The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 621166010, 2022-08-21 23:26:35

หน่วยที่ ๑๒ ดั่งหยาดทิพย์ชโลมใจ

แผนการจัดการเรียนรู้

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้,แผนการสอนภาษาไทย ป.5

ตารางกาหนดการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๕

หน่วยท่ี ๑๒ ดง่ั หยาดทิพยช์ โลมใจ เวลา ๗ ช่วั โมง

จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๗ ช.ม

๑. บอกความสาคญั ของบทรอ้ ยกรองได้ ดั่งหยาดทพิ ยช์ โลมใจ ๗
๒. อา่ นและบอกใจความของบทร้อยกรองได้ ๑. การอ่านบทรอ้ ยกรอง ๑
๒. การอา่ นออกเสยี ง ๑

๓. บอกคาคลอ้ งจองได้ ๓. การอา่ นบทอ่านเสรมิ ๑
๔. อา่ นออกเสยี งเนอื้ หาในบทเรยี นได้ “พระมหากษัตรยิ ไ์ ทย” ๑
๕. สรปุ เรอื่ งราวทอี่ า่ นได้ ๔. อ่านเพิ่ม เติมความหมาย

๖. บอกความหมายของคายากในบทอ่านได้ ๕. คาราชาศพั ท์ ๑
๗. อ่านและเกบ็ ใจความสาคัญของเรื่องได้ ๖. การใช้พจนานุกรม ๑

๘. คิด วเิ คราะหส์ รุปเรือ่ งราวทีอ่ ่าน ๗. เพลงพระราชนพิ นธ์ ๑

๙. บอกความสาคัญของพระมหากษัตริยไ์ ทยได้

๑๐. อ่าน เขียนสะกดคาในบทเรียนได้

๑๑. บอกความหมายของคาได้
๑๒. นาคาไปใชไ้ ดถ้ ูกต้องตามสถานการณ์

๑๓. บอกความหมายของคาราชาศัพท์ได้

๑๔. ใช้คาราชาศพั ทไ์ ด้ถูกต้องเหมาะสม
๑๕. หาความหมายของคาจากพจนานกุ รมได้
๑๗. เรียงคาตามพจนานุกรมได้

๑๘. บอกความหมายของบทเพลง
พระราชนพิ นธ์ได้

๑๙. รอ้ งและแสดงทา่ ทางประกอบเพลง
พระราชนพิ นธ์ได้

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๗๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๕
กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑o๑ เวลา ๗ ช่วั โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑๒ เร่ืองด่งั หยาดทพิ ย์ชโลมใจ เวลา ๑ ชัว่ โมง
เร่อื ง การอ่านบทร้อยกรอง
โรงเรยี นบ้านปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สุขคา

สาระท่ี ๑ การอา่ น ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตัดสนิ ใจแกป้ ญั หา
มาตรฐาน ท ๑.๑ ในการดาเนนิ ชีวิต และมนี สิ ยั รักการอ่าน

๑. สาระสาคญั
๑.๑ ความคดิ รวบยอด
บทร้อยกรองของไทยได้แทรกซึมไปในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศโฆษณา การตั้ง

คาขวัญของจังหวัด การบันทึกข้อความ การเขียนคติเตือนใจ สานวน ภาษิต ล้วนใช้บทร้อยกรอง
ทง้ั ส้ิน เนื่องจากบทร้อยกรองทาให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเกิดความซาบซึ้งประทับใจ และสามารถจดจาได้
เร็ว

๑.๒ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

๒. ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง

๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๓.๑ นกั เรยี นบอกความสาคญั ของบทร้อยกรองได้
๓.๒ นกั เรยี นอ่านและบอกใจความของบทรอ้ ยกรองได้
๓.๓ นกั เรยี นบอกคาคล้องจองได้

๔. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๔.๑ รกั ความเปน็ ไทย
๔.๒ ใฝ่เรยี นรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ

๕. สาระการเรียนรู้
- การอา่ นออกเสียงและการบอกความหมายของบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรอง
- การอา่ นบทร้อยกรอง
- คาคลอ้ งจอง

๖. กระบวนการเรียนรู้
ข้ันที่ ๑ ครูช้ีแจงความสาคัญของภาษาไทย ลาดับข้ันตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

จดุ ประสงค์ และสิง่ ทีน่ ักเรียนตอ้ งเตรยี ม ในช่วั โมงนใ้ี ห้นักเรยี นรบั ทราบ
ขั้นที่ ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยบนกระดานดา และเขียน

คาศัพท์ใหม่ลงในสมดุ ด้านหลงั ใหเ้ รยี บร้อย
ข้ันท่ี ๓ นักเรียนอ่านบทร้อยกรองในหนังสือเรียนชุดภาษาพาที บทที่ ๗ หน้า ๑๑๓ ด้วย

เสียงธรรมดาพร้อมกนั หลาย ๆ รอบจนคล่อง จากนั้นอ่านบทรอ้ ยกรองทานองเสนาะพร้อมกบั ครู ฝึก
อ่านทานองเสนาะ พรอ้ มกนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั เน้ือหาสาระของบทร้อยกรองในบทนี้กลา่ วถึงเรื่อง
ใด ให้นักเรียนแข่งขันกนั ตอบ ครอู ธบิ ายสรปุ

ขนั้ ที่ ๔ สนทนาเก่ยี วกับเน้ือหาของบทร้อยกรอง ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรียนฟังว่า บทร้อยกรองน้ี
เป็นคาประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ มีความหมายในการสรุปบทเรียนแต่ละบท เป็นหัวเร่ืองชี้แจง
ใหเ้ ราทราบวา่ ในบทเรยี นนั้น ๆ มเี นอ้ื หาเกย่ี วกบั อะไรบ้าง
ครูใชค้ าถามต่อไปน้ใี ห้นกั เรยี นตอบปากเปล่าพร้อมกนั

 บทรอ้ ยกรองนเี้ ปน็ คาประพันธ์ประเภทใด
 บทรอ้ ยกรองนี้มีเนื้อเกยี่ วกับสง่ิ ใด
 อา่ นแลว้ นักเรียนมคี วามรู้สึกอยา่ งไร
 บทร้อยกรองน้ีมคี วามไพเราะในด้านใด ให้อะไรแกน่ ักเรยี นบ้าง
ขั้นท่ี ๕ นักเรียนทาใบงานที่ ๑ (ท้ายแผน) จากน้ันนาส่งครู ครูเฉลย และตรวจสอบความ
ถกู ต้อง

