the story of
Alfons
Maria
Mucha
compiler by
Kanokwan Kraiwitlerdsakul
"
Alfons Maria Mucha
1860 - 1939
"
PREFACE
หนังสอื เล่มนีจ้ ัดท�ำ ขนึ้ เพอ่ื เล่าถึงประวัติ ความเป็นมาของศลิ ปนิ "อลั โฟน มคู า" ไม่เพียง
เท่านั้น แตเ่ ราจะพาคุณไปรจู้ กั และสัมผสั กับความงดงามอย่างแทจ้ รงิ ของศลิ ปะอาร์ตนู
โวในสไตล์ของศิลปนิ ทโี่ ดง่ ดังและเปน็ ที่นยิ มในสมยั นน้ั อยา่ ง "อัลโฟน มคู า"
ศิลปะอีกหน่ึงแขนงที่มคี วามสวยงามแบบเฉพาะในตวั เอง เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้จกั
กับศิลปะ แขนงน้ีมากนกั น่นั ก็คอื "อารต์ นโู ว" หรอื ช่ือเรยี กในภาษาไทยคอื "นวศลิ ป"์
น่นั เอง
เมือ่ เสริ ์ชกูเกลิ ดว้ ยคำ�วา่ "Art Nouveau" ผลงานส่วนใหญ่ที่ปรากฏก็จะเป็นของอลั โฟน
มคู า ดว้ ยการใช้โทนสีทีม่ ีความอ่อนหวาน การใช้ลวดลายพืชพรรณของตน้ ไม้ท่ีมีความ
ออ่ นชอ้ ย และมีความเป็นเอกลักษณเ์ ฉพาะตัวมากๆ เราจึงสนใจและเลือกทจ่ี ะศกึ ษา
และหยบิ ยกผลงานของศิลปินทา่ นนีม้ าเล่าผ่านหนังสือ
ผูค้ นท่ัวไปที่ไมม่ ีความรู้หรือไมไ่ ด้เรยี นทางดา้ นศลิ ปะสามารถอ่านหนังสือเล่มนี้ไดอ้ ย่าง
แน่นอน เพราะเราจะกล่าวถงึ ตัง้ แตค่ วามเป็นมาของศลิ ปะแบบนูโวให้ไดเ้ ข้าใจกนั ก่อน
หวงั ว่าคุณจะไดร้ บั ความรู้ รสู้ ึกเพลิดเพลินกบั การอา่ นหนังสอื เลม่ น้ี และเราหวังวา่ คุณ
เองก็จะตกหลุมรักในผลงานของเขาเชน่ เดียวกัน
กนกวรรณ ไกรวชิ เลศิ สกุล
ผเู้ รียบเรียง
The Arts: Painting (1898)
Contents 8
10
01 What is Art Nouveau? 12
02 About Alfons Maria Mucha 14
18
- จดุ เริ่มตน้ ของการเป็นศลิ ปนิ 20
- จุดพลิกผนั ที่ทำ�ให้กลายเป็นศลิ ปนิ 24
03 Nouveau’s Costume 25
04 จากกรงุ ปารีสสู่สหรฐั อเมรกิ า 30
05 Mucha's Artwork 32
- Packaging design 34
- Decorative design 35
- Gismonda 36
- The season (series) 38
- Zodiac 40
- Rêverie 41
- Head of a Girl 42
- Stained-glass Window 53
- Documents Decoratives
- Figures Decoratives
-The Slav Epic
References
01
What is
Art Nouveau?
“อาร์ต นูโว” (Art Nouveau) พจนานุกรมศิลปะ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้
กำ�หนดเป็นศัพท์ภาษาไทยไว้ว่า “นวศิลป์” เป็นศิลปะที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน
ยุโรปและสหรัฐอเมริกาในปี 1880-1914
มจี ดุ เรม่ิ ต้นมาจากชื่อร้านของ แอส.บิง (S. Bing) เปดิ ในปารสี ในปี 1895 ทีช่ ่ือว่า
“ลา นโู ว” (L’ Art Nouveau) แปลวา่ ศลิ ปะใหม่ (the New Art) ตอ่ มากลายเป็นชื่อที่
เรยี กศิลปะท่มี รี ูปแบบเฉพาะทง้ั ในดา้ นสถาปัตยกรรม การออกแบบ และศลิ ปะอน่ื ๆ ใน
เยอรมนีเรยี กว่า Jugendstil แปลว่า วัยเยาว์ (youth) ในอติ าลีเรียกว่า Stile Liberty ใน
สเปนเรียกว่า Modernista และในออสเตรยี เรยี กว่า Sezessionstil (secession style)
อารต์ นโู ว จึงแปลได้ว่า “ศลิ ปะใหม”่ นน่ั เอง
ลกั ษณะพิเศษของ อารต์ นูโว คอื มีการใชร้ ูปทรงแบบอนิ ทรีย์รูปหรือรปู ทรงท่ีมีลกั ษณะเปน็
ธรรมชาติ มีการใช้เสน้ ทอ่ี อ่ นชอ้ ยล่ืนไหล มกี ารผสมผสานลวดลายตา่ งๆ และนยิ มท�ำ งานที่
มกั จะมีลักษณะในการใชป้ ัจจยั ต่างๆจากธรรมชาตแิ ละความเป็นผู้หญิง ซง่ึ จะตรงกันข้าม
กับการสรา้ งสรรค์งานในศิลปวัฒนธรรมตะวนั ตกโดยทว่ั ไปทมี่ กั จะเกีย่ วโยงกับความเปน็
ชาย
PAGE 8
ศลิ ปะอาร์ต นโู ว (Art Nouveau) ปรากฏข้นึ ครัง้ แรกในประเทศองั กฤษ โดยกลุ่มศิลปนิ
กลาสโกวส์ คลู ที่ลุกขน้ึ มาท้าทายศลิ ปะวจิ ิตรศิลป์ (Fine Art) ซง่ึ เป็นขนบดงั้ เดมิ ของศิลปะ
