การสร้างแบบวดั จริยธรรมด้านความซื่อสัตย์
จดั ทาโดย
นายณฐั สิทธ์ิ คูณกระโทก
รหัสนกั ศึกษา 6221148011 D1
สาขาวชิ าการวดั ประเมินผลและวจิ ยั ทางการศกึ ษา
เสนอ
รองศาสตราจารย์ ดร.วิเชียร อินทรสมพันธ์
รายวชิ าการพัฒนาเครื่องมอื จัดจติ พิสัย 1198211
ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2563
มหาวิยาลยั ราชภฎั บ้านสมเดจ็ เจ้าพระยา
คานา
รายงานเล่มน้ีจดั ทาํ ข้นึ เพ่ือเป็นส่วนหน่ึงของวิชารายวชิ าการพฒั นาเคร่ืองมือวดั จติ พิสยั ช้นั ปี ที่ 2
เพอ่ื ใหไ้ ดฝ้ ึกเขียนแบบวดั จริยธรรมตามแนวคิดในรูปแบบตา่ ง ๆ ภายในรูปเลม่ รายงานจะประกอบดว้ ย
ข้นั ตอน วธิ ีการสรา้ งแบบวดั จริยธรรม การสร้างแบบวดั จริยธรรม 3 รูปแบบ ไดแ้ ก่ ตามแนวคิดของเพียเจท์
ลว้ น สายยศ และโคลเบิร์ก การตรวจสอบความสอดคลอ้ ง ดา้ นเน้ือหา (IOC) การวเิ คราะหค์ ่าความ
สอดคลอ้ ง ดา้ นเน้ือหา (IOC) การวิเคราะห์ เพ่ือหาคา่ เฉล่ยี ส่วนเบย่ี งเบน มาตรฐาน การหาคา่ ความ
แปรปรวนคา่ สัมประสิทธ์ิ Alpha และการหาค่า อาํ นาจจาํ แนกรายขอ้ -test for Independent ของแบบวดั
จริยธรรมตาม แนวคิดของเพียเจท์ ลว้ น สายยศ และโคลเบิร์ก สรุปผลการดาํ เนินการ ตวั อย่างแบบวดั เจตคติ
ทน่ี าํ ไป ทดลอง กบั กลุม่ ตวั อย่าง และแบบสมั ภาษณ์
ผูจ้ ดั ทาํ หวงั ว่ารายงาน เล่มน้ีจะเป็นประโยชนก์ บั ผูอ้ ่าน หรือนกั เรียน นกั ศกึ ษา ทกี่ าํ ลงั หาขอ้ มูลเรื่อง
น้ี อยู่ หากมีขอ้ แนะนาํ หรือ ขอ้ ผดิ พลาดประการใด ผจู้ ดั ทาํ ขออภยั มา ณ ท่ีน้ดี ว้ ย
นายณฐั สิทธ์ิ คณู กระโทก
การวัดจริยธรรม
การวดั จริยธรรมเป็นสิ่งทคี่ ่อนขา้ งยุ่งยาก เน่ืองจากจริยธรรมเป็นเรื่องของจติ ใจ บางทว่ี ดั ไดค้ ะแนนสูง แต่
การปฏบิ ตั จิ ริงๆ กย็ งั ขาดจริยธรรมหรือจริยธรรมตา่ํ ท้งั น้ีเพราะการวดั จริยธรรมน้นั ไมไ่ ดว้ ดั ใหช้ ดั เจน ไม่
แน่นอน ไม่สามารถแยกจริยธรรมออกจากคา่ นิยม ศลี ธรรม คุณธรรมได้ เมือ่ ไม่มคี วามชดั เจนในการในการ
วดั จริยธรรมจึงมีความคลาดเคล่อื นเสมอ ดงั น้นั การทจ่ี ะวดั จริยธรรมใตต้ ติ อ้ งศกึ ษารายละเอยี ดของ
จริยธรรมน้นั แลว้ นิยามใหช้ ดั เจน ดว้ ยการศกึ ษาความหมาย ลกั ษณะของจริยธรรม แนวคดิ และทฤษฎที ่ี
เก่ยี วขอ้ ง เกณฑ์ การตดั สินใจทางจริยธรรม การสรา้ งแบบวดั จริยธรรม ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งถอ่ งแท้
ความหมายของจริยธรรม
จริยธรรมเป็นเครื่องมือท่สี าํ คญั ในการจดั ระเบียบทางสังคม ให้บคุ คลอยรู่ ่วมกนั ไดใ้ นสงั คมอย่างมี สันตสิ ุข
จริยธรรม หมายถึง ความดงี ามทย่ี ดึ ถือปฏิบตั ิ ดว้ ยการพจิ ารณาตดั สินใจประพฤติ ปฏบิ ตั หิ รือกระทาํ โดย
อาศยั หลกั ของค่านิยมและหลกั ศลี ธรรม เมื่อพบกบั สถานการณ์ใดสถานการณห์ น่ึง โดยยึดหลกั 2 ประการ
คอื ทาํ ให้เกดิ ประโยชนต์ อ่ ผอู้ ่ืนและไมท่ าํ ให้ผอู้ ่นื เดือดร้อน
ดวงเดอื น พนั ธุมนาวนิ (2522 : 32-33) ให้ความหมายของจริยธรรมว่า หมายถงึ ลกั ษณะทางสงั คม หลาย
ลกั ษณะของมนษุ ย์ รวมท้งั พฤตกิ รรมทางสงั คมประเภทตา่ งๆ ซ่ึงสงั คมตอ้ งการให้มใี นสมาชิก เป็นพฤติ
