สรุปใบงานใบความรู้และแบบทดสอบภาคเรียนที่ 2/2565 วิชา ภาษาไทย วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาภาษาอังกฤษในชีวิตจริง วิชาคอมพิวเตอร์ฯ
ภาษาไทย ค าชี้แจง ให้นักเรียนตอบค าถามต่อไปนี้ 1.การสื่อสารหมายถึง ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................ .................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................... ............................................. .............................................................................................................................................................................. 2. การสื่อสารและการพูดแตกต่างหรือเหมือนกันอย่างไร .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................... ................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .......................................................................................................................................................................... 3.การสื่อสารส าคัญอย่างไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................................ ...... ............................................................................................................................ .................................................. 4.องค์ประกอบที่ส าคัญที่จะสื่อสารต้องมีอะไร (อธิบายมาพร้อมสังเขป) ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................... ............................. ..................................................................................................... ......................................................................... ........................................................................................................................................................ ...................... ..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................. ............................................................................... ............................................. ............................................... ๑. การฟังหมายถึง……………………………………………………………………………………………………………………………….. ๒. การฟังของนักเรียน นักศึกษา ส่วนใหญ่เป็นกาฟังเพื่อ………………………………………………………………………….. ๓. การฟังเพลง ดนตรี เป็นการฟังเพื่อให้เกิด………………………………………………………………………………………… ๔. การฟังข่าว เป็นการฟังที่ให้ปรัโยชน์คือ …………………………………………………………………………………………….. ๕. การพิจารณาสารเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงได้แก่……………………………………………………………………………………. ๖. กิจกรรมที่จัดเพื่อดูของจริงหรือสภาพจริงได้แก่…………………………………………………………………………………..
