประสานหน่วยงานอ่นร่วมหาข่าว ลาดตระเวน เฝ้าระวัง


ป้องกัน ปราบปรามการลักลอบนำาเข้าสัตว์-ซากสัตว์จากต่างประเทศ
ที่สำาคัญ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever)
หรือ โรค ASF ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันและยาที่ใช้
ในการรักษา ส่งผลให้อาจมีผ้ฉวยโอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าวผลิต

วัคซีนที่กระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่มีประสิทธิภาพใน
การป้องกันเป็นสาเหตุให้มีการระบาดของโรคออกไปอย่างกว้างขวาง
และเชื้อเกิดการ กลายพันธุ์ ดังเช่น กรณีมีข่าวฟาร์มเอกชนใน
ต่างประเทศพบเชื้อ ASF สายพันธุ์ใหม่ 2 สายพันธุ์ โดยแยกได้
จากสุกรป่วยที่แสดงอาการของโรค ASF การพบไวรัสสายพันธ์ใหม่
นี้เกิดจากเกษตรกรได้แอบใช้วัคซีนเชื้อเป็นที่ยังไม่อนุญาตให้ใช้ โดย
เกษตรกรคาดหวังผลว่า จะสามารถป้องกันโรคนี้ได้ แต่ผลกลับพบ
ว่าสุกรท่ฉีดวัคซีนชนิดนี้ จะป่วยโทรม และแสดงอาการของโรค ASF

ในสุกรตามมา ทำาให้ยากต่อการควบคุม เชื้อไวรัสสายพันธ์ใหม่อาจ
แพร่ระบาดไปทั่วโลกได้ โดยผ่านเนื้อหมูที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสดังกล่าว
หรือจากการแอบลักลอบนำาเข้าวัคซีนเชื้อเป็นชนิดนี้


20 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE


กรมปศุสัตว์... วัคซีนที่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนตำารับยา ซึ่งลักลอบนำาเข้ามา
ในประเทศไทย นอกจากจะไม่มีการพิสูจน์ประสิทธิภาพในการป้องกัน
บุกทลายแหล่งขายวัคซีน ASF “เถื่อน” โรคแล้ว อาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคท่เกิดจากวัคซีน


ดังกล่าวทาให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจด้านปศุสัตว์ได้ ดังน้น

หากเกษตรกรมีความต้องการใช้วัคซีนท่ถูกต้อง ควรดูรายละเอียด

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว เปิดเผยว่า ที่ระบุในฉลาก โดยเฉพาะเลขทะเบียนตำารับยา วันผลิต วันหมดอายุ



โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) เป็นโรคประจำาถ่นแถบทวีป วิธีการใช้ วิธีการเก็บรักษา หากมีข้อสงสัยเก่ยวกับการใช้วัคซีน หรือ

แอฟริกา โดยเริ่มแพร่ระบาดไปที่ทวีปยุโรป จนมาถึงรัสเซียใช้เวลา พบเบาะแสการกระทาความผิด สามารถแจ้งผ่านแอปพลิเคชั่น DLD
ไม่ถึง 1 ปี ต่อมาถึงประเทศจีน เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2561 กรม 4.0 หรือเบอร์โทรศัพท์ 0 2501 3473 ต่อ 112, 0 2159 0406
ปศุสัตว์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้กองสารวัตรและกักกันเข้มงวด ต่อ 104



ตรวจสอบการนาเข้าสินค้าปศุสัตว์จากจีนและประเทศในกลุ่มเส่ยง ทั้งนี้ โรคนี้ไม่ติดต่อหรือมีอันตรายต่อมนุษย์ แต่เป็นโรคติดต่อ ขณะท่ บริษัท Navetco ประเทศเวียดนาม ได้ทาจดหมาย



อาทิ ประเทศเวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า ฯลฯ สินค้าส่วนใหญ่ รุนแรงเฉพาะสุกร ผลทาให้สุกร ท่ติดเชื้อตายเป็นจำานวนมาก เวียนออกมาว่า ถึง ลูกค้าของเรา ในปัจจุบันเนื่องจากสถานการณ์


ที่พบเป็นผลิตภัณฑ์จากสุกรที่ติดมากับสัมภาระ (Hand carry) การ ดังน้น เกษตรกรผ้เลี้ยงสุกรในบางประเทศพยายามป้องกันสุกรโดย การแพร่ระบาดของโรค ASF ที่ซับซ้อน ได้ก่อให้เกิดความสูญเสีย




ตรวจสอบมีท้ง การตรวจตลอด 24 ชั่วโมง ทางด่านกักกันสัตว ์ การลักลอบใช้วัคซีนเชื้อเป็น ท่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งอาจก่อให ้ อย่างใหญ่หลวงต่อเกษตรกรผ้เล้ยงสุกร ใช้ประโยชน์จากสถานการณ ์


ทาอากาศยาน ทาเรอ และชายแดนประเทศเพือนบ้าน กมพูชา เกิดการติดเชื้อ โดยบังเอิญจากวัคซีน สำาหรับประเทศไทยยังไม่มีการ นี้ องค์กรและบุคคลจำานวนหนึ่งได้ดำาเนินกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต



สปป.ลาว พม่า มาเลเซีย ให้กำาลังพล เจ้าหน้าที่สลับสับเปลี่ยนกัน อนุญาตให้ผลิต นำาเข้า ขาย และใช้ วัคซีนเพื่อป้องกันโรคอหิวาต์ และปลอมแปลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของเกษตรกรผ้เลี้ยง

จากทั่วประเทศ แอฟริกาสุกร โดยการผลิต นำาเข้า ขาย ยาและวัคซีน ซึ่งไม่ผ่าน สุกรรวมถึงทำาให้ บริษัท NAVETCO เสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนั้น เพื่อ

ผลการดำาเนินการตรวจยึด ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561-ปัจจุบัน การรับรองจากสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีความ ปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภค NAVETCO จึงขอประกาศ ดังนี้
รวมกว่า 6,482 ตัวอย่าง แบ่งเป็น ด่านกักกันสัตว์สนามบิน 1,007 ผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 จึงขอแจ้งเตือน มายังเกษตรกร โดยได้รับอนุญาตจากกรมอนามัยสัตว์ - กระทรวงเกษตรและการ


ตัวอย่าง และ ด่านกักกันสัตว์ชายแดน 5,475 ตัวอย่าง โดยกรม อย่าหลงเชื่อนาวัคซีนท่ผิดกฎหมายมาใช้ในฟาร์ม ซึ่งอาจส่งผลให้สุกร พัฒนาชนบท (MARD) ตั้งแต่ปี 2563 NA VETCO ได้ร่วมมือกับ


ปศุสัตว์ได้ดำาเนินการ ตรวจสินค้าจากสัมภาระ เพื่อค้นหา/สินค้า/ ท่ฉีดอาจติดเชื้อไวรัสจากวัคซีนดังกล่าวและทาให้เกิดการระบาด ของ บริการวิจัยการเกษตร (ARS) - กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา
ผลิตภัณฑ์ ท่มาจากสุกร ในหลายพื้นท่จากจุดตรวจสนามบิน/ท่าเรือ/ โรคในประเทศในวงกว้างได้ (USDA) เก่ยวกับการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคอหิวาต์




ชายแดน และเข้มงวดตรวจสอบการเคลอนย้ายภายในประเทศ ได้แก ล่าสุด อธิบดีกรมปศุสัตว์ สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจกรมปศุสัตว์ แอฟริกาในสุกร (ASF) จนถึงปัจจุบัน โครงการได้บรรลุผลที่สำาคัญ


1) ตรวจสอบในอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ 2) ตรวจสุขภาพ ประกอบด้วยกองควบคุมอาหารและยาสัตว์ กองสารวัตรและกักกัน และอยูในขันตอนการทดสอบภาคสนาม เพื่อเป็นพืนฐานในการลง



สัตว์ 3) พ่นนายาฆ่าเชื้อรถท่ใช้ในการขนส่งสัตว์และซากสัตว์ สำานักงานปศุสัตว์จังหวัดยโสธร ร่วมกับสำานักงานสาธารณสุขจังหวัด ทะเบียนเพื่อการผลิตและการจำาหน่าย



4) บันทึกข้อมูลการตรวจสอบในระบบ e-Movement พร้อมท้ง ยโสธร และสถานีตำารวจภูธรเมืองยโสธร เข้าตรวจค้นและจับกุม อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผ่านสื่อและกิจกรรมใน




เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย การตรวจห้องเย็น จับกุมโรงฆ่าสัตว์ ร้านขายยาสัตว์แห่งหน่งในพื้นท่อาเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ตลาดสัตวแพทย์ เราพบว่า ร้านขายยาสัตวแพทย์ในประเทศและ

เถ่อน ประสานหน่วยงานอ่นร่วมหาข่าว ลาดตระเวน เฝ้าระวัง ภายหลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการประกาศขายวัคซีนโรคอหิวาต์ ต่างประเทศบางแห่ง (ประเทศไทย) โฆษณาและขายวัคซีน ASF

ป้องกัน ปราบปรามการลักลอบนำาเข้าสัตว์-ซากสัตว์จากต่างประเทศ แอฟริกาในสุกร (ASF) และวัคซีนลัมปี สกิน ผ่านทางสื่อออนไลน์ ปลอมท่มีชื่อและเคร่องหมายการค้าของบริษัท NAVETCO เพื่อ



ที่สำาคัญ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever) พบของกลางการกระทาผิดเป็นวัคซีนโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ชี้แจงสิ่งนี้ บริษัท NAVETCO ยืนยันว่าเราไม่ได้จัดหาวัคซีน ASF

หรือ โรค ASF ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันและยาที่ใช้ (ASF) และวัคซีนลัมปี สกิน ท่ไม่มีทะเบียนตำารับยา จำานวน 5 ขนาดใดๆ ออกสู่ตลาด นอกเหนือจากปริมาณท่จำากัดสำาหรับกรม

ในการรักษา ส่งผลให้อาจมีผ้ฉวยโอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าวผลิต รายการ มูลค่ากว่าแสนบาท ดังนี้ อนามัยสัตว์ เพื่อใช้ในการทดสอบทดลองภาคสนาม

วัคซีนที่กระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่มีประสิทธิภาพใน 1. วัคซีนป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จำานวน ด้วยเหตุนี้ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและวัคซีน ASF ที่กำาลัง
การป้องกันเป็นสาเหตุให้มีการระบาดของโรคออกไปอย่างกว้างขวาง 27 ขวด ขวดละ 20 โดส มูลค่า 72,900 บาท (ราคาขวดละ 2,700 จำาหน่ายภายใต้ ชื่อบริษัทของ NAVETCO จึงเป็นของปลอมโดย

และเชื้อเกิดการ กลายพันธุ์ ดังเช่น กรณีมีข่าวฟาร์มเอกชนใน บาท) สิ้นเชิง น่เป็นการละเมิดกฎหมายและส่งผลเสียร้ายแรงต่อผล
ต่างประเทศพบเชื้อ ASF สายพันธุ์ใหม่ 2 สายพันธุ์ โดยแยกได้ 2. วัคซีนโรคลัมปี สกิน จำานวน 4 ยี่ห้อ รวม 252 โดส ประโยชน์ของเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำาหรับการทำาฟาร์มสุกร



จากสุกรป่วยที่แสดงอาการของโรค ASF การพบไวรัสสายพันธ์ใหม่ มูลค่า 27,200 บาท ตลอดจนความเสียหายต่อชือเสียงของบรษท NAVETCO เราขอ


นี้เกิดจากเกษตรกรได้แอบใช้วัคซีนเชื้อเป็นที่ยังไม่อนุญาตให้ใช้ โดย โดยได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานี ขอบคุณข้อมูลของคุณเก่ยวกับองค์กรและบุคคลท่ทาวัคซีน ASF





เกษตรกรคาดหวังผลว่า จะสามารถป้องกันโรคนี้ได้ แต่ผลกลับพบ ตำารวจภธรเมืองยโสธร ในข้อหาขายยาทมิได้ขึนทะเบียนตำารับยา ปลอมแปลงชื่อ NAVETCO

ว่าสุกรท่ฉีดวัคซีนชนิดนี้ จะป่วยโทรม และแสดงอาการของโรค ASF ตามมาตรา 72(4) แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มีโทษจำาคุก หากต้องการทราบข้อมูลเฉพาะและรายละเอียดเก่ยวกับ


ในสุกรตามมา ทำาให้ยากต่อการควบคุม เชื้อไวรัสสายพันธ์ใหม่อาจ ไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำาทั้งปรับนอกจาก ผลิตภัณฑ์ท่หมุนเวียนของเรา โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ : www.

แพร่ระบาดไปทั่วโลกได้ โดยผ่านเนื้อหมูที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสดังกล่าว นี้ยังเข้าข่ายการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการ navetco.com.vn; หรืออีเมล : [email protected]
หรือจากการแอบลักลอบนำาเข้าวัคซีนเชื้อเป็นชนิดนี้ กระทำาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560
20 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 21

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE










































วัคซีน ASF


ณ วันนี้...ทางออก หรือ ทางตัน?










ที่ผ่านมา โรคแอฟริกันสวายฟีเวอร์ หรือ โรค ASF : African ลักลอบใช้วคซีนเถ่อน หลังตรวจพบเชือไวรสทอยู่ระหว่างการพัฒนา


swine fever ในหลายประเทศเอเชีย ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่าง วัคซีนในฟาร์ม โดยสุกรท่ได้รับวัคซีนเถ่อนมีอาการป่วยเร้อรัง ถือ

รุนแรง ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนท่ใช้ในการป้องกันหรือรักษา ถึงแม้มี เป็นส่งท่ทางการจีนกังวล เพราะอาจเป็นสาเหตุท่ทาให้ไวรัสกลาย







ข่าวออกมาว่า บางประเทศพัฒนาสำาเร็จ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลทาง พันธุ์ จึงกาหนดบทลงโทษกับผ้ลักลอบผลิตและจำาหน่ายอย่างรุนแรง

วิชาการยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย ขณะท่กรมปศุสัตว ์ นอกจากนั้น ยังได้พัฒนาการทำา ASF Free Zone เพื่อให้สุกรที่
ได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงและผลเสียของการลักลอบใช้วัคซีน และ ผลิตในเขตปลอดโรคเคลื่อนย้ายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ได้ โดยเริ่มตั้งแต่

จากข้อมูลการศึกษาพัฒนาวคซีนลาสุดยังอยูในขั้นตอนการพัฒนา วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา


ดังนั้น จึงไม่ควรนำามาใช้ เพราะวัคซีน ASF ณ วันนี้ อาจไม่ใช่ ขณะที่ เวียดนาม เป็นอีกประเทศที่ได้รับผลกระทบจาก ASF

ทางออก แต่เป็นทางตัน อย่างรุนแรง ดังนั้น เวียดนามจึงจัดทาแผนควบคุมโรคตั้งแต่ ปี
สพ.ญ.ดร.เมตตา เมฆานนท Animal Health Consultant 2563-2568 และมีการทดสอบวัคซีนท่เร่มพัฒนามาตั้งแต่เดือน



เปิดเผยว่า สถานการณ์ระบาดของโรค ASF ของ FAO ในทวีป ธันวาคม ปี 2563 โดย บริษัท Navetco ซึ่งได้ไวรัสที่ใช้ในการผลิต
เอเชียพบการระบาด 16 ประเทศ ล่าสุดมีรายงานที่ภูฎานในเดือน มาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลการทดสอบห้องปฏิบัติการอยู่ในเกณฑ์ดี
พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนไทยยังคงไม่มีรายงานการระบาด โดยอุบัติ แต่ยังต้องติดตามผลการทดสอบในภาคสนาม และหากสาเร็จก็ต้องมี



การณ์ของโรคในทวีปเอเชียพบคร้งแรกท่ประเทศจีน ในวันท่ 3 การขึ้นทะเบียน เพื่อผลิตออกมาใช้ในเชิงอุตสาหกรรมต่อไป ไม่ใช่

สิงหาคม 2561 หรือกว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งจีนได้รับความเสียหายอย่าง อ้างอิงจากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการเท่านั้น
รุนแรง เนื่องจากเป็นประเทศผู้ผลิตสุกรอันดับ 1 ของโลก มีสุกรถูก ฟิลิปปินส์ เป็นอีกประเทศท่มีการวิจัยพัฒนาวัคซีน โดย


ทำาลายจำานวนมาก แต่จีนก็พัฒนาการควบคุมโรค จนกระท่ง กระทรวงเกษตร ได้ร่วมกับ บริษัท ผู้ผลิตวัคซีนจากอเมริกา เปิด

สถานการณ์ดีขึ้น ความเสียหายลดลง แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาการ รับสมัครฟาร์มเข้าร่วมทดสอบเป็นจำานวน 10 ฟาร์ม เร่มการทดลอง
22 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE





วคซีน เมื่อนาไปใช้ก็พบอาการดังกล่าวเช่นกน ต่อมาในปี 2550 พบ
การระบาดของโรค ASF ในยุโรปอีกครั้ง ก็มีความพยายามพัฒนา
วัคซีน ASF อีกครั้ง แต่ไม่ประสบความสำาเร็จ เพราะขาดเงินทุน

เนื่องจากสุกรท่เป็นโรคน้ยังมีไม่มาก ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน จนกระท่ง ั



ปี 2561 เมื่อโรคเข้าจีนและแพรระบาดไปท่วเอเชีย คิดเป็นประชากร
สุกรกว่าครึ่งโลก จำาเป็นต้องใช้ นักวิจัยจากยุโรป อเมริกา และจีน
จึงเร่งพัฒนาวัคซีน ทำาให้ 2-3 ปีที่ผ่านมา การวิจัยวัคซีนพัฒนาไป
อย่างรวดเร็ว
สำาหรับการศึกษาวิจัยวัคซีน ASF ปัจจุบัน ได้ข้อสรุปว่า วัคซีน
พื้นฐาน เช่น เชื้อตายกับสารสื่อ (Adjuvant) ยังไม่มีประสิทธิภาพ
ในการต่อสู้กับไวรัส ASF ในเซลล์ได้ เพราะกระตุ้นได้เพียงแอนติบอดี้
(Antibody) เท่านั้น ไม่สามารถกระตุ้น CTL หรือ T cell ได้ และ

เทคโนโลยีของสารส่อวันนี้ยังไม่พอสำาหรับ ASF ขณะท่การพัฒนา

วัคซีนเชื้อเป็น LAV-Live Attenuated Vaccine ได้พัฒนาเป็นเชื้อ
ตัดยีน (Gene) ออก โดยมีเป้าหมายหายีนที่ตัดออกแล้วยังกระตุ้น








ภมิคุมกนได้ดีและมีความปลอดภย ไม่กออาการเรอรง หรอกอโรค


ซึ่งหากสาเร็จ วัคซีนเชื้อเป็น จะช่วยเหลือประเทศท่มีการติดเชื้อ




โดยเฉพาะในบริเวณท่มีการระบาดได้ แต่จุดอ่อนของวัคซีนน้ คือ
คุ้มครองได้เฉพาะเสตรนเชื้อท่ตรงกับวัคซีน และแยกไม่ได้ว่า

ภูมิคุ้มกันที่ตรวจได้มาจากการทำาวัคซีนหรือการติดเชื้อ จึงไม่เหมาะ
วัคซีน ASF กบเขตทไม่มีการระบาด คล้ายกบวัคซีนป้องกนโรคอหวาต์สุกร






(CSF) ที่ในเอเชียใช้วัคซีนเชื้อเป็น แต่ในยุโรปและอเมริกาไม่ใช้
ณ วันนี้...ทางออก หรือ ทางตัน? มาตั้งแต่เดือนเมษายน และคาดว่า ผลการใช้ในภาคสนามน่าจะออก ั ขณะที่ประเทศที่ยังไม่มีโรค ควรเน้นการใช้ระบบไบโอซีเคียวริตี้



ป้องกนโรค รวมกบพิจารณาวัคซีนเทคโนโลยีขันสูง เช่น Subunit



มาเร็วๆ น้ ถือเป็นอีกประเทศท่นาไวรัสวัคซีนจากอเมริกามาทดสอบ vaccine ที่สามารถพัฒนาเป็น DIVA (Differentiate Infected from


ที่ผ่านมา โรคแอฟริกันสวายฟีเวอร์ หรือ โรค ASF : African ลักลอบใช้วคซีนเถ่อน หลังตรวจพบเชือไวรสทอยู่ระหว่างการพัฒนา ในภาคสนาม Vaccinated Animals) ได้ แต่ตอนนี้วัคซีนเชื้อเป็นก็ยังไม่ได้วัคซีน






swine fever ในหลายประเทศเอเชีย ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่าง วัคซีนในฟาร์ม โดยสุกรท่ได้รับวัคซีนเถ่อนมีอาการป่วยเร้อรัง ถือ อย่างไรก็ดี ต้องทาความเข้าใจก่อนว่า วัคซีนไม่ใช่ยา การ ท่ตัดยีนแล้วนำาไปทดลองในภาคสนามแล้วปลอดภัยเลย ดังนั้น








รุนแรง ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนท่ใช้ในการป้องกันหรือรักษา ถึงแม้มี เป็นส่งท่ทางการจีนกังวล เพราะอาจเป็นสาเหตุท่ทาให้ไวรัสกลาย พัฒนาวัคซีนต้องคำานึง 2 ประเด็นหลัก ก่อนการได้รับอนุมัติให้ใช้ได้ การทำา DIVA subunit ยังต้องอาศัยการพัฒนาอีกนาน




ข่าวออกมาว่า บางประเทศพัฒนาสำาเร็จ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลทาง พันธุ์ จึงกาหนดบทลงโทษกับผ้ลักลอบผลิตและจำาหน่ายอย่างรุนแรง คือ มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคที่ระบุ หลังให้กับสัตว์แล้วทิ้งไว้ นอกจากนน การพัฒนาวตซีนยังมีความแตกต่างกนในแต่ละ



วิชาการยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย ขณะท่กรมปศุสัตว ์ นอกจากนั้น ยังได้พัฒนาการทำา ASF Free Zone เพื่อให้สุกรที่ ระยะหนึ่งก็มีภูมิคุ้มกัน หากเกิดการติดเชื้อแล้วสัตว์ไม่ป่วย ไม่ตาย ภูมิภาค ตัวอย่างเช่น ยุโรปสุกรส่วนใหญ่เล้ยงในระบบฟาร์มปิดท ่ ี

ได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงและผลเสียของการลักลอบใช้วัคซีน และ ผลิตในเขตปลอดโรคเคลื่อนย้ายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ได้ โดยเริ่มตั้งแต่ และต้องมีความปลอดภัย เมื่อให้สัตว์แล้วไม่ป่วยไม่ตายจากวัคซีน ป้องกันโรคได้ดีอยู่แล้ว ปัญหาจึงพบในหมูป่าเป็นหลัก การไล่ฉีดคง

จากข้อมูลการศึกษาพัฒนาวคซีนลาสุดยังอยูในขั้นตอนการพัฒนา วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยในช่วงแรกที่มีการระบาดของโรค ASF จากแอฟริกาไปยังยุโรป ไม่สะดวก จึงต้องพัฒนาเป็นวัคซีนแบบกิน โดยต้องเป็นวัคซีนเชื้อ






ดังนั้น จึงไม่ควรนำามาใช้ เพราะวัคซีน ASF ณ วันนี้ อาจไม่ใช่ ขณะที่ เวียดนาม เป็นอีกประเทศที่ได้รับผลกระทบจาก ASF ประมาณปี 2503 ได้มีการพัฒนาวัคซีนเชื้อเป็นด้วยการทาไวรสอ่อน เป็นเพื่อให้มีการแพร่เชื้อจากตัวท่กินไปยังหมูป่าตัวอ่นๆ ซึ่งงานวิจัย


ทางออก แต่เป็นทางตัน อย่างรุนแรง ดังนั้น เวียดนามจึงจัดทาแผนควบคุมโรคตั้งแต่ ปี กำาลังลง ฉีดให้กับสุกรในฟาร์มท่โปรตุเกสและสเปนท่มีการเลี้ยง วัคซีนสาหรับหมูป่า ในยุโรป Baltic state สเปนใช้ strain Lv17/





สพ.ญ.ดร.เมตตา เมฆานนท Animal Health Consultant 2563-2568 และมีการทดสอบวัคซีนท่เร่มพัฒนามาตั้งแต่เดือน ค่อนข้างมาก พบว่า ภายในระยะเวลาไม่ก่เดือน เกิดการระบาดหนัก WB/Rie1 ท่แยกจากหมูป่า ทาให้อ่อนลง มาให้หมูป่ากิน ในการ




เปิดเผยว่า สถานการณ์ระบาดของโรค ASF ของ FAO ในทวีป ธันวาคม ปี 2563 โดย บริษัท Navetco ซึ่งได้ไวรัสที่ใช้ในการผลิต ขึ้น สุกรมีอาการป่วยเรื้อรัง ไม่ตาย ข้อขาบวม ลูกสุกรอ่อนแอ และ ทดลองในห้องปฏิบัติการ และหาหมูอ่นมาสัมผัสหมูท่กินวัคซีนเข้าไป






เอเชียพบการระบาด 16 ประเทศ ล่าสุดมีรายงานที่ภูฎานในเดือน มาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลการทดสอบห้องปฏิบัติการอยู่ในเกณฑ์ดี ต้องคัดทง ยุโรปจึงระงับการใช้วคซีนทนท และหันมาเน้นการทา แต่เรื่องที่ยังไม่สมบูรณ์ คือ 1. เรายังไม่รู้ว่าเชื้อ Lv17/WB/



พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนไทยยังคงไม่มีรายงานการระบาด โดยอุบัติ แต่ยังต้องติดตามผลการทดสอบในภาคสนาม และหากสาเร็จก็ต้องมี ระบบไบโอซีเคียวริตี้ ร่วมกับ การตรวจและทาลายสัตว์ป่วย ควบคุม Rie1 จะคงอยู่และแพร่ต่อไปยังหมูป่าท่มาสัมผัส ได้นานแค่ไหน



การณ์ของโรคในทวีปเอเชียพบคร้งแรกท่ประเทศจีน ในวันท่ 3 การขึ้นทะเบียน เพื่อผลิตออกมาใช้ในเชิงอุตสาหกรรมต่อไป ไม่ใช่ การเคลื่อนย้ายเป็นเวลากว่า 10 ปี สเปนและโปรตุเกสก็ปลอดจาก การซ้ำาวัคซีนควรทำาเมื่อไร 2. ความมั่นคงทางพันธุกรรม (Genetic
สิงหาคม 2561 หรือกว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งจีนได้รับความเสียหายอย่าง อ้างอิงจากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการเท่านั้น โรค ASF โดยไม่ต้องใช้วัคซีน เรียกว่า Spanish Model stability) ของเชื้อ Lv17/WB/Rie1 เมื่อต้องผ่านจากหมูตัวหนึ่ง


รุนแรง เนื่องจากเป็นประเทศผู้ผลิตสุกรอันดับ 1 ของโลก มีสุกรถูก ฟิลิปปินส์ เป็นอีกประเทศท่มีการวิจัยพัฒนาวัคซีน โดย อาการข้างเคียงจากการใช้วัคซีนเชื้อเป็น คือ อาการเรื้อรัง มี ไปยังหมูตัวต่อไป (หลายๆ passages) จะเปลยนแปลงอย่างไร




ทำาลายจำานวนมาก แต่จีนก็พัฒนาการควบคุมโรค จนกระท่ง กระทรวงเกษตร ได้ร่วมกับ บริษัท ผู้ผลิตวัคซีนจากอเมริกา เปิด ลักษณะข้ออักเสบ มีเน้อตายท่ข้อ ซึ่งตรงกับฟาร์มท่ลักลอบใช้วัคซีน 3. ความปลอดภัยของเชื้อ Lv17/WB/Rie1 ซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อเป็นที่




สถานการณ์ดีขึ้น ความเสียหายลดลง แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาการ รับสมัครฟาร์มเข้าร่วมทดสอบเป็นจำานวน 10 ฟาร์ม เร่มการทดลอง เถ่อนในจีน ท่ใช้ไวรัสไปตัดยีนบางส่วนออกไปแล้วนามาผลิตเป็น ทำาให้อ่อนฤทธิ์ลง เมื่อมีการให้ในขนาดสูงเกินไป (overdose) หรือ

22 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 23

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE




ท่ใช้ในการผลิตวัคซีนมาทาการพัฒนาในเชิงอุตสาหกรรม แต่ไม่มี
รายละเอียดการศึกษา การผลิต ตลอดจนวิธีการเพิ่มจำานวนไวรัสให้
ได้ปริมาณมากๆ โดยไวรัสไม่เปลี่ยนแปลงออกมา จึงเป็นเหตุให้

สหรัฐอเมริกาทาโครงการทดสอบวัคซีนร่วมกับฟิลิปปินส์อีก 1
โครงการ
นอกจากน้นยังศึกษาต่อด้วยการทา oro-nasal โดยให้วัคซีน


ด้วยการฉีดเข้ากล้าม ทางจมูกและโคนลิ้น เทียบกับกล่มควบคุม และ

ให้เชื้อ ASF กับสุกรทุกกลุ่ม พบว่า กลุ่มควบคุมตายทั้งหมดภายใน






6 วัน หลังใหเชื้อ ส่วนอก 2 กลมทได้รับวคซีนมีภาวะติดเชือใน


กระแสเลือดต่ำาๆ ภายในช่วง 21 วัน หลังให้เชื้อ แต่กลุ่มที่ให้ทาง


จมูกและโคนล้นมีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดสั้นกว่ากลุ่มท่ทาวัคซีน


แบบฉีด จึงพัฒนาการนี้นาไปสู่การพัฒนาวัคซีนชนิดกินให้หมูป่า
เหมือนกับยุโรป แต่อย่างไรก็ตาม วัคซีนทั้งหมดยังอยู่ในช่วงทดลอง
และยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสำาเร็จ

การเพิมจำานวนเซลล์ไวรสใหมากขึน เพื่อผลตในเชิงอตสาหกรรม





จำาเป็นต้องหา Cell line ที่เหมาะสม ก็มีการศึกษาหลายตัว รวมถึง
การปรับตัวไวรัสด้วยการตัดแต่งจีนให้เหมาะกับ Cell line ด้วย แต่
ก็ต้องศึกษาต่อไปว่า หลังการตัดยีนเพิ่มแล้วเชื้อยังกระตุ้นการสร้าง
ภูมิคุ้มกันได้ดีหรือไม่ และมีความปลอดภัยเพียงใด
ด้านการวิจัยพัฒนาวัคซีน ASF ของจีน มีการทดสอบไวรัส
ตัดต่อยีนหลายตำาแหน่ง เพื่อมาผลิตเป็นวัคซีน ล่าสุดจากงานวิจัย
ของ Chen et.al., 2020, แห่ง Harbin Veterinary Research
Institute ได้นำาเชื้อ ASF มาตัดยีนออกไป 7 ตำาแหน่ง พบว่า มี


การให้ซ้าหลายคร้ง 4.ความทนทานของเชื้อต่อสิ่งแวดล้อม โดยวัคซีน ความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการคุ้มโรค หลังจากทา 6

ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัยและไม่ได้พัฒนาออกมาใช้ในเชิง passages ในตัวสุกร แต่การทำาวิจัยไวรัสหลายตัวก็ทำาให้เกิดความ
พาณิชย์ ผิดพลาด มีเชื้อบางตัวหลุดออกไปผลิตเป็นวัคซีนเถื่อนจำาหน่าย ซึ่ง
ด้านการศึกษาวิจัยในสหรัฐอเมริกา มีทีมวิจัยจาก Plum island บางตัวฉีดไปแล้วสุกรตาย มีอาการของโรค และแพร่เชื้อ
Animal research center ได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัย และสถาบันใน อย่างไรก็ดี ยังสิ่งไม่สมบูรณ์ คือ ปริมาณไวรัสที่ใช้ต่อการทำา
6
อเมริกา เลือกไวรัส Genotype 2 ที่เริ่มระบาดในยุโรป เมื่อปี 2550 วัคซีนให้ในระดับสูง 10 เมื่อให้ขนาดลดลง แม้ฉีด 2 ครั้ง ความ


ท่จอร์เจีย เรียกว่า ASF-Gเป็นเชื้อรุนแรงสูงท่ระบาดใน Georgia คุ้มโรคก็ไม่ดี ในการผลิตวัคซีนต้องผลิต antigen ให้พอ ผ้วิจัย


แม้อเมริกายังไม่มีการระบาดของ ASF แต่เน่องจากมีเชื้อ ASF เกบ ยังหา Cell line ที่เหมาะสมในการผลิตจำานวนมากไม่ได้ และการ


รกษาอยูท่เกาะ Plum โดยนำามาตัดต่อยีน เพิมจำานวน เลยงใน ทดลองต้องอยู่ในห้องปฏิบัติการที่มี Biosafety ใช้สุกรไม่ถึง 10 ตัว





primary cell macrophage เมื่อทำาออกมาแล้วก็ทำาการทดสอบ ได้ ถือเป็นปริมาณที่ค่อนข้างน้อย จึงบอกไม่ได้ว่า สรุปได้ทั้งหมด และ


ผลในห้องทดลองดีพอสมควร การทดลองความปลอดภัยท่ยังทาไปเพียง 6 รอบ (Passages)


แต่พบปัญหา เชื้อวัคซีนนี้หลังให้กับสุกรแม้ไม่มีอาการป่วย แต่ เท่านั้น จำาเป็นต้องศึกษาต่อไป อีกท้งจีนยังประสบปัญหาวัคซีนเถ่อน


