The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน หน่วยที่ ๙ ระบำสายฟ้า

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 621166010, 2022-07-24 21:47:44

หน่วยที่ ๙ ระบำสายฟ้า

แผนการสอน หน่วยที่ ๙ ระบำสายฟ้า

Keywords: แผนการสอน หน่วยที่ ๙ ระบำสายฟ้า

ตารางกาหนดการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔

หนว่ ยท่ี ๙ ระบาสายฟ้า เวลา ๔ ชวั่ โมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา
๔ ชม.

ระบาสายฟา้ ๔
๑. อ่านในใจและเกบ็ ใจความสาคัญของเรือ่ งทีอ่ ่านได้ - การอ่านในใจ ๑

๒. ถา่ ยโอนเรอ่ื งราวทอี่ ่านไปสู่ผ้อู นื่ ได้ - การอ่านบทร้อยกรอง ๑
๓. เขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื งได้ - การอ่านเสริมบทเรียน ๑
๔. นักเรยี นอ่านบทร้อยกรองเป็นทานองเสนาะได้ - การวเิ คราะห์บทเรียน ๑

๕. นกั เรียนถอดความหมายคาประพันธ์รอ้ ยกรองได้
๖. นักเรียนตอบคาถามเกยี่ วกับบทร้อยกรองได้
๗. นกั เรียนอ่านและเก็บใจความสาคัญของเร่อื งได้

๘. นกั เรียนคิด วิเคราะห์สรุปเรื่องราวที่อ่าน
๙. นักเรยี นต้ังคาถาม – ตอบคาถามเรอื่ งท่อี ่านได้

๑๐. มคี วามรอบคอบในการทางาน
๑๑. ยอมรับในขอ้ ตกลงของกลุ่มได้
๑๒. มีความภาคภมู ิใจในภาษาไทย

๑๓. บอกสาระเกีย่ วกับเนอ้ื หาในบทเรยี นได้

๑๔. รู้จกั ประหยัดอดออม

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๔๘

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รหสั วิชา ท ๑๔๑๐๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๙ เรอ่ื ง ระบาสายฟ้า เวลา ๔ ชัว่ โมง

เร่อื ง การอ่านในใจ เวลา ๑ ช่ัวโมง

โรงเรียนบ้านปงตา ผู้สอน นางสาวชญาภา สขุ คา

สาระท่ี ๑ การอ่าน

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจ

แก้ปัญหา และสร้างวสิ ยั ทศั น์ในการดาเนินชีวิต และมนี สิ ัยรกั การอ่าน

๑. สาระสาคญั
๑. ความคดิ รวบยอด
การอ่านในใจเป็นการอ่านท่ีเข้าใจเรือ่ งราวได้เพียงคนเดียว ผู้อ่านต้องใช้สมาธิ สติในการอ่าน

ศึกษาคายากตั้งจุดหมายในการอ่าน อ่านอย่างพินิจพิจารณา จะทาให้จับใจความสาคัญของเรื่องท่ี
อ่าน สามารถตอบคาถามลาดับเหตุการณ์ของเรื่อง และนาไปเขียนเป็นแผนภาพโครงเร่ือง เพ่ือการ
เล่าเร่ืองและเขยี นเรอ่ื งได้

๒. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

๒. ตัวช้ีวดั
ท ๑.๑ ป.๔/๓ อ่านเรือ่ งสั้นๆ ตามเวลาท่ีกาหนดและตอบคาถามจากเรอื่ งท่ีอ่าน

๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. อ่านในใจและเก็บใจความสาคัญของเรอ่ื งทอ่ี ่านได้
๒. ถ่ายโอนเรอ่ื งราวทอี่ ่านไปสู่ผู้อน่ื ได้
๓. เขียนแผนภาพโครงเรือ่ งได้

๔. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รกั ความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มีวินัย
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง

๕. สาระการเรยี นรู้
๑. อ่านในใจบทเรียนเร่ือง “ระบาสายฟ้า”
๒. การเขียนแผนภาพโครงเรอื่ ง “ระบาสายฟ้า”

๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขน้ั ที่ ๑ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา และแลกกันตรวจ จากน้ันคดั คาใหมล่ งใน

สมดุ
ข้นั ที่ ๒ ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ทากจิ กรรมชวนคิด ชวนคุย ขอ้ ๑ ในหนงั สือเรยี น
ขน้ั ท่ี ๓ นกั เรยี นเร่อื ง ระบาสายฟ้า ในหนงั สอื เรยี น ครสู งั เกตพฤติกรรมการอ่านในใจของแต่

ละคน เมือ่ อา่ นเสรจ็ ให้นกั เรียนผลดั เปลีย่ นกนั ถาม ตอบแสดงความคิดเหน็ เชงิ วจิ ารณ์ ครูอธบิ าย
เพิ่มเตมิ ครแู ละนักเรยี นช่วยกันสรปุ เนื้อเร่อื ง

ขั้นที่ ๔ ทาแบบฝึกหัดท้ายบท หน้า ๖๐ – ๖๑ ข้อที่ ๑ – ๒
ขัน้ ที่ ๕ ครูและนักเรยี นช่วยกนั สรุปข้อคดิ ทีไ่ ดจ้ ากการอ่านเรอ่ื งระบาสายฟ้า
ขน้ั ที่ ๖ นกั เรยี นทาใบงานที่ ๑ เป็นการบ้าน

๗. ช้นิ งาน/หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. เขยี นตามคาบอก
๒. แบบฝึกหัดท้ายบท หนา้ ๖๐ – ๖๑ ขอ้ ท่ี ๑ – ๒
๓. ใบงานที่ ๑
๔. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์และแบบประเมนิ ผลงาน

๘. สื่อ/ แหล่งเรียนรู้
๑. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานภาษาไทยชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ติ วรรณคดีลานาช้ันประถมศกึ ษาปี

ที่ ๔
๒. แบบฝกึ หัดรายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทยชุดภาษาเพ่ือชวี ติ ทกั ษะภาษาชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

๙. วดั ผลประเมินผล วิธกี ารวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื วดั ผลและประเมินผล
รายการประเมนิ - สังเกต - แบบบันทึกการสงั เกต
- ซกั ถาม - เขียนตามคาบอก
• ดา้ นความรู้ความเข้าใจ - ตรวจใบงาน/แบบฝึกหัด - แบบฝึกหดั ท้ายบท หน้า ๖๐ –
- การร่วมสนทนา ๖๑ ขอ้ ท่ี ๑ – ๒
- การตอบคาถาม - สังเกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - ใบงานท่ี ๑
- แบบฝกึ หดั กจิ กรรม - แบบประเมินผลงานรายบุคคล
- แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
• ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ - การคดิ แสดงความคดิ เห็น
ประสงค์ เชิงวจิ ารณ์ แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล

• ด้านทกั ษะกระบวนการคดิ
การรว่ มสนทนา

๑๐. เกณฑ์ในการวัดผลและประเมนิ ผล

๑) เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงคร์ ายบคุ คลมคี ะแนน ๓ ระดับ คอื

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๕

เกณฑ์การผา่ นตอ้ งไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรือไดค้ ะแนน ๖ ขน้ึ ไป

๒) เกณฑ์การประเมินการทาใบงาน มคี ะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผา่ นตอ้ งได้ระดบั คุณภาพ ๒ ข้ึนไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขึ้นไป

๓) เกณฑ์การประเมนิ การทาแบบฝึกหัด มีคะแนน ๓ ระดับ ดังนี้

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผ่านตอ้ งไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึน้ ไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขน้ึ ไป

๔) เกณฑก์ ารประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดับคุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขน้ึ ไป

การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหร้ ะดับคะแนน
รกั ความเปน็ ไทย
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐)
ใฝ่เรยี นรู้
มจี ิตสาธารณะ สนใจและต้งั ใจร่วม สนใจและตัง้ ใจร่วม สนใจและต้ังใจร่วม
กิจกรรมการเรียน กจิ กรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน
มวี ินัย ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอยา่ ง ภาษาไทยอยา่ ง
อยอู่ ยา่ งพอเพียง สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนกุ สนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสขุ เกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กล้าซกั ถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