ทม่ี องวา่ ศิลปะถกู สรา้ งสรรค์และดำ�รงอยเู่ พอื่ สนุ ทรยี ภาพและความงามเทา่ น้นั โดยพวก
เขาปรารถนาจะนำ�เสนอแนวทางของศลิ ปะรปู แบบใหม่ ท่ผี สมผสานกนั ระหวา่ ง Art and
Craft หรอื ศิลปะและงาน รวมไปถึงลัทธลิ ทั ธิสญั ลักษณน์ ิยม (symbolism) และญี่ปนุ่ นยิ ม
(japonisme) โดยเน้นรปู แบบงานศลิ ปะและการออกแบบท่ีมกี ารผสมผสานระหว่างศลิ ปะ
แนวใหม่ ซ่งึ แนวคิดคอื การเชดิ ชวู ่าคนท�ำ งานฝมี ือไม่วา่ จะเป็น ชา่ งเย็บ ชา่ งหล่อ ช่างแกะ
สลกั ฯลฯ กเ็ ป็นศลิ ปินเช่นเดียวกับจติ รกรหรอื ประตมิ ากร ศิลปะอาร์ต นโู วจงึ ไม่ไดจ้ ำ�กดั
อยู่แคภ่ าพวาดและประตมิ ากรรม แต่มีรปู แบบหลากหลาย ไล่ไปตง้ั แตง่ านสถาปัตยกรรม
การตกแต่งภายใน การออกแบบปกหนงั สือ งานโปสเตอร์ ไปจนถงึ งานเครอื่ งปัน้ ดินเผา
และรปู ทรงศลิ ปะแบบดั้งเดมิ ท่ยี งั คงเน้นรูปทรงและลวดลายแบบธรรมชาติ ในวิถขี องการ
ออกแบบทอ่ี อ่ นชอ้ ย เกยี่ วกระหวดั เหนยี่ วพัน และพลิ้วไหว ในรปู แบบทีเ่ รยี กวา่ Noodle
Style
The art & Craft Exhibition soci- The Great Wave off the Coast
ety (1890) of Kanagawa (1831)
PAGE 9
02
Alfons
Maria
Mucha
1860-1939
Alfons Maria Mucha หรือ อลั โฟนส์ มารยี า มูคา เกดิ เม่อื วนั ที่ 24
กรกฎาคม ค.ศ. 1860 ในเมืองอวิ ันชิตเซ (Ivančice) ภูมภิ าคโมเรเวีย ปัจจบุ ันอยู่
ในสาธารณรฐั เช็ก เขามีความสามารถในการร้องเพลง สว่ นศิลปะน้ัน เริม่ ตน้ จดั
เปน็ งานอดเิ รกอยา่ งหนง่ึ ของเขา แตต่ ่อมา เขาไดเ้ ขา้ เรยี นในโรงเรยี นท้องถ่นิ ความ
สนใจทางดา้ นศิลปะจงึ เร่ิมมีมากขนึ้
PAGE 10
อลั โฟนส์ มารียา มคู า (เชก็ : Alfons Maria Mucha) เปน็ ศลิ ปนิ แนวนวศลิ ป์ (Art Nou-
veau) ที่มผี ลงานออกแบบอย่างหลากหลาย ทง้ั ภาพโปสเตอร์ ปฏิทิน ภาพประกอบ
หนังสอื งานพมิ พ์ ภาพพมิ พ์หนิ งานโลหะ งานหนัง การออกแบบเครอ่ื งประดับ และ
การออกแบบของตกแต่งบ้าน อีกทงั้ ยงั มผี ลงานวาดภาพเก่ียวกับประวตั ศิ าสตร์อีกดว้ ย
นบั วา่ เปน็ ศิลปนิ มากความสามารถ และมีความเปน็ เอกลกั ษณ์เฉพาะตวั ที่โดดเด่นคน
หนึ่ง
PAGE 11
จุดเร่มิ ต้น
ของการ
เป็น
ศลิ ปิน
เมือ่ เขามีอายุ 17 ปี กไ็ ดอ้ อกจากบ้านเพ่อื มาท�ำ งานเป็นจติ รกรตกแตง่ ฉากเวทที ร่ี ิงเทอาเท
อร์ (Ringtheater) ในเวยี นนา แต่โรงละครเกดิ ไฟไหม้ท�ำ ให้เขาตอ้ งตกงาน และต่อมาไดถ้ กู
เชญิ ให้ไปตกแตง่ ปราสาทของเคานตค์ ารล์ (Count Karl Khuen-Belasi) แห่งเอมมาโฮฟ
(Emmahof) ในออสเตรยี ซ่ึงถอื เปน็ ผู้มพี ระคุณต่อการสนบั สนนุ ทางการเงินแกเ่ ขาในการ
เข้าเรียนศิลปะในสถาบันสอนการศกึ ษาที่มิวนิก
PAGE 12
"
ในปี ค.ศ. 1887 เขาก็ตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงปารีสเพื่อศึกษาต่อที่สถาบันฌูว์ลีย็อง
(Académie Julian) และสถาบันกาโลรอสซี (Académie Colarossi) ซึ่งช่วงนี้เขา
ได้เข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มนาบี ซึ่งเป็นศิลปินในลัทธิประทับใจยุคหลัง (post-impres
sionism) ที่มีเทคนิคหลากหลาย พวกเขาทำ�งานศิลป์ลงในหลายวัสดุนอกจากผ้าใบ ยัง
มีเซรามิก โปสการ์ด เสื้อผ้า นอกจากนั้นยังได้รับอิทธิพลจากคตินิยมศิลปะญี่ปุ่น ซึ่ง
กลายเป็นมางานศิลปะแบบนวศิลป์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1889 มูคาต้องออกจากสถาบัน
กาโลรอสซีเมื่อเคานต์คาร์ลเสียชีวิต และหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักเขียนการ์ตูน เขียน
ภาพลงนิตยสาร และภาพประกอบโฆษณา นับเป็นช่วงเวลาที่เขามีผลงานผลิตออก
มาจำ�นวนมาก ซึ่งลักษณะงานก็ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบที่เคยร่ำ�เรียนมาจาก
