The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แหล่งเรียนรู้ในอำเภอตระการพืชผล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sarincstyk, 2021-08-30 01:34:13

แหล่งเรียนรู้กศน.อำเภอตระการพืชผล

แหล่งเรียนรู้ในอำเภอตระการพืชผล

คำนำ

ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอตระการพืชผล ไดต้ ระหนักถงึ
ความสำคัญของแหล่งเรียนร้ใู นอำเภอตระการพชื ผลทั้ง ๒๓ ตำบล เพ่อื กระตุ้นให้ประชาชนในพ้ืนท่แี ละ
ประชาชนภายนอกได้ศกึ ษาและอนรุ กั ษแ์ หล่งเรียนรู้ในอำเภอตระการพืชผล ตลอดจนให้มกี ารพัฒนาแหล่ง
เรยี นรูใ้ นดา้ นตา่ งๆให้ดยี ิ่งข้ึน เปน็ การสง่ เสรมิ ภมู ปิ ัญญาชาวบ้านและสบื สานภมู ิปัญญาท้องใหอ้ ยู่ในอำเภอ
ตระการพืชผลอยา่ งเข้มแขง็ และยั่งยืน

ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอตระการพืชผล หวังเปน็ อย่างยิ่งว่า
รายงานแหล่งเรียนรูอ้ ำเภอตระการพืชผลเล่มน้ี จะเป็นประโยชนก์ ับผ้ทู ี่สนใจและสามารถนำความรูไ้ ปปรบั
ใช้ให้เกดิ ประโยชนก์ ับการศกึ ษาต่อไป

ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย
อำเภอตระการพชื ผล
มนี าคม ๒๕๖๔

สารบญั หน้า

เรอ่ื ง ก

คำนำ ๑
สารบัญ ๓
แหลง่ เรียนรู้ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎีใหม่ ๕
แหลง่ เรียนรู้ ภมู ิปญั ญาท้องถิน่ ตำบลเปา้ ๘
แหล่งเรียนรู้ วัดศรีตัสสาราม ๑๑
แหลง่ เรียนรู้ วัดบรู พา ๑๕
แหลง่ เรยี นรู้ ผลิตเกลือสินเธาว์
แหลง่ เรียนรู้ วดั เกษมสำราญ ๒๐
แหล่งเรียนรู้ สวนสมนุ ไพรเกษตรอินทรีย์ บ้านไร่ดง ๒๓
แหล่งเรยี นรู้ วดั ราษฎร์ประดิษฐ์ ๒๕
แหลง่ เรียนรู้ ศูนย์เรียนร้เู ศรษฐกจิ พอเพยี งบา้ นดอนใหญ่ ๒๘
แหลง่ เรียนรู้ ข้าวเมา่ ชมุ ชนบ้านคำไหล ๓๑
แหลง่ เรียนรู้ การปนั้ อิฐ ๓๔
แหลง่ เรยี นรู้ วัดปจั ฉิมณวี นั
แหล่งเรยี นรู้ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ตำบลไหล่ทุ่ง ๓๗
แหล่งเรยี นรู้ ศูนยก์ ารเรียนรปู้ รชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงบ้านกดุ เม็ก ๓๙
แหล่งเรียนรู้ ภนู กหงส์ ๔๒
แหล่งเรยี นรู้ วัดอนั ตรมคั คาราม ๔๕
แหล่งเรียนรู้ เปยี่ มสุขฟาร์ม ๔๘
แหล่งเรียนรู้ ชมุ ชนบ้านรอ่ งน้ำขุ่น
แหล่งเรียนรู้ วดั โพธิ์สระปทุม ๕๒
แหล่งเรียนรู้ แหล่งเรียนร้เู ศรษฐกิจพอเพยี ง ๕๕
แหลง่ เรยี นรู้ ภสู องช้นั
แหล่งเรยี นรู้ ศนู ย์เรียนร้บู ้านคอนสาย ๕๘
แหลง่ เรยี นรู้ วัดธมั มปตฏิ ฐาราม ๖๑
แหล่งเรียนรู้ สวนตารมย์เกษตรผสมผสาน ๖๔
บรรณานกุ รม ๖๘
๗๑
๗๓

แหลง่ เรียนรปู้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่

กศน.ตำบลเปา้ สังกดั กศน.อำเภอตระการพืชผล

สำนักงาน กศน.จังหวดั อุบลราชธานี

1. แหล่งเรยี นรู้

กลุ่มจักสานบา้ นพอกน้อย หมูท่ ่ี 2 ตำบลเป้า

2. ช่อื ผ้ปู ระสานงานแหลง่ เรยี นรู้

ชือ่ นายวเิ ชยี ร นามสกุล พันแสน ตำแหน่ง ผูใ้ หญ่บ้าน

ทอี่ ยู่ ทีท่ ำการผใู้ หญบ่ ้าน หมู่ 2 ตำบลเป้า

3. ผปู้ ระสานงานแหล่งเรยี นรู้ (ครู กศน.ตำบล)

ชอื่ นายอภิชาติ แถมวัน ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบลเปา้

ทีอ่ ยู่ปจั จบุ ัน 11 หมู่ 7 ตำบลนาพนิ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี 34130

โทรศพั ท์ 086-8789546

4. ประวัตแิ ละความเปน็ มา

เป็นกลมุ่ ท่ตี ้ังขึ้นโดยธรรมชาติ โดยมสี มาชกิ อยูแ่ ลว้ จำนวน 15 คน โดยสมาชกิ แต่ละคนมีการจกั

สานไปตามความถนดั ไดง้ านแตล่ ะช้นิ ไมเ่ หมือนกนั แต่จะเป็นการจักสานฆ้องใส่ปลา เปน็ ส่วนใหญ่

สมาชิกกลุ่มจกั สานในปจั จุบัน

1. นายพา สุธรรมมา ประธาน บ้านเลขท่ี 46 หม่ทู ี่ 2 ตำบลเปา้

2. นายประสงค์ รูปแกะ รองประธาน บา้ นเลขท่ี 71 หมู่ท่ี 2 ตำบลเปา้

3. นายผุย นามดี กรรมการ บ้านเลขที่ 72 หม่ทู ี่ 2 ตำบลเป้า

4. นายมูล ประครอง กรรมการ บา้ นเลขท่ี 59 หมู่ที่ 2 ตำบลเป้า

5. นายตี๋ แก้วลี กรรมการ บา้ นเลขที่ 17 หมู่ที่ 2 ตำบลเปา้

6. นายพลิ า รูปแกะ กรรมการ บา้ นเลขท่ี 14 หมู่ที่ 2 ตำบลเปา้

7. นายสี โสภา กรรมการ บ้านเลขท่ี 49 หมทู่ ี่ 2 ตำบลเปา้

8. นายจำเนียน พนั แสน กรรมการ บา้ นเลขที่ 10 หมู่ที่ 2 ตำบลเป้า

5. ความสำคญั และคุณคา่ แห่งการเรียนรู้ (ความร้ทู ี่มีในแหลง่ เรียนรู้)
1. เพอ่ื ใช้ความรคู้ วามสามารถผลติ หัตถกรรมในท้องถ่นิ ใหเ้ กิดประโยชน์สงู สุด
2. เพ่อื ใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ หลังจากฤดูการทำเกษตรกรรม
3. เพ่อื ใหส้ มาชิกในกลุม่ มรี ายไดเ้ สริม รูจ้ กั การบรหิ ารกลุ่ม
4. เพื่อถา่ ยทอดความรู้ สูบ่ ุคคลรนุ่ หลงั ให้มคี วามรคู้ วามสามารถประกอบอาชพี ได้
5. เพอ่ื จัดให้มศี ูนยก์ ารเรยี นรูใ้ นทอ้ งถิ่น และสามารถบรู ณาการความรใู้ ห้เป็นรูปธรรม

๖. ภาพกิจกรรม

แหล่งเรียนรู้ภมู ิปัญญาท้องถ่ิน
กศน.ตำบลเปา้ สงั กัด กศน.อำเภอตระการพืชผล

สำนักงาน กศน.จังหวัดอบุ ลราชธานี
1. ประวตั ผิ ู้ทรงภูมิปัญญา

ชื่อ นายขุน นามด้วง
ทอี่ ยู่ 9 หมู่ 9 บา้ นเป้าศรีสวุ รรณ ตำบลเป้า อำเภอตระการพืชผล จังหวัด
อบุ ลราชธานี 34130
2. ประวตั ผิ ลงาน
2.1 ศลิ ปกรรม
การประดิษฐค์ ิดคน้ อุปกรณ์และเคร่ืองมือข้ึนมาใช้เอง ซ่ึงประกอบด้วย
1. อิ้ว เปน็ อปุ กรณ์สำหรับรดี ดอกฝา้ ยเอาเมลด็ ออกและทำให้ดอกฝ้ายนุ่ม
2. หลา เป็นอุปกรณ์สำหรับปัน่ หรอื ภาษาชาวบา้ นเรยี กว่า เขน็ ดอกฝา้ ยใหเ้ ป็น เสน้ ใยฝ้าย
3. อกั เปน็ อุปกรณส์ ำหรับมว้ นใยฝา้ ย ท่ปี น่ั ด้วยหลา
4. หลกั เฝื่อ เปน็ อปุ กรณส์ ำหรบั จับเส้นใยฝา้ ยให้เป็นเครือ เพอื่ เตรยี มทีจ่ ะทอ
5. กง เป็นอุปกรณ์สำหรบั ม้วนใยฝา้ ยให้เปน็ ไจหรือปอย ตามปะสาชาวบ้านเพ่อื จะนำไปย้อมสี
ตาม

ตอ้ งการแลว้ จึงนำมาทำเปน็ เครอื ทจี่ ะทอผ้า

3. ประสบการณก์ ารทำงานด้านที่เช่ียวชาญ (พอสังเขป)
เริ่มทำสิง่ ประดษิ ฐ์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2528

4. เครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์/เกยี รตบิ ตั ร/รางวัลท่เี คยไดร้ บั
-

5. ผลงานที่ปรากฏ
ส่ิงประดิษฐ์ อว้ิ หลา อกั หลกั เฝือ กง เป็นต้น

6. ภาพกิจกรรม

แหลง่ เรยี นรู้อุบลราชธานี

ชอ่ื แหล่งเรยี นรู้ วดั ศรีตสั สาราม
ตำบล ตากแดด อำเภอตระการพชื ผล
ด้านวฒั นธรรมประเพณี สาขาโบราณสถาน

1. ผ้รู ับผดิ ชอบ/ผ้ถู า่ ยทอดแหล่งเรียนรู้
ช่ือ-สกุล นายวีระพนั ธ์ ไมน้ ้อย ตำแหนง่ กำนนั ตำบลตากแดด
ทอี่ ยู่ หมู่ท่ี ๓ ตำบลตากแดด อำเภอตระการพืชผล จงั หวัดอุบลราชธานี
Facebook -

๒. ผปู้ ระสานงานแหล่งเรียนรู้

ช่ือ-สกุล นายวีรยุทธ พันแสน ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบลตากแดด
ทีอ่ ยู่ บา้ นเลขท่ี 18 หมูที่ 8 ตำบลกระเดียน อำเภอตระการพืชผล จังหวดั อุบลราชธานี
เบอรโ์ ทรศัพท์ 084-8326049 Facebook WEERAYUT PHANSAEN Line pomweerayut

๓. องค์ความรู้แหล่งเรียนรู้
วัดศรตี ัสสาราม อำเภอตระการพชื ผล จงั หวดั อบุ ลราชธานี ภายในวดั มีอุโบสถสิมเกา่ แก่อายุกวา่ ๑๐๐