กล้าแสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น

และโตแ้ ยง้ ในสง่ิ ที่ไม่ และโตแ้ ย้งในสิ่งทไ่ี ม่ และโต้แย้งในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กลา้ แสดงออก

มีความเสยี สละเพอื่ มีความเสยี สละเพอื่ ไม่คอ่ ยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางคร้ัง ส่วนรวม ชอบเอา

เปรียบไมเ่ ห็นแก่ตวั ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ ห็นแก่ เปรยี บคนอน่ื คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมคู่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแก้ไข
การกระทาทไี่ ม่ถูกตอ้ ง การกระทาท่ีไม่ถกู ต้อง การกระทาทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง
ทกุ ครง้ั ทาใบงานได้ เกือบทกุ ครั้ง ทาใบ เปน็ บางครง้ั ทาใบงาน
สะอาดเรยี บร้อยและ งานได้สะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทนั เวลา เรียบร้อย ไม่คอ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วสั ดุอุปกรณก์ าร ใชว้ ัสดอุ ุปกรณก์ าร ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์การ

เรยี นทีร่ าคาถูกและใช้ เรียนทีร่ าคาค่อนขา้ ง เรยี นทรี่ าคาค่อนขา้ ง

อย่างคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างค้มุ คา่ แพงและใชอ้ ย่างคุม้ ค่า

หมดแล้วค่อยซื้อใหม่ ใชจ้ นหมด ใช้ไมห่ มดแล้วซือ้ ใหม่

ใบงานที่ ๑
หนว่ ยที่ ๙

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๔๙

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รหสั วิชา ท ๑๔๑๐๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๙ เรอ่ื ง ระบาสายฟ้า เวลา ๔ ช่วั โมง

เรอื่ ง การอ่านบทร้อยกรอง เวลา ๑ ชว่ั โมง

โรงเรยี นบา้ นปงตา ผู้สอน นางสาวชญาภา สุขคา

สาระท่ี ๑ การอ่าน

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจ

แก้ปญั หา และสร้างวิสยั ทศั น์ในการดาเนินชีวติ และมนี ิสยั รักการอ่าน

๑. สาระสาคญั
๑. ความคิดรวบยอด
การอ่านทานองเสนาะเป็นการใช้ศิลปะในการอ่านเพื่อให้เกิดอรรถรสในน้าเสียงและลีลาท่ี

เปล่งออกมาผู้อา่ นต้องหมน่ั ฝึกฝนและมีพรสวรรค์ในด้านนี้จงึ จะทาใหเ้ กิดความไพเราะอย่างแท้จริง
๒. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการสื่อสาร

๒. ตวั ชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๔/๗ อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง

๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นักเรยี นอ่านบทร้อยกรองเป็นทานองเสนาะได้
๒. นกั เรยี นถอดความหมายคาประพนั ธ์รอ้ ยกรองได้
๓. นกั เรยี นตอบคาถามเกย่ี วกับบทร้อยกรองได้

๔. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๑. รกั ความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรียนรู้
๓. มจี ติ สาธารณะ
๔. มีวนิ ัย
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

๕. สาระการเรียนรู้
๑. การอ่านบทเห่กลอ่ มพระบรรทม เห่เรื่องจับระบา
๒. การถอดคาประพนั ธ์บทร้อยกรอง

๖. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี ๑ นกั เรยี นเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยบทกระดานและคัดคาใหม่ลง

ในสมุด
ขั้นที่ ๒ จากนั้นอ่านออกเสยี งบตั รคาในบทเรียน ครแู ละนักเรียนช่วยกันอภิปรายความหมาย

และอ่านเพมิ่ เตมิ ในศัพท์และขอ้ ความในหนังสือเรยี น แล้วจาแนกคาศพั ท์เป็นกลุ่มตามมาตราตัวสะกด
และฝึกอ่านอกี ครัง้ หนงึ่

