The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่ ๗ ชีวิตที่ถูกเมิน แผนการสอน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 621166010, 2022-07-24 21:42:07

หน่วยที่ ๗ ชีวิตที่ถูกเมิน

หน่วยที่ ๗ ชีวิตที่ถูกเมิน แผนการสอน

Keywords: ชีวิตที่ถูกเมิน แผนการสอน

ตารางกาหนดการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔

หนว่ ยท่ี ๗ ชีวิตทถี่ ูกเมนิ เวลา ๗ ช่วั โมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ เวลา
๗ ชม.

๑. อ่านออกเสียงคายากได้ถูกต้อง ชัดเจน ชวี ิตทีถ่ ูกเมิน ๗
- การอ่านออกเสยี ง ๑

๒. อา่ นประโยคในบทเรียนได้ถกู ต้อง - การวเิ คราะห์บทเรยี น ๑

๓. อา่ นออกเสียงในบทเรียนได้ถูกตอ้ ง - คานาม ๑

๔. นักเรียนเขียนแผนภาพความคดิ สรุปข้อคิดใน - คาสรรพนาม

บทเรยี นได้ - คากริยา ๑
๕. นักเรียนบอกเนือ้ หาสาระในบทเรียนได้ - คาวิเศษณ์ ๑
๖. นักเรียนวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นใน - ประโยคเพ่อื การสื่อสาร ๑

บทเรยี นได้
๗. นกั เรยี นนาขอ้ คดิ จากเรือ่ งมาใช้ใน

ชีวติ ประจาวันได้
๘. บอกความหมายของคานามไดถ้ ูกต้อง
๙. อ่าน เขียนคานามที่กาหนดให้ได้ถูกตอ้ ง

๑๐. นาคานามทีก่ าหนดให้ไปแต่งประโยคเพอ่ื

การส่อื สารได้ถกู ตอ้ ง
๑๑. บอกความหมายของคาสรรพนามได้ถูกตอ้ ง

๑๒. อ่าน เขยี นคาสรรพนามที่กาหนดให้ได้
ถกู ต้อง

๑๓. นาคาสรรพนามทกี่ าหนดให้ไปแต่งประโยค

เพ่อื การส่ือสารได้ถกู ต้อง
๑๔. อธบิ ายความหมายของคากริยาแต่ละชนิดได้

๑๕. บอกชนิดต่างๆ ของคากริยาได้
๑๖. ยกตัวอยา่ งกริยาชนิดต่างๆ ได้
๑๗. บอกความหมายของคาวิเศษณไ์ ด้

๑๘. ใชค้ าวเิ ศษณ์ได้ถกู ต้องตามบริบท

๑๙. แต่งประโยคด้วยคาวิเศษณ์ได้
๒๐. แตง่ ประโยคได้
๒๑. นาประโยคไปใช้ในการสอ่ื สารได้ถูกตอ้ ง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓๖

กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย รหัสวิชา ท ๑๔๑๐๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๗ เรอื่ ง ชีวติ ทีถ่ ูกเมิน เวลา ๗ ช่ัวโมง

เร่อื ง การอ่านออกเสยี ง เวลา ๑ ชั่วโมง

โรงเรยี นบ้านปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สขุ คา

สาระท่ี ๑ การอ่าน

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจ

แก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์ในการดาเนินชีวิต และมนี ิสยั รักการอา่ น

สาระที่ ๒ การเขียน

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน

เร่ืองราวในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี

ประสิทธิภาพ

๑. สาระสาคญั
๑. ความคิดรวบยอด
การอ่านออกเสียงผู้อ่านต้องอ่านถูกต้องท้ังด้านอักขระ การเว้นวรรคตอน ระดับสูงต่าของ

เสียงตามบริบทแห่งเนื้อหา จึงจะทาให้การสอ่ื สารมีประสิทธภิ าพ เกิดความเข้าใจตรงกันระหวา่ งผู้ส่ง
สารและผรู้ บั สาร

๒. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

๒. ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๔/๑ อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ ง
ท ๑.๑ ป.๔/๓ อ่านเรือ่ งสัน้ ๆ ตามเวลาทก่ี าหนดและตอบคาถามจากเรือ่ งทีอ่ ่าน
ท ๒.๑ ป.๔/๓ เขียนแผนภาพโครงเรอ่ื งและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขยี น

๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. อ่านออกเสยี งคายากไดถ้ ูกตอ้ ง ชัดเจน
๒. อา่ นประโยคในบทเรยี นได้ถกู ต้อง
๓. อ่านออกเสยี งในบทเรียนได้ถูกต้อง
๔. นักเรยี นเขยี นแผนภาพความคิดสรุปข้อคดิ ในบทเรียนได้

๔. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มีวนิ ัย
๕. อยู่อย่างพอเพียง

๕. สาระการเรยี นรู้
๑. อ่านออกเสียงเร่ือง “ชวี ิตที่ถูกเมิน”
๒. การวิเคราะหเ์ ร่อื ง “ชวี ิตท่ถี ูกเมนิ ”
๓. คายากในบทเรยี น
๔. เขยี นแผนภาพความคิดสรุปข้อคิดในบทเรียน

๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นที่ ๑ นกั เรียนเขียนตามคาบอกก่อนเร่ิมเรยี น จานวน ๑๐ คา พรอ้ มเฉลยคาทีเ่ ขียนถกู ต้อง

บนกระดานและคดั คาใหมเ่ พื่อนามาเขยี นในชว่ั โมงถดั ไป
ขน้ั ท่ี ๒ นักเรียนดภู าพในบทอา่ นแล้วพูดแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และข้อเทจ็ จริงจากภาพ
ข้ันท่ี ๓ ครูและนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับเร่ืองสัตว์ท่ีนักเรียนไม่ชอบหรือกลัว สรุปโดยการ

แสดงภาพสัตว์ นั้นๆ เช่น ตุ๊กแก งู หนอน ไส้เดือน เป็นต้น แล้วอภิปรายให้เหตุผลว่ารู้สึกเช่นนั้น
เพราะอะไร

ขั้นที่ ๔ นักเรียนอ่านออกเสียง อ่านเพ่ิมเติมความหมาย ในหนังสือเรียน ครูและนักเรียน
อภิปรายความหมายของคาศพั ท์

ขน้ั ที่ ๕ นกั เรียนอ่าน เร่ืองชีวิตทีถ่ ูกเมิน ในหนังสือเรยี น จากนั้นเลือกทากจิ กรรมชวนกันคิด
ชว่ ยกนั ตอบในหนังสือเรยี น

ขั้นท่ี ๖ นกั เรยี นพูดและสรุปความรู้ ขอ้ คิดจากเร่อื งทอ่ี ่านแล้วสรา้ งแผนภาพความคิด

ขั้นที่ ๗ นกั เรยี นทาใบงานที่ ๑ – ๒ พร้อมทง้ั เฉลยในชั้นเรยี นพรอ้ มกนั

๗. ช้นิ งาน/หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. ใบงานที่ ๑ – ๒
๒. เขยี นตามคาบอก
๓. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคแ์ ละแบบประเมนิ ผลงาน