ปี ทย่ี งั สามารถใชง้ านได้ดี เป็นงานสถาปตั ยกรรมและศิลปกรรมท้องถิ่นยังคงหลงเหลือไว้ใหศ้ ึกษาเรียนรู้ เชน่
รปู ปนั้ ช้างเอราวณั นกหัสดีลิงค์ ววั ราวบันไดนาค และตัวมอม เชิงชายไม้แกะสลักประดับกระจก มีพระพุทธ
ญาณวฤทธ์ิ เปน็ พระประธานในอุโบสถและเปน็ พระพุทธรปู ท่ชี าวบา้ นตากแดดให้ความเคารพศรทั ธาวดั ศรีตสั
สาราม อำเภอตระการพชิ ผล จังหวดั อุบลราชธานี เปน็ วดั เกา่ แก่ทไ่ี ดร้ ับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวนั ที่ ๑๙
สงิ หาคม พ.ศ. ๒๔๓๐ ชุมชนพรอ้ มใจกนั จัดตงั้ ขนึ้ เพื่อเป็นสถานทีอ่ บรมศลี ธรรม คุณธรรม จริยธรรม และ
ประกอบศาสนกิจตา่ ง ๆ เดมิ ชื่อวดั ศรีบญุ เรอื ง ภายหลังได้มกี ารขอเปลี่ยนช่ือเน่ืองจากมีชอ่ื ซำ้ ซอ้ นกับหลายวดั
พ้ืนท่ตี ั้งวัด มีเน้ือท่ี ๗ ไร่ ๒ งาน ๒๕ ตารางวา สงิ่ ท่ีเคารพเลือ่ มใสของประชาชน คือ พระพุทธญาณวฤทธิ์ ซ่งึ
เป็นพระประธานในอุโบสถ สรา้ งในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ กอ่ สร้างด้วยอิฐถอื ปูน ขนาดหน้าตัก ๒ เมตร สงู ๒.๕๐
เมตร ทีต่ ั้งวดั แห่งนเ้ี ปน็ แหง่ ท่ี ๓ ของชุมชนบา้ นตากแดด

๔. กระบวนการ/ขนั้ ตอน/วิธีการดำเนินงาน
- มวี ิทยากรท่ีมคี วามรู้ตามศาสนสถานทเ่ี ข้าไปศกึ ษา
- ศกึ ษาดว้ ยตนเองพรอ้ มรบั คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่

๕. วิธีการถา่ ยทอดองค์ความร้แู หลง่ เรยี นรูเ้ พอ่ื นำไปสกู่ ารปฏิบัติ
- สามารถศึกษาเรยี นร้ไู ด้ดว้ ยตนเอง ดว้ ยการเข้าศกึ ษาตามสถานที่ตา่ งๆ
- ศึกษาหาความรู้ไดจ้ ากเจา้ อาวาสหรือกำนันตำบลตากแดด ใหอ้ ธิบายความเป็นมา และ
ความสำคัญของโบราณสถานได้ตามเวลา

๖. ผลผลิต/ผลสัมฤทธิ/์ ประโยชน์ท่ีได้รับจากการปฏิบัติ
- ประชาชนได้รับคความรู้เก่ียวกับศาสนสถานที่อยู่ใกลต้ ัว ถงึ ความเปน็ มา และความสำคัญ ของ
สถานที่ เพอ่ื นำความรไู้ ปเผยแพรแ่ ละดำรงรักษาไว้ให้คนรนุ่ หลงั ไดศ้ ึกษาหาความรู้ต่อไป

๗. ลักษณะเครอื ข่ายและการสร้างเครือขา่ ย การมสี ่วนร่วมกับหน่วยงานทีเ่ กย่ี วข้อง
- ประชาชนหรือนกั ศึกษาให้ความสำคัญในการศกึ ษาความเปน็ มาของสถานที่ และการดำรงรกั ษา
สถานทท่ี ่ีมคี วามสำคัญให้คนรุ่นหลงั ไดศ้ ึกษาหาความรูต้ ่อไป

๘. ในอนาคต และการนำไปขยายผล (Applicable)
- บำรุงรกั ษาสถานที่ให้คงอย่ตู ่อไป
- ประชาสมั พนั ธ์ใหค้ นภายนอกไดร้ บั รู้ และมาท่องเท่ียว ศึกษาหาความรู้
- มีการจัดระบบการเขา้ ชม/ศึกษาที่เป็นขั้นตอนมากข้ึน

๙. รางวลั หรอื เกียรติคุณแหล่งเรยี นรทู้ ี่ได้รับ
-

ชื่อแหลง่ เรยี นรู้ แหล่งเรียนรอู้ ุบลราชธานี
ตำบล สะพอื
ด้าน พทุ ธศาสนา วัดบูรพา
อำเภอ ตระการพชื ผล
สาขา ศาสนาและวฒั นธรรม

๑. ผ้รู ับผิดชอบ/ผถู้ า่ ยทอดแหลง่ เรยี นรู้

ช่ือ-สกุล พระครสู ถติ บูรพาภวิ ัฒน์ ตำแหนง่ เจา้ อาวาสวัดบรู พา บา้ นสะพอื
ท่ีอยู่ หมทู่ ี่ ๖ บา้ นสะพือ ตำบลสะพือ อำเภอตระการพชื ผล จังหวัดอุบลราชธานี
เบอรโ์ ทรศัพท์ - Facebook - Line -

๒. ผปู้ ระสานงานแหลง่ เรียนรู้

ช่อื -สกุล นางสาวสุธรรมา จนั ทรส์ อน ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลสะพือ

ท่ีอยู่ ๑4๕ หมู่ ๒ บา้ นนางิ้ว ตำบลสะพือ อำเภอตระการพชื ผล จังหวดั อุบลราชธานี
เบอรโ์ ทรศพั ท์ 08๕-๖๘๒๓๖๘๙ Facebook สุธรรมา จันทร์สอน Line 0856823689

๓. องคค์ วามรแู้ หล่งเรียนรู้
1. ดา้ นการศกึ ษา วัดเปน็ สถานศกึ ษาเล่าเรยี น โดยพระภกิ ษุสงฆ์ทำหน้าที่เป็นผู้อบรมสั่งสอนให้

ความรู้ แมใ้ นปัจจุบนั พระสงฆ์ก็ยังทำหน้าที่สอนพระพุทธศาสนาในโรงเรยี น
2.ดา้ นสงั คม วดั เป็นศนู ย์กลางของชุมชน เป็นทชี่ ุมนุม เพอ่ื ทำบญุ ฟังพระธรรมเทศนา

ตลอดจนการพบปะสังสรรค์ การประกอบพิธกี รรมทางศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรม โดยมีพระสงฆ์เป็น
ตวั แทนของสถาบันพระพุทธศาสนาทีม่ ีบทบาทสำคญั ในการเปน็ ผนู้ ำทางจติ ใจของประชาชน

3.ด้านศิลปกรรม วดั เปน็ ท่ีรวมแหง่ ศลิ ปกรรมประเภทต่างๆ เช่น ประติมากรรมปูนป้นั
ศิลปกรรมแกะสลักไม้ จิตรกรรมฝาผนัง ตลอดถึงถาวรวัตถตุ ่างๆ ทศ่ี ลิ ปนิ ไทยไดถ้ า่ ยทอดไว้ทโี่ บสถ์ วหิ าร
เจดีย์ องคพ์ ระพทุ ธรปู ซึง่ สะทอ้ นให้เหน็ ถึงศรทั ธาท่ีมีตอ่ พระพุทธศาสนา

๔. กระบวนการ/ขัน้ ตอน/วิธีการดำเนนิ งาน
1. มีศาสนบุคคลซึ่งสามารถถ่ายทอดความรู้เกีย่ วกับแหล่งเรียนรูไ้ ด้ซ่ึงได้แก่ พระภิกษุ สามเณร ที่

อาศัยอยูใ่ นวดั หรอื ในชมุ ชนน้ัน

2. มีศาสนธรรม ได้แก่ หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่จะต้องยึดเป็นหลักเสมอ ในการ
บริหารจดั การวัดนัน้ ๆ

3. มีศาสนสถาน ได้แก่ ศาสนวัตถุหรือศาสนสมบัติ ได้แก่ วัด และทรัพย์สินต่างๆทั้งที่เป็น
สงั หาริมทรพั ยแ์ ละ อสงั หาริมทรพั ย์

4. มีศาสนพิธี ได้แก่ กิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวเนื่องด้วยพระพุทธศาสนาและชุมชน อันจั ดเป็น
องค์ประกอบอย่างหนงึ่ ทีท่ ำให้พระพทุ ธศาสนามีความเก่ียวพนั กบั สังคม

๕. วธิ กี ารถ่ายทอดองคค์ วามรแู้ หล่งเรียนรเู้ พ่อื นำไปสู่การปฏิบตั ิ

การนำชมุ ชน ทำกิจกรรมต่างๆทีเ่ กย่ี วข้องกับประเพณแี ละวัฒนธรรม การปฏิบตั ธิ รรมในวนั
สำคัญทางพระพุทธศาสนา หรอื วันพระ การใชว้ ัดเป็นสถานท่จี ดั กิจกรรม ประชมุ อบรม เนื่องในงานตา่ งๆ

๖. ผลผลิต/ผลสัมฤทธิ/์ ประโยชน์ท่ีได้รับจากการปฏบิ ตั ิ
ประชาชนมีทย่ี ึดเหนี่ยวทางจิตใจ มที พ่ี ึ่งทางความคิด มีการปฏบิ ัตติ ามวัฒนธรรม ประเพณีทด่ี งี าม

ที่มีมาต้งั แตโ่ บราณ เป็นสถานทพ่ี ักผ่อนหย่อนใจ

๗. ลักษณะเครอื ข่ายและการสรา้ งเครือข่าย การมีส่วนร่วมกับหนว่ ยงานท่เี กย่ี วข้อง
1. เปน็ แหลง่ เรียนรขู้ องชมุ ชน
2. เปน็ แหล่งปฏบิ ตั ิศาสนกจิ ประเพณี วัฒนธรรม ของชุมชน
๓. เปน็ สนามสอบธรรมสนามหลวงสำหรบั พระภิกษุ สามเณรในพ้ืนท่ตี ำบลใกล้เคยี ง

๘. แผนงานในอนาคต และการนำไปขยายผล (Applicable)
1. ประชาสมั พันธ์ ใหเ้ ป็นแหลง่ เรียนรู้ของชุมชน
2. ช่วยกันทำนุบำรงุ พระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป
3. ปฏิบัติตนตามวฒั นธรรม ประเพณีทด่ี ีงาม

๙.รางวัลหรอื เกียรติคณุ แหลง่ เรยี นรู้ทไี่ ด้รับ
-

แหล่งเรยี นรู้อบุ ลราชธานี
ชอ่ื แหล่งเรียนรู้ ผลติ เกลือสินเธาว์
ตำบลนาพิน อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอบุ ลราชธานี
ดา้ น การประกอบอาชพี สาขา เกษตรกรรม

๑. ผรู้ บั ผิดชอบ/ผู้ถา่ ยทอดแหล่งเรยี นรู้

ช่ือ นางระเบยี บ พ่งึ นา ที่อยูป่ ัจจุบัน 32 หมู่ 11 บ้านโนนสำราญ ตำบลนาพนิ อำเภอตระการพชื ผล
จงั หวัดอบุ ลราชธานี เบอรโ์ ทรศพั ท์ 082-1405492

๒. ผปู้ ระสานงานแหล่งเรียนรู้

ช่อื – สกลุ นางภัทราวดี พงษ์พิลา ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบลนาพิน
ทอ่ี ยู่ บ้านเลขที่ 69 หมู่ท่ี 7 ตำบลนาพิน อำเภอตระการพชื ผล จังหวดั อุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ ๐96-๑751885 Facebook Pattaravadee121118@.gmail.com
Line ๐961751885
๓. องค์ความรู้แหล่งเรยี นรู้