๗. ชิน้ งาน / หลกั ฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. เขียนตามคาบอก
๒. การทาใบงานท่ี ๑

๘. สอ่ื / แหล่งการเรียนรู้
๑. บทร้อยกรอง
๒. ใบงาน ชุดที่ ๑
๓. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละผลงานรายบคุ คล

๙. วดั ผลประเมินผล วิธีการวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมือวัดผลและประเมนิ ผล
รายการประเมิน - สงั เกต - เขียนตามคาบอก
• ด้านความร้คู วามเข้าใจ - ซักถาม - ใบงาน ชดุ ที่ ๑
- การตอบคาถาม - ตรวจใบงาน - แบบประเมินผลงานรายบุคคล
- การทาใบงาน - สังเกตพฤตกิ รรมขณะร่วม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
• ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึง
ประสงค์ กจิ กรรม

• ด้านทกั ษะกระบวนการคิด - ประเมนิ การร่วมสนทนา แบบประเมินผลงานรายบุคคล
การร่วมสนทนา

๑๐. เกณฑใ์ นการวดั ผลและประเมนิ ผล

๑) เกณฑป์ ระเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์รายบคุ คลมคี ะแนน ๓ ระดบั คือ

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ไดค้ ะแนน ๘ – ๑๐

ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๖ – ๗

ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๕

เกณฑ์การผ่านต้องไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขึน้ ไปหรอื ไดค้ ะแนน ๖ ข้ึนไป

๒) เกณฑ์การประเมินการทาใบงาน มีคะแนน ๓ ระดบั ดงั น้ี

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐

ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผ่านตอ้ งไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขึน้ ไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ข้ึนไป

๓) เกณฑก์ ารประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดังน้ี

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดับคุณภาพ ๒ ขึน้ ไปหรือได้คะแนน ๕ ขน้ึ ไป

การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน

ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)

รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกอื บ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กล้าซกั ถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกลา้ พูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

ใฝเ่ รยี นรู้ กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ย้งในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ย้งในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก

มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา

มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ หน็ แกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลือหมู่คณะได้ ตวั ไมค่ อ่ ยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครั้งทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรียบรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถูกตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วสั ดุอุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ

อยู่อย่างพอเพียง เรียนทร่ี าคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อย่างคมุ้ ค่าใช้จน แพงและใช้อย่างคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า

หมดแล้วค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่



แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๗๒ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕
กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑o๑ เวลา ๗ ชว่ั โมง
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑๒ เร่อื งดั่งหยาดทพิ ยช์ โลมใจ เวลา ๑ ชว่ั โมง
เรือ่ ง การอ่านออกเสยี ง
โรงเรียนบ้านปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สุขคา

สาระที่ ๑ การอา่ น ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ญั หา
มาตรฐาน ท ๑.๑ ในการดาเนินชวี ิต และมนี ิสยั รกั การอา่ น

๑. สาระสาคัญ
๑.๑ ความคิดรวบยอด
การอ่านออกเสียงเป็นการอ่านที่สามารถให้ผู้ฟังเข้าใจในเรื่องที่อ่านควรอ่านออกเสียงให้

ถูกต้องและชัดเจนและปฏิบัติตนในการอ่านให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์จึงจะทาให้อ่านได้คล่องและมี
ความมั่นใจ

๑.๒ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต

๒. ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๑ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง

๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๓.๑ นกั เรยี นอ่านออกเสียงเน้อื หาในบทเรียนได้
๓.๒ นักเรยี นสรุปเรื่องราวท่อี ่านได้
๓.๓ นักเรยี นบอกความหมายของคายากในบทอ่านได้

๔. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
๔.๑ รกั ความเป็นไทย
๔.๒ ใฝ่เรยี นรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มวี นิ ยั
๔.๕ อยู่อย่างพอเพียง

๕. สาระการเรยี นรู้
- การอ่านออกเสียงและการบอกความหมายของบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง
- อา่ นออกเสียงบทเรยี นเรือ่ ง ดั่งหยาดทิพย์ชโลมใจ
- คาใหมใ่ นบทเรยี น

๖. กระบวนการเรยี นรู้
ข้ันที่ ๑ ทบทวนเน้ือหาท่ีเรียนในช่ัวโมงที่แล้วด้วยการให้นักเรียนนาใบงานชุดท่ี ๑ มาร่วม

กนั ตรวจสอบและเฉลยอกี ครั้ง
ข้ันท่ี ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยบนกระดานดา และเขียน

คาศัพทใ์ หม่ลงในสมุดด้านหลังให้เรยี บร้อย
ข้ันที่ ๓ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนเล่นเกมตอ่ คาคล้องจอง ๓ พยางค์ ด้วยปากเปลา่ โดยครเู ริม่ ต้น

คาแรก แล้วให้นักเรียนพูดคาคล้องจองต่อไปทีละคน จนครบทุกคนในห้องเรียนแล้วเวียนใหม่อีก ๓
รอบ ถ้าคนใดต่อช้าหรอื ต่อผิด จะถูกเพ่อื น ๆ ทาโทษโดยการให้ปฏิบัติตามคาสั่ง เชน่ เดินเป็ด เดิน
คนพกิ าร ราวงคนเดียว เปน็ ตน้

ขนั้ ที่ ๔ นักเรียนแต่ละคนอ่านเร่ืองในบทเรียน “ดั่งหยาดทิพย์ชโลมใจ” จากหนงั สือเรียนชุด
ภาษาพาที หนา้ ๑๑๔ – ๑๑๖ โดยอา่ นเปน็ ทานองเสนาะต่อกนั คนละ ๓ บท ถ้าจบเรอื่ งแล้วให้คน
ทย่ี ังไมไ่ ด้อ่านเร่มิ ตน้ อา่ นเร่อื งใหม่

ขั้นที่ ๕ นักเรียนทาแบบฝึกหัดท้ายบท หน้า ๕๘ – ๕๙ ข้อ ๑ – ๔ ครูเฉลยและตรวจสอบ
ความถูกต้อง

๗. ช้นิ งาน / หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละแบบประเมนิ ผลงาน
๒. แบบฝกึ หดั ท้ายบท หนา้ ๕๘ – ๕๙ ข้อ ๑ – ๔
๓. เขยี นตามคาบอก

