การวัดและการประเมนิ ผล ระดบั ประถมศกึ ษา
การวัดผลและประเมินผล
โรงเรียนวัดสันติการาม ได้ดาเนินการจัดทาหลักสตู รสถานศึกษา พร้อมทั้งดาเนินการวัดและประเมินผลการ
เรียนรูอ้ ยบู่ นพื้นฐาน 2 ประการ ดังนี้
ประการแรก คือ การวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาผู้เรียนทั้งรายบุคคลและรายกลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยได้
เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลการเรียน และการเรียนรู้ของผู้เรียนในระหว่างการเรียนการสอน โดย การบันทึก
วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล แล้วนาผลมาใช้ในการส่งเสริมหรือปรับปรุงแก้ไขการเรียนรู้ของผู้เรียน และการ
สอน ของครูโดยใช้วิธีการและเครื่องมือการประเมินที่หลากหลาย เช่น สังเกตพัฒนาการและความประพฤติของ
ผเู้ รียน สังเกตพฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรม การประเมนิ ตามสภาพจริง หรอื แฟ้มสะสมงาน ควบคู่ไปกับการ
ใช้การทดสอบแบบต่าง ๆ และการใช้เกณฑ์การให้คะแนน (Rubrics) ซึ่งมรี ปู แบบทห่ี ลากหลาย
ตามธรรมชาติของแต่ละวิชาของแต่ละกลุม่ สาระการเรยี นรู้ โดยส่ิงท่ีสาคญั ท่สี ดุ ในการประเมินเพ่ือพัฒนา คือ การให้
ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนในลักษณะคาแนะนาที่เชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ทาให้การเรียนรู้พอกพูน แก้ไข
ความคิด ความเขา้ ใจเดมิ ที่ไม่ถูก ตลอดจนการให้ผ้เู รียนสามารถต้งั เปา้ หมายและพัฒนาตนได้
ประการทีส่ อง คือ การวดั และประเมินผลเพ่ือตดั สินผลการเรียนเปน็ การประเมนิ สรุปผลการเรียนรู้ ซ่งึ มี
หลายระดับ ไดแ้ ก่ เม่ือเรียนจบหนว่ ยการเรยี นจบรายวิชาเพ่ือตดั สนิ ใหค้ ะแนน หรอื ใหร้ ะดบั ผลการเรยี นซึ่งในการ
ประเมนิ เพ่อื ตัดสินผลการเรยี นโดยใหโ้ อกาสผเู้ รียนแสดงความรู้ความสามารถด้วยวิธีการทหี่ ลากหลาย และพจิ ารณา
ตดั สนิ ผลการปฏิบตั บิ นพ้นื ฐานของเกณฑ์
องคป์ ระกอบของการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
โรงเรียนวัดสันตกิ าราม ไดด้ าเนินการจดั ทาหลักสตู รสถานศึกษาพร้อมทงั้ การดาเนนิ การวดั และประเมินผล
การเรียนรู้ เพื่อใหผ้ เู้ รียนเป็นคนดี มีปัญญา มีคณุ ภาพชีวิตที่ดี (คนดี คนเกง่ มีความสขุ ) และมีขีดความสามารถใน
การแขง่ ขนั ทักษะทางวิชาการ เชน่ ในระดบั เขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา ระดับตาบล ระดับจงั หวดั ระดับประเทศ และการ
เขา้ รว่ มแขง่ ขนั ทักษะวกิ ารกบั องค์กรตา่ ง ๆ ซงึ่ กาหนดใหผ้ ู้เรียนได้เรยี นร้ตู ามมาตรฐานการเรียนรตู้ วั ชีว้ ดั ทก่ี าหนด
ในสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ มคี วามสามารถดา้ น การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียน มีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
และเข้ารว่ มกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ดงั นี้
1. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้
2. การประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน
3. การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
4. การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น
กล่มุ งานบริหารวิชาการ
การประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามกลมุ่ สาระการเรียนรู้
การประเมินผลการเรียนรตู้ ามกลุม่ สาระการเรยี นรทู้ ั้ง 8 กลุ่มสาระ และวชิ าเพมิ่ เตมิ เป็นการประเมนิ
ความรู้ความสามารถ ทักษะ เจตคติ และทักษะการคิด ที่กำหนดอยู่ในตัวชี้วัดในหลักสูตร โดยผู้สอนดำเนินการวัด
และประเมินผลการเรียนรู้เป็นรายวชิ าตามตวั ชีว้ ัดในรายวิชาพ้ืนฐาน และตามกระบวนการเรยี นรู้ในรายวิชาเพิ่มเติม