พื้นที่หรือที่ดินที่บ้านโนนสำราญเป็นที่ลุ่ม เนื้อดินจะเค็มมากโดยเฉพาะโครงสร้างของดิน บาง
หมู่บ้านดินเค็มจัดจนสามารถผลิตเกลือสินเธาว์ได้ ได้แก่ บ้านโนนสำราญ ตำบลนาพิน บางหมู่บ้าน
เป็นดนิ เหนยี วเหนิดเหมาะสำหรับการตีหม้อดิน ชาวบ้านท่อี ยู่อาศัยมาช้านานไดน้ ำทรัพยากรเหล่านี้มาใช้
ให้เกดิ ประโยชน์ จนกลายเป็นอาชพี อีกอาชีพหน่ึงในปจั จุบนั โดยนำหนา้ ดนิ ทเี่ ป็นส่าเกลอื เปน็ เม็ดๆสีขาว
ชมุ ชนจะนำวสั ดอุ ุปกรณ์มาขดู หนา้ ดนิ ทำเปน็ กองๆ เล็ก ปล่อยให้ดินแห้งแลว้ นำมาต้มให้เดอื ดจนกลายเป็น
เกลือสินเธาว์เพี่อไว้บริโภคและจำหน่ายต่อไป ได้มีการถ่ายทอดภูมิปัญญาให้แก่ลูกหลาน สืบทอดมา
จนถึงปัจจุบัน
๔. กระบวนการ/ขนั้ ตอน/วิธีการดำเนินงาน

1. สำรวจแหลง่ เรียนรู้ทีเ่ กี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในชุมชน ท้องถิ่น ในเขตพื้นที่
ตำบลนาพนิ

2. จัดทำเอกสารเผยแพร่และประชาสัมพันธ์แหล่งเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น Facebook
Line YouTube

3. จัดต้ังและพัฒนาแหลง่ การเรียนร้รู วมทั้งพัฒนาใหเ้ กดิ องค์ความรู้และประสานความร่วมมือกับ
บุคคล ชุมชน องค์กร หน่วยงานอื่นในการจัดตั้งและส่งเสริมพัฒนาแหล่งการเรียน รู้ที่ใช้
ร่วมกนั

4. ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการใช้แหล่งเรียนรู้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยครอบคลุมภูมิ
ปัญญาท้องถิ่น

๕. วิธกี ารถ่ายทอดองคค์ วามรูแ้ หล่งเรียนรู้เพอ่ื นำไปสู่การปฏบิ ัติ
๑. มวี ิทยากรในชุมชนทมี่ ีความร้คู วามสามารถในการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ โดยสามารถเข้าไป
เรยี นรไู้ ดใ้ นชมุ ชน
๒. มกี ารประชาสัมพันธ์เผยแพร่แหล่งเรยี นร้ทู างส่ือออนไลน์ เชน่ Facebook Line
YouTube
๓. จัดทำเปน็ แหล่งเรยี นรขู้ อง กศน.ตำบลนาพิน

๖. ผลผลติ /ผลสัมฤทธ์ิ/ประโยชน์ท่ีได้รบั จากการปฏบิ ตั ิ
๑. สร้างอาชพี และสร้างรายไดใ้ หค้ นในชุมชนเปน็ อย่างดี
๒. เปน็ แหล่งเรียนรทู้ ่สี ามารถเรียนรแู้ ละนำไปต่อยอดอาชีพได้

๗. ลกั ษณะเครือข่ายและการสรา้ งเครือข่าย การมีส่วนร่วมกับหนว่ ยงานท่เี กย่ี วข้อง
เครือข่ายแหล่งเรียนรู้ เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างแหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดการ

เชื่อมโยงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการร่วมมือกันระหว่างแหล่งเรียนรู้
ประเภทต่างๆ บุคคล ชุมชน หน่วยงานเพื่อสร้างการติดต่อสื่อสาร สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ข่าวสารและการร่วมมอื

๘. แผนงานในอนาคตและการนำไปขยายผล (Applicable)
1. พัฒนาแหล่งเรยี นร้ใู ห้ยั่งยนื เพ่ือใหช้ ุมชนเกดิ การสร้างงาน สรา้ งอาชีพและสร้างรายได้ม่ันคง
2. ประสานงานและร่วมมือกับหน่วยงานภาครฐั และเอกชนเพ่อื ขอรับการสนับสนนุ
๓. เผยแพรแ่ ละประชาสัมพันธแ์ หลง่ เรียนรู้ทางสือ่ ออนไลน์ เชน่ Facebook Line YouTube

๙. รางวัลหรือเกียรติคุณแหลง่ เรยี นร้ทู ่ีได้รบั
-

แหลง่ เรียนร้อู ุบลราชธานี

ชอื่ แหล่งเรยี นรู้ วัดเกษมสำราญ บ้านเกษม

ตำบล เกษม อำเภอ ตระการพชื ผล จงั หวัดอุบลราชธานี

ดา้ น พทุ ธศาสนา สาขา ศาสนาและวัฒนธรรม







๑. ผ้รู บั ผิดชอบ/ผู้ถ่ายทอดแหลง่ เรยี นรู้

ชื่อ-สกุล พระครเู กษมธรรมานวุ ัตร ตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอตระการพืชผล
ท่ีอยู่วัดเกษมสำราญ หมู่ที่ 9 บ้านเกษม ตำบลเกษม อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอบุ ลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ 087-255-6088 Facebook - Line 087-255-6088
๒. ผู้ประสานงานแหล่งเรยี นรู้

ชอื่ -สกุล นางสจุ ิตรา ยุทธกิจ ตำแหนง่ ครู กศน.ตำเกษม

ท่ีอยู่ 61 หมู่ บ้านเกษม ตำบลเกษม อำเภอตระการพชื ผล จงั หวัดอุบลราชธานี

เบอร์โทรศพั ท์ 086-261-7489 Facebook - Line 086-261-7489

๓. องค์ความรู้แหล่งเรยี นรู้

ความโดดเดน่ ของพิพธิ ภัณฑก์ ลางน้ำ เมอื งเกษมสมี า คอื การออกแบบตัวอาคารท่สี วยงาม และ
การจดั หมวดหมแู่ ยกแยะจำพวกส่ิงของโดยเก็บแยกกันเปน็ สัดส่วน โดยในช้นั ที่ 1 ของพพิ ธิ ภณั ฑจ์ ะเก็บ
สงิ่ ของเปน็ กลุ่ม ๆ ไดแ้ ก่ กลุ่มเครือ่ งดนตรอี สี าน เชน่ โหวด แคน ซอ ระนาด พิณ ฉ่ิง ฉาบ พงั ฮาด ฆ้อง
กลอง ฯลฯ กลุ่มเครอื่ งใช้เครื่องมอื ในการทอผ้า เชน่ ฟืม อกั หม้อสาวไหม หลา เหลน่ อวิ้ กระสวย ไนป่าน
กลุ่มเคร่ืองใช้โบราณ เช่น ตะเกยี งเจ้าพายุ ตะเกยี งโป๊ะ เตารีด ขนั หมาก แอบยา ตาช่งั ฯลฯ นอกจากน้ยี ัง
มีกลุ่มเงินเหรียญสมัยโบราณ เชน่ เงนิ ฮาง เงนิ ฮอ้ ย เงินเหรยี ญสตางค์แดง เงนิ เหรียญสิบสตางค์ ฯลฯ และ
อีกมุมหน่ึงในชัน้ ที่ 1 นี้ ยังมี หอกสามง่าม หนา้ ไม้ มีด ดาบ ปนื แก๊ปกระดกู ชา้ ง กล่องข้าว หม้อ โฮงกระ
บอง พาขา้ วไม้ กระบวย แอก คราด ไถ แงบ ลอบ ไซ กระโซ่ เปน็ ต้น

ส่วนช้ันที่ 2 ของพพิ ธิ ภัณฑ์ จะมพี ระพุทธรูปปางตา่ ง ๆ และวตั ถุมงคล หีบพระธรรม
พระพทุ ธรปู ไม้ วัตถุโบราณต้ังแตส่ มยั สุโขทัย อยธุ ยา ลพบรุ ี และภาพเกจิอาจารยด์ งั ในแตล่ ะยุค รวมทั้ง
เครอื่ งถว้ ยสงั คโลกจากสุโขทัย และภาพถา่ ยชีวประวตั ิ ปราชญ์ชาวบา้ นของหมู่บา้ นเกษมตั้งแต่อดีตจนถึง
ปจั จบุ นั มากมายหลาย การจัดแสดงจะมีแผ่นป้ายสำหรบั ใหข้ อ้ มูล บอกชื่อส่ิงของ ประวตั คิ วามเปน็ มา การ
ใชง้ าน อธบิ ายเรื่องราวและเหตุการณส์ ำคญั ในชมุ ชน และจำลองการใช้งานในบางรายการตามความ
เหมาะสม

1. ดา้ นการศกึ ษา วัดเป็นสถานศกึ ษาเลา่ เรียน โดยพระภิกษุสงฆ์ทำหนา้ ท่เี ป็นผู้อบรมส่ังสอนให้
ความรู้ แม้ในปจั จุบนั พระสงฆก์ ย็ ังทำหนา้ ที่สอนพระพทุ ธศาสนาในโรงเรยี น

2. ดา้ นสงั คม วดั เปน็ ศูนย์กลางของชุมชน เป็นที่ชุมนุม เพอื่ ทำบญุ ฟังพระธรรมเทศนา
ตลอดจนการพบปะสงั สรรค์ การประกอบพิธกี รรมทางศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรม โดยมีพระสงฆเ์ ปน็
ตัวแทนของสถาบนั พระพทุ ธศาสนาท่ีมบี ทบาทสำคัญในการเป็นผนู้ ำทางจติ ใจของประชาชน

3. ดา้ นศิลปกรรม วดั เป็นทร่ี วมแห่งศิลปกรรมประเภทตา่ งๆ เชน่ ประติมากรรมปูนปั้น
ศลิ ปกรรมแกะสลกั ไม้ จิตรกรรมฝาผนงั ตลอดถึงถาวรวัตถุต่างๆ ท่ีศิลปินไทยไดถ้ ่ายทอดไว้ทโ่ี บสถ์ วิหาร

เจดยี ์ องคพ์ ระพุทธรูป ซึง่ สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงศรทั ธาท่ีมตี อ่ พระพทุ ธศาสนา

๕. กระบวนการ/ขั้นตอน/วิธีการดำเนินงาน
1. มีศาสนบคุ คลซ่ึงสามารถถ่ายทอดความรเู้ กี่ยวกับแหล่งเรียนรไู้ ด้ ซงึ่ ไดแ้ ก่ พระครูเกษมธรรมานุ

วัตรพระภกิ ษุ สามเณร ทีอ่ าศัยอยใู่ นวดั หรอื ในชมุ ชนนัน้
2. มีศาสนธรรม ได้แก่ หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่จะต้องยึดเป็นหลักเสมอ ใน

การบริหารจดั การวดั นั้นๆ
3. มีศาสนสถาน ไดแ้ ก่ ศาสนวัตถหุ รอื ศาสนสมบัติ ได้แก่ วดั และทรัพย์สินต่างๆ

ทั้งที่เปน็ สังหาริมทรพั ยแ์ ละ อสังหารมิ ทรัพย์
4. มศี าสนพิธี ได้แก่ กจิ กรรมต่างๆทเี่ กย่ี วเนื่องด้วยพระพุทธศาสนาและชุมชน อันจัดเป็น

องค์ประกอบอย่างหนึ่งท่ที ำใหพ้ ระพทุ ธศาสนามคี วามเกี่ยวพนั กบั สังคม

๖. วธิ ีการถา่ ยทอดองค์ความรู้แหล่งเรยี นรเู้ พอื่ นำไปสู่การปฏบิ ตั ิ
การนำชมุ ชน ทำกิจกรรมตา่ งๆทีเ่ ก่ียวข้องกับประเพณแี ละวัฒนธรรม การปฏบิ ัติธรรมในวัน