ใบกิจกรรมที่ 1.1 เรื่อง ทักษะการสังเกต ตอนที่ 1 ค าชี้แจง จงท าเครื่องหมายถูก()หน้าข้อความที่บันทึกการสังเกตได้ถูกต้อง … ….1. ดินน้ ามันก้อนนี้มีเนื้อละเอียดและมีสีเขียวอ่อน ……..2. ผลไม้มีรสหวานและมีกลิ่นหอม ……...3 มะเขือนี้ผลยาวใหญ่เพราะดินที่ปลูก ……..4 งูเหลือมตัวนี้ยาวประมาณ 3 เมตร ……..5 รถเบรกเสียงดังเอี๊ยด ……..6 เทียนไขเล่มนี้ท ามาจากไขปลาวาฬ ……..7 ชายคนนี้รูปร่างท้วมน้ าหนักประมาณ 70 กิโลกรัม ……..8 วันนี้อากาศร้อนมากสงสัยฝนจะตก ……..9 เมื่อหยดกรด A ลงไปในสาร B เกิดฟองก๊าซ 2-3 ฟอง ……..10 เครื่องแกงมีเนื้อหยาบเพราะใช้เวลาในการบดน้อย ตอนที่ 2 ค าชี้แจง จงท าเครื่องหมายถูก()หน้าข้อความที่ถูกและท า เครื่องหมายผิด()ข้อความ ที่ผิด ……..1 ดินน้ ามันก้อนนี้มีเนื้อละเอียดและมีสีเขียวอ่อน จัดเป็นการสังเกตเชิงคุณภาพ ……..2 ดอกมะลิมีสีขาวและมีกลิ่นหอม จัดเป็นการสังเกตเชิงคุณภาพ ……..3 งูเหลือมตัวนี้ยาวประมาณ 3 เมตร จัดเป็นการสังเกตเชิงปริมาณ ……..4 ชายคนนี้รูปร่างท้วมน้ าหนักประมาณ 70 กิโลกรัม จัดเป็นการสังเกตเชิงคุณภาพ ……..5 เมื่อหยดน้ ามะนาวลงบนกระดาษลิตมัส ท าให้กระดาษลิตมัสสีน้ าเงิน เปลี่ยนเป็นสี แดง จัดเป็นการสังเกตเชิงปริมาณ
1 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ค าสั่ง จงเลือกค าตอบที่ถูกที่สุดเพียงค าตอบเดียว จุดประสงค์ระบุขั้นตอนของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ได้ 1. ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ก. การพยากรณ์ ข. การระบุปัญหา ค. การสรุปผลการทดลอง ง. การทดลอง จุดประสงค์ระบุข้อมูลที่เป็นผลมาจากการสังเกตได้ 2. ข้อใดเป็นข้อมูลจากการสังเกตแท่งลิปสติก ก. ลิปสติกสีสวย ราคาแพง ข. ลิปสติกเป็นแท่งยาวประมาณ 5 เซนติเมตร ค. ลิปสติกนี้ท าในเมืองไทย ง. ลิปสติกนี้ควรเก็บไว้ในที่เย็นจะได้ไม่เละ จุดประสงค์ เลือกเครื่องมือวัดได้เหมาะสมกับปริมาณที่ต้องการวัด 3. เครื่องมือชุดใดเหมาะส าหรับการวัดความยาวรอบของใบไม้ ก. ไม้บรรทัด ลวด เทปใส ข. เชือก ไม้บรรทัด เทปใส ค. ไม้บรรทัด ดินสอ กรรไกร ง. ไม้บรรทัด ดินสอ แผ่นกระดาษ จุดประสงค์ หาค่าเฉลี่ยจากข้อมูลที่ก าหนดให้ได้ 4. การสอบวัดผลวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานของนักเรียน 10 คน มีนักเรียนท าข้อสอบได้ดังนี้ คะแนนที่ได้ จ านวนนักเรียน(คน) 12 2 14 4 16 3 18 1 คะแนนเฉลี่ยของการสอบวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน มีค่าเท่าไร ก. 13.8 ข. 14.6 ค. 15.2 ง. 15.8 จุดประสงค์ ก าหนดเกณฑ์ในการแยกประเภทสิ่งของได้ 5. จากภาพกระดุมที่ก าหนดให้ดังรูป 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ถ้าแบ่งกระดุมออกเป็น 2 พวก คือ พวกที่1 มีกระดุมหมายเลข 1 , 3 , 4 , 8 พวกที่2 มีกระดุมหมายเลข 2 , 5 , 6 , 7 , 9 การแบ่งดังกล่าวใช้อะไรเป็นเกณฑ์
ก. จ านวนรูของกระดุม ข. ขนาดของกระดุม ค. รูปร่างของกระดุม ง. หมายเลขของกระดุม จุดประสงค์ระบุความสัมพันธ์ของภาพ 3 มิติ กับ 2 มิติ ได้ในมุมมองต่างๆ 6. ตัดกระดาษแข็งพับเป็นรูปลูกเต๋าดังรูป เมื่อพับแล้วจะได้ลูกเต๋าเหมือนข้อใด กระดาษแข็งก่อนพับ ก ข ค ง จุดประสงค์ลงความเห็นจากข้อมูลที่ก าหนดให้ได้ 7. เมื่อจุดเทียนไขในครอบแก้วที่มีฝาปิดดังรูป ข้อใดเป็นการลงความเห็นจากข้อมูล ฝาปิด แก้ว เทียนไข ก. มีแก๊สออกซิเจนอยู่ภายในแก้ว ข. มีน้ าตาเทียนติดที่ตัวเทียนไข ค. มีหยดน้ าเล็กๆติดที่ฝาปิด ง. เทียนไขสั้นลงเรื่อยๆ
จุดประสงค์ พยากรณ์ผลที่เกิดจากข้อมูลที่ก าหนดให้ได้ 8. จากกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความสูงของบานชื่นกับระยะเวลาที่ท าการปลูก 25 20 15 10 5 1 3 5 7 9 สัปดาห์ที ในสัปดาห์ที่ 12 ต้นบานชื่นจะมีความสูงเท่าไร ก. 28.5 cm ข. 29.5 cm ค. 32.5 cm ง. 33.5 cm จุดประสงค์ ตั้งสมมติฐานจากสถานการณ์ปัญหาที่ก าหนดให้ได้ 9. ในการทดลองเพาะเห็ดฟาง 2 แปลง ในพื้นที่เดียวกัน เวลาเดียวกัน อาหารเสริมและปริมาณน้ าที่ใช้ เหมือนกัน และใช้เวลาในการเพาะเท่ากัน ดังนี้ แปลงที่ 1 วัสดุที่ใช้เพาะเห็ดฟาง ได้แก่ ฟางข้าว แปลงที่ 2 วัสดุที่ใช้เพาะเห็ดฟาง ได้แก่ ต้นถั่วผสมเปลือกฝักถั่ว การทดลองนี้มีสมมติฐานว่าอย่างไร ก. แสงมีผลต่อการเจริญเติบโตของเห็ดฟาง ข. อาหารเสริมมีผลต่อการเจริญเติบโตของเห็ดฟาง ค. ความชื้นมีผลต่อการเจริญเติบโตของเห็ดฟาง ง. วัสดุที่ใช้เพาะเห็ดต่างกันการเจริญเติบโตของเห็ดฟางจะต่างกัน ความสูงของต้นบานชื่น(cm)