ตามที่กำหนดในหน่วยการเรียนรู้ ผู้สอนใช้วิธีการที่หลากหลาย เพื่อให้ได้ผลการประเมินที่สะท้อนความรู้
ความสามารถท่แี ท้จรงิ ของผเู้ รยี น พรอ้ มทง้ั วดั และประเมนิ ผลการเรยี นร้อู ยา่ งตอ่ เน่ือง
ในสว่ นของการประเมนิ ผลการเรียนร้ตู ามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โรงเรยี นวัดสันติการาม ได้กำหนดสัดสว่ น
คะแนนระหว่างเรยี นกบั คะแนนรายภาค/ปี ดงั นี้
ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปลายปี
ที่ วชิ า ระหวา่ ง ปลาย คะแนน ระหวา่ ง ปลาย คะแนน ระหวา่ ง ปลาย คะแนน
ภาค ภาค รวม ภาค ภาค รวม ภาค ภาค รวม
รายวชิ าพนื้ ฐาน
1. ภาษาไทย 35 15 50 35 15 50 70 30 100
2. คณิตศาสตร์ 35 15 50 35 15 50 70 30 100
3. วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 35 15 50 35 15 50 70 30 100
4. สังคมศึกษา 35 15 50 35 15 50 70 30 100
ศาสนาและวัฒนธรรม
5. ประวตั ิศาสตร์ 40 10 50 40 10 50 80 20 100
6. สุขศกึ ษาและพละศึกษา 40 10 50 40 10 50 80 20 100
7. ศิลปะ 40 10 50 40 10 50 80 20 100
8. การงานอาชพี 40 10 50 40 10 50 80 20 100
9. ภาษาองั กฤษ 35 15 50 35 15 50 70 30 100
รายวชิ าเพิ่มเติม
1. ภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 35 15 50 35 15 50 70 30 100
ป.1-ป.3
2. ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 40 10 50 40 10 50 80 20 100
ป.4-ป.6
3. ภาษาไทย ป.1-6 40 10 50 40 10 50 80 20 100
4. คอมพิวเตอร์ ป.1-ป.6 40 10 50 40 10 50 80 20 100
กลุ่มงานบริหารวิชาการ
เกณฑ์การตดั สนิ เพือ่ ใหร้ ะดบั ผลการเรยี น ตามกลมุ่ สาระการเรียนรู้
นกั เรยี นตอ้ งได้เรียนครบตามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ทง้ั 8 กลุ่ม และวชิ าเพ่มิ เติม ตามหลักสูตรสถานศกึ ษา
และไดร้ บั การตดั สนิ ผลการเรียนตามเกณฑท์ ่ีกาหนด โดยได้รับรายงานผลการเรยี นเป็น 8 ระดบั ดังนี้
1. ระดบั ผลการเรยี น 4 หมายถึง ผลการเรียนดีเยี่ยม (คะแนน 80-100
2. ระดับผลการเรยี น 3.5 หมายถงึ ผลการเรยี นดมี าก (คะแนน 75-79)
3. ระดบั ผลการเรยี น 3 หมายถึง ผลการเรยี นดี (คะแนน 70-74)
4. ระดบั ผลการเรียน 2.5 หมายถึง ผลการเรยี นค่อนข้างดี (คะแนน 65-69)
5. ระดับผลการเรยี น 2 หมายถึง ผลการเรยี นปานกลาง (คะแนน 60-64)
6. ระดบั ผลการเรียน 1.5 หมายถึง ผลการเรียนพอใช้ (คะแนน 55-59)
7. ระดับผลการเรยี น 1 หมายถึง ผลการเรยี นผา่ นเกณฑ์ขนั้ ต่า (คะแนน 50-45)
8. ระดบั ผลการเรียน 0 หมายถึง ผลการเรยี นต่ากว่าเกณฑ์ (คะแนน 0-49)
กรณนี กั เรียนได้รบั การตัดสินผลการเรียนเป็น “ 0 หมายถึง ผลการเรยี นตา่ กว่าเกณฑ์ต้องแก้ไข ” นักเรียน
ต้องเข้ารับการซ่อมเสริม และประเมินตามที่โรงเรียนกาหนดแล้วจะได้รับการเปลี่ยนระดับผลการเรียนเป็น “ 1
หมายถงึ ผลการเรียนผา่ นเกณฑข์ นั้ ต่าทีก่ าหนด ”
การประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น
การประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียน เป็นการประเมนิ ศักยภาพของผ้เู รยี น ในการอ่านจากหนังสือ
ตาราเรียน เอกสารและสื่อต่างๆ เพื่อหาความรู้ และเพิ่มพูนประสบการณ์ เพื่อความสุนทรีย์ และประยุกต์ใช้แล้ว
สามารถนาเนื้อหาสาระที่อ่านมาคิดวิเคราะห์เพื่อนาไปสู่การแสดงความคิดเห็นการสังเคราะห์ การสร้างสรรค์ การ
แก้ปัญหาในเรื่องต่าง ๆ และถ่ายทอดความคิดด้วยการเขียนที่มีสานวนภาษาถูกต้องมีเหตุผล และลาดับขั้นตอนใน
การนาเสนอสามารถสร้างความเข้าใจแก่ผู้อ่านได้อย่างชัดเจนได้อย่างชัดเจนตามระดับความสามารถในระดับชั้น
ประถมศึกษาซึ่งได้กาหนดขอบเขตการประเมินและตัวชี้วัดที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และ
เขยี นดังนี้