มีภาวะ viremia นานถึง 28 วัน บางตัวมีไวรัสระดับสูงแม้ค่าเฉลี่ย ท่ผลิตออกมาแล้วกระจายไปหลายจุดในจีน ทาให้ทางการจีนเป็น




อยู่ในระดับต่า จึงเป็นปัญหาหากจะพัฒนาไปส่การใช้จริง ประกอบ กังวลว่า ทาออกมาเสร็จแล้วเชื้อกลายพันธุ์ จะทาอย่างไร จึงเดิน


กับ ข้อจำากัดของยุโรปและอเมริกา ท่กาหนดว่า นาวัคซีน CSF หน้าจับและลงโทษ เพื่อตัดปัญหาและป้องกันความเสี่ยง

FMD และ ASF เชื้อเป็นมาใช้ได้เลย จึงทดลองในฟาร์มจริงไม่ได้ กลุ่มเป็นวัคซีนเทคโนโลยีการผลิตสูง ทั้ง vectored vaccine
และก็มีคำาถามว่า หากผลิตเพิ่มจำานวนมากขึ้น จะมีการเปลี่ยนแปลง หรือ subunit vaccine ก็มีความพยายามดึงโปรตีนในไวรัส ASF
ทางพันธุกรรมไปจากเดิมหรือไม่ และการศึกษาการให้เชื้อ ASF ต้อง มาศึกษา เพื่อเป็นทางเลือกในการผลิตวัคซีน แต่หลังจากฉีดและให้
ใช้ biosafety ระดับสูง ถ้าจะหาคนทำาให้อาจต้องเป็นระดับรัฐต่อรัฐ เชื้อแล้วพบว่า ป้องกันโรคไม่ได้ ดังนั้น วัคซีนกลุ่มนี้ยังต้องใช้เวลา
และพูดคุยกันอย่างดี ซึ่งประเทศเวียดนามได้ขอ license เชื้อไวรัส ศึกษาวิจัยอีกนาน
24 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE


ท่ใช้ในการผลิตวัคซีนมาทาการพัฒนาในเชิงอุตสาหกรรม แต่ไม่มี กรณีประเทศท่ประกาศว่าติดเชื้อแล้วการส่งออกเป็นอย่างไร



รายละเอียดการศึกษา การผลิต ตลอดจนวิธีการเพิ่มจำานวนไวรัสให้ การจัดการเพื่อกาจัดโรคโดยใช้วัคซีน ยังไม่มีใครทำาได้เพราะยังไม่มี
ได้ปริมาณมากๆ โดยไวรัสไม่เปลี่ยนแปลงออกมา จึงเป็นเหตุให้ วัคซีนจริงๆ OIE มีข้อแนะนำา ให้ประเทศผู้ซื้อ ถ้าต้องการซื้อเนื้อ


สหรัฐอเมริกาทาโครงการทดสอบวัคซีนร่วมกับฟิลิปปินส์อีก 1 สุกรจากประเทศท่มี ASF ต้องเป็นเน้อท่มาจากเขตท่ไม่มีการระบาด




โครงการ มาอย่างน้อย 3 ปี (ตัวอยางต้องเป็นลบ) ระยะเวลาอาจเป็น 12

นอกจากน้นยังศึกษาต่อด้วยการทา oro-nasal โดยให้วัคซีน เดือน ถ้าเขตนั้นไม่มีเห็บเข้ามาร่วมการระบาดเลย โรงเชือดและ


ด้วยการฉีดเข้ากล้าม ทางจมูกและโคนลิ้น เทียบกับกล่มควบคุม และ โรงบรรจุต้องมีใบอนุญาต มีการตรวจสอบเชื้อท้งก่อนและหลังการฆ่า

ให้เชื้อ ASF กับสุกรทุกกลุ่ม พบว่า กลุ่มควบคุมตายทั้งหมดภายใน แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่ง่าย เพราะคนขายมีเยอะที่ยังไม่มีโรค เช่น ทวีป



6 วัน หลังใหเชื้อ ส่วนอก 2 กลมทได้รับวคซีนมีภาวะติดเชือใน อเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซื้อจากประเทศท่ปลอด น่าจะสบายใจกว่า







กระแสเลือดต่ำาๆ ภายในช่วง 21 วัน หลังให้เชื้อ แต่กลุ่มที่ให้ทาง ดูตัวอย่างรัสเซีย ตอนนี้แม้จะผลิตหมูได้มากในต้นทุนท่ถูก (35-38


จมูกและโคนล้นมีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดสั้นกว่ากลุ่มท่ทาวัคซีน บาท/กก) ก็ยังไม่อาจขายให้ใครได้ดังใจ (นอกจากเวียดนาม)

แบบฉีด จึงพัฒนาการนี้นาไปสู่การพัฒนาวัคซีนชนิดกินให้หมูป่า ดังนั้น ประเทศไทยเราต้องเตรียมตัวการอย่างไร เร่มจาก


เหมือนกับยุโรป แต่อย่างไรก็ตาม วัคซีนทั้งหมดยังอยู่ในช่วงทดลอง ภาครัฐ ต้องวางแนวทางการป้องกันโรคระดับรัฐ ซึ่งได้มีการดำาเนิน

และยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสำาเร็จ การไปแล้ว ทา contingency contingency plan แผนฉุกเฉิน
การเพิมจำานวนเซลล์ไวรสใหมากขึน เพื่อผลตในเชิงอตสาหกรรม ในเคสที่เกิดการระบาด เตรียม Industrial Continuity Plan แผน









จำาเป็นต้องหา Cell line ที่เหมาะสม ก็มีการศึกษาหลายตัว รวมถึง ต่อเนืองของอตสาหกรรมในแงความปลอดภยทางอาหารของผบรโภค




การปรับตัวไวรัสด้วยการตัดแต่งจีนให้เหมาะกับ Cell line ด้วย แต่ และการอย่รอดของอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกร เพื่อให้การเลี้ยงสุกร


ก็ต้องศึกษาต่อไปว่า หลังการตัดยีนเพิ่มแล้วเชื้อยังกระตุ้นการสร้าง ในประเทศสามารถไปต่อได้ เช่น จัดกล่ม free zone หรือ
ภูมิคุ้มกันได้ดีหรือไม่ และมีความปลอดภัยเพียงใด compartment เพื่อให้สามารถหาแหล่งสุกรป้อนตลาดได้ พลิกแผน
ด้านการวิจัยพัฒนาวัคซีน ASF ของจีน มีการทดสอบไวรัส การส่งออก เช่น จากสุกรมีชีวิตเป็นผลิตภัณฑ์สุกรปลอดเชื้อ เตรียม
ตัดต่อยีนหลายตำาแหน่ง เพื่อมาผลิตเป็นวัคซีน ล่าสุดจากงานวิจัย เอกสารตามความต้องการของประเทศคู้ค้า วางนโยบายและศึกษา


ของ Chen et.al., 2020, แห่ง Harbin Veterinary Research แนวทางปฏิบัติเร่องวัคซีนหรือยาต้านไวรัส ถ้ามีผลิตภัณฑ์ท่ได้รับ
Institute ได้นำาเชื้อ ASF มาตัดยีนออกไป 7 ตำาแหน่ง พบว่า มี เมื่อเกิดโรค ASF OIE แนะนำาว่า ต้องเน้นที่ Antibody ของ การรับรอง เพื่อการใช้หรือไม่ใช้อย่างถูกต้องเหมาะสมในอนาคต

การให้ซ้าหลายคร้ง 4.ความทนทานของเชื้อต่อสิ่งแวดล้อม โดยวัคซีน ความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการคุ้มโรค หลังจากทา 6 ASF เพราะยังไม่มีวัคซีน หากตรวจพบ Antibody ในตัวสุกร ภาคเอกชน ในฐานะนักธุรกิจ เตรียม Business Continuity


ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัยและไม่ได้พัฒนาออกมาใช้ในเชิง passages ในตัวสุกร แต่การทำาวิจัยไวรัสหลายตัวก็ทำาให้เกิดความ แสดงว่า มีการติดเชื้อ ถือเป็นส่วนสำาคัญในการตรวจโรคทั้ง แบบกึ่ง Plan แผนต่อเนื่องของธุรกิจเพื่อการอยู่รอดให้ธุรกิจสามารถไปต่อได้






พาณิชย์ ผิดพลาด มีเชื้อบางตัวหลุดออกไปผลิตเป็นวัคซีนเถื่อนจำาหน่าย ซึ่ง เฉียบพลัน และเร้อรัง ทอาจไม่แสดงอาการหรือการติดเชือท่มีความ ในระยะยาว เช่น การทา compartment จากฟาร์ม-โรงเชือด-



ด้านการศึกษาวิจัยในสหรัฐอเมริกา มีทีมวิจัยจาก Plum island บางตัวฉีดไปแล้วสุกรตาย มีอาการของโรค และแพร่เชื้อ รุนแรงต่า ส่วนสุกรท่ได้รับเชื้อรุนแรง มักตายกอน Antibody โรงแปรรูป-ส่งออก วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สาเร็จรูปจากสุกรให ้


Animal research center ได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัย และสถาบันใน อย่างไรก็ดี ยังสิ่งไม่สมบูรณ์ คือ ปริมาณไวรัสที่ใช้ต่อการทำา จะขึ้น และเชื้อ ASF ยังไม่มี Neutralising Antibody ดังน้น ตลาดท้งภายในและต่างประเทศยอมรับ ศึกษากฎเกณฑ์ทางการค้า
6
อเมริกา เลือกไวรัส Genotype 2 ที่เริ่มระบาดในยุโรป เมื่อปี 2550 วัคซีนให้ในระดับสูง 10 เมื่อให้ขนาดลดลง แม้ฉีด 2 ครั้ง ความ การทำา Hyperimmune serum จากสุกรติดเชื้อ ซึ่งในประเทศเพื่อน ระหว่างประเทศร่วมกับภาครัฐ เพื่อการเตรียมการอย่างเหมาะสม


ท่จอร์เจีย เรียกว่า ASF-Gเป็นเชื้อรุนแรงสูงท่ระบาดใน Georgia คุ้มโรคก็ไม่ดี ในการผลิตวัคซีนต้องผลิต antigen ให้พอ ผ้วิจัย บ้าน ได้ทดลองมาแล้ว ปรากฎว่า สุกรไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว จึง เตรียมเงินทุนให้พร้อม ในฐานะฟาร์ม/เกษตรกร นอกจากการบอก





แม้อเมริกายังไม่มีการระบาดของ ASF แต่เน่องจากมีเชื้อ ASF เกบ ยังหา Cell line ที่เหมาะสมในการผลิตจำานวนมากไม่ได้ และการ ”อย่าหาทำา” โดยเด็ดขาด ให้ป้องกันตัวด้วย Biosecurity สิ่งท่ต้องทาก่อนเร่องใดๆ คือ “ต้องหา






รกษาอยูท่เกาะ Plum โดยนำามาตัดต่อยีน เพิมจำานวน เลยงใน ทดลองต้องอยู่ในห้องปฏิบัติการที่มี Biosafety ใช้สุกรไม่ถึง 10 ตัว สำาหรับประเทศไทยยังคงสถานะปลอดโรค แสดงว่า สุกรไทย จุดอ่อนของฟาร์มเราให้พบ ยอมรับและพยายามกาจัดจุดอ่อนของ


primary cell macrophage เมื่อทำาออกมาแล้วก็ทำาการทดสอบ ได้ ถือเป็นปริมาณที่ค่อนข้างน้อย จึงบอกไม่ได้ว่า สรุปได้ทั้งหมด และ จะมีภูมิคุ้มกันต่อโรค ASF ไม่ได้ หากนำาวัคซีนเชื้อเป็นมาใช้ แล้ว ฟาร์มให้ตรงจุด”


ผลในห้องทดลองดีพอสมควร การทดลองความปลอดภัยท่ยังทาไปเพียง 6 รอบ (Passages) เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด มีภูมิคุ้มกัน แล้วประเทศคู่ค้าตรวจ “วัคซีน ASF ณ วันนี้ ยังไม่มีวัคซีน และวัคซีนไม่ใช่ทางลัด



แต่พบปัญหา เชื้อวัคซีนนี้หลังให้กับสุกรแม้ไม่มีอาการป่วย แต่ เท่านั้น จำาเป็นต้องศึกษาต่อไป อีกท้งจีนยังประสบปัญหาวัคซีนเถ่อน พบจะยอมรับได้หรือไม่ เพราะภูมิคุ้มกันจากการทาวัคซีนเชื้อเป็น ที่จะกำาจัดโรคไปจากฟาร์ม หากคิดใช้ทางลัดนี้ก็อาจไปเจอทางตันได้




มีภาวะ viremia นานถึง 28 วัน บางตัวมีไวรัสระดับสูงแม้ค่าเฉลี่ย ท่ผลิตออกมาแล้วกระจายไปหลายจุดในจีน ทาให้ทางการจีนเป็น แยกออกจากภูมิคุ้มกันจากการกิดติดเชื้อไม่ได้ ซึ่งลูกค้าจะยอมรับได้ ส่วนฟาร์ม หากมองว่า เกินกาลังจะยกระดับไบโอซีเคียวริตี้ท่ต้อง





อยู่ในระดับต่า จึงเป็นปัญหาหากจะพัฒนาไปส่การใช้จริง ประกอบ กังวลว่า ทาออกมาเสร็จแล้วเชื้อกลายพันธุ์ จะทาอย่างไร จึงเดิน หรือไม่ ต่างจากประเทศที่ติดเชื้อแล้ว อย่างในจีน เวียดนาม หรือ ลงทุนค่อนข้างมาก หรืออยู่ในจุดท่มีความเส่ยงสูง หรือสีแดงเข้ม


กับ ข้อจำากัดของยุโรปและอเมริกา ท่กาหนดว่า นาวัคซีน CSF หน้าจับและลงโทษ เพื่อตัดปัญหาและป้องกันความเสี่ยง ฟิลิปปินส์ ต้องการลดการสูญเสียสุกร จึงพยายามวิจัยหาอะไรก็ตาม ก็อาจต้องหาทางลงสวยๆ แล้วพักก่อน รักษาเงินทุนไว้ก่อน เพ่อ







FMD และ ASF เชื้อเป็นมาใช้ได้เลย จึงทดลองในฟาร์มจริงไม่ได้ กลุ่มเป็นวัคซีนเทคโนโลยีการผลิตสูง ทั้ง vectored vaccine ท่จะช่วยให้สุกรมีชีวิตอยู่เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ ขณะท่ไทย รอเวลาท่เหมาะสม หรือภาวะการณ์ท่ดี ก็เข้ามาแก้มือในเวลาท ี ่
และก็มีคำาถามว่า หากผลิตเพิ่มจำานวนมากขึ้น จะมีการเปลี่ยนแปลง หรือ subunit vaccine ก็มีความพยายามดึงโปรตีนในไวรัส ASF ต้องพึ่งการส่งออก เพราะเราผลิตได้เกินความต้องการในประเทศ เหมาะสมได้ ที่สำาคัญ อย่าดื้อ ประเมินตัวเองให้ดี เพราะโรค ASF

ทางพันธุกรรมไปจากเดิมหรือไม่ และการศึกษาการให้เชื้อ ASF ต้อง มาศึกษา เพื่อเป็นทางเลือกในการผลิตวัคซีน แต่หลังจากฉีดและให้ การพบเชื้อไวรัสหรือไตเตอร์ในสุกรท่ส่งออกแม้จะมาจากวัคซีนก ็ นี้ไม่มีทางลัดแน่นอน” สพ.ญ.ดร.เมตตาฝากทิ้งท้าย
ใช้ biosafety ระดับสูง ถ้าจะหาคนทำาให้อาจต้องเป็นระดับรัฐต่อรัฐ เชื้อแล้วพบว่า ป้องกันโรคไม่ได้ ดังนั้น วัคซีนกลุ่มนี้ยังต้องใช้เวลา ไม่อาจยอมรับได้ในเวลานี้ เราต้องหาคาตอบก่อนว่า คู่ค้าหรือลูกค้า
และพูดคุยกันอย่างดี ซึ่งประเทศเวียดนามได้ขอ license เชื้อไวรัส ศึกษาวิจัยอีกนาน เราจะว่าอย่างไร อย่าคิดเองเออเอง
24 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 25

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE










































ปศุสัตว์...


ดันฟาร์มสุกรสู่การเลี้ยงเชิงปราณีต





กระแสสังคมในปัจจุบันกาลังให้ความใส่ใจกับสวัสดิภาพสัตว ์ และมาตรการต่างๆ เพื่อยกระดับให้ฟาร์มสุกรมีการพัฒนาจากเดิม
มากขึ้น โดยมีการเรียกร้องให้ภาคการเล้ยงสุกรปฏิบัติต่อสุกรอย่างมี ดังนี้

มนุษยธรรม รวมทั้งความตระหนักถึงปัญหาเชื้อดื้อยาที่เกิดจากการ 1. การยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ของฟาร์มสุกร


ใช้ยาปฏิชีวนะท่ไม่เหมาะสมของภาคส่วนต่างๆ ซึ่งเชื้อดื้อยาน้ถือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสาคัญกับสวัสดิภาพสัตว ์

เป็นภัยคุกคามท่ต้องเฝ้าระวังระดับโลก ส่งผลให้การผลิตสุกรใน ในการทาฟาร์มปศุสัตว์ทุกชนิด ในส่วนของการผลิตสุกรได้มอบให ้



ประเทศไทยต้องมีการปรับตัวให้เหมาะสมตามบริบทสังคมยุคนี้ สำานกงานคณะกรรมการมาตรฐานสนค้าเกษตรและอาหารแหงชาติ


นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า (มกอช.) ดำาเนินการจัดตั้งกรรมการวิชาการท่มาจากกรมปศุสัตว์


กรมปศุสัตว์ในฐานะหน่วยงานท่กากับดูแลและสนับสนุนเกษตรกร สถาบันการศึกษาและภาคเกษตรกร เพื่อยกร่างมาตรฐานสินค้า


ฟาร์มสุกร ได้ประสานองค์ความร้และความร่วมมือระหว่างรัฐและ เกษตร เรื่อง หลักการด้านสวัสดิภาพสัตว์ : ระบบการผลิตสุกร ซึ่ง


เอกชน ช่วยให้ฟาร์มสุกรพัฒนารูปแบบการเล้ยงจากเดิมสู่การทา นำาต้นแบบตามมาตรฐานสากลขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่าง

ฟาร์มเชิงปราณีตให้มากขึ้นในทุกมิติ ท้งการปรับระบบความปลอดภัย ประเทศ (World Organisation for Animal Health ; OIE) มา
ทางชีวภาพเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันโรคสุกรต่างๆ เข้าสู่ฟาร์ม ดังจะเห็น ปรับปรุงให้เหมาะสมกับประเทศไทย ซึ่งภายใต้หลักการน้เน้นให้ฟาร์ม


จากความสาเร็จในการป้องกันโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกรของ มีการจัดการให้สุกรได้รับการดูแลที่ดีตามหลักอิสระ 5 ประการ โดย
ประเทศไทย ทำาให้สุกรจากไทยยังผลิตและส่งออกไปบางประเทศได้ สามารถประเมินความเหมาะสมได้โดยการประเมินผลลัพธ์ของการ
แต่การป้องกันและควบคุมโรคเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอท่จะ จัดการ (outcome-base measurable) ผ่านตัวชี้วัดด้านสวัสดิภาพ

ตอบโจทย์สังคมในปัจจุบัน ต้องมีการพัฒนาการจัดการสวัสดิภาพ สัตว์ (Animal welfare indicators)


สุกรให้ดีขึ้น รวมทั้งการควบคุมและลดการใช้ยาปฎิชีวนะในฟาร์มให้ ขณะน้มาตรฐานนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการจัดทาเพื่อประกาศ

เหมาะสม ถือเป็นประเด็นสำาคัญท่กรมปศุสัตว์เร่งผลักดันมาตรฐาน เป็นมาตรฐานทั่วไปในอนาคต ซึ่งจะเป็นมาตรฐานที่ให้ฟาร์มสุกรได้
26 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE


มาตรการควบคุมการใช้ยาโดยเฉพาะอย่างยิ่งยาปฏิชีวนะ โดยมีการ


ออกกฎหมายเพือควบคุมอาหารสตวทผสมยา (Medicated feed)




โดยการจะผลิตอาหารสัตว์ท่ผสมยาได้ โรงงานน้นจะต้องได้รับการ

รับรอง GMP และต้องมีสัตวแพทย์ผ้ควบคุมระบบการผลิตอาหาร


สัตว์ท่ผสมยาซึ่งได้รับการอบรมจากกรมปศุสัตว์ จึงจะสามารถจด
แจ้งเป็นโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่ผสมยาได้

ท้งนี้ การจะผลิตอาหารสัตว์ท่ผสมยาต้องผลิตภายใต้ใบส่ง



ใช้ยา (Prescription) ของสัตวแพทย์ผ้ควบคุมฟาร์มเล้ยงสัตว์ ปี

2562 มีรายงานผ่านระบบ ICT ของกรมปศุสัตว์ พบว่ามีการผสม

ยาปฏิชีวนะลงในอาหารสัตว์ ณ โรงงานอาหารสัตว์ท่ผสมยาเพียง
1.8% ของสัดส่วนการผลิตอาหารสัตว์ท้งหมด การใช้ยาในฟาร์มเลี้ยง

สัตว์ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ข้อปฏิบัติการควบคุมการใช้ยาสัตว์:

มาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ. 9032-2552 ซึ่งเป็นข้อกาหนดหน่ง ึ
ของฟาร์ม GAP โดยควบคุมการใช้ยาให้ถูกต้อง ตรงตามฉลากยา
ท่ระบุไว้ตามท่ได้รับการขึ้นทะเบียนยาจาก อย. และมีระยะหยุดยา


ก่อนส่งโรงฆ่าสัตว์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

นอกจากน้ กรมปศุสัตว์ได้มีโครงการเพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ยา
ปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผล ได้แก่ การลดใช้ยาปฏิชีวนะ การเลี้ยงสัตว์
ปลอดการใช้ยาปฏิชีวนะ (Raised without Antibiotics: RWA) รวม
ทั้งส่งเสริมการใช้สมุนไพร และโพรไบโอติกส์ ส่งผลให้ภาคการเลี้ยง

ปศุสัตว์... ศึกษาและปรับรูปแบบการเลี้ยงให้สอดคล้องตามหลักการสากลต่อไป สัตว์ท่มีเป้าประสงค์หลักตามแผนชาติให้ลดการใช้ยาในสัตว์ลด 30%
ภายในปี 2564 ซึ่งพบว่าข้อมูลปริมาณการใช้ยาต้านจุลชีพในสัตว์

อีกท้งจะถูกใช้เป็นแนวทางประกอบการตรวจประเมินมาตรฐานการ


ดันฟาร์มสุกรสู่การเลี้ยงเชิงปราณีต ปฏิบัติทางการเกษตรท่ดีสาหรับฟาร์มสุกร หรือ GAP ฟาร์มสุกร ปี 2562 เทียบกับปี 2560 มีการใช้ยาต้านจุลชีพในสัตว์ลดลงถึง
49% ควบคูไปกับระบบการเฝาระวงเชือดือยาของกรมปศุสัตวเพือ







ซึ่งถูกปรับปรุงขึ้นใหม่จากมาตรฐานฉบับเดิมซึ่งออกตั้งแต่ปี พ.ศ.

2558 โดยฉบบเดิมเป็นมาตรฐานทวไป ภาคสมัครใจ แต่สำาหรบฉบับ ทราบสถานะของเชื้อดื้อยา เพื่อลดและชะลอการดื้อยาท่เป็นภัย






กระแสสังคมในปัจจุบันกาลังให้ความใส่ใจกับสวัสดิภาพสัตว ์ และมาตรการต่างๆ เพื่อยกระดับให้ฟาร์มสุกรมีการพัฒนาจากเดิม ที่กำาลังปรับปรุงน้นจะถูกยกระดับเป็นมาตรฐานบังคับสำาหรับฟาร์ม คุกคามทั้งในคนและสัตว์ต่อไป


มากขึ้น โดยมีการเรียกร้องให้ภาคการเล้ยงสุกรปฏิบัติต่อสุกรอย่างมี ดังนี้ สุกรท่มีสุกรขุนตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป หรือมีแม่พันธุ์สุกรตั้งแต่ 95 ท้งน้ รวมไปถึงการเฝ้าระวังเชื้อดื้อยาในส่งแวดล้อมโดยกรม



มนุษยธรรม รวมทั้งความตระหนักถึงปัญหาเชื้อดื้อยาที่เกิดจากการ 1. การยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ของฟาร์มสุกร ตัวขึ้นไป ซึ่งกาลังอยู่ระหว่างพิจารณาก่อนประกาศบังคับใช้ เมื่อมี ปศุสัตว์ดำาเนินการร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักด้านนี้คือ กรม


ใช้ยาปฏิชีวนะท่ไม่เหมาะสมของภาคส่วนต่างๆ ซึ่งเชื้อดื้อยาน้ถือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสาคัญกับสวัสดิภาพสัตว ์ การบังคับใช้คาดว่าจะมีการยกระดับสวัสดิภาพสุกรในฟาร์มท่บังคับ ควบคุมมลพิษ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งประเทศไทยได้มี







เป็นภัยคุกคามท่ต้องเฝ้าระวังระดับโลก ส่งผลให้การผลิตสุกรใน ในการทาฟาร์มปศุสัตว์ทุกชนิด ในส่วนของการผลิตสุกรได้มอบให ้ ทั่วประเทศ เพราะเป็นหัวข้อที่สำาคัญประเด็นหนึ่งที่ต้องตรวจรับรอง กรอบการทางานร่วมกันในการเฝ้าระวังเชื้อดื้อยาท่สอดคล้องกับ



ประเทศไทยต้องมีการปรับตัวให้เหมาะสมตามบริบทสังคมยุคนี้ สำานกงานคณะกรรมการมาตรฐานสนค้าเกษตรและอาหารแหงชาติ GAP แนวทางขององค์การระหวางประเทศ ทง Tripartite (FAO/OIE/






นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า (มกอช.) ดำาเนินการจัดตั้งกรรมการวิชาการท่มาจากกรมปศุสัตว์ 2. การจัดการปัญหาเชื้อดื้อยาตามหลักสุขภาพหน่งเดียว (One WHO) และ UNEP นาไปส่การขยายผลจัดทาร่างแผนชาติเชื้อดื้อยา


กรมปศุสัตว์ในฐานะหน่วยงานท่กากับดูแลและสนับสนุนเกษตรกร สถาบันการศึกษาและภาคเกษตรกร เพื่อยกร่างมาตรฐานสินค้า health approach) เพื่อสู่สมดุลสุขภาพ คน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ในอีก 5 ปี (ปี 2566-2570) อีกท้งในทุกปีของเดือนพฤศจิกายน




ฟาร์มสุกร ได้ประสานองค์ความร้และความร่วมมือระหว่างรัฐและ เกษตร เรื่อง หลักการด้านสวัสดิภาพสัตว์ : ระบบการผลิตสุกร ซึ่ง กรมปศุสัตว์ได้ตระหนักถึงภัยร้ายของเชื้อดื้อยา โดยได้ขับ ประเทศไทยภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วนได้ร่วมรณรงค์

เอกชน ช่วยให้ฟาร์มสุกรพัฒนารูปแบบการเล้ยงจากเดิมสู่การทา นำาต้นแบบตามมาตรฐานสากลขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่าง เคล่อนร่วมกับภาคส่วนท่เก่ยวข้องตามแผนระดับชาติ คือ “แผน สัปดาห์ความตระหนักร้เร่องยาต้านจุลชีพโลก (World Antibiotic






ฟาร์มเชิงปราณีตให้มากขึ้นในทุกมิติ ท้งการปรับระบบความปลอดภัย ประเทศ (World Organisation for Animal Health ; OIE) มา ยุทธศาสตร์การจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพประเทศไทย พ.ศ. 2560- Awareness Week: WAAW) ซ่งปีนี้จัดขึ้นในวันท่ 18-24 พฤศจิกายน






ทางชีวภาพเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันโรคสุกรต่างๆ เข้าสู่ฟาร์ม ดังจะเห็น ปรับปรุงให้เหมาะสมกับประเทศไทย ซึ่งภายใต้หลักการน้เน้นให้ฟาร์ม 2564” ท่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันท่ 17 สิงหาคม 2564 กรมปศุสัตว์เช่อมั่นว่าการดำาเนินการภายใต้ความเข้าใจใน

จากความสาเร็จในการป้องกันโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกรของ มีการจัดการให้สุกรได้รับการดูแลที่ดีตามหลักอิสระ 5 ประการ โดย 2559 โดยให้ภาคปศุสัตว์ควบคุมการใช้ “ยาปฏิชีวนะ”อย่างสมเหตุผล ปัญหาของเชื้อดื้อยา ความตระหนักร้ของการใช้ยาอย่างสมเหตุผล




ประเทศไทย ทำาให้สุกรจากไทยยังผลิตและส่งออกไปบางประเทศได้ สามารถประเมินความเหมาะสมได้โดยการประเมินผลลัพธ์ของการ คือให้มีการใช้ยาเท่าท่จำาเป็นต้องใช้ เพื่อรักษาสุขภาพของสัตว์ท ี ่ การบังคับใช้มาตรฐาน GAP ฟาร์มสุกรท่ควบคุมการใช้ยาโดย

แต่การป้องกันและควบคุมโรคเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอท่จะ จัดการ (outcome-base measurable) ผ่านตัวชี้วัดด้านสวัสดิภาพ เจ็บป่วย ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal welfare) และยังคงไว้ สัตวแพทย์ รวมถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะนาไปสู่ความสำาเร็จ

ตอบโจทย์สังคมในปัจจุบัน ต้องมีการพัฒนาการจัดการสวัสดิภาพ สัตว์ (Animal welfare indicators) ซึ่งประสิทธิภาพของการผลิตปศุสัตว์ให้เพียงพอต่อการบริโภค รวม ในการจัดการปัญหาเชื้อดื้อยาและเกิดความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรม



สุกรให้ดีขึ้น รวมทั้งการควบคุมและลดการใช้ยาปฎิชีวนะในฟาร์มให้ ขณะน้มาตรฐานนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการจัดทาเพื่อประกาศ ถึงไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผ้เล้ยงสัตว์ ภายใต้การกากับดูแลของ การผลิตสุกรภายใต้หลักความปลอดภัยอาหาร (Food Safety) และ


เหมาะสม ถือเป็นประเด็นสำาคัญท่กรมปศุสัตว์เร่งผลักดันมาตรฐาน เป็นมาตรฐานทั่วไปในอนาคต ซึ่งจะเป็นมาตรฐานที่ให้ฟาร์มสุกรได้ สัตวแพทย์ที่ดูแลสุขภาพของสัตว์ในฟาร์มเหล่านั้น กรมปศุสัตว์จึงมี หลักการสุขภาพหนึ่งเดียว (One health approach) ต่อไป...