สถาบันศิลปะ แต่ก็ทำ�ให้เขาได้สะสมประสบการณ์จากทำ�งานและได้ศึกษาเรียนรู้ศิลปะ
ควบคู่กันไป และคงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้เขาประสบความสำ�เร็จด้านงาน
ออกแบบตกแต่งต่อไป
"
PAGE 13
จดุ พลกิ ผนั
ท่ที �ำ ให้
กลายเป็น
ศิลปนิ ผู้โดง่ ดัง
ในวันท่ี 26 ธันวาคม ค.ศ. 1894 เกิดจุดเปล่ียนใน
ชีวิตของมูคา เมื่อเขาไดว้ าดภาพ "Gismonda" ซงึ่ เป็น
ผลงานโปสเตอรช์ ้ินแรกที่เขาวาดใหแ้ กซ่ ารา
แบรน์ ารต์ (Sarah Bernhardt) เขาได้งานชิน้ นมี้ า
โดยบงั เอิญ เนือ่ งจากภายในร้าน Lemercier ทซ่ี ารา
แบรน์ ารต์ นางเอกละครผ้โู ดง่ ดงั มาใช้บริการ ขณะน้ัน
มีเพยี งผลงานของมูคาทีถ่ กู จัดแสดงอยู่ เขาจึงได้รับ
งานจากซารา แบร์นาร์ต และผลงานโปสเตอรส์ �ำ หรบั
ละครเรือ่ งนัน้ ได้สง่ ผลใหเ้ ขาโดง่ ดงั เพียงชวั่ ข้ามคนื ใน
กรุงปารีสช่วงปี 90 และยากท่ีจะหาใครมาเทียบ ถอื
เป็นยุคทองแหง่ ภาพโปสเตอร์เลยทเี ดียว
Poster for Victorien Sardou's
Gismonda starring Sarah
Bernhardt at the Théâtre de la
Renaissance in Paris.(1894)
PAGE 14
ผลงาน Poster for Victorien Sardou's Gismonda
starring Sarah Bernhardt at the Théâtre de la
Renaissance in Paris นี้ ได้แสดงออกถงึ การสร้างสรรค์
เอกลกั ษณเ์ ฉพาะตัวของมคู าเอง ซ่งึ เขาได้ผสมผสานสีและ
ลายเส้นเข้าดว้ ยกนั อย่างลงตวั แตกต่างจากภาพโปสเตอรท์ ั่วๆ
ไปอยา่ งชัดเจน
Portrait of the Actress,
Sarah Bernhardt (1844-1923)
ภาพน้เี ป็นภาพท่ีมูคาไดร้ ับแรงบนั ดาลใจมาจาก
สภาพแวดลอ้ มโดยรวมของเขา ที่ออกแบบจากประสบการณ์
เพอ่ื พัฒนาผลงานใหม้ คี วามชดั เจน โดยแสดงบคุ ลกิ ส่วนตัวของ Sarah Bern-
hardt ในมุมมองของเขา แล้วน�ำ เธอเขา้ กบั ภาพฉากละครที่อ่อนไหว ซึ่งเปน็ ภาพ
ระหวา่ งทางท่เี ธอเดินไปโบสถ์ ในบรรยากาศยคุ ศิลปะไบแซนไทน์ สอ่ื ความหมาย
ว่านางเอกละคร Sarah Bernhardt บนเวทนี น้ั เปน็ ผเู้ ครง่ ศาสนาไมไ่ ด้เป็นแคผ่ ู้
หญิงธรรมดา และเธอยังเป็นสัญลักษณข์ องความฝันทไี่ ม่มีทางเข้าถงึ ได้
PAGE 15
ในขณะน้นั มคู าก็ไดท้ ำ�การผูกมดั ตัวเองกับสญั ญาทีท่ �ำ ไว้กับโรงพิมพ์
Champenois ท่ีซงึ่ เขามรี ายไดป้ ระจ�ำ จากการออกแบบโปสเตอร์อยแู่ ลว้
การท�ำ งานรว่ มกับโรงพมิ พ์ท�ำ ใหเ้ ขาได้แสดงความสามารถด้านงานภาพพิมพ์หนิ
(lithography) จากผลงาน The Seasons (series) 1896 และ The flower
(series) 1898 ก็ย่งิ ทำ�ให้ช่ือเสียงของเขาเป็นท่ีรจู้ กั อยา่ งกว้างขวางมากข้ึน
The Seasons (series) 1896
The 4 flowers (series) 1898
PAGE 16
ประมาณปี ค.ศ. 1900 เปน็ ช่วงเวลาทม่ี คู า
ประสบความสำ�เรจ็ อยา่ งสูงสุดแทบจะ
ทกุ ด้าน ทงั้ ในดา้ นการเป็นศลิ ปินผูโ้ ด่ง
ดัง เป็นอาจารย์สอนศิลปะการออกแบบ
สามารถเรยี กได้วา่ อัลโฟนส์ มูคาเป็นบิดา
แห่งศิลปะโปสเตอร์ แม้วา่ การผลติ โปสเตอร์
จะมมี าเนน่ิ นานก่อนการมาถึงของยุคสมยั
ของมคู า แต่ศิลปนิ ผนู้ ้ีคอื คนทีท่ �ำ ให้
การวาดภาพโปสเตอร์ไดร้ ับการยกระดบั ให้
เทียบเท่ากับงานศิลปะ
ปกหนังสือ Documents Decoratives
มคู ายังได้จัดท�ำ หนงั สือ Documents Decora-
tives และ Figures Decoratives ซึง่ มเี น้ือหา
เก่ียวกับนวศลิ ปอ์ ยา่ งสมบูรณ์ แสดงใหเ้ หน็ ถึง
ความใส่ใจท่ีเขามีต่อการศกึ ษาศลิ ปะในโรงเรยี น
และพยายามท่จี ะเผยแพร่ความรู้ดา้ นการ
ออกแบบให้กวา้ งขวาง แม้หนังสอื ท้งั สองเล่ม
จะสนบั สนนุ ใหม้ คู าที่ชือ่ เสียงทโี่ ด่งดังมากขึน้
ปกหนังสอื Figures Decoratives
แต่เมือ่ หนงั สอื ถกู จ�ำ หนา่ ย กลบั ถูกใช้เปน็ เคร่อื งมือทางการค้า PAGE 17
เนือ่ งจากส�ำ นกั พิมพท์ ี่เขาท�ำ สญั ญาด้วย ท�ำ การตลาดโดยแถม