จุดประสงค์ ก าหนดนิยามเชิงปฏิบัติการได้ 10. การทดสอบสมมติฐานที่ว่า “ เลนส์ช่วยให้มองเห็นวัตถุได้อย่างชัดเจน” ข้อใดเป็นการก าหนดนิยามเชิง ปฎิบัติการของค าว่า การมองเห็นอย่างชัดเจน ได้ถูกต้องที่สุด ก. การมองเห็นวัตถุในระยะที่ก าหนด ข. การมองเห็นวัตถุที่ในระยะที่ก าหนดและสามารถบรรยายรายละเอียดได้ถูกต้อง ค. การมองเห็นสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวได้อย่างชัดเจนในเวลาอันสั้น ง. การมองเห็นสิ่งที่ก าหนดแล้วบอกได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร จุดประสงค์ระบุตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรที่ต้องควบคุมได้ 11. นักเรียนตั้งสมมติฐานว่า “ถ้าอัตราการท างานของเอนไซม์ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ดังนั้นถ้าอุณหภูมิต่างกัน การท างานของเอนไซม์จะแตกต่างกัน” ตัวแปรต้นในสมมติฐานดังกล่าวคือข้อใด ก. ความแตกต่างของอุณหภูมิ ข. ความเข้มข้นของเอนไซม์ ค. การท างานของเอนไซม์ ง. ชนิดของเอนไซม์ จุดประสงค์วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมายข้อมูล และลงข้อสรุปได้ถูกต้อง 12. จากการทดลองเมื่อเอาสาร A ที่บดกับไม่บด ไปละลายน้ า ผลการทดลองปรากฎดังตารางต่อไปนี้ สาร ปริมาณสาร(g) ปริมาตรน้ า (cm3) อุณหภูมิของน้ า ( C ) ปริมาณสารที่ละลาย (g) A (ไม่บด) 2 40 35 2.5 A (ละเอียด) 2 40 35 4.5 นักเรียนจะตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปอย่างไร ก. ปริมาณของสาร A ที่ละลายในน้ าจะมากหรือน้อยไม่ขึ้นกับอุณหภูมิของน้ า ข. สารAที่บดละเอียดจะละลายในน้ าได้มากกว่าสารA ที่ไม่ได้บด ค. น้ าที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจะละลายสารAที่บดละเอียดได้มากกว่า ง. น้ าที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจะละลายสารAที่ไม่บดได้มากกว่า จุดประสงค์ อธิบายความหมายของโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง 13. ข้อใดหมายถึงโครงงานวิทยาศาสตร์ ก. กิจกรรมที่นักศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองอย่างเป็นระบบโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ข. กิจกรรมที่นักศึกษารวมกลุ่มกันผลิตสินค้าเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เพื่อจ าหน่าย ค. กิจกรรมที่ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปค้นคว้าด้วยตนเอง ง. เอกสารรายงานเกี่ยวกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่นักเรียนท าส่งครู จุดประสงค์บอกจุดมุ่งหมายของการท าโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ 14. ข้อใดไม่ใช่จุดมุ่งหมายของการท าโครงงานวิทยาศาสตร์ ก. เพื่อให้นักเรียนใช้ความรู้และประสบการณ์เลือกท าโครงงานตามความสนใจ ข. เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆด้วยตนเอง ค. เพื่อให้นักเรียนได้แสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และมีจิตวิทยาศาสตร์ ง. เพื่อให้นักเรียนมีความมั่นใจในตนเอง