26 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 27

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE










































CPF ป้องเชื้อดื้อย�


หนุนสุขภ�พหนึ่งเดียว เพื่อผู้บริโภคปลอดภัย




บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำากัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ซีพีเอฟจะเน้น “การป้องกัน” ไม่ให้เกิดโรค หรือผลกระทบต่อ
ให้ความสำาคัญต่อความปลอดภัยทางอาหารตลอดห่วงโซ่การผลิต สุกร โดยฟาร์มสุกรทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ของบริษัทเป็นฟาร์มระบบ


เป็นท่มาของการคิดค้นเทคโนโลยีและวิจัยพัฒนานวัตกรรมจำานวน ปิดตามมาตรฐานกรมปศุสัตว และวางระบบการบริหารจัดการฟาร์ม



มาก ตั้งแต่ ต้นน้ำาไปจนถึงปลายนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฟาร์ม ในระดับไบโอซีเคียวริตี พร้อมท้งมีการให้วัคซีนแก่ลูกสุกรตามระยะ




เลี้ยงสัตว์ท่ดำาเนินการตามมาตรฐานหลักสวัสดิภาพสัตว์และการใช้ เวลาท่สัตวแพทย์ผ้ควบคุมฟาร์มเป็นผ้กาหนด ส่งผลให้ปัญหาเจ็บป่วย


ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุสมผล เพื่อป้องกันเชื้อดื้อยา ให้ผู้บริโภคได้ เกิดขึ้นน้อยมาก ทั้งนี้ หลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal welfare) ระบุ


รับประทานอาหารที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง ว่าหากพบสัตว์ป่วยต้องให้การรักษา ดังน้น ในกรณีท่พบการเจ็บป่วย
น.สพ.ดำ�เนิน จตุรวิธวงศ์ รองกรรมก�รผู้จัดก�รอ�วุโส ด้�น แล้วเท่าน้นจึงจะมีการให้ยา โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของสัตวแพทย์


วิช�ก�รธุรกิจสุกร ซีพีเอฟ เปิดเผยว�กระบวนก�รเลี้ยงสุกรของ ผู้ควบคุมฟาร์มอย่างเข้มงวด และมีการเว้นระยะหยุดยาที่เหนือกว่า
ซีพีเอฟดำาเนินการภายใต้ความ มาตรฐานทั่วไป เพื่อป้องกันไม่ให้มีการตกค้างหรือส่งผลกระทบใดๆ
ปลอดภัยทางอาหาร มาตรฐาน ต่อผ้บริโภค ขณะเดียวกันเมื่อถึงโรงชำาแหละ สุกรจะถูกตรวจสอบซ้า ำ



สวัสดิภาพสัตว และการเฝ้าระวัง อีกคร้งว่าปราศจากสารตกค้างจริงๆ จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้ารับการ
การดื้อยาต้านจุลชีพภายใต้แนวคิด ชำาแหละ สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้อีกขั้นตอนหนึ่ง
สุขภาพหนึ่งเดียว (One Health) ซึ่ง สำาหรับความมุ่งมั่นในการป้องกันเชื้อดื้อยาน้น ซีพีเอฟได้



เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ระดับ ยกเลิกรายการยารักษาสัตว ท่อยู่ในกลุ่ม share-class antimicrobials





ชาติ เพือใหสัตวทเลียงมีสุขภาพทดี (ยาต้านจุลชีพท่ใช้ได้ท้งในคนและในสัตว์) ท่อาจส่งผลกระทบและเป็น








แข็งแรง ผบรโภคได้รบอาหารทดี ยาหลักตัวสุดท้ายที่ใช้รักษาโรคในคน เช่น โคลิสติน ออกจากระบบ




ปลอดภัย รวมถึงสิ่งแวดล้อมปลอดภัย การจัดซื้อทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อกันยาต้านจุลชีพที่สำาคัญไว้ใช้
น.สพ.ดำ�เนิน จตุรวิธวงศ์
28 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่�วส�รและส�ระสำ�หรับวงก�รเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE


โดย น.สพ.ดำ�เนิน จตุรวิธวงศ์ เปิดเผยต่อว่า ปัจจุบันฟาร์ม

สุกรท้งหมดของซีพีเอฟ ดำาเนินมาตรฐานฟาร์มตามแนวทางของกรม




ปศุสัตว และยกระดับส “ระบบไบโอซีเคียวริตี้” เข้มข้นเร่องการ

ป้องกันโรคระบาดสัตว เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเล้ยงสุกรปลอดโรค

อันจะส่งผลให้ได้เนื้อหมูอนามัยที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค


จากการท ซีพีเอฟให้ความสำาคัญกับอาหารปลอดภัยตลอด
ห่วงโซ่การผลิต โดยในขั้นตอนของการเล้ยงสุกร เป็นอีกข้อต่อท ี ่

สำาคัญของความปลอดภัยทางอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ
การป้องกันโรคระบาดสัตว โดยซีพีเอฟได้ยกระดับมาตรฐานฟาร์ม

สุกรเข้าส่ระบบไบโอซีเคียวริตี้แล้วท้งหมด แม้จะมีความยุ่งยากในการ


ดำาเนินการแต่สุดท้ายได้ประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อสุกรทุกตัวในฟาร์มมี
สุขภาพดีและปลอดโรค

มาตรฐานฟารมสุกรซีพีเอฟในระบบไบโอซีเคียวรตีเป็นระบบ



การป้องกันเชื้อโรคเข้าส่ฟาร์มทได้รบการยอมรบในระดับสากล ซึ่ง




ประกอบด้วย การเลี้ยงสุกรในโรงเรือนระบบปิด ป้องกันสัตว์พาหะ
ทั้งหนู นก แมลงต่างๆ โดยวตถดิบต่างๆ ที่นำามาใช้ภายในฟาร์ม


ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำา หรืออื่นๆ จะมีการตรวจสอบย้อนกลับไปถึง
แหล่งที่มา ซึ่งทุกฟาร์มจะรับจากแหล่งที่ปลอดภัยเท่านั้น ทั้งยังต้อง
ควบคุมรถขนส่งเข้า-ออกฟาร์มอย่างเข้มงวด รถทุกคัน-พนักงาน
ทุกคนต้องผ่านระบบฆ่าเชื้อ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคนหรือพาหนะนั้นๆ
CPF ป้องเชื้อดื้อย� จะไม่เป็นพาหะนำาเชื้อโรคเข้าสู่ฟาร์ม รวมถึงการกาหนดจุดส่งมอบ



สุกรท่แยกจากฟาร์ม ท้งนี้ไม่เพียงฟาร์มของบริษัทแต่ยังถ่ายทอด
หนุนสุขภ�พหนึ่งเดียว เพื่อผู้บริโภคปลอดภัย มาตรการการป้องกันโรคน้ให้กับเกษตรกรในคอนแทรคฟาร์มมิ่ง

ของบริษัทฯท่วประเทศครบทุกรายแล้วยืนยันได้ในความปลอดภัยของ


กับคน โดยในฟาร์มเล้ยงสัตว์จะมุ่งเน้นวิธี “ป้องกัน” ต่อไป ซึ่งจะ กระบวนการผลิตสุกรเพื่อส่งมอบอาหารที่ปลอดภัยสู่ผู้บริโภค
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำากัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ซีพีเอฟจะเน้น “การป้องกัน” ไม่ให้เกิดโรค หรือผลกระทบต่อ ช่วยลดปัญหาเชื้อดื้อยาได้ทั้งในสัตว์และในคนไปพร้อมกัน ขณะเดียวกัน ในสถานการณ์โควิด-19 ซีพีเอฟยังยกระดับ
ให้ความสำาคัญต่อความปลอดภัยทางอาหารตลอดห่วงโซ่การผลิต สุกร โดยฟาร์มสุกรทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ของบริษัทเป็นฟาร์มระบบ จากการดำาเนินการด้านการป้องกันผลกระทบใดๆ ต่อสัตว์และ การป้องกนโรคขันสงสุดใหแกพนักงานในฟารมทกคน ตั้งแต่การ







เป็นท่มาของการคิดค้นเทคโนโลยีและวิจัยพัฒนานวัตกรรมจำานวน ปิดตามมาตรฐานกรมปศุสัตว และวางระบบการบริหารจัดการฟาร์ม ดูแลสุขภาพสัตว์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เมื่อปีท่ผ่านมาซีพีเอฟ สำารวจและคัดกรองคนก่อนเข้าฟาร์ม การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย






มาก ตั้งแต่ ต้นน้ำาไปจนถึงปลายนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฟาร์ม ในระดับไบโอซีเคียวริตี พร้อมท้งมีการให้วัคซีนแก่ลูกสุกรตามระยะ เป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยทได้รบการปรับเล่อนชันมาตรฐาน มาตรการรักษาสุขอนามัย โดยพนักงานทุกคนท่เข้าฟาร์มต้อง









เลี้ยงสัตว์ท่ดำาเนินการตามมาตรฐานหลักสวัสดิภาพสัตว์และการใช้ เวลาท่สัตวแพทย์ผ้ควบคุมฟาร์มเป็นผ้กาหนด ส่งผลให้ปัญหาเจ็บป่วย สวัสดิภาพสัตว์ - Animal Welfare ขึ้นจาก Tier 4 สู่ Tier 3 ใน ผ่านการตรวจอุณหภูมิของร่างกาย จุ่มเท้าฆ่าเชื้อ สเปรย์มือด้วย



ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุสมผล เพื่อป้องกันเชื้อดื้อยา ให้ผู้บริโภคได้ เกิดขึ้นน้อยมาก ทั้งนี้ หลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal welfare) ระบุ รายงานเกณฑ์มาตรฐานทางธุรกิจตามหลักสวัสดิภาพสัตว (The แอลกอฮอล สวมหน้ากากอนามัย รณรงค์สร้างความตระหนัก



รับประทานอาหารที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง ว่าหากพบสัตว์ป่วยต้องให้การรักษา ดังน้น ในกรณีท่พบการเจ็บป่วย Business Benchmark on Farm Animal Welfare Report : ด้านสุขอนามัยส่วนบุคคลให้แก่พนักงาน หมั่นล้างมือด้วยน้า สบู่


น.สพ.ดำ�เนิน จตุรวิธวงศ์ รองกรรมก�รผู้จัดก�รอ�วุโส ด้�น แล้วเท่าน้นจึงจะมีการให้ยา โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของสัตวแพทย์ BBFAW) ขณะเดียวกัน บริษัทยังคิดค้นนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้าง แอลกอฮอล์ มาตรการรักษาความสะอาดโดยทำาความสะอาดพื้นที่ที่

วิช�ก�รธุรกิจสุกร ซีพีเอฟ เปิดเผยว�กระบวนก�รเลี้ยงสุกรของ ผู้ควบคุมฟาร์มอย่างเข้มงวด และมีการเว้นระยะหยุดยาที่เหนือกว่า สุขภาพแข็งแรงให้สุกรอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้โปรไบโอติกช่วยจัด มีการสัมผัสหรือใช้ร่วมกันด้วยน้ำายาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์ รวมทั้ง

ซีพีเอฟดำาเนินการภายใต้ความ มาตรฐานทั่วไป เพื่อป้องกันไม่ให้มีการตกค้างหรือส่งผลกระทบใดๆ สมดุลลำาไส้ ให้สัตว์มีสุขภาพดี ไม่ป่วย เมื่อไม่ป่วยก็ไม่มีการใช้ยา ทำาความสะอาดจุดสัมผัสร่วมต่างๆ ของพื้นท่และสิ่งของภายในฟาร์ม

ปลอดภัยทางอาหาร มาตรฐาน ต่อผ้บริโภค ขณะเดียวกันเมื่อถึงโรงชำาแหละ สุกรจะถูกตรวจสอบซ้า ใดๆ ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมเป็น “สุขภาพหนึ่งเดียว” ของท้งสัตว คน ทงกอนและหลังการใช้งาน ตลอดจนการฉีดวคซีนป้องกนโควิด-19









สวัสดิภาพสัตว และการเฝ้าระวัง อีกคร้งว่าปราศจากสารตกค้างจริงๆ จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้ารับการ และสิ่งแวดล้อม ให้พนักงานทุกคน


การดื้อยาต้านจุลชีพภายใต้แนวคิด ชำาแหละ สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้อีกขั้นตอนหนึ่ง พร้อมกันนี้ยัง ใช้มาตรฐานฟาร์มสุกร นำาระบบไบโอซีเคียวริตี้ “ลักษณะของฟ�ร์ม เป็นสถ�นท่อ�ก�ศถ�ยเท และไม่มีพนักง�น



สุขภาพหนึ่งเดียว (One Health) ซึ่ง สำาหรับความมุ่งมั่นในการป้องกันเชื้อดื้อยาน้น ซีพีเอฟได้ ท่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคสัตว์ต่างๆ ขณะเดียวกนยังยก จำ�นวนม�ก ดังนั้น ก�รจัดก�รเรื่องก�รเว้นระยะห่�งจึงทำ�ได้อย่�งมี



เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ระดับ ยกเลิกรายการยารักษาสัตว ท่อยู่ในกลุ่ม share-class antimicrobials ระดับการป้องกันโควิด-19 ให้พนักงานภายในฟาร์ม โดยวางระบบ ประสิทธิภ�พ เมื่อผนวกกับระบบไบโอซีเคียวริตี้ในฟ�ร์มม�ตรฐ�น

ชาติ เพือใหสัตวทเลียงมีสุขภาพทดี (ยาต้านจุลชีพท่ใช้ได้ท้งในคนและในสัตว์) ท่อาจส่งผลกระทบและเป็น บับเบิลแอนด์ซีลและฉีดวัคซีนให้ทุกคน ป้องเชื้อโควิดเข้าพื้นที่ฟาร์ม จึงมั่นใจได้ว�สุกรทุกตัวของซีพีเอฟมีคว�มแข็งแรง ปลอดโรคและ














แข็งแรง ผบรโภคได้รบอาหารทดี ยาหลักตัวสุดท้ายที่ใช้รักษาโรคในคน เช่น โคลิสติน ออกจากระบบ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงมั่นใจความปลอดภัยท้งสุกรและคนเล้ยง ผ้บริโภค ปลอดภัยต่อก�รบริโภค” น.สพ.ดำาเนินกล่าวทิ้งท้าย







ปลอดภัย รวมถึงสิ่งแวดล้อมปลอดภัย การจัดซื้อทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อกันยาต้านจุลชีพที่สำาคัญไว้ใช้ สามารถบริโภคได้หมูซีพีได้อย่างสบายใจ
น.สพ.ดำ�เนิน จตุรวิธวงศ์
28 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 29

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต
เตือนอย่าทิ้งสัตว์หรือซากสัตว์ในที่สาธารณะผิดกฎหมาย



นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว เปิดเผยว่า ไม่ทราบประวัติเข้าสู่ฟาร์มโดยเฉพาะจากพื้นที่ที่เคยมีการระบาดโรค
ถึงกรณีที่ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ มีผู้นำาสุกรมาทิ้งในที่สาธารณะจน ต่างๆ มาก่อน รวมทั้งการใช้วัคซีนในการป้องกันโรคแต่ต้องร่วมกับ

เป็นเหตุให้เกิดความวิตกกังวลแก่ประชาชนว่าจะเป็นสาเหตุให้เกิด ระบบการป้องกันโรคในฟาร์มท่มีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ดี เพื่อ
การแพร่ระบาดของโรคระบาดได้ ในกรณีดังกล่าวกรมปศุสัตว์ได้ร่วม ให้การควบคุม ป้องกันโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมปศุสัตว์


กับหน่วยงานในพื้นท่ และหน่วยงานท่เก่ยวข้องดำาเนินการฝังกลบ ขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรเพิ่มเติม ดังนี้



และทาการฆ่าเชื้อโรคแก่ซากสุกรดังกล่าวตามขั้นตอนของ กรม 1. ปรับปรุงระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในฟาร์มเล้ยงสุกร
ปศุสัตว์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้มีประสิทธิภาพ

ขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยจากโรคระบาดท่อาจมี 2. ใหความร่วมมือกับเจ้าหน้าท่ในการดำาเนินการควบคุม



ได้ในซากสุกรชุดดังกล่าว ซึ่งการกระทาดังกล่าวนอกจากจะเป็นสร้าง ป้องกันโรคในสุกรเพื่อสามารถควบคุมการระบาดของโรคให้อยู่ใน
ความเดือนร้อนแก่ประชาชนในบริเวณใกล้เคียง และอาจเป็นแหล่ง วงจำากัด
แพร่กระจายของเชื้อโรคต่างๆ ได้ อันจะก่อให้เกิดความเสียหาย 3. กรณีฟาร์มเกษตรกรรายย่อยให้ติดตามข่าวสารการแพร ่
ร้ายแรงต่อเกษตรกรรายอื่นเป็นวงกว้างนั้น ระบาดของโรคอย่างใกล้ชิด หากฟาร์มตั้งอยู่ในเขตพื้นท่โรคระบาดให ้

โดยการกระทาดังกล่าวเป็นการกระทาท่ผิดกฎหมายหลายฉบับ หยุดการเคลื่อนย้ายสุกร เช่น หยุดการทดแทนสุกรเข้าฟาร์ม หยุด




ไม่ว่าจะเป็นมาตรา 396 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ผู้ใดทิ้งซาก การรับลูกสุกรจากแหล่งอ่นเข้าเลี้ยง รวมไปถึงไม่ให้เกษตรรายอ่น

สัตว์ซ่งอาจเน่าเหม็น ในหรอริมทางสาธารณะ ต้องระวางโทษปรบ เข้ามาในฟาร์มตนเอง จนกว่าการระบาดของโรคในพื้นท่นั้นสงบลง




ไม่เกินห้าพันบาท หรือมาตรา 11 แห่งพรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. แล้ว


2558 ท่กาหนดให้เจ้าของสัตว์แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ สารวัตร 4. หากพบสุกรท่สงสัยว่าป่วยหรือตายด้วยโรคระบาด หรือด้วย



หรือสัตวแพทย์ ภายในเวลาสิบสองชั่วโมงนับแต่เวลาที่ทราบว่าสัตว์ อาการผิดปกติไม่ทราบสาเหตุ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าท่ปศุสัตว์อาเภอ














ป่วยหรือตาย หากไม่ปฏิบัติต้องระวางโทษจำาคุกไม่เกินหน่งเดือน เจ้าหน้าทปศุสัตวจังหวดในพืนททนท หรอผานทางแอพพลิเคชัน
หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำาทั้งปรับ อีกด้วย มือถือ “DLD 4.0” หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ หมายเลขโทรศัพท์
เนื่องจากในช่วงเวลานี้เป็นฤดูมรสุมและกำาลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว 063 225 6888 เพื่อเข้าทำาการตรวจสอบต่อไป
สภาพอากาศมีความแปรปรวน ประกอบกับหลายพื้นท่ประสบสภาวะ 5. สุกรท่ตายด้วยโรคระบาดหรือไม่มั่นใจในความปลอดภัยของ


น้ำาท่วมทาให้สุกรเกิดความเครียด ประกอบกับหากเป็นฟาร์มของ เนื้อที่จะนำามาบริโภคขอให้งดนำาเนื้อสุกรนั้นมาบริโภคทุกกรณี หาก



เกษตรรายย่อยซึ่งระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในการเลี้ยงสุกร ประชาชนต้องการบริโภคเน้อสุกรขอให้เลือกซื้อเนื้อสุกรท่มาจาก
(Biosecurity) ยังไม่ดีจะทำาให้สุกรที่เลี้ยงมีความเสี่ยงสูงมากขึ้นที่จะ แหล่งผลิตและผู้จำาหน่ายที่ได้รับสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” และโดย
เกิดการติดเชื้อขึ้นในฟาร์มโดยเฉพาะท่มีการเล้ยงสุกรหนาแน่นและ ต้องนำามาปรุงสุกทุกครั้งก่อนการบริโภคเพื่อสุขอนามัยที่ดี



มีประวัติการระบาดของโรคมาก่อน จึงเป็นสาเหตุให้โรคนี้เกิดการ ท้งนี้ กรมปศุสัตว์ขอยืนยันว่า ในปัจจุบันเจ้าหน้าท่กรมปศุสัตว ์

แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ได้ดำาเนินการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันโรคระบาดต่างๆ ในสัตว์

กรมปศุสัตว์จึงมีความห่วงใยเกษตรกรโดยเฉพาะรายย่อยจึงมี อย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพ ดังน้นจึงขอให้เกษตรกรให้ความ

คำาแนะนาให้เกษตรกรปรับปรุงระบบความปลอดภัยทางชีวภาพใน ร่วมมือกับเจ้าหน้าท่กรมปศุสัตว์ในการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกัน







ฟาร์มเลี้ยงสุกรให้มีประสิทธิภาพ เช่น ควรมีการจัดการที่ดีตามหลัก โรคระบาด และขอใหประชาชนบรโภคเนอสกรได้ตามปกติไม่ต้องตืน

ความปลอดภัยทางชีวภาพ (biosecurity) ควรทาการกักแยกสุกร ตระหนก นอกจากนี้พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์หรือประชาชนทั่วไป




ที่นำาเข้ามาเล้ยงใหม่เพื่อสังเกตอาการก่อนปล่อยเข้าร่วมฝูง ทาความ สามารถติดตามความเคล่อนไหวเก่ยวกับกรมปศุสัตว์หรือข้อมูล

สะอาดฟาร์มด้วยนายาฆ่าเชื้อโรคท่มีประสิทธิภาพ เข้มงวดการ ข่าวสารท่ถูกต้อง ผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ “DLD 4.0” ได้ตลอด



ทำาลายเชื้อโรคในน้ำาที่ใช้ในฟาร์มก่อนนำาไปใช้เลี้ยงสุกร ยานพาหนะ เวลา...
ท่เข้า - ออกฟาร์มจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อโรคทุกคร้ง ไม่นำาสุกรที่


30 สัตว์เศรษฐกิจ

ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์











นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต
เตือนอย่าทิ้งสัตว์หรือซากสัตว์ในที่สาธารณะผิดกฎหมาย



นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว เปิดเผยว่า ไม่ทราบประวัติเข้าสู่ฟาร์มโดยเฉพาะจากพื้นที่ที่เคยมีการระบาดโรค
ถึงกรณีที่ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ มีผู้นำาสุกรมาทิ้งในที่สาธารณะจน ต่างๆ มาก่อน รวมทั้งการใช้วัคซีนในการป้องกันโรคแต่ต้องร่วมกับ

เป็นเหตุให้เกิดความวิตกกังวลแก่ประชาชนว่าจะเป็นสาเหตุให้เกิด ระบบการป้องกันโรคในฟาร์มท่มีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ดี เพื่อ
การแพร่ระบาดของโรคระบาดได้ ในกรณีดังกล่าวกรมปศุสัตว์ได้ร่วม ให้การควบคุม ป้องกันโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมปศุสัตว์


กับหน่วยงานในพื้นท่ และหน่วยงานท่เก่ยวข้องดำาเนินการฝังกลบ ขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรเพิ่มเติม ดังนี้



และทาการฆ่าเชื้อโรคแก่ซากสุกรดังกล่าวตามขั้นตอนของ กรม 1. ปรับปรุงระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในฟาร์มเล้ยงสุกร
ปศุสัตว์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้มีประสิทธิภาพ

ขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยจากโรคระบาดท่อาจมี 2. ใหความร่วมมือกับเจ้าหน้าท่ในการดำาเนินการควบคุม



ได้ในซากสุกรชุดดังกล่าว ซึ่งการกระทาดังกล่าวนอกจากจะเป็นสร้าง ป้องกันโรคในสุกรเพื่อสามารถควบคุมการระบาดของโรคให้อยู่ใน
ความเดือนร้อนแก่ประชาชนในบริเวณใกล้เคียง และอาจเป็นแหล่ง วงจำากัด
แพร่กระจายของเชื้อโรคต่างๆ ได้ อันจะก่อให้เกิดความเสียหาย 3. กรณีฟาร์มเกษตรกรรายย่อยให้ติดตามข่าวสารการแพร ่ เดินหน้ามาตรการพยุงราคาไข่ไก่…

ร้ายแรงต่อเกษตรกรรายอื่นเป็นวงกว้างนั้น ระบาดของโรคอย่างใกล้ชิด หากฟาร์มตั้งอยู่ในเขตพื้นท่โรคระบาดให ้

โดยการกระทาดังกล่าวเป็นการกระทาท่ผิดกฎหมายหลายฉบับ หยุดการเคลื่อนย้ายสุกร เช่น หยุดการทดแทนสุกรเข้าฟาร์ม หยุด



ไม่ว่าจะเป็นมาตรา 396 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ผู้ใดทิ้งซาก การรับลูกสุกรจากแหล่งอ่นเข้าเลี้ยง รวมไปถึงไม่ให้เกษตรรายอ่น แจงไม่สกัดนำาเข้าพ่อแม่พันธุ์



สัตว์ซ่งอาจเน่าเหม็น ในหรอริมทางสาธารณะ ต้องระวางโทษปรบ เข้ามาในฟาร์มตนเอง จนกว่าการระบาดของโรคในพื้นท่นั้นสงบลง



ไม่เกินห้าพันบาท หรือมาตรา 11 แห่งพรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. แล้ว กรมปศุสัตว์ชี้แจงข่าวชะลอนำาเข้า - นำาผ่านสัตว์หรือซากสัตว์ สำาหรับเร่องราคาไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ท่ทาง



2558 ท่กาหนดให้เจ้าของสัตว์แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ สารวัตร 4. หากพบสุกรท่สงสัยว่าป่วยหรือตายด้วยโรคระบาด หรือด้วย เพื่อสกัดการนำาเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ปี 2565 ชี้ไข่ไก่ราคาตกจากฝน สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ได้มีการแจ้งราคาแนะนำาไข่ไก่




หรือสัตวแพทย์ ภายในเวลาสิบสองชั่วโมงนับแต่เวลาที่ทราบว่าสัตว์ อาการผิดปกติไม่ทราบสาเหตุ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าท่ปศุสัตว์อาเภอ ตกหนัก เร่งขอความร่วมมือเกษตรกรส่งออก - ปลดไก่พยุงราคา คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ปรับตัวลดลง 20 สตางค์ อยู่ที่ฟอง










ป่วยหรือตาย หากไม่ปฏิบัติต้องระวางโทษจำาคุกไม่เกินหน่งเดือน เจ้าหน้าทปศุสัตวจังหวดในพืนททนท หรอผานทางแอพพลิเคชัน จากกระแสข่าวท่ระบุว่าทางกรมปศุสัตว์อาจประกาศชะลอ ละ 2.60 บาท เทียบกับคาดการณ์ต้นทุนการผลิตไข่ไก่ปัจจุบันท่ฟอง





หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำาทั้งปรับ อีกด้วย มือถือ “DLD 4.0” หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ หมายเลขโทรศัพท์ นำาเข้า - นำาผ่าน “สัตว์หรือซากสัตว์บางประเภท” สกัดโรคระบาด ละ 2.75 บาท (คณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตไก่ไข่และไข่ไก่) นั้น
เนื่องจากในช่วงเวลานี้เป็นฤดูมรสุมและกำาลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว 063 225 6888 เพื่อเข้าทำาการตรวจสอบต่อไป เข้าไทย ในการสกัดการนำาเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ในปี 2565 ทั้งหมด มีสาเหตุจากปัจจุบันมีฝนตกหนักติดต่อกัน รวมถึงมีน้ำาท่วมในหลาย







สภาพอากาศมีความแปรปรวน ประกอบกับหลายพื้นท่ประสบสภาวะ 5. สุกรท่ตายด้วยโรคระบาดหรือไม่มั่นใจในความปลอดภัยของ หรือเฉพาะ 7 ราย ที่ขอนำาเข้าใหม่ โดยมีผ้ประกอบการบางราย พื้นที่ ประกอบกบแนวโน้มอัตราการบรโภคไข่ไกจากการกกตุนใน


น้ำาท่วมทาให้สุกรเกิดความเครียด ประกอบกับหากเป็นฟาร์มของ เนื้อที่จะนำามาบริโภคขอให้งดนำาเนื้อสุกรนั้นมาบริโภคทุกกรณี หาก ที่มีปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ในไทยได้รับประโยชน์ นั้น ครัวเรือนลดลง จากเดิมท่ประชาชนมีการกักตุนไข่ไก่เพราะความ






เกษตรรายย่อยซึ่งระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในการเล้ยงสุกร ประชาชนต้องการบริโภคเน้อสุกรขอให้เลือกซื้อเนื้อสุกรท่มาจาก นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ชี้แจงว่า ไม่ กังวลต่อสถานการณ์และส่วนหน่งต้องทางานท่บ้าน ซึ่งกรมปศุสัตว ์
(Biosecurity) ยังไม่ดีจะทำาให้สุกรที่เลี้ยงมีความเสี่ยงสูงมากขึ้นที่จะ แหล่งผลิตและผู้จำาหน่ายที่ได้รับสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” และโดย เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากมาตรการในการชะลอนำาเข้าหรือ ได้มีการหารือและวิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกับผ้มีส่วนได้ส่วนเสีย








เกิดการติดเชื้อขึ้นในฟาร์มโดยเฉพาะท่มีการเล้ยงสุกรหนาแน่นและ ต้องนำามาปรุงสุกทุกครั้งก่อนการบริโภคเพื่อสุขอนามัยที่ดี นำาผานสัตว์และซากสัตวจากต่างประเทศ จะมีการดำาเนินการเพื่อ ท้งภาครัฐ กล่มเกษตรกรผ้เลี้ยงไก่ไข่ และผ้ค้าไข่ไก ได้วิเคราะห ์





มีประวัติการระบาดของโรคมาก่อน จึงเป็นสาเหตุให้โรคนี้เกิดการ ท้งนี้ กรมปศุสัตว์ขอยืนยันว่า ในปัจจุบันเจ้าหน้าท่กรมปศุสัตว ์ ป้องกันความเสี่ยงท่จะนาเข้าโรคระบาดมากับสัตว์หรือซากสัตว์ใน สถานการณ์ว่า ในเดือนตุลาคมของทุกปีมีฝนตกหนักและเทศกาล



แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ได้ดำาเนินการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันโรคระบาดต่างๆ ในสัตว์ กรณีท่มีรายงานว่าประเทศต้นทางมีโรคระบาดสัตว์เท่าน้น ซึ่งเป็นการ กินเจ ซึ่งเป็นฤดูกาลท่ราคาไข่ไก่ปรับตัวลดลงทุกปี จึงได้มีมาตรการ






กรมปศุสัตว์จึงมีความห่วงใยเกษตรกรโดยเฉพาะรายย่อยจึงมี อย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพ ดังน้นจึงขอให้เกษตรกรให้ความ ดำาเนินการรายประเทศเป็นช่วงเวลาท่เหมาะสม เลือกปฏิบัติในการ ขอความร่วมมือผ้เล้ยงไก่ไข่ยืนกรงให้ปลดไก่ไข่ท่อายุเหมาะสมกับ


คำาแนะนาให้เกษตรกรปรับปรุงระบบความปลอดภัยทางชีวภาพใน ร่วมมือกับเจ้าหน้าท่กรมปศุสัตว์ในการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกัน ระงบหรอชะลอการนาเข้าสัตว์หรือซากสัตว์ของผ้ประกอบการรายใด สถานการณ และมีมาตรการขอความร่วมมือผ้เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่













ฟาร์มเลี้ยงสุกรให้มีประสิทธิภาพ เช่น ควรมีการจัดการที่ดีตามหลัก โรคระบาด และขอใหประชาชนบรโภคเนอสกรได้ตามปกติไม่ต้องตืน รายหนึ่งไม่ได้ และปัจจุบันยังไม่มีการกาหนดแผนการเลี้ยงพ่อแม่ ร่วมกันผลักดันการส่งออกไข่ไก่หรือปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงชดเชยการ

ความปลอดภัยทางชีวภาพ (biosecurity) ควรทาการกักแยกสุกร ตระหนก นอกจากนี้พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์หรือประชาชนทั่วไป พันธุ์ไก่ไข่ของปี 2565 โดยต้องมีการพิจารณาสถานการณ์การผลิต ส่งออกเพื่อปรับลดกาลังการผลิตไข่ไก่ภายในประเทศตามสถานการณ ์





ที่นำาเข้ามาเล้ยงใหม่เพื่อสังเกตอาการก่อนปล่อยเข้าร่วมฝูง ทาความ สามารถติดตามความเคล่อนไหวเก่ยวกับกรมปศุสัตว์หรือข้อมูล และการตลาดโดยผ้มีส่วนได้ส่วนเสียท้งภาคเอกชนและภาครัฐก่อนนา ระหว่างเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2564 แล้ว ซึ่งกรมปศุสัตว์จะ







สะอาดฟาร์มด้วยนายาฆ่าเชื้อโรคท่มีประสิทธิภาพ เข้มงวดการ ข่าวสารท่ถูกต้อง ผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ “DLD 4.0” ได้ตลอด เสนอเข้าสู่เอ้กบอร์ด เร่งดำาเนินการขอความร่วมมือและติดตาม ทั้งนี้ จำาเป็นต้องได้รับ

ทำาลายเชื้อโรคในน้ำาที่ใช้ในฟาร์มก่อนนำาไปใช้เลี้ยงสุกร ยานพาหนะ เวลา... ความร่วมมือผ้เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่ในการช่วยกันดำาเนินการตาม
ท่เข้า - ออกฟาร์มจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อโรคทุกคร้ง ไม่นำาสุกรที่ มาตรการดังกล่าว เพื่อพยุงราคาในเดือนตุลาคม 2564 โดยเร็วด้วย


30 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 31

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE








































ไข้หวัดนก และ ซัลโมเนลลา


กับการส่งออกไก่เนื้อไทย





ประเทศไทย ถือเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ อันดับ 4 หลังจากนั้น กรมปศุสัตว ดำาเนินมาตรการควบคุมโรค แต่
ของโลก ประเทศคู่ค้าให้การยอมรับ เนื่องจากมาตรฐานการผลิตใน ภายในเวลาไม่ถึงปี โรคไข้หวัดนกก็กระจายไปกว่า 60 จังหวัด
ระดับสากล และการควบคุมป้องกันโรคที่สำาคัญ คือ โรคไข้หวัดนก ต่อมา ในปี 48 การระบาดของโรคก็ลดลง เนื่องจากกรมปศุสัตว์ใช้


และซัลโมเนลลา ที่มีผลต่อความปลอดภัยอาหาร ซึ่งผู้ประกอบการ มาตรการควบคุมโรคท่เข้มข้น เน้นการทาลายสัตว์ป่วยและในพื้นท ่ ี

ไทยได้ร่วมมือกับภาครัฐจัดการควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผล เสียงเป็นหลัก จนตัวไกก็ลดลงไป การพบโรคก็ลดลงตามไปด้วย และ


ให้ยอดการส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ เติบโตขึ้นทุกปี เร่มรณรงค์ให้ผ้เล้ยงผ้ประกอบการเน้นการพัฒนาระบบป้องกันโรค




น.สพ.สุดแถว อมาตยกุล สมาคมสัตวแพทย์ผ้ควบคุมฟาร์ม มีองค์ความรู้ต่างๆ ออกมาเพิ่มขึ้นในการป้องกันโรคไข้หวัดนก การ



สัตว์ปีก เผยว่า จากการท่ไทยเป็นประเทศผ้ส่งออกเน้อไก่และ พบเชื้อก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนถึงปี 51 ก็แทบไม่พบการรายงาน
ผลิตภัณฑ จึงให้ความสำาคัญกับการควบคุมโรคไข้หวัดนกและ แล้ว มีเพียงที่พบในภาคเหนือตอนล่าง 4 เคส แล้วก็จบลงไป ในปี


ซัลโมเนลลา เพราะมีผลต่อความปลอดภัยอาหาร เร่มจาก “โรค 51 และหลังจากนั้นก็ควบคุมได้ โดยไข้หวัดนกถือเป็นโรคสัตว์สู่คน
ไข้หวัดนก” พบรายงานครั้งแรกเมื่อ 23 มกราคม 2547 ที่อำาเภอ มีการป่วยไป 25 คน และเสียชีวิตไป 17 คน คิดเป็นสัดส่วน 68