หนังสือ Documents Decoratives เมื่อซ้อื หนังสือ Figures
Decoratives ซ่งึ เป็นการไม่ให้คุณค่าของหนงั สอื ประกอบกบั เมื่อ
ออกจ�ำ หน่ายกลับทำ�ใหเ้ ขายงุ่ ยากล�ำ บากย่งิ ขึ้น เพราะลกู ค้าไม่ได้ส่ัง
ซ้ืองานตามแบบในหนงั สอื แต่มักจะขอเปลีย่ นแบบเพ่อื ใหไ้ ด้งานที่
พิเศษไม่เหมอื นใคร ซึ่งอาจเปน็ เหตผุ ลทที่ �ำ ให้มูคาตดั สินใจออก
จากปารสี และไปเผชญิ โลกใหม่ทอ่ี เมรกิ า
03
Nouveau’s Costume
" ชุดที่มูคาออกแบบให้แกซ่ าราไดร้ บั ความนยิ มเป็นอย่างมาก
จนทำ�ใหน้ างเอกสาวซารา กลายเปน็ ต้นแบบของแฟชั่นของยคุ อารต์ นูโว "
หลังจากทผ่ี ลงาน "Gismonda" ถูกเผยแพรอ่ อกไป ภาพโปสเตอร์ของมคู าก็
ชว่ ยเสริมสรา้ งงานละครของ Sarah Bernhardt นางเอกละครผูโ้ ดง่ ดังไดอ้ ยา่ ง
ลงตัว ทัง้ คจู่ ึงตัดสนิ ใจทำ�สญั ญากนั เปน็ เวลา 6 ปี โดยตลอดชว่ งเวลานี้ มคู าก็ได้
ออกแบบโปสเตอร์ให้ซาราไปท้ังหมด 9 ช้ิน อีกทัง้ มูคายังชว่ ยงานเธอโดยการ
ออกแบบเครอ่ื งแต่งกาย เครอ่ื งประดบั และเวทลี ะครท่เี ธอมีส่วนเกี่ยวข้อง
หากพดู ถงึ แฟชัน่ แลว้ มคู าก็เป็นศิลปนิ อกี คน
หนงึ่ ทีม่ ีความสามารถในด้านการออกแบบเคร่อื ง
แตง่ กาย เครื่องประดบั และมคู าก็ไดเ้ ข้ามามี
บทบาทในด้านนี้ โดยชุดที่มูคาออกแบบใหซ้ ารา
เป็นชุดเดรสท่ีสวมใส่สบาย ชุดผ่านการออกแบบ
ใหไ้ หล่ทงั้ สองข้างต้ังตรง เพอ่ื เพมิ่ ความสงา่ ให้
กับผูส้ วมใส่ เพ่ิมคอร์เซตซึง่ ทำ�ใหผ้ ูส้ วมใส่ดมู ีรูป
ร่างผอมและดูสงู ศักดิ์ จงึ ไดร้ ับความนิยมและมี
อทิ ธิพลตอ่ ยคุ นัน้ เปน็ อย่างมาก จนท�ำ ให้นางเอก
สาวซารา กลายเป็นต้นแบบของแฟช่นั ของยุ
คอารต์ นูโว
The Gibson Girl on bicycle, 1890s
เปน็ ตัวการต์ ูนทีส่ อ่ื ภาพลักษณ์หญงิ ยคุ นน้ั คือ
มอี สิ ระ ประสบความสำ�เรจ็ เล่นกฬี าเปน็
PAGE 18
แฟชนั่ อาร์ตนโู ว ถอื เป็นยคุ ที่สตรีเร่ิมมีบทบาทมากข้ึน เร่มิ รู้จักทำ�งานหาเงินเลยี้ งดตู วั
เองได้ และมีการเข้ากลมุ่ ส�ำ หรับท�ำ กิจกรรมเพ่อื สังคมตา่ งๆ สไตล์การแต่งตัวจงึ แปลก
และแตกต่างเปล่ยี นแปลงไปจากเดิมเป็นอยา่ งมาก เริม่ กลา้ จะเปดิ เผยเนือ้ หนังหรือ
ร่างกายบ้าง เนน้ สวมใสเ่ สอื้ ผ้าที่รดั สัดสว่ นและทนั สมัยมากขน้ึ ซึ่งความเปลีย่ นแปลง
ทผ่ี ดิ เพยี้ นไปจากวัฒธรรมเดิมๆ น้นั สง่ ผลใหเ้ กิดการต่อตา้ นจากกล่มุ แฟช่นั อนุรักษ์
นยิ ม stylization หรือกลมุ่ คนทไ่ี ม่พึงพอใจที่สตรยี ุคนเ้ี ร่ิมมอี ิสระในการแตง่ กายมาก
ข้ึนจนอาจเกินขอบเขตทีเ่ คยมีมา ในขณะที่ผู้คนจำ�นวนมากก็เหน็ ว่า แฟชน่ั อาร์ตนูโว
ไม่ได้เปน็ อนั ตรายและไมท่ ำ�ลายศีลธรรมของเหลา่ ผู้หญงิ ใดๆ เลย
ตัวอย่าง การแต่งกายของผู้หญิงในยคุ อาร์ตนโู ว
Ladies in Nouveau's Costume
PAGE 19
04
จากกรุงปารีส
สูส่ หรฐั อเมริกา
Alfons Mucha and his wife, Maruška Chytilová
เม่อื มคู ายา้ ยเข้ามาอาศัยอยใู่ นเมืองนิวยอรก์ สหรัฐอเมรกิ า เพ่อื หวงั ทจี่ ะพบโลกใหม่ ซ่งึ
คงสอดคล้องกบั ประวัตศิ าสตร์สหรฐั อเมรกิ าในช่วงนั้นท่เี ปน็ ดินแดนแห่งโลกใหม่เป็น
ยคุ แหง่ ความก้าวหน้าของสหรัฐอเมรกิ า (Progressive Era) ท่ซี งึ่ เขาทำ�งานดา้ นการ
ออกแบบออกมาควบคไู่ ปกบั การสอนวาดภาพและองคป์ ระกอบทสี่ ถาบนั ศิลปะชคิ าโก
ด้วย และเขาไดพ้ บรกั และแตง่ งานกับหญิงสาวชาวเชก็ ที่ชอ่ื Marie Chytilova ในปี
ค.ศ. 1906 ซึ่งภายหลงั พวกเขามลี กู สาวและลูกชายดว้ ยกนั นอกจากน้ี มคู ายังได้พบกับ
ชาลส์ รชิ ารด์ เครน นกั อตุ สาหกรรมชาวอเมริกันผู้ร�่ำ รวยและสนับสนนุ ให้เขาวาดภาพ
ประวัติศาสตร์สาธารณรฐั เชก็ โดยไมเ่ กย่ี งเร่ืองค่าใชจ้ ่ายและราคา
PAGE 20