ขนั้ ที่ ๓ นกั เรียนอา่ น อธิบายเพิ่ม เติมความรู้ในหนังสอื เรยี น ครูและนักเรียนช่วยกันอภปิ ราย
สรปุ ความรู้ท่ีได้จากการอ่าน

ขั้นท่ี ๔ ให้นักเรียนอ่านบทเห่กล่อมพระบรรทม เห่จับระบาในบทเรียนพร้อมๆ กัน ครสู าธิต
วิธีการอ่านกาพย์ยานี ๑๑ เปน็ ทานองเสนาะ นักเรยี นฝึกอ่านตามพร้อมๆ กัน (ให้ไปฝึกอ่านนอกเวลา
เรียนและมาอ่านให้ครฟู ังทีละคน)

ขั้นท่ี ๕ ทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท วรรณคดลี านา หนา้ ๖๒ – ๖๓ พรอ้ มกนั ในชน้ั เรยี น
ขนั้ ท่ี ๖ ครูและนกั เรียนช่วยกันสรุปบทเรียน
ขน้ั ที่ ๗ นกั เรยี นทาใบงานที่ ๒ เป็นการบา้ น

๗. ช้นิ งาน/หลกั ฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. เขียนตามคาบอก
๒. แบบฝกึ หัดทา้ ยบท วรรณคดีลานา หนา้ ๖๒ – ๖๓
๓. ใบงานท่ี ๒
๔. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละแบบประเมนิ ผลงาน

๘. สอื่ / แหล่งเรียนรู้
๑. หนังสือเรียนรายวิชาพืน้ ฐานภาษาไทยชดุ ภาษาเพ่ือชีวิตวรรณคดีลานา ช้ันประถมศกึ ษาปี

ที่ ๔
๒. แบบฝกึ หัดรายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทยชดุ ภาษาเพ่ือชวี ิตทักษะภาษา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔

๙. วดั ผลประเมินผล วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือวดั ผลและประเมนิ ผล
รายการประเมิน - สังเกต - แบบบันทึกการสงั เกต
- ซักถาม - เขียนตามคาบอก
• ด้านความรู้ความเข้าใจ - ตรวจใบงาน/แบบฝกึ หดั - แบบฝึกหดั ทา้ ยบท วรรณคดีลา
- การร่วมสนทนา นา หนา้ ๖๒ – ๖๓
- การตอบคาถาม - สงั เกตพฤติกรรมขณะร่วม - ใบงานที่ ๒
- แบบฝึกหัด กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
- แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
• ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึง - การคดิ อภปิ ราย
ประสงค์ แบบประเมินผลงานรายบคุ คล

• ด้านทกั ษะกระบวนการคดิ
การร่วมสนทนา

๑๐. เกณฑ์ในการวัดผลและประเมินผล

๑) เกณฑป์ ระเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์รายบุคคลมคี ะแนน ๓ ระดบั คือ

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๕

เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดับคณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ไดค้ ะแนน ๖ ขนึ้ ไป

๒) เกณฑก์ ารประเมินการทาใบงาน มคี ะแนน ๓ ระดับ ดังน้ี

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐

ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผ่านต้องไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ข้นึ ไป

๓) เกณฑก์ ารประเมนิ การทาแบบฝกึ หัด มีคะแนน ๓ ระดับ ดังน้ี

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผ่านตอ้ งไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขนึ้ ไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขน้ึ ไป

๔) เกณฑก์ ารประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึน้ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขึน้ ไป

การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหร้ ะดับคะแนน
รกั ความเปน็ ไทย
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐)
ใฝ่เรยี นรู้
มจี ิตสาธารณะ สนใจและต้งั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม สนใจและต้ังใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน
มวี ินัย ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอยา่ ง ภาษาไทยอยา่ ง
อยอู่ ยา่ งพอเพียง สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนกุ สนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสขุ เกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กล้าซกั ถามกล้าพดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

กล้าแสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น

และโตแ้ ยง้ ในสงิ่ ที่ไม่ และโตแ้ ย้งในสิ่งทไ่ี ม่ และโต้แย้งในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กลา้ แสดงออก