สำคญั ทางพระพุทธศาสนา หรือวันพระ การใชว้ ดั เปน็ สถานท่จี ดั กิจกรรม ประชมุ อบรม เนอื่ งในงานต่างๆ

๗. ผลผลติ /ผลสัมฤทธิ์/ประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับจากการปฏบิ ัติ
ประชาชนมีทีย่ ึดเหนี่ยวทางจติ ใจ มที ่ีพ่ึงทางความคดิ มีการปฏิบัตติ ามวัฒนธรรม ประเพณที ี่ดงี าม

ที่มีมาตั้งแต่โบราณ เป็นสถานท่ีพกั ผ่อนหย่อนใจ

๘. ลักษณะเครือข่ายและการสรา้ งเครือขา่ ย การมีส่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกยี่ วข้อง
1. เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน
2. เป็นแหลง่ ปฏบิ ัติศาสนกิจ ประเพณี วัฒนธรรม ของชุมชน
3. เปน็ สถานศึกษาพทุ ธศาสนาวนั อาทิตย์ของบุตรหลานคนในชมุ ชน

๙. แผนงานในอนาคต และการนำไปขยายผล (Applicable)
1. ประชาสมั พนั ธ์ ให้เปน็ แหลง่ เรียนรู้ของชุมชน
2. ช่วยกนั ทำนุบำรงุ พระพุทธศาสนาใหค้ งอยูส่ ืบไป
3. ปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรม ประเพณีท่ีดีงาม

๑๐. รางวัลหรอื เกียรติคณุ แหล่งเรยี นรทู้ ไ่ี ด้รบั

-

แหล่งเรียนรอู้ บุ ลราชธานี

ช่อื แหล่งเรียนรู้ สวนสมุนไพรเกษตรอนิ ทรย์ บา้ นไรด่ ง

ตำบล โคกจาน อำเภอ ตระการพืชผล

ดา้ น เศรษฐกิจพอเพียง สาขา เกษตรกรรม

๑. ผู้รบั ผิดชอบ/ผ้ถู ่ายทอดแหล่งเรยี นรู้

ช่ือ-สกุล นายจารึก ทาวะรมย์
ที่อยู่ 117 หมู่ที่ 4 บ้านไรด่ ง ตำบลโคกจาน อำเภอตระการพชื ผล จังหวัดอุบลราชธานี

Facebook : จารึก ทาวะรมย์
๒. ผู้ประสานงานแหล่งเรยี นรู้

ช่ือ-สกุล นางสาวศริ พิ ร พิมพไกร ตำแหนง่ ครู กศน.โคกจาน

ทอี่ ยู่ 130 หมู่ 2 ตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพชื ผล จังหวัดอบุ ลราชธานี
เบอรโ์ ทรศพั ท์ 0801503484 Facebook : siriporn pimpakai Line : kroosiriporn

๓. องคค์ วามรแู้ หล่งเรยี นรู้
สวนสมนุ ไพรเกษตรอินทรย์ บา้ นไรด่ ง ตำบลโคกจาน อำเภอตระการพชื ผลเป็นเครือข่ายกลุ่มผู้

ปลูกสมนุ ไพรของ ศนู ย์ส่งเสริมสุขภาพแผนไทยและการแพทยท์ างเลือก โรงพยาบาลตระการพืชผล เกดิ
จากการประสานงานขององค์การบรหิ ารส่วนตำบลโคกจาน โดยนายสุริยา บญุ ราศรี ตำแหน่งผู้
นักวชิ าการเกษตร มีเกษตรกรสนใจจำนวนมาก แต่เข้าเกณฑ์การประเมินคือนายจารึก ทาวะรมย์ เปน็
ผูส้ นใจในการปลกู สมุนไพรเป็นทุนเดิมอย่แู ล้วและไดเ้ ลง็ เห็นความสำคญั ของการผลิตพชื สมุนไพรทใี่ ช้
รักษาชีวติ มนษุ ย์ด้วยกันเป็นการสร้างให้มสี ุขภาพดีทัง้ กินใชแ้ ละคนปลกู โดยนายจารกึ ทาวะรมย์ ร่วมกบั
สมาชิกในครอบครัวเช่น ปลูกขมน้ิ ชนั ไพล เป็นตน้ และได้มีการขยายเครอื ข่ายกลุ่มปลกู สมนุ ไพรไปยัง
หมู่บ้านอ่นื ท่มี ีความสนใจ ภายใต้การตรวจประเมนิ มาตรฐานการปลกู และการเกบ็ เกี่ยวแบบอนิ ทรยี ์ ของ
ศูนย์ส่งเสรมิ สขุ ภาพแผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลตระการพืชผล

๔. กระบวนการ/ข้นั ตอน/วิธีการดำเนนิ งาน
๑. มีวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถในการใหค้ ำแนะนำ
๒. ความรูเ้ ก่ียวกับเศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎใี หม่
๓. ความรูใ้ นการปลกู พืชปลอดสารพษิ เกษตรธรรมชาติ

๕. วธิ กี ารถ่ายทอดองคค์ วามรูแ้ หล่งเรยี นร้เู พอ่ื นำไปสูก่ ารปฏิบัติ
๑. การทำเกษตรทปี่ ลอดภยั นำไปใชใ้ นการประกอบอาชีพได้
๒. การฝึกประสบการณใ์ นการทำเกษตรกรรมเพ่ือนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั ได้จรงิ
๓. การฝึกอาชีพในชุมชนจากการทำเกษตรกรรม เชน่ การปลูกสมนุ ไพร

๖. ผลผลิต/ผลสัมฤทธ/์ิ ประโยชนท์ ีไ่ ดร้ ับจากการปฏิบัติ
ประชาชนในหมู่บา้ นเหน็ ความสำคัญของหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและน้อมนำหลัก

ปรชั ญา เศรษฐกจิ พอเพียงไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ทำให้เพิม่ รายจา่ ยลดรายไดข้ องตนเองได้

๗. ลกั ษณะเครอื ขา่ ยและการสร้างเครือข่าย การมสี ่วนร่วมกับหนว่ ยงานท่ีเกยี่ วข้อง
มีการอบรมการในเร่ืองของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงจาก กศน.อำเภอตระกาพชื ผล และ

พัฒนา น้อมนำหลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียงไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันทำให้เพิ่มรายจ่ายลดรายได้ของ
ตนเอง
๘. แผนงานในอนาคต และการนำไปขยายผล (Applicable)

1. เพอื่ เพิม่ รายได้ใหก้ ับคนในท้องถ่นิ
2. เพอื่ ถ่ายทอดประสบการณก์ ารปลูกสมุนไพร
3. ผูม้ าเรยี นรู้ไดแ้ นวทางการดำเนินงาน เพือ่ นำไปพัฒนาขยายผลในพืน้ ท่ีของตนเอง

๙. รางวลั หรอื เกียรติคณุ แหล่งเรียนรทู้ ่ีได้รบั
- เกษตรกรดเี ดน่ สาขา การผลิตพชื อินทรีย์ดีเดน่ ประจำปี 2559
- ผ่านการพัฒนาตนเองตามระบบมาตรฐานงานชมุ ชน(มชช.) ประจำปี 2556
- เป็นสมาชิกผู้ปลูกวัตถุดิบสมุนไพรที่มีผลการดำเนินงานปลูก ขมิ้นชัน ระดับ “ดีเด่น” ประจำปี
2555
- เป็นสมาชิกผู้ปลูกวัตถุดิบสมุนไพรที่มีผลการดำเนินงานปลูก ขมิ้นชัน ระดับ “ดีเด่น” ประจำปี
2556
- เป็นสมาชิกผูป้ ลกู วตั ถุดิบสมนุ ไพรท่ีมผี ลการดำเนนิ งานปลูก ไพล ระดบั “ดีเดน่ ” ประจำปี 2556
- เป็นสมาชิกผู้ปลูกวัตถุดิบสมุนไพรที่มีผลการดำเนินงานปลูก ขมิ้นชัน ระดับ “ดีเด่น” ประจำปี
2557
- เป็นสมาชิกผู้ปลูกวัตถุดิบสมุนไพรที่มีผลการดำเนินงานปลูก ขมิ้นชัน ระดับ “ดีเด่น” ประจำปี
2558

แหล่งเรยี นร้อู ุบลราชธานี
ชอ่ื แหล่งเรียนร.ู้ ...วัดราษฎร์ประดิษฐ์
ตำบลกระเดยี น อำเภอตระการพืชผล จงั หวดั อุบลราชธานี
ด้านปชู นียสถานและวดั วาอาราม

๑. ผู้รับผดิ ชอบ/ผู้ถ่ายทอดแหล่งเรียนรู้

ชือ่ -สกุล นางมานุณี วิลาวรรณ ตำแหนง่ ..รองนายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นท้องถน่ิ ........อายุ..........51..........
ปี
ทอี่ ยู่ 5 หมู่ 1 บา้ นกระเดียน ตำบลกระเดียน อำเภอตระการพืชผล จังหวดั อบุ ลราชธาน.ี
เบอร์โทรศพั ท.์ ......0879578835 .facebook...มานณุ ี วลิ าวรรณ....Line........ 0879578835
๒. ผ้ปู ระสานงานแหลง่ เรยี นรู้

ชอื่ -สกุล..นางพรรณี แถมวัน .ตำแหนง่ ..ครูกศน.ตำบล.อายุ.......59.........ปี
ทีอ่ ย่.ู .....175 หมู่1 บา้ นกระเดียน ตำบลกระเดยี น อำเภอตระการพืชผล จงั หวัดอุบลราชธานี.
เบอร์โทรศัพท.์ ...........0883675390 .facebook.......พรรณี แถมวัน.Line.......0883675390.

๓. องค์ความรู้แหล่งเรียนรู้
วดั ราษฏรป์ ระดิษฐ์ มี สิม (อุโบสถ) หอแจก (ศาลาการเปรียญ) และกฏุ ิลายวดั ราษฏรป์ ระดษิ ฐ์

๔. กระบวนการ/ขั้นตอน/วธิ ีดำเนนิ งาน
- ประชมุ /วางแผน
- มอบหมายหน้าที่ดูแลรักษาและรบั ผดิ ชอบ
- มีนักเลา่ เร่อื งประจำจดุ แหล่งเรยี นรู้
- ติดตามผลงาน/ถา้ ไม่ดนี ำมาแกไ้ ขและปรับปรงุ

๕. วธิ ีการถ่ายทอดองค์ความรู้แหล่งเรียนร้เู พ่อื นำสู่การปฏิบตั ิ
- การประชาสัมพันธท์ ุกวิถีทางเชน่ แผน่ พบั ทางไลน์ ทางเฟสบ๊คุ เป็นตน้

๖. ผลผลิต/ผลสัมฤทธ/ิ์ ประโยชน์ท่ไี ดร้ บั จากการปฏบิ ัติ
- เปน็ แหล่งเรียนรูช้ ุมชนท่องเทีย่ วบ้านกระเดยี น OTOP นวัตวถิ ี

๗. ลักษณะเครือขา่ ยและการสร้างเครอื ข่าย การมสี ่วนร่วมกับหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้อง
- ประสานงานทุกเครอื ขา่ ย

๘. แผนงานในอนาคต และการนำไปขยายผล (Applicable)
- เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

๙. รางวัลหรือเกียรติคุณแหลง่ เรียนรทู้ ีไ่ ด้รบั

สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมาร พระราชทานรางวัลอนรุ ักษศ์ ลิ ปะสถาปตั ยกรรมดีเดน่
ประจำปี 2557 ประเภท ปูชนียสถานและวัดวาอาราม สิม (อุโบสถ) หอแจก (ศาลาการเปรียญ) และกฏุ ิ
ลายวัดราษฏร์ประดิษฐ์ จังหวดั อบุ ลราชธานี