Portrait of Mucha and his family, wife Maruška Chytilová
and children Jaroslava and Jiří in Zbiroh, 1917
PAGE 21
หลงั จากอาศยั ท่ีสหรฐั อเมริกาอย่ชู ว่ งหนงึ่ ในปี ค.ศ. 1910 มคู าและครอบครัวก็ได้เดนิ
ทางกลบั ประเทศบา้ นเกดิ ที่ซงึ่ เขาท�ำ ผลงานช้ินสุดทา้ ย ทีน่ ่าจะได้รบั แรงบันดาล
ใจและมีพ้นื ฐานมาจากผลงานดา้ น
ประวตั ศิ าสตร์กอ่ น ๆ ของเขา
ช่วงปลายปี ค.ศ. 1930 ลทั ธิฟาสซสิ ต์
เรมิ่ มีอำ�นาจมากขนึ้ และมองว่า
ผลงาน "The Slav Epic" ของมคู า
มแี นวคิดชาตินิยม สลาฟ
หากมองในแงร่ า้ ยกเ็ ปน็ การขัดตอ่
Portrait of Alfons Mucha, 1928 อ�ำ นาจของลัทธิ และเม่อื กองทัพนาซี
ยา้ ยเข้าไปอยูใ่ นสโลวาเกีย มูคาเปน็ คนแรก
ทกี่ องทัพจบั ตวั ไปสอบปากค�ำ แตเ่ มือ่ พบว่ามคู าปว่ ยด้วยโรคปอดบวมจงึ ได้รับการ
ปลอ่ ยตัวในท่สี ดุ ทำ�ให้เชื่อกันว่า เขาอาจจะได้รบั การกระท�ำ กระเทือนจากเหตกุ ารณ์
นี้ จนท�ำ ให้เขาเสยี ชีวิตเนอื่ งจากปอดติดเชื้อในวันท่ี 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1939 ไม่
นานกอ่ นท่จี ะเกดิ การรกุ รานของสโลวาเกยี โดยกองทพั เยอรมนั
PAGE 22
Alfons Mucha working on the cycle in 1920.
PAGE 23
05 อลั โฟนส์ มูคาเปน็ ศลิ ปินทม่ี ีความสามารถ เขาทำ�งานหลากหลาย
Mucha's ประเภท ท้งั ในเชงิ พาณชิ ย์และวิจิตรศลิ ป์ ภาพวาดรูปผู้หญงิ ดอกไม้
และธรรมชาติ รวมไปถงึ ความมีสุนทรีศาสตรแ์ ละปรัชญาในตัวสูง
Work ผลติ ผลงานออกมามากมายทั้งโปสเตอร์ ปา้ ยโฆษณา หนงั สืออาทิ
การออกแบบเครอ่ื งประดบั พรม วอลเปเปอร์ และฉากเวที ซง่ึ ผล
งานต่าง ๆ เหลา่ นีไ้ ด้รบั การเรยี กในระยะแรกว่า แบบอย่างมูคา
(Mucha Style) แตต่ อ่ มาได้กลายเป็นท่ีรูจ้ กั กันในชือ่ ของ
Packaging Designs นวศิลป์
Box for Lefèvre-Utile
biscuits: Madère (1900)
Box for Lefèvre-Utile bis-
cuits: Gaufrettes Vanille
(1900)
Tin for Lefèvre-Utile
biscuits (1899)
PAGE 24
Decorative designs
Snake Bracelet with a Ring (1899)
Mrs Mucha’s Necklace (1906)
PAGE 25
Sarah Bernhardt as La Princesse
Lointaine: poster for 'La Plume'
magazine (1897)
Poster for 'Job'
cigarette paper
(1896)
PAGE 26
The Months (January-June)
(1899)
The Months (July-December)
(1899)
PAGE 27
Poster for 'La Dame aux
Camélias' (1896)
Fruit (1897)
PAGE 28
ร�ำ ลึก 124 ปี วันศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี
ในวนั ท่ี 15 กันยายน 2559 ณ มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร วทิ ยาเขตพระราชวังสนามจันทร์
โดยนักศึกษาคณะจติ รกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ รนุ่ ท่ี70
จะเหน็ ได้วา่ มีการใช้ลวดลายและนำ�สไตล์การออกแบบของมคู ามาออกแบบใหก้ บั พนื้ หลงั ของภาพ
PAGE 29
Gismonda ,
1894
PAGE 30
ภาพ Gismonda วาดใหแ้ กซ่ ารา แบรน์ ารต์ ในปี ค.ศ. 1894 ภาพน้ีเปน็ ผลงาน
โปสเตอร์ช้นิ แรกของมคู าและเป็นผลงานทเี่ ป็นจดุ เปลี่ยนชวี ิตเขาใหก้ ลายเปน็
ศลิ ปนิ ผ้โู ด่งดงั ในกรุงปารีสเพยี งชั่วขา้ มคนื ถอื เป็นยุคทองแหง่ ภาพโปสเตอร์ที่ส่ง
อิทธิพลให้กับศิลปะแนวนวศลิ ป์ต่อไป
มูคาวาดภาพนีเ้ พ่ือเปน็ การโปรโมทละครเรื่อง Gismonda ในวนั ที่ 4 มกราคม ค.ศ. 1895 ที่
ซาราเป็นทัง้ นกั แสดงและผู้กำ�กับ ณ Théâtre de la Renaissance ในกรงุ ปารสี โดยภาพนไ้ี ด้
แสดงออกถึงการสร้างสรรค์เอกลกั ษณเ์ ฉพาะตัวของมูคาเอง ซง่ึ ไดผ้ สมผสานสีและลายเส้นเขา้
ดว้ ยกันอยา่ งลงตวั แตกตา่ งจากภาพโปสเตอร์ทวั่ ๆ ไปอย่างชัดเจน ภาพนีม้ คู าน่าจะไดร้ บั แรง