มีความเสยี สละเพอื่ มีความเสยี สละเพอื่ ไม่คอ่ ยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางคร้ัง ส่วนรวม ชอบเอา

เปรียบไมเ่ ห็นแก่ตวั ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ ห็นแก่ เปรยี บคนอน่ื คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมคู่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแก้ไข
การกระทาทไี่ ม่ถูกตอ้ ง การกระทาท่ีไม่ถกู ต้อง การกระทาทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง
ทกุ ครง้ั ทาใบงานได้ เกือบทกุ ครั้ง ทาใบ เปน็ บางครง้ั ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานได้สะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทนั เวลา เรียบร้อย ไม่คอ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วสั ดุอุปกรณ์การ ใชว้ ัสดอุ ุปกรณก์ าร ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์การ

เรยี นทีร่ าคาถูกและใช้ เรียนทีร่ าคาค่อนขา้ ง เรยี นทรี่ าคาค่อนขา้ ง

อย่างคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างค้มุ คา่ แพงและใชอ้ ย่างคุม้ ค่า

หมดแล้วค่อยซ้ือใหม่ ใชจ้ นหมด ใช้ไมห่ มดแล้วซือ้ ใหม่

ใบงานที่ ๒
หนว่ ยที่ ๙

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๕๐

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รหสั วิชา ท ๑๔๑๐๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๙ เรื่อง ระบาสายฟา้ เวลา ๔ ชว่ั โมง

เร่อื ง การอ่านเสรมิ บทเรยี น เวลา ๑ ชว่ั โมง

โรงเรยี นบ้านปงตา ผ้สู อน นางสาวชญาภา สขุ คา

สาระที่ ๑ การอา่ น

มาตรฐาน ท ๑.๑ สามารถอ่านได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน เข้าใจความหมายของคา

และขอ้ ความทอี่ ่าน

๑. สาระสาคัญ
๑. ความคิดรวบยอด
การอ่านเสริมบทเรียนเป็นการเพ่ิมประสบการณ์ด้านการอ่าน ปลูกฝังให้ผู้เรียนรักการอ่าน

และศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติม ขยายขอบเขตการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้เปิดโลกทัศน์ท่ีกว้างไกล รู้จักคิด
วิเคราะห์เรอื่ งทอ่ี ่านและนามาปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้

๒. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

๒. ตัวชี้วดั
ท ๑.๑ ป.๔/๗ อ่านหนังสือท่ีมีคุณค่าตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและแสดงความคิดเห็น

เกยี่ วกบั เร่ืองทอี่ ่าน

๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. นกั เรยี นอ่านและเกบ็ ใจความสาคญั ของเรือ่ งได้
๒. นักเรยี นคิด วเิ คราะห์สรปุ เรือ่ งราวที่อ่าน
๓. นกั เรยี นตง้ั คาถาม – ตอบคาถามเร่ืองทีอ่ ่านได้

๔. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. มจี ิตสาธารณะ
๔. มวี นิ ยั
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

๕. สาระการเรยี นรู้
๑. การอ่านเสรมิ บทเรียนเร่อื ง “ตานานขวานฟ้า”
๒. การวเิ คราะห์เร่อื งท่อี ่าน
๓. การเขียนเล่าเรื่อง

๖. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี ๑ นกั เรียนเขยี นตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยบทกระดานและคัดคาใหม่ลง

ในสมุด
ขนั้ ท่ี ๒ ครแู ละนักเรยี นทากจิ กรรมชวนกนั คิด ชวนคยุ ขอ้ ๔ แลว้ สรุปความคดิ เหน็
ขัน้ ท่ี ๓ นกั เรยี นอ่านในใจ อ่านเสริม เพม่ิ คามรู้ เร่อื งตานานขวานฟ้า เมอื่ อ่านเสรจ็ ครูถามนา

เพือ่ ใหน้ ักเรยี นแสดงความคดิ เห็นเชิงวิจารณ์ จากนัน้ ชว่ ยกนั สรุปเนอ้ื หา ข้อคิดจากเรื่อง
ข้ันท่ี ๔ ครูและนักเรียนสนทนาเกีย่ วกับเรื่อง ระบาสายฟ้า และทบทวนความรู้เดิมเรอื่ งการ

แยกแยะขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเหน็ จากเร่ืองระบาสายฟา้ แล้วสรุปส่งครู
ขน้ั ท่ี ๕ ทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท หนา้ ๖๘ ทาพรอ้ มกนั ในช้นั เรียน

๗. ชิน้ งาน/หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. เขียนตามคาบอก
๒. แบบฝกึ หัดท้ายบท หน้า ๖๘
๓. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคแ์ ละแบบประเมินผลงาน

๘. ส่อื / แหล่งเรยี นรู้
๑. หนังสือเรียนรายวิชาพืน้ ฐานภาษาไทยชุดภาษาเพ่ือชีวติ วรรณคดีลานา ชั้นประถมศึกษาปี

ท่ี ๔
๒. แบบฝึกหัดรายวชิ าพื้นฐานภาษาไทยชุดภาษาเพือ่ ชวี ติ ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔

๙. วดั ผลประเมนิ ผล วธิ ีการวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือวัดผลและประเมนิ ผล
รายการประเมิน - สงั เกต - แบบบันทึกการสังเกต
- ซักถาม - เขยี นตามคาบอก
• ด้านความรูค้ วามเข้าใจ - ตรวจใบงาน - แบบฝึกหัดทา้ ยบท หน้า ๖๘
- การรว่ มสนทนา - แบบประเมินผลงานรายบุคคล
- การตอบคาถาม - สงั เกตพฤติกรรมขณะร่วม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
- แบบฝึกหดั กจิ กรรม
• ด้านคณุ ลักษณะอนั พึง แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
- การคิดแสดงความคดิ เห็น
ประสงค์ เชงิ วจิ ารณ์
• ด้านทกั ษะกระบวนการคดิ
การรว่ มสนทนา

๑๐. เกณฑใ์ นการวัดผลและประเมนิ ผล

๑) เกณฑ์ประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์รายบคุ คลมคี ะแนน ๓ ระดับ คอื

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ไดค้ ะแนน ๘ – ๑๐

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๕

เกณฑก์ ารผ่านต้องได้ระดับคุณภาพ ๒ ขนึ้ ไปหรือไดค้ ะแนน ๖ ขน้ึ ไป

๒) เกณฑก์ ารประเมนิ การทาแบบฝกึ หัดทา้ ยบท มีคะแนน ๓ ระดับ ดังน้ี

ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผา่ นต้องได้ระดบั คุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือได้คะแนน ๕ ขึน้ ไป

๓) เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดังน้ี

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผา่ นต้องไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ข้นึ ไป

การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหร้ ะดับคะแนน
รกั ความเปน็ ไทย
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐)
ใฝ่เรยี นรู้
มจี ิตสาธารณะ สนใจและต้งั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม สนใจและต้ังใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน
มวี ินัย ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอยา่ ง ภาษาไทยอยา่ ง
อยอู่ ยา่ งพอเพียง สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนกุ สนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสขุ เกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กล้าซกั ถามกล้าพดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

กล้าแสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น

และโตแ้ ยง้ ในสงิ่ ที่ไม่ และโตแ้ ย้งในสิ่งทไ่ี ม่ และโต้แย้งในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กลา้ แสดงออก

มีความเสยี สละเพอื่ มีความเสยี สละเพอื่ ไม่คอ่ ยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางคร้ัง ส่วนรวม ชอบเอา

เปรียบไมเ่ ห็นแก่ตวั ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ ห็นแก่ เปรยี บคนอน่ื คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลือ เห็นแก่ตวั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมคู่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแก้ไข
การกระทาทไี่ ม่ถูกตอ้ ง การกระทาท่ีไม่ถกู ต้อง การกระทาทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง
ทกุ ครง้ั ทาใบงานได้ เกือบทกุ ครั้ง ทาใบ เปน็ บางครง้ั ทาใบงาน
สะอาดเรยี บร้อยและ งานได้สะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทนั เวลา เรียบร้อย ไม่คอ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วสั ดุอุปกรณ์การ ใชว้ ัสดอุ ุปกรณก์ าร ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์การ