๘. ส่ือ/ แหลง่ เรียนรู้
๑. หนังสือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทยชุดภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔
๒. แบบฝกึ หัดรายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทยชุดภาษาเพื่อชวี ติ ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔

๙. วัดผลประเมินผล วิธกี ารวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือวดั ผลและประเมนิ ผล
รายการประเมนิ - สงั เกต - แบบบันทึกการสังเกต
- ซกั ถาม - ใบงานท่ี ๑ – ๒
• ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ - ตรวจใบงาน - เขยี นตามคาบอก
- การรว่ มสนทนา - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
- การตอบคาถาม - สังเกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
กิจกรรม
• ดา้ นคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินผลงานรายบุคคล
ประสงค์ - การคิดแสดงความคิดเห็น

• ดา้ นทักษะกระบวนการคดิ
การรว่ มสนทนา

๑๐. เกณฑ์ในการวัดผลและประเมนิ ผล

๑) เกณฑป์ ระเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์รายบุคคลมีคะแนน ๓ ระดับ คอื

ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๕

เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรือได้คะแนน ๖ ขึ้นไป

๒) เกณฑ์การประเมนิ การทาใบงาน มีคะแนน ๓ ระดบั ดงั น้ี

ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผา่ นต้องไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรอื ได้คะแนน ๕ ขึ้นไป

๓) เกณฑก์ ารประเมนิ การเขียนตามคาบอก มคี ะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผา่ นตอ้ งไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ข้นึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขึ้นไป

การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหร้ ะดับคะแนน
รกั ความเปน็ ไทย
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐)
ใฝ่เรยี นรู้
มจี ิตสาธารณะ สนใจและต้งั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม สนใจและต้ังใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน
มวี ินัย ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอยา่ ง ภาษาไทยอยา่ ง
อยอู่ ยา่ งพอเพียง สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนกุ สนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสขุ เกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กล้าซกั ถามกล้าพดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

กล้าแสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น

และโตแ้ ยง้ ในสงิ่ ที่ไม่ และโตแ้ ย้งในสิ่งทไ่ี ม่ และโต้แย้งในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กลา้ แสดงออก

มีความเสยี สละเพอื่ มีความเสยี สละเพอื่ ไม่คอ่ ยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางคร้ัง ส่วนรวม ชอบเอา

เปรียบไมเ่ ห็นแก่ตวั ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ ห็นแก่ เปรยี บคนอน่ื คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมคู่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแก้ไข
การกระทาทไี่ ม่ถูกตอ้ ง การกระทาท่ีไม่ถกู ต้อง การกระทาทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง
ทกุ ครง้ั ทาใบงานได้ เกือบทกุ ครั้ง ทาใบ เปน็ บางครง้ั ทาใบงาน
สะอาดเรยี บร้อยและ งานได้สะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทนั เวลา เรียบร้อย ไม่คอ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วสั ดุอุปกรณ์การ ใชว้ ัสดอุ ุปกรณก์ าร ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์การ

เรยี นทีร่ าคาถูกและใช้ เรียนทีร่ าคาค่อนขา้ ง เรยี นทรี่ าคาค่อนขา้ ง

อย่างคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างค้มุ คา่ แพงและใชอ้ ย่างคุม้ ค่า

หมดแล้วค่อยซ้ือใหม่ ใชจ้ นหมด ใช้ไมห่ มดแล้วซือ้ ใหม่

ใบงานที่ ๑
หนว่ ยท่ี ๗

ใบงานที่ ๒
หนว่ ยที่ ๗

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๓๗

กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รหสั วิชา ท ๑๔๑๐๑ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๗ เรื่อง ชีวิตทถี่ กู เมิน เวลา ๗ ช่วั โมง

เรือ่ ง การวิเคราะหบ์ ทเรียน เวลา ๑ ชว่ั โมง

โรงเรียนบา้ นปงตา ผู้สอน นางสาวชญาภา สขุ คา

สาระที่ ๑ การอ่าน

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจ

แก้ปญั หา และสรา้ งวิสยั ทศั น์ในการดาเนินชวี ติ และมนี สิ ัยรักการอ่าน

สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้

ความคิด ความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อย่างมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์

๑. สาระสาคัญ
๑. ความคดิ รวบยอด
การวิเคราะห์บทเรียนเป็นการสอดแทรกความรู้สึกส่วนตัวเพือ่ คิดวิเคราะห์สาระที่กาลังศกึ ษา

ผู้แสดงความคิดเห็นควรใช้ภาษาท่ีสุภาพไม่กระทบกระเทือนถึงบุคคลอื่นและแสดงความคิดเห็นใน
ดา้ นพยุง จรรโลงและสร้างสรรค์สงั คมให้ดีงาม ต้องมีความรู้สึกซ้ึงในเรื่องคาและสานวนภาษาเพื่อให้
ใช้ได้ถกู ต้องตามบริบท

๒. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
- ความสามารถในการคิด

๒. ตวั ช้ีวดั
ท ๑.๑ ป.๔/ ๗ อา่ นหนงั สือทีม่ ีคุณค่าตามความสนใจอยา่ งสมา่ เสมอและแสดงความคิดเหน็

เกีย่ วกบั เรอื่ งที่อา่ น
ท ๓.๑ ป.๔/๓ จาแนกข้อเท็จจรงิ และข้อคิดเห็นจากเร่อื งทฟ่ี งั และดู

๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. นักเรียนบอกเนอ้ื หาสาระในบทเรียนได้
๒. นักเรียนวเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ ในบทเรียนได้
๓. นกั เรยี นนาข้อคดิ จากเรอื่ งมาใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้

๔. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มวี ินยั
๕. อยู่อย่างพอเพียง

๕.สาระการเรียนรู้
๑. การวเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ ต่อบทเรียน
๒. การสรปุ เนอื้ หาในบทเรยี น
๓. การนาข้อคิดจากบทเรยี นมาประยุกต์ใช้

๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นที่ ๑ นกั เรยี นเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พรอ้ มท้ังเฉลยคาทถ่ี กู ต้องบนกระดาน

และเขียนคาใหม่ลงในสมุด
ขัน้ ท่ี ๒ นกั เรียนแต่ละคนพิจารณาขอ้ ความจากเร่อื ง “ชวี ิตท่ีถูกเมนิ ” มีเนือ้ หาสาระเกี่ยวกบั

สิ่งใดให้นกั เรยี นแตล่ ะคนเลือกอธบิ ายพฤติกรรมธรรมชาติตลอดจนท่อี ยขู่ องสัตว์อย่างใดอย่างหน่ึงท่ี
เอย่ ถึงในบทเรียน คนละ ๑ ชนิด สง่ ตวั แทนมาอธิบายหน้าช้ันเรียน

ข้นั ท่ี ๓ นักเรยี นและครูรว่ มกันสนทนาสรปุ เรื่องราวสาระในบทเรยี นท่ี ๕ ชวี ิตท่ีถูกเมิน ว่า
กลา่ วถึงสัตว์ชนดิ ใดบา้ ง สัตว์แต่ละชนดิ มีความพ่งึ พาเกือ้ กูลกนั อยา่ งไร