บางปลาม้า จังหวดสุพรรณบุร ทำาใหเกดความตืนตระหนกทงผบริโภค เปอร์เซ็นต์ ส่วนทั่วโลกมีการป่วย 500 กว่าคน และเสียชีวิต 300










และผผลิต โดยผบรโภคหยุดรบประทานเนอไกและผลิตภณฑทนท กว่าคน คิดเป็น 58 เปอร์เซ็นต์ ถือว่า แม้มีอัตราการป่วยในคนน้อย










ส่วนเกษตรกรผ้เลี้ยงก็ถูกทาลายไก มีการเร่งปลดไก่ขาย หรือเคล่อน แต่เปอร์เซ็นต์เสียชีวิต ค่อนข้างสูง

ย้ายหนี เพราะตอนนั้นมีมาตรการตีรัศมี 5 กิโลเมตรรอบจุดเกิดโรค สำาหรับการปรับตัวของภาคธุรกิจ ถือเป็นการพลิกวิกฤตเป็น

หากพบสัตวปีกปวยกทาลายไกในรศมีทงหมด ส่งผลใหช่วยเวลา โอกาส เน่องจากส่งออกไก่เนื้อไปต่างประเทศไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนแปลง









ดังกล่าว มีสัตว์ปีกถูกทาลายไปกว่า 30 ล้านตัว และไทยส่งออก หลังเกิดไข้หวัดนก ผ้ส่งออกก็เปลี่ยนการส่งออกจากเน้อไก่สดแช่เย็น



ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่สดแช่แข็งไปยังต่างประเทศไม่ได้ สูญเสียมูลค่าการ แช่แข็งมาเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปปรุงสุก มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่ม
ส่งออกไปกว่า 6 หมื่นล้านบาท มูลค่าส่งออก ฝ่ายขายการตลาดก็เข้าไปหาตลาดเหล่านี้ เพื่อส่งออก
32 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE




























สัตวป่าต่างๆ มีการเก็บตัวอย่างไปตรวจโรคมากกว่า 1,500 ตัวอย่าง



และยังไม่พบเชื้อไข้หวัดนกรุนแรงในสัตว์ป่า และอีกเหตุท่ทาให้เกิด
ไข้หวัดนกระบาดในปี 47 คือ เป็ดไล่ทุ่ง ที่เป็นตัวแปรสำาคัญในการ


แพร่ไข้หวัดนกไปท่วประเทศ เพราะเป็ดไล่ท่งมีการเคล่อนย้ายไป


เร่อยๆ กรมปศุสัตว์จึงควบคุมด้วยการขึ้นทะเบียนเป็ดไล่ท่ง ซึ่งมีกว่า


1,200 ฝูง จะเคลื่อนย้ายไปท่ใดกรมปศุสัตว์ก็ทราบท้งหมด และมี

ไข้หวัดนก และ ซัลโมเนลลา และทาให้อยู่รอดได้ ฝ่ายการตลาดก็ไปหาตลาดเนื้อปรุงสุกเพื่อส่งออก การสุ่มตรวจเป็นประจำา


ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดได้ ต่อมาในปี 51 เมื่อควบคุมโรคไข้หวัดนกได้
พร้อมกันนี้ยังมี ไก่ชน ที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง เมื่อเกิดไข้หวัด
กับการส่งออกไก่เนื้อไทย กใช้เวลาเจรจาจนได้รับอนุญาตให้ส่งออกไกสดแช่แข็งได้อีกครง นกกลัวถูกทำาลาย และลักลอบอุ้มหนีไป กรมปศุสัตว์ก็แก้ปัญหาด้วย




การจดทะเบียน และทาพาสปอรตไก เพื่อติดตามการเคลื่อนย้าย อก




กระทั่งปัจจุบันไทยกลับมาส่งออกเนื้อไก่สดแช่แข็งได้กว่า 3 แสนตัน
ต่อปี ขณะที่ผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุกก็เพิ่มจาก 3 แสนตัน มาเป็น 5.4 ส่วนที่น่ากลัว คือ การลักลอบ เมื่อเกิดไข้หวัดนก คนเลี้ยงก็เร่งปลด
ประเทศไทย ถือเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ อันดับ 4 หลังจากนั้น กรมปศุสัตว ดำาเนินมาตรการควบคุมโรค แต่ แสนตันในปี 63 ซึ่งเป็นการพัฒนารูปแบบและเพิ่มมูลค่าสินค้าควบคู ่ ไก่ออกจากฟาร์มไปขายโดยไม่มีการตรวจสุชภาพ เป็นการแพร่เชื้อ


ของโลก ประเทศคู่ค้าให้การยอมรับ เนื่องจากมาตรฐานการผลิตใน ภายในเวลาไม่ถึงปี โรคไข้หวัดนกก็กระจายไปกว่า 60 จังหวัด กันไปด้วย ไป และเป็นอันตรายต่อผ้บริโภค รวมถึงมูลไก่ท่มีการขนไปท้งจำานวน


ระดับสากล และการควบคุมป้องกันโรคที่สำาคัญ คือ โรคไข้หวัดนก ต่อมา ในปี 48 การระบาดของโรคก็ลดลง เนื่องจากกรมปศุสัตว์ใช้ ประเทศไทย ถือว่า ควบคุมโรคไข้หวัดนกได้ดี แต่หากพิจารณา มาก ซึ่งขณะนั้นไม่มีการควบคุมการเคลื่อนย้ายมูลสัตว์ มีเฉพาะตัว


และซัลโมเนลลา ที่มีผลต่อความปลอดภัยอาหาร ซึ่งผู้ประกอบการ มาตรการควบคุมโรคท่เข้มข้น เน้นการทาลายสัตว์ป่วยและในพื้นท ่ ี การระบาดท่วโลก ข้อมูลจาก สำานักควบคุม ป้องกัน และบาบัด สัตว์ ก็เป็นอีกตัวการสำาคัญ เมื่อขนไปใส่ไร่นารอบฟาร์ม ก็เป็นอีก










ไทยได้ร่วมมือกับภาครัฐจัดการควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผล เสียงเป็นหลัก จนตัวไกก็ลดลงไป การพบโรคก็ลดลงตามไปด้วย และ โรคสัตว ตังแต่เดือนมกราคมจนถงกรกฎาคม ปี 64 ทวโลกเกิด ตัวกระจายเชื้อได้ง่าย จึงต้องควบคุมจนถึงทุกวันนี กรมปศุสัตว์ได้

ให้ยอดการส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ เติบโตขึ้นทุกปี เร่มรณรงค์ให้ผ้เล้ยงผ้ประกอบการเน้นการพัฒนาระบบป้องกันโรค โรคไข้หวัดนกสูงกว่าทุกปี ส่วนใหญ่เกิดในยุโรป ส่วนเอเชียก็พบท ่ ี ออกกฎระเบียบมาให้ปฏิบัติ เช่น การหมักมูลไก่ก่อน 3 วัน ด้วย





น.สพ.สุดแถว อมาตยกุล สมาคมสัตวแพทย์ผ้ควบคุมฟาร์ม มีองค์ความรู้ต่างๆ ออกมาเพิ่มขึ้นในการป้องกันโรคไข้หวัดนก การ เวยดนามและกัมพูชา ดังนั้น ไทยต้องการดไม่ตก ต้องเฝ้าระวง การดันมูลมากองไว้พรหมน้าให้เกิดความชื้นและใช้ผ้าใบคลุมทาให้







สัตว์ปีก เผยว่า จากการท่ไทยเป็นประเทศผ้ส่งออกเน้อไก่และ พบเชื้อก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนถึงปี 51 ก็แทบไม่พบการรายงาน ป้องกันโรค เพราะรอบบ้านเรายังพบรายงานเป็นระยะ และปีนี้ก็พบ เกิดความร้อน เพียง 1-2 วันความร้อน ก็ถึง 70 องศาเซลเซียส

ผลิตภัณฑ จึงให้ความสำาคัญกับการควบคุมโรคไข้หวัดนกและ แล้ว มีเพียงที่พบในภาคเหนือตอนล่าง 4 เคส แล้วก็จบลงไป ในปี มากกว่าทุกปี แล้ว ก็ทิ้งไว้ประมาณ 3 วัน ทั้งเชื้อไข้หวัดนกและเชื้อต่างๆ ก็ตาย
ซัลโมเนลลา เพราะมีผลต่อความปลอดภัยอาหาร เร่มจาก “โรค 51 และหลังจากนั้นก็ควบคุมได้ โดยไข้หวัดนกถือเป็นโรคสัตว์สู่คน โดยเชื้อไข้หวัดนกในปี 47 เป็นเชื้อ H5N1 แต่ตัวที่พบในปีนี้ ท้งหมด ถือเป็นการช่วยได้เป็นอย่างดีในการทาลายเชื้อท่อาจตกค้าง




ไข้หวัดนก” พบรายงานครั้งแรกเมื่อ 23 มกราคม 2547 ที่อำาเภอ มีการป่วยไป 25 คน และเสียชีวิตไป 17 คน คิดเป็นสัดส่วน 68 กลายเป็น H5N8 เพราะ H มี 15 ตัว และ N อีก 9 ตัว เชื้อมี ในมูลไก่ก่อนนำาออกไป เป็นการช่วยควบคุมการแพร่กระจายของโรค

บางปลาม้า จังหวดสุพรรณบุร ทำาใหเกดความตืนตระหนกทงผบริโภค เปอร์เซ็นต์ ส่วนทั่วโลกมีการป่วย 500 กว่าคน และเสียชีวิต 300 การกลายพันธุ์อย่างต่อเน่อง ทำาให้การควบคุมโรคทาได้ยาก เมื่อ นอกจากนั้น เพื่อให้เกิดการควบคุมได้อย่างยั่งยืน มกอช.และกรม






















และผผลิต โดยผบรโภคหยุดรบประทานเนอไกและผลิตภณฑทนท กว่าคน คิดเป็น 58 เปอร์เซ็นต์ ถือว่า แม้มีอัตราการป่วยในคนน้อย พิจารณาเพื่อนบ้าน ในปีนี้พบรายงานในเวียดนามประมาณ 167 จุด ปศุสัตว ได้ผลักดันให้ไก่ไข่เข้าส่มาตรฐานฟาร์ม เพราะไข่ไก่ยัง



ส่วนเกษตรกรผ้เลี้ยงก็ถูกทาลายไก มีการเร่งปลดไก่ขาย หรือเคล่อน แต่เปอร์เซ็นต์เสียชีวิต ค่อนข้างสูง เป็นเชื้อ H5N6 เป็นส่วนใหญ่ และในกัมพูชาก็มีรายงาน H5N1 อยู่ ส่งออกน้อย ต่างจากไก่เนื้อที่มีการส่งออก ทำาให้ได้มาตรฐานเกือบ




ย้ายหนี เพราะตอนนั้นมีมาตรการตีรัศมี 5 กิโลเมตรรอบจุดเกิดโรค สำาหรับการปรับตัวของภาคธุรกิจ ถือเป็นการพลิกวิกฤตเป็น บ้าง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ไก่ไข่ไม่ได้ส่งออก ทำาให้มีฟาร์มที่ผ่านมาตรฐาน










หากพบสัตวปีกปวยกทาลายไกในรศมีทงหมด ส่งผลใหช่วยเวลา โอกาส เน่องจากส่งออกไก่เนื้อไปต่างประเทศไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนแปลง เมื่อพิจารณาการระบาดของไข้หวัดนก H5N1 ในไทย ในปี ประมาณ 52-53 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น มกอช. ก็พยายามผลักดันให้



ดังกล่าว มีสัตว์ปีกถูกทาลายไปกว่า 30 ล้านตัว และไทยส่งออก หลังเกิดไข้หวัดนก ผ้ส่งออกก็เปลี่ยนการส่งออกจากเน้อไก่สดแช่เย็น 47 ย้อนไปก่อนหน้ามีรายงานในฮ่องกงตั้งแต่ ปี 40 ก่อนมาพบใน เป็นมาตรฐานบังคับ ถือเป็นสัตว์ปีกชนิดแรกท่ทา เพื่อให้ทุกฟาร์ม


ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่สดแช่แข็งไปยังต่างประเทศไม่ได้ สูญเสียมูลค่าการ แช่แข็งมาเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปปรุงสุก มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่ม เมืองไทย คาดว่า มากับนกอพยพที่มาจากซีกโลกเหนือ โดยพบใน เข้าสู่มาตรฐานฟาร์ม โดยภายในปี 64 นี้ ฟาร์มไก่ไข่ตั้งแต่ 100,000
ส่งออกไปกว่า 6 หมื่นล้านบาท มูลค่าส่งออก ฝ่ายขายการตลาดก็เข้าไปหาตลาดเหล่านี้ เพื่อส่งออก ช่วงมกราคม ซึ่งปัจจุบันมีระบบเฝ้าระวังนกอพยพสัตว์ปีก และ ตัวขึ้นไป ต้องได้รับมาตรฐานฟาร์มทั้งหมด แต่ภายในปี 68 ฟาร์ม
32 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 33

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE


ที่เลี้ยงต่ำากว่า 1 แสนตัวก็ต้องพัฒนาให้ได้มาตรฐานฟาร์มเช่นกัน
เพื่อให้เกิดการควบคุมโรคได้อย่างยั่งยืน
ในอดีต เกษตรกรนิยมเลี้ยงไก่บนบ่อปลา ไม่มีรั้ว ไม่มีตาข่าย



กันนก หรอไม่มีระบบการป้องกันโรค สัตวพาหะเข้าไปได้งาย แต่

ปัจจุบันกลายเป็นฟาร์มระบบปิด เล้ยงในโรงเรือนปิดท้งหมด ป้องกัน

สัตว์พาหะได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนฟาร์มมาตรฐานของบริษัทก็มี
การป้องกันโรคท่ดีเช่นกัน และในอนาคตการควบคุมโรคระบบ

อินเตอร์เน็ทดีขึ้น การควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ ที่เข้ามาช่วยดูแล

การเลี้ยงสัตว พัฒนาเป็นสมาร์ทฟาร์ม (Smart Farm) ในการควบคุม

เพื่อลดปริมาณคนเข้าไปสัมผัสตัวสัตว ในอนาคตอาจมีผ้ดูแลฟาร์ม

เพียง 2-3 คน และควบคุมดูแลสัตว์ผ่านระบบ และเทคโนโลยีท ่ ี การทราบในการเฝ้าระวัง เมื่อเกิดโรคระบาดรอบพื้นที่ ในกรณีที่พบ


ทันสมัยทั้งหมด ซึ่งหลายฟาร์มก็เริ่มทำากันบ้างแล้ว ส่งผิดปกติเกิดขึ้นก็มีการแจ้งเตือนทันท เช่น ในเดือนเมษายนท ่ ี

ที่สำาคัญต้องมีการซ้อมแผนเหมือนกับกรณีท่เกิดโรคระบาด ผ่านมา มีข่าวการพบเชื้อไข้หวัดนก H10N3 แล้วติดเชื้อในมนุษย์

เพราะที่ผ่านมา มีการเขียนแผน คู่มือไว้ แต่เมื่อเกิดปัญหาจริงกลับ ได้ในประเทศจีนคร้งแรก กรมปศุสัตว์ก็ออกหนังสือเตือนมาให ้

ทำาอะไรไม่ถูก ก็ต้องซ้อมแผนในทางปฏิบัติ เพื่อทำาได้จริงในกรณีที่ ผ้ประกอบการและเจ้าหน้าท่ในจังหวัดทราบ และบอกว่า เกิด H5N8


เกิดการระบาด ผ้จัดการฟาร์มก็ต้องแจ้งให้สัตวแพทย์หรือผ้จัดการ ที่ประเทศใดบ้าง และ H5N1 ที่ประเทศใดบ้าง และมีการแจ้งผ่าน

คอมพาร์ทเมนท์ทราบทันท และมีการซ้อมในลักษณะเสมือนจริงว่า แอพพลิเคชั่น DLD 4.0 ที่เป็นช่องทางแจ้งกรมปศุสัตว์ได้ รวมถึง

เกิดเหตุแล้วจะจัดการอย่างไร เคลื่อนย้ายอย่างไร ทำาลายไก่อย่างไร การร่วมกันทำางานแบบบูรณาการ ระหว่างหน่วยงานรัฐ เช่น กรม
เป็นส่วนสำาคัญ ต้องการซักซ้อมให้ชัดเจน ปศุสัตว์กับศุลกากร เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำาสัตว์จากประเทศ
ระบบคอมพาร์ทเมนท์ปลอดโรคไข้หวัดนก เป็นการเตรียม เพื่อนบ้านเข้ามา ถือเป็นสิ่งที่ดีสำาหรับการควบคุมโรคไข้หวัดนก




ความพร้อมในกรณีทเกิดไข้หวัดนกในไทย กไม่กระทบกบการส่งออก ดังนั้น ในการควบคุมโรคไข้หวัดนก เร่มจากการเฝ้าระวังอย่าง



โดยกรมปศุสัตว์และผ้ประกอบการก็ร่วมมือกันทาตามข้อกาหนดของ ต่อเน่อง ตัวอย่างเช่น ฟาร์มท่ผลิตเพื่อการส่งออกก็เก็บตัวอย่างส่งตัว



OIE ที่ระบุไว้ว่า การทำาระบบคอมพาร์ทเมนท์ปลอดโรคทำาได้ เมื่อ โรคไข้หวัดนก นิวคาสเซิล และไวรัสอื่นๆ ก่อนจับไก่ทุกเล้า มีการ
เกิดไข้หวัดนกระบาดรอบๆ แต่ภายในคอมพาร์ทเมนท์ไม่ได้มีการ แจ้งเตือนล่วงหน้าเป็นประจำา ทั้งเป็นทางการและไม่ทางการ ทำาให้
ระบาด โดยยืนยันได้ว่า ไม่มีการระบาด มีพื้นกันชนประมาณ 1 การมีการแจ้งเตือนที่เป็น Realtime (ทันต่อเหตุการณ์) อีกส่วน คือ
กิโลเมตร ก็ต้องมีการสำารวจว่า รอบฟาร์มในรัศมี 1 กิโลเมตร การตรวจวิเคราะห์ล่วงหน้า (ทันท่วงที) ก็ต้องพัฒนาการตรวจ PCR
ไม่เกิดไข้หวัดนก และภายในฟาร์มก็มีระบบความปลอดภัยทาง หาไพรเมอร์ให้ครอบคลุมทุกสายพันธุ ทำาให้ตรวจได้เร็ว และตอบ




ชีวภาพท่เข้มงวด ตรวจสอบย้อนกลับได้ท้งหมด ว่า ลูกไก่มาจาก สนองอย่างรวดเร็ว ท้งในส่วนของราชการ การตั้งด่านจุดสกัดการ


โรงฟักใด ไก่ส่งไปโรงเชือดใด อาหารสัตว์มาจากท่ไหน อย่ภายใน ลักลอบนำาเข้า และภาคเอกชนก็ต้องใส่ใจระบบไบโอซีเคียวริตี้ ถึงจะ
คอมพาร์ทเมนท์เดียวกันทั้งหมด และต้องติดตามการตรวจประเมิน ควบคุมโรคให้ประสบความสำาเร็จได้
ติดตามว่า ปลอดจากโรคไข้หวัดนกทั้งหมด ถือเป็นระบบคอมพาร์ท ด้าน “ซัลโมเนลลา” ถือเป็นเชื้อท่ควบคุมได้ยาก เพราะมี

เมนท์ที่มีปลอดโรคไข้หวัดนก มากกว่า 2,000 ซีโรวาร ถ้าจะควบคุมให้ได้ท้งหมดถือเป็นสิ่งท ่ ี



จากน้น ต้องประเมินระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ โดยต้อง ยากมาก กรมปศุสัตว์ก็ออกระเบียบตั้งแต่ 2499 ให้เป็นโรคสำาคัญใน



ทราบวา ควบคุมและประเมินในส่วนใดบ้าง เมื่อประเมินไปแล้ว พรบ.โรคระบาดสัตว ต่อมาในป 2553 ท่กรมฯ เน้นระเบียบใน


พบว่า มีเส้นทางท่จะนำาเชื้อเข้าฟาร์ม ก็ต้องไปหาจุดควบคุมท้ง การเก็บตัวอย่าง และการเฝ้าระวัง และในปี 62 กรมปศุสัตว์ได้


เส้นทางนี ว่า จะจัดการควบคุมโรคอย่างไร สุดท้ายการทาคอม โปรแกรมการควบคุมซัลโมเนลลาในสัตว์ปีกระดับชาติ ถือเป็น


พาร์ทเมนท์ ฟาร์มก็ต้องทำาระบบ HACCP หรือการวิเคราะห์ความ โปรแกรมท่ดีมาก เพราะสหภาพยุโรปมีมาตรการท่ชัดเจนเลยว่า

เสี่ยง (Risk analysis) จากนั้น ต้องมีการเฝ้าระวังตลอดเวลา โดย ซัลโมเนลล่าในไก่พันธุ์ 5 ชนิด ต้องน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ และใน
ขอบข่ายการรับรองช่วงแรกมีเฉพาะฟาร์มไก่เน้อ แต่ต่อมาก ็ ไก่เนื้อก็ต้องน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ในปี 54 ไทยยังไม่มีเป้าหมาย


ครอบคลุมท้งห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ฟาร์มสัตว์ปีกเนื้อจนถึงโรงฆ่า ต่อมาในปี 62 ของไทย ในสัตว์ปีกพันธุ์ ซัลโมเนลลา 5 ชนิด ต้อง
แปรรูปสัตว์ปีกทั้งระบบ น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ใน 3 ปี ซึ่ง คือ ปีนี้ และในสัตว์ปีกเนื้อ

อีกส่วนที่สำาคัญ คือ การแจ้งเตือนเฝ้าระวังล่วงหน้าที่ต้องทำา ก็ต้องควบคุมให้น้อย 2 ชนิด ในปี 64 และสปีชีอ่นๆ ก็ต้องลด
เป็นอย่างดี เพื่อเป็นตัวอย่างที่กรมปศุสัตว์ได้แจ้งเตือนให้ผู้ประกอบ เรื่อยๆ จนไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์
34 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE


ที่เลี้ยงต่ำากว่า 1 แสนตัวก็ต้องพัฒนาให้ได้มาตรฐานฟาร์มเช่นกัน มานานแล้ว แต่วัคซีนท่ใช้นั้นจะป้องกันได้เฉพาะ SE กับ ST เท่านั้น



เพื่อให้เกิดการควบคุมโรคได้อย่างยั่งยืน ส่วนกล่มอ่นๆ ก็ยังไม่มีวัคซีนท่เป็นเชิงพาณิชย์ยังไม่มี ก็มีการพูดคุย




ในอดีต เกษตรกรนิยมเลี้ยงไก่บนบ่อปลา ไม่มีรั้ว ไม่มีตาข่าย กนวา การทา auto-genus วคซีน เพือให้ตรงกับเชือท่เกิดขึ้นใน







กันนก หรอไม่มีระบบการป้องกันโรค สัตวพาหะเข้าไปได้งาย แต่ ฟาร์มก็น่าสนใจ และบางแห่งก็อาจใช้กรด เพื่อควบคุมเชื้อ หรือการ
ปัจจุบันกลายเป็นฟาร์มระบบปิด เล้ยงในโรงเรือนปิดท้งหมด ป้องกัน ใช้โปรไบโอติก โดยให้แบคทีเรียดีเข้าไปจับในผนังลำาไส้ก่อน อีกส่วน


สัตว์พาหะได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนฟาร์มมาตรฐานของบริษัทก็มี ที่ศึกษาอยู่ คือ แบคทีเรียโอฟาจ หรือไวรัสของแบคทีเรียที่ทำาลาย
การป้องกันโรคท่ดีเช่นกัน และในอนาคตการควบคุมโรคระบบ เชื้อซัลโมเนลลา ก็ต้องติดตามเฉพาะเชื้อซัลโมเนลลาตัวนั้นด้วย แต่

อินเตอร์เน็ทดีขึ้น การควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ ที่เข้ามาช่วยดูแล ที่สำาคัญต้องทาควบคู่กับการป้องกันโรคท่ดี เพราะหากปริมาณเชื้อ



การเลี้ยงสัตว พัฒนาเป็นสมาร์ทฟาร์ม (Smart Farm) ในการควบคุม มีสูง เครื่องมือต่างๆ ก็อาจทำาไม่ได้




เพื่อลดปริมาณคนเข้าไปสัมผัสตัวสัตว ในอนาคตอาจมีผ้ดูแลฟาร์ม ระบบไบโอซีเคียวริตี ในอุตสาหกรรมไก่เน้อ ในฟาร์มมาตรฐาน


เพียง 2-3 คน และควบคุมดูแลสัตว์ผ่านระบบ และเทคโนโลยีท ี ่ การทราบในการเฝ้าระวัง เมื่อเกิดโรคระบาดรอบพื้นที่ ในกรณีที่พบ จากยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน เริ่มจากการสร้างความปลอดภัยทาง ต้องแยกบริเวณท่พักอาศัยกับเล้ยงไก่ออกกัน ซึ่งการตรวจปัจจุบัน
ทันสมัยทั้งหมด ซึ่งหลายฟาร์มก็เริ่มทำากันบ้างแล้ว ส่งผิดปกติเกิดขึ้นก็มีการแจ้งเตือนทันท เช่น ในเดือนเมษายนท ี ่ ชีวภาพ ผู้ประกอบการต้องไปทำา Work in เขียนแผน การควบคุม พิจารณาที่พักอาศัยด้วยว่า พนักงานอยู่ดีหรือไม่ สะอาด สุขอนามัย




ที่สำาคัญต้องมีการซ้อมแผนเหมือนกับกรณีท่เกิดโรคระบาด ผ่านมา มีข่าวการพบเชื้อไข้หวัดนก H10N3 แล้วติดเชื้อในมนุษย์ ความเสี่ยง อบรมพนักงาน และต้องมีการเฝ้าระวังเชื้อ ทางฟาร์ม ดีหรือไม่ และต้องมีขั้นตอนการทาความสะอาดก่อนเข้าฟาร์ม
เพราะที่ผ่านมา มีการเขียนแผน คู่มือไว้ แต่เมื่อเกิดปัญหาจริงกลับ ได้ในประเทศจีนคร้งแรก กรมปศุสัตว์ก็ออกหนังสือเตือนมาให ้ ไก่เนื้อ ต้องเก็บตัวอย่างบู๊ทสวอป (ใส่รองเท้าเข้าไปเดินในเล้าไก่ว่า ล้างมือ เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำา เปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าฟาร์ม ส่วน



ทำาอะไรไม่ถูก ก็ต้องซ้อมแผนในทางปฏิบัติ เพื่อทำาได้จริงในกรณีที่ ผ้ประกอบการและเจ้าหน้าท่ในจังหวัดทราบ และบอกว่า เกิด H5N8 มีเชื้อหรือไม่) ก่อนจับ 3 สัปดาห์ ก่อนเข้าโรงเชือด และในไก่พันธุ์ รถทเข้าพื้นท เช่น รถส่งอาหารกต้องสเปรย์ใหทวกอนเข้าฟาร์ม










เกิดการระบาด ผ้จัดการฟาร์มก็ต้องแจ้งให้สัตวแพทย์หรือผ้จัดการ ที่ประเทศใดบ้าง และ H5N1 ที่ประเทศใดบ้าง และมีการแจ้งผ่าน เก็บ 3 ครั้ง ในช่วงไก่รุ่น และหลังจากนั้น เก็บทุ 2 สัปดาห์ ใน มีผ้าม่านปิดการละอองไม่ให้กระจายออกไป และของใช้ส่วนบุคคลที่

คอมพาร์ทเมนท์ทราบทันท และมีการซ้อมในลักษณะเสมือนจริงว่า แอพพลิเคชั่น DLD 4.0 ที่เป็นช่องทางแจ้งกรมปศุสัตว์ได้ รวมถึง ไก่พันธุ์ หากพบเชื้อก็ต้องมีการรายงานไปท่กรมปศุสัตว ที่เป็น โดนนาไม่ได้ก็ต้องผ่านแสงยูวีก่อนเข้าพื้นท่การเล้ยง อาบนา สระผม










เกิดเหตุแล้วจะจัดการอย่างไร เคลื่อนย้ายอย่างไร ทำาลายไก่อย่างไร การร่วมกันทำางานแบบบูรณาการ ระหว่างหน่วยงานรัฐ เช่น กรม Salmonella center รายงานผลเข้าไป และรวบรวมข้อมูลไว้ ถ้าพบ ปิดแมส ใส่รองเท้าบู๊ท เพื่อป้องกันการนาเชื้อจากภายนอกเข้าฟาร์ม
เป็นส่วนสำาคัญ ต้องการซักซ้อมให้ชัดเจน ปศุสัตว์กับศุลกากร เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำาสัตว์จากประเทศ เป็นเชื้อต้องห้าม 5 ตัว ในไก่พันธุ์ก็ต้องแจ้งให้กรมปศุสัตว์ ทราบ ก่อนเข้าโรงเรือนก็ต้องล้างรองเท้า จุ่มยาฆ่าเชื้อ และเปลี่ยนรองเท้า

ระบบคอมพาร์ทเมนท์ปลอดโรคไข้หวัดนก เป็นการเตรียม เพื่อนบ้านเข้ามา ถือเป็นสิ่งที่ดีสำาหรับการควบคุมโรคไข้หวัดนก และทาการสอบสวนโรค และเฝ้าระวังในฟาร์ม อีกส่วน คือ ห้อง อีกครั้ง เพื่อความปลอดภัย และสเปรย์มือด้วยแอลกอฮอลก่อนเข้า







ความพร้อมในกรณีทเกิดไข้หวัดนกในไทย กไม่กระทบกบการส่งออก ดังนั้น ในการควบคุมโรคไข้หวัดนก เร่มจากการเฝ้าระวังอย่าง ปฏิบัติการเอกชนท่ตรวจแล้วรายงานผลไปท่กรมปศุสัตว โดยให้ห้อง โรงเรือน และควบคุมสัตว์พาหะโดยใช้ตาข่ายคลุมป้องกันที่โรงเรือน




โดยกรมปศุสัตว์และผ้ประกอบการก็ร่วมมือกันทาตามข้อกาหนดของ ต่อเน่อง ตัวอย่างเช่น ฟาร์มท่ผลิตเพื่อการส่งออกก็เก็บตัวอย่างส่งตัว ปฏิบัติการต้องให้กรมปศุสัตว์ตรวจรับรองห้องปฏิบัติการเอกชนท ่ ี บ่อน้ำา


OIE ที่ระบุไว้ว่า การทำาระบบคอมพาร์ทเมนท์ปลอดโรคทำาได้ เมื่อ โรคไข้หวัดนก นิวคาสเซิล และไวรัสอื่นๆ ก่อนจับไก่ทุกเล้า มีการ ตรวจซัลโมเนลลาให้ได้มาตรฐาน ที่สำาคัญ ต้องลดปริมาณเชื้อต่าง ด้วยการล้างเล้า เตรียม






เกิดไข้หวัดนกระบาดรอบๆ แต่ภายในคอมพาร์ทเมนท์ไม่ได้มีการ แจ้งเตือนล่วงหน้าเป็นประจำา ทั้งเป็นทางการและไม่ทางการ ทำาให้ ขณะที่การตรวจสอบสวนโรค ว่า เกิดจากอะไร โดยทำาร่วมกับ โรงเรอนทดี การฆ่าเชือ ทงหมดอยูในการควบคุมของสตวแพทย์


ระบาด โดยยืนยันได้ว่า ไม่มีการระบาด มีพื้นกันชนประมาณ 1 การมีการแจ้งเตือนที่เป็น Realtime (ทันต่อเหตุการณ์) อีกส่วน คือ สัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์ม ทำาการสอบสวน หาแนวทางเพื่อควบคุม เพราะปริมาณและสัดส่วนยาสัตวแพทย์ต้องเป็นผ้ควบคุม และเก็บ


กิโลเมตร ก็ต้องมีการสำารวจว่า รอบฟาร์มในรัศมี 1 กิโลเมตร การตรวจวิเคราะห์ล่วงหน้า (ทันท่วงที) ก็ต้องพัฒนาการตรวจ PCR โรคร่วมกับกรมปศุสัตว์ ต่อไป อีกส่วนที่สำาคัญเพื่อลดการปนเปื้อน ตัวอย่างหลังฆ่าเชื้อแล้วว่า ฆ่าเชื้อได้ดีหรอไม่ โดยทาทกโรงเรอน





ไม่เกิดไข้หวัดนก และภายในฟาร์มก็มีระบบความปลอดภัยทาง หาไพรเมอร์ให้ครอบคลุมทุกสายพันธุ ทำาให้ตรวจได้เร็ว และตอบ เชื้อซัลโมเนลลาจากในฟาร์มไปยังโรงงาน หากพบเชื้อซัลโมท่ต้อง ที่ผลิตเพื่อการส่งออก อีกส่วนที่สำาคัญ ในการส่งออกก็ต้องมีตัวแทน



ชีวภาพท่เข้มงวด ตรวจสอบย้อนกลับได้ท้งหมด ว่า ลูกไก่มาจาก สนองอย่างรวดเร็ว ท้งในส่วนของราชการ การตั้งด่านจุดสกัดการ ห้ามก็จะติดป้ายสีแดงที่หน้ารถ เพราะเก็บตัวอย่าง 3 สัปดาห์แล้ว ฟาร์มอย่างน้อย 2 คนต้องมาอบรมหลักสูตรไบโอซีเคียวริตี้จาก