กรรมที่สังคมนิยมชมชอบให้การสนบั สนุน และผูก้ ระทาํ ส่วนมากเกดิ ความพอใจว่า การกระทาํ น้นั เป็นสิ่ง
ที่ ถกู ตอ้ งเหมาะสม
การสร้างแบบวดั จริยธรรม
การสร้างแบบวดั จริยธรรมในทีน่ ้จี ะขอกล่าวถึง 3 แนวคิด คือ ทฤษฎกี ารพฒั นาจริยธรรมทาง สตปิ ัญญาตาม
แนวคดิ ของเพยี เจท์ ทฤษฎกี ารพฒั นาจริยธรรมทางปัญญาตามแนวคดิ ของโคลเบิร์ก และเกณฑ์ ผสมผสาน
หลกั การแสดงการกระทาํ ความดตี ามแนวคดิ ของลว้ น สายยศและองั คณา สายยศ
1.ทฤษฎกี ารพัฒนาจริยธรรมทางสตปิ ัญญาตามแนวคดิ ของเพียเจท์
เพียเจท์ เป็นผรู้ ิเร่ิมความคดิ ทวี่ า่ พฒั นาการทางจริยธรรมของมนุษยย์ อ่ มข้นึ อยกู่ บั ความฉลาดทจ่ี ะทาํ ใหร้ ับรู้
กฎเกณฑแ์ ละลกั ษณะตา่ งๆ ทางสังคม พฒั นาการทางจริยธรรมของบคุ คลจงึ ข้นึ อยกู่ บั พฒั นาการทาง
สติปัญญาของบุคคลน้นั ๆ เขาเช่ือวา่ จริยธรรมเป็นกระบานการทีซ่ ับซ้อน (Complex Process) ระหวา่ งความรู้
ความรู้สึก และการสรา้ ง ในการศึกษาคน้ ควา้ เขาพบวา่ เดก็ จะพฒั นาการทางสตปิ ัญญาไดถ้ ึงข้นั สูงสุดเมือ่ อายุ
ประมาณ 8 - 10 ปี ดงั น้นั พฒั นาการทางจริยธรรมของเดก็ จะบรรลุถึงข้นั สูงสุดเมอ่ื อายุประมาณ 8 - 10 ปี
เช่นกนั เพยี เจทไ์ ดแ้ บ่งข้นั การพฒั นาจริยธรรมของมนษุ ยเ์ ป็น 3 ข้นั
2. ทฤษฎกี ารพฒั นาจริยธรรมทางปญั ญาตามแนวคิดของโคลเบิร์ก
โคลเบิร์ก (อา้ งในอาร์บทั โนต,์ แจก็ , สุดใจ บญุ อารีย์ แปล, 2541) ไดศ้ กึ ษาพฒั นาการทางจริยธรรม โดย
ศกึ ษาตามแนวทฤษฎขี องเพยี เจทแ์ ลว้ พบว่าพฒั นาการทางจริยธรรมของมนษุ ยส์ ่วนมากไมไ่ ดบ้ รรลุถงึ ข้นั
สูงสุดเม่อื อายุ 10 ปี แตจ่ ะมีพฒั นาการอกี หลายข้นั ตอนจากอายุ 11 ปี ถงึ 25 ปี โคลเบอร์เชื่อวา่ การบรรลนุ ิติ
ภาวะเชิงจริยธรรมของบุคคลน้นั จะแสดงออกทางการให้เหตุผลทางจริยธรรม ซ่ึงไม่ข้ึนอยกู่ บั เกณฑข์ อง
สงั คม ใดสงั คมหน่ึง เป็นเหตผุ ลทลี่ ึกซ้ึงบริสุทธ์ิ มีลกั ษณะเป็นสากล กวา้ งขวาง มหี ลกั การไมข่ ดั แยง้ ไม่
เขา้ ขา้ งตนเอง และเป็นอดุ มคติ โคลเบริ ก์ ไดแ้ บ่งพฒั นาการทางจริยธรรมเป็น 3 ระดบั
1. ระดบั กอ่ นกฎเกณฑ์ (PreConvention Level) เป็นระดบั ทบ่ี ุคคลดาํ เนินตามบทบาทถกู ตอ้ งและ ไม่ถกู ตอ้ ง
บุคคลจะสนองตอบกฏเกณฑโ์ ดยกระทาํ ตามทม่ี ีอาํ นาจเหนือตน และพิจารณาสิ่งต่างๆ ท่ีเกยี่ วขอ้ ง กบั การ
ถกู ลงโทษหรือการไดร้ ับรางวลั พฒั นาการระดบั น้ีแบง่ ออกเป็น 2 ข้นั คอื
ข้นั ท่ี 1 ข้นั ยึดตามคาํ ส่งั (The Punishment and Obedience orientation) ช่วงอายุ 2 - 7 ปี ใน ข้นั น้ีจะใช้
หลกั การหลีกเลย่ี งมใี ห้ไดร้ ับโทษในการกระทาํ เดก็ จะทาํ ดตี ามกฎเกณฑข์ องผมู้ ีอาํ นาจเหนือตน และ อยใู่ ต้
อาํ นาจของผูใ้ หญเ่ พราะกลวั การถูกลงโทษ ถา้ ถกู ลงโทษในสิ่งทก่ี ระทาํ เดก็ จะไมก่ ระทาํ อกี แต่ถา้ ไม่ไดร้ ับ
การลงโทษในส่ิงท่จี ะกระทาํ เขาจะกระทาํ อีก
ข้นั ท่ี 2 ข้นั แสวงหารางวลั ซักชวน แลกเปลี่ยน (The Instrumental Relativist Orientation) ชว่ ง 7 - 10 ปี ใน
ข้นั น้ีเดก็ ไม่ไดค้ ิดว่ากฎระเบยี บเป็นสิ่งท่ีแน่นอนตายตวั ถือความพอใจของตนเองเป็นหลกั ในการ ตดั สินการ
กระทาํ ตามใจตนเอง จะเหน็ ความสาํ คญั ของการไดร้ างวลั หรือคาํ ชมเชยซ่ึงเป็นแรงจูงใจในการ กระทาํ ความ