บนั ดาลใจมาจากสภาพแวดลอ้ มโดยรวมของเขาเอง ทอี่ อกแบบจากประสบการณ์เพอ่ื พฒั นาผล
งานใหม้ ีความชัดเจน โดยแสดงบคุ ลกิ ส่วนตวั ของ Sarah Bernhardt ในมุมมองของเขา แล้ว
นำ�เธอเขา้ กับภาพฉากละครท่ีออ่ นไหว ซ่งึ มูคานำ�มาพรรณนาเปน็ ภาพระหว่างทางทเ่ี ธอเดินไป
โบสถ์ ในบรรยากาศยคุ ศลิ ปะไบแซนไทน์ ส่ือความหมายว่านางเอกละคร Sarah Bernhardt
บนเวทนี ัน้ เปน็ ผูเ้ คร่งศาสนาไมไ่ ด้เปน็ แคผ่ ู้หญงิ ธรรมดา และเธอยงั เป็นสญั ลกั ษณ์ของความ
ฝนั ท่ไี ม่มีทางเข้าถึงได้ ภาพโปสเตอรข์ องเขาไดช้ ว่ ยเสรมิ สรา้ งงานละครของนางเอกละครผโู้ ดง่
ดังอยา่ งลงตัว เปน็ สอื่ สมั ผัสถงึ อารมณข์ องละครคลาสสกิ ของฝร่งั เศส ผสมผสานกบั ความเปน็
ตะวนั ออกและความลึกลับไม่ธรรมดาของละคร
PORTRAIT DE SARAH BERN-
HARDT
PAGE 31
The Seasons (series) (1896)
PAGE 32
The Seasons (series) (1896) ถกู สร้างสรรค์ในปี 1896 ซ่งึ เป็นผลงานภาพติดฝา
ผนังทไี่ ดร้ ับแรงบนั ดาลใจจากหญิงสาวชาวโรมัน ทีอ่ ยใู่ นแตล่ ะฤดูกาลทแ่ี ตกตา่ งกัน
แสดงให้เห็นถงึ ความงามของหญงิ สาวและธรรมชาตใิ นแตล่ ะชว่ งเวลา หญงิ สาวที่
เหมือนนางไม้ต้งั อยทู่ ่ามกลางทวิ ทศั น์ตามฤดูกาลของชนบทท�ำ ให้ชวี ิตใหม่กลายเปน็ ธีม
คลาสสิกและรวบรวมอารมณข์ องฤดกู าลตา่ งๆ ได้แก่ ฤดใู บไมผ้ ลฤิ ดรู ้อนทรี่ อ้ นอบอา้ ว
ฤดใู บไมร้ ่วงทีเ่ ตม็ ไปดว้ ยผลและฤดหู นาวทีห่ นาวจัดและร่วมกนั แสดงถึง
วัฏจกั รของธรรมชาตทิ ี่กลมกลนื กัน
Winter
ร่างของหญงิ สาวทยี่ ืนอยขู่ า้ งพุม่ ไม้ท่ีปกคลมุ ไป
ดว้ ยหมิ ะเพื่อหลบความหนาวจากหัวจรดเทา้
ในมือของก�ำ ลงั ใหค้ วามอบอนุ่ กับนกตัวเลก็ ๆ
ขณะท่ีนกอีกสามตัวก�ำ ลงั มองดว้ ยความอิจฉา
Summer
ฤดรู อ้ นเปน็ สนี ้�ำ ตาลท่เี ย้ายวนและรอ้ นแรงดว้ ยดอกป๊อปปี้สี
แดงในผมของเธอ อารมณ์อันเงยี บสงบของการพกั ผอ่ นและ
ความพึงพอใจแผซ่ า่ นไปท่วั ฉาก ขณะท่ีหญิงสาวเอนกายพิง
ตน้ อง่นุ โดยใช้เท้าของเธออาบน้ำ�ในน�ำ้ ตน้ื ด้านล่าง
Spring
หญิงสาวในชดุ สขี าวโปรง่ แสง ยืนอยูใ่ ต้
ต้นไมท้ ่กี ำ�ลังผลบิ าน ดอกไม้นั้นสะท้อน
อยูใ่ นดอกไมส้ ีขาวในเสน้ ผมของเธอ และ
เหมอื นเธอถือพณิ ทป่ี ระดษิ ฐจ์ ากก่ิงไมท้ ี่
นกตวั เลก็ ๆ สามตัวนั่งอยู่
Autumn แสดงใหเ้ ห็นถึงหญิงสาวที่มคี วามขเ้ี ลน่ เธอสวมพวงหรดี ดอก
เบญจมาศบนผมสนี ำ้�ตาลแดงยาว และนงั่ อย่ทู า่ มกลางต้นไม้
ในฤดูใบไมร้ ว่ งทอ่ี ุดมสมบรู ณ์และก�ำ ลงั เก็บองุน่ จากเถาวลั ย์
ที่อดุ มสมบูรณ์
PAGE 33
Zodiac (1896)
ผลงานชิน้ นี้ เป็นผลงานชิ้นแรกทม่ี คู าได้
ท�ำ ตอนที่อยภู่ ายใต้สญั ญากบั โรงพมิ พ์
Champenois มูคาไดร้ วบรวม
สัญลักษณ์ของทงั้ 12 ราศไี วใ้ นแผ่นจา
นกลมๆดา้ นหลงั ใหค้ วามรู้สกึ เหมอื น
เปน็ รศั มี ด้านหลงั ศีรษะของผ้หู ญิง มี
ลวดลายซงึ่ เป็นหนงึ่ ในลวดลายตาม
ประเพณี และความงามสง่าของหญิงสาว
ทีถ่ กู เนน้ ย้�ำ ดว้ ยเครอ่ื งประดบั อันสงา่ งาม
Media type Decorative designs การออกแบบที่โดดเด่นของปฏิทนิ
Medium Colour lithograph จักรราศดี งึ ดูดความสนใจของ Léon
Date1896 Deschamps หวั หน้าบรรณาธิการ
Dimensions65.7 x 48.2 cm ของ La Plume ได้อย่างรวดเรว็ เขา
Printer/MakersF. Champenois, Paris ซื้อลขิ สิทธเ์ิ พ่อื แจกจา่ ยเปน็ ปฏิทนิ ของ
นติ ยสารในปี ค.ศ. 1897 ผลงานชนิ้ น้ี
กไ็ ดก้ ลายเปน็ หนึ่งในงานออกแบบทีไ่ ด้
รบั ความนยิ มมากทส่ี ดุ ของมูคา
PAGE 34
Rêverie (1898)
เช่นเดียวกบั ภาพ zodiac (1896)
ภาพพิมพห์ นิ ภาพนีเ้ ป็นภาพทีม่ คู าได้
ทำ�ตอนทอี่ ย่ภู ายใตส้ ญั ญากับโรงพิมพ์
Champenois ภาพน้ีถกู ออกแบบ
มาเพื่อใช้เปน็ ปฏิทนิ ของ บรษิ ัท