โรงฟักใด ไก่ส่งไปโรงเชือดใด อาหารสัตว์มาจากท่ไหน อย่ภายใน ลักลอบนำาเข้า และภาคเอกชนก็ต้องใส่ใจระบบไบโอซีเคียวริตี้ ถึงจะ หากพบเชื้อว่า เจอ ก็ติดป้ายสีแดง ถ้าเป็นเชื้อตัวอ่นติดป้ายสีเหลือง สมาคมสัตวแพทย์ผ้ควบคุมฟาร์มสัตว์ปีก ซึ่งผ่านการอบรมไปว่า


คอมพาร์ทเมนท์เดียวกันทั้งหมด และต้องติดตามการตรวจประเมิน ควบคุมโรคให้ประสบความสำาเร็จได้ แต่ถ้าไม่มีเชื้อติดสีเขียว การนำาไก่เข้าโรงเชือดก็นำาไก่สีเขียวไปก่อน 3,000 คนแล้ว โดยหลักสูตรนี้ผ่านการรับรองจากประเทศอังกฤษ

ติดตามว่า ปลอดจากโรคไข้หวัดนกทั้งหมด ถือเป็นระบบคอมพาร์ท ด้าน “ซัลโมเนลลา” ถือเป็นเชื้อท่ควบคุมได้ยาก เพราะมี จากนั้นตามด้วยสีเหลือง และสีแดงเข้าลำาดับสุดท้าย และนำาไปผลิต แล้ว และวิทยากรก็ต้องผ่านการตรวจจากหน่วยงานเช่นกัน


เมนท์ที่มีปลอดโรคไข้หวัดนก มากกว่า 2,000 ซีโรวาร ถ้าจะควบคุมให้ได้ท้งหมดถือเป็นสิ่งท ่ ี สินค้าปรุงสุกเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้บริโภครับเชื้อท่อันตราย และ จากนั้นมีตัวแทนเข้าไปอบรมท่ฟาร์ม และการจับไก่ต้องอยู ่




จากน้น ต้องประเมินระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ โดยต้อง ยากมาก กรมปศุสัตว์ก็ออกระเบียบตั้งแต่ 2499 ให้เป็นโรคสำาคัญใน ในวันรุ่งขึ้น ก็ต้องล้างทำาความสะอาดสายการผลิตทั้งหมด ก่อนนำา ภายใต้การควบคุมของสัตวแพทย์ทุกเล้าทุกคันรถต้องผ่านการตรวจ
ทราบวา ควบคุมและประเมินในส่วนใดบ้าง เมื่อประเมินไปแล้ว พรบ.โรคระบาดสัตว ต่อมาในป 2553 ท่กรมฯ เน้นระเบียบใน ไก่สีเขียวเข้าไปใหม่ เป็นมาตรการท่กรมปศุสัตว์กาหนดไว และมีการ ประวัติการณ์ใช้ยาวัคซีน การตรวจสุขภาพ โดยสัตวแพทย์ต้อง











พบว่า มีเส้นทางท่จะนำาเชื้อเข้าฟาร์ม ก็ต้องไปหาจุดควบคุมท้ง การเก็บตัวอย่าง และการเฝ้าระวัง และในปี 62 กรมปศุสัตว์ได้ ตรวจเฝ้าระวัง เก็บน้ำาล้างซากไปเพาะเชื้อว่า พบหรือไม่ เซ็นชื่อทุกคร้ง โดยส่งรายงานไปท่โรงเชือด ฟาร์ม และปศุสัตว์อาเภอ


เส้นทางนี ว่า จะจัดการควบคุมโรคอย่างไร สุดท้ายการทาคอม โปรแกรมการควบคุมซัลโมเนลลาในสัตว์ปีกระดับชาติ ถือเป็น การควบคุมเชื้อซัลโมเนลลาในฟาร์มสัตว์ปีก เน้นการสุขาภิบาล โดยการควบคุมโรคให้สาเร็จได้ต้องอาศัยการควบคุม 3 ฝ่าย คือ


พาร์ทเมนท์ ฟาร์มก็ต้องทำาระบบ HACCP หรือการวิเคราะห์ความ โปรแกรมท่ดีมาก เพราะสหภาพยุโรปมีมาตรการท่ชัดเจนเลยว่า เน้นหาที่มาของเชื้อ ติดตามหาเชื้อ ป้องกันการปนเปื้อนในฝูง ล้าง ผ้ประกอบการ ภาครัฐ และสมาคมสัตวแพทย์ ท่สื่อกลางในการ




เสี่ยง (Risk analysis) จากนั้น ต้องมีการเฝ้าระวังตลอดเวลา โดย ซัลโมเนลล่าในไก่พันธุ์ 5 ชนิด ต้องน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ และใน ทำาความสะอาดให้ดี และมีการตรวจสอบ โดยสัตวแพทย์เข้าไปตรวจ ประสานและนำาข้อปฏิบัติต่างๆ ไปปรับใช้ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนใน
ขอบข่ายการรับรองช่วงแรกมีเฉพาะฟาร์มไก่เน้อ แต่ต่อมาก ็ ไก่เนื้อก็ต้องน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ในปี 54 ไทยยังไม่มีเป้าหมาย และเช็คเก็บตัวอย่างว่า พบเชื้อซัลโมเนลลาหรือไม่ ก่อนนาไก่ฝูงใหม่ อุตสาหกรรมไก่ไทยต่อไป...











ครอบคลุมท้งห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ฟาร์มสัตว์ปีกเนื้อจนถึงโรงฆ่า ต่อมาในปี 62 ของไทย ในสัตว์ปีกพันธุ์ ซัลโมเนลลา 5 ชนิด ต้อง เข้ามาเล้ยง อกสวนกแยกฝงทพบการปนเปือนตังแต่ฟารมพ่อแม่พันธุ




แปรรูปสัตว์ปีกทั้งระบบ น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ใน 3 ปี ซึ่ง คือ ปีนี้ และในสัตว์ปีกเนื้อ หากพบไม่ต้องนำาไก่เข้าฟัก หรือพบตัวท่ไม่ซีเรียสก็ต้องแยกโรงฟัก



อีกส่วนที่สำาคัญ คือ การแจ้งเตือนเฝ้าระวังล่วงหน้าที่ต้องทำา ก็ต้องควบคุมให้น้อย 2 ชนิด ในปี 64 และสปีชีอ่นๆ ก็ต้องลด ไป หรือแยกเล้าเล้ยงและทาป้ายบอกให้ชัดเจน และอีกมาตรการ
เป็นอย่างดี เพื่อเป็นตัวอย่างที่กรมปศุสัตว์ได้แจ้งเตือนให้ผู้ประกอบ เรื่อยๆ จนไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มเติมสำาหรับซัลโมเนลลา คือ การให้วัคซีนในไก่พันธุ์ที่ดำาเนินการ
34 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 35

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE















































การควบคุมโรคแซลโมเนลลาในสัตว์ปีก







โรคแซลโมเนลลา เปนโรคท่มีความสำาคัญในอตสาหกรรม โดยเชื้อแซลโมเนลลาท่พบได้บ่อยในการก่อโรคพาราไทฟอยด์



การเล้ยงและการผลิตสัตว์ปีก ท้งไก่เน้อและไก่ไข่โดยมีรายงานการ และมีความสาคัญในด้านการค้าระหว่างประเทศ ได้แก S. Enteritidis


ปนเปื้อนเชื้อแซลโนเนลลาในไก่ถึง 46.9% ในการสำารวจในปี 2540 และ S. Typhimurium แซลโมเนลลา เป็นแบคทีเรียท่สามารถ

(รายงานประจำาปี 2540, สถาบันสุขภาพสัตว์) และมากกว่า 70% พบปนเปื้อนได้ในทุกขั้นตอนของกระบวนการเลี้ยงและการผลิตไก

ในการสำารวจในปี 2543 (อินทิรา และคณะ, 2543) แซลโมเนลลา (Chansiripornchai et al., 2000) และมีการปนเปื้อนเชื้อจากพาหะ
เป็นแบคทีเรียแกรมลบ ท่สามารถก่อโรคได้ในคนและสัตว์เกือบ นำาโรคต่างๆ เช่น หนูแมลง และนกที่เข้ามาอาศัยในฟาร์ม ดังนั้น

ทุกชนิด โดยพบเชื้อนี้มากกว่า 2,500 ซีโรวาร์โดยในสัตว์ปีกนั้น การควบคุมการปนเปื้อนแซลโมเนลลา จึงควรใช้มาตรการต่างๆ
สามารถแบ่งโรคแซลโนเนลลาได้ 3 โรค ดังนี้ ร่วมกันอย่างระมัดระวัง ถูกต้อง และเหมาะสมต่อปัญหาท่เกิดขึ้น


1. โรคขี้ขาว (Pullorum disease, Bacillary White Diarrhea) ในแต่ละฟาร์มหรือพื้นท่ท่พบการปนเปื้อนแซลโมเนลลาและใน



มีสาเหตุจากเชื้อ Salmonella Pullorum ไก่ท่ติดเชื้อแสดงอาการ ทุกขั้นตอนการผลิตไก่โดยเร่มจากการควบคุมและป้องกันโรคใน

ทองเสีย ขับถ่ายมีสขาว มีอัตราการตายสูงในลูกไกไก่โตเต็มวย ไก่พันธุ์ โรงฟัก จนถึงการผลิตไก่เนื้อ โดยทาการลดการปนเปื้อน




ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการป่วย แต่สามารถเป็นพาหะของโรค โรคน ี ้ แซลโมเนลลา ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบอาหารสัตว์การจัดเก็บวัตถุดิบ
สามารถติดเชื้อผ่านไข่ได้ การผลิตและการจัดเก็บอาหารสัตว์การขนส่งอาหารและลูกไก่ไก่เนื้อ
2. โรคไทฟอยด์ (Typhoid infection) มีสาเหตุจากเชื้อ ระบบการจัดการฟารมไกพันธุ์ไก่เนื้อและโรงฟักท่ดีการใช้ระบบความ





S. Gallinarum ไก่ที่ติดเชื้อแสดงอาการคล้ายการติดโรค ขี้ขาว ปลอดภัยทางชีวภาพท่เหมาะสม รวมท้งการควบคุมการจัดการ





3. โรคพาราไทฟอยด์ (Paratyphoid infection) มีสาเหตุจาก สุขาภบาลโรงเชือดและโรงงานแปรรูปสัตว์ด้วยโดยท่วไปวธีการทนิยม
เชื้อแซลโมเนลลา ซีโรวาร์อื่นที่นอกเหนือจาก S. Pullorum และ ใช้ในการควบคุมการปนเปื้อนเชื้อแซลโมเนลลา ได้แก่
S. Gallinarum 1. การใช้ยาปฏิชีวนะ ในการผลิตไก่การใช้ยาปฏิชีวนะเป็นไปใน
36 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE





จะไม่สามารถเกาะกับผนังลาไส้ไก่ได้และจะถกขับออกไปจากรางกาย
ไก่ในท่สุดประสิทธิภาพในการใช้ผลิตภัณฑ์ซีอีในการควบคุมและ

ป้องกันโรคแซลโมเนลลา ยังขาดความชัดเจน คือ การทดลองในห้อง

ปฏิบัติการณ์และในภาคสนามพบว่า บางคร้งพบว่าได้ผลดีในการ
ป้องกันการโคโลไนซ์ของแซลโมเนลลา แต่บางครั้งก็พบว่าให้ผลไม่ดี
นัก (นิวัตร, 2007) นอกจากนี้ พบว่า การเสริมมาตรการอื่นในการ
ควบคุมแซลโมเนลลา ส่งเสริมให้การควบคุมแซลโมเนลลามี
ประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การผสม 2.5% แลคโตสลงในนำาดื่ม

(Hinton) และการให้วัคซีนเชื้อเป็น (Methner et al., 1999)
3. การใช้ยาฆ่าเชื้อแซลโมเนลลาบนเปลือกไข่ เปลือกไข่นับว่า
เป็นเป็นแหล่งที่มีการปนเปื้อนเชื้อแซลโมเนลลา การใช้น้ำายาฆ่าเชื้อ
ท่เหมาะสมและในเวลาท่รวดเร็ว จะสามารถลดการปนเป้อน



แซลโมเนลลาในเปลือกไข่ โดยควรทาการฆ่าเชื้อแซลโมเนลลาบริเวณ


เปลือกไข่อย่างรวดเร็วก่อนท่จะมีการติดเชื้อผ่านเข้าไปในไข่ โดย
ยาฆ่าเชื้อแซลโนเนลลาบนเปลือกไข่ที่ให้ผลดี ได้แก่ โพลีเฮกซะเมท
ธิลีนไบกัวไนด์ ไฮโดรคลอไรด์ (PHMB) ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์และ
ฟีนอล (Cox and Bailey, 1996)
4. การใช้กรดอินทรีย์ หรือ เกลือของกรดอินทรีย์ในการควบคุม
2 ลักษณะ คือ ใช้ในด้านการควบคุม และรักษาโรคและใช้เป็น เชื้อแซลโมเนลลา กรดอินทรีย์ หรือเกลือของกรดอินทรีย์ มีคุณสมบัติ
สารเร่งการเจริญเติบโต (growth promoter) การใช้ยาปฏิชีวนะใน ในการยับยั้งเชื้อแซลโมเนลลา โดยกรดจะผ่านผนังเซลล์ของเชื้อ

การควบคุมเชื้อแซลโนเนลลานับว่าได้ผลดีแต่ปัญหาคือผลข้างเคียงท ี ่ แซลโมเนลลาเข้าไปในสภาพท่ยังไม่แตกตัว และจะมีการแตกตัว
เกิดขึ้นจากการใช้ยาปฏิชีวนะ คือ ก่อให้เกิดการดื้อยาของเชื้อ ภายในตัวเชื้อแซลโมเนลลาให้ประจุบวก ทำาให้ภายในเซลล์ของเชื้อ

การควบคุมโรคแซลโมเนลลาในสัตว์ปีก แซลโมเนลลาเพิ่มมากขึ้น และอาจเป็นการเพิ่มโอกาสในการโคโลไนส ์ แซลโมเนลลาเกิดสภาพเป็นกรด ซึ่งส่งผลให้เชื้อแซลโมเนลลาต้องใช้

ของแซลโมเนลลา การขับแซลโมเนลลาปนมากับอุจจาระไก่และการ
พลังงานในการปรับสมดุลกรด-ด่างภายในเซลล ทำาให้ไม่สามารถสร้าง


เพิมการดือยาปฏิชีวนะของเชื้อแบคทีเรียในมนุษย์ซึงเป็นสิ่งท่ควร ดีเอ็นเอและโปรตีนได้ ส่งผลให้เชื้อแซลโมเนลลาแบ่งตัวเพิ่มจำานวน







โรคแซลโมเนลลา เปนโรคทมีความสำาคัญในอตสาหกรรม โดยเชื้อแซลโมเนลลาท่พบได้บ่อยในการก่อโรคพาราไทฟอยด์ คำานึงถึงในการใช้ยาปฏิชีวนะในการควบคุมเชื้อแซลโมเนลลา จึงไม่ ไม่ได้จึงก่อโรคในไก่ไม่ได้และถูกทาลายในท่สุด (นิวัตร และคณะ,








การเล้ยงและการผลิตสัตว์ปีก ท้งไก่เน้อและไก่ไข่โดยมีรายงานการ และมีความสาคัญในด้านการค้าระหว่างประเทศ ได้แก S. Enteritidis ควรนำายาท่ใช้ในการรักษาโรคไปใช้ในวัตถุประสงค์ในการเป็นสารเร่ง 2546) ปริมาณกรดอินทรีย์ท่ใช้จะมีความสัมพันธ์กับระยะเวลาในการ

ปนเปื้อนเชื้อแซลโนเนลลาในไก่ถึง 46.9% ในการสำารวจในปี 2540 และ S. Typhimurium แซลโมเนลลา เป็นแบคทีเรียท่สามารถ การเจริญเติบโต ซึ่งประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปได้ประกาศการห้าม ควบคุมเชื้อโรค เช่น การผสมกรดอินทรีย์ในอัตราส่วนร้อยละ 3 ใน



(รายงานประจำาปี 2540, สถาบันสุขภาพสัตว์) และมากกว่า 70% พบปนเปื้อนได้ในทุกขั้นตอนของกระบวนการเลี้ยงและการผลิตไก ใช้ยาปฏิชีวนะในฐานะเป็นการเร่งการเจริญเติบโต ตั้งแต่เดือน ปลาป่น มีผลในการควบคุมเชื้อโรคได้ 24 ชม. แต่ถาผสมกรดใน
ในการสำารวจในปี 2543 (อินทิรา และคณะ, 2543) แซลโมเนลลา (Chansiripornchai et al., 2000) และมีการปนเปื้อนเชื้อจากพาหะ มกราคม 2549 นอกจากนี้การใช้ยาปฏิชีวนะฉีดเข้าไข่ฟัก นับเป็น อัตราส่วนร้อยละ 0.75 ต้องใช้เวลาถึง 28 วันถึงจะสามารถควบคุม

เป็นแบคทีเรียแกรมลบ ท่สามารถก่อโรคได้ในคนและสัตว์เกือบ นำาโรคต่างๆ เช่น หนูแมลง และนกที่เข้ามาอาศัยในฟาร์ม ดังนั้น ทางเลือกหนึ่งในการควบคุมการติดเชื้อแซลโมเนลลา โดยใช้อุปกรณ์ เชื้อโรคได้ (จิโรจ, 2547)
ทุกชนิด โดยพบเชื้อนี้มากกว่า 2,500 ซีโรวาร์โดยในสัตว์ปีกนั้น การควบคุมการปนเปื้อนแซลโมเนลลา จึงควรใช้มาตรการต่างๆ อัตโนมัติในการฉีดไข่ฟัก ในช่วงการย้ายจากตู้ฟักไข่มายังตู้เกิด 5. การใช้สมุนไพรในการฆ่าเชื้อแซลโนเนลลา การควบคุมโรค
สามารถแบ่งโรคแซลโนเนลลาได้ 3 โรค ดังนี้ ร่วมกันอย่างระมัดระวัง ถูกต้อง และเหมาะสมต่อปัญหาท่เกิดขึ้น โดยพบว่าไบทริลให้ผลดีมากการควบคุมโรคซัลโมเนลลาด้วยวิธีนี แซลโมเนลลาด้วยสมุนไพรน้น นับว่ายังไม่ประสบความสาเร็จเท่าท ่ ี






1. โรคขี้ขาว (Pullorum disease, Bacillary White Diarrhea) ในแต่ละฟาร์มหรือพื้นท่ท่พบการปนเปื้อนแซลโมเนลลาและใน (Baxter-Jones, 1996) ควร อย่างไรก็ตามการใช้สมุนไพรในการเสริมในอาหารไก่นั้น นับว่า


มีสาเหตุจากเชื้อ Salmonella Pullorum ไก่ท่ติดเชื้อแสดงอาการ ทุกขั้นตอนการผลิตไก่โดยเร่มจากการควบคุมและป้องกันโรคใน 2. การใช้ Competitive Exclusion หรือ ผลิตภัณฑ์ซีอีในการ ให้ผลดีในระดับหนึ่งในด้านการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยมีรายงาน













ทองเสีย ขับถ่ายมีสขาว มีอัตราการตายสูงในลูกไกไก่โตเต็มวย ไก่พันธุ์ โรงฟัก จนถึงการผลิตไก่เนื้อ โดยทาการลดการปนเปื้อน ควบคุมเชื้อแซลโมเนลลา ซีอเป็นผลตภณฑทเตรยมจาก เชื้อ วาการผสมกลวยดิบ (วสนต์และคณะ, 2547) ผลสกพิลังกาสา



ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการป่วย แต่สามารถเป็นพาหะของโรค โรคน ้ ี แซลโมเนลลา ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบอาหารสัตว์การจัดเก็บวัตถุดิบ จุลินทรีย์ที่พบตามปกติในทางเดินอาหารของไก่ที่โตเต็มวัย โดยเชื้อ (เมธิลและคณะ, 2547) กระเทียม ขมิ้นชันฟ้าทะลายโจรและ เสลด
สามารถติดเชื้อผ่านไข่ได้ การผลิตและการจัดเก็บอาหารสัตว์การขนส่งอาหารและลูกไก่ไก่เนื้อ เหล่านี้เป็นเชื้อท่ไม่ก่ออันตรายแก่ไก่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรียท่เจริญ พังพอน (เยาวมาลย์ และคณะ, 2549) สามารถควบคุมการติดเชื้อ



2. โรคไทฟอยด์ (Typhoid infection) มีสาเหตุจากเชื้อ ระบบการจัดการฟารมไกพันธุ์ไก่เนื้อและโรงฟักท่ดีการใช้ระบบความ เติบโตในสภาพท่ไร้อากาศ (anaerobe) การให้ผลิตภัณฑ์ซีอีแก่ไก ่ ในทางเดินอาหารของแซลโมเนลลาได้





S. Gallinarum ไก่ที่ติดเชื้อแสดงอาการคล้ายการติดโรค ขี้ขาว ปลอดภัยทางชีวภาพท่เหมาะสม รวมท้งการควบคุมการจัดการ เพื่อทดแทน จุลินทรีย์ปกติของลำาไส้ที่สูญเสียไป เช่น ภายหลังการ 6. การป้องกันโรคด้วยวัคซีน วัคซีนป้องกันโรคแซลโมเนลลา














3. โรคพาราไทฟอยด์ (Paratyphoid infection) มีสาเหตุจาก สุขาภบาลโรงเชือดและโรงงานแปรรูปสัตว์ด้วยโดยท่วไปวธีการทนิยม ใหยาปฏชีวนะ หรอใหในกรณการป้องกนการติดเชือแซลโมเนลลาใน ที่มีจำาหน่ายในทองตลาดในปัจจุบันมีทงชนิดเชือเป็นและเชื้อตาย


เชื้อแซลโมเนลลา ซีโรวาร์อื่นที่นอกเหนือจาก S. Pullorum และ ใช้ในการควบคุมการปนเปื้อนเชื้อแซลโมเนลลา ได้แก่ ลูกไก โดยให้กินผลิตภัณฑ์ซีอีตั้งแต่ลูกไก่อายุ 1 วัน เพื่อให้เชื้อเจริญ วัคซีนชนิดเชื้อเป็น ควรมีคุณสมบัติในการป้องกันโรคได้ดีดังนี



S. Gallinarum 1. การใช้ยาปฏิชีวนะ ในการผลิตไก่การใช้ยาปฏิชีวนะเป็นไปใน และครอบคลุมผนังลำาไส้ไก่กรณีท่เชื้อแซลโมเนลลาเข้ามาภายหลังก ็ ป้องกันการขับเชื้อออกมากับสิ่งขับถ่ายป้องกันอาการป่วยของลูกไก ่
36 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 37

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE



และป้องกันการติดเชื้อท่รังไข่ซึ่งเท่ากับเป็นการป้องกันการติดเชื้อ






ผานไข่และวคซีนเชื้อเป็นน้นไม่ควรทจะมีความรนแรงซึ่งก่อผลเสีย
ต่อการเจริญเติบโตของลูกไก่การให้วัคซีนชนิดเชื้อเป็น สามารถให้ได้
ในไก่อายุ 1 วันประมาณ 3 สัปดาห์ควรให้วัคซีนอีก 1 ครั้ง กรณี
ถ้าฟาร์มมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรค ควรให้วัคซีนซ้ำาทุก 3 เดือน
(จิโรจ, 2547) การให้วัคซีนป้องกันโรคแซลโนเนลลา จะต้องปฏิบัติ
ควบคู่ไปกับการจัดการด้านสุขศาสตร์ท่ดีของฟาร์ม การฆ่าเชื้อท ่ ี

เหมาะสม และการควบคุมหนูแมลงและนกที่อาศัยอยู่ในฟาร์มอย่าง
มีประสิทธิภาพ วัคซีนสามารถป้องกันการปนเปื้อนแซลโมเนลลาใน
ฟาร์มได้ในกรณีท่ฟาร์มมีการปนเปื้อนแซลโมเนลลาไม่มากนัก วัคซีน

ชนิดเชื้อตาย เป็นวัคซีนซึ่งวิธีการเตรียมต้องอาศัยส่อวัคซีน ทำาให้


ต้องทาการให้วัคซีนด้วยวิธีการฉีด ซึ่งอาจก่อให้เกิดการอักเสบ ณ

บริเวณท่ฉีดวัคซีนได้วัคซีนเชื้อตายจะสามารถกระตุ้นภูมิค้มกันใน



กระแสเลือดได้ดีจึงสามารถถายทอดภมิคุมกนได้ซึงสามารถป้องกน ติดเชื้ออ่นๆ ในไก่ได้อีกด้วย มาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพ







โรคในลูกไก่อายุ 1 สัปดาห์ได้โดยวัคซีนเชื้อตายจะไม่สามารถกระตุ้น ที่นำามาใช้ในการควบคุมโรคแซลโมเนลลาในฟารมไกได้แก่การทา

ภูมิคุ้มกันชนิดพึ่งเซลล์และภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ในลำาไส้ได้ ความสะอาด ฆ่าเชื้อภายในโรงเรือนและพักโรงเรือนในระยะเวลา





ซึงเป็นภมิคุ้มกันท่มีบทบาทสาคัญในการควบคุมโรคแซลโม ท่เหมาะสม การกาจัดพาหะต่างๆ อย่างเหมาะสม การตรวจสอบ


เนลลา วัคซีนเชื้อตาย เป็นวัคซีนท่มีความเฉพาะเจาะจงในการ ลูกไก่ที่นำาเข้ามาในฟาร์มต้องปราศจากเชื้อแซลโมเนลลา การเล้ยง


ป้องกันโรคแซลโมเนลลา เฉพาะเชื้อท่เป็นชนิดเดียวกับเชื้อท่อยู่ใน ไก่แบบเข้าออกหมด (all in/all out) การแบ่งความรับผิดชอบของ

วัคซีน โดยพบว่าไก่ที่ได้รับวัคซีนและได้รับเชื้อ มีอัตราการตรวจพบ คนงานในการเลี้ยงและดูแลไก่ เป็นต้น
เชื้อต่ำากว่าไก่ที่ไม่ได้รับวัคซีน แต่พบว่าการป้องกันโรคดีมากในไก่ที่ สรุป การควบคุมโรคแซลโมเนลลาในการเลี้ยงและการผลิตสัตว ์






ได้รับวัคซีนและไม่ได้รับเชื้อโดยตรง (Baxter-Jones,1996) จากการ ปีกน้น ควรใช้มาตรการหลายๆ อย่างรวมกน เพื่อใหเกดประสทธิภาพ
ทดลองการป้องกันโรคแซลโมเนลลาด้วยวัคซีน พบว่าผลการทดลอง สูงสุดในการควบคุมโรคแซลโมเนลลา
ยังขาดความสม่ำาเสมอ ซึ่งขึ้นกับเสตรนของแซลโมเนลลาที่นำามาใช้
ในการให้เชื้อพิษ ปริมาณของเชื้อพิษ เส้นทางการให้เชื้อพิษและอายุ เอกสารอ้างอิง
ไก่ที่นำามาใช้ในการทดลอง จิโรจ ศศิปรียจันทร์. 2547. โรคติดเชื้อซัลโมเนลลา.ใน: การจัดการและโรคสำาคัญ
7. การใช้โปรไบโอติก มีการทดลองยืนยันว่า Lactobacillus ในไก่เนื้อ. พิมพ์ครั้งที่ 3. บ. ธนาเพลส แอนด์กราฟฟิค จก. หน้า 118-134.

นิวัตร จันทร์ศิริพรชัย และคณะ 2546. วารสารสัตวแพทยศาสตร์มข. 13(2): 1-8.
แยกได้จากสัตว์ปีก สามารถลดอัตราการตายในไก่จากการให้เชื้อ นิวัตร จันทร์ศิริพรชัย. 2550. การป้องกันการติดเชื้อซัลโมเนลลาในไก่เนื้อโดยใช้
S. Typhimurium จาก 33% ในไก่กลุ่มที่ไม่ได้รับโปรไบโอติก เหลือ competitive exclusion ที่แยกได้จากประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย. (prepare to submit)
14% ในไก่กลุ่มที่ได้รับโปรไบโอติก (Watkin, 1983) แต่บางรายงาน เมธิน ผดุงกิจ และคณะ 2547. การประชุมวิชาการสมุนไพร : โอกาสและ
ทางเลือกใหม่ ของอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์. 15-16 มกราคม 2547.หน้า 62-68.

พบว่าการทดลองใช้โปรไบโอติกในการควบคุมโรคไม่ให้ผลดีเท่าท่ควร เยาวมาลย์ และคณะ 2549. รายงานโครงการวิจัยฉบับสมบูรณ์. สถาบันการแพทย์
(Adler, 1980) แผนไทย. หน้า 1-101.
8. การใช้มาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพโรคแซลโมเนลลา วสันต์ จันทรสนิท และคณะ 2547. การประชุมวิชาการสมุนไพร : โอกาสและ
ทางเลือกใหม่ ของอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์. 15-16 มกราคม 2547.หน้า 16-19.

เป็นโรคท่มีสาเหตุมาจากเชื้อแซลโมเนลลาซึ่งมีมากกว่า 2,500 สถาบันสุขภาพสัตว์. 2540. รายงานประจำาปี.
ซีโรวาร์และการปนเปื้อนเชื้อแซลโมเนลลาน้นเกิดขึ้นได้ตลอด อินทิรา กระหม่อมทอง และคณะ 2543. วารสารสัตวแพทย์. 10(3): 1-12.

กระบวนการเลี้ยงและการผลิตไก่นอกจากนี้แซลโนเนลลายังสามารถ Adler, H.E. and DaMassa, A.J. 1980. Avian Dis.24: 868-878.

Baxter-Jones, C. 1996. Proc. 2nd Poultry Health.19-26.
ปนเปื้อนมากับพาหะ เช่น หนูแมลงและนก คนเลี้ยงไก่และอุปกรณ์ Chansiripornchai, N. et al. 2000. FEMS Immun.Med. Microbiol.
ในการเลี้ยงไก่ดั้งนั้นการใช้มาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งในการควบคุม 29: 221-225.
โรคแซลโมเนลลาให้ประสบความสำาเร็จจึงเป็นไปได้ยาก การควบคุม Cox, N.A. and Bailery, J.S. 1996. World Poult. Special. p. 41.
Hinton, A. et al. 1991. Poult Sci. 70: 67-73.

โรคแซลโมเนลลาให้ประสบความสาเร็จ ควรจะต้องใช้หลายๆ Methner, U. et al. 1999. Int. J. Food Microbiol. 49:35-42.



มาตรการรวมกน โดยเฉพาะมาตรการด้านความปลอดภยทางชีวภาพ Watkins, B.A. and Miller, B.F. 1983. Poult. Sci.62: 1772-1779.

ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยในการควบคุมโรคแซลโมเนลลาเท่านั้น มาตรการ ที่มา: รศ.น.สพ.ดร.นิวัตร จันทร์ศิริพรชัย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ ์

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประมวลเร่องการประชุมวิชาการทางสัตวแพทย์และการเลี้ยงสัตว
ความปลอดภัยทางชีวภาพยังสามารถใช้ในการควบคุมและป้องกันโรค ครั้งที่ 33
38 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE PRODUCTION MAGAZINE


และป้องกันการติดเชื้อท่รังไข่ซึ่งเท่ากับเป็นการป้องกันการติดเชื้อ




ผานไข่และวคซีนเชื้อเป็นน้นไม่ควรทจะมีความรนแรงซึ่งก่อผลเสีย



ต่อการเจริญเติบโตของลูกไก่การให้วัคซีนชนิดเชื้อเป็น สามารถให้ได้
ในไก่อายุ 1 วันประมาณ 3 สัปดาห์ควรให้วัคซีนอีก 1 ครั้ง กรณี
ถ้าฟาร์มมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรค ควรให้วัคซีนซ้ำาทุก 3 เดือน
(จิโรจ, 2547) การให้วัคซีนป้องกันโรคแซลโนเนลลา จะต้องปฏิบัติ

ควบคู่ไปกับการจัดการด้านสุขศาสตร์ท่ดีของฟาร์ม การฆ่าเชื้อท ่ ี
เหมาะสม และการควบคุมหนูแมลงและนกที่อาศัยอยู่ในฟาร์มอย่าง
มีประสิทธิภาพ วัคซีนสามารถป้องกันการปนเปื้อนแซลโมเนลลาใน
ฟาร์มได้ในกรณีท่ฟาร์มมีการปนเปื้อนแซลโมเนลลาไม่มากนัก วัคซีน


ชนิดเชื้อตาย เป็นวัคซีนซึ่งวิธีการเตรียมต้องอาศัยส่อวัคซีน ทำาให้
ต้องทาการให้วัคซีนด้วยวิธีการฉีด ซึ่งอาจก่อให้เกิดการอักเสบ ณ


บริเวณท่ฉีดวัคซีนได้วัคซีนเชื้อตายจะสามารถกระตุ้นภูมิค้มกันใน



กระแสเลือดได้ดีจึงสามารถถายทอดภมิคุมกนได้ซึงสามารถป้องกน ติดเชื้ออ่นๆ ในไก่ได้อีกด้วย มาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพ








โรคในลูกไก่อายุ 1 สัปดาห์ได้โดยวัคซีนเชื้อตายจะไม่สามารถกระตุ้น ที่นำามาใช้ในการควบคุมโรคแซลโมเนลลาในฟารมไกได้แก่การทา
ภูมิคุ้มกันชนิดพึ่งเซลล์และภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ในลำาไส้ได้ ความสะอาด ฆ่าเชื้อภายในโรงเรือนและพักโรงเรือนในระยะเวลา






ซึงเป็นภมิคุ้มกันท่มีบทบาทสาคัญในการควบคุมโรคแซลโม ท่เหมาะสม การกาจัดพาหะต่างๆ อย่างเหมาะสม การตรวจสอบ

เนลลา วัคซีนเชื้อตาย เป็นวัคซีนท่มีความเฉพาะเจาะจงในการ ลูกไก่ที่นำาเข้ามาในฟาร์มต้องปราศจากเชื้อแซลโมเนลลา การเล้ยง

ป้องกันโรคแซลโมเนลลา เฉพาะเชื้อท่เป็นชนิดเดียวกับเชื้อท่อยู่ใน ไก่แบบเข้าออกหมด (all in/all out) การแบ่งความรับผิดชอบของ


วัคซีน โดยพบว่าไก่ที่ได้รับวัคซีนและได้รับเชื้อ มีอัตราการตรวจพบ คนงานในการเลี้ยงและดูแลไก่ เป็นต้น โรคลัมปีสกิน...
เชื้อต่ำากว่าไก่ที่ไม่ได้รับวัคซีน แต่พบว่าการป้องกันโรคดีมากในไก่ที่ สรุป การควบคุมโรคแซลโมเนลลาในการเลี้ยงและการผลิตสัตว ์

ได้รับวัคซีนและไม่ได้รับเชื้อโดยตรง (Baxter-Jones,1996) จากการ ปีกน้น ควรใช้มาตรการหลายๆ อย่างรวมกน เพื่อใหเกดประสทธิภาพ กับแนวทางจัดการควบคุม





ทดลองการป้องกันโรคแซลโมเนลลาด้วยวัคซีน พบว่าผลการทดลอง สูงสุดในการควบคุมโรคแซลโมเนลลา
ยังขาดความสม่ำาเสมอ ซึ่งขึ้นกับเสตรนของแซลโมเนลลาที่นำามาใช้ โรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) ในโค กระบือ
ในการให้เชื้อพิษ ปริมาณของเชื้อพิษ เส้นทางการให้เชื้อพิษและอายุ เอกสารอ้างอิง ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ท่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในไทย จึงไม่มีการใช้วัคซีน

ไก่ที่นำามาใช้ในการทดลอง จิโรจ ศศิปรียจันทร์. 2547. โรคติดเชื้อซัลโมเนลลา.ใน: การจัดการและโรคสำาคัญ ควบคุมและป้องกันโรค สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกร ซึ่ง
7. การใช้โปรไบโอติก มีการทดลองยืนยันว่า Lactobacillus ในไก่เนื้อ. พิมพ์ครั้งที่ 3. บ. ธนาเพลส แอนด์กราฟฟิค จก. หน้า 118-134. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ได้ดำาเนินการควบคุม
นิวัตร จันทร์ศิริพรชัย และคณะ 2546. วารสารสัตวแพทยศาสตร์มข. 13(2): 1-8.

แยกได้จากสัตว์ปีก สามารถลดอัตราการตายในไก่จากการให้เชื้อ นิวัตร จันทร์ศิริพรชัย. 2550. การป้องกันการติดเชื้อซัลโมเนลลาในไก่เนื้อโดยใช้ โรคลัมปี สกินอย่างเร่งด่วน ทั้งการห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ การรักษา

S. Typhimurium จาก 33% ในไก่กลุ่มที่ไม่ได้รับโปรไบโอติก เหลือ competitive exclusion ที่แยกได้จากประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย. (prepare to submit) โรค และการจัดหาวัคซีน พร้อมวางโปรแกรมการทาวัคซีน เพื่อควบ
เมธิน ผดุงกิจ และคณะ 2547. การประชุมวิชาการสมุนไพร : โอกาสและ
14% ในไก่กลุ่มที่ได้รับโปรไบโอติก (Watkin, 1983) แต่บางรายงาน ทางเลือกใหม่ ของอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์. 15-16 มกราคม 2547.หน้า 62-68. คุมโรคลัมปีสกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจำากัดโรคนี้ให้หมดไปจาก

พบว่าการทดลองใช้โปรไบโอติกในการควบคุมโรคไม่ให้ผลดีเท่าท่ควร เยาวมาลย์ และคณะ 2549. รายงานโครงการวิจัยฉบับสมบูรณ์. สถาบันการแพทย์ ประเทศไทย
(Adler, 1980) แผนไทย. หน้า 1-101. น.สพ.บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ ผ้อำ�นวยก�รสำ�นักควบคุม

วสันต์ จันทรสนิท และคณะ 2547. การประชุมวิชาการสมุนไพร : โอกาสและ
8. การใช้มาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพโรคแซลโมเนลลา ทางเลือกใหม่ ของอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์. 15-16 มกราคม 2547.หน้า 16-19. ป้องกัน และบำ�บัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ เผยว่า ลัมปีสกิน ถือเป็น


เป็นโรคท่มีสาเหตุมาจากเชื้อแซลโมเนลลาซึ่งมีมากกว่า 2,500 สถาบันสุขภาพสัตว์. 2540. รายงานประจำาปี. โรคอุบัติใหม่ โดยกรมปศุสัตว์ได้เฝ้าระวังมาตังแต่พบการระบาดท ี ่

ซีโรวาร์และการปนเปื้อนเชื้อแซลโมเนลลาน้นเกิดขึ้นได้ตลอด อินทิรา กระหม่อมทอง และคณะ 2543. วารสารสัตวแพทย์. 10(3): 1-12. อินเดีย กระทั่งมีรายงานว่า พบโรคในเมียนมาร์ ก็ดำาเนินการระงับ อิสราเอล ก่อนมีรายงานที่กรีซในยุโรป และเข้ามาในเอเชียที่ไต้หวัน

กระบวนการเลี้ยงและการผลิตไก่นอกจากนี้แซลโนเนลลายังสามารถ Adler, H.E. and DaMassa, A.J. 1980. Avian Dis.24: 868-878. การนาเข้าโคจากเมียนมาร์ทันที แต่หลังจากท่พบโรคลัมปิสกิน เวียดนาม เมียนมาร์

Baxter-Jones, C. 1996. Proc. 2nd Poultry Health.19-26.
ปนเปื้อนมากับพาหะ เช่น หนูแมลงและนก คนเลี้ยงไก่และอุปกรณ์ Chansiripornchai, N. et al. 2000. FEMS Immun.Med. Microbiol. ในประเทศ กรมปศุสัตว์ จึงตั้งเป้าหมายในการควบคุมโรคและป้องกัน เมื่อพบโรค ในปี 62 พบที่จีนและอินเดียเป็นหลัก ในปี 63

ในการเลี้ยงไก่ดั้งนั้นการใช้มาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งในการควบคุม 29: 221-225. โรค เพื่อกำาจัดโรคให้หมดไปจากประเทศไทย กรมปศุสัตว์ได้ออกหนังสือเตือนให้เฝ้าระวัง ชะลอการนำาเข้า ต่อเน่อง
โรคแซลโมเนลลาให้ประสบความสำาเร็จจึงเป็นไปได้ยาก การควบคุม Cox, N.A. and Bailery, J.S. 1996. World Poult. Special. p. 41. โรคลัมปิสกิน เกิดจากเชื้อไวรัส ในกลุ่ม Pox ไวรัส ที่แบ่ง มาในปี 64 ที่เน้นการชะลอการนำาเข้า โดยเฉพาะจากเมียนมาร์ ซึ่ง
Hinton, A. et al. 1991. Poult Sci. 70: 67-73.



โรคแซลโมเนลลาให้ประสบความสาเร็จ ควรจะต้องใช้หลายๆ Methner, U. et al. 1999. Int. J. Food Microbiol. 49:35-42. เป็น 3 ตัว คือ sheep pox Goat pox และ Lumpiskin disease ลัมปีสกิน ไม่เป็นโรคสัตว็ส่คน และไม่พบการติดข้ามไปส่แพะแกะ

มาตรการรวมกน โดยเฉพาะมาตรการด้านความปลอดภยทางชีวภาพ Watkins, B.A. and Miller, B.F. 1983. Poult. Sci.62: 1772-1779. เชื้อพบในจมูก เยื่อเมือก ผิวหนัง และเยื่อบุทางเดินหายใจและทาง ส่วนในสัตว์ป่าพบได้ ส่วนในโคสายพันธุ์ยุโรปติดเชื้อได้และค่อนข้าง





ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยในการควบคุมโรคแซลโมเนลลาเท่านั้น มาตรการ ที่มา: รศ.น.สพ.ดร.นิวัตร จันทร์ศิริพรชัย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ ์ เดินอาหารได้ โดยโรคลัมปีสกินพบคร้งแรกในประเทศแซมเบีย ทวีป ไว้ต่อการเกิดโรคพอสมควร ซึ่งจากการท่โรคนี้ไม่ติดต่อส่คน แต่มี
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประมวลเร่องการประชุมวิชาการทางสัตวแพทย์และการเลี้ยงสัตว

ความปลอดภัยทางชีวภาพยังสามารถใช้ในการควบคุมและป้องกันโรค ครั้งที่ 33 แอฟริกา (ตอนใต้) ก่อนพบในอียิปต์ (แอฟริกาเหนือ) และมาพบที่ รายงานข่าวว่า พบในประเทศหนึ่ง แต่หลังจากการสืบค้นข้อมูลจาก
38 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 39

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE
















































องค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ ก็ไม่พบรายงาน แต่จาก จากน้นแผลจะหายเองได้ ส่วนการพบในลูกโค หากพบในจมูกจะทาให ้
รายงานดังกล่าว มีการอ้างอิงที่ไม่ชัดเจน การหายใจไม่ดี และทำาให้ติดเชื้อแทรกซ้อนและตายได้ ในโคนมก็พบ
สำาหรับสถานการณ์โรคลัมปิสกินในไทย ข้อมูล ณ วันที่ 30 แต่อาการน้อยเช่นเดีบวกับในกระบือ
กรกฎาคม พบว่า รายงานเกิดโรค 62 จังหวัด และมีสุกรป่วยสะสม อาการของโรคลัมปีสกิน แบ่งออกเป็น 4 ระยะ เริ่มจากระยะ
ประมาณ 5 แสนตัว จากโคเนื้อทั้งหมด 7 ล้านกว่าตัว รวมโคนม แรก ที่มีไข้ซึม ไม่กินอาหาร และอาจพบตุ่มเล็กๆ ในระยะที่ 2 ตุ่ม
และกระบืออีก 1 ล้าน รวมเป็น 8 ล้านกว่าตัว ถือว่า อัตราการ มีอาการโตขึ้น ลักษณะคล้ายฝี เป็นผื่น ไม่มีหัว ระยะที่ 3 ตุ่มแตก



ป่วยไม่ได้สูงเกินกว่าท่กาหนด ส่วนอัตราการตายท่ยอมรับได้ คือ 10 กลายเป็นแผลหลุม มีน้ำาเหลืองไหล ซึ่งหากมีแมลงดูดเลือด มาตอม
เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันยังต่ากว่า การเกิดโรคในประเทศไทย พบ ก็ทำาให้การแพร่เชื้อออกเป็นวงกว้างได้ แต่ในระยะท่ 4 หลังแผลหาย


รายงานครั้งแรก ที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยพบ การระบาดในช่วงแรก สัตว์ก็มีอาการเกือบปกติ เช่น แผลที่หายก็ยุบลง ซึ่งในลูกโค หาก

ในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง ที่เป็นแหล่งผลิตโคต้นน้ำา ซึ่งเดิมเป็นโค พบท่ระบบทางเดินหายใจ มีแผลท่จมูกก็ทาให้การรักษาทาได้ยาก



จากเมียนมาร์เข้ามาเล้ยงในอีสานก่อนกระจายไปส่พื้นท่อ่น ดังนั้น และอาจไม่รอด ส่วนตัวที่หายป่วย ผิวหนังก็เรียบจากจุดที่เป็นแผล







การระบาดน่าจะเกิดจากการนาสัตว์จากจุดท่เกิดโรคแล้วนาไปเลี้ยง แต่พบอาการสีขนเปลี่ยน

ในพื้นท่ต่าง ก็แสดงให้เห็นว่า ช่วงแรกเกิดโรคไม่มาก แต่เมื่อกระจาย กรมปศุสัตว์ได้ดำาเนินการป้องกันโรค ด้วยการประชาสัมพันธ์
ออกไปแล้วก็ทาให้ควบคุมโรคได้ยาก ส่วนในภาคใต้ก็มีมาตรการ โดยให้เกษตรกรได้เฝ้าระวัง มีการเชิญประชุมทั้ง ส่วนผู้เลี้ยงโคเนื้อ

ควบคุมการเคลื่อนย้ายที่เข้มงวด ส่งผลให้ลดจำานวนตัวป่วยลง โคนม และจัดทาเอกสารแจก ควบคุมการเคลื่อนย้ายภายใต้การดูแล



สำาหรับอัตราการป่วยใหม่เพิ่มขึ้นในช่วง 13 - 23 มิถุนายน ของสัตวแพทย์ ควบคุมการกาจัดแมลง พ่นยากาจัดแมลงเสรมให ้

2564 หลังจากนั้นก็ลดลง ท้งอัตราการตายและอัตราการป่วยใหม่ เกษตรกรผู้เลี้ยงโค ได้ใช้มุ้งเขียวในการป้องกันแมลง รวมถึงทำาลาย

รวมท้งมีการหายป่วยได้ เพราะรักษาแบบประคองอาการ เพื่อให้สัตว ์ แหล่งเพาะพันธุ์ต่างๆ เน้นย้า ในการดำาเนินการของสัตว์ในพื้นท่ หาก




แข็งแรงขึ้นได้ ก็ช่วยลดอัตราการตายได้ ซึ่งการตายส่วนใหญ่พบใน พบสัตว์ป่วยก็ทาการแยกและรักษาตามอาการ ตัวอ่นก็ไม่ป่วย ซึ่ง

ลูกโค โดยอาการที่พบ คือ พบตุ่มที่ผิวหนัง ในช่วง 7 วันแรก หลัง พบค่อนข้างในภาคสนาม ส่วนการฉีดวัคซีนก็มีการนำาเข้ามาโดยกรม
จากนั้นก็หนาตัวและแตก มีการลอกหลุดได้ภายใน 20 กว่าวัน หลัง ปศุสัตว์ และมีที่ได้รับการบริจาคจากเอกชน
40 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE


การเฝ้าระวังประชาสัมพันธ์ กรมปศุสัตว์ได้แจ้งไปยังเกษตรกร


ผ่านกลุ่มผ้เลี้ยงและสมาคมต่างๆ รวมถึงกาหนดนิยามว่า ลักษณะ
ของโรคเป็นอย่างไร เช่น การเป็นตุ่มเนื้อ ก้อนแข็ง บวมขึ้นตาม
ลำาตัว คอ ขา เต้านม หรืออวัยวะเพศ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ
2-5 เซนติเมตร เมื่อแตกจะกลายเป็นแผล เป็นวง และตกสะเก็ด
พบอาการไข้ หายใจลำาบาก ถือเป็นการเฝ้าระวังโรคผ่านทาง

เครือข่ายต่างๆ นอกจากน้น ก็ยังมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุ
โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เพื่อให้ข้อมูลกับเกษตรกร
ในการเคลอนย้ายสตว ได้กาหนดใหการเคลอนย้ายต้องผาน











การเห็นชอบจาก ผอ.สคบ. ในการพิจารณา ซึ่งในพื้นท่ท่มีการระบาด
มากก็จะไม่ให้เคลื่อนย้ายเลย เพราะมองว่าการเคลื่อนย้ายเป็นแหล่ง



กระจายโรคทสำาคัญ รวมถึงการกาหนดให้การเคล่อนย้ายต้องมีการ

ตรวจกักอย่างน้อย 28 วัน มีการพ่นยากำาจัดแมลงพาหะทั้งบนรถ



และตัวสัตวกอนการเคลือนย้าย ซึงการเข้มงวดอนุญาตใหเคลอนย้าย




ไปโรงฆ่าภายในจังหวัดท่ขออนุญาตสัตวแพทย์ในพื้นท่ได้ แต่ถ้า


เคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดต้องได้รับการอนุญาตจากกรมปศุสัตว์เท่านั้น

ส่วนการนาเข้าโค ในอนาคตหากมีการนำาเข้ามาก็ต้องผ่านการ
กักโรคอย่างน้อย 28 วัน และการดำาเนินการก็ต้องมีการเก็บตัวอย่าง
เลือด เพื่อตรวจว่า มีเชื้อในกระแสเลือดหรือไม่ โดยใช้เกณฑ์การ
ตรวจทางวิชาการ และปรับปรุงระบบการกักชายแดนต้องมีมุ้ง การ



พ่นยากาจัดแมลง ในส่วนของโคท่พบผลบวก ก็อาจดำาเนินการทาลาย
หรือกักต่อสำาหรับฝูงนั้น เมื่อไม่พบอาการแล้วก็ให้เคลื่อนย้ายต่อไป


องค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ ก็ไม่พบรายงาน แต่จาก จากน้นแผลจะหายเองได้ ส่วนการพบในลูกโค หากพบในจมูกจะทาให ้ การป้องกัน ได้มีเว็ปไซต์ของกรมปศุสัตว์ ท่มีรายงานการรักษา

รายงานดังกล่าว มีการอ้างอิงที่ไม่ชัดเจน การหายใจไม่ดี และทำาให้ติดเชื้อแทรกซ้อนและตายได้ ในโคนมก็พบ ยาท่ใช้ และมีวิธีการพ่นยากาจัดแมลง รวมถึงการใช้สารสมุนไพร


สำาหรับสถานการณ์โรคลัมปิสกินในไทย ข้อมูล ณ วันที่ 30 แต่อาการน้อยเช่นเดีบวกับในกระบือ เพื่อลดสารตกค้าง และลดปัญหาสารพิษ ก็ใช้สมุนไพรเข้ามาช่วยทั้ง
กรกฎาคม พบว่า รายงานเกิดโรค 62 จังหวัด และมีสุกรป่วยสะสม อาการของโรคลัมปีสกิน แบ่งออกเป็น 4 ระยะ เริ่มจากระยะ น้ำาส้มควันไม้ และสมุนไพรอื่นๆ ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่วนการ

ประมาณ 5 แสนตัว จากโคเนื้อทั้งหมด 7 ล้านกว่าตัว รวมโคนม แรก ที่มีไข้ซึม ไม่กินอาหาร และอาจพบตุ่มเล็กๆ ในระยะที่ 2 ตุ่ม รักษาสัตว์ป่วย ก็ดำาเนินการตามขั้นตอน โดยในระยะแรกท่สัตว์มี
และกระบืออีก 1 ล้าน รวมเป็น 8 ล้านกว่าตัว ถือว่า อัตราการ มีอาการโตขึ้น ลักษณะคล้ายฝี เป็นผื่น ไม่มีหัว ระยะที่ 3 ตุ่มแตก อาการไข้ ไม่กินอาหาร ก็ให้ยาลดไข้ ยาแก้อาการอักเสบ แต่อาจ


ป่วยไม่ได้สูงเกินกว่าท่กาหนด ส่วนอัตราการตายท่ยอมรับได้ คือ 10 กลายเป็นแผลหลุม มีน้ำาเหลืองไหล ซึ่งหากมีแมลงดูดเลือด มาตอม ให้ยาปฏิชีวนะเพิ่มด้วย ส่วนลูกโคอาจกังวลว่า ยาปฏิชีวนะอาจไปมี

เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันยังต่ากว่า การเกิดโรคในประเทศไทย พบ ก็ทำาให้การแพร่เชื้อออกเป็นวงกว้างได้ แต่ในระยะท่ 4 หลังแผลหาย ผลต่อ ตับและไต ของสัตวได้ ก็ต้องมีการศึกษาหาวิธีการใช้ท ่ ี




รายงานครั้งแรก ที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยพบ การระบาดในช่วงแรก สัตว์ก็มีอาการเกือบปกติ เช่น แผลที่หายก็ยุบลง ซึ่งในลูกโค หาก ปลอดภัยต่อไป โดยสัตว์ท่ติดเชื้อแสดงอาการรักษาและหาย โดยมี



ในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง ที่เป็นแหล่งผลิตโคต้นน้ำา ซึ่งเดิมเป็นโค พบท่ระบบทางเดินหายใจ มีแผลท่จมูกก็ทาให้การรักษาทาได้ยาก การเปล่ยนแปลงท่ผิว แต่ก็ไม่ได้มากนัก และสัตว์ท่หายจากการป่วย








จากเมียนมาร์เข้ามาเล้ยงในอีสานก่อนกระจายไปส่พื้นท่อ่น ดังนั้น และอาจไม่รอด ส่วนตัวที่หายป่วย ผิวหนังก็เรียบจากจุดที่เป็นแผล แล้ว เนื้อบริโภคได้ เมื่อพักการใช้ยาครบถ้วน อย่างน้อย 30 วัน



การระบาดน่าจะเกิดจากการนาสัตว์จากจุดท่เกิดโรคแล้วนาไปเลี้ยง แต่พบอาการสีขนเปลี่ยน การใช้วัคซีนป้องกันโรค มีความกังวลในการใช้วัคซีนพอสมควร


ในพื้นท่ต่าง ก็แสดงให้เห็นว่า ช่วงแรกเกิดโรคไม่มาก แต่เมื่อกระจาย กรมปศุสัตว์ได้ดำาเนินการป้องกันโรค ด้วยการประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีเสียงสะท้อนจากเกษตรกรว่า วัคซีนท่นำาเข้ามาช้าเป็นเพราะ


ออกไปแล้วก็ทาให้ควบคุมโรคได้ยาก ส่วนในภาคใต้ก็มีมาตรการ โดยให้เกษตรกรได้เฝ้าระวัง มีการเชิญประชุมทั้ง ส่วนผู้เลี้ยงโคเนื้อ เหตุใด เนื่องจากต้องการให้ตรงกับเสตรนท่ระบาดในประเทศ และ


ควบคุมการเคลื่อนย้ายที่เข้มงวด ส่งผลให้ลดจำานวนตัวป่วยลง โคนม และจัดทาเอกสารแจก ควบคุมการเคลื่อนย้ายภายใต้การดูแล กระบวนการนาเข้าก็ต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบความปลอดภัย




สำาหรับอัตราการป่วยใหม่เพิ่มขึ้นในช่วง 13 - 23 มิถุนายน ของสัตวแพทย์ ควบคุมการกาจัดแมลง พ่นยากาจัดแมลงเสรมให ้ ความถกต้องจาก อย. โดยรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณใหนำาเข้าวคซีน




2564 หลังจากนั้นก็ลดลง ท้งอัตราการตายและอัตราการป่วยใหม่ เกษตรกรผู้เลี้ยงโค ได้ใช้มุ้งเขียวในการป้องกันแมลง รวมถึงทำาลาย ท่เสตรนตรง ชนิดเชื้อเป็น โดยในการใช้ก็กาหนดพื้นท่ว่า จะใช้ใน






รวมท้งมีการหายป่วยได้ เพราะรักษาแบบประคองอาการ เพื่อให้สัตว ์ แหล่งเพาะพันธุ์ต่างๆ เน้นย้า ในการดำาเนินการของสัตว์ในพื้นท่ หาก พื้นท่ใดบ้าง และมีกระบวนการท่จะติดตามตรวจสอบการทาวัคซีน



แข็งแรงขึ้นได้ ก็ช่วยลดอัตราการตายได้ ซึ่งการตายส่วนใหญ่พบใน พบสัตว์ป่วยก็ทาการแยกและรักษาตามอาการ ตัวอ่นก็ไม่ป่วย ซึ่ง ร่วมด้วย ส่วนท่เป็นเฮทเทอโรโลกัส ท่ทาจาก Goat pox และ




ลูกโค โดยอาการที่พบ คือ พบตุ่มที่ผิวหนัง ในช่วง 7 วันแรก หลัง พบค่อนข้างในภาคสนาม ส่วนการฉีดวัคซีนก็มีการนำาเข้ามาโดยกรม Sheep pox แม้ราคาจะถูกกว่า แต่ไทยก็มีการแพะแกะ ดังนั้น จึง
จากนั้นก็หนาตัวและแตก มีการลอกหลุดได้ภายใน 20 กว่าวัน หลัง ปศุสัตว์ และมีที่ได้รับการบริจาคจากเอกชน ไม่อยากให้ใช้ เพราะไทยยังไม่มีโรคดังกล่าว
40 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 41

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE



พยาธิเม็ดเลือดในโค


ที่พบมากช่วงหน้าฝน






























น.สพ. ยุทธ เทียมสุวรรณ
ผู้จัดการฝ่ายวิชาการ บจก. เซ็นทรัลลิส





ขณะนี้บ้านเรากำาลังอยู่ในช่วงมรสุม พายุเข้า เป็นปลายฤดูที่ Boophilus spp. (ในไทยสำาคัญสุดคือ B. microplus) วงชีวิตเริ่ม
ฝนตกหนักชุกติดต่อกัน นอกจากภัยธรรมชาติ น้ำาท่วม ที่เหล่าชาว จากเห็บตัวเมียดูดเลือดโคที่มีเชื้อจนอิ่ม จะหล่นลงจากตัวโค เชื้อจะ

ปศุสัตว์ต้องคอยระมัดระวังกันอยู่แล้ว ก็ยังมีโรคติดเชื้อท่คอยกวน เจริญในตัวเห็บเป็นระยะต่างๆ จนเข้าไปแทรกตัวในเซลล์ลาไส้เห็บ

ตัวสัตว์ และกวนใจผู้เลี้ยง อีกมากมายมหาศาลกันเลยทีเดียว หนึ่ง เจริญแบ่งตัว เข้าไปอยู่ในระบบเลือดและน้ำาเหลืองของเห็บ และไป
ในนั้นก็คือ โรคที่ติดต่อผ่าน หรือนำามาโดยแมลง มีแมลงเป็นพาหะ อยู่ท่วตัว รวมถึงไข่เห็บด้วย เมื่อฟักเป็นตัวอ่อนจะมีเชื้อในต่อม


ท้งน้เนื่องจากฤดูฝน อากาศเย็น ชื้น แฉะ ไม่ค่อยมีแสงแดด มี น้ำาลาย เจริญเป็นตัวกลางวัยและเต็มวัย เมื่อไปดูดเลือดโค ก็จะ

แหล่งน้าขังจำานวนมาก จึงเหมาะแก่การแพร่ขยายพันธุ์ และออก ถ่ายทอดเชื้อกลับไปให้โค เชื้อบาบีเซียจะเข้าไปเจริญในเม็ดเลือดแดง



หากินของแมลง โดยหากถามว่าปศุสัตว์ในบ้านเราชนิดใด ท่น่าจะได้ ของโค แบ่งตัว ทาให้เม็ดเลือดแดงแตกไปเร่อยๆ ส่วนเห็บตัวผ ู ้


รบผลกระทบ หรอมีโรคอนเกดจากแมลงมากทสุด คำาตอบคงหนี จะนาโรคโดยการดูดเลือดโคท่มีเชื้อ แล้วมีเหตุบังเอิญให้ไปดูดเลือด









ไม่พ้น โค เพราะเรามักเล้ยงกันในคอกโล่ง หรือโรงเรือนเปิด ท้งต้อง ตัวใหม่ ก็จะถ่ายทอดเชื้อได้เลย ซึ่งเห็นได้ว่านอกจากเห็บในธรรมชาติ
ปล่อยลงทุ่งเพื่อแทะเล็มหญ้า ต่างกันกับสุกร หรือไก่ ที่อาจเลี้ยงไว้ แล้ว การติดผ่านเข็มฉีดยาก็อาจเป็นได้เช่นกัน

ในโรงเรือนปิดตลอดเวลา โรคสำาคัญในโคท่พบมากในช่วงหน้าฝน โคท่อายุน้อยจะต้านทานโรคมากกว่าอายุมาก มักเป็นในอายุ

อันเกิดจากแมลงเป็นตัวนาเชื้อ โดยท่เชื้อมีแหล่งอาศัย รวมถึงก่อ 1-2 ปีขึ้นไป พันธุ์แท้นาเข้า หรือนาหนักตัวมากจะแสดงอาการ






โรคหลักในกระแสโลหิต หรือต่อเม็ดเลือดแดง ดังท่เกษตรกรเรียก รุนแรงกว่า อาการท่สำาคัญเกิดจากภาวะโลหิตจาง หลังจากได้รับเชื้อ

กันติดปากว่า “พยาธิเม็ดเลือดในโค” มีดังต่อไปนี้ 2-3 สัปดาห์จะเริ่มแสดงอาการไข้สูงกว่า 41-45 ำC แห้งน้ำา ไม่กิน
1. โรคไข้เห็บโค หรือ บาบีซิโอซิส (Babesiosis) บางคร้ง อาหาร หยุดเคี้ยวเอื้อง กระเพาะรูเมนหยุดเคลื่อนไหว มักแยกตัว

เกษตรกรจะเรียกกันว่าโรคเยี่ยวแดง สาเหตุเกิดจากสัตว์เซลล์เดียว ออกจากฝูงไปอยู่ที่ร่มๆ นอนหรือยืนหลังโก่ง ขนยุ่ง หูตก หายใจ



หรือโปรโตซัวในสกลบาบีเซีย (Babesia) ทพบในโคมีหลายชนด เร็ว อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น เลือดคั่งที่เยื่อเมือกทำาให้มีสีแดง



แต่ท่พบและมีความสาคัญในไทยมี 2 ชนิดคือ B. bigemina เข้มขึ้น เม็ดเลือดแดงจะถูกทาลายไปเร่อยๆ จนประมาณสัปดาห์ท่




และ B. bovis โดยมีพาหะนาโรคท่สำาคัญคือ เห็บแข็งชนิด 3 จะอาการหนักมากขึ้น นอน ไม่ค่อยลุกเดิน ขาหลังไม่มีแรง


42 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE

C
พยาธิเม็ดเลือดในโค


ที่พบมากช่วงหน้าฝน







A D






เคลื่อนไหวลาบาก ท้องผูก ท้องร่วง เม็ดเลือดแดงแตกภายใน การป้องกันได้ชั่วระยะเวลาหน่ง แต่อาจมีผลข้างเคียงได้บ้าง ระวัง
หลอดเลือดทำาให้ปัสสาวะมีสีแดงน้ำาตาล หรือสีโค้ก บางตัวมีอาการ เวลามีการนำาโคใหม่เข้ามา เกษตรกรบางรายนิยมปล่อยโคลงท่ง ุ

ดีซ่าน ในโคนม นานมจะลดลงชัดเจน แม่โคตั้งท้องอาจแท้งได้ ช่วงสายๆ ที่มีแสงแดด เพราะช่วงเช้า ตัวอ่อนของเห็บมักเกาะบน


บางตัวอาจไม่แสดงอาการท่กล่าวมา บางตัวอาจหนักถึงตายได้ ชนิด ยอดหญ้า ทำาให้มีโอกาสติดสู่โคมากขึ้น
B. bigemina จะแสดงอาการเร็ว แต่จะพัฒนาแย่ลงช้ากว่า ทำาให้ 2. โรคอนาพลาสโมซิส (Anaplasmosis) หรือ Gall sickness
รักษาได้ทัน ส่วนชนิด B. bovis จะแสดงอาการรุนแรงกว่า อาจมี เกิดจากริคเก็ตเซีย Anaplasma marginale และ Anaplasma

อาการทางประสาทเช่น ชัก เดินโซเซ บ้าคล่งชนคนหรือโคตัวอ่น centrale เชื้อนี้มีเห็บหลายสกุลเป็นตัวนาโรค แต่โคในไทยมักเกิดจาก



เน่องจากทาให้เกิดความผิดปกติท่สมองด้วย อ้ตราการป่วย การตาย Boophilus spp. โดยวงจรชีวิตท่วๆ ไป และการแพร่เชื้อโรค



จะรวดเร็ว รุนแรงกว่า และสูงมากกว่าด้วย ช่วงแรกอาการอาจไม่ จะคล้ายคลึงกับบาบีเซีย แต่เห็บ Boophilus spp. เชื้อจะไม่ติดต่อ
น.สพ. ยุทธ เทียมสุวรรณ
ผู้จัดการฝ่ายวิชาการ บจก. เซ็นทรัลลิส ชัดเจน แต่จะพัฒนาแย่ลงเร็วกว่า อาการจะหนัก และมักตาย โดย ผ่านไข่ มักติดทางตรงมากกว่า แต่โรคนี้นอกจากเห็บแล้ว ยังพบว่า
รักษาไม่ค่อยทัน แต่ท้งสองสายพันธุ์หากหายก็จะมีภูมิคุ้มกันโรค มีแมลงดูดเลือดอีกหลายชนิดนำาโรคได้ เช่น เหลือบ แมลงวันคอก

ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เมื่อหมดไปก็จะกลับเป็นโรคใหม่ได้ ยุง ซึ่งเป็นการติดต่อเชิงกล เช่นเดียวกับเข็มฉีดยา การตอน ตัด




วิธีท่นิยมในการวินิจฉัยโรคคือ เจาะเลือด และนามาทาฟิล์ม เขาก็นาโรคนี้ได้เช่นกัน รวมถึงติดจากแม่สู่ลูกได้ ลูกโคมักมีภูมิคุ้มกัน
ขณะนี้บ้านเรากำาลังอยู่ในช่วงมรสุม พายุเข้า เป็นปลายฤดูที่ Boophilus spp. (ในไทยสำาคัญสุดคือ B. microplus) วงชีวิตเริ่ม เลือดบางบนสไลด์ นำาไปย้อมสี ส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะพบเห็น ยาวถึง 6 เดือน มักเร่มป่วยท่อายุ 9-12 เดือนแต่อาการจะไม่รุนแรง