จุดประสงค์ระบุประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์จากข้อมูลที่ก าหนดให้ได้ 15. ข้อใดไม่ใช่โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ก. เครื่องให้อาหารสุนัข ข. ตู้ไปรษณีย์เสียงเพลง ค. เครื่องวัดความหวานของสับปะรด ง. กระเบื้องโมเสกจากเปลือกไข่ จุดประสงค์อธิบายขั้นตอนในการท าโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ 16. ในการท าโครงงานวิทยาศาสตร์ ขั้นตอนแรกคือขั้นตอนใด ก. การคิดและเลือกหัวข้อท าโครงงาน ข. การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ท าโครงงาน ค. การเขียนเค้าโครงย่อในการท าโครงงาน ง. การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ จุดประสงค์ จัดท าโครงงานวิทยาศาสตร์ และแสดงผลงานที่ศึกษาให้ผู้อื่นเข้าใจได้ 17. ถ้านักเรียนต้องการศึกษาว่าอาหารปลาสวยงาม 2 สูตร สามารถเร่งความเข้มของสีตัวปลาได้หรือไม่ นักเรียนจะออกแบบการทดลองอย่างไร ก. น าปลาชนิดเดียวกัน ขนาดอายุเท่ากัน เพศเดียวกัน มาแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่1 ให้กินอาหาร สูตร 1 ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งให้กินอาหารสูตร 2 จัดสภาพแวดล้อมอื่นๆให้เหมือนกัน ข. น าปลาชนิดเดียวกัน มาแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่1 ให้กินอาหารสูตร 1 ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งให้กิน อาหารสูตร 2 แต่จัดสภาพแวดล้อมอื่นๆให้ต่างกัน ค. น าปลาต่างชนิดกันมา 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ให้กินอาหารสูตร 1 กลุ่มที่ 2 ให้กินอาหารสูตร 2 จัด สภาพแวดล้อมอื่นๆให้เหมือนกัน ง. น าปลาต่างชนิดกันมา 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ให้กินอาหารสูตรที่ 1 กลุ่มที่ 2 ให้กินอาหารสูตร 2 จัด สภาพแวดล้อมอื่นๆให้เหมือนกัน 18. ถ้าต้องการศึกษาผลของโปรตีนต่อการออกไข่ของนกกระทา จะต้องท าการทดลองตามข้อใด ก. เลี้ยงนกกระทา 2 กลุ่ม ด้วยอาหารที่มีเปอร์เซ็นต์ของโปรตีนเหมือนกัน ข. เลี้ยงนกกระทา 3 กลุ่ม ด้วยอาหารที่มีเปอร์เซ็นต์ของโปรตีนเหมือนกัน ค. เลี้ยงนกกระทา 1 กลุ่ม ด้วยอาหารที่มีเปอร์เซ็นต์ของโปรตีนต่างกัน ง. เลี้ยงนกกระทา 2 กลุ่ม ด้วยอาหารที่มีเปอร์เซ็นต์ของโปรตีนต่างกัน 19. การท าโครงงานวิทยาศาสตร์ ข้อใดที่ท าให้ผู้ท าโครงงานมองเห็นแนวทางในการท าโครงงานตั้งแต่เริ่มต้น จนเสร็จสิ้นโครงงาน ก. บทน า ข. เอกสารที่เกี่ยวข้อง ค. เค้าโครงย่อโครงงาน ง. ผลการทดลอง 20. ในการน าเสนอแผงแสดงโครงงานวิทยาศาสตร์ ข้อใดไม่จ าเป็นต้องน าเสนอ ก. บทคัดย่อ ข.เอกสารที่เกี่ยวข้อง ค. จุดมุ่งหมาย ง. วิธีด าเนินการทดลอง
ภาษาอังกฤษในชีวิตจริง Choose the best answer. 1. Malee : How are you today, Wichai? Wichai : …………………………………………… a. How are you? b. Thank you. c. I’m Wichai. d. I’m fine. Thanks. 2. Nop : Peter : Nop : Good morning Peter. How are you doing? …………………………………………… I’m sorry to hear that. Take care. a. Not so well. I have a cold. b. I’m fine. Thanks. c. Not bad. And you? d. What’s the matter? 3. Greeting someone you’ve never met before, what would you say? a. Hi! How are you? b. How have you been? c. Good morning. Pleased to meet you. d. Nice to see you again. 