Champenois ในปี พ.ศ. 2441
อยา่ งไรกต็ ามความนิยมในทนั ทีน�ำ ไป
สกู่ ารตพี มิ พ์อย่างรวดเร็วโดยนิตยสาร
La Plume ทม่ี ชี อ่ื เร่ืองวา่ Reverie
(ฝนั กลางวัน)
การออกแบบภาพนี้ของมูคาแสดงให้
เห็นถงึ หญิงสาวท่มี ีดวงตาเหมือนฝนั
สว่ นแผ่นจานกลมๆท่ีโดดเดน่ ด้านหลงั
เธอไดร้ ับการตกแต่งอยา่ งประณตี ด้วย
ดอกไม้และล�ำ ตน้ เปน็ ลวดลายคล้าย
ลกู ไม้
Media type Decorative designs
Medium Colour lithograph
Date1898
Dimensions72.7 x 55.2 cm
Printer/MakersF. Champenois, Paris
PAGE 35
Head of a G
statue for the stand of the Houbigant P
Media type Decorative designs
MediumBronze, silver and parcel gilt
Date1900
Dimensions29 x 22 x 10 cm
PAGE 36
Girl (1900)
Perfumery at the Paris Exhibition 1900
รูปปั้นครึ่งตัว เป็นรูปของหญิงสาวที่สวมมงกุฎโค้งสูง ประดับด้วยอัญมณี
และดอกลิลลี่สีเงิน มูคาได้รับมอบหมายมาจาก Houbigant นักปรุง
น้ำ�หอมชาวปารีสที่มีชื่อเสียง ให้จัดแสดงในงานนิทรรศการนานาชาติใน
กรุงปารีสในปี 1900
แม้ว่ารูปแบบของรูปปั้นครึ่งตัวนี้จะได้รับแรงบันดาลใจจากประติมากรรม
ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา แต่มูคาก็ยังเลือกใช้เทคนิคการปิดทองและเงินสมัย
ใหม่เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ ที่โดดเด่น และในงานนิทรรศการรูปปั้นครึ่งตัว
ถูกติดตั้งไว้สูงเหนือพวงหรีดดอกไอริส กุหลาบและสีม่วงตรงกลางของรูป
ปั้น
PAGE 37
Stained-glass Window d
Vitus Cathedral,
Prague(Early 1930s)
งานบูรณะแบบกอธิคสำ�หรับมหาวิหารเซนต์วิตัสในปราก แล้ว
เสร็จใน ค.ศ. 1929 หน้าต่างกระจกสีที่ออกแบบโดยมู
คา ได้รับการติดตั้งในโบสถ์ ทางทิศเหนือในปี ค.ศ. 1931
หน้าต่างแสดงภาพเด็กชายเซนต์เวนเซสลาสกับคุณยายของเขาเซนต์ลุดมิลา
ตรงกลางล้อมรอบไปด้วยฉากต่างๆในชีวิตของนักบุญซีริลและเมโธเดียสที่
เผยแพร่ศาสนาคริสต์ในหมู่ชาวสลาฟ มีภาพของสลาเวียรวมอยู่ด้านล่างของ
พระคริสต์และเป็นสัญลักษณ์ของธนาคารสลาเวียที่ให้เงินสนับสนุนเพื่อทำ�
หน้าต่างกระจกสีขึ้นมา
PAGE 38
esigned by Mucha at St.
Media type Decorative designs
DateEarly 1930s
PAGE 39
Documents Decoratives
หนังสือที่มูคาจัดทำ�ตั้งแต่ปี ค.ศ.
1900 ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1902
มีเนื้อหาเกี่ยวกับนวศิลป์ หนังสือ
จัดทำ�คล้ายกับเป็นสารานุกรมของ
งานประดับตกแต่งของมูคา เป็นการ
รวบรวมผลงานออกแบบตั้งแต่เริ่มจน
กระทั่งขั้นออกมาเป็นผลงาน สะท้อน
ให้เห็นว่า ผลงานของเขาเริ่มต้นด้วย
การศึกษาธรรมชาติ ภาพต้นไม้ ดอกไม้
และผลไม้ แล้วจึงพัฒนาภาพธรรมชาติ
มาเป็นรูปทรงในการออกแบบ และใช้
ภาพเดียวกันวางไว้ทั่ว ๆ งานทั้งงาน
พิมพ์ งานโลหะ และงานหนัง
หนังสือเล่มนี้เหมาะแก่การใช้ในการประกอบการเรียนศิลปะสำ�หรับผู้เริ่ม
ศึกษา เพราะทำ�ให้นักเรียนรู้เป็นขั้นตอน จากการเข้าใจธรรมชาติไปสู่การ
สร้างผลงานที่เสร็จสมบูรณ์
PAGE 40
Figures Decoratives
หนงั สอื ทม่ี คู าจดั ท�ำ ขนึ้ ในชว่ งเวลาเดยี วกนั
กับหนงั สือ Documents Decoratives
แต่ Figures Decoratives จะเป็นการ
รวบรวมผลงานภาพสรรี ะของมนุษย์
ภายในระยะเวลาการทำ�งาน 4 ปี เขาได้
รวบรวมกรยิ าทา่ ทางไวม้ ากมาย ซ่งึ ตพี มิ พ์
ควบคไู่ ปดว้ ยรูปทรงทางเรขาคณติ อันเปน็
โครงของท่าทางเหล่านนั้ ภาพสว่ นใหญ่จะ
เป็นภาพเด็ก ๆ และหญงิ สาวในอิรยิ าบถ
ต่าง ๆ บางภาพเปน็ ภาพเปลือย บางภาพ
มีผ้าพันร่างกายเป็นบางส่วน และบาง
ภาพก็แต่งตัวเต็มยศ ลกั ษณะการวาดภาพ
เหล่าน้ีเป็นการวาดด้วยดนิ สอใชล้ ายเสน้