ขั้นที่ ๔ นกั เรยี นอา่ นบทเสริมบทเรยี น เรอื่ ง สตั ว์เล็กนดิ มีพษิ เหลอื ใจ ในหนงั สือเรียน
พูดคุยเกี่ยวกับสัตว์ในเร่ือง (หรอื ทากจิ กรรม ชวนกนั สนทนาหรือชวนกนั ค้นหากไ็ ด้)

ขั้นที่ ๕ นักเรียนช่วยกันนาเสนอพูดสรปุ ความรู้จากบทเรยี น โดยมีครคู อยเสรมิ ความรู้ที่
ถูกต้อง

ขนั้ ที่ ๖ นกั เรียนทาแบบฝึกหดั ท้ายบท หนา้ ๔๗ ขอ้ ๑ (๑-๖) ทาพรอ้ มกันในหอ้ งเรียนพรอ้ ม
เฉลย

๗. ช้นิ งาน/หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. แบบฝกึ หัดทา้ ยบท หน้า ๔๗ ข้อ ๑ (๑-๖)
๒. เขยี นตามคาบอก
๓. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์และแบบประเมินผลงาน

๘. สื่อ/ แหล่งเรยี นรู้
๑. หนังสือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทยชุดภาษาเพอื่ ชวี ติ ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔
๒. แบบฝกึ หัดรายวิชาพื้นฐานภาษาไทยชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ิตทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔

๙. วดั ผลประเมนิ ผล วธิ กี ารวัดและประเมินผล เครือ่ งมือวดั ผลและประเมนิ ผล
รายการประเมนิ - สังเกต - แบบบนั ทกึ การสงั เกต
- ซักถาม - แบบฝึกหดั ท้ายบท หนา้ ๔๗
• ดา้ นความรูค้ วามเข้าใจ - ตรวจใบงาน ขอ้ ๑ (๑-๖)
- การรว่ มสนทนา - เขียนตามคาบอก
- การตอบคาถาม - สังเกตพฤตกิ รรมขณะร่วม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
- การทาใบงาน กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล

• ด้านคุณลกั ษณะอันพึง - การฝกึ คดิ แยกแยะ แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
ประสงค์

• ด้านทักษะกระบวนการคิด
การรว่ มสนทนา

๑๐. เกณฑ์ในการวัดผลและประเมนิ ผล

๑) เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์รายบุคคลมคี ะแนน ๓ ระดบั คือ

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ไดค้ ะแนน ๘ – ๑๐

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๕

เกณฑ์การผา่ นต้องไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขึ้นไปหรือไดค้ ะแนน ๖ ขึน้ ไป

๒) เกณฑก์ ารประเมนิ การทาแบบฝึกหัด มคี ะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้

ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผา่ นตอ้ งได้ระดบั คุณภาพ ๒ ข้นึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขน้ึ ไป

๓) เกณฑ์การประเมินการเขยี นตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดังนี้

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผา่ นตอ้ งไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขึ้นไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขึ้นไป

การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหร้ ะดับคะแนน
รกั ความเปน็ ไทย
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐)
ใฝ่เรยี นรู้
มจี ิตสาธารณะ สนใจและต้งั ใจรว่ ม สนใจและตั้งใจร่วม สนใจและตัง้ ใจรว่ ม
กิจกรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน
มวี ินัย ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอยา่ ง
อยอู่ ยา่ งพอเพียง สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสขุ เกือบ ความสุขเป็นบางคร้งั
ตลอดเวลา

กล้าซกั ถามกล้าพดู กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกลา้ พดู

กล้าแสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคิดเห็น

และโตแ้ ยง้ ในสงิ่ ที่ไม่ และโตแ้ ย้งในสิ่งทไี่ ม่ และโต้แยง้ ในสิ่งทไี่ ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กลา้ แสดงออก

มีความเสยี สละเพอื่ มีความเสยี สละเพ่อื ไมค่ ่อยเสยี สละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเปน็ บางครัง้ สว่ นรวม ชอบเอา

เปรียบไมเ่ ห็นแก่ตวั ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ หน็ แก่ เปรยี บคนอืน่ ค่อนขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมคู่ ณะ ชว่ ยเหลอื หมู่คณะ

มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแก้ไข มีการตรวจสอบแกไ้ ข
การกระทาทไี่ ม่ถูกตอ้ ง การกระทาท่ไี มถ่ กู ต้อง การกระทาที่ไมถ่ ูกตอ้ ง
ทกุ ครง้ั ทาใบงานได้ เกือบทกุ คร้ัง ทาใบ เป็นบางคร้ังทาใบงาน
สะอาดเรยี บร้อยและ งานได้สะอาด ไมค่ ่อยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทนั เวลา เรียบร้อย ไม่ค่อย เรียบร้อยและไม่คอ่ ย
ทันเวลา ทนั เวลา

ใช้วสั ดุอุปกรณ์การ ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วสั ดุอุปกรณก์ าร

เรยี นทีร่ าคาถูกและใช้ เรียนทีร่ าคาค่อนขา้ ง เรียนท่ีราคาคอ่ นขา้ ง

อย่างคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อยา่ งคมุ้ ค่า แพงและใชอ้ ย่างคมุ้ ค่า

หมดแล้วค่อยซ้ือใหม่ ใชจ้ นหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซ้ือใหม่

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๓๘

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รหัสวิชา ท ๑๔๑๐๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๗ เร่อื ง ชวี ิตทถ่ี ูกเมนิ เวลา ๗ ชว่ั โมง

เรือ่ ง คานาม เวลา ๑ ชัว่ โมง

โรงเรยี นบา้ นปงตา ผู้สอน นางสาวชญาภา สุขคา

สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลง

ของภาษาและพลังของภาษาภมู ิปญั ญาทางภาษา และรกั ษา

๑. สาระสาคัญ
๑. ความคดิ รวบยอด
การรจู้ ักชนดิ ของคาและหนา้ ท่ีของคาทาใหส้ ามารถนาคามาเรียบเรียงเป็นประโยค
ได้ถูกต้องตามหลกั เกณฑ์ทางภาษา
๒. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการคิด

๒. ตวั ชี้วดั
ท ๔.๑ ป.๔/ ๑ สะกดคาและบอกความหมายของคาในบริบทตา่ งๆ

๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. บอกความหมายของคานามได้ถกู ตอ้ ง
๒. อ่าน เขียนคานามที่กาหนดให้ได้ถกู ตอ้ ง
๓. นาคานามทีก่ าหนดให้ไปแต่งประโยคเพื่อการสื่อสารได้ถกู ต้อง

๔. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รกั ความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. มีจิตสาธารณะ
๔. มวี นิ ัย
๕. อยู่อย่างพอเพียง

๕. สาระการเรยี นรู้
๑. คานาม
๒. การแต่งประโยค
๓. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ

๖. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขั้นท่ี ๑ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยคาท่ีถูกต้องในชั้นเรียนและ