แหลง่ เรยี นรู้อบุ ลราชธานี
ช่ือแหล่งเรยี นรู้ ศูนยเ์ รยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพยี งบา้ นดอนใหญ่

ตำบล ขุหลุ อำเภอ ตระการพชื ผล
ด้าน เศรษฐกิจพอเพียง สาขา เกษตรทฤษฏใี หม่

๑. ผรู้ ับผิดชอบ/ผูถ้ ่ายทอดแหลง่ เรยี นรู้

ชอ่ื -สกุล นายบุญมี อ่อนลา ตำแหน่ง ผูใ้ หญบ่ า้ นหม่ทู ี่ 7 บ้านดอนใหญ่

ทอ่ี ยู่ บ้านเลขที่ ๗๓ หมู่ที่ ๗ ตำบลขหุ ลุ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี รหสั ไปรษณยี ์

๓๔๑๓๐เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๖ – ๒๔๒๗๔๒๖ Facebook -

Line ผใู้ หญ่บ้านหมทู่ ่ี 7 บ้านดอนใหญ่

๒. ผู้ประสานงานแหลง่ เรียนรู้

ชอ่ื -สกุล นายจีรสทิ ธิ แสงทอง ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบลขุหลุ

ท่ีอยู่ ๑๒๖ หมทู่ ี่ ๕ ตำบลไหลท่ งุ่ อำเภอตระการพชื ผล จังหวัดอบุ ลราชธานี

เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๘๔ – ๘๓๑๑๙๘๙ Facebook กศน.ตำบลขหุ ลุ

Line กศน.ตำบลขหุ ลุ

๓. องคค์ วามรแู้ หล่งเรยี นรู้
เป็นศนู ยเ์ รียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ มกี ารออมทรัพยด์ ้วยวธิ กี ารถือหุ้น

การฝากเงินเฉลมิ พระเกยี รติ

๔. กระบวนการ/ขัน้ ตอน/วิธีการดำเนนิ งาน
๑) มีวทิ ยากรทมี่ ีความรูค้ วามสามารถในการให้คำแนะนำ
๒) ความร้เู กยี่ วกับเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎีใหม่
๓) ความรูใ้ นการปลกู พืชปลอดสารพิษเกษตรธรรมชาติ

๕. วธิ ีการถา่ ยทอดองค์ความรแู้ หล่งเรียนรเู้ พื่อนำไปสู่การปฏบิ ัติ
๑) การทำเกษตรท่ีปลอดภยั นำไปใช้ในการประกอบอาชพี ได้
๒) การฝกึ ประสบการณใ์ นการทำเกษตรกรรมเพอื่ นำไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวันไดจ้ รงิ
๓) การฝกึ อาชีพในชมุ ชนจากการทำเกษตรกรรม เชน่ การปลูกผกั อินทรีย์ เพือ่ บริโภคและจำหนา่ ย

๖. ผลผลิต/ผลสัมฤทธ/์ิ ประโยชนท์ ่ีได้รบั จากการปฏบิ ัติ
พอประมาณ : รายจา่ ยสมดุลกบั รายรับ
มีเหตมุ ีผล : ใชจ้ า่ ยอย่างมีเหตผุ ล / มีความจำเปน็ / ไมใ่ ช้สงิ่ ของเกินฐานะ / ใช้ของอยา่ งคุ้มคา่ ประหยัด
มีภูมคิ ุม้ กนั : มีเงนิ ออม / แบ่งปนั ผู้อนื่ / ทำบญุ
ความรคู้ ูค่ ุณธรรม : ประกอบอาชีพที่สุจรติ ด้วยความขยันหมัน่ เพียร ใช้สติปัญญาในการตดั สินใจและ
ดำเนินการต่างๆ เพอ่ื ใหเ้ ทา่ ทันต่อการเปลีย่ นแปลง

๗. ลักษณะเครอื ข่ายและการสรา้ งเครอื ข่าย การมีส่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกยี่ วข้อง
๑. เปน็ แหลง่ เรียนร้ขู องชมุ ชน
๒. เป็นวทิ ยากรเพ่อื บรรยายใหค้ วามร้เู ก่ียวกับการทำเกษตร การนอ้ มนำแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพียงมาใชใ้ นชีวิตประจำวัน

๘. แผนงานในอนาคต และการนำไปขยายผล (Applicable)
๑. วิเคราะห์ศกั ยภาพของชุมชน และนำแนวคิดปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาเปน็ พื้นฐาน
๒. วิเคราะห์ความเชื่อโยงและเครือข่ายของชุมชนทม่ี ี
๓. มีความพร้อมในองค์ประกอบตา่ งๆ เชน่ ปจั จัยการผลติ ผผู้ ลติ ผู้บริโภค
๔. สรา้ งเครือข่ายกจิ กรรมเศรษฐกิจแกช่ ุมชนในรูปแบบ เครือข่ายชุมชน และเครือข่ายนอกชุมชน ทีจ่ ะ
เก้ือหนนุ การดำเนนิ การกจิ กรรมตา่ งๆ ในภาพรวมของชุมชน
๕. ตอ้ งมีพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนบนพื้นฐานความพอเพียง
๖ มีการทำความเข้าใจกับเครอื ข่ายอย่างชัดเจน เพ่ือใหก้ ารดำเนินกิจกรรมเครอื ข่ายเป็นไปอยา่ งมี
ประสทิ ธิภาพ

๙. รางวัลหรือเกียรติคณุ แหล่งเรียนรู้ทไี่ ด้รับ
เข้ารบั การประเมินผลการดำเนนิ งานตามโครงการ ๑ อำเภอ ๑ อาชีพ ศูนย์เรียนรโู้ ครงการอนั เนอื่ งมาจาก
พระราชดำริต้นแบบ ประจำปี 2564
( มี 7 อำเภอ เขา้ ประกวด ผลยังไม่ออก )

แหลง่ เรียนรอู้ ุบลราชธานี
ชอ่ื แหล่งเรียนรู้ ขา้ วเมา่ ชมุ ชนบา้ นคำไหล
ตำบลคำเจรญิ อำเภอตระการพชื ผล จงั หวัดอุบลราชธานี
ดา้ น การประกอบอาชพี สาขา เกษตรกรรม

๑. ผรู้ ับผิดชอบ/ผู้ถ่ายทอดแหลง่ เรยี นรู้

ชอื่ – สกุล นางทองใบ ห้อแก้ว ตำแหน่ง นักศึกษา กศน.ตำบลคำเจรญิ อำเภอตระการพืชผล
ทอ่ี ยู่ ๑๐ หมู่ท่ี ๖ บา้ นคำไหล ตำบลคำเจริญ อำเภอตระการพชื ผล จงั หวดั อุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๒-๒๐๒๙๖๐๒ Facebook - Line 0822029602

๒. ผ้ปู ระสานงานแหลง่ เรยี นรู้

ช่อื – สกลุ นางสาวประภาภรณ์ เชอ้ื เวียง ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลคำเจริญ
ท่อี ยู่ บ้านเลขท่ี ๕ หมู่ท่ี ๘ ตำบลกระเดยี น อำเภอตระการพืชผล จังหวดั อุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๒-๑๔๖๗๘๖๐ Facebook Prapaporn๒๕๒๕Chuawiang@gmail.com
Line ๐๘๒๑๔๖๗๘๖๐

๓. องค์ความรแู้ หล่งเรยี นรู้
วถิ ชี ีวิตทอ้ งถ่ินอสี านล้วนผูกโยงอยกู่ ับข้าวตลอดทั้งปี เร่ิมต้งั แต่ช่วงตน้ ปีภายหลังฤดูกาลเก็บเก่ียว

ชาวนาอีสานก็จะเริ่มเตรียมดิน หว่านกล้าเพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูฝน เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือน
พฤษภาคมถึงมถิ ุนายนซง่ึ เปน็ ฤดูฝน ชาวนาอสี านก็เรม่ิ ไถนาและปกั ดำ ซง่ึ ขา้ วทชี่ าวนาอีสานปลูกก็มีข้าว
เหนียวและข้าวเจ้า ซึ่งข้าวแต่ละประเภทจะมีหลายสายพันธุ์ทำให้มีช่วงเวลาในการเก็บเกี่ยวที่ต่างกัน
เช่น ช่วงเดือนตุลาคมชาวนาอีสานจะเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวเจ้าพันธุ์ กข.15 หรือที่ชาวนาเรียกว่า ข้าว
เจ้าดอ เมื่อถึงช่วงเดือนพฤศจิกายนชาวนาอีสานจึงจะเก็บเกี่ยวข้าวเหนียวพันธุ์ กข.6 ซึ่งเป็นพันธุ์ท่ี
ชาวนานยิ มปลกู เพอื่ รับประทาน หลงั จากนัน้ ชาวนาอสี านกจ็ ะเรม่ิ เตรียมตัวเพอื่ เร่มิ ทำนาในฤดกู าลถัดไป

สำหรับข้าวที่ชาวนานำมาทำข้าวเม่า คือ ข้าวเหนียวที่ไม่ใช่พันธุ์ กข.6 เพราะหากใช้ข้าว
เหนยี วพนั ธ์ุนีแ้ ล้ว จะทำใหข้ า้ วเมา่ เละ ไมเ่ หมาะกบั การรับประทาน ชาวนาอสี านจงึ ใช้ข้าวเหนียวในสาย
พันธุ์อื่นๆ เช่น กข.8 กข.10 เตี้ยลาว เหลืองมา ดอญวน เป็นต้น ซึ่งชาวนานิยมเรียกรวมๆกันว่าข้าว
เหนียวดอ ซึ่งชาวนาจะเริ่มทำข้าวเม่าในช่วงที่ข้าวยังเป็นน้ำนม ซ่ึงกรรมวิธีในการผลิตข้าวเม่ามีนัยยะ
ทางภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ และวิถชี ีวติ อยา่ งลุ่มลึกเปน็ อนั มาก

๔. กระบวนการ/ขน้ั ตอน/วิธีการดำเนินงาน
-สำรวจแหล่งเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในชุมชน ท้องถิ่น ในเขตพื้นท่ี
ตำบลคำเจรญิ
-จัดทำเอกสารเผยแพร่และประชาสัมพันธ์แหล่งเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น Facebook Line
YouTube
-จัดตั้งและพัฒนาแหล่งการเรียนรู้รวมทั้งพัฒนาให้เกิดองค์ความรู้และประสานความร่วมมือกับ
บคุ คล ชมุ ชน องค์กร หน่วยงานอ่ืนในการจัดตงั้ และสง่ เสริมพัฒนาแหล่งการเรียนรทู้ ่ใี ชร้ ่วมกนั
-ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการใช้แหล่งเรียนรู้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยครอบคลุมภมู ิปัญญา
ทอ้ งถิ่น

๕. วธิ ีการถา่ ยทอดองคค์ วามร้แู หลง่ เรยี นรู้เพ่ือนำไปสูก่ ารปฏิบตั ิ
มีวิทยากรในชมุ ชนที่มคี วามรคู้ วามสามารถในการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ โดยสามารถเข้าไปเรยี นรู้
ไดใ้ นชมุ ชน
มกี ารประชาสัมพันธเ์ ผยแพร่แหลง่ เรียนรทู้ างส่ือออนไลน์ เชน่ Facebook Line YouTube
จดั ทำเปน็ แหลง่ เรียนรู้ของ กศน.ตำบลคำเจริญ

๖. ผลผลิต/ผลสัมฤทธิ/์ ประโยชนท์ ีไ่ ด้รับจากการปฏิบตั ิ
สรา้ งอาชีพและสร้างรายได้ให้คนในชุมชนเปน็ อย่างดี
เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ทส่ี ามารถเรียนรู้และนำไปต่อยอดอาชีพได้