เรยี นทีร่ าคาถูกและใช้ เรียนทีร่ าคาค่อนขา้ ง เรยี นทรี่ าคาค่อนขา้ ง

อย่างคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างค้มุ คา่ แพงและใชอ้ ย่างคุม้ ค่า

หมดแล้วค่อยซ้ือใหม่ ใชจ้ นหมด ใช้ไมห่ มดแล้วซือ้ ใหม่

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๕๑

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย รหัสวิชา ท ๑๔๑๐๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๙ เรอ่ื ง ระบาสายฟ้า เวลา ๔ ชว่ั โมง

เร่อื ง การวิเคราะห์บทเรียน เวลา ๑ ช่ัวโมง

โรงเรียนบ้านปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สุขคา

สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพดู

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมี วิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้

ความคิด ความรู้สกึ ในโอกาสต่างๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์

๑. สาระสาคญั
๑. ความคิดรวบยอด
การแสดงความเห็นเป็นการสอดแทรกความรู้สึกส่วนตวั เพ่อื คิดวิเคราะห์สาระที่กาลังศึกษา ผู้

แสดงความคดิ เห็นควรใช้ภาษาท่ีสภุ าพไม่กระทบกระเทือนถึงบุคคลอ่ืนและแสดงความคดิ เหน็ ในด้าน
พยุง จรรโลงและสร้างสรรค์สงั คมให้ดีงาม ต้องมีความรู้ลึกซ้ึงในเร่ืองคาและสานวนภาษาเพ่ือให้ใช้ได้
ถูกต้องตามบรบิ ท

๒. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

๒. ตัวชี้วัด
ท ๓.๑ ป.๔/ ๑ จาแนกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคดิ เหน็ จากเรอ่ื งทีฟ่ ังและดู

๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน
๒. ยอมรบั ในขอ้ ตกลงของกลมุ่ ได้
๓. มีความภาคภมู ิใจในภาษาไทย
๔. บอกสาระเก่ียวกับเน้อื หาในบทเรยี นได้
๕. รู้จกั ประหยัดอดออม

๔. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๑. รกั ความเปน็ ไทย
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มวี ินัย
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

๕. สาระการเรียนรู้
- การวเิ คราะห์และแสดงความเห็นต่อบทเรยี น

๖. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขน้ั ที่ ๑ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยบทกระดานและคัดคาใหม่ลง

ในสมดุ
ขั้นท่ี ๒ นักเรียนดูภาพนางมณีเมขลาและรามสูรในหนังสือเรียน แล้วทากิจกรรม ชวนคิด

ชวนคุยข้อ ๕ แล้วชว่ ยกันสรปุ รูปร่างลกั ษณะของนางมณเี มขลาและรามสูรตามจนิ ตนาการ
ขั้นที่ ๓ นักเรียนชมวีดีทัศน์การแสดงชุด ราเมขลา – รามสูร แล้วให้นักเรียนสังเกตรูปร่าง

ท่าทางของนางเมขลาและรามสูรที่เห็นจากการแสดง ครูและนักเรียนอภิปรายเก่ียวนางเมขลาและ
รามสูร (กิจกรรมเสนอแนะ)

ขั้นที่ ๔ นักเรียนอ่านกิจกรรมชวนคิด ชวนอ่าน เร่ืองประกายแก้วมณีของมณีเมขลาใน
หนงั สอื เรียนแล้วชว่ ยกันสรปุ

ข้นั ท่ี ๕ นักเรยี นทาใบงานท่ี ๓ พร้อมกนั ในชน้ั เรยี นและสลับกันเฉลย
ขน้ั ท่ี ๖ นักเรียนและครชู ่วยกันสรปุ ความรู้ เรอื่ งระบาสายฟ้า

๗. ชิน้ งาน/หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. ใบงานที่ ๓
๒. เขยี นตามคาบอก
๓. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคแ์ ละแบบประเมินผลงาน