เขยี นคาใหม่จากบนกระดานลงในสมดุ
ข้ันท่ี ๒ ทบทวนความรู้เก่ียวกับ เร่ือง คานาม โดยให้นักเรียนแต่ละแถวแข่งขันกันออกมา

เขยี นคานามบนกระดานดา แถวใดเขียนไดม้ ากท่ีสดุ และถูกตอ้ งท่สี ดุ เป็นผชู้ นะ
ขั้นท่ี ๓ นกั เรียนอ่านคานามท่เี ขยี นบนกระดานดาละช่วยกันสรุปความหมายของคานาม
ขั้นท่ี ๔ นกั เรียนอ่านเร่อื งคานาม ในอธบิ ายเพ่มิ เตมิ ความรู้ จากหนงั สอื เรยี น
ขนั้ ท่ี ๕ นักเรียนช่วยกันบอกว่าคาใดเป็นคานาม และเป็นคานามชนิดใด (คานามสามัญหรือ

คานามวิสามัญ)
ขน้ั ที่ ๖ นักเรยี นช่วยกันสรปุ ความรู้และนาเสนอ เรือ่ งคานาม
ขน้ั ท่ี ๗ นักเรียนทาใบงานท่ี ๓ พร้อมกันในชั้นเรยี น
ข้ันท่ี ๘ ทาแบบฝึกหัดทักษะภาษา แบบฝึกหัดท่ี ๕ ข้อ ๓ (๑) เปน็ การบ้าน

๗. ช้นิ งาน/หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. แบบฝกึ หัดท่ี ๕ ข้อ ๓ (๑)
๒. เขยี นตามคาบอก
๓. ใบงานที่ ๓
๔. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคแ์ ละแบบประเมนิ ผลงาน

๘. ส่ือ/ แหล่งเรยี นรู้
๑. บัตรคานาม
๒. แถบประโยค
๓. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐานภาษาไทยชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔
๔. แบบฝึกหัดรายวิชาพื้นฐานภาษาไทยชดุ ภาษาเพื่อชีวิตทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔

๙. วดั ผลประเมินผล วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมือวดั ผลและประเมนิ ผล
รายการประเมนิ - สงั เกต - แบบบันทึกการสงั เกต
- ซักถาม - แบบฝึกหดั ท่ี ๕ ข้อ ๓ (๑)
• ดา้ นความรู้ความเข้าใจ - ตรวจใบงาน - เขยี นตามคาบอก
- การรว่ มสนทนา - ใบงานท่ี ๓
- การตอบคาถาม - สงั เกตพฤตกิ รรมขณะร่วม - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
- การทาใบงาน กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล

• ดา้ นคุณลักษณะอนั พึง - การฝกึ คดิ สรปุ และแกไ้ ข แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
ประสงค์ ปัญหา

• ดา้ นทักษะกระบวนการคดิ
การรว่ มสนทนา

๑๐. เกณฑใ์ นการวัดผลและประเมินผล

๑) เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงคร์ ายบคุ คลมีคะแนน ๓ ระดับ คอื

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๖ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๕

เกณฑ์การผ่านต้องไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือได้คะแนน ๖ ขึ้นไป

๒) เกณฑก์ ารประเมินการทาใบงาน มีคะแนน ๓ ระดบั ดังน้ี

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดับคณุ ภาพ ๒ ขนึ้ ไปหรือได้คะแนน ๕ ข้นึ ไป

๓) เกณฑ์การประเมนิ การเขยี นตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดงั นี้

ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผา่ นต้องได้ระดับคณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขึน้ ไป

๔) เกณฑก์ ารประเมนิ การทาแบบฝึกหัด มีคะแนน ๓ ระดับ ดังน้ี

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผ่านต้องได้ระดบั คณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือได้คะแนน ๕ ข้นึ ไป

การประเมินดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหร้ ะดับคะแนน
รกั ความเปน็ ไทย
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐)
ใฝ่เรยี นรู้
มจี ิตสาธารณะ สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม สนใจและต้ังใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน
มวี ินัย ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอยา่ ง ภาษาไทยอยา่ ง
อยอู่ ยา่ งพอเพียง สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนกุ สนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสขุ เกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กล้าซกั ถามกล้าพดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

กล้าแสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น

และโตแ้ ยง้ ในสงิ่ ที่ไม่ และโตแ้ ย้งในสิ่งทไ่ี ม่ และโต้แย้งในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กลา้ แสดงออก

มีความเสยี สละเพอื่ มีความเสยี สละเพอื่ ไม่คอ่ ยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางคร้ัง ส่วนรวม ชอบเอา

เปรียบไมเ่ ห็นแก่ตวั ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ ห็นแก่ เปรยี บคนอน่ื คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมคู่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแก้ไข
การกระทาทไี่ ม่ถูกตอ้ ง การกระทาท่ีไม่ถกู ต้อง การกระทาทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง
ทกุ ครง้ั ทาใบงานได้ เกือบทกุ ครั้ง ทาใบ เปน็ บางครง้ั ทาใบงาน
สะอาดเรยี บร้อยและ งานได้สะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทนั เวลา เรียบร้อย ไม่คอ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วสั ดุอุปกรณ์การ ใชว้ ัสดอุ ุปกรณก์ าร ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์การ

เรยี นทีร่ าคาถูกและใช้ เรียนทีร่ าคาค่อนขา้ ง เรยี นทรี่ าคาค่อนขา้ ง

อย่างคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างค้มุ คา่ แพงและใชอ้ ย่างคุม้ ค่า

หมดแล้วค่อยซ้ือใหม่ ใชจ้ นหมด ใช้ไมห่ มดแล้วซือ้ ใหม่

ใบงานที่ ๓
หนว่ ยที่ ๗

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓๙

กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย รหสั วิชา ท ๑๔๑๐๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๗ เรื่อง ชีวิตที่ถูกเมนิ เวลา ๗ ชัว่ โมง

เรือ่ ง คาสรรพนาม เวลา ๑ ชว่ั โมง

โรงเรียนบ้านปงตา ผู้สอน นางสาวชญาภา สขุ คา

สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลง

ของภาษาและพลังของภาษาภูมิปัญญาทางภาษาและรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชาติ

๑. สาระสาคัญ
๑. ความคดิ รวบยอด
ภาษาไทยจะมีคาที่ใช้เรียกแทนชื่อคน สัตว์ สิ่งของเครื่องใช้อยู่เป็นจานวนมาก คาท่ีใช้

เรียกช่ือดังกล่าวเรียกว่า “คาสรรพนาม” เพ่ือให้การเรียนรู้และการใช้ภาษาไทยเป็นอย่างมี
ประสิทธิภาพ นักเรียนควรทาความเข้าใจและนาไปใช้ให้ถูกต้อง จึงจะถือว่าการเรียนภาษาประสบ
ความสาเร็จ

๒. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

๒. ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ท ๔.๑ ข้อ ๑ สะกดคาและบอกความหมายของคาในบรบิ ทตา่ งๆ

๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. บอกความหมายของคาสรรพนามได้ถูกตอ้ ง
๒. อา่ น เขียนคาสรรพนามท่กี าหนดให้ได้ถูกตอ้ ง
๓. นาคาสรรพนามท่ีกาหนดให้ไปแตง่ ประโยคเพอื่ การส่ือสารได้ถูกต้อง

๔. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รกั ความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มจี ิตสาธารณะ

๔. มวี ินัย
๕. อยู่อย่างพอเพียง

๕. สาระการเรียนรู้
๑. คาสรรพนาม
๒. การแต่งประโยค
๓. การแสดงบทบาทสมมุติ

๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นท่ี ๑ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยคาท่ีถูกต้องในช้ันเรียนและ

เขยี นคาใหมจ่ ากบนกระดานลงในสมดุ
ข้นั ที่ ๒ นกั เรียนเลน่ เกม ลมเพลมพัด เพอ่ื ทบทวนความรู้เรอื่ งคา โดยนกั เรยี นล้อมวงเป็น

วงกลม ครูแจกบตั รคาให้นักเรยี นทุกคน เมอ่ื ครพู ูดว่า “ลมเพลมพดั ” นักเรยี นถาม “พัดอะไร” ครู
ตอบว่า “พัดคนถือบตั รคาท่ีเปน็ คาน้ันแล้วก็จะลกุ ว่ิงสลบั ท่กี บั เพอ่ื น ครูเปลี่ยนคาตอบไปเรื่อยๆ

ขน้ั ที่ ๓ ครแู สดงแถบประโยคแล้วให้นักเรียนอ่านแถบประโยคพร้อมๆ กัน จากน้นั บอกว่าคา
ใดเป็นคาสรรพนาม และเป็นคาสรรพนามชนิดใด เช่น

ฉนั ชอบกนิ มงั คุด เธอ ไมไปเท่ยี ว กบั เขา หรอื

เขา กบั หล่อน เปน็ เพื่อนกนั ดฉิ ัน เป็น ครคู นใหม่ของท่นี ่ี

ขน้ั ท่ี ๔ นกั เรียนแบ่งกลุ่มอา่ นเรื่อง คาสรรพนาม ในอธบิ ายเพิ่มเตมิ ความรู้ จากหนังสือเรยี น
ข้นั ที่ ๕ นกั เรียนฝึกแต่งประโยคปากเปล่า โดยใช้คาสรรพนามจากแถบประโยคท่อี ่าน
ข้ันท่ี ๖ นกั เรียนทาใบงานที่ ๔ – ๕ พรอ้ มกนั ในชัน้ เรยี นพรอ้ มเฉลย
ข้นั ที่ ๗ ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันสรปุ ความรเู้ ร่ืองคาสรรพนาม

๗. ช้นิ งาน/หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. ใบงานที่ ๔ – ๕
๒. เขียนตามคาบอก
๓. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละแบบประเมินผลงาน

๘. สอ่ื / แหล่งเรียนรู้
๑. เกม ลมเพลมพัด
๒. แถบประโยค
๓. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทยชุดภาษาเพ่อื ชีวิตภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔
๔. แบบฝกึ หัดรายวชิ าพ้ืนฐานภาษาไทยชุดภาษาเพ่ือชวี ิตทกั ษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔

๙. วดั ผลประเมนิ ผล วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือวดั ผลและประเมินผล
รายการประเมนิ - สงั เกต - แบบบนั ทึกการสงั เกต
- ซักถาม - ใบงานท่ี ๔ – ๕
• ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ - ตรวจใบงาน - เขยี นตามคาบอก
- การรว่ มสนทนา - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
- การตอบคาถาม - สงั เกตพฤติกรรมขณะรว่ ม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
- การทาใบงาน กิจกรรม
• ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึง แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
- การฝึกคิดแต่งประโยคคา
ประสงค์ สรรพนาม
• ด้านทักษะกระบวนการคดิ
การร่วมสนทนา

๑๐. เกณฑใ์ นการวัดผลและประเมินผล

๑) เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงคร์ ายบุคคลมคี ะแนน ๓ ระดบั คือ

ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๕

เกณฑ์การผ่านต้องได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึน้ ไปหรอื ไดค้ ะแนน ๖ ข้นึ ไป

๒) เกณฑก์ ารประเมนิ การทาใบงาน มีคะแนน ๓ ระดับ ดังนี้

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผ่านตอ้ งได้ระดับคณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือได้คะแนน ๕ ขึ้นไป

๓) เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดังนี้

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผา่ นตอ้ งไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขึน้ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ข้นึ ไป

การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหร้ ะดับคะแนน
รกั ความเปน็ ไทย
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐)
ใฝ่เรยี นรู้
มจี ิตสาธารณะ สนใจและต้งั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม สนใจและต้ังใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน
มวี ินัย ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอยา่ ง ภาษาไทยอยา่ ง
อยอู่ ยา่ งพอเพียง สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนกุ สนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสขุ เกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กล้าซกั ถามกล้าพดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

กล้าแสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น

และโตแ้ ยง้ ในสงิ่ ที่ไม่ และโตแ้ ย้งในสิ่งทไ่ี ม่ และโต้แย้งในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กลา้ แสดงออก

มีความเสยี สละเพอื่ มีความเสยี สละเพอื่ ไม่คอ่ ยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางคร้ัง ส่วนรวม ชอบเอา

เปรียบไมเ่ ห็นแก่ตวั ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ ห็นแก่ เปรยี บคนอน่ื คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมคู่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแก้ไข
การกระทาทไี่ ม่ถูกตอ้ ง การกระทาท่ีไม่ถกู ต้อง การกระทาทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง
ทกุ ครง้ั ทาใบงานได้ เกือบทกุ ครั้ง ทาใบ เปน็ บางครง้ั ทาใบงาน
สะอาดเรยี บร้อยและ งานได้สะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทนั เวลา เรียบร้อย ไม่คอ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วสั ดุอุปกรณ์การ ใชว้ ัสดอุ ุปกรณก์ าร ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์การ

เรยี นทีร่ าคาถูกและใช้ เรียนทีร่ าคาคอ่ นขา้ ง เรยี นทรี่ าคาค่อนขา้ ง

อย่างคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างค้มุ คา่ แพงและใชอ้ ย่างคุม้ ค่า

หมดแล้วค่อยซ้ือใหม่ ใชจ้ นหมด ใช้ไมห่ มดแล้วซือ้ ใหม่

ใบงานที่ ๔
หนว่ ยท่ี ๗

ใบงานที่ ๕
หนว่ ยท่ี ๗

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๔๐

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รหสั วิชา ท ๑๔๑๐๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๗ เรอ่ื ง ชีวติ ท่ถี กู เมิน เวลา ๗ ชว่ั โมง

เร่ือง คากรยิ า เวลา ๑ ช่ัวโมง

โรงเรียนบ้านปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สุขคา

สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลง

ของภาษาและพลงั ของภาษาภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ

๑. สาระสาคัญ
๑. ความคดิ รวบยอด
คากริยา คือ คาท่ีหมายถึง กระทามอี าการอยู่ในสภาพ แบ่งออกเป็นหลายชนดิ มหี น้าท่แี ละ