ตวั ช้วี ดั ความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ชั้น ป.1 - ป.3
1. สามารถอ่านและหาประสบการณจ์ ากสื่อทหี่ ลากหลาย
2. สามารถจับประเดน็ สาคัญ ข้อเท็จจรงิ ความคิดเหน็ เร่ืองที่อา่ น
3. สามารถเปรียบเทียบแง่มุมตา่ ง ๆ เชน่ ขอ้ ดี ขอ้ เสีย ประโยชน์ โทษ ความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสม
4. สามารถแสดงความคิดเห็นตอ่ เรอื่ งทอ่ี ่าน โดยมีเหตผุ ลประกอบ
5. สามารถอา่ นถ่ายทอดความคดิ เหน็ ความรูส้ ึกจากเรื่องท่ีอา่ นโดยการเขยี น
ตัวชีว้ ดั ความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น ช้ัน ป.4 - ป.6
1. สามารถอา่ นเพือ่ หาขอ้ มูลสารสนเทศเสริมประสบการณ์จากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ
2. สามารถจบั ประเด็นสาคัญ เปรยี บเทยี บ เชอ่ื มโยงความเป็นเหตุเปน็ ผลจากเร่ืองท่ีอา่ น
กล่มุ งานบริหารวชิ าการ
3. สามารถเช่ือมโยงความสัมพันธ์ของเร่ืองราว เหตุการณข์ องเรอ่ื งที่อา่ น
4. สามารถแสดงความคดิ เห็นต่อเรือ่ งทอ่ี ่านโดยมเี หตุผลสนับสนุน
5 สามารถอา่ นทอดความเข้าใจ ความคิดเห็น คุณคา่ จากเรื่องท่ีอา่ นโดยการเขียน
นักเรียนต้องผา่ นการประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน โดยมีเกณฑ์การประเมินเปน็ 4 ระดบั
ดงั น้ี
1. ระดับผลการประเมิน 3 หมายถึง ดเี ย่ียม
(มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขยี นทม่ี ีคุณภาพดีเยี่ยมอยู่เสมอ)
2. ระดบั ผลการประเมนิ 2 หมายถงึ ดี
(มผี ลงานท่แี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี นที่มีคุณภาพเปน็ ทีย่ อมรับ)
3. ระดับผลการประเมนิ 1 หมายถงึ ผ่าน
(มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับแต่ยังมี
ขอ้ บกพรอ่ งบางประการ)
4. ระดบั ผลการประเมิน 0 หมายถึง ไม่ผ่าน
(ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน หรือถ้ามีผลงาน ผลงานนั้นยังมี
ข้อบกพร่องท่ีต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขหลายประการ)
กรณีนักเรียนได้รับผลการประเมินเป็น “ 0 หมายถึง ไม่ผ่าน ” นักเรียนต้องเข้ารับการซ่อมเสริมและ
ประเมินตามที่โรงเรียนกาหนดแล้วจะได้รับการเปลี่ยนระดับผลการประเมินให้เป็น “ 1 หมายถึง ผ่านการประเมิน
การอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขยี น ”
การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นการประเมินคุณลักษณะที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนอันเป็น
คุณลักษณะที่สังคมต้องการในด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม จิตสานึก สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมี
ความสุขทั้งในฐานะพลเมืองไทยและพลเมืองโลก ซึ่งการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของโรงเรียนประกอบ
ประกอบด้วย 8 คุณลักษณะ ดงั นี้
1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง
2. ซื่อสัตย์ สุจริต 6. มุ่งม่ันในการทางาน
3. มีวนิ ยั 7. รักความเปน็ ไทย
4. ใฝ่เรียนรู้ 8. มีจิตสาธารณะ
นักเรียนตอ้ งผ่านการประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ โดยมีเกณฑก์ ารประเมนิ เป็น 4 ระดับ ดังน้ี
1. ระดับผลการประเมิน 3 หมายถงึ ดเี ยย่ี ม
(ผูเ้ รียนปฏบิ ตั ิตนตามคณุ ลักษณะจนเปน็ นิสัย และนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน เพ่ือประโยชนส์ ุขของตนเอง
และสงั คม)
2. ระดับผลการประเมนิ 2 หมายถงึ ดี
กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ
(ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏบิ ัติตามกฎเกณฑ์ เพอื่ ใหเ้ ป็นการยอมรับของสังคม)
3. ระดับผลการประเมนิ 1 หมายถึง ผ่าน