ฝนตกหนักชุกติดต่อกัน นอกจากภัยธรรมชาติ น้ำาท่วม ที่เหล่าชาว จากเห็บตัวเมียดูดเลือดโคที่มีเชื้อจนอิ่ม จะหล่นลงจากตัวโค เชื้อจะ เม็ดเลือดแดงท่มีปรสิตอยู่เป็นกลุ่มได้ง่าย ในแง่ความคุ้มกันเขตท่มี หากอายุ 1-2 ปี อาการจะรุนแรงแต่มักไม่ตาย แต่ถ้าอายุเกิน 3 ปี



ปศุสัตว์ต้องคอยระมัดระวังกันอยู่แล้ว ก็ยังมีโรคติดเชื้อท่คอยกวน เจริญในตัวเห็บเป็นระยะต่างๆ จนเข้าไปแทรกตัวในเซลล์ลาไส้เห็บ โรคประจำา หากแม่มีภูมิคุ้มกันโรค จะถ่ายทอดผ่านไปยังลูกโคทาง ขึ้นไป มักรุนแรงมาก และตายได้ง่าย โดยที่โคพันธุ์แท้ต่างประเทศ

ตัวสัตว์ และกวนใจผู้เลี้ยง อีกมากมายมหาศาลกันเลยทีเดียว หนึ่ง เจริญแบ่งตัว เข้าไปอยู่ในระบบเลือดและน้ำาเหลืองของเห็บ และไป น้ำานมเหลือง คุ้มโรคได้นานกว่า 2 เดือน และมักไวต่อการติดโรค มักแสดงอาการรวดเร็ว และรุนแรงกว่าพื้นเมือง หรือพันธุ์ผสม

ในนั้นก็คือ โรคที่ติดต่อผ่าน หรือนำามาโดยแมลง มีแมลงเป็นพาหะ อยู่ท่วตัว รวมถึงไข่เห็บด้วย เมื่อฟักเป็นตัวอ่อนจะมีเชื้อในต่อม ใหม่ช่วงอายุ 5-12 เดือน โคพื้นเมืองจะมีปัญหาไม่มากเท่าไหร่ สำาคัญ หลังได้รับเชื้อ จะมีระยะฟักตัวนานประมาณ 3-5 สัปดาห์


ท้งน้เนื่องจากฤดูฝน อากาศเย็น ชื้น แฉะ ไม่ค่อยมีแสงแดด มี น้ำาลาย เจริญเป็นตัวกลางวัยและเต็มวัย เมื่อไปดูดเลือดโค ก็จะ จะอยู่ที่พันธุ์แท้จากต่างประเทศ จึงนิยมทำาวัคซีนล่วงหน้าก่อน 2-3 จะเริ่มป่วยด้วยอาการโลหิตจาง มีไข้สูง 41 ำC เบื่ออาหาร หายใจ

แหล่งน้าขังจำานวนมาก จึงเหมาะแก่การแพร่ขยายพันธุ์ และออก ถ่ายทอดเชื้อกลับไปให้โค เชื้อบาบีเซียจะเข้าไปเจริญในเม็ดเลือดแดง สัปดาห์ หรือมาถึงก็รีบทาเป็นวัคซีนท่มีท้งสองสายพันธุ์ และมักรวม ลำาบาก อ่อนแรง เดินโซเซ ผิวหนังและเยื่อเมือกจะซีด ดีซ่าน






หากินของแมลง โดยหากถามว่าปศุสัตว์ในบ้านเราชนิดใด ท่น่าจะได้ ของโค แบ่งตัว ทาให้เม็ดเลือดแดงแตกไปเร่อยๆ ส่วนเห็บตัวผ ้ ู โรคอนาพลาสโมซิสไว้ด้วย การเคี้ยวเอื้องและกระเพาะรูแมนทำางานน้อยลง ท้องผูก ผอมโทรม






รบผลกระทบ หรอมีโรคอนเกดจากแมลงมากทสุด คำาตอบคงหนี จะนาโรคโดยการดูดเลือดโคท่มีเชื้อ แล้วมีเหตุบังเอิญให้ไปดูดเลือด การรักษานั้นให้เลือกใช้ยาท่ดี คือให้ยาไปแล้ว 2-3 ชม. โค แกร็น โรคนี้ปัสสาวะสีปกติ (เม็ดเลือดแดงถูกทำ�ล�ยในตับ ม้�ม




ไม่พ้น โค เพราะเรามักเล้ยงกันในคอกโล่ง หรือโรงเรือนเปิด ท้งต้อง ตัวใหม่ ก็จะถ่ายทอดเชื้อได้เลย ซึ่งเห็นได้ว่านอกจากเห็บในธรรมชาติ จะอาการดีขึ้น เชื้อจะหายไปจากเลือดภายใน 24 ชม. ท่นิยม ไม่ได้แตกในหลอดเลือดเหมือนบ�บีเซีย) น้ำานมลดลง แม่ตั้งท้อง



ปล่อยลงทุ่งเพื่อแทะเล็มหญ้า ต่างกันกับสุกร หรือไก่ ที่อาจเลี้ยงไว้ แล้ว การติดผ่านเข็มฉีดยาก็อาจเป็นได้เช่นกัน ใช้กันได้แก Diminazene aceturate 3.5 มก./กก., Imidocarb อาจแท้ง อาจป่วยตายภายใน 1-4 วัน จนถึงหลายสัปดาห์ บางตัว
ในโรงเรือนปิดตลอดเวลา โรคสำาคัญในโคท่พบมากในช่วงหน้าฝน โคท่อายุน้อยจะต้านทานโรคมากกว่าอายุมาก มักเป็นในอายุ dipropionate 0.5-3 มก./กก. ขึ้นกับชนิดเชื้อ, Quinuronium กเป็นแบบเรอรง บางตัวอาการออนมาก จนหายเองได้ โดยทโคยุโรป















อันเกิดจากแมลงเป็นตัวนาเชื้อ โดยท่เชื้อมีแหล่งอาศัย รวมถึงก่อ 1-2 ปีขึ้นไป พันธุ์แท้นาเข้า หรือนาหนักตัวมากจะแสดงอาการ sulfate 0.5-1 มก./กก. ขึ้นกับชนิดเชื้อ, Amicabalide isethionate พันธุ์แท้มักตายเร็วมาก มักมีอาการน้าลายไหล หายใจลาบากถ่ หัวใจ



โรคหลักในกระแสโลหิต หรือต่อเม็ดเลือดแดง ดังท่เกษตรกรเรียก รุนแรงกว่า อาการท่สำาคัญเกิดจากภาวะโลหิตจาง หลังจากได้รับเชื้อ 5-10 มก./กก. นอกจากยาฆ่าเชื้อบาบีเซียแล้ว อาจพิจารณา เต้นเร็ว อาการทางประสาท ชัก เกร็ง



กันติดปากว่า “พยาธิเม็ดเลือดในโค” มีดังต่อไปนี้ 2-3 สัปดาห์จะเริ่มแสดงอาการไข้สูงกว่า 41-45 ำC แห้งน้ำา ไม่กิน สเตียรอยด์ ยากันเลือดแข็งตัวตามกรณไป โรคน้ควรให้นาเกลือ นิยมวินิจฉัยด้วยการเจาะเลือด ทาฟิล์มเลือดบางบนสไลด์




1. โรคไข้เห็บโค หรือ บาบีซิโอซิส (Babesiosis) บางคร้ง ั อาหาร หยุดเคี้ยวเอื้อง กระเพาะรูเมนหยุดเคลื่อนไหว มักแยกตัว กลูโคส วิตามิน ธาตุเหล็ก บำารุงร่วมด้วย บางกรณีอาจให้เลือด นำาไปย้อมสี ส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์เห็นเป็นจุดเล็กๆ อยู่ท่ขอบ
เกษตรกรจะเรียกกันว่าโรคเยี่ยวแดง สาเหตุเกิดจากสัตว์เซลล์เดียว ออกจากฝูงไปอยู่ที่ร่มๆ นอนหรือยืนหลังโก่ง ขนยุ่ง หูตก หายใจ พร้อมทั้งดูแลไม่ให้ตื่นเต้นตกใจ ไม่บังคับรุนแรง ให้อยู่ที่สงบ เย็น เม็ดเลือดแดง ตับและม้ามโต น้ำาดีเหนียวข้น มีสีเข้มออกน้ำาตาลดำา






หรือโปรโตซัวในสกลบาบีเซีย (Babesia) ทพบในโคมีหลายชนด เร็ว อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น เลือดคั่งที่เยื่อเมือกทำาให้มีสีแดง มีน้ำาอาหารพร้อม ท่สำาคัญควรกาจัดเห็บด้วย สำาหรับการป้องกันนั้น คล้ายเม็ดทราย อวัยวะในช่องท้องและไขมันมีสีเหลือง การรักษาโดย







แต่ท่พบและมีความสาคัญในไทยมี 2 ชนิดคือ B. bigemina เข้มขึ้น เม็ดเลือดแดงจะถูกทาลายไปเร่อยๆ จนประมาณสัปดาห์ท่ ควรกาจัดเห็บเป็นประจำา โดยพ่นยาท้งตัวสัตว์และในคอก รวมถึง ใช้ยากลุ่มเตตร้าซัยคลิน ชนิดท่ฉีดเข้าหลอดเลือดดำาได้จะให้ผลดีกว่า

และ B. bovis โดยมีพาหะนาโรคท่สำาคัญคือ เห็บแข็งชนิด 3 จะอาการหนักมากขึ้น นอน ไม่ค่อยลุกเดิน ขาหลังไม่มีแรง สิ่งแวดล้อม หรืออาจพิจารณาใช้ยา Imidocarb dipropionate เพื่อ ฉีดเข้ากล้ามเน้อ ขนาด 10-20 มก./กก. ให้ 1-4 คร้ง (ขึ้นกับ





42 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 43

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE























ชนิดยา) และยาอีกชนิดท่ใช้ได้คือ Imidocarb dipropionate 2-3 โคที่ป่วยจะมีไข้ ตัวสั่น เบื่ออาหาร บวมน้ำาที่คาง คอ หน้าอก
มก./กก. ควบคุมและป้องกันโรคโดยกาจัดเห็บ และแมลงดูดเลือด ใต้ท้อง ขา มีขี้ตาน้ามูก ท้องผูก แสดงอาการซูบผอมเร้อรัง



ระวังเวลามีการนาโคใหม่เข้ามา ทาวัคซีนป้องกันโรค หรือใช้ยา กล้ามเน้อลีบ ตัวแข็งหลังแข็ง เจ็บขา โลหิตจาง ดีซ่าน อาจมีอาการ



ป้องกันเป็นระยะๆ โรคนี้จะมีความคล้ายคลึงกับไข้เห็บโค และไข้ ทางประสาท และตายได้ในโคที่อายุมาก หรือสุขภาพทรุดโทรม แม่



ฉี่หนู เป็นอย่างมาก ต้องวินิจฉัยแยกแยะให้ดี ท่ตั้งท้องอาจแท้ง คลอดก่อนกาหนด รกค้าง น้าหนักแรกคลอดน้อย
นันทิยา แซ่เตียว และคณะ (2561) รายงานการศึกษาความ ปริมาณน้านมลดเฉียบพลัน รวมถึงไม่แสดงอาการเป็นสัด แต่อย่างไร

ชุกของเชื้อ A. Marginale จากแมลงดูดเลือด (แมลงวันคอก ก็ตาม ข้อมูลทางวิชาการส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า โดยท่วไปโคมัก


แมลงวันเขาสัตว์ เหลือบ) ในฟาร์มโคนม จ.ราชบุรี จากจำานวน ไม่ค่อยแสดงอาการป่วย สามารถวินิจฉัยโรคโดยทาฟิล์มเลือดบางบน


1,419 ตัวอย่าง พบเชื้อ 68 ตัวอย่าง (ร้อยละ 4.75) และในการ สไลด์ นาไปย้อมสี ส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ หรือตรวจทางซีร่ม


ศึกษาน้ยังพบด้วยว่าปัจจัยของฤดูกาล และปริมาณน้าฝนมีความ วิทยาก็ได้ ยาที่ใช้ในการรักษาได้แก่ Diminazene aceturate 3.5
สัมพันธ์อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (P<0.05) กับจำานวนแมลงดูดเลือด มก./กก., Quinapyramine sulfate 3-5 มก./กก., Isometamidium

เนื่องจากปริมาณนาฝนเป็นปัจจัยหน่งท่ทาให้สภาพแวดล้อมเหมาะสม chloride 0.5-1 มก./กก. และ Suramin การป้องกันและควบคุมก็





ต่อการเจริญเติบโตของแมลงดูดเลือด จึงพบการระบาดของแมลงดูด คล้ายคลึงสองโรคที่กล่าวมาข้างต้น

เลือดชุกชุมมากขึ้นในฤดูฝน จึงเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโรค อัน 4. โรคไทเลริโอซิส (Theileriosis) เกิดจากโปรโตซัวในสกล



อาจทำาให้อัตราการเกิดโรคอนาพลาสโมซีสในโคเพิ่มสูงขึ้นด้วย Theileria สาหรับเชื้อท่เคยมีรายงานในไทย ยังไม่ร้แน่ชัดว่าเป็นชนิด
3. โรคเซอร่า (Surra) หรือทริปปาโนโซมีเอสซิส (Trypano- ใดบ้าง แต่หลายการศึกษาในไทยพบว่ามีความหลากหลายทาง


somiasia) เกิดจากโปรโตซัว Trypanosoma evansi ท่มีรูปร่างแบน พันธุกรรมเป็นอย่างมาก ท่พบอยู่ในเม็ดเลือดแดงของโค มีขนาดเล็ก
ยาวคล้ายใบไม้ ใช้แส้ในการเคลื่อนที่ มีขนาดใหญ่กว่าปรสิตในเลือด มาก และมีหลายรูปร่างแตกต่างกันออกไป เช่น กลม รูปไข่ รูป
ชนิดอ่นๆ อาศัยอยู่ในเลือด (นอกเม็ดเลือด) ของสัตว์หลายชนิด คอมม่า รูปเรียวยาว ยกเว้นท่พบในภาคใต้จะมีขนาดใหญ่กว่า





สัตว์ท่มีความไวต่อโรคมากคือ อูฐ ม้า ลา ส่วนโค กระบือ สุกร ภาคอ่นๆ อีกท้งยังไม่ทราบถึงพาหะนาเชื้อนี้ได้อย่างชัดเจน แต่

แพะ แกะ สุนัข แมว ช้าง และสัตว์ป่าหลายชนิดน้อยคร้งท่จะรุนแรง คาดวาเห็บบางชนดเป็นพาหะนาโรค แต่ยังไม่มีหลกฐานยืนยันวาเหบ








อาจป่วยเล็กน้อย หรือไม่ป่วยแลย แต่เป็นตัวอมโรคไว้ได้ ในสัตว์กิน ชนิดใดในไทยท่สามารถเป็นตัวนำาโรคน้กันแน่ ซึ่งตามทฤษฎีแล้วเห็บ




เน้อจะติดโรคจากการกินเน้อสัตว์ท่มีเชื้อนี้ ส่วนต่างประเทศอาจติดต่อ โคที่พบมากที่สุดในไทย Boophilus microplus ไม่น่าที่จะนำาเชื้อนี้

โดยค้างคาวดูดเลือด ส่วนบ้านเรามักติดต่อผ่านแมลงดูดเลือดได้หลาย ได้ อาจเป็นเห็บชนิดอื่น เหลือบ เหา หรือแมลงดูดเลือดชนิดอื่นๆ
ชนิด เช่น เหลือบ แมลงวันคอก ริ้นควาย แมลงดูดเลือดอื่นๆ โดย ก็อาจเป็นได้


เชื้อจะอยู่และติดโคได้ท้งผ่านนาลาย และอุจจาระของแมลง ในโค โดยท่วไปโคท่มีเชื้อไทเลเรียอยู่ในตัว มักไม่แสดงอาการป่วย



ถือว่ามีความไวต่อการเป็นโรคนี้ต่ำา คือไม่ค่อยแสดงอาการป่วย แต่ เด่นชัด ในโคท่เป็นโรคชนิดเฉียบพลันส่วนมากจะมีอาการโลหิตจาง

อาจเป็นตัวอมโรคแทน หลายครั้งที่มีรายงานในโค พบว่าอยู่ใกล้กับ อ่อนเพลีย น้ำานมลด สำาหรับในโคนมพันธุ์แท้จะพบอาการโลหิตจาง
สถานที่เลี้ยงม้า ภาคใต้พบน้อย แต่พบได้ทุกภาคของไทย รายงาน อย่างรุนแรง เบื่ออาหาร ไข้สูง ซึม และน้ำาหนักลด ขาหลังอ่อนแรง
การศึกษาของ มาณวิกา ผลภาค และสาทิส ผลภาค ในปี 2013 ต่อมน้ำาเหลืองบวมโต สามารถวินิจฉัยโรคโดยทาฟิล์มเลือดบางบน

พบว่าโรคนี้มักระบาดหน้าฝน และการศึกษาย้อนหลัง 5 ปี ระหว่าง สไลด์ นำาไปย้อมสี ส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ ยาที่นิยมใช้รักษาคือ
ปี 2551-2555 พบการเกิดโรค 66 ครั้งมากที่สุดในโคเนื้อ 51.5% กลุ่มเตตร้าซัยคลิน เช่น OTC ชนิดฉีด หรือ CTC ชนิดกิน ให้ใน
โคนม 6.1% ขนาด 10 มก./กก. เป็นระยะเวลานานพอสมควร อีกชนิดท่มีรายงาน

44 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่าวสารและสาระสำาหรับวงการเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE





















การใช้คือ Parvaquone 10 มก./กก. การป้องกันและควบคุมก ็ อนจะนำาไปสู่การรักษาทถูกต้องและได้ผลแน่นอน สาหรับการป้องกัน

คล้ายคลึงสองโรคที่กล่าวมาข้างต้น นั้นหลายโรคมีวัคซีนแล้ว แต่บางชนิดอาจมีหรือไม่มีในบ้านเรา ใน




ชนิดยา) และยาอีกชนิดท่ใช้ได้คือ Imidocarb dipropionate 2-3 โคที่ป่วยจะมีไข้ ตัวสั่น เบื่ออาหาร บวมน้ำาที่คาง คอ หน้าอก โดยสรุปพยาธิเม็ดเลือดในโคที่สำาคัญ หรือพบได้ในบ้านเรานั้น แง่ปฏิบัติการใช้วัคซีนสาหรับโรคเหล่าน้ ก็ยังไม่เป็นท่แพร่หลายนัก


มก./กก. ควบคุมและป้องกันโรคโดยกาจัดเห็บ และแมลงดูดเลือด ใต้ท้อง ขา มีขี้ตาน้ามูก ท้องผูก แสดงอาการซูบผอมเร้อรัง จริงๆ แล้วเกิดจากเชื้อโปรโตซัว และริคเก็ตเซีย มีอยู่ด้วยกัน 4 การป้องกันจึงเน้นไปท่การกาจัดควบคุมเห็บ และแมลงดูดเลือดต่างๆ










ระวังเวลามีการนาโคใหม่เข้ามา ทาวัคซีนป้องกันโรค หรือใช้ยา กล้ามเน้อลีบ ตัวแข็งหลังแข็ง เจ็บขา โลหิตจาง ดีซ่าน อาจมีอาการ ชนิดคือ บาบีซิโอซิส อนาพลาสโมซิส ทริปปาโนโซมีเอสซิส และ หลีกเล่ยงการใช้เข็มฉีดยาซ้า ระมัดระวังการปฏิบัติงานท่เก่ยวข้อง

ป้องกันเป็นระยะๆ โรคนี้จะมีความคล้ายคลึงกับไข้เห็บโค และไข้ ทางประสาท และตายได้ในโคที่อายุมาก หรือสุขภาพทรุดโทรม แม่ ไทเลริโอซิส โดยทุกชนิดจะมีแมลงดูดเลือดเป็นพาหะนาโรค ซึ่ง กับเลือด เช่น ล้วงตรวจ ล้วงคลอด ตอน ตัดเขา เป็นต้น โรคที่




ฉี่หนู เป็นอย่างมาก ต้องวินิจฉัยแยกแยะให้ดี ท่ตั้งท้องอาจแท้ง คลอดก่อนกาหนด รกค้าง น้าหนักแรกคลอดน้อย สอดคล้องกับช่วงน้ท่ฝนตกชุกชุม มีน้ำาขัง ทำาให้แมลงเหล่านี้เพิ่ม เรียกกันว่าพยาธิเม็ดเลือดอาจมีเท่านื้ แต่โรคของระบบอ่นๆ เกิดจาก




นันทิยา แซ่เตียว และคณะ (2561) รายงานการศึกษาความ ปริมาณน้านมลดเฉียบพลัน รวมถึงไม่แสดงอาการเป็นสัด แต่อย่างไร จำานวน จึงอาจมีอุบัติการณ์ 4 โรคท่กล่าวมาระบาดเพิ่มสูงขึ้นได้ แต่ เชื้ออื่นๆ เช่น ไวรัส ที่นำาโดยแมลงซึ่งชุกชุมหน้าฝน และมีโอกาส

ชุกของเชื้อ A. Marginale จากแมลงดูดเลือด (แมลงวันคอก ก็ตาม ข้อมูลทางวิชาการส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า โดยท่วไปโคมัก อีกทางติดต่อหนึ่งที่สำาคัญคล้ายแมลงก็คือ เข็มฉีดยา แต่ละโรคอาจ พบโรคมากขึ้นในช่วงปลายฝนต้นหนาวน้ยังมีอีกหลายโรคได้แก่


แมลงวันเขาสัตว์ เหลือบ) ในฟาร์มโคนม จ.ราชบุรี จากจำานวน ไม่ค่อยแสดงอาการป่วย สามารถวินิจฉัยโรคโดยทาฟิล์มเลือดบางบน มีอาการ หรือลักษณะจำาเพาะให้พอคาดเดาได้ โดยอาการเบื้องต้นที่ โรคไข้สามวัน (Bovine ephemeral fever) โรคลิวโคซิส (Leukosis)
1,419 ตัวอย่าง พบเชื้อ 68 ตัวอย่าง (ร้อยละ 4.75) และในการ สไลด์ นาไปย้อมสี ส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ หรือตรวจทางซีร่ม เหมือนๆ กันคือ คือไข้สูงจากการใช้ปรอทวัดไข้ทางทวารหนัก หรือ โรคบลูทังจ์ (Bluetongue) โรคลัมปีสกิน (Lumpy skin disease)







ศึกษาน้ยังพบด้วยว่าปัจจัยของฤดูกาล และปริมาณน้าฝนมีความ วิทยาก็ได้ ยาที่ใช้ในการรักษาได้แก่ Diminazene aceturate 3.5 มีเยื่อเมือกซีดออกเหลืองจากการท่เกษตรกรมักเปิดดูบริเวณเยื่อเมือก และอกหลายโรคท่ติดผ่านแมลงได้ ปลายฝนต้นหนาวเช่นน้ รกษา








สัมพันธ์อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (P<0.05) กับจำานวนแมลงดูดเลือด มก./กก., Quinapyramine sulfate 3-5 มก./กก., Isometamidium ภายในอวยวะสืบพันธ์เพศเมีย และแต่อย่างไรกตามควรยืนยันด้วย สุขภาพท้งคน ท้งโค ให้แข็งแรง ปราศจากโรคภยไข้เจ็บกันนะ




เนื่องจากปริมาณนาฝนเป็นปัจจัยหน่งท่ทาให้สภาพแวดล้อมเหมาะสม chloride 0.5-1 มก./กก. และ Suramin การป้องกันและควบคุมก็ การเจาะเลือดใส่สารกันเลือดแข็งตัว ส่งห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ ครับ…”V”


ต่อการเจริญเติบโตของแมลงดูดเลือด จึงพบการระบาดของแมลงดูด คล้ายคลึงสองโรคที่กล่าวมาข้างต้น
เลือดชุกชุมมากขึ้นในฤดูฝน จึงเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโรค อัน 4. โรคไทเลริโอซิส (Theileriosis) เกิดจากโปรโตซัวในสกล




อาจทำาให้อัตราการเกิดโรคอนาพลาสโมซีสในโคเพิ่มสูงขึ้นด้วย Theileria สาหรับเชื้อท่เคยมีรายงานในไทย ยังไม่ร้แน่ชัดว่าเป็นชนิด
3. โรคเซอร่า (Surra) หรือทริปปาโนโซมีเอสซิส (Trypano- ใดบ้าง แต่หลายการศึกษาในไทยพบว่ามีความหลากหลายทาง
somiasia) เกิดจากโปรโตซัว Trypanosoma evansi ท่มีรูปร่างแบน พันธุกรรมเป็นอย่างมาก ท่พบอยู่ในเม็ดเลือดแดงของโค มีขนาดเล็ก


ยาวคล้ายใบไม้ ใช้แส้ในการเคลื่อนที่ มีขนาดใหญ่กว่าปรสิตในเลือด มาก และมีหลายรูปร่างแตกต่างกันออกไป เช่น กลม รูปไข่ รูป
ชนิดอ่นๆ อาศัยอยู่ในเลือด (นอกเม็ดเลือด) ของสัตว์หลายชนิด คอมม่า รูปเรียวยาว ยกเว้นท่พบในภาคใต้จะมีขนาดใหญ่กว่า





สัตว์ท่มีความไวต่อโรคมากคือ อูฐ ม้า ลา ส่วนโค กระบือ สุกร ภาคอ่นๆ อีกท้งยังไม่ทราบถึงพาหะนาเชื้อนี้ได้อย่างชัดเจน แต่

แพะ แกะ สุนัข แมว ช้าง และสัตว์ป่าหลายชนิดน้อยคร้งท่จะรุนแรง คาดวาเห็บบางชนดเป็นพาหะนาโรค แต่ยังไม่มีหลกฐานยืนยันวาเหบ เอกสารอ้างอิง และที่มาภาพประกอบ








อาจป่วยเล็กน้อย หรือไม่ป่วยแลย แต่เป็นตัวอมโรคไว้ได้ ในสัตว์กิน ชนิดใดในไทยท่สามารถเป็นตัวนำาโรคน้กันแน่ ซึ่งตามทฤษฎีแล้วเห็บ นันทิยา แซ่เตียว และคณะ, 2561. สัตวแพทย์มหานครสาร. ปีที่ 13 ฉบับที่ 2 ก.ค.-ธ.ค. 61 : 15 หน้า.





เน้อจะติดโรคจากการกินเน้อสัตว์ท่มีเชื้อนี้ ส่วนต่างประเทศอาจติดต่อ โคที่พบมากที่สุดในไทย Boophilus microplus ไม่น่าที่จะนำาเชื้อนี้ มาณวิกา ผลภาค และสาทิส ผลภาค, 2013. วารสารสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ. http://www.dld.go.th/niah, V8 N2 (Sep - Dec 2013) : 32-55.
วิทยาสัตว์เซลล์เดียวทางสัตวแพทย์ Veterinary Protozoology. รศ.น.สพ.ดร. มานพ ม่วงใหญ่ พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2545.
โดยค้างคาวดูดเลือด ส่วนบ้านเรามักติดต่อผ่านแมลงดูดเลือดได้หลาย ได้ อาจเป็นเห็บชนิดอื่น เหลือบ เหา หรือแมลงดูดเลือดชนิดอื่นๆ https://www.facebook.com/401937499891827/posts/661821127236795/
ชนิด เช่น เหลือบ แมลงวันคอก ริ้นควาย แมลงดูดเลือดอื่นๆ โดย ก็อาจเป็นได้ https://niah.dld.go.th/th/AnimalDisease/cow_babesia.htm




เชื้อจะอยู่และติดโคได้ท้งผ่านนาลาย และอุจจาระของแมลง ในโค โดยท่วไปโคท่มีเชื้อไทเลเรียอยู่ในตัว มักไม่แสดงอาการป่วย https://niah.dld.go.th/th/AnimalDisease/cow_anaplasmosis.htm

http://niah.dld.go.th/th/AnimalDisease/horse_surra.htm
ถือว่ามีความไวต่อการเป็นโรคนี้ต่ำา คือไม่ค่อยแสดงอาการป่วย แต่ เด่นชัด ในโคท่เป็นโรคชนิดเฉียบพลันส่วนมากจะมีอาการโลหิตจาง https://niah.dld.go.th/th/AnimalDisease/cow_theileria.htm

อาจเป็นตัวอมโรคแทน หลายครั้งที่มีรายงานในโค พบว่าอยู่ใกล้กับ อ่อนเพลีย น้ำานมลด สำาหรับในโคนมพันธุ์แท้จะพบอาการโลหิตจาง https://niah.dld.go.th/th/files/ejournal/v08n2t02.pdf
สถานที่เลี้ยงม้า ภาคใต้พบน้อย แต่พบได้ทุกภาคของไทย รายงาน อย่างรุนแรง เบื่ออาหาร ไข้สูง ซึม และน้ำาหนักลด ขาหลังอ่อนแรง https://medcraveonline.com/JBMOA/the-current-prevalence-of-bovine-babesiosis-and-theileriosis-infection-in-egypt.html
https://www.phytojournal.com/archives/2019/vol8issue3/PartAM/8-2-337-588.pdf

การศึกษาของ มาณวิกา ผลภาค และสาทิส ผลภาค ในปี 2013 ต่อมน้ำาเหลืองบวมโต สามารถวินิจฉัยโรคโดยทาฟิล์มเลือดบางบน https://www.intechopen.com/chapters/59148
พบว่าโรคนี้มักระบาดหน้าฝน และการศึกษาย้อนหลัง 5 ปี ระหว่าง สไลด์ นำาไปย้อมสี ส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ ยาที่นิยมใช้รักษาคือ https://www.researchgate.net/figure/Experimental-infection-with-AmRio-2-strain-of-Anaplasma-marginale-in-cattle-and-buffalos_fig1_336881607
ปี 2551-2555 พบการเกิดโรค 66 ครั้งมากที่สุดในโคเนื้อ 51.5% กลุ่มเตตร้าซัยคลิน เช่น OTC ชนิดฉีด หรือ CTC ชนิดกิน ให้ใน https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Trypanosoma-evansi.jpg
https://www.hindawi.com/journals/bmri/2013/321237/fig7/
โคนม 6.1% ขนาด 10 มก./กก. เป็นระยะเวลานานพอสมควร อีกชนิดท่มีรายงาน https://www.dairyknowledge.in/article/theileriosis-protozoan-disease

https://vetprotozoan.blogspot.com/2016/09/babesia.html
44 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 45

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE










คำ�ประก�ศเกียรติคุณ
รองศาสตราจารย์ ศรีสุวรรณ ชมชัย

นักสัตวบาลดีเด่น (สายวิชาการ) ประจำาปี 2563



รองศาสตราจารย์ ศรีสุวรรณ ชมชัย อายุ 66 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สัตวศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปริญญาโท สรีระวิทยา มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์ เริ่มรับราชการที่กรมปศุสัตว์ จากนั้นโอนมาสังกัดคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำาแพงแสน เคยดำารงตำาแหน่ง หัวหน้าสถานีวิจัยสุกรทับ
กวางผู้อำานวยการศูนย์วิจัยและฝึกอบรมการเลี้ยงสุกรแห่งชาติ และเกษียณอายุราชการในตำาแหน่งรองศาสตราจารย์ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ มีผลงานวิจัยด้านสุกร เผยแพร่ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จัดทำาคู่มือการประกันคุณภาพศูนย์ผสมเทียมสุกร ทำาให้ศูนย์ผสมเทียม








ของฟารมเอกชนหลายแหงได้รบการรบรองมาตรฐาน เป็นส่วนหนงททาให้ผู้เลี้ยงสุกรได้ผลผลิตดีขึ้น สม่ำาเสมอตลอดปี สามารถลดต้นทนการผลตและมีผลกาไรมาก







ขึ้น ซ่งการประกันคุณภาพศูนย์ผสมเทียมสุกรเป็นการเตรียมความพร้อมของฟาร์มท่เล้ยงสุกร เพื่อการแข่งขันทางการค้าในตลาดโลก ตลอดจนเป็นวิทยากร ให้คำา
แนะนำา แก้ไขปัญหาการเลี้ยงสุกรแก่เกษตรกร กลุ่มสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนั้นได้จัดตั้งกองทุนรองศาสตราจารย์ศรีสุวรรณ ชม
ชัย เพื่อใช้ดอกผลของกองทุนให้กับนิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ของภาควิชาสัตวบาล บริจาคเงินช่วยเหลือเด็กกำาพร้ากับองค์กรยูนิเซฟมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2552 จนถึง
ปัจจุบัน
นับได้ว่า รองศาสตราจารย์ ศรีสุวรรณ ชมชัย เป็นผู้มีบทบาทสำาคัญ ก่อให้เกิดการพัฒนาด้านการผสมเทียมสุกรของประเทศ จนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม รับผิดชอบต่อสังคม สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นนักสัตวบาลดีเด่น ประจำาปี 2563