ดี
2. ระดบั กฎเกณฑ์ (Conventional Level) เป็นระดบั ท่เี ดก็ จะเห็นความสําคญั ของหนา้ ทค่ี วาม รบั ผิดชอบของ
กลุ่มที่ตนเป็นสมาชิกอยู่ เชน่ ครอบครวั กลมุ่ ชนหรือชาติ เดก็ จะสนบั สนนุ การกระทาํ และอา้ ง เหตผุ ล
สนบั สนุนตามสงั คม รู้จกั รกั ษากฎเกณฑ์ จะไมก่ ระทาํ ความผิดเพราะตอ้ งการใหผ้ อู้ ่ืนยอมรบั พฒั นาการ
ระดบั น้ีแบง่ เป็น 2 ข้นั คือ
ข้นั ท่ี 3 ข้นั ทาํ ตามสิ่งที่คนอนื่ เหน็ ว่าดี (The Interpersonal Concordance Orientation) ช่วง อายุ 10 – 13 ปี ใน
ข้นั น้ีเดก็ เริ่มเขา้ สู่วยั รุ่นซ่ึงเขา้ ใจวา่ สิ่งใดเป็นสิ่งทคี่ นดีควรกระทาํ เดก็ จะกระทาํ ในส่ิงทตี่ นเอง คดิ ว่าคนอน่ื จะ
เห็นดว้ ยและขอใจเพ่อื ให้เป็นทช่ี ื่นชอบของเพ่อื นฝงู เพราะตอ้ งการยอมรบั จากผอู้ นื่
ข้นั ท่ี 4 ข้นั การกระทาํ ตามหนา้ ทีแ่ ละระเบียบทางสงั คม (The Law and order Orientation) ช่วง อายุ 13 - 16 ปี
ข้นั น้คี วามคิดขยายกวา้ งข้นึ ครอบคลุมถงึ ระเบียบสังคมทวั่ ๆ ไปบคุ คลจะเขา้ ใจในกฎเกณฑ์ บรรทดั ฐานของ
สงั คม ตลอดจนบทบาทและหนา้ ท่ีทีพ่ งึ ปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑข์ องกลุ่มสงั คมทีต่ นเป็นสมาชิกอยู่ เพือ่
ประโยชนต์ อ่ กลมุ่ สงั คมของตน
3. ระดบั เหนือกฎเกณฑห์ รือระดบั หลกั การ (Post Conventional Level) ระดบั น้ีบคุ คลจะเขา้ ใจถึง ค่านิยม
คุณคา่ ทางจริยธรรม หลกั เกณฑท์ นี่ าํ ไปใชโ้ ดยพจิ ารณาถึงสภาพการณ์ที่แตกต่างกนั ออกไป พยายาม
เลียนแบบค่านิยมทางศีลธรรมจรรยาสากล ซ่ึงเป็นทยี่ อมรบั อยา่ งกวา้ งขวางเหมาะสมและเท่ยี งธรรม ระดบั น้ี
แบ่งออกเป็น 2 ข้นั คือ
ข้นั ที่ 5 ข้นั ทาํ ตามสญั ญาประชาคม (The Social Contract Legalistic Orientation) ชว่ งอายุ 16 ปี ข้นึ ไป
ในชว่ งน้ีจะเห็นความสําคญั ของคนหมมู่ ากความถูกตอ้ งเป็นส่ิงท่ตี อ้ งพจิ ารณาถึงคา่ นิยมเฉพาะตวั บุคคล โดย
คาํ นึงถงึ สภาพการณ์และกฎเกณฑท์ มี่ เี หตุผลซ่ึงไดร้ ับการยอมรบั จากคนส่วนใหญ่ มีทศั นะตอ่ กฎเกณฑใ์ น
ลกั ษณะทย่ี ืดหยนุ่ ได้ ถา้ มเี หตผุ ลที่เหมาะสมกวา่ เคารพมตทิ ม่ี าจากการลงความเห็นอยา่ งเป็นประชาธิปไตย
และมีขอ้ ตกลงที่ยอมรบั ร่วมกนั บคุ คลจะทาํ ตามสัญญาทใี่ หก้ บั ผอู้ นื่ คาํ นึงถงึ สิทธิเสรีภาพ และเหน็ ค่าแก่
ประโยชน์ส่วนรวมเป็ นสําคญั
ข้นั ท่ี 6 ข้นั ทาํ ตามหลกั อุดมคติสากล (The Universal Ethical Principle orientation) เป็นข้นั ในวยั ผูใ้ หญ่
บคุ คลมคี วามคิดรวบยอดทางนามธรรมเกี่ยวกบั การสากล ความถูกตอ้ ง คอื ความสาํ นกึ ถึงคุณค่าของ ความ
ถกู ตอ้ งตามหลกั เกณฑท์ ี่บุคคลน้นั ไดพ้ จิ ารณาโดยคาํ นึงถงึ เหตผุ ลอย่างกวา้ งขวางตามหลกั สากลของผูท้ ่ี
เจริญแลว้ คาํ นึงถึงประโยชนข์ องมนุษยชน มีความเช่ือวา่ ทกุ คนมสี ิทธิเทา่ เทยี มกนั คณุ ธรรมในข้นั น้ีจะ
เกดิ ข้นึ ไดใ้ นบคุ คลท่มี คี วามเจริญทางสตปิ ัญญาในข้นั สูงมคี วามรู้และประสบการณก์ วา้ งขวาน
เกณฑ์การตดั สินตามพฒั นาการทางจริยธรรมองเพยี เจท์
จากทฤษฎกี ารพฒั นาการทางจริยธรรมของเพียเจท์ สามารถแบ่งหลกั การทางจริยธรรมออกเป็น 2 ระดบั