(ผู้เรียนรบั ร้แู ละปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขทโ่ี รงเรียนกาหนด)
4. ระดับผลการประเมิน 0 หมายถงึ ไม่ผ่าน
(ผเู้ รยี นรบั ร้แู ละปฏบิ ตั ไิ ด้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์และเง่ือนไขทโ่ี รงเรยี นกาหนด)
กรณีนักเรียนได้รับผลการประเมินเป็น “ 0 หมายถึง ไม่ผ่าน ” นักเรียนต้องเข้ารับการซ่อมเสริมและ
ประเมินตามทโี่ รงเรียนกาหนด แล้วจะไดร้ ับการเปล่ยี นระดบั ผลการประเมินใหเ้ ป็น “ 1 หมายถึง ผ่าน
การประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ”
การประเมินกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน
การประเมินการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นการประเมินโดยผู้เรียนต้องมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม ปฏิบัติ
กิจกรรม และมีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะผ่านการประเมินตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด (กิจกรรมแนะแนว
กจิ กรรมนักเรยี น กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์)
เมื่อผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยจะได้รับการประเมินเพื่อผ่านเกณฑ์ การพิจารณา 2 เกณฑ์
ดงั น้ี
- เกณฑ์การผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้
- เกณฑเ์ วลาเข้ารว่ มกจิ กรรม ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 ของเวลาเข้ารว่ มกจิ กรรมท้งั หมด
เกณฑ์การตดั สินผลการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ดังน้ี
1. ระดบั ผลการประเมิน “ผ” หมายถงึ ผ่าน เมอื่ มผี ลการประเมนิ ผ่านทัง้ 2 เกณฑ์
2. ระดบั ผลการประเมนิ “มผ” หมายถงึ ไมผ่ า่ น เม่อื มีผลการประเมนิ ผา่ นไมค่ รบทง้ั 2 เกณฑ์
กรณีนักเรียนได้รับผลการประเมินเป็น “ มผ หมายถึง ไม่ผ่าน ” นักเรียนต้องเข้ารับการซ่อมเสริมและ
ประเมินตามที่โรงเรียนกาหนด แล้วจะได้รับการเปลี่ยนระดับผลการประเมินให้เป็น “ ผ หมายถึง ผ่านการประเมิน
กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ”
การประเมินค่านยิ มหลักของคนไทย 12 ประการ
การประเมินค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ เป็นการประเมินที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนอันเป็น
ค่านิยมหลักของคนไทยที่ต้องการปลูกฝัง พัฒนาผู้เรียน อย่างสม่าเสมอและต่อเนื่อง เน้นการปฏิบัติจริงใน
ชีวิตประจาวันจนเกิดเป็นพฤติกรรมที่ยั่งยื่น ซึ่งการประเมินค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ของโรงเรียนวัด
สันติการาม ประกอบประกอบด้วย 12 ประการ ดังนี้
1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
2. ซื่อสัตย์ เสยี สละ อดทน มีอุดมการณใ์ นสง่ิ ทีด่ งี ามเพื่อส่วนรวม
3. กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ
4. ใฝหาความรู้ หมัน่ ศกึ ษาเล่าเรยี นทัง้ ทางตรงและทางอ้อม
5. รกั ษาวฒั นธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
6. มศี ีลธรรม รักษาความสตั ย์ หวงั ดีตอ่ ผอู้ ่ืน เผื่อแผ่และแบ่งปน
7. เข้าใจเรียนรูก้ ารเปนประชาธปิ ไตย อันมพี ระมหากษัตริยท์ รงเปนประมขุ ท่ถี กู ต้อง
8. มีระเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรูจ้ ักการเคารพผใู้ หญ่
9. มีสตริ ้ตู วั รคู้ ดิ รู้ทา รู้ปฏบิ ัตติ ามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั รชั กาลท่ี ๙
10. รู้จกั ดำรงตนอยโู่ ดยใชห้ ลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเดจ็ พระ
เจา้ อย่หู ัว รู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น มไี วพ้ อกินพอใช้ ถ้าเหลอื ก็แจกจา่ ยจำหน่ายและพร้อมที่จะขยายกิจการ
เมอ่ื มีความพรอ้ มเม่ือมีภมู ิค้มุ กันท่ีดี