คำ�ประก�ศเกียรติคุณ

รองศาสตราจารย์ ดร.ญาณิน โอภาสพัฒนกิจ
นักสัตวบาลดีเด่น (สายวิชาการ) ประจำาปี 2563



รองศาสตราจารย์ ดร.ญาณิน โอภาสพัฒนกิจ อายุ 61 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปริญญาโท การผลิตสัตว์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาเอก โภชนศาสตร์สัตว์เคี้ยวเอื้อง University of Sydney ออสเตรเลีย เริ่มรับราชการที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณ
ทหารลาดกระบัง เคยดำารงตำาแหน่งรองคณบดี คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และโอนมาคณะผลิตกรรมการเกษตร
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เคยดำารงตำาแหน่งคณบดี คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี จนเกษียณอายุราชการในตำาแหน่งรองศาสตราจารย์ ปัจจุบันดำารงตำาแหน่งรองอธิการบดี
ฝ่ายวิชาการและพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีผลงานวิจัยชุดโครงการ “การผลิตโคพื้นเมือง: ระบบการผลิตและการตลาด” ชุดโครงการ “การขยายโอกาสธุรกิจ
เนื้อโคไทย” และชุดโครงการ “ระบบการผลิตและการพัฒนาอาชีพการเลี้ยง” ทำาให้เกิดการวิจัยด้านโคพื้นเมืองครอบคลุม 18 จังหวัดทั่วประเทศ ก่อให้เกิดเครือข่ายนัก






วิจัยด้านโคเน้อ และจากองค์ความร้ท่ได้นำาไปสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง ในการจัดทายุทธศาสตร์โคเน้อไทยท้งระบบจนได้รางวัลผลงานวิจัยเด่น สกว. กลุ่มวิจัยและพัฒนา
ประจำาปี 2553 และรางวัลผลงานวิจัยเด่น สกว. เชิงนโยบาย ประจำาปี 2560 มีผลงานวิจัยเผยแพร่ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เป็นผู้ร่วมริเริ่มและผลักดันให้
เกิดภาคีเครือข่ายสัตวศาสตร์ ให้สถาบันการศึกษาต่างๆ ที่เปิดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี สาขาสัตวศาสตร์และสัตวบาล หารือและตกลงร่วมกันในการจัดทำา
เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร
นับได้ว่า รองศาสตราจารย์ ดร.ญาณิน โอภาสพัฒนกิจ มีผลงานศึกษาวิจัยเป็นประโยชน์แก่วงการปศุสัตว์ ก่อให้เกิดการพัฒนาอาชีพการเลี้ยงสัตว์ของประเทศ
อุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม จึงขอยกย่องให้เป็นนักวิชาการสัตวบาลดีเด่น ประจำาปี 2563 เพื่อเป็นเกียรติสืบไป






46 สัตว์เศรษฐกิจ
46
สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่�วส�รและส�ระสำ�หรับวงก�รเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE










คำ�ประก�ศเกียรติคุณ คำ�ประก�ศเกียรติคุณ
รองศาสตราจารย์ ศรีสุวรรณ ชมชัย นายอรรณพ สุขสุวานนท์

นักสัตวบาลดีเด่น (สายวิชาการ) ประจำาปี 2563 นักสัตวบาลดีเด่น (สายวิชาชีพ) ประจำาปี 2563










รองศาสตราจารย์ ศรีสุวรรณ ชมชัย อายุ 66 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สัตวศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปริญญาโท สรีระวิทยา มหาวิทยาลัย นายอรรณพ สขสุวานนท อายุ 71 ปี สำาเรจการศึกษาระดับปรญญาตร สัตวศาสตร์ มหาวทยาลัยขอนแกน เร่มทางานท่บรษท ฟารมกรงเทพ จำากัด







เกษตรศาสตร์ เริ่มรับราชการที่กรมปศุสัตว์ จากนั้นโอนมาสังกัดคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำาแพงแสน เคยดำารงตำาแหน่ง หัวหน้าสถานีวิจัยสุกรทับ ในตำาแหน่งสัตวบาลประจำาฟาร์ม จากนั้นย้ายไปทำางานที่บริษัท อาร์เบอร์-เอเคอร์ (ประเทศไทย) จำากัด บริษัท เฟิร์สฟาร์ม จำากัด บริษัท เจเนอรัลฟูดส์ โพลทรีไทย
กวางผู้อำานวยการศูนย์วิจัยและฝึกอบรมการเลี้ยงสุกรแห่งชาติ และเกษียณอายุราชการในตำาแหน่งรองศาสตราจารย์ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา จำากัด บริษัท ฟาร์มชัยอารีย์ จำากัด บริษัท เวียด-ไทย โพลทรีอินเตอร์เนชั่นแนล จำากัด (ประเทศเวียดนาม) ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาบริษัท อรรณพฟาร์มบ้านนา จำากัด
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ มีผลงานวิจัยด้านสุกร เผยแพร่ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จัดทำาคู่มือการประกันคุณภาพศูนย์ผสมเทียมสุกร ทำาให้ศูนย์ผสมเทียม เป็นผู้ริเริ่มสร้างสายพันธุ์ไก่ลูกผสมพื้นเมือง “ไก่ไทยชัยอารีย์” ที่แข็งแรง เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นสามารถเลี้ยงในโรงเรือนและปล่อยเลี้ยงแบบธรรมชาติ











ของฟารมเอกชนหลายแหงได้รบการรบรองมาตรฐาน เป็นส่วนหนงททาให้ผู้เลี้ยงสุกรได้ผลผลิตดีขึ้น สม่ำาเสมอตลอดปี สามารถลดต้นทนการผลตและมีผลกาไรมาก ได้ดี ให้เนื้อมาก ไม่เหนียว มีรสชาดอร่อยจนเป็นที่นิยมของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เขมร ลาว พม่า และเวียดนาม ร่วมก่อตั้งบริษัท อรรณพฟาร์ม จำากัด



ขึ้น ซ่งการประกันคุณภาพศูนย์ผสมเทียมสุกรเป็นการเตรียมความพร้อมของฟาร์มท่เล้ยงสุกร เพื่อการแข่งขันทางการค้าในตลาดโลก ตลอดจนเป็นวิทยากร ให้คำา ผลิตไก่ไข่ครบวงจร เป็นกรรมการบริหารสมาคมส่งเสริมการเล้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรรมการสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาไก่พื้นเมืองไทย


แนะนำา แก้ไขปัญหาการเลี้ยงสุกรแก่เกษตรกร กลุ่มสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนั้นได้จัดตั้งกองทุนรองศาสตราจารย์ศรีสุวรรณ ชม ที่ปรึกษาสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ และคณะทำางานขับเคลื่อนซุปเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ชัย เพื่อใช้ดอกผลของกองทุนให้กับนิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ของภาควิชาสัตวบาล บริจาคเงินช่วยเหลือเด็กกำาพร้ากับองค์กรยูนิเซฟมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2552 จนถึง นับได้ว่า นายอรรณพ สุขสุวานนท์ ประสบความสาเร็จในการประกอบอาชีพด้านปศุสัตว์ มีผลงานท่เป็นประโยชน์เป็นท่ประจักษ์แก่สังคมและวงการธุรกิจ


ปัจจุบัน เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม จึงขอยกย่องให้เป็นนักสัตวบาลดีเด่น ประจำาปี 2563 เพื่อเป็นเกียรติสืบไป
นับได้ว่า รองศาสตราจารย์ ศรีสุวรรณ ชมชัย เป็นผู้มีบทบาทสำาคัญ ก่อให้เกิดการพัฒนาด้านการผสมเทียมสุกรของประเทศ จนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม รับผิดชอบต่อสังคม สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นนักสัตวบาลดีเด่น ประจำาปี 2563
คำ�ประก�ศเกียรติคุณ คำ�ประก�ศเกียรติคุณ
รองศาสตราจารย์ ดร.ญาณิน โอภาสพัฒนกิจ นายสมภพ มงคลพิทักษ์สุข
นักสัตวบาลดีเด่น (สายวิชาการ) ประจำาปี 2563 นักสัตวบาลดีเด่น (สายวิชาชีพ) ประจำาปี 2563
รองศาสตราจารย์ ดร.ญาณิน โอภาสพัฒนกิจ อายุ 61 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปริญญาโท การผลิตสัตว์ นายสมภพ มงคลพิทักษ์สุข อายุ 69 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มทำางานกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ เคยดำารงตำาแหน่ง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาเอก โภชนศาสตร์สัตว์เคี้ยวเอื้อง University of Sydney ออสเตรเลีย เริ่มรับราชการที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณ ผู้ชำานาญการด้านการจัดการฟาร์ม ที่ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ตุรกี รัสเซีย และจีน เป็นประธานสายธุรกิจไก่ไข่ ประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจเกษตร

ทหารลาดกระบัง เคยดำารงตำาแหน่งรองคณบดี คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และโอนมาคณะผลิตกรรมการเกษตร อุตสาหกรรม เขตประเทศอินเดีย ท่ปรึกษาอาวุโส สำานักประธานกรรมการบริหาร กรรมการบริษัท อาร์เบอร์ เอเคอร์ส ประเทศไทย จำากัด กรรมการบริษัท

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เคยดำารงตำาแหน่งคณบดี คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี จนเกษียณอายุราชการในตำาแหน่งรองศาสตราจารย์ ปัจจุบันดำารงตำาแหน่งรองอธิการบดี รอส บรีดเดอร์ส สยาม จำากัด ปัจจุบันดำารงตำาแหน่งประธานธุรกิจไก่ปู่-ย่าพันธุ์เน้อ กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และประธานกรรมการเขตประเทศศรีลังกา
ฝ่ายวิชาการและพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีผลงานวิจัยชุดโครงการ “การผลิตโคพื้นเมือง: ระบบการผลิตและการตลาด” ชุดโครงการ “การขยายโอกาสธุรกิจ มีผลงานโดดเด่นในการเป็นผู้ดูแล “โครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัว ผิงกู่-เครือเจริญโภคภัณฑ์” ในประเทศจีน เป็นโครงการไก่ไข่ครบวงจรที่ทันสมัย ใหญ่ที่สุดในเอเซีย และ
เนื้อโคไทย” และชุดโครงการ “ระบบการผลิตและการพัฒนาอาชีพการเลี้ยง” ทำาให้เกิดการวิจัยด้านโคพื้นเมืองครอบคลุม 18 จังหวัดทั่วประเทศ ก่อให้เกิดเครือข่ายนัก เป็นอันดับสองของโลก สามารถเลี้ยงไก่ไข่ได้ถึง 3 ล้านตัว มีกำาลังการผลิตไข่ไก่ 54,000 ตันต่อปี เกษตรกรได้รับประโยชน์จากการดำาเนินโครงการถึง 5,000 คน




วิจัยด้านโคเน้อ และจากองค์ความร้ท่ได้นำาไปสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง ในการจัดทายุทธศาสตร์โคเน้อไทยท้งระบบจนได้รางวัลผลงานวิจัยเด่น สกว. กลุ่มวิจัยและพัฒนา นอกจากนั้นยังเป็นผู้มีจิตกุศล บำาเพ็ญตนเพื่อสาธารณะกุศลอยู่เป็นนิจ บริจาคทุนทรัพย์เพื่อเป็นทุนการศึกษา สร้างอาคารเรียน ห้องสมุด อาคารกายภาพบำาบัดและ


ประจำาปี 2553 และรางวัลผลงานวิจัยเด่น สกว. เชิงนโยบาย ประจำาปี 2560 มีผลงานวิจัยเผยแพร่ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เป็นผู้ร่วมริเริ่มและผลักดันให้ จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล สร้างศาลาวัด และอาคารประดิษฐานพระพุทธรูป







เกิดภาคีเครือข่ายสัตวศาสตร์ ให้สถาบันการศึกษาต่างๆ ที่เปิดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี สาขาสัตวศาสตร์และสัตวบาล หารือและตกลงร่วมกันในการจัดทำา นับได้ว่า นายสมภพ มงคลพิทกษสุข ประสบความสำาเรจในการประกอบอาชีพ มีผลงานทเป็นประโยชน์ จนเป็นทประจักษแกสังคมและวงการธุรกจ และ



เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร รับผิดชอบต่อสังคม จึงขอยกย่องให้เป็นนักสัตวบาลดีเด่น ประจำาปี 2563 เพื่อเป็นเกียรติสืบไป
นับได้ว่า รองศาสตราจารย์ ดร.ญาณิน โอภาสพัฒนกิจ มีผลงานศึกษาวิจัยเป็นประโยชน์แก่วงการปศุสัตว์ ก่อให้เกิดการพัฒนาอาชีพการเลี้ยงสัตว์ของประเทศ
อุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม จึงขอยกย่องให้เป็นนักวิชาการสัตวบาลดีเด่น ประจำาปี 2563 เพื่อเป็นเกียรติสืบไป
46 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 47 47
สัตว์เศรษฐกิจ
46 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE










คำ�ประก�ศเกียรติคุณ
นายดวงมนู ลีลาวณิชย์

นักสัตวบาลดีเด่น (สายวิชาชีพ) ประจำาปี 2563



นายดวงมนู ลีลาวณิชย์ อายุ 64 ปี สำาเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มทำางานกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำากัด
(มหาชน) ตั้งแต่เป็นผู้จัดการฟาร์มไก่ไข่และไก่เนื้อ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสธุรกิจไก่-เป็ดกระทง สายธุรกิจอาหารแปรรูปครบวงจรจนปัจจุบันเป็นผู้ชำานาญการ


ธุรกิจไก่เนื้อ สายธุรกิจอาหารแปรรูปครบวงจร ริเร่มนำาระบบคอมพิวเตอร์มาควบคุมการจัดการเลี้ยงไก่กระทงเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ท่จังหวัดนครราชสีมา
ผลักดันโครงการปลอดเชื้อไข้หวัดนก ในระบบคอมพาร์ทเมนต์ฟาร์มไก่-เป็ดกระทง จนได้รับการรับรองมาตรฐานคอมพาร์ทเมนต์จากกรมปศุสัตว์ เป็นฟาร์มแรกของ
ประเทศไทย ร่วมโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจกในฟาร์มไก่และเป็ดกระทง จัดทำา “คู่มือการจัดการระบบ Compartment ในฟาร์มไก่เนื้อ” เพื่อใช้ใน
การจัดการฟาร์ม “คู่มือการจัดการฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ” ประกอบการเรียนของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาการผลิตปศุสัตว์ และการผลิต
บัณฑิตนักสัตวบาลรุ่นใหม่ เป็นรองประธานกรรมการจัดหาทุนโครงการ “ก่อสร้างหอพักในฟาร์มของนักศึกษา ของภาควิชาสัตวศาสตร์และสัตว์น้ำา คณะเกษตรศาสตร์


มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากนั้น ยังเป็นประธานชมรม “มอบความอบอ่นให้น้อง” ซึ่งได้ดำาเนินกิจกรรมช่วยเหลือโรงเรียนและโรงพยาบาลต่างๆ ท่วประเทศ
ต่อเนื่องทุกปี
นับได้ว่า นายดวงมนู ลีลาวณิชย์ เป็นผู้มีบทบาทสำาคัญในการพัฒนาการจัดการเลี้ยงสัตว์ปีก ประสบความสำาเร็จในการประกอบอาชีพ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์
แก่สังคมและวงการธุรกิจจนได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรม อุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและสังคมโดยตลอด จึงขอ
ยกย่องให้เป็นนักสัตวบาลดีเด่น ประจำาปี 2563 เพื่อเป็นเกียรติสืบไป










คำ�ประก�ศเกียรติคุณ

นายสมศักดิ์ บุญลาภ
นักสัตวบาลดีเด่น (สายวิชาชีพ) ประจำาปี 2563



นายสมศักดิ์ บุญลาภ อายุ 56 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เร่มทางานกับบริษัท เบทาโกร จำากัด ในตำาแหน่ง


นักวิชาการส่งเสริม-ผู้จัดการฝ่ายผลิตโครงการธุรกิจไก่ เคยดำารงตำาแหน่งผู้อำานวยการฝ่ายโรงงานแปรรูปไก่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการกลุ่ม
ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม รองกรรมการผ้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจอาหาร ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าท่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจอาหาร มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ ์


ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงสัตว์ และได้รับการรับรองไม่ใช้ยาปฏิชีวนะทุกผลิตภัณฑ์ของหมู ไก่ ไข่ เป็นรายแรกของโลก จาก NSF International Asia Pacific
กำากับดูแลการผลิตไก่เนื้อครบวงจรให้ปลอดภัยจากไข้หวัดนก จนได้รับการยอมรับจากกลุ่มสหภาพยุโรปและญี่ปุ่น อนุญาตให้นาเข้าไก่สดแช่แข็งจากประเทศไทย สนับสนุน

การวิจัยและพัฒนาโดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาจัดทำาโครงการทักษะวิศวกรรมอาหาร โครงการออกแบบนวัตกรรมพัฒนากำาลังคนสู่ความเป็นเลิศ ในอุตสาหกรรม
แปรรูปเนื้อสัตว์ และมุ่งมั่นปรับปรุงการบริหารจัดการและมาตรฐานแรงงานอย่างต่อเนื่อง ร่วมมือกับสถาบันอิสราจัดทำาโครงการ “Your Voice, We Care” รับฟัง
เสียงสะท้อนและความคิดเห็นจากแรงงานนำาไปสู่การพัฒนาคนและแก้ปัญหาด้านแรงงานในระยะยาว นอกจากนั้น ยังเป็นประธานคณะกรรมการกิจกรรม เพื่อสังคมและ
ชุมชนสัมพันธ์เครือเบทาโกร สนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบให้กับโรงพยาบาลและชุมชนในสถานการณ์โควิด



นับได้ว่า นายสมศักดิ์ บุญลาภ เป็นผ้ประสบความสำาเร็จในการประกอบอาชีพ มีผลงานโดดเด่นจนเป็นท่ประจักษ์แก่สังคมและวงการธุรกิจ เป็นผ้มีคุณธรรม
จริยธรรมและรับผิดชอบต่อสังคม จึงขอยกย่องให้เป็นนักสัตวบาลดีเด่น ประจำาปี 2563 เพื่อเป็นเกียรติสืบไป








48 สัตว์เศรษฐกิจ
48 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK ข่�วส�รและส�ระสำ�หรับวงก�รเลี้ยงสัตว์
PRODUCTION MAGAZINE










คำ�ประก�ศเกียรติคุณ คำ�ประก�ศเกียรติคุณ
นายดวงมนู ลีลาวณิชย์ รองศาสตราจารย์ ดร.สุทัศน์ ศิริ

นักสัตวบาลดีเด่น (สายวิชาชีพ) ประจำาปี 2563 ผู้มีคุณูปการต่อวงการปศุสัตว์ไทย





นายดวงมนู ลีลาวณิชย์ อายุ 64 ปี สำาเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มทำางานกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำากัด รองศาสตราจารย์ ดร.สุทัศน์ ศิร อายุ 68 ปี สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สัตวบาล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปริญญาโทการผลิตสัตว์ มหาวิทยาลัย
(มหาชน) ตั้งแต่เป็นผู้จัดการฟาร์มไก่ไข่และไก่เนื้อ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสธุรกิจไก่-เป็ดกระทง สายธุรกิจอาหารแปรรูปครบวงจรจนปัจจุบันเป็นผู้ชำานาญการ เกษตรศาสตร์ และปริญญาเอกอาหารสัตว์ จาก Kyushu Tokai University ประเทศญี่ปุ่น เริ่มรับราชการที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จนเกษียณอายุราชการในตำาแหน่งรอง


ธุรกิจไก่เนื้อ สายธุรกิจอาหารแปรรูปครบวงจร ริเร่มนำาระบบคอมพิวเตอร์มาควบคุมการจัดการเลี้ยงไก่กระทงเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ท่จังหวัดนครราชสีมา ศาสตราจารย์ เคยดำารงตำาแหน่งรองผ้อำานวยการสำานักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีทางสัตว์ รองคณบดีคณะผลิตกรรมการเกษตร

ผลักดันโครงการปลอดเชื้อไข้หวัดนก ในระบบคอมพาร์ทเมนต์ฟาร์มไก่-เป็ดกระทง จนได้รับการรับรองมาตรฐานคอมพาร์ทเมนต์จากกรมปศุสัตว์ เป็นฟาร์มแรกของ และคณบดีคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มีบทบาทในการก่อตั้งคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยแยกออกมาจากการเป็นภาควิชาเทคโนโลยี
ประเทศไทย ร่วมโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจกในฟาร์มไก่และเป็ดกระทง จัดทำา “คู่มือการจัดการระบบ Compartment ในฟาร์มไก่เนื้อ” เพื่อใช้ใน ทางสัตว์ สังกัดคณะผลิตกรรมการเกษตร ด้วยเห็นความสำาคัญในการผลิตบัณฑิตที่มีทักษะเฉพาะ มีความรู้ความสามารถสอดคล้องกับเทคโนโลยีการผลิตสัตว์สมัยใหม่

การจัดการฟาร์ม “คู่มือการจัดการฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ” ประกอบการเรียนของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาการผลิตปศุสัตว์ และการผลิต และวางระบบการบริหารงานเป็นแบบรวมศูนย์ไม่แบ่งเป็นภาควิชา เป็นวิทยากรด้านผลิตสัตว์แก่ชุมชน องค์กรภาครัฐและเอกชน อบรมผ้นำาทางด้านปศุสัตว์ในการ
บัณฑิตนักสัตวบาลรุ่นใหม่ เป็นรองประธานกรรมการจัดหาทุนโครงการ “ก่อสร้างหอพักในฟาร์มของนักศึกษา ของภาควิชาสัตวศาสตร์และสัตว์น้ำา คณะเกษตรศาสตร์ จัดการปศุสัตว์อย่างยั่งยืน นอกจากนั้นยังเป็นผู้ทรงคุณวุฒิของสานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติและสถาบันการศึกษาต่างๆ กรรมการตัดสินการประกวดโครงงาน


มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากนั้น ยังเป็นประธานชมรม “มอบความอบอ่นให้น้อง” ซึ่งได้ดำาเนินกิจกรรมช่วยเหลือโรงเรียนและโรงพยาบาลต่างๆ ท่วประเทศ วิทยาศาสตร์


ต่อเนื่องทุกปี นับได้ว่ารองศาสตราจารย์ ดร.สุทัศน์ ศิริ มีบทบาทสำาคัญในการพัฒนาปศุสัตว์ของประเทศ มีผลงานดีเด่นก่อให้เกิดความก้าวหน้าต่อวงการปศุสัตว์ เป็นท่ยอมรับ
นับได้ว่า นายดวงมนู ลีลาวณิชย์ เป็นผู้มีบทบาทสำาคัญในการพัฒนาการจัดการเลี้ยงสัตว์ปีก ประสบความสำาเร็จในการประกอบอาชีพ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ นับถืออย่างกว้างขวางในสังคม จึงสมควรได้รับการยกย่องให้เป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการปศุสัตว์ไทย
แก่สังคมและวงการธุรกิจจนได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรม อุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและสังคมโดยตลอด จึงขอ
ยกย่องให้เป็นนักสัตวบาลดีเด่น ประจำาปี 2563 เพื่อเป็นเกียรติสืบไป








คำ�ประก�ศเกียรติคุณ คำ�ประก�ศเกียรติคุณ

นายสมศักดิ์ บุญลาภ นายสุรเดช สมิเปรม
นักสัตวบาลดีเด่น (สายวิชาชีพ) ประจำาปี 2563 ผู้มีคุณูปการต่อวงการปศุสัตว์ไทย



นายสมศักดิ์ บุญลาภ อายุ 56 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เร่มทางานกับบริษัท เบทาโกร จำากัด ในตำาแหน่ง นายสุรเดช สมิเปรม อายุ 57 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เทคโนโลยีการเกษตร วิทยาลัยครูเชียงใหม่ ปริญญาโท การพัฒนาภูมิสังคมอย่างยั่งยืน



นักวิชาการส่งเสริม-ผู้จัดการฝ่ายผลิตโครงการธุรกิจไก่ เคยดำารงตำาแหน่งผู้อำานวยการฝ่ายโรงงานแปรรูปไก่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการกลุ่ม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เร่มรับราชการท่กรมปศุสัตว์ จนเลื่อนสู่ระดับบริหารในตำาแหน่งปศุสัตว์จังหวัด เลขานุการกรม ปัจจุบันดำารงตำาแหน่งรองอธิบดีกรมปศุสัตว์






ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม รองกรรมการผ้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจอาหาร ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าท่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจอาหาร มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ ์ เป็นผ้แทนกรมปศุสัตว์เข้าร่วมประชุมสภาผ้แทนราษฎรและร่วมเป็นกรรมาธิการวิสามัญในการชี้แจงร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบาล เป็นคณะทางานศึกษา
ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงสัตว์ และได้รับการรับรองไม่ใช้ยาปฏิชีวนะทุกผลิตภัณฑ์ของหมู ไก่ ไข่ เป็นรายแรกของโลก จาก NSF International Asia Pacific การส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรสร้างมูลค่า ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ติดตาม เร่งรัดการสร้างและการใช้ Big Data ภาคการเกษตร เป็นคณะกรรมการดำาเนินโครงการ
กำากับดูแลการผลิตไก่เนื้อครบวงจรให้ปลอดภัยจากไข้หวัดนก จนได้รับการยอมรับจากกลุ่มสหภาพยุโรปและญี่ปุ่น อนุญาตให้นาเข้าไก่สดแช่แข็งจากประเทศไทย สนับสนุน อนุรักษ์ช้างป่าและแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกพื้นที่เกษตรกรรอยต่อ 5 จังหวัดในภาคตะวันออก กรรมการบริหารศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำาริ

การวิจัยและพัฒนาโดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาจัดทำาโครงการทักษะวิศวกรรมอาหาร โครงการออกแบบนวัตกรรมพัฒนากำาลังคนสู่ความเป็นเลิศ ในอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนโครงการ ธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำาริ และโครงการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไข่ไก่แบบปล่อยในโครงการ “เกษตรวิชญา” กำากับดูแล





แปรรูปเนื้อสัตว์ และมุ่งมั่นปรับปรุงการบริหารจัดการและมาตรฐานแรงงานอย่างต่อเนื่อง ร่วมมือกับสถาบันอิสราจัดทำาโครงการ “Your Voice, We Care” รับฟัง โครงการก่อสรางสถานทพักพิงสัตว์และโรงพยาบาลสัตว อาเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โครงการก่อสรางโรงโคนมสวนจิตรลดา โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่


เสียงสะท้อนและความคิดเห็นจากแรงงานนำาไปสู่การพัฒนาคนและแก้ปัญหาด้านแรงงานในระยะยาว นอกจากนั้น ยังเป็นประธานคณะกรรมการกิจกรรม เพื่อสังคมและ ขับเคล่อนการพัฒนาศักยภาพการผลิตและการตลาดโคเนื้อรองรับ FTA ส่งเสริมการพัฒนาระบบระบบบำาบัดน้ำาเสียจากฟาร์มสุกรชนิดได้ก๊าซชีวภาพ กากับดูแล

ชุมชนสัมพันธ์เครือเบทาโกร สนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบให้กับโรงพยาบาลและชุมชนในสถานการณ์โควิด การปรับเปลี่ยนพื้นที่สำาหรับปลูกพืชอาหารสัตว์ ได้รับเกียรติคุณจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และเครือข่ายสุขภาพหนึ่งเดียวจังหวัดเชียงใหม่ ในการสนับสนุน “โครงการ
นับได้ว่า นายสมศักดิ์ บุญลาภ เป็นผ้ประสบความสำาเร็จในการประกอบอาชีพ มีผลงานโดดเด่นจนเป็นท่ประจักษ์แก่สังคมและวงการธุรกิจ เป็นผ้มีคุณธรรม นำาร่องการเฝ้าระวังและควบคุมโรคระบาดสัตว์ที่ติดต่อถึงคน”



จริยธรรมและรับผิดชอบต่อสังคม จึงขอยกย่องให้เป็นนักสัตวบาลดีเด่น ประจำาปี 2563 เพื่อเป็นเกียรติสืบไป นับได้ว่า นายสุรเดช สมิเปรม มีบทบาทในการขับเคลื่อนและพัฒนา มีผลงานเชิงประจักษ์ ก่อให้เกิด ความก้าวหน้าต่อวงการปศุสัตว์ไทย เป็นผู้นำาที่มีคุณธรรม
จริยธรรม เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง จึงสมควรได้รับการยกย่องให้เป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการปศุสัตว์ไทย
48 สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ 49 49
สัตว์เศรษฐกิจ
48 สัตว์เศรษฐกิจ

LIVESTOCK
PRODUCTION MAGAZINE










คำ�ประก�ศเกียรติคุณ
นายสิทธิพร บุรณนัฏ

เชิดชูเกียรติ ประจำาปี 2563



นายสิทธิพร บุรณนัฎ อายุ 65 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เคยดำารงตำาแหน่งผู้จัดการ


สหกรณ์โคเนื้อ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสนผู้จัดการสหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อ อนุกรรมาธิการพัฒนาโคเนื้อ เพื่อรองรับผลกระทบการทาข้อตกลง
เขตการค้าเสรีในคณะกรรมาธิการภาคเกษตรและสหกรณ์ รองประธานอนุกรรมาธิการการเกษตรด้านสินค้าปศุสัตว์ ปัจจุบัน ดำารงตำาแหน่งอุปนายกสมาคมโคเน้อ ื


แห่งประเทศไทย รองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ธุรกิจปศุสัตว์และแปรรูป กรรมการนโยบายพัฒนาโคเน้อ-กระบือและผลิตภัณฑ์แห่งชาติ ผ้ทรงคุณวุฒิและผ้แทน

เกษตรกรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีบทบาทในการขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมเนื้อโคและโคเนื้อของประเทศ บริหารจัดการโซ่อุปทานโคเนื้อโดยใช้ตลาด

เป็นตัวนา เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคขุนคุณภาพด้วยรูปแบบกลุ่มคลัสเตอร์การผลิตในหลายภูมิภาค ที่ใช้ประโยชน์ทรัพยากรเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ ประสาน







การเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์กับผ้ประกอบการตลาด เกิดการเพิ่มพูนศักยภาพของผ้เก่ยวข้องตั้งแต่ต้นนาถึงปลายนา เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมโคเน้อและเน้อโค












อย่างครบวงจร เกดการเปลียนผานจากเกษตรสู่อตสาหกรรมบรการรานอาหาร ตลอดจนผลิตภณฑทนาไปสูการสรางงานสรางอาชีพใหม่ รองรบอตสาหกรรมการ






ท่องเที่ยว และการเติบโตของการบริโภคเนื้อโคและเนื้อโคเกรดพรีเมียมของประเทศ เป็นผู้ขับเคลื่อนเครือข่ายปศุสัตว์และเชื่อมโยงในเขต EEC เพื่อเตรียมความพร้อม
รองรับการส่งออกเนื้อโคไปจีน

นับได้ว่า นายสิทธิพร บุรณนัฎ เป็นผู้นาที่มีอุดมการณ์ด้านสหกรณ์ มีผลงานก่อให้เกิดผลดี เป็นประโยชน์ต่อวงการปศุสัตว์และส่วนรวม เป็นที่ยอมรับอย่าง
กว้างขวางในสังคม จึงขอยกย่อง เชิดชูเกียรติและผลงาน เพื่อเป็นเกียรติสืบไป
คำ�ประก�ศเกียรติคุณ
นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์
เชิดชูเกียรติ ประจำาปี 2563
นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ อายุ 59 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสัตวบาล และปริญญาโท บริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เริ่มทำางานที่องค์การ
ส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ในตำาแหน่งพนักงานเกษตรตรี เลื่อนระดับเป็นหัวหน้าแผนกขาย หัวหน้าสำานักนโยบายและแผน หัวหน้าสำานักการตลาด ผู้ช่วย


ผู้อำานวยการและปฏิบัติหน้าท่หัวหน้าสำานักเลขานุการคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ปัจจุบันดำารงตำาแหน่งรองผ้อานวยการทาการแทนผ้อานวยการ อ.ส.ค.






เป็นผ้ริเร่มวางระบบการตลาด โดยผลักดันให้ อ.ส.ค.จำาหน่ายผลิตภัณฑ์นมเอง โดยไม่ผ่านตัวแทน เปิดช่องทางการตลาดได้ท้งแบบ Traditional trade และ

Modern trade จนสามารถเพิ่มศักยภาพการแข่งขันได้มากขึ้น สนับสนุนการใช้น้ำานมดิบที่ผลิตในประเทศ เพื่อการแปรรูปโดยไม่ใช้นมผง และสนับสนุนโรงงานแปรรูป
นมอ่นๆ ให้ตระหนักถึงการใช้นมดิบมากขึ้นเป็นการลดการใช้นมผงในกระบวนการผลิต มีบทบาทสำาคัญในการปฏิรูประบบบริหารจัดการโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน





กำากบดูแลการสร้างฟาร์มโคนมประสิทธิภาพสูง เพือเป็นแหล่งเรยนร้และเผยแพร่เทคโนโลยีการจัดการฟารมโคนมท่ทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเป็นฟาร์ม


ต้นแบบให้กับการจัดการฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ ตลอดจนสนับสนุนการวิจัยโดยร่วมกับองค์การอาหารและยา ศึกษาการใช้ประโยชน์จากพืชกัญชง ให้เป็นวัตถุดิบอาหาร
โคนม
นับได้ว่าตลอดระยะเวลา 38 ปี ที่ทำางานกับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ มีผลงานก่อให้เกิดผลดี เป็นประโยชน์ต่อ
วงการปศุสัตว์และสังคมโดยรวม เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จึงขอยกย่องเชิดชูเกียรติและผลงาน เพื่อเป็นเกียรติสืบไป
50 สัตว์เศรษฐกิจ
50 สัตว์เศรษฐกิจ


Click to View FlipBook Version