ไดแ้ ก่ ระดบั ทย่ี ึดหลกั จริยธรรมจากผอู้ ่นื และระดบั ท่ยี ดึ หลกั จริยธรรมจากตนเอง ซ่ึงจากหลกั ของการตอบ
ตาม เหตผุ ลเชิงจริยธรรมสามารถแบ่งออกเป็น 2 ระดบั ไดแ้ ก่
1. ระดบั คะแนนต่าํ เม่ือผตู้ อบให้เหตุผลการตอบโดยยดึ ปริมาณการกระทาํ สําคญั ไมไ่ ดใ้ ห้เหตผุ ลทาง
เจตนาของผกู้ ระทาํ
2. ระดบั คะแนนสูง เม่อื ผตู้ อบให้เหตผุ ลคาํ นึงถึงความยุติธรรมและพิจารณาผลการกระทาํ ว่ามีเจตนา
ดว้ ยหรือไม่
เกณฑ์การตัดสินตามพฒั นาการจริยธรรมของโคลเบิร์ก
จากทฤษฎกี ารพฒั นาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก มีการแบ่งข้นั การแสดงเหตุผลทางจริยธรรมเป็น 6
ระดบั โดยแบ่งเป็น 3 ระดบั ใหญ่ การมจี ริยธรรมเน่ืองจากสาเหตดุ งั ตอ่ ไปน้ี
ระดบั ท่ี 1 ความกลวั ถกู ลงโทษ หรือ การให้รางวลั
ระดบั ที่ 2 การชกั ชวน แลกเปล่ียน
ระดบั ท่ี 3 การปฏิบตั ิตามกลมุ่ ทาํ ใหก้ ลุ่มชอบใจ
ระดบั ท่ี 4 การกระทาํ ตามหนา้ ที่ กฎหมาย และหลกั ศาสนา
ระดบั ท่ี 5 การกระทาํ ตามสญั ญาประชนคม ประโยชนข์ องสังคมเป็นส่วนใหญ่
ระดบั ที่ 6 การทาํ ตามอุดมการณส์ ากล
เกณฑผ์ สมผสานหลกั การแสดงการกระทาํ ความดตี ามแนวคิดของลว้ น สายยศและองั คณา สายยศ(2543)
ไดส้ งั เคราะหห์ ลกั การทาํ ความดี ว่าการแสดงการกระทาํ แบบใดจงึ น่าจะเป็นระดบั ความดที ่แี ตกต่าง กนั นน่ั
คือเร่ิมจากความดนี อ้ ยข้ึนไปถงึ ความดีมาก โดยแบง่ เป็น 3 ลกั ษณะดงั น้ี
ข้นั ท่ี 1 การแสดงเหตุผลการกระทาํ เพื่อเอาตนเองเป็นหลกั ประจาํ
ข้นั ท่ี 2 การแสดงเหตผุ ลการกระทาํ เพ่ือผทู้ รี่ ูจ้ กั คนุ้ เคย
ข้นั ท่ี 3 การแสดงเหตุผลการกระทาํ เพื่อสงั คมหรือผูอ้ ื่นทวั่ ไปโดยไม่หวงั ผลตอบแทน
ข้ันตอนการสร้างแบบวดั จริยธรรม
1. กาํ หนดจริยธรรมทตี่ อ้ งการจะวตั ตอ้ งระบวุ า่ เป็นจริยธรรมอะไร
2. ศกึ ษาเอกสารและงานวิจยั ที่เกย่ี วขอ้ ง เป็นการศกึ ษารายละเอยี ดเกีย่ วกบั จริยธรรมที่ตอ้ งการวดั ว่า มี
จริยธรรมท่เี ป็นตวั แปรหลกั ตวั แปรย่อยอะไรบา้ งอยา่ งละเอยี ดและถกู ตอ้ ง
3. นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ เป็นการกาํ หนดความหมายของส่ิงที่จะวดั ใหช้ ดั เจน 4. เลอื กรูปแบบของเคร่ืองมอื วดั
จริยธรรม ตอ้ งเหมาะสมกบั คณุ ลกั ษณะทจี่ ะวดั
5. เขียนขอ้ ความ ภาพ หรือสถานการณ์และกาํ หนดวธิ กี ารตอบ โดยเขยี นให้ครอบคลมุ คุณลกั ษณะ จริยธรรม
ทุกดา้ น เป็นการสรา้ งขอ้ ความเพื่อเป็นเคร่ืองมือในการวดั
6. ตรวจสอบคณุ ภาพเครื่องมอื รายขอ้ และท้งั ฉบบั นาํ แบบวดั เจตคติไปทดลองหาค่าอาํ นาจจาํ แนก รายขอ้
หาคุณภาพรวมท้งั ฉบบั โดยหาคา่ ความเชื่อมนั่
7. ปรับปรุงคณุ ภาพเคร่ืองมือ ตามผลการวิเคราะหโ์ ดยการดผู ลจากการตรวจสอบเคร่ืองมอื ท้งั ราย ขอ้ และท้งั
ฉบบั คดั เลือกเฉพาะขอ้ คาํ ถามท่ีมีคณุ ภาพไวใ้ ชเ้ ท่าน้นั สรา้ งเกณฑป์ กตใิ นการให้คะแนน
แบบวดั เชิงจริยธรรมตามแนวคดิ เพยี เจท์
มีข้นั ตอน ดงั น้ี
กาํ หนดส่ิงจะวดั ใหช้ ดั เจน เพอ่ื การศึกษาจริยธรรมของนกั ศกึ ษาในดา้ นความซ่ือสัตย์
ศึกษาเอกสาร และงานวิจยั ท่ีเกยี่ วขอ้ ง ความหมายคาํ ว่าช่ือสตั ย์ สถานการณ์ของความซ่ือสตั ย์
นยิ ามศัพท์เฉพาะตวั แปร