11. มคี วามเขม้ แข็งทง้ั ร่างกาย และจติ ใจ ไมย่ อมแพ้ตอ่ อานาจฝา่ ยต่าหรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ต่อ
บาปตามหลักของศาสนา
12. คานึงถงึ ผลประโยชนข์ องสว่ นรวม และของชาตมิ ากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง
นักเรียนต้องผา่ นการประเมนิ ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยมเี กณฑ์การประเมนิ เปน็ 4
ระดบั ดังน้ี
1. ระดบั ผลการประเมิน 3 หมายถึง ดเี ยี่ยม
2. ระดบั ผลการประเมิน 2 หมายถึง ดี
3. ระดบั ผลการประเมิน 1 หมายถึง ผา่ น
4. ระดับผลการประเมนิ 0 หมายถงึ ไมผ่ ่าน
กรณีนักเรียนได้รับผลการประเมินเป็น “ 0 หมายถึง ไม่ผ่าน ” นักเรียนต้องเข้ารับการซ่อมเสริมและ
ประเมินตามท่ีโรงเรียนกาหนด แลว้ จะไดร้ บั การเปลยี่ นระดับผลการประเมินให้เป็น “ 1 หมายถึง ผา่ น การประเมิน
คา่ นิยมหลักของคนไทย”
การประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
การประเมนิ คุณภาพผ้เู รยี นดา้ นสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ๕ ข้อ ไดย้ ดึ ตามกรอบหลกั สูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ดงั นี้
๑. ความสามารถในการสื่อสาร หมายถึง ใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก และ
ทัศนะของตนเอง เพื่อเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม
รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลัก
เหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเอง
และสงั คม
๒. ความสามารถในการคิด หมายถึง รู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดอย่างสร้างสรรค์ คิดอย่างมี
วิจารณญาณ และคิดเป็นระบบ เพ่ือนาไปส่กู ารสรา้ งองค์ความรูห้ รอื สารสนเทศ เพอื่ การตัดสินใจเกยี่ วกับตนเองและ
สังคมได้อย่างเหมาะสม
กล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา หมายถึง เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ
ในสังคมแสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐาน
ของหลักเหตุผลคณุ ธรรมและข้อมลู สารสนเทศ รวมทั้งตัดสินใจท่ีมีประสิทธิภาพ โดยคำนงึ ถึงผลกระทบท่ีเกิดขึ้นต่อ
ตนเอง สังคมและสิง่ แวดลอ้ ม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต หมายถึง ใช้กระบวนการต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน เรียนรู้
ดว้ ยตนเองตอ่ เนื่อง ทำงานและอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมด้วยการสร้างเสริมความสมั พนั ธ์อันดรี ะหว่างบคุ คล จัดการปัญหา
และความขัดแย้งต่าง ๆอย่างเหมาะสม รู้จักปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมสภาพแวดล้อม และ
หลกี เล่ียงพฤติกรรมไม่พงึ ประสงคท์ ่ีสง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี หมายถึง รู้จักเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ทักษะกระบวนการ
ทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอย่าง
สรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ งเหมาะสมและมีคุณธรรม
นกั เรยี นตอ้ งผ่านการประเมินสมรรถนะสาคัญ 5 ขอ้ โดยมีเกณฑก์ ารประเมินเปน็ 4 ระดับ ดงั นี้
1. ระดับผลการประเมิน 3 หมายถึง ดีเย่ยี ม
2. ระดับผลการประเมนิ 2 หมายถงึ ดี
3. ระดับผลการประเมนิ 1 หมายถงึ ผ่าน
4. ระดบั ผลการประเมนิ 0 หมายถงึ ไม่ผ่าน
กรณีนักเรียนได้รับผลการประเมินเป็น “ 0 หมายถึง ไม่ผ่าน ” นักเรียนต้องเข้ารับการซ่อมเสริมและ
ประเมินตามที่โรงเรยี นกาหนด แล้วจะได้รับการเปล่ียนระดับผลการประเมินให้เป็น “ 1 หมายถึง ผ่านการประเมิน
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ”
******************************************************
กลุ่มงานบริหารวชิ าการ