๘. สอ่ื / แหล่งเรียนรู้
๑. วีดที ัศน์การแสดงชุด ราเมขลา – รามสูร
๒. หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทยชุดภาษาเพื่อชีวิตวรรณคดีลานา ชัน้ ประถมศึกษาปี

ที่ ๔

๙. วดั ผลประเมินผล วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมอื วดั ผลและประเมินผล
รายการประเมนิ - สงั เกต - แบบบันทกึ การสังเกต
- ซักถาม - ใบงานท่ี ๓
• ดา้ นความรคู้ วามเข้าใจ - ตรวจใบงาน - เขยี นตามคาบอก
- การร่วมสนทนา - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
- การตอบคาถาม - สงั เกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
กจิ กรรม
• ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึง แบบประเมินผลงานรายบุคคล
ประสงค์ - การสงั เกตรปู ร่างท่าทาง
ของนางเมขลาและรามสูร
• ดา้ นทักษะกระบวนการคดิ
การรว่ มสนทนา

๑๐. เกณฑใ์ นการวัดผลและประเมินผล

๑) เกณฑป์ ระเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์รายบุคคลมีคะแนน ๓ ระดับ คือ

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๖ – ๗

ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๕

เกณฑก์ ารผา่ นต้องไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ข้ึนไปหรือได้คะแนน ๖ ขนึ้ ไป

๒) เกณฑ์การประเมนิ การทาใบงาน มีคะแนน ๓ ระดบั ดงั นี้

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผา่ นตอ้ งไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขนึ้ ไป

๓) เกณฑ์การประเมนิ การเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐

ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔
เกณฑ์การผ่านต้องไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึน้ ไปหรอื ได้คะแนน ๕ ข้นึ ไป

การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหร้ ะดับคะแนน
รกั ความเปน็ ไทย
ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐)
ใฝ่เรยี นรู้
มจี ิตสาธารณะ สนใจและต้งั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม สนใจและต้ังใจรว่ ม
กิจกรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรยี น กิจกรรมการเรยี น
มวี ินัย ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอยา่ ง ภาษาไทยอยา่ ง
อยอู่ ยา่ งพอเพียง สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนกุ สนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสขุ เกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กล้าซกั ถามกล้าพดู กลา้ ซักถามกล้าพูด กล้าซกั ถามกลา้ พูด

กล้าแสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น กลา้ แสดงความคิดเห็น

และโตแ้ ยง้ ในสงิ่ ที่ไม่ และโตแ้ ย้งในสิ่งทไ่ี ม่ และโต้แย้งในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กลา้ แสดงออก

มีความเสยี สละเพอื่ มีความเสยี สละเพอื่ ไมค่ อ่ ยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางคร้ัง ส่วนรวม ชอบเอา

เปรียบไมเ่ ห็นแก่ตวั ไมเ่ อาเปรียบไมเ่ ห็นแก่ เปรยี บคนอน่ื คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื เห็นแก่ตวั ไมค่ อ่ ย

เป็นอย่างดี หมคู่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแกไ้ ข มีการตรวจสอบแก้ไข
การกระทาทไี่ ม่ถูกตอ้ ง การกระทาท่ีไม่ถกู ต้อง การกระทาทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง
ทกุ ครง้ั ทาใบงานได้ เกือบทกุ ครั้ง ทาใบ เปน็ บางครง้ั ทาใบงาน
สะอาดเรยี บร้อยและ งานได้สะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทนั เวลา เรียบร้อย ไม่คอ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วสั ดุอุปกรณ์การ ใชว้ ัสดอุ ุปกรณก์ าร ใชว้ ัสดอุ ุปกรณก์ าร

เรยี นทีร่ าคาถูกและใช้ เรียนทีร่ าคาค่อนขา้ ง เรยี นทรี่ าคาค่อนขา้ ง

อย่างคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างค้มุ คา่ แพงและใชอ้ ย่างคุม้ ค่า

หมดแล้วค่อยซ้ือใหม่ ใชจ้ นหมด ใช้ไมห่ มดแล้วซอื้ ใหม่

ใบงานที่ ๓
หนว่ ยที่ ๙


Click to View FlipBook Version