ความซื่อสตั ย์ Honesty คือ การประพฤตอิ ยา่ งเหมาะสม และตรงต่อความเป็นจริง ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ อยา่ ง
ตรงไปตรงมา ท้งั ทางกาย วาจา ใจ ตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื
เลือกรูปแบบของเคร่ืองมอื ใช้แบบสอบถามออนไลน์ Google Forms
ขอ้ ความหรือสถานการณท์ ใี่ ชว้ ดั จริยธรรม
ปล้ืมไม่เงนิ จ่ายขนม จงึ ไปขอยมื เงินจากทอ็ ปที่เป็นเพื่อนสนิท โดยสัญญาวา่ จะคนื ให้ในสิ้นเดอื น แต่ปลมื้ ไม่
ทาํ ตามที่บอก ทอ็ ปควรทาํ อยา่ งไร
ก ไมส่ นใจปล้ืมจนกวา่ จะคนื
ข ของเวลาเพิ่ม
ค ไม่คนื
ปล้มื จะไปเท่ยี ว และขอเงินพ่อแตถ่ า้ พอ่ รู้วา่ ไปเที่ยวคงจะให้นอ้ ย ถา้ เป็นคณุ เป็นปล้ืมจะทาํ อยา่ งไร
ก บอกวา่ ไปทาํ งาน
ข บอกความจริงเพราะกลวั ไดน้ อ้ ย
ค บอกความจริง เพราะจะไดเ้ ช่ือใจ
ปล้มื ทาํ ของทอ็ ปหาย แตไ่ มม่ ีใครเหน็ ถา้ คุณเป็นปล้ืมจะทาํ ยงั ไง
ก ไมบ่ อกความจริง
ข บอกความจริง เพราะจะโดนลงโทษ
ค บอกความจริงเพราะจะไดส้ บายใจ
แม่ให้ปล้ืมไปซ้ือของท่ีตลาด 1000 บาทแตท่ าํ หาย ถา้ คุณเป็นปล้ืมจะทาํ อยา่ งไร
ก ไม่บอกและหนีออกจากบา้ น
ข บอกความจริง เพราะกลวั โดนด่า
ค บอกความจริงเพราะ เชื่อว่าแม่ไมว่ า่
ปล้ืมต้งั ใจจะทาํ งานี่คา้ งให้เสร็จแต่ เพอ่ื นมาชวนไปเท่ยี ว ถา้ คณุ เป็นปล้ืมจะทาํ อยา่ งไร
ก ไม่คยุ กบั เพอ่ื น
ข ทาํ งานคา้ งเพราะต้งั ใจจะทาํ แลว้
ค ไปเท่ียวกบั เพ่อื น
นิยามศัพท์ ขอ้ สอบ ความสอดคลอ้ งระหว่าง ข้อเสนอแนะ
ข้อคำถามกับนิยามศพั ท์ นำไปใช้ได้
ความซื่อสตั ย์ Honesty ปล้ืมไม่เงินจ่ายขนม จงึ ไปขอยมื เงินจากท็อปท่เี ป็นเพือ่ นสนิท 1 0 -1
คือ การประพฤติอย่าง โดยสญั ญาว่าจะคนื ใหใ้ นสิ้นเดอื น แตป่ ลม้ื ไม่ทาํ ตามทีบ่ อก ท็ 1
เหมาะสม และตรงต่อ อปควรทาํ อย่างไร
ความเป็นจริง ประพฤติ ก ไมส่ นใจปล้มื จนกว่าจะคนื 1 นำไปใช้ได้
ปฏิบตั ิ อย่าง ข ของเวลาเพมิ่
ตรงไปตรงมา ท้งั ทาง ค ไม่คืน
กาย วาจา ใจ ต่อตนเอง
และผอู้ น่ื ปล้ืมจะไปเท่ยี ว และขอเงนิ พอ่ แต่ถา้ พ่อรู้ว่าไปเทีย่ วคงจะให้
นอ้ ย ถา้ เป็นคุณเป็นปล้ืมจะทาํ อยา่ งไร
ก บอกว่าไปทาํ งาน
ข บอกความจริงเพราะกลวั ไดน้ อ้ ย
ค บอกความจริง เพราะจะไดเ้ ช่ือใจ
ปล้มื ทาํ ของท็อปหาย แต่ไม่มีใครเห็น ถา้ คุณเป็นปล้มื จะทาํ 1 นำไปใช้ได้
ยงั ไง
ก ไมบ่ อกความจริง
ข บอกความจริง เพราะจะโดนลงโทษ
ค บอกความจริงเพราะจะไดส้ บายใจ
แม่ให้ปล้มื ไปซ้ือของท่ีตลาด 1000 บาทแตท่ าํ หาย ถา้ คุณเป็น 1
ปล้มื จะทาํ อยา่ งไร
ก ไม่บอกและหนีออกจากบา้ น นำไปใช้ได้
ข บอกความจริง เพราะกลวั โดนดา่
ค บอกความจริงเพราะ เชื่อวา่ แมไ่ มว่ า่
ปล้มื ต้งั ใจจะทาํ งาน่ีคา้ งใหเ้ สร็จแต่ เพ่อื นมาชวนไปเทย่ี ว ถา้ คุณ 1 นำไปใช้ได้
เป็นปล้ืมจะทาํ อยา่ งไร
ก ไม่คุยกบั เพอ่ื น
ข ทาํ งานคา้ งเพราะต้งั ใจจะทาํ แลว้
ค ไปเทยี่ วกบั เพ่อื น
หาความเช่ือมน่ั
แบบวดั เชิงจริยธรรมความซ่ือสัตย์ตามแนวคดิ ของล้วน สายยศและองั คณา สายยศ มีขน้ั ตอน ดงั นี้
กาํ หนดสิ่งจะวดั ให้ชดั เจน เพ่ือการศึกษาจริยธรรมของนกั ศึกษาในดา้ นความซ่ือสตั ย์