๗. ลักษณะเครอื ขา่ ยและการสร้างเครอื ขา่ ย การมีส่วนรว่ มกบั หนว่ ยงานที่เก่ียวข้อง
เครือข่ายแหล่งเรียนรู้ เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างแหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดการ

เชื่อมโยงการใช้ทรพั ยากรอย่างคุ้มคา่ และเกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการร่วมมือกันระหว่างแหล่งเรียนรู้
ประเภทตา่ ง ๆ บุคคล ชมุ ชน หนว่ ยงานเพื่อสรา้ งการตดิ ตอ่ สือ่ สาร สนบั สนุนให้มีการแลกเปล่ยี นขอ้ มูล
ข่าวสาร และการร่วมมอื

๘. แผนงานในอนาคต และการนำไปขยายผล (Applicable)
1. พฒั นาแหลง่ เรยี นร้ใู ห้ยั่งยืนเพ่อื ใหช้ ุมชนเกิดการสรา้ งงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้ม่ันคง
2. ประสานงานและร่วมมือกับหนว่ ยงานภาครฐั และเอกชนเพือ่ ขอรับการสนบั สนุน
๓. เผยแพร่และประชาสัมพันธ์แหล่งเรียนรู้ทางส่ือออนไลน์ เชน่ Facebook Line YouTube

๙. รางวลั หรือเกียรติคณุ แหล่งเรียนรู้ที่ได้รบั
-

แหล่งเรยี นรู้อบุ ลราชธานี

ชื่อแหล่งเรยี นรู้ การปัน้ อฐิ

ตำบล ตระการ อำเภอ ตระการพชื ผล

ดา้ น นวัตกรรม สาขา หตั ถกรรม

๑. ผ้รู ับผดิ ชอบ/ผู้ถา่ ยทอดแหลง่ เรียนรู้

ชื่อ-สกุล นายถนอม สิงสีทา ตำแหนง่ ผบู้ รหิ ารจดั การ
ท่อี ยู่ หมทู่ ่ี ๒ บา้ นเอน็ อ้า ตำบลตระการ อำเภอตระการพืชผล จังหวดั อบุ ลราชธานี
เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๙๓-๐๗๖๙๕๕๗

๒. ผ้ปู ระสานงานแหล่งเรียนรู้

ชอื่ -สกุล นายธราธปิ จนั ทรห์ อม ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลตระการ

ทอ่ี ยู่ ๑๙๓ หมู่ 8 บา้ นนาเอือด ตำบลนาคำ อำเภอศรีเมอื งใหม่ จังหวดั อบุ ลราชธานี

เบอรโ์ ทรศัพท์ 0๙๔-๕๓๙๘๓๙๕ Facebook Tharathip janhom Line อัฑฒ์ ธราธิป

๓. องค์ความรู้แหล่งเรยี นรู้
1. ด้านการศกึ ษา เป็นวสั ดุทผี่ ลติ มาจากการนำดนิ เหนียวมาเผาเพื่อให้ได้วัสดุท่ีคงรปู มคี วาม

แข็งแรง การใช้อิฐมอญในงานก่อสรา้ งมีมากหลากหลายจึงมี คนร้จู กั และใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายในประเทศ
ไทย เนือ่ งจากเชอ่ื มัน่ ในความคงทน และผลติ ไดใ้ นประเทศจากแรงงานทอ้ งถ่ิน คณุ สมบตั ขิ องอิฐมอญจะ
ยอมให้ความร้อนถ่าย-เขา้ ออกได้ง่ายเกบ็ ความร้อนในตัวเองไดน้ าน เนื่องจากอิฐมอญ มคี วามจุความรอ้ น
สงู สามารถเกบ็ กกั ความร้อนไวใ้ นเน่อื งมาก โดยที่คอ่ ยๆถ่ายเทจากภายนอก จึงเหมาะแก่การใชง้ านใน
ชว่ งเวลากลางวนั

2. ด้านสงั คม ปจั จบุ ันเรามักจะเห็นทพ่ี กั อาศยั ผุดข้ึนมากมายในเมืองหลวงเปน็ ดอกเห็ด ไม่ว่าจะ
เปน็ บา้ น หรือคอนโด ทีถ่ กู สรา้ งมาเพ่ือตอบสนองความสะดวกสบายของคนร่นุ ใหม่ เชน่ เดยี วกับบา้ นตาม
นอกเมืองหรอื ต่างจงั หวัดทใี่ ช้สงิ่ ปลูกสร้างสมยั ใหม่ ทำใหเ้ ราไมค่ ่อยไดเ้ หน็ สงิ่ ปลกู สรา้ งท่ีเกิดขึน้ จาก
ธรรมชาติ หรือที่เราจะกลา่ วถึงคือบ้านที่เกดิ ขนึ้ จากภูมิปญั ญาอยา่ ง “บ้านดิน” ทเ่ี ร่มิ ลดน้อยถอยลงไป
แมว้ ่าบา้ นดนิ น้นั จะมปี ระโยชน์มากมายอยา่ งท่ีใครหลายคนคาดไม่ถึง และประโยชน์ของบา้ นดินนัน้ มี
อะไรบ้าง บทความนี้จะมาเปิดประตูดคู ุณประโยชน์ที่คุณอาจมองขา้ มกนั ไป

3. ด้านหตั ถกรรม หตั ถกรรมมบี ทบาทต่อการดำรงชีวิตประจำวนั ของมนุษย์ มนุษย์จึงรจู้ ักการ
ผลติ งานหตั ถกรรมเป็นเครอ่ื งมือเคร่อื งใชป้ ระเภทตา่ งๆเพื่อใช้ในชีวติ ประจำวนั และค่อยปรับปรุงให้
สวยงามขึ้นเพ่ือตอบสนองทางด้านจติ ใจหตั ถกรรมเปน็ งานฝมี ือของมนษุ ย์ท่เี กดิ จากการนำเอาวัสดทุ ีอ่ ย่ใู น
ทอ้ งถิ่นมาประดิษฐ์เป็นของใชต้ ่างๆเพ่อื ประโยชนใ์ ช้สอยในชีวิตประจำวนั
๔. กระบวนการ/ขั้นตอน/วธิ ีการดำเนินงาน

1. ขนั้ ตอนเตรยี มดิน
ก่อนนำดินเหนียวไปขึ้นรูป จะต้องนำมาหมักไว้ในบ่อหมัก ผสมกับวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น น้ำ แกลบ
แลว้ แตช่ นิดของอิฐแดงทีต่ ้องการผลิต โรยข้เี ถ้าแกลบทับด้านบนเพ่ือเปน็ การรักษาความชื้นของดินเหนียว
ไว้ หมักทิ้งไว้ 1 – 2 วัน หรอื จนกวา่ ดนิ เหนยี วจะมคี ณุ ภาพเหมาะสมที่จะนำไปขนึ้ รูปได้

2. ขัน้ ตอนรีดขึ้นรปู

ในสมัยก่อนจะใช้แรงงานคนย่ำเท้า คลุกเคล้าดินเหนียวกับส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากัน
จนกว่าดินเหนียวจะมีเนื้อเนียนดี แล้วนำมาอัดลงในแม่พิมพ์ไม้ ได้ครั้งละ 5 ก้อน ซึ่งใช้เวลานานมาก
ปจั จุบันมเี ทคโนโลยีมาช่วยยน่ ระยะเวลา ซึ่งทำให้การรีดอฐิ มีความสะดวก รวดเรว็ และมมี าตรฐานมากขึ้น
เกือบ 20 เท่า แต่ในการผลิตอิฐแดงโบราณ หรืออิฐแดงตันมือ อาจใช้การผลิตแบบเก่าอยู่บ้าง เพื่อให้คง
ความโบราณ และไดผ้ วิ สัมผัสแบบเฉพาะตัว

3. ขัน้ ตอนตากดนิ
ขั้นตอนนี้เป็นการเตรียมก้อนดินเหนียวก่อนนำไปเผา เพื่อไล่ความชื้น และให้ก้อนอิฐดิบ

แข็งตัว โดยจะนำไปผึ่งลมในที่ร่ม 2-3 วัน หลังจากทำการรีดขึ้นรูป ห้ามนำไปตากแดดทันที เพราะอาจ
ทำให้กอ้ นอฐิ ดบิ เกดิ การแตกร้าว เมื่อเริ่มแขง็ ตัวจงึ ค่อยนำไปตากแดดต่ออกี ประมาณ 3-4 วนั หรือจนกว่า
อิฐดิบจะมีคุณภาพพร้อมเผา ทั้งนี้มีหลายปัจจัยทำให้ก้อนอิฐดิบแห้งช้า เช่น ฝนตก หรือมีแสงแดดไม่
เพยี งพอ

4. ขั้นตอนเผาอฐิ แดง
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย และถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ใช้เวลานาน ใช้ความ

ละเอยี ดออ่ น พถิ ีพถิ นั และเสยี คา่ ใช้จ่ายมากที่สดุ เพราะต้องใชแ้ กลบท่ีเป็นเชื้อเพลิงในการเผาประมาณ 2
คัน รถสบิ ลอ้ ซงึ่ ปจั จุบนั แกลบน้นั มีราคาตนั ละเกือบ 2,000 บาท จากเดมิ เมื่อ 20 ปกี อ่ น มรี าคาเพียงตัน
ละ 100 – 200 บาท ผู้ผลิตจึงนิยมเก็บอิฐดิบรอไว้เพื่อที่จะเผาพร้อมๆ กัน เพื่อเป็นการลดต้นทุน อิฐท่ี
นำเข้าเตาเผาแต่ละครั้ง จะอยู่ที่ประมาณ 70,000 – 100,000 ก้อน โดยวางเรียงซ้อนกันเอาไว้ใน
ลักษณะสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือผืนผ้า พร้อมเผาได้ทันที แล้วนำแผ่นเหล็ก หรือแผ่นสังกะสีมาตั้งล้อมรอบอิฐ
ดิบที่เรียงกันไว้ จากนั้นตักแกลบใส่จนคลุมอิฐดิบทั้งหมด แล้วจึงจุดไฟเผา โดยมีฟืนเป็นเชื้อเพลิงร่วม ใช้
เวลาประมาณ 7-15 วนั ทอี่ ิฐดิบจะสุกกลายเปน็ อฐิ แดง ที่พรอ้ มใชง้ าน

๕. วิธกี ารถา่ ยทอดองคค์ วามรู้แหล่งเรยี นรู้เพ่ือนำไปสู่การปฏิบตั ิ
กระบวนการเรยี นรกู้ ารถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นบ้านเอน็ อา้ หมู่ ๒ ตำบลตระการ อำเภอตระการ

พืชผล จังหวัดอบุ ลราชธานี รวมทั้งบคุ คลที่มอี าชีพปัน้ เครอื่ งป้ันดินเผา แล้วเกดิ ความสนใจจงึ เกดิ การ
เรยี นรู้และจดจำ
จากนนั้ จงึ นำมาลงมือปฏบิ ัติดว้ ยตนเองจนสามารถปัน้ ได้ซ่งึ ในระหว่างขน้ั ตอนของการจดจำแนะนำมา
ปฏบิ ัติ
๖. ผลผลิต/ผลสัมฤทธ/ิ์ ประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจากการปฏบิ ัติ

1. ทำให้ทราบถงึ ขนั้ ตอนการท างานผนงั ก่ออิฐมอญ-ฉาบปูนและผนงั ก่ออิฐบล็อกประสาน
2. ทำให้ทราบถงึ มาตรฐานการทดสอบความแข็งแรงทนทานต่อการใชง้ าน ระยะเวลา และ
ตน้ ทุน ของผนังกอ่ อิฐมอญ-ฉาบปนู กับ ผนงั อฐิ บล็อกประสาน
3. ทำให้ทราบถงึ ความเหมาะสมในการใช้ผนงั อฐิ บล็อกประสานแทนการใชง้ านผนงั ก่ออิฐ
มอญ-ฉาบปูน
๗. ลกั ษณะเครอื ข่ายและการสรา้ งเครือขา่ ย การมีส่วนร่วมกับหน่วยงานท่เี ก่ยี วข้อง
- เป็นแหลง่ เรยี นรู้ของชุมชน
๘. แผนงานในอนาคต และการนำไปขยายผล (Applicable)
-. ประชาสัมพนั ธ์ ให้เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ของชุมชน
๙. รางวัลหรอื เกียรติคุณแหล่งเรียนร้ทู ี่ได้รบั