4. Greeting someone you often meet, what would you say? a. Hi! How are you? b. Good morning. Nice to meet you. c. Nice to meet you. d. Pleased to meet you too. Complete the conversation. (5-8) Pete r : Hello, Sara. I’m glad to see you again. (5)……………………………… Sara : I’m all right. And you? Sara : (6) ………………………… I have a cold. Peter : That’s too bad. Take care of yourself. Sara : Thanks. (7)…………………………my boyfriend? His name is David. David, this is my friend, Peter. Peter : It’s nice to meet you. David : Nice to meet you too. Sara : Well, I’m afraid we must go now. We are going to Chiang Mai. Peter : Have a good time. (8)………………………………… Sara : All right. See you. David : Good bye. Peter : Bye. 5. a. I’m Peter. b. My name’s Peter. c. Nice to meet you. d. How are you doing?
6. a. I’m fine. b. I’m all right. c. Not so well. d. That’s too bad. 7. a. Is this b. Is she c. May I introduce d. I would like 8. a. Good luck. b. See you soon. c. Nice to meet you. d. Thank you. 9. Sack : ……………………………… Pete : Yes, I’m. a. Is he tall? b. Are you a teacher? c. Does she listen to music? d. Are they going to school? 10. Somchai : Are you Thai? John : ……………………………. a. Yes, we are student. b. No, I’m not. I’m Chinese. c. Yes, I’m a teacher. d. No, I’m not. I’m a doctor.
แบบฝึ กหัดที่ 1.1 ค ำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบค าถามให้สมบูรณ์ 1. จงให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ………………………….………………………………………………………………………………………………….……………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ………………………….………………………………………………………………………………………………….………………………2. จงอธิบายความหมายของระบบสารสนเทศ ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ………………………….………………………………………………………………………………………………….……………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ………………………….………………………………………………………………………………………………….……………………… 3. จงบอกความหมายของ ซอฟต์แวร์ ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ………………………….………………………………………………………………………………………………….……………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ………………………….………………………………………………………………………………………………….……………………… 4. จงบอกผลกระทบด้านลบของเทคโนโลยีสารสนเทศมา 5 ข้อ ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ………………………….………………………………………………………………………………………………….……………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ………………………….………………………………………………………………………………………………….……………………… 5. จงบอกหลักการท างานของคอมพิวเตอร์มีกี่ขั ้นตอน อะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ………………………….………………………………………………………………………………………………….……………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ………………………….………………………………………………………….……………………………………………………………
แบบฝึ กหัดที่ 1.2 ค ำสั่ง : ให้นักเรียนตอบค าถามต่อไปนี ้ Hardware Software People ware
แบบฝึ กหัดที่ 1.3 ค ำสั่ง : ให้นักเรียนท าเครื่องหมาย ลงในช่องที่สอดคล้องกับภาพ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ องค์ประกอบในระบบคอมพิวเตอร์ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผล หน่วยแสดงผล หน่วยความจ า
ค ำสั่ง : ให้นักเรียนน าองค์ประกอบในกระบวนการท างานมาใส่ลงแผนผังกระบวนการท างานของ คอมพิวเตอร์แล้ว อธิบายหลักการท างานใต้ภาพ Memory unit Cpu Input unit Output unit การท างานของคอมพิวเตอร์ เริ่มจาก ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..