ศกึ ษาเอกสาร และงานวิจยั ท่เี กย่ี วขอ้ ง ความหมายคาํ วา่ ช่ือสตั ย์ สถานการณข์ องความซื่อสตั ย์
นิยามศัพท์เฉพาะตัวแปร
ความซ่ือสัตย์ Honesty คือ การประพฤติอยา่ งเหมาะสม และตรงตอ่ ความเป็นจริง ประพฤติ ปฏิบตั ิ อยา่ ง
ตรงไปตรงมา ท้งั ทางกาย วาจา ใจ ต่อตนเองและผอู้ ่ืน
เลือกรูปแบบของเครื่องมือ
ใชแ้ บบสอบถามออนไลน์ Google Forms
ขอ้ ความหรือสถานการณ์ท่ใี ชว้ ดั จริยธรรม
แบบวดั เชิงจริยธรรมความซ่ือสัตย์ตามแนวคดิ ของล้วน สายยศและอังคณา สายยศ
1.ปล้ืมไม่เงินจ่ายขนม จึงไปขอยมื เงินจากท็อปทเ่ี ป็นเพ่อื นสนิท โดยสัญญาวา่ จะคนื ใหใ้ นส้ินเดอื น แต่ปลม้ื
ไม่ทาํ ตามทีบ่ อก ท็อปควรทาํ อย่างไร
ก ไมส่ นใจปล้ืมจนกว่าจะคืน
ข ของเวลาเพิม่
ค ไมค่ ืน
2.ปล้มื จะไปเที่ยว และขอเงนิ พอ่ แต่ถา้ พอ่ รูว้ ่าไปเที่ยวคงจะให้นอ้ ย ถา้ เป็นคุณเป็นปล้มื จะทาํ อยา่ งไร
ก บอกวา่ ไปทาํ งาน
ข บอกความจริงเพราะกลวั ไดน้ อ้ ย
ค บอกความจริง เพราะจะไดเ้ ชื่อใจ
3.ปล้ืมทาํ ของท็อปหาย แตไ่ มม่ ใี ครเห็น ถา้ คณุ เป็นปล้มื จะทาํ ยงั ไง
ก ไมบ่ อกความจริง
ข บอกความจริง เพราะจะโดนลงโทษ
ค บอกความจริงเพราะจะไดส้ บายใจ
4.แม่ใหป้ ล้ืมไปซ้ือของทีต่ ลาด 1000 บาทแต่ทาํ หาย ถา้ คุณเป็นปล้มื จะทาํ อย่างไร
ก ไม่บอกและหนีออกจากบา้ น
ข บอกความจริง เพราะกลวั โดนด่า
ค บอกความจริงเพราะ เชื่อวา่ แมไ่ มว่ ่า
5.ปล้ืมต้งั ใจจะทาํ งานี่คา้ งใหเ้ สร็จแต่ เพอ่ื นมาชวนไปเทยี่ ว ถา้ คุณเป็นปล้ืมจะทาํ อยา่ งไร
ก ไม่คุยกบั เพอื่ น
ข ทาํ งานคา้ งเพราะต้งั ใจจะทาํ แลว้
ค ไปเทยี่ วกบั เพ่อื น
6.ระหว่างทางทปี่ ล้ืมกาํ ลงั ข้นึ รถ แตเ่ จอคนทาํ เงนิ ตก และไม่มใี ครเห็น ถา้ คณุ เป็นปล้มื จะทาํ อยา่ งไร
ก เกบ็ ไว้ เพราะไมม่ ีคนเหน็
ข คืน เพราะจะไดร้ บั ค่าตอบแทน
ค คนื เพราะไม่ใช่เงินของเรา
7.ระหว่างทางทป่ี ล้ืมกาํ ลงั ข้ึนเรือ แตเ่ จอคนทาํ ของตก และไม่มใี ครเหน็ ถา้ คุณเป็นปล้ืมจะทาํ
อยา่ งไร
ก เกบ็ ไว้ เพราะไมม่ คี นเห็น
ข คืน เพราะจะไดร้ ับค่าตอบแทน
ค คืน เพราะไมใ่ ช่ของเรา
นิยามศัพท์ ขอ้ สอบ ความสอดคลอ้ งระหว่าง ข้อเสนอแนะ
ข้อคำถามกับนิยามศพั ท์ นำไปใช้ได้
ความซื่อสตั ย์ Honesty ปล้ืมไม่เงินจ่ายขนม จงึ ไปขอยมื เงินจากท็อปท่เี ป็นเพือ่ นสนิท 1 0 -1
คือ การประพฤติอย่าง โดยสญั ญาว่าจะคนื ใหใ้ นสิ้นเดอื น แตป่ ลม้ื ไม่ทาํ ตามที่บอก ท็ 1
เหมาะสม และตรงต่อ อปควรทาํ อย่างไร
ความเป็นจริง ประพฤติ ก ไมส่ นใจปล้มื จนกว่าจะคนื 1 นำไปใช้ได้
ปฏิบตั ิ อย่าง ข ของเวลาเพมิ่
ตรงไปตรงมา ท้งั ทาง ค ไม่คืน
กาย วาจา ใจ ต่อตนเอง
และผอู้ น่ื ปล้ืมจะไปเท่ยี ว และขอเงนิ พอ่ แต่ถา้ พ่อรู้ว่าไปเทีย่ วคงจะให้
นอ้ ย ถา้ เป็นคุณเป็นปล้ืมจะทาํ อย่างไร
ก บอกว่าไปทาํ งาน
ข บอกความจริงเพราะกลวั ไดน้ อ้ ย
ค บอกความจริง เพราะจะไดเ้ ช่ือใจ
ปล้มื ทาํ ของท็อปหาย แต่ไม่มีใครเห็น ถา้ คุณเป็นปล้มื จะทาํ 1 นำไปใช้ได้
ยงั ไง
ก ไมบ่ อกความจริง
ข บอกความจริง เพราะจะโดนลงโทษ
ค บอกความจริงเพราะจะไดส้ บายใจ
แม่ให้ปล้มื ไปซ้ือของท่ีตลาด 1000 บาทแตท่ าํ หาย ถา้ คุณเป็น 1
ปล้มื จะทาํ อยา่ งไร
ก ไม่บอกและหนีออกจากบา้ น นำไปใช้ได้