๘. ส่อื / แหลง่ การเรยี นรู้
๑. หนงั สอื เรียนชดุ ภาษาพาที
๒. เกม “ ตอ่ คาคลอ้ งจอง”
๓. บทอา่ น ดงั่ หยาดทิพย์ชโลมใจ
๔. แบบฝกึ หัดท้ายบท หน้า ๕๘ – ๕๙ ข้อ ๑ – ๔
๕. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์และผลงานรายบุคคล

๙. วัดผลประเมนิ ผล วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมือวดั ผลและประเมินผล
รายการประเมิน - สงั เกต - แบบบันทกึ การสงั เกต
• ด้านความรคู้ วามเขา้ ใจ - ซักถาม - แบบฝึกหดั ท้ายบท หนา้ ๕๘ –
- การร่วมสนทนา - ตรวจใบงาน ๕๙ ข้อ ๑ – ๔
- การตอบคาถาม - เขยี นตามคาบอก
- การทาใบงาน - สังเกตพฤติกรรมขณะร่วม - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
กจิ กรรม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
• ด้านคุณลักษณะอนั พงึ
ประสงค์

• ด้านทักษะกระบวนการคิด - การรว่ มสนทนา แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
การร่วมสนทนา

๑๐. เกณฑ์ในการวดั ผลและประเมนิ ผล

๑) เกณฑ์ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคร์ ายบคุ คลมคี ะแนน ๓ ระดบั คอื

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๖ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๕

เกณฑก์ ารผา่ นต้องไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขึ้นไปหรือไดค้ ะแนน ๖ ข้ึนไป

๒) เกณฑก์ ารประเมินการทาแบบฝึกหัดท้ายบท มีคะแนน ๓ ระดบั ดงั น้ี

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผ่านต้องไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ข้ึนไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ข้ึนไป

๓) เกณฑก์ ารประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดังน้ี

ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผ่านต้องได้ระดบั คณุ ภาพ ๒ ข้นึ ไปหรือได้คะแนน ๕ ขน้ึ ไป

การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน

ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)

รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกลา้ พูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก

มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา

มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ

อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า

หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗๓ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๕
กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑o๑ เวลา ๗ ช่ัวโมง
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๑๒ เรือ่ งด่งั หยาดทพิ ย์ชโลมใจ เวลา ๑ ช่วั โมง
เรอ่ื ง การอา่ นบทอา่ นเสรมิ
โรงเรียนบ้านปงตา ผูส้ อน นางสาวชญาภา สุขคา

สาระท่ี ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใชต้ ดั สนิ ใจแก้ปัญหา

ในการดาเนินชวี ิต และมีนิสยั รักการอ่าน

๑. สาระสาคญั
๑.๑ ความคดิ รวบยอด
การอา่ นเสรมิ บทเรียนเปน็ การเพิม่ ประสบการณด์ ้านการอา่ น ปลกู ฝังให้ผเู้ รียนรกั การอา่ น

และศึกษาหาความรเู้ พม่ิ เตมิ ขยายขอบเขตการเรียนรใู้ หผ้ เู้ รียนได้เปิดโลกทัศนท์ ่กี วา้ งไกล ร้จู กั คดิ
วเิ คราะห์เรอื่ งท่ีอา่ นและนามาปรับใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้

๑.๒ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต

๒. ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๗ อา่ นหนงั สอื ท่มี คี ุณค่าตามความสนใจอยา่ งสมา่ เสมอและแสดง

ความคิดเห็นเกีย่ วกับเรอ่ื งที่อ่าน

๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๓.๑ นกั เรียนอ่านและเกบ็ ใจความสาคญั ของเรื่องได้
๓.๒ นกั เรยี นคิด วเิ คราะหส์ รุปเร่อื งราวทอี่ ่าน
๓.๓ นกั เรยี นบอกความสาคญั ของพระมหากษัตรยิ ไ์ ทยได้

๔. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๔.๑ รกั ความเปน็ ไทย
๔.๒ ใฝเ่ รยี นรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มวี ินัย
๔.๕ อยู่อยา่ งพอเพียง

๕. สาระการเรียนรู้
- การอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ เชน่
 หนงั สอื ทนี่ กั เรียนสนใจและเหมาะสมกับวัย
 หนงั สอื ทีค่ รูและนกั เรยี นกาหนดร่วมกัน
- การอ่านเสรมิ “ พระมหากษัตริยไ์ ทย”
- การถอดคาประพันธ์

๖. กระบวนการเรียนรู้
ข้ันท่ี ๑ ทบทวนเนื้อหาทเ่ี รียนในชว่ั โมงที่แลว้
ขั้นที่ ๒ นักเรยี นเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พรอ้ มเฉลยบนกระดานดา และเขยี น

คาศพั ท์ใหม่ลงในสมุดดา้ นหลงั
ขัน้ ท่ี ๓ นกั เรยี นแตล่ ะคนอ่าน บทอา่ นเสรมิ “พระมหากษัตรยิ ์ไทย” โดยอา่ นในใจ
ขน้ั ท่ี ๔ รว่ มกนั สนทนาเก่ยี วกับเน้อื หาสาระในเรือ่ ง “พระมหากษัตรยิ ไ์ ทย” จากน้ันครเู ปิด

วดิ โี อสารคดเี กย่ี วกับพระมหากษัตรยิ ไ์ ทย
ขั้นที่ ๕ นกั เรยี นทาใบงานท่ี ๒ (ท้ายแผน) จากน้ันนาสง่ ครู ครูเฉลยและตรวจสอบความ

ถกู ต้อง

๗. ชน้ิ งาน / หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์และแบบประเมนิ ผลงาน
๒. การทาใบงานที่ ๒
๓. เขยี นตามคาบอก

๘. ส่ือ / แหลง่ การเรียนรู้
๑. หนงั สือเรียนชุด ภาษาพาที
๒. บทอา่ นเสริม “ พระมหากษตั ริยไ์ ทย”
๓. วดิ ีโอเกย่ี วกบั พระมหากษตั รยิ ไ์ ทย
๔. ใบงานที่ ๒
๕. แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์และผลงานรายบุคคล

๙. วัดผลประเมินผล วธิ ีการวัดและประเมินผล เคร่อื งมือวัดผลและประเมินผล
รายการประเมิน - สงั เกต - แบบบนั ทึกการสังเกต
• ดา้ นความร้คู วามเข้าใจ - ซักถาม - ใบงานท่ี ๒
- การร่วมสนทนา - ตรวจใบงาน - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
- การตอบคาถาม
- การทาใบงาน - สงั เกตพฤติกรรมขณะรว่ ม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
• ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึง กิจกรรม
ประสงค์