วิธีใช้แตกต่างกันการเรียนรู้คากริยา ช่วยให้สามารถนาไปใช้ผูกเป็นประโยคได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
เป็นพัฒนาการใช้ภาษาให้มปี ระสทิ ธภิ าพ

๒. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

๒. ตวั ชี้วัด
ท ๔.๑ ป.๔/ ๒ ระบุชนดิ และหน้าที่ของคาในประโยค

๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. อธบิ ายความหมายของคากรยิ าแต่ละชนิดได้
๒. บอกชนดิ ตา่ งๆ ของคากริยาได้
๓. ยกตัวอย่างกรยิ าชนิดต่างๆ ได้

๔. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
๑. รกั ความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มีวินัย

๕. อยู่อย่างพอเพียง

๕. สาระการเรยี นรู้
๑. ความหมายของคากรยิ าแต่ละชนิด
๒. ชนดิ ตา่ งๆ ของคากรยิ า
๓. ตวั อยา่ งกรยิ าชนดิ ต่างๆ

๖. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขั้นท่ี ๑ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยคาที่ถูกต้องในช้ันเรียนและ

เขียนคาใหม่จากบนกระดานลงในสมดุ
ขั้นท่ี ๒ ทบทวนความร้เู ดมิ เรอ่ื ง คานาม และคาสรรพนาม โดยใช้บัตรคา
ข้ันที่ ๓ ครูวางบตั รคาลงบนกระดานดาให้เป็นประโยค เช่น

แม่ ไป ตลาด

ให้นกั เรยี นเลือกบัตรคาท่ีเป็นคากริยา โดยครูปฏิบัติกจิ กรรมน้ี ๔ – ๕ ประโยค
ขน้ั ที่ ๔ นกั เรียนแบ่งกลุ่มอ่าน เรอ่ื ง คากริยา ในอธิบายเพ่มิ เตมิ ความรู้ จากหนังสือเรียน
ขั้นท่ี ๕ นักเรยี นหาคากรยิ าจากหนงั สอื เรียน เรอื่ ง ชวี ติ ทถี่ กู เมิน
ขัน้ ท่ี ๖ นกั เรยี นทาใบงานที่ ๖ - ๗ พรอ้ มกนั ในชั้นเรียน ถ้าทาไมเ่ สรจ็ ให้ทาต่อเป็นการบ้าน
ขน้ั ที่ ๗ ครแู ละนกั เรียนช่วยกันสรุปความรู้เรือ่ งคากริยา

๗. ชิน้ งาน/หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. ใบงานท่ี ๖ - ๗
๒. เขียนตามคาบอก
๓. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์และแบบประเมนิ ผลงาน

๘. สอ่ื / แหล่งเรียนรู้
๑. บัตรคา
๒. หนังสือเรียนรายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทยชดุ ภาษาเพื่อชวี ิตภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔
๓. แบบฝึกหัดรายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทยชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวติ ทักษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔

๙. วัดผลประเมินผล วิธีการวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือวดั ผลและประเมินผล
รายการประเมนิ - สังเกต - แบบบันทกึ การสงั เกต
- ซักถาม - ใบงานท่ี ๖ - ๗
• ด้านความรู้ความเขา้ ใจ - ตรวจใบงาน - เขียนตามคาบอก
- การร่วมสนทนา - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
- การตอบคาถาม - สังเกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
- การทาใบงาน กจิ กรรม
• ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึง แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
- ฝึกคดิ เลอื กบตั รคาเพื่อ
ประสงค์ นามาแต่งประโยค
• ดา้ นทกั ษะกระบวนการคดิ
การร่วมสนทนา

๑๐. เกณฑใ์ นการวัดผลและประเมนิ ผล

๑) เกณฑ์ประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงคร์ ายบคุ คลมคี ะแนน ๓ ระดบั คอื

ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๖ – ๗

ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๕

เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๖ ขนึ้ ไป

๒) เกณฑ์การประเมินการทาใบงาน มคี ะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผา่ นตอ้ งได้ระดบั คณุ ภาพ ๒ ข้ึนไปหรือได้คะแนน ๕ ข้ึนไป

๓) เกณฑ์การประเมนิ การเขยี นตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผา่ นตอ้ งไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขึ้นไป

การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหร้ ะดับคะแนน
รกั ความเปน็ ไทย
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐)
ใฝ่เรยี นรู้
มจี ิตสาธารณะ สนใจและต้งั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม สนใจและต้ังใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน
มวี ินัย ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอยา่ ง ภาษาไทยอยา่ ง
อยอู่ ยา่ งพอเพียง สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนกุ สนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสขุ เกือบ ความสขุ เป็นบางครงั้
ตลอดเวลา

กล้าซกั ถามกล้าพดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

กล้าแสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น

และโตแ้ ยง้ ในสงิ่ ที่ไม่ และโตแ้ ย้งในสิ่งทไ่ี ม่ และโต้แย้งในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กลา้ แสดงออก

มีความเสยี สละเพอื่ มีความเสยี สละเพอื่ ไม่คอ่ ยเสียสละเพ่อื

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางคร้ัง ส่วนรวม ชอบเอา

เปรียบไมเ่ ห็นแก่ตวั ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ ห็นแก่ เปรยี บคนอน่ื คอ่ นข้าง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมคู่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแกไ้ ข
การกระทาทไี่ ม่ถูกตอ้ ง การกระทาท่ีไม่ถกู ต้อง การกระทาทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง
ทกุ ครง้ั ทาใบงานได้ เกือบทกุ ครั้ง ทาใบ เปน็ บางครง้ั ทาใบงาน
สะอาดเรยี บร้อยและ งานได้สะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทนั เวลา เรียบร้อย ไม่คอ่ ย เรียบร้อยและไมค่ ่อย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วสั ดุอุปกรณ์การ ใชว้ ัสดอุ ุปกรณก์ าร ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์การ

เรยี นทีร่ าคาถูกและใช้ เรียนทีร่ าคาค่อนขา้ ง เรยี นทรี่ าคาค่อนข้าง

อย่างคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างค้มุ คา่ แพงและใชอ้ ย่างคุ้มค่า

หมดแล้วค่อยซ้ือใหม่ ใชจ้ นหมด ใช้ไมห่ มดแล้วซือ้ ใหม่

ใบงานที่ ๖
หนว่ ยท่ี ๗

ใบงานที่ ๗
หนว่ ยที่ ๗

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๔๑

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รหัสวิชา ท ๑๔๑๐๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๗ เรอ่ื ง น้าผึง้ หยดเดยี ว เวลา ๗ ชว่ั โมง

เรอ่ื ง คาวเิ ศษณ์ เวลา ๑ ช่วั โมง

โรงเรียนบ้านปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สุขคา

สาระที่ ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลง

ของภาษาและพลงั ของภาษาภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ

๑. สาระสาคญั
๑. ความคดิ รวบยอด
คาวิเศษณ์คือคาที่ใช้ขยายคากริยาและคาอ่ืนๆ ให้มีความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น ผู้เรียนต้อง