ข บอกความจริง เพราะกลวั โดนดา่
ค บอกความจริงเพราะ เชื่อวา่ แมไ่ มว่ า่
ปล้มื ต้งั ใจจะทาํ งาน่ีคา้ งใหเ้ สร็จแต่ เพ่อื นมาชวนไปเทย่ี ว ถา้ คุณ 1 นำไปใช้ได้
เป็นปล้ืมจะทาํ อยา่ งไร
ก ไมค่ ยุ กบั เพ่ือน
ข ทาํ งานคา้ งเพราะต้งั ใจจะทาํ แลว้
ค ไปเทย่ี วกบั เพ่อื น
ระหว่างทางทป่ี ล้มื กาํ ลงั ข้นึ รถ แตเ่ จอคนทาํ เงนิ ตก และ
ไม่มีใครเห็น ถา้ คุณเป็นปล้ืมจะทาํ อยา่ งไร
ก เกบ็ ไว้ เพราะไม่มีคนเหน็
ข คนื เพราะจะไดร้ ับคา่ ตอบแทน
ค คนื เพราะไม่ใช่เงนิ ของเรา
ระหว่างทางทป่ี ล้มื กาํ ลงั ข้นึ เรือ แต่เจอคนทาํ ของตก
และไม่มใี ครเหน็ ถา้ คุณเป็นปล้ืมจะทาํ อย่างไร
ก เกบ็ ไว้ เพราะไม่มีคนเหน็
ข คืน เพราะจะไดร้ ับคา่ ตอบแทน
ค คนื เพราะไม่ใช่ของเรา
หาความเช่ือมน่ั
แบบวดั เชิงจริยธรรมความซื่อสัตย์ตามแนวคดิ ของโคลเบริ ์ก
มีข้นั ตอน ดงั น้ี
กาํ หนดสิ่งจะวดั ให้ชดั เจน เพอื่ การศกึ ษาจริยธรรมของนกั ศึกษาในดา้ นความซ่ือสตั ย์
ศกึ ษาเอกสาร และงานวิจยั ท่ีเกยี่ วขอ้ ง ความหมายคาํ ว่าซ่ือสตั ย์ สถานการณ์ของความซื่อสตั ย์
นยิ ามศัพท์เฉพาะตวั แปร
ความซื่อสัตย์ Honesty คอื การประพฤติอย่างเหมาะสม และตรงต่อความเป็นจริง ประพฤติ ปฏิบตั ิ อยา่ ง
ตรงไปตรงมา ท้งั ทางกาย วาจา ใจ ต่อตนเองและผอู้ น่ื
เลอื กรูปแบบของเคร่ืองมือ ใช้
แบบสอบถามออนไลน์
แบบวดั เชิงจริยธรรมความซื่อสัตย์ตามแนวคดิ ของโคลเบริ ์ก
1.ปล้มื ไม่เงินจ่ายขนม จงึ ไปขอยมื เงินจากท็อปที่เป็นเพ่ือนสนิท โดยสญั ญาวา่ จะคนื ให้ในส้ินเดอื น แต่ปลมื้
ไม่ทาํ ตามท่บี อก ทอ็ ปควรทาํ อยา่ งไร
ก ไม่สนใจปล้มื จนกวา่ จะคืน
ข ของเวลาเพ่ิม
ค ไม่คืน
ง รีบคนื เพราะจะผิดกฎหมาย
จ รีบคืนจะไดเ้ ป็นเพอ่ื นทด่ี ี
ฉ คนื เพอื่ นจะไดไ้ ม่เดอื นร้อน
2.ปล้ืมจะไปเท่ยี ว และขอเงนิ พอ่ แตถ่ า้ พอ่ รูว้ า่ ไปเที่ยวคงจะใหน้ อ้ ย ถา้ เป็นคุณเป็นปล้ืมจะทาํ อย่างไร
ก บอกว่าไปทาํ งาน
ข บอกความจริงเพราะกลวั ไดน้ อ้ ย
ค บอกความจริง เพราะจะไดเ้ ชื่อใจ
ง ไมไ่ ปเทย่ี ว
จ บอกความจริงพอ่ และขอเงิน
ฉ ไมไ่ ปท่ียวทาํ งานเป็นเด็กดี
3.ปล้ืมทาํ ของท็อปหาย แตไ่ ม่มใี ครเห็น ถา้ คณุ เป็นปล้มื จะทาํ ยงั ไง
ก ไม่บอกความจริง
ข บอกความจริง เพราะจะโดนลงโทษ
ค บอกความจริงเพราะจะไดส้ บายใจ
ง บอกความจริงเพราะทาํ หายจริงๆ
จ บอกความจริงและชว่ ยหา
ฉ บอกความจริง เพือ่ นจะไดซ้ ้ือใหม่
4.แม่ให้ปล้ืมไปซ้ือของทตี่ ลาด 1000 บาทแตท่ าํ หาย ถา้ คุณเป็นปล้มื จะทาํ อยา่ งไร
ก ไมบ่ อกและหนีออกจากบา้ น
ข บอกความจริง เพราะกลวั โดนดา่
ค บอกความจริงเพราะ เชื่อว่าแมไ่ มว่ ่า
ง บอกความจริงหาเงินใชค้ นื
จ บอกแมล่ ะชว่ ยหาเงนิ
ฉ หาเงนิ ใชค้ นื
5.ปล้ืมต้งั ใจจะทาํ งานี่คา้ งให้เสร็จแต่ เพอ่ื นมาชวนไปเที่ยว ถา้ คณุ เป็นปล้มื จะทาํ อยา่ งไร
ก ไม่คยุ กบั เพอื่ น
ข ทาํ งานคา้ งเพราะต้งั ใจจะทาํ แลว้
ค ไปเท่ียวกบั เพือ่ น
ง ไมไ่ ปไหน ทาํ งานใหเ้ สร็จ
จ นดั เพือ่ นไปวนั หลงั
ฉ ทาํ งานให้เสร็จและไปใหท้ นั เพอื่ น
6.ระหวา่ งทางทปี่ ล้ืมกาํ ลงั ข้นึ รถ แต่เจอคนทาํ เงนิ ตก และไมม่ ีใครเห็น ถา้ คณุ เป็นปล้มื จะทาํ อย่างไร
ก เก็บไว้ เพราะไมม่ ีคนเห็น