• ด้านทกั ษะกระบวนการคดิ - การพดู รายงาน แบบประเมินผลงานรายบุคคล
การร่วมสนทนา

๑๐. เกณฑ์ในการวดั ผลและประเมินผล

๑) เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์รายบุคคลมีคะแนน ๓ ระดับ คือ

ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดี ได้คะแนน ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๖ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ได้คะแนน ๑ – ๕

เกณฑ์การผ่านตอ้ งได้ระดับคุณภาพ ๒ ขนึ้ ไปหรอื ได้คะแนน ๖ ขึน้ ไป

๒) เกณฑ์การประเมินการทาใบงาน มีคะแนน ๓ ระดับ ดังนี้

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผ่านต้องไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ได้คะแนน ๕ ข้ึนไป

๓) เกณฑก์ ารประเมินการเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดังนี้

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถูก ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดับคุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือได้คะแนน ๕ ขึน้ ไป

การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน

ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)

รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกลา้ พูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก

มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา

มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ ม่ถกู ตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ

อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า

หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่



แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๗๔ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕
กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑o๑ เวลา ๗ ช่ัวโมง
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑๒ เรื่องดัง่ หยาดทิพยช์ โลมใจ เวลา ๑ ชวั่ โมง
เร่อื ง อา่ นเพม่ิ เตมิ ความหมาย
โรงเรยี นบา้ นปงตา ผ้สู อน นางสาวชญาภา สขุ คา

สาระท่ี ๑ การอา่ น ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพื่อนาไปใช้ตดั สินใจแกป้ ญั หา
มาตรฐาน ท ๑.๑ ในการดาเนนิ ชีวิต และมีนสิ ยั รกั การอา่ น

๑. สาระสาคญั
๑.๑ ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คา นอกจากเรยี นร้เู พอื่ ส่ือความหมายแล้วยังตอ้ งเรียนรใู้ นดา้ นประเภทและชนดิ

ของคา หนา้ ท่ขี องคา และนาคานั้นไปใชใ้ หถ้ ูกต้องตามบรบิ ท
๑.๒ สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน
- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

๒. ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๒ อธิบายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความที่เป็นการ

บรรยายและการพรรณนา

๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๓.๑ นักเรยี นอา่ น เขยี นสะกดคาในบทเรียนได้
๓.๒ นักเรียนบอกความหมายของคาได้
๓.๓ นักเรียนนาคาไปใช้ได้ถูกต้องตามสถานการณ์

๔. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๔.๑ รักความเป็นไทย
๔.๒ ใฝ่เรียนรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มวี นิ ยั

๕. สาระการเรยี นรู้
- การอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมายของบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง
- การอา่ นสะกดคา
- ความหมายของคา และการนาคาไปใช้

๖. กระบวนการเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี ๑ ทบทวนเน้อื หาทีเ่ รียนในช่วั โมงทแี่ ลว้ ดว้ ยการให้นกั เรียนนาใบงานชดุ ที่ ๒ มารว่ มกัน

ตรวจสอบและเฉลยอีกคร้ัง
ขั้นท่ี ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยบนกระดานดา และเขียน

คาศพั ท์ใหมล่ งในสมุดด้านหลงั
ข้นั ที่ ๓ ครเู ปิดวีดโิ อสารคดีเก่ียวกบั พระราชประวตั ิของพระมหากษัตรยิ ไ์ ทยองค์ปัจจุบนั

จากนนั้ ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั สืบค้นจากส่ือตา่ งๆท่คี รเู ตรียมไว้เกย่ี วกบั พระราชกรณียกจิ ของ
พระมหากษตั รยิ อ์ งค์ปจั จบุ นั เขยี นลงในกระดาษ

ขั้นที่ ๔ นกั เรยี นอา่ นหนังสือภาษพาที หนา้ ๑๑๘ – ๑๑๙ พร้อมกัน และอ่านความหมาย
ของคาศัพท์

๗.๕ นกั เรยี นทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท หนา้ ๖๓ ขอ้ ๒ ครเู ฉลยและตรวจสอบความถูกตอ้ ง

๗. ช้ินงาน / หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์และแบบประเมินผลงาน
๒. การทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท หน้า ๖๓ ข้อ ๓
๓. เขียนตามคาบอก

๘. สื่อ / แหลง่ การเรยี นรู้
๑. หนังสือเรยี นชดุ ภาษาพาที
๒. วีดโิ อ
๓. การทาแบบฝกึ หดั ท้ายบท หน้า ๖๓ ข้อ ๓
๔. แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์และผลงานรายบคุ คล

๙. วดั ผลประเมินผล วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือวดั ผลและประเมินผล
รายการประเมิน - สังเกต - แบบบันทกึ การสังเกต
- ซักถาม - การทาแบบฝึกหัดท้ายบท หน้า
• ด้านความร้คู วามเขา้ ใจ - ตรวจใบงาน ๖๓ ข้อ ๓
- การรว่ มสนทนา - เขียนตามคาบอก
- การตอบคาถาม - สังเกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
- การทาใบงาน กจิ กรรม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล

• ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึง
ประสงค์

• ดา้ นทกั ษะกระบวนการคดิ - การวิจารณ์การอ่านราย แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
การร่วมสนทนา

๑๐. เกณฑ์ในการวดั ผลและประเมินผล

๑) เกณฑ์ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์รายบุคคลมีคะแนน ๓ ระดบั คือ

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ได้คะแนน ๒๐ – ๒๔

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๒๓ – ๑๙

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ได้คะแนน ๑ – ๑๒

เกณฑ์การผ่านต้องไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือไดค้ ะแนน ๙ ข้ึนไป

๒) เกณฑ์การประเมินการทาแบบฝึกหัดท้ายบท มคี ะแนน ๓ ระดบั ดงั นี้

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผา่ นตอ้ งได้ระดบั คณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรือได้คะแนน ๕ ข้ึนไป

๓) เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดบั ดงั นี้

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐

ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผา่ นตอ้ งไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขึ้นไปหรือไดค้ ะแนน ๕ ขน้ึ ไป

การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน

ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)

รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกลา้ พูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถูกต้อง กล้าแสดงออก

มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา สว่ นรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา

มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มีการตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทนั เวลา ทันเวลา

ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ

อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า

หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๗๕ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๕
กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑o๑ เวลา ๗ ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑๒ เร่อื งดั่งหยาดทพิ ยช์ โลมใจ เวลา ๑ ชั่วโมง
เรื่อง คาราชาศพั ท์
โรงเรยี นบา้ นปงตา ผสู้ อน นางสาวชญาภา สขุ คา

สาระท่ี ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา
และพลังของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติ
ของชาติ

๑. สาระสาคญั
๑.๑ ความคดิ รวบยอด
คาราชาศัพท์ หมายถึง คาท่ีใช้กับพระเจ้าแผนดิน พระบรมวงศานุวงศ์ พระสงฆ์ และ

สุภาพชนท่ัวไป ภาษาไทยมลี ักษณะเฉพาะประการหนึ่ง คอื มีระดับช้ันที่ใช้เหมาะกบั ฐานะของบุคคล
ฉะน้นั การพดู กับพระสงฆ์ พูดกบั ผู้ใหญ่ คาที่ใช้ต้องเหมาะกบั บุคคล

๑.๒ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

๒. ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๕/๔ ใช้คาราชาศัพท์

๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๓.๑ นกั เรียนบอกความหมายของคาราชาศพั ทไ์ ด้
๓.๒ นกั เรียนใชค้ าราชาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม

๔. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๔.๑ รกั ความเป็นไทย
๔.๒ ใฝเ่ รยี นรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มีวนิ ัย

๕. สาระการเรยี นรู้
- คาราชาศพั ท์

๖. กระบวนการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี ๑ ทบทวนเนื้อหาท่ีเรยี นในชัว่ โมงท่แี ลว้
ขนั้ ท่ี ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมตรวจความถูกต้องบนกระดานดา

และเขยี นคาศพั ท์ใหม่ลงในสมุดดา้ นหลงั ให้เรยี บรอ้ ย
ขั้นที่ ๓ ครนู าข้อความตอ่ ไปน้ใี ห้นักเรียนแต่ละคนอา่ น (เขยี นลงในแผน่ ใสหรือเขียนบน

กระดานดา)
“ เมือ่ พระภิกษนุ ง่ั ลงบนเคร่ืองปรู องนง่ั เรยี บร้อยแลว้ เจา้ ภาพจดุ เทยี นธปู แล้วขอศีล ทุก

คนรับศีลพรอ้ มกนั เม่อื พระภิกษสุ วดมนตจ์ บ ก็ยกอาหารให้พระ พระก็กินไดท้ ันที ”
เม่ือนกั เรยี นอ่านจบแล้ว ให้นกั เรียนแต่ละคนช่วยกนั หาคาศพั ท์ทเี่ หมาะสม มาใช้แทน

โดยเขียนลงในสมุด
ขั้นท่ี ๔ แจกใบความรู้ เร่อื ง “คาราชาศพั ท์” ใหน้ ักเรยี นทกุ คนจากนนั้ ให้นกั เรียนศึกษาใบ

ความร้พู ร้อมกันในชน้ั เรยี น
ขั้นที่ ๕ ครถู ามนกั เรยี นเกี่ยวกบั คาท่ีใชก้ บั พระเจ้าแผ่นดิน ซึง่ จะมีอยู่มากในขา่ วเก่ยี วกบั พระ

ราชกรณยี กิจของพระเจ้าแผ่นดนิ และพระบรมวงศานวุ งศ์ว่า คาเหล่านเี้ ป็นคาที่ใช้เฉพาะไมส่ ามารถ
นามาใช้กับบุคคลธรรมดาได้ เราเรียกคาเหล่านี้ว่า คาราชาศัพท์ และคาท่ีใช้กับพระสงฆ์ก็เรียกว่า
คาราชาศัพทเ์ ช่นเดยี วกนั ส่วนคาทใี่ ช้กบั บคุ คลธรรมดาเรียกว่า คาสภุ าพ

ขน้ั ที่ ๖ ครูและนักเรียนชว่ ยกนั สรุปความรเู้ รือ่ ง คาราชาศพั ท์ ดังน้ี
คาราชาศัพท์ เป็นคาที่ใช้กบั พระมหากษตั ริย์ และพระบรมวงศานวุ งศ์
คาราชาศพั ทส์ าหรบั พระสงฆ์ เปน็ คาศัพท์ที่ใชก้ บั พระสงฆ์
คาสภุ าพ เปน็ คาทใ่ี ช้กับบุคคลธรรมดาทัว่ ไป

 คาราชาศัพทเ์ ป็นคาที่ใชก้ ับพระมหากษตั รยิ ์ พระบรมวงศานุวงศ์ และพระสงฆ์
 คานามเม่ือใชเ้ ปน็ คาราชาศัพท์สาหรบั พระมหากษตั ริย์ ต้องเติมคาวา่ พระ พระ

ราช พระบรม และพระบรมราช หน้าคานาม และที่เป็นเคร่ืองใช้บางอย่าง
นาหน้าด้วย ฉลอง
 คาวา่ ทรง ต้น หลวง ใชเ้ ตมิ หลงั คานามธรรมดา
 คาสรรพาม ที่เป็นบุรษุ สรรพนาม เปลย่ี นใช้ตามคาราชาศพั ท์

 คาทใ่ี ช้ ทรง นาหนา้ คานามท่ีเป็นคาธรรมดา มีความหมายวา่ ทาส่งิ นน้ั ถา้ ใช้
นาหนา้ คากรยิ าทีเ่ ป็นคาธรรมดา ทาให้คากรยิ าน้ันเปน็ คาราชาศพั ท์ ส่วน ทรง
พระ ใชน้ าหน้าคากรยิ าที่เปน็ คาธรรมดา และท่เี ปน็ คาราชาศพั ท์

 คากริยาท่เี ป็นคาราชาศัพทอ์ ย่แู ล้ว ไม่ควรใช้ ทรง นาหน้า
ขั้นท่ี ๗ นักเรียนทาใบงานที่ ๓ ( ท้ายแผน ) ชุด บอกความหมายของคาราชาศัพท์ ท่ี
กาหนดให้ เสร็จแลว้ นาส่งครูตรวจสอบความสมบูรณ์
ข้ันที่ ๘ นักเรียนทาใบงานท่ี ๔ ( ท้ายแผน ) ชุด เลือกตอบถูกผิด การใช้คาราชาศัพท์ใน
ประโยคท่ีกาหนดให้ เสรจ็ แลว้ นาส่งครูตรวจสอบความถูกต้อง