เรยี นรู้กฎเกณฑ์และวิธกี ารนาไปใชใ้ ห้ถูกต้องตามบริบทเพอื่ ให้การสือ่ สารมีประสทิ ธิภาพยง่ิ ข้ึน
๒. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
- ความสามารถในการคิด

๒. ตัวช้ีวัด
ท ๔.๑ ป.๔/ ๒ ระบชุ นิดและหน้าท่ีของคาในประโยค

๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. บอกความหมายของคาวเิ ศษณ์ได้
๒. ใช้คาวิเศษณไ์ ด้ถูกต้องตามบรบิ ท
๓. แต่งประโยคด้วยคาวเิ ศษณ์

๕. สาระการเรยี นรู้
๑. ความหมายของคาวเิ ศษณ์
๒. หน้าท่ีของคาวเิ ศษณ์
๓. การใชค้ าวิเศษณ์

๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้ันท่ี ๑ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยคาที่ถูกต้องในชั้นเรียนและ

เขยี นคาใหมจ่ ากบนกระดานลงในสมุด
ขัน้ ที่ ๒ ครวู างแถบประโยคท่ียงั ไม่มีคาวิเศษณ์บนกระเป๋าผนงั นักเรยี นอ่านประโยคพร้อม

กัน เช่น ฉัน ใส่ เส้ือ จากน้นั ให้วางบตั รคาต่อท้าย เช่น สีขาว

ฉนั ใสเสื้อ สีขาว

มาของฉนั วง่ิ เร็ว มาก

ขน้ั ท่ี ๓ ครสู รปุ ว่าคาท่ีนามาตอ่ ท้ายประโยคเหล่าน้ีเรียกว่า คาวเิ ศษณ์
ขั้นท่ี ๔ นกั เรยี นอ่านเรอื่ งคาวิเศษณ์ ในอธบิ ายเพิม่ เตมิ ความรู้ ในหนงั สอื เรียน
ขน้ั ที่ ๕ แต่ละคนชว่ ยกันหาคาวเิ ศษณ์จากบทเรยี น ชวี ิตที่ถูกเมนิ แล้วบันทกึ คาวเิ ศษณ์ทหี่ า
ได้ลงในสมดุ
ข้ันที่ ๖ นกั เรยี นทาใบงานที่ ๘ พร้อมกนั ในชั้นเรยี นและเฉลยคาทถ่ี ูกตอ้ ง
ขัน้ ที่ ๗ นักเรียนทาแบบฝึกทา้ ยบท หนา้ ๕๔-๕๕ ข้อ ๔
ขัน้ ท่ี ๙ นกั เรยี นแต่ละกลุ่มจดั ทาสมุดรวบรวมชนดิ ของคา ได้แก่ คานาม คาสรรพนาม
คากรยิ า คาวิเศษณ์ นาสง่ ชิ้นงานของกลุ่ม (ทานอกเวลา)

๗. ช้นิ งาน/หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. ใบงานท่ี ๘
๒. แบบฝึกท้ายบท หน้า ๕๔-๕๕ ข้อ ๔
๓. เขยี นตามคาบอก
๔. แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละแบบประเมนิ ผลงาน

๘. สื่อ/ แหล่งเรียนรู้
๑. เกมตามล่าหาคู่
๒. บัตรคา
๓. หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาไทยชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ติ ภาษาพาที ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
๔. แบบฝกึ หัดรายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทยชุดภาษาเพื่อชวี ติ ทกั ษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

๙. วดั ผลประเมินผล วธิ ีการวัดและประเมินผล เครอื่ งมอื วดั ผลและประเมินผล
รายการประเมิน - สังเกต - แบบบนั ทึกการสงั เกต
- ซกั ถาม - ใบงานที่ ๘
• ดา้ นความรคู้ วามเข้าใจ - ตรวจใบงาน - แบบฝึกท้ายบท หนา้ ๕๔-๕๕
- การรว่ มสนทนา ขอ้ ๔
- การตอบคาถาม - สงั เกตพฤตกิ รรมขณะร่วม - เขียนตามคาบอก
- การทาใบงาน กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
- แบบประเมินผลงานรายบุคคล
• ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ - คิด วเิ คราะห์ แยกแยะ
ประสงค์ ประเภทของคา แบบประเมินผลงานรายบคุ คล

• ดา้ นทักษะกระบวนการคดิ
การรว่ มสนทนา

๑๐. เกณฑใ์ นการวัดผลและประเมนิ ผล

๑) เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอันพึงประสงคร์ ายบุคคลมีคะแนน ๓ ระดับ คอื

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ไดค้ ะแนน ๘ – ๑๐

ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๖ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๕

เกณฑ์การผ่านตอ้ งได้ระดบั คุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๖ ข้ึนไป

๒) เกณฑ์การประเมินการทาใบงาน มคี ะแนน ๓ ระดบั ดังนี้

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผ่านต้องไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขึ้นไปหรือได้คะแนน ๕ ขึ้นไป

๓) เกณฑก์ ารประเมินการทาแบบฝึกหัด มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผา่ นต้องได้ระดับคณุ ภาพ ๒ ข้ึนไปหรือได้คะแนน ๕ ขึ้นไป

๔) เกณฑก์ ารประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดับคุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขน้ึ ไป

การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหร้ ะดับคะแนน
รกั ความเปน็ ไทย
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐)
ใฝ่เรยี นรู้
มจี ิตสาธารณะ สนใจและต้งั ใจร่วม สนใจและตัง้ ใจร่วม สนใจและต้ังใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน
มวี ินัย ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอยา่ ง ภาษาไทยอยา่ ง
อยอู่ ยา่ งพอเพียง สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนกุ สนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสขุ เกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กล้าซกั ถามกล้าพดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

กล้าแสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น

และโตแ้ ยง้ ในสงิ่ ที่ไม่ และโตแ้ ย้งในสิ่งทไ่ี ม่ และโต้แย้งในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กลา้ แสดงออก

มีความเสยี สละเพอื่ มีความเสยี สละเพอื่ ไม่คอ่ ยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางคร้ัง ส่วนรวม ชอบเอา

เปรียบไมเ่ ห็นแกต่ วั ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ ห็นแก่ เปรยี บคนอน่ื คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมคู่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแก้ไข
การกระทาทไี่ ม่ถูกตอ้ ง การกระทาท่ีไม่ถกู ต้อง การกระทาทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง
ทกุ ครง้ั ทาใบงานได้ เกือบทกุ ครั้ง ทาใบ เปน็ บางครง้ั ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานได้สะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทนั เวลา เรียบร้อย ไม่คอ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วสั ดุอุปกรณ์การ ใชว้ ัสดอุ ุปกรณก์ าร ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์การ

เรยี นทีร่ าคาถูกและใช้ เรียนทีร่ าคาค่อนขา้ ง เรยี นทรี่ าคาค่อนขา้ ง

อย่างคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างค้มุ คา่ แพงและใชอ้ ย่างคุม้ ค่า