ข คืน เพราะจะไดร้ บั คา่ ตอบแทน
ค คืน เพราะไมใ่ ช่เงนิ ของเรา
ง คืนเพราะ เป็นคนดี
จ คืนเพราะเดี๋ยวเขาจะลาํ บาก
ฉ.คืนคนทาํ ตกจะไดไ้ มเ่ ดือดร้อน
7.ระหว่างทางทปี่ ล้มื กาํ ลงั ข้ึนเรือ แต่เจอคนทาํ ของตก และไม่มใี ครเห็น ถา้ คณุ เป็นปล้มื จะทาํ
อย่างไร
ก เกบ็ ไว้ เพราะไม่มีคนเหน็
ข คืน เพราะจะไดร้ บั คา่ ตอบแทน
ค คืน เพราะไม่ใช่ของเรา
ง คืนเพราะ เป็นคนดี
จ คืนเพราะเดี๋ยวเขาจะลาํ บาก
ฉ.คนื คนทาํ ตกจะไดไ้ ม่เดือดร้อน
ข้อสอบ ความสอดคลอ้ งระหว่าง
ข้อคำถามกบั นิยามศัพท์
นิยามศัพท์ 1 0 -1 ขอ้ เสนอแนะ
1 นำไปใช้ได้
1.ปล้ืมไมเ่ งนิ จ่ายขนม จงึ ไปขอยมื เงินจากทอ็ ปที่เป็นเพื่อน
ความซื่อสัตย์ Honesty สนิท โดยสญั ญาว่าจะคนื ใหใ้ นส้ินเดอื น แต่ปลมื้ ไม่ทาํ ตามท่ี 1 นำไปใช้ได้
คอื การประพฤตอิ ยา่ ง บอก ทอ็ ปควรทาํ อยา่ งไร
เหมาะสม และตรงตอ่ ก ไมส่ นใจปล้มื จนกว่าจะคืน
ความเป็นจริง ประพฤติ ข ของเวลาเพมิ่
ปฏบิ ตั ิ อยา่ ง ค ไมค่ ืน
ตรงไปตรงมา ท้งั ทาง ง รีบคืนเพราะจะผิดกฎหมาย
กาย วาจา ใจ ตอ่ ตนเอง จ รีบคืนจะไดเ้ ป็นเพ่อื นทด่ี ี
และผอู้ ื่น ฉ คืน เพ่ือนจะไดไ้ มเ่ ดอื นรอ้ น
2.ปล้มื จะไปเทย่ี ว และขอเงินพ่อแต่ถา้ พ่อรู้วา่ ไปเทย่ี วคงจะให้ 1 นำไปใช้ได้
นอ้ ย ถา้ เป็นคุณเป็นปล้มื จะทาํ อยา่ งไร นำไปใช้ได้
ก บอกวา่ ไปทาํ งาน
ข บอกความจริงเพราะกลวั ไดน้ อ้ ย
ค บอกความจริง เพราะจะไดเ้ ช่ือใจ
ง ไมไ่ ปเท่ียว
จ บอกความจริงพอ่ และขอเงนิ
ฉ ไมไ่ ปทยี่ วทาํ งานเป็นเด็กดี
1
3.ปล้ืมทาํ ของท็อปหาย แต่ไมม่ ใี ครเห็น ถา้ คุณเป็นปล้มื จะทาํ 1 นำไปใช้ได้
ยงั ไง
ก ไมบ่ อกความจริง
ข บอกความจริง เพราะจะโดนลงโทษ
ค บอกความจริงเพราะจะไดส้ บายใจ
ง บอกความจริงเพราะทาํ หายจริงๆ
จ บอกความจริงและช่วยหา
ฉ บอกความจริง เพ่ือนจะไดซ้ ้ือใหม่
4.แมใ่ ห้ปล้มื ไปซ้ือของท่ตี ลาด 1000 บาทแตท่ าํ หาย ถา้ คุณเป็น
ปล้ืมจะทาํ อย่างไร
ก ไม่บอกและหนีออกจากบา้ น
ข บอกความจริง เพราะกลวั โดนดา่
ค บอกความจริงเพราะ เช่ือวา่ แมไ่ มว่ ่า
ง บอกความจริงหาเงนิ ใชค้ นื
จ บอกแม่ละชว่ ยหาเงนิ
ฉ หาเงนิ ใชค้ นื
5.ปล้ืมต้งั ใจจะทาํ งานี่คา้ งใหเ้ สร็จแต่ เพ่อื นมาชวนไปเทย่ี ว ถา้
คุณเป็นปล้มื จะทาํ อย่างไร
ก ไม่คยุ กบั เพ่ือน
ข ทาํ งานคา้ งเพราะต้งั ใจจะทาํ แลว้
ค ไปเทยี่ วกบั เพอื่ น
ง ไม่ไปไหน ทาํ งานให้เสร็จ
จ นดั เพอื่ นไปวนั หลงั
ฉ ทาํ งานใหเ้ สร็จและไปให้ทนั เพอ่ื น
6.ระหวา่ งทางทปี่ ล้มื กาํ ลงั ข้ึนรถ แต่เจอคนทาํ เงินตก
และไม่มีใครเหน็ ถา้ คณุ เป็นปล้มื จะทาํ อย่างไร
ก เก็บไว้ เพราะไมม่ คี นเห็น
ข คนื เพราะจะไดร้ บั ค่าตอบแทน
ค คืน เพราะไม่ใช่เงนิ ของเรา
ง คนื เพราะ เป็นคนดี
จ คืนเพราะเดี๋ยวเขาจะลาํ บาก
ฉ.คนื คนทาํ ตกจะไดไ้ มเ่ ดือดร้อน
7.ระหว่างทางทป่ี ล้มื กาํ ลงั ข้นึ เรือ แตเ่ จอคนทาํ ของตก
และไม่มีใครเหน็ ถา้ คณุ เป็นปล้ืมจะทาํ อยา่ งไร
ก เกบ็ ไว้ เพราะไม่มคี นเห็น
ข คนื เพราะจะไดร้ บั คา่ ตอบแทน
ค คืน เพราะไมใ่ ช่ของเรา
ง คนื เพราะ เป็นคนดี
จ คืนเพราะเดี๋ยวเขาจะลาํ บาก
ฉ.คืนคนทาํ ตกจะไดไ้ มเ่ ดือดรอ้ น
หาความเช่ือมน่ั
+