๗. ช้นิ งาน / หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละแบบประเมนิ ผลงาน
๒. การทาใบงานท่ี ๓ – ๔
๓. เขยี นตามคาบอก

๘. ส่ือ / แหล่งการเรยี นรู้
๑. หนังสือเรียนชุด ภาษาพาที
๒. ใบความรู้ เรอื่ งคาคาราชาศัพท์
๓. ใบงาน ชดุ ท่ี ๓ - ๔
๔. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละผลงานรายบุคคล

๙. วดั ผลประเมนิ ผล วิธกี ารวดั และประเมินผล เครอื่ งมอื วัดผลและประเมินผล
รายการประเมิน - สงั เกต - แบบบันทึกการสงั เกต
• ดา้ นความรู้ความเข้าใจ - ซักถาม - ใบงาน ชดุ ที่ ๓ – ๔
- การรว่ มสนทนา - ตรวจใบงาน - เขยี นตามคาบอก
- การตอบคาถาม - แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
- การทาใบงาน - สังเกตพฤตกิ รรมขณะร่วม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
• ด้านคุณลักษณะอนั พึง กจิ กรรม
ประสงค์

• ดา้ นทักษะกระบวนการคิด - สงั เกตการตอบคาถาม แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
การตอบคาถาม

๑๐. เกณฑ์ในการวดั ผลและประเมินผล

๑) เกณฑ์ประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์รายบุคคลมีคะแนน ๓ ระดับ คอื

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ไดค้ ะแนน ๒๐ – ๒๔

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๒๓ – ๑๙

ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๑๒

เกณฑก์ ารผา่ นต้องไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ไดค้ ะแนน ๙ ขน้ึ ไป

๒) เกณฑก์ ารประเมนิ การเขียนตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดงั นี้

ระดับคณุ ภาพ ๓ หมายถงึ ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผ่านต้องไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ข้ึนไป

๓) เกณฑ์การประเมินการทาใบงาน มีคะแนน ๓ ระดบั ดงั นี้

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ กู ๘ – ๑๐

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผ่านตอ้ งได้ระดบั คุณภาพ ๒ ขึ้นไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขึ้นไป

การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน

ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)

รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจรว่ ม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกอื บ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กลา้ ซักถามกลา้ พูด กลา้ ซกั ถามกลา้ พูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคดิ เห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ย้งในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกตอ้ ง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก

มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา

มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไม่ค่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไมถ่ กู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานได้สะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ

อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนทีร่ าคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า

หมดแลว้ ค่อยซอ้ื ใหม่ ใชจ้ นหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่









แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๗๖ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑o๑ เวลา ๗ ชั่วโมง
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑๒ เรือ่ งด่ังหยาดทพิ ยช์ โลมใจ เวลา ๑ ชั่วโมง
เรอื่ ง การใช้พจนานุกรม
โรงเรยี นบา้ นปงตา ผู้สอน นางสาวชญาภา สขุ คา

สาระท่ี ๑ การอา่ น ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหา
มาตรฐาน ท ๑.๑ ในการดาเนนิ ชวี ติ และมนี ิสัยรกั การอา่ น

๑. สาระสาคญั
๑.๑ ความคิดรวบยอด
การใช้พจนานุกรม เป็นการศึกษาคา คาอ่าน ความหมาย และชนิดของคาโดยตอ้ งทาความ

เข้าใจหลักดงั กล่าวอย่างถกู ต้องจึงจะใชพ้ จนานุกรมได้อย่างมปี ระโยชน์การนาคามาแตง่ ประโยคตอ้ ง
ฝกึ ฝนและการจดั กระบวนการเรยี นรู้ทใ่ี ชส้ ถานการณ์จรงิ จงึ จะทาใหก้ ารแต่งประโยคไดด้ ี

๑.๒ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการสือ่ สาร
- ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์
- ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

๒. ตวั ชี้วดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๕/๖ อา่ นงานเขียนเชงิ อธิบาย คาสงั่ ขอ้ แนะนา และปฏบิ ตั ิตาม

๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๓.๑ นกั เรียนหาความหมายของคาจากพจนานุกรมได้
๓.๒ นักเรียนเรียงคาตามพจนานุกรมได้

๔. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
๔.๑ รกั ความเปน็ ไทย
๔.๒ ใฝ่เรยี นรู้
๔.๓ มีจิตสาธารณะ
๔.๔ มวี นิ ัย

๕. สาระการเรียนรู้
- การอา่ นงานเขียนเชิงอธบิ าย คาส่ัง ข้อแนะนา และปฏิบตั ติ าม เช่น การใช้พจนานกุ รม
- การเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง

๖. กระบวนการเรยี นรู้
ข้ันที่ ๑ ทบทวนเนื้อหาที่เรียนในช่ัวโมงที่แล้วด้วยการให้นักเรียนนาใบงานชุดที่ ๓ – ๔

มารว่ มกนั ตรวจสอบและเฉลยอีกคร้ัง
ขน้ั ที่ ๒ นกั เรียนเขยี นตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยคาศัพทบ์ นกระดาน และเขียน

คาศพั ทใ์ หม่ลงในสมดุ ดา้ นหลัง
ขัน้ ที่ ๓ ใหแ้ ต่ละคน ศกึ ษาใบความรูเ้ รื่อง “การใชพ้ จนานกุ รม” จากหนังสือภาษาพาที ป.๕

หนา้ ๑๒๒ – ๑๒๓ แลว้ รว่ มกันสนทนาเกยี่ วกับการใชพ้ จนานุกรม
ขน้ั ที่ ๔ แตล่ ะคนหาคาจากบทเรียน เรื่อง ดั่งหยาดฝนชโลมใจ ซง่ึ เป็นคาท่ีนกั เรยี นคิดว่ามัก

เขียนผิด อ่านผดิ หรือไม่รูค้ วามหมาย พยายาม คน้ หาคาให้ได้มากที่สดุ เมื่อแต่ละคน หาคาศัพท์ได้
แล้ว ให้หาคาอ่าน หาชนิดของคา และความหมายจากพจนานุกรม แล้วส่งตัวแทนอ่านรายงานท่ี
หน้าช้ันเรียน

ขัน้ ที่ ๕ นกั เรียนทาใบงานที่ ๕ ( ท้ายแผน ) ชุด หาความหมายของคาจากพจนานกุ รม
เสรจ็ แล้วรว่ มกันเฉลยและตรวจสอบความถกู ต้อง

๗. ชิน้ งาน / หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละแบบประเมินผลงาน
๒. การทาใบงานที่ ๕
๓. เขียนตามคาบอก