-

แหลง่ เรียนร้อู ุบลราชธานี

ชอื่ แหล่งเรียนรู้ วัดปจั ฉมิ ณีวัน อำเภอตระการพชื ผล จังหวัดอุบลราชธานี

ตำบล นาสะไม อำเภอ ตระการพชื ผล

ดา้ น วัฒนธรรม สาขา ศิลปวัฒนธรรม

๑. ผ้รู บั ผิดชอบ/ผู้ถา่ ยทอดแหลง่ เรียนรู้

ชื่อ-สกุล พระครูภัทรชัยคณุ (ศลิ ปชัย สนตฺ จติ โฺ ต จต.ชท.) เจ้าอาวาสวดั ปจั ฉิมณีวัน
ทอี่ ยู่ บา้ นนาไฮ หมูท่ ่ี 2 ตำบลนาสะไม อำเภอตระการพชื ผล จงั หวัดอุบลราชธานี
๒. ผ้ปู ระสานงานแหลง่ เรยี นรู้

ช่ือ-สกุล นางสาวจริ าพร พนั ธุวรรณ ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล

ทอี่ ยู่ 58 หมู่ 7 ตำบลเจียด อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี

เบอร์โทรศพั ท์ 094-5360606 Facebook : - Line : nanny-1112

๓. องคค์ วามรู้แหล่งเรยี นรู้

วดั ปัจฉิมณีวนั หรือวัดบา้ นนาไฮ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอบุ ลราชธานี ภายในวัดจะมีอุโบสถ
สมิ เกา่ แก่ 1 หลัง อายกุ ว่า 100 ปี ลกั ษณะศิลปะแบบชา่ งญวน ภายในมภี าพจิตรกรรมฝาผนงั เกยี่ วกบั
พทุ ธประวตั ิ และประดิษฐานพระประธานซ่ึงเป็นพระพุทธรปู ปางสะดุ้งมารท่ีชาวบา้ นให้ความเคารพ
ศรัทธา ปัจจุบนั มกี ารบูรณะโดยการซ่อมแซมส่วนท่ีชำรดุ เชน่ ใบระกา และทาสีทองท้ังหลัง

วดั ปัจฉมิ ณีวนั มีศาสนาคารเก่าแก่คือ อโุ บสถสิมอายกุ ว่า 100 ปี เปน็ อุโบสถสิมก่ออฐิ ถือปนู
ขนาดกวา้ งประมาณ 3 เมตร ยาวประมาณ 9 เมตร หลังคาทรงจัว่ แต่ก่อนมงุ ด้วยแปน้ ไม้ ปจั จุบนั
เปลย่ี นเป็นสงั กะสี มีชอ่ ฟา้ ใบระกา หางหงส์ มีประตู 1 ช่อง หน้าตา่ ง 4 ช่อง ประตไู มว้ าดลวดลายไทย
คลา้ ยลายประจำยาม เหนือซมุ้ ประตูวาดรปู ยักษ์ ราวบันไดทางขน้ึ ป้นั เป็นรปู มงั กร หนา้ บันมปี นู ปน้ั
ลวดลายมงั กรและไกฟ่ ้า ประดับด้วยงานปนู ปั้นลักษณะศิลปะแบบช่างญวน ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง
เกย่ี วกบั พทุ ธประวตั ิ และเป็นทป่ี ระดษิ ฐานพระประธานซง่ึ เป็นพระพุทธรูปเก่าแกป่ างสะด้งุ มารทช่ี าวบ้าน

เคารพศรัทธา ปัจจุบันมีการบรู ณะโดยการซอ่ มแซมสว่ นท่ชี ำรุด เช่น ใบระกา และทาสีทองทั้งหลงั ตั้งอยู่
อย่างสวยงามโดดเด่นอยกู่ ลางวดั ดา้ นหลงั เปน็ ท่ตี ัง้ ของธาตอุ ดตี เจ้าอาวาส คือ หลวงปู่บุญ ช่วยญาติ

แหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมเป็นการสง่ เสริมการเรยี นรู้ตลอดชีวิต และมคี วามสนใจทจ่ี ะเรียนไม่เกิด
ความเบ่ือหน่าย ทำให้ผ้เู รียนเกดิ การเรยี นรู้จากการไดค้ ดิ เองปฏบิ ตั ิเอง และสร้างความรูด้ ้วยตนเองและ
สร้างความรู้ด้วยตนเอง ขณะเดียวกนั กส็ ามารถเข้าร่วมกิจกรรมและทำงานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ ทำให้ผู้เรียน
ได้รับการปลกู ฝงั ใหร้ ูแ้ ละรกั ท้องถ่นิ ของตน มองเห็นคุณค่าและตระหนกั ถงึ ปญั หาในชมุ ชนของตน พร้อมที่
จะเปน็ สมาชิกทดี่ ขี องชุมชนทง้ั ในปจั จุบนั และอนาคต

๔. กระบวนการ/ข้ันตอน/วิธีการดำเนนิ งาน
๑. มวี ทิ ยากรท่ีมคี วามรู้ความสามารถในการให้คำแนะนำ
๒. ความรู้เกยี่ วกับแหลง่ เรียนร้ทู างวฒั นธรรม

๕. วิธกี ารถ่ายทอดองคค์ วามรู้แหลง่ เรยี นรู้เพือ่ นำไปสกู่ ารปฏิบตั ิ
๑. เปน็ แหล่งที่รวมขององค์ความรู้อันหลากหลายพรอ้ มที่จะให้ผเู้ รียนเขา้ ไปศกึ ษาค้นควา้ ด้วย

กระบวนการจดั การเรยี นรู้ท่ีแตกตา่ งกันของแตล่ ะบคุ คล
๒. เปน็ แหลง่ ขอ้ มลู ท่ีทำใหผ้ ้เู รยี นเกิดการการเรยี นรูอ้ ย่างมีความสุข เกิดความสนุกสนาน
๓. เปน็ แหล่งเชือ่ มโยงให้สถานศึกษาและชุมชนมีความสัมพนั ธ์ใกลช้ ิดกนั ทำใหค้ นในชุมชนมสี ่วน

ร่วมในการจัดการศกึ ษาแกบ่ ุตรหลานของตน

๖. ผลผลิต/ผลสัมฤทธิ/์ ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับจากการปฏบิ ัติ
ประชาชนในหมู่บา้ นเหน็ ความสำคญั ของแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม และนำไปใช้ใน

ชีวติ ประจำวันได้

๗. ลักษณะเครอื ข่ายและการสร้างเครือขา่ ย การมีส่วนร่วมกับหน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้อง
มกี ารอบรมการในเร่อื ง ประเพณี วัฒนธรรม และใชเ้ ปน็ สถานทเ่ี ขา้ ศึกษาแหลง่ เรยี นรู้ให้กับ

นกั ศกึ ษาของ กศน.อำเภอตระกาพชื ผล

๘. แผนงานในอนาคต และการนำไปขยายผล (Applicable)
1. แหลง่ เรียนรูป้ ระจำอำเภอตระการพชื ผล
2. เพือ่ ถา่ ยทอดความรูเ้ กี่ยวกับวัฒนธรรมใหค้ นร่นุ ใหม่
3. ผู้มาเรยี นร้ไู ดแ้ นวทางการดำเนินชวี ติ เพอ่ื นำไปปรบั ใชใ้ หเ้ ป็นผทู้ ่ีอย่ใู นสังคมได้อย่างมีความสขุ

แหล่งเรียนรอู้ ุบลราชธานี
ชือ่ แหล่งเรียนรู้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎใี หม่

ตำบล ไหลท่ งุ่ อำเภอตระการพืชผล
ด้านเศรษฐกจิ พอเพยี ง สาขาเกษตรกรรม

๑. ผรู้ บั ผดิ ชอบ/ผถู้ ่ายทอดแหลง่ เรียนรู้

ช่ือ-สกุล นายชม ใจตรง ตำแหน่ง ผู้ใหญบ่ า้ น อายุ 56 ปี
ที่อยู่ปัจจบุ นั บ้านคำข่า 153 หมู่ 7 ตำบลไหลท่ ุ่ง อำเภอตระการพชื ผล จังหวัดอุบลราชธานี 34130
เบอรโ์ ทรศัพท์ 08-5929-9026 facebook นายชม ใจตรง Line ผใู้ หญบ่ า้ นชม ใจตรง
๒. ผูป้ ระสานงานแหลง่ เรยี นรู้

ชื่อ-สกุล นายมนต์ตรี แก้วขาว ตำแหนง่ ครู ครู ศรช. อายุ 39 ปี
ที่อยู่ปัจจบุ นั 9 หมู่ 4 ตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพชื ผล จังหวดั อุบลราชธานี 34130
เบอร์โทรศัพท์ 0821440933 facebook มนต์ตรี แก้วขาว Line 0821440933
๓. องคค์ วามรแู้ หล่งเรยี นรู้

การทำเกษตรผสมผสาน
๔. กระบวนการ/ขั้นตอน/วธิ ีดำเนนิ งาน

1.จัดอบรมสร้างความรคู วามเขา้ ใจในการทำกาเกษตร
2. ศึกษาขอ้ มูลจากหนว่ ยงานทีเ่ กยี่ วข้อง
๕. วิธกี ารถ่ายทอดองคค์ วามรู้แหลง่ เรียนรูเ้ พอื่ นำสกู่ ารปฏิบตั ิ
1. อบรมให้ความรู้
2. ศกึ ษาดงู านลงมือปฏิบตั ิ
๖. ผลผลติ /ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ทไี่ ด้รับจากการปฏิบัติ
ประชาชนในพ้ืนที่มีความเป็นอย่ทู ดี่ ี สามารถพ่งึ พาตนเองได้
๗. ลกั ษณะเครอื ข่ายและการสร้างเครอื ขา่ ย การมีส่วนร่วมกับหนว่ ยงานท่ีเกีย่ วข้อง
เปน็ เครอื ขา่ ยลกั ษณะหมู่บา้ น ไปสูต่ ำบล ไปสอู่ ำเภอและไปส่จู ังหวดั
๘. แผนงานในอนาคต และการนำไปขยายผล (Applicable)
รณรงค์ให้ชุมชนเขา้ ร่วมกจิ กรรมอยา่ งตอ่ เน่อื งและสร้างความเข้มแข็งในชุมชน เปน็ แหล่งศึกษาดู
งานหรอื แลกเปลี่ยนเรยี นร้ปู ระสบการณ์
๙. รางวลั หรือเกียรติคณุ แหลง่ เรยี นรู้ที่ได้รับ
รางวลั ชนะเลศิ ระดบั ดี การประกวดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพยี ง ระดับจงั หวัด พ.ศ. 2555

แหล่งเรียนรูอ้ บุ ลราชธานี
ชอ่ื แหล่งเรียนร.ู้ ศูนยก์ ารเรยี นรูป้ รัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. บ้านกดุ เมก็

ตำบลกุดยาลวน อำเภอตระการพืชผล
ด้านเศรษฐกิจพอเพียง สาขาเกษตรกรรม

๑. ผ้รู ับผดิ ชอบ/ผถู้ า่ ยทอดแหลง่ เรียนรู้

ช่ือ-สกุล......นางบุบผา โสดามรรค........ตำแหนง่ .........อายุ......57..............ปี
ท่ีอยู่..บ้านเลขท่ี 25 หมู่ 2 บา้ นกดุ เม็ก ตำบลกดุ ยาลวน อำเภอตระการพชื ผล จังหวัดอุบลราชธานี
34130เบอรโ์ ทรศพั ท.์ ...087-8749798.......Facebook..................-....................Line..........-
................