ง่าย ๆ นักวิชาการบางท่านกลา่ ววา่ งาน
ของมคู ามีเสนห่ ์ เยา้ ยวนและลกึ ลบั คาด
วา่ เปน็ อทิ ธิพลจากเหล่านางแบบเช้อื สาย
สลาฟ
การท�ำ หนังสอื เลม่ นเ้ี ป็นเหมอื นพน้ื ฐานท่ดี ีในการสง่ เสรมิ ให้มูคาประสบความ
ส�ำ เรจ็ ทง้ั ในการเปน็ นักวาดภาพประกอบและการเปน็ ครู เป็นหนังสือส�ำ หรับ
นักออกแบบที่ตอ้ งการแรงบนั ดาลใจเพอ่ื ไปพัฒนางานของตน เพราะลาย
เสน้ ของมคู าหนังสือเปน็ งานทเี่ หมาะแกก่ ารศกึ ษาตามความเปน็ จรงิ มากกว่า
สัดสว่ นในอดุ มคติของรา่ งกาย
PAGE 41
The Slav Epic
PAGE 42
'The Slav Epic' cycle No.1: The Slavs in Their
Original Homeland
"The Slav Epic" (ผลงานชิน้ เอกชิน้ หนงึ่ ของ และคาบสมทุ รบอลขา่ นเพ่อื ใหแ้ น่ใจใน
มคู า เปน็ ภาพแห่งประวัตศิ าสตร์ชนชาติสลาฟ ความถูกตอ้ ง และทยอยสง่ ภาพทีเ่ สร็จไป
ยุโรปตะวันออก) มีทัง้ หมด 20 ภาพ วาดชว่ งปี จัดแสดงทัง้ ในกรงุ ปราก นิวยอร์ก และ
ค.ศ. 1910-1928 กอ่ นทเ่ี ขาจะลงมือวาด ชิคาโก ซึง่ ได้รบั การตอบรบั และเสยี ง
ผลงานชดุ น้ี เขากไ็ ด้ออกศกึ ษาประวัตศิ าสตร์ ช่ืนชมจากผูค้ นเป็นอย่างมาก
ด้วยการไปเยือนสถานท่ตี า่ ง ๆ ทัง้ รสั เซยี
โปแลนด์
PAGE 43
'The Slav Epic' cycle No.2: The Celebration
of Svantovít (1912)
ด้วยผลงาน the slav epic
นเ้ี อง ท่ีกอ่ ปญั หาให้กบั เขาในชว่ งสดุ ท้ายของชวี ติ เน่อื งจากเปน็ งานด้าน
ประวตั ิศาสตรท์ ส่ี ะทอ้ นแนวความคิดชาตินิยมอย่างชดั เจน ซงึ่ ขัดต่ออ�ำ นาจ
ทางการเมืองของลทั ธฟิ าสซิสต์ (มีอ�ำ นาจชว่ งปี ค.ศ. 1929-1945) และ
เมื่อกองทพั นาซยี ้ายเข้าไปอยู่ในสโลวาเกีย มคู าเป็นคนแรกท่ีกองทัพจบั ตวั
ไปสอบปากคำ� แต่ก็ไดร้ ับการปลอ่ ยตวั เนอ่ื งจากเขาป่วย ทำ�ใหเ้ ชอื่ กันว่า
เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบกระเทือนต่อเขามากและทำ�ใหเ้ ขาเสยี ชวี ิตลงใน
ทส่ี ุด
'The Slav Epic' cycle No.3: Introduction of the
Slavonic Liturgy in Great Moravia (1912)
PAGE 44
'The Slav Epic' cycle No.4: Tsar Simeon
I of Bulgaria (1923)
'The Slav Epic' cycle No.5: King Přemysl
Otakar II of Bohemia (1924)
PAGE 45
'The Slav Epic' cycle No.6: The Coronation
of Serbian Tsar Štěpán
Dušan (1926)
ในชว่ งสงครามโลกคร้ังท2่ี
(ต้ังแต่ปี ค.ศ. 1939-1945)
ผลงาน "The Slav Epic" ถกู
นำ�มาเกบ็ ซ่อนไวเ้ พือ่ ปอ้ งกัน
การท�ำ ลายจากนาซี และดว้ ยบริบทสงั คมในตอนนั้นท่นี าซมี ี
อำ�นาจมาก ทำ�ใหม้ คู าถกู มองวา่ เปน็ แค่ศลิ ปนิ ชัน้ รอง ไม่ได้
ยกย่องใด ๆ เพราะงานของเขาเหินห่างจากแนวความคดิ แบบ
สังคมนยิ มทเ่ี ป็นแนว
ปฏบิ ตั ิของผู้ปกครอง
กรุงปรากในชว่ งน้ี หลัง
สงครามส้ินสุด
'The Slav Epic' cycle No.7:
Milíč of Kroměříž (1916)
PAGE 46
'The Slav Epic' cycle No.8: Master Jan Hus
Preaching at the Bethlehem Chapel:
Truth Prevails (1916)
'The Slav Epic' cycle No.9:
The Meeting at Křížky
(1916)
'The Slav Epic' cycle No.10: After the
Battle of Grunewald (1924)
PAGE 47
'The Slav Epic' cycle No.11: After the
Battle of Vítkov (1916)
'The Slav Epic' cycle No.12: Petr of Chelčice (1918)
'The Slav Epic' cycle No.13: The
Hussite King Jiří z Podĕbrad
(1923)
PAGE 48
'The Slav Epic' cycle No.14: The
Defence of Sziget by Nikola
Zrinski (1914)
'The Slav Epic' cycle No.15: The Printing of the Bible
of Kralice in Ivančice (1914)
PAGE 49
'The Slav Epic' cycle No.16: Jan Amos Komenský (1918)
'The Slav Epic' cycle No.17: The Holy Mount Athos (1926)
PAGE 50