๘. ส่ือ / แหลง่ การเรียนรู้
๑. หนังสือเรยี นชดุ ภาษาพาที
๒. ใบความรูเ้ รื่อง หลักการใชพ้ จนานุกรม
๓. พจนานุกรม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน
๓. ใบงานที่ ๕
๔. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์และผลงานรายบุคคล

๙. วัดผลประเมนิ ผล วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมอื วดั ผลและประเมนิ ผล
รายการประเมนิ - สังเกต - แบบบันทกึ การสงั เกต
- ซกั ถาม - ใบงานท่ี ๕
• ดา้ นความรคู้ วามเข้าใจ - ตรวจใบงาน - เขียนตามคาบอก
- การรว่ มสนทนา - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
- การตอบคาถาม - สังเกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
- การทาใบงาน กจิ กรรม
• ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ

ประสงค์

• ด้านทกั ษะกระบวนการคิด - สงั เกตการรว่ มสนทนา แบบประเมินผลงานรายบุคคล
การสนทนา

๑๐. เกณฑ์ในการวัดผลและประเมนิ ผล

๑) เกณฑป์ ระเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์รายบุคคลมคี ะแนน ๓ ระดับ คือ

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ได้คะแนน ๒๐ – ๒๔

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๒๓ – ๑๙

ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๑๒

เกณฑ์การผ่านต้องไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ได้คะแนน ๙ ขึ้นไป

๒) เกณฑก์ ารประเมนิ การทาใบงาน มคี ะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐

ระดบั คณุ ภาพ ๒ หมายถงึ พอใช้ ไดค้ ะแนน ๕ – ๗

ระดับคุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑ์การผ่านตอ้ งได้ระดบั คุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ไดค้ ะแนน ๕ ขน้ึ ไป

๓) เกณฑ์การประเมนิ การเขียนตามคาบอก มคี ะแนน ๓ ระดับ ดงั น้ี

ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาได้ถกู ๘ – ๑๐

ระดับคุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ ได้คะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผา่ นต้องไดร้ ะดับคุณภาพ ๒ ขนึ้ ไปหรือได้คะแนน ๕ ข้นึ ไป

การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน

ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)

รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสขุ เป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกลา้ พูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก

มีความเสียสละเพ่อื มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา

มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ วั ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ

อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า

หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่





แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๗๗ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑o๑ เวลา ๗ ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑๒ เรอ่ื งดงั่ หยาดทพิ ย์ชโลมใจ เวลา ๑ ชว่ั โมง
เรือ่ ง เพลงพระราชนิพนธ์
โรงเรียนบา้ นปงตา ผ้สู อน นางสาวชญาภา สุขคา

สาระท่ี ๕ วรรณคดี วรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็
คณุ ค่าและนามาประยุกต์ใช้ในชวี ิตจริง

๑. สาระสาคัญ
๑.๑ ความคิดรวบยอด
บทเพลงพระราชนพิ นธ์เปน็ เพลงท่ีองคส์ มเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ภูมพิ ลอดุยเดช มหาราชทรงพระ-

ราชนิพนธไ์ ว้ ซง่ึ มีท้ังเพลงบรรเลงและเพลงสาหรบั ขบั ร้องด้วยเครื่องดนตรีสากล
๑.๒ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์
- ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

๒. ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ท ๕.๑ ป.๕/๓ อธบิ ายคณุ ค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรม

๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๓.๑ นกั เรียนบอกความหมายของบทเพลงพระราชนิพนธ์ได้
๓.๒ นักเรยี นรอ้ งและแสดงทา่ ทางประกอบเพลงพระราชนิพนธ์ได้

๔. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๔.๑ รกั ความเปน็ ไทย
๔.๒ ใฝเ่ รยี นรู้
๔.๓ มจี ิตสาธารณะ
๔.๔ มวี ินยั
๔.๕ อยู่อย่างพอเพียง

๕. สาระการเรียนรู้
- วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรียนและตามความสนใจ
- เพลงพระราชนิพนธ์
- การขบั รอ้ งและแสดงท่าทางประกอบเพลง

๖. กระบวนการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี ๑ ทบทวนเนอื้ หาที่เรียนในช่ัวโมงทแ่ี ลว้ ด้วยการใหน้ กั เรียนนาใบงานชดุ ท่ี ๕ มารว่ มกัน

ตรวจสอบและเฉลยอีกครั้ง
ขน้ั ท่ี ๒ นักเรียนเขียนตามคาบอก จานวน ๑๐ คา พร้อมเฉลยคาศัพท์บนกระดานดา และ

เขยี นคาใหม่ลงในสมุดด้านหลงั
ข้ันท่ี ๓ นักเรยี นดแู ผนภมู ิบทร้อยกรอง เพลงพระราชนิพนธ์ โดยอา่ นออกเสยี งเป็นทานอง

ธรรมดา ๑ เทยี่ ว จากนั้นอ่านเป็นทานองเสนาะ เพอ่ื บรู ณาการกบั กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทยไป
ในตัว ( ท้ายแผน )

ข้ันท่ี ๔ ครูเปิดเสียงเพลงพระราชนิพนธ์เบา ๆ ให้นักเรยี นฟงั เพ่ือประกอบการนาสู่
สาระเรียนรู้ โดยครนู าแผนภมู ิเสภามาเปน็ ส่อื ประกอบการใหข้ อ้ มูลความรดู้ ว้ ย โดยครูถามนา เช่น

 เสยี งดนตรีท่ีไดย้ นิ นกั เรียนคดิ ว่าเป็นเสยี งเพลงอะไร
 นกั เรยี นเคยไดย้ นิ เสยี งเพลงลักษณะน้บี ้างไหม ที่ไหน
 นักเรยี นชอบเสยี งเพลงประเภทน้ีไหม
 นักเรียนอยากร้องเพลงทไ่ี ด้ยินบ้างไหม
 นักเรียนคดิ วา่ ทาอย่าไรจงึ จะรอ้ งเพลงตามทีไ่ ด้ยินได้ดี
 นักเรียนอยากร้องเพลงไดด้ ไี หม มีหลักอย่างไร
ขนั้ ท่ี ๕ นักเรยี นดวู ิทยากรทอ้ งถิ่น ( ผูม้ ีความรแู้ ละทักษะการร้องเพลงพระราชนิพนธ์อาจ
เป็นครใู นโรงเรยี นทมี่ ีความร้แู ละทักษะด้านนี้ เพ่อื ไม่ใหน้ ักเรียนเบ่ือ ) ท่ีครเู ชิญมาเป็นวิทยากรให้
ความรเู้ กีย่ วกับการขบั รอ้ งเพลงพระราชนิพนธ์ สาธติ ให้นกั เรียนดูและครูเสนอแนะหลกั การร้องเพลง
พระราชนิพนธ์ทด่ี ีดงั นี้
 รอ้ งให้เต็มเสยี ง ออกเสยี งพยญั ชนะและสระให้ถกู ตอ้ งชัดเจน
 ร้องใหถ้ ูกต้องตามคาร้อง ทานองและจังหวะ
 เวน้ ช่วงจงั หวะหายใจให้ถกู ตอ้ ง
 รอ้ งให้ถูกตอ้ งตามระดับเสยี ง
 แสดงท่าทางและสหี น้าให้เข้ากบั บรรยากาศของเพลง