๒. ผู้ประสานงานแหลง่ เรียนรู้

ชอื่ -สกุล.....นางสมจติ ย์ กิ่งแดง.......ตำแหนง่ ...ครู กศน.ตำบลกุดยาลวน............................อาย.ุ ....56....ปี
ทีอ่ ยู่... 62หมู่ท่ี 1 ตำบลกุดยาลวน อำเภอตระการพืชผล จังหวดั อบุ ลราชธานี
เบอร์โทรศพั ท์ 0862532812 .facebook..........สมจิตย์ กิ่งแดง.......Line..............สมจิตย์.........
๓. องค์ความรูแ้ หล่งเรียนรู้

1.เป็นแหล่งเรยี นรูเ้ ศรษฐกจิ พอเพียง
2.การปลกู ผักในกระถางยางรถยนต์ การปลูกผักปลอดสารพษิ การเลยี้ งไกพ่ ันธพุ์ ้นื เมอื ง
การเลี้ยงวัวเนือ้ การทำปุ๋ยหมกั และนำ้ หมักชีวภาพ ฯลฯ
๔. กระบวนการ/ข้ันตอน/วิธีดำเนินงาน
1. ปรึกษาและขอคำแนะนำจากผู้เชย่ี วชาญด้านการทำเกษตรพอเพียง
2.ประชุมกลุ่ม
3.ค้นหาขอ้ มลู
4.การประสานงานจากภาคเี ครอื ข่ายและไดร้ ับความรว่ มมือจากภาคีเครือข่าย
5.ตดิ ตอ่ องคก์ รท่เี ก่ียวข้อง
6.ประชมุ วางแผนปฏิบัติงานเบ้อื งต้น
7.ลงมอื ปฏิบตั งิ านตามแผนท่วี างไว้

๕. วิธีการถ่ายทอดองค์ความรูแ้ หลง่ เรียนรเู้ พ่อื นำสกู่ ารปฏบิ ตั ิ
โดยการใชส้ ื่อประกอบการอบรม ดังนี้

- หนงั สือคู่มือ
- แผ่นพบั ใบความรู้
- การลงมือปฏบิ ตั จิ ริง
๖. ผลผลติ /ผลสัมฤทธ/์ิ ประโยชน์ท่ีไดร้ บั จากการปฏิบัติ
- จดั เป็นศูนยก์ ารเรียนรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎใี หมป่ ระจำตำบล
กุดยาลวน
- จัดเป็นแหลง่ เรียนรู้เพอื่ นำความรู้ทไี่ ด้รบั ไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวัน
- เพือ่ สรา้ งรายไดเ้ สรมิ ในครอบครวั
- เพือ่ ทำใหผ้ ผู้ ลิตปลอดโรค ผ้บู รโิ ภคปลอดภยั และรกั ษาส่ิงแวดล้อม
ลักษณะเครอื ขา่ ยและการสร้างเครอื ข่าย การมสี ่วนรว่ มกับหน่วยงานที่เกย่ี วข้อง
เป็นเครอื ขา่ ยลกั ษณะหมู่บ้าน ไปส่ตู ำบล ไปสู่อำเภอและไปส่จู ังหวัด
๗. แผนงานในอนาคต และการนำไปขยายผล (Applicable)
1. สามารถเป็นแหลง่ เรียนรู้ของชุมชน/ตำบล/อำเภอ และเป็นแหล่งเรียนร้ทู ่ใี ห้ความรรู้ อบด้านที่
สมบรู ณ์แบบในอนาคต
2. สามารถเป็นแหล่งเรียนรเู้ ศรษฐกจิ พอเพียงทส่ี มบูรณ์ระดบั ประเทศ
๘. รางวัลหรอื เกียรติคุณแหล่งเรียนรทู้ ไี่ ด้รับ
1. ด้านผมู้ จี ติ สาธารณะบำเพ็ญประโยชน์เพ่อื ส่วนรวม ไดร้ ับรางวลั “คนดศี รีตระการ”
2. อบรม GPA อาสาจากกรมส่งเสริมการเกษตร
3. อบรมหลักสูตรพ้ืนฐานเพื่อเป็นอาสาสมคั รดูแลผสู้ ูงอายุที่บา้ น (อผส.)
4. เปน็ สตรีดเี ด่นในภาคเศรษฐกิจและนอกระบบสถานประกอบกิจการเน่ืองในวนั สตรีสากล
5. เปน็ สตรดี เี ดน่ ตำบลกุดยาลวน
6. เป็นตวั แทนคณะกรรมการประสานงานชุมชนระดับหมู่บ้าน,ชมุ ชนในเขตเทศบาลเพ่อื ทำหน้าที่
ช่วยเหลือเดก็ เยาวชนและครอบครัว
7. ใหค้ วามรว่ มมอื ในการบำเพ็ญประโยชน์และมีส่วนรว่ มในการพัฒนาการเกษตร
8. อบรมความรทู้ างกฎหมายโครงการพฒั นาศกั ยภาพสตรี
9. สง่ เสริมสวสั ดิภาพและพิทกั ษเ์ ด็กเยาวชนผดู้ ้อยโอกาส คนพกิ าร ผูส้ งู อายุ
10. เศรษฐกิจพอเพียง วันเกษตรแหง่ ชาติ หลกั สูตรผนู้ ำการเปลย่ี นแปลงชมุ ชน

แหล่งเรยี นรู้อบุ ลราชธานี

ช่อื แหล่งเรยี นรู้ ภูนกหงษ์

ตำบล ท่าหลวง อำเภอ ตระการพชื ผล

ด้าน ธรรมชาตแิ ละสตั ว์ปา่ สาขา ธรรมชาติและสตั ว์ป่า

๑. ผรู้ ับผิดชอบ/ผถู้ ่ายทอดแหล่งเรียนรู้

ชื่อ-สกุล นายไพฑูรย์ คชรักษ์ ตำแหน่ง ผใู้ หญ่บ้าน แกง้ อะฮวน ม.6
ทอ่ี ยู่ บา้ นแกง้ อะฮวน หมู่ 6 ตำบลทา่ หลวง อำเภอตระการพชื ผล จังหวดั อุบลราชธานี
เบอรโ์ ทรศัพท์ ........065-346210 …

๒. ผู้ประสานงานแหล่งเรียนรู้

ช่ือ-สกุล นายอคั รพล พืชหมอ ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลท่าหลวง

ทีอ่ ยู่ ๑49 หมู่ 5 บา้ นเวียง ตำบลกระเดียน อำเภอตระการพชื ผล จังหวัด

อบุ ลราชธานี

เบอรโ์ ทรศพั ท์ 087-8701891 Facebook : https://web.facebook.com/akrapon phutmor

Line monzabfs

๓. องคค์ วามรู้แหล่งเรียนรู้
ภูนกหงษ์ อยู่ในพน้ื ทบี่ ้านแก้งอะฮวน หมู่ 6 ตำบลท่าหลวง อำเภอตระการพืชผล จงั หวดั อุบลราชธานี

ภูมิประเทศเป็นภเู ขาหนิ ทราย ประกอบดว้ ยปา่ เตง็ รงั ปา่ เบญจพรรณสลบั ไผ่ ป่าดิบแลง้ และป่าหญา้ เขตร้อน
ภูนกหงษเ์ ป็นภูเขาหนิ ทราย บรเิ วณโดยทัว่ ไปมีพรรณไม้ป่าเบญจพรรณขนึ้ ประปรายนอกจากนั้นบนภสู องชนั้
ยังมจี ดุ ท่องเท่ยี วต่าง ๆ ทีน่ ่าสนใจ ไดแ้ ก่ สวนหินประหลาด ท่ีมีหนิ ลกั ษณะรูปร่างแปลกตา หินเหล่านเ้ี กดิ จาก
การผกุ รอ่ นของหนิ ทรายตามกาลเวลา สวนหนิ ประหลาดครอบคลุมพนื้ ทป่ี ระมาณ 15 ไร่, มีรปู นกคู่บนภูเขา

๔. กระบวนการ/ขัน้ ตอน/วิธีการดำเนนิ งาน
๑) มีวทิ ยากรในชุมชนที่มคี วามรู้ความสามารถในการให้คำแนะนำ

๒) มีการจดั เผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ถงึ ประวตั ิความเป็นมาของภนู กหงษ์
๓) จดั ทำเป็นแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว

๕. วธิ ีการถ่ายทอดองคค์ วามรแู้ หลง่ เรยี นรเู้ พอ่ื นำไปสูก่ ารปฏบิ ตั ิ
๑) ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ
๒) ศึกษาเก่ยี วกับเกยี่ วกับหินประหลาด
๓) สถานทที่ ่องเท่ียวในชุมชน

๖. ผลผลติ /ผลสัมฤทธิ/์ ประโยชนท์ ่ไี ด้รับจากการปฏบิ ัติ
กลมุ่ ชาวบา้ นบา้ นแก้งอะฮวน ตำบลท่าหลวงได้ร่วมกันอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติ โดยการปลูกป่า

เพม่ิ เติมเพื่อเปน็ แหลง่ ทอ่ งเท่ียวเชิงอนุรักษใ์ นการเพ่มิ รายไดเ้ นือ่ งจากการท่องเที่ยวและรักษาธรรมชาตปิ ่าไมใ้ ห้
คงอยู่

๗. ลกั ษณะเครือข่ายและการสรา้ งเครือขา่ ย การมีส่วนร่วมกับหน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้อง
กลุ่มชาวบา้ นแก้งอะฮวนได้รวมตวั กันขอจัดต้งั ภูนกหงษ์เปน็ ป่าชุมชนทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่ง

แวดล้อม,การท่องเทยี่ วและการเรยี นรู้ของชุมชนซงึ่ ได้ปรับปรงุ พัฒนา โดยได้รบั ความรว่ มมือจากชมุ ชนและ
หน่วยงานที่เกีย่ วข้อง เปน็ อย่างดี อย่างต่อเน่ืองโดยลำดับ เพ่ือดำเนิน กิจกรรมดา้ นการท่องเทีย่ วและศกึ ษา
ธรรมชาตใิ นรูปแบบขององค์กรชุมชน และดำเนินกิจกรรมอยา่ งต่อเนื่องในปจั จุบัน

๘. แผนงานในอนาคต และการนำไปขยายผล (Applicable)
กศน.ตำบลทา่ หลวง ได้บรรจภุ สู องชั้นในแผนพฒั นาตำบลด้านการอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและ ส่งิ

แวดลอ้ ม,การท่องเที่ยวและการเรยี นรขู้ องชุมชนซึง่ ได้ปรบั ปรงุ พฒั นา โดยไดร้ ับความร่วมมือจากชุมชนและ
หน่วยงานท่ีเกยี่ วข้อง เป็นอย่างดี เพ่อื ให้ภูสองชนั้ เป็นแหล่งเรียนของนักศึกษา กศน.ตำบลท่าหลวง อำเภอ
ตระการพืชผล จงั หวัดอุบลราชธานี เพอื่ ใชใ้ นการศกึ ษาดูงานทางธรรมชาตใิ นชมุ ชน

๙. รางวลั หรือเกียรตคิ ุณแหล่งเรยี นรู้ท่ีไดร้ ับ
-

แหล่งเรยี นร้อู บุ ลราชธานี
ชอ่ื แหล่งเรียนรู้ วดั อันตรมคั คาราม
ตำบลเซเป็ด อำเภอตระการพืชผล จังหวดั อุบลราชธานี
ดา้ นศาสนา สาขาศาสนสถาน


Click to View FlipBook Version