หมดแล้วค่อยซ้ือใหม่ ใชจ้ นหมด ใช้ไมห่ มดแล้วซือ้ ใหม่

ใบงานที่ ๘
หนว่ ยที่ ๗

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔๒

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รหสั วิชา ท ๑๔๑๐๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เรอื่ ง นา้ ผ้งึ หยดเดียว เวลา ๗ ชวั่ โมง

เรื่อง ประโยคเพ่อื การสอ่ื สาร เวลา ๑ ชัว่ โมง

โรงเรียนบา้ นปงตา ผู้สอน นางสาวชญาภา สขุ คา

สาระที่ ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลง

ของภาษาและพลงั ของภาษาภูมิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ

๑. สาระสาคญั
๑. ความคิดรวบยอด
การเขียนและใช้ประโยคได้ถกู ตอ้ ง ทาให้ผู้พูดและผู้ฟังมคี วามเขา้ ใจที่ตรงกนั ช่วยให้การ

ส่อื สารเป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
๒. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการส่ือสาร

๒. ตัวช้ีวัด
ท ๔.๑ ป.๔/ ๔ แตง่ ประโยคได้ถกู ต้องตามหลกั ภาษา

๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. แต่งประโยคได้
๒. นาประโยคไปใช้ในการสื่อสารได้ถกู ตอ้ ง

๔. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวนิ ัย
๕. อยู่อย่างพอเพียง

๕. สาระการเรียนรู้
- ประโยคเพ่ือการสอ่ื สาร

๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้

ข้ันที่ ๑ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยคาที่ถูกต้องในช้ันเรียนและ

เขยี นคาใหมจ่ ากบนกระดานลงในสมดุ

ข้ันท่ี ๒ ครแู สดงแถบประโยคชนดิ ตา่ งๆ ให้นกั เรยี นอา่ นแล้ว บอกว่าเป็นประโยคชนดิ ใด เช่น

แม่เปน็ ชา่ งตัดเส้อื (ประโยคบอกเล่า)

นอ้ งไม่ชอบเรยี นหนังสือ (ประโยคปฏิเสธ)

ขั้นที่ ๓ นักเรยี นอ่านเรอ่ื ง ประโยคเพอื่ การสอ่ื สาร ในอธิบายเพิม่ เตมิ ความรู้ ในหนงั สือเรียน

ข้ันที่ ๔ นักเรียนช่วยกันเขียนประโยคชนิดตา่ งๆ ลงในกระดาษ คนละ ๑ ประโยค นาเสนอ

หน้าช้นั เรียน ให้เพ่อื นช่วยบอกว่าเปน็ ประโยคชนดิ ใด

ขน้ั ท่ี ๕ ครูเพิ่มเติมโดยแสดงแถบประโยค แล้วใหน้ ักเรียนอ่านแล้วบอกวา่ เป็นประโยคชนิด

ใด

ขนั้ ที่ ๖ ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันสรุปความรู้เรือ่ งประโยคเพ่ือการส่อื สาร

ขน้ั ท่ี ๗ นักเรียนทาใบงานที่ ๙ – ๑๐ พรอ้ มกนั ในชน้ั เรยี น ถ้าไมเ่ สร็จทาต่อเป็นการบ้าน

๗. ชนิ้ งาน/หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. ใบงานท่ี ๙ – ๑๐
๒. เขยี นตามคาบอก
๓. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์และแบบประเมนิ ผลงาน

๘. สอื่ / แหลง่ เรยี นรู้
๑. เกมเธอถามฉนั ตอบ
๒. แถบประโยค
๓. หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานภาษาไทยชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔
๔. แบบฝกึ หัดรายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทยชดุ ภาษาเพื่อชีวิตทกั ษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

๙. วดั ผลประเมนิ ผล วิธีการวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือวดั ผลและประเมินผล
รายการประเมิน - สังเกต - แบบบนั ทึกการสงั เกต
- ซักถาม - ใบงานท่ี ๙ – ๑๐
• ดา้ นความรู้ความเข้าใจ - ตรวจใบงาน - เขยี นตามคาบอก
- การร่วมสนทนา - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
- การตอบคาถาม - สังเกตพฤติกรรมขณะร่วม - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
- การทาแบบฝกึ หดั กจิ กรรม
• ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึง แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
- การฝึกคดิ ฝึกตอบคาถาม
ประสงค์
• ดา้ นทกั ษะกระบวนการคดิ
การร่วมสนทนา

๑๐. เกณฑ์ในการวัดผลและประเมนิ ผล

๑) เกณฑป์ ระเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์รายบคุ คลมคี ะแนน ๓ ระดับ คือ

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ไดค้ ะแนน ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๖ – ๗

ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๕

เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดับคุณภาพ ๒ ข้นึ ไปหรือได้คะแนน ๖ ข้นึ ไป

๒) เกณฑก์ ารประเมินการทาใบงาน มีคะแนน ๓ ระดับ ดังนี้

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผ่านตอ้ งได้ระดบั คุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขึน้ ไป

๓) เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐

ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผา่ นตอ้ งไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ข้ึนไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขึ้นไป

การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหร้ ะดับคะแนน
รกั ความเปน็ ไทย
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐)
ใฝ่เรยี นรู้
มจี ิตสาธารณะ สนใจและต้งั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม สนใจและต้ังใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน
มวี ินัย ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอยา่ ง ภาษาไทยอยา่ ง
อยอู่ ยา่ งพอเพียง สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนกุ สนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสขุ เกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กล้าซกั ถามกล้าพดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

กล้าแสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น

และโตแ้ ยง้ ในสงิ่ ที่ไม่ และโตแ้ ย้งในสิ่งทไ่ี ม่ และโต้แย้งในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กลา้ แสดงออก

มีความเสยี สละเพอื่ มีความเสยี สละเพอื่ ไม่คอ่ ยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางคร้ัง ส่วนรวม ชอบเอา

เปรียบไมเ่ ห็นแก่ตวั ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ ห็นแก่ เปรยี บคนอน่ื คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมคู่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแก้ไข
การกระทาทไี่ ม่ถูกตอ้ ง การกระทาท่ีไม่ถกู ต้อง การกระทาทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง
ทกุ ครง้ั ทาใบงานได้ เกือบทกุ ครั้ง ทาใบ เปน็ บางครง้ั ทาใบงาน
สะอาดเรยี บร้อยและ งานได้สะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทนั เวลา เรียบร้อย ไม่คอ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วสั ดุอุปกรณ์การ ใชว้ ัสดอุ ุปกรณก์ าร ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์การ

เรยี นทีร่ าคาถูกและใช้ เรียนทีร่ าคาค่อนขา้ ง เรยี นทรี่ าคาค่อนขา้ ง

อย่างคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างค้มุ คา่ แพงและใชอ้ ย่างคุม้ ค่า

หมดแล้วค่อยซ้ือใหม่ ใชจ้ นหมด ใช้ไมห่ มดแล้วซือ้ ใหม่

ใบงานที่ ๙
หนว่ ยที่ ๗

ใบงานที่ ๑๐
หนว่ ยท่ี ๗


Click to View FlipBook Version