๗. ช้นิ งาน / หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้
๑. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละแบบประเมนิ ผลงาน
๒. เขียนตามคาบอก

๘. สอ่ื / แหลง่ การเรียนรู้
๑. หนังสอื เรียนชดุ ภาษาพาที
๒. ใบความรู้เรื่อง บทเพลงพระราชนิพนธ์
๓. เคร่อื งเลน่ ซีดี
๔. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์และผลงานรายบุคคล

๙. วัดผลประเมินผล วิธีการวดั และประเมินผล เคร่อื งมอื วัดผลและประเมนิ ผล
รายการประเมนิ - สงั เกต - แบบบนั ทึกการสังเกต
• ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ - ซักถาม - เขยี นตามคาบอก
- การรว่ มสนทนา - ตรวจใบงาน - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
- การตอบคาถาม
- การทาใบงาน - สงั เกตพฤตกิ รรมขณะรว่ ม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
• ด้านคณุ ลักษณะอนั พึง กิจกรรม
ประสงค์

• ดา้ นทกั ษะกระบวนการคดิ - สังเกตการร้องและแสดง แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล
การรอ้ งและแสดงทา่ ทาง ท่าทาง

๑๐. เกณฑใ์ นการวดั ผลและประเมินผล

๑) เกณฑ์ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์รายบุคคลมคี ะแนน ๓ ระดับ คอื

ระดับคุณภาพ ๓ หมายถงึ ดี ไดค้ ะแนน ๒๐ – ๒๔

ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ไดค้ ะแนน ๒๓ – ๑๙

ระดบั คณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ ไดค้ ะแนน ๑ – ๑๒

เกณฑ์การผ่านต้องไดร้ ะดับคณุ ภาพ ๒ ข้นึ ไปหรือได้คะแนน ๙ ขนึ้ ไป

๒) เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นตามคาบอก มีคะแนน ๓ ระดับ ดังน้ี

ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ดี ทาไดถ้ ูก ๘ – ๑๐

ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถึง พอใช้ ได้คะแนน ๕ – ๗

ระดบั คุณภาพ ๑ หมายถึง ควรปรับปรุง ไดค้ ะแนน ๑ – ๔

เกณฑก์ ารผา่ นตอ้ งไดร้ ะดบั คุณภาพ ๒ ขน้ึ ไปหรอื ได้คะแนน ๕ ขน้ึ ไป

การประเมิน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน

ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐)

รักความเปน็ ไทย สนใจและตงั้ ใจร่วม สนใจและตง้ั ใจรว่ ม สนใจและตัง้ ใจร่วม
กิจกรรมการเรยี น กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน
ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง ภาษาไทยอย่าง
สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี สนุกสนานและมี
ความสขุ ตลอดเวลา ความสุขเกือบ ความสุขเป็นบางครั้ง
ตลอดเวลา

กลา้ ซักถามกลา้ พดู กลา้ ซักถามกลา้ พูด กล้าซกั ถามกล้าพดู

ใฝเ่ รยี นรู้ กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงความคิดเห็น กลา้ แสดงความคดิ เห็น
และโตแ้ ยง้ ในส่งิ ทไ่ี ม่ และโตแ้ ยง้ ในส่ิงทไ่ี ม่ และโต้แยง้ ในสง่ิ ทไ่ี ม่

ถกู ตอ้ ง กล้าแสดงออก ถูกต้อง กลา้ แสดงออก ถกู ต้อง กล้าแสดงออก

มีความเสียสละเพอื่ มคี วามเสียสละเพอื่ ไม่ค่อยเสียสละเพื่อ

ส่วนรวม ไมเ่ อา ส่วนรวมเป็นบางครง้ั สว่ นรวม ชอบเอา

มีจิตสาธารณะ เปรยี บไมเ่ ห็นแกต่ ัว ไมเ่ อาเปรียบไม่เห็นแก่ เปรียบคนอื่น คอ่ นขา้ ง

ช่วยเหลอื หมู่คณะได้ ตวั ไมค่ ่อยชว่ ยเหลือ เห็นแกต่ วั ไมค่ ่อย

เป็นอย่างดี หมูค่ ณะ ชว่ ยเหลือหมู่คณะ

มวี ินยั มีการตรวจสอบแก้ไข มกี ารตรวจสอบแกไ้ ข มกี ารตรวจสอบแก้ไข
การกระทาท่ีไม่ถกู ตอ้ ง การกระทาที่ไม่ถูกต้อง การกระทาทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง
ทุกครัง้ ทาใบงานได้ เกือบทุกคร้ัง ทาใบ เปน็ บางครงั้ ทาใบงาน
สะอาดเรยี บรอ้ ยและ งานไดส้ ะอาด ไม่คอ่ ยสะอาด
ถกู ตอ้ งและทันเวลา เรียบรอ้ ย ไมค่ อ่ ย เรียบร้อยและไมค่ อ่ ย
ทันเวลา ทันเวลา

ใช้วัสดอุ ุปกรณ์การ ใช้วัสดุอุปกรณ์การ ใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ

อยู่อย่างพอเพียง เรียนที่ราคาถกู และใช้ เรียนท่ีราคาค่อนข้าง เรยี นท่รี าคาค่อนขา้ ง
อยา่ งคมุ้ คา่ ใช้จน แพงและใช้อย่างคุ้มคา่ แพงและใช้อย่างคุม้ ค่า

หมดแลว้ ค่อยซือ้ ใหม่ ใช้จนหมด ใชไ้ มห่ มดแล้วซือ้ ใหม่


Click to View FlipBook Version